ความลับของดอกไม้-นภาพร067

ความลับของดอกกุหลาบ 3
ความลับของดอกทิวลิป 5
ความลับของดอกลาเวนเดอร์ 7
ความลับของดอกลิลลี่ 9
ความลับของดอกเดซี่ 11
ความลับของดอกคาเนชั่น 13
ความลับของดอกแอสเตอร์ 15
ความลับของดอกสแตติส 17
ความลับของดอกฟอร์เก็ตมีน๊อต 19
ความลับของดอกไลเซนทัส 21
ความลับของดอกไฮเดรนเยีย 23

3

4

ROSE

ตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ดอกกุหลาบ นั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose"
ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า
"Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมี
ทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบ
จะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า
5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว
เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย ตามประวัติศาสตร์เล่า
ว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิจีน ใน
สมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูก
กุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ซึ่งสำหรับชาวโรมัน
แล้ว เรียกได้ว่า ดอกกุหลาบ มีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน
เพราะชาวโรมันถือว่า ดอกกุหลาบ เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่ง
เป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก มีบาง
ตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิด
ของ เทพธิดาวีนัส หรือ อะโฟรไดตี้ ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และ
ความรัก
ดอกกุหลาบสีแดง บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซัก
คน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลังแอบปลื้มอยู่ มี
ความรักที่สุดแสนจะลึกซึ้ง มั่นคง เรียกได้ว่าความรักนั้น ไม่มีวัน
จืดจางไปจากหัวใจ กุหลาบเป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอี
รอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ

5

6

TULIP

ดอกทิวลิป (Tulip) เป็นอีกดอกไม้ที่เป็นที่นิยมระดับโลก รอง

มาจากดอกกุหลาบและดอกเบญจมาศ เนื่องด้วยความโดด

เด่นของรูปร่างดอก สี และบ้างก็มีกลิ่นหอม และเป็นดอกไม้ที่

ถูกจัดให้เป็นสัญลักษณ์ของรักแท้ ดอกทิวลิปเป็นไม้ดอกที่จัด

อยู่ในวงศ์เดียวกับลิลลี่ (Lilaceae) มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย

แถบเมดิเตอร์เรเนียน ตุรกี อิรัก อิหร่าน ถูกนำเข้ายุโรปโดย

ชาวตุรกี จนแพร่หลายไปทั่วยุโรป โดยเฉพาะประเทศเนเธอ

แลนด์ที่ทำธุรกิจหัวพันธุ์ทิวลิปจนเป็นสินค้าส่งออกหลักและ

เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไปโดยปริยาย การใช้ประโยชน์

ของดอกทิวทิปในอดีต นอกจากจะใช้เป็นพืชประดับแล้ว ยัง

พบว่าในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 หัวของทิวลิปถือเป็น

อาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เพิ่มกำลัง สำหรับชาวดัชต์ และ

ชาวอัพกานิสถาน ส่วนชาวบริเตนใช้ทูน่ายัดไส้ทิวลิปเป็น

อาหารที่ถูกเสิร์ฟในโอกาสพิเศษต่างๆ อีกทั้งทิวลิปยังเป็นที่

รู้จักกันดีว่าสามารถเป็นยาพอกสำหรับแมลงสัตว์กัดต่อย แผล

ไฟไหม้ ผดผื่นที่ผิวหนังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดอกทิวลิปแดง หมายถึงรักที่ไม่ปิดบัง ซ่อนเร้น เปิดเผยอย่าง

จริงใจ เหมาะสำหรับเป็นของขวัญ แด่คนรักของคุณ ดอก

ทิวลิปยังเป็นต้นไม้ตามหลักฮวงจุ้ยที่เหมาะแก่การปลูกในบ้าน

เชื่อกันว่า ดอกทิวลิปแดง จะนำชื่อเสียงและเกียรติยศเข้ามา

ในชีวิตเราได้

7

8

LAVENDER

ดอกลาเวนเดอร์ (Lavender) มาจาก Lavandula เป็นสกุลของ

พืชดอก ประกอบด้วยพืช 39 ชนิด ในวงศ์มินต์ เป็นพืชพื้นเมือง

ในยุคโบราณที่ถูกค้นพบจากเคปเวิร์ด และหมู่เกาะคานารี ทาง

ตอนใต้ของยุโรป ข้ามไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกา,

เมดิเตอร์เรเนียน, เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ไปถึงอินเดียตะวันออก

