การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) โดยใช้วัสดุรองพื้นที่แตกต่างกัน Sea Grape (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) Culture with Different Types of Substrates กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้้าชายฝั่ง กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ Coastal Aquaculture Research and Development Division Department of Fisheries Ministry of Agriculture and Cooperatives เอกสารวิชาการฉบับที่ ๙/๒๕๖๔ Technical Paper No. 9/2021 ประพัฒน์ กอสวัสดิ์พัฒน์ Prapat Kosawatpat ธีรพงศ์ บรรเลง Teerapong Banleng มนทกานติ ท้ามติ้น Montakan Tamtin ทิพาพร แก้วประเสริฐศรี Tipaporn Kaewprasertsri
การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) โดยใช้วัสดุรองพื้นที่แตกต่างกัน Sea Grape (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) Culture with Different Types of Substrates สารบัญ ประพัฒน์ กอสวัสดิ์พัฒน์ Prapat Kosawatpat ธีรพงศ์ บรรเลง Teerapong Banleng มนทกานติ ท้ามติ้น Montakan Tamtin ทิพาพร แก้วประเสริฐศรี Tipaporn Kaewprasertsri ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้้าชายฝั่งเพชรบุรี กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้้าชายฝั่ง กรมประมง ๒๕๖๔ Phetchaburi Coastal Aquaculture Research and Development Center Coastal Aquaculture Research and Development Division Department of Fisheries 2021 Technical Paper No. 9/2021 รหัสทะเบียนวิจัย 63-1-010763028-01 เอกสารวิชาการฉบับที่ ๙/๒๕๖๔
หน้า บทคัดย่อ 1 Abstract 3 ค าน า 5 วัตถุประสงค์ 6 วิธีด าเนินการ 6 1. ศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้นและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น 6 ในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในฟาร์มของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี 2. เปรียบเทียบชนิดวัสดุรองพื้นที่เหมาะสมในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น 10 ผลการศึกษา 14 1 ศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้นและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น 14 ในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในฟาร์มของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี 1.1 คุณสมบัติวัสดุรองพื้น 14 1.2 คุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น 14 1.3 คุณภาพน้ าและความเข้มแสงในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น 16 2 เปรียบเทียบชนิดวัสดุรองพื้นที่เหมาะสมในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น 17 2.1 คุณสมบัติวัสดุรองพื้น 17 2.2 ธาตุอาหารที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น 19 2.3 การเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่น 20 2.4 คุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น 22 2.5 ผลผลิตสาหร่ายพวงองุ่นแบบคัดเกรดบริโภค 26 2.6 คุณภาพน้ าและความเข้มแสงในชุดการทดลอง 26 วิจารณ์ผล 29 สรุปและข้อเสนอแนะ 32 ค าขอบคุณ 32 เอกสารอ้างอิง 33 สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 พิกัดทางภูมิศาสตร์ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี 7 2 ค่าเฉลี่ยคุณสมบัติวัสดุรองพื้นในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในฟาร์มของเกษตรกร 14 3 ค่าเฉลี่ยคุณภาพเกรดบริโภคของสาหร่ายพวงองุ่นในฟาร์มของเกษตรกร 15
4 ค่าเฉลี่ยน้ าหนักแยกเกรดของสาหร่ายพวงองุ่นในฟาร์มของเกษตรกร 15 5 คุณภาพน้ าและความเข้มแสงเฉลี่ยในบ่อเลี้ยงสาหร่ายของเกษตรกร 16 6 ค่าเฉลี่ยคุณสมบัติและธาตุอาหารของวัสดุรองพื้นหลักชนิดต่าง ๆ ในการเลี้ยง 18 สาหร่ายพวงองุ่นในชุดการทดลอง 7 น้ าหนักรวมเฉลี่ยต่อแผงของสาหร่ายพวงองุ่นในแต่ละสัปดาห์ 21 8 อัตราการเจริญเติบโตของสาหร่ายเฉลี่ยต่อวัน (ADG) ในแต่ละสัปดาห์และเมื่อสิ้นสุด 23 การทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ 9 อัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวัน (SGR) ในแต่ละสัปดาห์ 23 10 ค่าเฉลี่ยค่าสีระบบ L*, a*, b* ของสาหร่ายพวงองุ่นเมื่อสิ้นสุดการทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์24 11 ความยาวเฉลี่ย Stolon, ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย Ramulus และ 24 จ านวนเฉลี่ย Ramulus /ความยาว Stolon 1 เซนติเมตร ของสาหร่ายพวงองุ่น ในสัปดาห์ที่ 4 และ 6 12 ผลผลิตเฉลี่ยสาหร่ายพวงองุ่นแบบคัดเกรดบริโภค เมื่อสิ้นสุดการทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ 26 13 คุณภาพน้ าและความเข้มแสงเฉลี่ยในชุดการทดลองการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น 27 สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1 ภาพถ่ายทางอากาศแสดงพิกัดทางภูมิศาสตร์ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของเกษตรกร 7 จังหวัดเพชรบุรี 2 วัสดุรองพื้นชนิดต่าง ๆ (ก) ทรายชายทะเล (ข) กระซ้า (ค) ดินโคลนนาเกลือ และ 11 (ง) ดินโคลนป่าชายเลน 3 การเตรียมตู้และการวางแผงสาหร่ายทดลอง 12 4 (ก) การวัดความยาว Stolon 13 (ข) การนับจ านวน Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร
(ค) การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง Ramulus สาหร่ายพวงองุ่น ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ 5 ปริมาณไนโตรเจน (N) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น 19 6 ปริมาณฟอสฟอรัส (P) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น 19 7 ปริมาณโพแทสเซียม (K) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น 20 8 น้ าหนักรวมเฉลี่ยต่อแผงของสาหร่ายพวงองุ่นในแต่ละสัปดาห์ 21 9 คุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงด้วยวัสดุรองพื้นชนิดต่าง ๆ 25
การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) โดยใช้วัสดุรองพื้นที่แตกต่างกัน ประพัฒน์ กอสวัสดิ์พัฒน์1 *, ธีรพงศ์บรรเลง 1 , มนทกานติ ท้ามติ้น2 และ ทิพาพร แก้วประเสริฐศรี3 1 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งเพชรบุรี 2 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งสมุทรสาคร 3 ส านักงานประมงอ าเภอหนองหญ้าปล้อง บทคัดย่อ ศึกษาการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) โดยใช้วัสดุรองพื้น ที่แตกต่างกัน แบ่งเป็น 2 การศึกษา ได้แก่ 1) ศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้น และคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่นใน บ่อเลี้ยงของฟาร์มเกษตรกรในจังหวัดเพชรบุรีซี่งแบ่งเป็นฟาร์มที่เลี้ยงสาหร่ายในพื้นที่นาเกลือ จ านวน 3 ฟาร์ม และในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน จ านวน 3 ฟาร์ม รวมทั้งหมด 6 ฟาร์ม โดยเก็บตัวอย่างสาหร่ายฟาร์มละ 100 กิโลกรัม และวัสดุรองพื้น 1 กิโลกรัม รวมทั้งเก็บตัวอย่างน้ าและวัดความเข้มแสง เวลา 09.00 น. ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ผลการศึกษาพบว่า คุณสมบัติวัสดุรองพื้นจากฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีค่าเฉลี่ยของค่าการน าไฟฟ้าเท่ากับ 4,741±704 µs/cm, สารอินทรีย์เท่ากับ 2.09±0.2 %, C/N Ratio เท่ากับ 8.70±1.5, อินทรีย์คาร์บอน 1.218±0.02 % และไนโตรเจนเท่ากับ 0.14±0.02 % ซึ่งมากกว่าค่าที่พบในพื้นที่นาเกลืออย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) ส่วนค่าเฉลี่ยความเป็น กรดด่าง (pH), ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ในวัสดุรองพื้นทั้ง 2 ประเภทมีค่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) คุณภาพของสาหร่ายที่เลี้ยงในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีค่าเฉลี่ยของน้ าหนักเกรดบริโภคเท่ากับ 34.7±4.6 กิโลกรัม ความยาวเฉลี่ย Stolon ของสาหร่ายเท่ากับ 11.1±1.6 เซนติเมตร ซึ่งมากกว่าในพื้นที่นาเกลืออย่างมี นัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) ที่มีค่าเฉลี่ยของน้ าหนักเกรดบริโภคเท่ากับ 20.7±5.3 กิโลกรัม ความยาวเฉลี่ย Stolon ของสาหร่ายเท่ากับ 9.1±1.2 เซนติเมตร ส่วนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยของ Ramulus และ จ านวนเฉลี่ย Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร ในวัสดุรองพื้นทั้ง 2 ประเภทมีค่าไม่แตกต่างกัน ทางสถิติ(p>0.05) สาหร่ายที่เลี้ยงในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีค่าเฉลี่ยค่าสีa* (+ สีแดง, - สีเขียว) เท่ากับ - 1.58±0.3 ซึ่งมีสีเขียวมากกว่า ในพื้นที่นาเกลือ ที่มีค่าสีa* เท่ากับ -0.91±0.2 และค่าเฉลี่ยค่าสีb* (+ สี เหลือง, - สีน้ าเงิน) เท่ากับ 2.88±0.2 ซึ่งมีสีเหลืองน้อยกว่าในพื้นที่นาเกลือ ที่มีค่าสีb* เท่ากับ 6.94±0.4 อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) ส่วนค่าสีL* (+ ความสว่าง, - ความทึบแสง) มีค่าเฉลี่ยในวัสดุรองพื้นทั้ง 2 ประเภทไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) สรุปได้ว่า สาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มี น้ าหนักเกรดบริโภคเฉลี่ยมากกว่าสาหร่ายที่เลี้ยงในพื้นที่นาเกลือ และมีคุณภาพของสาหร่าย โดยเฉพาะความ ยาวเฉลี่ย Stolon และสีของสาหร่าย ที่มีสีเขียวดีกว่าสาหร่ายที่เลี้ยงในพื้นที่นาเกลือ ที่มีสีเขียวอม เหลือง จึงน าวัสดุรองพื้นทั้ง 2 ประเภท มาท าการศึกษาเปรียบเทียบกับดินชนิดอื่น ๆ ที่ใช้เป็นวัสดุ รองพื้นในการเลี้ยงสาหร่ายพ่วงองุ่นต่อไป 2) ศึกษาชนิดวัสดุรองพื้นที่เหมาะสมในการเลี้ยงสาหร่าย พวงองุ่นในตู้กระจก ประกอบด้วย 7 ชุด การทดลอง ได้แก่ ชุดการทดลองที่ 1 ไม่มีวัสดุรองพื้น (ชุดควบคุม), ชุดการทดลองที่ 2 ทรายชายทะเล, ชุดการทดลองที่ 3 ดินโคลนนาเกลือ, ชุดการทดลองที่ 4 ดินโคลนป่าชาย เลน, ชุดการทดลองที่ 5 กระซ้า (เศษเปลือกหอย), ชุดการทดลองที่ 6 ดินโคลนป่าชายเลน : ทราย อัตราส่วน 1:1 และชุดการทดลองที่ 7 ดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 ใส่วัสดุรองพื้นหนา 5
