แหล่งซากสุสานหอยแหลมโพธิ์
(สสุ านหอยน้�ำ จดื ท่ีใหญท่ ่สี ดุ ในประเทศไทย)
จงั หวัดกระบี่
“สุสานหอยแหลมโพธ์”ิ เปน็ แหลง่ ท่องเทีย่ วท่รี จู้ กั กนั ในชอ่ื ของ “สุสานหอย 75 ล้านป”ี ต้งั อยู่ในเขตอุทยานแห่ง
ชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริเวณชายฝั่งทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ตำ�บลไสไทย อำ�เภอเมือง จังหวัดกระบี่ ถูกค้น
พบเมื่อปี พ.ศ. 2507 โดยนายภุมวาร โกมลารชุน พบซากดึกดำ�บรรพ์หอยน�ำ้ จดื เปน็ ชนั้ หนาส่วนใหญ่เปน็ หอยฝาเดยี ว
จ�ำ พวกหอยขม (วงศ์ Viviparidae) หอยคนั (วงศ์ Thiaridae) และหอยมวนพลู (วงศ์ Turritellidae) เรยี งตัวอดั กันอยา่ งหนา
แน่นคลา้ ยแผ่นซเี มนต์ผสมกรวดแผ่ออกไปเปน็ ลานกวา้ งและยน่ื ออกไปตามแนวชายฝง่ั ทะเลระยะทางกวา่ 2 กโิ ลเมตร หอยทพี่ บ
บริเวณน้ีเปน็ หอยน้ำ�จดื ที่พบในปจั จบุ ัน ซง่ึ ในอดีตในบริเวณน้ีเป็นแหล่งน�ำ้ จดื ขนาดใหญ่ แต่ในปจั จบุ ันกลายเปน็ พ้ืนท่ีชายฝง่ั
ทะเล เนือ่ งจากการเพม่ิ ระดับของน�ำ้ ทะเลหลังจากการละลายของน้�ำ แข็งข้วั โลกเม่อื ส้นิ สดุ ยคุ น้�ำ แข็ง
จากการสำ�รวจและศึกษาวิจัยซากเรณูและสปอร์ของพืชโบราณที่พบในสุสานหอย ร่วมกับวิทยาการก้าวหน้า และ
เทคโนโลยีสมัยใหมท่ ำ�ใหส้ ามารถก�ำ หนดอายุของสุสานหอยแหลมโพธิ์ได้ว่าอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 40 - 20 ล้านปี แตช่ อื่
เรียกเดิมก็ยังคงถูกเรียกจนติดปากประชาชนในพ้นื ทีม่ าจนถึงในปัจจุบัน
สุสานหอยแหลมโพธิ์ ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งซากดึกดำ�บรรพ์ท่ีข้ึนทะเบียนตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง
ซากดกึ ดำ�บรรพ์ พ.ศ. 2551 เมอ่ื วันท่ี 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560 จ�ำ นวน 3 แหล่ง
45
ปัจจุบันเปน็ แหล่งทอ่ งเที่ยวที่ส�ำ คัญแหง่ หนึ่งในจังหวัดกระบี่ สามารถเดนิ ทางเขา้ ถงึ ได้อย่างสะดวก โดยเดนิ ทางจาก
ตวั เมอื งกระบ่ี ใชท้ างหลวงหมายเลข 4034 และ 4204 ไปทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ประมาณ 17 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาเดนิ ทางประมาณ
10 – 15 นาที
พกิ ัดต�ำ แหนง่ : 8.022587, 98.885139
แหล่งซากสุสานหอยแหลมโพธิ์ (แหลมโพธ์ิ 1)
แหลง่ ซากสสุ านหอยแหลมโพธิ์ (แหลมโพธ์ิ 2)
แหล่งซากสุสานหอยแหลมโพธิ์ (แหลมโพธ์ิ 3)
46
นอติลอยด์ แหล่งท่ากระดาน
จังหวดั กาญจนบุรี
8
แหล่งท่ากระดาน
(สสุ านหมกึ ทะเลโบราณแหง่ ทอ้ งทะเล
ออร์โดวิเชยี น)
จงั หวดั กาญจนบรุ ี
นอติลอยด์ แหล่งท่ากระดาน
จังหวดั กาญจนบุรี
แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพท์ า่ กระดาน พบอยทู่ เี่ ชงิ เขากะทะ เปน็ ลานหนิ วางเรยี งราย ตง้ั อยใู่ นเขตต�ำ บลทา่ กระดาน อำ�เภอ
ศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2553 โดย นายจรี ศกั ด์ิ เจรญิ มิตร พบซากดึกดำ�บรรพ์สัตวท์ ะเลโบราณ
จ�ำ นวนมาก ลกั ษณะเปน็ แท่งทรงกรวย ตอ่ มาได้รบั การสำ�รวจและศกึ ษาวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
พบว่าเป็นซากดึกดำ�บรรพ์นอติลอยด์ (Nautiloid) ที่อยู่ในหินปูนยุคออร์โดวิเชียน อายุประมาณ 470 ล้านปีก่อน
ซึ่งนอติลอยด์ถือเป็นสัตว์ทะเลที่มีบรรพบุรุษร่วมกันกับพวกหมึก จึงมักเรียกว่า “หมึกทะเลโบราณ” พบกระจายตัวเป็น
จำ�นวนมากในพื้นท่ีบริเวณนี้ มีขนาดยาวต้ังแต่ 5 – 20 เซนติเมตร มีความสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่พบมาในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังพบหนิ สโตรมาโทไลต์ (Stromatolite) อนั เกดิ จากการการสะสมตวั ของสง่ิ มชี วี ติ กลมุ่ สาหรา่ ยสเี ขยี วแกมน�้ำ เงนิ
จงึ มกั เรียกกันว่า “หนิ สาหรา่ ย”
51
แหล่งทา่ กระดาน
(สสุ านหมกึ ทะเลโบราณแหง่ ท้องทะเลออร์โดวเิ ชยี น)
จังหวดั กาญจนบุรี แหลง่ ทา่ กระดาน
แหล่งซากดึกดำ�บรรพ์ท่ากระดาน ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งซากดึกดำ�บรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติ
คมุ้ ครองซากดกึ ด�ำ บรรพ์ พ.ศ. 2551 เมอื่ วนั ที่ 13 กนั ยายน 2561 ปจั จบุ นั ไดพ้ ฒั นาใหเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นรทู้ สี่ �ำ คญั ในทอ้ งถน่ิ และ
ในประเทศ เพอื่ ใชเ้ ป็นแหลง่ อา้ งอิงทางวชิ าการของซากดึกดำ�บรรพ์และหินยุคออร์โดวิเชยี น ท้ังในระดบั ประเทศและภมู ภิ าค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกท้งั ยงั มคี ณะผู้เชยี่ วชาญดา้ นซากดกึ ด�ำ บรรพท์ ั้งในและตา่ งประเทศ คณะนักเรยี น นักศกึ ษา และ
ผู้ที่สนใจ แวะเวยี นเขา้ มาศกึ ษาและเยี่ยมชมในแหลง่ อย่างตอ่ เนอ่ื ง
การเดนิ ทางจากตัวเมืองกาญจนบรุ ี ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 3199 ไปทางทศิ เหนอื ประมาณ 72 กโิ ลเมตร ใช้เวลา
เดนิ ทางประมาณ 1 ช่ัวโมง
พิกดั ตำ�แหนง่ : 14.4527974, 99.1303559
52
กระดูกต้นขาหลงั ของ ภเู วียงโกซอรัส สิรนิ ธรเน
แหล่งขดุ ค้นไดโนเสาร์ภเู วียง หลมุ ขดุ คน้ ที่ 1 (ภปู ระตตู ีหมา)
จงั หวัดขอนเเก่น 54
9
แหล่งขุดค้นไดโนเสารภ์ เู วียง
หลมุ ขดุ ค้นที่ 1(ภปู ระตูตีหมา)
(แหลง่ ไดโนเสารภ์ ูเวยี ง เจ้าฟา้ สิรินธร)
จงั หวดั ขอนเเกน่
แหล่งขุดคน้ ไดโนเสาร์ภเู วยี ง
