1
กลมุ สาระการเรยี นรสู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ ๒
ตาํ แหนง ครู วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ
โรงเรียนมธั ยมศึกษาเทศบาลเมอื งปทุมธานี
เทศบาลเมืองปทุมธานี อําเภอเมืองปทมุ ธานี จังหวดั ปทมุ ธานี
ก
รปู แบบการจัดการเรียนรูพระพุทธศาสนา ตามแนวคําสอนของพระพุทธเจา เพ่ือสงเสริมทักษะ
การเรียนรูแบบ Active learning กลมุ สาระการเรียนรูสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษา
ปที่ ๒ เนื้อหาเลมน้ีสอดคลองกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
กลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เพ่ือเสริมสรางความรูและความเขาใจประวัติ
ความสําคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่
ถกู ตอ ง ยึดม่นั และปฏิบตั ติ ามหลักธรรมเพ่ืออยรู วมกนั อยางสนั ติสุข
รูปแบบการจัดการเรียนรูพระพุทธศาสนา ตามแนวคําสอนของพระพุทธเจา เพ่ือสงเสริม
ทักษะการเรียนรูแบบ Active learning กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒ เลมที่ ๕ เรื่อง หนาที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ จัดทําเพื่อใหนักเรียน
สามารถอธิบายบทบาทของพระภิกษุในการเผยแผพระพุทธศาสนาได อธิบายหนาท่ีบทบาทของลูก
ทด่ี ีพึงปฏิบัตติ อบิดามารดาตามหลักทิศ ๖ ได บอกความหมายมรรยาทและระบุแนวปฏิบัตติ นตาม
มรรยาทของศาสนิกชนท่ีดีได เห็นคุณคาหลักการปฏิบัติตนการเปนลูกที่ดีของบิดามารดาตามหลัก
ทิศ ๖ และการปฏบิ ัตติ นตามมรรยาทของศาสนกิ ชนท่ีดนี าํ ไปใชใ นการดําเนินชีวติ ประวนั ได
ขอขอบพระคุณผูเชี่ยวชาญทุกทานที่ใหคําปรกึ ษา แนะนําในการจัดทํารปู แบบการจัดการเรียนรู
พระพุทธศาสนา ตามแนวคําสอนของพระพุทธเจา เพ่ือสง เสริมทักษะการเรียนรูแบบ Active learning
กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒ ชุดนี้จนสําเร็จ
สามารถนําไปใชพัฒนาใหคงอยูตอไป
หวังเปนอยางย่ิงวารปู แบบการจัดการเรียนรูพระพุทธศาสนา ตามแนวคาํ สอนของพระพุทธเจา
เพื่อสงเสริมทักษะการเรียนรูแบบ Active learning กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒ ชุดนี้จะเปนประโยชนตอการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของ
ครู ชวยพัฒนานักเรียนและเยาวชนทุกคนใหเปนศาสนิกชนที่ดี และธํารงรักษาพระพุทธศาสนา
หรือศาสนาที่ตนนับถือสืบไป
นางอมรรัตน ภูมิประหมัน
ข
เรือ่ ง หนา
คํานํา ก
สารบัญ ข
คําช้แี จง ค
มาตรฐานและตวั ชว้ี ัด ง
จดุ ประสงคก ารเรียนรู ๑
แบบทดสอบกอ นเรยี น ๒
ใบความรทู ่ี ๑ เรอื่ ง การเปน ลูกที่ดตี ามหลักทิศเบือ้ งหนา ในทศิ ๖ ๔
ใบกิจกรรมที่ ๑ เรอ่ื ง การปฏิบัตติ นตามหลักทศิ ๖ ๖
ใบความรทู ี่ ๒ เรอ่ื ง มารยาทชาวพุทธ ๗
ใบกิจกรรมท่ี ๒ เรื่อง การวเิ คราะหส ถานการณการปฏิบตั ิตนตอพระสงฆ ๑๒
ใบความรูที่ ๓ เรื่อง การแตง กายมรรยาททางสงั คมท่พี งึ ปฏิบัติ ๑๓
ใบกิจกรรมท่ี ๓ เรื่อง การวเิ คราะหส ถานการณการแตงกาย ๑๕
แบบทดสอบหลังเรียน ๑๖
ภาคผนวก ๑๘
เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น ๑๙
เฉลยใบกจิ กรรมที่ ๑ เรอ่ื ง การปฏบิ ตั ติ นตามหลักทิศ ๖ ๒๐
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี ๒ เรอื่ ง การวิเคราะหสถานการณการปฏิบัตติ นตอ พระสงฆ ๒๑
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี ๓ เรื่อง การวิเคราะหส ถานการณการแตงกาย ๒๒
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ๒๓
บรรณานุกรม ๒๔
ค
รูปแบบการจัดการเรยี นรูพระพุทธศาสนา ตามแนวคาํ สอนของพระพุทธเจา เพ่ือสง เสริมทกั ษะการ
เรียนรูแบบ Active learning กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษา
