The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prdmr.pr, 2022-03-28 00:40:19

Annual Report 2021

Annual Report 2021

2564รายงานประจาํ ป

ANNUAL REPORT 2021

กDepรaมrtmทenรt พัof MยinาerกalรReธsoรurณcesี

ไโขคปรรศิงนการะดูกวาฬอาํ แพง

จงั หวัดสมุทรสาคร

สารจากอธิบดี
ตลอดป 2564 นับเปนปท่ีทาทายการทํางานของทุกภาคสวน รวมถึง
กรมทรัพยากรธรณี ทจี่ าํ เปนตองปรับรปู แบบการทาํ งานใหมปี ระสิทธภิ าพ ตอบสนอง
นโยบายของรฐั บาล และความตอ งการของพ่นี อ งประชาชนทุกภาคสว นในภาวะวกิ ฤติ
การแพรร ะบาดของโรคโคโรนาไวรสั -2019 การปฏบิ ตั ริ าชการทนี่ ํายทุ ธศาสตรช าติ 20 ป

แผนปฏิรูปประเทศดานตาง ๆ และนโยบายของกระทรวง กรมทรัพยากรธรณียังมีผลงานเดนที่ไดรับความสนใจ
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ มมาเปน แนวทาง การทํางาน จากประชาชน เชน การคนพบและเตรียมการสรางแหลง
เปนปจจัยหลักแหงความสําเร็จของกรมทรัพยากรธรณีในปน้ี ซากดึกดาํ บรรพวาฬ ตาํ บลอาํ แพง อาํ เภอบานแพว จังหวัด
ทาํ ใหกรมทรัพยากรธรณีสามารถบรรลุภารกิจตามพันธกิจ สมุทรสาคร เปนแหลงเรียนรูดานการเปล่ียนแปลงสภาพ
สาํ คัญของยุทธศาสตรกรมทรัพยากรธรณี พ.ศ. 2563-2565 ภมู อิ ากาศ การขบั เคลอื่ นใหแ หลง ซากดกึ ดาํ บรรพ ไมก ลายเปน หนิ
ไดอยางมีประสิทธิภาพในการจัดทาํ ขอเสนอแนะนโยบายการ จังหวัดตาก ไดรับการบันทึกสถิติโลกใน Guinness World
บรหิ ารจดั การทรพั ยากรแรข องประเทศ การอนรุ กั ษม รดกธรณี Record การสง เสรมิ พพิ ธิ ภณั ฑท อ งทะเลดกึ ดาํ บรรพบ า นโภชน
และอทุ ยานธรณี การลดผลกระทบจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั เพอื่ นาํ พา จังหวัดเพชรบูรณ ซึ่งทําใหประชนในพื้นท่ีมีความภาคภูมิใจใน
ประเทศไปสคู วามมน่ั คงของฐานทรพั ยากรธรณที ม่ี กี ารอนรุ กั ษ มรดกทางธรณขี องพนื้ ที่ และการใชม าตรฐานซอฟแวรแ บบเปด
และการใชประโยชนอยางสมดุล และคุณภาพชีวิตท่ีดีของ Open Source: CKAN Open-D Platform ทสี่ าํ นกั งานพฒั นา
ประชาชน รฐั บาลดจิ ทิ ัล (องคก ารมหาชน) หรือ สพร. รวมกับ เนคเทค-
สวทช. กําหนด เปน ตน
ผลผลติ ทก่ี รมทรัพยากรธรณไี ดจดั ทาํ ขึ้นในรอบป เชน
ขอ มลู พน้ื ทที่ ม่ี ศี กั ยภาพในการทาํ เหมอื งทมี่ เี ขตแหลง แรเ พอื่ การ รายงานประจําป 2564 ของกรมทรพั ยากรธรณี ฉบบั นี้
ทําเหมอื ง เนอื้ ทรี่ วม 3.60 ลา นไร ขอ มลู ธรณวี ทิ ยาภายในแหลง ไดสรุปผลงานท่ีบุคลากรกรมทรัพยากรธรณี ไดดําเนินการ
มรดกธรณี และอทุ ยานธรณี รวมทงั้ สนิ้ 40 แหง แผนทแี่ ละคมู อื รวมกันอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ ตลอดจนรวมถงึ ผลงานทบี่ คุ ลากร
ทอ งเท่ียวแหลงธรณวี ทิ ยาในพื้นทีอ่ ทุ ยานธรณโี ลกสตูล จงั หวัด กรมทรัพยากรธรณีไดบูรณาการการทํางานกับทุกภาคสวน
สตูล 6 เสนทาง รายงานวิชาการ การสาํ รวจวิจัยระบบถาํ้ ทง้ั หนว ยงานราชการ ภาคการศกึ ษา องคก รภาคเอกชน องคก ร
จาํ นวน 3 ระบบ ขอมูลแผนท่ีธรณีวิทยาพื้นทะเลและแหลง ปกครองสวนทองถ่ิน ตลอดจนพ่ีนองประชาชนในหลากหลาย
ทรัพยากรธรณี พ้ืนท่ีนอกชายฝง อําเภอเมือง และคลองใหญ พ้ืนท่ีที่ไดรวมงานกับกรมทรัพยากรธรณีดวยดี สืบมา
จังหวัดตราด ขอมูลธรณีวิทยาทางทะเลเพ่ือการอนุรักษแหลง กรมทรพั ยากรธรณไี ดน ําผลการปฏบิ ตั งิ านดงั กลา ว มาใชป ระโยชน
มรดกทางธรณเี ขาตาปู อทุ ยานแหงชาติอา วพังงา จังหวัดพังงา ในการจัดทํานโยบายเพ่ือการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี
แผนท่ีเสี่ยงภัยดินถลม ระดบั ชุมชน ในพื้นท่ี 35 ตาํ บล (จังหวัด ร ว ม กั บ ท รั พ ย า ก ร อื่ น อ ย า ง ส ม ดุ ล แ ล ะ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ
กําแพงเพชร นครสวรรค อทุ ยั ธานี ขอนแกน หนองคาย อดุ รธานี กรมทรัพยากรธรณีของขอบคุณทุกภาคสวนที่ไดรวมกับ
นครราชสมี า นครนายก สระแกว สพุ รรณบรุ ี ฉะเชงิ เทรา ชลบรุ ี กรมทรพั ยากรธรณใี นการปฏบิ ตั งิ านในรอบปท ผ่ี า นมา และหวงั วา
ตราด และกระบ)ี่ ขอมูลการประเมนิ ภัยพิบัติแผนดนิ ไหวระดบั รายงานประจาํ ปฉบับนี้จะเปนประโยชนตอประชาชนและ
จังหวัด พ้ืนที่จังหวัดกําแพงเพชร อุทัยธานี และสุพรรณบุรี ทกุ ภาคสว นตอ การพฒั นาประเทศในทกุ ระดบั ตง้ั แตร ะดบั ประเทศ
เปน ผลสมั ฤทธท์ิ เี่ ปน รปู ธรรมกอ ใหเ กดิ ประโยชนท างเศรษฐกจิ และ ระดับจังหวัด ระดับทองถิ่น เพ่ือใหเกิดการใชประโยชนและ
สง ผลตอ การสรา งความปลอดภยั แกป ระชาชน ทําใหม คี ณุ ภาพ อนุรักษทรัพยากรธรณีอยา งยั่งยืน ตลอดไป
ชวี ิตทดี่ ี

นายสมหมาย เตชวาล

อธิบดกี รมทรพั ยากรธรณี

µ¼¯§»ž
CONTENTS

µ³ú ¦¤ ¿Î –·û ­Ã±ªÁ¦Ï ¡¼¦•¯­¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿

é ¨û§Ã ¯ĭ¾ ¼¯•¯­¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿
é Ǩ¦¨›» Ș¯›µ¯û¼›•¯­¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿
é ³¾µ®» ¤»Ű¦ þ ª¦» ¥•¾Ĩ ĭ¦û¼¤¿ÇÎ ±º·¼Ĭ ¦¼Ĩ DZºű¯ºÆĤͦ®Â¤¥Ű¼µĥ¯þ 11
é ·ĥ» ¯¼•Ĭ¼±›»

µú³¦¤ ο ¨±•¼¯ű §¾ ĥ» ¾¯¼œ•¼¯–·›•¯­¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿

é ˜³¼­µ·Ĥ˜±·û ›•§» ®¤Â ¥Ű¼µĥ¯œþ ¼ĥ¾ űò Ǩ¦Ç­ú§¤ DZºÇ¨¦ű ¾¯Ãűű¯ºÆ¤Ű
ɦ•¼¯ű ¾§»ĥ¯¾ ¼œ•¼¯–·›•¯­¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿ 17
é ¨±•¼¯ű¯ºÆ­¾¦•¼¯ű ¾§»ĥ¯¾ ¼œ•¼¯ĥ¼­˜Ĭ¼¯»§¯·›•¼¯ű §¾ ĥ» ¯¾ ¼œ•¼¯ 18
ű¯ºĨ¼Ĭ ű›ò §ű¯º­¼£ ª
Ű

é ¯¼®›¼¦¨±•¼¯ű §¾ ĥ» ¾›¼¦–·››¼¦ Ș¯›•¼¯ ű¯ºĨ¼Ĭ ű›ò §ű¯º­¼£ ª
Ű


µ³ú ¦¤Î ¿ ›§•¼¯Æ›¾¦É¦űò›§ű¯º­¼£ ª
Ű


• ›§ÇµĤ›¡¼¦º•¼¯Æ›¾¦
• ›§ÇµĤ›¨±•¼¯Ĥ¼Ĭ Ʀ¾¦›¼¦¤¼›•¼¯Æ›¾¦ 73
• ›§ÇµĤ›•¼¯Æű±Î®¿ ¦Çű±›µ¾¦¤¯»ª®þµÂ¤¥ ¾ µú³¦¤¦Â 73
• ¯¼®›¼¦¯¼®ÊĤûǨú¦Ĥ¦¾

µú³¦¤ ο µ³ú ¦·Á¦Î Ì 87

é ű¯º­³±¬¼ª•Ĩ¾ •¯¯­ ű¯ºĨĬ¼ű›ò §ű¯º­¼£ ª
Ű
88
é Æ·•µ¼¯µÎ›¾ ª¾­ªþ ű¯ºĨĬ¼ű›ò §ű¯º­¼£ ª
Ű



µú³¦¤Î ¿
–·û ­±Ã ªÏÁ¦¡¼¦•¯­¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿

é ¨§Ãû ¯ĭ¾ ¼¯•¯­¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿
é Ǩ¦¨»›È˜¯›µ¯û¼›•¯­¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿
é ³¾µ®» ¤»Ű¦þ ª»¦¥•Ĩ¾ ĭ¦¼û ¤¿ÎDZº·Ĭ¼¦¼Ĩ DZºű¯ºÆĤ¦Í ®Â¤¥Ű¼µĥ¯þ
é ·»ĥ¯¼•¼Ĭ ±›»

DMRANNUAL REPORT 2021

ผูบ รหิ ารกรมทรพั ยากรธรณี

นายสมหมาย เตชวาล

อธบิ ดกี รมทรัพยากรธรณี

นายนิวัติ มณีขตั ิย นายมนตรี เหลอื งอิงคะสุต

รองอธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี รองอธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี

นายอนกุ ูล วงศใหญ

ผูต รวจราชการกรม

6

นายนราเมศวร ธรี ะรังสกิ ลุ นางสุรยี  ธีระรงั สกิ ลุ

ผูเชย่ี วชาญเฉพาะดา นท่ปี รึกษา ผเู ชย่ี วชาญเฉพาะดา นวิจยั และ
ทางการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรธรณี พัฒนาธรณีวทิ ยา

นายสวุ ภาคย อ่ิมสมทุ ร นายสรุ ชัย ศิริพงษเ สถียร นายอานนท นนทโส

ผูอ าํ นวยการกองเทคโนโลยธี รณี ผูอ าํ นวยการกองธรณวี ิทยา ผอู ํานวยการกองคมุ ครองซากดึกดําบรรพ

นายนิมิตร ศรคลงั นางอปั สร สอาดสดุ นางสาวกฤตยา ปทมาลัย

ผอู าํ นวยการกองธรณวี ทิ ยาสง่ิ แวดลอม ผูอาํ นวยการกองวิเคราะหและ ผูอาํ นวยการกองทรพั ยากรแร
ตรวจสอบทรพั ยากรธรณี
7

นางสาวเสาวลกั ษณ ศรีดาแกว นายนวิ ัติ บุญนพ นางสภุ าภรณ วรกนก

เลขานุการกรม ผอู ํานวยการศนู ยเ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ผูอํานวยการกองอนรุ กั ษแ ละ
และการสือ่ สาร จัดการทรพั ยากรธรณี

นายสธุ ี จงอัจฉรยิ กลุ นางสาวดรุณี สายสทุ ธชิ ยั นายทนิ กร ทาทอง

ผอู ํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรณี ผูอาํ นวยการสํานักงานทรพั ยากรธรณี ผูอํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรณี
เขต 1 เขต 2 เขต 3

นายสมศักด์ิ วัฒนปฤดา

ผูอํานวยการสาํ นกั งานทรพั ยากรธรณี
เขต 4

8

นายธีรพงษ ทองมาก นางอดิภา ศรีวิลาศ นายสุทธศิ กั ดิ์ โทวนิช

ผอู ํานวยการ ผอู าํ นวยการ ผูอํานวยการ
กลุม นติ ิการ กลุม ตรวจสอบภายใน กลมุ พฒั นาระบบรหิ าร

นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต

หัวหนา กลมุ งานคมุ ครองจรยิ ธรรม

9

แผนผังโครงสรางกรมทรพั ยากรธรณี

·¥§¾ Ĥ¿

¯·›·¥¾§Ĥ¿ ¯·›·¥¾§Ĥ¿

¨ûÃĥ¯³Ĩ ¨ÃÆû œ®¿Î ³œ¼žÆĪª¼ºĤû¼¦ ¨ÃûƜ¿Î®³œ¼ž •±ú­¦¾ĥ•¾ ¼¯ •±ú­ªĦ» ¦¼¯º§§§¯¾ĭ¼¯
¯¼œ•¼¯•¯­ ¤űο ¯•À ´¼¤¼›•¼¯ ÆĪª¼ºĤû¼¦³¾Ĩ®» •±­Âú ĥ¯³Ĩµ·§¬¼®É¦ •±Âú­›¼¦˜Â­û ˜¯·›Ĩ¯¾®¥¯¯­
§¯¾ĭ¼¯Ĩ»Ĥ•¼¯
¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿ DZºª»Ħ¦¼
¥¯£³¿ ¾¤®¼

µ¼Ĭ ¦•» ›¼¦ •·›Æ¤˜È¦È±®¿¥¯£¿ •·› •·›¥¯£³¿ ¾¤®¼ •·›¤¯»ª®¼•¯Ç¯ú
Ʊ–¼¦Â•¼¯•¯­ ¥¯£¿³¤¾ ®¼ µ›Î¾ dzĤ±û·­

•·›·¦Â¯•» ´þDZº Űæ®Æþ ¤˜È¦È±®µ¿ ¼¯µ¦Æ¤Ű •·›³¾Æ˜¯¼ºĭþDZºĥ¯³Ĩµ·§ •·›˜Âû­˜¯·›

Ĩ»Ĥ•¼¯¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿ DZº•¼¯µ·ÁÎ µ¼¯ ¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿ ¼•ĤÀ•ĤĬ¼§¯¯ªþ

µ¼Ĭ ¦•» ›¼¦¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿ µĬ¼¦»•›¼¦¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿ µ¼Ĭ ¦•» ›¼¦¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿ µĬ¼¦»•›¼¦¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿

Ɩĥ Ɩĥ Ɩĥ Ɩĥ

10

วสิ ัยทศั น พนั ธกิจ หนาท่ีและอาํ นาจ

และประเด็นยุทธศาสตร กรมทรัพยากรธรณี

³µ¾ ®» ¤»Ű¦þ

เปนองคกรที่ประชาชนและรัฐบาลเชื่อม่ันในองคความรูทางธรณีวิทยาและการบริหาร
จัดการทรัพยากรธรณีอยางมีสวนรวมในการนําพาประเทศไปสูความม่ันคงของฐาน
ทรัพยากรธรณีท่ีมีการอนุรักษและการใชประโยชนอยางสมดุล และคุณภาพชีวิตท่ีดี
ของประชาชน

ª¦» ¥•¾Ĩ

1. เสนอความเหน็ เพอื่ การกาํ หนดพน้ื ทแี่ ละการจดั ทํานโยบาย แผน มาตรการ ดา นการอนรุ กั ษ
มรดกธรณีและอุทยานธรณี ธรณีวิทยาส่ิงแวดลอมและธรณีพิบัติภัย และการบริหารจัดการ
ทรพั ยากรแร
2. บรู ณาการและสรา งความรว มมือกับภาคเี ครือขายท้ังในและตา งประเทศ
3. เสริมสรางขีดความสามารถของบุคลากร การวิจัยและพัฒนาเคร่ืองมือ กลไก รวมทั้ง
การใชเทคโนโลยีดจิ ิทัลในการบริหารจัดการ
4. เสนอใหม ี ปรบั ปรงุ หรอื แกไ ขกฎหมายในความรับผดิ ชอบใหส อดคลองกับสถานการณ

ĭ¦¼û ¤¿ÎDZº·¼Ĭ ¦¼Ĩ

ตามกฎกระทรวงแบง สว นราชการกรมทรพั ยากรธรณี กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอม พ.ศ. 2561 มีภารกิจเกี่ยวกับการสงวน การอนุรักษ การฟนฟู และ
การบรหิ ารจดั การดา นธรณวี ทิ ยาทรพั ยากรธรณี ซากดกึ ดาํ บรรพ ธรณวี ทิ ยาสง่ิ แวดลอ ม
และธรณีพบิ ัตภิ ัยโดยการสํารวจ การตรวจสอบ การศึกษา และวิจัยสภาพธรณีวิทยาและ
ทรัพยากรธรณีการประเมินศักยภาพแหลงทรัพยากรธรณี การกําหนดและกาํ กับดูแล
เขตพนื้ ทสี่ งวนพนื้ ทอ่ี นรุ กั ษท รพั ยากรธรณแี ละพน้ื ทเี่ สย่ี งตอ ธรณพี บิ ตั ภิ ยั เพอื่ การพฒั นา
ทรัพยากรธรณี คุณภาพชีวิตเศรษฐกิจ สังคมอยางยั่งยืนและเกิดประโยชนสูงสุด
โดยใหมีหนาท่แี ละอํานาจ ดงั ตอ ไปน้ี

11

01 เสนอความเห็นเพื่อการกาํ หนดพ้ืนที่ และการจัดทํานโยบายแผน และ

มาตรการเก่ียวกับการสงวนการอนุรักษ การฟนฟู และการบริหารจัดการดาน
ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี ซากดกึ ดาํ บรรพ ธรณีวิทยาสง่ิ แวดลอม และธรณีพบิ ัติภัย

02 ดําเนนิ การตามกฎหมายวา ดว ยการคมุ ครอง ซากดกึ ดาํ บรรพ กฎหมายวา ดว ยแร

ในสว นทรี่ บั ผดิ ชอบ และกฎหมายอ่นื ทเ่ี ก่ียวขอ ง

03 เสนอใหมี ปรับปรุง หรือแกไขเพิ่มเติมกฎหมายท่ีอยูในความรับผิดชอบ

และมาตรการเกี่ยวกับการสงวน การอนุรักษ การฟนฟู และการบริหารจัดการ
ดานธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี ซากดึกดําบรรพ ธรณีวิทยาสิ่งแวดลอม และ
ธรณีพิบัติภัย รวมทั้งการกาํ กับ การดูแล การประเมินผล และติดตามตรวจสอบ
ใหเปนไปตามกฎหมายและมาตรการ

04 ดาํ เนนิ การเกยี่ วกบั การสาํ รวจ การตรวจสอบ การศกึ ษา การวจิ ยั การพฒั นา

องคความรู การใหบริการขอมูล การเผยแพรความรู การบริการทางวิชาการ
ประสานความรว มมอื กบั ตา งประเทศและองคก ารระหวา งประเทศในดา นธรณวี ทิ ยา
ทรัพยากรธรณี ซากดกึ ดาํ บรรพ ธรณีวิทยาสิ่งแวดลอ ม และธรณีพิบัติภยั

