นาฏศิลป์ไทยกับ
ท้าววรจันทร์
(เจ้าจอมมารดาวาด)
จัดทำโดย
นาย อิทธิพงศ์ ชุติจิตวิทยา
ม.5/2 เลขที่ 26
คำนำ
รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่ง
ของวิชา นาฏศิลป์ไทย เพื่อให้ได้ศึกษาและ
หาความรู้ในเรื่องราวของหนึ่งในบุคคลที่มี
ความสำคัญในวงการนาฏศิลป์ไทย นั่นคือ
ท้าววรจันทร์ (เจ้าจอมมารดาวาด) โดยใน
รายงานเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ประวัติและ
ผลงานของ เจ้าจอมมารดาวาด
ผู้จัดทำรายงานนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
รายงานเล่มนี้จะก่อเกิดประโยชน์แก่ผู้อ่าน
เกี่ยวกับ เจ้าจอมมารดาวาด
ผู้จัดทำ
นาย อิทธิพงศ์ ชุติจิตวิทยา
ประวัติ
ท้าววรจันทร บรมธรรมิกภักดี นารีวรคณานุรักษาหรือ
เจ้าจอมมารดาวาด มีนามเดิมว่า แมว ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 25
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2482 สิริอายุ 98 ปี
เป็นบุตรของสมบุญ งามสมบัติ (มหาดเล็กในรัชกาลที่ 3) กับถ้วย งาม
สมบัติ (ท้าวปฏิบัติบิณฑทาน) ญาติได้นำเข้าไปถวายตัวในวังหลวงตั้งแต่
วัยเด็ก เข้าไปเป็นข้าหลวงในสมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดี ในยาม
ว่างก็ทรงให้ฝึกหัดละครและเป็นศิษย์ของเจ้าจอมมารดาแย้ม
ประวัติ(ต่อ)
เจ้าจอมมารดาวาด เคยรับบทเป็นอิเหนา พระเอกเรื่อง อิเหนา[3]
เล่นได้ดีเยี่ยมจนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตรัสเรียกว่า
"แมวอิเหนา" ต่อมาจึงได้เข้าถวายตัวเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงเปลี่ยนชื่อเป็นวาด และได้เรียนภาษาอังกฤษกับ
แอนนา เลียวโนเวนส์ พร้อมกับพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าลูกเธอทั้งหลาย
เจ้าจอมมารดาวาดประสูติพระโอรสพระองค์หนึ่งคือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา ต้นราชสกุลโสณกุล ณ อยุธยา
คู่สมรส
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
บุตร
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา
กล่าวกันว่าท้าววรจันทรมีฝีมือในการปรุงอาหารเป็นเลิศ โดยครั้งหนึ่ง
ท้าววรจันทรได้ถวายสำรับอาหารเป็นน้ำยาไก่และหมูหวานแก่พระบาท
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระราชวังดุสิต ซึ่งพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพอพระทัยในฝีมือของท้าววรจันทรมากโดย
เฉพาะหมูหวาน ทรงตรัสยกย่องว่ามีรสชาติราวกับหมูหวานที่เคยเสวยมา
ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และในเวลาต่อมาจึงโปรดเกล้าพระราชทานธูปและ
เทียนบูชาฝีมือท้าววรจันทร และทรงประกาศว่าหากใครผัดหมูหวานได้รส
เช่นนี้ได้อีก ก็จะพระราชทานน้ำตาลจำนวนสามเท่าลูกฟักเป็นรางวัล
ยังปรากฏเรื่องราวของท้าววรจันทร์ในนิพนธ์ น้ำแข็ง ของหม่อม
เจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ความว่า กงสุลไทยในสิงคโปร์นำน้ำแข็ง
ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่กรุงเทพฯ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นก็ตรัสเรียก
พระราชโอรส-ธิดาว่า "ลูกจ๋าๆๆ "ทรงหยิบน้ำแข็งก้อนเล็กๆจาก
ขันทองใส่พระโอษฐ์เจ้านายเล็กๆ พระองค์ละก้อนแล้วตรัสว่า
"กินน้ำแข็งเสีย" ก่อนจะตรัสสั่งให้โขลนตามเจ้าจอมมารดาวาดมาดู
น้ำแข็ง โขลนจึงไปเรียนคุณจอมว่า "มีรับสั่งให้ท่านขึ้นไปดูน้ำแข็ง
เจ้าค่ะ" เจ้าจอมมารดาวาดจึงถาม "เอ็งว่าอะไรนะ" โขลนตอบ "น้ำ
แข็งเจ้าค่ะ" เจ้าจอมมารดาวาดจึงร้องว่า "เอ็งนี้ปั้นน้ำเป็นตัว" คำนี้
จึงกลายเป็นภาษิตมาแต่นั้น ในขณะที่ความทรงจำพระนิพนธ์ใน
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพระบุว่า
"อย่าปั้นน้ำเป็นตัว" เป็นสุภาษิตพระร่วง มีความหมายว่า
"ห้ามทำอะไรฝืนธรรมชาติ "หรืออีกนัยหนึ่งว่า" แกล้งปลูกเท็จให้
เป็นจริง " เป็นสุภาษิตมาแต่โบราณมิใช่เพิ่งเกิด
คดีความ
พ.ศ. 2449 ท้าววรจันทร์ลงโทษอำแดงเนย เพราะหลบหนีงาน โดย
ให้บ่าวในกำกับของตนจำนวนสามคน ได้แก่ อำแดงนก อำแดงพลอย
และอำแดงผ่อง เฆี่ยนตีอำแดงเนยซึงกำลังตั้งครรภ์อาการสาหัสและ
ตายทั้งกลมในเวลาต่อมา กรรมการศาลกระทรวงวังพิพากษา ให้จำ
คุกท้าววรจันทร์ อำแดงนก อำแดงพลอย และอำแดงผ่อง เป็นเวลา
สองปี แต่ท้าววรจันทร์เป็นข้าราชการและได้รับพระราชทานเครื่อง
ราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่
หัวจึงให้งดโทษท้าววรจันทร์ แต่เปลี่ยนเป็นปรับละเมิดจตุรคูณตาม
บรรดาศักดิ์ท้าววรจันทร์ ศักดินา 3,000 ไร่ คิดเป็นเงิน 425 บาท 3
สลึง 500 เบี้ย ต่อมาท้าววรจันทร์ทำหนังสือถึงกระทรวงวัง ปฏิเสธ
ความผิดทั้งหมดแต่ไม่ต้องการอุทธรณ์ เพียงแต่ต้องการให้ปล่อยตัว
บ่าวสามคนในฐานะที่ทำตามคำสั่งของท่าน
มีสมญาการแสดงว่า แมวอิเหนา เป็นนางละครและพระสนมเอก
ใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ท้าววรจันทรยังมีความกตัญญูต่ออาจารย์ กิตติศัพท์เขาเล่าลือว่า
ท่านดุมาก มีฝีมือในการปรุงอาหารเป็นเลิศ
ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าจอม
มารดาวาดได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ท้าววรจันทร เป็นตำแหน่งชั้นสูง
ของข้าราชการฝ่ายใน หม่อมศรีพรหมา กฤดากร ณ อยุธยา