ปท่ี ๒ พัฒนาข้ึนมาเพ่ือเปนแหลงความรูของนักเรียนเขาใจการเผยแผพระพุทธศาสนาเขาสูประเทศ
เพอ่ื นบานและการนับถือพระพุทธ ศาสนาของประเทศเพอ่ื นบา นในปจจบุ นั
รูปแบบการจัดการเรียนรูพระพุทธศาสนา ตามแนวคําสอนของพระพุทธเจา เพื่อสงเสริมทักษะ
การเรียนรูแบบ Active learning กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยม
ศกึ ษาปท ี่ ๒ มที ้งั หมด ๗ เลม ดงั น้ี
เลม ที่ ๑ เรอ่ื ง พระพทุ ธศาสนาในประเทศเพื่อนบา น
เลมท่ี ๒ เรื่อง พทุ ธประวตั ิ พทุ ธสาวก และชาดก
เลมท่ี ๓ เรือ่ ง หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา
เลมที่ ๔ เรือ่ ง พระไตรปฎกและพุทธศาสนสภุ าษิต
เลมท่ี ๕ เรื่อง หนาท่ชี าวพุทธและมารยาทชาวพุทธ
เลม ท่ี ๖ เรอื่ ง วันสาํ คญั ทางพทุ ธศาสนาและศาสนพิธี
เลมท่ี ๗ เรื่อง การบรหิ ารจติ และการเจรญิ ปญญา
เพ่ือใหบรรลุจุดประสงคของรูปแบบการจัดการเรียนรูพระพุทธศาสนา ตามแนวคาํ สอนของ
พระพุทธเจา เพื่อสง เสรมิ ทักษะการเรยี นรูแบบ Active learning กลมุ สาระการเรยี นรูสังคมศกึ ษา
ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๒ เลมที่ ๕ เร่ือง หนาที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ
มขี อเสนอแนะใหน กั เรยี นปฏบิ ตั ิตามข้ันตอน ดังน้ี
๑. ศึกษาทาํ ความเขาใจจดุ ประสงคของรปู แบบการจัดการเรยี นรู
๒. ทําแบบทดสอบกอนเรียนจํานวน ๑๐ ขอ กอนศึกษาเนื้อหาในเลม เพื่อตรวจความรู
พน้ื ฐาน
๓. นักเรยี นศกึ ษาใบความรูและทําใบงานทีก่ าํ หนดให
๔. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน พรอมกับตรวจคําตอบจากเฉลยเพื่อจะไดทราบ
วาตนเองมกี ารพัฒนาดา นความรูเพมิ่ เติมเพียงใด
ง
สาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา ใจ ตระหนกั และปฏิบัตติ นเปน ศาสนกิ ชนทด่ี ี และธาํ รงรักษาพระพุทธศาสนา
หรอื ศาสนาทตี่ นนับถอื
ตัวช้วี ดั
ส ๑.๒ ม.๒/๑ ปฏิบตั ติ นอยา งเหมาะสมตอบคุ คลตางๆ ตามหลักศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามท่ีกําหนด
ส ๑.๒ ม.๒/๒ มีมรรยาทของความเปน ศาสนิกชนทดี่ ีตามท่ีกาํ หนด
สาระสาํ คญั
ชาวพุทธที่ดีควรปฏิบัติตนตามหนาท่ีทั้งทางโลกและทางธรรม เชน การปฏิบัติหนาที่ตอ
บุคคลทอ่ี ยรู อบขาง การปฏบิ ัติตนเปนผูมีมารยาทงาม การปฏิบัติตามหลักธรรม ถาชาวพุทธทุกคน
ปฏิบตั ไิ ดอ ยา งเครงครดั กจ็ ะสงผลเกดิ ความสงบสุข ตอ ตนเอง ครอบครวั สังคม และเกิดความสงบสุข
ตอ ประเทศดว ยเพ่อื เปนการสบื สานพระพุทธศาสนาใหเจริญรงุ เรอื งสืบไป
มารยาทที่ชาวพุทธควรปฏิบตั ิใหถ ูกตองเหมาะสมรวมท้ังควรมมี ารยาทในการแตงกายทั้งการ
แตงกายไปวัดการแตงกายไปงานมงคล และการแตงกายไปงานอวมงคลเพราะการมีมารยาทใน
เรื่องดังกลาวจะทําใหอยูรวมกันได อยางมีความสุขและสามารถสืบทอดเอกลักษณวัฒนธรรมที่
ดีงามเอาไวได
๑
เมอ่ื ศึกษารปู แบบการจดั การเรียนรูพ ระพุทธศาสนา ตามแนวคําสอนของพระพทุ ธเจา
เพ่ือสง เสรมิ ทักษะการเรียนรแู บบ Active learning กลมุ สาระการเรียนรสู ังคมศกึ ษา ศาสนา
และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ ๒ เลมที่ ๕ เรอ่ื ง หนา ท่ีชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ
นักเรียนสามารถแสดงพฤตกิ รรมดงั ตอไปนี้
ดา นความรู (K)
๑. นกั เรยี นมีอธิบายหนาท่บี ทบาทของลกู ทีด่ พี ึงปฏิบัติตอ บดิ ามารดาตามหลักทศิ ๖ ได
๒. นกั เรียนบอกความหมายมรรยาท ระบุแนวปฏิบตั ติ นตามมรรยาทของศาสนิกชนทด่ี ีได
๓. ตระหนกั และเห็นคณุ คา การปฏบิ ัตติ นตามมรรยาทของศาสนกิ ชนที่ดีและนําไป
ประยุกตใ ชเปนแบบอยา งการปฏิบตั ติ นในชีวิตประจาํ วันได
ดานทกั ษะ (P)
๑. นกั เรียนมคี วามสามารถในการแกปญ หา