05 กําหนดมาตรฐานทางธรณีวิทยา ทรัพยากรแร ซากดึกดาํ บรรพ

ธรณวี ิทยาสิ่งแวดลอ ม และธรณีพบิ ตั ภิ ยั รวมทง้ั รวบรวม จัดเก็บ รักษาหลักฐาน
อา งองิ ทางธรณวี ิทยา ทรัพยากรแร และซากดกึ ดาํ บรรพข องประเทศ

06 ปฏบิ ตั กิ ารอน่ื ใดตามทกี่ ฎหมายกําหนดใหเ ปน หนา ทแี่ ละอํานาจของกรม หรอื

ตามท่ีรฐั มนตรหี รอื คณะรัฐมนตรมี อบหมาย

12

ประเด็นยทุ ธศาสตร

ยทุ ธศาสตรก รมทรัพยากรธรณี พ.ศ. 2563-2565

ประเด็นยุทธศาสตรท่ี 1 เปาประสงค กลยุทธ

ป ฏิ รู ป ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ป ร ะ เ ท ศ มี ค ว า ม ม่ั น ค ง ข อ ง ฐ า น เรงรัดสํารวจ จาํ แนกเขตศักยภาพแร และจัดทํา
ทรพั ยากรแร และเรง สํารวจแร ท รั พ ย า ก ร แ ร แ ล ะ วั ต ถุ ดิ บ เ พ่ื อ บั ญ ชี ท รั พ ย า ก ร แ ร เ พื่ อ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร
ทั้งบนบกและในทะเล การพัฒนาอุตสาหกรรมและเพิ่มขีด ท่ีมีมาตรฐานและเปนฐานสาํ หรับ การพัฒนา
ความสามารถในการแขง ขนั ประเทศทว่ั ราชอาณาจักรและไหลท วปี
ก า ร ใ ช ป ร ะ โ ย ช น ท รั พ ย า ก ร แ ร เรงรัดการจาํ แนกเขตทรัพยากรแรและกาํ หนด
มีความเหมาะสม เปนธรรม และ เขตแหลงแรเพื่อการทาํ เหมืองภายใต ดุลยภาพ
คํานงึ ถงึ ดลุ ภาพทางสงั คม เศรษฐกจิ ทางสงั คม เศรษฐกจิ สิ่งแวดลอมและสุขภาพของ
สงิ่ แวดลอ ม และสขุ ภาพของประชาชน ประชาชน
และประชาชนมสี ว นรว ม ในการบรหิ าร สง เสรมิ ใหผ ผู ลติ และภาคอตุ สาหกรรมทเ่ี กยี่ วขอ ง
จัดการแรอยางเหมาะสม ดานแรมีการดําเนินกิจกรรมท่ีเปนมาตรฐานและ
มุงเนนการประกอบการที่มีธรรมาภิบาลและ
เปน มิตรกับสิ่งแวดลอม

ประเด็นยุทธศาสตรท ี่ 2 เปา ประสงค กลยุทธ

ลดผลกระทบธรณีพิบัติภัย ประชาชนและภาคเี ครอื ขา ยในพนื้ ที่ เรงรัดจัดทําขอมูลและแผนที่เส่ียงธรณีพิบัติภัย
ที่ เ กิ ด จ า ก ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ เปาหมายมี ความพรอมรับมือกับ ทคี่ รอบคลุมพื้นที่เสยี่ งภยั ทุกประเภท
ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ธรณีพิบัติภัยท่ีเกิดจากธรรมชาติ เตรยี มความพรอ มประชาชนในพนื้ ทเี่ สย่ี งภยั และ
ภมู อิ ากาศ แ ล ะ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ พั ฒ น า ก ล ไ ก ใ น ก า ร รั บ มื อ ธ ร ณี พิ บั ติ ภั ย ท่ี มี
ภมู อิ ากาศ ประสทิ ธภิ าพ
ประเทศไทยมีระบบคาดการณ พัฒนาระบบขอมูลสารสนเทศดานธรณีพิบัติภัย
ลว งหนา อัจฉรยิ ะดานธรณพี ิบัติภัย ใหครบถวนเปนมาตรฐานสากลเพื่อสนับสนุน
กระบวนการตัดสนิ ใจ
พฒั นาขดี ความสามารถในการคาดการณล ว งหนา
การเกิดธรณีพิบัติภัยท่ีมีความแมนยําสูงและ
ทนั ตอ เหตุการณ

13

ประเด็นยุทธศาสตรที่ 3 เปาประสงค กลยุทธ

ส ง เ ส ริ ม ก า ร อ นุ รั ก ษ แ ล ะ ประเทศไทยมีการบริหารจัดการ สนบั สนนุ และสง เสรมิ การพฒั นาและบรหิ ารจดั การ
บรหิ ารจดั การแหลง ธรณวี ทิ ยา แหลงธรณีวิทยาเพ่ือสรางรายได แหลง ธรณวี ทิ ยา อยา งยงั่ ยนื ตามแนวทางการจดั ตง้ั
และทรัพยากรธรณี ข อ ง ชุ ม ช น โ ด ย ก า ร มี ส ว น ร ว ม อทุ ยานธรณีในระดับสากล
ตามแนวทางของ UNESCO สงเสริมใหมีการพัฒนางานวิจัย ทางวิชาการและ
แ ห ล ง ธ ร ณี วิ ท ย า แ ล ะ แ ห ล ง ถาํ้ กิ จ ก ร ร ม เ พ่ื อ ส นั บ ส นุ น ก า ร จั ด ต้ั ง ห รื อ รั ก ษ า
ที่มีความโดดเดนและสาํ คัญไดรับ สถานภาพอทุ ยานธรณี
การอนุรักษและพัฒนาเพื่อเพ่ิม เรง รดั การประเมนิ คณุ คา ทางวชิ าการและการจดั ทาํ
มูลคา ของแหลง นโยบาย แผน มาตรการและกลไกการบริหาร
แหลง ซากดกึ ดาํ บรรพ ทส่ี าํ คญั ไดร บั จัดการแหลง ธรณวี ทิ ยาและแหลงถ้ํา
การบริหารจัดการอยางเหมาะสม สนับสนุนและสงเสริมการพัฒนาและ เพ่ิมคุณคา
เพื่อพัฒนาเปนแหลงเรียนรูและ แหลงธรณีวิทยาเพื่อการทองเที่ยวเชิงอนุรักษ
แหลง ทอ งเท่ียว โดยการมสี วนรวมของประชาชน
บริหารจัดการแหลงซากดึกดาํ บรรพที่ขึ้นทะเบียน
อยางเหมาะสมเปนระบบโดยมีแผนและกลไกการ
บริหารจัดการ รายแหลงภายใตพระราชบัญญัติ
คมุ ครองซากดึกดําบรรพ
เสริมสรางอัตลักษณและยกระดับ การใหบริการ
ของพิพิธภัณฑธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยาเพื่อ
เปน ศนู ยก ลางการเรยี นรแู ละเชอ่ื มโยงกบั การทอ งเทยี่ ว
ภมู ภิ าค

ประเด็นยทุ ธศาสตรท ี่ 4 เปา ประสงค กลยุทธ

พั ฒ น า ฐ า น ข อ มู ล วิ ช า ก า ร ฐานขอมูลกลางของประเทศดาน เรงพัฒนายกระดับมาตรฐานขอมูลและบริหาร
แ ล ะ ก า ร เ ผ ย แ พ ร ข อ มู ล ธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณที เ่ี ปน จัดการฐานขอมูลธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณี
แกประชาชน ระบบและมมี าตรฐาน อยางเปนระบบและเขา ถงึ ได
ประชาชนกลมุ เปา หมายและเครอื ขา ย พัฒนากลไกการขับเคล่ือนและยกระดับการ
ทุกภาคสวนสามารถเขาถึงและ บรหิ ารงานและการบรกิ ารทางวชิ าการ สรู ะดบั สากล
ไดร บั ประโยชนจ ากขอ มลู องคค วามรู เรงพัฒนาคุณภาพการใหบริการ ดานธรณีวิทยา
ดานธรณีวิทยาและทรพั ยากรธรณี และทรัพยากรธรณี ผา นสอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส
กรมทรัพยากรธรณีมีการจัดการ เรง พฒั นาสอื่ การเรยี นรทู างวชิ าการ ฉบบั ประชาชน
อ ง ค ก ร ที่ ต อ บ ส น อ ง ต อ ก า ร ทีเ่ ขา ใจงา ย
เปลย่ี นแปลงได อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจดั การองคก าร ตามแนวทาง
ของการจัดการภาครฐั แนวใหม

อัตรากําลงั ณ 30 กนั ยายน 2564 36%
58%
y ขา ราชการ 414 อัตรา
y ลกู จา งประจาํ 44 อัตรา 6%
y พนักงานราชการ 257 อัตรา
715 อตั รา ขา ราชการ ลูกจา งประจาํ พนักงานราชการ
รวม

14

µú³¦¤ ο
¨±•¼¯ű §¾ ĥ» ¾¯¼œ•¼¯–·›
•¯­¤¯ª» ®¼•¯¥¯£¿

é ˜³¼­µ·Ĥ˜±·û ›•»§®¤Â ¥Ű¼µĥ¯þœ¼ĥ ¾ űò Ǩ¦Ç­ú§¤Ç±º
Ǩ¦ű ¾¯űà ű¯ºÆ¤Űɦ•¼¯ű ¾§ĥ» ¯¾ ¼œ•¼¯–·›•¯­¤¯»ª®¼•¯¥¯£¿
é ¨±•¼¯ű¯ºÆ­¾¦•¼¯ű ¾§»ĥ¾¯¼œ•¼¯ĥ¼­˜Ĭ¼¯»§¯·›
•¼¯ű ¾§»ĥ¾¯¼œ•¼¯ ű¯ºĨĬ¼űò›§ű¯º­¼£ ª
Ű

é ¯¼®›¼¦¨±•¼¯ű §¾ »ĥ¾›¼¦–·››¼¦
Ș¯›•¼¯ ű¯ºĨĬ¼űò›§ű¯º­¼£ ª
Ű


DMRANNUAL REPORT 2021

16

ความสอดคลองในกกับายรทุ ปธฏศบิ าตั สิรตารชช กาาตริข2อ0งกปร มแผทนรัพแมยบาทกแรลธะรแณผนี ปฏิรูปประเทศ
ประเดน็ ยุทธศาสตร

ผลการประเมนิ การปฏิบัตริ าชการตามคํารบั รองการปฏบิ ตั ิราชการ
ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. 2564

รายงานการประเมินตนเอง
หนว ยงาน กรมทรัพยากรธรณี

ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. 2564
ต้งั แตว ันที่ 1 ตลุ าคม 2563 ถงึ วนั ที่ 30 กันยายน 2564

องคป ระกอบ/ตวั ช้วี ัด น้าํ หนกั คาเปาหมาย เปาหมาย คา เปา หมาย ผลการดาํ เนนิ งาน
ขั้นตน คาเปา หมาย ขน้ั สูง
(50.00) มาตรฐาน (100.00)

75.00)

Performance Base 20 มากกวาเทา กับ มากกวา เทา กับ มากกวาเทา กับ 3.60 + 1
ตวั ชีว้ ดั 1 ความสําเรจ็ ของการจัดทําพน้ื ทท่ี มี่ ีศกั ยภาพ 2.55 + 1 3.40 + 1 3.45 + 1 (ลา นไร + ผลผลิต)
ในการทาํ เหมือง (ลานไร + ผลผลิต) (ลานไร + ผลผลิต) (ลานไร + ผลผลติ )

Performance Base 20 1 2 3 3
ตวั ชีว้ ัด 2 ความสาํ เรจ็ ของการประกาศแจงเตอื นภัยลว งหนา (ผลผลติ ) (ผลผลติ ) (ผลผลิต) (ผลผลิต)
ไดท นั เหตุการณดินถลม

Performance Base 15 มากกวา เทา กบั มากกวาเทา กับ มากกวาเทา กับ 3.00 + 0
ตวั ชี้วดั 3 ความสาํ เรจ็ ของการคุม ครองแหลง และ 2.00 + 0 3.00 + 0 3.00 + 1 (แหง + ผลผลติ )
ซากดกึ ดาํ บรรพ
(แหง + ผลผลติ ) (แหง + ผลผลิต) (แหง + ผลผลติ )

Performance Base 15 1 2 3 3
ตัวชวี้ ดั 4 ความสาํ เรจ็ ของการจดั ต้ังอุทยานธรณีของประเทศ (ผลผลติ ) (ผลผลิต) (ผลผลติ ) (ผลผลติ )

Potential Base 15 มากกวา เทา กบั มากกวาเทา กับ มากกวาเทากบั 99.67
ตวั ชี้วดั 5 การพัฒนาองคก ารสดู ิจทิ ลั : การพัฒนาระบบ 50.00 75.00 100.00 (คะแนน)
บญั ชขี อมูล (Data Catalog) เพื่อนําไปสกู ารเปดเผยขอ มลู (คะแนน) (คะแนน) (คะแนน)
ภาครัฐ (Open Data)

Potential Base 15 มากกวาเทากบั มากกวา เทา กับ มากกวาเทากบั 357.75
ตัวชวี้ ัด 6 การประเมนิ สถานะของหนว ยงานในการเปน ระบบ 370.00 400.44 408.45 (คะแนน)
ราชการ 4.0 (PMQA 4.0) (คะแนน) (คะแนน) (คะแนน)

Potential Base 0 100
ตัวชีว้ ดั การถอดบทเรยี นในการบรหิ ารจัดการผลกระทบและ (คะแนนบรรยาย)
การแกไขปญ หาในสภาวะวกิ ฤตโควดิ -19 (COVID-19)

17

รายงานผลการปฏิบตั งิ าน

โครงการปฏิรูปการบรหิ ารจัดการทรัพยากรแร

พระราชบญั ญตั แิ ร พ.ศ. 2560 กาํ หนดใหม คี ณะกรรมการ และพื้นที่ศักยภาพแรท่ีมีการประเมินเบื้องตน (G4) เน้ือที่รวม
นโยบายบริหารจัดการแรแหงชาติ (คนร.) กําหนดยุทธศาสตร 0.13 ลา นไร สามารถกาํ หนดพ้ืนที่ทม่ี ีศักยภาพในการทําเหมือง
นโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรแรของประเทศ และ ตามพระราชบัญญัติแร พ.ศ. 2560 เนื้อท่ีรวม 3.60 ลานไร
จัดทําแผนแมบทการบริหารจัดการแร เพื่อใหมีนโยบายหรือ นอกจากน้ี จัดทําขอเสนอแนะของชนิดแรเปาหมาย 10 ชนิด
แนวทางการบรหิ ารทชี่ ดั เจน เกดิ ประโยชนส งู สดุ ภายใตด ลุ ยภาพ ไดแก หินอุตสาหกรรม หินประดับ เฟลดสปาร ดินขาว
ดานเศรษฐกจิ สงั คม และสง่ิ แวดลอม ทัง้ นตี้ ามมาตรา 16 แหง บอลลเคลย ควอตซ ทรายแกว หินดนิ ดาน ยปิ ซมั และแคลไซต
พระราชบัญญัติแร พ.ศ. 2560 กําหนดใหกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งเปนแรท่ีมีการผลิตภายในประเทศ มีการใชอยางตอเน่ืองใน
และกรมอุตสาหกรรมพ้ืนฐานและการเหมืองแร รวมกันจัดทาํ อุตสาหกรรมตา ง ๆ และถอื วา เปน แร ทมี่ ีความสําคญั ตอ ระบบ
ฐานขอมูลพ้ืนท่ีท่ีมีศักยภาพในการทาํ เหมืองแร ของประเทศ เศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงขอมูลพื้นท่ีศักยภาพในการ
การประเมินคุณคาทางเศรษฐกิจและสังคมของแตละพื้นที่ ทําเหมืองของกลุมแร 5 กลุม เสนอตอคณะอนุกรรมการดาน
การประเมนิ สถานการณแ ละพจิ ารณาขดี จาํ กดั รวมทง้ั ความเปน กําหนดหลกั เกณฑก ารจาํ แนกทรพั ยากรแรแ ละกาํ หนดเขตแหลง แร
ไปไดในการใชประโยชนพื้นที่ดังกลาว เพื่อการทําเหมืองแร เพ่ือการทาํ เหมือง เพ่ือใชเปนขอมูลประกอบในการกําหนดเขต
ในภาพรวมใหส อดคลอ งกบั สภาพความเปน จรงิ ผลกระทบดา น แหลง แรเ พอ่ื การทําเหมืองตอ ไป
สขุ ภาพและสงิ่ แวดลอ มเพอื่ ใชเ ปน ขอ มลู ในการจดั ทํายทุ ธศาสตร
นโยบาย และแผนแมบทการบริหารจัดการแร นอกจากนี้
ยุทธศาสตร แผน และนโยบายระดับชาติ เชน ยทุ ธศาสตรช าติ
(พ.ศ. 2561 - 2580) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง ชาติ
ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ประเดน็ ปฏริ ปู ทรพั ยากรทางบก
(ดานทรัพยากรแร) ภายใตแผนการปฏิรูปประเทศดาน
ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ ม กําหนดใหม กี ารรกั ษาและ
ฟนฟูทรัพยากรแรใหย่ังยืน เปนฐานการพัฒนาประเทศอยาง
สมดุลท้ังทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดลอม จะตองมีการ
วางแผนบริหารจัดการทรัพยากรแรเพื่อใหเกิดการใชประโยชน
สูงสุดและ ลดผลกระทบตอสิ่งแวดลอมและประชาชน สําหรับ
ผลการดําเนินงานของโครงการปฏิรูปการบริหารจัดการ
ทรพั ยากรแร ปง บประมาณ พ.ศ. 2564 มีดังนี้

1. การกําหนดพนื้ ทที่ ม่ี ศี กั ยภาพในการทาํ เหมอื ง รูปแสดงการศกึ ษา สาํ รวจ ตรวจสอบธรณีวิทยาแหลงแร และการเกบ็ ตัวอยาง
เพื่อการจําแนกเปนเขตแหลง แรเ พือ่ การทําเหมอื ง หิน ดนิ แร เพอื่ ใชใ นการปรับปรงุ ฐานขอมลู ดา นทรพั ยากรแร สําหรบั ประกอบการ

สํารวจ เกบ็ ขอ มลู รวมทงั้ ปรบั ปรงุ ขอ มลู พน้ื ทศ่ี กั ยภาพแร กาํ หนดพ้นื ทที่ มี่ ีศักยภาพในการทาํ เหมอื ง
ในพนื้ ทที่ ว่ั ประเทศรวม 55 จงั หวดั ซง่ึ มกี ลมุ แร ทด่ี ําเนนิ การ 5 กลมุ
ไดแก กลุมอุตสาหกรรมซีเมนต กลุมอุตสาหกรรมเซรามิก
กลุม หินประดับ กลมุ หินอุตสาหกรรม กลมุ แรอ ุตสาหกรรมอ่นื ๆ
(ยกเวน เกลอื หนิ -โพแทช) ผลการดําเนนิ งานไดพ น้ื ทศี่ กั ยภาพแร
เน้อื ท่ีรวม 5.60 ลา นไร แบง ออกเปน พืน้ ทศี่ ักยภาพแรท มี่ รี ะดับ
ความเชือ่ มัน่ ดา นธรณวี ทิ ยาสูง-ต่ํา (G1-G3) เนอ้ื ทีร่ วม 5.47 ลานไร

18

แผนทีพ่ ้นื ท่ศี กั ยภาพแรและแผนทีพ่ ้ืนทีท่ มี่ ศี กั ยภาพในการทาํ เหมอื งภายใต
โครงการปฏิรูปการบรหิ ารจัดการทรัพยากรแร แผนท่พี ้ืนท่ศี กั ยภาพแรจ ังหวดั นครศรีธรรมราช (ซาย)

