ศาสนาคริสต์
ก
คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหหนึ่ง
ของรายวิชาสังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6 เพื่อให้ได้ศึกษาความรู้ในเรื่อง
ศาสนาคริสต์ตลอดจนผู้ที่สนใจศึกษา ประวัติความเป็นมา สัญลักษณ์ ความ
เชื่อ เเละเรื่องราวต่างๆในศาสนาคริสต์ได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์
กับการเรียนการสอน
ผู้จัดทำหวังว่าหนังสือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จะเป็น
ประโยชน์กับผู้อ่าน นักเรียน นักศึกษา ที่กำลังศึกษาค้นคว้ากับเรื่องนี้อยู่หาก
มีข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สารบัญ ข
หน้า
เรื่อง ก
ข
คำนำ
1
สารบัญ
2
3
ประวัติ 4
5
สัญลักษณ์ 6
จุดมุ่งหมายสูงสุด 7
ความเชื่อ 8
นิกาย 9
คัมภีร์ 11
พิธีกรรม 13
หลักปฏิบัติ
หลักธรรม
บรรณานุกรม
1
ประวัติศาสนา
ถือกำเนิดหลังพุทธศาสนา 543 ปี ศาสดาคือ พระเยซู บุตรนางมาเรีย และบิดาเลี้ยงนามโย
เซฟ กล่าวกันว่าท่านเป็นบุตรพระเจ้า ที่โปรดให้มาเรียสาวพรหมจารีตั้งครรภ์
เมื่อพระชนมายุได้ 30 ปี พระเยซู ได้รับศีลจุ่มจากนักบุญโยฮันในแม่น้ำจอร์แดน พอขึ้นจาก
แม่น้ำ พระเจ้าได้มาสถิตที่ พระองค์และกระซิบสั่งให้ ไปเผยแพร่ข่าวที่ประเสริฐแก่ชาวโลก พระเยซู
ได้ออกไปสั่งสอน ประชาชน อยู่ 3 ปีในที่สุดก็ถูกศิษย์ทรยศ เข้ากับฝ่ายศัตรูจับไปตรึงกางเขน
สิ้นพระชนม์ เมื่อพระชนมายุได้ 33 ปี คัมภีร์ของศาสนาคริสต์คือใบเบิล
ศาสนาคริสต์ (christianity) เป็นศาสนาที่พระเยซูคริสต์เป็นศาสดา คำว่า “คริสต์” มาจาก
ภาษา ละติน “คริสตุส (christus)” หรือมาจากภาษากรีก “คริสตอส (christos)” แปลตามตัวว่า
“ได้รับการเจิม” หรือ “ได้รับการแต่งตั้งให้ศักดิ์ สิทธ์” หมายถึง ผู้ที่ได้รับการเจิมให้เป็นตัวแทน ของ
พระเจ้า พระเยซุคริสต์จึงหมายถึง พระเยซูคริสต์ผู้ได้รับการเลือก หรือเจิมให้เป็น ตัวแทนของ
พระเจ้า
2
สัญลักษณ์
ไม้กางเขน เป็นสัญลักษณ์แรก ๆ ที่คริสตชนพยายามค้นหา
‘พระธาตุ’ ของแท้ให้พบ และนำมาเชิดชูเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ – ค้อนและ
คีม ที่ใช้ตอกและถอนตะปูตอกตรึงพระหัตถ์และพระบาท – หอก หมายถึงหอก
ของลองกินุส ทหารโรมันผู้แทงสีข้างของพระองค์ เพื่อทดสอบว่าพระคริสต์
สิ้นพระชนม์หรือไม่
3
จุดมุ่งหมายสูงสุด
คือ การได้กลับไปอยู่กับพระเจ้าชั่วนิรันดร โดยมีความเชื่อมา
ดั้งเดิมว่าจะมีพระเมสสิยาห์ (พระคริสต์) มาเกิดและมาช่วยไถ่บาป
ให้มวลมนุษย์พ้นจากบาป และได้ไปอยู่ กับพระเจ้าชั่วนิรันดร ซึ่งวัน
นั้นจะเรียกว่า
วันของพระเจ้า คือเป็นวันที่คนชั่วคนบาปจะถูกลงโทษ
ส่วนคน ที่เชื่อมั่นในพระเจ้าจะได้ไปอยู่กับพระเจ้าชั่วนิรันดร.
