The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ฉบับที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prdmr.pr, 2022-11-03 00:08:13

แหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ฉบับที่ 2

แหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ฉบับที่ 2

ตำำ�แหนง่ ท่ต�ี ำงั�

44


แหล่่งซากสุสานหอยแหล่มโพธ�ิ

“สุส�นำหอยนำ�ำ�จัืดในำท่ะเล่”

จัังหวััดกระบู�ี

“สุ้สุานหส฻ยแหลมโพธิ์์�” เป็นแหล่งท์่องเท์ี�ยวท์ีร� �จู ักกันในชื�อขัอง “สื้สืานัหอย 75 ล่�านัปี” ต�งั อยู่ในเขัตอุท์ยาน
แหง่ ชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมเู่ กาะพพี ี บรเิ วณีชายฝั�งท์ะเลบา� นแหลมโพธ� ิ ตำาบลไสไท์ย อำาเภอเมอื ง จังหวดั กระบี � ถูกค�น
พบเมื�อปี พ.ศ์. 2507 โดยนายภุมวาร โกมลารชุน พบซากดึกดำาบรรพ์หอยน�ำาจืดเป็นช�ันหนาส่วนใหญ่เป็นหอยฝาเดียว
จาำ พวกหอยขัม (วงศ์์ Viviparidae) หอยคัน (วงศ์ ์ Thiaridae) และหอยมวนพล ู (วงศ์์ Turritellidae) เรียงตัวอดั กนั อยา่ ง
หนาแนน่ คลา� ยแผน่ ซเี มนตผ์ สมกรวดแผอ่ อกไปเปน็ ลานกวา� งและยนื� ออกไปตามแนวชายฝง�ั ท์ะเลระยะท์างกวา่ 2 กโิ ลเมตร
หอยท์�ีพบบริเวณีนี�เป็นหอยน�าำ จืดท์�ียังคงพบในปัจจุบัน ซ�ึงในอดีตในบริเวณีนี�เคยเป็นแหล่งน�ำาจืดขันาดใหญ่ ด�วยสภาพ
ภูมิอากาศ์ท์ี�เปล�ียนไปท์ำาให�แอ่งนำา� กลายเป็นพื�นท์�ีแห�งแล�งฉับพลัน หอยต่าง ๆ ซ�ึงหนีออกไปไม่ได�จึงตายอยู่รวมกันเป็น
จาำ นวนมาก แตใ่ นปจั จบุ นั พนื� ท์ดี� งั กลา่ วกลายเปน็ พนื� ท์ชี� ายฝง�ั ท์ะเล เนอ�ื งจากการเพมิ� ระดบั ขัองนาำ� ท์ะเลหลงั จากการละลาย
ขัองนำา� แขัง็ ขัั�วโลกเม�อื สน�ิ สุดยคุ นำา� แขั็ง
จากการสาำ รวจและศ์กึ ษัาวิจยั ซากเรณีแู ละสปอรข์ ัองพชื โบราณีท์�พี บในสุสานหอย รว่ มกบั วทิ ์ยาการกา� วหน�า และ
เท์คโนโลยีสมยั ใหมท่ ์ำาใหส� ามารถกาำ หนดอายุขัองสสุ านหอยแหลมโพธไ�ิ ดว� ่าอย่ใู นชว่ งเวลาประมาณี 40 - 20 ลา� นปี แตช่ อื�
เรียกเดิม ซึ�งมีอายุ 75 ล�านปี ก็ยังคงถูกเรียกจนติดปากประชาชนในพ�ืนท์ีม� าจนถึงในปจั จบุ นั

45


สุสานหอยแหลมโพธ�ิ ได�รับการประกาศ์ให�เป็นแหล่งซากดึกดาำ บรรพ์ท์�ีขั�ึนท์ะเบียนตามพระราชบัญญัติคุ�มครอง
ซากดึกดาำ บรรพ ์ พ.ศ์. 2551 เมอ�ื วนั ท์ี � 18 สงิ หาคม พ.ศ์. 2560 จำานวน 3 ประกาศ์ ปัจจุบันเป็นแหลง่ ท์อ่ งเท์ี�ยวท์ีส� ำาคัญแห่ง
หน�ึงในจังหวัดกระบี� สามารถเดินท์างเขั�าถึงได�อย่างสะดวก โดยเดนิ ท์างจากตวั เมอื งกระบ �ี ใชท� ์างหลวงหมายเลขั 4034 และ
4204 ไปท์างท์ศิ ์ตะวนั ตกเฉยี งใต � ประมาณี 17 กิโลเมตร ใชเ� วลาเดนิ ท์างประมาณี 10 – 15 นาท์ี
พ์กิ ดั ึตำาแหนัง่ : 8.022587, 98.885139
แหล่ง่ สุุสุานหอยแหล่มโพธิ์�์ 1

แหล่่งสุุสุานหอยแหล่มโพธิ์�์ 2

แหล่ง่ สุุสุานหอยแหล่มโพธิ์�์ 3

46


ซากนอตีิลุ่อยด์ท�ากระดาน
ตีำ�บูล่ท่�่ กระด�นำ อ�ำ เภูอศรีสวััสดิ� จังั หวััดก�ญจันำบูุรี

47


8

แหล่ง่ ซ�กนำอตีลิ ่อยดท์ ่่�กระด�นำ

“สุส�นำนำอตีลิ ่อยด์ท่�มี �กท่ี�สุดข้องไท่ย”