2 เซนติเมตร ก่อนเติมน้ าทะเลความเค็ม 30 ppt สาหร่ายน้ าหนักเริ่มต้น 300 กรัมต่อตู้เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า ชุดการทดลองที่ 7 มีน้ าหนักสาหร่ายรวมเฉลี่ย 3.30±5.3 กิโลกรัมต่อแผง และเปอร์เซ็นต์ของสาหร่าย เกรดบริโภคเฉลี่ย 32.4±2.2 มากกว่าทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) อัตราการ เจริญเติบโตของสาหร่ายเฉลี่ยต่อวัน เริ่มมีความแตกต่างตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ส่วนอัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะ ของสาหร่ายเฉลี่ยต่อวัน มีเปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตสูงในช่วง 3 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นค่อย ๆ ลดลงอย่าง ต่อเนื่องจนสิ้นสุดการทดลอง ด้านคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น ชุดการทดลองที่ 3 และ 4 มีความ ยาวเฉลี่ย Stolon ของสาหร่ายเท่ากับ 7.4±0.3 และ 7.5±0.2 เซนติเมตร มีค่ามากที่สุด และมีจ านวนเฉลี่ย Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตรเท่ากับ 17±0.1 และ 17±0.2 เม็ด มีค่าน้อยที่สุดตามล าดับและ แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) กับทุกชุดการทดลอง ส่วนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง Ramulus ของสาหร่ายพวงองุ่นของทุกชุดการทดลอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.3±0.1 - 2.5±0.2 มิลลิเมตร ซึ่งมีค่าไม่ แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) ค่าสีของสาหร่ายชุดการทดลองที่ 3 สาหร่าย มีสีเขียวอมเหลืองแดง โดยมี ค่าเฉลี่ยค่าสีa* เท่ากับ -0.69±0.2 และ ค่าสีb* เท่ากับ 8.28±0.2 ตามล าดับและแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ ทางสถิติ(p<0.05) กับทุกชุดการทดลอง ส่วนค่าสีL* ของทุกชุดการทดลองสาหร่ายมีสีโทนสว่าง โดยมี ค่าเฉลี่ยอยู่ในช่วง 31.36±0.3 - 35.47±0.4 จากผลการศึกษาสรุปได้ว่า สาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงบนวัสดุรองพื้นดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 ในตู้กระจก มีน้ าหนักผลผลิตรวมเฉลี่ยและเปอร์เซ็นต์ของสาหร่ายเกรดบริโภคเฉลี่ยมากที่สุด รวมทั้งมีคุณภาพของสาหร่ายอยู่ในเกณ์มาตรฐานที่ตลาดต้องการ สอดคล้องกับฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของ เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งที่มีสารอินทรีย์และไนโตรเจนเป็นสารอาหารของสาหร่าย สะสมในปริมาณมาก ค้าส้าคัญ : สาหร่ายพวงองุ่น, วัสดุรองพื้น, การเจริญเติบโต, คุณภาพของสาหร่าย *ผู้รับผิดชอบ : 122 หมู่ 1 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี 76100 โทร. 0 3247 3877 E-mail: [email protected] Sea Grape (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) Culture with Different Types of Substrates Prapat Kosawatpat1 *, Teerapong Banleng1 , Montakan Tamtin2 and Tipaporn Kaewprasertsri3 1 Phetchaburi Coastal Aquaculture Research and Development Center 2 Samut Sakhon Coastal Aquaculture Research and Development Center 3 Nong Ya Plong Fisheries District Office
3 Abstract The study of the responses of sea grape (Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1873) cultivated in different substrates were separated into 2 trials, the first trial studied on the substrates properties and sea grape quality in 2 farming locations in Phetchaburi province based on different bottom ecosystem salt pan area and area near mangrove forest ecosystem. One hundred kilograms of sea grape and 1 kilogram of substrates which were from 2 farming locations salt pan area and area near mangrove forest ecosystem each with 3 farms, were collected for analysis. Water quality and light intensity were monitored daily at 9.00 am for one week. The results in term of substrates properties showed that from the seagrape farms near mangrove forest ecosystem had the conductivity of 4,741±704 µs/cm, organic matter of 2.09±0.2 %, C/N ratio of 8.70±1.5, organic carbon of 1.218±0.02 % and nitrogen content of 0.14±0.02 % which were significantly higher than those of substrates from salt pan area (p<0.05), whereas, pH, phosphorus and potassium content from both substrates types were not significantly different from each other (p>0.05). The quality of sea grape in term of weight and stolon length cultivated near mangrove forest ecosystem were 34.7±4.6 KG and 11.1±1.6 cm which were significantly higher than 20.7±5.3 KG and 9.1±1.2 cm of sea grape cultivated in salt pan area (p<0.05). On the contrary, the diameter of ramulus and number of ramulus per 1 cm of stolon length from both farming locations were not significantly different (p>0.05). Sea grape cultivated near mangrove forest ecosystem had a* color (+Red, -Green) value (-1.58±0.3) less than that of sea grape cultivated in salt pan area (-0.91±0.2) which the former expressed more greenish color than the latter. On the contrary, the former had b* color (+Yellow, -Blue) value (2.88±0.2) expressed yellowish color significantly lower than that of the latter (6.94±0.4) while the L* color (+Brightness, -Opacity) value of sea grape cultivated from both substrates types were not significantly different. (p>0.05). It can be concluded from the results of experiment 1 that sea grape cultured near mangrove forest ecosystem had significant higher weight of edible grade and quality than those of sea grape cultured in salt pan area, especially in term of stolon length and colour. Sea grape cultured near mangrove forest ecosystem had greenish colour which was better than green-yellowish colour of that cultured in salt pan area. Comparable of both soil substrates was then be conducted in the laboratory. The second trial studied of the optimum substrates of sea grape culture in aquarium glass, trial including 7 treatments (3 replicate per treatment), namely treatment 1 there is not substrate (control), treatment 2 beach sand, treatment 3 mud from salt pan, treatment 4 mud from mangrove, treatment 5 neutral mixed shell (Krasa), treatment 6 mud from mangrove : beach sand ratio 1:1 and treatment 7 mud from mangrove : Krasa ratio 1:1, added the different types of substrate thickness 5 cm, of seawater 30 ppt and put the 300 g of sea grape per. frame per aquarium glass. For 6 weeks. The results showed treatment 7 that total weight and percentage of edible grade were significantly higher than all treatment (p<0.05), 3.30±5.3 KG per frame and
4 32.4±2.2%, respectively. The average daily growth of sea grape was different in week 3. The specific growth rate of sea grape in all treatments in weeks 1-3 increased and slightly decrease in the next week until the end of the experiment. The quality of sea grape in treatment 3 and 4 showed that length of Stolon were 7.4±0.3 and 7.5±0.2 cm, respectively and significantly higher than all treatment (p<0.05). The Ramulus per 1 cm of Stolon in treatment 3 and 4 (17±0.1 and 17±0.2 piece respectively) and significantly lower than all treatments (p<0.05). The diameter of Ramulus of sea grape in all treatments was approximately 2.3±0.1 – 2.5±0.2 mm and it was not significantly different (p>0.05). The a* color of treatment 3 was -0.69±0.2 and b* was 8.28±0.2 that was significantly difference with all treatment (p<0.05) so the color of sea grape in treatment 3 is yellowish-green to red. Overall the L* color showed that the light color (31.36±0.3 – 35.47±0.4). From the results of the study, it was concluded that Grape bunch algae cultured on mud from mangrove : Krasa, ratio 1:1 in glass cabinet, had the highest total yield weight and percentage of edible grade algae. As well as the quality of algae in the standard that the market requires. This corresponds to the algae farm of farmers area near mangrove forest ecosystem with organic matter and nitrogen, which is the nutrient of algae, accumulated in large quantities. Keywords : Sea Grape, Substrates, Growth, Seaweed quality *Corroesponding author : 122 Moo 1, Laem Pakbia, Ban Laem, Phetchaburi 76100 Tel. 0 3247 3877, E-mail: [email protected] ค้าน้า สาหร่ายพวงองุ่น Caulerpa lentillifera J. Agardh, 1837 มีชื่อสามัญว่า Sea Grape หรือ Green Caviar เป็นสาหร่ายทะเลสีเขียว มีทัลลัส (Thallus) เป็นท่อติดต่อกันตลอด มีรากเป็นฝอย (Rhizoid) ท าหน้าที่ยึดเกาะ มีลักษณะคล้ายไหล (Stolon) ที่ทอดแขนงออกเป็นระยะ ส่วนที่ท าหน้าที่สังเคราะห์แสง มีลักษณะคล้ายใบเรียกว่า Ramulus เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2 มิลลิเมตร มีก้านสั้น ๆ เรียงกันคล้ายช่อ พริกไทย แต่ละ Ramulus มีรอยคอดระหว่างก้านและส่วนที่เป็นเม็ดกลมมีสีเขียวใส (กาญจนภาชน์, 2527) แพร่กระจายในเขตร้อนบริเวณที่น้ าทะเลค่อนข้างใสและมีความเค็มสูง 32-34 ส่วนในพันส่วน (Mus, 1837) มักพบขึ้นบนก้อนหินหรือพื้นทรายใกล้แนวปะการัง พื้นทรายปนโคลน สามารถปรับสภาพแวดล้อมให้ เจริญเติบโตได้ใน บ่อเลี้ยง ความเค็มที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 25–30 ส่วนในพันส่วน (สันติและคณะ, 2546; Trono and Toma, 1993; Danesa and Rabia, 2016) พบมากในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม (Chirapart et al., 2010) ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่ควบคุมชนิดและการ แพร่กระจายของสาหร่ายได้แก่ พื้นที่ยึดเกาะ แสง อุณหภูมิความลึก ความเค็ม และการเคลื่อนที่ของมวลน้ าใน แหล่งน้ า เป็นต้น (Lewmanomont and Ogawa, 1995) กรมประมง โดยสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งเพชรบุรีได้ริเริ่มเลี้ยงสาหร่ายชนิดนี้มาตั้งแต่ ปี2536 เพื่อใช้ปรับสภาพน้ าด้วยวิธีทางชีวภาพในการเลี้ยงสัตว์น้ า และต่อมาในปี2557 ศูนย์วิจัยและ พัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรีได้ศึกษาพัฒนาเทคนิคการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น พร้อมจัดท าคู่มือการเลี้ยง สาหร่ายพวงองุ่นเพื่อการขยายผลเชิงพาณิชย์โดยการพัฒนาการเลี้ยงในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ าเก่าในบริเวณพื้นที่ ป่าชายเลน ซึ ่งดินมีลักษณะเป็นดินเหนียว รูปแบบการเลี้ยงแบบแขวนโดยใส่ต้นพันธุ์สาหร่ายคุณภาพดี
