The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานคอมพิวเตอร์ หลักการทำงาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phetladaintarasuk, 2019-09-30 10:02:29

โครงงานคอมพิวเตอร์ หลักการทำงาน

โครงงานคอมพิวเตอร์ หลักการทำงาน

1

โครงงานคอมพวิ เตอร์
เร่ือง หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์

จดั ทาโดย
นางสาว เพชรลฎา อินทรสุข ช้นั ม.4/3 เลขท่ี 22

นางสาว พรี ดา หินแกว้ ช้นั ม.4/3 เลขท่ี 37

ครูทปี่ รึกษาโครงงาน
คุณครู ชชั วาลย์ ฝ่ายกระโทก

โครงงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของ วชิ าวิทยาการคานวณ (รหัสวชิ า ว31191 )
เพื่อการศึกษาค้นคว้าคอมพวิ เตอร์ ปี การศึกษา 2562
โรงเรียน อทุ ยั วทิ ยาคม

2

เร่ือง โครงงานคอมพวิ เตอร์ เรื่อง หลกั การทางานของคอพวิ เตอร์
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษาค้นคว้าคอมพวิ เตอร์
ระดับช้ัน มัธยมศึกษาตอนปลาย
โดย 1. นางสาว เพชรลฏา อนิ ทรสุข
2. นางสาว พรี ดา หินแก้ว
โรงเรียน อุทยั วทิ ยาคม
ครูทปี่ รึกษา คุณครู ชัชวาล ฝ่ ายกระโทก
ปี การศึกษา 2562

บทคัดย่อ

โครงงานการพฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (WebBlog) ดว้ ย WordPress เรื่องน้ี ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์ จดั ทา
ข้ึนโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื นาเอาความรู้ความเขา้ ใจไปใชใ้ นการเรียน ท้งั น้ีไดท้ าการศึกษาคน้ ควา้ เน้ือหา
ความรู้ท่ีสนใจเกี่ยวกบั เรื่อง ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์ หมายถึง ชุดคาสงั่ ท่ีสง่ั งานคอมพิวเตอร์เป็นลาดบั
ข้นั ตอนของการทางาน ชุดคาสง่ั เหล่าน้ีไดจ้ ดั เตรียมไวใ้ นหน่วยความจาของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์อ่าน
ชุดคาสงั่ แลว้ ทางานตาม ซอฟตแ์ วร์จึงเป็นสิ่งท่ีมนุษยจ์ ดั ทาข้ึน และคอมพิวเตอร์จะทางานตามคุณลกั ษณะ

ของซอฟตแ์ วร์ท่ีวางไวแ้ ลว้ เท่าน้นั โดยผจู้ ดั ทาโครงงานสามารถพฒั นารูปแบบของเวบ็ บลอ็ ก
จาก WordPress ไดด้ ว้ ยตนเองและนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ขา้ กบั การเรียนรู้ของตนเองมากยงิ่ ข้ึนท้งั น้ี ทาให้

สามารถติดต่อส่ือสารกนั ไดร้ ะหวา่ งครู เพอื่ นและผสู้ นใจทวั่ ไปไดเ้ ป็นอยา่ งดี

3

กติ ตกิ รรมประกาศ
รายงานโครงงานคอมพวิ เตอร์ฉบบั น้ี สาเร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยความเมตตาช่วยเหลืออยา่ งดียงิ่ จาก
อาจารยท์ ี่ปรึกษา ผสู้ อนในรายวิชา วิทยาการคานวณ ที่อนุมตั ิเห็นชอบในการจดั ทาโครงงานและใหค้ วามรู้
เก่ียวกบั การพฒั นาเวบ็ บลอ็ กดว้ ยเวบ็ ไซต์ Blogger อีกท้งั เป็นท่ีปรึกษาในดา้ นวิชาการและการจดั ทา
โครงงานคอมพวิ เตอร์
ขอบคุณเพอ่ื น ๆ ในหอ้ งท่ีคอยช่วยเหลือ ใหค้ าปรึกษา ดา้ นการจดั ทาโครงงานการรวบรวมขอ้ มูล
ต่างๆ ในการจดั ทารูปเล่มโครงงาน และใหค้ วามช่วยเหลือดา้ นการจดั ทาเวบ็ ไซตใ์ นการนาเสนอโครงงาน
คณะผจู้ ดั ทา หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ โครงงานคอมพวิ เตอร์เรื่อง ระบบเครือข่ายเบ้ืองตน้ จะเป็น
ประโยชนต์ ่อการศึกษาคน้ ควา้ ของผทู้ ี่สนใจในเร่ืองของระบบเครือขา่ ยเบ้ืองตน้

ผู้จัดทา
นางสาว เพชรลฎา อินทรสุข
นางสาว พีรดา หินแกว้

สารบญั 4

บทคดั ยอ่ หนา้
กิตติกรรมประกาศ
สารบญั 2
บทที่ 1 บทนา 3
4
-ที่มาและความสาคญั 5
-วตั ถุประสงค์ 5
-ขอบเขตของโครงงาน 5
-ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ 6
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง 6
-หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ 7
-การทางานของคอมพิวเตอร์ 7
-อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 7
-องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ 8-17
บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงงาน 18-25
-วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือหรือโปรแกรมหรือที่ใชใ้ นการพฒั นา 26
-ข้นั ตอนการดาเนินงาน 26
-วธิ ีการรวบรวมขอ้ มูล 26
บทท่ี 4 ผลการดาเนินงานโครงงาน 26
บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน และขอ้ เสนอแนะ 27
-การดาเนินงานจดั ทาโครง 28
-สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน 28
-ขอ้ เสนอแนะ 28
บรรณานุกรม 28-29
30

5

บทท่ี 1
บทนา
ที่มาและความสาคญั
ปัจจุบนั ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยสี ารสนเทศก่อใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงคร้ังยงิ่ ใหญ่ต่อ
ทุกวงการทว่ั โลก รวมท้งั วงการศึกษาไทยดว้ ย และผลพวงท่ีติดตามมาในแง่เทคนิควธิ ีการเก่ียวกบั
กระบวนการเรียนรู้คือแนวโนม้ ในการเรียนรู้แบบโตต้ อบสองทาง (Interactive) ท่ีกาลงั กา้ วเขา้ มาแทนท่ี
กระบวนการเรียนรู้แบบเดิม ท่ีผรู้ ับไดแ้ ต่ “รับเอา” โดยไม่อาจ “เลือก” แต่อยา่ งใด จากแนวคิดดงั กล่าว
ประเทศต่าง ๆ ทว่ั โลกต่างหนั มาใหค้ วามสนใจในการพฒั นาเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
สูงสุดแก่ผเู้ รียนในทกุ ระดบั มีการใชเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอร์และสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์มากข้ึน ผเู้ รียนรุ่นใหมจ่ ะเป็น
ผเู้ รียนที่มีความคิดรักการเรียนรู้ มีหลกั ในการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งเป็นระบบมีความคิดริเริ่มสร้างสรรคส์ ิ่งใหม่
ๆ มีความรู้ทกั ษะท่ีจาเป็นในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองมากข้ึน จึงเป็นที่ยอมรับวา่ เทคโนโลยี
สารสนเทศ ไดก้ ลายเป็นปัจจยั ที่สาคญั ในการพฒั นาประเทศการจดั การศึกษาจึงตอ้ งมีการปรับตวั ในการนา
เทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชป้ ระโยชน์ในทุก ๆ ดา้ น โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ดา้ นการจดั การเรียนการสอนน้นั ได้
มีขอ้ กาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 วา่ รัฐตอ้ งส่งเสริมและสนบั สนุนใหม้ ีการ
ผลิตส่ือเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา รวมท้งั ใหม้ ีการพฒั นาบุคลากรดา้ นการผลิตและผใู้ ชใ้ หม้ ีความรู้
ความสามารถ มีทกั ษะตลอดจนผเู้ รียนใหม้ ีสิทธิท่ีจะไดร้ ับการพฒั นาเพ่ือใหม้ ีความรู้และทกั ษะเพยี งพอท่ีจะ
ใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา ในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองไดอ้ ยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวติ
ดงั น้นั เพื่อใหเ้ ป็นบทเรียนท่ีเป็นแนวทางในการจดั การเรียนการสอนที่มงุ่ เนน้ ผเู้ รียนเป็น
สาคญั ขณะเดียวกนั ผเู้ รียนจะไดร้ ับการพฒั นาทกั ษะการเรียนรู้แบบทีมในการใชเ้ ทคโนโลยเี พื่อการ
เรียนรู้ และยงั สามารถเป็นแนวทางในการสร้างบทเรียนผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในเรื่องอื่นๆ
ต่อไป

วตั ถุประสงค์
1 เพื่อศึกษาและพฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (Webb log) ดว้ ยWord press เรื่องหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์
2 เพอื่ ศึกษาคน้ ควา้ เร่ืองท่ีสนใจเก่ียวกบั เรื่องการทางานของคอมพวิ เตอร์
3 เพ่ือศึกษาใหเ้ ขา้ ใจกบั ฮาร์ดแวร์, ซอฟตแ์ วร์ในระบบคอมพวิ เตอร์
4 เพ่อื ศึกษาใหเ้ ขา้ ใจถึงการทางานของคอมพิวเตอร์

ขอบเขตของโครงงาน

6

1.จดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (Webb log) ดว้ ย Word press เรื่องหลกั การทางานของ
คอมพิวเตอร์

ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ
1 ไดร้ ับความรู้เกี่ยวกบั พฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (Webb log) ดว้ ย Word press เรื่องหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์
2 ไดร้ ับความรู้เกี่ยวกบั เรื่องท่ีนามาเป็นบทเรียนในการสร้างเวบ็ บลอ็ กคอื ซอฟตแ์ วร์คอมพวิ เตอร์
3 ไดร้ ู้เก่ียวกบั เรื่องของ ฮาร์ดแวร์, ซอฟตแ์ วร์ องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์
4 ไดร้ ู้เก่ียวกบั เรื่องหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์