จังั หวดั ึก�ญ่จันบุรี

48


ซ�กนำอตีลิ ่อยดท์ ่�่ กระด�นำ

ตี�ำ บูล่ท่�่ กระด�นำ อำ�เภูอศรสี วัสั ด�ิ จังั หวััดก�ญจันำบูรุ ี

49


50


ตำำ�แหน่งท่ตี� ำงั�

แหลง่ ซากนอตลิ อยดท์ ์า่ กระดาน พบอยทู่ ์เ�ี ชงิ เขัากะท์ะ เปน็ ลานหนิ วางเรยี งราย ตงั� อยใู่ นเขัตตำาบลท์า่ กระดาน อำาเภอ
ศ์รีสวัสดิ� จังหวัดกาญจนบุรี ถูกค�นพบเมื�อปี พ.ศ์. 2553 โดย นายจรี ศ์ักด ิ� เจริญมิตร พบซากดึกดาำ บรรพส์ ัตว์ท์ะเลโบราณี
จำานวนมาก ลักษัณีะเป็นแท์่งท์รงกรวย ต่อมาได�รับการสาำ รวจและศ์ึกษัาวิจัยโดยผู�เชี�ยวชาญท์ั�งชาวไท์ยและต่างประเท์ศ์
พบว่าเป็นซากดึกด ำ า บ ร ร พ ์ น อ ติลอยด์ (Nautiloids) ท์ี�อยู่ในหินปูนยุคออร์โดวิเชียนตอนกลาง อายุประมาณี 470
ล�านปีก่อนซึ�งนอติลอยด์ถือเป็นสัตว์ท์ะเลท์�ีมีบรรพบุรุษัร่วมกันกับพวกหมึกในปัจจุบัน พบกระจายตัวเป็นจาำ นวนมากใน
พื�นท์ีบ� รเิ วณีน�ีมขี ันาดยาวต�ังแต่ 5 – 20 เซนติเมตร มีจำานวนมากกว่า 200 ตัว ซึ�งถือว่ามีจำานวนมากท์ี�สุดและมีความ
สมบูรณี์ท์ี�สุดเท์่าท์ี�พบมาในประเท์ศ์ไท์ย

51


แหล่ง่ ซากนอตีิล่อยดท์ ่่ากระดาน

“สุส�นำนำอตีลิ ่อยด์ท่ี�ม�กท่�สี ุดข้องไท่ย”

จัังหวััดก�ญจันำบูุรี แหล่่งท่่�กระด�นำ

แหล่งซากนอติลอยด์ท์่ากระดาน ได�รับการประกาศ์ให�เป็นแหล่งซากดึกดาำ บรรพ์ท์�ีขั�ึนท์ะเบียนตามพระราชบัญญัติ
ค�มุ ครองซากดกึ ดำาบรรพ ์ พ.ศ์. 2551 เมือ� วันท์ี � 13 กันยายน 2561 ปจั จบุ นั ได�พฒั นาใหเ� ป็นแหล่งเรยี นรท�ู ์ี�สาำ คญั ในท์�องถน�ิ
และในประเท์ศ์ เพื�อใช�เป็นแหล่งอ�างอิงท์างวิชาการขัองซากดึกดาำ บรรพ์และหินยุคออร์โดวิเชียน ท์ั�งในระดับประเท์ศ์และ
ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต � อกี ท์ง�ั ยงั มคี ณีะผเ�ู ชยี� วชาญดา� นซากดกึ ดาำ บรรพท์ ์ง�ั ในและตา่ งประเท์ศ์ คณีะนกั เรยี น นกั ศ์กึ ษัา
และผท�ู ์ี�สนใจ แวะเวียนเขัา� มาศ์ึกษัาและเยี�ยมชมในแหลง่ อยา่ งตอ่ เนอ�ื ง
การเดินท์างจากตัวเมอื งกาญจนบรุ ี ให�ใช�ท์างหลวงหมายเลขั 3199 ไปท์างท์ิศ์เหนือ ประมาณี 72 กโิ ลเมตร ใช�เวลา
เดินท์างประมาณี 1 ชัว� โมง
พ์กิ ัดึตาำ แหนั่ง : 14.4527974, 99.1303559

52


กระดกู ตี้นขาหลุ่งั ของ ภููเวยี งโกซอรสั สิรินธรเน (Phuwiangosaurus sirindhornae)
แหล่งขดุ ึคำน้ ไดึโนเส�รภ์ ูเู วียง หลุมขุดึคำ้นท่ี� 1 (ภูปู ระตำูตำหี ม�)
ตำำ�บลในเวยี ง อำ�เภูอเวียงเก�่ จังั หวัดึขอนเเก่น

53


9

แหลง่ ขดุ ึคำ้นไดึโนเส�ร์ภูเู วยี ง
หลุมขุดึคำน้ ท่ี� 1 (ภููประตำตู ำีหม�)

“แหลง่ ไดึโนเส�รภ์ ููเวยี ง เจั้�ฟ้�้ สิรินธุ์ร”

จัังหวดั ึขอนเเกน่

54


แหล่งขุดึคำน้ ไดึโนเส�ร์ภููเวียง
หลุมขดุ ึคำ้นท่ี� 1 (ภูปู ระตำูตำหี ม�)

อทุ ่ย�นแห่งชี�ตำภิ ูเู วยี ง จั.ขอนแกน่

55


56


แหล่ง่ ข้ดุ ค้�นไดโนเสาร์ภูเู วีียง
หล่มุ ขุ้ดค้�นท่ี� 1 (ภููประตีตู ีหี มา)

“แหล่ง่ ไดโนำเส�ร์ภูเู วัยี ง เจั�� ฟ้�้ สริ นิ ำธุ์ร”

