กลุ่มที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี_ใบงานที่ 3 (3)

ใบงานที่ 3 การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ 1. ส่วนน ำ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “โกงกิน” จัดทำโดย 1. นายภาณุ เลาะหะนะ ชั้น ม.5/1 เลขที่ 19 2. นางสาววรรณวสา ก๊กรัมย์ ชั้น ม.5/1 เลขที่ 25 3. นางสาวญาราภรณ์ หาญเหี้ยม ชั้น ม.5/1 เลขที่ 26 4. นางสาวณิชมน ฉ่ำเย็น ชั้น ม.5/1 เลขที่ 27 5. นางสาวดาราวดี เทียมพล ชั้น ม.5/1 เลขที่ 28 6. นางสาวนภัสสร บูรณ์โสภณ ชั้น ม.5/1 เลขที่ 29 7. นางสาวศิริวรรณ ประจันบาล ชั้น ม.5/1 เลขที่ 30 8. นางสาวอนัญญา ศิริสุข ชั้น ม.5/1 เลขที่ 32 9. นางสาวกรกมล สระทองแพ ชั้น ม.5/1 เลขที่ 33 เสนอ ครูกิ่งดาว อักษร รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา วิชา โครงงานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี 1 รหัสวิชา ว30297 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หัวข้อโครงงาน : ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “โกงกิน” ประเภทของโครงงาน : โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ผู้เสนอโครงงาน : นายภาณุ เลาะหะนะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 เลขที่19 นางสาววรรณวสา ก๊กรัมย์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1เลขที่25

นางสาวญาราภรณ์หาญเหี้ยมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 เลขที่26 นางสาวณิชมน ฉ่ำเย็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1เลขที่27 นางสาวดาราวดี เทียมพล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1 เลขที่28 นางสาวนภัสสร บูรณ์โสภณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1เลขที่29 นางสาวศิริวรรณ ประจันบาล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 เลขที่30 นางสาวอนัญญา ศิริสุข ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1 เลขที่32 นางสาวกรกมล สระทองแพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1 เลขที่33 ครูที่ปรึกษาโครงงาน : ครูกิ่งดาว อักษร ปีการศึกษา : 2566

บทคัดย่อ โครงงานภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง โกงกินนี้ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจโดยสร้างสื่อวีดีทัศน์นำเสนอ โดยได้ศึกษารูปแบบและพัฒนาการเรียนรู้ในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นสื่อที่ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมในปัจจุบันมาประยุกต์เข้ากับการเรียนรู้ ทั้งนี้ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเนื้อหาความรู้ที่สนใจเกี่ยวกับ ภาพยนต์สั้น เรื่องการรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “โกงกิน” โดยผู้จัดทำโครงงานสามารถพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาได้ด้วยตนเองและนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตน เองมากยิ่งขึ้น

กิตติกรรมประกาศ รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ฉบับนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความช่วยเหลืออย่างดียิ่งจากครูกิ่งดาว อักษร ครูที่ปรึกษาที่อนุมัติเห็นชอบในการจัดทำโครงงานและให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาในด้านวิชาการและการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ขอขอบพระคุณคณะครูโรงเรียนกระสังพิทยาคมทุกท่านที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้การเรียนรู้ประสบผลสำเร็จ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่มีส่วนช่วยแนะนำการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การใช้อินเทอร์เน็ต การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ขอบคุณกำลังใจดีๆ จากคุณครูกิ่งดาว อักษร ความดีอันเกิดจากการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ ผู้จัดทำโครงงานขอมอบแด่บิดา มารดา ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยผลักดันและเป็นกำลังใจ ซึ่งผู้จัดทำซาบซึ้งในความกรุณาจากท่าน และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ คณะผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค สารบัญภาพ จ บทที่ 1 บทนำ 1 1.1 แนวคิด ที่มา และความสำคัญ 1 1.2 วัตถุประสงค์ 1.3 ขอบเขตของโครงงาน 1.4 ผลที่คาดว่าจะได้รับ บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 2.1 ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 2.2 การผลิตสื่อวีดิทัศน์ 2.3 การสร้างเว็บไซต์ จาก Google Sites บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน 3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา 3.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน บทที่ 4 ผลการดำเนินงานโครงงาน 4.1 ผลการพัฒนาการสร้างเว็บไซต์ จาก Google Sites 4.2 ตัวอย่างการนำเสนอเว็บไซต์ จาก Google Sites บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ 5.1 การดำเนินงานจัดทำโครงงาน 5.2 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน 5.3 ข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก

สารบัญภาพ หน้า ภาพที่ 1 แสดงภาพผลงานสื่อเพื่อการศึกษา 15 ภาพที่ 2 แสดง.............................

สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 แสดงแผนการดำเนินงาน 10 ตารางที่ 2 แสดง.............................

บทที่ 1 บทนำ 1.1 แนวคิดที่มาและความสำคัญ เพื่อให้ทุกคนไม่คิดที่จะคดโกงกัน และไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไข้ปัญหาให้เหตุผลแก้ปัญหา 1. ความสำคัญของข้อมูลสื่อสังคมยุคใหม่ Social Media กับการสื่อสารในปัจจุบัน 2. สรุปว่า ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “โกงกิน”จัดทำขึ้นเพื่ออะไร ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของเรามากขึ้น ซึ่งเราอาจไม่รู้เลยว่าอินเทอร์เน็ตกลาย เป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตในยุคข้อมูลข่าวสาร คนหันมาบริโภคข้อมูลข่าวสารกันมากขึ้น นอกจากเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนถนนสำหรับการเข้าไปถึงข้อมูลที่ต้องการเรายังต้องการเครื่องมือ ที่จะสามารถสร้างเนื้อหาและข้อมูลต่างๆ ไว้รองรับการเข้าถึง นั่นก็คือ เทคโนโลยีเว็บไซต์ ซึ่งเป็นตัวกลางคอยให้ข้อมูลต่างๆ แก่ผู้ใช้ ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ได้ถูกเปลี่ยนแปลงจากเดิมมาก ในยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต กำลังเป็นที่นิยมและมีผลกระทบในทุกๆด้านในปัจจุบัน ทำให้ทุกคน ทุกสังคมต้องมีการปรับตัว และพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงในโลกของการสื่อสาร และการพัฒนาของโลกเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web; WWW) จากยุคแรก คือ Web 1.0 ซึ่งมีลักษณะเป็น Static Web คือมีการนำเสนอข้อมูลทางเดียว (one-way communication) ด้วยการแปลงข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่รอบตัวเราให้อยู่ในรูปของดิจิตอล (Digital) เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือการโฆษณาตามหน้าเว็บไซต์ โดยผู้ใช้สามารถอ่านได้แต่ไม่สามารถเข้าร่วมในการสร้างข้อมูลได้ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคที่ 2 ของเทคโนโลยีคือ WWW หรือ Web 2.0 เป็นยุคที่ทำให้อินเทอร์เน็ตมีศักยภาพในการใช้งานมากขึ้น เน้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ จุดกำเนิดของ Web 2.0 และการพัฒนาก้าวผ่านเข้าสู่ยุค Web 3.0 ความนิยมขอ Social Media มีการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งและมีแนวโน้มของผู้ใช้บริการทั่วโลก ปัจจุบัน Social Network Website ต่าง ๆ ก็มีการพัฒนา และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์เชิงสังคมกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นFacebook,tiktok หรือการสร้างเว็บBlog เพื่อเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบต่างๆ