7

บทที่ 2
เอกสารทเี่ กย่ี วข้อง
2.1 หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์
เม่ือพจิ ารณาศพั ทค์ าวา่ Computer ถา้ แปลกนั ตรงตวั ตามคาภาษาองั กฤษ จะหมายถึง เครื่องคานวณ
ดงั น้นั ถา้ กล่าวอยา่ งกวา้ ง ๆ เคร่ืองคานวณท่ีมีส่วนประกอบเป็นเครื่องกลไกหรือเคร่ืองไฟฟ้า ต่างกจ็ ดั เป็น
คอมพวิ เตอร์ไดท้ ้งั สิ้น ลูกคิดที่เคยใชก้ นั ในร้านคา้ ไมบ้ รรทดั คานวณ (slide rule) ซ่ึงถือเป็นเคร่ืองมือ
ประจาตวั วศิ วกรในยคุ ยสี่ ิบปี ก่อน หรือเครื่องคิดเลข ลว้ นเป็นคอมพวิ เตอร์ไดท้ ้งั หมด
ในปัจจุบนั ความหมายของคอมพวิ เตอร์จะระบุเฉพาะเจาะจง หมายถึง เครื่องคานวณอิเลก็ ทรอนิกส์ที่
สามารถทางานคานวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคาสงั่ ดว้ ยความเร็วสูงอยา่ งต่อเนื่องและอตั โนมตั ิ แต่ใน
พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ไดใ้ หค้ าจากดั ความของคอมพวิ เตอร์ไวค้ อ่ นขา้ งกะทดั รัด
วา่ "เคร่ืองอิเลก็ ทรอนิกส์แบบอตั โนมตั ิ ทาหนา้ ท่ีเสมือนสมองกล ใชส้ าหรับแกป้ ัญหาต่าง ๆ ท้งั ที่ง่ายและ
ซบั ซอ้ น โดยวิธีทางคณิตศาสตร์"
คุณลกั ษณะสาคญั ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ มี 4 ประการ คือ
1. ทางานโดยอตั โนมตั ิ ถา้ สงั เกตการทางานของคอมพิวเตอร์ จะพบวา่ อุปกรณ์ทุกอยา่ งของคอมพวิ เตอร์
ทางานไดเ้ องโดยอตั โนมตั ิ โดยท่ีคนไม่ไดเ้ ขา้ ไปควบคุม ไม่วา่ จะเป็นการอ่านขอ้ มูล การคานวณ หรือการ
พิมพผ์ ลลพั ธ์
2. ทางานได้อเนกประสงค์ เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานไดอ้ เนกประสงค์ เพราะทางานไดห้ ลายชนิด
ข้ึนอยกู่ บั โปรแกรมท่ีใช้ เช่น โปรแกรมเงินเดือน โปรแกรมคิดคะแนนสอบของนกั เรียน เป็นตน้
3. เป็ นอุปกรณ์อเิ ลค็ ทรอนิคส์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีประกอบกนั เขา้ เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์น้นั ลว้ นแลว้ แต่
เป็นอุปกรณ์ทางดา้ นอิเลค็ ทรอนิคส์ท้งั สิ้น เช่น ทรานซิสเตอร์ วงจรไอซี ดงั น้นั จึงทางานดว้ ยความเร็วสูง
มาก
4. เป็ นระบบดิจติ อล คาว่า ดจิ ติ อล (Digital) มาจากคาวา่ Digit หมายถึง ตวั เลข เคร่ืองคอมพิวเตอร์
ส่วนใหญ่ ทางานโดยใชร้ ะบบตวั เลข ขอ้ มูลทุกชนิดไมว่ า่ จะเป็นตวั เลข ตวั หนงั สือ หรือเคร่ืองหมายในทาง
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ เม่ือส่งเขา้ เครื่องรับขอ้ มูลของคอมพวิ เตอร์แลว้ จะถูกเปล่ียนเป็นตวั เลขหมด

2.2 การทางานของคอมพวิ เตอร์
เคร่ืองคอมพิวเตอร์มีข้นั ตอนการทางาน 3 ข้นั ตอน คือ

1. รับโปรแกรมและข้อมูล โปรแกรมในที่น้ี หมายถึง ชุดของคาสงั่ ท่ีจะใหค้ อมพวิ เตอร์ทางาน
ส่วนขอ้ มูล อาจเป็นตวั เลขหรือตวั หนงั สือกไ็ ด้ ที่ตอ้ งการใหค้ อมพวิ เตอร์ทาการประมวลผล

2. การประมวลผล หมายถึง การจดั ระเบียบแบบแผนของขอ้ มูล เพือ่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามท่ีตอ้ งการ ซ่ึงทา

8

ไดโ้ ดยการคานวณ
เปรียบเทียบ วเิ คราะห์โดยใชส้ ูตรทางวทิ ยาศาสตร์ หรือ คณิตศาสตร์ โดยอาศยั คาสงั่ หรือโปรแกรมที่เขียน
ข้ึน

3. แสดงผลลพั ธ์ คือ การนาผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการประมวลผลเสร็จเรียบร้อย แสดงออกในรูปแบบต่าง
ๆ ท่ีผใู้ ชเ้ ขา้ ใจ และนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

2.3 อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์
1. 1. จอภาพ (Monitor)

จอแบบ CRT
เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่มีความสาคญั มากท่ีสุด เพราะจะติดต่อโดยตรงกบั ผใู้ ช้ ชนิดของจอภาพท่ีใชใ้ น
เครื่องพีซีโดยทว่ั ไปจะแบ่งไดเ้ ป็น 2 ชนิด

- จอซีอาร์ที (CRT : Cathode Ray Tube) โดยมากจะพบในคอมพวิ เตอร์ต้งั โตะ๊ ซ่ึงลกั ษณะ จอภาพชนิด
น้ีจะคลา้ ยโทรทศั น์ ซ่ึงจะใชห้ ลอดสุญญากาศ

การทางานของจอประเภทน้ีจะทางานโดย อาศยั หลอดภาพ ท่ีสร้างภาพโดยการยงิ ลาแสง
อิเลก็ ตรอนไปยงั ที่ผวิ หนา้ จอ ที่มีสารพวกสารประกอบของฟอสฟอรัส ฉาบอยทู่ ่ีผวิ ซ่ึงจะเกิดภาพข้ึนมาเมื่อ
สารเหล่าน้ีเกิดการเรืองแสงข้ึนมา เม่ือมีอิเลก็ ตรอนมากระทบ ซ่ึงในส่วยของจอแบบ Shadow Mask น้นั จะ
มีการนาโลหะท่ีมีรูเลก็ ๆ มาใชใ้ นการกาหนดใหแ้ สงอิเลก็ ตรอนน้นั ยงิ มาไดถ้ ูกตอ้ ง และแม่นยา ซ่ึงระยะห่าง
ระหวา่ งรูน้ีเราเรียกกนั วา่ Dot Pitch ซ่ึงในรูน้ีจะมีสารประกอบของฟอสฟอรัสวางเรียงกนั อยเู่ ป็น 3 จุด 3 มุม
โดยแต่ละจุดจะเป็นสีของแมส่ ีน้นั กค็ ือ สีแดง สีเขียว และสีน้าเงิน ซ่ึงแต่ละจุดน้ีเราเรียกวา่ Triad ในส่วน
ของจอแบบ Trinitron น้นั จะมีการทางานท่ีเหมือนกนั แต่ต่างกนั ท่ี ไม่ไดใ้ ชโ้ ลหะเป็นรูแต่จะใช้ โลหะที่เป็น
เสน้ เลก็ ๆ ขึงพาดไปตาม แนวต้งั เพื่อที่จะใหอ้ ิเลค็ ตรอนน้นั ตกกระทบกบั ผวิ จอที่มีสารประกอบของ
ฟอสฟอรัสไดม้ ากข้ึน สาหรับจอ Trinitron ในปัจจุบนั น่ีไดม้ ีการพฒั นาใหม้ ีความแบนราบมากข้ึนซ่ึงจอ

9

แบบน้ีจะเรียกกนั วา่ FD Trinitron (Flat Display Trinitron) ซ่ึงมีมากมายในปัจจุบนั และจะเขา้ มาแทนท่ีจะ
แบบเดิมๆ อีกท้งั ราคายงั ถูกลงเป็นอยา่ งมากดว้ ย

- จอแอลซีดี (LCD : Liquid Crystal Display) ซ่ึงมี ลกั ษณะแบนราบ จะมี ขนาดเลก็ และบาง เม่ือ
เปรียบเทียบกบั จอภาพแบบซีแอลที

จอแบบ LCD
การทางานน้นั จะไม่เหมือนกบั จอแบบ CRT แมส้ กั นิดเดียว ซ่ึงการแสดงภาพน้นั จะซบั ซอ้ นกวา่
มาก การทางานน้นั อาศยั หลกั ของการใชค้ วามร้อนที่ไดจ้ ากขดลวด มาทาการเปลี่ยนและ บงั คบั ใหผ้ ลึกเหลว
แสดงสีต่างๆ ออกมาตามท่ีตอ้ งการซ่ึงการแสดงสีน้นั จะเป็นไปตามท่ีกาหนด ไวต้ ามมาตรฐานของแต่ละ
บริษทั จึงทาใหจ้ อแบบ LCD มีขนาดท่ีบางกวา่ จอ CRT อยมู่ าก อีกท้งั ยงั กินไฟนอ้ ยกวา่ จึงทาใหผ้ ผู้ ลิต
นาไปใชง้ านกบั เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเคล่ือนที่โนต้ บุค๊ และเดสโนต้ ซ่ึงทาใหเ้ คร่ืองมีขนาดที่บางและเลก็
สามารถพกพาไปไดส้ ะดวก ในส่วนของการใชง้ านกบั เคร่ืองเดสกท์ อ็ ปทว่ั ไป กม็ ีซ่ึงจอแบบ LCD น้ีจะมี
ราคาที่แพงกวา่ จอทว่ั ไปอยปู่ ระมาณ 2 เท่าของ ราคาในปัจจุบนั
2. เคส (Case)

