ชุดที่ ของ ชุด หน้า ๑ ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ตอนที่ ๑ กล่าวทั่วไป ในปัจจุบันมีปัจจัยต่าง ๆ เป็นเป็นจำนวนที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติทางทหาร ดังนั้นเพื่อให้เป็น ที่มั่นใจว่าปัจจัยต่าง ๆ เหล่านั้นได้รับการเก็บยกมาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ สมเหตุสมผล จึงจำเป็นต้องกำหนดวิธีแก้ไขปัญหาอย่างมีระเบียบ สำหรับ หน่วย ป.พัน.๓ กำหนดไว้ ๓ วิธีได้แก้ ๑. การประชุมตกลงใจ เป็นการประชุมแก้ปัญหาที่ใช้อยู่ประจำ ทั้งเวลาปกติและเวลาปฏิบัติ ทางยุทะวีในกรณีที่ปัญหาไม่มีข้อยุงยากและมีเวลาจำกัด โยด ผบ. ป.พัน.๓ จะประชุมสั่งการ จะ ให้ใครทำอะไรเมื่อใด ที่ไหนทำอย่างไร และทำไม ต้องปฏิบัติเช่นนั้น ๒. ข้อพิจารณาของฝ่ายอำนวยการ เป็นการแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานเวลาปกติ จะไม่ขอ กล่าวในที่นี้ ๓. การปฏิบัติตามลำดับ การปฏิบัติงานของ ผบ./ฝอ. ส่วนใหญ่จะให้แก้ปัญหาในสถานการณ์ ทางยุทธวิธีเกี่ยวกับการพิจารณาแผน/คำสั่งการรบ การปฏิบัติงานพร้อมกันของ ผบ.และ ฝอ. ตอนที่ ๒ การปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้บังคับกองพันกับฝ่ายอำนวยการ เป็นการแสวงหาข้อตกลงใจสำหรับปฏิบัติภารกิจที่มีความยุ่งยากและมีเวลาเพียงพอ ซึ่งจะอยู่ ในขั้นการวางแผนขั้นต้นของกรรมวิธี การนำหน่วยของ ผบ.ป.3 พัน.๓ โดยการปฏิบัติงานร่วมกัน ดังกล่าวประกอบหัวข้อสำหรับ ๙ หัวข้อ ดังนี้ ๑. การรับภารกิจ ๒. การให้ข่าวสารขั้นต้นแก่ ผบ. และฝอ. ๓. การวิเคราะห์ภารกิจและแนวทางในการวางแผน ๔. การประมาณการของ ฝอ. และการประมาณสถานการณ์การของ ผบ. ๕. การให้ข้อตกลงใจและให้แนวทางในการปฏิบัติ ๖. การจัดทำแผน/คำสั่ง ๗. การอนุมัติแผน/คำสั่ง ๘. การแจกจ่ายแผน/คำสั่ง
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 2 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ๙. การกำกับดูแลทาง ฝอ.และ ผบ. ตอนที่ ๓ การรับภารกิจ ภารกิจ คือ ข้อความของงานที่ต้องกระทำภารกิจจะให้รู้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน และทำไม (อย่างไรจะระบุในหนทางปฏิบัติ) โดยปกติภารกิจในวงรอบการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง ผู้บังคับบัญชากองพันและฝ่ายอำนวยการของ ป.พัน.๓ จะเริ่มขึ้น ๒ ลักษณะ ๑. ป.3 พัน.๓ ได้รับภารกิจทางยุทธวิธีจากหน่วยเหนือ ซึ่งอาจเป็นภารกิจทางยุทธวิธี มาตรฐาน ๔ แบบ หรือไม่มาตรฐานก็ได้ ๒. ผบ.ป.3 พัน.๓ ริเริ่มภารกิจขึ้นตามสถานการณ์ทางยุทธวิธีที่เกิดขึ้น เพื่อตอบสนอง แผนการของหน่วยดำเนินกลยุทธ เมื่อได้รับภารกิจช่วยโดยตรง ตอนที่ ๔ การให้ข่าวสารขั้นต้น หลังจากที่ ป.3 พัน.๓ ได้รับมอบภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ผบ.ป.3 พัน.๓ จะสั่งให้ รอง ผบ.ป.3 พัน.๓ จัดการประชุมทางฝ่ายอำนวยการขึ้น เพื่อแจ้งข่าวสารที่ได้รับให้กับฝ่าย อำนวยการและฝ่ายกิจการพิเศษได้รับทราบและฝ่ายอำนวยการทุกสายงานจะแจ้งข่าวสารขั้นต้นให้ ผบ.ป.3 พัน.๓ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารซึ่งกันและกัน ให้ทุกคนรับทราบสิ่งต่าง ๆ กัน การ ให้ข่าวสารของขั้นต้นของ ฝอ. ต่อ ผบ.ป.3 พัน.๓ มีรายละเอียดดังนี้ ๑. การให้ข่าวสารขั้นต้นของ ฝอ. ๒ ก. ในการให้ข่าวขั้นต้นของ ฝอ. ๒ ควรสรุปสถานการณ์ในด้านข่าวกรอง เพื่อให้ ผบ.ป.3 พัน.๓ และ ฝอ. ในสายงานต่าง ๆ ได้มีความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและปรับตัวให้เข้ากับ สถานการณ์ขณะนั้น โดยมีหัวข้อสำคัญที่จะต้องเน้นให้เห็นถึงผลกระทบกระเทือนจากปัจจัยลม ฟ้าอากาศและภูมิประเทศที่มีต่อปฏิบัติการทางทหารของหน่วยรวมถึงข้อสรุปเกี่ยวกับฝ่ายข้าศึกที่ กระทบกระเทือนการบรรลุภารกิจของฝ่ายเรา ซึ่งมีลำดับหัวข้อดังนี้ ๑) ผลสรุปของลมฟ้าอากาศ ทั้งในด้านที่เกื้อกูลและไม่เกื้อกูลต่อฝ่ายเราและฝ่าย ข้าศึก โดยเฉพาะผลจากปัจจัย เมฆ,ลม,ฝน,อุณหภูมิ,ความชื้นสัมพันธ์,ความกดอากาศ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 3 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) และรายการแสงสว่างที่ กระทบกระเทือนต่อ : ก) ทัศนวิสัย ข) การตรวจการและการยิง ค) แนวทางเคลื่อนที่ ง) การใช้อาวุธยิงสนับสนุนด้วยวิธีเล็งจำลอง จ) การใช้ควันและสารเคมีชีวะ ฉ) ผลที่บังเกิดต่อกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ช) ผลต่อการปฏิบัติทางทหาร ๒) ผลสรุปการกระทบกระเทือนจากสภาพภูมิประเทศ เน้นลักษณะทางยุทธวิธี โดยเฉพาะต้องระบุถึง ก) สภาพ,ที่ตั้ง,ขอบเขต,ผละผลที่จะบังเกิดจากเครื่องกีดขวาง (ธรรมชาติและสร้าง ขึ้น) ข) สภาพ,ที่ตั้งของภูมิประเทศสำคัญ ให้กล่าวถึงอิทธิพลที่จะบังเกิดขึ้นต่อภารกิจ, การใช้อำนาจกำลังรบและการดำเนินกลยุทธ รวมทั้งข้อเสนอในการควบคุมภูมิประเทศสำคัญ ค) ระบุแนวทางเคลื่อนที่โดยวาดรูปให้เห็นถึงสภาพที่เกื้อกูลและไม่เกื้อกูลต่อ ปฏิบัติการทางทหารทั้งสองฝ่ายโดยเน้นความสะดวกในการเคลื่อนที่มีพื้นที่กว้างขวางเพียงต่อการ กระจายกำลังและดำเนินกลยุทธ ง) สรุปถึงอิทธิพลที่บังเกิดต่อด้านการช่วย ๓) สรุปสถานการณ์ของฝ่ายข้าศึก ควรกล่าวถึง ก) ฝ่ายข้าศึกคือใคร มีหลักนิยมทางยุทธวิธีอย่างไร**************** ข) การประกอบกำลัง,การวางกำลัง (ควรใช้แผนที่สถานการณ์ประกอบแผน บริวาร) ค) กำลัง ทั้งกำลังเผชิญหน้า,กำลังเพิ่มเติม,และกำลังอื่น ๆ ง) การปฏิบัติที่สำคัญในห้วงเวลา ( เน้นสาระที่จะเป็นสิ่งบอกเหตุในการวิเคราะห์ ขีดความสามารถในขั้นประมาณการข่าวกรองต่อไป )
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 4 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) จ) สรุปหนทางปฏิบัติของฝ่ายข้าศึก และความล่อแหลมต่ออันตรายที่อาจใช้ ขัดขวางการบรรลุภารกิจของฝ่ายเรา ข. ในกรณีข่าวสารในแต่ละหัวข้อไม่เปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมจนเกิดผลกระทบต่อการ ปฏิบัติทางทหารให้อ้างถึงข้อมูลที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยเน้นเฉพาะหัวข้อและเรื่องราวสำคัญที่จะเป็น ต่อการประมาณการ การเลือกหนทางปฏิบัติและมีส่วนช่วยในการตกลงใจของผู้บังคับบัญชา ที่จะ กำหนดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างดีที่สุด ค. ข้อสรุปสถานการณ์ให้เน้นการปฏิบัติของข้าศึกและอิทธิพลของลมฟ้าอากาศ/ภูมิ ประเทศที่มีผลต่อการยิงสนับสนุน ๒.การให้ข่าวสารขั้นต้นของ ฝอ. ๓ ก. ก่อนที่ ฝอ. ๓ จะเสนอข่าวสารขั้นต้นต่อผู้บังคับบัญชา ข่าวสารนั้นจะต้องได้รับการ วิเคราะห์และการทำให้กระชับกับได้รับการประเมินถึงเรื่องสำคัญความเชื่อถือได้และความ สมบูรณ์ที่ไม่ควรเพิ่มภาระแก่ผู้บังคับบัญชาต้องการให้ข่าวสารที่มากเกินความจำเป็นแต่ ผู้บังคับบัญชาต้องได้รับทราบล่วงหน้าถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับข้อตกลงใจ ซึ่ง ฝอ.๓ จะมีความเข้าใจพื้นฐานถึงความต้องการในเรื่องราวข่าวสารของผู้บังคับบัญชาและ ฝอ. ทั้ง ปวง แนวทางของเรื่องที่ควรปรากฏในการให้ข่าวสารของ ฝอ. ๓ มีดังนี้ ๑) กำลังฝ่ายเรา ก) หน่วยรองหลัก ของ บก. หน่วยเหนือ (ระบุการวางกำลัง) ข) หน่วยข้างเคียงทางยุทธวิธี (ระบุการวางกำลัง) ค) หน่วยที่หน่วยเหนือให้การสนับสนุน (กำลังทางอากาศและกำลังยิงสนับสนุน) ง) สถานการณ์ นชค. ๒) ภารกิจและแผนในอนาคต ก) หน่วยเหนือ/หน่วยข้างเคียง (หน่วยขวา,ซ้าย,หน้า,และหลัง) ข) หน่วยเรา
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 5 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ๓) การวางกำลังและเส้นแบ่งเขต (หน่วยเหนือ, หน่วยข้างเคียงอาจแสดงคานแผ่น บริวารยุทธการ) ๔) สถานภาพหน่วยและปัญหาหลักที่มีอยู่ รวมถึงสถานภาพหน่วยรองของหน่วย (หน่วยในอัตรา) หน่วยสมทบแลหน่วยสนับสนุน ๕) อำนาจกำลังรบเปรียบเทียบ (อาจเว้นไปกล่าวในการประมาณการยุทธ) ประกอบด้วย - หน่วยดำเนินกลยุทธ - การควบคุม - ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนย้าย - การติดต่อสื่อสาร - การยิง - ขวัญ/ ประสิทธิภาพการรบ - การใช้ นชค. - การบังคับบัญชา ข. การเสนอข่าวสาร ให้เน้นที่มีผลต่อการยิงสนับสนุน ๓. การให้ข่าวสารขั้นต้นของ ฝอ. ๔ ก. ฝอ. ๔ จะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยในเรื่องสถานการณ์ทางการส่งกำลังบำรุง ของหน่วย, หน่วยในอัตรา หน่วยที่มาสมทบ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาและ ฝอ. ใช้ในการวิเคราะห์ ภารกิจและกำหนดแนวทางการวางแผน ซึ่งเรื่องที่ต้องกล่าวในการให้ข่าวสารขั้นต้นของ ฝอ. ๔ มี ดังนี้ ๑) ที่ตั้งการส่งกำลังบำรุง (หน่วยเหนือ) ๒) ระบบการแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ ประเภทต่าง ๆ ที่หน่วยเหนือกำหนด ๓) การขาดแคลนยุทธภัณฑ์หลักของหน่วยเหนือ ๔) อัตรากระสุนที่ใช้ได้ ที่หน่วยเหนือกำหนด ๕) สถานภาพทางการส่งกำลังบำรุงของหน่วยปัจจุบัน