จัังหวัดั ข้อนำแกน่ ำ

“ภููประตููตูีหมา” ต�ังอยู่บนยอดเขัาท์างท์ิศ์ตะวันออก
ขั อ ง ท์ี� ท์าำ ก า ร อุ ท์ ย า น แ ห่ ง ช า ติ ภู เวี ย ง ตำา บ ล ใ น เวี ย ง
อาำ เภอเวียงเก่า จังหวัดขัอนแก่น เป็นแหล่งซากดึกดาำ บรรพ์
ท์ี�ค�นพบเม�ือปี พ.ศ์. 2525 โดยนายวราวุธ สุธีธร และคณีะ
พบช�ินกระดูกไดโนเสาร์กลุ่มซอโรพอด (Sauropod)
หลายชิ�นในช�ันหินยุคครีเท์เชียสตอนต�น อายุประมาณี
130 ล�านปีก่อน เชน่ กระดกู ซโ�ี ครง กระดกู ขัาหนา� กระดกู ขัาหลัง
และกระดูกสันหลัง การศ์ึกษัาวิจัยพบว่าเป็นไดโนเสาร์กลุ่ม
ซอโรพอดสกุลใหม่และชนิดใหม่ขัองโลก มีความยาวประมาณี
15 - 20 เมตร และตง�ั ชอ�ื เพอื� ถวายพระเกยี รตแิ ดส่ มเดจ็ พระกนษิ ัฐา
ธิราชเจ�า กรมสมเด็จพระเท์พรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมาร ี
ผท�ู ์รงสนพระท์ยั งานดา� นซากดกึ ดาำ บรรพ ์ มชี อ�ื วา่ “ภูเู วียี งโกซอรัสั
สิรัินธรัเน” (Phuwiangosaurus sirindhornae) นอกจากน�ี
ยงั พบฟื้นั และกระดูกขัาขัองไดไนเสารก์ ินเน�ือปะปนอยู่ดว� ย
แหลง่ ขัดุ คน� ไดโนเสารภ์ เู วยี ง หลมุ ขัดุ คน� ท์ �ี 1 (ภปู ระตตู หี มา)
ได�รับการประกาศ์เป็นแหล่งซากดึกดาำ บรรพ์ท์�ีขัึ�นท์ะเบียนตาม
พระราชบัญญตั คิ ุม� ครองซากดกึ ดาำ บรรพ ์ พ.ศ์. 2551 เมอื� วันท์ี � 19
สงิ หาคม พ.ศ์. 2562 ปจั จบุ นั มกี ารสร�างอาคารคลุมหลมุ ขัุดค�นไว�
และมีนิท์รรศ์การแสดงช�นิ สว่ นซากดกึ ดำาบรรพท์ ์ี�คน� พบ
การเดินไปหลมุ ขัดุ คน� โดยเรม�ิ จากท์ท�ี ์าำ การอทุ ์ยานแห่งชาติ
ภเู วยี ง ผา่ นเสน� ท์างศ์กึ ษัาธรรมชาต ิ ประมาณี 1.5 กโิ ลเมตร สภาพ
พื�นท์ี�มีความสวยงามสามารถมองเห็นท์ัศ์นียภาพโดยรอบหุบเขัา
ภูเวยี ง ไดอ� ีกดว� ย
พ์ิกดั ึตำาแหนัง่ : 16.683069, 102.229712

57


ตำำ�แหนง่ ท่ต�ี ำงั�

58


เศษชิ้น�ิ ส�วนกระดูกไดโนเสาร์ เเหลุ่ง� ขด่ ค้นไดโนเสารภ์ ูเู วียง หลุ่ม่ ข่ดค้นท�ี 4 (โนนสาวเอ้)
ตำำ�บลในเวยี ง อำ�เภูอเวียงเก�่ จัังหวดั ึขอนเเกน่

59


10

แหล่งขดุ ึคำน้ ไดึโนเส�ร์ภูเู วียง
หลุมขดุ ึคำน้ ท่ี� 4 (โนนส�วเอ้)

“แหลง่ อนุบ�ลไดึโนเส�รภ์ ููเวียง”

จัังหวัดึขอนเเกน่

60


แหล่ง่ ข้ดุ ค้น� ไดโนเสารภ์ ูเู วียี ง หล่มุ ข้ดุ ค้น� ท่ี� 4 (โนนสาวีเอ)�

“แหล่่งอนำบุ ู�ล่ไดโนำเส�ร์ภููเวัียง”

จังั หวััดข้อนำแกน่ ำ

“โนนสุาวเส฻”� เปน็ เนนิ เตย�ี ๆ ตง�ั อยทู่ ์างท์ศิ ์เหนอื ไป 4 กโิ ลเมตร จากท์�ที ์ำาการอทุ ์ยานแหง่ ชาตภิ เู วยี ง ตาำ บลในเวยี ง
อาำ เภอเวียงเก่า จังหวัดขัอนแก่น เป็นแหล่งซากดึกดำาบรรพ์ท์�ีค�นพบเมื�อปี พ.ศ์. 2533 โดยชาวบ�านหนองคอง
พบซากดึกดาำ บรรพ์ในชน�ั หินยคุ ครีเท์เชยี สตอนต�น อายุประมาณี 130 ล�านปีกอ่ น กระจายอยเู่ ป็นบรเิ วณีกว�าง พื�นท์ี�กว่า
10 ตารางเมตร ประกอบด�วยกระดูกไดโนเสาร์ภูเู วีียงโกซอรัสั (Phuwiangosaurus) ตัวเต็มวัย และวัยเยาวจ์ าำ นวนมาก
นอกจากนนั� ยงั พบเกล็ดปลา ฟื้ันจระเขั � และกระดองเต่า ซึ�งในอดีตหลมุ ขัดุ ค�นแหง่ น ี� และบรเิ วณีใกลเ� คียงถูกบุกรกุ ท์ำาลาย
และลกั ลอบขัุดกระดกู ไดโนเสาร์ไปขัาย ในช่วงปลายป ี พ.ศ์. 2536 ท์าำ ใหส� ญู เสยี ขัอ� มูลซากดึกดาำ บรรพท์ ์�สี ำาคญั ขัองแหลง่
นเ�ี ป็นจำานวนมาก
แหล่งขัุดค�นไดโนเสาร์ภูเวียง หลุมขัุดค�นท์ี� 4 (โนนสาวเอ�) ได�รับการประกาศ์ให�เป็นแหล่งซากดึกดำาบรรพ์ท์ี�ขัึ�น
ท์ะเบียนตามพระราชบญั ญตั ิคุ�มครองซากดกึ ดาำ บรรพ ์ พ.ศ์. 2551 เมื�อวนั ท์ี� 19 สงิ หาคม พ.ศ์. 2562 ในปจั จบุ นั ยังไม่ได�
พัฒนาให�เป็นแหล่งเรียนร�ู ด�วยสภาพท์ี�เป็นป่ารก และยังคงพบซากดึกดำาบรรพ์แต่เป็นชิ�นส่วนเล็กๆ กระจายอยู่บริเวณี
กวา� ง ไมม่ กี ารเปิดหนา� ดนิ เพิม� เติม
พ์กิ ดั ึตำาแหนั่ง : 16.717515640514, 102.26815756624

