3. ไม่ควรใชภ้ าชนะท่ีทาจากพลาสติกประเภทเทอร์มอ
พลาสติกใส่อาหารร้อนจดั เนื่องจากอาจทาใหม้ อนอเมอร์หรือสี
ที่เติมลงไปละลายปนออกมากบั อาหารที่รับประทาน
4. ถงุ พลาสติกใสที่ใส่อาหารร้อนทาจาก
พอลิโพรพลิ ีน ไมค่ วรนาไปใส่น้าแข็งหรือของ
เยน็ จดั เพราะอาจทาใหถ้ งุ พลาสติกแตกได้
50/67
5. ไม่ใชภ้ าชนะท่ีทาดว้ ยพลาสติกใส่น้าส้มสายชูหรือ
น้าส้ม เน่ืองจากกรดในน้าส้มอาจละลายสีหรือมอนอเมอร์
ปนออกมาได้ โดยอาจใชเ้ ป็ นถว้ ยแกว้ หรือกระเบ้ือง
6. ถุงพลาสติกเน้ือขุ่นท่ี
ใชโ้ ดยทว่ั ไป เช่น ถุงใส่น้าแข็ง
ถุงใส่ของ ไม่ควรนาไปใส่
อาห าร ร้ อ น หรื อ ข อ ง ร้ อ น
เน่ืองจากอาจละลายได้
51/67
7. การกาจัดพลาสติกท่ีไม่ใช้แลว้ ไม่ควรกาจัดโดยการเผาไฟ เพราะอาจเกิด
ควนั พษิ เช่น พลาสติกที่ทาจากพอลิไวนิลคลอไรด์หรือพีวซี ี (PVC) เมื่อเผาจะเกิดเขม่า
ปริมาณมาก แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และแก๊สไฮโดรเจนคลอไรด์ (HCl) ซ่ึงมี
สมบตั ิเป็ นกรด เป็ นพษิ ตอ่ ระบบหายใจ
นอกจากน้ีควรทิ้งพลาสติกโดยแยกใส่ถังขยะที่จาแนก 52/67
ประเภทของพลาสติกโดยสงั เกตสญั ลกั ษณ์ท่ีติดอยทู่ ถี่ งั ขยะ และ
ไม่ฝังพลาสติกลงในดินหรื อทิ้งลงในแหล่งน้ า เนื่องจาก
พลาสติกยอ่ ยสลายยาก ทาใหด้ ินใชเ้ พาะปลูกไม่ได้ พลาสติกไป
อุดตนั ทางระบายน้า หรือถา้ สตั วก์ ินพลาสติกอาจทาใหต้ ายได้
การใชพ้ ลาสติกและการกาจดั พลาสติกไม่ถูกตอ้ งอาจก่อใหเ้ กิดอนั ตรายต่อสิ่งแวดลอ้ มและสิ่งมีชีวิต
จึงควรป้องกนั ดงั น้ี
1. ปรับปรุงคุณภาพของพลาสติกเพื่อให้ยอ่ ยสลายง่าย เช่น การเติมสารที่ไวต่อแสงเพ่ือให้พลาสติก
แตกสลายเป็ นชิ้นเล็ก ๆ ได้ง่ายเม่ือถูกแสง หรืออาจใชว้ ิธีย่อยสลายทางกล โดยทาให้พลาสตกิ แตกออก
เป็ นชิ้นเลก็ ๆ แลว้ ทาใหเ้ กิดปฏิกิริยาเคมียอ่ ยสลาย
2. ลดปริ มาณการใช้พลาสติก ซ่ึงในปัจจุบันมีการรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก แ ละ
ขอความร่วมมือจากร้านคา้ หรือหา้ งสรรพสินคา้ ใหล้ ดการใชพ้ ลาสติก
3. นาพลาสติกประเภทเทอร์มอพลาสติกท่ีใชแ้ ลว้ มาหลอมแลว้ นาไปเขา้ สู่กระบวนการข้ึนรูปใหม่
เพื่อนากลับมาใช้ใหม่ได้ พลาสติกเหล่าน้ีเรียกว่า พลาสติกแปรรูปเพื่อใช้ใหม่หรือพลาสติกรีไซเคิล
(recycled plastic) ซ่ึงพลาสติกรีไซเคิลจะมีคุณภาพต่ากวา่ เดิมเล็กนอ้ ย ไม่ควรนาไปทาภาชนะบรรจุอาหาร
เน่ืองจากอาจมีสารปนเป้ื อน โดยเฉพาะพลาสติกจากโรงพยาบาล
53/67
พลาสตกิ อื่นๆ 7 1 4. นาพลาสติกที่ใชแ้ ลว้ มาใช้
ซ้า (reused) เช่น ถุงพลาสติกใส่ของ
OTHER PETE พอลิเอทลิ ีนเทเรฟทาเลต ที่สะอาด แก้วพลาสติก แผ่นรอง
อาหาร กล่องใส่ขนม
6 สัญลกั ษณ์ 2
