คำนำ
คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ กำหนดให้คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ
มหี นา้ ที่จดั ทำรายงานสถานการณ์การบรหิ ารจัดการถ้ำของประเทศรายปี กรมทรพั ยากรธรณี ในฐานะหน่วยงาน
ทีเ่ ป็นเลขานุการคณะอนุกรรมการดา้ นวิชาการ จงึ มคี วามจำเป็นต้องจดั ทำรายงานสถานการณ์ดังกลา่ ว เพื่อเสนอ
คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถำ้ แห่งชาตติ ามที่ได้กำหนดไว้
รายงานสถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 เป็นรายงานฉบับแรกนับตั้งแต่มีการแต่งต้ัง
คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ เมือ่ เดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2562 รายงานได้นำเสนอประวตั ิการสำรวจศึกษาถ้ำใน
ประเทศไทย ประเด็นสถานการณ์การประเมินคุณภาพส่ิงแวดล้อมของแหล่งธรรมชาติอนั ควรอนุรักษ์ประเภทถ้ำ
การบรหิ ารจดั การถ้ำเพ่ือการทอ่ งเทยี่ ว มติ ิใหม่ในการบรหิ ารจดั การถำ้ ของประเทศไทย อาทิ 11 ระบบถ้ำต้นแบบ
เพอื่ การบรหิ ารจัดการถ้ำ และขอ้ ปฏบิ ตั ิในการคุ้มครองถ้ำ 16 ขอ้ เป็นต้น เพอื่ ใช้เป็นข้อมลู ประกอบการตัดสินใจ
ในการจัดทำนโยบายและวางแผนการบรหิ ารจดั การถำ้
ขอขอบคุณทุกภาคส่วนท่ีได้ให้ความร่วมมอื อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะคณะอนุกรรมการด้านวิชาการ
ที่ให้การสนับสนุนข้อมูล ข้อคิดเห็น ทำให้รายงานสถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 มีความสมบูรณ์
หวงั เปน็ อย่างย่ิงวา่ รายงานฉบับน้จี ะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้กำหนดนโยบายบรหิ ารจัดการถ้ำของประเทศได้
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สบื ไป
(นายสมหมาย เตชวาล)
อธบิ ดกี รมทรัพยากรธรณี
ประธานอนกุ รรมการด้านวชิ าการ
มนี าคม 2564
© John Spies
© Miguel Babilonia Vazquez
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 ก
คณะอนกุ รรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
สารบญั หนา้
ส่วนท่ี 1 บทนำ 1
1.1 ประวตั กิ ารสำรวจศกึ ษาถ้ำ 2
1.1.1 การสำรวจศึกษาถ้ำในต่างประเทศ 2
1.1.2 การสำรวจศกึ ษาถ้ำในประเทศไทย 2
7
1.2 ฐานข้อมูลถ้ำของไทย
9
สว่ นท่ี 2 ประเดน็ สถานการณ์
9
2.1 การประเมินคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มของแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษป์ ระเภทถ้ำ 10
2.2 การบริหารจัดการถำ้ เพ่ือการทอ่ งเทย่ี ว
12
สว่ นท่ี 3 มติ ใิ หมใ่ นการบรหิ ารจดั การถำ้
12
3.1 ความเป็นมา 14
3.2 คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถำ้ แห่งชาติ 17
3.3 นยิ ามถ้ำและการแบ่งประเภทถำ้ 17
18
3.3.1 นยิ ามถ้ำ 20
3.3.2 การแบง่ ประเภทถำ้ 21
3.4 ระบบถ้ำตน้ แบบเพื่อการบรหิ ารจดั การถ้ำ 22
3.4.1 ระบบถ้ำดอยภคู า 22
3.4.2 ระบบถำ้ ปาฏหิ ารยิ ์ 23
3.4.3 ระบบถำ้ ธารน้ำลอด 23
3.4.4 ระบบถำ้ หลวง-ขนุ นำ้ นางนอน 24
3.4.5 ระบบถำ้ แก้วโกมล 24
3.4.6 ระบบถำ้ เชียงดาว 25
3.4.7 ระบบถำ้ พญานาคราช 25
3.4.8 ระบบถ้ำละวา้ 26
3.4.9 ระบบถำ้ พระโพธสิ ตั ว์ 27
3.4.10 ระบบถ้ำภผู าเพชร 28
3.4.11 ระบบถ้ำเขาช้างหาย
3.5 ขอ้ ปฏิบตั ิในการคุ้มครองถำ้ 16 ข้อ
ข สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
คณะอนกุ รรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ
สารบญั (ต่อ) หนา้
สว่ นท่ี 4 ประเดน็ สำคญั อน่ื ๆ 30
4.1 การสำรวจถำ้ 30
4.2 การนำข้อมลู สำรวจถ้ำไปใชง้ าน 32
4.3 เครือขา่ ยนักสำรวจและท่องเทยี่ วถ้ำในต่างประเทศ 32
4.4 ชมรมและสมาคมถ้ำในประเทศไทย 33
4.5 ดา้ นการศึกษาวิจัยและความร่วมมอื ระหว่างประเทศ 34
เอกสารอ้างองิ 36
สารบญั รปู 1
2
รปู ท่ี 1.1 ถ้ำหลวง-ขุนนำ้ นางนอน จังหวดั เชียงราย 3
1.2 ทีม 13 หมูป่าอะคาเดมี ทีต่ ิดอยูภ่ ายในถ้ำหลวง 3
1.3 แผนผังถำ้ สุวรรณคูหา จงั หวดั พงั งา (Kusch H., 1973-1978)
1.4 ถ้ำน้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ภาพโดย John Spies) 4
1.5 ผลการสำรวจจดั ทำผงั ถำ้ Thasuki 1 ในเขตรักษาพนั ธ์สุ ัตวป์ ่าทงุ่ ใหญ่นเรศวร 5
จงั หวดั ตาก (Smart, 2002) ภายใตโ้ ครงการของกรมปา่ ไม้ 5
1.6 คมู่ อื การจัดการถำ้ เพอื่ การท่องเทย่ี วในอทุ ยานแห่งชาติ 5
1.7 คู่มอื การตรวจประเมนิ มาตรฐานคณุ ภาพแหลง่ ท่องเทีย่ ว ประเภทถ้ำ 6
1.8 คมู่ อื มาตรฐานคุณภาพสิง่ แวดล้อมธรรมชาตปิ ระเภทถ้ำ 6
1.9 ความโดดเด่นภายในถำ้ อไุ รทอง จงั หวดั สตลู
1.10 ความโดดเด่นภายในถำ้ เลสเตโกดอน จังหวดั สตูล 6
1.11 ตำแหน่งถำ้ เป็นและถ้ำก่งึ เป็นกงึ่ ตายในพืน้ ทภ่ี าคใต้ สำหรบั ใชใ้ นการคดั เลอื ก 7
ถำ้ หินปนู ในพืน้ ทศ่ี ึกษา 7
1.12 แผนผงั ถ้ำคลงั จังหวัดกระบี่ 7
1.13 ค่าอายุและสภาพอากาศโบราณจากหินงอก ถำ้ คลัง จงั หวดั กระบี่ 7
1.14 เวบ็ ไซต์ Caves & Caving in Thailand
1.15 ขอ้ มลู ถำ้ ทยี่ าวทส่ี ุดในประเทศไทย
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 ค
คณะอนกุ รรมการด้านวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถำ้ แห่งชาติ
สารบญั รปู (ต่อ) หนา้
รูปที่ 1.16 ตัวอยา่ งฐานข้อมลู ถ้ำตะสุคี จังหวดั ตาก (Smart, 2002) 8
1.17 แผนผงั ถำ้ ผาผง้ึ จงั หวดั น่าน ความลึก 476 เมตร ถ้ำทลี่ ึกที่สุดในประเทศไทย 8
1.18 แผนผงั ถำ้ พระวงั แดง จงั หวดั พษิ ณุโลก ความยาว 13.761 กโิ ลเมตร
ถ้ำที่ยาวท่ีสดุ ในประเทศไทย 8
1.19 ต๊กุ แกถ้ำ C. samroiyot (Photo: Sumontha In Pauwels & Sumontha, 2014) 8
2.1 กราฟเปรียบเทียบคุณภาพสิง่ แวดลอ้ ม ระหว่างถำ้ ทีด่ แู ลโดยหน่วยงานสว่ นกลาง
ในภมู ภิ าคและองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ 10
3.1 การลดระดบั นำ้ ภายในถำ้ เป็นปัจจัยสำคัญในการเขา้ ไปชว่ ยทมี หมปู า่ อะคาเดมี
ออกจากถำ้ หลวง จังหวัดเชยี งราย 12
3.2 แผนผังถำ้ และประติมากรรมถ้ำภายในถำ้ หลวง จงั หวดั เชยี งราย 12
3.3 เผยแพรอ่ งคค์ วามรเู้ กย่ี วกับถ้ำแกเ่ ยาวชนในพ้นื ที่ 13
3.4 แผนที่แสดงพื้นที่หนิ ปนู ประเทศไทย (กรมทรัพยากรธรณี, 2562) 13
3.5 แผนทแ่ี หล่งทรัพยากรธรณปี ระเภทถำ้ ประเทศไทย (กรมทรัพยากรธรณี, 2562) 13
3.6 ตวั อย่างถำ้ ทไี่ ดจ้ ัดทำแผนผงั ถำ้ ไว้แล้ว บน : ถ้ำนเรศวร จงั หวดั พษิ ณุโลก
(ถำ้ หนิ ปูน) ล่าง : ถำ้ ดนิ เพียง จังหวดั หนองคาย (ถ้ำหนิ ทราย) 14
3.7 ลกั ษณะโดดเด่นทพี่ บภายในถ้ำ บน : ซากดกึ ดำบรรพ์จำพวกปะการัง (coral)
ท่ีพบบรเิ วณถำ้ เดอื น-ถ้ำดาว จังหวัดพษิ ณโุ ลก ล่าง : ชน้ั หินทราย ทรายแปง้ 14
แทรกสลับกับหนิ ปนู ภายในถ้ำพระวังแดง จังหวัดพิษณโุ ลก 15
3.8 คำส่งั แต่งตง้ั คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้ำแห่งชาติ
3.9 การประชมุ คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถำ้ แห่งชาติ ครัง้ ที่ 1/2562 16
และงานแถลงขา่ วและนิทรรศการ เพ่อื เผยแพรข่ ้อมูลข่าวสาร
ณ โรงแรมมริ าเคลิ แกรนด์ คอนเวนชน่ั กรงุ เทพมหานคร 17
3.10 การประชุมคณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 18
ณ อทุ ยานแห่งชาติถำ้ หลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) จังหวดั เชยี งราย
3.11 ภาพจำลองแสดงองค์ประกอบตา่ ง ๆ ของ “ระบบถำ้ ” ในภูมิประเทศแบบคาสต์ 20
3.12 บน : ถำ้ ลาวา ภาพโดย Dave Bunnell ลา่ ง : ถ้ำธารน้ำแขง็ ภาพโดย
Juleen Studio, 1920
ง สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้ำแห่งชาติ
สารบญั รปู (ต่อ) หนา้
รปู ที่ 3.13 ตะกอนถ้ำหรือประตมิ ากรรมถ้ำที่พบในถ้ำหนิ ปูน 20
3.14 ตำแหนง่ ถ้ำของ 11 ระบบถำ้ ต้นแบบประเทศไทย 21
3.15 ถ้ำผาผ้งึ จังหวดั นา่ น ถ้ำทีล่ กึ ท่สี ดุ ในประเทศไทย 21
3.16 ถำ้ เสือดาว จงั หวัดนา่ น ถำ้ ที่มีความโดดเด่นด้านถ้ำวทิ ยา 21
3.17 หินกรวดมนชัน้ หนาทีพ่ บภายในถำ้ รวยสายไท จงั หวัดน่าน 21
3.18 ถำ้ ปาฏหิ าริย์ จังหวดั อบุ ลราชธานี 22
3.19 แผนผงั ถำ้ ธารน้ำลอด จังหวัดชมุ พร 22
3.20 ประติมากรรมถำ้ ภายในถำ้ ธารน้ำลอด จังหวัดชุมพร 22
3.21 สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ปล่ียนแปลงไป ทำให้เกดิ เนินทรายและกิ่งไมจ้ ำนวนมาก
กดี ขวางทางนำ้ ภายในระบบถ้ำธารน้ำลอด จังหวดั ชมุ พร 23
3.22 ลกั ษณะพนื้ ท่ีบรเิ วณใกล้ปากถำ้ หลวง จังหวดั เชียงราย 23
3.23 จดุ เสย่ี งภัยภายในถำ้ หลวง จังหวัดเชียงราย 23
3.24 แผนผงั ถ้ำแกว้ โกมล จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน 24
3.25 ประติมากรรมถำ้ ภายในถ้ำแก้วโกมล จงั หวัดแม่ฮอ่ งสอน 24
3.26 ประตมิ ากรรมถำ้ ภายในถ้ำเชียงดาว จังหวัดเชยี งใหม่ 24
3.27 แผนผงั ถ้ำเชยี งดาว จังหวัดเชยี งใหม่ 24
3.28 ประติมากรรมถ้ำในถ้ำพญานาคราชซ่ึงเชือ่ มตอ่ ไปยงั ถ้ำเกลด็ แกว้ จงั หวัดขอนแก่น
(ภาพโดย ดร.โชตมิ า เมอื งสง) 25
3.29 กล่มุ คา้ งคาวและประติมากรรมถ้ำท่ีพบในถำ้ ละว้า จังหวดั กาญจนบรุ ี 25
3.30 รอยขดี เขยี นและขยะทพ่ี บในถ้ำละว้า จังหวัดกาญจนบุรี 25
3.31 ประติมากรรมถ้ำและหลกั ฐานทางโบราณคดีทพี่ บในถ้ำพระโพธสิ ตั ว์ จงั หวดั สระบรุ ี 26
3.32 แผนผงั ถำ้ พระโพธสิ ัตว์ จงั หวดั สระบรุ ี 26
3.33 หินน้ำไหลและหนิ งอกขนาดใหญ่ภายในถ้ำภผู าเพชร จังหวัดสตลู 26
3.34 แผนผงั ถำ้ ภูผาเพชร จงั หวัดสตลู 27
3.35 ประติมากรรมถำ้ ภายในถำ้ เขาช้างหาย จังหวดั ตรัง 27
3.36 แผนท่ธี รณวี ทิ ยาบรเิ วณถ้ำเขาช้างหาย จังหวัดตรงั 27
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 จ
คณะอนกุ รรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถำ้ แห่งชาติ
สารบญั รปู (ต่อ) หนา้
รปู ที่ 3.37 ข้อปฏบิ ัติในการคุ้มครองถ้ำ 16 ข้อ 29
4.1 การใชเ้ ชอื กประกอบการปนี ถ้ำหรอื หน้าผา 31
4.2 นักสำรวจอาศยั เชอื กนำทางในถำ้ นำ้ 31
4.3 ป้ายหา้ ม-ป้ายเตือน ในถ้ำน้ำ 31
4.4 ตวั อย่างขอ้ มูล (วิดีโอ) ที่ไดจ้ ากการสำรวจดว้ ยเคร่อื งมอื 3D Laser Scanner
บรเิ วณปากถ้ำหลวง จงั หวัดเชียงราย 31
4.5 แสดงข้อมูลการสำรวจด้วยเทคโนโลยี 3D Laser Scanner บน : ตำแหน่งจุดเก็บ
ขอ้ มูลสำรวจ ลา่ ง : ข้อมลู ภาพ วดิ ีโอ แสดงการวัดขนาดและคา่ ความสูงของหินนำ้ ไหล 32
ภายในถ้ำละว้า จังหวดั กาญจนบรุ ี 35
4.6 เอกสาร International Year of Caves and Karst
สารบญั ตาราง
ตารางท่ี 2.1 จำนวนถำ้ ที่ไดร้ ับการข้ึนทะเบยี นเป็นแหลง่ ธรรมชาตอิ นั ควรอนรุ กั ษ์ 9
ทไ่ี ด้ประเมนิ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม 11
2.2 ระดับมาตรฐานแหลง่ ท่องเท่ียวประเภทถ้ำ 11
2.3 รายชอื่ แหลง่ ทไี่ ดร้ ับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวประเภทถ้ำ (พ.ศ. 2561-2562) 21
3.1 รายช่อื 11 ระบบถำ้ และหน่วยงานทร่ี ับผดิ ชอบ
4.1 การให้ระดับของเส้นแนวกลาง (grading of the survey centre line) 30
ตามมาตรฐานการสำรวจของสมาคมวิจัยถ้ำของประเทศอังกฤษ (BCRA, 2002)
© Borut Lozej
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 1
คณะอนุกรรมการด้านวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถ้ำแห่งชาติ
สว่ นท่ี 1 ในประเทศไทยจึงแยกส่วนกระจัดกระจายอยู่ตาม
หน่วยงาน อยู่กับตัวนักวิจัย หรือนักสำรวจอิสระ
บทนำ ข้อมูลถ้ำของประเทศไทยท่ีพร้อมใช้ในการบริหาร
จัดการ หรือใช้ในการวางแผนเมื่อเผชิญเหตุ หรือ
ถ้ำ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมีความ สถานการณ์วิกฤติ จึงไมเ่ ป็นระบบและไม่มีหน่วยงานทำ
หน้าที่บูรณาการเป็นศูนย์กลางการทำงานระหว่าง
เปราะบางของระบบนิเวศทั้งด้านกายภาพและชีวภาพ หน่วยงาน
ในบริบทของประเทศไทยถ้ำอยู่ในพื้นที่ที่มีภาคส่วน
ต่าง ๆ กำกับดูแล แต่ไม่มีองค์กรใดรับผิดชอบในการ เหตุการณ์ทีมนักฟุตบอล 13 หมูป่าอะคาเดมี
บริหารจัดการ ไม่มีกฎหมายเฉพาะ การบริหารจัดการ ตดิ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จงั หวดั เชียงราย ในปี พ.ศ.