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 6 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ๖) เบ็ดเตล็ด (เช่น น้ำ ,การเคลื่อนย้าย,การก่อสร้าง,การใช้สิ่งปลูกสร้างในท้องถิ่น) ข. การเสนอข่าวสาร ให้เน้นที่มีผลต่อการยิงสนับสนุน ๔. การให้ข่าวสารขั้นต้นของ ฝอ. ๑ ก. ฝอ. ๑ จะบรรยายสรุปเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบ ๖ ประการ ของฝ่ายกำลังพลให้ ผบ.และ ฝอ. อื่น ๆ ทราบซึ่งจะบรรยายโดยสังเขปเท่าที่จำเป็น เพื่อทำการประมาณสถานการณ์ ของ ผบ. และการทำประมาณการของ ฝอ. การให้ข่าวสารขั้นต้นจะสั้นหรือยาวขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ดังนี้ ๑) เวลาที่กำหนดให้ ๒) ผบ.และ ฝอ. ได้ทราบข่าวมาก่อนมาก หรือน้อยเพียงใด ๓) เรื่องใดที่ทราบแล้ว และ/หรือจะจ่ายเป็นเอกสารต่อไป ไม่ต้องนำมากล่าวใน รายละเอียด ๔) นโยบายของ ผบ. /ความต้องการของ ฝอ. อื่น ๆ ข. การให้ข่าวของ ฝอ.๑ มีสาระตามการในหน้าที่ ๖ ประการ ได้แก่ ๑) การรักษายอดกำลังพล ๒) การจัดการกำลังพล ๓) การพัฒนาและรักษาขวัญ ๔) การรักษาวินัย กฎ ข้อบังคับ และคำสั่ง ๕) การจัดการภายใน บก. ๖) เบ็ดเตล็ด ๕. การให้ข่าวสารขั้นต้นของผู้บังคับกองพัน ก. เมื่อฝ่ายอำนวยการและฝ่ายกิจการพิเศษที่กำหนดไว้มาประชุมเพื่อรับทราบภารกิจ เรียบร้อยแล้ว ผบ.พัน. จะให้ข่าวสารทั้งปวงที่มีอยู่หรือที่รับทราบในช่วงเวลานั้นแก่ฝ่ายอำนวยการ เพื่อช่วยให้ ฝอ.เข้าใจในกิจ(งาน)ต่าง ๆ ของภารกิจรวมทั้งความต้องการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละ สายงานได้ดียิ่งขึ้นข่าวสารดังกล่าวอาจรวมถึง ๑) การอธิบาย “เจตนารมณ์” และแนวทางในการวางแผนของผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 7 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ๒) การทำความเข้าใจในรายละเอียด ๓) ข้อห่วงใย ๔) การปฏิบัติที่คาดคิด และทางเลือกต่าง ๆ ตอนที่ ๕ การวิเคราะห์ภารกิจและให้แนวทางในการวางแผน ๑. การวิเคราะห์ภารกิจ ก. เมื่อ ผบ.ป.3 พัน.๓ และฝ่ายอำนวยการได้แลกเปลี่ยนข่าวสารเพื่อให้รับทราบ สถานการณ์โดยทั่วกันแล้ว รอง ผบ.ป.3 พัน.๓ จะจัดประชุมฝ่ายอำนวยการเพื่อวิเคราะห์ภารกิจ โดยเฉพาะจะให้แนวทางวิเคราะห์รวมถึงเวลาที่ ฝอ. มีสำหรับวิเคราะห์ภารกิจ และกำหนดว่าจะรับ ผลการวิเคราะห์ภารกิจ “ที่ไหน” และ “เวลาใด” ซึ่ง ฝอ.แต่ละสายงานจะเริ่มวิเคราะห์ภารกิจใน ขอบเขตความรับผิดชอบของตน โดยปัจจัยหลักของ ฝอ. แต่ละสายงานต้องเข้าใจว่าอะไรเป็นสิ่ง สำคัญยิ่ง “ สำหรับผู้บังคับกองพัน ข. การวิเคราะห์ภารกิจ จะรวมสิ่งต่อไปนี้ ๑) ความมุ่งหมาย ของภารกิจของหน่วยเหนือ ๒) เจตนารมย์ ของผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือ (ขึ้นไป ๒ ระดับ) ๓) ทบทวนพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อให้เข้าใจภารกิจและเจตนารมย์ ๔) ระบุกิจหรืองานต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติ (กิจเฉพาะและกิจแฝง) ๕) เครื่องมือ (หน่วย) ต่าง ๆ ที่มีอยู่ (เพิ่มหรือลดจากปัจจุบัน) ๖) ข้อบังคับ (สิ่งต่าง ๆ ที่ต้องกระทำ) ๗) ข้อห้าม (สิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถกระทำได้) ๘) ระดับการเสียงที่ยอมรับได้ ๙) การวิเคราะห์เวลาในขั้นต้น ค. ความมุ่งหมายของภารกิจของหน่วยเหนือทำให้เข้าใจถึงคำว่า “ทำไม”ของภารกิจ (เพื่อ.........)
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 8 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ง. เจตนารมย์ข่าวสารที่ต้องใช้วิเคราะห์ภารกิจที่หาได้จากส่วนต่าง ๆ ของแผน/คำสั่ง หน่วยเหนือ ดังนั้นเพื่อให้การวางแผนเป็นไปอย่างถูกต้อง ฝอ.จะต้องทราบ“เจตนารมณ์”ของ ผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือขึ้นไป ๒ ระดับ(เช่น คำสั่ง ป.๓ จะต้องมีเจตนารมณ์ของ ผบ.พล.ร.๓ ใน ข้อ ๑ ในข้อย่อย ข และเจตนารมณ์ของ ผบ. ป.๓ ในข้อ ๓ ก (ข้อย่อยที่กล่าวถึงเจตนารมย์) ซึ่งจะ ทำให้ ผบ. ป.พัน.๓ สามารถพัฒนาแผนในการสนับสนุนการปฏิบัติเป็นส่วนรวมได้ จ. พื้นที่ปฏิบัติการ คือพื้นที่กำหนดในคำสั่งปกติอยู่ในแผนบริวารยุทธการพื้นที่ปฏิบัติการ จะถูกกำหนดขึ้นโดยมีพื้นมาจากการประมาณสถานการณ์ของ ผบ. และ ฝอ. ฉ. กิจ (งาน) ต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติแยกเป็น ๑) กิจเฉพาะ (SPECIFIED TASKS) คือ กิจต่าง ๆ ที่ไม่ได้กล่าวในแผน/คำสั่งหน่วย เหนือ ส่วนใหญ่จะได้มาจากข้อ ๒ และข้อ ๓ แต่อาจจะพบในที่อื่นเช่นในหัวข้อคำแนะนำในการ ประสาน หรือ ผนวกต่าง ๆ กิจใดที่เกี่ยวข้องกับหน่วยควรระบุและบันทึกไว้ (การสมทบ,การ สนับสนุน) ๒) กิจแฝง (IMPLED TASKS) คือ กิจต่าง ๆ ที่ไม่ได้กล่าวในแผน/คำสั่ง แต่ต้องกระทำ ให้บรรลุเพื่อความสำเร็จของภารกิจ เป็นส่วนรวม เพื่อให้บรรลุกิจเฉพาะ ในการหากิจแฝงจะต้อง วิเคราะห์คำสั่งอย่างละเอียด ซึ่งจะต้องนำสถานการณ์ฝ่ายข้าศึกที่ทราบและลักษณะภูมิประเทศ ร่วมพิจารณาด้วย ช. เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีอยู่ จะแบ่งมอบเครื่องมือ (หน่วย) ไว้ในการจัดเฉพาะกิจ หรืออาจ กล่าวในการจัดหน่วยเพื่อทำการรบในข้อ ๓ สิ่งที่สำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างภารกิจและ เครื่องมือต่างๆ การผสมผสาน เวลา,พื้นที่และสิ่งต่าง ๆ ซ. ข้อบังคับ คือข้อจำกัดต่าง ๆ ที่กำหนดให้หน่วยโดยหน่วยเหนือเป็นข้อบังคับจำกัดเสรี ในการปฏิบัติของหน่วยรอง ในการวางแผน หรือ สิ่งต่าง ๆ ที่หน่วยบังคับให้หน่วยต้องกระทำ ด. ข้อห้าม คือ ข้อที่จำกัดต่าง ๆ ที่กำหนดให้กับหน่วย โดยห้ามหน่วยนั้น ๆ ไม่ให้กระทำบางสิ่ง บางอย่าง ต. การเสี่ยงหน่วยอาจระบุการเสี่ยงที่ผู้บังคับหน่วยย่อมรับเพื่อความสำเร็จภารกิจซึ่ง ระดับของการเสี่ยงที่ยอมรับได้ สามารถอนุมานได้จากวิเคราะห์ภารกิจและเจตนารมย์ของ ผบ. หน่วยเหนือ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 9 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ถ. การวิเคราะห์เวลา เวลาเป็นสิ่งสำคัญทำให้เกิดการประสานสอดคล้องของกำลังและ อำนาจกำลังรบอื่นๆ ณ ตำบลและเวลาที่มีผลแตกหัก เวลาที่มีผลกระทบที่สำคัญต่อหนทางปฏิบัติ แผนดำเนินกลยุทธ และความริเริ่ม การวิเคราะห์เวลาใช้แนวทางดังนี้ ๑) กำหนดเวลาที่มีอยู่ ให้คิดเวลาที่มีอยู่ตั้งแต่ที่ได้รับภารกิจจนถึงเวลาที่ปฏิบัติภารกิจ สำเร็จ ตามแผนดำเนินกลยุทธที่กล่าวไว้ในคำสั่ง ๒) รู้วงรอบของการตกลงใจ คือ เวลาทั้งหมดที่ต้องการในการแสวงข้อตกลงใจโดยเริ่ม จากเวลาที่ผู้บังคับหน่วยรับข่าวสาร – ดำเนินกรรมวิธี – ตกลงใจ - ให้คำสั่งและให้หน่วยรอง ปฏิบัติการยุทธ ซึ่งสามารถแบ่งเวลาที่มีอยู่ได้ดังนี้ ก) รับภารกิจใช้เวลา ๕ % ของเวลา ข) การเตรียมข่าวสารขั้นต้นใช้เวลา ๕ % ของเวลา ค) การให้ข่าวสารขั้นต้นใช้เวลา ๒๐ % ของเวลา ง) การวิเคราะห์ภารกิจใช้เวลา ๑๕ % ของเวลา จ) ฝอ.๓ กำหนดหนทางปฏิบัติใช้เวลา ๕ % ฉ) การจัดทำประมาณการ/ประมาณสถานการณ์ใช้เวลา ๑๓ % ช) การใช้ประมาณการใช้เวลา ๒๐ % ซ) การประกาศข้อตกลงใจใช้เวลา ๕ % ด) การจัดทำแผน/คำสั่งใช้เวลา ๒๐ % ต) การอนุมัติแผน/คำสั่งใช้เวลา ๒ % ถ) การแจกจ่ายแผน/คำสั่ง ๓) การแบ่งเวลา ในทันทีที่ ผบ.ป.3 พัน.๓ มีความเข้าใจอย่างกว้าง ๆ เกี่ยวกับภารกิจและ เวลาที่มีอยู่ ผบ.ป.3 พัน.๓ จะแบ่งเวลาสำหรับขั้นตอนต่าง ๆ โดยจะดำเนินการวางแผนย้อนหลัง โดยเริ่มย้อนจากเวลาที่ปฏิบัติภารกิจสำเร็จย้อนถึงเวลารับภารกิจแล้ว แบ่งเวลาประมาณ ๒ ใน ๓ ให้ ร้อย.บก.และ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 10 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ร้อย.ป. สำหรับวางแผน และการเตรียมการของหน่วยซึ่งจะเหลือเวลา ๑/๓ สำหรับ ผบ.ป.3 พัน.๑๓ และ ฝอ.ดำเนินการ ท. หลังจากที่ ฝอ.ได้พิจารณางานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจเฉพาะหรือกิจแฝงที่ต้องปฏิบัติ ให้ บรรลุความสำเร็จ แล้วระบุเป็น “กิจสำคัญยิ่ง ”จากนั้นจะกำหนดภารกิจของหน่วยที่ต้องปฏิบัติขึ้น ใหม่ตามเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือโดยในข้อความของ “ ภารกิจแถลงใหม่ ” ประกอบด้วย ใคร,ทำอะไร,เมื่อใด,ที่ไหน และทำไม ส่วนประกอบคำว่า “อะไร” จะบอกถึง “ กิจ สำคัญยิ่ง “ ถ้ามีกิจสำคัญหลายประการก็จะลงรายการตามลำดับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อ ผลวิเคราะห์ภารกิจ ได้กำหนดภารกิจแถลงใหม่ได้แล้วจะเสนอให้ ผบ.ป.3 พัน.๓ เป็นผู้พิจารณา อนุมัติ ๒. แนวทางในการวางแผน ก. เมื่อ ฝอ.ให้ข่าวสารขั้นต้นและวิเคราะห์ภารกิจให้ ผบ.ป.3 พัน.๓ อนุมัติเป็นภารกิจ แถลงใหม่แล้ว ผบ.ป.3 พัน.๓ จะให้แนวทางในการวางแผนแก่ ฝอ. เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นร่วมกัน สำหรับ ฝอ.ในการวางแผน ซึ่งแนวทางในการวางแผนของ ผบ.ป.3 พัน.๓ จะกล่าวถึง ๑) เจตนารมย์ขั้นต้นของ ผบ.ป.3 พัน.๓ ๒) เวลาที่ต้องการฟังประมาณการ ๓) หนทางปฏิบัติที่ต้องการให้ ฝอ.๓ ไปพิจารณา ๔) แนวทางขั้นต้นในเรื่องเวลา ๓. การออกคำสั่งเตือน ทันทีที่ ผบ.ป.3 พัน.๓ อนุมัติภารกิจแถลงใหม่และให้แนวทางในการวางแผนแล้ว ฝอ.๓ จะให้ คำสั่งเตือนแก่ร้อย.บก./บร.และร้อย.ป. เพื่อให้ทราบถึงการปฏิบัติที่กำลังจะมาถึง ตอนที่ ๖ การประมาณการของ ฝอ. และการประมาณสถานการณ์ของ ผบ. ๑. การกำหนดหนทางปฏิบัติของ ฝอ.๓ ก. เมื่อ ผบ.ป.3 พัน.๓ ได้อนุมัติภารกิจแถลงใหม่และให้แนวทางในการวางแผนแก่ ฝอ. เรียบร้อยแล้ว ฝอ.๓ จะกำหนดหนทางปฏิบัติของหน่วยเพื่อให้บรรลุภารกิจอย่างน้อย ๒ หนทาง ซึ่งแต่ละ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 11 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) หนทางปฏิบัติที่ ฝอ.๓ กำหนดขึ้นจะต้องสามารถปฏิบัติได้และสนองตอบต่อเจตนารมณ์ของ ผู้บังคับบัญชาหลัง จากนั้น ฝอ.๓ จะแจ้งหนทางปฏิบัติที่กำหนดขึ้นให้กับ ผบ.