และแผนทีพ่ น้ื ท่ที ี่มศี ักยภาพในการทําเหมอื งจังหวดั นครศรธี รรมราช (ขวา)

2. การสง เสรมิ การมสี ว นรว มในการบรหิ าร จดั ทําส่อื ประชาสมั พนั ธกจิ กรรมในรปู แบบวีดที ศั น
จดั การแร ผา นเว็บไซตก รมทรพั ยากรธรณี
แรก บั การประกอบอาชพี
2.1 การเสริมสรางความเขาใจเก่ียวกับการบริหาร
จดั การแรใ หแ กป ระชาชนทว่ั ไป โดยจดั ทําขอ มลู เผยแพรใ นรปู 19
ของ Infographic ใหประชาชนมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับ
ความสําคัญของแร การเกิด แหลงแร และประโยชนท่ีไดจาก
การพัฒนาแร นอกจากนี้ไดจัดทําส่ือประชาสัมพันธผลการ
ดําเนนิ งานของคณะกรรมการ นโยบายบรหิ ารจดั การแรแ หง ชาติ
ท่ีผานมา (ระหวางป พ.ศ. 2560 - 2564) เพ่ือสรางการรับรู
ในการบรหิ ารจัดการแรข องประเทศ

2.2 การเสริมสรางศักยภาพทองถ่ินและชุมชน
ใหพรอ มเขามามีสวนรวมในการบริหารจัดการแร

โดยการสอ่ื สาร ประชาสัมพนั ธ การดาํ เนินการสาํ รวจ
ทรัพยากรแรในพื้นท่ีจังหวัดตาง ๆ ของประเทศ นอกจากนี้
ไดจัดประชุมรับฟงความเห็นตอแนวทางการดําเนินงานภารกิจ
ดานทรพั ยากรแรข องกรมทรพั ยากรธรณี เพ่อื นาํ ความเหน็ และ
ขอเสนอแนะท่ีไดมาปรับปรุงแนวทางการดําเนินงานภารกิจ
ดานทรัพยากรแรใหเ ปน ไปอยา ง มปี ระสิทธภิ าพ ตอบสนองตอ
ความตองการของทุกภาคสวน อันจะเปนประโยชนตอ
การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรแรในภาพรวมของประเทศตอไป

ปรับปรุงขอมูลบนเวบ็ ไซตกรมทรัพยากรธรณใี นดานแร
เพอื่ เผยแพรข อมลู เสริมสรางความเขา ใจในการบรหิ ารจดั การแร

การเผยแพร Infographic ในเว็บไซต การดาํ เนินงานตามแผนแมบท
คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการแรแหงชาติ การบรหิ ารจดั การแร พ.ศ. 2560 - 2564

2.3 สงเสริมการมีสวนรวมของภาคประชาชน การประชุมรับฟง ความเห็นตอ แนวทางการดําเนินงานภารกจิ ดานทรพั ยากรแร
ผปู ระกอบการ และเจา หนา ทขี่ องรฐั ในการจดั ทํา แผนแมบ ท ของกรมทรัพยากรธรณี เม่อื วันท่ี 2 มิถนุ ายน 2564
การบริหารจัดการแร ฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2565 - 2569 และ
การกาํ หนดเขตแหลง แรเ พ่อื การทาํ เหมอื ง

โดยเปด เผยขอ มลู ทว่ั ไปทเี่ กยี่ วขอ งกบั การบรหิ ารจดั การแร
เชน การสํารวจทรัพยากรแร แหลงแรสํารอง การจําแนก
เขตพ้ืนที่ศักยภาพแร พื้นที่หรือชนิดแรท่ีสมควรสงวนหวงหาม
หรืออนุรักษไว พื้นท่ีท่ีมีแหลงแร อุดมสมบูรณและมีมูลคา
ทางเศรษฐกิจสูงที่จะกาํ หนดใหเปนเขตแหลงแรเพื่อการ
ทาํ เหมือง วิธีการทาํ เหมอื ง ผลกระทบสง่ิ แวดลอมทีอ่ าจเกิดขน้ึ
จากการทาํ เหมอื ง และมาตรการปอ งกนั และแกไ ขผลกระทบสง่ิ
แวดลอ ม เปน ตน นอกจากน้ี ไดเ พมิ่ ชอ งทางในการประชาสมั พนั ธ
และใหขอมูลกับประชาชน เพื่อสามารถเขามามีสวนรวมใน
การบรหิ ารจดั การมากยง่ิ ขน้ึ ผา นทางเวบ็ ไซตข องกรมสง เสรมิ การ
ปกครองทองถ่ิน กรมประชาสัมพันธ สํานักงานอุตสาหกรรม
จงั หวดั และสํานกั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ มทกุ จงั หวดั

20

2.4 สงเสริมการดําเนินกิจกรรมเหมืองแรท่ีเปนมิตร ดานสงเสริมกิจกรรมเหมืองแร ที่เปนมิตรตอส่ิงแวดลอมและ
ตอ สงิ่ แวดลอ มและมธี รรมาภบิ าล (Green and Smart Mining มีธรรมาภิบาล และคณะทํางานกําหนดหลักเกณฑและตรวจ
Forum; GSM) ตามมตทิ ป่ี ระชมุ คณะกรรมการนโยบายบรหิ าร ประเมนิ รางวลั เหมอื งแรท เี่ ปน มติ รตอ สง่ิ แวดลอ มและมธี รรมาภบิ าล
จดั การแรแหงชาติ ครง้ั ท่ี 1/2563 เม่ือวันท่ี 15 มิถนุ ายน 2563
ไดมอบหมายใหกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม
โดยกรมทรัพยากรธรณี และกระทรวงอุตสาหกรรม โดย
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร เปนผูรับผิดชอบ
จัดกิจกรรมการดําเนินการเหมืองแรที่เปนมิตรตอสิ่งแวดลอม
และมีธรรมาภิบาล ตอมาไดมีการแตงตั้งคณะอนุกรรมการ
ดา นกจิ กรรมเหมอื งแรท เี่ ปน มติ รตอ สงิ่ แวดลอ มและมธี รรมาภบิ าล
ในการพจิ ารณาดําเนนิ การดา นสง เสรมิ กจิ กรรมเหมอื งแรท เี่ ปน มติ ร
ตอ สง่ิ แวดลอ มและมธี รรมาภบิ าล รวมทงั้ การพจิ ารณาผปู ระกอบ
การเหมืองแร ที่เปนมิตรตอสิ่งแวดลอมและมีธรรมาภิบาล
โดยคณะอนุกรรมการฯ ไดมีการประชุมครั้งที่ 1/2564
เม่ือวนั ท่ี 25 สิงหาคม 2564 เพ่อื พจิ ารณาวางกรอบระยะเวลา
และแนวทาง การดาํ เนินงานในการจัดกิจกรรมเหมืองแรท่ีเปน การประชุมคณะอนกุ รรมการดา นกิจกรรมเหมืองแร
มิตรตอส่ิงแวดลอมและมีธรรมาภิบาลในป พ.ศ. 2565 ท่ีเปนมิตรตอ ส่ิงแวดลอ มและมีธรรมาภบิ าล
โดยพิจารณาแตงต้ังคณะทาํ งาน 2 คณะ ไดแก คณะทาํ งาน ครัง้ ที่ 1/2564 เม่ือวันที่ 25 สิงหาคม 2564

รายงานผลการปฏิบัติงาน

โครงการอนรุ กั ษและพฒั นามรดกธรณี และอุทยานธรณี

กรมทรัพยากรธรณี ไดดาํ เนินกิจกรรมพัฒนาตอยอด 200 แหง อทุ ยานธรณรี ะดบั ตา ง ๆ รวมไมน อ ยกวา 16 แหง และ
งานการสาํ รวจธรณีวทิ ยาเชงิ อนุรักษ โดยสงเสรมิ และสนับสนุน อุทยานธรณีโลกของยูเนสโกรวมอยางนอย 4 แหง อีกทั้งยังมี
ใหชุมชนหรือหนวยงานทองถ่ิน มีการบริหารจัดการแหลง ภารกิจในการสงเสริมการดาํ เนินการของเครือขายอุทยานธรณี
ธรณีวิทยาหรือมรดกธรณีใหมีประสิทธิภาพและมีการคุมครอง ประเทศไทย (Thailand Geoparks Network : TGN) และรว ม
อยา งถกู ตอ งตามหลกั วชิ าการผสานกบั การกระตนุ กจิ กรรมทาง สนับสนุนการเปนเจาภาพการจัดประชุมนานาชาติเครือขาย
เศรษฐกจิ และการพฒั นาทย่ี งั่ ยนื ของชมุ ชนทอ งถนิ่ ผา นการทอ งเทย่ี ว อุทยานธรณีโลกภาคพื้นเอเชียแปซิฟก ในป พ.ศ. 2565 ณ
ทางธรณีวิทยาและอุทยานธรณี โดยเปนการสรางรายได อุทยานธรณีโลกสตูล อีกท้ังยังมีคณะกรรมการนโยบายบริหาร
ใหแ กช มุ ชนทอ งถน่ิ ตามความเหมาะสมกบั สภาพทางธรณวี ทิ ยา จัดการถํ้าแหงชาติที่เปนอีกหน่ึงกลไกในการขับเคล่ือนการ
สงั คม วฒั นธรรมในพ้ืนทเ่ี ปา หมาย และสภาพชมุ ชน เนนการมี ดาํ เนนิ งานดา นการอนรุ กั ษแ หลง มรดกธรณปี ระเภทถํา้ มเี ปา หมาย
สวนรวมของทุกภาคสวนท่ีเก่ียวของ รวมท้ังจะเปนการเสริม การดาํ เนินการ คือ การสาํ รวจและจัดทําแผนบริหารจัดการ
สรางความเขาใจและทัศนคติที่ดีตอการอนุรักษธรณีวิทยา แก จํานวน 100 แหง ในป พ.ศ. 2570 และ 200 แหง ในป พ.ศ. 2580
หนว ยงานและประชาชนในพน้ื ทใี่ หเ กดิ การอนรุ กั ษอ ยา งเปน รปู ธรรม โดยในปงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไดดาํ เนินงานในโครงการ
โดยมคี ณะกรรมการแหง ชาตวิ า ดว ยอทุ ยานธรณเี ปน กลไกสาํ คญั อนุรกั ษแ ละพัฒนามรดกธรณี และอทุ ยานธรณี ดังน้ี
ในการขับเคลื่อนการอนุรักษแหลงธรณีวิทยา มรดกธรณี และ
อุทยานธรณีของประเทศ มีเปาหมายการดําเนินการภายในป
พ.ศ. 2580 คือ มแี หลง มรดกธรณีของประเทศรวมไมน อ ยกวา

21

1. การอนุรักษและพัฒนามรดกธรณี และ 3) อุทยานธรณีผาชัน - สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี
อทุ ยานธรณี 4) อุทยานธรณีขอนแกน จังหวัดขอนแกน 5) อุทยานธรณี
1.1 จัดทําขอมูลธรณีวิทยาภายในแหลงมรดกธรณี เพชรบรู ณ จงั หวดั เพชรบรู ณ และ 6) อทุ ยานธรณไี มก ลายเปน หนิ
และอทุ ยานธรณี โดยกรมทรัพยากรธรณีไดด าํ เนินการรวบรวม จังหวัดตาก และมีการประกาศจัดตั้งอุทยานธรณีระดับทองถ่ิน
ศึกษา สํารวจ ตรวจสอบ ขอมูลธรณีวิทยาในแหลงมรดกธรณี เพิม่ อีก 1 แหง ไดแ ก อุทยานธรณีชัยภูมิ จงั หวดั ชัยภูมิ นอกจาก
แหลง ที่มศี ักยภาพในแหลง มรดกธรณี 4 ภาค ไดแก ภาคเหนอื น้ียังมีการสงเสริมพื้นที่ที่มีศักยภาพในการจัดต้ังอุทยานธรณี
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคกลาง และภาคใต ภาคละ 10 แหง ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั เชยี งราย และพน้ื ทจี่ งั หวดั สพุ รรณบรุ ี โดยดําเนนิ การ
รวมทัง้ สนิ้ 40 แหง สรา งความรบั รคู วามเขา ใจเกย่ี วกบั อทุ ยานธรณี และการอนรุ กั ษ
1.2 สงเสริมอุทยานธรณี และแหลงมรดกธรณี จํานวน แหลง มรดกธรณใี หเ กดิ การอนรุ กั ษ และมกี ารพฒั นาอทุ ยานธรณี
6 พนื้ ที่ โดยกรมทรัพยากรธรณีไดด าํ เนนิ การสงเสรมิ การพัฒนา อยางยั่งยืน ผานการจัดกิจกรรมการประชุมเผยแพรความรู
และการจัดทาํ ขอมูลธรณีวิทยาในพื้นที่อุทยานธรณี และแหลง การจัดทาํ ขอมูลแหลงมรดกธรณี การฝกอบรมใหความรู และ
มรดกธรณี รวมถงึ การเตรยี มความพรอ มของอทุ ยานธรณเี พอื่ รบั การจัดทําตนแบบส่ือเผยแพรประชาสัมพันธ ในรูปแบบตาง ๆ
การประเมิน จํานวน 7 พ้ืนที่ ไดแก 1) อุทยานธรณีโลกสตูล ใหเ ปน ไปตามเกณฑ ทค่ี ณะกรรมการแหง ชาตวิ า ดว ยอทุ ยานธรณี
จงั หวัดสตลู 2) อทุ ยานธรณีโคราช จงั หวัดจงั หวัดนครราชสีมา และ/หรอื หลกั เกณฑข อง UNESCO กาํ หนด

แผนท่เี สนทางทอ งเทีย่ ว 6 เสน ทาง การประชมุ หารือการจดั งานเครือขายอทุ ยานธรณี
ในพืน้ ท่อี ทุ ยานธรณีโลกสตลู จงั หวดั สตลู ประเทศไทย (TGN)

1.3 ดําเนินงานกิจกรรมภายใตคณะกรรมการ การจัดประชุมเครือขายอุทยานธรณีประเทศไทย ครั้งที่ 1
คณะอนกุ รรมการ และคณะทํางานทเ่ี กย่ี วขอ งกบั การดาํ เนนิ งาน ณ อทุ ยานธรณโี ลกสตลู และการจดั ประชมุ เครอื ขา ยอทุ ยานธรณโี ลก
แหลงมรดกธรณีและอทุ ยานธรณี ประกอบดว ย ภาคพน้ื เอเชยี แปซฟิ ก ครงั้ ท่ี 7 ในป 2565 ณ อทุ ยานธรณโี ลกสตลู
1) คณะกรรมการสงเสริมการอนุรักษแหลงธรณีวิทยา
และจัดตั้งอุทยานธรณีรับรองใหอุทยานธรณีขอนแกนเปน
อุทยานธรณปี ระเทศไทย เมอื่ วนั ที่ 28 ตลุ าคม 2563
2) แตงต้ังคณะกรรมการแหงชาติวาดวยอุทยานธรณี
ตามมตคิ ณะรฐั มนตรเี มื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 และยกเลกิ
คําสั่งแตงตั้งคณะกรรมการสงเสริมการอนุรักษแหลงธรณีวิทยา
และจดั ตง้ั อทุ ยานธรณี และแตง ตง้ั ผทู รงคณุ วฒุ ใิ นคณะกรรมการ
แหง ชาติวาดว ยอุทยานธรณี
3) ประชุมคณะกรรมการแหงชาติวาดวยอุทยานธรณี
ครัง้ ท่ี 1/2564 เม่ือวันท่ี 19 พฤษภาคม 2564 โดย พิจารณา
แตง ต้งั คณะอนกุ รรมการจาํ นวน 10 คณะ กาํ หนดแนวทางและ
เปาหมายการปฏิบัติงานในกรอบระยะเวลา 20 ป พรอมท้ัง
เห็นชอบรางนโยบายการอนุรักษมรดกธรณีและการดําเนินงาน
อทุ ยานธรณี และแผนปฏบิ ตั กิ ารดา นการอนรุ กั ษแ หลง มรดกธรณี การประชมุ คณะกรรมการแหงชาติวาดวยอทุ ยานธรณี ครงั้ ท่ี 1/2564
และการดาํ เนนิ งานอทุ ยานธรณี ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565 - 2570) โดยมี นายวราวุธ ศลิ ปอาชา รัฐมนตรีวาการกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอม เปนประธานการประชุมฯ

22

4) การประกาศแนวทางและหลกั เกณฑเ พอ่ื การอนรุ กั ษ 7) ประชุมคณะอนุกรรมการสงเสริมการอนุรักษแหลง
แหลง ธรณวี ทิ ยาและจดั ตง้ั อทุ ยานธรณปี ระเทศไทย และประกาศ มรดกธรณีและการดาํ เนินงานอุทยานธรณี คร้ังที่ 1/2564
ตราสญั ลกั ษณอ ุทยานธรณปี ระเทศไทย เมอ่ื วนั ท่ี 24 สงิ หาคม 2564 โดยมีสาระสาํ คัญในการพจิ ารณา
5) แตง ตงั้ คณะอนกุ รรมการภายใตค ณะกรรมการแหง ชาติ เร่ืองการประเมินซาํ้ การเปนอุทยานธรณีประเทศไทยของ
วาดวยอทุ ยานธรณี จาํ นวน 10 คณะ อทุ ยานธรณสี ตลู การแสดงเจตจาํ นงคข องอทุ ยานธรณขี อนแกน
6) เสนอเรื่องตอคณะรัฐมนตรีเพ่ือโปรดทราบการเปน ในการขอเขารับรองการเปนอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก
เจาภาพการจัดประชุมเครือขายอุทยานธรณีโลกภาคพ้ืน และการเสนอตราสัญลักษณคณะกรรมการแหงชาติวาดวย
เอเชียแปซิฟก คร้งั ท่ี 7 ในป 2565 ณ อทุ ยานธรณโี ลกสตลู และ อุทยานธรณแี ละมรดกธรณีประเทศไทย
พิจารณาสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) โดยใหกระทรวง 8) จดั ทาํ แผนปฏบิ ตั กิ ารดา นการอนรุ กั ษแ หลง มรดกธรณี
มหาดไทย (จังหวัดสตลู ) เปน หนวยงานจัดทาํ คําของบประมาณ และการดาํ เนนิ งานอุทยานธรณี ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565 - 2570)

การประชุมคณะอนกุ รรมการสง เสรมิ การอนุรักษแหลงมรดกธรณแี ละการดําเนินงานอุทยานธรณี ครงั้ ท่ี 1/2564
โดยมี นายสมหมาย เตชวาล อธบิ ดกี รมทรัพยากรธรณี เปนประธานการประชมุ ฯ

1.4 สนบั สนนุ การดําเนินงานของเครือขา ยอทุ ยานธรณปี ระเทศไทย (Thailand Geopark Network: TGN)
กรมทรัพยากรธรณีในฐานะเลขานุการคณะกรรมการแหงชาติวาดวยอุทยานธรณีรวมประชุมหารือกับผูวาราชการ
จังหวดั สตลู โดยจังหวดั สตลู เห็นควรวา ใหเ ลอ่ื นการจัดประชุมฯ ไปในเดอื นเมษายน 2565 เนอื่ งจากสถานการณการแพรระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ท่ีรุนแรงข้ึน และดําเนินการจัดทาํ ขอมูลทิศทาง บทบาทการทาํ งาน และแผนการจัดกิจกรรม
ของเครือขายอุทยานธรณไี ทย

การประชมุ หารือ เมือ่ วันที่ 28 มิถนุ ายน 2564 เร่อื ง การจดั ประชมุ เครอื ขายอุทยานธรณีประเทศไทย ครง้ั ท่ี 1

23

2. การสํารวจศึกษาแหลงมรดกธรณี ข้ันรายละเอียด กําหนดขอบเขตพื้นที่เสนทางทัศนศึกษาภายในถ้ํา
ประเภทถา้ํ เพอ่ื การบริหารจดั การอยา งยง่ั ยนื และภายนอกถํา้ และประเมินความเสี่ยงดานธรณีพิบัติภัยหรือ