(หภลูปมุ รขะดุตคตู ้นีหทมี่ 1า)จ.ขอนเเกน่
แหล่งขุดค้นไดโนเสารภ์ เู วยี ง
หลมุ ขดุ คน้ ท่ี 1 (ภูประตตู หี มา)
(แหลง่ ไดโนเสาร์ภเู วยี ง เจา้ ฟา้ สริ นิ ธร)
จังหวดั ขอนแก่น
“ภปู ระตตู หี มา” ตง้ั อยบู่ นยอดเขาทางทิศตะวันออกของ
ที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เป็นแหล่ง
ซากดึกด�ำ บรรพ์ที่คน้ พบเมอื่ ปี พ.ศ. 2525 โดยนายวราวุธ สธุ ธี ร
พบชนิ้ กระดกู ไดโนเสารกลุ่มซอโรพอด (Sauropod) หลายชิ้น
ในชั้นหินยุคครีเทเชียสตอนต้น อายุประมาณ 130 ลานปกอน
เชน่ กระดกู ซโ่ี ครง กระดกู ขาหนา กระดกู ขาหลงั และกระดกู สนั หลงั
การศึกษาวิจัยพบว่าเป็นไดโนเสาร์กลุ่มซอโรพอดสกุลใหม่และ
ชนิดใหมข่ องโลก มคี วามยาวประมาณ 15 - 20 เมตร และตง้ั ชอ่ื
เพอ่ื ถวายพระเกยี รตแิ ด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ
พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงสนพระทัยงาน
ด้านซากดึกดำ�บรรพ์ มีช่ือว่า “ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน”
(Phuwiangosaurus sirindhornae) นอกจากนย้ี งั พบฟน และ
กระดูกขาของไดไนเสารกินเน้ือปะปนอยดู่ ้วย
แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพแ์ หลง่ ขดุ คน้ ไดโนเสารภ์ เู วยี ง หลมุ ขดุ คน้ ท่ี 1
(ภูประตูตีหมา) ได้รับการประกาศให้เปน็ แหลง่ ซากดึกด�ำ บรรพ์
ทขี่ น้ึ ทะเบยี นตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองซากดกึ ด�ำ บรรพ์ พ.ศ. 2551
เมอ่ื วนั ท่ี 19 สงิ หาคม พ.ศ. 2562 ปัจจบุ นั มีการสรา้ งอาคารคลุม
หลุมขุดค้นไว้และมีนิทรรศการแสดงช้ินส่วนซากดึกดำ�บรรพ์
ไดโนเสาร์ทค่ี น้ พบ
การเดินไปหลมุ ขดุ คน้ โดยเรม่ิ จากทท่ี �ำ การอทุ ยานแห่งชาติ
ภเู วยี ง ผา่ นเสน้ ทางศกึ ษาธรรมชาติ ประมาณ 1.5 กโิ ลเมตร สภาพ
พ้ืนที่มีความสวยงามสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบหุบเขา
ภเู วียง ได้อีกด้วย
พิกัดต�ำ แหนง่ : 16.683069, 102.229712
57
58
เศษช้นิ ส่วนกระดกู ไดโนเสาร์ เเหลง่ ขดุ ค้นไดโนเสารภ์ ูเวยี ง
หลุมขดุ ค้นที่ 4 (โนนสาวเอ้) จงั หวดั ขอนเเกน่
10
แหลง่ ขดุ คน้ ไดโนเสารภ์ เู วียง
หลมุ ขดุ คน้ ที่ 4 (โนนสาวเอ)้
(แหล่งอนบุ าลไดโนเสาร์ซอโรพอดแห่งหบุ เขาภูเวยี ง)
จังหวัดขอนเเก่น
แหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูเวียง หลุมขดุ ค้นที่ 4 (โนนสาวเอ้)
(แหล่งอนุบาลไดโนเสาร์ซอโรพอดแห่งหุบเขาภูเวียง)
จังหวดั ขอนแกน่
“โนนสาวเอ้” เป็นเนินเตี้ยๆ ต้ังอยู่ทางทิศเหนอื ไป 4 กโิ ลเมตร จากท่ที ำ�การอุทยานแห่งชาตภิ ูเวยี ง อ�ำ เภอเวยี งเก่า