10
เคส (case)

เคส คือ โครงหรือกล่องสาหรับประกอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ไวภ้ ายใน การเรียกช่ือ และ
ขนาด ของเคสจะแตกต่างกนั ออกไป ซ่ึงในปัจจุบนั มีหลายแบบที่นิยมกนั แลว้ แต่ผซู้ ้ือจะเลือกซ้ือตามความ
เหมาะสม ของงานและสถานที่น้นั
3. พาวเวอร์ซัพพลาย (Power Supply)

พาวเวอร์ซัพพลาย (Power Supply)
เป็นอุปกรณ์ที่ทาหนา้ ที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าใหก้ บั ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ซ่ึงถา้ คอมพิวเตอร์

มีอุปกรณ์ต่อพวงเยอะๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอมไดรฟ์ ดีวดี ีไดรฟ์ กค็ วรเลือกพาวเวอร์ซพั พลายท่ีมีจานวน
วตั ตส์ ูง เพ่ือใหส้ ามารถจ่ายไฟไดเ้ พยี งพอ
4. คยี ์บอร์ด (Keyboard)

คยี ์บอร์ด (Keyboard)
เป็นอุปกรณ์ในการรับขอ้ มูลท่ีสาคญั ที่สุด มีลกั ษณะคลา้ ยแป้นพิมพ์ ของเครื่องพิมพด์ ีด มี
จานวนแป้น 84 - 105 แป้น ข้ึนอยกู่ บั แป้นท่ีเป็น กลุ่มตวั เลข (Numeric keypad) กลุ่มฟังกช์ นั (Function
keys) กลุ่มแป้นพิเศษ (Special-purpose keys) กลุ่มแป้นตวั อกั ษร (Typewriter keys) หรือกลุ่มแป้นควบคุม

11
อ่ืน ๆ (Control keys) ซ่ึงการสงั่ งานคอมพิวเตอร์และการทางานหลายๆ อยา่ งจาเป็นตอ้ งใชแ้ ป้นพมิ พเ์ ป็น
หลกั
5. เมาส์ (Mouse)

เมาส์ (Mouse)
อุปกรณ์รับขอ้ มูลท่ีนิยมรองจากคยี บ์ อร์ด เมาส์จะช่วยในการบง่ ช้ีตาแหน่งวา่ ขณะน้ีกาลงั อยู่ ณ จุด
ใดบนจอภาพ เรียกวา่ "ตวั ช้ีตาแหน่ง (Pointer)" ซ่ึงอาศยั การเล่ือนเมาส์ แทนการกดป่ ุมบงั คบั ทิศทางบน
คียบ์ อร์ด
6. เมนบอร์ด (Main board)

เมนบอร์ด (Main board)
แผน่ วงจรไฟฟ้าแผน่ ใหญ่ท่ีรวมเอาชิ้นส่วนอิเลก็ ทรอนิกส์ที่สาคญั ๆมาไวด้ ว้ ยกนั ซ่ึงเป็นส่วนท่ี
ควบคุม การทางานของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในพีชีท้งั หมด มีลกั ษณะเป็นแผน่ รูปร่างสี่เหล่ียมแผน่ ท่ีใหญ่ที่สุด

12

ในพีชี ที่จะรวบรวมเอาชิปและไอชี (IC = Integrated Circuit) รวมท้งั การ์ดต่อพว่ งอื่นๆ เอาไวด้ ว้ ยกนั บน
บอร์ดเพยี งอนั เดียวเคร่ืองพีชีทุกเครื่องไม่สามารถทางาน ไดถ้ า้ ขาดเมนบอร์ด

7. ซีพยี ู (CPU)

ซีพยี ู (CPU)
ซีพียหู รือหน่วยประมวลผลกลาง เรียกอีกช่ือหน่ึงวา่ โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป
(chip) นบั เป็นอุปกรณ์ที่มีความสาคญั มากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหนา้ ท่ีในการประมวลผลจากขอ้ มูลที่
ผใู้ ชป้ ้อน เขา้ มาทางอุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มูลตามชุดคาสง่ั หรือโปรแกรมท่ีผใู้ ชต้ อ้ งการใชง้ าน หน่วยประมวลผล
กลาง ประกอบดว้ ยส่วนสาคญั 3 ส่วน คือ
1) หน่วยคานวณและตรรกะ (Arithmetic& Logical Unit: ALU) หน่วยคานวณตรรกะ ทาหนา้ ที่
เหมือนกบั เคร่ืองคานวณอยใู่ นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยทางานเกี่ยวกบั การคานวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก
ลบ คูณ หาร อีกท้งั ยงั มีความสามารถอีกอยา่ งหน่ึงที่เคร่ืองคานวณธรรมดาไม่มี คือ ความสามารถในเชิง
ตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเง่ือนไขและกฎเกณฑท์ างคณิตศาสตร์ เพื่อให้
ไดค้ าตอบออกมาวา่ เงื่อนไข น้นั เป็น จริง หรือ เทจ็ ได้
2) หน่วยควบคุม (Control Unit) หน่วยควบคุม ทาหนา้ ท่ีควบคุมลาดบั ข้นั ตอนการประมวลผล รวมไปถึง
การประสานงานกบั อุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจาสารองดว้ ย ซีพยี ทู ี่มีจาหน่าย
ในทอ้ งตลาด ไดแ้ ก่ Pentium III , Pentium 4 , Pentium M (Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon

8.การ์ดแสดงผล (Display Card)

13

การ์ดแสดงผล (Display Card)
การ์ดแสดงผลใชส้ าหรับเกบ็ ขอ้ มูลท่ีไดร้ ับมาจากซีพยี ู โดยท่ีการ์ดบางรุ่นสามารถประมวลผลไดใ้ น
ตวั การ์ด ซ่ึงจะช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลใหซ้ ีพียู จึงทาใหก้ ารทางานของคอมพิวเตอร์น้นั เร็วข้ึนดว้ ย
ซ่ึงตวั การ์ดแสดงผลน้นั จะมีหน่วยความจาในตวั ของมนั เอง ถา้ ตวั การ์ดมีหน่วยความจามาก กจ็ ะรับขอ้ มูล
จากซีพียไู ดม้ ากข้ึน ซ่ึงจะช่วยใหก้ ารแสดงผลบนจอภาพมีความเร็วสูงข้ึนดว้ ย
หลกั กนั ทางานพ้นื ฐานของการ์ดแสดงผลจะเริ่มตน้ ข้ึน เมื่อโปรแกรมต่างๆ ส่งขอ้ มูลมาประมวลผล
ท่ี ซีพียเู มื่อซีพยี ปู ระมวลผล เสร็จแลว้ กจ็ ะส่งขอ้ มูลท่ีจะนามาแสดงผลบนจอภาพมาท่ีการ์ดแสดงผล จากน้นั
การ์ดแสดงผล กจ็ ะส่งขอ้ มูลน้ีมาท่ีจอภาพ ตามขอ้ มูลที่ไดร้ ับมา การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่
กจ็ ะมีวงจร ในการเร่งความเร็วการแสดงผลภาพสามมิติ และมีหน่วยความจามาใหม้ ากพอสมควร
9. แรม (RAM)

SDRAM
RAM ยอ่ มาจากคาวา่ Random-Access Memory เป็นหน่วยความจาหลกั แต่ไม่ถาวร ซ่ึงจะตอ้ งมีไฟมา
หล่อเล้ียงอุปกรณ์ตลอดในการทางาน โดยถา้ เกิดไฟฟ้ากระพริบหรือดบั ขอ้ มูลที่ถูกบนั ทึกไวใ้ น
หน่วยความจาจะหายไปทนั ที

14

DDR-RAM

RDRAM
โดยหลกั การทางานคร่าวๆ ของแรมน้นั เริ่มตน้ ที่รับขอ้ มูลจากผใู้ ชผ้ า่ นอุปกรณ์ Input จากน้นั กจ็ ะส่งขอ้ มูล
ไปยงั CPU ในการประมวลผล เมื่อ CPU ประมวลผลเสร็จแลว้ แรมจะรับขอ้ มูลท่ีไดร้ ับการประมวลผลแลว้
ออกไปยงั อุปกรณ์ Output ต่อไป โดยหน่วยความจาแรมท่ีใชใ้ นปัจจุบนั มีหลายชนิด เช่น SDRAM, DDR-
RAM, RDRAM
10. ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk)

Harddisk แบบ IDE

15

เป็นอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มูลหรือโปรแกรมต่างๆ ของคอมพวิ เตอร์ โดยฮาร์ดดิสคจ์ ะมีลกั ษณะ
เป็นรูปส่ีเหลี่ยมที่มีเปลือกนอก เป็นโลหะแขง็ และมีแผงวงจรสาหรับการควบคุมการทางานประกบอยทู่ ่ี
ดา้ นล่าง พร้อมกบั ช่องเสียบสายสญั ญาณและสายไฟเล้ียง ส่วนประกอบภายในจะถูกปิ ดผนึกไวอ้ ยา่ งมิดชิด
โดยฮาร์ดดิสคส์ ่วนใหญ่จะประกอบดว้ ยแผน่ จานแม่เหลก็ (platters) สองแผน่ หรือมากกวา่ มาจดั เรียงอยบู่ น
แกนเดียวกนั เรียก Spindle ทาใหแ้ ผน่ แม่เหลก็ หมุนไปพร้อม ๆ กนั จากการขบั เคลื่อนของมอเตอร์ แต่ละ
หนา้ ของแผน่ จานจะมีหวั อ่านเขียนประจาเฉพาะ โดยหวั อ่านเขียนทุกหวั จะเชื่อมติดกนั คลา้ ยหวี สามารถ
เคล่ือนเขา้ ออกระหวา่ งแทร็กต่าง ๆ อยา่ งรวดเร็ว ซ่ึงอินเตอร์เฟสของฮาร์ดดิสกท์ ่ีใชใ้ นปัจจุบนั มีอยู่ 3 ชนิด
ดว้ ยกนั