2.1 กรมทรัพยากรธรณีไดดําเนินการสํารวจศึกษา พื้นท่ีอันตรายเพ่ือใชกําหนดเขตเปนพื้นท่ีควบคุม จัดทาํ แหลง
แหลงมรดกธรณีประเภทถํ้าเพื่อการบริหารจัดการ อยางย่ังยืน เรียนรู เร่ือง “ถาํ้ และธรณีวิทยาเพ่ือการทองเที่ยว” รวมถึง
3 พื้นที่ ไดแ ก พน้ื ท่ีระบบถํ้าธารนํ้าลอด จังหวดั ชุมพร พนื้ ที่ระบบถํ้า การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ประชุมสัมมนาวิชาการถายทอด
ในเขตอุทยานแหงชาติดอยภูคา (ถาํ้ ผาฆอง) จังหวัดนาน องคความรูสูเยาวชน ชุมชนและองคกรสวนทองถิ่น จัดทําส่ือ
และพื้นที่ระบบถํ้าปาฏิหาริย จังหวัดอุบลราชธานี โดยจัดทาํ เผยแพรข อ มลู และองคค วามรู และจดั ทําแนวทางการบรหิ ารจดั การ
รายงานผลการสํารวจศึกษาธรณีวิทยาและจัดทาํ แผนผังถา้ํ ถา้ํ แผนแมบ ท และเผยแพรองคความรใู นการบริหารจัดการ

รายงานวิชาการการสํารวจวจิ ยั ระบบถ้าํ ธารนํ้าลอด ระบบถ้าํ ปาฏิหารยิ 
และระบบถํา้ ในอทุ ยานแหงชาติดอยภูคา (ถาํ้ ผาฆอง)

คูมอื ผูเลา เรอ่ื งถ้าํ ธารนาํ้ ลอด ระบบถํา้ ผาฆอ ง และถ้าํ ปาฏิหาริย

24

2.2 ดําเนินงานกิจกรรมภายใตคณะกรรมการ การประชมุ คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทาํ งาน
คณะอนกุ รรมการ และคณะทาํ งานทเ่ี กยี่ วขอ งกบั การดําเนนิ งาน ทเ่ี กยี่ วขอ งกบั การดําเนนิ งานคณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถ้าํ แหง ชาติ
คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้าํ แหง ชาติ

1) ประชมุ คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้าํ แหง ชาติ
ครั้งท่ี 1/2564 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564

2) นาํ เสนอรางนโยบายและแผนแมบทการบริหาร
จดั การระบบถํา้ แหง ชาติ (พ.ศ. 2563 - 2580) และแผนปฏบิ ตั กิ าร
ดานการบรหิ ารจดั การระบบถา้ํ ระยะท่ี 1 (พ.ศ. 2563 - 2565)
และรายงานสถานการณถาํ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 ตอ
คณะรัฐมนตรเี พอื่ ทราบ

3) แตงตั้งคณะอนุกรรมการเครือขายอนุรักษถ้าํ
และระบบถาํ้

4) จดั ทําประกาศคณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การ
ถ้ําแหงชาติ เร่ือง ตราสัญลกั ษณค ณะกรรมการ นโยบายบริหาร
จัดการถา้ํ แหง ชาติ

5) ประชมุ คณะอนกุ รรมการดา นนโยบายและการมสี ว นรว ม
ครั้งที่ 1/2563 เม่ือวนั ท่ี 3 ธันวาคม 2563

6) ประชมุ คณะอนกุ รรมการดา นวชิ าการ ครงั้ ที่ 2/2563
เม่ือวนั ท่ี 28 กนั ยายน 2563 และ ครั้งที่ 1/2564 เม่อื วนั ท่ี 2
มนี าคม 2564

7) ประชมุ คณะกรรมการครอื ขา ยอนรุ กั ษถ ้ําและระบบถ้ํา
คร้ังท่ี 1/2564 เมื่อวนั ท่ี 11 สิงหาคม 2564

8) ประชุมคณะทํางานจัดทาํ แผนแมบทการบริหาร
จดั การถ้ําของประเทศ ครงั้ ท่ี 2/2563 เมอ่ื วนั ที่ 11 พฤศจกิ ายน 2563

9) ประชมุ คณะทาํ งานศกึ ษากฎหมายการบรหิ ารจดั การถ้ํา
ครงั้ ท่ี 2/2563 เมือ่ วันที่ 8 ตุลาคม 2563 และครง้ั ที่ 3/2563
เม่ือวนั ที่ 26 พฤศจิกายน 2563

ผลจากการประชมุ คณะกรรมการ คณะอนกุ รรมการ และคณะทาํ งานทีเ่ กยี่ วของกบั
การดาํ เนนิ งานคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้าํ แหง ชาติ เพอื่ ขบั เคล่ือน ดงั น้ี

1. นโยบายและแผนแมบทการบริหารจัดการระบบถา้ํ 5. คัดเลือกระบบถํา้ เพื่อการสาํ รวจและบริหารจัดการ
แหงชาติ (พ.ศ. 2563 - 2580) และแผนปฏิบัติการดานการ ประจําปง บประมาณ พ.ศ. 2565 จํานวน 9 ระบบถ้ํา ประกอบดว ย
บรหิ ารจดั การระบบถา้ํ ระยะท่ี 1 (พ.ศ. 2563 - 2565) 1) ระบบถ้าํ พระวงั แดง จังหวัดพษิ ณโุ ลก 2) ระบบถ้าํ แมละนา
2. รายงานสถานการณถ ้าํ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 จังหวัดแมฮองสอน 3) ระบบถาํ้ ผามอญ จังหวัดแมฮองสอน
3. คําสงั่ คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถํ้าแหง ชาติ 4) ระบบถํา้ ผีหวั โต จังหวดั กระบ่ี 5) ระบบถาํ้ คลงั จังหวัดกระบ่ี
ท่ี 1/2564 เร่ือง แตงต้ังคณะอนุกรรมการเครือขายอนุรักษถํ้า 6) ระบบถํ้าขม้ิน จังหวัดสุราษฎรธานี 7) ระบบถา้ํ พระธาตุ
และระบบถ้ํา ลงวนั ที่ 8 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564 จังหวดั กาญจนบุรี 8) ระบบถํ้าน้าํ เขาศวิ ะ จังหวัดสระแกว และ
4. ประกาศคณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถาํ้ แหง ชาติ 9) ระบบถํ้าอทุ ยานแหง ชาติคลองพนม จังหวัดสุราษฎรธ านี
เรอ่ื ง ตราสญั ลกั ษณค ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถาํ้ แหง ชาติ
พ.ศ. 2564 ลงวันท่ี 8 มถิ ุนายน พ.ศ. 2564
25

รายงานผลการปฏิบัติงาน

โครงการสาํ รวจธรณีวิทยาเพ่ือการบริหารจัดการทางทะเลและชายฝง

พ้ืนท่ีทะเลของประเทศไทย ครอบคลุมทั้งฝงทะเล ประมาณ 4-5 กโิ ลเมตร และตะกอนทราย คดิ เปน รอ ยละ 17.46
อาวไทยและทะเลอันดามัน มีพ้ืนที่รวมประมาณ 323,488.32 กระจายตวั ภายในระยะ 4 กโิ ลเมตรจากชายฝง ดา นทศิ ตะวนั ออก
ตารางกิโลเมตร หรือ 2 ใน 3 ของพ้ืนแผนดิน และมีแนวเสน ตั้งแตบานไมรูดจรดบริเวณ ปลายแหลมกลัด ซึ่งมีปญหา
ชายฝง รวมระยะทาง 3,151.13 กโิ ลเมตร ครอบคลมุ 23 จงั หวดั การกัดเซาะชายฝง พบวากระแสนาํ้ ชายฝงมีความสัมพันธกับ
ชายฝง ทะเล มกี ารใชป ระโยชนใ นหลายดา น อาทิ การทอ งเทย่ี ว การเคลอ่ื นทขี่ องตะกอนจากปากแมน า้ํ ตราดและการเคลอ่ื นยา ย
การประมง การขนสงทางทะเล นํามาซ่ึงรายไดหลักหน่ึงใน ของตะกอนทรายชายฝง กลา วคอื ในชว งมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื
การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แตทวาปจจุบันหลายพื้นที่ กระแสนา้ํ พัดพาตะกอนมาสะสมตัวในทิศตะวันออกเฉียงใต
กําลังประสบปญหาการกัดเซาะชายฝง รวมถึงมลพิษทางนํา้ แตชวงมรสุมตะวันตกเฉียงใต กระแสนาํ้ มีความเร็วมากข้ึน
อันสงผลตอทรัพยากรทางทะเลท้ังทางกายภาพและชีวภาพ พัดพาตะกอนจากชายฝงออกไปสะสมตัวดานนอกชายฝงใน
ขอมลู ดานธรณวี ทิ ยาทางทะเลและชายฝง ถอื เปนองคป ระกอบ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ การแปลความหมายขอมูลการสาํ รวจ
หน่ึงที่สําคัญตอการเขาใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจาก คลื่นไหวสะเทือนระดับต้ืนแบบสะทอนกลับ พบวาลักษณะ
ธรรมชาตแิ ละมนษุ ย การสํารวจธรณวี ทิ ยาเพอื่ การบรหิ ารจดั การ ธรณวี ทิ ยาชนั้ ตะกอนใตพ นื้ ทอ งทะเลในพน้ื ทส่ี ํารวจ ประกอบดว ย
ทางทะเลและชายฝง โดยการบูรณาการองคความรูทาง ชั้นตะกอนชุดลางเปนชั้นตะกอนที่สะสมตัวในสภาพแวดลอม
ธรณีวิทยา สมุทรศาสตรและสังคม เพื่อจัดทําแนวทางการใช แบบบนบกและมที ะเลแทรกสลบั มกี ารตกสะสมตะกอนสลบั กนั
ประโยชนพ้ืนที่ชายฝงลดผลกระทบการกัดเซาะชายฝงและ ระหวางบนบกและทะเลท่ีเกิดจากการเปล่ียนแปลงระดับ
พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ชายฝง อันจะนํามาสู น้าํ ทะเลขึ้นลงในอดีต และชั้นตะกอนชุดบนเปนชั้นตะกอน
การวางแผนการใชป ระโยชนพ นื้ ทที่ างทะเลอยา งเหมาะสม และ ท่ีสะสมตัวในสภาพแวดลอมแบบทะเลไดรับอิทธิพลตะกอนบก
สรางการเติบโตอยางย่ังยืนบนสังคมเศรษฐกิจภาคทะเล โดย ประกอบดว ยชน้ั ยอ ยตะกอนทะเลจากการตกสะสมของตะกอน
ในปงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไดดาํ เนนิ การ ดังนี้ ในชว งทมี่ กี ารเพมิ่ ขนึ้ ของระดบั น้าํ ทะเล ชนั้ ตะกอนบกผสมทะเล
จากการสะสมตัวของตะกอนท่ีถูกพัดพาจากทางน้ําบนบก
1. การสาํ รวจจดั ทําขอ มลู แผนทธี่ รณวี ทิ ยา ผสมกับตะกอนทะเลและเปลือกหอย และชั้นยอยศิลาแลง
พนื้ ทะเลและแหลง ทรพั ยากรธรณี พนื้ ทน่ี อกชายฝง บง ชถ้ี งึ การเปลยี่ นแปลงของระดบั น้ําทะเลและสภาพอากาศแหง แลง
อาํ เภอเมืองและอาํ เภอคลองใหญ จงั หวดั ตราด พบเจอท้ังในช้ันยอยตะกอนทะเลและตะกอนบกผสมทะเล
แนวสํารวจมีความลึกตั้งแต -1 ถึง -13 เมตร จาก ทาํ ใหสามารถกําหนดขอบเขตและระดับความหนาของพ้ืนท่ี
ระดบั ทะเลปานกลาง บรเิ วณลกึ ทส่ี ดุ อยทู างทศิ ใต พนื้ ทค่ี อ นขา งราบ แหลงทรายในทะเล พบการสะสมตัวในแนวทางนาํ้ โบราณ
มีความลาดชันตํ่า เชนเดียวกับทางตอนเหนือของพื้นท่ี ชนั้ ทรายหนาประมาณ 1-4 เมตร พบทร่ี ะดบั ความลกึ กวา -21 เมตร
สาํ รวจ ในขณะทต่ี อนกลางของพนื้ ทม่ี คี วามลาดชนั เปลย่ี นแปลง และมีตะกอนปดทับหนากวา 9 เมตร จึงถือไดวาเปนพ้ืนท่ี
ชัดเจน พื้นผิวคอนขางขรุขระ และมีแนวหินใตนํ้า ลักษณะ มีศักยภาพต่าํ ไมเหมาะสมในการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจ
ของตะกอนพืน้ ผวิ ทอ งทะเลประกอบดวย 4 ชนดิ คือ ตะกอน ผลการวเิ คราะหป รมิ าณธาตโุ ลหะหนกั ในตะกอนพน้ื ทะเล พบมี
ทรายแปง คดิ เปน รอ ยละ 59.91 พบกระจายตวั ดา นทศิ ตะวนั ตก คาเกนิ มาตรฐานจาํ นวน 6 ธาตุ คอื สารหนู โครเมยี ม โคบอลต
ของพน้ื ที่ ตะกอนโคลนปนตะกอนทรายและตะกอนทรายปนโคลน นิกเกลิ แคดเมียม และทองแดง พบสะสมตวั ปรมิ าณสูงสัมพนั ธ
คดิ เปนรอ ยละ 13.31 และ 9.32 ตามลาํ ดับ กระจายตัวบรเิ วณ กับตะกอนแมน้าํ ตราดทางดานทิศตะวันตกของพ้ืนที่และแหลง
ปากแมนํา้ และเปนแนวยาวขนานชายฝง หางจากชายฝงเฉล่ีย ชมุ ชนริมแมน ้าํ และชายฝง

26

แผนทภ่ี มู ิสณั ฐานพนื้ ทะเล (ก) แผนท่ีช้ันดานแขง็ (ข) และ แผนท่ีขนาดตะกอนพนื้ ทะเล (ค)

แผนทีแ่ สดงคาโลหะหนัก As Cd Co Cu Cr Ni เกนิ เกณฑมาตรฐานในตะกอนทะเล

27

2. การเปลี่ยนแปลงชายฝงทะเลอาวไทย 2.2 สถานภาพการเปล่ียนแปลงชายฝงในแนวด่ิง
พนื้ ทแี่ นวชายฝง อาํ เภอเมอื งและอําเภอคลองใหญ สถานภาพการเปลย่ี นแปลงชายฝง ในแนวดง่ิ ทาํ การเปรยี บเทยี บ
จงั หวัดตราด สณั ฐานหนา หาดใน 2 ชว งฤดมู รสมุ พบวา โดยภาพรวมชายหาด
2.1 สถานภาพการเปลี่ยนแปลงชายฝงในแนวราบ มีปริมาณตะกอนทรายลดลงกวา 780,995 ลบ.ม. ในชว งมรสมุ
สถานภาพการเปลี่ยนแปลงชายฝง พบวามีแนวโนม ที่ชายฝง ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะกอนทรายมีการสะสมตัวหนาหาด
มกี ารกดั เซาะรนุ แรงมากขนึ้ เมอ่ื พจิ ารณาจากขอ มลู เปรยี บเทยี บ และเมอ่ื เขาสูช วงฤดูมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต ตะกอนหนาหาดลด
สถานภาพชายฝงยอนหลัง 18 ป (ป พ.ศ. 2545 - 2563) ลงเกิดการกัดเซาะแนวด่ิงมากขึ้น โดยหาดทรายจํานวน 7 หาด
(4.57 กิโลเมตร) 11 ป (25.15 กิโลเมตร) 7 ป (5.5 กโิ ลเมตร) มปี รมิ าณทรายลดลงมากทส่ี ดุ ตามลาํ ดบั ดงั นี้ หาดสวุ รรณเกลยี วทอง
และในรอบ 1 ปส ํารวจ (25.68 กิโลเมตร) กลาวคอื ในชว ง 18 ป (186,370 ลบ.ม.) หาดบานสะพานหิน (169,726 ลบ.ม.)
ทผี่ า นมาชายหาด มกี ารคงสภาพและสะสมตวั มกี ารกดั เซาะนอ ยกวา หาดมกุ แกว พลอยแดง (129,607 ลบ.ม.) หาดไมร ดู (109,197 ลบ.ม.)
1 เมตร เปรียบเทียบกับในชวง 11 ปที่ผานมา พบวาพื้นท่ี หาดทับทิม (76,030 ลบ.ม.) หาดลานทราย (60,944 ลบ.ม.)
สว นใหญม กี ารคงสภาพและสะสมตวั 18.38 กโิ ลเมตร แตอ ยา งไร และหาดราชการุณย (49,121 ลบ.ม.)
ก็ตามมีชายฝงระยะ 5.62 กิโลเมตร ถูกกัดเซาะ โดยมีการ 2.3 ความเปราะบางชายฝง ทะเล ผลการศกึ ษาดว ยวธิ ี
กัดเซาะรุนแรง เพียง 0.54 กิโลเมตร บริเวณหาดทรายงาม ลําดบั ช้ันเชงิ วเิ คราะหพ น้ื ท่ตี าํ บลแหลมกลดั อําเภอเมอื ง พบวา
บา นคลองสน ตาํ บลแหลมกลดั อําเภอเมอื ง กดั เซาะเขา มามากสดุ พน้ื ทส่ี ว นใหญ รอ ยละ 46.02 และ 30.52 เปน พน้ื ทม่ี คี วามเปราะบาง
เปนระยะทาง 5.77 เมตร เปรยี บเทียบกบั ในชว ง 7 ป ชายหาด ต่าํ มาก และต่าํ เน่ืองจากพ้ืนท่ีสวนใหญเปนปาไม แหลงนํา้
ยงั คงมกี ารกดั เซาะตอ เนอ่ื งรวมระยะทาง 0.59 กโิ ลเมตร บรเิ วณ ทร่ี าบเชงิ เขา และมปี ระชาชนตงั้ ถน่ิ ฐานอยนู อ ย โดยมพี นื้ ทเ่ี พยี ง
หาดคลองกวาง กดั เซาะเขา มามากสดุ 2.55 เมตร โดยพนื้ ทส่ี ว นใหญ รอ ยละ 4.92 ทม่ี คี วามเปราะบางสงู พบในบรเิ วณปากคลองอา ว
ยังคงมีการคงสภาพและสะสมตัว แตเม่ือพิจารณาในชวงฤดู ระวะ บา นชายเนนิ หาดสสุ านโลมา2 และหาดมกุ แกว เนอ่ื งจาก
มรสุม ชว ง 1 ป (พฤศจิกายน 2563 ถงึ สงิ หาคม 2564) พบวา เปนพื้นท่ีชุมชนชายฝง มีอัตราการกัดเซาะรุนแรงและ
ชายฝงมีการกัดเซาะรุนแรงเพ่ิมมากข้ึน แมวาพ้ืนท่ีสวนใหญ ไมมีมาตรการปองกันชายฝง โดยในบริเวณน้ี มีบานเรือน
ยังคงมีการสะสมตัวและคงสภาพ 16.65 กิโลเมตร แตพ้ืนที่ ประชาชนรอยละ 22.44 ต้ังอยบู นพ้ืนที่มีความเปราะบางสงู
การกัดเซาะชายฝงมีมากถึง 11.03 กิโลเมตร แบงเปนการ
กัดเซาะรุนแรงถงึ 3.32 กิโลเมตร มากทส่ี ดุ ในหาดบา นคลองพงั
ตาํ บลแหลมกลดั อําเภอเมอื ง กดั เซาะเขา มามากทสี่ ดุ ถงึ 138.24 เมตร