๒. นกั เรยี นมคี วามสามารถในการใหเหตผุ ล
๓. นักเรยี นมีความสามารถในการส่ือสาร ส่อื ความหมาย
ดานคุณลกั ษณะอันพึงประสงค (A)
๑. นกั เรยี นมีความซอื่ สตั ยส จุ รติ
๒. นักเรยี นมีการใฝเรยี นรู
๓. นกั เรยี นมีความมงุ มัน่ ในการทํางาน
๒
แบบทดสอบกอนเรียน
เลม ที่ ๕ เรื่อง หนา ที่ชาวพทุ ธและมารยาทชาวพทุ ธ
คําช้ีแจง ใหน กั เรยี นทําเครื่องหมาย ลงบนหนาขอ ที่ถูกตอ งมากท่สี ดุ
๑. การแตงกายท่ีเหมาะสมกบั การไปวัด ใครปฏบิ ัติไดถูกตองและเหมาะสมท่ีสุด
ก. กจิ ชัยใสช ดุ ดําทั้งเสื้อและกางเกง
ข. ขวญั แตง ตวั ดวยเสอ้ื สีแขนยาวกระโปรงยาวสีครมี
ค. ประกอบแตงตัวตามแฟชน่ั กางเกงขาส้ันเสือ้ กลา ม
ง. แอนนาแตงตวั ดวยเสือ้ ผา สีฉดู ฉาดสแี ดงท้ังชุด
๒. ชุดใดเปน ชดุ ท่สี ุภาพในการแตงกายไปรวมงานมงคลและงานอวมงคล
ก. เครือ่ งแบบขาราชการ
ข. ชุดใหมท่ีพ่ึงใสเปนคร้ังแรก
ค. กางเกงขายาวและเสือ้ เชิต้ แขนส้นั
ง. กางเกงขายาวและเสือ้ เช้ิตแขนยาว
๓. ทศิ เบือ้ งหนา หมายถงึ ขอใด
ก. ศษิ ย
ข. นายจาง
ค. ครู อาจารย
ง. บดิ า มารดา
๔. บดิ า มารดาควรสงเคราะหบตุ รธดิ าหลายประการ ยกเวน ขอใด
ก. ใหก ารศกึ ษาเลา เรียน
ข. อบรมใหต ง้ั ม่ันอยูในความดี
ค. เลอื กอาชีพท่ีเหมาะสมใหบ ตุ ร
ง. มอบทรัพยใ หเมือ่ ถงึ โอกาสอนั ควร
๕. คาํ กลา ว "ประเพณไี ทยแทแตโ บราณ ใครมาถึงเรือนชานตอ งตอ นรับ" จดั ไดวามี
ความสอดคลอ งกบั เรื่องใด
ก. การปฏสิ ันถาร
ข. วฒั นธรรมชาวพุทธ
ค. มารยาทของคนไทย
ง. การทักทายผูม าเยือน
๓
๖. การไปเย่ยี มเยยี นผอู ่ืนท่ีบาน ผเู ปนแขกควรปฏิบัติในขอใดเปน ลําดับแรก
ก ทักทายดวยหนา ตาย้มิ แยม
ข. ทาํ ความเคารพเจาของบา น
ค. มอบของท่ีระลกึ แกเจา ของบาน
ง. ใหเสียงหรือสัญญาณวามแี ขกมาหา
๗. การยืนตอหนาพระภิกษคุ วรปฏบิ ตั อิ ยางไร
ก. ยนื คอ มตวั ปลายเทาชิด
ข. ยนื คอมตวั มอื ประสานกัน
ค. ยนื ตรง มอื ประสานกนั ดานหนา
ง. ยืนตรง มือทั้งสองประสานกันดานหลัง
๘. ในการประชมุ ท่ีมีพระสงฆนัง่ ประชมุ อยดู ว ย ชาวพทุ ธควรปฏบิ ัติตนอยางไร ในกรณีที่
จาํ เปน ตอ งน่ังเกา อีแ้ ถวเดยี วกบั พระสงฆ
ก. น่ังหางกันพอสมควร
ข. สตรีเพศจึงนงั่ บนพื้นดา นลาง
ค. น่งั เกาอี้ดานซายมือของพระสงฆ
ง. น่งั เกาอี้ดานขวามือของพระสงฆ
๙. การเดนิ สวนทางกับพระสงฆ ควรปฏิบตั ิตนอยา งไร
ก. น่ังลงกบั พนื้ ทันทีทที่ านเดนิ ผา น
ข. ยืนตรง กม หนา แสดงความเคารพ
ค. หลกี ชดิ ขวามอื ของพระสงฆแลว ไหว
ง. ยืนตรงหรือนัง่ ตามความเหมาะสมแลว หันหนา มาทางทา น มือประสานไวข างหนา
๑๐. ในการสนทนากับพระสงฆ กันยาควรใชส รรพนามแทนตวั วาอยางไร
ก. ลูกชา ง
ข. ดิฉัน
ค. อิฉนั
ง. ขาพเจา
๔
ใบความรูที่ ๑ เร่อื ง การเปน ลูกทีด่ ีตามหลกั ทศิ เบ้อื งหนาในทิศ ๖
คา วา ทศิ ในทางพระพทุ ธศาสนา เปนการเปรียบเทียบถึงบุคคล
ประเภทตางๆ ทส่ี ัมพันธเก่ียวของในสังคม ถือเปน หลักธรรมทจ่ี ะกอใหเกดิ
ความสมานฉันท และการเกื้อกูลกนั ระหวา งบุคคลตางๆ
ความหมายของทศิ ๖
การอยูรวมกันในสังคม ทุกคนมีหนาท่ีและความรับผิดชอบแตกตางกันขึ้นอยูกับสถานภาพ
และบทบาทหนาท่ีตนดํารงอยู เพื่อการอยูรวมกันอยางสันติสุข โดยเร่ิมไดต้ังแตสังคมในระดับเล็ก
ที่สุดคือครอบครัว ผูท่ีอยูในฐานะพอ แม และลูก ตางมีหนาที่ พระพุทธศาสนามีหลักธรรมที่ได
กลา วถึงหนา ท่ี ความรับผิดชอบไวในทิศ ๖ หมายถึง บคุ คลประเภทตา งๆ ที่มีความเก่ียวของสัมพันธ
กนั ทางสังคมมหี นา ที่และความรบั ผดิ ชอบท่พี ึงปฏิบตั ติ อกนั ดจุ ทิศท่ีอยรู อบตวั ประกอบดวย
๑. ทศิ เบ้อื งหนา (ปุรตั ถิมทศิ ) ไดแ ก บดิ ามารดา
๒. ทศิ เบื้องขวา (ทักษิณทศิ ) ไดแ ก ครอู าจารย
๓. ทิศเบ้ืองหลงั (ปจ ฉมิ ทิศ) ไดแก บุตร ภรรยา
๔. ทศิ เบอื้ งซาย (อตุ ตรทิศ) ไดแก มติ รสหาย