5 ลงในแผงพลาสติกเกลี่ยให้กระจายทั่วแผง แขวนในบ่อดินที่ติดตั้งท่อให้อากาศบริเวณพื้นบ่อและเพื่อเพิ่ม การหมุนเวียนน้ าภายในบ่อ ใช้เวลาเลี้ยง 6-8 สัปดาห์จึงเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยจากสาหร ่ายต้นพันธุ์ 500 กรัม สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต 8-10 กิโลกรัม ผลผลิตสาหร่ายมี Ramulus อวบใหญ่เรียงตัวถี่และ ความยาวของ Stolon มากกว่า 2 นิ้ว มีสีเขียวสวยงาม ซึ่งเป็นเกรดบริโภค มีราคาจ าหน่าย 100-200 บาท ต่อกิโลกรัม ขึ้นกับคุณภาพของสาหร ่าย ซึ ่งก าหนดคุณภาพและราคาโดยฟาร์มทะเลตัวอย ่างในสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ จังหวัดเพชรบุรี ปัจจุบันการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของเกษตรกรในจังหวัดเพชรบุรีนิยมน ามาเลี้ยงในบ่อดิน ขนาด 0.5-5 ไร ่ ระดับน้ าลึกประมาณ 1.5 เมตร มีทั้งรูปแบบแขวนและหว ่านลงพื้น มีการสูบน้ าทะเล เข้าบ่อเดือนละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 1-5 วัน ไม่เติมปุ๋ยเพิ่ม ซึ่งแหล่งเลี้ยงหลักอยู่ในพื้นที่ 3 ต าบล ได้แก่ ต าบล หาดเจ้าส าราญ ต าบลแหลมผักเบี้ยและต าบลบางแก้ว โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่นาเกลือและพื้นที่ใกล้ ป่าชายเลน ท าให้มีปริมาณผลผลิตและคุณภาพของสาหร ่ายเกรดบริโภคแตกต่างกันไป เช่น สาหร่ายมี สีเขียวแดงหรือ Ramulus มีขนาดเล็ก เป็นต้น ท าให้ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด แหล่งธาตุอาหารของสาหร่ายนอกจากได้รับจากน้ าทะเลที่มีคุณภาพเหมาะสมแล้วยังมีปัจจัยที่ ส าคัญต่อการเจริญเติบโต คือ ดินหรือวัสดุรองพื้น ซึ่งดินนอกจากใช้เป็นที่ยึดเกาะของสาหร่ายแล้วยังเป็น แหล ่งสะสมของสารอินทรีย์ (Organic matter) และธาตุอาหาร เมื ่อธาตุอาหารละลายปนมากับน้ า สาหร่ายสามารถดูดซึมน าไปใช้ในการเจริญเติบโตได้และอาจส่งผลต ่อคุณภาพของสาหร ่ายอีกด้วย เช ่น สีความถี ่ของ Ramulus และความยาวของ Stolon เป็นต้น โดยดินในพื้นที ่แถบชายฝั ่งทะเลนั้น มีคุณสมบัติและชนิดแตกต่างกันไป เช่น ทรายชายทะเล ดินโคลนนาเกลือ ดินโคลนป่าชายเลน และรวมถึง ดินเศษเปลือกหอยชนิดต่างๆ ที่ย่อยสลายตามธรรมชาติที่เรียกว่า กระซ้า (อนิสา และคณะ, 2555) เป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นประเด็นในการศึกษาวิจัย คุณสมบัติวัสดุรองพื้น ผลผลิตและ คุณภาพของสาหร ่ายพวงองุ ่น โดยท าการเก็บตัวอย ่างดินและสาหร ่ายพวงองุ ่นในบ ่อเลี้ยงสาหร ่ายของ เกษตรกรจังหวัดเพชรบุรีหลังจากนั้นน าผลการศึกษาชนิดของวัสดุรองพื้นที ่ให้ผลดีมาท าการศึกษา เปรียบเทียบชนิดของวัสดุรองพื้นแบบต ่าง ๆ ที ่เหมาะสมส าหรับการเจริญเติบโตของสาหร ่าย และให้ ผลผลิตสาหร่ายที่มีคุณภาพ เพื่อทราบข้อมูลในการน ามาเป็นแนวทางส าหรับแนะน าเกษตรกรในการเลือก พื้นที่เลี้ยงที่เหมาะสม หรือการจัดการปรับปรุงดินบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของเกษตรกรต่อไป วัตถุประสงค์ 1. ศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้น และคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่นในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในฟาร์ม ของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี 2. เปรียบเทียบคุณสมบัติวัสดุรองพื้นชนิดต่าง ๆ ต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น วิธีด้าเนินการ การศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้น และคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่นในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในฟาร์ม ของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี
6 1.1 พื้นที่ศึกษา ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นทั้ง 2 ฝั่งของถนนทางหลวงชนบท 4028 ซึ่งเป็นถนนกั้นน้ าเค็ม และเป็นแหล่งเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในจังหวัดเพชรบุรีครอบคลุมพื้นที่ 3 ต าบล ได้แก่ ต าบลหาดเจ้าส าราญ, ต าบลแหลมผักเบี้ย และต าบลบางแก้ว ได้แก่ ฟาร์มที่เลี้ยงสาหร่ายในพื้นที่นาเกลือ จ านวน 3 ฟาร์ม และ ฟาร์มที่เลี้ยงสาหร่ายในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน จ านวน 3 ฟาร์ม รวมทั้งสิ้น จ านวน 6 ฟาร์ม ดังตารางที่ 1 และ ภาพที่ 1 ตารางที่1 พิกัดทางภูมิศาสตร์ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี พื้นที่ฟาร์ม ฟาร์ม พื้นที่ใกล้ป่าชายเลน ฟาร์ม พื้นที่นาเกลือ (ต าบล) latitude longitude latitude longitude หาดเจ้าส าราญ 1 13°01'27.5"N 100°04'36.6"E 2 13°01'48.4"N 100°03'50.1"E แหลมผักเบี้ย 3 13°03'06.5"N 100°04'33.6"E 4 13°02'14.5"N 100°04'49.2"E บางแก้ว 5 13°07'41.7"N 100°03'38.7"E 6 13°06'49.0"N 100°03'30.3"E ภาพที่1 ภาพถ่ายทางอากาศแสดงพิกัดทางภูมิศาสตร์ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี 1.2 การเก็บตัวอย่าง การเก็บตัวอย่างวัสดุรองพื้น สาหร่าย และน้ าในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ดังนี้ 1.2.1 การเก็บตัวอย่างวัสดุรองพื้น ก าหนดจุดเก็บวัสดุรองพื้นแบบสลับฟันปลา โดยเฉลี่ยระยะห่างระหว่างจุดให้ครอบคลุม ตามความยาวของบ่อ บ่อละ 10 จุด จุดละ 0.5 กิโลกรัม โดยใช้พลั่วขุดวัสดุรองพื้นเป็นหลุมรูปลิ่ม ลึกประมาณ 5-10 เซนติเมตร คัดแยกสิ่งปนเปื้อนพร้อมคลุกเคล้าวัสดุรองพื้นแต่ละจุดให้เข้ากันแล้วเทลงบนผ้าพลาสติก ตากในที่ร่มจนแห้ง หลังจากนั้นน าวัสดุรองพื้นแห้งมาบดให้ละเอียด พร้อมคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง กองวัสดุรองพื้นเป็นรูปฝาชีใช้มือตบยอดกองให้แบนราบ แบ่งวัสดุรองพื้นออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน
7 เก็บไว้เพียงส่วนเดียวจ านวน 1 กิโลกรัม ใส่ถุงพลาสติกสะอาดเขียนหมายเลขก ากับ ก่อนส่งตรวจวิเคราะห์ ลักษณะ สีและคุณสมบัติวัสดุรองพื้น ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี(กรมพัฒนาที่ดิน, มปป.) 1.2.2 การเก็บตัวอย่างสาหร่ายพวงองุ่น ก าหนดจุดเก็บสาหร่ายจุดเดียวกับการเก็บตัวอย่างวัสดุรองพื้น บ่อละ 10 จุด จุดละ 10 กิโลกรัม เขย่าล้างดินโคลนพร้อมคัดแยกสิ่งปนเปื้อนหรือสัตว์เกาะติด พักในถังพลาสติกขนาด 500 ลิตร เติม น้ าความเค็ม 30 ส่วนในพันส่วน ปริมาตร 400 ลิตร จ านวน 4 ถัง ใส่สาหร่ายถังละ 25 กิโลกรัม ให้อากาศด้วย หัวทรายเป็นเวลา 1 วัน น าสาหร่ายมาคัดแยกเกรด 3 เกรด ได้แก่ เกรดบริโภค เกรดต้นพันธุ์และเกรดคัดทิ้ง ตามเกณฑ์ มาตรฐานของสาหร่ายเกรดต่าง ๆ ที่ก าหนดโดยฟาร์มทะเลตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จังหวัดเพชรบุรีดังนี้ - เกรดบริโภค คือสาหร่ายที่มีสีเขียว ลักษณะเป็นช่อ Ramulus มีขนาดใหญ่และถี่ ความยาวของ Stolon 1 นิ้วขึ้นไป - เกรดต้นพันธุ์ คือสาหร่ายที่มีสีเขียวปนเหลืองแดง Ramulus มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ เกาะเป็นกลุ่มถี่สลับห่างเป็นช่วงๆ - เกรดคัดทิ้ง คือสาหร่ายที่มีสีแดงหรือสีขาวใส Ramulus มีขนาดเล็กและห่าง หลักจากนั้นแยกล้างท าความสะอาดด้วยระบบสกิมเมอร์ ในถังพลาสติกขนาด 500 ลิตร เป็นระยะเวลา 2 วัน ก่อนน ามาพักในน้ าความเค็ม 30 ส่วนในพันส่วน ให้อากาศด้วยหัวทราย เป็นระยะเวลา 2 วัน ชั่งน้ าหนัก ส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพของสาหร่าย ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่ง เพชรบุรีและที่คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1.2.3 การเก็บตัวอย่างน้้า ก าหนดจุดเก็บตัวอย่างน้ าบ่อละ 3 จุด จุดละ 1 ลิตร เวลา 09.00 น. ทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เก็บตัวอย่างน้ าบริเวณพื้นบ่อ ใส่ขวดพลาสติกสะอาดให้เต็มขวดและปิดฝาให้สนิทพร้อมเขียนหมายเลขก ากับ โดยเก็บตัวอย่างน้ าในช่วงที่เก็บตัวอย่างวัสดุรองพื้นและสาหร่าย ก่อนส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ า ที่ศูนย์วิจัย และพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งเพชรบุรี 1.3 การวิเคราะห์ข้อมูล 1.3.1 ตรวจวิเคราะห์ลักษณะ สีและคุณสมบัติวัสดุรองพื้นที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีดังนี้ - ความเป็นกรด-ด่าง (pH) โดยใช้pH Meter รุ่น HI2211 ยี่ห้อ Hanna - การน าไฟฟ้า (EC) โดยใช้Electrical Conductivity meterรุ่น HI2030-02 ยี่ห้อ Hanna - สารอินทรีย์(OM) ตามวิธี Walkley-Black method (กรมวิชาการเกษตร, 2553) - อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N ratio) ได้จากการค านวณ โดยน าค่าวิเคราะห์ อินทรีย์คาร์บอนและไนโตรเจนแทนค่าในสูตร C/N ratio = %OC / %N (กรมวิชาการเกษตร, 2553) - อินทรีย์คาร์บอน (OC) ตามวิธี Walkley-Black method (กรมวิชาการเกษตร, 2553) - ไนโตรเจน (N) ตามวิธีMicro Kjeldahl method (กรมวิชาการเกษตร, 2551) - ฟอสฟอรัส (P) ตามวิธีOlsen method (Olsen and Sommers, 1982) - โพแทสซียม (K) ตามวิธีAmmonium acetate method โดยใช้Flame
8 spectrophotometer รุ่น FP 6510 ยี่ห้อ UNICOM 1.3.2 ตรวจวิเคราะห์คุณภาพเฉพาะสาหร่ายสดเกรดบริโภค ดังนี้ - วัดความยาว Stolon ของสาหร่าย - นับจ านวน Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร - วัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง Ramulus ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยตรวจวิเคราะห์ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งเพชรบุรี - ตรวจวัดค่าสีL*, a*, b* โดยใช้เครื่อง Colorimeter รุ่น UltraScan VIS ยี่ห้อ HunterLab ดังนี้ : ค่าสีL* มีค่าตั้งแต่ 0-100 คือสีสว่าง ค่าสูงมากมีความสว่างมาก หรือ สีทึบ ค่าต่ า มากมีความทึบแสงมาก : ค่าสีa* มีค่าเป็นจ านวนเต็มบวก เช่น 1, 2, 3 คือสีแดง ตัวเลขบวกมากค่าสีแดงมาก หรือ มีค่าเป็นจ านวนเต็มลบ เช่น -1,-2,-3,คือสีเขียว ตัวเลขติดลบมากค่าสีเขียวมาก : ค่าสีb* มีค่าเป็นจ านวนเต็มบวก เช่น 1, 2, 3 คือสีเหลือง ตัวเลขบวกมากค่าสีเหลือง มาก หรือ มีค่าเป็นจ านวนเต็มลบ เช่น -1,-2,-3คือสีน้ าเงิน ตัวเลขติดลบมากค่าสีน้ าเงินมาก โดยตรวจวิเคราะห์ที่คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1.3.3 ตรวจวัดความเข้มแสง บริเวณบ่อที่เก็บตัวอย่างวัสดุรองพื้น และสาหร่าย เวลา 09.00 น. ทุกวัน ในช่วงที่เก็บตัวอย่าง เป็นเวลา 1 สัปดาห์โดยใช้เครื่อง Lux Meter รุ่น TM-209M ยี่ห้อ TENMARS 1.3.4 ตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติน้ า ดังนี้ - อุณหภูมิน้ า ตรวจวัดโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ - ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ า โดยใช้DO meter รุ่น Pro 30 ยี่ห้อ YSI - ความขุ่น โดยใช้Turbirity Meter รุ่น 2100 P ยี่ห้อ HACH - ความเป็นด่าง ตามวิธี Potentiometric titration Method (นิคม, 2562) - ความเค็ม โดยใช้Reflectometer แบบหักเหแสง ยี่ห้อ ATAGO - ความเป็นกรด-ด่าง (pH) โดยใช้pH Meter รุ่น HI2211 ยี่ห้อ Hanna - ปริมาณแอมโมเนียรวม (NH3 +NH4 + ) ตามวิธีModified Indophenol Blue Method (นิคม, 2562) - ปริมาณไนเตรท (NO3 - ) ตามวิธี Brucine Colorimetric Method (EPA, 1971) - ปริมาณไนไตรท์ (NO2 - ) ตามวิธี Diazotization Method (นิคม, 2562) - ปริมาณฟอสเฟต (Total Phosphate) ตามวิธีAscorbic Acid Method (นิคม, 2562) 1.4 การวิเคราะห์ทางสถิติ น าข้อมูลที่ได้จากการศึกษา ได้แก่ คุณสมบัติวัสดุรองพื้น และคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น หาค่าเฉลี่ยและเปรียบเทียบความแตกต่างของพื้นที่เลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในฟาร์มเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี โดย วิธีIndependent T-Test ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ด้วยโปรแกรมส าเร็จรูป 2. เปรียบเทียบชนิดวัสดุรองพื้นที่เหมาะสมในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น
9 2.1 การวางแผนการทดลอง วางแผนการทดลองแบบสุ่มตลอด (Completely Randomized Design, CRD) แบ่งการทดลอง ออกเป็น 7 ชุดการทดลอง ชุดการทดลองละ 3 ซ้ า ดังนี้ ชุดการทดลองที่ 1 ไม่มีวัสดุรองพื้น (ชุดควบคุม) ชุดการทดลองที่ 2 ทรายชายทะเล ชุดการทดลองที่ 3 ดินโคลนนาเกลือ ชุดการทดลองที่ 4 ดินโคลนป่าชายเลน ชุดการทดลองที่ 5 กระซ้า (เศษเปลือกหอย) ชุดการทดลองที่ 6 ดินโคลนป่าชายเลน : ทรายชายทะเล อัตราส่วน 1:1 ชุดการทดลองที่ 7 ดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 2.2 การเตรียมการทดลอง 2.2.1 การเตรียมน้้าทะเล เตรียมน้ าทะเลความเค็ม 30 ส่วนในพันส่วน ที่ผ่านการตกตะกอนแล้ว ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนผง ความเข้มข้น 30 ส่วนในล้านส่วน ให้อากาศเต็มที่เป็นเวลา 1 วัน ก่อนปิดอากาศเพื่อให้ตกตะกอน สูบน้ า ส่วนใสผ่านถุงกรองสักหลาดความละเอียด 10 ไมครอน ใส่บ่อกลางแจ้ง และให้อากาศเต็มที่เป็นเวลา 5-7 วัน เพื่อสลายฤทธิ์คลอรีนที่ตกค้าง ตรวจสอบการตกค้างของคลอรีนด้วยโพแทสเซียมไอโอไดด์ จากนั้นน าไปพักเก็บ ไว้ไนถังที่มีผ้าใบคลุมและให้อากาศ เพื่อใช้ในการทดลอง 2.2.2 การเตรียมตู้กระจก น าตู้กระจกขนาด (กว้างxยาวxสูง) 40x90x45 เซนติเมตร ล้างให้สะอาด ฆ่าเชื้อด้วยน้ ายา ท าความสะอาด (น้ ายาล้างจาน : ไอโอดีน : น้ า) อัตราส่วน 1 : 1 : 20 น าไปคว่ าผึ่งลมให้แห้ง 2.2.3 การเตรียมวัสดุรองพื้น ทรายชายทะเลและกระซ้า ร่อนแยกเศษขยะด้วยอวนมุ้งฟ้าขนาด 18 ตาต่อตารางนิ้ว ล้างด้วย น้ า ให้สะอาดเพื่อก าจัดสิ่งปนเปื้อน น ามาผึ่งลมให้แห้ง เป็นเวลา 3-5 วัน ดังภาพที่ 2 (ก) และ (ข) ดินโคลนนาเกลือและดินโคลนป่าชายเลน เลือกดินบริเวณที่ไม่มีขยะและสิ่งปนเปื้อน น ามาผึ่งลม ให้แห้ง เป็นเวลา 3-5 วัน ดังภาพที่ 2 (ค) และ (ง) ในชุดการทดลอง 6 และ 7 น าวัสดุรองพื้นตามแผนการทดลอง มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันใน อัตราส่วน 1:1 ก่อนใส่ในตู้ทดลอง (ก) (ข)