ในเรื่องของเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับภาพยนต์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “โกงกิน” นั้นเป็นความสนใจส่วนตัวที่อยากจะศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับการทุจริตต่อสังคมด้วยการโกงผู้อื่นด้วยเงินตัวอย่า งของกลุ่มผู้ทำโครงงานขอยกตัวอย่างเรื่องแม่ค้าทอนเงินให้ลูกค้าไม่ครบ ดังนั้น ผู้จัดทำจึงได้มีความคิดที่จะการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ด้วย Google Sites มาใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาพยนต์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “โกงกิน” เพื่อศึกษาเผยแพร่ความรู้ดังกล่าวสู่ผู้สนใจต่อไป 1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพื่อช่วยรณรงค์ให้มีการทำอาชีพที่สุจริต ไม่คดโกงผู้อื่น 1.2.2 เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงความอันตรายของการไม่ระวังตัวในการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ 1.2.3 เพื่อให้ผู้คนมีความระมัดระวัง และตรวจสอบสินค้าและบริการที่ต้องการจะเลือกซื้อ 1.2.4 เพื่อให้ผู้คนได้รู้จักใช้เหตุผล ไม่ใช้ความรุนแรงทั้งทางกาย และวาจา ในการแก้ไขปัญหา 1.2.5 เพื่อให้ผู้คนได้รู้วิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกต้อง 1.3 ขอบเขตของโครงงาน สร้างสื่อวีดีทัศน์ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการ โกงกิน โดยใช้โปรแกรม CapCut,InShot,Kinemaster, Adobe premiere proในการตัดต่อวีดีทัศน์ และเผยแพร่ผ่าน Youtube

1.4 ระยะเวลาดำเนินงาน ที่ ขั้นตอนการดำเนินงาน ระยะเวลาดำเนินงาน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ สัปดาห์ที่ 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 คิดหัวข้อโครงงาน √ 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล √ 3 จัดทำโครงร่างเพื่อนำเสน อ √ 4 ปฏิบัติการจัดทำโครงงาน √ 5 รายงานความก้าวหน้า ของโครงงานครั้งที่ 1 √ 6 รายงานความก้าวหน้า ของโครงงานครั้งที่ 2 √ 7 รายงานความก้าวหน้า ของโครงงานครั้งที่ 3 √ 8 ปรับปรุง ทดสอบ √ 9 จัดทำรูปแบบรายงานโคร งงาน √ 10 ประเมินผลงาน √ 11 นำเสนอโครงงาน √ 1.5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.5.1 สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพที่สุจริตและไม่คดโกงผู้อื่น 1.5.2 สามารถตระหนักถึงความอันตรายของการไม่ระวังตัวในการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ 1.5.3 ทุกคนสามารถระมัดระวัง และตรวจสอสินค้าและบริการ ที่ต้องการได้ 1.5.4 ทุกคนสามารถใช้เหตุผลในการพูดโต้แย้งกับผู้อื่นได้และไม่ใช้ความรุนแรง 1.5.5 ทุกคนสามารถใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในทางที่ถูกต้องและไม่เบียดเบียนผู้อื่น

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง โกงกิน นี้ ผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 2.1 ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 2.2 การสร้างเว็บไซต์ จาก Google Sites 2.3 การสร้างภาพยนตร์ 2.4 การใช้งานโปรแกรม Capcut Inshot kinemaster Adobe premiere pro 2.1 ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ครูผู้สอนจะต้องทำการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พร้อม ๆ ไปกับการผลิตและการใช้สื่อการเรียนรู้ ซึ่งแนวทางในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ มีดังต่อไปนี้ 1.วิเคราะห์วัตถุประสงค์ เนื้อหา 2. วิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เนื้อหา 3. ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ควรพิจารณาลักษณะของกิจกรรม ดังต่อไปนี้ 3.1 ผู้เรียนต้องลงมือปฏิบัติอย่างตื่นตัว 3.2 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ 3.3 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีอิสระในการคิดแก้ปัญหา หรือพัฒนาชิ้นงาน หรือ โครงการ 3.4 ต้องคำนึงให้ผู้เรียนร่วมเรียนรู้ หรือทำงานเป็นกลุ่ม 4. วิเคราะห์กิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวข้างต้น ว่าจะต้องใช้สื่อการเรียนรู้ประเภทใดที่ช่วยสร้างความเข้าใจในความคิดรวบยอดนั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเน้นกิจกรรมที่ผ่านกระบวนการที่ผู้เรียนต้องลงมือค้นหาคำตอบ ทำความเข้าใจด้วยตนเอง หรือสะท้อนการเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง 5. จัดเตรียม สื่อการเรียนรู้ อาจจะผลิตขึ้นมาใหม่ หรือปรับปรุงจากของเดิม อาจอยู่ในรูปของ 5.1 ชุดการทดลอง 5.2 ชุดกิจกรรม 5.3 สิ่งตีพิมพ์ เช่น เอกสาร ตำรา วารสาร 5.4 เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เช่น อินเตอร์เนต E-Learning มัลติมีเดีย Web-based learning 5.5 แหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติ

5.6 แหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ 6. นำไปใช้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เช่น 1. ผู้เรียน 2. ครูผู้สอน 3. สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก 7. ประเมินผลสื่อ โดยพิจารณาจาก 7.1 ประเมินผลผลิต คือ ประเมินคุณภาพของสื่อการเรียนรู้ โดยผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านเนื้อหา ด้านการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านสื่อ และด้านประเมินผล 7.2 ประเมินบริบทการใช้ เพื่อหาบริบทที่เหมาะสมในการใช้สื่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพจริง เช่น การจัดจำนวนสมาชิกในกลุ่มที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในกิจกรรมการแก้ปัญหาที่ใช้ Web-based learning 7.3 ประเมินด้านความคิดเห็น เจตคติที่มีต่อการเรียนจากสื่อการเรียนรู้ 7.4 ประเมินด้านความสามารถ (Performance) ของผู้เรียน ความสามารถของผู้เรียนประเมินได้จากการกระทำที่แสดงออกโดยตรงจากการทำงานด้านต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ที่กำหนดให ที่เป็นสภาพจริงหรือใกล้เคียงกับสภาพจริง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแก้ปัญหา หรือปฏิบัติงานจริง อาจประเมินได้จาก กระบวนการทำงาน กระบวนการคิด (Cognitive process) โดยเฉพาะการคิดในระดับสูง (higher-order thinking) ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ การคิดวิพากษ์วิจารณ์ การคิดแบบสร้างสรรค์ การคิดเชิงเหตุผล เป็นต้น นอกจากนี้อาจประเมินเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน เช่น กระบวนการการแก้ปัญหา 7.5 ประเมินด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.2 การสร้างเว็บไซต์ จาก Google Sites คือ เครื่องมือสร้างเว็บไซต์โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรมหรือการออกแบบ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหนึ่งในชุดการทำงานของ Google Workspace เช่นเดียวกับ Google Sheets, Docs, Drive, Keep, ฯลฯ สามารถสร้างหรือแก้ไขเว็บไซต์ได้ง่ายมาก เพียงคลิก ลาก และวาง ทุกอย่างจะลงตัวในตำแหน่งที่ดีที่สุด ซึ่งใน Google Sites มีเลย์เอาต์ให้เลือกตามความเหมาะสมกับเนื้อหาง่ายต่อการย้าย ปรับขนาด หรือจัดเรียงใหม่อีกด้วย นอกจากนี้คุณสามารถทำงานร่วมกันกับทีมของคุณและดูการเปลี่ยนแปลงแก้ไขของกันและกันแบบเรียลไทม์ ผู้ใช้สามารถจัดการสิทธิ์การแชร์และความเป็นเจ้าของใน Google Sites ได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง เช่นเดียวกับใน Google Docs เนื้อหาที่ฝังไว้จะคงสิทธิ์เดิมไว้เพื่อป้องกันการแก้ไขจากผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกที่จะจำกัดการเข้าถึงผ่านการตั้งค่าการแบ่งปันได้อีกด้วย