- IDE (Integrated Drive Electronics)
เป็นระบบของ ฮาร์ดดิสกอ์ ินเตอร์เฟสท่ีใชก้ นั มากในปัจจุบนั น้ี การต่อไดร์ฟฮาร์ดดิสกแ์ บบ IDE จะต่อ
ผา่ นสายแพรและคอนเน็คเตอร์จานวน 40 ขาท่ีมีอยบู่ นเมนบอร์ด ส่วนใหญ่แลว้ ใน 1 คอนเน็คเตอร์ จะ
สามารถต่อฮาร์ดดิสกไ์ ด้ 2 ตวั และบนเมนบอร์ด

IDE Cable
- SCSI (Small Computer System Interface)
เป็นอินเตอร์เฟสที่แตกต่างจากอินเตอร์เฟสแบบอ่ืน ๆ มาก โดยจะอาศยั Controller Card ที่มี Processor อยู่
ในตวั เองทาใหเ้ ป็นส่วนเพม่ิ ขยายกบั แผงวงจรใหม่โดยจะสนบั สนุนการต่ออุปกรณ์ไดถ้ ึง 8 ตวั แต่การ์ดบาง
รุ่นอาจจะไดถ้ ึง 14 ตวั ทีเดียว โดยส่วนใหญแ่ ลว้ จะใชง้ านในรูปแบบ Server เพราะมีราคาแพงแต่มีความเร็ว
ในการส่งขอ้ มูลสูง

16

Harddisk แบบ SCSI

SCSI controller
- Serial ATA (Advanced Technology Attachment)
เป็นอินเตอร์เฟสแบบใหม่ เปิ ดตวั คร้ังแรกในวนั ที่ 26 มิถุนายน 2545 งาน PC Expo ใน New York มี
ความเร็วในเขา้ ถึงขอ้ มูลถึง 150 Mbytes ต่อ วินาที และใหผ้ ลตอบสนองในการทางานไดเ้ ร็วมากในส่วน
ของ extreme application เช่น Game Home Video และ Home Network Hub โดยเป็นอินเตอร์เฟสท่ีจะมา
แทนที่ของ IDE ในปัจจุบนั

Harddisk แบบ Serial ATA

17

Serial ATA Cable

11. CD-ROM / CD-RW / DVD / DVD-RW

CD - ROM
เป็นไดรฟ์ สาหรับอ่านขอ้ มูลจากแผน่ ซีดีรอม หรือดีวีดีรอม ซ่ึงถา้ หากตอ้ งการบนั ทึกขอ้ มูลลงบน
แผน่ จะตอ้ งใชไ้ ดรฟ์ ที่สามารถเขียนแผน่ ไดค้ ือ CD-RW หรือ DVD-RW โดยความเร็วของ ซีดีรอมจะเรียก
เป็น X เช่น 16X , 32X หรือ 52X โดยจะมี Interface เดียวกบั Harddisk
การทางานของ CD-ROM ภายในซีดีรอมจะแบ่งเป็นแทร็กและเซ็กเตอร์เหมือนกบั แผน่ ดิสก์ แต่เซ็ก
เตอร์ในซีดีรอมจะมีขนาดเทา่ กนั ทุกเซ็กเตอร์ ทาใหส้ ามารถเกบ็ ขอ้ มูลไดม้ ากข้ึน เม่ือไดรฟ์ ซีดีรอมเร่ิม
ทางานมอเตอร์จะเริ่มหมนุ ดว้ ยความเร็ว หลายค่า ท้งั น้ีเพอื่ ใหอ้ ตั ราเร็วในการอ่านขอ้ มลู จากซีดีรอมคงท่ี
สม่าเสมอทุกเซ็กเตอร์ ไม่วา่ จะเป็นเซ็กเตอร์ ท่ีอยรู่ อบนอกกรือวงในกต็ าม จากน้นั แสงเลเซอร์จะฉายลง
ซีดีรอม โดยลาแสงจะถูกโฟกสั ดว้ ยเลนส์ท่ีเคล่ือนตาแหน่งได้ โดยการทางานของขดลวด ลาแสงเลเซอร์จะ
ทะลุผา่ นไปท่ีซีดีรอมแลว้ ถูกสะทอ้ นกลบั ที่ผวิ หนา้ ของซีดีรอมจะเป็น หลุมเป็นบ่อ ส่วนที่เป็นหลุมลงไป
เรียก "แลนด"์ สาหรับบริเวณที่ไม่มีการเจาะลึกลงไปเรียก "พติ " ผวิ สองรูปแบบน้ีเราใชแ้ ทนการเกบ็ ขอ้ มูล
ในรูปแบบของ 1 และ 0 แสงเมื่อถูกพิตจะกระจายไปไมส่ ะทอ้ นกลบั แต่เมื่อแสงถูกเลนส์จะสะทอ้ นกลบั

18

ผา่ นแท่งปริซึม จากน้นั หกั เหผา่ นแท่งปริซึมไปยงั ตวั ตรวจจบั แสงอีกที ทุกๆช่วงของลาแสงที่กระทบตวั
ตรวจจบั แสงจะกาเนิดแรงดนั ไฟฟ้า หรือเกิด 1 และ 0 ที่ทาใหค้ อมพวิ เตอร์สามารถเขา้ ใจได้ ส่วนการบนั ทึก
ขอ้ มูลลงแผน่ ซีดีรอมน้นั ตอ้ งใชแ้ สงเลเซอร์เช่นกนั โดยมีลาแสงเลเซอร์จากหวั บนั ทึกของเครื่อง บนั ทึก
ขอ้ มูลส่องไปกระทบพ้นื ผวิ หนา้ ของแผน่ ถา้ ส่องไปกระทบบริเวณใดจะทาใหบ้ ริเวณน้นั เป็นหลุมขนาดเลก็
บริเวณทีไม่ถูกบนั ทึกจะมีลกั ษณะเป็นพ้ืนเรียบสลบั กนั ไปเร่ือยๆตลอดท้งั แผน่

12. ฟลอ็ ปปี้ ดสิ ก์ (Floppy Disk)

Floppy Disk Drive

เป็นอุปกรณ์ที่กาเนิดมาก่อนยคุ ของพซี ีเสียอีก โดยเริ่มจากท่ีมีขนาด 8 นิ้ว กลายมาเป็น 5.25 นิ้ว จน
มาถึงปัจจุบนั ซ่ึงอยทู่ ี่ 3.5 นิ้ว ในส่วนของความจุเริ่มตน้ ต้งั แต่ไม่ก่ีร้อยกิโลไบตม์ าเป็น 1.44 เมกะไบต์
และ 2.88 เมกะไบต์ ตามลาดบั

ในปัจจุบนั การใชง้ านฟลอ็ ปป้ี ดิสกน์ ้นั นอ้ ยลงไปมากเพราะ เน่ืองจากจุขอ้ มูลไดน้ อ้ ยซ่ึงไมเ่ พยี งพอกบั
ความตอ้ งการ แต่ฟลอ็ ปป้ี ดิสกก์ ย็ งั คงเป็นมาตรฐานหน่ึงที่เครื่องคอมพวิ เตอร์ทุกเครื่องตอ้ งมี การ
พฒั นาฟลอ็ ปป้ี ดิสกก์ ไ็ ม่ไดห้ ยดุ ย้งั ไปเสียทีเดียว ยงั มีการพฒั นาเทคโนโลยใี หม่ที่ใชร้ ะบบ Optical ทาให้
สามารถขยายความจุไปไดถ้ ึง 120 เมกะไบตต์ ่อแผน่
2.4 องค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์
1. ฮาร์ดแวร์

ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือลกั ษณะทางกายของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซ่ึงหมายถึงตวั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์
และ อุปกรณ์รอบขา้ ง (peripheral) ที่เกี่ยวขอ้ ง เช่น ฮาร์ดดิสก์ เครื่องพมิ พ์ เป็นตน้ ฮาร์ดแวร์ประกอบดว้ ย

1.1 หน่วยรับข้อมูลเข้า (Input Unit)
หน่วยรับขอ้ มูลเขา้ เป็นหน่วยที่ทาหนา้ ท่ีรับขอ้ มูล หรือคาสงั่ เขา้ สู่คอมพวิ เตอร์เพอื่ ใหค้ อมพวิ เตอร์

19

นาขอ้ มูล หรือคาสงั่ ดงั กล่าวไปประมวลผลกลางต่อไป ตวั อยา่ งของอปุ กรณ์ท่ีจดั อยใู่ นหน่วยรับขอ้ มูลเขา้
ไดแ้ ก่
-แป้นพิมพ์ (Keyboard)
-เมาส์ (Mouse)