ป.3 พัน.๓ จัดทำ ประมาณสถานการณ์ต่อไป ในทุกหนทางปฏิบัติจะประกอบด้วย ทำอะไร,เมื่อไร,ที่ไหน และทำ อย่างไร สิ่งที่ ฝอ.๓ ต้องพิจารณาในการพัฒนาหนทางปฏิบัติได้แก่ ๑) เจตนารมย์ของผู้บังคับหน่วย ๒) แนวทางในการวางแผนของผู้บังคับหน่วย ๓) ข้อกำหนดในการรบอากาศ – พื้นดิน ๔) หลักการสงคราม ๑๐ ประการ ๕) กิจสำคัญยิง ๖) การบังคับบัญชาและการควบคุม ๒. การเสนอประมาณการของ ฝอ.๒ ก. ภายหลังจากที่ ผบ.ป.3 พัน.๓ ได้ให้แนวทางการวางแผนแล้ว ฝอ.๒ จะประสานกับ ฝ่ายอำนวยการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ฝอ.๓ เพื่อขอรับทราบหนทางปฏิบัติที่กำหนดขึ้น พร้อมทั้ง รวบรวมข่าวกรองที่มีอยู่และผลิตขึ้น เพื่อนำไปจัดทำประมาณการข่าวกรองด้วยการตรวจสอบ ปัจจัยด้านการข่าวกรองทั้งปวง แล้วทำการพิจารณา และวิเคราะห์ตามลำดับของกระบวนการใน การจัดประมาณการข่าวกรอง เพื่อให้ได้ข้อสรุปถึงผลดังต่อไปนี้ ๑) ผลของพื้นที่ปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายเรา ๒) หนทางปฏิบัติที่ฝ่ายตรงข้ามน่าจะนำมาใช้ ๓) ความหล่อแหลมต่ออันตรายของฝ่ายข้าศึก ข. การเสนอประมาณการของ ฝอ.๒ สามารถกระทำโดยความริเริ่มของ ฝอ.๒ ตาม ความ จำเป็นของสถานการณ์หรือเมื่อ ผบ.ป.3 พัน.๓ มีความต้องการ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ๑) คำนึงถึงเวลาและความจำเป็นของความต้องการข่าวกรองของ ผบ.ป.3 พัน.๓ ใน สถานการณ์ขณะนั้น
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 12 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ๒) เสนอข่าวกรองที่มีสาระสำคัญที่จำเป็นต่อการวางแผนการปฏิบัติการรบ โดยอาศัย ประมาณการข่าวกรองแต่อย่างน้อยควรกล่าวถึง ก) ทบทวนลักษณะพื้นที่ทางทหารที่มีความสำคัญต่อการปฏิบัติของทั้งสองฝ่าย ข) สรุปการปฏิบัติของฝ่ายข้าศึก ค) ระบุและวิเคราะห์ขีดความสามารถของฝ่ายข้าศึก โดยสรุปให้เห็นภาพการ ปฏิบัติตามขีดความสามารถของฝ่ายข้าศึก ที่จะบังเกิดผลกระทบกระเทือนต่อหนทางปฏิบัติที่ฝ่าย เรากำหนด ๓) สรุปผลของประมาณการข่าวกรอง ดังนี้ ก) ผลของพื้นที่ต่อปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายเราตามภารกิจ ข) ให้กล่าวถึงหนทางปฏิบัติที่ข้าศึกน่าจะนำมาใช้ เพื่อขัดขวางการบรรลุภารกิจของ ฝ่ายเรา ค) ให้กล่าวถึงความล่อแหลม ต่ออันตรายของฝ่ายข้าศึก ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ฝ่าย เราแสวงประโยชน์ได้ ค. หัวข้อการประมาณการข่าวกรองของ ฝอ.๒ ประกอบด้วย ๑) ภารกิจ ๒) สภาพพื้นที่ปฏิบัติการ ก) สภาพที่เป็นอยู่ ข) ผลต่อ ห/ป ฝ่ายข้าศึก ค) ผลจ่อ ห/ป ฝ่ายเรา ๓) สถานการณ์ฝ่ายตรงข้าม ก) การวางกำลัง ข) การประกอบกำลัง ค) กำลัง ง) การปฏิบัติที่สำคัญในห้วงเวลา จ) ลักษณะพิเศษและจุดอ่อน
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 13 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ๔) ขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ก) ระบุผลต่อ ห/ป ฝ่ายข้าศึกและ ห/ป ฝ่ายเรา ข) วิเคราะห์ผลต่อ ห/ป ฝ่ายข้าศึกและ ห/ป ฝ่ายเรา ๕) ข้อสรุป ก) สนับสนุนภารกิจ ? ห/ป ใดดีที่สุด ข) ผลของพื้นที่ปฏิบัติการที่มีต่อ ห/ป ของฝ่ายเรา ค) ห/ป ที่ฝ่ายข้าศึกน่าจะนำมาใช้ ง) ความล่อแหลมของฝ้ายข้าศึก ๓. การเสนอประมาณการของ ฝอ.๓ ๔. การเสนอประมาณการของ ฝอ.๑ ก. การทำประมาณการกำลังพลของ ฝอ.๑ เป็นการนำเอาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้แก่ ด้าน การช่าง,ด้านยุทธการ,ด้านส่งกำลังบำรุง และด้านกำลังพลมาพิจารณาว่ามีผลกระทบต่อกิจการการ กำลังพลอย่างไรเพื่อเสนอแนะมาตรการต่าง ๆ ที่ควรกระทำ เพื่อลดผลกระทบทางลบต่อกิจกรรม กำลังพลต่อไป และเป็นการวิเคราะห์รายละเอียดของงานกำลังพล ๖ ประการ ว่าจะสามรถ สนับสนุนหนทางปฏิบัติทางยุทธวิธีในครั้งนั้นได้อย่างไร สามารถสนับสนุนหนทางปฏิบัติใดได้มาก ที่สุด ข. การประมาณกำลังพล ประกอบด้วย ๑) ภารกิจ : ระบุภารกิจแถลงใหม่ ๒) สถานการณ์และข้อพิจารณา ก) สถานการณ์ข่าวกรอง (๑) ลักษณะพื้นที่ปฏิบัติการ : สรุปย่อ ข่าวสารที่ได้จาก ฝอ.๒ (๒) ข้าศึก (ก) กำลังและการวางกำลัง :สรุปย่อข่าวสารเกี่ยวกับกำลังพลและการวาง กำลังของข้าศึก (ข) ขีดความสามารถของข้าศึก : ระบุขีดความสามารถที่ข้าศึกสามารถ กระทำได้