จงั หวัดขอนแก่น เป็นแหล่งซากดึกด�ำ บรรพท์ คี่ น้ พบเมอ่ื ปี พ.ศ. 2533 โดยชาวบา้ นหนองคอง พบซากดกึ ด�ำ บรรพใ์ นชน้ั หนิ
ยคุ ครเี ทเชยี สตอนตน้ อายปุ ระมาณ 130 ล้านปกี ่อน กระจายอยเู่ ป็นบริเวณกวา้ ง พน้ื ทก่ี วา่ 10 ตารางเมตร ประกอบดว้ ยกระดกู
ไดโนเสารภ์ เู วยี งโกซอรสั ตวั เตม็ วยั และวยั เยาวจ์ �ำ นวนมาก นอกจากน้ันยงั พบเกลด็ ปลา ฟนั จระเข้ และกระดองเตา่ ซึ่งในอดตี หลุม
ขุดค้นแห่งนี้ และบริเวณใกลเ้ คยี งถกู บุกรุกท�ำ ลายและลักลอบขดุ กระดูกไดโนเสารไ์ ปขาย ในชว่ งปลายปี 2536 ทำ�ใหส้ ญู เสีย
ข้อมลู ซากดึกดำ�บรรพ์ท่สี �ำ คัญของแหล่งนี้เป็นจำ�นวนมาก
แหลง่ ขดุ คน้ ไดโนเสารภ์ เู วยี ง หลมุ ขดุ คน้ ท่ี 4 (โนนสาวเอ)้ ไดร้ บั การประกาศใหเ้ ปน็ แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพท์ ข่ี น้ึ ทะเบยี น
ตามพระราชบัญญัตคิ ุ้มครองซากดึกด�ำ บรรพ์ พ.ศ. 2551 เมอื่ วนั ท่ี 19 สงิ หาคม พ.ศ. 2562 ในปจั จบุ ันสภาพของพื้นที่ยังพบ
ซากดกึ ดำ�บรรพ์แต่เป็นช้ินส่วนเล็กๆ กระจายอยูบ่ ริเวณกวา้ ง ไม่มกี ารเปดิ หนา้ ดนิ สภาพเปน็ ปา่ รก
พิกดั ตำ�แหน่ง : 16.717515640514, 102.26815756624
61
62
เเหลง่ ขุดคน้ ไดโนเสารภ์ เู วียง หลมุ ขุดคน้ ท่ี 5 (ซำ�หญ้าคา)
จงั หวดั ขอนเเก่น
11
แหลง่ ขดุ ค้นไดโนเสาร์ภูเวยี ง
หลมุ ขุดคน้ ที่ 5 (ซ�ำ หญ้าคา)
(แหล่งไดโนเสาร์นกกระจอกเทศแหง่ แรกของประเทศไทย)
จงั หวัดขอนเเกน่
แหลง่ ขุดคน้ ไดโนเสาร์ภเู วียง หลุมขดุ ค้นที่ 5 (ซำ�หญา้ คา)
(แหลง่ ไดโนเสารน์ กกระจอกเทศแห่งแรกของประเทศไทย)
จังหวัดขอนแกน่
“ซำ�หญา้ คา” เป็นพน้ื ทลี่ านกวา้ งตง้ั อยหู่ ่างจากทีท่ ำ�การอทุ ยานแห่งชาตภิ เู วียงไปทางทิศใต้ ประมาณ 2 กโิ ลเมตร
เป็นแหล่งซากดึกดำ�บรรพท์ ค่ี น้ พบเม่อื ปี พ.ศ. 2534 โดยนายวราวุธ สุธีธร ได้พบซากดึกดำ�บรรพ์ในชั้นหินยุคครีเทเชียส
ตอนตน้ อายปุ ระมาณ 130 ลา้ นปกี อ่ น และเรม่ิ ท�ำ การขดุ คน้ ในปี พ.ศ. 2535 - 2536 ส่วนใหญ่กว่า 80 ตัวอย่างเป็นไดโนเสาร์
กลุ่มออร์นิโธมิโมซอร์ (Ornithomimosaur) หรือไดโนเสาร์นกกระจอกเทศ ซึ่งเป็นไดโนเสาร์สกุลใหม่และชนดิ ใหม่
ของโลก มชี อื่ วา่ กนิ รีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส (Kinnareemimus khonkaenensis) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ค้นพบไดโนเสารใ์ น
กลมุ่ น้ีและเปน็ แหลง่ เดยี วในประเทศไทยทค่ี น้ พบซากดกึ ด�ำ บรรพไ์ ดโนเสารใ์ นกลมุ่ น้นี อกจากนย้ี งั พบกระดกู ไดโนเสารภ์ เูวยี งโกซอรสั วยั เยาว์
เกล็ดปลา กระดองเตา่ และฟนั จระเข้อกี ด้วย
65
แหลง่ ขดุ คน้ ไดโนเสารภ์ เู วยี ง หลมุ ขดุ คน้ ที่ 5 (ซ�ำ หญา้ คา) ไดร้ บั การประกาศใหเ้ ปน็ แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพท์ ข่ี น้ึ ทะเบยี น
ตามพระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองซากดกึ ด�ำ บรรพ์ พ.ศ. 2551 เม่อื วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ในปัจจบุ ันสภาพพนื้ ท่ีหลุมขดุ คน้
มีการค้นพบชิ้นส่วนกระดกู เลก็ นอ้ ย และยังพบร่อยรอยสภาพหลุมขุดค้นที่มีการเปิดหน้าดินให้เห็นตั้งแต่เม่อื คร้งั อดีต
การเดินทางไปหลมุ ขดุ ค้นคอ่ นขา้ งไกลไมส่ ามารถใช้รถได้ ตอ้ งใช้การเดนิ เท้าเข้าไป ประมาณ 500 เมตร
พิกดั ต�ำ แหนง่ : 16.669517396104, 102.23160644355
66
รอยตีนไดโนเสาร์ แหลง่ ขุดคน้ ไดโนเสารภ์ ูเวยี ง หลมุ ขดุ ค้นท่ี 8 (หินลาดป่าชาด)
จังหวัดขอนเเกน่
12
แหลง่ ขดุ ค้นไดโนเสาร์ภเู วียง
หลมุ ขดุ ค้นท่ี 8 (หนิ ลาดป่าชาด)
(ร่องรอยของสัตว์โบราณแหง่ เทือกเขาภเู วยี ง)
จงั หวัดขอนเเก่น
แหล่งขุดค้นไดโนเสารภ์ ูเวียง “หนิ ลาดปา่ ชาด” เปน็ ชอ่ื เรยี กทอ้ งถน่ิ ของลานหนิ
แห่งหนึ่ง ในเขตอุทยานแห่งชาติภเู วยี ง อ�ำ เภอเวยี งเกา่
หลมุ ขดุ คน้ ที่ 8 (หนิ ลาดป่าชาด) จงั หวดั ขอนแกน่ ในปีพ.ศ.2532นายวราวธุ สุธธี รไดค้ น้ พบ
ร่องรอยของสตั วโ์ บราณ จ�ำ นวนกวา่ 60 รอย สว่ นใหญ่เป็น
(ร่องรอยของสัตว์โบราณแห่งเทือกเขาภเู วยี ง) รอยตีนไดโนเสาร์ แสดงเปน็ แนวทางเดนิ หลายทิศทาง
ประทับอยูบนลานหินทรายยุคครีเทเชียสตอนตน้ อายุ
จังหวดั ขอนแก่น ประมาณ 140 ลา้ นปกี อ่ น ลกั ษณะเปน็ รอยประทบั 3 นวิ้
ส่วนใหญ่มาจากไดโนเสาร์กลุ่มออร์นิโธพอดขนาดเล็ก
(Ornithopod) นอกจากน้ียังพบรอยตีนของไดโนเสาร์
กนิ เนอ้ื กลมุ่ ซลี โู รซอร์ (Coelurosaur) ไดโนเสารก์ นิ เนอ้ื
ขนาดใหญ่ และรอยทางเดนิ ของสตั วเ์ ลอ้ื ยคลานขนาดเลก็
รูหนอน และมีรอยริ้วคลื่นที่แสดงถึงสภาพแวดล้อม
ในอดตี ทีเ่ คยเปน็ ธารน้ำ�ไหลมากอ่ นอีกด้วย
แหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูเวียง หลุมขุดค้นท่ี 8
(หินลาดป่าชาด) ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่ง
ซากดึกดำ�บรรพ์ท่ีข้ึนทะเบียนตามพระราชบัญญัติ
คุ้มครองซากดึกดำ�บรรพ์ พ.ศ. 2551 เมื่อวันที่ 19
สงิ หาคม พ.ศ. 2562 ปจั จบุ นั สภาพพนื้ ทส่ี ามารถเดนิ ทาง
ไปได้สะดวก เนื่องจากมีถนนลาดยางไปถงึ บรเิ วณขดุ คน้
และพน้ื ท่ีใกล้เคียงยังเป็นแหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติ
เชน่ น�ำ้ ตก และมจี ดุ ชมววิ ทส่ี ามารถชมพระอาทิตย์ข้ึนและ
ทัศนยี ภาพรอบๆ หบุ เขาภเู วียงได้อีกด้วย
พกิ ัดตำ�แหน่ง : 16.772039, 102.275821
69
70
แหลง่ ขุดคน้ ไดโนเสาร์ภูเวยี ง
(หหลนิ มุ ลขดุาดคน้ยทา่ีว9)
จ.ขอนเเก่น
13