เฉียงใต้ นอกจากนี้ยังพบอีกว่า คำว่า ลาเวนเดอร์ ในภาษา

อังกฤษ เดิมถูกเข้าใจว่ามาจากคำภาษาฝรั่งเศสเก่าว่า

Lavandre แต่คำว่าลาเวนเดอร์นั้นแท้จริงแล้วมาจากภาษา

ละติน Lavare แปลว่าชำระล้าง อาจหมายถึงประโยชน์ของดอก

ลาเวนเดอร์ที่ใช้การชำระล้างร่างกายและจิตใจ และด้วยกลิ่นที่

หอมของดอกไม้ช่อบางสีม่วงสดใสนี้ ลาเวนเดอร์ยังมีสรรพคุณ

อีกมากมายเช่น ดอกที่ถูกอบแห้งนำมาต้มดื่มเป็นชาดอกไม้ลด

อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อยได้ เพราะในดอกลาเวนเดอร์มีสาร

โพลีฟีนอลช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และกรดต่างๆ ในกระเพาะได้

การดื่มชาร้อนๆ ยังช่วยลดกลิ่นตัวและลดกลิ่นสาบ โดยจะถูกขับ

ออกทางเหงื่อ ส่วนน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ ช่วยบรรเทาอาการ

แสบ คันจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างกลิ่นให้กับ

ขนมเบเกอรี่ได้ดีอีกด้วย ในภาษาดอกไม้ ดอกลาเวนเดอร์ หมาย

ถึง การรอคอยอย่างมีความหวัง ความทรงจำอันงดงาม

สามารถสื่อถึงความรุ่งโรจน์ที่มาพร้อมกับความสำเร็จและการ

บรรลุผล การมอบช่อดอกลาเวนเดอร์ หมายถึงการอวยพรให้

ประสบความสำเร็จ

9

10

LILY

ดอกลิลลี่ มีชื่อสามัญว่า “Lily” เป็นไม้ดอกในตระกูล
“Liliaceae” มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชีย แถบประเทศจีนและ
ประเทศญี่ปุ่น เป็นสายพันธุ์พืชประเภทหัว ที่มีกลิ่นหอม ดอก
อูมใหญ่ มีหัวสะสมและหล่อเลี้ยงอาหารอยู่ใต้ดิน สามารถ
ขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการใช้หัวปักชำ โดยลิลลี่หนึ่งลำต้น
สามารถแบกรับตัวดอกได้ 4 หรือ 8 ดอก เมื่อบานแล้วจะ
มีอายุ 1-2 สัปดาห์ก่อนร่วงโรยไป มีความสูงโตเต็มที่ประมาณ
0.6-1.8 เมตร สมัยโบราณมีคนนำดอกลิลลี่มาทำเป็นอาหาร
และยารักษาโรค เนื่องจากมีแป้งและสารอาหารอยู่มาก ซึ่ง
แม้ว่าดอกลิลลี่ส่วนใหญ่ รวมถึงดอกลิลลี่ป่าจะไม่มีพิษภัยต่อ
มนุษย์ แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่าง แมว หากเผลอกินเข้าไปอาจ
ทำให้อาเจียน ท้องเสีย หรือเป็นพิษขนาดทำให้ตายได้เลยที
เดียว ตามความเชื่อในปกรณัมกรีกโบราณ ดอกลิลลี่ เกิด
จากน้ำนมของเทพีเฮร่า ภรรยาของราชาแห่งเทพเจ้าซุส แต่
เพราะมีหน้าตาขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องมากเกินไป วีนัส ผู้เป็นเทพี
แห่งความงาม จึงเกิดกลัวขึ้นมาว่า ดอกไม้พันธุ์จะสวยสง่า
เกินหน้าเกินตาของตัวเอง เลยสาปแช่งให้มีจุดด่างพร้อยขึ้นที่
ใจกลางดอก นั่นก็คือส่วนเกสรดอกไม้ตัวเมีย ที่ยื่นยาวผิดจาก
ดอกไม้ทั่วไป แถมด้วยจุดตะปุ่มตะป่ำเล็ก ๆ ที่กระจายไปตาม
กลีบดอก นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมดอกลิลลี่บางสายพันธุ์ถึงได้มี
ลายจุดเล็ก ๆ กระจายตามกลีบดอก