61


ตำำ�แหนง่ ท่ต�ี ำงั�

62


เเหลุ่ง� ข่ดค้นไดโนเสาร์ภููเวียง หลุ่ม่ ข่ดคน้ ท�ี 5 (ซำาหญ้า้ คา)
อทุ ่ย�นแห่งชี�ตำภิ ููเวยี ง จั.ขอนเเกน่

63


11

แหลง่ ขุดึคำ้นไดึโนเส�รภ์ ููเวียง
หลุมขดุ ึคำ้นท่ี� 5 (ซำ�หญ่้�คำ�)

“แหลง่ ไดึโนเส�ร์นกกระจัอกเท่ศของไท่ย”

จัังหวดั ึขอนเเกน่

64


แหล่ง่ ข้ดุ ค้น� ไดโนเสารภ์ ูเู วียี ง หล่มุ ข้ดุ ค้น� ท่ี� 5 (ซาำ หญ้า� ค้า)

“แหล่่งไดโนำเส�รน์ ำกกระจัอกเท่ศข้องไท่ย”

จังั หวััดข้อนำแกน่ ำ

“ซำำาหญ้�าคา” เป็นพื�นท์ี�ลานกว�างตั�งอยู่ในตำาบลในเวียง อาำ เภอเวียงเก่า จังหวัดขัอนแก่น ห่างจากท์�ีท์าำ การ
อุท์ยานแห่งชาติภูเวียงไปท์างท์ิศ์ใต�ประมาณี 2 กิโลเมตร เป็นแหล่งซากดึกดำาบรรพ์ท์ี�ค�นพบเมื�อปี พ.ศ์. 2534
โดยนายวราวุธ สุธีธร และคณีะ ได�พบซากดึกดำาบรรพ์ในช�ันหินยุคครีเท์เชียสตอนต�น อายุประมาณี 130 ล�านปีก่อน
และเริ�มท์าำ การขัุดค�นในปี พ.ศ์. 2535 - 2536 ส่วนใหญ่กว่า 80 ตัวอย่างเป็นไดโนเสาร์กลุ่มออร์นิโธมิโมซอร์
(Ornithomimosaur) หรือไดโนเสาร์นกกระจอกเท์ศ์ ซ�ึงเป็นไดโนเสาร์สกุลใหม่และชนิดใหม่ขัองโลก มีช�ือว่า
กินรัีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส (Kinnareemimus khonkaenensis) ซึ�งถือเป็นคร�ังแรกท์ี�ค�นพบไดโนเสาร์ในกลุ่มนี�
และเป็นแหล่งเดียวในประเท์ศ์ไท์ยท์ี�ค�นพบกระดูกไดโนเสาร์ในกลุ่มน�ี นอกจากน�ียังพบกระดูกไดโนเสาร์ภูเวียงโกซอรัส
วัยเยาว์ เกลด็ ปลา กระดองเตา่ และฟื้ันจระเขัอ� กี ดว� ย

65


ตำำ�แหน่งท่ต�ี ำงั�

แหลง่ ขัดุ คน� ไดโนเสารภ์ เู วยี ง หลมุ ขัดุ คน� ท์ �ี 5 (ซาำ หญา� คา) ไดร� บั การประกาศ์ใหเ� ปน็ แหลง่ ซากดกึ ดำาบรรพท์ ์ข�ี ัน�ึ ท์ะเบยี น
ตามพระราชบัญญตั คิ �มุ ครองซากดกึ ดาำ บรรพ ์ พ.ศ์. 2551 เมือ� วนั ท์ี� 19 สงิ หาคม พ.ศ์. 2562 ในปัจจบุ นั ยังไม่ไดพ� ฒั นาเปน็
แหล่งเรยี นร �ู สภาพพ�นื ท์ห�ี ลุมขัดุ ค�นมกี ารค�นพบชิ�นสว่ นกระดูกเลก็ น�อย และยงั พบรอ่ ยรอยสภาพหลมุ ขัุดคน� ท์ี�มกี ารเปิดหนา�
ดนิ ใหเ� หน็ ตงั� แตเ่ มอื� ครง�ั อดีต
การเดินท์างไปหลุมขัดุ ค�นคอ่ นขั�างไกลไม่สามารถใชร� ถได� ต�องใช�การเดนิ เท์�าเขัา� ไป ประมาณี 500 เมตร
พ์กิ ดั ึตำาแหนั่ง : 16.669517396104, 102.23160644355

66


รอยตีีนไดโนเสาร์ภูเู วยี ง หลุ่่มขด่ คน้ ท�ี 8 (หนิ ลุ่าดปา่ ชิ้าด)
อุท่ย�นำแห่งชี�ตีิภูเู วัยี ง จั.ข้อนำแก่นำ

67


12

แหล่งขุดึคำ้นไดึโนเส�รภ์ ููเวยี ง
หลุมขดุ ึคำน้ ท่ี� 8 (หินล�ดึป�่ ชี�ดึ)

“รอยสัตำวด์ ึกึ ดึ�ำ บรรพ์แห่งภููเวยี ง”