4
ความเชื่อ
ชาวคริสต์มีความเชื่อในเรื่องการตายแล้วฟื้น จึงเปรียบ “ความตาย” เสมือนเป็นการ
เปลี่ยนแปลงที่อยู่จากที่เก่าไปสู่ที่ใหม่ จึงทำให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่มีความโศกเศร้าและอาลัยอาวรณ์
ต่อการจากไปของผู้ล่วงลับอยู่บ้าง และหากแบ่งคติความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องความตายและโลก
หลังความตายตามแต่ละนิกายแล้วล่ะก็สามารถแบ่งได้ตามนี้
https://www.wreathmala.com
ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมีคติความเชื่อเกี่ยวกับ “ความตาย” ว่า… ความตายนั้นเป็น
สภาวะที่ร่างกายและวิญญาณแยกออกจากกัน เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลง ร่างกายที่เป็นสสารจะ
สลายกลายเป็นธุลีดินตามเดิม ส่วนวิญญาณที่แยกออกจากร่างกายจะถูกนำไปพิพากษาตาม
บุญและบาปของตนที่ได้เคยกระทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ หากทำความดีมาก ๆ ก็จะไปยังสวรรค์
แต่หากทำความชั่วก็จะไปยังสถานไฟชำระหรือ “นรก” เพื่อชำระโทษนั่นเอง นอกจากนั้น
ชาวคาทอลิกยังมีความเชื่อเรื่องการกลับฟื้นคืนชีพภายหลังความตายอีกด้วย
ชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์มีคติความเชื่อเกี่ยวกับ “ความตาย” ว่า… การมีชีวิตอยู่บนโลกใบ
นี้เป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราวเท่านั้น แต่ชีวิตหลังความตายต่างหากที่เป็นชีวิตอันเป็นนิจนิรันดร์ นั่น
หมายความว่าเมื่อมนุษย์เสียชีวิตลงก็จะได้กลับไปมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์หรือได้กลับไปอยู่กับ
พระเจ้าบนสวรรค์อย่างถาวร ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระเจ้าได้ทรงเตรียมไว้ให้สำหรับเฉพาะผู้ที่มีความ
เชื่อ มีความรักและศรัทธาในพระองค์เท่านั้น
5
นิกาย
นิกายโรมันคาทอลิก นิกายโรมันคาทอลิกเป็นนิกายดั้งเดิมโดยศาสนิกชนที่นับถือศาสนานี้
เชื่อว่าหลักธรรมที่ตนนับถือเเละสถาบันที่ตนสังกัดสืบทอดมาจากพระเยซูคริสต์จึงถือว่านิกายของตน
เป็นศูนย์รวมของศาสนาคริสต์ที่มีมาตั้งเเต่เริ่มต้นประมุขของนิกายโรมันคาทอลิกเรียกว่า พระ
สันตะปาปาประทับอยู่ ณ กรุงวาติกัน
https://lens.google.com/
2 นิกายออร์ทอด็อก นิกายออร์ทอด็อกเกิดจากการที่จักรวรรดิโรมันถูกเเบ่งออกเป็น 2 ภาค
คือโรมเก่าเเละโรมใหม่โดยโรมใหม่ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสเเตนติโนเปิลได้เเต่งตั้งประมุขทาง
ศาสนาขึ้นมาให้มีอํานาจเสมอกับสังฆราชที่กรุงโรมเก่าเหตุการครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับ
ศาสนจักร จนนําไปสุ่การเเตกเเยกเป็น 2 นิกายโดยศาสนิกชนที่กรุงคอนสเเตนติดนเปิลได้ประ
กาศเเยกตัวตั้งนิกายออร์ทอด็อกขึ้นมาเเต่หลักความเชื่อยังคงคล้ายกับนิกายเดิมอยู่มาก
3 นิกายโปรเตสเเตนต์ โปรเตสเเตนเป็นชื่อรวมของกลุมชาวคริสต์หลายๆกลุ่มเกิดมาจากการที่
พระชาวเยอรมัน ชื่อ มาร์ติ ลูเธอร์เห็นว่าศาสนจักรมีความไม่เหมาะสมจึงเเยกออกมาตั้งนิกายใหม่