11

12

DAISY

ดอกเดซี่ ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า "Daisy" สำหรับดอกดาห์ล
เบิร์กเดซี่ หรือดอกเดซี่สีเหลืองที่เห็นในไทยส่วนใหญ่ ใช้ชื่อ
วิทยาศาสตร์ว่า "Thymophylla tenuiloba (DC.) Small" ทั้งนี้
ยังมีสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย มักเรียกชื่อตามถิ่นฐานที่พบใน
พื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะดอกและสีที่
แตกต่างกัน เช่น สีขาว สีเหลือง สีชมพู สีส้ม เป็นต้น ชื่อเรียก
"ดอกเดซี่" มาจากคำว่า "Day's eye" เนื่องจากกลีบงุ้มในเวลา
กลางคืน และบานสะพรั่งในยามเช้า จึงเปรียบเสมือนเป็นดอกไม้
ที่ลืมตาสดใสในเวลากลางวัน นอกจากนี้ คำว่า "Daisy" ยังเป็น
สแลงในภาษาอังกฤษ ที่แปลว่า "ยอดเยี่ยม" ได้อีกด้วย แม้ว่าใน
ปัจจุบันดอกเดซี่จะพบเห็นได้ทั่วโลก เนื่องจากเติบโตง่ายและทน
ต่อทุกสภาพภูมิอากาศ แต่ต้นกำเนิดของดอกเดซี่อยู่ในประเทศ
เม็กซิโก และบริเวณแถบรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา คน
สมัยก่อนนำดอกเดซี่มาบดกับส่วนผสมต่างๆ เพื่อใช้เป็นยารักษา
โรค ความหมายของดอกเดซี่แต่ละสีจะแตกต่างกันออกไป แต่
โดยรวมแล้วก็ยังเป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความรักบริสุทธิ์
เรื่องราวน่ารักๆ ของดอกเดซี่ได้มอบความหวัง ความสดใส และ
กำลังใจให้ผู้พบเห็นเสมอ อีกทั้งสีของดอกไม้ก็ยังแฝงความ
หมายไว้มากมาย ทำให้หลายคนนิยมมอบช่อดอกเดซี่ให้แก่กัน
เพื่อสื่อถึงความรู้สึกดีๆ

13

14

CARNATION

คาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่เก่าแก่และมีประวัติมายาวนาน เชื่อว่าถือ
กำเนิดขึ้นมาแล้วร่วม 2,000 ปี มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบทวีปยูเรเชีย
และเมดิเตอเรเนียน โดยมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ชื่อ Dianthus
แปลความได้ว่า ‘ดอกไม้แห่งพระเจ้า’ มีรากศัพท์มาจากคำว่า Dios
ซึ่งแปลว่าเทพเจ้า และ Anthos แปลว่าดอกไม้ในภาษากรีก เชื่อกัน
ว่าชื่อเรียก Carnation มีที่มาหลังจากชาวกรีกนำดอกคาร์เนชั่นมา
ร้อยเป็นพวงมาลัยหรือพวงมาลาซึ่งเรียกกันว่า Corone ซึ่งเป็นสิ่งที่
ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนารวมถึงในพิธีราชาภิเษกหรือ Coronation
ว่ากันว่าในยุคแรกๆ ดอกคาร์เนชั่นส่วนใหญ่จะมีสีชมพูอ่อนและสี
พีชเป็นหลัก ก่อนมีสีอีกมากมายเกิดขึ้นตามมาในภายหลังจากการ
ผสม ซึ่งเป็นที่มาของบางทฤษฎีที่กล่าวว่า ชื่อ Carnationมีที่มาจาก
คำว่า Canis ซึ่งแปลว่าเนื้อในภาษาละติน เพราะดอกคาร์เนชันมีสี
ซึ่งมองดูเหมือนสีของผิวเนื้อคน นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้
ประจำเดือนมกราคมแล้ว หลายประเทศยังใช้ดอกคาร์เนชั่นเป็น
ดอกไม้ประจำวันแม่ เนื่องจากบางตำนานเชื่อว่าเมื่อคราวองค์พระ
เยซูโดนตอกตรึงกับกางเขน และโดนบังคับให้เดินตระเวนไปใน
ลักษณะอันแสนโหดร้ายนั้น พระแม่มารีเกิดความเศร้าโศกเสียใจจน
ร้องไห้ออกมา และเมื่อหยาดน้ำตาของพระองค์ตกลงบนผืนดิน จึง
เกิดเป็นดอกคาร์เนชั่นขึ้นเป็นครั้งแรก หากในความจริงแล้ว ดอก
คาร์เนชั่นได้รับเลือกให้เป็นดอกไม้ประจำวันแม่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907
โดย Anna Jarvis ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวันแม่ขึ้นในสหรัฐอเมริกา เลือกใช้
ดอกคาร์เนชั่นเป็นตัวแทนของวันสำคัญนี้เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่แม่
ของเธอโปรดปรานที่สุด นอกจากนั้น ดอกคาร์เนชั่นยังเป็นดอกไม้
ประจำรัฐโอไฮโอในอเมริกาอีกด้วย