จังั หวัดึขอนเเกน่

68


แหล่่งข้ดุ ค้�นไดโนเสารภ์ ูเู วีียง “หน์ ลาดปา่ ชาด” เปน็ ชอ�ื เรยี กท์อ� งถน�ิ ขัองลานหนิ
แห่งหน�ึง ในเขัตอุท์ยานแห่งชาติภูเวียง ตำาบลในเวียง
หล่มุ ขุ้ดค้น� ท่ี� 8 (หินล่าดปา่ ชาด) อาำ เภอเวยี งเกา่ จงั หวัดขัอนแกน่ ในป ี พ.ศ์. 2532 โดย
นายวราวุธ สุธธี ร และคณีะ ไดค� น� พบร่องรอยขัองสตั ว์
“รอยสัตีวัด์ ึกดำ�บูรรพ์แห่งภููเวัียง” ดึกดาำ บรรพ์จำานวนกว่า 60 รอย ส่วนใหญ่เป็นรอยตีน

จัังหวััดข้อนำแกน่ ำ ไดโนเสาร์ แสดงเป็นแนวท์างเดินหลายท์ิศ์ท์างประท์ับ
อยู่บนลานหนิ ท์ราย หมวดหนิ พระวหิ าร ยคุ ครีเท์เชียส
ตอนตน� อายปุ ระมาณี 140 ลา� นปกี อ่ น ลกั ษัณีะเปน็ รอย
ประท์บั 3 นว�ิ สว่ นใหญม่ าจากไดโนเสารก์ ลมุ่ ออรน์ โิ ธพอด
ขันาดเล็ก (Ornithopod) นอกจากน�ียงั พบรอยตีนขัอง
ไดโนเสารก์ นิ เนอ�ื กลมุ่ ซลี โู รซอร ์ (Coelurosaur) ไดโนเสาร์
กนิ เนอ�ื ขันาดใหญ่ และรอยท์างเดนิ ขัองสตั ว์เลือ� ยคลาน
ขันาดเล็ก รูหนอน และมีรอยริ�วคลื�นท์ี�แสดงถึงสภาพ
แวดล�อมในอดีต ท์�เี คยเป็นธารนา�ำ ไหลมาก่อนอีกดว� ย
แหล่งขัุดค�นไดโนเสาร์ภูเวียง หลุมขัุดค�นท์�ี 8
(หินลาดป่าชาด) ได�รับการประกาศ์ให�เป็นแหล่งซาก
ดึกดาำ บรรพ์ท์ี�ขั�ึนท์ะเบียนตามพระราชบัญญัติคุ�มครอง
ซากดึกดาำ บรรพ์ พ.ศ์. 2551 เม�ือวันท์ี� 19 สิงหาคม
พ.ศ์. 2562 ปัจจุบันสภาพพื�นท์ี�สามารถเดินท์างไปได�
สะดวก เนอื� งจากมถี นนลาดยางไปถงึ บรเิ วณีขัดุ คน� และ
พ�ืนท์ี�ใกลเ� คียงยังเป็นแหล่งท์อ่ งเท์ี�ยวท์างธรรมชาติ เช่น
น�าำ ตก และมีจุดชมวิวท์�ีสามารถชมพระอาท์ิตย์ขัึ�นและ
ท์ัศ์นียภาพรอบๆ หุบเขัาภูเวียงไดอ� กี ดว� ย
พ์ิกดั ึตำาแหนัง่ : 16.772039, 102.275821

69


ตำ�ำ แหนง่ ท่ต�ี ำงั�

70


แหลง่ ขดุ ึคำ้นไดึโนเส�ร์ภููเวยี ง
หลุมขดุ ึคำน้ ท่�ี 9 (หินล�ดึย�ว)

อทุ ่ย�นแห่งชี�ตำิภููเวยี ง จั.ขอนแกน่

71


13

แหลง่ ขุดึคำ้นไดึโนเส�ร์ภูเู วยี ง
หลมุ ขดุ ึคำน้ ท่ี� 9 (หินล�ดึย�ว)

“แหล่งไดึโนเส�ร์กินเนอ�ื แหง่ ภููเวียง”

จังั หวดั ึขอนเเก่น

72


กระดกู ไดโนเสาร์ สยามโมไท่รนั นสั อีสานเอนซิส (Siamotyrannus isanensis)
แหล่งขุดึคำน้ ไดึโนเส�รภ์ ูเู วยี ง หลมุ ขดุ ึคำน้ ท่ี� 9 (หินล�ดึย�ว)
อุท่ย�นแห่งชี�ตำิภููเวยี ง จั.ขอนแกน่

73


74


แหล่ง่ ข้ดุ ค้�นไดโนเสารภ์ ูเู วีียง
หล่มุ ขุ้ดค้�นท่ี� 9 (หินล่าดยาวี)

“แหล่ง่ ไดโนำเส�รก์ นิ ำเนำือ� แหง่ ภููเวัียง”

จัังหวัดั ข้อนำแกน่ ำ

“ห์นลาดยาว” เปน็ ลานหนิ ท์ตี� งั� อยทู่ ์างท์ศิ ์เหนอื ไปประมาณี 2 กโิ ลเมตร จากท์ีท� ์าำ การอทุ ์ยานแหง่ ชาตภิ เู วยี ง ตาำ บล
ในเวยี ง อาำ เภอเวยี งเกา่ จงั หวดั ขัอนแกน่ เปน็ แหลง่ ซากดกึ ดาำ บรรพท์ ์ถ�ี กู คน� พบเมอ�ื ป ี พ.ศ์. 2536 โดยนายสมชยั เตรยี มวชิ านนท์์
และนายปรีชา ซ�ายหนองขัาม ซึ�งค�นพบกระดูกเชิงกราน กระดูกสันหลังและกระดูกหางขัองไดโนเสาร์กินเน�ือขันาดใหญ่
สภาพเกือบสมบูรณี์ มีการศ์ึกษัาวิจัยโดยคณีะสำารวจโบราณีชีววิท์ยาไท์ย-ฝร�ังเศ์ส พบว่าเป็นไดโนเสาร์กินเนื�อสกุล
ใหม่และชนดิ ใหมข่ ัองโลกความยาวประมาณี 6.5 เมตร มชี อ�ื วา่ “สยามโมไทรันั นสั อสี านเอนซสิ ” (Siamotyrannus isanensis)
นอกจากนบ�ี ริเวณีรอบ ๆ ยังค�นพบกระดูกไดโนเสาร์กินเนื�อชนิดอื�น ๆ อีก ได�แก่ กลุ่มสไปโนซอริด (Spinosaurid) และ
ไดโนเสารก์ นิ เนือ� ชนิดใหมอ่ กี ชนิดหนึง� คอื ภูเู วียี งเวีเนเตอรั์ แย้มนยิ มมิ (Phuwiangvenator yaemniyomi)
แหล่งขัุดค�นไดโนเสาร์ภูเวียง หลุมขัุดค�นท์ี� 9 (หินลาดยาว) ได�รับการประกาศ์ให�เป็นแหล่งซากดึกดำาบรรพ์ท์ี�ขั�ึน
ท์ะเบยี นตามพระราชบัญญัตคิ มุ� ครองซากดกึ ดาำ บรรพ ์ พ.ศ์. 2551 เมื�อวนั ท์ี � 19 สิงหาคม พ.ศ์. 2562 ปจั จบุ นั มกี ารสรา� ง