10 (ค) (ง) ภาพที่2 วัสดุรองพื้นชนิดต่างๆ (ก) ทรายชายทะเล (ข) กระซ้า (ค) ดินโคลนนาเกลือ และ(ง) ดินโคลนป่าชายเลน 2.2.4 การเตรียมสาหร่ายทดลอง สาหร่ายพวงองุ่นจากการเพาะเลี้ยงแบบแผงแขวนในบ่อดินของศูนย์วิจัยและพัฒนาการ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งเพชรบุรีโดยใช้สาหร่ายอายุ 4 สัปดาห์ มีสีเขียว น ามาคัดเด็ดเฉพาะ Stolon ยาว 2-3 นิ้ว ล้างให้สะอาดด้วยระบบสกิมเมอร์เพื่อก าจัดดินโคลน และสัตว์เกาะติด เป็นเวลา 1 วัน ก่อนน า มาพักในน้ า ความเค็ม 30 ส่วนในพันส่วน เป็นเวลา 2 วัน เตรียมแผงสาหร่าย จ านวน 42 แผง ท าด้วยท่อพีวีซีเป็นโครง สี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 30 × 30 เซนติเมตร ตัดตาข่ายพลาสติกขนาดตา 0.7 เซนติเมตร ขนาด 30 × 30 เซนติเมตร น ามาตรึงด้วยเชือกยึดตาข่ายให้ติดกับกรอบเพื่อรองรับต้นพันธุ์สาหร่าย เกลี่ยต้นพันธุ์สาหร่ายให้ทั่ว แผง โดยใช้น้ าหนัก 300 กรัมต่อแผง ปิดทับด้วยตาข่ายพลาสติกด้านบนอีกชั้น (ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมง ชายฝั่งเพชรบุรี, 2557) น าแผงสาหร่ายมาพักในน้ าความเค็ม 30 ส่วนในพันส่วน เป็นเวลา 5-7 วัน เพื่อให้ สาหร่ายฟื้นตัวและเริ่ม แตกยอดใหม่ คัดเลือกแผงสาหร่ายที่มีความสมบูรณ์ จ านวน 21 แผงใช้ในการ ทดลอง 2.3 การด้าเนินการทดลอง น าวัสดุรองพื้นชนิดต่าง ๆ ใส่ลงในตู้กระจก จ านวน 21 ตู้ ให้มีความหนา 5 เซนติเมตร โดยสุ่ม ตามแผนการทดลอง หลังจากนั้นใส่น้ าทะเลสะอาดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว กรองผ่านถุงกรองสักหลาด ความละเอียด 10 ไมครอน ลงในตู้กระจกปริมาณตู้ละ 150 ลิตร วางแผงสาหร่ายพวงองุ่นลงเลี้ยงในตู้ทดลอง จ านวน 1 แผงต่อตู้ ให้อากาศด้วยหัวทรายเบา ๆ เปลี่ยนถ่ายน้ าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 50 เปอร์เซ็นต์โดย ค่อย ๆ เติมน้ าผ่านถุงกรองน้ าสักหลาดขนาด 10 ไมครอน ที่แขวนติดด้านข้างตู้เพื่อลดการฟุ้งกระจายของดิน ระยะเวลาทดลอง 6 สัปดาห์(ภาพที่ 3) ภาพที่3 การเตรียมตู้และการวางแผงสาหร่ายทดลอง 2.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล
11 2.4.1 เก็บตัวอย่างวัสดุรองพื้น เริ่มต้นและสิ้นสุดการทดลอง ตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติวัสดุรองพื้น หลักทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ ทรายชายทะเล, ดินโคลนนาเกลือ, ดินโคลนป่าชายเลน และกระซ้า ตามวิธีข้อ 1.3.1 2.4.2 เก็บตัวอย่างสาหร่ายแห้งเริ่มและสิ้นสุดการทดลอง จ านวน 100 กรัม ตรวจวัดปริมาณ ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสซียม (K) ตามวิธีข้อ 1.3.1 2.4.3 ชั่งน้ าหนักรวมของสาหร่ายสดทุกสัปดาห์ เพื่อน าข้อมูลค านวณหาการเจริญเติบโตของ สาหร่าย ดังนี้ - อัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยของสาหร่ายต่อวัน (Average Daily Growth : ADG) ในแต่ละสัปดาห์และเมื่อสิ้นสุดการทดลอง หน่วยเป็น กรัม/วัน (อรกัญญา และอ าไพ, 2552) ADG = Wt – W0 t เมื่อ W0 = น้ าหนักสาหร่ายเริ่มต้น (กรัม) Wt = น้ าหนักสาหร่ายสุดท้าย (กรัม) t = ระยะเวลา (วัน) - อัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะ (Specific Growth Rate : SGR) รายสัปดาห์เพื่อหา ระยะเวลาการเลี้ยงที่มีการเจริญเติบโตได้ดีที่สุด หน่วยเป็น เปอร์เซ็นต์/วัน (Oliveira et al., 2012) SGR = ln (Wt– W0 ) ×100 t เมื่อ W0 = น้ าหนักสาหร่ายเริ่มต้น (กรัม) Wt = น้ าหนักสาหร่ายสุดท้าย (กรัม) t = ระยะเวลา (วัน) 2.4.4 ตรวจวิเคราะห์คุณภาพเฉพาะสาหร่ายสดเกรดบริโภค โดยสุ่มเก็บตัวอย่างสาหร่ายบริเวณ จุดผูกเชือกของแผงเลี้ยงสาหร่ายตามวิธีข้อ 1.3.2 ดังนี้ - วัดความยาว Stolon ของสาหร่ายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จนสิ้นสุดการทดลอง ดังภาพที่ 4 (ก) - นับจ านวน Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร และวัดขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลาง Ramulus ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ในสัปดาห์ที่ 4 และ 6 ดังภาพที่ 4 (ข) - ตรวจวัดค่าสีL* ,a* ,b* เมื่อสิ้นสุดการทดลอง ดังภาพที่ 4 (ค) (ก) (ข) (ค) ภาพที่4 (ก) การวัดความยาว Stolon (ข) การนับจ านวน Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร และ (ค) การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง Ramulus สาหร่ายพวงองุ่นภายใต้กล้องจุลทรรศน์
12 2.4.5 ตรวจวัดความเข้มแสง บริเวณพื้นที่ที่ท าการทดลอง จ านวน 2 จุดเวลา 09.00 น. และ 15.00 น. สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ด้วยเครื่อง Lux Meter รุ่น TM-209M ยี่ห้อ TENMARS 2.4.6 เก็บตัวอย่างน้ าตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติน้ า เวลา 09.00 น. ทุกสัปดาห์ ตามวิธีข้อ 1.3.4 2.5 การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ น าข้อมูลคุณสมบัติของวัสดุรองพื้นหลัก 4 ชนิด หาค่าเฉลี่ยและเปรียบเทียบความแตกต่าง ก่อน-หลังการทดลอง โดยวิธีDependent T-Test ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ส่วนข้อมูลธาตุอาหารสะสมใน สาหร่าย การเจริญเติบโต และคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น น ามาวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One – Way ANOVA) และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างชุดการทดลองตามวิธีTukey’s HSD test ที่ระดับ ความเชื่อมั่น 95% ด้วยโปรแกรมส าเร็จรูป ผลการศึกษา 1. ศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้นและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่นในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในฟาร์มของ เกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี 1.1 คุณสมบัติวัสดุรองพื้น จากการศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้นของฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน จ านวน 3 ฟาร์ม พบว่า ค่าเฉลี่ยการน าไฟฟ้า (EC), สารอินทรีย์, C/N Ratio, อินทรีย์คาร์บอน และไนโตรเจน (N) มีปริมาณมากกว่า วัสดุรองพื้นของฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในพื้นที่นาเกลือ จ านวน 3 ฟาร์ม อย่างมี นัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนค่าเฉลี่ยค่า pH, ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) จากวัสดุรองพื้นของ ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นทั้ง 2 ประเภท ไม่แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) นอกจากนี้วัสดุรองพื้นของฟาร์ม เลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในพื้นที่นาเกลือและพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีคุณสมบัติเป็นดินเหนียวปนทรายแป้ง สีน้ าตาลและสีเทา ตามล าดับ (ตารางที่ 2) ตารางที่ 2 ค่าเฉลี่ยคุณสมบัติวัสดุรองพื้นในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในฟาร์มของเกษตรกร ค่าเฉลี่ยคุณสมบัติวัสดุรองพื้น พื้นที่ฟาร์มเกษตรกร (n=10) ใกล้ป่าชายเลน นาเกลือ ลักษณะ ดินเหนียวปนทรายแป้ง สี เทา น้ าตาล pH 8.05±0.1a 7.94±0.0a ค่าการน าไฟฟ้า (EC) (µs/cm) 4741±70a 4089±97b สารอินทรีย์ (เปอร์เซ็นต์) 2.09±0.2a 0.52±0.2b C/N Ratio 8.70±1.5a 3.83±0.7b อินทรีย์คาร์บอน (เปอร์เซ็นต์) 1.218±0.02 a 0.306±0.01 b ไนโตรเจน (N) (เปอร์เซ็นต์) 0.140±0.02 a 0.080±0.01 b ฟอสฟอรัส (P) (เปอร์เซ็นต์) 0.001±0.00 a 0.001±0.00 a
13 โพแทสเซียม (K) (เปอร์เซ็นต์) 0.192±0.04a 0.154±0.03 a หมายเหตุ : ตัวอักษรที่แตกต่างกันในแถวเดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) 1.2 คุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น ความยาวเฉลี่ยของ stolon ของสาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มพื้นที่ใกล้ป่าชายเลนมีค่ามากกว่าฟาร์ม พื้นที่นาเกลืออย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05)ส่วนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย ramulus และจ านวนเฉลี่ย ramulus ต่อความยาว stolon 1 เซนติเมตร ของสาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มทั้ง 2 ประเภทไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) (ตารางที่ 3) ค่าเฉลี่ยค่าสีL* (+ ความสว่าง, -ความทึบแสง) สาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มทั้ง 2 ประเภทไม่แตกต่างกัน ทางสถิติ(p>0.05) ค่าสี a* (+ สีแดง , -สีเขียว)สาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มพื้นที่ใกล้ป่าชายเลนมีสีเขียวมากกว่า ฟาร์มพื้นที่นาเกลือ และค่าสี b* (+ สีเหลือง, -สีน้ าเงิน)สาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มพื้นที่นาเกลือมีสีเหลืองมากกว่า ฟาร์มพื้นที่ใกล้ป่าชายเลนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) (ตารางที่3) น้ าหนักเฉลี่ยเกรดบริโภคของสาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มพื้นที่ใกล้ป่าชายเลนมีค่ามากกว่า ฟาร์มพื้นที่นาเกลืออย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) และในฟาร์มทั้ง 2 ประเภทมีน้ าหนักเฉลี่ยเกรดต้นพันธุ์ ไม่แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) ส่วนน้ าหนักเฉลี่ยเกรดคัดทิ้ง สาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มพื้นที่นาเกลือ มีค่ามากกว่าฟาร์มพื้นที่ใกล้ป่าชายเลนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) เมื่อพิจารณาจากน้ าหนักเฉลี่ย ของสาหร่ายทั้ง 3 เกรด พบว่า สาหร่ายที่เลี้ยงในฟาร์มพื้นที่ใกล้ป่าชายเลนมีสัดส่วนของน้ าหนักเฉลี่ย แต่ละเกรดใกล้เคียงกัน (ตารางที่4) ตารางที่ 3 ค่าเฉลี่ยคุณภาพเกรดบริโภคของสาหร่ายพวงองุ่นในฟาร์มของเกษตรกร ค่าเฉลี่ยคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น พื้นที่ฟาร์มเกษตรกร (n=10) ใกล้ป่าชายเลน นาเกลือ ความยาวของ Stolon (เซนติเมตร) 11.1±1.6a 9.1±1.2b เส้นผ่านศูนย์กลาง Ramulus (มิลลิเมตร) 2.20±0.1a 2.26±0.1a จ านวน Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร (เม็ด) 29±0.6a 29±1.1a ค่าสี L* (+ ความสว่าง, - ความทึบแสง) 37.15±0.6a 37.22±0.5a ค่าสี a* (+ สีแดง, - สีเขียว) -1.58±0.3a -0.91±0.2b ค่าสี b* (+ สีเหลือง, - สีน้ าเงิน) 2.88±0.2b 6.94±0.4a หมายเหตุ : ตัวอักษรที่แตกต่างกันในแถวเดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) ตารางที่ 4 ค่าเฉลี่ยน้ าหนักแยกเกรดของสาหร่ายพวงองุ่นในฟาร์มของเกษตรกร เกรดของสาหร่ายพวงองุ่น (ต่อน้ าหนักสาหร่ายสด 100 กิโลกรัม) พื้นที่ฟาร์มเกษตรกร (n=10) ใกล้ป่าชายเลน นาเกลือ เกรดบริโภค (กิโลกรัม) 34.7±4.6a 20.7±5.3b เกรดต้นพันธุ์(กิโลกรัม) 31.2±4.3a 32.6±5.0a เกรดคัดทิ้ง (กิโลกรัม) 34.1±1.6b 46.7±7.2a หมายเหตุ : ตัวอักษรที่แตกต่างกันในแถวเดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05)