15

16

ASTERS

คัตเตอร์ หรือแอสเตอร์ เป็นหนึ่งในดอกไม้เก่าแก่ที่อาจมีอายุ
มากกว่า 4,000 ปี และเป็นดอกไม้ชนิดแรกๆ ที่อยู่ในสวนตาม
บ้านเรือน สันนิษฐานว่าคัตเตอร์มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบยูเรเชีย
และอเมริกาเหนือ เดิมทีนั้นแยกย่อยเป็นสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้อีก
กว่า 600 สายพันธุ์ แต่ในปัจจุบันคงเหลืออยู่ประมาณ 180
สายพันธุ์เท่านั้น คัตเตอร์นับเป็นพืชในตระกูลเดียวกับดอกเดซี่
เดิมทีพวกมันเป็นพืชที่มักพบได้ทั่วไปในทุ่งนาหรือพื้นที่ว่างเปล่า
ในต่างประเทศมักจะรู้จักกันในชื่อแอสเตอร์ (aster) ซึ่งชื่อแอส
เตอร์นั้น มาจากภาษากรีกโบราณซึ่งแปลว่าดวงดาว จึงเชื่อกัน
ว่าเป็นการเรียกชื่อตามลักษณะของดอกซึ่งเป็นไม้ดอกเล็ก ๆ มี
กลีบเป็นแฉกแหลมกระจายเป็นวงกลม เป็นดอกไม้ที่มีความ
ผูกพันโยงใยกับชาวกรีกโบราณ มีความเชื่อว่ามันถือกำเนิดมา
จากหยาดน้ำตาของเทพี Astraea ซึ่งหยดลงมาบนผืนแผ่นดิน
ด้วยความสงสารที่เหล่ามนุษย์ต้องล้มหายตายจาก เพราะ Zeus
บันดาลให้เกิดน้ำท่วมเพื่อชำระล้างโลกมนุษย์ให้บริสุทธิ์สะอาด
อีกครั้ง บ้างก็ว่าเป็นน้ำตาของพระนางเมื่อเห็นกล่องแพนโดรา
ถูกเปิดออก และความชั่วร้ายทั้งหลายของมนุษย์ได้หลุดรอด
ออกมาสู่โลก ชาวกรีกโบราณจึงนิยมใช้พวงมาลาดอกคัตเตอร์
ในการบูชาเหล่าเทพเจ้า และใช้ประโยชน์ในอีกหลายรูปแบบ ไม่
ว่าจะนำไปรักษาบาดแผลจากการถูกสุนัขบ้ากัด หรือนำไปเผา
ไฟโดยเชื่อกันว่ากลิ่นของคัตเตอร์ที่ถูกเผาสามารถไล่งูและ
ความชั่วร้ายต่าง ๆ ออกไปได้ นอกจากนั้นยังมีการนำคัตเตอร์
ไปต้มกับไวน์ แล้วนำไปวางไว้ใกล้ ๆ รังผึ้ง โดยเชื่อกันว่าจะ
ทำให้น้ำผึ้งมีรสชาติที่ดีขึ้น