จงึ ยังไมม่ ที ิศทางทชี่ ดั เจน 2561 (รูปที่ 1.1-1.2) ที่มีจิตอาสาระดับมืออาชีพ
บุคคลทั่วไปในสาขาอาชีพต่าง ๆ จากทั้งในประเทศ
ถ้ำในประเทศไทย ปัจจุบันกำลังถูกคุกคาม และต่างประเทศทั่วโลกได้ร่วมกันค้นหาและกู้ภัย
ทั้งจากภัยธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ มีถ้ำ จนประสบผลสำเร็จ นับเป็นเหตุการณ์ที่รู้จักไปทั่วโลก
จำนวนมากเสียหายเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว บางแห่ง จึงก่อให้เกิดความต้องการในการบูรณาการการสำรวจ
เกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต สภาพภายในถ้ำ และ ศึกษาเพื่อการบริหารจัดการถ้ำอย่างเป็นระบบถูกต้อง
บริเวณใกล้เคียงในลักษณะที่ไม่สามารถทดแทนได้ ตามหลักวิชาการ มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน
นอกจากนี้ การขาดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง และโดยการม ีส ่วนร ่ว มของช ุมช น ท้ องถิ่ นเ พ่ื อ ก า ร
ตามหลักวิชาการ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ พัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ทิศทางที่กำหนด
นักท่องเที่ยวและผู้ใช้ประโยชน์จากถ้ำ ตลอดจนส่งผล โดย “คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้ำแห่งชาติ”
กระทบและความเสียหายตอ่ ระบบนเิ วศถ้ำได้ ทีต่ ง้ั ข้นึ โดยมติคณะรฐั มนตรี ในปี พ.ศ. 2562
ที่ผ่านมา การสำรวจศึกษาถ้ำในประเทศไทย รปู ที่ 1.1 ถ้ำหลวง-ขุนนำ้ นางนอน จงั หวัดเชียงราย
ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยนักสำรวจชาวต่างชาติ การ
สำรวจศึกษาถ้ำโดยชาวไทยนั้น เริ่มมีในช่วง 20 ปี
ที่ผ่านมา การสำรวจศึกษาถ้ำโดยทั่วไปจะครอบคลุม
การศกึ ษาหลายสาขาวิชา อาทิ ถ้ำวทิ ยา การทอ่ งเท่ียว
การศึกษาโบราณคดี ศิลปะ-วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
ชีววิทยา ธรณีวิทยา อุทกธรณีวิทยา และการศึกษา
การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ เป็นตน้
การสำรวจศึกษาถ้ำในประเทศไทย ดำเนินการ
โดยหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาคราชการ เอกชน และ
สถาบันการศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อตอบโจทย์ในแต่ละ
ด้านหรือเพื่อภารกิจของหน่วยงานเป็นหลัก ข้อมูลถ้ำ
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
2 คณะอนกุ รรมการดา้ นวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถำ้ แห่งชาติ
รปู ท่ี 1.2 ทมี 13 หมูปา่ อะคาเดมี ท่ีติดอยูภ่ ายในถ้ำหลวง Alfred Martel ซึ่งได้รณรงค์ให้มีการสำรวจโลกใต้
พิภพในทวีปยุโรปในช่วงปี พ.ศ. 2431-2457 หลังจาก
1.1 ประวัตกิ ารสำรวจศึกษาถำ้ นั้นวิชาการด้านถ้ำวิทยาได้แพร่หลายไปยังทวีปอื่น ๆ
โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาและออสเตรเลีย ซึ่งมี
1.1.1 การสำรวจศึกษาถ้ำในต่างประเทศ บทบาทมากในการพัฒนาด้านวิชาการและเทคนิคการ
สำรวจถ้ำในปัจจบุ นั
การใช้ประโยชนจ์ ากถ้ำโดยมนุษยม์ ีมานานนับ
หมื่นปี ในยุคแรก ๆ จะใช้เป็นที่อยู่เพื่อคุ้มภัยจาก การศึกษาเรื่องถ้ำในเชิงวิทยาศาสตร์ยุคใหม่
อันตรายต่าง ๆ ที่มนุษย์ไม่สามารถต่อสู้หรือเข้าใจได้ เริ่มต้นในปลายศตวรรษท่ี 19 ในยุโรป มีชื่อเรียก
การใช้ประโยชน์จากถ้ำต่อเน่ืองจนถึงปัจจุบัน เพียงแต่ เฉพาะว่า “ถ้ำวิทยา (speleology)” เป็นการศึกษา
วัตถุประสงค์เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ความจำเป็น ทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะปรากฏด้าน
ที่จะใช้เป็นท่ีอยู่อาศัยอย่างถาวรได้หมดลงไป ตั้งแต่ ต่าง ๆ ของถ้ำและคาสต์ รวมถึงโครงสร้าง คุณสมบัติ
มนษุ ย์มีความร้ใู นการเอาตวั รอดมากขนึ้ ความกลวั จาก ทางกายภาพ ประวัติศาสตร์ สิ่งมีชีวิตรูปแบบต่าง ๆ
สิ่งต่าง ๆ ท่ีไม่เคยเข้าใจได้ถูกความคิดและเหตุผล กระบวนการเกิดถำ้ (speleogenesis) และการเปลี่ยน
วิทยาศาสตร์เข้ามาแทนที่ พร้อมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ แปลงด้านธรณีสัณฐานถ้ำ (speleomorphology)
รวมทั้งอาวุธที่ทำให้มนุษย์กล้าที่จะก้าวออกมาจากถ้ำ ความหมายของถ้ำวิทยายังรวมไปถึงกิจกรรมด้าน
อย่างองอาจและพยายามเอาชนะทุกสิ่งเพื่อประโยชน์ สันทนาการในการสำรวจถำ้ ในระดับตา่ ง ๆ ซึ่งคำศัพท์
สขุ ของตน จนกลายมาเปน็ ชมุ ชนเมอื งตา่ ง ๆ ทเ่ี ริ่มจาก ภาษาอังกฤษจะใช้ คำว่า caving หรือ potholing แต่
ชมุ ชนเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมในปัจจุบัน สำหรับชาวอเมริกันจะใช้คำว่า spelunking ซึ่งจะเนน้
ในเชิงสนั ทนาการมากกวา่ จดุ เด่นของวชิ าถำ้ วิทยาเป็น
การสำรวจและศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ในการ การศึกษาในศาสตร์ต่าง ๆ หลายสาขาวิชาผสมผสาน
แสวงหาความรู้จากใต้พิภพทลี่ ึกลับบนโลกใบนี้ เริ่มต้น กนั เชน่ ธรณีวิทยา เคมี ชวี วทิ ยา ฟิสิกส์ อตุ นุ ิยมวทิ ยา
มาเมื่อไม่นานนักประมาณ 100 ปีเศษ ในแถบทวีป และการทำแผนท่ีถ้ำท่ีมีความซับซ้อน ปจั จุบันใช้ศึกษา
ยุโรปซึง่ มีพัฒนาการมาอยา่ งต่อเน่ือง พร้อม ๆ กับองค์ ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม และการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความรู้ที่อัศจรรย์ได้ถูกค้นพบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตจนถึงปจั จบุ ันได้ (ชยั พร ศิรพิ รไพบูลย์, 2554)
จนถึงปัจจุบัน บุคคลท่ีถือได้ว่าเป็นบิดาแห่งวิชาถ้ำ
วิทยาสมัยใหม่ (the father of modern speleology) 1.1.2 การสำรวจศกึ ษาถำ้ ในประเทศไทย
ในแถบยุโรปคอื นักสำรวจถำ้ ชาวฝรั่งเศสชอ่ื Edouard
จากการรวบรวมของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (2554) และจากการรวบรวม
ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสรุปประวตั ิการสำรวจศึกษาถ้ำ
ในประเทศไทยโดยสงั เขป ดังนี้
การสำรวจถ้ำในประเทศไทยที่ปรากฏเป็น
หลักฐาน ครั้งแรกเกิดขึ้นในรัชกาลที่ 2 โดย John
Crawfurd หัวหน้าคณะทูตอังกฤษได้กล่าวถึงสภาพ
ทางธรณีวิทยา ถ้ำ และพันธุพ์ ืช-สัตว์ บนเกาะสีชงั และ
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 3
คณะอนกุ รรมการดา้ นวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถำ้ แห่งชาติ
เกาะข้างเคยี ง ท่ีได้สำรวจในปี พ.ศ. 2365 (Crawfurd, บทบาทสำคัญต่อการสำรวจถ้ำในไทยอีกท่านนับต้ังแต่
1830) กัปตันโลว์ หรือ Captain James Low ชาว ปี พ.ศ. 2520 คือ John Spies ชาวออสเตรเลีย ได้
อังกฤษได้บันทึกรายละเอียดข้อมูลถ้ำ รวมทั้งข้อมูล สำรวจถ้ำในเชิงการค้นหาและผจญภัยในพื้นที่จังหวัด
ทางธรณีวิทยา สินแร่ และการทำเหมืองแร่ ในแถบ แม่ฮ่องสอน (Zhang, 2015) (รูปที่ 1.4) และได้ให้การ
ชายฝั่งอันดามันตั้งแต่ จังหวัดสตูล ตรัง ภูเก็ต พังงา ช่วยเหลอื นักสำรวจถ้ำทางวิทยาศาสตร์อนื่ ๆ ท่ีตามมา
และกระบี่ (James Low, 1836) ในปี พ.ศ. 2369 The ภายหลัง อาทิ John Dunkley นักสำรวจถ้ำชาว
Siam Society ในปี พ.ศ. 2400 ไดก้ ล่าวถึงการสำรวจ ออสเตรเลียและคณะได้เข้ามาสำรวจถ้ำในจังหวัด
ถ้ำบริเวณเขาหลวง จังหวัดเพชรบุรี Fritz Sarasin แม่ฮ่องสอน ในช่วงปี พ.ศ. 2526 และปี พ.ศ. 2528–
(1933) ได้บรรยายถึงการขุดค้นหาวัตถุยุคก่อน 2 5 2 9 John Dunkley (1994, 1995) ไ ด ้ ว ิ จ ั ย แ ล ะ
ประวัติศาสตร์ในปี พ.ศ. 2476 ในถ้ำที่เชียงใหม่ รวบรวมข้อมูลถ้ำในประเทศไทยจากในและนอก
เชียงราย ราชบุรี และลพบุรี บทความได้กล่าวถึงการ ประเทศและไดจ้ ดั พิมพ์เปน็ เอกสารสองฉบับ ในปี พ.ศ.
ที่ประเทศสยามในยุคนั้นที่ยังไม่มีการจัดทำแผนท่ี 2537 และ 2538 ตามลำดับ
ธรณวี ิทยา ทำให้ไม่สามารถทราบขอบเขตตำแหน่งของ
ภเู ขาหนิ ปูนซ่ึงเป็นพืน้ ทีท่ มี่ ีศักยภาพในการค้นพบถำ้ รูปที่ 1.3 แผนผังถ้ำสุวรรณคูหา จังหวัดพังงา (Kusch H.,
1973-1978)
Heinrich Kusch ในปี พ.ศ. 2503 ได้จัดทำ
แผนที่ถ้ำของไทยพร้อมคำอธิบาย การสำรวจถ้ำอย่าง รูปที่ 1.4 ถ้ำน้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เป็นทางการเริ่มในปี พ.ศ. 2508 โดย Lamb นัก (ภาพโดย John Spies)
โบราณคดี ต่อมา Gorman ในปี พ.ศ. 2512-2515 ได้
ทำการสำรวจถ้ำทางโบราณคดี Troll พ.ศ. 2516 ได้
ทำการสำรวจและทำรายงานเกี่ยวกับภูมิประเทศแบบ
คาสต์ (karst topography) Heinrich Kush ในปี พ.ศ.
2518-2521 ได้เดินทางสำรวจถำ้ ในภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของ
ไทย (รปู ที่ 1.3)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2524 คณะสำรวจถ้ำชาว
ฝรั่งเศสจากสมาคมการสำรวจถ้ำได้เข้ามาทำการ
สำรวจและทำแผนที่ถ้ำที่สำคัญบริเวณด้านตะวันตก
เฉียงเหนือของประเทศไทย ในจังหวัดเชียงใหม่และ
ลำปาง (Deharveng และ Gouze, 1981) และตาม
ด้วยการสำรวจครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2528-2531 โดย
Association Pyreneene de Speleology ในปี พ.ศ.
2529-2531 ซึ่งเป็นการสำรวจวิจัยทางชีววิทยาและ
อุทกวิทยา ในพ้นื ทบี่ ริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ
และบางส่วนบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ผู้ที่มี
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
4 คณะอนกุ รรมการดา้ นวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถำ้ แห่งชาติ
การศึกษาด้านชวี วิทยาในถ้ำ (biospeleology) สหวิทยาการหลายสาขา เช่น ธรณีวิทยา โบราณคดี
ในประเทศไทยนั้น Stone ในปี พ.ศ. 2526 และ ป่าไม้ การใช้ประโยชน์ท่ีดิน ชุมชน และระบบ
Deharveng and Le Clerc ในปี พ.ศ. 2532 ได้ ฐานขอ้ มูล เปน็ ตน้
รวบรวมข้อมูลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่
เป็นผลงานที่เผยแพร่ใน Thai Maros Expeditions รูปที่ 1.5 ผลการสำรวจจัดทำผังถ้ำ Thasuki 1 ในเขต
Association Pyreneene de Speleology (Deharveng รักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดตาก
L. , 1987) (Deharveng L. , 1988) ซึ่งเน้นการตั้งชื่อ (Smart, 2002) ภายใตโ้ ครงการของกรมปา่ ไม้
ทางวิทยาศาสตร์ (taxonomy) และเผยแพร่บันทึก
ข้อมูลต่าง ๆ สำหรับการสำรวจถ้ำและภูมิประเทศเขา ในส่วนของภาครัฐ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน
หินปูนในอุทยานแห่งชาติ ได้เริ่มทำการสำรวจอย่าง 2532 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบประกาศแหล่ง
จริงจัง เมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยความริเริ่มจาก นายเสรี ธรรมชาติอันควรอนุรักษใ์ นปีแห่งการพิทักษท์ รพั ยากร
เวชชบุษกร รองผู้อำนวยการกองอุทยานแห่งชาติ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 263 แหล่ง ใน
กรมป่าไม้ โดยความสนับสนุนจาก นาย John Spies จำนวนนี้เป็นแหล่งประเภทถ้ำ จำนวน 43 แหล่ง ตาม
นักสำรวจถ้ำชาวออสเตรเลีย และสมาคมถ้ำแห่ง ความเห็นของคณะกรรมการสิง่ แวดล้อมแห่งชาติ
ประเทศออสตรเลีย ซึ่งต่อมาปี พ.ศ. 2538 กรมป่าไม้
ได้จ้าง นาย Dean Smart นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ใ ห ้ เ ข ้ า ม า ช ่ ว ย ฝึ ก อ บ ร ม แ ล ะ ส ำ ร ว จ ถ ้ ำ ใ ห ้ อ ุ ท ย า น (2554) ได้จัดทำคู่มือการจัดการถ้ำเพื่อการท่องเที่ยว
แห่งชาติในบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และบริเวณ ในอุทยานแห่งชาติ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการ
ใกล้เคียง ซึ่งต่อมา นาย Dean Smart ยังได้ทำการ พ้ืนท่ี การจัดประเภท และแบง่ เขตการใชป้ ระโยชน์ถ้ำ
สำรวจ ศึกษา วิจัยเกี่ยวกับถ้ำในพื้นที่ของกรมป่าไม้ การจัดการท่องเท่ียวถ้ำ การพัฒนาสิ่งอำนวยความ
อีกหลายแหง่ (รูปท่ี 1.5)
จากประวัติการสำรวจถ้ำที่กลา่ วมา จะเห็นได้
ว่าการศึกษาเรื่องถ้ำในประเทศไทยที่ผ่านมานั้น
ดำเนนิ การโดยชาวต่างชาติเปน็ ส่วนใหญ่ การสำรวจถ้ำ
ในเชงิ วทิ ยาศาสตร์โดยคนไทยถือไดว้ ่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น
การสำรวจถำ้ ท่เี ปน็ งานวจิ ยั อย่างเปน็ ทางการนั้นได้เริ่ม
ในระยะ 20 ปี ที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. 2541 โครงการ
สำรวจถ้ำในบริเวณทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี
(Smart, 2002) เกิดขึ้นโดยการสนับสนนุ จากสำนกั งาน
กองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และระหว่างปี พ.ศ.