-ไมโครโฟน (Microphone)
-แสกนเนอร์ (Scanner)
-กลอ้ งดิจิตอล

-ตวั อยา่ งของหน่วยรับขอ้ มูลเขา้ แสดงในรูป
1.2 หน่วยประมวลผล (Central Process Unit)
หน่วยประมวลผลกลาง เป็นหน่วยที่สาคญั ที่สุด เปรียบไดก้ บั สมองของคอมพวิ เตอร์มีหนา้ ท่ี
ประมวลผลของมูล หรือคาสง่ั ต่าง ๆ และมีหนา้ ท่ีควบคุมระบบต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ ใหท้ ุกหน่วยทางาน
สอดคลอ้ งกนั ซ่ึงหน่วยประมวลผลการจะประกอบดว้ ยหน่วยยอ่ ย ๆ ดงั ต่อไปน้ี
หน่วยความจา (Memory Unit)
รีจิสเตอร์ (Register) คือ หน่วยความจาที่อยภู่ ายใน CPU ทาหนา้ ท่ีเกบ็ ขอ้ มูลท่ีส่งมาจาก
หน่วยความจาหลกั และจะนาขอ้ มูลดงั กล่าวไปประมวลผล
รอม (Read Only Memory: ROM) คือ หน่วยความจาหลกั ชนิดถาวรของคอมพิวเตอร์ทาหนา้ ที่
เกบ็ คาสงั่ ต่าง ๆ ไม่สามารถแกไ้ ขข้ อ้ มูลในรอมได้ เปรียบไดก้ บั หนงั สือท่ีจะเกบ็ ความรู้ต่าง ๆ เอาไว้

แรม (Random Access Memory: RAM) คือ หน่วยความจาหลกั ชนิดหน่ึงของคอมพวิ เตอร์ทา
หนา้ ท่ีเกบ็ ขอ้ มูล หรือคาสงั่ ต่าง ๆ ท่ีใชใ้ นการประมวลผล สามารถแกไ้ ขขอ้ มูลในแรมได้ และขอ้ มูลจะ
หายไปเมื่อปิ ดเครื่อง

คอมพิวเตอร์ เปรียบไดก้ บั กระดาษทดหน่วยคานวณ และ ตรรกะ (Arithmetic and Login Unit:
ALU) เป็นหน่วยที่ทาหนา้ ที่คานวณทางดา้ นคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร หรือคานวณทางตรรกะ
ศาสตร์ เช่น เปรียบเทียบขอ้ เทจ็ เป็นตน้

หน่วยควบคุม (Control Unit) เป็นหน่วยที่ทาหนา้ ที่ควบคุมการทางานทุกๆ หน่วยในCPU และ
อุปกรณ์ต่อพว่ งใหท้ างานไดอ้ ยา่ งสมั พนั ธก์ นั

1.3 หน่วยแสดงผล (Output Unit)
หน่วยแสดงผลเป็นหน่วยที่ทาหนา้ ที่นาผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากการประมวลผลกลางไปแสดง
ตวั อยา่ งอุปกรณ์ที่จดั เป็นชนิดหน่วยแสดงผลไดแ้ ก่
-จอภาพ

-เคร่ืองพิมพ์

20

-ลาโพง

1.4 หน่วยเกบ็ ข้อมูลสารอง (Secondary Storage)
หน่วยเกบ็ ขอ้ มูลสารอง คือ ส่ือในการเกบ็ บนั ทึกขอ้ มูล เช่น Hard disk, CD-ROM,Tape, Floppy

disk เป็นตน้
2. ซอฟต์แวร์

ฮาร์ดแวร์ที่ประกอบออกมาจากโรงงานจะยงั ไม่สามารถทางานใดๆ เน่ืองจากตอ้ งมี ซอฟตแ์ วร์
(Software)ซ่ึงเป็นชุดคาสงั่ หรือโปรแกรมท่ีสง่ั ใหฮ้ าร์ดแวร์ทางานต่าง ๆ ตามตอ้ งการ โดยชุดคาสงั่ หรือ
โปรแกรมน้นั จะเขียนข้ึนมาจาก ภาษาคอมพวิ เตอร์ (Programming Language) ภาษาใดภาษาหน่ึง และมี
โปรแกรมเมอร์ (Programmer) หรือนกั เขียนโปรแกรมเป็นผใู้ ชภ้ าษาคอมพิวเตอร์เหล่าน้นั เขียนซอฟตแ์ วร์
ต่าง ๆ ข้ึนมา

ความหมายของซอฟต์แวร์
ซอฟตแ์ วร์ (Software) หมายถึง ส่วนท่ีทาหนา้ ท่ีเป็นคาสงั่ ที่ใชค้ วบคุมการทางานของเครื่อง

คอมพวิ เตอร์ หรืออาจเรียกวา่ “ โปรแกรม ” กไ็ ด้ ซ่ึงหมายถึงคาสงั่ หรือชุดคาสง่ั สามารถใชเ้ พือ่ สง่ั ให้
คอมพวิ เตอร์ทางาน เราตอ้ งการใหเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์ทาอะไรกเ็ ขียนเป็นคาสง่ั ที่จะตอ้ งสง่ั เป็นข้นั ตอน และ
แต่ละข้นั ตอนตอ้ งทาอยา่ งละเอียดและครบถว้ นกจ็ ะเรียกวา่ นกั เขียนโปรแกรม (Programmer) สาหรับการ
เขียนโปรแกรมดงั กล่าวใชภ้ าษาท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะ หรือหมายถึง ภาษาที่เครื่อง
คอมพิวเตอร์สามารถเขา้ ใจได้ เช่น ภาษาเบสิก ภาษาโคบอล ภาษาปาสคาล เป็นตน้ โปรแกรมท่ีเขียนข้ึนมาก็
จะนาไปใชใ้ นงานเฉพาะอยา่ ง เช่น โปรแกรมสตอ็ กสินคา้ คงคลงั โปรแกรมคานวณภาษี โปรแกรมคิดเงิน
เดือนพนกั งาน เป็นตน้

ประเภทของซอฟต์แวร์
ซอฟตแ์ วร์จะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ ประเภท คือ ซอฟตแ์ วร์ระบบ (System Software) และ
ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ ( Application Softwaer) ซ่ึงมีรายละเอียด ดงั น้ี

1. ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software)
หมายถึง โปรแรกมที่มีหนา้ ท่ีควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ทุกอยา่ งและอานวยความสะดวกใหก้ บั
ผใู้ ชเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์ แบ่งออกเป็นโปรแกรมตามหนา้ ท่ีการทางานดงั น้ี

1.1 OS (Operating System)
คือ โปรแกรมระบบที่ทาหนา้ ที่ควบคุมการใชง้ านส่วนต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น ควบคุม
หน่วยความจา ควบคุมหน่วยประมวลผล ควบคุมหน่วยรับและควบคุมหน่วยแสดงผล ตลอดจนแฟ้มขอ้ มูล

21

ต่าง ๆ ใหม้ ีประสิทธิภาพในการทางานสูงท่ีสุด และสามารถใชอ้ ุปกรณ์ทุกสาวนของคอมพิวเตอร์และช่วย
จดั การกระบวนการพ้นื ฐานที่สาคญั ๆ ภายในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เช่นการเปิ ด หรือปิ ดไฟล์ การส่ือสารกนั
ระหวา่ งชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่อง การส่งขอ้ มูลออกสู่เคร่ืองพมิ พห์ รือสู่จอภาพ เป็นตน้ ก่อนท่ี
คอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองจะสามารถอ่านไฟลต์ ่าง ๆ หรือสามารถใชซ้ อฟตแ์ วร์ต่าง ๆ ไดจ้ ะตอ้ งผา่ นการดึง
ระบบปฏิบตั ิการออกมาฝังตวั อยใู่ นหน่วยความจาก่อน ปัจจุบนั น้ีมีโปรแกรมระบบบอยหู่ ลายตวั ดว้ ยกนั ซ่ึง
แต่ละตวั น้นั กเ็ ป็นโปรแกรมระบบปฏิบตั ิการเหมือนกนั แต่ต่างกนั ที่ลกั ษณะการทางานจะไม่เหมือนกนั
ดงั น้ี

DOS (Disk operating System) เป็นระบบปฏิบตั ิการท่ีนิยมใชก้ นั มาต้งั แตใ่ นอดีตออกมาพร้อมกบั
เคร่ืองพซี ีของไอบีเอม็ รุ่นแรก ๆ จากน้นั กม็ ีการพฒั นารุ่นใหม่ออกมาเร่ือย ๆ จนกระทง่ั ถึงเวอร์ชน่ั สุดทา้ ยคือ
เวอร์ชนั่ 6.22 หลงั จากท่ีมีการประกาศใชว้ นิ โดวส์ 95 กค็ งจะไม่ผลิต DOS เวอร์ชชน่ั ใหม่ออกมาแลว้
โดยทว่ั ไปจะนิยมใชว้ นิ โดวส์ 3. x ซ่ึงถือวา่ เป็นโปรแกรมเสริมชนิดหน่ึงท่ีใชใ้ นดอส

UNIX เป็นระบบ OS ท่ีสามารถใชร้ ่วมกนั ไดห้ ลายคน (Multiuser) หรือเป็นระบบปฏิบตั ิการแบบ
เครือขา่ ย โดยที่ผใู้ ชแ้ ต่ละคนจะตอ้ งมีช่ือและพาสเวริ ์ดส่วนตวั และสามารถเช่ือมโยงถึงกนั ไดท้ วั่ โลก โดย
ผา่ นทางสายโทรศพั ทแ์ ละมี Modem เป็นตวั กลางในการรับส่งขอ้ มูลหรือโอนยา้ ยขอ้ มูล นิยมใชอ้ ยา่ ง
แพร่หลายในมหาวทิ ยาลยั หน่วยงานรัฐบาล หรือบริษทั เอกชนท่ีมีระบบคอมพวิ เตอร์ใหญ่ ๆ ใช้ ในระบบ
ยนู ิกซ์เองกม็ ีวนิ โดวส์อีกชนิดหน่ึงใชเ้ รียกวา่ X Windows สาหรับผทู้ ี่ตอ้ งการใชร้ ะบบยนู ิกซใ์ นเครื่องพีซีท่ี
บา้ นกม็ ีเวอร์ชน่ั สาหรับพซี ีเรียกวา่ Linux ซ่ึงจะมีคาสง่ั พ้ืนฐานคลา้ ย ๆ กบั ระบบยนู ิกซ์