14 1.3 คุณภาพน้้าและความเข้มแสงในบ่อเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ผลการวิเคราะห์คุณภาพน้ าและความเข้มแสงในบ่อเลี้ยงสาหร่ายของเกษตรกร มีค่าเฉลี่ยอยู่ ในช่วงดังนี้อุณหภูมิน้ า 28–29องศาเซลเซียส ความเค็ม 35–40ส่วนในพันส่วน ความขุ่น 12.25–19.79 NTU ความเป็นด่าง 110 – 165 มิลลิกรัม/ลิตร pH 8.01 – 8.70 แอมโมเนียรวม 0.02 – 0.14 มิลลิกรัม/ลิตร ไนไตรท์ 0.001–0.005 มิลลิกรัม/ลิตร ไนเตรท 0.007–0.025 มิลลิกรัม/ลิตร ฟอสเฟต 0.004–0.060 มิลลิกรัม/ลิตร และ ความเข้มแสง 33,560–52,560ลักซ์(ตารางที่ 5) ตารางที่5 คุณภาพน้ าและความเข้มแสงเฉลี่ยในบ่อเลี้ยงสาหร่ายของเกษตรกร พารามิเตอร์ ค่าเฉลี่ย ค่าต่ าสุด - ค่าสูงสุดของพื้นที่ฟาร์มเกษตรกร ใกล้ป่าชายเลน นาเกลือ อุณหภูมิน้ า (องศาเซลเซียส) 29±0.51 28±0.51 28 - 29 28 - 29 ความเค็ม (ส่วนในพันส่วน) 37±1.08 37±1.68 36 -39 35 - 40 ความขุ่น (NTU) 16.40±2.42 12.74±0.59 14.45 - 19.79 12.25 – 13.68 ความเป็นด่าง (มิลลิกรัม/ลิตร) 142±12.71 130±16.60 124 - 165 110 - 164 pH 8.43±0.20 8.42±0.15 8.01 – 8.70 8.12 – 8.66 แอมโมเนียรวม (มิลลิกรัม/ลิตร) 0.11±0.03 0.05±0.02 0.02 – 0.14 0.03 – 0.08 ไนไตรท์ (มิลลิกรัม/ลิตร) 0.003±0.00 0.001±0.00 0.001 – 0.005 0.001 – 0.002 ไนเตรท (มิลลิกรัม/ลิตร) 0.013±0.00 0.015±0.00 0.007 – 0.021 0.008 – 0.025 ฟอสเฟต (มิลลิกรัม/ลิตร) 0.028±0.01 0.026±0.01 0.009 – 0.060 0.004 – 0.045 ความเข้มแสง (ลักซ์) 44,080±5325 43,643±6115 34,980 - 52,560 33,560 – 52,120 2. เปรียบเทียบชนิดวัสดุรองพื้นที่เหมาะสมในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น 2.1 คุณสมบัติวัสดุรองพื้น
15 ผลการวิเคราะห์คุณสมบัติของวัสดุรองพื้นหลักทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ ทรายชายทะเล, ดินโคลน นาเกลือ, ดินโคลนป่าชายเลนและกระซ้า โดยก่อนเริ่มต้นการทดลองเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ท าการวิเคราะห์ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างวัสดุรองพื้นแต่ละชนิด พบว่า ทรายชายทะเลตรวจวิเคราะห์ไม่พบ สารอินทรีย์, C/N Ratio, อินทรีย์คาร์บอน และไนโตรเจน (N) แต่มีค่าเฉลี่ย ค่า pH 8.32±0.02 และการน าไฟฟ้า (EC) 1459±35.5 µs/cm มากกว่าทุกวัสดุรองพื้น อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) ดินโคลนนาเกลือมีค่าเฉลี่ย ค่าฟอสฟอรัส (P) 0.006±0.00 เปอร์เซ็นต์มากกว่าทุกวัสดุรองพื้น อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) และมีค่า pH 6.48±0.02 น้อยกว่าทุกวัสดุรองพื้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) ดินโคลนป่าชายเลนมีค่าเฉลี่ย ค่าสารอินทรีย์4.44±0.06 เปอร์เซ็นต์, C/N Ratio8.90±0.1 อินทรีย์คาร์บอน 2.581±0.01 เปอร์เซ็นต์, ไนโตรเจน (N) 0.290±0.01 เปอร์เซ็นต์และโพแทสเซียม (K) 0.154±0.00เปอร์เซ็นต์มากกว่าทุกวัสดุรองพื้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) เมื่อสิ้นสุดการทดลอง น าผลวิเคราะห์ของแต่ละพารามิเตอร์เปรียบเทียบกับก่อนเริ่มการทดลอง ในวัสดุรองพื้นแต่ละชนิด พบว่า ทรายชายทะเลมีค่าเฉลี่ย ค่า pH 8.49±0.02 ที่เพิ่มขึ้น แต่มีค่าการน าไฟฟ้า (EC) 128±2.6 µs/cm และโพแทสเซียม (K) 0.003±0.00 เปอร์เซ็นต์ลดลงอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) ดินโคลนนาเกลือมีค่าเฉลี่ย ค่า pH 7.52±0.02 ที่เพิ่มขึ้น แต่มีค่าการน าไฟฟ้า (EC) 8.74±0.3 µs/cm, อินทรีย์คาร์บอน 0.532±0.00 เปอร์เซ็นต์, ไนโตรเจน (N) 0.110±0.00เปอร์เซ็นต์และฟอสฟอรัส (P) 0.001±0.00เปอร์เซ็นต์ลดลงอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) ดินโคลนป่าชายเลนมีค่าเฉลี่ย ค่า pH 7.60±0.02 ที่เพิ่มขึ้น แต่มีค่าการน าไฟฟ้า (EC) 8.45±0.3 µs/cm, สารอินทรีย์ 0.58±0.02 เปอร์เซ็นต์, C/N Ratio 4.28±0.3, อินทรีย์คาร์บอน 0.342±0.00 เปอร์เซ็นต์ ไนโตรเจน (N) 0.080±0.00 เปอร์เซ็นต์, ฟอสฟอรัส (P) 0.001±0.00 เปอร์เซ็นต์ และโพแทสเซียม (K) 0.104±0.00 เปอร์เซ็นต์ที่ลดลงอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) กระซ้า ตรวจวิเคราะห์ไม่พบทุกค่าของพารามิเตอร์ในการทดลองนี้(ตารางที่ 6)
ตารางที่ 6 ค่าเฉลี่ยคุณสมบัติและธาตุอาหารของวัสดุรองพื้นหลักชนิดต่าง ๆ ชนิดวัสดุรองพื้น อินทรีย์คาร์บอน (%) N (% เริ่มต้น สิ้นสุด เริ่มต้น ทรายชายทะเล ND ND ND ดินโคลนนาเกลือ 0.646±0.00bA 0.532±0.00aB 0.120±0.00bA ดินโคลนป่าชายเลน 2.581±0.01aA 0.342±0.00bB 0.290±0.01aA กระซ้า ND ND ND หมายเหตุ : ตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์เล็กที่แตกต่างกันในสดมภ์เดียวกัน แตก : ตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ที่แตกต่างกันในแถวและพารามิเตอ : ND คือ Not detected ชนิดวัสดุรองพื้น pH EC (µs เริ่มต้น สิ้นสุด เริ่มต้น ทรายชายทะเล 8.32±0.02aB 8.49±0.02aA 1459±35.5aA ดินโคลนนาเกลือ 6.48±0.02cB 7.52±0.02cA 9.98±0.3bA ดินโคลนป่าชายเลน 6.88±0.01bB 7.60±0.02bA 10.70±0.4bA กระซ้า ND ND ND
16 ในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในชุดการทดลอง %) P (%) K (%) สิ้นสุด เริ่มต้น สิ้นสุด เริ่มต้น สิ้นสุด ND 0.0003±0.00cA 0.0002±0.00bA 0.011±0.00cA 0.003±0.00bB 0.110±0.00aB 0.006±0.00aA 0.001±0.00aB 0.110±0.01bA 0.105±0.00aA 0.080±0.00bB 0.003±0.00bA 0.001±0.00aB 0.154±0.00aA 0.104±0.00aB ND ND ND ND ND กต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) อร์เดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) s/cm) สารอินทรีย์(%) C/N Ratio สิ้นสุด เริ่มต้น สิ้นสุด เริ่มต้น สิ้นสุด 128±2.6aB ND ND ND ND 8.74±0.3bB 1.10±0.07bA 0.91±0.02 aA 5.38±0.2bA 4.84±0.3aA 8.45±0.3bB 4.44±0.06aA 0.58±0.02bB 8.90±0.1aA 4.28±0.3bB ND ND ND ND ND 18
17 [VALUE]f [VALUE]e [VALUE]ab [VALUE]b [VALUE]a [VALUE] [VALUE] d c [VALUE]d 0 0.1 0.2 0.3 0.4 0.5 เริ่มต้น T1 สิ้นสุด T2 สิ้นสุด T3 สิ้นสุด T4 สิ้นสุด T5 สิ้นสุด T6 สิ้นสุด T7 สิ้นสุด ฟอสฟอรัส (เปอร์เซ็นต์) 2.2 ธาตุอาหารที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น ผลการวิเคราะห์ธาตุอาหาร ได้แก่ ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ที่สะสมในสาหร่ายที่เลี้ยงวัสดุรองพื้นชนิดต่าง ๆ เมื่อเริ่มต้นและสิ้นสุดการทดลอง ดังนี้ เมื่อเริ่มต้นการทดลองปริมาณไนโตรเจน (N) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายมีค่า 1.91±0.01 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อสิ้นสุดการทดลอง พบว่า ทุกชุดการทดลองมีปริมาณไนโตรเจน (N) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายมากขึ้น อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยสาหร่ายที่เลี้ยงในชุดการทดลองที่ 4 มีค่า 3.75±0.01 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) (ภาพที่ 5) ภาพที่ 5 ปริมาณไนโตรเจน (N) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น เมื่อเริ่มต้นการทดลองปริมาณฟอสฟอรัส (P) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายมีค่า 0.25±0.01 เปอร์เซ็นต์และเมื่อสิ้นสุดการทดลอง พบว่า ทุกชุดการทดลองมีปริมาณฟอสฟอรัส (P) เฉลี่ยที่สะสมใน สาหร่ายมากขึ้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยสาหร่ายที่เลี้ยงในชุดการทดลองที่ 4 มีค่า 0.45±0.00 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) กับชุดการทดลองที่ 2 ที่มีค่า 0.44±0.00 เปอร์เซ็นต์ แต่มี ค่าแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) กับชุดการทดลองอื่น ๆ (ภาพที่ 6) ภาพที่ 6 ปริมาณฟอสฟอรัส (P) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น เมื่อเริ่มต้นการทดลองปริมาณโพแทสเซียม (K) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายมีค่า 0.20±0.01 เปอร์เซ็นต์และเมื่อสิ้นสุดการทดลอง พบว่า ชุดการทดลองที่ 1, 5 และ 7 มีปริมาณฟอสฟอรัส (P) เฉลี่ย ที่สะสมในสาหร่ายมากขึ้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) โดยสาหร่ายที่เลี้ยงในชุดการทดลองที่ 1 มีค่า 0.26±0.01 เปอร์เซ็นต์มากกว่าทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ(p<0.05) (ภาพที่ 7) [VALUE]c [VALUE]a [VALUE]de[VALUE]de [VALUE]e [VALUE]b [VALUE]de [VALUE]b 0.00 0.05 0.10 0.15 0.20 0.25 0.30 เริ่มต้น T1 สิ้นสุด T2 สิ้นสุด T3 สิ้นสุด T4 สิ้นสุด T5 สิ้นสุด T6 สิ้นสุด T7 สิ้นสุด โพแทสเซียม (เปอร์เซ็นต์) [VALUE]h [VALUE]g [VALUE][VALUE] c [VALUE] b a [VALUE]e[VALUE]d [VALUE]f 0 0.5 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 เริ่มต้น T1 สิ้นสุด T2 สิ้นสุด T3 สิ้นสุด T4 สิ้นสุด T5 สิ้นสุด T6 สิ้นสุด T7 สิ้นสุด ไนโตรเจน (เปอร์เซ็นต์)
18 ภาพที่ 7 ปริมาณโพแทสเซียม (K) เฉลี่ยที่สะสมในสาหร่ายพวงองุ่น 2.3 การเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่น 2.3.1 การเจริญเติบโตด้านน้้าหนัก การเจริญเติบโตด้านน้ าหนักของสาหร่ายพวงองุ่นในแต่ละสัปดาห์ พบว่า ในสัปดาห์ที่ 3 ทุกชุดการทดลองเริ่มมีน้ าหนักรวมเฉลี่ยต่อแผงมากกว่าชุดการทดลองที่ 1 และแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ ทางสถิติ (p<0.05) และเมื่อสิ้นสุดการทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ชุดการทดลองที่ 7 มีน้ าหนักรวมเฉลี่ยต่อ แผง 3.30±0.1 กิโลกรัม มากกว่าทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์จนสิ้นสุดการทดลอง โดยชุดการทดลองที่ 1, 3, 4 และ 5 มีน้ าหนักรวมเฉลี่ยต่อแผง น้อยที่สุดและไม่แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) (ตารางที่ 7 และภาพที่ 8) ตารางที่ 7 น้ าหนักรวมเฉลี่ยต่อแผงของสาหร่ายพวงองุ่นในแต่ละสัปดาห์ ชุดการ ทดลอง น้ าหนักเฉลี่ยรวมต่อแผง (กิโลกรัม) สัปดาห์ที่ เริ่มต้น 1 2 3 4 5 6 T1 0.30±0.0a 0.50±0.1a 0.73±0.1a 1.00±0.1b 1.40±0.1b 1.73±0.1c 2.30±0.2d T2 0.30±0.0a 0.57±0.1a 0.83±0.1a 1.43±0.2a 1.93±0.2a 2.67±0.2a 3.13±0.1b T3 0.30±0.0a 0.57±0.1a 0.87±0.1a 1.43±0.1a 1.93±0.2a 2.43±0.2ab 2.70±0.2bcd T4 0.30±0.0a 0.57±0.1a 0.83±0.1a 1.40±0.1a 1.97±0.2a 2.33±0.2ab 2.57±0.2cd T5 0.30±0.0a 0.53±0.1a 0.83±0.1a 1.47±0.2a 1.87±0.1ab 2.10±0.2bc 2.47±0.2cd T6 0.30±0.0a 0.53±0.1a 0.83±0.1a 1.40±0.1a 1.93±0.2a 2.50±0.2ab 2.93±0.1bc
19 T7 0.30±0.0a 0.57±0.1a 0.87±0.1a 1.47±0.2a 2.27±0.2a 2.77±0.2a 3.30±0.1a หมายเหตุ : ตัวอักษรที่แตกต่างกันในสดมภ์เดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) ภาพที่ 8 น้ าหนักรวมเฉลี่ยต่อแผงของสาหร่ายพวงองุ่นในแต่ละสัปดาห์ 2.3.2 อัตราการเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่นต่อวัน (ADG) อัตราการเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวัน ในแต่ละสัปดาห์พบว่า ในสัปดาห์ที่ 3 ทุกชุดการทดลองเริ่มมีอัตราการเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวัน สูงกว่าชุดการทดลองที่ 1 อย่างมี นัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) หลังจากนั้นทุกชุดการทดลองมีการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเจริญเติบโตของ สาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวันทุกสัปดาห์ จนถึงในสัปดาห์ที่ 6 ทุกชุดการทดลองมีอัตราการเจริญเติบโตของ สาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวัน ไม่แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) และเมื่อค านวณอัตราการเจริญเติบโตของ ส าห ร่ า ยพ วงองุ่นเฉลี่ ยต่อ วัน ส ะสมตั้งแต่เ ริ่มต้น จนสิ้นสุ ดก า รทดลอง เป็นเ ว ล า 6 สัปด าห์