2541-2543 ได้มีโครงการวิจัยเรื่อง “การสำรวจและ
จัดทำระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำจังหวัดแม่ฮ่องสอน”
(สิทธิพงษ์ ดิลกวณิช, 2543) ซึ่งเป็นโครงการแบบ
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 5
คณะอนุกรรมการด้านวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถำ้ แห่งชาติ
สะดวกในถ้ำ ตลอดจนการส่ือความหมายถ้ำซึ่งช่วยให้ ธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ประเภทถ้ำ ซึ่งประกอบด้วย
หน่วยงานที่บริหารจัดการถ้ำเกิดความเข้าใจและ เกณฑ์การประเมินแหลง่ ถ้ำใน 4 ด้าน ไดแ้ ก่
สามารถนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาบริหารจัดการ
ถ้ำได้ (รูปท่ี 1.6) 1. ด้านองค์ประกอบของระบบถ้ำและสงิ่ แวดล้อม
2. ด้านองค์ประกอบทางภูมิสถาปัตยกรรม
และสถาปัตยกรรม
3. ด้านผลผลติ จากการบริการสิ่งแวดล้อมของถ้ำ
4. ดา้ นการบรหิ ารจดั การ
เม่ือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 คณะรัฐมนตรี
ได้มีมติรับทราบเกณฑ์ดังกล่าว มีผลให้หน่วยงาน
เจ้าของถ้ำสามารถนำเกณฑ์คุณภาพสง่ิ แวดล้อมนี้ไปใช้
ในการบริหารจัดการถ้ำที่อย่ใู นความดูแลได้
รูปที่ 1.6 คู่มือการจัดการถ้ำเพื่อการท่องเที่ยวในอุทยาน รูปที่ 1.7 คู่มือการตรวจประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่ง
แห่งชาติ ทอ่ งเท่ยี ว ประเภทถ้ำ
กรมการท่องเที่ยว (2557) ได้จัดทำคู่มือการ รูปที่ 1.8 คู่มือมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
ต ร ว จ ป ร ะ เ ม ิ น ม า ต ร ฐ า น ค ุ ณ ภ า พ แ ห ล ่ ง ท ่ อ ง เ ที่ ย ว ประเภทถำ้
ประเภทถ้ำ เพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้ดูแลแหล่งท่องเที่ยว
นำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและตรวจสอบ
มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวประเภทถ้ำ และยังสามารถ
เ ป ็ น ข ้ อ ม ู ล ใ น ก า ร ต ั ด ส ิ น ใ จ เ ล ื อ ก ใ ช ้ บ ร ิ ก า ร ส ำ ห รั บ
นกั ท่องเทย่ี วไดด้ ว้ ย (รปู ท่ี 1.7)
สำนกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม (2559) ได้ศึกษาและจัดทำคู่มือ
มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติประเภทถ้ำ
ประกอบด้วยการประเมินใน 3 ด้าน ได้แก่ คุณค่าของ
ถ้ำ ศักยภาพในการคงคุณค่าของถ้ำ และความเสี่ยง
ของถำ้ (รปู ที่ 1.8) ตอ่ มาไดพ้ ัฒนาการประเมนิ ดังกล่าว
ให้เป็นเกณฑ์การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแหล่ง
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
6 คณะอนุกรรมการดา้ นวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถำ้ แห่งชาติ
กรมทรัพยากรธรณี ได้สำรวจศึกษาเกี่ยวกับ จังหวัดสตูล ในปี พ.ศ. 2560 และ 2562 ตามลำดับ
ถ้ำในด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาเชิง ผลการศึกษาพื้นท่ีถำ้ คลงั (รปู ที่ 1.13)
อนรุ กั ษ์ ศกึ ษาความโดดเด่นด้านธรณีวิทยา และถ้ำวิทยา
อาทิ ประตมิ ากรรมถำ้ ซากดกึ ดำบรรพ์ พร้อมทั้งจัดทำ
แผนผังถ้ำ เช่น ถ้ำภูผาเพชร ถ้ำอุไรทอง ถ้ำเลสเตโกดอน
จงั หวัดสตูล (รูปท่ี 1.9-1.10) ถำ้ ปาฏหิ ารยิ ์ ถ้ำมดื ถำ้ เจีย
จังหวัดอุบลราชธานี ถ้ำดินเพียง จังหวัดหนองคาย
ถ้ำนเรศวร ถ้ำค้างคาว ถ้ำพระวงั แดง และถ้ำเดือน-ถ้ำดาว
จังหวดั พิษณุโลก เปน็ ต้น
รปู ท่ี 1.10 ความโดดเด่นภายในถำ้ เลสเตโกดอน จงั หวดั สตูล
รูปที่ 1.9 ความโดดเด่นภายในถ้ำอุไรทอง จงั หวัดสตลู รปู ท่ี 1.11 ตำแหน่งถ้ำเป็นและถ้ำกึ่งเป็นกึ่งตายในพื้นที่
ภาคใต้ สำหรับใช้ในการคัดเลือกถ้ำหนิ ปนู ในพืน้ ท่ี
นอกจากนี้ กรมทรัพยากรธรณี ได้สำรวจ ศึกษา
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโบราณจากสภาพ
ธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมภายในถ้ำหินปูน เพื่อหาค่าอายุ
และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในอดีตจากตวั อย่าง
หินงอก โดยจำแนกถ้ำในพ้ืนที่ภาคใต้แบ่งเป็น ถ้ำเป็น-
ถ้ำตาย เพื่อใช้ในการคัดเลือกถ้ำในโครงการดังกล่าว
(รูปที่ 1.11) พร้อมทั้งกำหนดตำแหน่งจุดเก็บตัวอย่าง
พื้นที่ถ้ำคลัง จังหวัดกระบี่ (รูปที่ 1.12) และถ้ำภูผาเพชร
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 7
คณะอนกุ รรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถำ้ แห่งชาติ
รูปท่ี 1.12 แผนผังถำ้ คลัง จังหวดั กระบี่ ซึ่งนับว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีจำนวนข้อมูลการสำรวจถ้ำใน
ประเทศไทยที่มากที่สุดในขณะนี้ ฐานข้อมูล
รปู ท่ี 1.13 ค่าอายุและสภาพอากาศโบราณจากหินงอก ประกอบด้วยรายการข้อมูลตำแหน่งถ้ำกว่า 4,700
ถำ้ คลัง จงั หวดั กระบี่ แห่ง มีข้อมูลถ้ำที่ยาวตั้งแต่ 1,000 เมตร ขึ้นไป ที่พบ
ในประเทศท้งั ส้ิน 78 แหง่ โดยถ้ำที่ยาวทส่ี ดุ ในประเทศ
คือ ถ้ำพระวังแดง จังหวัดพิษณุโลก ยาว 13.761
กิโลเมตร และข้อมูลถ้ำที่มีความลึกตั้งแต่ 100 เมตร
ขึ้นไป ที่พบในประเทศ 46 แห่ง โดยถ้ำที่มีความลึก
มากที่สุด คือ ถ้ำผาผึ้ง จังหวัดน่าน นอกจากน้ี ได้จัด
หมวดหมู่สถติ ิการสำรวจถ้ำแยกเป็นรายปี ขอ้ มูลสัตว์ท่ี
พบในถ้ำ รายงานการสำรวจถ้ำ แผนที่ถ้ำ ข้อมูล
เอกสารอ้างอิงกว่า 2,400 รายการ รวมทั้งมีข่าวสาร
คำอธิบายสัญลักษณ์ที่ใช้ในแผนที่ถ้ำ และได้นำ
ข้อกำหนดที่ออกโดยคณะกรรมการนโยบายบริหาร
จดั การถำ้ แห่งชาติ เผยแพรไ่ ว้ดว้ ย (รูปท่ี 1.14-1.16)
1.2 ฐานข้อมูลถำ้ ของไทย
ด้านฐานข้อมูลถ้ำในไทย Martin Ellis (2020) รูปที่ 1.14 เว็บไซต์ Caves & Caving in Thailand
นักสำรวจถ้ำจากสมาคมถ้ำวิทยาของอังกฤษ ได้ รูปที่ 1.15 ขอ้ มลู ถ้ำทีย่ าวท่สี ุดในประเทศไทย
รวบรวมข้อมูลการสำรวจถ้ำในไทยจากนักสำรวจถ้ำ
ชมรม สมาคม และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและ
ต่างประเทศท่สี ำคญั อาทิ
- Shepton Mallet Caving Club
- Dean Smart
- Australian expeditions to Mae Hong Son
- Canberra Speleological Society
- Orpheus Caving Club
- Thailand Karst Hydrologic Project
ข้อมูลสำรวจถ้ำได้ถูกรวบรวม จัดหมวดหมู่
จัดทำเป็นฐานข้อมูล และเผยแพร่บนเว็บไซต์ Caves &
Caving in Thailand (www.thailandcaves.shepton.org.uk)
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
8 คณะอนุกรรมการดา้ นวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถำ้ แห่งชาติ
รูปที่ 1.17 แผนผังถ้ำผาผึ้ง จังหวัดน่าน ความลึก 476 เมตร
ถำ้ ท่ีลกึ ทสี่ ุดในประเทศไทย
รูปที่ 1.16 ตัวอย่างฐานข้อมูลถ้ำตะสุคี จังหวัดตาก
(Smart, 2002)
ข้อมูลท่ถี ือวา่ มีความโดดเด่น ได้แก่ แผนผังถ้ำ รูปท่ี 1.18 แผนผังถำ้ พระวังแดง จังหวัดพิษณุโลก ความยาว
แบบ 2 มิติ (รูปที่ 1.17-1.18) ซึ่งเป็นแผนที่ขั้นต้น 13.761 กิโลเมตร ถ้ำที่ยาวท่ีสดุ ในประเทศไทย
สำหรับการสำรวจถ้ำ จำนวนกว่า 500 แห่ง จากพื้นท่ี
40 จังหวัด จำแนกเป็นถ้ำในภาคอีสาน จำนวน 77
แห่ง จาก 6 จังหวัด ภาคเหนือ จำนวน 309 แห่ง จาก
14 จังหวัด ภาคตะวันออก จำนวน 26 แห่ง จาก 4
จังหวัด ภาคกลาง จำนวน 37 แห่ง จาก 6 จังหวัด
และภาคใต้ จำนวน 79 แห่ง จาก 10 จังหวัด มีข้อมูล
การศึกษาสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์ในถ้ำหินปูนของ
ประเทศไทย ระบุว่ามีมากถึง 470 สปีชีส์ และมี
ตัวอย่างต้นแบบ (holotype) มากถึง 209 สปีชีส์
(รปู ท่ี 1.19)
รปู ท่ี 1.19 ตกุ๊ แกถ้ำ C. samroiyot (Photo: Sumontha
In Pauwels & Sumontha, 2014)
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 9
คณะอนุกรรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ
ส่วนท่ี 2 2. ปัญหาจากการบริหารจัดการถ้ำ โดยพบ
ประเดน็ สถานการณ์ ปัญหาอันเนื่องมาจากการซ้อนทับพื้นที่ในการบริหาร
จัดการ ขาดการวางแผนในการบริหารจัดการ การ
2.1 การประเมินคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มของแหล่ง ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมไม่เหมาะสมขาดความ
ธรรมชาติอนั ควรอนุรกั ษ์ประเภทถ้ำ สอดคล้องกับพ้ืนที่ ถำ้ หลายแห่งมีกจิ กรรมด้านความเชื่อ
และในส่วนของนักท่องเที่ยว พบว่ามีการขีดเขียนผนัง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สำนักงาน ถ้ำและนำอาหารเขา้ ไปรับประทาน
นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกองจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรม ตารางที่ 2.1 จำนวนถ้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่ง
ได้ทำการติดตามการประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อม
แหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ประเภทถ้ำ จาก ธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ และจำนวนถ้ำที่ได้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป่าไม้ กรมอุทยาน
แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์กรปกครอง ติดตามประเมินคุณภาพส่งิ แวดลอ้ ม พ.ศ. 2562
ส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติ
คณะรฐั มนตรี เมื่อวนั ที่ 6 กุมภาพนั ธ์ 2561 จังหวดั จำนวนถ้ำ จำนวนถ้ำ ระดับผลการประเมนิ
การประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ ได้รบั การขึ้นทะเบียน ท่ีได้รับการประเมิน และจำนวนถ้ำ
สามารถติดตามและประเมนิ ถำ้ ท่ีได้รับการข้ึนทะเบียน
เป็นแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ ตามมติ เชียงราย 1 1 ดี
คณะรัฐมนตรี ได้จำนวน 31 แห่ง ใน 21 จังหวัด จาก เชียงใหม่ 2 2 ดี (2)
จำนวน 43 แห่ง ใน 28 จังหวัด โดยทำการประเมิน ตาก 1 1 ดี
และส่งผลเข้าระบบ ผลการประเมิน พบว่า แหล่ง นา่ น 2 1 ดี
ธ ร ร ม ช า ต ิ อ ั น ค ว ร อ น ุ ร ั ก ษ ์ ป ร ะ เ ภ ท ถ ้ ำ อ ย ู ่ ใ น เ ก ณ ฑ์ แมฮ่ อ่ งสอน 2 2 ปานกลาง (1) ดี (1)
คุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับดีมีจำนวน 25 แห่ง และ ลำปาง 1 1 ดี
ระดบั ปานกลางมีจำนวน 6 แหง่ (ตารางที่ 2.1) สุโขทัย 1 1 ดี
ลำพนู 1 --
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ แพร่ 1 --
และสิ่งแวดล้อมได้มีรายงานว่า จากการลงติดตามใน พิษณโุ ลก 1 --
พืน้ ท่ี พบว่าปัญหาคุณภาพสงิ่ แวดลอ้ มมีสาเหตุจาก ชัยภูมิ 1 1 ดี
นครพนม 1 1 ปานกลาง
1. ภัยธรรมชาติ โดยพบรอยร้าวของเสาหิน มกุ ดาหาร 1 1 ดี
ในถ้ำจังหวัดกาญจนบุรี คาดว่าเกิดจากแผ่นดินไหวที่ เลย 2 1 ดี
เกิดข้นึ บอ่ ยครัง้ ในบรเิ วณนี้ หนองบัวลำภู 1 1 ปานกลาง
ขอนแก่น 1 --
สกลนคร
นครราชสมี า 1 --
กาญจนบุรี 1 --
ราชบุรี 4 3 ดี (3)
เพชรบุรี 2 1 ปานกลาง
กระบี่ 1 1 ดี
ชมุ พร 5 5 ปานกลาง (1) ดี (4)
ตรงั 1 1 ดี
พงั งา 1 1 ปานกลาง
ยะลา 3 2 ดี (2)
ระนอง 2 2 ดี (2)
นราธิวาส 1 1 ดี
1 --
รวม 43 31
สำหรับการแก้ไขปัญหา สำนักงานนโยบาย
และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (2562)
เสนอแนะให้ผู้บริหารจัดการถ้ำแต่ละแห่ง ทำการ
ติดตามตรวจสอบเพิ่มขึ้น จัดทำป้ายแสดงให้เห็นว่า
เป็นแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ จัดทำวีดิทัศน์มี
ความยาว 1-2 นาที ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงคุณค่า
ของแหล่ง และจัดทำแผนบรหิ ารจัดการถ้ำอย่างมีสว่ น
รว่ มและย่งั ยืน
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
10 คณะอนุกรรมการด้านวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถ้ำแห่งชาติ
จากขอ้ มูลมขี ้อสังเกตเพ่ิมเตมิ ว่า ถ้ำท่ีดูแลโดย ส่วนที่สอง เป็นมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว
หนว่ ยงานสว่ นกลางในภูมภิ าคและองค์กรปกครองส่วน ประเภทถ้ำ มีองค์ประกอบในการกำหนดคุณภาพของ
ท้องถิ่น ต่างก็มีผลการประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อม แหล่งท่องเทย่ี วประเภทถำ้ 3 ประการ ไดแ้ ก่
ใกลเ้ คียงกัน (รูปที่ 2.1)
1. คุณคา่ ดา้ นการท่องเทยี่ ว
รูปท่ี 2.1 กราฟเปรียบเทียบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระหว่าง • คุณคา่ ทางธรรมชาติ เชน่ ความงามของถ้ำ
ถำ้ ที่ดแู ลโดยหน่วยงานสว่ นกลางในภมู ิภาคและ
องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ นำ้ ภายในถ้ำ หินงอกหินย้อย สิ่งมชี วี ติ ในถ้ำ
• คณุ คา่ ทางศลิ ปวัฒนธรรม เช่น โบราณวัตถุ
2.2 การบรหิ ารจดั การถำ้ เพ่ือการท่องเท่ยี ว
ซากดกึ ดำบรรพ์ การเดนิ ทางมาของบุคคลสำคัญ ความ
กรมการท่องเที่ยว (2557) จัดทำคู่มือการ เชื่อพื้นบ้าน หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์
ประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทาง กับศาสนา เปน็ ตน้
ธรรมชาติประเภทถ้ำใหผ้ ูด้ ูแลบรหิ ารจัดการถ้ำเพ่ือการ
ท่องเที่ยวนำไปใช้ สามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ 2. ศักยภาพในการพัฒนาด้านการท่องเท่ยี ว
https://www.dot.go.th/Ebooks/ebooks-group/41 • ศักยภาพความสามารถในการรองรับการ
เกณฑ์การประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว
ทางธรรมชาติประเภทถ้ำน้ี แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังน้ี จัดกจิ กรรมการทอ่ งเทีย่ ว
• ความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนแรก เป็นศักยภาพและความเหมาะสม
ของถ้ำในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยไม่ส่งผล การเข้าถึงปากถ้ำ ความเชื่อมโยงกับเส้นทางการ
ให้เกิดการทำลายสภาพธรรมชาติ อาทิ ขนาดถ้ำ ท่องเท่ยี วหลกั
ลักษณะภายในถ้ำ การรุกล้ำเข้าไปในถ้ำ กิจกรรมที่
ทำลายสภาพธรรมชาติบริเวณถ้ำ ภัยธรรมชาติ ความ • ความปลอดภัย หรือเหตุอันตรายต่อ
ปลอดภัยภายในถ้ำ การถ่ายเทอากาศ อันตรายที่อาจ นักทอ่ งเทย่ี ว
เกิดกับนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ดูแลถ้ำ กิจกรรมท่ี
เหมาะสม โอกาสในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว • การรองรบั ด้านการท่องเทย่ี ว อาทิ ความ
ความสามารถในการรองรับการท่องเที่ยว และการ ร่วมมอื ของท้องถิ่น เอกชน และภาครฐั
จดั การด้านการใช้ประโยชน์ของแหล่งท่องเทยี่ ว
3. การบริหารจัดการ เป็นการดำเนินงานการ
จัดการแหล่งทอ่ งเท่ียวเพื่อให้เกิดการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยืน
• การจดั การดา้ นการอนรุ ักษ์แหลง่ ธรรมชาติ
สิง่ แวดล้อม และการท่องเที่ยว
• การจัดการด้านการให้ความรู้และการ
สร้างจิตสำนึกในเรื่องคุณค่าของแหล่ง โดยพิจารณา
จากการดำเนินงานขององค์กรทีด่ ูแลรับผิดชอบพื้นที่ท่ี
ดำเนินการต่อนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่
ผปู้ ระกอบการ และชุมชนท้องถิ่นโดยรอบ
• การจัดการด้านเศรษฐกิจสังคม โดยการ
มสี ว่ นร่วมของชมุ ชนในกจิ กรรมการท่องเที่ยว การเปิด
โอกาสให้ประชาชนหรือชุมชนมีส่วนร่วมในการคิด
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 11
คณะอนุกรรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
ตัดสินใจ ดำเนินการร่วมรับผิดชอบต่อผลกระทบต่าง ๆ ชุมชนดั้งเดิม และให้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์
ท่ีเกดิ ขนึ้ และกระจายผลประโยชน์และรายไดส้ ทู่ ้องถ่ิน
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม
ผลการประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่ง ตารางท่ี 2.3 รายชื่อแหล่งที่ได้รับรองมาตรฐานแหล่ง
ท่องเที่ยวทางธรรมชาติประเภทถ้ำ สามารถแสดงได้ ทอ่ งเท่ยี วประเภทถ้ำ (พ.ศ. 2561-2562)
ด้วยสัญลักษณ์ (ตารางที่ 2.2) ตัวอย่าง เช่น ถ้ำ ท่ี ชือ่ แหลง่ จังหวัด ภาค หมดอายุ
ดาวดึงส์ จังหวัดกาญจนบุรี มีศักยภาพในการพัฒนา 1. อุทยานแห่งชาตเิ ขาสก สรุ าษฎรธ์ านี ใต้ 2564
(ถำ้ ประกายเพชร)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทถ้ำ โดยได้คะแนนรวม 2. ถ้ำเขาช้างหาย ตรัง ใต้ 2564
113 คะแนน จดั ว่ามมี าตรฐานคณุ ภาพแหลง่ ท่องเที่ยว 3. ถ้ำภูผาเพชร สตูล ใต้ 2564
ทางธรรมชาติประเภทถ้ำอยู่ในระดับดี หรือได้ 4. อุทยานแหง่ ชาติธารโบก กระบ่ี ใต้ 2564
ธรณี (ถำ้ ผีหวั โต)
สัญลักษณ์ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียด
5. ถำ้ เลสเตโกดอน สตูล ใต้ 2564
การประเมินถ้ำดาวดึงส์ เพิ่มเติมได้จากเอกสารคู่มือ
6. อทุ ยานแหง่ ชาตนิ ำ้ หนาว เพชรบูรณ์ กลาง 2563
ของกรมการท่องเทย่ี ว (2557) (ถำ้ ใหญ่นำ้ หนาว) อุทัยธานี กลาง 2564
ตารางท่ี 2.2 ระดบั มาตรฐานแหล่งท่องเท่ยี วประเภทถ้ำ 7. วนอทุ ยานถ้ำเขาวง
(ถำ้ พหุ วาย)
ค่าคะแนน ระดบั มาตรฐาน สัญลักษณ์
มากกวา่ 150 คะแนน ดเี ยี่ยม
มากกวา่ 125-150 คะแนน ดมี าก
มากกว่า 95-125 คะแนน ดี
มากกว่า 70-95 คะแนน ปานกลาง
มากกวา่ 45-70 คะแนน ตำ่
ด้านสถานการณ์ประจำปี กรมการท่องเที่ยว
ได้ตรวจประเมินและรับรองแหล่งท่องเที่ยวทาง
ธรรมชาติประเภทถ้ำ จำนวน 7 แห่ง ระหว่างปี พ.ศ.