LAN เป็นระบบปฏิบตั ิการแบบเครือข่ายเช่นเดียวกนั แต่จะใชเ้ ชื่อมโยงกนั ใกล้ ๆ เช่น ในอาคาร
เดียวกนั หรือระหวา่ งอาคารท่ีอยใู่ กลก้ นั โดยใชส้ าย Lan เป็นตวั เช่ือมโยง

WINDOWS เป็นระบบปฏิบตั ิการท่ีกาลงั นิยมใชก้ นั มากในปัจจุบนั ซ่ึงพฒั นามาถึง
รุ่น Windows 2000 แลว้ บริษทั ไมโครซอฟตไ์ ดเ้ ร่ิมประกาศใช้ MS Windows 95 คร้ังแรกเม่ือ 24 สิงหาคม
ค.ศ.1995 โดยมีความคิดท่ีวา่ จะออกมาแทน MS-DOS และ วินโดวส์ 3. X ที่ใชร้ ่วมกนั อยู่ ลกั ษณะของ
วินโดวส์ 95 จึงคลา้ ยกบั เป็นระบบโอเอสท่ีมีท้งั ดอสและวินโดวส์อยใู่ นตวั เดียวกนั แต่เป็นวนิ โดวส์ที่มี
ลกั ษณะพเิ ศษกวา่ วนิ โดวส์เดิม เช่น มีคุณสมบตั ิเป็น Plug and play ซ่ึงสามารถจะรู้จกั ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ที่
ติดต้งั อยใู่ นเคร่ืองไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ มีลกั ษณะเป็นระบบ 32 บิต ในขณะท่ีวนิ โดวส์ เดิมเป็นระบบ 16 บิต เป็น
ตน้ บริษทั ไมโครซอฟตไ์ ม่ไดห้ ยดุ เพยี งแคว่ นิ โดวส์ 95 แต่ไดม้ ีการพฒั นาเพ่มิ ฟังกช์ นั ใหม่ ๆ เขา้ ไป ในที่สุด
กอ็ อกระบบโอเอสตวั ถดั มาเป็น MS Windows 98 และ MS Windows 2000 ตามลาดบั โดยท่ีมีการติดต้งั และ
การใชง้ านท่ีมีพ้ืนฐานไมแ่ ตกต่างกนั มากนกั จึงง่ายสาหรับผใู้ ชใ้ นการปรับตวั เขา้ กบั ระบบโอดอสใหม่ ๆ

Windows NT เป็นระบบ OS ท่ีผลิตจากบริษทั ไมโครซอฟตเ์ ข่นเดียวกนั เป็นระบบ 32 บิต มี
รูปลกั ษณ์เป็นกราฟิ กท่ีตอ้ งใชเ้ มาส์กลา้ ยกบั วินโดวส์ทวั่ ไป แต่นิยมใชใ้ นระบบเวริ ์กสเตชนั มากกวา่ ใน
เคร่ืองพีซีทว่ั ไป

22

OS/2 เป็นระบบ OS ท่ีผลิตออกมาจากบริษทั IBM เป็นระบบ 32 บิต ที่มีรูปลกั ษณ์เป็นกราฟฟิ กท่ี
ตอ้ งใชเ้ มาส์ คลา้ ยกบั วนิ โดวส์ทว่ั ไปเช่นกนั

1.2 Translation Program คือโปรแกรมที่ทาหนา้ ท่ีในการแปลโปรแกรมหรือชุดคาสง่ั ที่เขียน
ดว้ ยภาษาที่ไม่ใช่ภาษาเคร่ือง หรือภาษาเครื่องที่ไม่เขา้ ใจใหเ้ ป็นภาษาท่ีเคร่ืองสามารถรู้เรื่องเขา้ ใจ และนาไป
ปฏิบตั ิได้ เช่น ภาษา BASIC ,COBOL,C, PASCAL, FORTRAN, ASSEMBLY เป็นตน้ สาหรับตวั แปลน้นั
จะมี 3 แบบคือ

Assembler เป็นโปแกรมที่ใชแ้ ปลภาษาแอสแซมบลี ซ่ึงมีลกั ษณะการแปลทีละคาสง่ั เม่ือทาตาม
คาสงั่ น้นั เสร็จแลว้ กจ็ ะแปลคาสง่ั ถดั ไปเร่ือย ๆ จนจบ

Interpreter เป็นโปรแกรมที่ใชแ้ ปลภาษาเบสิก โดยจะแปลทีละคาสงั่ แลว้ ทาตามคาสง่ั น้นั แลว้ แปล
ต่อไปเรื่อย ๆ จนจบโปรแกรม

Compiler เป็นโปรแกรมท่ีใชแ้ ปลภาษาระดบั สูงใหเ้ ป็นภาษาเคร่ือง ซ่ึงจะแปลท้งั โปรแกรมใหเ้ สร็จ
ก่อน จากน้นั จึงจะปฏิบตั ิตามคาสงั่ ทีละคาสง่ั

1.3 Utility Program คือ โปรแกรมระบบท่ีทาหนา้ ที่ในการอานวยความสะดวกใหก้ บั ผใู้ ชเ้ ครื่อง
คอมพิวเตอร์ ใหส้ ามารถทางานไดส้ ะดวก รวดเร็วและง่ายข้ึน เช่น โปรแกรมที่ใชใ้ นการเรียงลาดบั ขอ้ มูล
โปรแกรมโอนยา้ ยขอ้ มูลจากชนิดหน่ึงไปยงั อกั ชนิดหน่ึง โปรแกรมรวบรวมขอ้ มูล 2 ชุดเขา้ ดว้ ยกนั
โปรแกรมคดั ลอกขอ้ มูลเป็นตน้

1.4 Diagnostic Program คือ โปรแกรมระบบที่ทาหนา้ ท่ีตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดใน การทางานของ
อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องคอมพวิ เตอร์ ไดแ้ ก่ โปแกรม QAPLUS โปรแกรม NORTON เป็นตน้ และเมื่อพบ
ขอ้ ผดิ พลาดกจ็ ะแจง้ ข้ึนบนจอภาพใหท้ ราบ

2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
หมายถึง โปรแกรมท่ีผใู้ ชค้ อมพวิ เตอร์เป็นผเู้ ขียนมาใชง้ านเอง เพอื่ สงั่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทางานอยา่ งใดอยา่ ง
หน่ึงตามท่ีตอ้ งการ ซ่ึงแบ่งไดด้ งั น้ี

2.1 User Program คือ โปรแกรมที่ผใู้ ชเ้ ขียนมาใชเ้ อง โดยใชภ้ าษาระดบั ต่าง ๆ ทาง
คอมพิวเตอร์ เช่น ภาษา BSDIC , COBOL , PSDCSL , C , ASSEMBLY FORTRAN ฯลฯ ซ่ึงการท่ีจะ
เลือกใชภ้ าษาใดน้นั กข็ ้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสมของงานเหล่าน้นั ดว้ ย เช่น โปรแกรมระบบบญั ชี, โปแกรม
ควบคุมสตอ็ กสินคา้ , โปแกรมแฟ้มทะเบียนประวตั ิ โปรแกรมคานวณภาษี,โปรแกรมคิดเงินเดือน เป็นตน้

23

2.2 Package Program คือ โปรแกรมสาเร็จรูปซ่ึงเป็นโปรแกรมท่ีถูกสร้างหรือเขียนข้ึนมา
โดยบริษทั ต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแลว้ พร้อมท่ีจะนาไปใชง้ านต่าง ๆ ไดท้ นั ทีตวั อยา่ งเช่น
Word Processor โปรแกรมที่ช่วยในการทาเอกสาร พมิ พง์ านต่าง ๆ เช่น เวิร์ดจุฬา, เวริ ์ดราชวถิ ี, Microsoft
Word, WordPerfect, AmiPro เป็นตน้
Spreadsheet โปรแกรมที่ใชใ้ นการคานวณขอ้ มูล มีลกั ษณะเป็นตาราง เช่น Lotus 1-2-3, Microsoft
Excel เป็นตน้

Database โปรแกรมท่ีใชใ้ นการทางานทางดา้ นฐานขอ้ มูลจะใชเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีมีขนาด
ใหญ่ และมีขอ้ มูลเป็นจานวนมาก เช่น dBASE lll Plis, Foxbase, Microsoft Access, foxpro, Visual
Foxpro เป็นตน้

โปรแกรมท่ีใชใ้ นการทางานทางดา้ นการสร้างรูปภาพและกราฟฟิ กต่าง ๆ รวมท้งั งานทางดา้ น
สิ่งพมิ พ์ การทาโบวช์ วั ร์ แผน่ พบั นามบตั ร เช่น CorelDraw, Photoshop, Harvard Graphic, Freelance
Graphic, PowerPoint, PageMaker เป็นตน้

จากขา้ งตน้ เป็นตวั อยา่ งของ Package Program ที่นิยมใชง้ านกนั ในปัจจุบนั ท่ีจริงแลว้ Package
Program สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 9 ประเภทดว้ ยกนั สาหรับรายละเอียดของโปรแกรมแต่ละประเภทน้นั มี
รายละเอียดดงั น้ี
1. โปรแกรมทางด้าน Word Processor

โปรแกรมทางดา้ น Word Processor น้นั เป็นโปรแกรมที่ทางานเกี่ยวกบั ทางดา้ นการประมวลผลคา
สามารถจดั ทาเอกสาร รายงาน จดหมาย หนงั สือต่าง ๆ ได้ ทาใหไ้ ดง้ านท่ีมีประสิทธิภาพ สวยงาม เน่ืองจาก
สามารถจดั รูปแบบงานตามตอ้ งการไดร้ วมท้งั ยงั แกไ้ ขงานที่ทาไดด้ ว้ ย อีกท้งั ยงั ช่วยประหยดั เวลาในการ
แกไ้ ขงาน และสามารถคน้ หาขอ้ ความต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งสะดวก