2.3 การสร้างภาพยนตร์ 2.3.1 การวางแผนการผลิต (Planning) ปรึกษากันเพื่อที่จะได้คิดหาชื่อเรื่องและช่วยกันคิดเนื้อเรื่องเพื่อนำมาทำเป็นหนังสั้น 2.3.2 การเขียนบท (storyboard) เนื้อหา จีน มุก น้ำใส ทั้งสามคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.ต้น จีนเป็นคนที่นิสัยฉลาดมากๆ หัวไว แต่ขี้อิจฉาคนอื่น ส่วนมุกจะมีนิสัยร่าเริงเข้ากับคนง่ายแต่ลึกๆมุกก็เป็นคนที่ชอบโกหกเหมือนกันคนสุดท้ายน้ำใสจะออกแนวลูกคุณห นูขี้เหยียดคนอื่นชอบลักขโมยทั้งสามคนนี้ชอบซุบซิบนินทาคนอื่นมากๆสนิทกันมากพอเวลาผ่านไปถึงเวลาต้องแยก ย้ายไปใช้ชีวิตของแต่ละคนทั้งสามก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกันเลยโดยแต่เดิมจีนทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน รายได้เยอะมากแต่ต้องมาโดนไล่ออกเพราะติดการพนันแล้วยักยอกเงินของทางบริษัทมุกทำงานเป็นพนักงานโรงงา นเย็บผ้ารายได้น้อยต้องส่งเงินค่างวดรถทุกเดือนและติดหนี้เยอะมากส่วนน้ำใสทำงานหรือหลอกเอาเงินลูกค้าชอบ ทำให้ตัวเองดูเป็นคนรวยในสายตาคนอื่นจนถูกลูกค้าแจ้งความ และโดนจับเข้าคุก พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ทั้งสามคนได้กลับมาเจอกันที่บ้านของจีน เพราะแม่ของจีนนั้นได้เสียชีวิตไป ทั้งสามก็ได้นั่งปรึกษาสารทุกข์สุกดิบกัน จนได้ข้อสรุปมาว่าอยากจะร่วมทุนกันเปิดร้านขายรองเท้าเพราะช่วงนี้คนชอบหารองเท้าใหม่ๆมาแต่งคู่กับเสื้อผ้าที่ ซื้อมากันโดยส่วนใหญ่จะขายรองเท้าผ้าใบแบรนด์nekiแลadadisพอถึงเวลาขายจริงๆกลับไม่ได้รายได้มากเท่าที่คิด พวกเขาจึงได้คิดหนทางที่จะทำให้ได้กำไรเยอะๆ จีนก็ได้คิดไอเดียว่าจะขายรองเท้าที่เป็นของปลอมแบบก๊อปเกรดA โดยได้ทำการโพสต์ขายออนไลน์ และจ้างหน้าม้ามาโปรโมทร้านค้าของตัวเอง เพื่อที่จะได้รายได้มากขึ้น และทั้ง 3 ก็ได้เปิดร้านขายรองเท้าที่ชื่อว่า "นานาเท้า" เวลาผ่านไปสักพัก ร้านก็ได้กำไรเยอะมากๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสังเกตุว่า รองเท้าที่ขายนั้นเป็นของปลอมวันหนึ่งแยมกับผิอยากได้รองเท้าแต่ตัวเองไม่มีเงินเลยตกลงกันว่าจะไปหาสลิปปลอ มมาซื้อของ ทั้งสองจึงทักไปสั่งรองเท้า neki รุ่น air jorban ราคา 2,990 บาท และ adadis สำหรับวิ่งออกกำลังกาย ราคาคู่ละ 2,490 บาท แยมกับผิงก็ได้ส่งสลิปปลอมไป บวกกับที่ทางร้านก็ไม่ได้เช็คว่ามียอดเข้าพอดี ก็เลยทำการส่งสินค้าไปกับบริษัทขนส่งcherry&fastพอสินค้าไปถึงลูกค้าก็พอใจมากที่ได้รองเท้ามาโดยที่ไม่ต้องเสีย เงินสักบาทประสบที่ตอนนั้นโรมญาติของแยมที่ซื้อรองเท้าบ่อยๆและเป็นพนักงานของช็อปแบรนด์nekiแยมจึงขอใ ห้โรมช่วยตรวจสอบรองเท้าให้หน่อยว่าเป็นของแท้ไหมโรมได้นำรองเท้ากลับไปตรวจที่ช็อปคนที่เป็นนักสะสมรองเ ท้าบางคนก็อาจจะมองไม่ออกเลย แยมจึงได้ทักไปด่าทางร้าน และประจาน ชาวเน็ตก็แห่พากันแบนร้านค้านี้ ทางร้านจึงออกมาแก้ข่าวและประจานแยมกลับไปคืนว่าแยมนั้นได้ส่งสลิปปลอมมาทั้งคู่ก็เลยประจานกันไปประจา นกันมาผิงจึงได้เตือนแยมไปว่าอย่าไปด่าเขาเลยเราก็ทำผิดเหมือนกันทำให้เรื่องบานปลายมากๆทั้งสองฝ่ายเลยต้อง มาเคลียร์ปัญหากัน จึงได้ข้อสรุปว่า จะไม่เอาอะไรผิดต่อกัน เลิกยุ่งเกี่ยวกัน และได้ออกมาแก้ข่าวว่า เป็นการเข้าใจผิดกันเล็กน้อย และร้าน"นานาเท้า"ก็ได้ปิดร้านหนีไป