75


ตำำ�แหน่งท่ตี� ำงั�

อาคารคลมุ หลมุ ขัดุ คน� ถาวร และมนี ทิ ์รรศ์การแสดงโดยรอบอาคาร และตลอดเสน� ท์างเดนิ เท์า� กอ่ นถงึ พน�ื ท์แี� หลง่ ซากดกึ ดำาบรรพ์
สภาพพื�นท์ี�มีความสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูฝนท์จี� ะเปน็ แหลง่ นำา� ตกท์สี� วยงามแหง่ หนง�ึ การเดนิ ท์างสะดวกสามารถเดนิ
ท์างโดยรถยนต ์ และเดินเท์�าตอ่ ไปอีกประมาณี 300 เมตร
พ์กิ ดั ึตำาแหนั่ง : 16.690857, 102.232777

76


14

แหล่่งรอยตีีนำไดโนำเส�รภ์ ููเก��

“รอยตีนี ำนำักล่�่ นำอ� ยใหญแ่ ห่งภูเู ก��”

จังั หวดั ึหนองบวั ล�ำ ภูู

77


แหล่ง่ รอยตีีนไดโนเสาร์ภููเกา�

“รอยตีนี ำนำกั ล่�่ นำ�อยใหญแ่ ห่งภูเู ก�� ”

จัังหวััดหนำองบูัวัล่�ำ ภูู

“ภูเู ก�า” ตงั� อยใู่ นเขัตอทุ ์ยานแหง่ ชาตภิ ูเก�า - ภพู านคำา ตำาบลนคิ มพฒั นา อำาเภอโนนสัง จงั หวัดหนองบวั ลำาภู เมือ�
ป ี พ.ศ์. 2543 ไดค� น� พบรอยตนี ไดโนเสารภ์ ายในหบุ เขัาภเู กา� โดยคณีะสาำ รวจโบราณีชวี วทิ ์ยาไท์ย-ฝรง�ั เศ์ส ไดพ� บกบั รอยตนี
ขัองไดโนเสาร ์ บริเวณีลานหินท์ราย หมวดหินเสาขัวั ยคุ ครเี ท์เชียสตอนต�น อายุประมาณี 130 ล�านปี นับเป็นครั�งแรกท์ี�
มีการค�นพบรอยตีนไดโนเสาร์ในหมวดหนิ เสาขััว จากการศ์ึกษัาอย่างละเอียดพบวา่ มีรอยตีนจำานวน 25 รอย เหน็ เปน็
แนวท์างเดินนับได� 6 แนวท์างเดนิ และยงั มที ์พี� บกระจัดกระจายไมเ่ ปน็ แนวอกี รอยตนี มลี กั ษัณีะเปน็ 3 นว�ิ คาดวา่ เปน็ รอย
ตนี ไดโนเสารก์ ินเนื�อกลุม่ คารโ์ นซอร ์ (Carnosaur)
แหล่งซากดกึ ดาำ บรรพพ์ นื� ท์ี�ภูเกา� – ภูพานคำา พบซากดกึ ดาำ บรรพม์ ากมายภายในอทุ ์ยานฯ ประกอบดว� ย ฟื้ัน และ
กระดูกขัองไดโนเสาร์กินพืช ฟื้ันไดโนเสาร์กินเนื�อ ฟื้ันจระเขั� กระดูกขัาและกระดองขัองเต่า เกล็ดและฟื้ันขัองปลา
เลปิโดเท์ส ฟื้นั ปลาฉลามน�ำาจืด หอยน�ำาจืด รอยตีนไดโนเสาร์ นับว่าเป็นแหล่งซากดึกดำาบรรพ์ท์ี�มีความหลากหลาย
ท์างชีวภาพแห่งหนึ�งขัองประเท์ศ์ไท์ย และมีความสำาคัญท์ั�งในด�านธรณีีวิท์ยา และซากดึกดำาบรรพ์ในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต�
แหล่งรอยตีนไดโนเสาร์ภูเก�า ได�รับการประกาศ์ให�เป็นแหล่งซากดึกดาำ บรรพ์ท์�ีขั�ึนท์ะเบียนตามพระราชบัญญัติ
คุม� ครองซากดกึ ดาำ บรรพ ์ พ.ศ์. 2551 เม�อื วนั ท์ี� 27 ธนั วาคม 2562 ปจั จุบนั สภาพพ�นื ท์ีอ� ยใู่ กลก� บั แหล่งนำา� ธรรมชาต ิ ในฤดู
นาำ� หลากรอ่ งรอยดงั กลา่ วจะถกู ลบเลอื นหายไปตามกาลเวลา ปจั จบุ นั มรี อ่ ยรอยท์เี� ดน่ ชดั ท์สี� ดุ เพยี ง 11 รอย จงึ ควรเรง่ ดาำ เนนิ
การอนรุ กั ษัเ์ พ�ือใหแ� หลง่ ซากดึกดำาบรรพ์ดังกล่าว คงอยู่ต่อไปได� และได�มีการสร�างอาคารพิพิธภัณีฑ์์ซากดกึ ดาำ บรรพ์