2561-2562 รายละเอียดผลการประเมิน (ตารางท่ี
2.3) ทง้ั นี้ ในลำดับที่ 3 ถำ้ ภูผาเพชร และลำดับที่ 5 ถ้ำ
เลสเตโกดอน เป็นถ้ำที่อยู่ในอุทยานธรณีสตูล ซึ่งท้ัง
สองแหง่ ได้อาศัยแนวทางการพฒั นาและบรหิ ารจัดการ
ของ UNESCO Geopark ซึ่งมีแนวทางสอดคล้องและ
ไปในทางเดียวกันกับเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน
คุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติประเภทถ้ำของ
กรมการท่องเที่ยว ที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นการพฒั นาอย่างย่ังยืน
ให้ความสำคัญต่อการศึกษา เศรษฐกิจชุมชน วิถีชีวิต
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
12 คณะอนุกรรมการด้านวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้ำแห่งชาติ
ส่วนท่ี 3 หลังจากเหตุการณ์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
มิตใิ หมใ่ นการบรหิ ารจดั การถำ้ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลและ
รบั ผิดชอบพ้ืนท่ีถ้ำ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงทรัพยากร
3.1 ความเปน็ มา ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์
มีนโยบายให้กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากร-
วกิ ฤตถิ ้ำหลวง อำเภอแม่สาย จงั หวดั เชยี งราย น้ำบาดาล และกรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่า และพนั ธ์ุพืช
ที่เร่ิมจากห้วงเวลาการ “ค้นหา” ระหว่างวันที่ 26 ร่วมกันในการสำรวจฟื้นฟูถ้ำหลวงและพื้นที่โดยรอบ
มิถุนายน 2561 จนพบทีมหมูป่าในถ้ำบริเวณที่เรียกว่า โครงการเริ่มในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 มีระยะเวลา
เนินนมสาว ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 และพบว่าท้ัง ดำเนนิ การ 2 ปี
13 ชีวติ ยังปลอดภยั ดี
จุดประสงค์โครงการนี้ เพื่อให้ทราบถึงข้อมูล
จากนน้ั ปฏิบัติการก็เริ่มเขา้ สู่ห้วงเวลาของการ และสภาพทางธรณีวิทยาและน้ำบาดาลภายในถ้ำและ
“กู้ภัยช่วยชีวิต” ซึ่งเริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 3 กรกฎาคม พน้ื ทโ่ี ดยรอบ เพ่อื นำมาประกอบการวางแผนการฟ้ืนฟู
2561 ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 และพัฒนาถ้ำหลวงและพื้นที่โดยรอบ คำนึงถึงการมี
สามารถนำทีมหมูป่าชุดแรกออกมาได้ในที่สุด และที่ ส่วนร่วมของชุมชน องค์กรท้องถิ่น และหน่วยงาน
เหลือก็ได้รับการชว่ ยเหลือกู้ภัยทยอยออกมาจากถ้ำจน ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจชุมชน
ครบทั้ง 13 ชีวิต ได้อย่างปลอดภัย ในวันที่ 11 ท้องถิ่น และการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ข้อมูลการ
กรกฎาคม 2561 และเจ้าหนา้ ท่ีก้ภู ัยคนสุดท้ายออกมา สำรวจที่ได้ยังสามารถนำไปใช้ในการป้องกันและเพ่ือ
จากถ้ำหลวงในวนั ท่ี 12 กรกฎาคม 2561 (รูปท่ี 3.1) รองรับเหตุการณ์ท่ีอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต (รูปที่ 3.2-
3.3)
รูปที่ 3.1 การลดระดับน้ำภายในถ้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการ รูปท่ี 3.2 แผนผังถ้ำและประติมากรรมถ้ำภายในถ้ำหลวง
เข้าไปช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมี ออกจากถ้ำหลวง จังหวดั เชียงราย
จงั หวัดเชียงราย
นับเป็นเหตุการณ์ที่เป็นกระแสข่าวใหญ่มีผู้ให้
ความสนใจและติดตามท่วั โลก มกี ิจกรรมตา่ ง ๆ รวมทัง้
การถอดบทเรียนตามมาอย่างมากมาย ปรากฏในสื่อ
ตา่ ง ๆ ดงั เป็นทีท่ ราบโดยทว่ั กนั
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 13
คณะอนุกรรมการดา้ นวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้ำแห่งชาติ
รปู ที่ 3.3 เผยแพรอ่ งค์ความรู้เก่ียวกับถำ้ แกเ่ ยาวชนในพ้ืนที่ รปู ที่ 3.4 แผนที่แสดงพ้ืนที่หินปูน ประเทศไทย
(กรมทรพั ยากรธรณี, 2562)
ตามที่ได้กล่าวตอนต้น แม้จะมีองค์กร
ผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ต่าง ๆ อยู่แล้วก็ตาม ในบริบท รปู ท่ี 3.5 แผนที่แหล่งทรัพยากรธรณีประเภทถ้ำประเทศไทย
ของประเทศไทย ยังไม่มีองค์กรใดรับผิดชอบในการ (กรมทรพั ยากรธรณี, 2562)
บริหารจัดการถ้ำและพื้นที่โดยรอบได้ครอบคลุมในทุก
มิติและเบ็ดเสร็จ ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะ การบริหาร
จัดการถ้ำต่าง ๆ ในประเทศจึงมีความหลากหลาย
แตกต่างและไม่มที ศิ ทางชัดเจน
ใ น ข ณ ะ ท่ี พ ื ้ น ท ี ่ ห ิ น ป ู น ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
ครอบคลุมเนื้อที่กว่าร้อยละ 30 ของประเทศ ซึ่งเป็น
แหล่งศักยภาพที่จะพบถ้ำในแหล่งหินปูน (รูปที่ 3.4)
ยกเว้นพื้นที่ในภาคอีสานที่สามารถพบถ้ำได้ทั้งจากใน
หินทรายและหินปูน ปัจจุบันข้อมูลตำแหน่งถ้ำใน
ประเทศไทยมีมากกว่า 4,000 แห่ง (Ellis, 2020) และ
เชื่อว่ายังมีตำแหน่งถ้ำอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ถูก
ค้นพบหรือสำรวจบันทึก (Smart, 2000) ในระหว่างปี
พ.ศ. 2560-2562 กรมทรัพยากรธรณี ได้ดำเนินการ
รวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลถ้ำประเทศไทย พบว่ามี
ถ้ำที่สามารถระบุตำแหน่งและกำหนดลงบนแผนที่ได้มี
จำนวนทง้ั ส้นิ 2,608 ถ้ำ (รปู ท่ี 3.5) โดยกระจายตัวอยู่
ทั้งในพื้นที่ที่มีลักษณะธรณีวิทยาเป็นหินปูนและหิน
ทราย ทั้งนี้ ได้ดำเนินการสำรวจไปแล้ว กระจายตัว
ตามภาคต่าง ๆ จำนวน 173 ถ้ำ ตัวอย่างถ้ำหินทราย
และถ้ำหินปูน ที่ได้สำรวจด้านธรณีวิทยา พร้อมจัดทำ
แผนผังถ้ำ (รูปที่ 3.6) ลักษณะโดดเด่นและความ
หลากหลายที่พบในแตถ่ ำ้ (รปู ท่ี 3.7)
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
14 คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
รูปท่ี 3.6 ตวั อยา่ งถำ้ ทีไ่ ด้จดั ทำแผนผงั ถำ้ ไว้แลว้ ถ้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าและควร
บน : ถำ้ นเรศวร จงั หวดั พษิ ณุโลก (ถำ้ หนิ ปนู ) อนุรักษ์เนื่องจากมีความเปราะบาง ดังนั้น การบริหาร
ลา่ ง : ถำ้ ดนิ เพยี ง จงั หวดั หนองคาย (ถ้ำหินทราย) จัดการถ้ำจึงควรมีทิศทางและหน่วยงานรับผิดชอบ
ชัดเจนพร้อมทั้งปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างบูรณาการ
รปู ท่ี 3.7 ลักษณะโดดเด่นทพ่ี บภายในถ้ำ เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากถ้ำเกิดประโยช น์ แ ล ะมี
บน : ซากดกึ ดำบรรพ์จำพวกปะการงั (coral) ประสทิ ธิภาพสูงสดุ
พบบรเิ วณถ้ำเดอื น-ถำ้ ดาว จงั หวัดพษิ ณโุ ลก
ล่าง : ชั้นหินทราย ทรายแปง้ แทรกสลบั กับ 3.2 คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำ
หินปนู ภายในถ้ำพระวงั แดง จงั หวัดพษิ ณุโลก แหง่ ชาติ
เมอ่ื วันท่ี 2 เมษายน พ.ศ. 2562 คณะรัฐมนตรี
มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการนโยบายบริหาร
จดั การถ้ำแห่งชาติ ตามท่กี ระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อมเสนอ เนื่องจากถ้ำเป็นทรัพยากร
ธ ร ร มช าติ ที่ ม ี คุ ณ ค ่ า ท า ง ว ิ ช า ก า ร ด ้ า น ธ ร ณ ี ว ิ ท ย า
ประวัตศิ าสตร์ วฒั นธรรม นันทนาการ ระบบนิเวศทาง
ธรรมชาติ และเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หายาก
หรือใกล้สูญพันธุ์ อีกทั้งเป็นแหล่งน้ำใต้ดิน มีความ
อ่อนไหวต่อการถูกทำลายทั้งโดยธรรมชาติและการ
กระทำของมนุษย์ เมื่อถูกทำลายแล้วไม่สามารถฟื้นฟู
ให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ ปัจจุบันถ้ำอยู่ภายใต้การ
กำกบั ดแู ลของภาคส่วนตา่ ง ๆ จึงจำเป็นตอ้ งมีนโยบาย
เพื่อการบริหารจัดการถ้ำในระดับชาติ แนวทางการ
บริหารจัดการถ้ำอย่างเป็นระบบ และบูรณาการภาค
ส่วนต่าง ๆ องค์ประกอบ (รูปท่ี 3.8) และมีอำนาจ
หน้าท่ี ดังนี้
1. กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ แนวทางการ
ใชป้ ระโยชน์ การบริหารจัดการถ้ำ
2. ดำเนินการเพื่อให้มีการศึกษา สำรวจ วิจัย
จัดทำข้อมูล และประเมินศักยภาพถ้ำ เพื่อการพัฒนา
และใชป้ ระโยชน์ด้านตา่ ง ๆ
3. กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการแบบ
มีส่วนร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ของท้องถิ่น และบูรณาการการบริหารจัดการการ
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 15
คณะอนกุ รรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
ท่องเที่ยวถ้ำ โดยมีความเชื่อมโยงกับการพัฒนา รปู ท่ี 3.8 คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายบริหาร
เศรษฐกจิ ของชุมชนทอ้ งถน่ิ จัดการถ้ำแห่งชาติ
4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และ/หรือ
คณะทำงานไดต้ ามความจำเปน็ และเหมาะสม
5. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีหรือ
คณะรฐั มนตรีมอบหมาย
กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะฝ่ายเลขานุการ
คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ
จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำ
แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2562 และงานแถลงข่าวและ
นิทรรศการ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เมื่อวันศุกร์ท่ี
26 เมษายน 2562 ณ โรงแรมมริ าเคิล แกรนด์ คอนเวนชน่ั
กรุงเทพมหานคร โดยมีพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุม และมีนายวีระศักดิ์
โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและ
กฬี าใหเ้ กยี รติเข้ารว่ มประชุม พรอ้ มดว้ ยคณะกรรมการ
ทป่ี ระชุมมมี ติเหน็ ชอบกรอบแนวคิดการบริหารจัดการ
ถ้ำของประเทศไทย และมีมติเห็นชอบแต่งต้ัง
คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบาย
บริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ จำนวน 2 คณะ ได้แก่
คณะอนกุ รรมการด้านนโยบายและการมสี ่วนรว่ ม และ
คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ภายหลังการประชุมได้
แถลงข่าวสรุปผลการประชุม โดยมีพลเอกสุรศักด์ิ
กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวีระศักด์ิ โควสุรัตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
นายชัยพร ศิริพรไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำ
Mr.Vernon Unsworth และ Mr.Joshua David Morris
นักสำรวจถำ้ รว่ มแถลงข่าวให้แก่สือ่ มวลชน (รูปท่ี 3.9)
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
16 คณะอนุกรรมการด้านวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
รปู ท่ี 3.9 การประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหาร วนั ศุกรท์ ่ี 24 มกราคม 2563 กรมทรพั ยากรธรณี
จัดการถ้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2562 และงาน ในฐานะฝ่ายเลขานุการจัดประชุมคณะกรรมการ
แถลงขา่ วและนทิ รรศการ เพ่ือเผยแพร่ข้อมูล นโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563
ขา่ วสาร ณ โรงแรมมริ าเคลิ แกรนด์ คอนเวนชนั่ ณ อทุ ยานแห่งชาติถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ)
กรุงเทพมหานคร โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการ
ประชุม พร้อมด้วยคณะกรรมการ (รูปที่ 3.10)
ที่ประชุมมีมติ 1) เห็นชอบให้ดำเนินการสำรวจ
ประเมินและบริหารจัดการถ้ำสำคัญและมีความ
อ่อนไหวต่อการถูกทำลาย จำนวน 11 ระบบถ้ำ
2) เห็นชอบข้อปฏิบัติในการคุ้มครองถ้ำ 16 ข้อ
3) เห็นชอบกรอบการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการ
ของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ
และ 4) มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงาน 2 คณะ และ
คณะอนุกรรมการ 3 คณะ ภายใต้คณะกรรมการนโยบาย
บริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ รวม 5 คณะ ดงั น้ี
1. คณะทำงานจัดทำแผนแม่บทการบริหาร
จดั การถ้ำของประเทศ
2. คณะทำงานศึกษากฎหมายการบริหาร
จัดการถ้ำ
3. คณะอนกุ รรมการสำรวจและบริหารจัดการ
ระบบถ้ำธารน้ำลอด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทุ่ง
ระยะและป่านาสัก อำเภอสวี จังหวดั ชุมพร
4. คณะอนกุ รรมการสำรวจและบริหารจัดการ
ระบบถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว
จงั หวดั น่าน
5. คณะอนกุ รรมการสำรวจและบรหิ ารจดั การ
ระบบถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนาง
นอน (เตรียมการ) อำเภอแมส่ าย จังหวัดเชยี งราย
อาศัยตามอำนาจหน้าที่ในข้อ 4 คณะกรรมการ
นโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ ปัจจุบันมีคำส่ัง
แตง่ ตัง้ คณะอนุกรรมการและคณะทำงาน รวม 7 คณะ
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 17