2.3.3 การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ (Preparation) แบ่งกันว่าใครจะเตรียมของอะไรบ้างอย่างเช่น เสื้อ หมวก ของที่จะใช้ในการถ่ายทำหนังสั้น หรือ จะใช้มือถือของใครในการถ่ายหนังสั้น 2.3.4 การบันทึก (Recording) ใช้โทรศัพท์มือถือในการถ่ายทำหนังสั้น 2.3.5 ข้อควรจำในการพัฒนาสื่อวีดีทัศน์ 2.3.5.1ประสิทธิภาพ จะผลิตสื่อวีดิทัศน์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายใด การผลิตวีดิทัศน์ ควรเลือกให้เหมาะกับกลุ่มผู้ดูผู้ชม เพราะเนื้อหาเรื่องราว จะมีความเข้มข้น หรือละเอียดลึกซึ้งแตกต่างกัน 2.3.5.2 การผลิตสื่อวีดิทัศน์ต้องการแสดงถึงเนื้อหาสาระมากน้อยแค่ไหน ประเด็นของเรื่องราวหรือแก่นแท้ (Theme) จะแสดงถึงอะไรบ้าง 2.3.5.3 การผลิตสื่อนี้ คาดหวังผลอะไรบ้าง ถ้าหากรู้ถึงวัตถุประสงค์หรือความคาดหวังถึงผลที่ได้จากสื่อที่ผลิต จะช่วยให้เนื้อหาเรื่องราวในวีดิทัศน์ตรงประเด็นได้มากขึ้น 2.3.5.4 ในกระบวนการผลิตวีดิทัศน์ได้มีการประสานงานกับบุคคลากรระดับสูงผู้บังคับบัญชา หรือผู้เกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใดเพื่อความเข้าใจในเรื่องราวเพื่อความถูกต้องและการประสานสัมพันธ์ที่ดีในการทำง าน 2.3.5.5 ผู้ผลิตควรเข้าใจถึงประเด็นในการทำวีดิทัศน์ถึงความเหมาะสมของเรื่องราวความโดดเด่นหรือความน่าจะเป็นของก ารเลือกสิ่งที่นำเสนอทั้งบุคลากรสถานที่กิจกรรมหรือเหตุการณ์ตลอดจนข้อมูลต่างๆ พยายามหามุมมองที่มีคุณค่า เลือกสิ่งที่น่าสนใจออกมานำเสนอซึ่งบางครั้งอาจมีการเสริมแต่งบ้างก็ควรต้องเลือก ต้องพยายาม เพื่อให้ได้สื่อวีดิทัศน์ที่น่าสนใจ 2.3.5.6 คณะทำงานควรเปิดใจกว้าง ในการวิพากษ์และตรวจทานผลงาน เพื่อจะได้ปรับปรุงและสรรค์สร้างงานให้มี 2.4 การใช้โปรแกรม CapCut InShot kinemaster Adobe premiere pro 2.4.1 การใช้โปรแกรม CapCut เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ทำให้คุณสามารถตัดต่อผลงานภาพและเสียงของคุณได้อย่างง่ายดาย โปรแกรมตัดต่อนี้สามารถเพิ่มคลิป ตัดคลิป และะเพิ่มเพลงและสติ๊กเกอร์เข้าไปได้