๕. ทิศเบื้องลา ง (เหฏฐมิ ทิศ) ไดแ ก ผอู ยูใตบังคบั บญั ชาและลูกจาง
๖. ทศิ เบอื้ งบน (อุปรมิ ทศิ ) ไดแ ก พระภกิ ษุ
๕
ดังน้นั ในฐานะท่ีเปน ลูกท่ีดี พึงปฏิบัติตอ พอแม ผูเปรียบเหมอื น ทศิ เบอ้ื งหนา ดงั น้ี
๑. การเลี้ยงดพู อ แม หมายถงึ การเล้ียง ๒ อยางคอื
๑.๑ การเล้ยี งใหทา นมีความสขุ กาย เชน แบง ปน ส่งิ ของใหตามอัตภาพ ใหการดแู ล
เอาใจใสเ ล้ียงดูทา นและยามเจ็บไขไดปว ย คอยปรนนิบัติเอาใจใสอ ยางใกลชิด
๑.๒ การเลี้ยงใหทานสุขใจ เชน การเช่ือฟงคาํ ส่ังสอนของทาน การประพฤติตนเปน
คนดีการพัฒนาตนเองใหเจรญิ กาวหนา เปน ตน
ภาพ : การเล้ียงดพู อแมใหทา นมคี วามสุขกาย
ทีม่ า : http://dhamma-media.blogspot.com/2017/06/blog-post_85.html
๒. ชว ยทาํ กิจธรุ การงานใหทาน หมายถึง ใหลกู ถือวา งานการทกุ อยางของพอ แม เหมอื นกับ
การงานของตน เมอ่ื ทา นมอบหมายใหทํา กม็ ีความเตม็ ใจทํากิจกรรมนน้ั ๆ ใหส ําเร็จลุลว งไปดว ยดี
เมือ่ ชวยงานทาน กต็ ้งั ใจทําจรงิ เต็มความรคู วามสามารถ ดวยความสมคั รใจ ไมอางหรอื หลกี เลยี่ งหนี
งานท่ีทา นมอบหมาย เปน ตน
๓. ดํารงวงศส กุลของทาน หมายถึง การรกั ษาชื่อเสยี งวงศต ระกลู หรอื สรางวงศตระกลู ให
รงุ เรือง ใหเจริญกา วหนา ไมสรางความเดือนรอน หรือความดางพรอยมาสวู งศตระกูล เปนตน
นอกจากนัน้ การรกั ษาเครอื ญาตไิ วอ ยางมัน่ คง มีความสามัคคีรกั ใครกลมเกลยี วกันระหวางเครอื ญาติ
การอยูร วมกันอยา งมีความสขุ สงบ เปน ตน
๔. ประพฤติตนใหเ หมาะสมกบั การเปน ทายาท หมายถึง การปฏิบัตใิ หเปนผสู มควรไดรบั
ทรพั ยม รดก นัน่ คอื การประพฤติตนเปน คนดี โดยเวน จากอบายมุขซึง่ เปน หนทางแหงความเสอื่ ม
ทัง้ หลาย มคี วามเพียรตัง้ หนาทาํ มาหากจิ โดยชอบธรรม ไมป ระพฤติชวั่ ทัง้ กาย วาจาและใจ เปนตน
นอกจากนน้ั ยังรจู ักการทาํ มาหากินเพิ่มพูนทรัพยสิน รักษาทรพั ยสินท่มี ีอยู เชน รูจักการประหยดั อด
ออม มคี วามสนั โดษ พอ แมกม็ ีความอิ่มเอมใจและเต็มใจท่จี ะยกทรพั ยส มบตั ิให
๕. เม่ือทานลว งลบั ไปแลว อุทิศสว นกศุ ลใหทา น เปนกิจที่ลกู จะตองปฏบิ ตั ิ เปนสว นของการ
ใหท านในสงิ่ ทส่ี มควรกระทาํ แกพ อแมผลู วงลับไปแลว บุญทจี่ ะพึงประกอบก็คือ ทานทีบ่ รจิ าคแก
บุคคลผูควรไดรบั เชน พระภิกษุสามเณร และผูท รงศีล ตลอดถึงคนอนาถา คนชรา คนพกิ ารและ
ทานที่เปนสวนสงเคราะหแกคนทวั่ ๆ ไป เชน การกอสรา งสาธารณสถาน ศาสนสถาน เปนตน
๖
ใบกิจกรรมท่ี ๑ เร่ือง การปฏบิ ัติตนตามหลกั ทศิ ๖
คาํ ชีแ้ จง : ใหนักเรยี นยกตัวอยางบุคคลรอบตัวและเสนอปฏบิ ัติตนตามหลักทิศ ๖
ไดแ ก ..................................... ไดแ ก ..................................... ไดแก .....................................
............................................... ............................................... ...............................................
วธิ ปี ฏบิ ัติ ............................... วิธีปฏิบตั ิ ............................... วธิ ปี ฏิบัติ ...............................
............................................... ............................................... ...............................................
............................................ ............................................ ............................................
ทศิ เบ้ืองหนา ทิศเบือ้ งขวา ทศิ เบอื้ งหลัง
ทศิ ๖
ทศิ เบอ้ื งบน ทิศเบือ้ งลาง ทิศเบอื้ งซาย
ไดแ ก ..................................... ไดแก ..................................... ไดแ ก .....................................