78


รอยตำีนไดึโนเส�ร์ภูเู ก�้

อทุ ่ย�นแห่งชี�ตำภิ ููเก้� - ภููพ�นคำำ� จั.หนองบวั ล�ำ ภูู

79


ภายในอุท์ยานท์ัง� ภายในภเู ก�า และภพู านคำา ภายใต�ความร่วมมอื ขัองกรมอุท์ยานแห่งชาต ิ สัตว์ปา่ และพันธุพ์ ืช และกรม
ท์รพั ยากรธรณีีเพ�อื เปน็ ศ์ูนยก์ ลางแหลง่ เรียนรแ�ู ละแหล่งท์อ่ งเท์ย�ี วท์างธรณีวี ิท์ยา ธรรมชาตวิ ิท์ยา และซากดึกดาำ บรรพท์ ์�ี
สาำ คญั ขัองจังหวดั หนองบวั ลาำ ภู
การเดินท์างจากตัวเมอื งหนองบัวลำาภู ใชท� ์างหลวงหมายเลขั 2146 ไปท์างท์ิศ์ใต� ประมาณี 47 กิโลเมตร
ใช�เวลาเดินท์างประมาณี 40 – 50 นาท์ี
พ์กิ ัดึตำาแหนั่ง : 16.9298322, 102.4878786

ตำ�ำ แหน่งท่ตี� ำงั�

80


แหลุ่�งซากดกึ ดาำ บรรพ์์ภูนู อ้ ย
ตีำ�บูล่ดินำจั�ี อ�ำ เภูอคำ�ำ ม่วัง จังั หวััดก�ฬสินำธุ์ุ์

81


15

แหล่่งซ�กดึกด�ำ บูรรพ์ภูนู ำอ� ย

“จัแู รสสิกพ�ร์คำเมอื งไท่ย”

จังั หวัดั ก�ฬสินำธุ์ุ์

82


แหลง่ ซ�กดึกึ ดึำ�บรรพ์ภูนู อ้ ย
อ.คำำ�มว่ ง จั.ก�ฬสินธุ์ุ์

83


84


ตำำ�แหนง่ ท่ต�ี ำงั�

แหล่ง่ ซากดึกดำาบรรพ์ภููนอ� ย

“จัูแรสสิกพ�รค์ ำเมืองไท่ย”

จัังหวััดก�ฬสินำธุ์ุ์

“ภููน้อย” เป็นภูเขัาลูกเล็กๆ ท์ี�อยู่ตามแนวเท์อื กเขัาภพู าน
บริเวณีตำาบลดินจี� อำาเภอคำาม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เปน็ แหลง่
ซากดึกดาำ บรรพ์ท์�ีถูกค�นพบ เม�ือปี 2551 โดยนายท์องหล่อ
นาคำาจันท์ร์ ได�นาำ ตัวอย่างซากดึกดำาบรรพ์ท์�ีพบบริเวณีภูน�อย
ไปท์�ีว่าการอำาเภอคำาม่วง แล�วจึงส่งต่อมาท์�ีพิพิธภัณีฑ์์สิรินธร
กรมท์รัพยากรธรณีี เพ�ือให�ตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นชิ�นส่วนขัอง
ซากดึกดำาบรรพ์เกล็ดปลาโบราณี และชิ�นส่วนขัองกระดูก
ไดโนเสารห์ ลงั จากนน�ั จงึ ไดเ� รม�ิ ท์ำาการสาำ รวจขัดุ คน� อยา่ งเปน็ ระบบ
ตั�งแต่ปี พ.ศ์. 2551 เป็นต�นมา โดยกรมท์รัพยากรธรณีีและ

85


ศ์ูนย์วิจัยและการศ์ึกษัาบรรพชีวินวิท์ยา มหาวิท์ยาลัยมหาสารคาม
พบวา่ เปน็ แหลง่ ซากดกึ ดาำ บรรพใ์ นยคุ จแู รสสกิ ตอนปลาย อายปุ ระมาณี
150 ลา� นปีก่อน ท์ี�มคี วามหลายขัองซากดึกดาำ บรรพ ์ มคี วามสมบรู ณี์
และพบช�นิ ส่วนเป็นจำานวนมาก ท์ั�งกระดูกไดโนเสาร ์ จระเขั � เท์อโรซอร์
เต่า ปลา สัตว์คร�งึ บกครึง� นาำ� และไม�กลายเป็นหิน ปัจจบุ นั มกี ารคน� พบ
ซากดกึ ดาำ บรรพม์ ากกวา่ 2,000 ชน�ิ มกี ารศ์กึ ษัาแลว� พบวา่ เปน็ ชนดิ ใหม่
ขัองโลกหลายชนิด ได�แก่ ฉลามนำ�าจืด อะโคูรัดัส กาฬสินธ์ุเอนซิส
(Acrodus kalasinensis) ปลานกั ลา่ อสี านอกิ ธสิ เลัศิ บุศุ ยศ์ ี (Isanichthys
lertboosi) ปลาปอด เฟอรัก์ าโนเซอรัาโตดสั แอนนเ์ คูมเป (Ferganocera-
todus annekempae) เต่า ภููน้อยคูีลัีส ธีรัคูุปติ (Phunoichelys
thirakhupti) และ กาฬสินธุน์ มี ีส ปรัาสาททองโอสถถิ (Kalasinemys
prasarttongosothi) จระเขั� อินโดไซโนซูคูัส โปตาโมสยามเอนซิส
(Indosinosuchus potamosiamensis) และ อนิ โดไซโนซคู ูสั กาฬสนิ ธ์ุ
เอนซิส (Indosinosuchus kalasinensis)
แหล่งซากดึกดาำ บรรพ์ภูน�อย ได�รับการประกาศ์ให�เป็นแหล่ง
ซากดกึ ดาำ บรรพท์ ์ข�ี ัน�ึ ท์ะเบยี นตามพระราชบญั ญตั คิ ม�ุ ครองซากดกึ ดาำ บรรพ ์
พ.ศ์. 2551 เม�อื วนั ท์ี � 19 สิงหาคม พ.ศ์. 2562 ปจั จบุ นั กำาลงั อยใู่ นชว่ ง
การพัฒนาเป็นแหล่งท์่องเท์ี�ยวและแหล่งเรียนรู�ด�านซากดึกดำาบรรพ์
รวมถึงเปน็ พื�นท์ีศ� ์กึ ษัาวจิ ัยขัองนักวจิ ยั ท์งั� ชาวไท์ยและต่างประเท์ศ์
การเดินท์างจากตัวเมืองกาฬสินธุ์ โดยใช�ท์างหลวงหมายเลขั
227 ไปท์างท์ศิ ์ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ประมาณี 80 กโิ ลเมตร ใชเ� วลาเดนิ
ท์างประมาณี 1 ชัว� โมง
พ์กิ ดั ึตำาแหนัง่ : 16.933081, 103.723323