2.4.2 การใช้โปรแกรม InShot แอปตัดต่อวิดีโอฟรีที่ทรงพลังและแอปแต่งรูป แต่งวิดีโอ เพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพที่ยอดเยี่ยม ตัดแต่งวิดีโอ พื้นหลัง และตัดต่อภาพ เพิ่มเพลงและเอฟเฟ็กต์วิดีโอ 2.4.3 การใช้โปรแกรม kinemaster KineMaster คือแอพพลิเคชั่นสำหรับตัดต่อวิดีโอ บนมือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีพร้อมกับประสบการณ์อันเยี่ยมยอดสำหรับผู้ใช้และฟีเจอร์ที่มีอยู่หลากหลายที่สามารถ สร้างวิดีโอที่ตรงตามแบบที่ต้องการได้เลย มีทั้งแบบดาวน์โหลดฟรีและเสียเงิน 2.4.4 การใช้โปรแกรม Adobe premiere pro Adobe Premiere Pro เป็นซอฟแวร์โปรแกรมตัดต่อวิดีโอและบันทึกตัดต่อเสียงที่แพร่หลายที่สุด สามารถผลิตผลงานได้ในระดับมืออาชีพ จนถึงการนำไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ (Broadcasting System) มีการทำงานที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนัก สามารถจับภาพและเสียงมาวาง (Drag & Drop) ลงบนไทม์ ไลน์ (Time line) เคลื่อนย้ายได้อิสระโดยไม่จ ากัดจ านวนครั้ง และไม่มีการสูญเสียของสัญญาณภาพและเสียง เพียงผู้ผลิตจำเป็นต้องมีทักษะที่ดีในการใช้โปรแกรมกับความคิดสร้างสรรค์

บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่องโกงกินนี้ ผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินงานโครงงาน ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา 3.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 3.1.2 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น Messenger 3.1.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์ www.gmail.com 3.1.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่น Capcut Inshot kinemaster Adobe premiere pro 3.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน 3.2.1 คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน 3.2.2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ คือเรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ว่ามีเนื้อหามากน้อยเพียงใด และต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ต่างๆ และเก็บข้อมูลไว้เพื่อจัดทำเนื้อหาต่อไป 3.2.3 ศึกษาการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา จากเอกสารที่ครูประจำวิชากำหนด และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำเสนอเทคนิค วิธีการสร้างภาพยนต์ 3.2.4 จัดทำโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษา โดยได้นำไฟล์ข้อมูลไปฝากไว้ที่ ห้องเรียน ที่สร้างขึ้นจาก Google application ในกลุ่มของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3.2.5 ปฏิบัติการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่องโกงกิน โดยการสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างที่เสนอไว้แล้ว 3.2.6 นำเสนอรายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ ซึ่งครูที่ปรึกษาจะให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อให้จัดทำเนื้อหาและการนำเสนอที่น่าสนใจต่อไป ทั้งนี้เมื่อได้รับคำแนะนำก็จะนำมาปรับปรุง แก้ไขให้เป็นที่สนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สร้างเครือข่ายสังคมโดยใช้เว็บไซต์ Facebook เพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยให้ข้อเสนอแนะ และสื่อสารกันหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสร้างและพัฒนาดังกล่าว 3.2.7 จัดทำเอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยนำเสนอในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์และนำฝากข้อมูลไฟล์ดังกล่าวไว้ที่ห้องเรียน ที่สร้างขึ้นจาก Google application ในกลุ่มของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