แหล่งขดุ ค้นไดโนเสาร์ภเู วยี ง
หลุมขุดคน้ ที่ 9 (หินลาดยาว)
(แหลง่ ไดโนเสารก์ นิ เนอ้ื แห่งเทือกเขาภูเวียง)
จังหวัดขอนเเก่น
กระดกู ไดโนเสาร์ สยามโมไทรนั นสั อสี านเอนซสิ แหลง่ ขุดคน้ ไดโนเสาร์ภูเวียง
หลมุ ขดุ ค้นท่ี 9 (หนิ ลาดยาว)
จังหวัดขอนเเกน่
แหล่งขดุ ค้นไดโนเสารภ์ ูเวียง
หลมุ ขดุ ค้นท่ี 9 (หินลาดยาว)
(แหลง่ ไดโนเสาร์กินเนือ้ แหง่ เทือกเขาภูเวียง)
จงั หวดั ขอนแกน่
“หนิ ลาดยาว” เป็นลานหนิ ท่ตี งั้ อยทู่ างทศิ เหนอื ไปประมาณ 2 กโิ ลเมตร จากที่ท�ำ การอุทยานแห่งชาตภิ เู วียง อำ�เภอ
เวยี งเกา่ จงั หวดั ขอนแกน่ เปน็ แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพ์ที่ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยนายสมชยั เตรยี มวชิ านนท์ และปรชี า
ซา้ ยหนองขาม ซงึ่ คน้ พบกระดกู เชงิ กราน กระดกู สนั หลงั และกระดกู หางของไดโนเสารก นิ เนอ้ื ขนาดใหญ่ สภาพเกือบสมบูรณ์
มีการศึกษาวิจัยโดยคณะสำ�รวจโบราณชีววิทยาไทย-ฝรง่ั เศส พบว่าเปน็ ไดโนเสาร์กินเนื้อสกุลใหม่และชนดิ ใหมข่ องโลก
ความยาวประมาณ 6.5 เมตร มชี อ่ื วา่ “สยามโมไทรนั นัส อสี านเอนซิส” (Siamotyrannus isanensis)
แหลง่ ขดุ คน้ ไดโนเสารภ์ เู วยี ง หลมุ ขดุ คน้ ท่ี 9 (หนิ ลาดยาว) ไดร้ บั การประกาศใหเ้ ปน็ แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพท์ ข่ี น้ึ ทะเบยี น
ตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองซากดกึ ด�ำ บรรพ์ พ.ศ. 2551 เมอื่ วนั ที่ 19 สงิ หาคม พ.ศ. 2562 ปจั จบุ นั มกี ารสรา้ งอาคารคลมุ หลมุ
ขดุ คน้ ถาวร และมนี ทิ รรศการแสดงโดยรอบอาคาร และตลอดเสน้ ทางเดนิ เทา้ กอ่ นถงึ พนื้ ทแี่ หล่งซากดกึ ด�ำ บรรพ์ สภาพพื้นที่มี
75
ความสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูฝนทีจ่ ะเป็นแหล่งน�้ำ ตกทสี่ วยงามแห่งหน่ึงการเดนิ ทางสะดวกสามารถเดนิ ทางโดยรถยนต์
และเดินเทา้ ตอ่ ไปอกี ประมาณ 300 เมตร
พกิ ัดต�ำ แหนง่ : 16.690857, 102.232777
76
14
แหล่งรอยตนี ไดโนเสาร์ภูเกา้
(รอยตนี แห่งแรกและสมบรู ณท์ ส่ี ุดในหนิ เสาขัวของไทย)
จังหวดั หนองบัวลำ�ภู
แหล่งรอยตีนไดโนเสารภ์ ูเก้า
(รอยตนี แห่งแรกและสมบรู ณ์ทีส่ ุดในหินเสาขัวของไทย)
จงั หวดั หนองบัวลำ�ภู
“ภเู กา้ ” ตั้งอยู่ในเขตอทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ - ภพู านค�ำ ตำ�บลนิคมพัฒนา อำ�เภอโนนสงั จงั หวดั หนองบวั ล�ำ ภู เมื่อปี
พ.ศ. 2543 ไดค้ ้นพบรอยตีนไดโนเสาร์ภายในหุบเขาภูเก้า โดยคณะส�ำ รวจโบราณชีววิทยาไทย-ฝร่ังเศส ไดพ้ บกับรอยตีนของ
ไดโนเสาร์ บรเิ วณลานหินทราย หมวดหนิ เสาขัว ยุคครีเทเชียสตอนตน้ อายุประมาณ 130 ล้านปี นับเป็นครั้งแรกที่มีการ