คณะอนกุ รรมการดา้ นวิชาการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
รูปที่ 3.10 การประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหาร 3.3 นิยามถำ้ และการแบ่งประเภทถ้ำ
จดั การถำ้ แหง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 1/2563 ณ อุทยาน
แห่งชาติถำ้ หลวง-ขนุ นำ้ นางนอน (เตรียมการ) 3.3.1 นิยามถำ้
จังหวัดเชียงราย
ถ้ำ ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ. 2525 หมายถงึ “โพรงที่ลกึ เข้าในภเู ขา”
ถ้ำ ตามพจนานกุ รม ศัพท์ภมู ศิ าสตร์ องั กฤษ-ไทย
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2518 หมายถึง “ช่องหรือ
โพรงลึกเข้าไปในแผ่นดิน โดยมากมีอยู่ตามภูเขาทีม่ ีน้ำ
ใต้ดนิ ไหลผ่านกดั เซาะ หรือถำ้ ท่เี กิดขนึ้ ตามชายฝ่ังทะเล”
ถ้ำ ตามความหมายพจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (2558) หมายถึง (1) ช่องที่
เปน็ โพรงลกึ เข้าไปในพ้ืนดินหรือภูเขามีขนาดใหญ่พอที่
มนุษย์สามารถเข้าไปได้ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
โดยทั่วไปถ้ำเกิดขึ้นในหินปูนที่มีน้ำใต้ดินไหลผ่านกัด
เซาะ พบมีอยู่ตามภูเขาหินปูนหรือเกิดตามภูเขาชายฝ่ัง
ทะเล (2) ช่องหรือโพรงที่เกดิ ขึ้นจากการกระทำของมนษุ ย์
Showcaves.com ให้คำจำกัดความว่า “ถ้ำ
คือช่องว่างใต้ดินที่มีอากาศ มีขนาดใหญ่พอที่จะให้
มนษุ ยเ์ ข้าไปได้”
จะเห็นได้ว่าการให้คำจำกัดความของถ้ำมี
หลากหลายและแตกตา่ งกันไป สว่ นใหญ่ยอมรบั ว่าเป็น
ช่องว่างในภูเขาที่มีขนาดใหญ่พอที่จะให้มนุษย์เข้าไป
สำรวจได้ ดงั น้นั ชอ่ งว่างในภูเขาท่ีมขี นาดเล็กเกินกว่าที่
มนุษย์โดยทั่วไปจะเขา้ ไปสำรวจได้ จึงยังไมถ่ ือวา่ เป็นถำ้
เพื่อให้การดำเนินงานเรื่องระบบถ้ำมีความ
ถูกต้องตามหลักวิชาการ คณะอนุกรรมการด้าน
วิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการ
ถ้ำแห่งชาติ จึงได้มีมติให้นิยามของถ้ำ (25 ธันวาคม
2562) ไวด้ ังนี้
“ถ้ำ หมายถึง ช่องว่างที่เกิดในหินตาม
ธรรมชาติที่มีความกว้างพอที่ให้คนเข้าไปได้ มีขนาด
เสน้ ผ่านศูนย์กลางอยา่ งน้อย 30 เซนติเมตร และอาจมี
น้ำอยู่หรือไม่มีก็ได้ เป็นถ้ำที่สามารถเข้าไปสำรวจ
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
18 คณะอนกุ รรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถำ้ แห่งชาติ
ศึกษา และจัดทำแผนที่เพื่อประโยชน์ในการบริหาร • ถ ้ ำ แ น ว ร ะ น า บ ( horizontal caves)
จดั การ” ประกอบด้วยโถงถ้ำต่าง ๆ ที่วางตัวในแนวระนาบหรือ
ใกล้เคียง เช่น ถ้ำรอยแยก (fissure caves) เกิดจาก
คณะกรรมการฯ ได้อาศัยแนวความคิดเรื่อง รอยแยกของหนิ
“ระบบถ้ำ” ในการบริหารจัดการ เนื่องจากถ้ำส่วนใหญ่
เกิดขึ้นในพื้นท่ีภูมปิ ระเทศแบบคาสต์ (karst) และเป็น • ถ้ำแนวต้งั (vertical caves) ประกอบด้วย
สิ่งที่ควบคู่กันเสมอ (รูปท่ี 3.11) ทั้งนี้ แนวคิดของ ปลอ่ งหรอื โพรงทีอ่ ยู่ในแนวดิ่ง
ระบบถ้ำยังรวมองค์ประกอบทางกายภาพ ชีวภาพ
สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการบริหารจัดการแบบ • ระบบถ้ำ (cave systems) มีขนาดค่อนข้าง
องคร์ วม (holistic approach) ใหญ่ ประกอบด้วยโครงสรา้ งลักษณะต่าง ๆ หลายอย่าง
ระบบถ้ำ (cave systems) ในบางแห่งอาจ 3. แบ่งโดยใช้ช่วงเวลาของการเกิดหิน
เป็นกลุ่มของถ้ำที่มีการเชื่อมโยงกันโดยช่องทางที่ ประกอบดว้ ย
สามารถเข้าไปได้ หรือเชื่อมต่อกันในด้านอุทกวิทยา
หรือเป็นถ้ำที่มีช่องทางหรือโถงถ้ำหลาย ๆ โถง ท่ีเป็น • ถ้ำปฐมภมู ิ (primary caves) เป็นถ้ำที่เกิด
โครงข่ายตอ่ เนื่องกัน ในขณะที่มีการเกิดหินชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะช่อง
อุโมงค์ของลาวา (lava tubes) หรือโพรงที่เกิดจาก
รูปที่ 3.11 ภาพจำลองแสดงองค์ประกอบต่าง ๆ ของ ฟองก๊าซ (gas bubbles) หรือถ้ำที่เกิดจากหินทูฟา
“ระบบถำ้ ” ในภูมิประเทศแบบคาสต์ (tufa caves)
3.3.2 การแบ่งประเภทถำ้ • ถ้ำทุติยภูมิ (secondary caves) ภายหลัง
การแบ่งประเภทถ้ำ มีการแบ่งหลายวธิ ี ได้แก่ ที่หินชนิดต่าง ๆ ได้กำเนิดขึ้นแล้ว ต่อมาเนื้อหิน
1. แบ่งโดยใช้ชนิดของหิน เช่น ถ้ำหินปูน บางส่วนไดส้ ลายหรือเคลื่อนตัวออกไปจนเกิดเป็นโพรง
(หินปูน หินโดโลไมต์ หินอ่อน) ถ้ำยิบซัม (gypsum และกลายเป็นถ้ำในภายหลัง ซึ่งถ้ำส่วนใหญ่ที่พบจะ
caves) และถ้ำลาวา (lava caves) เป็นถ้ำประเภทนี้
2. แบ่งโดยลักษณะสัณฐานของถ้ำ และ
รูปทรงโครงสร้างทางเรขาคณิต (by the morphology • ถ้ำตติยภูมิ (tertiary caves) เป็นถ้ำที่เกิด
of the cave, the geometric structure) จากการถลม่ ของถำ้ อื่น ๆ
4. แบ่งตามลักษณะการเกดิ
• ถ้ำที่เกิดจากการละลาย (solutional
caves or karst caves) ถ้ำส่วนใหญ่จะอยู่ในหินต่าง ๆ
ที่สามารถละลายน้ำที่เป็นกรดตามธรรมชาติ เช่น
น้ำฝน ยกเวน้ ถ้ำยปิ ซมั สามารถละลายในนำ้
• ถ้ำลาวา เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟที่
พน่ ธารลาวาออกมา และเน่อื งจากส่วนบนและสว่ นล่าง
ของธารลาวานัน้ สัมผัสกับอากาศและพื้นดิน จึงเย็นตัว
เร็วกว่าส่วนกลางของลาวา ทำให้ด้านบนและล่าง
แข็งตัวเป็นหินกอ่ น ในขณะเดยี วกันส่วนกลางหรือส่วน
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 19
คณะอนุกรรมการดา้ นวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
ในนั้นยังมีความร้อนสูงกว่าและยังเป็นของเหลว (ที่มี • ถ้ำที่เกิดจากแผ่นดินไหว (earthquake
ก๊าซบางชนดิ ออกมาดว้ ย เชน่ คาร์บอนไดออกไซด์) จึง caves) เป็นถ้ำที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของหินตาม
ไหลสู่ที่ต่ำต่อไปทำให้บางส่วนของธารลาวาเกิดเป็น รอยเลอื่ น จงึ เกดิ เป็นรอยแตกตามธรรมชาตสิ ่วนใหญ่มี
ช่องว่างตรงกลาง มักมีรูปร่างคล้ายอุโมงค์ มีผนัง ขนาดเล็ก
ค่อนข้างเรียบ กลายเป็นถ้ำในที่สุด ปัจจุบันถ้ำเหล่าน้ี
พบมากในบรเิ วณหมเู่ กาะฮาวาย อยา่ งไรก็ตาม ถำ้ ชนดิ • ถ้ำธารน้ำแข็ง (glacier caves) เกิดจาก
นี้มีความคงทนน้อยเพราะส่วนใหญ่จะมีหลังคาถ้ำบาง การละลายของธารน้ำแข็ง จนเป็นโพรงหรือโถงถ้ำอยู่
จึงผุและพังทลายลงได้ง่ายกว่าถ้ำหนิ ปนู มักเป็นถ้ำที่มี ข้างใน ส่วนที่เป็นถ้ำน้ำแข็ง (ice caves) ที่เป็นแหล่ง
อายุไม่มากและไม่ค่อยมหี ินงอกหินย้อย ยกเว้นบริเวณ ท่องเที่ยวทวั่ ๆ ไปน้นั สว่ นใหญ่มักจะเป็นถ้ำในหินแข็ง
หลังคาถ้ำมีสารละลายจากภายนอกไหลซึมเข้ามาในถ้ำ เช่น ถ้ำที่เกิดจากการละลายหรือถ้ำลาวา จะพบอยู่ใน
ส่วนในประเทศไทยนั้น อดีตมีภูเขาไฟหลายยุคมีความ บริเวณที่มีอากาศเย็นจัดตลอดปี จึงทำให้เกิดน้ำแข็ง
เกา่ แกห่ ลายลา้ นปี แตภ่ ูเขาไฟหินบะซอลตท์ ี่พบเห็นใน ขึ้นภายใน (การเกิดคล้ายกับการก่อตัวของเกล็ด
ปัจจบุ นั จะเป็นภเู ขาไฟทีม่ ีอายนุ อ้ ย ประมาณช่วงปลาย นำ้ แขง็ ในชอ่ งแชแ่ ขง็ ) ในประเทศไทยไม่มถี ำ้ ประเภทนี้
ยุคเทอร์เชียรี-ควอเทอร์นารี (Tertiary-Quaternary)
ประมาณ 12-3 ล้านปีมาแล้ว ในอดีตคาดว่ามีถ้ำ • ถ้ำดิน (soil tubes) มักเป็นถ้ำที่เกิดใน
ประเภทนี้อยู่บ้างแต่ได้ผุพังไปนานแล้ว จึงไม่สามารถ ทะเลทราย เมื่อเกิดน้ำป่าไหลหลากจะทำให้ดิน
พบเหน็ ได้ในปจั จุบัน บางส่วนถูกน้ำพดั พาออกไปทำใหเ้ กิดเปน็ โพรงในดิน
• ถ้ำทูฟา ทูฟาเป็นหินที่เกิดจากการ 5. แบง่ ตามอายขุ องหิน (bythe age ofthe rock)
ตกตะกอนทางเคมีของน้ำที่มีสารหินปูน (CaCO3)
ละลายอยู่สูง มักพบในบริเวณพุน้ำร้อนและพุน้ำเย็น การแบ่งประเภทน้ี มีประโยชน์ต่อการศึกษา
หรือในบริเวณอื่น ๆ ที่มีความเข้มข้นของสารหินปูน เรื่องถ้ำในหินปูนเพราะเป็นหินที่เกิดขึ้นหลายยุค เช่น
เชน่ ชายฝ่งั ทะเล ทะเลสาบ หรอื ลำห้วยบางแหง่ หินปนู ยคุ ปจั จุบัน (Recent limestone or tufa ) พบได้
ทั่วโลก หินปูนยุคไทรแอสซิก (Triassic limestone)
• ถ้ำทะเล (sea caves) เกิดจากพลังงาน หินปูนยุคเพอร์เมียน (Permian limestone) และหินปูน
จากคลื่นที่กระแทกเข้ากับชายฝั่งทะเล (หรือริม ยคุ ออรโ์ ดวิเชยี น (Ordovician limestone) เป็นตน้
ทะเลสาบขนาดใหญ่) ทเี่ ปน็ หนา้ ผาหินเปน็ เวลานาน ๆ
จนทำให้ส่วนที่อ่อนหรือแตกหักง่ายของหินน้ัน การแบ่งประเภทถ้ำที่นิยมกันมาก ได้แก่ การ
พงั ทลายลงมาจนเกดิ เปน็ โพรง ถ้ำประเภทนสี้ ว่ นใหญ่มี ใชล้ ักษณะการเกิดตามธรรมชาติ ซ่งึ จะแบง่ ออกเป็น 4
ความยาวไม่มากเมื่อเทียบกับถ้ำในหินปูน บางแห่งจะ ประเภท ได้แก่ ถ้ำลาวา ถ้ำชายฝั่งทะเลหรือถ้ำทะเล
ทำให้เกิดเปน็ สะพานธรรมชาติได้ ถ้ำธารน้ำแข็งหรือถ้ำน้ำแข็ง และถ้ำที่เกิดจากการ
ละลาย (รปู ที่ 3.12)
• ถ้ำกองหินถล่ม (talus (ta’les) caves)
เกิดจากหนิ หล่นหรือหินถล่มจากหน้าผามากองรวมกัน
แล้วเกดิ ช่องว่างขนาดต่าง ๆ ภายใน
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
20 คณะอนกุ รรมการดา้ นวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถ้ำแห่งชาติ
3.4 ระบบถ้ำต้นแบบเพ่อื การบริหารจดั การถ้ำ
รูปท่ี 3.12 บน : ถ้ำลาวา ภาพโดย Dave Bunnell การบริหารจัดการถ้ำของประเทศไทยยังคง
ลา่ ง : ถ้ำธารนำ้ แขง็ ภาพโดย Juleen Studio, 1920 เป็นเรื่องใหม่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรม
คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ
ถ้ำที่พบในประเทศไทย โดยทั่วไปคือถ้ำที่เกิด จึงคัดเลือกระบบถ้ำ 11 ระบบ แสดงถึงความเป็น
จากการละลายส่วนใหญ่เป็นถ้ำหินปูน ภายในถ้ำ ต ั ว แ ท น ข อ ง ล ั ก ษ ณ ะ ป ั ญ ห า ก า ร บ ร ิ ห า ร จ ั ด ก า ร ท่ี
หินปูนมักปรากฏตะกอนถ้ำหรือประติมากรรมถ้ำ เช่น แตกต่างกันไป เช่น ระบบถ้ำบางแห่งเป็นถ้ำใหม่ยังไม่
หินย้อย หินงอก เสาหิน หินน้ำไหล ทำนบหินปูน และ ถูกรบกวน บางแห่งมีการบริหารจัดการมาอย่าง
ไขม่ ุกถ้ำ เป็นตน้ (รปู ที่ 3.13) ยาวนานและสั่งสมปัญหาไว้ บางแห่งดูแลโดย
หน่วยงานส่วนกลาง และบางแห่งดูแลโดยองค์กร
รูปที่ 3.13 ตะกอนถ้ำหรือประติมากรรมถ้ำที่พบในถ้ำ ปกครองสว่ นท้องถิน่ เป็นต้น
หนิ ปูน
11 ระบบถำ้ ต้นแบบ ไดแ้ ก่
1. ระบบถำ้ ดอยภคู า จังหวดั นา่ น
2. ระบบถ้ำปาฏหิ าริย์ จงั หวดั อุบลราชธานี
3. ระบบถำ้ ธารนำ้ ลอด จงั หวัดชุมพร
4. ระบบถ้ำหลวง-ขุนนำ้ นางนอน จงั หวดั เชยี งราย
5. ระบบถ้ำแก้วโกมล จังหวดั แม่ฮอ่ งสอน
6. ระบบถำ้ เชยี งดาว จังหวัดเชียงใหม่
7. ระบบถำ้ พญานาคราช จังหวดั ขอนแก่น
8. ระบบถ้ำละวา้ จงั หวัดกาญจนบรุ ี
9. ระบบถำ้ พระโพธสิ ตั ว์ จังหวัดสระบรุ ี
10. ระบบถ้ำภูผาเพชร จังหวดั สตลู
11. ระบบถ้ำเขาช้างหาย จงั หวัดตรัง
การกระจายตัวของระบบถ้ำต้นแบบเพื่อใช้
นำร่องในการบริหารจัดการถ้ำ (รูปที่ 3.14) ทั้ง 11
ระบบถ้ำ เป็นถ้ำหินปูนเกือบทั้งหมด ยกเว้นถ้ำ
ปาฏิหาริย์ที่เป็นถ้ำหินทราย รายละเอียดหน่วยงานท่ี
รับผดิ ชอบ ดงั ตารางท่ี 3.1
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 21
คณะอนกุ รรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้ำแห่งชาติ
รปู ที่ 3.14 ตำแหนง่ ถ้ำของ 11 ระบบถำ้ ตน้ แบบประเทศไทย ถำ้ บนเว็บไซต์ Caves & Caving in Thailand รายงาน
ว่าถำ้ ที่มกี ารสำรวจแล้วมีมากกว่า 100 ถ้ำ ถ้ำที่น่าสนใจ
ตารางที่ 3.1 รายชือ่ 11 ระบบถ้ำ และหน่วยงานที่รบั ผดิ ชอบ ในพื้นที่ ได้แก่ ถ้ำผาผึ้ง ถ้ำเสือดาว และถ้ำรวยสายไท
ซึ่งทัง้ 3 ถำ้ มีการสำรวจจัดทำแผนผงั ถ้ำไว้เรียบร้อยแลว้
ท่ี ชือ่ แหล่ง เจา้ ของพื้นท่ี ผดู้ แู ล
จากการสำรวจเบื้องต้นของกรมทรัพยากรธรณี
1. ระบบถ้ำดอยภคู า อส. อส. (2563) พบว่าทั้ง 3 ถ้ำ มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป
ถ้ำผาผึง้ เป็นถำ้ ทีม่ ีความลึกท่สี ุดในประเทศไทย มีความ
2. ระบบถำ้ ปาฏหิ ารยิ ์ อส. วดั ถำ้ ปาฏิหารยิ ์ ลึกในแนวดิ่ง รวม 476 เมตร (รูปที่ 3.15) ถ้ำเสือดาว มี
ความสำคัญในการศึกษาด้านถ้ำวิทยา (รูปที่ 3.16)
3. ระบบถำ้ ธารนำ้ ลอด ปม. อบต.นาสัก และถ้ำรวยสายไทหรือถ้ำหมา พบหินกรวดมนชั้นหนา
ภายในถ้ำ (รูปที่ 3.17) ซึ่งนับเป็นลักษณะโดดเด่นที่มี
4. ระบบถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อส. อส. ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสำหรับการ
พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือใช้สำหรับการ
5. ระบบถำ้ แก้วโกมล อส. อส. ศึกษาวจิ ยั ต่อไป
6. ระบบถำ้ เชยี งดาว
7. ระบบถ้ำพญานาคราช อส. อบต.เชียงดาว/ รปู ที่ 3.15 ถ้ำผาผึ้ง จงั หวัดน่าน ถ้ำทีล่ ึกทส่ี ุดในประเทศไทย
วดั ถ้ำเชยี งดาว
รปู ท่ี 3.16 ถ้ำเสือดาว จังหวัดน่าน ถ้ำที่มีความโดดเด่นด้าน
อส. อส. ถ้ำวิทยา
8. ระบบถ้ำละว้า อส. อส. รูปที่ 3.17 หินกรวดมนชั้นหนาที่พบภายในถ้ำรวยสายไท
9. ระบบถำ้ พระโพธสิ ัตว์ ทม.ทับกวาง จงั หวดั น่าน
10. ระบบถ้ำภผู าเพชร วดั ถ้ำพระ
อส. โพธสิ ตั ว์
อส.