ประเภทของ 5. พลาสติกจากขยะมูลฝอย
PS พลาสตกิ รีไซเคิล HDPE
นามาทาความสะอาด ตัดเป็ นชิ้น
พอลิสไตรีน 5 3 พอลิเอทิลีน เลก็ ๆ ก่อนนาไปหลอมละลาย หรือ
4 PVC ความหนาแน่นสูง อัดเป็ นแผ่นใช้ถมถนน ผสมกับ
PP ซีเมนตท์ ากอ้ นหินเทียม
LDPE
พอลิโพรพิลีน พอลิไวนิลคลอไรด์
พอลิเอทลิ ีนความหนาแน่นต่า 54/67
(หนงั สือเรียนหนา้ 273)
55/67
1. พิจารณาวา่ ขอ้ ความต่อไปน้ีถูกตอ้ งหรือไม่ เพราะเหตุใด
1.1 ถงุ พลาสติกใสสาหรับใส่อาหารร้อนนาไปใส่น้าแขง็ ได้
1.2 เติมสารที่ไวต่อแสงลงในพลาสติกเพอ่ื ยดื อายกุ ารใชง้ านพลาสติก
1.3 ขยะพลาสติกนามาหลอมใชเ้ ป็ นเช้ือเพลิงได้
1.4 พลาสติกท่ีนามาแปรรูปเพื่อนากลบั มาใชใ้ หม่ไดเ้ ป็ นพลาสติกประเภทเทอรม์ อเซต
56/67
1.5 ใชถ้ ุงผา้ แทนถงุ พลาสติกเม่ือไปซ้ือสินคา้ ท่ีหา้ งสรรพสินคา้
1.6 ขยะพลาสติกท้งั ประเภทเทอร์มอพลาสติกและเทอร์มอเซต
สามารถนามาตดั ให้เป็ นชิ้นเล็ก ๆ แลว้ ผสมกบั ปูนซีเมนต์
ทากอ้ นหินเทียม
1.7 ไมค่ วรกาจดั พลาสติกโดยการนาไปเผาไฟ
1.8 ท่อระบายน้าในเมืองใหญ่อาจอุดตนั จากขยะพลาสติกได้
2. การกาจดั พลาสติกโดยใชแ้ สงแดดทาไดห้ รือไม่ อยา่ งไร
57/67
3. ให้นักเรียนเสนอแนะวิธีแก้ไขมลพิษจากการใช้
พลาสติกในชุมชนท่ีอาศยั อยอู่ ยา่ งนอ้ ย 3 ขอ้
58/67
1 ใชล้ กั ษณะ ใชจ้ านวนชนิด
พมออนลิเอมเอมรอ์ (รp์เoป(กml็ นyาomรเกnเeกoณrิmด)ฑคe์rือ) สารโมเลกลุ ใหญท่ขี่เอกงิดมจอานกอสเามรอโรม์ เลกุลเล็ก ๆ ท่ีเรียกวา่
ความหมาย มาทาปฏิกิริยาการเกเปิด็ นพเอกลณิเฑมอ์ ร์เกิดพนั ธะโคเวเลนซ์
และการเกดิ เชื่อมต่อระหว่างโมเลกุล ซ่ึงสมบัติทางกายภาพของพอลิเมอร์แตกต่างจาก
พอลเิ มอร์ มอนอเมอร์ที่เป็ นสารต้งั ตน้
2 พอลิเมอร์ธรรมชาติ ฮอมอพอลิเมอร์
ปฏิกิริยา(กnาaรtuเกraิดlพpoอlลymิเมeอr)ร์ (polymerization(h)oคmือoกpoรlะyบmวeนr)การที่สารโมเลกุลเล็ก
ประเภท หลาย ๆ โมเลกุลมารวมกนั เป็ นโมเลกลุ ใหญ่ แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด คือ ปฏิกิริยา
ของพอลเิ มอร์ กพาอรลเิเกมิดพอ(sรพอy์แลnอบtิเลhมบeิเอมคtiรcวอ์สบpรงั o์แแเคlนyบรm่นบาะe(เrหcต)oิ์มnd(eandsdaittiioonnppoollyพy(mmcอoeลeprrิเioมizzlaอyattmรiioo์รen่nวr)))มและปฏิกิริยาการเกิด
**คลิกท่ี 1 - 2 เพอ่ื ใหข้ อ้ ความปรากฏหรือซ่อนขอ้ ความ 59/67
โครงสร้าง โครงสร้าง จมุดีคหวลาอมมแเขหง็ ลแวรสตงู่มางกาวกา่
และสมบัติของ แแบบบบโรโซ่าซง่ต่กแรงิ่หง แแบบคบวบเากสมิ่งน้ หคนคววาาแามมนหห่นนนสาาูงแแนมน่นีท่น้สงั ตูง่า
พอลเิ มอร์ เน้ือเนข้ืน่เุอนใแ้ือสลขะขนุ่ เดูนขเ้ือปดู ใ็ นเสปร็ นขอดูยรเอไลมยก็ ล่เนปึก็ อน้ ยรอย