หลังจากลูเธอร์ตั้งนิกายใหม่ก้มีการรวมตัวในลักษณะเช่นนี้อีกหลายกลุ่มเเละไม่ถือว่าพระสันตปาปา
เป็นผู้นําศาสนา
6
คัมภีร์
ชื่อเรียกคัมภีร์ “ ไบเบิ้ล ( Bible ) ” ชาวคริสต์เรียกคัมภีร์ไบเบิ้ลในชื่ออื่น ๆ
อีกหลายชื่อเช่น - พระวจนะของพระเจ้า ( Word of God ) - หนังสือดี( Good
Book ) - คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ( Holy Scripture )
คริสตชนทุกคนเชื่อว่าพระคัมภีร์ทุกบททุกข้อนั้นมนุษย์เขียนขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า
ประกอบด้วยหนังสือจำนวน 66 หรือ 73 หรือ 78 เล่ม (แล้วแต่นิกาย) ประกอบด้วยภาค
พันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมถูกเขียนขึ้นก่อนที่พระเยซูคริสต์
ประสูติ
พระคัมภีร์เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดของเวลา
ทั้งหมดที่มียอดขายต่อปีประมาณ 100 ล้านเล่มและได้รับอิทธิพลสำคัญใน
วรรณคดีและประวัติศาสตร์
7
พิธีกรรม
พิธีกรรมเป็นอีกเรื่องที่อยู่คู่กับความเชื่อทางศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พิธีกรรมเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งเพื่อสนับสนุนความเชื่อนั้น หากเป็นศาสนา
พุทธ พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องก็จะเป็น การสวดมนต์ ทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน ฟัง
เทศน์ ฟังธรรม แต่หากเป็นศาสนาคริสต์เค้ามีพิธีกรรมอะไรบ้าง เรามาศึกษากัน
1.ศีลล้างบาป ( Baptism ) หรือศีลจุ่ม
เป็นเครื่องหมายภายนอกที่มาจากความเชื่อภายใน เพื่อเป็นการชำระหรือลบล้างบาปกำเนิด
อาศัยการช่วยให้รอดขององค์พระเยซูคริสตเจ้าเครื่องหมายที่สำคัญ คือ น้ำ และการชำระล้าง
พร้อมกับคำกล่าวว่า "ข้าพเจ้าล้างท่าน ในพระนามของพระบิดา และพระบุตร และพระจิต"
ผลของศีลล้างบาป ทำให้เราได้รับพระหรรษทาน
ได้กลับเป็นลูกของพระ มีเกียรติและศักดิ์ศรีสมบูรณ์
แบบ เพื่อดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมายของความศักดิ์สิทธิ์
ทั้งในชีวิตนี้และชีวิต นิรันดรในสวรรค์
https://www.sanook.com/horoscope/60153/
8
2. ศีลกำลัง ( Confirmation ) หรือ การยืนยัน
การรับศีลกำลังจึงเป็นการยืนยัน เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึง “การบรรลุนิติภาวะทางความเชื่อ”
หรือความศรัทธา คือการพัฒนาเติบโต มีกำลัง เข้มแข็งในความเชื่อ สามารถเป็นพยานถึงความ
เชื่อ ทั้งด้วยความคิด คำพูด และการปฏิบัติ
เครื่องหมายสำคัญของศีลกำลัง คือ การปกมือ และการเจิมน้ำมัน คริสมาที่หน้าผาก
ผลของศีลกำลัง คือ การได้รับพระคุณของพระ
จิต 7 ประการ ได้แก่ 1.พระดำริ 2.สติปัญญา
3.ความคิดอ่าน 4.พละกำลัง 5.ความรู้
6.ความศรัทธา 7.ความยำเกรงพระเจ้า
https://pohnpawee089.wordpress.com
3. ศีลอภัยบาป ( Penance ) หรือ การคืนดี
เพราะว่าเรามนุษย์มีความอ่
อนแอ และง่ายต่อการตกอยู่ในบาป ผิดพลาดไปได้ ทำให้สูญเสียชีวิต
พระหรรษทาน และอยู่ในสภาพของบาป ดังนั้น ศีลอภัยบาป เป็นการคืนดีกับพระและเพื่อนพี่น้อง
มีความเสียใจ และตั้งใจที่จะกลับคืนดี เริ่มต้นชีวิตใหม่ในพระหรรษทานของพระต่อไป