แผนทแี่ สดงการเปลีย่ นแปลงชายฝงในแนวราบ แนวด่งิ และความเปราะบางชายฝง

28

3. การวิเคราะหขอมูลระดับนา้ํ ทะเลจาก วัสดุที่นําไปวางในชวงนํา้ ลงตา่ํ สุดตองมีความลึกไมนอยกวา 6
สถานีตรวจวัดระดับน้ําทะเลขน้ึ -ลง แบบอัตโนมตั ิ เพ่ือความปลอดภัยในการเดินเรือ 2) สภาพพ้ืนทะเลเหมาะสม
ผลการวิเคราะหระดับน้าํ ทะเลแบบ Least Square ไมเ ปน โคลนเหลว และไมท ําใหว สั ดจุ มตวั เกนิ กวา 20 เซนตเิ มตร และ
Linear Regression ใชขอมูลเดือนกันยายน 2563 ถึงเดือน 3) ไมเปนพ้ืนที่ซ่ึงมีปริมาณตะกอนแขวนลอยในน้ํามาก
สิงหาคม 2564 รวมระยะเวลา 12 เดือน ทําการวิเคราะห ซึ่งจะทาํ ใหตะกอนทับถมที่ผิววัสดุจนส่ิงมีชีวิตประเภทเกาะติด
เชิงเสน เพ่ือหาการเปลี่ยนแปลงระดับน้าํ ทะเล พบวา สถานี ไมสามารถอยูอาศัยได เมื่อนาํ ขอมูลการสํารวจความลึกนํ้า
ตรวจวัดระดับนาํ้ ทะเลข้ึน-ลง แบบอัตโนมัติสวนใหญ มีการ ขอมูลตะกอนพ้ืนทะเลมาทาํ การวิเคราะหรวมกัน สามารถ
เปลี่ยนแปลงของระดับน้าํ ทะเลลดลง รวมทั้งสิ้น 6 สถานี กําหนดขอบเขตพน้ื ทที่ เี่ หมาะสมกบั การวางปะการงั เทยี มบรเิ วณ
มีรายละเอียดดังน้ี สถานีระยอง -0.93 มิลลิเมตร สถานี แนวชายฝง ดา นทิศตะวันออก หา งจากฝงประมาณ 4 กิโลเมตร
ประจวบคีรีขันธ -1.00 มิลลเิ มตร สถานีนครศรีธรรมราช -1.02 4.3 พ้ืนที่แหลงทรัพยากรทรายในทะเล การสาํ รวจ
มิลลิเมตร สถานีระนอง -0.63 มิลลิเมตร สถานีภูเก็ต -0.61 และแปลความหมายขอมูลทางธรณีฟสิกสรวมกับการเก็บ
มิลลิเมตร และสถานีตราด -0.84 มิลลิเมตร ในขณะที่มี ตะกอนพื้นทะเล ทําใหสามารถกาํ หนดพื้นที่ที่มีศักยภาพแหลง
การเปล่ียนแปลงของระดับนํ้าทะเลเพิ่มขึ้น 2 สถานี คือ สถานี ทรายนอกชายฝง เปน แหลง ทรายในทางนํ้าโบราณ ซงึ่ ปด ทบั ดว ย
ชมุ พร +1.31 มลิ ลเิ มตร และสถานสี ตลู +0.18 มลิ ลเิ มตร อยา งไรกด็ ี ตะกอนบกและตะกอนทะเล มากกวา 9 เมตร ถือเปนแหลง
การวิเคราะหระดับนํ้าทะเลควรมีขอมูล 18.6 ป (รอบวัฏจักร ไมม ศี กั ยภาพและความคมุ คา ในการนําขน้ึ มาใช โดยไมพ บแหลง
ของนาํ้ ) จงึ สามารถใชบ ง บอกแนวโนม การเปลย่ี นแปลงระดบั น้ําได ทรายพื้นผิวนอกชายฝงท่ีมีศักยภาพ สาํ หรับนํามาใชเติมทราย
ชายหาดเพือ่ แกไขปญ หาการกัดเซาะชายฝง
4. ขอ เสนอแนะเชงิ นโยบาย แผน มาตรการ 4.4 การเฝาระวังพ้ืนท่ีปนเปอนสารพิษโลหะหนัก
แ ล ะ ข อ มู ล ที่ เ กี่ ย ว ข อ ง กั บ ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร
ธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณี ในทะเลและชายฝง ในตะกอนพน้ื ทะเล ขอ มลู การวเิ คราะหต ะกอนพน้ื ทะเล พบวา
พนื้ ทอี่ าํ เภอเมอื งและอาํ เภอคลองใหญ จงั หวดั ตราด มี 6 ธาตุ คอื สารหนู โครเมียม และทองแดง มคี าเกนิ เกณฑ
ดังนี้ มาตรฐานกรมควบคุมมลพิษ สวนแคดเมียม โคบอลต และ
นกิ เกลิ มคี าเกนิ เกณฑมาตรฐานของนานาชาติ โดยแหลง ทีม่ าที่
4.1 การเฝาระวังการกัดเซาะชายฝงพ้ืนท่ีบานไมรูด สําคัญ คือ แมนํ้าตราดมีการกระจายตัวบริเวณปากแมนํ้าและ
ถึงแหลมกลัด ขอมูลการสาํ รวจทิศทางและกระแสนา้ํ ชายฝง ดา นทศิ ตะวนั ตกของพนื้ ทส่ี ํารวจ ซงึ่ ในบรเิ วณดงั กลา วมกี ารเพาะ
พบวา ชายหาดบรเิ วณนมี้ กี ารเคลอื่ นทข่ี องตะกอนทรายมาสะสม เลยี้ งสตั วน ํา้ จงึ เปน ทนี่ า กงั วลวา สตั วน ํา้ เหลา นจี้ ะมสี ารโลหะหนกั
ชายฝง ในชวงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และในชวงฤดูมรสุม ปนเปอ นเกนิ เกณฑม าตรฐานสตั วน า้ํ ทกี่ าํ หนดหรอื ไม ซง่ึ จะสง ผลตอ
ตะวันตกเฉียงใต กระแสน้ําจะมีความเร็วเพ่ิมมากข้ึน สงผลให ผูบรโิ ภค ผานหว งโซอาหาร และสงผลตอ สขุ ภาพของประชาชน
เกิดการเคลื่อนยายตะกอนทรายชายฝงออกไปสะสมดานนอก
ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จึงมีขอควรระวังหากมีการกอสราง
โครงสรา งปอ งกนั ชายฝง จาํ เปน ตอ งมกี ารสรา งใหส อดคลอ งกบั
การเคลื่อนที่ของกระแสน้าํ เพื่อไมใหเกิดการขัดขวาง
การเคล่ือนท่ขี องตะกอนสูชายฝง
4.2 การพจิ ารณาพนื้ ทเ่ี หมาะสมสาํ หรบั วางปะการงั เทยี ม
หลักเกณฑสาํ คัญในการกําหนดพื้นที่จัดวางปะการังเทียม
ที่เกี่ยวของกับงานสาํ รวจทางธรณีวิทยา จากขอมูลของ
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง ดงั น้ี 1) ระดบั น้ําเหนอื กอง

แผนทแี่ สดงพนื้ ทเ่ี พอื่ การบรหิ ารจดั การทางทะเลและชายฝง 29

รายงานผลการปฏบิ ตั ิงาน

โครงการลดผลกระทบธรณพี ิบตั ภิ ัยท่ีเกดิ จากธรรมชาตแิ ละ
การเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ

ธรณีพิบัติภัยเปนภัยพิบัติท่ีเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถใหชุมชนมีความเขมแข็งพรอม
มสี าเหตหุ ลกั จากการเปลย่ี นแปลงทางธรณวี ทิ ยา เพอื่ ปรบั สภาพ ทจ่ี ะรบั มอื กบั ธรณพี บิ ตั ภิ ยั ซง่ึ จะชว ยบรรเทาผลกระทบจากธรณี
ของเปลือกโลกใหอยูในสภาวะสมดุล สวนมากจะเกิดขึ้นแบบ พิบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สําหรับผลการดําเนินงาน
ฉับพลันยากตอการคาดการณลวงหนาและมีความรุนแรงสราง ในปง บประมาณ พ.ศ. 2564 มดี ังน้ี
ความสูญเสียตอชีวิตและทรัพยสินของประชาชนในหลายพื้นท่ี
ประเทศไทยประสบกับธรณีพิบัติภัย ดินถลมมาอยางตอเน่ือง 1. พัฒนาฐานขอมูลสารสนเทศเพื่อ
ประกอบกบั สภาวะอากาศทมี่ คี วามแปรปรวนมากขนึ้ การขยาย สนับสนุนกระบวนการตัดสินใจจัดการธรณี
ตัวของชุมชนเขาไปตั้งถิ่นฐานในพ้ืนที่เสี่ยงภัยและเปลี่ยนแปลง พิบัตภิ ัยดนิ ถลม
การใชป ระโยชนท ด่ี นิ ใหเ ปน ไปตามความตอ งการของมนษุ ยแ ละ
การพัฒนาทางเศรษฐกิจท่ีเติบโตข้ึนอยางรวดเร็ว โดยขาด ดําเนนิ การสาํ รวจ วิเคราะหปจ จัยทางธรณีวทิ ยา และ
การวางแผนในเชิงพื้นท่ีใหสอดคลองกับสภาพแวดลอม ปจจัย องคป ระกอบทสี่ าํ คญั เพอ่ื จาํ แนกพนื้ ทอี่ อ นไหว ตอ การเกดิ ธรณี
เหลานี้ลวนมีสวนกระตุนใหปญหาการเกิดธรณีพิบัติภัยดินถลม พิบตั ภิ ัยดินถลมระดับทอ งถิ่น สาํ หรับสนบั สนุนการจัดการธรณี
ทวีความรุนแรงและมีความถี่ของการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ พิบัติภัยดินถลม โดยดําเนินการรวบรวมขอมูล และปจจัยท่ี
บอยครั้งข้ึน ทาํ ใหชุมชนมีความเส่ียงมากย่ิงข้ึน จึงจําเปนตอง สง ผลตอ การกําหนดขอบเขตพนื้ ทอี่ อ นไหวตอ การเกดิ ดนิ ถลม ใน
ดําเนินการสํารวจ ศกึ ษา วิจยั ปจ จัยตาง ๆ ทส่ี งผลใหเ กดิ ธรณี ระดับทองถ่ิน แปลขอมูลรองรอยดินถลมดวยขอมูลสํารวจ
พิบัติภัยและติดตามพฤติกรรมของธรณีพิบัติภัยตาง ๆ เพื่อ ระยะไกลในระดับทองถิ่น และจัดทําแผนที่รองรอยดินถลม
ประเมนิ สถานภาพ/กาํ หนดขอบเขตพนื้ ทเี่ สยี่ งภยั จดั ทาํ แนวทาง (Landslide Inventory Map) ตรวจสอบและเกบ็ ขอ มลู ภาคสนาม
หรอื มาตรการปอ งกนั /บรรเทาผลกระทบจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ตา ง ๆ ดานธรณีวิทยาและธรณีพิบัติภัยใหมีความถูกตองเปนปจจุบัน
พัฒนาขีดความสามารถในการคาดการณและพยากรณ และวิเคราะหขอมูลดวยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร เพื่อจัดทาํ
ความเสี่ยงตอการเกิดธรณีพิบัติภัย สรางระบบเตือนภัยทาง แผนที่พื้นที่ออนไหวตอการเกิดธรณีพิบัติภัย และแผนที่พื้นท่ี
ธรรมชาติโดยการมีสวนรวมของประชาชน ในการรวมกัน อนั ตรายจากการเกิดธรณพี ิบัติภัยดินถลม (Landslide Hazard
เฝาระวังและแจงเตือนภัยลวงหนา รวมทั้งเสริมสรางความรู zoning Map) ในพนื้ ท่ี 5 จงั หวดั (จงั หวดั นา น อตุ รดติ ถ อทุ ยั ธานี
ความเขาใจเกี่ยวกับธรณีพิบัติภัย แกประชาชนและทองถ่ิน ประจวบครี ีขันธ และกระบ)่ี

หนา ถํา้ กอนถลม ปราสาทหินพันยอด จังหวัดสตูล หนา ถาํ้ หลังถลม ปราสาทหินพันยอด จังหวดั สตลู

30

แผนท่พี น้ื ที่ออนไหวตอการเกิดดนิ ถลม ในพ้ืนที่ 5 จงั หวัด
(จังหวัดนาน อุตรดติ ถ อุทยั ธานี ประจวบครี ีขันธ และกระบ่)ี

31

2. จดั ทาํ แผนทเ่ี สย่ี งภยั ดนิ ถลม ระดบั ชมุ ชน พนื้ ทเ่ี สย่ี งภยั ดนิ ถลม เปน ขอ มลู ทแ่ี สดงถงึ พน้ื ทที่ จ่ี ะไดร บั ผลกระทบ
ขอ มลู แผนทเ่ี สย่ี งภยั ดนิ ถลม ระดบั ชมุ ชน จดั ทาํ ขน้ึ เพอ่ื จากดนิ ถลม เชน รองรอยการเกดิ ดินถลมในอดีต ขอบเขตพืน้ ท่ี
แสดงขอบเขตของพนื้ ทเ่ี สย่ี งภยั ขอบเขตพนื้ ทท่ี อี่ าจไดร บั ผลกระทบ เสี่ยงภัยดินถลม น้าํ ปาไหลหลาก และนาํ้ ทวมฉับพลัน รวมท้ัง
และตําแหนงท่ีตั้งของพ้ืนท่ีปลอดภัย สําหรับการติดตาม ตําแหนง หมบู า นและบา นเรอื นเสยี่ งภยั เปน ตน และขอ มลู เกย่ี วกบั
สถานการณแ ละสนับสนนุ การเฝา ระวังแจงเตอื นพบิ ัติภัยตา ง ๆ เครือขายเฝาระวังแจงเตือนธรณีพิบัติภัย เปนขอมูลที่มี
รวมท้ังใชเปนเครื่องมือในการวางแผนเชิงพ้ืนที่และบริหาร ความสาํ คัญตอกระบวนการเฝาระวังแจงเตือนธรณีพิบัติภัย
สถานการณทั้งกอนเกิดเหตุการณ ขณะเกิดเหตุการณ และ เชน ตาํ แหนงบานเครือขาย เฝาระวังแจงเตือนธรณีพิบัติภัย
การชว ยเหลอื บรรเทาหลงั เกดิ เหตกุ ารณ ซงึ่ ประกอบดว ย 3 สว นหลกั โดยในปง บประมาณ พ.ศ. 2564 ไดด ําเนนิ การในพน้ื ท่ี 35 ตาํ บล
คือ ขอมูลแผนที่ฐานซึ่งเปนขอมูลท่ีแสดงถึงลักษณะ ของจังหวัดกาํ แพงเพชร นครสวรรค อุทัยธานี ขอนแกน
ภูมิประเทศ และขอบเขตการปกครองของพ้ืนท่ี อาทิ ถนน หนองคาย อดุ รธานี นครราชสมี า นครนายก สระแกว สพุ รรณบรุ ี
ทางรถไฟ ขอ มลู แมน ํ้า ลาํ คลอง แหลง น้าํ ขอ มลู สถานทส่ี าํ คญั ขอ มลู ฉะเชิงเทรา ชลบรุ ี ตราด และกระบ่ี

แผนท่พี ืน้ ทเี่ สี่ยงภัยแผน ดินถลม ระดบั ชมุ ชน ตาํ บลเกาะชา ง อําเภอเกาะชาง จงั หวัดตราด

แผนที่พน้ื ทเ่ี สยี่ งภัยแผนดนิ ถลม ระดับชมุ ชน ตําบลเกาะชา ง อําเภอเกาะชา ง จังหวัดตราด

32

3. สรา งโครงขายชมุ ชนเขม แข็ง ลมุ นํา้ ชายฝง ทะเลประจวบคีรีขนั ธ (จงั หวัดเพชรบรุ )ี และลมุ น้ํา
กระบวนการบรรเทาผลกระทบจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม ชายฝง ทะเลตะวนั ออก (จังหวัดจันทบรุ ี)
นอกจากหนว ยงานภาครฐั ทตี่ อ งเขา มามบี ทบาทในการดาํ เนนิ การ (2) สรา งแกนนําเครอื ขา ยเฝา ระวงั แจง เตอื นธรณพี บิ ตั ภิ ยั
ปอ งกนั และบรรเทาผลกระทบดา นตา ง ๆ แลว กรมทรพั ยากรธรณี โดยการฝกอบรม สัมมนา เผยแพรองคความรูดานการจัดการ
ไดเล็งเห็นถึงความสาํ คัญของการใหทุกภาคสวน โดยเฉพาะ ธรณพี บิ ตั ภิ ยั การสรา งการมสี ว นรว มในการเฝา ระวงั ธรณพี บิ ตั ภิ ยั
ประชาชน และเยาวชนในพ้ืนท่ีเสี่ยงภัยเขามามีบทบาทในการ การเชอื่ มโยงโครงขา ยใหค รอบคลมุ ทงั้ ระบบตน น้ํา กลางนา้ํ และ
จดั การพบิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม ในชมุ ชนของตนเอง จงึ ไดด ําเนนิ การสรา ง ปลายนํา้ และกําหนดรูปแบบการเรียนรูดานธรณีพิบัติภัย
โครงขา ยชมุ ชนเขม แขง็ ขนึ้ โดยหนว ยงานภาครฐั และภาคเอกชน ในชุมชนใหกับประชาชน ผูนําชุมชน คณะครูอาจารยและ
จะเขาไป มีบทบาทสําคัญในการเผยแพรความรูความเขาใจ เยาวชนในระบบการศึกษา เพ่ือเพิ่มขีดความสามารถใหชุมชน
เรอ่ื งดนิ ถลม สนบั สนนุ ขอ มลู ทางวชิ าการและอปุ กรณก ารเฝา ระวงั มีความเขมแข็ง พรอมท่ีจะรับมือกับธรณีพิบัติภัยไดอยาง
ตลอดจนการประสานงานแจงเตือนภัย ในขณะที่ประชาชน มปี ระสิทธภิ าพและยัง่ ยนื รวมทง้ั เสรมิ สรา งประสิทธิภาพใหกบั
ในพนื้ ทเ่ี สยี่ งภยั ทาํ หนา ทเี่ ฝา ระวงั ธรณพี บิ ตั ดิ นิ ถลม ในชมุ ชนของ เครือขายฯ โดยการซกั ซอ มแผนการเฝา ระวงั ฯ ที่ไดเ คยรว มกนั
ตนเองตระหนักถึงความเส่ียงภัยและเรียนรูวิธีการปฏิบัติตน จัดทาํ ไวเปนประจาํ ทาํ ใหประชาชน 1,137 ราย มีการเตรียม
ซึ่งจะทาํ ใหสามารถดํารงชีวิตอยูในพ้ืนที่ไดอยางปกติสุข พรอ มรับมือกบั ธรณพี บิ ัติภยั ดนิ ถลม
โดยไดดําเนนิ การ (3) การเฝาระวัง ติดตามขาวสารสถานการณอากาศ
(1) สาํ รวจตรวจสอบ รวบรวมขอมูลดานธรณีวิทยา ประสานงานเครอื ขา ยเฝา ระวงั แจง เตอื นธรณพี บิ ตั ภิ ยั ในชว งทม่ี ี
ธรณพี บิ ตั ภิ ยั เพอ่ื กาํ หนดแนวทางในการเฝา ระวงั แจง เตอื นภยั พายุหรอื มรสุม และออกขาวประชาสมั พนั ธแ จง ใหเครือขายเฝา
ในชุมชน และรูปแบบการเชื่อมโยงขอมูลในการเฝาระวังธรณี ระวงั แจง เตอื นธรณพี บิ ตั ภิ ยั เฝา ระวงั ภยั ทอ่ี าจเกดิ จากฝนตกหนกั
พิบัติภัยตามลุมนาํ้ ซึ่งดําเนินการจัดทาํ รายละเอียดขอมูลดาน ตดิ ตอ กนั หลายวนั และอาจเกดิ ภยั พบิ ตั ดิ นิ ถลม จาํ นวน 36 ฉบบั
ธรณพี ิบตั ภิ ยั โดยการวิเคราะหพ ืน้ ท่ีเสี่ยงภยั ระดบั ชุมชน จัดทาํ พรอมท้ังดําเนินการติดตาม ตรวจสอบขอมูล ปรับปรุง และ
แผนที่ประเมินผลกระทบพิบัติภัยดินถลม ระดับตําบล แผนท่ี พัฒนา เครื่องมือท่ีไดรับการติดตั้งในพื้นท่ีเส่ียงภัย เพื่อให
เสน ทางอพยพภัยพบิ ตั ดิ ินถลม ระดับหมูบ าน ในพ้ืนที่ 4 ลมุ น้ํา การคาดการณและพยากรณความเส่ียงตอการเกิดธรณีพิบัติภัย
คือ ลุมนาํ้ แมกลอง (จังหวัดอุทัยธานี) ลุมนํา้ ชี (จังหวัดเลย) มีประสทิ ธิภาพย่งิ ขนึ้