............................................... ............................................... ...............................................
วธิ ีปฏิบัติ ............................... วิธปี ฏิบัติ ............................... วธิ ปี ฏบิ ตั ิ ...............................
............................................... ............................................... ...............................................
............................................ ............................................ ............................................
ถา ทุกคนในโลกปฏิบตั ิตอ กนั อยางเหมาะสมจะเกดิ ผลอยางไร
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
การปฏิบัติตนเปน ลูกทีด่ ตี ามหลกั ทศิ ๖ ปฏิบัติ ผลที่เกิดขึน้
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
การปฏิบตั ติ นเปนลกู ที่ดีตามหลกั ทศิ ๖ ไมป ฏิบตั ิ ผลที่เกดิ ขน้ึ
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
๗
ใบความรูที่ ๒ เร่ือง มรรยาทของศาสนิกชน
มารยาท หมายถึง กิริยาวาจาทถี่ อื วาสภุ าพเรยี บรอย
ถกู กาลเทศะ การเปน ผมู มี รรยาทที่ ดี เปน ส่ิงที่พุทธศาสนกิ ชน
ทุกคนควรฝกฝนและปฏบิ ัติ เพื่อใหเกดิ ความเจริญแกต นเอง
และสังคม
การตอ นรบั (ปฏสิ ันถาร)
ปฏิสนั ถาร หมายถงึ การตอนรบั แขก การทกั ทายปราศรัยแขกผูมาหา มี ๒ ลักษณะ คอื
๑. อามิสปฏิสันถาร คือ การตอนรับแขกท่ีมาเยือนดวยส่ิงของอาจจะเปนเคร่ืองดื่ม ผลไม
ขนม หรือ ถาหากทราบลวงหนาวาแขกจะมาเยอื น อาจจัดเตรียมอาหารไวส ําหรับรับรองแขก และ
หากมคี วามจาํ เปน วาจะตองคางคืน ผเู ปน เจาบา นควรจดั เตรยี มสถานทพ่ี กั ไวใ หแขกผูมาเยือนดวย
๒. ธรรมปฏสิ ันถาร คอื การตอนรับแขกที่มาเยอื นดวยธรรม ผูเปนเจาบา นท่ีดี แสดงความเคารพ
แขกผูมาเยือนตามธรรมเนียมและฐานะอันควร ทักทายปราสัยแขกดวยสีหนาย้ิมแยม และเชื้อเชิญ
ใหเ ขา มานัง่ ในบานดวยความยนิ ดี มีการถามสารทุกขสุกดิบเพือ่ ใหเกดิ ความสมั พันธอ นั ดีตอกัน
มรรยาทของผเู ปน แขก แขก หมายถึง ผมู าหา ผมู าแตอ่ืน ผเู ปน แขกเมื่อมาพบปะกับเจาบา น
หรือมารวมงาน ควรปฏบิ ตั ิตนให เปนผมู ีมรรยาทที่ดี ดังน้ี
๑. บอกกลา วลวงหนา
๒. ควรมขี องฝากติดไมตดิ มือไปดว ย เพ่อื เปนการแสดงนํา้ ใจตอ ผทู ีเ่ ราจะไปเยือน
๓. ตรงตอ เวลา หากมกี ารนัดหมายไวล วงหนาแลว
๔. ในกรณที ี่ไมสนิทกนั หรือไมเ คยรจู ักกนั มากอน ผเู ปนแขกควรแนะนําตวั และแจง ความ
ประสงคของ การมาเยอื นใหผ ูที่เราไปเยอื นไดรับทราบดว ย
๕. แสดงกิรยิ ามรรยาทที่เหมาะสมกับเจาบาน เชน น่ังสนทนากบั ผทู ี่เราไปเยือนดว ยความสภุ าพ
ใชถอยคาํ ท่สี ุภาพเรยี บรอย กลาวขอบคุณเมื่อเจาบานใหการตอนรบั ดวยเครอ่ื งด่ืม หรอื สง่ิ ของอ่ืนๆ
๖. เมื่อเหน็ วาสมควรแกเวลาแลวควรลากลับกอนกลับควรทําความเคารพผเู ปนเจา บานดว ย
ความออ นนอ ม
๘
การปฏิบตั ิตนตอ พระภิกษุ
พระภิกษุเปนผดู ํารงตนอยูในฐานะผูสบื ทอดพระพุทธศาสนา เปน ปูชนียบคุ คลที่พทุ ธศาสนิกชน
ทกุ คน ควรใหความเคารพ การปฏบิ ัติตนใหเ หมาะสม
ตอพระภิกษเุ ปนสง่ิ ทค่ี วรกระทําอยางย่ิง
การยนื ภาพ : การยนื นอ มตวั ยกมือไหวเ มอื่ พระภกิ ษุมาถงึ
เม่อื พระภกิ ษุมาถึง กรณีทน่ี ่ังเกา อ้อี ยู ใหลกุ ยืน ทม่ี า : http://www.trueplookpanya.com/
เม่ือทานเดนิ ผานใหนอ มตัวยกมือไหว หากน่งั อยูกับพ้ืน