ยยดื ดืยหตดื ยาหนุ่มยไยนุ่ ดามวน้ ไาอ้กดยด้ ถหี กูถรคกูือวคไามวมา่ยรมดื ้อรหน้อยนนุ่
123 จะถหกู คลวอามมเหร้อลนวจหะลแอตมกมรา้ ใวช้
หลอมมใาหใชมใ้่ไหดม้ ่ไม่ได้
**คลิกท่ี 1 - 3 เพื่อให้ขอ้ ความปรากฏหรือซ่อนขอ้ ความ 60/67
ตพัวออลิยเม่าองรป์แรบะบโยโชซ่นตร์ขงอแงลพะอแลบิเบมโอซร่ก์ทิ่ง่ีมมีสี มบัติ ประโยชน์
เทออรร์มม์ มอออพพเลลซาาสตสตตเิกชิก่(นtเhชeใ่นrชm้ใทoชpาlท้ วasาัสtพicดล)ุกาสัสน่วตคนิกพวปาอมรละิรเมเ้อภอนทร์ ของพอลเิ มอร์
โถแทุงบใรบสทร่ศขั ่ านอง์งแกาขหววมแดีสผนมง้าวบงฉัตจนริเทวนอหร์ุม้ อสเาซยไตฟ(ฟth้าerทm่อoนse้าt 123
ไpบlฟรaฟรstจi้าcุภข)ณั จอฑึงมท์ บีก่รตาัะรลรใเึกคชรป้ ดริตะโเลยชนนสไ์ แดลแ้ ะตขกอตงา่ เงลกน่ นั เดก็
และหินออ่ นเทียม ถุงมือใสทาจาก
พอลิเอทิลีนชนิด
ถุงข่นุ ทาจาก ความหนาแน่น
พอลิเอทลิ ีนชนิด
ควแากมว้ หแนลาะแจนาน่น ต่า
ทสาูจงาก
พอลิเมลามีน
ฟอร์แมลดีไฮด์
**คลิกท่ี 1 - 3 เพ่อื ใหข้ อ้ ความปรากฏหรือซ่อนขอ้ ความ 61/67
ผลกระทบจาก การใชผ้ ลิตภณั ฑ์
การใช้ผลติ ภณั ฑ์ พอลิเมอร์ในปริมาณมาก
พอลเิ มอร์และ ก่อใหเ้ กิดปัญหาท่ีส่งผลกระทบต่อ
ส่ิงมีชีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม ดงั น้นั
การป้องกนั จึงควรตระหนกั ถึงการลดปริมาณ
การใช้ การใชซ้ ้า และการนา
กลบั มาใชใ้ หม่
62/67
1. สารท่ีมีโครงสร้างต่อไปน้ีใชเ้ ป็ นมอนอเมอร์ไดห้ รือไม่ และจะเกิดปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์แบบใด เพราะเหตุใด
ก. CH=CH2
ข. CH3–CH3 ==
O ––
ค. CH3–OCHH–C–OH 63/67
ง. CH3–CH2–NH2
O
จ. NH–CH–C–OH
CH3
2. เซลลูโลสจดั เป็ นฮอมอพอลิเมอร์หรือพอลิเมอร์ร่วม เพราะเหตใุ ด
3. เขียนโครงสร้างของพอลิเมอร์ชนิดฮอมอพอลิเมอร์และพอลิเมอร์ร่วมท่ีมีโครงสร้างแบบโซ่ตรงและแบบโซ่กิ่ง
มาชนิดละ 1 โครงสร้าง
64/67
4. ถ้วยพลาสติกใบหน่ึงเม่ือนาไปใส่น้ าร้อนพบว่า 5. ถ้านาพลาสติกไปเผาแล้วได้ควันไฟท่ีมีสมบัติ
ออ่ นตวั พลาสติกใบน้ีมีโครงสร้างแบบใด เป็ นกรด พลาสติกน้ีมีสารใดเป็ นมอนอเมอร์
6. ถา้ พลาสติกมีโครงสร้างดงั น้ี
สมบตั ิของพลาสติกน้ีคืออะไร และจดั เป็ นเทอร์มอพลาสติกหรือพลาสติกเทอร์มอเซต
65/67
7. พลาสติกชนิด PE จะพบในเครื่องใชป้ ระเภทใด 8. เบกาไลต์จัดเป็ นเทอร์มอพลาสติกหรือพลาสติก
เทอร์มอเซต และนามาใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร
66/67
9. การใชห้ รือทาลายพลาสติกไม่ถูกวธิ ีจะก่อใหเ้ กิดมลภาวะทางดิน มลภาวะทางน้า และมลภาวะทางอากาศอยา่ งไรบา้ ง
ระบุมาอยา่ งละ 2 ขอ้
10. ถา้ ขวดพลาสติกมีสญั ลกั ษณ์ นกั เรียนจะอธิบายสญั ลกั ษณ์น้ีไดว้ า่ อยา่ งไร
67/67