การถา ยทอดองคความรเู ก่ียวกับธรณีพบิ ัตภิ ยั พ้นื ทเี่ ส่ยี งภัย
และการจดั ทาํ แผนการเฝา ระวงั แจง เตอื นธรณีพบิ ัติภยั ใหก ับประชาชนและเยาวชนในพนื้ ท่เี ส่ียงภยั

33

การถายทอดองคค วามรูเก่ยี วกบั ธรณีพิบตั ิภยั ผา นระบบออนไลน
ตัวอยา งการติดตามสถานการณแ ละแจงเตือนภยั ดินถลม นาํ้ ปา ไหลหลาก ของกลุม ไลนเครอื ขา ยเฝาระวงั ฯ

ของกรมทรัพยากรธรณี
ตัวอยางรายงานการติดตามสถานการณ และการออกขา วประชาสัมพันธ

34 แจงใหเครือขายเฝา ระวงั แจงเตอื นธรณพี ิบตั ภิ ยั เฝา ระวงั

รายงานผลการปฏิบตั ิงาน

โครงการพฒั นาแหลงทองเท่ียวทางธรณีวิทยา

กรมทรพั ยากรธรณไี ดด าํ เนนิ การผลกั ดนั ใหเ กดิ การทอ งเทย่ี ว 4 ประเด็นหลัก ไดแก 1) การซักถามขอมูลธรณีวิทยาในพ้ืนท่ี
เชิงวิชาการภายในพื้นท่ีศักยภาพอุทยานธรณี โดยตระหนักถึง ดําเนินงาน 2) จดั ทาํ แหลงเรยี นรูธรณีวทิ ยาเพือ่ สรางศูนยกลาง
เปา หมายในการพฒั นาการทอ งเทยี่ ว พรอ มกบั การอนรุ กั ษแ หลง สําหรับเผยแพรองคความรูทางธรณีวิทยาในพื้นที่ดาํ เนินงาน
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม อยา งยง่ั ยนื โดยชมุ ชนทอ งถน่ิ 3) จดั การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารหรอื การอบรมสมั มนาใหค วามรู
มสี วนรว ม และใหเ กิดสมั ฤทธ์ผิ ล จงึ จดั ทาํ โครงการพัฒนาแหลง แกผูที่เก่ียวของเครือขายอนุรักษธรณีวิทยาในพื้นท่ีดาํ เนินงาน
ทองเท่ียวทางธรณีวิทยาขึ้น โดยมีกิจกรรมบูรณาการ เพอ่ื ใหม คี วามรสู าํ หรบั ปฏบิ ตั งิ านดา นการอนรุ กั ษธ รณวี ทิ ยาการ
ใหเ กดิ การทอ งเทย่ี วเชงิ ธรณใี นพน้ื ทแ่ี หลง ธรณวี ทิ ยาเพอ่ื สง เสรมิ อนรุ กั ษม รดกธรณเี สรมิ สรา งการมสี ว นรว มโดยการรบั ฟง ความเหน็
ใหเกิดการทองเที่ยวทางธรณีวิทยาท่ีอยูภายใตการดูแล จากชุมชนในพื้นท่ีรวมถึง การแลกเปล่ียนเรียนรูขอมูลระหวาง
ของหนวยงานอ่ืนที่อยูในเครือขายดานการอนุรักษของ หนวยงานในพื้นท่ี และ 4) จัดทําขอมูลเอกสารส่ือเผยแพร
กรมทรัพยากรธรณีในพื้นที่ท่ีมีศักยภาพสูงในพ้ืนท่ี 22 จังหวัด ส่ิงพิมพ เพ่ือเผยแพรข อ มลู ของแหลง ทอ งเทยี่ วทางธรณีวทิ ยา
ท่ัวประเทศกลายเปนแหลงทองเที่ยวแหงใหมของประเทศ
โดยการสนบั สนนุ ดว ย องคค วามรทู างวชิ าการดา นธรณวี ทิ ยาให
มกี ารปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั น เสน ทางการทองเท่ยี ว ศนู ยก ลางการเรียนรู
เชิงพ้ืนท่ีและเพ่ือส่ือสารใหถึงกลุมเปาหมายตาง ๆ นอกจากน้ี
ยงั มกี ารจดั มหกรรมเปด โลกธรณวี ทิ ยาเพอื่ การทอ งเทยี่ วเปน การ
ประชาสัมพันธสงเสริมใหเกิดการทองเที่ยวทางธรณีวิทยาตาม
แหลง ธรณวี ทิ ยาและพพิ ธิ ภณั ฑธ รณวี ทิ ยา กรมทรพั ยากรธรณี ใหเ ปน
ทร่ี ูจักโดยทว่ั ไปผานกลไกการรวมจดั นิทรรศการระดบั ประเทศ
การดําเนินการดังกลาวขางตนเปนการอนุรักษแหลง
ทองเทีย่ วทางธรรมชาติทม่ี ีความเปาะบาง โดยการพัฒนาอยา ง
ย่ังยืนดึงดูดกลุมนักทองเท่ียวที่มีศักยภาพและสอดคลองกับ
ยุทธศาสตรชาติที่มุงเนนเพ่ิมสัดสวน ของนักทองเที่ยวท่ี
มีคุณภาพสูงพัฒนาการทองเที่ยวโดยการเพิ่มมูลคาโดย
อตั ลกั ษณแ ละวฒั นธรรมไทยและพฒั นาแหลง ทอ งเทยี่ วเดมิ และ
สรางแหลงทองเที่ยวใหมที่มีเอกลักษณเฉพาะตัวโดยคาํ นึงถึง
ศกั ยภาพของแตล ะพน้ื ที่ สําหรบั ผลการดาํ เนนิ งานของโครงการ
พฒั นาแหลง ทอ งเทยี่ วทางธรณวี ทิ ยาในปง บประมาณ พ.ศ. 2564 มดี งั น้ี
1. กิจกรรมพัฒนาใหเกิดการทองเที่ยวเชิง
วิชาการภายในพื้นที่อุทยานธรณี
กรมทรพั ยากรธรณไี ดด ําเนนิ การพฒั นาใหเ กดิ การทอ งเทยี่ ว
เชิงวิชาการภายในพื้นท่ีอุทยานธรณี 7 แหง ไดแก ถํ้าทะลุ
(เขาขาว) น้าํ ตกธารปลิว หินสาหรายปาพน (Stromatolite)
เขาทะนาน น้าํ ตกวังสายทอง ถํ้าเจ็ดคต จังหวัดสตูล และ
วัดเขาจันทนงาม จังหวัดนครราชสีมา โดยกรมทรัพยากรธรณี
ดาํ เนินการจัดทาํ ขอมูลวิชาการดานธรณีวิทยาและสนับสนุน
ใหหนวยงานหรือชุมชนในทองถิ่นเกิดการรับรูในการอนุรักษ
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม สง เสรมิ ใหเ กดิ การทอ งเทย่ี ว การสํารวจขอมลู ธรณีวทิ ยา และรายงานการสํารวจและพัฒนาแหลง ทอ งเทย่ี ว
ภายในชุมชนท่ีมีแหลงธรณีวิทยาท่ีนาสนใจ โดยดาํ เนินการใน ทางธรณวี ิทยา พื้นทีถ่ ํ้าเจด็ คต

35

การจดั ทําแหลงเรียนรธู รณีวิทยา พน้ื ท่ถี ํ้าทะลุเขาขาว และพืน้ ท่ีโรงเรยี นบานปาพน

การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั ิการฯ พนื้ ท่วี ดั เขาจันทนง าม
และการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในรปู แบบออนไลน พ้ืนท่ีโรงเรยี นบานปาพน ถ้ําเจด็ คต และนา้ํ ตกวังสายทอง

เอกสารสือ่ เผยแพร สง่ิ พมิ พ เพอื่ เผยแพรข อ มลู ของแหลง ทอ งเทย่ี วทางธรณวี ทิ ยา

2. กิจกรรมจัดมหกรรมเปด โลกธรณวี ทิ ยา ทางธรณีวทิ ยาของกรมทรพั ยากรธรณี เปน ท่ีรูจ ักโดยทัว่ ไปผาน
เพื่อการทองเทย่ี ว กลไกการจดั นทิ รรศการระดบั ประเทศและระดบั นานาชาติ โดย
กรมทรัพยากรธรณีไดดําเนินการจัดงานมหกรรมเปด ความรวมมือกับหนวยงานตาง ๆ ทั้งในและตางประเทศ หรือ
โลกธรณวี ทิ ยาเพื่อการทอ งเท่ยี ว จาํ นวน 2 ครัง้ ในพน้ื ทีอ่ ทุ ยาน การสนับสนุนสงเสริมพ้ืนท่ีหรือแหลงทางธรณีวิทยาที่มีชื่อเสียง
ธรณีโคราช จงั หวดั นครราชสีมา และพน้ื ที่อุทยานธรณีโลกสตูล ในการอนรุ กั ษธ รณวี ทิ ยาโดยการมสี ว นรว มของชมุ ชนในระดบั ชาติ
จังหวัดสตูล เพื่อเปนการสงเสริมประชาสัมพันธสงเสริมให หรือระดับนานาชาติ ใหมีการดําเนินงานอยางตอเน่ืองและ
การทอ งเทยี่ วทางธรณวี ทิ ยา ตามแหลง ธรณวี ทิ ยาและพพิ ธิ ภณั ฑ เปนรูปธรรม

งานมหกรรมเปดโลกธรณวี ิทยาเพอ่ื การทอ งเท่ียว ครงั้ ท่ี 7 โคราชจโี อพารค เฟสติวัล ระหวา งวนั ที่ 26 - 28 กุมภาพนั ธ 2564
ณ สถาบันวิจยั ไมก ลายเปน หินและทรพั ยากรธรณี ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื เฉลมิ พระเกยี รติ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครราชสีมา

งานมหกรรมเปดโลกธรณวี ทิ ยาเพอื่ การทอ งเท่ียว ครั้งท่ี 8 มหกรรมเทย่ี วทพิ ยอทุ ยานธรณีโลกสตลู ปปกตใิ หม 2564
(Satun UNESCO Global Geopark Virtual Tourism Festival in the New Normal Year 2021)

36 ระหวางวนั ที่ 23 - 24 กันยายน 2564 โดยจดั งานมหกรรมฯ ในรปู แบบออนไลน

รายงานผลการปฏิบตั งิ าน

การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรธรณี

1. ดานการสาํ รวจและประเมินสถานภาพ 3. จัดทํา กําหนดมาตรฐานและประมวล
ทรพั ยากรธรณี วธิ ปี ฏบิ ัตทิ างธรณีวิทยาของประเทศ

การประชุมระดมความคิดเห็นมาตรฐานธรณีวิทยา
1.1 การจดั ทาํ มาตรฐาน และคลงั ขอ มลู ดา นธรณวี ทิ ยา เรอ่ื ง “มาตรฐานลําดบั ชน้ั หนิ การทําแผนทธ่ี รณวี ทิ ยา หมวดหนิ
และทรัพยากรธรณี มหาสารคามและหมวดหินภูทอก” เม่ือวันศุกรท่ี 29 มกราคม
2564 ณ หองประชุมกรมทรัพยากรธรณี ประกอบดวย
1. สาํ รวจ ตรวจสอบ ปรบั ปรงุ เกบ็ รวบรวม ผูทรงคุณวุฒิ ผูเช่ียวชาญดานธรณีวิทยา บุคลากรของ
ขอมูลและผลิตขอมูลแผนที่ธรณีวิทยา ในระดับ กรมทรัพยากรธรณี และทางระบบออนไลน ประกอบดวย
ประเทศ สถาบนั การศกึ ษา ภาคเอกชน หนว ยงานทเ่ี กยี่ วขอ ง นกั วชิ าการ
การดําเนินงานดานแผนที่ธรณีวิทยาในปงบประมาณ และผูเช่ียวชาญทางธรณีวิทยา โดยมีนายสมหมาย เตชวาล
อธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี เปน ประธานเปด งานประชมุ มผี เู ขา รว ม
พ.ศ. 2564 ไดดําเนินการรวบรวม และปรับปรุงแผนที่ธรณี ประชมุ ทงั้ หมด 105 คน นอกจากนก้ี ารประชมุ นย้ี งั ไดด ําเนนิ การ
ประเทศไทย พื้นที่ภาคใตภายใตกรอบแผนที่ระวางมาตราสวน อภิปราย ระดมความคดิ เห็น ปรึกษาหารอื ในหวั ขอ มาตรฐาน
1:250,000 จาํ นวน 14 ระวาง เพอ่ื ใหม คี วามตอ เนอ่ื งของแผนท่ี การลําดบั ชนั้ หนิ การทาํ แผนทธี่ รณวี ทิ ยา หมวดหนิ มหาสารคาม
และปรับแกร ะบบพกิ ดั แผนทีจ่ าก Indian 1975 เปน WGS 84 และหมวดหนิ ภทู อก รว มกนั ในทป่ี ระชมุ ดว ย เพอื่ เปน การเรม่ิ ตน
พรอมจัดการฐานขอมูลสารสนเทศรายระวางมาตราสวน ใหเ กดิ มาตรฐาน แนวทางการปฏบิ ตั เิ ดยี วกนั ในระดบั หนว ยงาน
1: 50,000 ใหมีความถูกตองสมบูรณ และพรอมจัดเก็บอยูใน ทงั้ ภายใน ภายนอก และการผลักดันไปสูก ารถือปฏิบัตใิ นระดับ
ระบบฐานขอ มลู สารสนเทศทางภมู ศิ าสตร การดําเนนิ งานในสว นน้ี ประเทศตอไป
ไดด ําเนนิ แลว เสรจ็ ไปบางสว น ยงั คงอยใู นขน้ั ตอนการดําเนนิ งาน
อยางตอ เนื่อง ดาํ เนนิ การจดั ทําหนงั สอื อภธิ านศพั ทธ รณวี ทิ ยา เลม ที่ 2
(ลําดับอักษร L-Z) ตอเน่ืองการจัดทาํ อภิธานศัพทธรณีวิทยา
เลมท่ี 1 (ลาํ ดับอักษร A-K) ท่ีดาํ เนินการในปง บประมาณ 2563
2. ศึกษา วจิ ัย และพฒั นาดา นธรณีวิทยา ไปแลว ซึ่งการจัดทําหนังสืออภิธานศัพทธรณีวิทยาถือวาเปน
ในระดับประเทศ ความรว มมอื ระหวา งกรมทรพั ยากรธรณี สมาคมธรณวี ทิ ยาแหง
ประเทศไทย นกั วชิ าการ จากสถาบนั การศกึ ษา และนกั วชิ าการ
งานวจิ ยั ในหวั ขอ “การจําแนกหนิ ตน กําเนดิ ของหนิ ไนส อสิ ระจากหลายภาคสว น หนงั สอื อภธิ านศพั ทธ รณวี ทิ ยาทงั้ เลม 1
ลานสาง จังหวัดตาก หินคลองขลุง จังหวัดกาํ แพงเพชร และ และ 2 นเ้ี ปน การเรยี บเรยี งคําศพั ทท างธรณวี ทิ ยาเปน ภาษาไทย
หินไนสบ า นทบั ศิลา จงั หวดั กาญจนบรุ ”ี ซึ่งถอื วา เปนสว นหน่ึง ทใี่ หค วามหมายเทยี บเคยี งมาจากเอกสารอา งองิ และพจนานกุ รม
ของการลําดับชั้นหินหนวยหิน พรีแคมเบรียน ในพื้นท่ี ประกอบหลายเลม เพ่ือใหมีความสมบูรณตามความหมายของ
ประเทศไทย ท่ีไดดาํ เนินการอยางตอเน่ืองมาหลายป ซ่ึงถือวา คาํ ศัพททางธรณีวิทยาน้ัน ๆ และไดมีการเทียบเคียงการออก
เปนการตอยอดงานวิจัย ใหมีความนาสนใจและมีหลากหลาย เสียงคําอานของคาํ ศัพททางธรณีวิทยาในภาษาอังกฤษไวดวย
เพิ่มขึ้น และจัดทาํ รายงาน เรื่อง “การจัดทาํ คลังตัวอยางทาง และเนอ่ื งดว ยอภธิ านศพั ทธ รณวี ทิ ยาองั กฤษ-ไทย มคี าํ ศพั ทท าง
ธรณีวิทยา” ซ่ึงเปนการรวบรวมระบบขอมูลของงานคลังท่ีได ธรณวี ทิ ยาเปน จํานวนมาก การจดั พมิ พไ วใ นเลม เดยี วกนั จะทําให
ดาํ เนนิ งานในชว งหลายปท ผี่ า นมา พรอ มทง้ั ขอ เสนอแนวความคดิ หนังสือมีความหนามาก จึงจัดแบงออกเปน จํานวน 2 เลม
ที่เกี่ยวของกับการจัดการฐานขอมูลคลังตัวอยางทางธรณีวิทยา ดงั กลา ว
เพ่ือเปนแนวทางการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของคลัง
ตัวอยางทางธรณีวิทยาและทําใหก อเกิดประโยชนมากทีส่ ดุ

37

เอกสารวชิ าการ เอกสารสงิ่ พิมพ

หนังสอื อภธิ านศัพทธ รณวี ทิ ยา เลมที่ 1 (ลําดบั อักษร A-K) หนงั สืออภิธานศพั ทธรณีวทิ ยา เลมที่ 2 (ลําดับอกั ษร L-Z)
ท่ไี ดดาํ เนนิ การในปงบประมาณ 2563 ท่ีไดดาํ เนินการในปงบประมาณ 2564

รายงานการจัดทําคลงั ตวั อยา งทางธรณีวทิ ยา รายงานวชิ าการคมู อื การประเมนิ ปรมิ าณทรัพยากรแร

4. พฒั นา รวบรวม และจดั เกบ็ หลกั ฐานทาง ธรณวี ทิ ยา โดยธรณวี ตั ถุ เปน หนิ แร ตะกอน และซากดกึ ดาํ บรรพ
ธรณวี ทิ ยา เพ่อื การเรียนรูการวิจยั และการอา งอิง ซ่ึงปจจุบันไดรับการข้ึนทะเบียนแลวจาํ นวน 7,374 ตัวอยาง

คลังตัวอยางธรณีวิทยา (Geological collections) สามารถจัดจาํ แนกตามรูปแบบท่ีมา และความโดดเดนทาง
เปนแหลงรวบรวมและเก็บรักษาตัวอยาง หลักฐานอางอิง ธรณีวิทยาออกเปน 9 ประเภท ไดแก ตัวอยางหินเชิงพ้ืนที่
เอกสารขอ มลู งานวจิ ยั ดา นธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณภี ายใน ตัวอยาง ซากดึกดาํ บรรพ ตัวอยางแร ตัวอยางลาํ ดับช้ันหิน
ประเทศและตา งประเทศ ผา นงานสํารวจจดั ทําขอ มลู ธรณวี ทิ ยา ตวั อยา งตะกอน ตวั อยา งธรณวี ทิ ยาตา งประเทศ ตวั อยา งแทง เจาะ
ของกรมทรัพยากรธรณี รวมถึงโครงการความรวมมือระหวาง ตัวอยางธรณีวิทยาโครงสราง และตัวอยางขนาดใหญพิเศษ
ประเทศท่ีมีมาอยางยาวนาน ประกอบดวย 2 สวน ไดแก ภายใตร ะบบบรหิ ารจดั การคลงั ตวั อยา งธรณวี ทิ ยา ณ อาคารคลงั
(1) ธรณีวตั ถุ (Geological material) และ (2) ขอ มลู ตัวอยา ง ตวั อยา งธรณวี ทิ ยา ศนู ยว จิ ยั ทรพั ยากรแรแ ละหนิ จงั หวดั ระยอง