ไมตอ งลกุ ขึ้นยนื รบั เมือ่ ทา นเดินผา นมาตรงหนา ใหยก
มอื ไหว หรือกม ลงกราบเบญจางคประดิษฐ ๓ ครั้ง
การใหที่น่งั ภาพ : การใหท นี่ ่ังแกพระภิกษุ
การใหที่น่ังแกพระภิกษุ เปนการจัดหาที่น่ังอัน ท่ีมา : http://www.trueplookpanya.com/
เหมาะสมแกพระภิกษุ กรณีในงานพิธถี าจัดใหนั่งเกาอ้ี
ควรลุกขน้ึ ใหพ ระภิกษนุ ง่ั แถวหนา การน่ังแถวเดียวกับ
พระภิกษุคฤหัสถชายใหน่ังดานซายของพระภิกษุ
ถาหากมีความจําเปนใหคฤหัสถชายนั่งคั่นระหวาง
กลาง ถาเปนการน่ังบนพื้น ใหจัดอาสนะของพระภิกษุ
แยกไว โดยปูอาสนะเล็กบนพรมสําหรับเปนท่ีน่ังของ
พระภิกษุ การใหท่ีน่งั แกพ ระภิกษุ กรณใี นท่สี าธารณะ
เชน บนรถโดยสารประจําทาง หากไมม ีท่ีนั่งกค็ วรลกุ ใหทา นน่งั เชนกัน
การเดนิ สวน ภาพ : การเดินสวนพระภกิ ษุ
ผูที่เดินสวนทางจะตองหลีกทาง โดยหลีกเขาชิด ทม่ี า : http://www.trueplookpanya.com/
ขา งดานซายมือของพระภกิ ษุ ยืนตรง มือประสาน กันไว
ขางหนา เม่ือทานเดินผานมาถึง ใหนอมตัวลงยกมือ
ไหวดวยความเคารพรอจนทานเดินผานไปหากพระภิกษุ
สนทนาดวย ใหประนมมือไหวแลวจึงตอบทานดวย
กิรยิ าสุภาพนอบนอมทุกคร้ัง
การสนทนา
ในการสนทนากับพระภิกษุ ควรประนมมือขณะทส่ี นทนากบั ทานทุกครั้ง ดวยกิรยิ าอาการท่ี
เรยี บรอย โดยคาํ สรรพนามท่ใี ชเรยี กพระภิกษุ และใชคําสรรพนามทีใ่ ชเรยี กแทนผพู ูดใหถูกตอง
๙
การรบั ส่ิงของ
การรับสงิ่ ของจากพระภิกษุ ควรปฏบิ ัตดิ ังน้ี
๑. กรณที ่ีพระภกิ ษุยนื อยู หรือน่งั บนอาสนะสูง ใหเ ดินเขา ไปดว ยอาการสาํ รวม เมื่อเขาใกล
พอสมควร หยุดยืนตรง นอมตวั ลงไหว หากเปน ชายยืน่ มอื ไปรับสง่ิ ของจากพระภิกษุ สําหรบั ผหู ญิง
แบมอื ทงั้ สองชิดกนั เพอ่ื รบั สง่ิ ของ
๒. กรณีที่พระภิกษุน่งั เกาอี้ ใหเดินเขาไปดวยอาการสํารวม เม่ือใกลประมาณ ๑ เมตร หยุด
ยนื ตรง กา วเทาขวาออกไป ๑ กา ว น่ังคุกเขาซาย ชันเขาขวาข้นึ นอมตัวยกมือไหว และย่นื มือออกไป
รบั ส่งิ ของชัก เทาขวากลับมายนื ตรง กา วเทาซายถอยหลัง และกา วเทาขวามาชิดแลว หนั หลังเดินกลับไป
๓. กรณที ีพ่ ระภิกษุน่ังกับพน้ื ใหเ ดินเขาไปดวยอาการสาํ รวม เมอื่ ถึงบรเิ วณท่ีปูลาดอาสนะ
นงั่ คุกเขา แลว เดนิ เขาไปใกลพ อประมาณ น่ังคุกเขา กราบเบญจางคประดษิ ฐ ๓ ครง้ั ย่ืนมอื ทั้งสองไป
รับสิ่งของ เมื่อรับของแลววางสิง่ ของไวขา งหนาดานขวามอื กราบเบญจางคประดษิ ฐ ๓ ครงั้ ประคอง
สงิ่ ของ เดนิ เขาถอย หลงั ออกมาจนสุดบรเิ วณที่ปูลาดอาสนะแลว ลกุ ขึน้ ยนื เดินกลบั ไป
ภาพ : การรบั สิง่ ของจากพระภกิ ษุ
ทมี่ า : นางอมรรัตน ภมู ิประหมนั
๑๐
ใบกิจกรรมท่ี ๒ เรอ่ื ง การวิเคราะหสถานการณการปฏิบัตติ นตอพระสงฆ
คําช้ีแจง : ใหนกั เรยี นวเิ คราะหสถานการณเ กีย่ วกบั การปฏบิ ัติตนตอพระสงฆ แลว ตอบคําถาม
๑. มาลีและเพ่อื นๆ ยนื รอคุณยายอยูหนาวดั ในขณะนนั้ มีพระภิกษุเดนิ ผา น
มาลีและเพ่อื นๆ จะตอ งปฏบิ ัตอิ ยางไร ...........................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๒. ประพนั ธน ัง่ รถโดยไปโรงเรยี น ตอมามพี ระภกิ ษุรูปหนงึ่ ขึ้นรถโดยสารมา แตไมม ีท่ีน่งั
ประพันธจ ะตองปฏิบัติอยางไร........................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๓. พมิ พาจัดงานทาํ บญุ ข้ึนบานใหม ซ่ึงบรเิ วณในบานไมม พี ืน้ ทีก่ วางมากนกั จึงจดั ท่ีนง่ั บนพนื้ ให
สาํ หรบั พระภกิ ษุพมิ พาจะตองปฏบิ ตั ิอยา งไร..................................................................................