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 14 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) (๓) ผลที่จะบังเกิดต่อกำลังพล : ระบุอันเกิดจากลักษณะพื้นที่ปฏิบัติการ/ข้าศึกที่ กระทบกระเทือนต่อตัวกำลังพล (ร่างกายและจิตใจ) และ/หรือ กระทบกระเทือนต่อกิจการกำลังพล ข) สถานการณ์ทางยุทธวิธี (๑) การวางกำลัง : สรุปข่าวสารเกี่ยวกับที่ตั้งหน่วยหลักทางยุทธวิธีของฝ่าย เราที่ได้รับจาก ฝอ.๓ (๒) หนทางปฏิบัติทางยุทธวิธี : ระบุหนทางปฏิบัติทางยุทธ ที่ได้รับจาก ฝอ.๓ (๓) การยุทธที่คาดว่าจะดำเนินต่อไป : ระบุแผนการยุทธที่หน่วยจะต้อง กระทำต่อไป เมื่อสำเร็จภารกิจแล้ว (๔) ผลที่จะเกิดกำลังพล : ระบุผลที่จะกรทบถึงตัวกำลังพล (ร่างกาย และจิตใจ) และ/หรือกระทบกระเทือนต่อกิจการกำลังพล โดยแยกให้เห็นถึงผลกระทบในแต่ละหนทางปฏิบัติ ค) สถานการณ์ส่งกำลังบำรุง (๑) ที่ตั้งปัจจุบันของหน่วย และสถานที่ตั้งทางการส่งกำลังบำรุง (๒) การเปลี่ยนแปลงเรื่องกิจกรรมส่งกำลังบำรุงที่น่าจะกระทบกระเทือนต่อ กำลัง หรือกิจกรรมของกำลังพล (๓) ผลที่จะเกิดต่อกำลังพล : ระบุผลกระทบที่อาจเกิดแก่กำลังพลเป็น รายบุคคล ง) สถานการณ์กิจการพลเรือน : เช่นเดียวกับสถานการณ์ส่งกำลังบำรุง จ) สถานการณ์กำลังพล : ระบุสถานการณ์ปัจจุบันทางด้านกำลังพลตามหัวข้อ งาน ในหน้าที่ ฝอ.๑ โดยแยกเป็นข้อย่อยเรื่อยไป ๓) การวิเคราะห์ : ให้วิเคราะห์เรียงตามลำดับการในหน้าที่ของ ฝอ.๑ ให้เห็นงานในแต่ ละเรื่องของ ฝอ.๑ กระทบกระเทือนต่อหนทางปฏิบัติทางยุทธวิธีแต่ละหนทางเหมือนกันหรือไม่ อย่าง ไรบ้าง และผลกระทบนั้นจะถึงขั้นทำให้ต้องยกเลิกหนทางปฏิบัติใด ๆ หรือไม่ โดยแยกเขียน เรื่องว่ากันเป็นข้อ ย่อย ๆ ๔) การเปรียบเทียบ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 15 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ก) ประเมินค่าข้อขัดข้องทางกำลังพลที่มีผลต่อหนทางปฏิบัติทุกหนทาง โดยสรุป ให้เห็นย่อ ๆ ว่ามีกิจการกำลังพลใดบ้างที่กระทบกระเทือนหนทางปฏิบัติต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ข) เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้นต่อหนทางปฏิบัติแต่ละหนทาง โดยจะนำ ปัจจัยจากข้อ(ก) มาพิจารณาเปรียบเทียบ โดยพิจารณาเอาหนทางปฏิบัติเป็นมูลฐาน แล้วนำผลการ วิเคราะห์จากกิจการกำลังพลมาเปรียบเทียบ ๕) ข้อสรุป ก) จากการวิเคราะห์และการพิจารณาด้านกำลังพลนั้น สามารถสนับสนุนหนทาง ปฏิบัติทางยุทธวิธีได้ทุกหนทางหรือไม่ มีหนทางใดบ้างที่กิจการด้านกำลังพลไม่สามารถสนับสนุนได้ ข) ในแง่ของกิจการกำลังพล สามารถสนับสนุนหนทางปฏิบัติใดได้ดีที่สุด ค) ปัญหาที่สำคัญและข้อเสนอที่จะแก้ไขข้อขัดข้องที่มีผลกระทบต่อกำลังพลและ กิจการกำลังพล ๕. การประมาณการของ ฝอ.๔ ก. การประมาณการส่งกำลังบำรุงคือกรรมวีซึ่งดำเนินการโดยนายทหารส่งกำลังบำรุง เพื่อที่จะทำการวิเคราะห์ปัจจัยทางการส่งกำลังบำรุง ที่มีอิทธิพลหรือผลกระทบกระเทือน ต่อ หนทางปฏิบัติทางยุทธวิธี ซึ่งฝ่ายยุทธการกำหนดขึ้น เพื่อหาว่าหนทางปฏิบัติใดในแง่คิดของการส่ง กำลังบำรุงสามารถให้การสนับสนุนได้ดีที่สุด ประมาณการส่งกำลังบำรุงเป็นกรรมวิธีที่ถูกต้อง ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนการรบและหลังจากการรบเสร็จสิ้นแล้ว ข. หัวข้อต่าง ๆ ในการประมาณการส่งกำลังบำรุง ๑) ภารกิจ : ระบุภารกิจแถลงใหม่ ได้มาจากการวิเคราะห์ภารกิจ ๒) สถานการณ์และข้อพิจารณา : ฝอ.๔ จะพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ทั้งปวงที่คาดว่าจะมี อิทธิพล หรือผลกระทบต่อการส่งกำลังบำรุง ส่วนใหญ่สามารถหาได้จากประมาณการของ ฝอ. สาย งานต่าง ๆ ฉะนั้น ฝอ.๔ ควรพิจารณาในข้อสถานการณ์ทางการส่งกำลังบำรุงของตนก่อน เพื่อให้ ฝอ. อื่นมีเวลาเตรียมข้อมูลในส่วนที่เราต้องการ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 16 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ก) สถานการณ์ข่าวกรอง : ฝอ. ๔ ดูได้จากข้อ ๒ ของประมาณข่าวกรอง หรือ ประสานกับ ฝอ. ๒ (๑) ลักษณะพื้นที่ปฏิบัติการ : อธิบายลักษณะของพื้นที่ปฏิบัติการ โดยทั่วไป โดยเน้นเฉพาะที่คาดว่ามีผลกระทบกระเทือนต่องานด้านส่งกำลังบำรุง เช่น ถนน,แม่น้ำ,ทางรถไฟ, อาคารสิ่งก่อสร้าง,ป่า,สภาพลมฟ้าอากาศ (๒) กำลังและการวางกำลังฝ่ายข้าศึก สามารถดูจาก ข้อ ๓ ของประมาณการ ข่าวกรอง ซึ่ง ฝอ.๔ ไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดมาก เพียงแต่แสดงการวางกำลังในระดับเท่าที่ ต้องการ (๓) ขีดความสามารถฝ่ายตรงข้าม : พิจารณาเฉพาะขีดความสามารถของ ข้าศึกที่ผลกระทบต่อภารกิจของหน่วยเป็นส่วนรวม และมีผลกระทบต่องานด้านส่งกำลังบำรุง (ก) ผลกระทบต่อภารกิจ : ดูได้จาก ข้อ ๔ ของประมาณการข่าวกรอง (ข) ผลกระทบต่อการส่งกำลังบำรุง : ระบุรายละเอียดและควบคุมต่อ ผลกระทบที่อาจจะเป็นไปได้ต่องานการส่งกำลังบำรุง ควรรวมถึงขีดความสามารถของข้าศึกด้วย ข) สถานการทางยุทธวิธี : ระบุถึงความตั้งใจในการปฏิบัติทางยุทธวิธีว่าเป็นอย่างไร โดยกว้าง ๆ แต่ให้กะทัดรัดควรระบุการวางกำลังของหน่วยในปัจจุบัน หนทางปฏิบัติที่เป็นไปได้การ ปฏิบัติที่คาดการณ์ในอนาคต (๑) การวางกำลังในปัจจุบันของหน่วยหลักทางยุทธวิธี : ให้ระบุข้อมูลดังกล่าวบนแผ่น บริวาร (๒) หนทางปฏิบัติที่เป็นไปได้ : ระบุหนทางปฏิบัติทั้งหมดที่ ฝอ.