ทักษะ
การให้คำปรึกษา
นางสาว อภิญญา ทองทิพย์ รหัสนักศึกษา 651997074
การฟัง
ทักษะการฟังเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่สุด
และผู้ให้การปรึกษาจะต้องใช้ทักษะนี้ให้มากที่สุด
ด้วยความอดทน และเต็มใจในการรับฟังเรื่องราว
อย่างใส่ใจ ตั้งใจฟัง และต้องมีสมาธิเป็นอย่างมาก
เพื่อให้สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้รับการ
ปรึกษาขณะนั้น
แนวทางการปฏิบัติ
ขณะที่ผู้ให้บริการกำลังฟังผู้รับการปรึกษาอยู่นั้น ผู้ให้คำปรึกษาต้อง
แสดงความสนใจ ตั้งใจฟัง โดยแสดงกิริยาท่าทีและแสดงสีหน้า
ความรู้สึก พยักหน้าเล็กน้อยในขณะที่รับฟัง
ลักษณะท่าทางผู้ให้บริการต้องมีท่าทีผ่อนคลายไม่เกร็ง หรือ
ตึงเครียด เพราะจะทำให้ผู้รับบริการปรึกษาตึงเครียดไปด้วย ควรนั่ง
โน้มตัวไปด้านหน้าพอสมควร เพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่
ผู้ให้บริการพูดตอบรับภายหลังจากที่ผู้รับการปรึกษาพูดจบ เพื่อ
แสดงว่ากำลังฟังอยู่ เช่น ค่ะ พูดต่อเลย กำลังฟังอยู่ค่ะ
แนวทางการปฏิบัติ
ไม่พูดแทรกหรือขัดจังหวะ ยกเว้นเมื่อผู้รับคำปรึกษาพูดมากและวก
วน จึงใช้การสรุปประเด็นเป็นช่วง ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
ไม่เปลี่ยนเรื่อง และติดตามประเด็นปัญหาของผู้รับบริการปรึกษา
ให้เวลากับการฟังไม่แสดงการเร่งรีบ มองดูนาฬิกา หรือไม่ควรสนใจ
หรือ ทำสิ่งอื่นไปด้วยขณะให้คำปรึกษา เพราะแสดงถึงความไม่สนใจ
เท่าที่ควร
การเงียบ
เป็นการสนับสนุนให้ผู้รับบริการพู ดไปเรื่ อยๆ
โดยผู้ให้การปรึกษาแสดงสีหน้า และกิริยาท่าทาง
ว่ากำลังสนใจฟัง เข้าใจ และรับรู้ถึงสิ่งที่ผู้รับ
บริการปรึกษาพูด เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการปรึกษา
พิจารณาความรู้สึกอย่างลึกซึ้งถึงความคิด ความ
รู้สึกของตนเอง โดยไม่รู้สึกว่าถูกกดดัน
ความเงียบที่เกิดจากผู้ให้การปรึกษา
เจตนาของผู้ให้การปรึกษา เพราะรู้สึกว่าตนเองมีบทบาทมาก
เกินไป ต้องการจะลดกิจกรรมลง
เกิดอย่างไม่เป็นระบบ คือความตั้งใจเพื่อให้เวลาผู้รับบริการ
ปรึกษาได้ซึมซับและทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนั้น
ความเงียบที่เกิดจากผู้รับการปรึกษา
ความเงียบทางลบ
เป็นการต่อต้านการให้คำปรึกษาเพราะโดนบังคับมา รู้สึกอึดอัด หลีก
เลี่ยงการพูดบางหัวข้อ ผู้ให้การปรึกษาชวนคุยเรื่องทั่วไป และแสดง
ท่าทางถึงความเข้าใจ ห่วงใย ใส่ใจ จริงใจ และเต็มใจที่จะช่วยเหลือ
ความเงียบทางบวก
เป็นการหยุดพักหรือหยุดลงชั่วครู่ หลังจากการระบายอารมณ์ออกมา
หรือเพื่อสังเกต และทำความเข้าใจตนเอง ผู้ให้การปรึกษาไม่ควร
รบกวน รอเวลา และพูดให้กำลังใจ เข้าใจ เห็นใจ รวมถึงการสะท้อน
เนื้อหา และความรู้สึกของผู้รับการปรึกษา ขณะนั้น
แนวทางการปฏิบัติ
เมื่อผู้รับบริการหยุดพูดชั่วขณะ ปล่อยเวลาให้ผ่านไป 5 - 10 วินาที
มากกว่าจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นทันที
การเงียบเพื่อรอให้ผู้รับบริการเป็นฝ่ายพูด แต่ในบางครั้งผู้ให้การ
ปรึกษาจะต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
ขณะผู้ให้บริการอยู่ในความเงียบ รอผู้รับบริการเริ่มต้นพูด เพื่อให้เวลา
ผู้รับการปรึกษาได้แสดงออกเกี่ยวกับตนเอง
หากผู้รับบริการปรึกษาเกิดความสับสนไม่ควรใช้ความเงียบ จะทำให้