ผลของศีลอภัยบาป คือ ทำให้ผู้รับได้กลับคืนดีกับพระ และ
อยู่ในชีวิตพระหรรษทาน สำนึกถึงความรักของพระ และตั้งใจที่
จะปรับปรุงแก้ไข เริ่มต้นใหม่
9
4. ศีลมหาสนิท
พิธีนี้จะเป็นการทำตามอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูที่ท่านกินก่อนจะถูกตรึงกางเขน
ขั้นตอนพิธีการก็จะเริ่มต้นจากการให้ผู้นับถือกินขนมปังที่ไม่ใส่ยีสต์และผงฟู
(ให้เหมือนพระเยซูกินตอนนั้น)
จากนั้นบาทหลวงจะดำเนินกิจกรรมด้วยการอ่าน
พระคัมภีร์เกี่ยวกับพิธีมหาสนิท
เมื่อพูดจบ ก็จะให้เราหักขนมปักเพื่อเป็นตัวแทนของร่างกาย
จากนั้นก็จะให้กินขนมปัง ตามมาด้วยน้ำองุ่น ก็ทำเช่นเดียวกัน
5. ศีลสมรส ( Matrimony ) หรือศีลกล่าว
เป็นความรักที่ ชายและหญิงมีต่อกัน และพร้อมที่จะกล่าวประกาศว่าเขาทั้งสองรัก
กัน ด้วยความสมัครใจ มีอิสระอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ถูกบังคับ และพร้อมที่จะร่วม
ชีวิตคู่ เพื่อเป็นของกันและกัน เป็นหนึ่งเดียวในความรักที่หย่าร้างไม่ได้ ที่จะ
ซื่อสัตย์ต่อกันจนตลอดชีวิต เพื่อเป็นเครื่องหมาย เป็นพยานถึงความรักของพระ
และพร้อมที่จะมอบครอบครัวใหม่ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระ
10
6. ศีลบวช ( Holy Orders ) หรือการถวายตัว
ผู้ที่จะสมัครบวช หรือถวายตัวแด่พระ เป็นพระพรแห่งกระแสเรียกที่พระทรงเรียก และเลือกบุคคล
หนึ่งให้ดำเนินชีวิต และมีภารกิจในการเป็นศาสนบริการ ผู้แทนสงฆ์ของพระคริสตเจ้า ในการ
ประกาศสอนคำสอน การประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ และการปกครองดูแลหล่อเลี้ยงชีวิตคริสตชน
7. ศีลเจิมคนไข้ ( Anointing of the Sick ) หรือสำหรับผู้ป่วย
มิใช่เป็นศีลทาสุดท้าย และจะต้องตาย แต่เป็นศีลที่โปรดให้สำหรับผู้ป่วยที่อ่อนกำลัง ในสภาพที่น่า
เป็นห่วง หรือกำลังจะสิ้นใจ เพื่อเขาจะได้รับพระหรรษทานในยามเจ็บป่วย และเป็นการเตรียมจิตใจให้
ยึดมั่นในความเชื่อ และเพื่อการฟื้นฟูสภาพทั้งกายและจิตใจ
11
หลักปฏิบัติ
1.การภาวนา
เป็นรูปแบบความผูกพันระหว่างมนุษย์กับพระเป็นเจ้า
เป็นการสะท้อน ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ที่ลึกซึ้งตาม
ประสามนุษย์ว่า “เราจะบอกว่าเรารักกันได้อย่างไร หาก
เราไม่เคยคิดถึงกัน ไม่เคยสนทนากัน ไม่เคยมี
ปฏิสัมพันธ์กัน ไม่เคยคิดที่จะทำสิ่งดีดีให้แก่กันและกัน
หรือเมื่อคิดถึงแล้ว ก็ไม่เคยปฏิบัติสิ่งที่ดีต่อ
กัน”
2.การทําบุญให้ทาน
คำสอนสำคัญของคริสต์ศาสนา คือ “จงรักพระเป็นเจ้า และจงรักเพื่อนมนุษย์”
3.การแต่งกาย
การแต่งกายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของคนแต่ละชาติ แต่ละท้องถิ่น ซึ่งมีความดี
งามความเหมาะสม ตามแต่ละบริบทของตน ดังนั้น คริสต์ศาสนาจึงปรับตนเองให้เข้า
กับแต่ละวัฒนธรรมโดยคริสต์ศาสนิกชน สามารถแต่งกายได้ตามจารีตประเพณีเเต่
งกายสุภาพตามสถนาที่ไป
12
4.อาหารการกิน
คริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิก จะอดเนื้อในวันศุกร์ทุกสัปดาห์ตลอดทั้งปี เพราะ