17

18

STATIS

ดอกสแตติสมีอีกชื่อหนึ่งว่า Limonium ชื่อนี้มีที่มาจากภาษา

กรีกโบราณ leimon ที่แปลว่าทุ่งหญ้าอันเป็นสถานที่ที่สามารถ

พบพืชเหล่านี้ได้นั่นเอง นอกจากนี้ผู้คนยังเรียกเจ้าตัวตาม

ลักษณะต้นที่ปกคลุมด้วยดอกเล็ก ๆ สีสดสวย (ที่นิยมมากคือสี

ม่วง) มีกลิ่นหอมอ่อน ด้วยชื่ออื่นบ้าง อาทิ Sea-Lavender,

Caspia หรือ Marsh-Rosemary โดยที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพัน

กับวงศ์ของลาเวนเดอร์ หรือโรสแมรีเลยแม้แต่น้อย ในภาษา

ตุรกีเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า Kermek ด้วยความที่เป็นดอกไม้ป่า

จึงเป็นพืชที่มีความหลากหลายมากถึงกว่า 120 สปีชีส์ โดย

กระจายตัวอยู่เกือบทุกที่ทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป

แอฟริกา ไปจนถึงอเมริกาเหนือ แต่พบได้มากที่สุดในประเทศ

แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับคนที่ไม่นิยมชมชอบการมอบ

ช่อดอกไม้ที่ประกอบด้วยดอกไม้เพียงชนิดเดียว สแตติสคือตัว

เลือกอันดับแรกๆ ที่มักจะถูกนำมาประกอบเข้าช่อใช้แซมไปกับ

ดอกไม้ชนิดอื่น ถึงอย่างนั้นแม้ยามที่ต้องฉายเดี่ยวความน่ารัก

อย่างสัญชาติดอกไม้ป่าก็ไม่ทำให้ต้องขายหน้า ผู้คนไม่ว่าจะใน

โลกตะวันตก หรือตะวันออกนิยมมอบช่อดอกสแตติสเพื่อแสดง

ความยินดีในโอกาสต่าง ๆ โดยเฉพาะวาระสำเร็จการศึกษา

เพื่ออวยพรให้ผู้รับประสบความสำเร็จใน

19

20

FORGET

ME NOT

ดอก Forget Me Not ถือกำเนิดขึ้นในประเทศแคนาดา โดยเป็น
ดอกไม้เมืองหนาว มักปลูกบนที่สูงอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศา
เซลเซียส จะทำให้ออกดอกสวยงาม ลักษณะทั่วไปมีลำต้นที่แข็ง
มีลำต้นสูงแข็ง มีความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร กิ่งก้านจะแตก
แขนงอยู่รอบลำต้น ส่วนใบมีลักษณะเรียวเล็ก ปลายใบโค้งมน
พร้อมกับมีขนอ่อนปกคลุมอยู่ด้วยทั้งสองด้าน เวลาออกดอก จะ
ออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เป็น
ดอกไม้สีฟ้ากลีบ 5 แฉก สีสันสวยงาม หลายคนให้คำนิยามว่า
ดอก Forget Me Not เป็นดอกไม้แห่งความโรแมนติก ก็เพราะ
มีตำนานความรักสุดซึ้งที่เล่าขานกันมาเกี่ยวกับความเป็นมาชื่อ
ของดอกไม้นี้ว่า ครั้งหนึ่งมีอัศวินหนุ่มในชุดเกราะกำลังเดินเล่นที่
ริมธารกับหญิงสาวอันเป็นที่รักของเขา เมื่อสาวเจ้าเห็นดอกไม้ที่
ริมธารชูช่อออกดอกสวยงาม ก็เกิดอยากจะได้เจ้าดอกไม้นั้นขึ้น
มา ดังนั้นอัศวินหนุ่มจึงอาสาเก็บให้ แต่ก็พลาดท่าเสียหลักลื่น
ตกลงไปในธารน้ำ ซึ่งชุดเกราะที่หนักหน่วงนั้น ทำให้เขาไม่
สามารถว่ายน้ำได้ เขาจึงตัดสินใจโยนดอกไม้นั้นให้เธอ พร้อมกับ
ตะโกนว่า Forget Me Not (อย่าลืมฉัน) และจมหายไป ทำให้
หญิงสาวผู้นี้เสียใจเป็นอย่างยิ่ง ดอกไม้ชนิดนี้จึงถูกขนานนามว่า
Forget Me Not นับแต่นั้นเป็นต้นมา ดอกไม้ชนิดนี้มีความหมาย
ถึงรักแท้ ความทรงจำแห่งความรักและเป็นสัญลักษณ์ของความ
รักที่ซื่อสัตย์ โดยที่ เกาะนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา ผู้คนจะ
ใช้ดอกไม้นี้เพื่อรำลึกถึงทหารที่สละชีพในช่วงสงครามโลกครั้งที่
หนึ่ง ในวันที่ 1 กรกฎาคม ของทุกปี