เกิดความวิตกกังวล และทำให้บรรยาการแย่ลง
แนวทางการปฏิบัติ
หากผู้บริการอึดอัดกับความเงียบอาจใช้การเชื่อมโยงโดยอิสระ เช่น พูด
ถึงสิ่งที่ผ่านมาในความคิด จิตใจ หรือสะท้อนความเข้าใจ เช่น มันยากที่
จะตัดสินใจว่าจะพูดอะไรต่อไป
ระลึกว่าควรสังเกตร่างกายและใบหน้าของเราขณะเงียบ เพราะจะ
แสดงออกถึงความอบอุ่น ห่วงใย เข้าใจ ผู้รับการปรึกษา
ให้โอกาสผู้รับการบริการปรึกษาหยุดหรือยุติความเงียบ ที่เกิดขึ้นโดยผู้
ให้การปรึกษา ตัดสินใจว่าเมื่อไหร่จะพูด แทนที่จะเป็นฝ่ายตัดสินใจให้
ขณะที่เงียบ ใช้ทักษะในการใส่ใจมองผู้รับการปรึกษา
การให้กำลังใจ
การสื่อสารไปยังผู้รับคำปรึกษา ด้วยภาษาท่าทาง
คำพูด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้รับบริการรู้สึกมีพลัง
ทั้งทางกายและทางใจ ในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค
ต่างๆที่ตนกำลังประสบ เป็นไปอย่างละเอียดอ่อน
เข้าใจ และเข้าถึงความรู้สึกที่แท้จริงของผู้รับการ
ปรึกษา
ความสำคัญต่อผู้ให้การปรึกษา
เห็นความสำคัญของการให้กำลังใจ เนื่องจากผู้ให้คำปรึกษามัก
ต้องการใครสักคนคอยให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้าง
ฝึกฝนให้เป็นคนที่มีความละเอียดอ่อน รับรู้อารมณ์ความรู้สึก
ของผู้รับบริการ สามารถสื่อสารทั้งภาษาทางกายและภาษาพูด
เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้รับการปรึกษาได้จากใจ
ความสำคัญต่อผู้รับการปรึกษา
ช่วยให้ลดความตึงเครียด เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย มีพลังกายและ
พลังใจที่เข้มแข็งในการเผชิญปัญหาและอุปสรรค์
ช่วยให้ได้ตั้งสติ พิจารณาใคร่ครวญเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆได้
อย่างชัดเจนถูกต้องตามความเป็นจริงนำไปสู่การหาแนวทางรับมือ
กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ
ช่วยให้เกิดความมั่นใจ มีกำลังใจมากขึ้น เกิดความต้องการสำรวจ
ตนเอง เมื่อรับรู้ว่าผู้ให้การปรึกษาเอาใจใส่และให้กำลังใจ เพื่อจะร่วม
กันแก้ใขปัญหาต่อไป
หลักการในการให้คำปรึกษา
1.หลักความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ที่มีทั้งสุขและทุกข์
2.หลักการให้ความสนใจรับฟังเรื่องราวและความรู้สึกของผู้รับบริการ
อย่างละเอียดอ่อนและใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้รับการปรึกษา
3.หลักการให้กำลังใจที่สื่อสารอย่างจริงใจและเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก
ของผู้รับบริการ
แนวทางการให้คำปรึกษา
1.การให้กำลังใจด้วยภาษาท่าทาง เป็นการแสดงออกที่ไม่ใช่คำพูด แต่
เป็นอากัปกิริยาท่าทาง สีหน้า ที่มีผลทางบวกต่อความคิดความรู้สึก
เช่น การพยักหน้า การสบสายตา การยิ้ม การสัมผัส การแตะไหล่ แตะ
มือ เป็นต้น
2.การให้กำลังใจด้วยคำพูด สามารถพูดให้กำลังใจด้วยคำพูด 4 ลักษณะ
2.1 คำพูดที่สนับสนุนความคิด
2.2 คำพูดสนับสนุนแนวปฏิบัติ
2.3 คำพูดที่สื่อถึงผลการคาดคะเนในอนาคตว่าจะเป็นแนวโน้มไปในทางที่ดี
2.4 คำพูดว่าปัญหาที่กำลังเผชิญมีทางออก หรือ สามารถแก้ไขได้
ข้อควรคำนึงในการให้กำลังใจ
1.ไม่นำประสบการณ์ของผู้ให้การปรึกษาไปเปรียบเที่ยบกับเรื่องราว
และความรู้สึกของผู้รับการปรึกษา
2.ไม่ทำให้ผู้รับบริการหมดกำลังใจ
3.ไม่ใช้คำพูดที่สื่อให้เห็นว่าปัญหาของผู้รับบริการเป็นเรื่องเล็กน้อย