20 พบว่า ชุดการทดลองที่ 7 ไม่แตกต่างกันทางสถิติ(p>0.05) กับชุดการทดลองที่ 2 และ 6 แต่แตกต่างกัน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) กับชุดการทดลองอื่น ๆ (ตารางที่ 8) 2.3.3 อัตราการเจริญเติบโตจ้าเพาะของสาหร่ายพวงองุ่นต่อวัน (SGR) อัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวัน ในแต่ละสัปดาห์ พบว่า ในสัปดาห์ที่ 1-3 ทุกชุดการทดลองมีอัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะเฉลี่ยต่อวัน สูงกว่าในสัปดาห์อื่นๆ โดย ในสัปดาห์ที่ 3 ทุกชุดการทดลองเริ่มมีอัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะเฉลี่ยต่อวัน สูงกว่าชุดการทดลองที่ 1 อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) หลังจากนั้นทุกชุดการทดลองมีแนวโน้มอัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะ เฉลี่ยต่อวัน ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์จนสิ้นสุดการทดลอง ยกเว้นชุดการทดลองที่ 1 ที่มีค่าค่อนข้างคงที่ (ตารางที่ 9) 2.4 คุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น 2.4.1 ค่าสีของสาหร่ายพวงองุ่น เมื่อสิ้นสุดการทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า มีค่าเฉลี่ยค่าสีL* (+ ความสว่าง, -ความทึบแสง) ของชุดการทดลองที่ 1, 2 และ 3 มีค่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) แต่มีค่ามากกว่าชุดทดลองอื่น ๆ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) ค่าสี a* (+ สีแดง, -สีเขียว) และ ค่าสีb* (+ สีเหลือง, -สีน้ าเงิน) ของ ชุดการทดลองที่ 3 มีค่า -0.63±0.1 และ 8.28±0.2ตามล าดับ มากกว่าทุกชุดทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) (ตารางที่ 10 และภาพที่ 9) 2.4.2 ความยาวของ Stolon ของสาหร่ายพวงองุ่น ในสัปดาห์ที่ 4 และ6 พบว่า ชุดการทดลองที่ 3และ4 มีความยาวเฉลี่ยของ Stolon ไม่แตกต่างกัน ทางสถิติ (p>0.05) แต่แตกต่างกับชุดการทดลองอื่น ๆ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยในสัปดาห์ที่ 6 มีค่า 7.4±0.3 และ 7.5±0.2 เซนติเมตร ตามล าดับ และชุดการทดลองที่ 1 มีความยาวเฉลี่ยของ Stolon สั้นที่สุดมีค่า 5.1±0.2เซนติเมตร (ตารางที่ 11 และภาพที่ 9) 2.4.3 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง Ramulus ของสาหร่ายพวงองุ่น ในสัปดาห์ที่ 4 และ 6 พบว่า ทุกชุดการทดลองมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย Ramulus ไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) โดยในสัปดาห์ที่ 6 มีค่าอยู่ในช่วง 2.3±0.1-2.5±0.2 มิลลิเมตร (ตารางที่ 11 และภาพที่ 9) 2.4.4 จ้านวน Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร ของสาหร่ายพวงองุ่น ในสัปดาห์ที่ 4 และ 6 พบว่า ชุดการทดลองที่ 1, 2, 5, 6และ7 มีจ านวนเฉลี่ย Ramulus ต่อ ความยาว Stolon 1 เซนติเมตร มากที่สุดและไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) แต่แตกต่างกับชุดการทดลองที่ 3 และ 4 ที่มีค่าน้อยที่สุดอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) (ตารางที่ 11 และภาพที่ 9)
ตารางที่8 อัตราการเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวัน (ADG) ในแต่ละ ชุดการทดลอง อัตราการเจริญ 1 2 3 T1 0.029±0.01a 0.033±0.02a 0.038±0.01 T2 0.038±0.01a 0.038±0.01a 0.086±0.01 T3 0.038±0.02a 0.043±0.01a 0.081±0.01 T4 0.038±0.01a 0.038±0.02a 0.081±0.01 T5 0.033±0.02a 0.043±0.01a 0.090±0.02 T6 0.033±0.02a 0.043±0.01a 0.081±0.01 T7 0.038±0.01a 0.043±0.00a 0.086±0.01 หมายเหตุ : ตัวอักษรที่แตกต่างกันในสดมภ์เดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p< ตารางที่ 9 อัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ยต่อวัน (SGR) ใ ชุดการทดลอง อัตราการการเจริญเติบโ 1 2 T1 7.1±2.9a 5.6±3.9a T2 9.0±1.5a 5.5±1.3a T3 8.9±2.8a 6.2±2.4a T4 9.0±1.5a 5.5±2.5a T5 7.8±4.0a 6.7±3.2a T6 7.8±4.0a 6.7±3.2a T7 9.0±1.5a 6.1±0.5a ห ม า ย เ ห ตุ : ตั ว อั ก ษ ร ที่ แ ต ก ต่ า ง กั น ใ น ส ด ม ภ์ เ ดี ย
21 ะสัปดาห์และเมื่อสิ้นสุดการทดลอง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ย (ADG) (กรัม/วัน) สัปดาห์ที่ สิ้นสุดการทดลอง 4 5 6 0-6 1b 0.057±0.00b 0.048±0.01b 0.081±0.02a 0.048±0.00d 1a 0.071±0.01ab 0.105±0.01a 0.067±0.02a 0.067±0.00ab 1a 0.071±0.01ab 0.071±0.04ab 0.038±0.01a 0.057±0.00bcd 1a 0.081±0.02ab 0.052±0.01ab 0.033±0.01a 0.054±0.00cd 2a 0.057±0.01b 0.033±0.03b 0.052±0.01a 0.052±0.00cd 1a 0.076±0.03ab 0.081±0.01ab 0.062±0.03a 0.063±0.00abc 1a 0.114±0.00a 0.071±0.00ab 0.076±0.01a 0.071±0.00a <0.05) ในแต่ละสัปดาห์ โตจ าเพาะของสาหร่ายพวงองุ่นเฉลี่ย (SGR) (เปอร์เซ็นต์/วัน) สัปดาห์ที่ 3 4 5 6 4.8±0.8b 4.5±0.4ab 3.1±0.7ab 4.0±1.0a 7.7±0.7a 4.3±0.6ab 4.6±0.7a 2.3±0.8ab 7.2±0.2a 4.2±0.5ab 3.3±1.7ab 1.5±0.4b 7.4±0.5a 4.8±0.6ab 2.4±0.4ab 1.4±0.4b 8.0±1.1a 3.5±1.2 b 1.7±1.6b 2.3±0.4ab 7.4±0.5a 4.6±1.7ab 3.7±0.6ab 2.3±1.3ab 7.5±0.7a 6.2±0.5a 2.9±0.2ab 2.5±0.2ab ย ว กั น แ ต ก ต่ า ง กั น อ ย่ า ง มี นั ย ส า คั ญ ท า ง ส ถิ ติ ( p<0 . 05) 2 3
ตารางที่ 10 ค่าเฉลี่ยค่าสีระบบ L*, a*, b* ของสาหร่ายพวงองุ่น เมื่อสิ้นสุดการทดลองเป็นเว หมายเหตุ : ตัวอักษรที่แตกต่างกันในสดมภ์เดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p ตารางที่ 11 ความยาวเฉลี่ย Stolon, ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย Ramulus และจ านวนเฉ ชุดการทดลอง ความยาวเฉลี่ย stolon ของสาหร่าย (เซนติเมตร) ขนาดเส้นผ่านศูนย์ก สัปดาห์ที่ 4 6 4 T1 2.6±0.3d 5.1±0.2c 2.5±0.0a T2 3.6±0.4c 6.5±0.3b 2.4±0.3a T3 5.2±0.1a 7.4±0.3a 2.5±0.1a T4 5.4±0.3a 7.5±0.2a 2.4±0.0a T5 3.3±0.2c 6.5±0.3b 2.3±0.1a T6 4.4±0.1b 6.4±0.2b 2.5±0.1a T7 3.9±0.1bc 6.4±0.1b 2.3±0.0a ห ม า ย เ ห ตุ : ตั ว อั ก ษ ร ที่ แ ต ก ต่ า ง กั น ใ น ส ด ม ภ์ เ ดี ย ชุดการทดลอง ชนิดวัสดุรองพื้น L* T1 ไม่มีวัสดุรองพื้น 35.47±0.4a T2 ทรายชายทะเล 35.80±0.7a T3 ดินโคลนนาเกลือ 34.79±0.4a T4 ดินโคลนป่าชายเลน 31.36±0.3c T5 กระซ้า 31.68±0.6bc T6 ดินโคลนป่าชายเลน : ทรายชายทะเล (1:1) 31.98±0.4bc T7 ดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า (1:1) 33.06±0.7b
22 ลา 6 สัปดาห์ p<0.05) ฉลี่ย Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร ของสาหร่ายพวงองุ่น ในสัปดาห์ที่ 4 และ 6 กลางเฉลี่ย ramulus (มิลลิเมตร) จ านวนเฉลี่ย ramulus ต่อความยาว stolon 1 เซนติเมตร (เม็ด) สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ 6 4 6 2.5±0.2 a 24±2a 22±2a 2.4±0.1a 25±1a 23±2a 2.4±0.1a 19±1b 17±1b 2.4±0.1a 20±1b 17±2b 2.3±0.1a 26±2a 23±2a 2.4±0.1a 24±2a 22±1a 2.4±0.1a 24±1a 22±2a ย ว กั น แ ต ก ต่ า ง กั น อ ย่ า ง มี นั ย ส า คั ญ ท า ง ส ถิ ติ ( p<0 . 0 5 ) ค่าเฉลี่ยค่าสีของสาหร่ายพวงองุ่น a* b* -1.62±0.5b 5.52±0.4b -1.49±0.2b 5.28±0.5b -0.63±0.1a 8.28±0.2a -1.62±0.4b 5.37±0.4b -1.55±0.1b 5.69±0.3b -1.47±0.2b 5.92±0.4b -1.46±0.2b 5.35±0.5b 2 4
23 ภ า พ ที่ 9 คุ ณ ภ า พ ข อ ง ส า ห ร่ า ย พ ว ง อ งุ่ น ที่ เ ลี้ ย ง ด้ ว ย วั ส ดุ ร อ ง พื้ น ช นิ ด ต่ า ง ๆ
24 2.5 ผลผลิตสาหร่ายพวงองุ่นแบบคัดเกรดบริโภค เมื่อสิ้นสุดการทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ น าผลผลิตสาหร่ายพวงองุ่นมาคัดเกรดบริโภค โดยพิจารณาจากคุณภาพของสาหร่าย พบว่า ชุดการทดลองที่ 7 มีน้ าหนักเฉลี่ยสาหร่ายเกรดบริโภค 1.067±0.02 กิโลกรัมต่อแผง และเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของสาหร่ายเกรดบริโภค 32.4±2.2 มากกว่า ทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) และชุดการทดลองที่ 1 มีน้ าหนักเฉลี่ยสาหร่าย เกรดบริโภค 0.212±0.01 กิโลกรัมต่อแผง และเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของสาหร่ายเกรดบริโภค 9.3±1.1 น้อยกว่า ทุกชุดการทดลองอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) (ตารางที่ 12) ตารางที่12 ผลผลิตเฉลี่ยสาหร่ายพวงองุ่นแบบคัดเกรดบริโภค เมื่อสิ้นสุดการทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ชุดการ ทดลอง น้ าหนักเฉลี่ย เริ่มต้น (กก.) สาหร่ายอายุ 6 สัปดาห์ น้ าหนักรวมเฉลี่ย ต่อแผง (กก.) น้ าหนักเฉลี่ยเกรดบริโภค ต่อแผง (กก.) เปอร์เซ็นต์เฉลี่ย เกรดบริโภค T1 0.300±0.0a 2.30±0.2 d 0.212±0.01f 9.3±1.1f T2 0.300±0.0a 3.13±0.1 b 0.817±0.05b 26.1±0.7bc T3 0.300±0.0a 2.70±0.2 bcd 0.400±0.01e 14.8±0.6e T4 0.300±0.0a 2.57±0.2cd 0.567±0.06d 22.1±1.7cd T5 0.300±0.0a 2.47±0.2cd 0.683±0.02c 27.9±2.8b T6 0.300±0.0a 2.93±0.1bc 0.633±0.01cd 21.6±0.3d T7 0.300±0.0a 3.30±0.1 a 1.067±0.02a 32.4±2.2a หมายเหตุ : ตัวอักษรที่แตกต่างกันในสดมภ์เดียวกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (p<0.05) 2.6 คุณภาพน้้าและความเข้มแสงในชุดการทดลอง ผลการวิเคราะห์คุณภาพน้ าและความเข้มแสงเฉลี่ย ในการทดลองเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นใน วัสดุรองพื้นชนิดต่าง ๆ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า ความขุ่นของน้ าชุดการทดลองที่ 1, 2, 5, 6 และ7 น้ าค่อนข้าง ใส มีค่าอยู่ในช่วง 0.12-13.71 NTU ในชุดการทดลองที่ 3 และ 4 น้ าค่อนข้างขุ่น มีค่าอยู่ในช่วง 0.66 - 46.52 และ 4.47-53.36 NTU ตามล าดับ แอมโมเนียรวมของชุดการทดลองที่ 1, 2 และ5 มีค่าอยู่ในช่วง 0.002 -0.216 มิลลิกรัม/ลิตร น้อยกว่าชุดการทดลองที่ 3, 4, 6 และ 7 ที่มีค่าอยู่ในช่วง 0.005 -0.704 มิลลิกรัม/ลิตร ส่วนคุณภาพน้ าอื่น ๆ ของทุกชุดการทดลองมีค่าเฉลี่ยอยู่ในช่วง ดังนี้ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ า 7.70-9.21 มิลลิกรัม/ลิตร, อุณหภูมิน้ า 25-32องศาเซลเซียส, ความเค็ม 26-35ส่วนในพันส่วน, ความเป็นด่าง 105-175 มิลลิกรัม/ลิตร, pH 7.94-8.41, ไนไตรท์ 0-0.621 มิลลิกรัม/ลิตร, ไนเตรท 0.140-1.840 มิลลิกรัม/ลิตร, ฟอสเฟต 0.009-1.380 มิลลิกรัม/ลิตร และความเข้มแสง 2,213-32,496ลักซ์ (ตารางที่ 13)
ตารางที่13 คุณภาพน้ าและความเข้มแสงเฉลี่ยในชุดการทดลองการเลี้ยงสาห พารามิเตอร์ T1 T2 ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ า (มิลลิกรัม/ลิตร) ±SD ค่าต่ าสุด 8.23±0.22 7.89 8.28±0.24 7.86 ค่าสูงสุด 8.74 8.74 อุณหภูมิน้ า (องศาเซลเซียส) ±SD 29±1.69 29±1.61 ค่าต่ าสุด 25 27 ค่าสูงสุด 31 32 ความเค็ม (ส่วนในพันส่วน) ±SD 32±1.81 32±1.81 ค่าต่ าสุด 26 27 ค่าสูงสุด 34 35 ความขุ่น (NTU) ±SD 4.93±4.67 2.20±1.25 ค่าต่ าสุด 1.96 0.83 ค่าสูงสุด 13.71 4.29 ความเป็นด่าง (มิลลิกรัม/ลิตร) ±SD 153±12.11 151±11.28 ค่าต่ าสุด 126 127 ค่าสูงสุด 175 173 pH ±SD 8.17±0.09 8.18±0.10 ค่าต่ าสุด 8.02 8.04 ค่าสูงสุด 8.31 8.34 ตารางที่13 (ต่อ) พารามิเตอร์ T1 T2