ถือว่าเป็น วันพลีกรรมทั่วไป แต่ในเทศกาลมหาพรต (ระยะเวลาประมาณ 40 วัน ก่อน
วันระลึกถึงพระมหาทรมาน ของพระเยซูเจ้า หรือวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ (Good Friday)
คริสต์ศาสนิกชนจะอดอาหารในวันพุธรับเถ้า (วันแรก ของเทศกาลมหาพรต) และวัน
ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ (วันที่ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า)
5.การทักทาย
เรามักจะได้พบการทักทายหรือคำบอกลาที่แสดงถึงความเป็นคริสต์ศาสนิกชนอยู่บ่อยๆ ทั้งใน
ภาพยนตร์หรือในการเข้าสังคม อาทิ “ขอพระเ
จ้าสถิตกับท่าน” “ขอพระเจ้าคุ้มครอง” “รักใน
พระคริสต์” “สุขสันต์วันคริสต์มาส” (Merry Christmas) “สุขสันต์วันปัสกา” (Happy
Easter) “สันติสุขจงอยู่กับท่าน” (Peace be with you) จนบางครั้งอดสงสัยไม่ได้ว่าคำ
ทักทาย การจับมือ การกอด การเอาแก้มสัมผัสกัน หรือคำกล่าวลา เป็นส่วนหนึ่งของวิธี
ปฏิบัติที่แสดงออกถึงความคริสต์ศาสนิกชนด้วยหรือไม่ หรือเป็นวัฒนธรรม ของแต่ละท้องถิ่น
จริงๆ แล้วการทักทายเป็นส่วนหนึ่งของคำอวยพรที่คริสต์ศาสนิกชนมีให้แก่กันในทุกวันเวลา
ของชีวิต ในการพบปะกันท่ามกลางผู้มีความเชื่อเดียวกัน
13
หลักธรรม
หลักธรรมคำสอน คำสอนของพระพระเยซูเจ้าจากอุปมา หรือการเล่านิทานเปรียบเทียบ..... ในพระ
คัมภีร์...ภาคพระธรรมใหม่ โดยเฉพาะในพระวรสาร เราจะพบว่า พระเยซูเจ้าทรงสอนพระธรรมคำสอน
ของพระองค์ด้วยคำอุปมาอยู่บ่อย ๆ ทรงแปลงเรื่องยาก ๆ ที่เป็นนามธรรมให้กลายเป็นเรื่องที่ฟังได้แบบ
สบายๆ ถ้าหากต้องการให้คำอุปมาของพระองค์เกิดประโยชน์และมีคุณค่ากับชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมจริง ๆ
ต้องหมั่นนำคำอุปมา ของพระองค์มาคิดทบทวนไตร่ตรองอยู่เสมอ ๆ และนำไปปฏิบัติในชีวิตจริง
1. คคำวเาทมศสุนข์สแอก่น.เ..รื.่อผูง้มแีรใกจยหารืกอปจนฐมคเือทศผูน้ทีา่มขีใอจงสพุภราะเพยถซู่อเ
จม้าตเนรื่อมีงคคววาามมเสปุ็ขนแเทด้็จกรทิงาหงจริืตอบใุจญเลป็านภจิต8ใปจทรี่ะพึกงาพราคือ
2. ความสุขแก่ ... ผู้เป็นทุกข์โศกเศร้า คือ ผู้ที่เป็นทุกข์เศร้าโศกเพราะความบาป การถูกกดขี่จาก พระเจ้า
เสมอกฎของศาสนา สังคม และการเมือง
14
บรรณานุกรม
ประวัติศาสนาคริสต์ สืบค้นจาก
atit.up.ac.th/BBC07/AroundTheWorld/reli/14.htm
(สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2566)
สัญลักษณ์ สืบค้นจากhttps://readthecloud.co/arma-christi/
(สืบค้นดเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2566)
คัมภีร์ สืบค้นจากhttps:/
/th.wikipedia.org/wiki4
(สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2566)
พิธีกรรม สืบค้นจากh.wikipedia.org/wiki/
(สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2566)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/5
คณะผู้จัดทำ
นางสาวกรพินท์ เมธสาร เลขที่ 9
นางสาวณัฐกานต์ ฉายอรุณ เลขที่15
นางสาวนิศาชล พิมพ์ข
ันธ์ เลชที่17
นางสาวปวีณา วงค์ธิ เลขที่18
นางสาวอนงค์ทิพย์ พงษ์สระพัง เลขที่ 21
นางสาวเจนจิรา เฉยดี เลขที่ 30