38

ในสวนขอมูลตัวอยางธรณีวิทยาเปนชุดขอมูลท่ีถูกรวบรวมและ พฒั นาสระบอ ดนิ ขาว อําเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค, โครงการ
ดาํ เนินการพรอมกับการจัดทําคลังตัวอยางธรณีวิทยา เชน จดั เก็บตัวอยา งหนว ยหนิ แบบฉบับพืน้ ท่ภี าคใต, โครงการจดั ทาํ
ขอ มลู ทะเบยี นตวั อยา ง รายงานการศกึ ษาวจิ ยั ภาพถา ย ผลการ ลําดับช้ันหินหนวยหินพรีแคมเบรียน พ้ืนที่ภาคตะวันออกและ
วิเคราะหทางเคมี และผลการวิเคราะหทางกายภาพ เปนตน ภาคใต, และโครงการจัดเก็บตัวอยางหินและแร เปนตน
การจัดทาํ คลังตัวอยางธรณีวิทยาในอนาคตควรจะมุงเนนการ รวมจํานวน 210 ตัวอยาง แบงเปนตัวอยางหินเชิงพื้นที่ (A)
เชอ่ื มโยงฐานขอ มลู คลงั ตวั อยา งธรณวี ทิ ยาเขา กบั ฐานขอ มลู อน่ื ๆ จาํ นวน 141 ตวั อยา ง, ตัวอยางหินเชิงพ้ืนทที่ ่ีมขี นาดใหญ (XA)
ทงั้ ภายในและภายนอกกรมทรพั ยากรธรณี ควบคูกับการจดั ทาํ จาํ นวน 1 ตัวอยาง, ตัวอยางแรที่มีขนาดใหญ (XM) จํานวน
มาตรฐานธรณีวิทยาของประเทศไทย ซ่ึงจะชวยผลักดันใหเกิด 2 ตัวอยาง, ตัวอยางตะกอน (Q) จํานวน 60 ตัวอยาง และ
การนําไปใชส าํ หรบั การวางแผนและสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจอยา ง ตัวอยางแร (M) จาํ นวน 6 ตวั อยาง
มีประสิทธิภาพและเปนประโยชนสูงสุด ผลการดําเนินงาน 3) การพฒั นาระบบคลงั ตวั อยา งธรณวี ทิ ยาและบรหิ าร
ในสวนของการพัฒนา รวบรวม และจัดเก็บหลักฐานทาง จัดการขอมูลทะเบียนตัวอยางเน่ืองจากการพัฒนาของ
ธรณวี ทิ ยาเพอื่ การเรยี นรกู ารวจิ ยั และการอา งองิ ในปง บประมาณ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมสมยั ใหมท เี่ ปลยี่ นแปลงไปอยา งรวดเรว็
พ.ศ. 2564 ประกอบดว ย สงผลใหแนวทางการศึกษาธรณีวิทยา มีความหลากหลายมาก
1) การจัดเก็บตัวอยางการจัดเก็บตัวอยางหนวยหิน ยิ่งข้ึน โดยการจัดทําระบบขอมูลและระบบคลังตัวอยาง
สําคัญและตะกอนชายหาด และตัวอยางที่สาํ คัญ ของ ธรณีวิทยาของประเทศ นาํ เขาขอมูลแลวกวา 7,374 ตัวอยาง
ประเทศไทย รวมจํานวน 144 ตัวอยา ง พรอมท้ังการตรวจสอบความถูกตองของขอมูลตัวอยาง
2) การรวบรวมและจัดทําทะเบียนตัวอยางจาก ธรณีวิทยา เพื่อใชในการพัฒนาระบบสืบคนขอมูล และการ
โครงการตา ง ๆ ในกรมทรพั ยากรธรณแี ละจากบคุ คลท่วั ไป เชน ใหบริการตัวอยาง (นําเขา-สืบคน-ยืม-คืน) ผานทางระบบ
โครงการสํารวจธรณีวิทยา บริเวณพ้ืนท่ีเขาวง ภายใตโครงการ อนิ เทอรเ นต็

การพฒั นาระบบคลังตวั อยาง

เวบ็ ไซต http://bgs.dmr.go.th/ เพอ่ื ใชในการสืบคนตวั อยางของคลังตวั อยา งทางธรณวี ทิ ยา 39

การดาํ เนนิ งานคลงั ตัวอยา งทางธรณีวทิ ยา

อาคารคลังตัวอยางทางธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ในพนื้ ที่อําเภอแกลง จังหวัดระยอง

ขอ มู ูลแผนที่ธรณีวทิ ยา

(ก) (ข)

(ก) แผนทธ่ี รณีวทิ ยาท่ไี ดท ําการรวบรวมในพ้นื ทภ่ี าคใต (ข) ตัวอยา งแผนที่ธรณวี ิทยาไดดาํ เนินการแลว เสร็จ
ของประเทศไทย มาตราสว น 1:50,000 ทัง้ ระบบพิกดั Indian 1975 ระวางจงั หวัดสตลู (NB 47-7) มาตราสว น 1:250,000
และ WGS 1984 กอนทจ้ี ะดาํ เนินการปรับปรุงใหมคี วามตอ เนอ่ื งกนั

40

การดําเนนิ งานจัดทาํ แผนท่ธี รณีวิทยาบรเิ วณเขาวง อําเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค

(ก) ลกั ษณะภูมิประเทศของเขาวง ท่ีประกอบดว ยหนิ ปูน (ก) ลักษณะภมู ิประเทศที่เปนท่รี าบของตะกอนท่รี าบนํา้ ทวมถึง
ยคุ เพอรเมยี น (ข) ช้ันหินปนู ทีพ่ บบรเิ วณเขาวง (ข) ตะกอนเศษหนิ เชิงเขาท่ีพบบริเวณเขาวง

แผนท่ธี รณีวทิ ยาโครงการบอ ดนิ ขาว อําเภอตาคลี จงั หวัดนครสวรรค ที่ไดจ ัดทําเพื่อสนับสนนุ โครงการพัฒนาแหลง นาํ้ พน้ื ที่สระบอ ดนิ ขาว
ตาํ บลพรหมนิมติ อาํ เภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค

41

1.2 การสํารวจขอมูลพ้ืนฐานดานธรณีวิทยาและ ดินเหนียวสี จงั หวัดอุบลราชธานี
ทรพั ยากรธรณี ดินมารล จงั หวดั ลพบรุ ี
ดินซีเมนต จงั หวัดสระบรุ ี
• สาํ รวจขอมูลพื้นฐานดานทรัพยากรแร ดินเบา จังหวัดลําปาง
การสาํ รวจ ศึกษา และจัดทําชุดขอมูลพื้นฐาน
ดา นทรพั ยากรแร (ดนิ อตุ สาหกรรม : ดนิ ซเี มนต ดนิ เบา ดนิ มารล
และดนิ เหนยี วส)ี เพ่ือปรับปรงุ ฐานขอมูล ผลการดําเนนิ งานพบ
ดนิ อตุ สาหกรรมกระจายตวั อยใู นประเทศไทย รวมทง้ั สน้ิ 15 จงั หวดั
ไดแก จังหวัดลพบุรี สระบุรี สิงหบุรี อางทอง กาญจนบุรี
เพชรบรุ ี กระบี่ นครศรธี รรมราช ปราจนี บรุ ี ชยั ภมู ิ นครราชสมี า
อุบลราชธานี นครสวรรค แพร และลาํ ปาง สามารถสรุปผลการ
ตรวจสอบและแกไ ขปรบั ปรงุ ขอ มลู ทรพั ยากรแร โดยจําแนกเปน
ดนิ อตุ สาหกรรมแตละชนดิ ได ดังนี้
1. ดินซีเมนต พบกระจายตัวอยูในจังหวัดลาํ ปาง
นครสวรรค ลพบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี เพชรบุรี นครราชสีมา
นครศรีธรรมราช และกระบี่ มเี น้อื ทร่ี วม 65.61 ตารางกิโลเมตร
หรือประมาณ 41,000 ไร และมีปริมาณทรัพยากรแร
รวม 880.93 ลานเมตริกตนั
2. ดินเบา พบกระจายตวั อยใู นจงั หวดั ลําปาง มเี น้อื ท่ี
รวม 53.43 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 33,400 ไร และ
มีปรมิ าณทรัพยากรแรรวม 357.11 ลานเมตรกิ ตัน
3. ดินมารล พบกระจายตัวอยูในจังหวัดแพร ลพบุรี
สระบุรี และกาญจนบุรี มีเนื้อที่รวม 251.03 ตารางกิโลเมตร
หรือประมาณ 156,900 ไร และมีปริมาณทรัพยากรแร
รวม 2,759.37 ลานเมตริกตัน
4. ดินเหนียวสี พบกระจายตัวอยูในจังหวัดลาํ ปาง
สิงหบุรี อางทอง ชัยภูมิ ลพบุรี สระบุรี นครราชสีมา และ
อุบลราชธานี มเี นือ้ ทีร่ วม 77.93 ตารางกโิ ลเมตร หรอื ประมาณ
48,700 ไร และมปี รมิ าณทรพั ยากรแรร วม 759.51 ลา นเมตรกิ ตนั

การเจาะแบบมือหมนุ พ้นื ทจี่ งั หวัดอุบลราชธานี การปฏบิ ัติงานสนาม พื้นทจ่ี งั หวัดสระบุรี

42

• สํารวจจดั ทําขอ มูลธรณีเคมพี ื้นฐาน และเก็บตัวอยางธรณีเคมีชนิดนํา้ ผิวดินในพ้ืนท่ีจังหวัด
การสํารวจจัดทําขอมูลธรณีเคมีพื้นฐาน ไดดาํ เนินการ นครราชสมี า จํานวน 56 ตวั อยา ง และจงั หวดั ชยั ภมู ิ 23 ตวั อยา ง
เก็บตัวอยางธรณีเคมีชนิดตะกอนธารน้ําในพื้นที่จังหวัด โดยวเิ คราะหด ว ยเครอ่ื งมอื ICP - OES เพอ่ื หาปรมิ าณธาตุ 26 ชนดิ
นครราชสมี า จาํ นวน 450 ตวั อยา ง และจงั หวดั ชยั ภมู ิ 174 ตวั อยา ง ในตะกอนธารนํ้า และ 17 ชนิด ในนาํ้ ผิวดิน

การเกบ็ ตวั อยางตะกอนธารนํา้ การตากตวั อยางตะกอนธารนาํ้ การบดตวั อยา งตะกอนธารนาํ้

การรอนตัวอยางตะกอนธารนาํ้ การแบงตวั อยางตะกอนธารนํา้ ตัวอยางตะกอนธารนา้ํ
และทาํ ความสะอาดตะแกรงรอน เพ่ือวิเคราะหและเปนตวั อยางอา งอิง

43

การวัดอณุ หภมู ินํา้ ผิวดนิ การเก็บตวั อยา งนาํ้ ผิวดนิ การตรวจวดั คุณภาพตัวอยา งนํา้ ผิวดนิ เบอ้ื งตน

ผลการสํารวจธรณเี คมพี นื้ ท่ี จงั หวดั นครราชสมี า จากตะกอนธารนาํ้ มาวเิ คราะหร ว มกบั คา เฉลยี่ ในดนิ และหนิ ชนดิ
พบการกระจายตวั ของคา สงู ผดิ ปกตขิ องธาตทุ สี่ งู กวา คา ตาง ๆ และความสัมพันธของธาตุตาง ๆ ในพ้ืนท่ี พบวาธาตุ
เฉล่ียในดินและหินชนิดตาง ๆ 9 ชนิด ไดแก ธาตุแคลเซียม โครเมียม ทองแดง นิกเกิล และโคบอลต นาจะเปนคาสงู ทม่ี อี ยู
โคบอลต ทองแดง เหล็ก แมงกานสี โซเดยี ม นกิ เกลิ วาเนเดียม ในธรรมชาตติ ามลกั ษณะธรณวี ิทยาของพนื้ ที่ สวนคาสูงผดิ ปกติ
และธาตสุ ังกะสี และจากการศึกษา การกระจายตวั ของสารพิษ ของธาตุตะก่ัว และสังกะสี คาดวาเกิดจากการปนเปอนจาก
ในธรรมชาตใิ นตะกอนธารนํ้า พบธาตโุ ลหะเกนิ มาตรฐานคณุ ภาพ การใชประโยชนพ้ืนที่ ผลการศึกษาการกระจายตัวของสารพิษ
ตะกอนดนิ ในแหลง นา้ํ ผวิ ดนิ 5 ชนดิ คอื ธาตโุ ครเมยี ม (พนื้ ทเี่ สยี่ ง ตามธรรมชาติในนํ้าผิวดิน พบธาตุท่ีมีปริมาณสูงเกินเกณฑ
33 แหง พ้นื ท่เี ส่ยี งสงู 2 แหง ) ธาตุทองแดง (พน้ื ที่เสี่ยง 35 แหง ) มาตรฐานคุณภาพนาํ้ ในแหลงนํา้ ผิวดิน จํานวน 2 ธาตุ คือ
ธาตตุ ะกวั่ (พ้ืนทเ่ี สย่ี ง 1 แหง ) ธาตนุ ิกเกิล (พื้นทีเ่ สีย่ ง 15 แหง ธาตแุ มงกานีส (พืน้ ที่เส่ยี ง 8 แหง ) คาดวาเกดิ เปน คา สงู ผิดปกติ
พ้ืนท่ีเสี่ยงสูง 10 แหง) และธาตุสังกะสี (พื้นที่เสี่ยง 6 แหง) ท่ีมีตามธรรมชาติ และธาตุตะกั่ว (พ้ืนที่เส่ียง 2 แหง) อาจเกิด
เม่ือนาํ ผลการศึกษาการกระจายตัวของสารพิษในธรรมชาติ จากการปนเปอน

แผนที่ธรณเี คมีแสดงการแผกระจายของธาตนุ ิกเกิล (Ni) แผนทธ่ี รณีเคมีแสดงการกระจายตัวของธาตุนิกเกลิ (Ni) แผนทธี่ รณีเคมีแสดงการแผกระจายของธาตุ
ในตะกอนธารนํ้า จังหวดั นครราชสีมา ในตะกอนธารนาํ้ จังหวดั นครราชสีมา แมงกานสี (Mn) ในนํ้าผิวดนิ จงั หวดั นครราชสีมา
(ใชเ กณฑค าเฉล่ียในดินและหนิ ชนิดตาง ๆ) (ใชเ กณฑม าตรฐานคณุ ภาพตะกอนดนิ ในแหลง นํา้ ผวิ ดนิ ) (ใชเกณฑมาตรฐานคณุ ภาพนํา้ ในแหลง นาํ้ ผวิ ดนิ )

44

ผลการสํารวจธรณเี คมพี น้ื ที่ จงั หวดั ชยั ภมู ิ คุณภาพตะกอนดินในแหลงนํ้าผิวดิน มีเพียงธาตุแมงกานีส
พบการกระจายตัวของคาสูงผิดปกติของธาตุที่สูงกวา ในตัวอยางน้าํ ผิวดินที่มีปริมาณสูง เกินเกณฑมาตรฐาน
คาเฉลี่ยในดินและหินชนิดตาง ๆ 8 ชนิด ไดแก ธาตุแบเรียม พบจาํ นวน 10 แหง ซ่ึงอยูในชวงที่มีความเส่ียงต่ํา คาดวาเกิด
โคบอลต เหลก็ แมงกานีส นกิ เกลิ ธาตสุ ตรอนเซยี ม วาเนเดยี ม จากธรรมชาติตามลักษณะธรณีวิทยาและลักษณะภูมิประเทศ
และสังกะสี ไมพบคาสูงผิดปกติของธาตุโลหะเกินมาตรฐาน ของพื้นที่ รวมถึงสมบัติการละลายและสะสมตวั ใหมของธาตุ

แผนทธี่ รณีเคมแี สดงการแผก ระจายของธาตแุ มงกานสี (Mn) แผนทีธ่ รณีเคมีแสดงการแผกระจายของธาตแุ มงกานสี (Mn)
ในตะกอนธารน้ํา จังหวดั ชยั ภูมิ ในนํ้าผวิ ดนิ จังหวัดชัยภูมิ

(ใชเ กณฑค าเฉล่ียทมี่ ีอยทู ว่ั ไปในหินชนิดตา ง ๆ) (ใชเ กณฑมาตรฐานคุณภาพนาํ้ ในแหลงนํ้าผวิ ดนิ )

ขอเสนอแนะ 3. หนวยงานเกี่ยวของ ควรศึกษาคามาตรฐานตาง ๆ
1. ขอ มลู ทไี่ ดจ ากการรวบรวมและการสํารวจเปน ขอ มลู เพื่อประกอบกับการพิจารณากาํ หนดขอบเขตการใชประโยชน
เบ้ืองตน เพื่อใหทราบลักษณะการแผกระจาย ของธาตุตาง ๆ ที่ดินใหเหมาะสมกับการเปนอยูอาศัย การเกษตรกรรม
ครอบคลุมพ้ืนท่ีเปนบริเวณกวางของจังหวัดเทาน้ัน ควรมีการ การอุตสาหกรรม และการใชป ระโยชนอ ยา งอื่น
สํารวจธรณีเคมีขั้นรายละเอียดเพ่ิมเติมในพ้ืนท่ีท่ีมีการแผ 4. ควรดําเนินการเก็บตัวอยางตะกอนธารนํา้ ในฤดูแลง
กระจายตัวของคาสูงผิดปกติ โดยเฉพาะอยางย่ิงธาตุโลหะหนัก เพื่อหลีกเลีย่ งการเจือจางของตะกอน
เพ่ือใหทราบถึงที่มาหรือแหลงกําเนิดของธาตุที่อาจกระทบกับ 5. ควรคัดเลือกขอมูลท่ีนาํ มาใชจากการวิเคราะหเคมี
สขุ ภาพของประชาชนในบรเิ วณดงั กลา ว ซงึ่ อาจเกดิ จากการปนเปอ น ดว ยเครอ่ื งมอื ชนดิ เดียวกัน ท่ีมคี วามทันสมัย และความละเอยี ด
เพราะการใชป ระโยชนท ดี่ นิ หรอื เกดิ ตามธรรมชาตทิ อ่ี าจสมั พนั ธ เทาเทียมกัน ซึ่งเคร่ืองมือที่ทันสมัยที่สุดในปจจุบัน คือ
กบั ธรณวี ทิ ยาแหลง แร ทง้ั น้ี เพอื่ การวางแผนบรหิ ารจดั การพนื้ ท่ี Inductively Coupled Plasma Mass Spectrometry (ICP-MS)
ไดอ ยา งเหมาะสมตอไป เนอื่ งจากสามารถตรวจวดั ปรมิ าณธาตทุ ค่ี วามเขม ขน ระดบั ต่าํ ไดด กี วา
2. ควรมีการตรวจสุขภาพและติดตามผลตรวจสขุ ภาพ และตรวจวัดปริมาณธาตุไดถ งึ 34 ชนิด ขณะที่เครอื่ งมือ Inductively
ของประชาชนในพืน้ ทีเ่ สย่ี งและพืน้ ทีเ่ สยี่ งภยั สูง coupled plasma optical emission spectrometry (ICP-OES)
ทใ่ี ชในโครงการน้ีตรวจวัดปริมาณธาตุไดเ พยี ง 26 ธาตุ

45

• ประเมนิ ภยั พบิ ตั แิ ผน ดนิ ไหวระดบั จงั หวดั ตามมาตราเมอรค ลั ล่ี สามารถแบง ขอ มลู พนื้ ทภี่ ยั พบิ ตั แิ ผน ดนิ ไหว
พน้ื ทจ่ี งั หวดั กําแพงเพชร อทุ ยั ธานี และสพุ รรณบรุ ี ออกเปน 3 ระดบั ไดแก โดยบริเวณทมี่ ีคา ความเรง พ้ืนดนิ สูงสุด