25 ร่ายพวงองุ่น ชุดการทดลอง T3 T4 T5 T6 T7 8.30±0.38 7.74 8.20±0.33 7.70 8.22±0.38 7.73 8.22±0.30 7.79 8.21±0.26 7.70 9.09 9.06 9.21 8.96 8.93 29±1.70 29±1.64 29±1.60 29±1.53 29±1.39 26 26 26 26 26 32 31 32 31 31 32±1.97 32±1.86 32±2.04 31±2.27 32±1.93 26 27 27 26 26 35 35 35 34 34 24.73±17.93 25.51±17.46 1.26±1.38 2.03±1.05 1.68±0.29 0.66 4.74 0.39 0.12 1.39 46.52 53.36 4.03 3.07 2.08 147±8.47 148±12.61 156±86.11 149±11.01 143±11.71 124 105 105 126 119 162 167 163 175 169 8.14±0.11 8.13±0.09 8.14±0.15 8.14±0.08 8.12±0.10 7.99 8.00 7.94 8.00 7.95 8.41 8.40 8.63 8.30 8.29 ชุดการทดลอง T3 T4 T5 T6 T7 27
แอมโมเนียรวม (มิลลิกรัม/ลิตร) ±SD 0.055±0.04 0.085±0.07 0. ค่าต่ าสุด 0.005 0.002 ค่าสูงสุด 0.131 0.216 ไนไตรท์ (มิลลิกรัม/ลิตร) ±SD 0.024±0.03 0.049±0.07 0.0 ค่าต่ าสุด 0 0 ค่าสูงสุด 0.131 0.124 ไนเตรท (มิลลิกรัม/ลิตร) ±SD 0.365±0.41 0.329±0.37 0.4 ค่าต่ าสุด 0.146 0.140 ค่าสูงสุด 1.198 1.158 ฟอสเฟต (มิลลิกรัม/ลิตร) ±SD 0.857±0.24 0.893±0.24 0.8 ค่าต่ าสุด 0.009 0.009 ค่าสูงสุด 1.193 1.271 ความเข้มแสง (ลักซ์) ±SD 14,898±7,425 15,236±7553 13, ค่าต่ าสุด 2,559 2,810 ค่าสูงสุด 28,043 26,561
26 197±0.18 0.169±0.13 0.074±0.21 0.139±0.15 0.136±0.08 0.006 0.007 0.005 0.006 0.005 0.661 0.611 0.202 0.704 0.636 052±0.07 0.054±0.06 0.039±0.05 0.045±0.05 0.039±0.05 0 0 0 0 0 0.221 0.229 0.145 0.165 0.214 457±0.39 0.366±0.38 0.316±0.60 0.395±0.40 0.389±0.40 0.154 0.150 0.151 0.146 0.149 1.086 1.189 1.140 1.242 1.254 860±0.29 0.848±0.22 0.897±0.23 0.919±0.25 0.889±0.23 0.009 0.009 0.009 0.009 0.009 1.317 1.191 1.189 1.380 1.150 827±6335 14,309±7021 15,053±8217 15,019±8412 15,041±7,805 2,374 2,454 2,249 2,213 2,499 27,667 25,220 32,496 30,770 25,823 2 8
27 วิจารณ์ผล จากการศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้นและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น ในฟาร์มเลี้ยงสาหร่าย พวงองุ่นของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี ทั้ง 2 ฝั่งถนนทางหลวงชนบท 4028 ซึ่งเป็นถนนกั้นน้ าเค็มและเป็น แหล่งเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในจังหวัดเพชรบุรีพบว่า ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในพื้นที่นาเกลือ วัสดุรองพื้น มีลักษณะเป็นดินเหนียวปนทรายแป้ง (Silty clay) มีสีน้ าตาล และฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในพื้นที่ใกล้ ป่าชายเลน วัสดุรองพื้นมีลักษณะเป็นดินเหนียวปนทรายแป้ง (Silty clay) มีสีเทา สอดคล้องกับการศึกษา ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (2554) พบว่าชั้นหน้าตัดดินป่าชายเลนในจังหวัดเพชรบุรีที่ความลึก 50 เซนติเมตร ลักษณะดินที่พบส่วนมากเป็นดินเหนียวที่มีเนื้อละเอียดมาก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง น้อยกว่า 1 มิลลิเมตร โดยมีสัดส่วนของดินเหนียวและดินทรายเท่ากับ 53.85 และ 46.15 เปอร์เซ็นต์ ตามล าดับ มีความสามารถในการจับยึดและแลกเปลี่ยนธาตุอาหารพืชได้สูง สีดินส่วนมากอยู่ในกลุ่มสีน้ าตาล ส่วนน้อยอยู่ในกลุ่มสีเทาอมฟ้า, น้ าตาลอมเหลืองและเทาอมเขียว นอกจากนี้ยังพบว่า คุณสมบัติวัสดุรองพื้น จากฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีค่าเฉลี่ยค่าการน าไฟฟ้า(EC), สารอินทรีย์, C/N Ratio, อินทรีย์คาร์บอน และไนโตรเจน (N) มากกว่าในพื้นที่นาเกลือ ซึ่งพารามิเตอร์ดังกล่าวเป็นปัจจัยส าคัญ ต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่น ในขณะที่ค่าเฉลี่ยค่า pH ของวัสดุรองพื้น, ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) มีปริมาณไม่แตกต่างกัน ในส่วนน้ าหนักและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่น พบว่า สาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีน้ าหนักเกรดบริโภคเฉลี่ยมากและคุณภาพของสาหร่าย โดยเฉพาะความยาวเฉลี่ย Stolon และสีของสาหร่ายที่มีสีเขียวดีกว่าสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงในพื้นที่นาเกลือ ที่มีสีเขียวอมเหลือง ในขณะที่มีค่าเฉลี่ยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของ Ramulus และจ านวน Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตร ของสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงในวัสดุรองพื้นทั้ง 2 ประเภทไม่แตกต่างกัน เมื่อทราบข้อมูลจากการศึกษาคุณสมบัติวัสดุรองพื้นและคุณภาพของสาหร่ายพวงองุ่นใน ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นของเกษตรกรแล้ว พบว่า ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีวัสดุรองพื้นเป็นประเภทดินโคลนป่าชายเลน ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสาหร่าย พวงองุ่นมากที่สุด นอกจากนี้ในดินโคลนป่าชายเลน ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ปะปนอยู่ เช่น ทรายและกระซ้า (เศษเปลือกหอย) เป็นต้น จึงน ามาศึกษาเปรียบเทียบกับวัสดุรองพื้นชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ทรายชายทะเล, ดินโคลนนาเกลือ, กระซ้า, ดินโคลนป่าชายเลน : ทรายชายทะเล อัตราส่วน 1:1 และดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 โดยมีสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงโดยไม่มีวัสดุรองพื้นเป็นชุดควบคุม เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า สาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงบนดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 มีค่าเฉลี่ยน้ าหนักรวม ต่อแผง และเปอร์เซ็นต์ของสาหร่ายเกรดบริโภคมากที่สุด ส่วนสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงโดยไม่มีวัสดุรองพื้น มีค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ของสาหร่ายเกรดบริโภคน้อยที่สุด เนื่องจากได้รับธาตุอาหารจากน้ าทะเลเพียงอย่างเดียว ในระยะยาวจึงไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต สอดคล้องกับผลการวิเคราะห์วัสดุรองพื้นทั้ง 4 ชนิดหลัก ที่ใช้เลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในการศึกษาครั้งนี้พบว่า ดินโคลนป่าชายเลนมีค่าเฉลี่ยค่าสารอินทรีย์, C/N Ratio, อินทรีย์คาร์บอน, ไนโตรเจน (N) และ โปแทสเซียม (K) สูงที่สุด รองลงมาคือ ดินโคลนนาเกลือ โดย Terrados and Marba (2006) รายงานว่า ในดินโคลนมีธาตุอาหารและสารอินทรีย์สะสมอยู่ เมื่อ ปลดปล่อยออกสู่มวลน้ าท าให้น้ ามีสารอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสาหร่าย และสรสิทธิ(2515) รายงานว่า ดินที่มีเนื้อละเอียด เช่น ดินเหนียว จะมีปริมาณสารอินทรีย์สูง เนื่องด้วยเป็นดินที่มีประจุลบ อยู่รอบ ๆ สามารถดูดจับสารประกอบโปรตีนของสารอินทรีย์และธาตุอาหารพืชที่มีประจุบวกไว้ได้ดีกว่า ดินชนิดอื่น ๆ ทั้งยังมีปริมาณจุลินทรีย์ในดินที่ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์สูงด้วย โดยจุลินทรีย์ในดินจะย่อยสลาย
28 สารอินทรีย์ได้ดีเมื่อมี C/N ratio ประมาณ 10:1 หรือน้อยกว่า 10 สอดคล้องกับปัทมา (2559) ที่กล่าวว่า ปริมาณ C/N ratio ส าหรับจุลินทรีย์ในดินใช้ในการสร้างเซลล์ซึ่งผันแปรตามชนิดของจุลินทรีย์ในดินด้วยนั้น มีค่าตั้งแต่ 4:1 จนถึง 12:1 แต่ในการศึกษานี้วัสดุรองพื้นที่เป็นดินโคลนนาเกลือและดินโคลนป่าชายเลน มีความขุ่นของน้ า (turbility) มากกว่าวัสดุรองพื้นชนิดอื่น ๆ โดยกรมชลประทาน (มปป.) รายงานว่า อาจเกิด จากลักษณะของดินที่มีเนื้อละเอียดมากมีDispersive clay ผสมอยู่ ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็ก และมี Exchangeable sodium อยู่เป็นจ านวนมาก ท าให้อนุภาคดินมีคุณสมบัติแยกตัวออกมากับน้ าได้ง่าย ท าให้ดินกระจายตัว นอกจากนี้จักรี(2555) รายงานว่า การที่มีสารแขวนลอย (Suspened matter) อยู่ในน้ า ท าให้น้ ามีความขุ่นมาก เช่น ตะกอนดิน สารอินทรีย์และแพลงก์ตอน เป็นต้น สารพวกนี้ท าให้เกิด การกระจัดกระจายและดูดกลืนของแสง แสงผ่านไปได้น้อย สาหร่ายสังเคราะห์แสงได้ไม่เต็มที่ ท าให้สาหร่าย เจริญเติบโตจ ากัดอยู่เฉพาะบริเวณผิวน้ าเท่านั้น ถึงแม้ในน้ ามีธาตุอาหารสมบูรณ์ก็ตาม เนื่องจากความขุ่นของน้ ามีผลต่อการเจริญเติบโตและสังเคราะห์แสงของสาหร่าย ดังนั้นการใช้ วัสดุรองพื้นที่มีสัดส่วนเหมาะสมตามการทดลอง คือ ดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 ในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ท าให้ได้ผลผลิตสาหร่ายมากขึ้นกว่าเดิมเพราะน้ าในตู้เลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในการศึกษาครั้งนี้มีความใส สาหร่ายสามารถสังเคราะห์แสงได้ดี ถึงแม้ว่ากระซ้าไม่มีสารอินทรีย์และ ธาตุอาหารหลัก แต่ประกอบไปด้วยเปลือกหอยชนิดต่าง ๆ โดยมีปริมาณแคลเซียมคาร์บอเนตอยู่ในช่วง 80-98 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปริมาณแคลเซียมอยู่ในช่วง 31-42 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นธาตุอาหารรองชนิดอื่น ๆ เช่น แมกนีเซียม ทองแดง สังกะสี ซิลิกา แมงกานีส ทั้งยังมีกลุ่มโปรตีนและจุลธาตุอาหารของพืช (บรรจง และ เชษรฐา, 2558) และมีรายงานว่า แคลเซียมไอออน (Ca+2) เป็นธาตุที่มีบทบาทส าคัญในการสร้างผนังเซลล์ และเยื่อหุ้มเซลล์ พบมากในใบและล าต้นของพืช (Volotovski, 2011) นอกจากนี้ยังช่วยลดความเป็นพิษ ช่วยให้แร่ธาตุต่างๆ สามารถละลายเป็นอาหารพืชได้(พรพิมล, 2552) และช่วยลดการกระจายตัวของดิน โดย Ca+2 เข้าไปแทนที่ Na+ ท าให้ดินมี Zeta potential ของ Clay ลดลง และเกิด Pozzolanic reaction มีแรงยึดเหนียวระหว่างอนุภาคจับตัวกันไม่ถูกชะล้างได้ง่าย (กรมชลประทาน, มปป.) ด้านการเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่น อัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อวัน เริ่มมีความแตกต่าง ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ส่วนอัตราการเจริญเติบโตจ าเพาะเฉลี่ยต่อวัน มีเปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตสูงในช่วง 3 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นอัตราการเจริญเติบโตค่อย ๆ ลดลงต่อเนื่องจนสิ้นสุดการทดลอง ทั้งนี้เนื่องจาก สาหร่ายพวงองุ่นเจริญเติบโตขึ้นในขณะที่สารอาหารในวัสดุรองพื้นต่างๆ ลดลง ยกเว้นสาหร่ายที่เลี้ยงโดยไม่มี วัสดุรองพื้น (ชุดควบคุม) ที่เปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อวันเปลี่ยนแปลงไม่มากตลอดการทดลอง อาจเป็นเพราะสาหร่ายมีปริมาณน้อยและเจริญเติบโตตามปริมาณธาตุอาหารที่ได้รับจากน้ าทะเลเป็นหลัก จากการเปลี่ยนถ่ายน้ าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ๆ ละ 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ในดินโคลนนาเกลือและดินโคลนป่าชายเลน ถึงแม้ในดินมีธาตุอาหารมากแต่ในสัปดาห์ที่ 6 เปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตต่อวันลดลงมากอย่างเห็นได้ชัด เพราะความขุ่นของน้ าท าให้สาหร่ายพวงองุ่นสังเคราะห์แสงไม่ดี การดึงธาตุอาหารไปใช้ในการเจริญเติบโต จึงน้อยลงด้วย ตรงข้ามกับปริมาณของสาหร่ายที่มีมากขึ้น ส่งผลให้น้ าหนักเฉลี่ยรวมของสาหร่ายลดลง สอดคล้องกับการสะสมธาตุอาหารในเซลล์สาหร่ายพวงองุ่นที่พบว่า สาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงบนวัสดุรองพื้น ทุกชนิดมีการสะสมธาตุอาหารทั้ง 2 ธาตุในเซลล์เพิ่มขึ้น โดยดินโคลนป่าชายเลนสะสมไนโตรเจน (N) และ ฟอสฟอรัส (P) มากที่สุด รองลงมาคือดินโคลนนาเกลือ ส่วนสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงโดยไม่มีวัสดุรองพื้น (ชุดควบคุม) สะสมธาตุอาหารทั้ง 2 ธาตุ น้อยที่สุด สอดคล้องกับสนม (2530) ที่รายงานว่า ไนโตรเจน (N) และ ฟอสฟอรัส (P) เป็นสารอาหารที่มีความจ าเป็นต่อการเจริญของสาหร่ายมาก เช่นเดียวกับ Laponite and Duke (1984) และ Lobban et al. (1985) รายงานว่า ความเข้มแสงและสารประกอบไนโตรเจน เป็นปัจจัยที่