21

22

LISIANTHUS

ดอกไลเซนทัสมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eustoma grandiflorumเป็น

พืชประจำปี มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก

ตอนเหนือ มันเติบโตขึ้นเป็นรูปดอกกุหลาบของใบไม้ที่พัฒนาบน

ลำต้นได้ถึง 50cmยาว. ดอกไม้ที่สวยงามมีขนาดใหญ่เส้นผ่าน

ศูนย์กลาง 3-4 ซม. และมีสีให้เลือก ได้แก่ สีขาวสีชมพูหรือสีฟ้า

การเติบโตของมันรวดเร็วมาก ไม่เปล่าประโยชน์พวกเขาใช้เวลา

เพียงไม่กี่เดือนในการงอกเติบโตพัฒนาเจริญงอกงามและเกิดผล

ดอกไลเซียนทัสจะเหมือนกุหลาบ ไม่มีกลิ่นหอมและไร้หนาม

แต่ละช่อมีดอก 8-10 ดอก ในกระถางหนึ่งจะทยอยออกดอกนาน

1 เดือน หลังกลีบดอกร่วงโรยสามารถเลี้ยงเป็นไม้ใบได้อีก 3

เดือน จากนั้นจะเริ่มยืนต้นตาย เป็นไม้ดอกติดอันดับ 1 ใน 10

ของโลก ดอกไลเซนทัส หมายถึง การเอาใจใส่ต่อคนคนนั้น หรือ

มิตรภาพที่ยั่งยืนและความทรงจำที่ดี

23

24

HYDRANGEA

ไฮเดรนเยีย หรือ Hydrangea macrophylla (Thunb.)
Ser. คือไม้ดอกอายุหลายปี เมื่อลงดินแล้วสามารถสูงได้ถึง
2 เมตร ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่มีกว่า 80 สายพันธุ์ทั่วโลก
แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีกลีบดอกที่แตกต่างกันไป รวมทั้งสี
ของดอกที่มีทั้งสีขาว ชมพู แดง ม่วง และฟ้า บางพันธุ์
กำหนดสีดอกได้โดยควบคุมค่าความเป็นกรด ด่างที่เหมาะ
สม หากต้องการดอกสีชมพูควรให้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัส แต่ถ้า
ต้องการดอกสีฟ้าให้เติมอะลูมิเนียมซัลเฟตในปริมาณที่พอ
เหมาะ การควบคุมค่ากรด ด่าง นี้สามารถควบคุมได้ทั้งทาง
น้ำ ปุ๋ย และดิน โดยในต่างประเทศมักจะรู้จักดอกไม้ชนิดนี้
ในชื่อ ฮอร์เดนเชีย (Hortensia) ส่วนในไทยก็มีคนเรียกว่า
ดอกสามเดือนบ้าง ดอกหกเดือนบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่าจริง
ๆ แล้วคนไทยเรารู้จักกับไฮเดรนเยียมาอย่างยาวนาน โดย
คาดกันว่าเป็นพรรณไม้นำเข้าจากต่างประเทศมาตั้งแต่สมัย
รัชกาลที่ 5 แล้ว เนื่องจากพระองค์มักจะชอบนำดอกไม้
นานาชนิดเข้ามาปลูกในพระราชวังอยู่เสมอ ดอกไฮเดรน
เยีย เป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความนุ่มนวลน่าสัมผัส อีกทั้งยังมี
ความหมายแฝงแทนคำขอบคุณ เช่น ขอบคุณที่เข้าใจกัน
หรือขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกัน ทว่าบางคนก็บอกว่าดอกไม้
ชนิดนี้สื่อถึงความเย็นชา เนื่องจากสามารถทนกับอากาศ
หนาวได้เป็นอย่างดี

25