......................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๔. เอกชัยเดินเขาไปรบั วัตถมุ งคลกับพระภกิ ษุทน่ี งั่ อยกู บั พน้ื เอกชัยจะตอ งปฏิบตั ิอยา งไร
เอกชัยจะตอ งปฏิบตั อิ ยา งไร ..........................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๕. วภิ าสนทนากบั พระภิกษุ เพื่อนมิ นตไ ปทําพธิ ีงานทาํ บุญ ๑๐๐ วันของคณุ พอ
วภิ า จะตองปฏบิ ตั อิ ยา งไร .............................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๑๑
ใบความรูท่ี ๓ เรอื่ ง การแตงกายมรรยาททางสงั คมท่ีพงึ ปฏบิ ัติ
การแตงกาย เปนมรรยาททางสังคมท่ีทุกคนพึงปฏิบัติ และเปนการแสดงถึงขนบธรรมเนียม
ประเพณี และวัฒนธรรม การแตงกายใหเหมาะสมกับกาลเทศะทําใหบุคคลนั้นไดรับการยกยอ งวา
เปนผมู ีมรรยาทที่ดี และท่ีสาํ คญั ยังเปนการใหเกียรติแกสถานทแ่ี ละเจาภาพอีกดวย
การแตง กาย
การแตงกาย เปนมรรยาททางสังคมท่ีทุกคนพึงปฏิบตั ิ และเปนการแสดงถงึ ขนบธรรมเนียม
ประเพณี และวฒั นธรรม การแตงกายใหเหมาะสมกับกาลเทศะทาํ ใหบุคคลนั้นไดรับการยกยองวา
เปนผูมีมรรยาทท่ีดี และที่สาํ คัญยังเปนการใหเกียรติแกสถานทีแ่ ละเจาภาพอีกดว ย
การแตงกายไปวัด การแตงกายเปนมรรยาท ภาพ : การแตง กายไปวดั ควรแตง กายใหสะอาดเรยี บรอ ย
ทางสังคมที่ทุกคนพึงปฏิบัติ และเปนการแสดงถึง ท่ีมา : https://www.bloggang.com/viewdiary.
ขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรม การแตงกาย
ใหเหมาะสมกับกาลเทศะทําใหบคุ คลนัน้ ไดรับการ
ยกยองวาเปน ผูมีมรรยาทที่ดี และที่สําคัญยงั เปน
การใหเ กียรติแกสถานท่ีและเจาภาพ การแตงกายไป
วัด วัดเปนสถานทีส่ ําคัญทางศาสนา เปนสถานที่อัน
ศักดิ์สิทธิ์และมีความเงียบสงบ ผูคนที่เขา ไปในวัด
จะตองแสดงกิริยาอาการท่ีสํารวมละสุภาพ นอกจาก
นีย้ ังควรแตงกายใหถกู กาลเทศะ และมีความ
เหมาะสมของสถานท่ดี ว ย
การแตง กายไปในงานมงคล ควรแตงกายใหเหมาะสมกับงานนัน้ ๆ เพื่อเปนการใหเกียรติ
เจา ภาพ ในบตั รเชิญอาจมีการกําหนดใหแตงกายอยางไร ก็ควรแตง กายตามน้ัน ควรไปถงึ งานตรง
ตามเวลา หรือกอนเวลาเล็กนอยควรไปพบเจาของ
งานกอนและถามีของขวญั จะใหก็มอบเลย แลว นั่งใน
ท่ีท่ีเหมาะสมตามอาวุโสของตน ไมควรคํานึงเร่ืองท่ี
ไมเปนมงคลมาสนทนาในงานน้ัน หากเปนงานท่ีมี
การอวยพร ในขณะท่ีมีผูกลาวคําอวยพร ควรสงบน่ิง
ฟง ไมควรคยุ กัน ไมควรเดินไปเดินมาไมรับประทาน
อาหารตอในขณะนั้น เพราะเปนการไม ใหเกียรติ
เจา ของงานและผูกลา วคําอวยพรและหากเมือ่ จะกลบั
ควรหาโอกาสลาเจาของงานกอน ภาพ : การแตงกายไปในงานมงคล
ทมี่ า : https://sites.google.com/
๑๒
การแตง กายไปงานอวมงคล ควรแตง ตวั ตามประเพณนี ิยม ชายแตงสากลสีเขม เนคไทสดี าํ
รองเทาดํา หากเปนงานศพควรสวมปลอดแขนทกุ ขทแี่ ขนเสอ้ื ขา งซา ยเหนือศอก หรือแตง กายชุด
ไทยพระราชทานสีดาํ ทง้ั ชดุ หรอื เสอื้ สขี าวกางเกงสดี ําหรอื สเี ขมหญิงนุงผาซน่ิ หรอื กระโปรงตาม
สมยั นยิ ม เส้อื แบบเรียบ รองเทาหุมสนสีดาํ หรือแตงกายใหส ภุ าพ ไมใชเสอ้ื ผาและรองเทา สฉี ูดฉาด
ไมสมควรพูดคุยหัวเราะกนั อยา งสนกุ สนาน เพราะไมใชง านแสดงความยนิ ดี
ภาพ : การแตงกายไปในงานมงคล
ท่มี า : https://www.thairath.co.th/content/757816
๑๓
ใบกิจกรรมท่ี ๓ เร่ือง การวิเคราะหส ถานการณการแตงกาย
คาํ ช้แี จง : ใหน กั เรยี นวิเคราะหส ถานการณก ารแตงกายตอไปน้ี แลว ตอบคาํ ถาม
คุณยาพาการเกดไปงานบวชคณุ อาท่ีวดั ใกลบาน เม่ือไปถึงทวี่ ัดตอนทาํ พธิ อี ปุ สมบท มกี ลมุ
วยั รนุ กลุม หน่งึ หยอกลอ กันเสียงดงั และเด็กผหู ญงิ ในกลมุ นัน้ สวนใหญจ ะนุง กางเกงขาสัน้ ใสเส้อื