11. ระบบถำ้ เขาชา้ งหาย ปม. อบต.นาหมนื่ ศรี
หมายเหตุ อส. หมายถึง กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพนั ธุพ์ ืช
ปม. หมายถึง กรมปา่ ไม้
3.4.1 ระบบถำ้ ดอยภคู า
ระบบถ้ำดอยภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน อยู่
ภายใต้การกำกับดูแลของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จากข้อมูล
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
22 คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถำ้ แห่งชาติ
ปญั หาด้านการบริหารจัดการที่พบ ไดแ้ ก่ กลัด และ 3) ข้ามเขาจากตำบลเขาทะลุ โดยทั้งสาม
1. ผังถ้ำมีจำนวนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับ เส้นทางจะไปบรรจบกันด้านในถ้ำและมีทางออกอยู่ที่
จำนวนพิกัดถำ้ ทมี่ ีอยู่ ตำบลนาสัก ถ้ำนี้มีความยาวรวม 1,095 เมตร สำรวจ
2. ขาดการสำรวจศึกษาด้านธรณีวิทยาและ และจัดทำผังถ้ำโดย Association Pyrénéenne de
โบราณคดี (พบเศษกระดูกในถำ้ ไมม่ ีช่อื ) Spéléologie (1987) (รูปท่ี 3.19) เป็นถ้ำที่มีน้ำไหล
3. ปัจจุบันอุทยานยังไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยว ผ่านตลอดทั้งปี ไหลสู่ใต้ภูเขาหินปูนสูงชันที่มีรูทะลุ
ไปเทย่ี วถำ้ เน่ืองจากมีบคุ ลากรไมเ่ พียงพอ มองเห็นได้ในระยะไกลและภายในถ้ำมีประติมากรรมถ้ำ
4. การซอ้ นทับกันของพน้ื ท่ี และหลักฐานทางถ้ำวิทยาที่น่าสนใจ เช่น ทำนบหินปูน
หินน้ำไหล ระแหงโคลนขนาดใหญ่ และพื้นถ้ำบรรพกาล
3.4.2 ระบบถ้ำปาฏิหารยิ ์ (fossil floor) เปน็ ต้น (รูปท่ี 3.20)
ถ้ำปาฏิหาริย์ ตั้งอยู่ภายในวัดถ้ำปาฏิหาริย์ รูปที่ 3.19 แผนผังถำ้ ธารน้ำลอด จังหวัดชุมพร
ตำบลนาโ พธ์ิ กลาง อำเภ อโ ขงเจียม จังหวัด
อุบลราชธานี เป็นถ้ำหินทรายที่มีความยาวที่สุดใน รูปที่ 3.20 ประติมากรรมถ้ำภายในถ้ำธารน้ำลอด จังหวัด
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความยาวรวม 454 เมตร ชมุ พร
หินที่พบในถ้ำเป็นหินทรายสีเทาปนขาวชั้นหนามีการ
วางชั้นเฉียงระดับขนาดใหญ่ โดยมีโครงสร้างรอยแตก ปัญหาด้านการบรหิ ารจดั การพ้นื ที่ ได้แก่
เป็นตัวควบคมุ เสน้ ทางของโถงถำ้ และทางน้ำ ตัวโถงถ้ำ 1. ทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมที่เปลีย่ นแปลง
วางตัวในทิศเกือบตะวันออก-ตะวันตก (รัสรินทร์ และ จากเดิมเคยเป็นหาดทรายเปลี่ยนแปลงเป็นหาดโคลน
คณะ, 2561) (รูปท่ี 3.18) และพบขยะจำนวนมากเข้ามาในถ้ำทำให้คุณค่าด้าน
ความงามของถำ้ ลดลง (รปู ที่ 3.21)
ปัญหาดา้ นการบริหารจัดการพนื้ ท่ี ได้แก่ 2. การทำลายประติมากรรมถ้ำและขีดเขียน
1. การซอ้ นทบั กันของพ้ืนที่ ข้อความภายในถ้ำของนกั ท่องเทย่ี วและคนในชมุ ชน
2. การสร้างสงิ่ ปลูกสรา้ งภายในถ้ำ
3. การติดตั้งระบบไฟฟ้าไมเ่ หมาะสม
4. การจดุ ธูปเทยี นภายในถำ้
รูปท่ี 3.18 ถำ้ ปาฏิหารยิ ์ จังหวัดอบุ ลราชธานี
3.4.3 ระบบถ้ำธารน้ำลอด
ถ้ำธารน้ำลอด ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของพื้นที่
ตำบลเขาทะลุและตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
สามารถเข้าได้จาก 3 ทาง ไดแ้ ก่ 1) ธารลอด 2) ช่องไม้
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 23
คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถำ้ แห่งชาติ
3. การกำหนดเขตพื้นที่ในส่วนของเขตป่า ใหญ่จำนวนมากและเนินทรายชั้นหนา จึงทำให้พื้นที่มี
สงวนและเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ความซบั ซ้อนและเสี่ยงตอ่ การเกดิ อนั ตราย
ยังไม่มขี อบเขตที่ชดั เจน
2. ด้านสภาพอากาศ บางบริเวณภายในถ้ำมี
4. ขาดความร่วมมือระหว่างชุมชนที่อยู่ ปริมาณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์สูงกว่าเกณฑม์ าตรฐาน
บริเวณทางเข้าถำ้ และทางออก
5. บางช่วงของถ้ำมีความไม่ปลอดภัย
โดยเฉพาะในฤดฝู น
รปู ที่ 3.22 ลักษณะพื้นที่บรเิ วณใกล้ปากถ้ำหลวง จังหวัด
เชยี งราย
รูปที่ 3.21 สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดเนิน รปู ท่ี 3.23 จุดเส่ยี งภยั ภายในถำ้ หลวง จงั หวัดเชียงราย
ทรายและกิ่งไม้จำนวนมากกีดขวางทางน้ำ
ภายในระบบถ้ำธารน้ำลอด จังหวดั ชุมพร 3.4.5 ระบบถ้ำแก้วโกมล
3.4.4 ระบบถ้ำหลวง-ขนุ นำ้ นางนอน ถ้ำแก้วโกมล เดิมนั้นเรียกชื่อว่า “ถ้ำผลึกแคล
ไซต์แม่ลาน้อย” ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานแก้วโกมล
ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หรือถ้ำหลวง ตั้งอยู่ บริเวณเขาดอยถ้ำ บ้านห้วยมะไฟ หมู่ที่ 14 ตำบล
ใ น เ ข ต อ ุ ท ย า น แ ห ่ ง ช า ติ ถ ้ ำ ห ล ว ง -ข ุ น น ้ ำ น า ง น อ น แม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็น
(เตรียมการ) ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัด ถ้ำหินปูนขนาดเล็ก ความยาวประมาณ 120 เมตร
เชียงราย เป็นถ้ำที่มีความยาวติดอันดับต้น ๆ ของ ดังแผนผังถ้ำ (รูปที่ 3.24) ภายในมีประติมากรรมถ้ำท่ี
ประเทศไทย ภายในถ้ำเป็นหินอ่อนและหินกรวด สวยงามและบอบบางมาก (รปู ท่ี 3.25) โดยเฉพาะผลึก
เหลยี่ ม (breccia) มีความโดดเดน่ แตกต่างจากถ้ำที่เกิด แร่รูปร่างต่าง ๆ ปัจจุบันบางบริเวณได้เปลี่ยนสีไปจาก
จากการละลายอื่น ๆ และเป็นถ้ำที่มีการไหลของน้ำ เดิมซึ่งในอดีตเคยเป็นผลึกใสสีขาวกลายเป็นผลึกขุ่นสี
ค่อนข้างรุนแรงในชว่ งฤดูนำ้ หลาก จึงพดั พาเอาตะกอน น้ำตาล ทงั้ นี้ เพราะสภาพแวดลอ้ มเปลีย่ นแปลงไป
ทรายจำนวนมากเข้ามาภายในถ้ำ และเกิดการสะสม
เป็นเนินทรายชั้นหนาภายในโถงถ้ำ จากสาเหตุนี้ ปญั หาด้านการบรหิ ารจดั การพื้นท่ี ไดแ้ ก่
ประติมากรรมถ้ำที่อยู่ใตน้ ้ำจึงถูกเคลือบด้วยดินเหนียว 1. นักท่องเที่ยวไม่ปฏบิ ัตติ ามข้อกำหนด
และทรายทำให้มีสีน้ำตาลดำ ลดทอนความงามของ 2. การติดต้ังระบบไฟฟา้ ไมเ่ หมาะสม
ประตมิ ากรรมถ้ำลงไป (รูปที่ 3.22-3.23) 3. การบริหารจัดการ โดยขาดหลักวิชาการ
ทำให้เกิดความเสียหายต่อประติมากรรมถ้ำ เช่น การ
ปัญหาดา้ นการบรหิ ารจดั การพืน้ ท่ี ไดแ้ ก่ ฉดี น้ำปูนป้องกันการพงั ทลายของผนังถำ้
1. ด้านลักษณะกายภาพ ภายในถ้ำมีลักษณะ
ความสูงตำ่ ของพื้นท่ีต่างกัน เช่น เป็นหุบเหว ช่องแคบ
เพดานต่ำ ประกอบกับภายในถ้ำมีก้อนหินถล่มขนาด
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
24 คณะอนกุ รรมการด้านวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถ้ำแห่งชาติ
4. เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับข้อมูลองค์ความรู้และ ปัญหาด้านการบรหิ ารจัดการพืน้ ท่ี ได้แก่
แนวทางการบรหิ ารจดั การถำ้ 1. นักท่องเทีย่ วไมป่ ฏิบตั ติ ามข้อกำหนด
2. การทำลายประติมากรรมถ้ำ
3. การก่อสร้างและติดตั้งระบบไฟฟ้าไม่
เหมาะสม
4. การใช้ตะเกยี งเจ้าพายุภายในถ้ำ
5. การเรียกเกบ็ ค่าบริการเพิ่มจากนักท่องเทยี่ ว
6. การซอ้ นทับกนั ของพ้ืนท่ี
รูปท่ี 3.26 ประติมากรรมถำ้ ภายในถ้ำเชยี งดาว จังหวัด
เชยี งใหม่
รปู ที่ 3.24 แผนผังถำ้ แก้วโกมล จังหวัดแมฮ่ อ่ งสอน
รูปท่ี 3.25 ประติมากรรมถ้ำภายในถำ้ แกว้ โกมล รปู ที่ 3.27 แผนผังถำ้ เชยี งดาว จังหวดั เชยี งใหม่
จังหวัดแม่ฮอ่ งสอน
3.4.7 ระบบถำ้ พญานาคราช
3.4.6 ระบบถำ้ เชยี งดาว
ถ้ำพญานาคราช อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ
ถ้ำเชียงดาว ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยเชียงดาว ภูผาม่าน ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอภูผาม่าน จังหวัด
ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็น ขอนแก่น การเข้าถึงต้องเดินเท้าผ่านป่าไผ่และป่าไม้
ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ มีความยาว 5,170 เมตร ภายใน และเดินขึ้นเนิน รวมระยะทางประมาณ 300 เมตร จึง
ถ้ำประกอบด้วยโถงหลักและโถงย่อยเป็นจำนวนมาก ถึงปากถ้ำ ถ้ำพญานาคราชเป็นถ้ำหินปูนเชื่อมต่อไปยงั
มีประติมากรรมถ้ำสวยงาม เช่น หินน้ำไหล หินงอก ถ้ำเกล็ดแก้ว เส้นทางภายในถ้ำบางชว่ งมีความซับซ้อน
หินย้อย (รูปที่ 3.26-3.27) เป็นถ้ำที่มีนักท่องเที่ยวมา เนื่องจากถูกปิดทับด้วยหินถล่ม ถ้ำมีความยาวรวม
เย่ยี มชมจำนวนมาก ประมาณ 600 เมตร โถงถ้ำวางตัวในแนวเกือบเหนือ-ใต้
ภายในถ้ำมีหนิ น้ำไหลและทำนบหนิ ปูนขนาดใหญ่ ถำ้ นี้
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 25
คณะอนกุ รรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถำ้ แห่งชาติ
มีความหลากหลายของประติมากรรมถ้ำที่มีความ ปญั หาดา้ นการบริหารจัดการพ้ืนที่ ได้แก่
สวยงาม (รูปท่ี 3.28) 1. นักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น
การเดินออกนอกเสน้ ทางท่ีกำหนดไว้ และการขีดเขียน
รูปท่ี 3.28 ประติมากรรมถ้ำในถ้ำพญานาคราชซึ่งเชื่อม ข้อความภายในถ้ำ
ต่อไปยังถ้ำเกล็ดแก้ว จังหวัดขอนแก่น (ภาพ 2. สิ่งก่อสร้างภายในถ้ำเสื่อมสภาพและผุพัง
โดย ดร.โชตมิ า เมอื งสง) เสียหายเร็วกวา่ ปกติ ทำใหเ้ ปน็ ขยะภายในถ้ำ
3. หน่วยงานเจ้าของพื้นที่ไม่ได้รับแนวทาง
ปัญหาด้านการบรหิ ารจัดการพ้ืนที่ ได้แก่ การบริหารจัดการ
1. การประกอบพธิ กี รรมจดุ ธูปเทียนภายในถ้ำ 4. เจ้าหน้าที่นำเที่ยวไม่ได้รับองค์ความรู้
ทำใหเ้ กิดรอ่ งรอยและขยะจำนวนมาก เกยี่ วกบั ถ้ำ
2. การทำลายประติมากรรมถำ้ ลักลอบตัดหินงอก
และขีดเขียนข้อความภายในถ้ำของนักท่องเที่ยวและ รปู ที่ 3.29 กลมุ่ คา้ งคาวและประติมากรรมถำ้ ทีพ่ บใน
คนในชุมชน ถ้ำละว้า จงั หวัดกาญจนบรุ ี
3. นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมพื้นที่ โดยไม่
ประสานเจา้ หนา้ ท่ี รูปท่ี 3.30 รอยขดี เขียนและขยะที่พบในถำ้ ละวา้
4. การเข้าถงึ พน้ื ที่ลำบาก จงั หวดั กาญจนบุรี
3.4.8 ระบบถ้ำละว้า
ถ้ำละว้า ตั้งอยู่ในเขตสำนักบริหารพื้นที่ 3.4.9 ระบบถำ้ พระโพธิสัตว์
อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) อุทยานแห่งชาติไทรโยค ตำบล ถ้ำพระโพธิสัตว์ เป็นถ้ำหินปูน มีความยาว
วังกระแจะ อำเภอไทรโยค จังหวดั กาญจนบรุ ี ถ้ำละว้า 150 เมตร อยบู่ นเขานำ้ พุ ในบรเิ วณวัดถำ้ พระโพธิสัตว์
เป็นถ้ำหินปูนและจัดอยู่ในกลุ่มถ้ำที่มีอายุมาก (old ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ถ้ำนี้มี
age stage) มีความยาวรวม 530 เมตร พบกลุ่ม ความสำคัญด้านโบราณคดี เนื่องจากพบภาพสลักนูน
ค้างคาวใกล้บริเวณปากถ้ำ ภายในถ้ำมีประติมากรรม ต่ำบนผนังถ้ำ เป็นภาพเล่าเรื่องทางพุทธศาสนาตอน
ถ้ำท่ีสวยงาม เช่น หนิ น้ำไหล หินย้อย มา่ นเบคอน และ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม มีเทพเจ้าสูงสุดในศาสนา
ทำนบหนิ ปนู (รูปที่ 3.29-3.30) ฮินดูร่วมอยู่ด้วย ในลักษณะที่เทพเจ้าเหล่านั้นมาเฝ้า
และฟังการแสดงธรรมของพระพุทธองค์ ภาพ
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ยังไม่เคยพบที่ใดมาก่อนใน
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
26 คณะอนุกรรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถำ้ แห่งชาติ
ประเทศไทย รูปแบบของภาพสลักจัดเป็นศิลปกรรม 3.4.10 ระบบถำ้ ภูผาเพชร
สมัยทวารวดี กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 13-14
(รูปท่ี 3.31-3.32) ถ้ำภูผาเพชร ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เทือกเขาบรรทัด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ
ปัญหาด้านการบรหิ ารจดั การพื้นท่ี ไดแ้ ก่ พันธุ์พืช หมู่ที่ 9 บ้านควนดินดำ ตำบลปาล์มพัฒนา
1. การจดุ ธปู เทยี นภายในถำ้ อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ มี
2. การใช้ถำ้ เปน็ ท่ีพกั อาศยั ขนาดโถงถ้ำกว้างและสูงมาก ภายในมีประติมากรรมถ้ำ
3. การตดิ ตั้งระบบไฟฟา้ ไม่เหมาะสม จำพวกหินนำ้ ไหล หินงอกรปู ร่างต่าง ๆ ซงึ่ มขี นาดใหญ่
4. แรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดเหมืองหิน และมีความสวยงามมาก ความยาวรวมของถ้ำคือ
อาจสง่ ผลกระทบต่อหลักฐานทางโบราณคดี 536.6 เมตร ระบบถ้ำนี้มีทัง้ สว่ นที่เป็นถ้ำเป็นและสว่ น
ที่เป็นถำ้ แหง้ หรอื ถ้ำตาย (รปู ท่ี 3.33-3.34)
รูปท่ี 3.31 ประติมากรรมถ้ำและหลักฐานทางโบราณคดี
ที่พบในถำ้ พระโพธิสัตว์ จงั หวดั สระบรุ ี ปัญหาด้านการบรหิ ารจัดการพืน้ ท่ี ไดแ้ ก่
1. ถ้ำภูผาเพชรตั้งอยู่บนภูเขาสูง การเข้าถึง
ต้องเดินขึ้นบันไดที่ชัน จำนวน 434 ขั้น ไม่เหมาะกับ
ผู้สูงอายุ
2. นกั ท่องเทยี่ วไมป่ ฏิบตั ิตามข้อกำหนด
3. ได้รับงบประมาณในการดูแลรักษาสิ่งปลูก
สรา้ งไมเ่ พียงพอ
4. ปัญหาการบริหารพื้นที่ระหว่างเขตรักษา
พนั ธ์ุสัตวป์ า่ เทอื กเขาบรรทดั กบั อบต. ปาลม์ พฒั นา
รปู ท่ี 3.33 หินน้ำไหลและหนิ งอกขนาดใหญ่ภายใน
ถำ้ ภูผาเพชร จังหวัดสตูล
รูปท่ี 3.32 แผนผงั ถ้ำพระโพธสิ ัตว์ จังหวดั สระบรุ ี
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 27
คณะอนุกรรมการด้านวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถ้ำแห่งชาติ
4. การจุดธูปเทียนภายในถ้ำ ทำให้เพดานถ้ำ
เปล่ียนเป็นสีดำ
5. การติดต้งั ระบบไฟฟา้ ไม่เหมาะสม
6. เส้นทางเดินภายในถ้ำมีระยะติดกับ
ประตมิ ากรรมถ้ำ ทำให้สง่ ผลกระทบต่อประติมากรรมถำ้
รปู ท่ี 3.35 ประติมากรรมถ้ำภายในถ้ำเขาชา้ งหาย จงั หวัดตรัง
รูปท่ี 3.34 แผนผงั ถำ้ ภผู าเพชร จังหวัดสตลู รปู ที่ 3.36 แผนที่ธรณีวิทยาบริเวณถำ้ เขาช้างหาย
จงั หวดั ตรงั
3.4.11 ระบบถ้ำเขาชา้ งหาย
ถ้ำเขาช้างหาย อยู่ในตำบลนาหมื่นศรี อำเภอ
นาโยง จงั หวัดตรัง เปน็ ถ้ำหนิ ปูนจัดอยู่ในประเภทถ้ำที่
เกิดจากการละลาย โถงสูงและมีขนาดใหญ่ พบหินงอก
หินย้อย เสาหิน จำนวนมาก มีความสมบูรณ์และ
สวยงาม ภายในโถงถ้ำไม่ซับซ้อน แบง่ ไดเ้ ป็น 3 โถงหลัก
ซึ่งทั้ง 3 โถงจะอยู่ที่ระดับความสูงแตกต่างกันไป มี
ความยาวรวมประมาณ 540 เมตร (รปู ที่ 3.35-3.36)
ปัญหาด้านการบรหิ ารจัดการพืน้ ท่ี ไดแ้ ก่
1. ปัญหาการบริหารพื้นที่ระหว่างกรมป่าไม้
ในฐานะเจ้าของพื้นที่ กับ อบต. ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแล
ใช้ประโยชน์
2. นักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น
การเดินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ การขีดเขียน
ขอ้ ความภายในถำ้ และการลกั ลอบตดั หินยอ้ ย
3. เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับองค์ความรู้เกี่ยวกับถ้ำ
อีกทั้ง มจี ำนวนไมเ่ พียงพอตอ่ นักท่องเทยี่ ว
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
28 คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถ้ำแห่งชาติ
3.5 ขอ้ ปฏบิ ตั ิในการคมุ้ ครองถ้ำ 16 ขอ้ 6. ห้ามนำสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์พาหนะเข้าไป
ภายในถำ้
ถ้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อ
สิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อม แต่ใน 7. ห้ามขีดเขียน ขูดลบ ขีดฆ่า ทาหรือ พ่นสี
ขณะเดียวกันตัวถ้ำเองนั้นมีความเปราะบาง มีความ หรือปดิ ประกาศ
อ่อนไหวง่ายต่อการถูกทำลาย และยากต่อการฟื้นฟู
เมื่อถูกทำลายแล้วไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพ 8. ห้ามถ่ายอจุ จาระ หรือปัสสาวะในถ้ำ
ธรรรมชาติดังเดิมได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้อง 9. ห้ามเก็บหรือนำสิ่งใด ๆ ออกจากถ้ำ อาทิ
ปกป้องดูแลถ้ำขั้นพื้นฐานก่อนที่จะถูกทำลายมากขึ้น หิน ผลึกแร่ ซากดกึ ดำบรรพ์ โบราณวตั ถุ หรือสิง่ มีชีวิต
เพื่อให้ทรัพยากรประเภทถ้ำได้รับการอนุรักษ์อย่าง ภายในถำ้