๓ กำหนดทุก หนทางดูจากข้อ ๒ ค. ประมาณการยุทธ (๓) การปฏิบัติในอนาคต : ระบุถึงการปฏิบัติที่คาดการณ์ในอนาคต และปัจจัย ที่จำเป็นต่อ ฝอ. รายอื่น ๆ ค) สถานการณ์ด้านกำลังพล : เป็นข้อมูลที่รับจาก ฝอ.๑ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ ฝอ.๔ จะต้องทราบ เพื่อให้การสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงเป็นไปอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในเรื่องการ เสนอความต้องการ
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 17 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) (๑) ธุรการและการวางกำลังในปัจจุบันของหน่วย : กล่าวถึงยอดกำลังพลที่ ได้รับอนุมัติ,จำนวนยอดอัตรา,ปัญหากำลังพลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ และการสนับสนุนการส่งกำลัง บำรุง (๒) โครงการพัฒนาปัญหากำลังพลในขั้นต่อไป : ระบุที่มีอิทธิพลต่อการ ส่ง กำลัง เช่น การสมทบหน่วย,หรือแยก และการจัดทดแทนกำลังพล ง) สถานการณ์ด้านกิจการพลเรือน : ระบุการวางกำลังของหน่วยกิจการพลเรือน และ ที่ตั้งซึ่งมีผลกระทบต่อสถานการณ์ส่งกำลังบำรุง รวมทั้งการปฏิบัติด้าน กส. ที่คาดว่ามีผลต่อการส่งกำลัง บำรุง จ) สถานการณ์ด้านส่งกำลังบำรุง : กล่าวให้เห็นถึงสถานภาพด้านการส่งกำลังบำรุงที่ เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยแยกย่อยให้เห็นชัดตามงานต่าง ๆ คือ การซ่อมบำรุง,การส่งกำลังบำรุง.การบริการ การขนส่ง,การส่งกลับและรักษาพยาบาลและอื่น ๆ (ไม่ใช่ขั้นวิเคราะห์ แต่ชี้ให้เห็นสภาพ กบ.ปัจจุบัน) ๑) การซ่อมบำรุง : ระบุสถานภาพชิ้นส่วนซ่อม ที่กระทบกระเทือนต่อขีด ความสามารถในการซ่อมมีรายการชิ้นส่วนซ่อมที่ขาดแคลน,ความสามารถของหน่วยซ่อมบำรุงอำ อาจในการถอดปรน ความเร่งด่วนในการซ่อมบำรุงและสถานภาพยุทโธปกรณ์หลัก ก) ปัจจัยเวลาในการซ่อมบำรุง (การจัดชุดซ่อมเคลื่อนที่) - หน่วยสนับสนุนโดยตรง.............วัน - หน่วยสนับสนุนทั่วไป................วัน ข) สถานภาพชิ้นส่วนซ่อมขาดแคลน ค) การถอดปรน ทำได้ระดับใด ง) สถานภาพยุทโธปกรณ์หลัก ๒) การส่งกำลัง : แยกเป็น สป.แต่ละประเภทโดยแต่ละ สป. กล่าวถึงสถานการณ์ที่ เป็นอยู่ในปัจจุบัน การควบคุม การแบ่งมอบรวมทั้งการทดแทนที่สามารถกระทำได้ ก) สป.๑ ระดับ สป. ที่มีอยู่ตามประเภทเปรียบเทียบกับที่กำหนดไว้ ในคำชี้แจ้ง และ รปจ.สนาม ข) สป.๒ วันส่งกำลัง ที่มีอยู่ในครอบครอง เปรียบเทียบกับ รปจ.สนาม และปัญหาใน ปัจจุบัน
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 18 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ค) สป.๓ เชื้อเพลิงแต่ละชนิดที่มีอยู่ในครอบครองเป็นลิตรรวบทั้งรายการแบ่ง มอบ หรืออำนาจที่ขาดแคลน ง) สป.๔ วันส่งกำลัง ที่มีอยู่ในครอบครอง เรียงรายการ สป. ที่มีลักษณะสำคัญ เฉพาะ (เช่น ลวดหีบเพลง) จ) สป.๕ วันส่งกำลัง ที่มีอยู่ในครอบครอง รวมทั้งการกำหนดอัตรา กระสุนที่ ต้องการเปรียบเทียบอัตรากระสุนที่ใช้ได้ในปัจจุบันและอนาคต ๓) การวิเคราะห์หนทางปฏิบัติ : วิเคราะห์ปัจจัยทางการส่งกำลังบำรุง ในแต่ละหัวข้อ ต่อทุกหนทางปฏิบัติ (ซ่อมบำรุง,ส่งกำลัง,บริการ,ขนส่ง,แรงงาน,การพยาบาล/ส่งกำลังและอื่น ๆ) ก) ความเพียงพอของพื้นที่ : วิเคราะห์ (๑) มีพื้นทีเพียงพอสำหรับการซ่อมรถหรือไม่ (๒) พื้นที่ปลอดภัยจาการปฏิบัติของศึกหรือไม่ (ระยะยิง,ไกล) (๓) พื้นที่เป็นเป้าหมายชัดเจนหรือไม่ (๔) ถ้ามีการเคลื่อนที่ผ่านหน่วยอื่นจะก่อปัญหาหรือไม่ ข) ยุทโธปกรณ์และบริการ : (๑) การซ่อมบำรุง : พิจารณาการเพิ่ม/ลด ขีดความสามารถในการสนับสนุน ชิ้นส่วนซ่อม การประมาณการความต้องการประจำวัน (๒) การส่งกำลัง : วิเคราะห์ความต้องการ สป. แต่ละประเภทในทุกหนทาง ปฏิบัติ แล้วระบุปัญหา/ข้อขัดข้องที่เกิดขึ้น (ก) สป.๑ พิจารณาการปฏิบัติที่กำลังจะมีขึ้น มีความต้องการ สป.๑ กี่ต้น ต่อวัน (ข) สป.๒ พิจารณาว่า จะรวม/ไม่รวม การขนส่ง/การแจกจ่ายให้หน่วยมี ไว้ในครอบครองตลอดเวลา