โปรแกรมท่ีจดั อยใู่ นกล่มุ Word Processor มีดงั น้ี คือ WordStat, ราชวิถีเวิร์ด เวิร์ดจุฬา โปรแกรมเหล่าน้ี
จะเป็นโปรแกรมที่ทางานบน Dos นอกจากน้นั ยงั มีโปรแกรมท่ีทางานบนวนิ โดวส์อีกดว้ ย คือ Word Perfect,
Microsoft Word และ AmiPro โปรแกรมเหล่าน้ีจะใชง้ านง่าย สะดวก สามารถจดั รูปแบบต่าง ๆ ไดต้ าม
ตอ้ งการ รวมท้งั สามารถนาภาพมาประกอบกบั งานเอกสาร หรือนาเอกสารจากโปรแกรมอื่นมาจดั รูปแบบ
ในโปรแกรมเหล่าน้ีกไ็ ด้

2. โปรแกรมทางด้าน Spreadsheet
โปรแกรมทางดา้ น Spreadsheet เป็นโปรแกรมที่มีลกั ษณะเป็นกระดาษทาการขนาดใหญ่ หรือ

เรียกวา่ Worksheet ประกอบดว้ ยส่วนที่เป็น Row หรือแถวตามแนวนอนและส่วนที่เป็น Column หรือแถว

24

ตามแนวตงั่ ซ่ึงใชใ้ นดา้ นการคานวณเป็นส่วนมาก นอกจากน้นั ยงั มีการนาเสนอขอ้ มูลออกมาในรูปของ
กราฟโดยสร้างเป็นกราฟ 2 มิติและ 3 มิติไดอ้ ีกดว้ ย โปรแกรม Spreadsheet เหมาะกบั การทางานในดา้ นการ
บญั ชี การเงิน การวิเคราะห์ขอ้ มูล หรืองานการคิดคะแนนและเกรดของนกั ศึกษา เป็นตน้ สาหรับโปแกรมที่
อยใู่ นกลุ่มน้ี ไดแ้ ก่ โปรแกรม Lotus ซ่ึงมีท้งั ที่ทางานบน Dos และบน Windows, โปรแกรม Microsoft
Excel โปรแกรมเหล่าน้ีสามารถจดั รูปแบบตวั อกั ษรและกาหนดขนาดตวั อกั ษร รวมท้งั สามารถตีกรอบ สร้าง
ตารางระบายสีลงในเซลลต์ ่าง ๆ ได้ นอกจากน้นั ยงั สามารถนารูปกราท่ีสร้างไวม้ ารวมกบั ขอ้ มูลที่อยู่
ใน Worksheet เดียวกนั ได้ ทาใหไ้ ดง้ านที่สมบูรณ์ข้ึน

3. โปรแกรมทางด้าน Database
โปรแกรมประเภทน้ีเป็นโปรแกรมที่ทางานทางดา้ นการจดั การฐานขอ้ มูล ช่วยจดั เกบ็ ขอ้ มูล แกไ้ ข

คน้ หา เพิ่มเติม รวมท้งั การจดั เรียงขอ้ มูล ทาใหผ้ ใู้ ชส้ ะดวกรวดเร็วสามารถทางานไดเ้ ป็นระบบ
โปรแกรม Database เหมาะกบั การทางานท่ีมีขอ้ มูลมาก ๆ เช่น การเกบ็ สตอ็ กสินคา้ คงคลงั การเกบ็

ประวตั ิพนกั งาน การเกบ็ รายช่ือนกั ศึกษาในโรงเรียน การเกบ็ รายช่ือหนงั สือในหอ้ งสมุด เป็นตน้
โปรแกรมที่อยใู่ นกลุ่มน้ีไดแ้ ก่ โปรแกรม dBase lll Plus ซ่ึงทางานบน Dos โปรแกรม Foxpro ซ่ึงมี

หนา้ ท่ีทางานบน Dos และบน Windows, โปรแกรม Microsoft Access และในปัจจุบนั มีโปรแกรม Visual
Foxpro ซ่ึงเป็นโปรแกรมฐานขอ้ มูลท่ีทางานบน Windows เช่นกนั

4. โปรแกรมทางด้าน Graphic
โปรแกรม Graphic ส่วนมากแลว้ จะเก่ียวกบั ทางดา้ นงานออกแบบ เขียนแบบวาดภาพ จดั ทาสิ่งพิมพแ์ ละ

จะเป็นทางดา้ นการนาเสนองาน สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานโฆษณา ทา Slide Show หรือนาไปใชก้ บั
ระบบ Multimedia ได้ ปัจจุบนั โปรแกรมกลุ่มน้ีเป็นท่ีนิยมมาก

สาหรับโปรแกรมท่ีทางานทางดา้ น Graphic น้นั มีอยหู่ ลายโปรแกรมและแต่ละโปรแกรมน้นั ส่วนใหญ่
จะทางานคลา้ ยกนั แต่มีบางคาสงั่ ที่แตกต่างกนั ไปดงั น้ี

CorelDraw และ Photoshop จะทาเกี่ยวกบั งานออกแบบ วาดภาพ จดั ทา ส่ิงพมิ พ์ ตกแต่งภาพให้
สวยงาม เหมาะกบั งานทางดา้ นโฆษณา

Harvard Graphic, Freelance Graphic และ PowerPoint เหมาะกบั งานที่ตอ้ งการนาเสนอ หรือ
แสดงออกโดยการสร้าง Slide Show สามารถนาภาพและเสียงมาประกอบกบั งานได้ ทาให้
ได้ Presentation ท่ีสวยงามออกมา

PageMaker เหมาะกบั งานประเภทสิ่งพิมพ์ ใชส้ ร้างโบรชวั ร์ แผน่ พบั ใบปลิว นามบตั ร และการทา
หนงั สือ โปรแกรมท่ีนิยมใชก้ บั โรงพิมพม์ าก

25

5. โปรแกรมเกม ( Game)
เป็นโปรแกรมท่ีแพร่หลายเป็นที่รู้จกั กนั ทวั่ ไป ไมว่ า่ จะเป็นเดก็ หรือผใู้ หญ่ และปัจจุบนั น้ีมีโปรแกรม

เกมต่าง ๆ มากมาย ท้งั แบบธรรมดาและแบบ 3 มิติ ซ่ึงท่ีจริงแลว้ โปรแกรมเกมส่วนใหญ่จะสร้างข้ึนมา เพือ่
ช่วยผอ่ นคลายความตึงเครียดในการทางานแต่ละส่วนใหญ่แลว้ จะพบวา่ เดก็ จะเล่น เพอ่ื ความสนุกสนาน
เพลิดเพลินมากกวา่ ผใู้ หญ่ควรควบคุมเกมท่ีเดก็ ๆเล่นดว้ ย เพราะบางเกมเป็นลกั ษณะของการต่อสู้ เพ่ือให้
เกิดชยั ชนะ ซ่ึงจะทาใหเ้ ดก็ สร้างนิสยั ผดิ ๆ กลายเป็นเดก็ ท่ีชอบเอาชนะคนอ่ืนชอบการต่อสู้ และอาจเป็นคน
ดุร้าย เห็นแก่ตวั ได้

6. โปรแกรมทางด้านการสร้างสถานการณ์จาลอง
เป็นโปรแกรมท่ีใหผ้ เู้ ล่นไดท้ ดลองสร้างสถานการณ์จาลองของงานที่อาจจะเกิดข้นึ ไดห้ รืออาจจะ

เรียกวา่ เกมส์ทางธุรกิจ โดยใหผ้ เู้ ล่นไดร้ ู้จกั วางแผนในการทางาน คิดถึงผลกาไรขาดทุนท่ีอาจจะเกิดข้ึนได้
รู้จกั จดั สรรงบประมาณท่ีมีอยใู่ หไ้ ดผ้ ลกาไรมากที่สุด

7. โปรแกรมทางด้านการติดต่อสื่อสาร
เป็นโปรแกรมที่มกั นิยมใชต้ ามสานกั งานต่างๆท้งั ของรัฐและเอกชนในการนดั หมายประชุม การทา

จดหมายเวียนไปตามฝ่ ายต่างๆ โดยการเกบ็ ขอ้ มูลไวใ้ นคอมพิวเตอร์แทนที่จะพมิ พอ์ อกมาทางกระดาษ เพอื่
แจง้ ใหพ้ นกั งานทราบ ขอ้ ดีของโปรแกรมชนิดน้ีคือ ทาใหป้ ระหยดั กระดาษลงไปไดม้ าก

8. โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน
โปรแกรมประเภทน้ีเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ CAI (Computer Assisted Instruction) เป็นโปรแกรมท่ีนามา

สอนใหก้ บั นกั เรียนในวชิ าต่าง ๆ โดยที่นกั เรียนจะเรียนกบั โปรแกรมบนคอมพิวเตอร์และครูเป็นผชู้ ีแนะ
ทดสอบ และวดั ความเขา้ ใจ รวมท้งั สรุปเน้ือหาที่นกั เรียนไดเ้ รียนจากโปรแกรม CAI น้ี ปัจจุบนั โปรแกรม
ประเภทน้ีเร่ิมนาเขา้ มาใชใ้ นโรงเรียนแพร่หลายมากข้ึน เพราะทุกโรงเรียนมีคอมพวิ เตอร์ใช้ ซ่ึงเป็นการ
เปล่ียนแปลงวธิ ีการสอนของครูวีหน่ึง ที่ทาใหน้ กั เรียนไม่รู้สึกเบ่ือ และสนใจการเรียนมากข้ึนดว้ ย

26

บทที่ 3
วธิ ีดาเนินงานโครงงาน

ในการจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ การพฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (WebBlog) ดว้ ย blogger.com
เรื่องหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ น้ี ผจู้ ดั ทาโครงงานมีวิธีดาเนินงานโครงงาน ตามข้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี
3.1 วสั ดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือหรือโปรแกรมหรือทใ่ี ช้ในการพฒั นา