ยั่งยืน และนำไปสู่การเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน คณะ 10. ห้ามกระทำการใด ๆ อนั เป็นการเปล่ยี นแปลง
กรรมการนโนบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ จึงมี ทางนำ้ หรือสรา้ งสิ่งกีดขวางทางน้ำทจ่ี ะทำให้น้ำท่วมล้น
ประกาศข้อปฏบิ ัติในการคุ้มครองถำ้ 16 ขอ้ ลงวนั ท่ี 18 หรือเหือดแห้ง เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงาน
มิถุนายน 2563 มีรายละเอียดข้อปฏิบัติในการเข้า เจา้ ของพ้ืนท่ี
เยี่ยมชมถำ้ ดงั นี้ 11. ห้ามตัง้ แคมป์ พกั แรมภายในถ้ำ
12. ห้ามเดินออกนอกเส้นทางทก่ี ำหนด
1. ห้ามสัมผัสหรือแตะต้องประติมากรรมถ้ำ 13. ไมแ่ ตะตอ้ งและ/หรอื ทำลายระบบไฟฟา้ ในถำ้
เช่น หินงอก หนิ ยอ้ ย เสาหนิ รวมทั้งหยดน้ำท่ีหยดจาก 14. ไมร่ บกวนแหลง่ โบราณคดี หรอื ซากดึกดำ
หนิ ยอ้ ย บรรพ์ที่พบในถ้ำ
15. ไม่ก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น
2. หา้ มตี เคาะ ทำลายหนิ ภายในถ้ำ สะพาน ทางเดนิ บันได เว้นแต่การก่อสร้างเพ่ืออำนวย
3. ห้ามสูบบุหรี่ ก่อกองไฟ จุดธูปเทียน หรือ ความสะดวก/ความปลอดภัย เท่าที่จำเป็น และให้มี
กิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพ ความกลมกลนื กับธรรมชาตใิ นถำ้
อากาศภายในถำ้ 16. ให้มีผู้นำเที่ยวถ้ำท้องถิ่นที่ผ่านการ
4. ห้ามนำอาหารเข้าไปรับประทานภายในถ้ำ ฝึกอบรม ตามมาตรฐาน Local Cave Guide และ
รวมทั้งท้ิงเศษมลู ฝอยใด ๆ ปฏิบตั ติ ามคำแนะนำอย่างเคร่งครดั
5. ห้ามส่งเสียงดังหรือกระทำการใด ๆ ที่เป็น
การรบกวนหรือก่อความรำคาญให้แก่สัตว์รวมทั้งห้าม
ยงิ ปืน จุดประทัด และวตั ถุระเบิด
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 29
คณะอนกุ รรมการด้านวชิ าการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถำ้ แห่งชาติ
รูปท่ี 3.37 ขอ้ ปฏิบัตใิ นการคุ้มครองถำ้ 16 ขอ้
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
30 คณะอนกุ รรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถำ้ แห่งชาติ
สว่ นท่ี 4 ใหค้ วามสำคญั กับกิจกรรมการวางเชือกนำทาง (guide
ประเดน็ สำคญั อ่นื ๆ rope) และติดป้ายเตอื นอนั ตราย (รูปที่ 4.2-4.3)
4.1 การสำรวจถำ้ ตารางที่ 4.1 การให้ระดับของเส้นแนวกลาง (grading of
ถ้ำเป็นแหล่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความ the survey centre line) ตามมาตรฐาน
หลากหลาย แตล่ ะแห่งมีความเป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะตัว
ถ้ำบางแห่งมีคุณค่าทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ หรือ การสำรวจของสมาคมวิจัยถ้ำของประเทศ
ทางธรณีวิทยา บางแห่งมีกิจกรรมการใช้งานของ
มนุษย์ เช่น ท่องเที่ยว ศาสนา หรือเกษตรกรรม และ อังกฤษ (BCRA, 2002)
บางแห่งยงั คงสภาพตามธรรมชาติโดยยังไมถ่ ูกรบกวน
ระดบั คำอธบิ าย หมายเหตุ
ความหลากหลายเหล่านี้ เป็นตัวกำหนด
กิจกรรมการสำรวจในแต่ละถ้ำที่อาจทำให้มีการศึกษา ระดบั 1 เป็นการวาดภาพร่างซึง่ มีความ
สำรวจที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามการสำรวจถ้ำ ถกู ตอ้ งต่ำ และไมไ่ ดท้ ำการวดั ค่าใด ๆ
โดยทั่วไปจะเริ่มจากการสำรวจจัดทำผังถ้ำ 2 มิติ ซึ่ง
เป็นพื้นฐานสำหรับการสำรวจในมิติอื่น ๆ หรือใช้ใน เปน็ วิธที ีอ่ าจนำมาใชถ้ า้ จำเป็น เปน็
การบริหารจัดการต่าง ๆ ก่อนแทบทั้งสิ้น การสำรวจ ระดบั 2 การอธิบายรายละเอยี ดของภาพร่าง ไมแ่ นะนำใหใ้ ช้
ถ้ำมีหลายรูปแบบและหลายมาตรฐาน ในที่นี้จะ
ยกตัวอย่างการสำรวจถ้ำตามมาตรฐานสำรวจของ ซ่งึ มคี วามถกู ตอ้ ง ระหวา่ งระดับ 1-3
สมาคมวิจัยถ้ำของประเทศอังกฤษ (British Cave
Research Association: BCRA) (ตารางท่ี 4.1) ระดบั 3 มีการวดั ทิศทางดว้ ยเข็มทิศอย่าง ใช้ในกรณีทมี่ เี วลา
หยาบๆ ความละเอียดของการวดั มมุ จำกดั
การสำรวจถ้ำเป็นการสำรวจที่ต้องใช้ทักษะ ทง้ั แนวราบและแนวด่งิ ประมาณ 2.5
เฉพาะด้านและประสบการณ์ ซึ่งในแต่ละถ้ำจะมีความ องศา และความละเอยี ดของ
ยากง่ายในการสำรวจแตกตา่ งกัน เชน่ ถ้ำทม่ี ีน้ำอยู่เต็ม ระยะทางภายใน +/- 50 เซนตเิ มตร
โถงถำ้ (phreatic caves) ถ้ำทอ่ี ยู่ลกึ ลงไปใต้น้ำหรือใต้ ความคลาดเคลอ่ื นของจดุ หรอื สถานี
ทะเล ถ้ำที่อยู่บนหน้าผาสูงหรือมีลักษณะเป็นปาก วัด นอ้ ยกว่า +/- 50 เซนตเิ มตร
ปล่อง (รูปที่ 4.1) จากข้อจำกัดเกี่ยวกับลักษณะถ้ำ
ดังกล่าว นักสำรวจจำเป็นต้องมีความพร้อมทั้งด้าน ระดับ 4 เปน็ วิธที อ่ี าจนำมาใช้ถ้าจำเปน็ เป็น ไม่แนะนำให้ใช้
ร่างกายและอปุ กรณ์สำรวจ การสำรวจถำ้ ใต้น้ำนนั้ ตอ้ ง การอธิบายการสำรวจทม่ี คี วาม
อาศัยทักษะและความชำนาญในการดำน้ำ และเพื่อ ละเอยี ดเกอื บถึงระดับ 5 แตถ่ ูกตอ้ ง
ความปลอดภัยของนักสำรวจ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง มากกวา่ ระดบั 3
ระดับ 5 มกี ารวัดทศิ ทางดว้ ยเข็มทิศ ท่ีมี เปน็ เกรดทคี่ วรใช้
ความละเอยี ดของการวดั มมุ ทง้ั เพอื่ ให้บรรลุ
แนวราบและแนวดิ่งประมาณ 1 วตั ถุประสงค์
องศา และความละเอยี ดของ จำเป็นตอ้ งมีการ
ระยะทางภายใน +/- 10 เซนตเิ มตร ปรับแต่งค่าเครือ่ งมอื
ความคลาดเคลอ่ื นของจุดหรอื สถานี ให้ถูกต้อง
วัด นอ้ ยกว่า +/- 10 เซนติเมตร
ระดับ 6 มีการวดั ทศิ ทางดว้ ยเขม็ ทศิ ความ การวดั มมุ ท้ังแนวราบ
ละเอยี ดมากกวา่ ระดับ 5 และแนวด่งิ ต้อง
แมน่ ยำถึง 1/2 องศา
และระยะทางละเอียด
ถึง 5 เซนติเมตร
ระดับ X เป็นการสำรวจดว้ ยกลอ้ ง ทุกขัน้ ตอนต้องมกี าร
Theodolite ประเมินคา่ ความ
ถกู ตอ้ ง (โดย
เปรียบเทียบกบั ระดับ
3 และ 6) และบอก
รายละเอยี ดของ
วธิ กี ารและเครื่องมอื ที่
ใชด้ ้วย
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563 31
คณะอนุกรรมการดา้ นวิชาการ ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถำ้ แห่งชาติ
รูปท่ี 4.1 การใช้เชือกประกอบการปนี ถำ้ หรือหนา้ ผา ในทางธรณีวิทยา ถ้ำมักเกิดขึ้นในภูเขาหินปนู
รปู ท่ี 4.2 นกั สำรวจอาศัยเชอื กนำทางในถ้ำนำ้ หินทราย หินแกรนิต หินลาวา หรือหินชนิดอื่น เกือบ
ทั้งหมดเกิดจากอิทธิพลของน้ำใต้ดินที่ละลายหรือกัด
กร่อนไปตามแนวรอยเลื่อน รอยแตก หรือแนวรอยต่อ
ระหว่างชั้นหิน เป็นต้น และพัฒนาการจนมีลักษณะ
เปน็ ภมู ปิ ระเทศแบบคาสต์ ความเข้าใจในกระบวนการ
ทางธรณีวิทยาของถ้ำเป็นสิ่งสำคัญและเป็นข้อมูล
พ ื ้ น ฐ า น ส ำ ห ร ั บ ก า ร บ ร ิ ห า ร จ ั ด ก า ร ถ ้ ำ ท ี ่ ด ี แ ล ะ มี
ประสิทธิภาพ
ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ช่วยในการสำรวจถ้ำ มี
ความก้าวหน้ามากขึ้น อาทิ 3D Laser Scanner ได้
เข้ามามีบทบาทในการจัดทำผังถ้ำแบบละเอียดใน
รูปแบบสามมิติได้สะดวกรวดเร็ว มีความละเอียดสูง
ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลง สามารถเชื่อมโยงกับระบบ
GPS ได้ในที่โล่ง และมีซอฟต์แวร์ประมวลผลในการ
จัดการข้อมูล ผสานข้อมูลภาพถ่ายเข้ากับข้อมูลผังถ้ำ
อีกทั้ง สามารถจัดทำรูปแบบสำหรับการนำเสนอให้
แสดงสิ่งท่ีนา่ สนใจในถำ้ ออกมาสู่ภายนอกได้ดีย่ิง (รูปที่
4.4-4.5)
รปู ท่ี 4.3 ป้ายห้าม-ป้ายเตอื น ในถ้ำนำ้ รูปที่ 4.4 ตัวอย่างข้อมูล (วิดีโอ) ที่ได้จากการสำรวจ
ด้วยเครื่องมือ 3D Laser Scanner บริเวณ
การสำรวจในขั้นรายละเอียด มักจะ ปากถำ้ หลวง จังหวดั เชยี งราย
ดำเนินการในลักษณะของการศึกษาวิจัย และเป็น
การศึกษาเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านธรณีวิทยา
ชีววิทยา โบราณคดี ประวัติศาสตร์ การเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม หรืออาจเป็นการศึกษา
สำรวจเพื่อการจัดทำสื่อเพื่อการเผยแพร่ในการ
ทอ่ งเท่ียวหรอื ในการศึกษา เปน็ ตน้
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
32 คณะอนุกรรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถำ้ แห่งชาติ
2. เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว เช่น ตำแหน่ง
และรายละเอียดลักษณะโดดเด่นและความสวยงาม
ภายในถ้ำ ตำแหน่งเสี่ยงภัยที่ควรหลีกเล่ียง นอกจากน้ี
ยังใช้เพือ่ ประกอบการออกแบบเส้นทางเดินหรือระบบ
ส่องสว่างภายในถ้ำ และการกำหนดเขตพื้นที่โซนน่ิง
เพ่อื การบรหิ ารจดั การ เปน็ ต้น
3. เพื่อการช่วยเหลือกู้ภยั กรณีเกิดเหตุการณ์
ฉุกเฉิน เช่น เกิดอุบัติเหตระหว่างการท่องเที่ยว หรือ
กรณมี คี นพลดั หลงและตดิ อย่ภู ายในถำ้
4. เพื่อต่อยอดการสำรวจถ้ำบริเวณใหม่ที่ยัง
เข้าไม่ถึง หรือใช้สำรวจศึกษาจัดทำรายละเอียดต่าง ๆ
ของถำ้ เพ่มิ เตมิ
รูปที่ 4.5 แสดงข้อมูลการสำรวจด้วยเทคโนโลยี 3D 4.3 เครือข่ายนักสำรวจและท่องเที่ยวถ้ำใน
Laser Scanner บน : ตำแหนง่ จุดเกบ็ ข้อมูล ตา่ งประเทศ
สำรวจ ล่าง : ข้อมูลภาพ วิดีโอ แสดงการวัด
ขนาดและค่าความสูงของหินน้ำไหลภายใน ในประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ
ถ้ำละว้า จงั หวดั กาญจนบรุ ี อเมริกา หรือ ออสเตรเลีย ที่มีการพัฒนาการสำรวจ
และท่องเที่ยวถ้ำมายาวนาน มักจะมีการรวมตัวของ
4.2 การนำข้อมูลสำรวจถ้ำไปใชง้ าน กลุ่มนักสำรวจและท่องเที่ยวถ้ำ อยู่ในรูปของชมรม
(club หรือ grotto), สมาคม (association), สหภาพ
ขอ้ มลู การสำรวจถำ้ ท่ีสำคัญคอื แผนผังถ้ำซ่ึงมี (union) หรือประชาสังคม (society) โดยส่วนใหญ่จะ
ความละเอียดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมาตรฐานและ เป็นการรวมตัวของภาคเอกชน และมีบางแห่งที่มีการ
ระดบั ท่เี ลือกใช้ ดงั น้นั ผใู้ ช้งานจึงต้องเข้าใจข้อมูลและ เชื่อมโยงกับภาคการศึกษามหาวิทยาลัย ตัวอย่าง
เลือกใชใ้ ห้เหมาะสมตามวตั ถุประสงคข์ องงาน ตัวอย่าง สำคญั ไดแ้ ก่
การใช้ข้อมลู แผนผงั ถำ้ กับงานต่าง ๆ ไดแ้ ก่
ประเทศอังกฤษ ได้ก่อตั้งสมาคมถ้ำ
1. เพ่ือสนบั สนนุ การสำรวจศึกษาวจิ ยั ด้านตา่ ง ๆ The British Speleological
เช่น การกำหนดตำแหน่งซากดึกดำบรรพ์ ตำแหน่ง
หลักฐานทางโบราณคดี ตลอดจนกำหนดขอบเขตแนว Association ขึ้นในปี ค.ศ. 1935 และได้ขยายตัวเป็น
กันชน (buffer) เพื่อการอนุรักษ์และป้องกันความ สมาคมระดับชาติในปี ค.ศ. 1968 และต่อมาได้มีการ
เสยี หายของวัตถุหรือตัวอย่าง นอกจากน้ี แผนผังถ้ำใน ปรับองค์กรและใช้ชื่อใหม่เป็น The British Caving
รูปแบบ 3 มติ ิ ยงั สามารถใช้ติดตามการเปล่ียนแปลงที่ Association (BSA) ในปี ค.ศ. 2004 ปัจจุบัน BSA มี
เกิดขน้ึ ภายในถ้ำได้ อาทิ ตดิ ตามการทรุดตัวของพ้ืนถ้ำ สมาชิกประกอบด้วยชมรมหรือกลุ่มนักสำรวจถ้ำกว่า
หรือเพดานถ้ำ ติดตามการเปลี่ยนแปลงของ 170 แหง่ (เวบ็ ไซต:์ british-caving.org.uk)
ประตมิ ากรรมถำ้ หรือระบบอุทกวิทยา เปน็ ตน้
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 33
คณะอนุกรรมการด้านวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจัดการถ้ำแห่งชาติ
ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ก่อต้ัง Institute of Karst Geology (IKG) ที่รับผดิ ชอบการสำรวจ
เครอื ขา่ ยนักสำรวจถ้ำขึน้ ในปี ค.ศ. และศึกษาวจิ ัยถ้ำและภมู ปิ ระเทศแบบ คาสต์ท่วั ประเทศ
1941 ประกอบไปด้วยเครือข่ายนักสำรวจ 2 ระดับ
ได้แก่ National Speleological Society (NSS) เป็น ประเทศอินโดนีเซีย ก่อตั้งสมาคมถ้ำ
เครือข่ายระดับชาติ และ grotto เป็นเครือข่ายระดับ Indonesian Speleological Society
ท้องถิ่น ระดับมลรัฐ หรือหลายมลรัฐรวมกัน NSS มี
grottoes 250 แห่ง และมีสมาชิกนักสำรวจถ้ำกว่า (ISS) ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2015 ปัจจุบันมีสมาชิกนกั
10,000 คน (เวบ็ ไซต:์ caves.org) ส ำ ร ว จ ถ ้ ำ ป ร ะ ม า ณ 1 , 0 0 0 ค น ( เ ว ็ บ ไ ซ ต์ :
www.facebook.com/IndonesianSpeleologicalSociety)
ประเทศฝรั่งเศส ได้ก่อตั้งสมาคมถ้ำ
French Federation of Speleology ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ก่อต้ัง
(FFS) ข้นึ ครง้ั แรกในปี ค.ศ.1963 Philippine Speleological Society (PSS)
ประกอบด้วยสมาชิกองค์กร/คลับ 437 แห่ง มีสมาชิก ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางกิจกรรมการสำรวจและนักสำรวจถ้ำ
นกั สำรวจถ้ำ 7,800 คน (เว็บไซต:์ ffspeleo.fr) (เว็บไซต์: www.facebook.com/cavinginthephilippines)
ประเทศออสเตรเลีย ได้ก่อตั้งสมาคมถ้ำ ประเทศเวียดนาม ได้ก่อตั้ง Viet Nam
Australian Speleological Federation Center on Karst and Geoheritage
(APF) ขน้ึ ครงั้ แรกในปี ค.ศ. 1956 (VCKG) ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2018 เพื่อสำรวจและ
ประกอบด้วยสมาชิกองค์กร 28 แห่ง มีสมาชิกนัก ศึกษาวิจัยถ้ำในประเทศ (เว็บไซต:์ vckg.org.vn)
สำรวจถำ้ 850 คน (เว็บไซต:์ www.caves.org.au )
ประเทศอินเดีย ไดก้ อ่ ต้งั ์ National Cave
ประเทศออสเตรีย ได้ก่อตั้งสมาคมถ้ำ Research and Protection Organization
Austrian Speleological Federation (NCRPO) ข้ึน เปน็ องคก์ รกลางสำหรับ
(VOH) ข้ึนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1949 การสำรวจศึกษาวิจัยและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ประกอบด้วยสมาชิกองค์กร 26 แห่ง มีสมาชิกนัก (ไมป่ รากฏปีทีท่ ำการก่อตงั้ ) สมาชิกเปน็ แบบนักสำรวจ
สำรวจถำ้ 2,500 คน (เว็บไซต์: hoehle.org) ถ้ำรายบคุ คล (เวบ็ ไซต์: caves.res.in)
สำหรับประเทศในเอเชีย การรวมกลุ่มสำรวจ 4.4 ชมรมและสมาคมถำ้ ในประเทศไทย
และท่องเที่ยวถ้ำยังมีนอ้ ย พบว่ามีการก่อตั้งสมาคมถำ้
อยเู่ พียงไมก่ ่ีประเทศ ทีส่ ำคญั ได้แก่ ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการก่อตั้งชมรม
หรือสมาคมนักสำรวจและท่องเที่ยวถ้ำแต่อย่างใด
ประเทศจีน นักสำรวจถ้ำจากประเทศต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในระยะ 10 ปีหลังนี้ มีนักสำรวจถ้ำจาก
ได้รวมตัวก่อตั้ง Hong Meigui Cave Exploration ชมรมหรือสมาคมถ้ำต่าง ๆ จาก อังกฤษ ออสเตรเลีย
Society ขึ้นในปี ค.ศ. 2001 ปัจจุบันมีสมาชิกนัก ฝรั่งเศส หรืออเมริกาเข้ามาสำรวจถ้ำในประเทศเป็น
สำรวจและท่องเที่ยวถ้ำ 100 คน จาก 13 ประเทศ มี จำนวนมาก นักสำรวจถ้ำเหล่านี้ ส่วนใหญ่ประกอบ
ถ้ำในจีนกว่า 1,000 แห่งที่ได้ทำการสำรวจ (เว็บไซต์: อาชพี อน่ื สำรวจถำ้ เป็นงานอดิเรก โดยสว่ นตัวนิยมการ
www.hongmeigui.net) อย่างไรก็ตาม ทางการจีนมี สำรวจบุกเบิกถ้ำเป็นชีวิตจิตใจ บางคนถึงกับใช้เวลา
ส่วนใหญ่ในแต่ละปีในประเทศไทยมากกว่าในประเทศ
สถานการณ์ถ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563
34 คณะอนกุ รรมการดา้ นวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถำ้ แห่งชาติ
ของตน และหลายคนยังได้เชิญชวนนักสำรวจถ้ำท่าน นอกเหนือจากสมาคมถ้ำระดับชาติของ
อืน่ เขา้ มารว่ มการสำรวจในประเทศไทยด้วย ประเทศต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิ BRCA ของอังกฤษ FFS
ของฝรั่งเศส NSS ของสหรัฐอเมริกา ASF ของ
ในภาพรวมนักสำรวจถ้ำจากชมรม สมาคม ออสเตรเลีย ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น องค์กรถ้ำที่สำคัญ
ประเทศต่าง ๆ นี้ เป็นผู้ที่มีขีดความสามารถและ ที่สุดซึ่งเป็นองค์กรระดับนานาชาติที่ควรได้รับการ
สมรรถนะสูง ผ่านการฝึกอบรมฝึกฝน ให้ความสำคัญ กลา่ วถงึ ได้แก่
ต่อความปลอดภัยในการสำรวจ มีความมุ่งมั่น มี
ศักยภาพความพร้อมทางเศรษฐกิจในการเข้ามาสำรวจ Union Internationale de Spéléologie
สามารถจดั หาเครื่องมือและอุปกรณ์การสำรวจพ้ืนฐาน
ไปจนถึงอุปกรณ์การสำรวจชนิดพิเศษเข้ามาใช้ มีการ (UIS) ซงึ่ ไดม้ ีการกอ่ ต้งั ข้นึ ในปี ค.ศ.
