a film by Ketut Susilo C O M I N G S O O N Ketut Susilo Tmonpun Santhip คติความเชื่อ ชื่ เรื่อ รื่ ง “ผี”ผี โดยมีวั มี ต วั ถุป ถุ ระสงค์เพื่อ พื่ ให้เ ห้ ห็น ห็ แง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับผี จะเห็น ห็ ได้ว่า ว่ “ผี”ผี มีค มี ติความเชื่อ ชื่ มายาวนานนับ นั ตั้ง ตั้ แต่ยัง ยัไม่มี ม่ ค มี วามเชื่อ ชื่ ทางศาสนา จนกระทั่ง ทั่ เกิดศาสนาขึ้น ขึ้ จัด จั ทำ โดย ธมลพรรณ แสนทิพย์ ม.5/5 เลขที่ 18
ช่วงแรกเรียกว่าศาสนาผีหรือศาสนาวิญญาณ ต่อมาจึงได้พัฒนา จากศาสนาที่นับถือผีเป็นศาสนาเทพเจ้า ขึ้นมาในมิติของศาสนาที่เชื่อ ในพระเจ้า หรือ เทวนิยมสำ หรับศาสนาที่ไม่เชื่อในเทวนิยมก็ยังให้ ความสำ คัญเกี่ยวกับผีซึ่งปรากฏในวรรณกรรมทางศาสนามากมาย ดังในพระพุทธศาสนาก็ได้กล่าวถึง “ผี” ว่าเป็นวิญญาณ ย่อมมีการ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏจักรตามกำ ลังแห่งกรรมที่ได้กระทำ เอาไว้ ถ้าทำ กรรมดีก็ไปในภพภูมิที่ดีได้ไปเกิดในโลก มนุษย์สวรรค์ เป็นต้น ส่วนผู้ทำ กรรมไม่ดีก็จะไปเกิดในนรกภูมิซึ่งจะเป็นเกิดเป็นผีเปรต ผี นรก เป็นต้น แม้แต่ในยุคสมัยใหม่ก็ยังมีบุคคลมีความเชื่อเรื่อง “ผี” ดังจะเห็นว่ามีผีเข้า มีหมอผีปราบสัมภเวสี ที่มีการออกตามรายการ ทีวี ซึ่งถือว่าเป็นยุคสมัยใหม่ที่มีการสื่อสารรวดเร็ว และเป็นยุคข้อมูล ข่าวสารแต่ก็ยังมีบุคคลที่มีความเชื่อเรื่อง “ผี” อยู่ ความเชื่อเกี่ยวกับผี
ผีมีอยู่จริง ? ผีเป็นสิ่งที่ผูกพันธ์และแทรกซึมอยูในวิถีชีวิตของชาวล้านนามา ช้านาน ชาวล้านนาในอดีตส่วนใหญ่มักนับถือผี หากย้อนไปราวสี่สิบ ปีก่อน คนเฒ่าคนแก่มักกล่าวว่า “ผีมีอยู่ทุกเส้นหญ้าจะหาแผ่นดิน ที่ ว่างสักฝ่ามือก็หามีไม่” ในปัจจุบันนี้ความเชื่อเรื่องผีก็ยังปรากฏอยู่ ดังจะเห็นได้จากมิติเรื่อง “แหล่งที่อยู” เช่นอยู่ อยู่ในเมือง อยู่ใน หมู่บ้าน ในทุ่งนา เป็นต้น แสดงว่า ชาวบ้านเชื่อว่าผีมีอยู่จริง เนื่องจาก ความเชื่อเรื่องการนับถือผีของชาวบ้านมีมาตั้งแต่ดั้งเดิม โดยชาวบ้านเชื่อวาผีนั้นมีจำ นวนมาก ล้วนแต่มีผีอาศัยอยู่นอกจากนี้ มิติเรื่อง “การปรากฏ” เช่น วิญญาณ และ เป็นมนุษย์ แสดงว่า ชาวบ้านเชื่อว่าผีมีอยู่จริง และมีการปรากฏในรูปแบบวิญญาณที่จับ ต้องไม่ได้ หรือปรากฏในรูปแบบ เป็นมนุษย์ให้ชาวบ้านเห็นก็ได้ขึ้น อยู่กับผีแต่ละตน ทั้งนี้ความเชื่อเรื่องการนับถือผีจึงมีอิทธิพลต่อ การดำ รงชีวิตของชาวบ้านนี้เป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า วิถีชีวิตของชาวบ้านต่างก็มีความ ผูกพันธ์อยู่กับการนับถือผี อาจ กล่าวได้ว่า ผีมีอยู่