29 ส าคัญในการควบคุมอัตราการเจริญของสาหร่ายในสภาวะแวดล้อมทั่วไป สาหร่ายสามารถสะสมสารประกอบ ไนโตรเจนไว้ในเซลล์ได้ และ Trono and Ganzon-Fortes (1988) รายงานว่า เมื่อแสงและอุณหภูมิที่ เหมาะสม สาหร่ายสามารถสังเคราะห์แสงโดยน าสารอาหารที่สะสมอยู่ในเซลล์ออกมาใช้พร้อมกับน าสารอาหาร ที่อยู่ในน้ าเข้าสู่เซลล์เพื่อทดแทนส่วนที่ใช้ไป และจากเหตุผลดังที่กล่าวมา ยังส่งผลให้สาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยง บนดินโคลนนาเกลือและดินโคลนป่าชายเลนมีคุณภาพไม่ดีเช่นกัน โดยพบว่า ถึงแม้มีความยาวเฉลี่ย Stolon มากที่สุดและขนาดเฉลี่ย Ramulus ไม่แตกต่างจากวัสดุรองพื้นชนิดอื่นๆ แต่แตกต่างที่มีจ านวนเฉลี่ย Ramulus ต่อความยาว Stolon 1 เซนติเมตรน้อยที่สุด ท าให้ตลอดความยาวของ Stolon มี Ramulus เกาะเป็นกลุ่มถี่สลับห่างเป็นช่วง ๆ นอกจากนี้ สีของสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงบนดินโคลนนาเกลือมีสีเขียว อมเหลืองแดง สาเหตุอาจเกิดการเสื่อมสลายของคลอโรฟิลล์ซึ่งเป็นรงควัตถุที่พบในสาหร่ายสีเขียว สอดคล้อง กับ สมชาติ (2554) รายงานว่า สารสีในพืช เช่น คลอโรฟิลล์แคโรทีนอย แอนโทไซยานิน เป็นตัวก าหนด การแสดงออกสีของพืช โดยพบว่า มีปัจจัยทั้งภายนอกภายในเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งมีผลต่อการสร้างและ สลายตัวขององค์ประกอบทางเคมีของสารสี ส่วนสีของสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงบนวัสดุรองพื้นชนิดอื่น ๆ อยู่ใน โทนสีเขียวและคุณภาพโดยรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ตลาดต้องการ คุณภาพน้ าในการศึกษานี้พบว่า ในน้ าที่เลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นบนวัสดุรองพื้นที่เป็นดินโคลน นาเกลือและดินโคลนป่าชายเลนมีความขุ่นของน้ ามาก นอกจากนี้ยังพบว่า ในน้ าที่เลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นบน วัสดุรองพื้นที่เป็นดินโคลนนาเกลือ, ดินโคลนป่าชายเลน, ดินโคลนป่าชายเลน : ทราย อัตราส่วน 1:1 และ ดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 มีปริมาณแอมโมเนียรวมสูงกว่าวัสดุรองพื้นชนิดอื่น ๆ ซึ่งเกิดจาก มีปริมาณของสารอินทรีย์และไนโตรเจน (N) สูง บางส่วนจึงละลายน้ าอยู่ในรูปของแอมโมเนียรวม ส่วนค่าเฉลี่ย คุณภาพน้ าอื่น ๆ และความเข้มแสงไม่แตกต่างกัน อยู่ในช่วงที่เหมาะสมตามคู่มือการเพาะเลี้ยงและแปรรูป สาหร่ายพวงองุ่น (ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรี, 2557) และสอดคล้องกับ นิสราภรณ์ (2544) ที่กล่าวว่า ระดับความเข้มแสงที่เหมาะสมของสาหร่ายพวงองุ่นอยู่ในช่วง 15,000 –20,000ลักซ์ สรุปและข้อเสนอแนะ ผลจากการศึกษาครั้งนี้สรุปว่า สาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงบนวัสดุรองพื้นที่เป็นดินโคลนป่าชายเลน : กระซ้า อัตราส่วน 1:1 มีน้ าหนักผลผลิตรวมเฉลี่ยและเปอร์เซ็นต์ของสาหร่ายเกรดบริโภคเฉลี่ยมากที่สุด รวมทั้ง มีคุณภาพของสาหร่ายอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ตลาดต้องการ สอดคล้องกับการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในฟาร์ม ของเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี ที่เลี้ยงในพื้นที่ใกล้ป่าชายเลน มีน้ าหนักเกรดบริโภคเฉลี่ยและคุณภาพของ สาหร่ายดีกว่าสาหร่ายพวงองุ่นที่เลี้ยงในพื้นที่นาเกลือ ทั้งนี้ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดและปริมาณการใช้วัสดุหรือสารต่าง ๆ ในการปรับปรุง คุณสมบัติดิน เช่น การใช้วัสดุปูนในกลุ่มคาร์บอเนต ได้แก่ ปูนมาร์ล (CaCO3 ) และปูนโดโลไมต์(CaMg (CO3 )2 ) แทนการน ากระซ้าผสมกับดินเลี้ยงสาหร่ายซึ่งท าได้ยากและผิดกฎหมาย นอกจากนี้ควรศึกษา ปัจจัย ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรงควัตถุของสาหร่าย เพื่อให้ได้คุณภาพโดยเฉพาะสีของสาหร่ายที่ดีขึ้น ผลผลิตของ สาหร่ายพวงองุ่นเพิ่มขึ้น ค้าขอบคุณ
30 การศึกษาครั้งนี้ส าเร็จลุล่วงด้วยดี เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ งานเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเล ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าชายฝั่งเพชรบุรีซึ่งผู้วิจัยขอขอบพระคุณ อย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ เอกสารอ้างอิง กรมชลประทาน. มปป. ดินกระจายตัว. แหล่งที่มา: http://research.rid.go.th/rte/attachments/article/65/ดินกระจายตัว.pdf. 25 มกราคม 2564. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. 2554. ดินป่าชายเลนในประเทศไทย. ส านักอนุรักษ์ทรัพย าก ร ป่าชายเลน, กรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. 142 หน้า. กรมพัฒนาที่ดิน. มปป. การเก็บตัวอย่างดินเพื่อการวิเคราะห์. แหล่งที่มา: http://r06.ldd.go.th/News/Ex%20soil.pdf. 25 มกราคม 2564. กรมวิชาการเกษตร. 2551. คู่มือวิธีวิเคราะห์ปุ๋ยอินทรีย์. กลุ่มวิจัยเกษตรเคมี, ส านักวิจัยพัฒนาปัจจัยการ ผลิตทางการเกษตร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 37 หน้า กรมวิชาการเกษตร. 2553. คู่มือวิธีวิเคราะห์ดินทางเคมีและฟิสิกส์. กลุ่มวิจัยเกษตรเคมี, ส านักวิจัยพัฒนา ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 119 หน้า กาญจนภาชน์ ลิ่วมโนมนต์. 2527. สาหร่าย. คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ. 343 หน้า. จักรี หม่องเขียว. 2555. การผลิตน้ ามันชีวภาพจากสาหร่ายขนาดเล็กด้วยระบบน้ าเขียว. วิทยานิพนธ์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. นิคม ละอองศิริวงศ์. 2562. คู่มือการวิเคราะห์น้ าเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ าและการตรวจรับรองมาตรฐาน ฟาร์ม. กองพัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานสินค้าประมงและหลักฐานเพื่อการสืบค้น, กรมประมง. 251 หน้า. นิสราภรณ์ ภักดีพันธ์. 2544. การเจริญเติบโตและคุณค่าทางอาหารของสาหร่ายพวงองุ่น Caulerpa lentilliferaJ. Agardh. วิทยานิพนธ์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ. 110 หน้า.
31 บรรจง บุญชม และ เชษรฐา รัตนพันธุ์. 2558. คู่มือการผลิตปุ๋ยและสารปรับปรุงดินจากแคลเซียมธรรมชาติ เพื่อเพาะปลูกข้าว. ศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะและน้ าเสียชุมชน. หน่วยวิจัยวัสดุฟอสเฟตและ พลังงานเชื้อเพลิงทางเลือก, คณะวิทยาศาสตร์, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง. กรุงเทพฯ. 18 หน้า. ปัทมา วิตยากรแรมโบ. 2559. ความอุดมสมบูรณ์ของดินและโภชนาการพืช. แหล่งที่มา: https://ag2.kku.ac.th/eLearning/132351/Doc/122351%20Lec 8-9%20SOM-58-2.pdf. 26 มกราคม 2564. พรพิมล สุริยภัทร. 2552. หน้าที่และอาการขาดธาตุอาหารส าคัญออนไลน์. แหล่งที่มา: http//www.agri.ubu.ac.th/~ponpimon/1202320. 25 มกราคม 2564. ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งเพชรบุรี. 2557. การเพาะเลี้ยงและแปรรูปสาหร่ายพวงองุ่น. กองวิจัย และพัฒนาประมงชายฝั่ง, กรมประมง. 30 หน้า. สนม วันเพ็ญ. 2530. การศึกษาวิธีการรองรับสปอร์และวัสดุที่เหมาะสมในการเกาะ การงอก และการ เจริญเติบโตของสปอร์ในสาหร่ายสกุลกราซิลาเรีย. วิทยานิพนธ์, มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒประสาน มิตร, กรุงเทพฯ. 35 หน้า สมชาติใหมชู. 2554. ผลของการห่อผลต่อองค์ประกอบทางเคมีในเปลือกผลล าไยพันธุ์ดอ. แหล่งที่มา: http://webpac.library.mju.ac.th:8080/mm/fulltext/thesis/2551/somchad_maichoo/ chapter2.pdf. 30 มกราคม 2564. ส ร สิ ท ธิวั ชโ รท ย า น . 2 5 1 5 . ป ฐ พี วิท ย า เ บื้ อง ต้ น . ภ า ค วิ ช าป ฐ พี วิ ท ย า, ค ณ ะ เ กษ ต ร, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ. หน้า 283. สันติปริยะวาที, พุทธ ส่องแสงจินดา, สถาพร ดิเรกบุษราคม, ปิติวงษ์ตันติโขดก และ สมหมาย เชี่ยววาร สัจจะ. 2546. สภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายพวงองุ่น (Caulerpa lentillifera : J. Agardh). วารสารการประมง 56(5) : 443-448. อรกัญญา เม่งหยู และ อ าไพ ล่องลอย. 2552. ผลของน ้าสกัดสาหร่าย Chaetomorpha crassa (C. Agardh) Kützing, F. T., 1845 ต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายเขากวาง Caulerpa racemosa (Forsskal) J. Agardh var. corynephora (Montagne) Weber-van Bosse, 1898. เอกสาร วิชาการฉบับที่ 4/2553. ส านักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง, กรมประมง, กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์. 26 หน้า. อนิสา ทรัพย์นิวัตต์, มณฑล ฐานุตตมวงศ์และ อรรณพ หอมจันทร์. 2555. การบ าบัดน้ าปนเปื้อนโลหะหนัก ด้ ว ยเป ลื อกห อย ผ ส ม ธ ร รม ช า ติ ( ก ร ะ ซ้ า ) . ในก า รป ร ะ ชุม วิ ช า ก า ร แห่ง ช าติค รั้งที่ 9 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตก าแพงแสน, นครปฐม. หน้า 411. Chirapart, A. S. Pimla, J. Praiboon, K. Boonprab, Y. Akakabe, K. Mataui and T. Kajiwara. 2010. Contribution to the knowledge of morphometry and sulfated polysacchayides from Thai species of caulerpa. ABRC. 3:177-184. Danesa, M. and S. Rabia. 2016. Cultivation of Caulerpa lentillifera Using Tray and Sowing Methods in Brackishwater Pond. ENVIRONM SCI. 1: 23-29. EPA. 1971. Nitrogen, Niteate (Colorimetric, Brucine). Approveed for NPDES and SWDA (Issued 1971). 610 p.
32 Laponite, B. E. and C. S. Duke. 1984. Biochemical strategies for growth of Gracilaria tikvahiae (Rhodophyta) in relation to light intensity and nitrogen availability. J PHYCOL. 20: 488- 495. Lewmanomont, K. and H. Ogawa. 1995. Common Seaweeds and Seagrasses of Thailand. Integrated Promotion Technology Co. Ltd, Thailand. 163 p. Lobban, C. S., P.J. Harrison and M.J. Duncan. 1985. The physiological ecology of seaweeds. Cambridge University Press, London. 242 p. Mus, S. 1837. Caulerpa lentillifera J. Agardh. PROSEA. 2:173. Oliveira, V. P., F. A. M. Freire and E. M. Soriano. 2012 . Influence of depth on the growth of the seaweed Gracilaria birdie (Rhodophyta) in a shrimp pond. Braz. J. Aquat.Sci. Technol.16(1) : 33-39. Olsen, S. R. and L. E. Sommers. 1982. Phosphorus. In: A. L. Page, et al. (eds.) Methods of soil analysis: Part 2. Chemical and microbiological properties. ASA and SSSA, Madison, WI. pp. 403-430. Terrados, J. and N. Marba. 2006. Is the vegetative development of the invasive chlorophycean, Caulerpa taxifolia, favored in sediments with a high content of organic matter. Bot. Mar. 49: 331-338. Trono, G. C., Jr. and E. T. Ganzon-Fortes. 1988. Philippine Seaweed. National Bookstore Inc. Metro Manila, Philippines. 327 p. Trono, G. C. and T. Toma. 1993. Cultivation of the green alga, Caulerpa lentillifera. In: Ohno M, and A.T. Critchley (eds). Seaweed Cultivation and Marine Ranching. JICA, Japan. PP. 17–23. Volotovski, I.D. 2011. Role of calcium ions in photo signaling processes in a plant cell. PROC SPIE. 56 (5): 778-788