จดบันทึกที่ดีเป็นระบบและตีพิมพ์เผยแพร่ข้อมูล จึง
สามารถสร้างฐานข้อมูลและผังถำ้ ต่าง ๆ ในไทยได้เปน็ 1965 ที่ประเทศฝรั่งเศส จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นตอนต้น
จำนวนมาก คริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่ถ้ำวิทยา ได้รับการยอมรับให้
เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง ต่อมาในปี ค.ศ. 1949 ที่
อย่างไรก็ตาม การรวมตัวของนักสำรวจถ้ำ ผู้สนใจในการศึกษาสำรวจถ้ำจากประเทศต่าง ๆ ส่วน
เหล่านี้ เป็นการรวมตัวกันอย่างหลวม ๆ การรวมตัวท่ี ใหญ่เป็นประเทศในยุโรปได้มาหารือกันท่ีฝรั่งเศส และ
ถือว่าเป็นรูปธรรม คือการรวมตัวภายใต้เว็บไซต์ของ ได้เกิดการประชุม International Speleological
Martin Ellis (www.thailandcaves. shepton.org.uk) Congresses (ISC) ขึ้นเป็นครง้ั แรกทฝ่ี รง่ั เศส ในปี ค.ศ.
ซี่งเป็นฐานข้อมูลถ้ำในประเทศไทยที่มีความสมบูรณ์ 1953 หลังจากนั้นกไ็ ด้มีการจัดประชุม ISC ทุก ๆ 4 ปี
มากทส่ี ดุ ในขณะน้ี ในการประชุม ISC ครั้งที่ 4 ปี ค.ศ. 1965 ที่ประชุม
เห็นชอบในการตั้ง UIS ขึ้นมาในรูปขององค์กรและมี
ความสำคัญของนักสำรวจถ้ำจากชมรมและ พัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดย UIS ได้จัดประชุม
สมาคมจากต่างประเทศนี้ ที่ไม่อาจไม่กล่าวถึงได้เลย ISC ครง้ั ที่ 17 ไปเมือ่ ปี ค.ศ. 2017 ที่ออสเตรเลีย และ
คือ การเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในการค้นหา กำหนดจัดประชุม ISC ครั้งที่ 18 ขึ้นระหว่างวันที่ 25
และกู้ภัย กรณี 13 หมูป่าติดอยู่ในถ้ำหลวง จังหวัด กรกฎาคม – 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ทีป่ ระเทศฝรั่งเศส
เชียงราย เมื่อปี พ.ศ. 2561 นั่นเอง และเป็นจุดสำคัญ (เว็บไซต์: uis-speleo.org/)
ของการเริ่มต้นพัฒนาการบริหารจัดการถ้ำอย่างเป็น
ระบบและในทุกมิตใิ นประเทศไทย ปัจจุบัน UIS มีสมาชิกประกอบไปด้วย 54
ประเทศ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็น
4.5 ด้านการศึกษาวิจัยและความร่วมมือ สมาชิกได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม มี
ระหวา่ งประเทศ คณะกรรมาธิการวิชาการที่ดูแลการศึกษาวิจัยสาขา
ต่าง ๆ ดังนี้
การศึกษาวิจัยและความร่วมมือระหว่าง
ป ร ะ เ ท ศ ด ้ า น ถ ้ ำ แ ล ะ ภ ู ม ิ ป ร ะ เ ท ศ แ บ บ ค า ส ต ์ มี • Archeology and Paleontology in Caves Commission
ความสำคัญ ที่จะช่วยให้มีการถ่ายทอดความรู้ • Artificial Cavities Commission
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และประสบการณ์ ระหว่างกันได้ • Arts and Letters Commission
เปน็ อยา่ งดี • Bibliography Commission
• Biology Commission
• Cave Diving Commission
สถานการณถ์ ้ำประเทศไทย พ.ศ. 2563 35
คณะอนุกรรมการดา้ นวชิ าการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบรหิ ารจดั การถำ้ แห่งชาติ
• Cave Mineralogy Commission ปี ค.ศ. 2015 ในงาน สมั มนา Asian
• Cave Rescue Commission Transkarst ครั้งที่ 2 ณ ประเทศจีน
• Education Commission ทีป่ ระชุม Asian Federation of
• Glacier, Firn and Ice Caves Commission Speleology เหน็ ชอบและจดั ตง้ั องคก์ ร Asian Unions
• History of Speleology Commission of Speleology (AUS) ขึ้น เพื่อเป็นองค์กรระดับ
• Informatics Commission ภูมิภาคของ UIS ขึ้น โดยที่ประชุมใหญ่ครั้งแรกของ
• Karst and Cave Protection Commission AUS มีผู้แทนจากประเทศจีน อินโดนีเซีย อิหร่าน
• Karst Hydrogeology and Speleogenesis Commission ญี่ปุ่น ลาว เลบานอน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม
• Long, Deep and Large Caves Commission และไทย ทั้งนม้ี สี ำนักงานต้ังอย่ทู ่ีประเทศอนิ โดนีเซีย
• Materials and Techniques Commission
• Paleo-karst and Speleochronology Commission Chinese Academy of
• Physical Chemistry and Hydrogeology of Karst Geological Sciences
Commission (CAGS) โดย Institute of Karst Geology (IKG) เป็น
• Pseudokarst Commission สถาบันที่ศึกษาวิจัยทางธรณีวิทยาภูมิประเทศแบบคาสต์
• Speleotherapy Commission และถ้ำของประเทศจีน ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยนานาชาติ
• Volcanic Caves Commission International Research Center on Karst (IRCK)
โดยความเห็นชอบจาก UNESCO ในปี ค.ศ. 2008 เพื่อ
UIS ได้กำหนดให้ปี ค.ศ. 2021 เป็นปี สนับสนุนการศึกษาวิจัย แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์
International Year of Caves and Karst เ พ่ื อ ความรู้ แก่ประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา
ประกาศ ให้โลกตระหนักถึงความสำคัญของถ้ำและ
ภูมิประเทศแบบคาสต์ ซึ่งครอบคลุมเนื้อที่มากกว่า ที่ผ่านมา IRCK ได้จัดให้มีการฝึกอบรมใน
รอ้ ยละ 20 ของพ้ืนทวีปของโลก หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับถ้ำและภูมิประเทศแบบคาสต์
กว่า 10 หลักสูตร มีผู้เข้ารับการอบรมกว่า 260 คน
จาก 36 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เข้ารับการอบรม
จากประเทศไทยดว้ ย
การให้ความสำคัญและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จากองค์กร สมาคม ชมรม เหล่านี้ รวมทั้งการอาศัย
โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ แล้ว
นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของไทย ก็จะเป็น
ประโยชน์ต่อการพัฒนาและยกระดับการบริหาร
จัดการถ้ำและภูมิประเทศแบบคาสต์ของประเทศ
ใหส้ ามารถรุดหน้าไปไดอ้ ยา่ งรวดเร็วยง่ิ ข้นึ ได้
รูปที่ 4.6 เอกสาร International Year of Caves and Karst
สถานการณ์ถำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
36 คณะอนกุ รรมการด้านวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายบริหารจดั การถำ้ แห่งชาติ
เอกสารอ้างองิ IUCN. (1997). Guidelines for cave and karst protection.
World Commisiion on Protected Areas (WCPA).
กรมการท่องเที่ยว. (2557). คู่มือการประเมินมาตรฐานคุณภาพ
แหล่งท่องเท่ยี วทางธรรมชาติประเภทถำ้ . J. Zhang. (23 April 2015). Interview: John Spies’
Magnificent Photos Reveal the Hidden Wonders
กรมการท่องเที่ยว. (2557). คู่มือการประเมินมาตรฐานคุณภาพ of Underground Caves. เข้าถึงได้จาก
แหล่งทอ่ งเท่ยี วทางธรรมชาติประเภทถ้ำ. https://mymodernmet.com/john-spies-
southeast-asia-cave-
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. (2554). การจัดการถ้ำ photos/#:~:text=Although%20Spies%20has%20
เพือ่ การท่องเท่ยี วในอทุ ยานแหง่ ชาติ. traveled%20all,tours%20guided%20by%20Spie
s%20himself.
ชัยพร ศิริพรไพบูลย์. (2554). ถ้ำหินปูน : การกำเนิด การสำรวจ
พฒั นา และ การอนุรกั ษ.์ James Low. (1836). History of Tennasserim. The Journal
of the Royal Asiatic Society of Great Britain and
รสั รินทร์ ศิรภิ ทั รภูรีนนท์ อุมาพร เจรญิ คณุ ธรรม และนิชวัลย์ แดงคำ. Ireland, Vol.3 No.2, 287-336.
(2561). รายงานผลการสำรวจและจัดทำแผนผัง
ถำ้ ปาฏิหารยิ ์ และถ้ำเจีย จงั หวดั อบุ ลราชธานี. John Crawfurd. (1830). Journal of Embassy from the
Governor- General of India to the Court of Siam
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. and Cochin-China, 293-299.
(2559). คู่มือมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
ประเภทถำ้ . John R. Dunkley. (1994). Thailand Caves Catalogue.
Speleological Research Council (Australia),
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. Speleological Research Council.
(2562). รายงานผลการติดตามการประเมินคุณภาพ
สิ่งแวดล้อม ของแหล่งธรรมชาติอนั ควรอนรุ ักษ์ประเภท John R. Dunkley. (1995). The Caves of Thailand.
ถำ้ ประจำปี พ.ศ. 2562. Speleological Research Council (Australia),
Speleological Research Council.
สิทธิพงษ์ ดิลกวณชิ . (2543). การสำรวจและจัดทำระบบฐานข้อมูล
เกี่ยวกบั ถำ้ จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน. K., J. Spies & J. R. Dunkley Kiernan. (1988). Prehistoric
occupation and burial sites in the mountains of
ARCBC. (2004). he Effects of Human Impacts on Cave the Nam Khlong area, Mae Hong Son province,
and Karst Biodiversity, Thailand Component. Northwestern Thailand. Australian Archaeology
ARCBC. (27), หน้า 24-44.
D. Smart. (2000). Cave Management Classificationin in L Deharveng. (1988). Expédition Thaï-Maros 87-88.
Thailand: Modification. from Austrarian Scheme. Association Pyrénéenne de Spéléologie.
Nat. Hist. Bullatin, Siam Soc, 48, 165-175.
L. Deharveng. (1987). Expédition Thaï-Maros 86. .
D. Smart. (2002). Thung Yai Naresuan Cave Survey Association Pyrénéenne de Spéléologie.
Project - Final Report.
Martin Ellis. (31 07 2020). เขา้ ถึงไดจ้ าก Caves & Caving in
Dummer P. and Morris J. (2020). Doi Angkhamg Thailand:
Expedition 2020. Shepton Mallet Caving Club & https://www.thailandcaves.shepton.org.uk/
Chiang Mai Rock Climbing Adventures - .
Martin Ellis. (2020). The Caves of Eastern Thailand: Cave
F Sarasin. (1933). "Prehistorical researches in Siam". 26(2). of Thailand Series Volume-I.
Journal of the Siam Society, 171-202.
Martin Ellis. (2020). The Caves of Northern Thailand: The
G. Ponta, และ et.al. (2013). Karst Landforms in the Cave of Thailand Series Volume-II.
Saraburi Group Limestones, Thailand. National
Cave and Karst Research Institute Symposium 2. Martin Ellis. (2020). The Caves of Western and Central
Thailand: The Cave of Thailand Volume-III.
รายช่อื ผจู้ ดั ทำรายงาน
สถานการณถ์ ำ้ ประเทศไทย พ.ศ. 2563
ทปี่ รกึ ษา อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
1. นายสมหมาย เตชวาล
2. นายนวิ ัติ มณีขัตยิ ์
คณะทำงานจัดทำรายงานสถานการณถ์ ้ำปะเทศไทย (คณะอนกุ รรมการด้านวชิ าการ)
1. อธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี ประธานอนุกรรมการ
2 รองอธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี รองประธานอนกุ รรมการ
3. นายชยั พร ศิรพิ รไพบลู ย์ อนุกรรมการ
4. รองศาสตราจารยน์ าฏสดุ า ภูมิจำนงค์ อนุกรรมการ
5. รองศาสตราจารยร์ ัศมี ชทู รงเดช อนกุ รรมการ
6. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ภาสกร ปนานนท์ อนกุ รรมการ
7. นายอนุกลู สอนเอก อนุกรรมการ
8. รองศาสตราจารยอ์ รนิ ทิพย์ ธรรมชยั พเิ นต อนกุ รรมการ
9. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาระ บำรงุ ศรี อนกุ รรมการ
10. ผู้แทนสำนกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม อนุกรรมการ
11. ผแู้ ทนกรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั ว์ปา่ และพนั ธพุ์ ชื อนกุ รรมการ
12. ผแู้ ทนกรมปา่ ไม้ อนุกรรมการ
13. ผู้แทนกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่ง อนุกรรมการ
14. ผ้แู ทนกรมทรพั ยากรนำ้ บาดาล อนกุ รรมการ
15. ผู้แทนกรมการทอ่ งเท่ียว อนุกรรมการ
16. ผู้แทนกรมศลิ ปากร อนกุ รรมการ
17. ผแู้ ทนกรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย อนกุ รรมการ
18. ผู้แทนสมาคมธรณีวทิ ยาแหง่ ประเทศไทย อนกุ รรมการ
19. ผู้แทนสมาคมอุทกธรณวี ิทยาไทย อนกุ รรมการ
20. ผู้แทนวิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์ อนกุ รรมการ
21. ผอู้ ำนวยการกองเทคโนโลยีธรณี กรมทรัพยากรธรณี อนุกรรมการและเลขานกุ าร
22. ผู้อำนวยการกองธรณวี ิทยา กรมทรัพยากรธรณี อนกุ รรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร
ผูเ้ รียบเรียง กรมทรพั ยากรธรณี
กรมทรพั ยากรธรณี
1. นายชยั พร ศิรพิ รไพบลู ย์ กรมทรพั ยากรธรณี
2. นายอนุกลู วงศ์ใหญ่ กรมทรพั ยากรธรณี
3. นางสาวญาดารักษ์ วิลุนกิจ กรมทรพั ยากรธรณี
4. นางสาวรัสรนิ ทร์ ศริ ภิ ทั รภรู นี นท์ กรมทรัพยากรธรณี
5. นางสาวปวณี า ใจหมัน่
6. นางสาววันเพญ็ อ่วมใจบุญ
© Joshua David Morris
© Joshua David Morris