3.1.1 เคร่ืองคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต
3.1.2 เวบ็ ไซตท์ ี่ใหบ้ ริการเวบ็ บลอ็ ก คือ http://www.blogger.com
3.1.3 เวบ็ ไซตท์ ่ีใชใ้ นการติดต่อส่ือสาร http://www.facebook.com
3.2 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 3.2.1 คิดหวั ขอ้ โครงงานเพ่อื นาเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน
3.2.2 ศึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองท่ีสนใจ คือ เรื่องหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ วา่ มี
เน้ือหามากนอ้ ยเพยี งใด และตอ้ งศึกษาคน้ ควา้ เพ่ิมเติมเพยี งใดจากเวบ็ ไซตต์ ่างๆ และเกบ็ ขอ้ มูลไวเ้ พอื่ จดั ทา
เน้ือหาต่อไป
3.2.3 ศึกษาการสร้างเวบ็ บลอ็ กที่สร้างจากเวบ็ ไซต์ blogger.com จากเอกสารที่ครูประจาวิชากาหนด และ
จากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ ท่ีนาเสนอเทคนิค วิธีการสร้างเวบ็ บลอ็ ก
3.2.4 จดั ทาโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพือ่ นาเสนอครูท่ีปรึกษา
3.2.5 ปฏิบตั ิการจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์การพฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (WebBlog) ดว้ ย blogger.com เรื่อง
แทบ็ เลต็ โดยการสมคั รสมาชิก และสร้างบทเรียนท่ีสนใจตามแบบเสนอโครงร่างท่ีเสนอไวแ้ ลว้ 3.3 วธิ ีการ
เกบ็ รวบรวมข้อมูล

- ศึกษา เร่ือง อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์
- ศึกษาเร่ือง องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์

27

บทที่ 4
ผลการดาเนินงานโครงงาน

การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ เร่ือง Web blog น่ารู้เรื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มีเน้ือหา
เก่ียวกบั อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ต่างๆ มีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกบั อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ มีผลการ
ดาเนินงานโครงงาน ดงั น้ี

ในการจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ เรื่อง Web blog น่ารู้เร่ืองอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ไดร้ ู้วา่ อปุ กรณ์
คอมพวิ เตอร์ที่ใชง้ านอยใู่ นชีวติ ประจาวนั มีชื่อเรียกวา่ อะไร และอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์อีกหลายๆอยา่ งท่ีใคร
อาจจะยงั ไม่รู้จกั คณะผจู้ ดั ทาไดศ้ ึกษาขอ้ มูลเอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง ดงั น้ี

คอมพิวเตอร์เขา้ มามีบทบาทที่สาคญั ยงิ่ ต่อสงั คมของมนุษยเ์ ราในปัจจุบนั แทบทกุ วงการลว้ นนา
คอมพิวเตอร์เขา้ ไปเก่ียวขอ้ งกบั การใชง้ าน จนกล่าวไดว้ า่ คอมพวิ เตอร์เป็นปัจจยั ที่สาคญั อยา่ งยง่ิ ต่อการ
ดาเนินชีวิตและการทางานในชีวติ ประจาวนั ฉะน้นั การเรียนรู้เพือ่ ทาความรู้จกั กบั คอมพิวเตอร์จึงถือเป็นส่ิงท่ี
มีความจาเป็นเป็นอยา่ งยงิ่

ความหมายของคอมพวิ เตอร์
คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินวา่ Computare ซ่ึงหมายถึง การนบั หรือ การคานวณ พจนานุกรม
ฉบบั คอมพวิ เตอร์จึงเป็นเครื่องจกั รอิเลก็ ทรอนิกส์ที่ถูกสร้างข้ึนเพ่ือใชท้ างานแทนมนุษย์ ในดา้ นการคิด
คานวณและสามารถจาขอ้ มูล ท้งั ตวั เลขและตวั อกั ษรไดเ้ พอ่ื การเรียกใชง้ านในคร้ังต่อไป นอกจากน้ี ยงั
สามารถจดั การกบั สญั ลกั ษณ์ไดด้ ว้ ยความเร็วสูง โดยปฏิบตั ิตามข้นั ตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยงั มี
ความสามารถในดา้ นต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งขอ้ มูล การจดั เกบ็
ขอ้ มูลในตวั เคร่ืองและสามารถประมวลผลจากขอ้ มูลต่างๆ ได้

28

บทที่ 5
สรุปผลการดาเนินงาน และข้อเสนอแนะ

การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์การพฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (WebBlog) ดว้ ย blogger.com
เร่ืองแทบ็ เลต็ น้ีสามารถสรุปผลการดาเนินโครงงาน และขอ้ เสนอแนะ ดงั น้ี
5.1 การดาเนินงานจัดทาโครงงาน
5.1.1 วตั ถุประสงค์ของโครงงาน

5.1.1.1 เพื่อศึกษาและพฒั นาเวบ็ บลอ็ ก (WebBlog) ดว้ ย blogger.com
เร่ืองแทบ็ เลต็

5.1.1.2 เพ่อื ศึกษาคน้ ควา้ เร่ืองที่สนใจเก่ียวกบั แทบ็ เลต็
5.1.1.3 เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพฒั นารูปแบบของเวบ็ บลอ็ กจาก blogger.com
ไดด้ ว้ ยตนเองและนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ขา้ กบั การเรียนรู้ของตนเองมากยง่ิ ข้ึน
5.1.1.4 เพือ่ ใหส้ ามารถติดต่อส่ือสารกนั ไดร้ ะหวา่ งครู เพ่อื นและผสู้ นใจทวั่ ไป
5.2.2 วสั ดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือทใี่ ช้ในการพฒั นา
5.2.1.1 เครื่องคอมพวิ เตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
5.2.1.2 เวบ็ ไซตท์ ี่ใหบ้ ริการเวบ็ บลอ็ ก คือ http://www.wordpress.com
5.2.1.3 เวบ็ ไซตท์ ี่ใชใ้ นการติดตอ่ ส่ือสารเช่น http://www.facebook.com

5.2 สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน
ข้นั ตอนการดาเนินงานที่เสนอในบทท่ี 3 แลว้ แลว้ ไดส้ มคั รเป็นสมาชิกเวบ็ บลอ็ กที่
ช่ือ http://www.wordpress.com จากน้นั ไดน้ าเสนอเผยแพร่ผลงานผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถ
เขา้ ถึงไดท้ ุกท่ีทุกเวลา โดยไดน้ าเผยแพร่ท่ีเวบ็ บลอ็ กช่ือ Chom2525.blogger.com ท้งั น้ีเวบ็ บลอ็ กดงั กล่าว
สามารถจดั การและเชื่อมต่อกบั เวบ็ ไซตอ์ ื่นๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี โดยท้งั ครูที่ปรึกษา เพอ่ื นๆในหอ้ งเรียนไดเ้ ขา้ ไป
มีส่วนร่วมในการจดั การเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเน้ือหาและรูปแบบของการนาเสนออยา่ งหลากหลาย
ซ่ึงทาใหเ้ กิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อยา่ งหลากหลายและรวดเร็ว
5.3 ข้อเสนอแนะ

5.3.1 ขอ้ เสนอแนะทวั่ ไป
5.3.1.1 เวบ็ ไซตท์ ่ีใหบ้ ริการเวบ็ บลอ็ ก คือ WordPress เป็นเวบ็ บลอ็ กสาเร็จรูปที่ใชท้ าเวบ็ ไซตไ์ ดง้ ่าย
และรวดเร็ว แต่ถา้ เราใชป้ ระโยชนใ์ นทางที่ไม่ถูกตอ้ งและไม่เหมาะสม กจ็ ะส่งผลต่อการละเมิดลิขสิทธ์ิและ
ไดร้ ับความรู้ท่ีไม่ถูกตอ้ ง เพราะฉะน้นั ผจู้ ดั ทาควรเผยแพร่สิ่งท่ีดี ๆ ใหบ้ ุคคลท่ีเขา้ มาเยย่ี มหรือศึกษาได้
ความรู้และสิ่งดี ๆ นาไปเผยแพร่ต่อใหผ้ อู้ ื่นมาศึกษาความรู้ ที่เป็นประโยชน์ต่อไป
5.3.1.2 ควรมีการจดั ทาเน้ือหาของโครงงานใหห้ ลากหลายใหค้ รบทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้

29

5.3.1.3 ควรมีการจดั ทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนเพิ่มเติม
5.3.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพฒั นา
5.3.2.1 เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ไม่เพยี งพอกบั การทาโครงงาน และบางคร้ังอินเทอร์เน็ตมีปัญหา เขา้ พร้อม
กนั กจ็ ะทาใหช้ า้ จึงทาใหก้ ารพฒั นาเวบ็ บลอ็ กเกิดความล่าชา้ ตามไปดว้ ย
5.3.2.2 เพื่อนนกั เรียนบางคนเรียนรู้การพฒั นาเวบ็ บลอ็ กคอ่ นขา้ งชา้ ทาใหต้ อ้ งเสียเวลาในการเรียนรู้
เพราะครูผสู้ อนไม่สามารถสอนเน้ือหาเพิ่มเติมได้

30

บรรณานุกรม
สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี 28 กนั ยายน 2562 แหล่งขอ้ มูลจาก
แหล่งขอ้ มูลจาก
http://it.benchama.ac.th/ebook/files/menu/ls5.htm About these ads

http://prompangm11.blogspot.com/

http://sateenee2558.blogspot.com/

http://www.stou.ac.th/Offices/Oes/OesPage/new/km/download/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%8
8%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA
%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87%E
0%B8%AD%E0%B8%81.pdf


Click to View FlipBook Version