ความเชื่อและพิธีกรรมเป็นสิ่งที่มีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ และ สังคมเป็นอย่างมาก เพราะความเชื่อเป็นรากฐานพฤติกรรมและ พิธีกรรมหลายอย่างของมนุษย์ แม้ในปัจจุบันความเชื่อและพิธีกรรม หลายอย่างก็ปรากฏให้เห็นอยู่มากทั้งในสังคมชนบทและในเมือง โดย เฉพาะสังคมชนบทจะปรากฏให้อยู่อย่างเด่นชัด บทบาทความเชื่อ และพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการนับถือผีที่มีต่อสังคมชาวพุทธ อาจจำ แนก ได้อย่างหลากหลายชนิดเนื่องจากฐานความคิดของแต่ละคนไม่มี เหมือนกัน แต่บางบทบาทมีความเชื่อโยงกันเป็นอย่างมาก และ แต่ละพิธีกรรมจะมีความเชื่อเรื่องผีมาเกี่ยวข้องอยู่ด้วย และ อาจมี ความเชื่อเรื่องเทวดาและผีตนอื่นๆมาเกี่ยวข้องด้วย โดยพิธีกรรม ส่วนใหญ่ก็จะมีการบวงสรวงบูชาและวิงวอนขออำ นาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง หลายให้ช่วยคุ้มครอง ผู้ประกอบพิธีกรรมมีเจตนาขอวิงวอนผีเข้ามา ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ด้วยเหตุนี้พิธีกรรมที่เกี่ยวกับผีจึงเข้ามามี บทบาทในสังคมศาสนาพุทธ ความเชื่อและพิธีกรรมนับถือผี
ความเชื่อเรื่อง "ผี" ได้ขอให้เกิดพิธีกรรมเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ ของชาวไทยพุทธมาอย่างช้านาน ทั้งนี้เนื่องจากการประกอบอาชีพ เป็นสิ่งที่สำ คัญ อย่างหนึ่งของชีวิต เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำ รงอยู่ มนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องประกอบอาชีพ และ ปรารถนาที่จะให้ตนเองมี อาชีพที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของตนเองจนสามารถ ประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดี มีรายได้จากการประกอบอาชีพที่คุ้มค่า หรือบางคนมีปัญหาบางประการในการประกอบอาชีพจึงได้จัดให้มี พิธีกรรม เกี่ยวกับการนับถือผีขึ้นมาเพื่อบวงสรวงและอ้อนวอนอำ นารผีที่ตนนับถือให้ช่วยเหลือนเองให้สามารถประกอบอาชีพ ประสบผลสำ เร็จด้วยดี มีความกว้างหน้าในชีวิตอีกทั้งเมื่อตนเอง ประสบความสำ เร็จด้วยดีในการประกอบอาชีพก็มีการจัด "พิธีกรรม" เพื่อแสดงความชอบคุณต่ออำ นาจถึกลับเหนือธรรมชาดิ เหล่านั้น พิธีกรรมเกี่ยวกับการประกอบอาชีพของชาวไทยพุทธอันเนื่องด้วย การนับถือผีมีอยู่มากมายแต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะพิธีกรรมที่เกี่ยว กับอาชีพทำ นา และอาชีพประมงเป็นอารีพหลักที่สำ คัญของชาวไทย พุทธ พิธีกรรมกับการประกอบอาชีพ
มนุษย์ในสมัยดั้งเดิมยังมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีน้อยจึงทำ ให้ เชื่อว่าความเป็นไปของชีวิตและ สรรพสิ่ง ทั้งหลายล้วนเป็นการบันดาลมาจากผี จึงทำ ให้มนุษย์เกิดความกลัว เพราะความไม่รู้ นอกจากนี้มนุษย์กลัวผีเพราะมนุษย์ไม่รู้ว่า "ผี" เป็น อย่างไร ทำ ให้เกิดอะไรได้บ้าง ซึ่งสาเหตุที่ มนุษย์กลัวผี เพราะ กลัว ว่าผีมาทำ ร้ายเอาชีวิต กลัวว่าถูกเข้าสิง แม้ผีจะมองไม่เห็น หรืออาจ เป็นเพียง เงาเคลื่อนไหว แต่อุณหภูมิที่เย็นผิดปกติเฉพาะตำ แหน่ง ทำ ให้ได้รู้ว่า "ผี" มา ซึ่งสอดกล้องกับมิติเรื่อง "การกระทำ " "การแสดงออก"ว่าผีจะมาเข้าสิงหรือมุ่งร้ายประสงค์ชีวิตของตนเอง จึงทำ ให้ชาวบ้านเกิดความกลัว ไม่อยากพบเห็นและเข้าใกล้ผีเป็นอัน เด็ดขาด ผีเป็นสิ่งที่น่ากลัว ?