3.2.8 ประเมินผลงาน โดยการนำเสนอหน้าชั้นเรียนและผ่านห้องเรียน ที่สร้างขึ้นจาก Google application ในกลุ่มของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วให้ครูที่ปรึกษาประเมินผลงาน และให้เพื่อนๆ ผู้สนใจเข้าร่วมประเมิน โดยการให้คลิก Like และคอมเมนท์

บทที่ 4 ผลการดำเนินงานโครงงาน การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่องโกงกินนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา และค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับ การทำอาชีพที่สุจริต ไม่โกงผู้อื่น เพื่อให้ผู้จัดทำโครงงานสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลการดำเนินงานโครงงาน ดังนี้ 4.1 ผลการการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา การจัดทำภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่องโกงกิน นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงาน ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว 4.2 ตัวอย่างการนำเสนอ

บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง โกงกิน นี้ สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้ 5.1 การดำเนินงานจัดทำโครงงาน 5.1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 5.1.1.1 เพื่อศึกษาและการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “โกงกิน” 5.1.1.2 เพื่อศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับการรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง โกงกิน 5.1.1.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนารูปแบบของสื่อวีดีทัศน์ได้ด้วยตนเองและนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเ องมากยิ่งขึ้น 5.1.1.4 เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป 5.2.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา 5.2.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5.2.1.2 เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เช่น www.facebook.com 5.2.1.3 เว็บไซต์ที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์ www.gmail.com 5.2.1.4 โปรแกรมตัดต่อและตกแต่งรูปภาพ เช่น Capcut Inshot Kinemaster Adobe Premiere pro 5.2 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน การจัดทำภาพยนตร์สั้น เรื่อง การรณรงค์การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต เรื่อง โกงกิน นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว

5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะทั่วไป 5.3.1.1 ควรมีการจัดทำเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้ 5.3.1.2 ควรมีการจัดทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพิ่มเติม 5.3.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา 5.3.2.1 เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทำโครงงาน และบางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา เข้าพร้อมกันก็จะทำให้ช้า จึงทำให้การพัฒนาเว็บบล็อกเกิดความล่าช้าตามไปด้วย 5.3.2.2 เพื่อนนักเรียนบางคนเรียนรู้การพัฒนาสื่อวีดีทัศน์ค่อนข้างช้า ทำให้ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ เพราะครูผู้สอนไม่สามารถสอนเนื้อหาเพิ่มเติมได้

บรรณานุกรม ฉัตรชัย ต้นกล้า ขวดชัยภูมิ. 2555. การพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี. [Online]. Available: https://www.gotoknow.org/posts/384902.[Online] DEMETER. 2564. สร้างเว็บไซต์ง่ายๆ ไม่ง้อโปรแกรมเมอร์ด้วย Google Sites.[Online]Available:https://www.dmit.co.th/th/google-workspace-updates-th/easy-to-createwebsite-no-programmers-with-google-sites/ สืบค้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566. ดร.กฤษณพงศ์ เลิศบำรุงชัย. 2565. การเขียนสตอรี่บอร์ด(Storyboard). [Online].Available:https://touchpoint.in.th/storyboard-video-production/. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566. นางสาวสุไรดา วาแต, และนางสาวนาเซีย ตูแวแมง. 2564. สื่อวิดีโอเกี่ยวกับภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์. [Online].Available:https://anyflip.com/pqdva/zhgk/basic. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566. ประยูร ศรีทนต์. 2557. การสร้างสื่อวีดีทัศน์. [Online].Available https://vdopk.wordpress.com/ สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566. ลัดดา ศรีบุรมณ์. 2564. การใช้โปรแกรม kinemaster. [Online].Available https://nakhonphanom.cdd.go.th/wp-content/uploads/sites สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566. ภาคผนวก