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 19 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) (ค) สป.๓ พิจารณาประเภท สป.๓ การเคลื่อนย้ายในภูมิประเทศ หรือ เส้นทาง,ระยะทางเคลื่อนที่การประมาณการความต้องการเปรียบเทียบกับปริมาณ สป.๓ ที่ได้รับ การสะสมหรือขีดความสามารถในการขนส่ง จึงกำหนดเป็นความต้องการประจำวัน (ง) สป.๔ : ส่วนมากเป็น สป. ที่ผู้บังคับบัญชาควบคุม (จ) สป.๕ : นำอัตรากระสุนที่ต้องการมาเปรียบเทียบ กับอัตรากระสุน ที่ ใช้ได้ พิจารณาขีดความสามารถของหน่วยรองในการขนกระสุน (๓) การบริการ : วิเคราะห์ปัจจัยทางการส่งกลังบำรุงเกี่ยวกับการบริการ ทางการช่วยรบ,การซ่อมแซมเส้นทางหลัก,การบริการอาบน้ำ,การรบ,การล้างพิษ โดยระบุออกมา ว่ามีปัญหาอย่างไร ทุกหนทางปฏิบัติ (๔) การขนส่ง : วิเคราะห์ผลกระทบกระเทือนต่อการขนส่งในแต่ละหนทาง ปฏิบัติ ระบุว่ามีปัญหาอย่างไร เปรียบเทียบระหว่างความต้องการกับสิ่งที่มีใช้ได้ในครอบครอง (สป.๓ และ สป.๕ จะให้ความเร่งด่วนสูงกว่า) (๕) แรงงาน : วิเคราะห์ ปัจจัยทางการส่งกำลังบำรุงที่อาจถูกกระทบจาก สถานการณ์ในด้านแรงงาน (๖) การส่งกลับสายแพทย์และการรักษาพยาบาล : วิเคราะห์สถานภาพและ ขีดความสามารถในการส่งกลับสายแพทย์ และรักษาพยาบาลของหน่วย (๗) อื่น ๆ : วิเคราะห์ปัจจัยอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้นำมาพิจารณา ๔) การเปรียบเทียบ : ระบุรายการปัญหาข้อขัดข้องที่สำคัญ โดยพิจารณาข้อดี และ ข้อเสียแต่ละหนทางรวมทั้งพิจารณาแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ก) ข้อขัดข้องทางการส่งกำลังบำรุงที่สำคัญ ข) ข้อดี และข้อเสียของแต่ละหนทางปฏิบัติ ค) วิธีการในการแก้ปัญหาข้อขัดข้อง ๕) ข้อสรุป
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 20 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ก) กล่าวถึงภารกิจซึ่งระบุใน ข้อ ๑ ข) ระบุหนทางปฏิบัติที่สามารถในการสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงได้ดีที่สุด ค) ระบุปัญหาข้อขัดข้องแต่ละหนทาง แถลงว่าทำไม ห/ป อื่น ๆ จึงไม่ สามารถให้ การสนับสนุนได้หรือมีปัญหาอะไรที่ทำให้ไปเลือก ห/ป นั้น เป็น ห/ป ที่ดีที่สุด ง) ระบุแนวทางการแก้ไขปัญหา ข้อขัดข้องที่ ผบ. ควรรับทราบเพื่อแก้ไข ตอนที่ ๗ การให้ข้อตกลงใจและให้แนวทางในการปฏิบัติ ๑. ขณะที่ ฝอ. จัดทำและเสนอประมาณการนั้น ผบ.ป.3 พัน.๓ จะประมาณสถานการณ์ พร้อมกันซึ่งหลังจากที่ ฝอ. บรรยายสรุปพร้อมชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียในแต่ละหนทางปฏิบัติ ตาม งานที่ตนรับผิดชอบแล้ว ผบ.ป.3 พัน.๓ จะได้ข้อตกลงใจเป็นข้อมูลด้านของการประมาณสถานการณ์ โดยทุกหนทางปฏิบัติที่จะประกอบด้วย ทำอะไร,เมื่อไร,ที่ไหน,และอย่างไร ผบ.ป.3 พัน.๓ จะระบุ ใครไว้ในหนทางปฏิบัติ ๒. เมื่อ ผบ.ป.3 พัน.๓ บรรลุข้อตกลงใจ ผบ.ป.3 พัน.๓ จะขยายความของหนทางปฏิบัติที่ได้ เลือกไว้ให้กล่าวเป็นแนวความคิดในการปฏิบัติ ผบ.ป.3 พัน.๓ จะอธิบายข้อตกลงใจนี้อย่างละเอียด ในการให้แนวความคิดของตนต่อฝ่ายอำนวยการ และควรรวมถึงเจตนารมณ์ของ ผบ.ป.3 พัน.๓ ไว้เสนอ ๓. เมื่อ ฝอ.๓ ได้รับฟังข้อตกลงใจ ฝอ.๓ จะจัดทำและออกคำสั่งเตือนฉบับใหม่ให้กับหน่วย รองต่าง ๆ ตอนที่ ๘ แผน/คำสั่ง ๑. ฝ่ายอำนวยการจัดทำแผน/คำสั่ง โดยมีพื้นฐานจากข้อตกลงใจและแนวความคิดในการ ปฏิบัติของ ผบ. ป.พัน.๓ ซึ่งจะต้องเห็นภาพการปฏิบัติไม่ให้ซ้ำซาก ให้ได้มากซึ่งความริเริ่มและ สนับสนุนหรือสนองต่อเจตนารมย์ของ ผบ.ป.3 พัน.๓ และ ผบ. หน่วยเหนือ ๒. เมื่อ ผบ.ป.3 พัน.๓ อนุมัติแผน/คำสั่งที่ ฝอ.ร่วมกันจัดทำเรียบร้อยแล้ว ฝอ.๓ จะแจ้งให้ ผบ.ร้อย บก./บร. และ ผบ.ร้อย ป. มารับคำสั่งด้วยวาจา ซึ่งจะเป็นไปตามแบบฟอร์มพื้นฐานของ คำสั่งยุทธการที่เป็นข้อเขียน เมื่อให้คำสั่งด้วยวาจาไปแล้ว ก็จะยืนยันคำสั่งที่เป็นข้อเขียนไปภายหลัง
ชุดที่ ของ ชุด หน้า 21 ของ 21 หน้า ( ผนวก ค ( การแก้ไขปัญหาทางทหาร ) ประกอบ ระเบียบปฏิบัติประจำในสนาม – ป.3 พัน.๓) ๓. เมื่อให้คำสั่งด้วยวาจาจะไม่กล่าวถึงรายการในหัวเรื่อง ตัวเลข หัวข้อในตัวเรื่อง และ รายการต่างๆ ในต้นเรื่อง ตอนที่ ๙ การปฏิบัติและการกำกับดูแล ๑. ในระหว่างการปฏิบัติตามคำสั่ง ฝอ.และ ผบ.ป.3 พัน.๓ จะดำเนินกรรมวิธีอย่างต่อเนื่องต่อ ข่าวสารล่าสุดเพื่อกำหนดว่ามีผลกระทบต่อการปฏิบัติที่ไหนและอย่างไร ๒. ผบ.ป.3 พัน.๓ และ ฝอ. จะดำเนินกรรมวิธีต่อข่าวสารในการประมาณสถานการณ์ เพื่อให้ บรรลุข้อตกลงใจและให้ได้วิธีการปฏิบัติที่จำเป็น แล้วจึงออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามวิธีการที่กำหนดขึ้น ๓. การกำกับดูแล จึงเป็นงานที่ต้องกระทำอย่างต่อเนื่องตลอดห้วงของการแสวงข้อตกลงใจ เพื่อให้มั่นใจว่ากำลังพลเข้าใจเจตนารมณ์และปฏิบัติตามข้อตกลงใจ ผบ.ป.3 พัน.๓ อย่างต่อเนื่อง ๔. การกำกับดูแล สามารถกระทำได้ดังนี้ ก. การตรวจเยี่ยมหน่วยรองของ ผบ. หรือการตรวจเยี่ยมหน่วยรองของ ฝอ. เพื่อรับปัญหา ที่เกิดขึ้น ข. ให้หน่วยรองรายงานผลการปฏิบัติที่ได้กระทำแล้วตามระยะเวลาที่กำหนด *********************