สังคมไทยในภาคเหนือเป็นสังคมที่ให้ความสำ คัญกับกลุ่มเครือญาติ เนื่องจากกลุ่มเครือญาติเป็นระบบความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานที่สุดใน สังคมและมีความสำ คัญมากในการเข้าใจ สังคมไทยในภาคเหนือ เพราะลักษณะครอบครัวไทยในภาคเหนือจะเน้นให้ความสัมพันธ์ของ กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกลุ่มเครือญาติ ดังจะเห็นได้จาก ความเชื่อที่ว่า ปู่ ย่า ตา ทวด หรือบิดามารคาของลูกหลานนั้น หากตายไปแล้วก็ตายไปเฉพาะร่างกายเท่านั้น ส่วนดวงวิญญาณมิได้ หายสาบสูญไปไหน หากแต่ยังมีความผูกพันอยู่กับลูกหลานตลอด เวลา คอยติดต่อสัมพันธ์ อีกทั้งยังสถิตอยู่บริเวณที่ที่ลูกหลานอาศัย อยู่ อีกทั้งวิญญาณของคนในครอบครัวเหล่านี้แสดงบทบาทในฐานะ เป็นผู้พิทักษ์รักษาปกป้องคุ้มครองลูกหลานภายในครอบครัวคอยสอด ส่องความเป็นอยู่และควบคุมความประพฤติของลูกหลาน ผีมีความสัมพันธ์ในกลุ่มญาติ
ผีอาจจะเป็นภาพใหญ่ที่ทุกคนมองถึง แต่ยังมีเรื่องของ “ขวัญ” ที่มี ความสำ คัญในมุมมองของศาสนาผี ซึ่งทางนักโบราณคดีเรียกว่า “พิธีศพครั้งที่สอง” ขวัญคือส่วนที่ไม่มีรูปร่าง มองไม่เห็น แต่ เคลื่อนไหวไปสิงตามสิ่งของ พืช เครื่องมือเครื่องใช้ หรือส่วนต่าง ๆ ของคนก็ได้ด้วย ซึ่งการที่คนตายนั้นเป็นเพราะขวัญหายออกจาก ร่างกายไป หรืออีกคำ อธิบายหนึ่งคือขวัญไม่อยู่กับมิ่ง (มิ่งหมายถึง ร่างกายของคน) หรือจะกล่าวในอีกประโยคหนึ่งว่า การที่คนตายนั้น เกิดจากขวัญออกจากร่างกายไปสิงสู่ที่ไหนก็ไม่ทราบได้ อาจจะเพราะ หาทางเข้าร่างตนเองไม่เจอ จึงทำ ให้ในอดีตการประกอบพิธีศพจะจัด เหมือนเป็นงานรื่นเริงติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้ขวัญที่หาทางกลับร่าง “ขวัญ” ในศาสนาผี
ทุกคนทราบว่า ผี อยู่ในแผ่นดินมาก่อนที่พระเจ้าอโศกมหาราชจะส่ง ศาสนทูตเข้ามาเผยแผ่ศาสนาพุทธ หรือก่อนที่ศาสนาพราหมณ์จากฝั่ง นครวัด-นครธมจะเข้ามามีอิทธิพล แต่เมื่อผู้มาใหม่นั้นดูแข็งแรงและ มีพลังอำ นาจมากกว่า ผีในดินแดนแถบนี้จึงเริ่มปรับตัวให้เข้ากันได้ กับผู้มาใหม่ นักวิชาการทางด้านประวัติศาสตร์ไทยให้ความเห็น ศาสนาไทยมีผีเป็นแกนกลาง มีพุทธ-พราหมณ์เป็นเปลือกห่อหุ้มคำ กล่าวข้างต้นเป็นอีกหนึ่งทัศนะที่ชี้ให้เห็นว่า ผี ในดินแดนแถบนี้เป็น อันหนึ่งเดียวกับศาสนาพุทธ-พราหมณ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนให้ เห็นได้จากการที่พระเกจิอาจารย์ใด ๆ ก็ยังคงใช้พิธีกรรมทางศาสนา ที่เน้นบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่นอกเหนือวิธีคำ สั่งสอนของชาวพุทธดังที่ ควรจะเป็น เมื่อผีเป็นส่วนหนึ่งในศาสนาพุทธและ พราหมณ์