ค้นพบรอยตีนไดโนเสาร์ในหมวดหินเสาขวั จากการศกึ ษาอย่างละเอียดพบวา่ มีรอยตีนจ�ำ นวน 25 รอย เห็นเป็นแนวทาง
เดินนบั ได้ 6 แนวทางเดนิ และยงั มที พ่ี บกระจัดกระจายไมเ่ ปน็ แนวอกี รอยตนี มลี กั ษณะเป็น 3 นว้ิ คาดวา่ เปน็ รอยตีนไดโนเสาร์
กินเนื้อ กลมุ่ คาร์โนซอร์ (Carnosaur)
แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพพ์ นื้ ทภี่ เู กา้ – ภพู านค�ำ พบซากดกึ ด�ำ บรรพม์ ากมายภายในอทุ ยานฯ ประกอบดว้ ย ฟนั และกระดกู
ของไดโนเสาร์กินพืช ฟันไดโนเสาร์กินเนื้อ ฟันจระเข้ กระดูกขาและกระดองของเต่า เกล็ดและฟันของปลาเลปิโดเทส
ฟนั ปลาฉลามน้ำ�จืด หอยน้ำ�จืด รอยตีนไดโนเสาร์ นับว่าเป็นแหล่งซากดึกด�ำ บรรพ์ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ
แห่งหนึ่งของประเทศไทย และมีความสำ�คัญทั้งในด้านธรณีวิทยา และซากดกึ ดำ�บรรพ์ในภูมภิ าคเอเชียตะวันออก
เฉียงเหนือ
แหลง่ รอยตนี ไดโนเสารภ์ เู กา้ ไดร้ บั การประกาศใหเ้ ปน็ แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพท์ ข่ี นึ้ ทะเบยี นตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครอง
ซากดึกด�ำ บรรพ์ พ.ศ. 2551 เม่ือวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ปัจจบุ นั สภาพพ้ืนทอ่ี ยใู่ กล้กบั แหลง่ น้�ำ ธรรมชาติ ในฤดูนำ้�หลากรอ่ ง
รอยดังกลา่ วจะถูกลบเลอื นหายไปตามกาลเวลา ปจั จบุ นั มีร่อยรอยทเ่ี ด่นชัดทีส่ ดุ เพียง 11 รอย จึงควรเรง่ ดำ�เนนิ การอนุรักษ์
เพอ่ื ให้แหลง่ ซากดึกดำ�บรรพ์ดังกล่าว คงอยู่ต่อไปได้ และได้มีการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ซากดกึ ด�ำ บรรพภ์ ายในอุทยาน
78
รอยตีนไดโนเสารภ์ ูเกา้
จังหวัดหนองบวั ลำ�ภู
ท้ังภายในภูเก้า และภูพานคำ� ภายใต้ความร่วมมือของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช และกรมทรัพยากรธรณี
เพื่อเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเท่ียวทางธรณีวิทยา ธรรมชาติวิทยา และซากดึกดำ�บรรพ์ท่ีสำ�คัญของจังหวัด
หนองบัวล�ำ ภู
การเดินทางจากตวั เมืองหนองบัวลำ�ภู ใช้ทางหลวงหมายเลข 2146 ไปทางทิศใต้ ประมาณ 47 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดนิ ทางประมาณ 40 – 50 นาที
พกิ ดั ตำ�แหน่ง : 16.9298322, 102.4878786
80
แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพ์ภนู ้อย
จังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ
15
แหลง่ ซากดึกด�ำ บรรพภ์ นู ้อย
(จแู รสสกิ พารค์ เมอื งไทย)
จงั หวดั กาฬสินธ์ุ
กระดกู ไดโนเสาร์ แหลง่ ซากดกึ ดำ�บรรพ์ภนู อ้ ย
จังหวัดกาฬสินธ์ุ
แหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพภ์ นู อ้ ย
(จูแรสสิกพาร์คเมืองไทย)
จังหวัดกาฬสนิ ธุ์
“ภูน้อย” เป็นภูเขาลูกเล็กๆ ท่ีอยู่ตามแนวเทอื กเขาภพู าน
บริเวณบ้านดินจี่ ตำ�บลดินจี่ อำ�เภอคำ�ม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์
เป็นแหลง่ ซากดกึ ด�ำ บรรพท์ ถ่ี กู คน้ พบ เมอ่ื ปี 2551 โดยนายทองหลอ่
นาคำ�จันทร์ ได้นำ�ตัวอย่างซากดึกดำ�บรรพ์ท่ีพบบริเวณภูน้อย
ไปท่ีว่าการอำ�เภอคำ�ม่วง แล้วจึงส่งต่อมาที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร
กรมทรัพยากรธรณี เพ่ือให้ตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นชิ้นส่วน
ของซากดึกดำ�บรรพ์เกล็ดปลาโบราณ และช้ินส่วนของกระดูก
ไดโนเสาร์ หลังจากนั้นจึงได้เร่ิมทำ�การสำ�รวจขุดค้นต้ังแต่
ปี 2551 เป็นต้นมา โดยกรมทรัพยากรธรณีและศูนย์วิจัยและ
85
การศึกษาบรรพชีวินวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พบว่าเป็นแหล่ง
ซากดกึ ด�ำ บรรพใ์ นยคุ จแู รสสกิ ตอนปลาย อายปุ ระมาณ 150 ลา้ นปกี อ่ น ทมี่ ี
ความหลายของซากดกึ ด�ำ บรรพ์ มคี วามสมบรู ณแ์ ละพบชน้ิ สว่ นเปน็ จ�ำ นวน
มาก ทง้ั กระดูกไดโนเสาร์ จระเข้ กระดองเต่า เกล็ดปลา ฟันฉลามน้ำ�จืด
ฟันปลาปอด เศษกระดูกสัตว์เลอ้ื ยคลาน สตั วค์ รงึ่ บกครง่ึ น�ำ้ และไมก้ ลาย
เปน็ หนิ ปจั จบุ นั มกี ารคน้ พบซากดกึ ด�ำ บรรพม์ ากกวา่ 2,000 ตวั อยา่ ง ส่วนใหญ่
เป็นซากดึกดำ�บรรพ์ไดโนเสาร์ โดยเฉพาะไดโนเสารก์ ินพชื คอยาวกลมุ่
ซอโรพอด (Sauropod) และคาดวา่ จะมไี ดโนเสารส์ ายพนั ธใุ์ หมข่ องโลกอยู่
หลายชนิด ซง่ึ อยใู่ นชว่ งการศึกษาวิจยั ในรายละเอียด
แหล่งซากดึกดำ�บรรพ์ภูน้อย ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่ง
ซากดกึ ด�ำ บรรพท์ ข่ี นึ้ ทะเบยี นตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองซากดกึ ด�ำ บรรพ์
พ.ศ. 2551 เม่อื วนั ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ปจั จุบนั กำ�ลังอยใู่ นช่วงการ
พัฒนาเป็นแหล่งท่องเท่ียวและแหล่งเรียนรู้ด้านซากดึกดำ�บรรพ์ รวมถึง
เป็นพื้นทศ่ี กึ ษาวิจัยของนักวิจยั ท้งั ชาวไทยและต่างประเทศ
การเดนิ ทางจากตวั เมอื งกาฬสินธ์ุ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 227
ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
ประมาณ 1 ชว่ั โมง
พกิ ดั ต�ำ แหนง่ : 16.933081, 103.723323
86
แหลง่ ซากดกึ ดำ�บรรพภ์ ูนอ้ ย
จ.กาฬสินธุ์
แหล่งซากดึกด�ำ บรรพ์ข้นึ ทะเบยี นประเทศไทย
กระดูกหางของ สยามโมไทรนั นสั อิสานเอนซิส
แหลง่ ขุดคน้ ไดโนเสาร์ภูเวยี ง หลุมขุดค้นท่ี 9 (หนิ ลาดยาว)
จงั หวัดขอนเเกน่