86


แหลง่ ซ�กดึกึ ดึ�ำ บรรพ์ภูนู อ้ ย
อ.คำำ�ม่วง จั.ก�ฬสินธุ์ุ์

87


88


รอยตีนี ไดโนเสารภ์ ููหลุ่วง
ตี�ำ บูล่ท่่�ศ�ล่� อำ�เภูอภูเู รือ จัังหวัดั เล่ย

89


17

แหล่่งรอยตีีนำไดโนำเส�ร์ภูหู ล่วัง

“แหล่ง่ รอยตีนี ำไดโนำเส�รแ์ หง่ แรกข้องไท่ย”

จังั หวัดั เล่ย

90


แหล่่งรอยตีนี ไดโนเสาร์ภููหล่วีง

“แหล่่งรอยตีนี ำไดโนำเส�ร์แห่งแรกข้องไท่ย”

จัังหวััดเล่ย

“ภูหู ลวง” เปน็ ภเู ขัาท์ถ�ี กู ยกตวั กลายเปน็ ท์รี� าบสงู อยใู่ นเขัต ตำำ�แหน่งท่ต�ี ำงั�
รกั ษัาพันธุส์ ัตวป์ า่ ภหู ลวง ครอบคลุมพ�นื ท์บ�ี างสว่ นขัองอาำ เภอภเู รอื
อาำ เภอวังสะพุง อาำ เภอด่านซ�าย และอำาเภอภูหลวง จังหวัดเลย
มีการค�นพบซากดึกดาำ บรรพ์รอยตีนสัตว์ดึกดำาบรรพ์ภายในพ�ืนท์ี �
ใกล�กับผาเตล�ิน ตาำ บลท์่าศ์าลา อาำ เภอภูเรือ จังหวัดเลย โดย
เจ�าหน�าท์ี�ขัองเขัตรักษัาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ได�ค�นพบเม�ือปี พ.ศ์. 2527
ซ�ึงถือว่าเป็นรอยตีนไดโนเสาร์ท์ี�มีการค�นพบเป็นแห่งแรก
ในประเท์ศ์ไท์ย หลงั จากการไดร� บั สาำ รวจตรวจสอบโดยคณีะสาำ รวจ
บรรพชวี นิ วิท์ยาไท์ย -ฝร�งั เศ์ส พบวา่ เป็นรอยตนี ไดโนเสาร ์ จาำ นวน
กว่า 15 รอย ประท์ับอยู่บนช�ันหินท์ราย หมวดหินภูพาน
ยุคครีเท์เชียสตอนต�น อายุประมาณี 120 ล�านปีก่อน ร่องรอยท์�ี
ปรากฏแสดงลกั ษัณีะขัองนวิ� 3 นวิ� เปน็ แนวท์างเดนิ ชดั เจน สว่ นใหญ่
เดนิ ไปท์างท์ศิ ์ใต � จากลกั ษัณีะท์พ�ี บเปน็ รอยตนี ขัองไดโนเสารก์ นิ เนอื�
ในกลุ่มคาร์โนซอร์ (Carnosaur) นอกจากนี�ยังถือว่าเป็นรอยตีน
ไดโนเสาร์เพยี งแห่งเดียวท์ม�ี ีการค�นพบในหมวดหินภูพานอีกด�วย
แหล่งรอยตีนไดโนเสาร์ภูหลวง ได�รับการประกาศ์ให�เป็น
แหล่งซากดึกดำาบรรพ์ท์ี�ขั�ึนท์ะเบียนตามพระราชบัญญัติคุ�มครอง
ซากดกึ ดาำ บรรพ ์ พ.ศ์. 2551 ในปี พ.ศ์. 2564 ปัจจบุ ันยงั ไม่มีการ
พฒั นาใหเ� ปน็ แหลง่ เรยี นร �ู เนอื� งจากอยหู่ า่ งไกล ตอ� งใชร� ะยะเวลาเดนิ
เท์�าหลายชัว� โมง และเปน็ เสน� ท์างหากินขัองสัตวป์ า่ จงึ ไมเ่ ปดิ ให�นัก
ท์อ่ งเท์�ียวเขั�าชม นอกจากจะได�รบั อนุญาตจากเจา� หนา� ท์ี�
การเดินท์างจากตัวเมืองเลย ใช�ท์างหลวงหมายเลขั 21
ไปท์างท์ิศ์ตะวันตก ประมาณี 50 กิโลเมตร ใช�เวลาเดินท์าง
ประมาณี 1 ช�ัวโมง และเดินเท์�าต่อจากลานจอดรถเขั�าไปอีก
ประมาณี 5 กโิ ลเมตร
พ์กิ ัดึตำาแหนัง่ : 17.3345974, 101.5060581

91


92


17

แหล่ง่ ซ�กดกึ ด�ำ บูรรพ์เข้�นำ�อย

“ท่ะเล่ดกึ ดำ�บูรรพ์สองยุคำ”

จังั หวััดสตีูล่

93


Click to View FlipBook Version