การประเมินภัยพิบัติแผนดินไหวระดับจังหวัด พ้ืนที่ อยใู กลกลมุ รอยเลอ่ื นมพี ลังพาดผาน และเมอ่ื นาํ ขอ มลู ความเรง
จังหวดั กําแพงเพชร อทุ ัยธานี และสุพรรณบรุ ี เปนการวเิ คราะห พน้ื ดนิ มาแปลงใหอ ยใู นรปู ของระดบั ความรนุ แรงแผน ดนิ ไหวตาม
ความนาจะเปนของคาความเรงพื้นดินสูงสุดของแผนดินไหวที่มี มาตราเมอรค ลั ล่ี อยูในระดับคอนขา งแรง (V) ถึงระดบั แรงมาก
โอกาสเพยี งรอ ยละ 10 ทม่ี คี า สงู กวา คา ทวี่ เิ คราะหไ ดใ นคาบเวลา (VII) แสดงดงั รปู ท่ี 3 ถงึ รปู ท่ี 5 ขอ มลู ระดบั ความรนุ แรงของแผน ดนิ ไหว
50 ป เมอ่ื กาํ หนดใหม ีสภาพพ้นื ท่ที งั้ หมดเปนหิน ผลการศึกษา ในระดบั แรงมาก (VII) ขึ้นไป สามารถสงผลกระทบตอผูคนและ
พบวาความเรง พ้ืนดนิ มีคาอยรู ะหวาง 2.40-33.69 %g เม่อื นาํ สงิ่ ปลกู สรา งในพนื้ ทห่ี ากเกดิ แผน ดนิ ไหวพจิ ารณาจากขนาดแผน
ขอ มลู ขา งตน มาแปลงใหอ ยใู นรปู ของระดบั ความรนุ แรงแผน ดนิ ไหว ดนิ ไหวสงู สดุ ทม่ี โี อกาสเกดิ ขน้ึ ไดจ ากแหลง กาํ เนดิ ซง่ึ เปน พน้ื ทท่ี ม่ี ี

แนวรอยเลอ่ื นมีพลังพาดผาน

รูปท่ี 1 ลําดับช้ันตะกอนของผนงั รองสาํ รวจบานทงุ มะกอก (ฝง ทิศเหนือ) ตาํ บลองคพ ระ อําเภอดานชา ง จังหวดั สพุ รรณบุรปี ระกอบดวย หินฐาน Unit A: ตะกอนเชิงเขา Unit
B: ตะกอนนํา้ พาปนตะกอนเชงิ เขา Unit C: ตะกอนเชงิ เขาปนตะกอนนํ้าพา Unit D: ตะกอนน้ําพา Unit E: ตะกอนเชงิ เขา Unit F: ตะกอนเชิงเขา Unit G: ตะกอนนํา้ พา Unit
H: ตะกอนทางนา้ํ Unit I: ตะกอนทางน้าํ Unit J: ตะกอนนํ้าพา Unit K: ตะกอนทางนา้ํ และ Top soil ชัน้ ตะกอนปจ จุบัน

รปู ท่ี 2 ลําดับช้ันตะกอนของผนงั บอลูกรังบา นปางขนนุ (ฝง ทศิ ตะวนั ออก ผนงั ทห่ี น่งึ ) ตาํ บลนาบอ คํา อาํ เภอเมอื ง จังหวดั กาํ แพงเพชร Unit A: ตะกอนน้ําพา Unit B: ตะกอน
เชงิ เขาปนตะกอนนํ้าพา Unit C: ตะกอนน้ําพา Unit D: ตะกอนเชงิ เขา Unit E: ตะกอนน้าํ พา Unit F: ตะกอนเชิงเขาปนตะกอนนา้ํ พา Unit G: ตะกอนเชิงเขาปนตะกอน
นํ้าพา Unit H: ตะกอนเชิงเขาปนตะกอนนา้ํ พา Unit I: ตะกอนนํา้ พา และ Top soil ชนั้ ตะกอนปจจบุ ัน

รูปที่ 3 แผนท่ภี ยั พิบตั ิแผน ดินไหวของจังหวดั รปู ที่ 4 แผนทีภ่ ัยพิบัตแิ ผนดินไหวของ รูปที่ 5 แผนที่ภัยพบิ ตั ิแผนดนิ ไหวของ
กําแพงเพชร แสดงระดบั ความรนุ แรง จังหวดั อุทยั ธานี แสดงระดบั ความรุนแรง จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี แสดงระดบั ความรุนแรง
(กําหนดใหส ภาพพื้นทเี่ ปน หิน) (กําหนดใหส ภาพพ้นื ทเี่ ปนหิน) (กาํ หนดใหส ภาพพืน้ ทีเ่ ปนหิน)
46

2. ดานการจัดทาํ นโยบาย แผน มาตรการ ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท ี่ 1 บรหิ ารจดั การแหลง ธรณวี ทิ ยา
และแนวทางการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรณี และอุทยานธรณีใหเกิดประโยชนอยางสมดุลและย่ังยืน
ประกอบดว ย 2 เปาประสงคหลัก ไดแก (1) แหลง ธรณวี ทิ ยาท่ี
จดั ทาํ นโยบาย แผน มาตรการแนวทางและขอ เสนอ มีความโดดเดนและมีคุณคาของประเทศไดรับการอนุรักษและ
การบริหารจดั การทรัพยากรธรณี พฒั นาตามมาตรฐานสากล UNESCO Geopark และ (2) มีการ
ใชป ระโยชนแ หลง ธรณวี ทิ ยาและอทุ ยานธรณเี พอื่ นาํ ไปสกู ารขบั
กรมทรพั ยากรธรณใี นฐานะหนว ยงานหลกั ในการสงวน เคล่ือนเศรษฐกิจอยางย่ังยืนและสมดุล โดยมีตัวช้ีวัด ไดแก
การอนุรักษ การฟนฟู และการบริหารจัดการ ดานธรณีวิทยา (1) จํานวนพ้ืนท่ีที่ผานการประเมินคุณคาเปนอุทยานธรณีตาม
ทรพั ยากรธรณี ซากดกึ ดําบรรพ ธรณวี ทิ ยาสงิ่ แวดลอ ม และธรณี แนวทางสากล (UNESCO Geopark) เพ่ิมข้ึน 1 พ้ืนที่ภายใน
พิบัติภัย ไดจัดทาํ นโยบาย แผน มาตรการและแนวทางการ ป พ.ศ. 2570 (2) รายไดป ระชาชนจากการทอ งเทย่ี วและบรกิ าร
บริหารจัดการทรัพยากรธรณี ซ่ึงคํานึงถึงความสอดคลองกับ ทเี่ กย่ี วเนอ่ื งกบั อทุ ยานธรณเี พม่ิ ขน้ึ ไมน อ ยกวา รอ ยละ 5 ตอ คน และ
ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศในปจจุบัน (3) ดชั นกี ารตระหนกั รดู า นสง่ิ แวดลอ มของผมู สี ว นไดเ สยี จากการ
ภายใตแ นวคดิ แบบการมสี ว นรว มของผมู สี ว นไดเ สยี และการบรู ณาการ บรหิ ารจดั การแหลง ธรณวี ทิ ยาและอทุ ยานธรณี ไมน อ ยกวา 20 คะแนน
ความรว มมอื กบั หนว ยงานอนื่ ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ งกบั การบรหิ ารจดั การ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม รวมทั้งดําเนินการเรงรัด ประเด็นยทุ ธศาสตรที่ 2 บริหารจดั การทรพั ยากรแร
ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการนํานโยบาย แผน มาตรการและแนวทาง ใหเกิดประโยชนอยางคุมคาและสมดุล ประกอบดวย
การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรธรณีไปสูการปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 2 เปา ประสงคห ลกั ไดแ ก (1) ฐานทรพั ยากรแรข องประเทศไทย
มคี วามมนั่ คงและเพยี งพอสําหรบั การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศ
โดยรวม และ (2) การนาํ แรมาใชประโยชนมีดุลยภาพท้ัง
• แผนปฏบิ ัติราชการกรมทรัพยากรธรณี ดานเศรษฐกจิ สงั คม ส่ิงแวดลอม และสขุ ภาพ ของประชาชน
ระยะ 5 ป (พ.ศ. 2566 - 2570) โดยมีตัวชี้วัด ไดแก (1) ความสําเร็จในการจัดทาํ ขอมูลปฐาน
แผนปฏิบัติราชการกรมทรัพยากรธรณี ระยะ 5 ป มลู คา ผลติ ภณั ฑม วลรวมประชาชาตทิ เี่ กดิ จากทรพั ยากรธรรมชาติ
(พ.ศ. 2566 - 2570) หรอื อกี นยั หนงึ่ คอื แผนยทุ ธศาสตรอ งคก ร และสง่ิ แวดลอ ม (GDP Impact) ประเภททรพั ยากรแร รอ ยละ 100
ทจ่ี ดั ทาํ ขน้ึ เพอื่ เปน เครอ่ื งมอื กาํ หนดทศิ ทางในการขบั เคลอื่ นการ ภายในป พ.ศ. 2570 (2) ดัชนีความเชื่อม่ันของประชาชน
ดําเนินงานของกรมทรัพยากรธรณีในหวงระยะเวลาท่ีกาํ หนด ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร ไมน อยกวา 75 คะแนน ในป
ซึ่งการจัดทาํ แผนดังกลาวน้ีใหความสาํ คัญตอความเชื่อมโยง พ.ศ. 2566 -2580 และ (3) ดชั นกี ารตระหนักรดู านส่ิงแวดลอม
ภารกิจของหนวยงานกับเปาหมายตามยุทธศาสตรชาติ 20 ป ของผูมีสวนไดเสียจากการบริหารจัดการทรัพยากรแร
และแผนสามระดับที่เกี่ยวของ รวมทั้งการมีสวนรวมตลอด ไมนอยกวา 20 คะแนน
กระบวนการของผูรับบริการและผูมีสวนไดเสียของหนวยงาน ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท ี่ 3 ลดความเสย่ี งจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั
โดยกรอบสาระสาํ คัญของแผนปฏิบัติราชการฯ มดี งั นี้ และผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การดําเนนิ งานภายใตแ ผนปฏบิ ตั ริ าชการกรมทรพั ยากรธรณี มีเปาประสงคหลัก คือ ขีดความสามารถในการบริหารจัดการ
ระยะ 5 ป (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อมุงบรรลุ (ราง) วสิ ยั ทศั น ดา นธรณวี ทิ ยาสงิ่ แวดลอ มและธรณพี บิ ตั ภิ ยั ทเี่ กดิ จากธรรมชาติ
“ประชาชนมคี ณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ตี ามแนววถิ ใี หมภ ายใตก ารบรหิ าร และการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศเพมิ่ ขนึ้ โดยมตี วั ชว้ี ดั ไดแ ก
จัดการธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณี ท่ียั่งยืน” ซ่ึงมีตัวช้ีวัด (1) ความพรอมในการจัดการภาวะวิกฤตจากธรณีพิบัติภัย
ความสําเร็จตามวิสัยทัศน ประกอบดวย (1) รอยละของ ไมน อ ยกวา ระดบั 3 และ (2) ดชั นคี ณุ ภาพมหาสมทุ ร เทา กบั 72 คะแนน
GDP Impact จากการดําเนนิ การดา นทรพั ยากรธรณี (2) อนั ดบั ประเด็นยทุ ธศาสตรท ี่ 4 เพ่ิมศกั ยภาพองคกรรองรบั
ของประเทศดา นความยงั่ ยนื และคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ มในระดบั โลก วถิ ใี หมแ ละนวตั กรรมใหม มเี ปา ประสงคห ลกั คอื องคก รมคี วามพรอ ม
(3) ผลการดําเนนิ งานดา นการลดผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลง รับการเปล่ียนแปลงในประเด็นใหมที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อขับ
สภาพภมู อิ ากาศเปน ไปตามเปา หมายทกี่ าํ หนด และ (4) จาํ นวน เคลอื่ นสกู ารใหบ รกิ ารเชงิ รกุ กบั ผรู บั บรกิ ารทรี่ วดเรว็ ถกู ตอ ง และ
นวัตกรรมวิถีใหม โดยมุงเนนดาํ เนินการภายใตประเด็น เปนธรรม โดยมีตัวช้ีวัด ไดแก ระดับความสําเร็จในการพัฒนา
ยุทธศาสตร เปาประสงค แนวทางการพฒั นาและตัวช้ีวดั ดังน้ี องคกรสูความเปนเลศิ ตามแนวทาง Excellence Framework

47

• แนวทางการบรหิ ารจดั การธรณพี บิ ตั ดิ นิ ถลม จากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม ทง้ั แบบรายสาขาและเชงิ พนื้ ท่ี ประสาน
ปจจุบันทุกประเทศในโลกรวมทั้งไทยกาํ ลังเผชิญกับ สรางความรวมมือดานการจัดการความเสี่ยง จากธรณีพิบัติภัย
ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและ ดนิ ถลม กบั ทกุ ภาคสว นทเี่ กยี่ วขอ งทง้ั ในประเทศและตา งประเทศ
ภยั ธรรมชาตทิ มี่ แี นวโนม จะผนั ผวนและรนุ แรงเพมิ่ ขน้ึ อยา งหลกี และพัฒนาการส่ือสารและถายทอดองคความรูดานการจัดการ
เลยี่ งไดย าก กรมทรพั ยากรธรณตี ระหนกั ถงึ ประเดน็ ดงั กลา ว จงึ ความเสย่ี งจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม อยา งครอบคลมุ ทกุ กลมุ เปา หมาย
ไดศึกษาเพื่อจัดทําแนวทางการบริหารจัดการธรณีพิบัติดินถลม ดวยรูปแบบและเทคโนโลยีการสอ่ื สารทเี่ หมาะสม
สาํ หรบั ใชเ ปน แนวทางในพฒั นายกระดบั ศกั ยภาพการดาํ เนนิ งาน
ขององคก รและการบรู ณาการดา นการบรหิ ารจดั การความเสย่ี ง
และลดผลกระทบทเี่ กดิ จากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม ใหไ ดม าตรฐาน 3. ดา นการจดั การซากดกึ ดําบรรพ ธรณวี ทิ ยา
สากล มปี ระสิทธิภาพและมีเอกภาพ อันจะสง ผลใหการพัฒนา และธรรมชาตวิ ิทยา

ประเทศมคี วามปลอดภยั และเกดิ ประโยชนต อ สงั คมไทยอยา งยงั่ ยนื 3.1 การบริหารจัดการ จัดต้ังและพัฒนาพิพิธภัณฑ
อนง่ึ ผลการศกึ ษาเพอ่ื เสนอแนะแนวทาง การบรหิ ารจดั การธรณี ซากดึกดาํ บรรพ ธรณีวทิ ยา และธรรมชาตวิ ทิ ยา
พิบัติดินถลม สามารถกาํ หนดประเด็นสําคัญและขอเสนอ
แนวทางเพอ่ื ใหเ ปน ขอ มลู สําหรบั หนว ยงานรฐั และชมุ ชนทอ งถนิ่ กรมทรัพยากรธรณีมีพิพิธภัณฑและศูนยศึกษาวิจัย
นาํ ไปใชป ระกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจเพอ่ื การบรหิ ารจดั การ ในการกํากบั ดูแล จํานวน 7 แหง โดยไดจัดต้งั ศนู ยศึกษาวจิ ัย
พ้นื ที่ ดังนี้ และพิพิธภัณฑธรณีวิทยาข้ึนไวในพ้ืนที่ซ่ึงเปนแหลงคนพบ
ซากดกึ ดําบรรพทส่ี าํ คัญ ๆ ไดแ ก ศนู ยศกึ ษาวิจัยและพิพิธภณั ฑ
แนวทางที่ 1 : การลดความเสยี่ งจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม ไดโนเสาร อาํ เภอเวียงเกา จังหวัดขอนแกน พบซากไดโนเสาร
เพอ่ื ลดความเสย่ี งและความสญู เสยี จากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม และ ครง้ั แรกของประเทศไทยและพบหลายสายพนั ธุ พพิ ธิ ภณั ฑส ริ นิ ธร
เสริมสรางความพรอมรับมือกับธรณีพิบัติภัยดินถลมแกชุมชน อําเภอสหสั ขันธ จงั หวดั กาฬสนิ ธุ ในพน้ื ทท่ี พ่ี บซากไดโนเสารท ี่
ทอ งถน่ิ และภาคเี ครอื ขา ย ในพน้ื ทเี่ สยี่ งภยั โดยมงุ เนน สรา งระบบ สมบรู ณท่ีสดุ ของประเทศ พพิ ธิ ภัณฑแ ร - หิน ถนนพระราม 6
ประเมินความเส่ียงจากธรณีพิบัติภัยดินถลมที่ถูกตองตามหลัก กรุงเทพมหานคร ศูนยวิจัยทรัพยากรแรและหิน อําเภอเมือง
วชิ าการและมาตรฐานสากล และจดั การความเสยี่ งจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั จังหวัดระยอง พิพิธภัณฑสถานแหงชาติธรณีวิทยา
ดินถลมโดยอาศัยชุมชนเปนฐาน (Community-Based เฉลมิ พระเกยี รติ อาํ เภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี พพิ ธิ ภณั ฑ
Landslide Risk Management) ซากดึกดําบรรพ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยา ตาํ บลศาลา
อําเภอเกาะคา จังหวัดลาํ ปาง และพิพิธภัณฑซากดึกดําบรรพ
แนวทางที่ 2 : การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยา ตําบลทาขาม อาํ เภอพุนพิน
จดั การความเสีย่ งจากธรณพี ิบตั ภิ ัยดนิ ถลม เพื่อใหการจัดการ จงั หวดั สรุ าษฎรธ านี
ความเสยี่ งจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม มปี ระสทิ ธภิ าพ รวดเรว็ และ
ทันตอเหตุการณ โดยมุงเนนพัฒนาระบบสารสนเทศเพ่ือการ ทงั้ น้ี เพอ่ื เปน ศนู ยร วมการใหค วามรทู างดา นธรณวี ทิ ยา
ตดั สนิ ใจดา นธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม (Decision Support System ทุกสาขาของประเทศ เปนแหลงอนุรักษและแหลงทองเที่ยว
for Landslide Risk Management) และระบบพยากรณแ ละ ที่มีสาระสาํ คัญ สามารถสรางรายไดใหกับทองถ่ินควบคูกับ
แจงเตือนธรณีพิบัติภัยดินถลมที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ การใหก ารศกึ ษาและความรู สาํ หรับปง บประมาณ พ.ศ. 2564
(Effective Landslide Early Warning System) มีจํานวนผูรับบริการดานพิพิธภัณฑ และศูนยศึกษาวิจัยตาง ๆ
ใ ห บ ริ ก า ร ค ว า ม รู ด า น ธ ร ณี วิ ท ย า แ ล ะ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ณี
แนวทางท่ี 3 : การพัฒนาองคความรู และเสรมิ สรา ง แกผรู ับบรกิ าร จาํ นวนทั้งส้ิน 526,546 ราย
การมีสวนรวมของทุกภาคสวนเพื่อการจัดการความเสี่ยง
จากธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม อยา งยง่ั ยนื เพอ่ื ใหก ารจดั การความเสย่ี ง
จากธรณีพิบัติภัยดินถลมมีความย่ังยืน โดยการมีสวนรวมของ
ทกุ ภาคสว น เกดิ การพฒั นาองคค วามรดู า นการจดั การความเสยี่ ง
จากธรณีพิบัติภัยดินถลม อยางตอเน่ือง และมีการสื่อสารและ
ถา ยทอดองคค วามรดู า นการจดั การความเสยี่ งจากธรณพี บิ ตั ภิ ยั
ดินถลมกับทุกภาคสวนอยางเหมาะสม โดยมุงเนนสงเสริม
การศึกษาวิจัยเพ่ือพัฒนาองคความรูดานการจัดการความเสี่ยง

48


Click to View FlipBook Version