เกาะอกซ่ึงคณุ ยา บอกวา ดูแลวไมสุภาพ เมอ่ื เสรจ็ พิธีแลว คณุ ปาแจมท่ีอยูข า งบานไดชวนคณุ ยา ไป
งานศพญาตๆิ ในตอนเยน็ นี้ คณุ ยาจงึ บอกการเกดใหเตรยี มตัวไปงานศพดวยกนั
๑. จากสถานการณเ กี่ยวของกับงานบุญพิธีใด ....................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๒. นกั เรียนมีความคิดเห็นอยา งไรเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั ติ นของวัยรนุ กลุมน้ัน........................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๓. นักเรยี นคดิ วา ในงานนก้ี ารเกดควรแตง กายอยางไรจงึ จะเหมาะสม ..............................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๔. ถาการเกดจะไปงานศพกบั คุณยา ควรแตง กายอยา งไร ...................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๕. การปฏิบัตติ นตามมรรยาทการแตงกายท่ดี ีน้ันควรคํานงึ ถงึ อะไรบาง..............................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๑๔
แบบทดสอบหลังเรียน
เลมที่ ๕ เรอื่ ง หนา ทชี่ าวพทุ ธและมารยาทชาวพุทธ
คาํ ชแ้ี จง ใหน ักเรียนทําเครอื่ งหมาย ลงบนหนาขอทถ่ี กู ตองมากทสี่ ุด
๑. ทศิ เบอ้ื งหนา หมายถงึ ขอ ใด
ก. ศษิ ย
ข. นายจาง
ค. ครู อาจารย
ง. บดิ า มารดา
๒. บดิ า มารดาควรสงเคราะหบตุ รธิดาหลายประการ ยกเวน ขอใด
ก. ใหการศกึ ษาเลาเรียน
ข. อบรมใหตง้ั มั่นอยูในความดี
ค. เลอื กอาชีพทเ่ี หมาะสมใหบ ตุ ร
ง. มอบทรพั ยใหเมื่อถงึ โอกาสอนั ควร
๓. คาํ กลาว "ประเพณีไทยแทแ ตโบราณ ใครมาถงึ เรอื นชานตอ งตอนรบั " จดั ไดว ามี
ความสอดคลอ งกบั เรื่องใด
ก. การปฏสิ นั ถาร
ข. วฒั นธรรมชาวพุทธ
ค. มารยาทของคนไทย
ง. การทักทายผมู าเยือน
๔. การแตงกายทเี่ หมาะสมกบั การไปวดั ใครปฏิบตั ไิ ดถูกตองและเหมาะสมท่สี ุด
ก. กิจชัยใสชดุ ดําทั้งเสอื้ และกางเกง
ข. ขวญั แตง ตวั ดว ยเสื้อสีแขนยาวกระโปรงยาวสีครีม
ค. ประกอบแตง ตัวตามแฟชน่ั กางเกงขาสน้ั เส้ือกลาม
ง. แอนนาแตงตวั ดวยเส้ือผา สฉี ูดฉาดสแี ดงท้ังชุด
๕. ชดุ ใดเปนชุดที่สุภาพในการแตง กายไปรว มงานมงคลและงานอวมงคล
ก. เคร่ืองแบบขาราชการ
ข. ชดุ ใหมท่ีพึ่งใสเปน ครง้ั แรก
ค. กางเกงขายาวและเสื้อเชิ้ตแขนส้ัน
ง. กางเกงขายาวและเส้อื เชิต้ แขนยาว
๑๕
๖. ในการประชมุ ทม่ี พี ระสงฆน ัง่ ประชมุ อยดู ว ย ชาวพทุ ธควรปฏบิ ตั ติ นอยา งไร ในกรณีท่ี
จาํ เปน ตองน่งั เกาอแ้ี ถวเดยี วกบั พระสงฆ
ก. นง่ั หา งกันพอสมควร
ข. สตรีเพศจึงนงั่ บนพน้ื ดา นลาง
ค. นัง่ เกาอด้ี า นซา ยมือของพระสงฆ
ง. นง่ั เกาอี้ดา นขวามือของพระสงฆ
๗. การเดนิ สวนทางกบั พระสงฆ ควรปฏบิ ตั ิตนอยางไร
ก. นั่งลงกบั พ้ืนทันทีทท่ี านเดนิ ผาน
ข. ยืนตรง กมหนา แสดงความเคารพ
ค. หลกี ชดิ ขวามอื ของพระสงฆแลวไหว
ง. ยนื ตรงหรือนง่ั ตามความเหมาะสมแลวหันหนา มาทางทา น มอื ประสานไวขางหนา
๘. ในการสนทนากับพระสงฆ กนั ยาควรใชส รรพนามแทนตัววา อยางไร
ก. ลูกชาง
ข. ดฉิ นั
ค. อฉิ นั
ง. ขาพเจา
๙. การไปเย่ยี มเยยี นผอู ่นื ทีบ่ า น ผูเปนแขกควรปฏบิ ัติในขอใดเปนลาํ ดบั แรก
ก ทักทายดวยหนา ตายม้ิ แยม
ข. ทาํ ความเคารพเจา ของบา น
ค. มอบของทีร่ ะลึกแกเจา ของบา น
ง. ใหเสียงหรือสญั ญาณวามีแขกมาหา
๑๐. การยนื ตอ หนาพระภิกษุควรปฏบิ ตั ิอยา งไร
ก. ยนื คอมตัว ปลายเทาชิด
ข. ยืนคอมตัว มือประสานกนั
ค. ยืนตรง มือประสานกันดานหนา
ง. ยนื ตรง มือทั้งสองประสานกันดา นหลัง
๑๖
ภาคผนวก
๑๗
เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น
ขอ เฉลย
๑ค
๒ข
๓ง
๔ค
๕ก
๖ข
๗ค
๘ค
๙ง
๑๐ ง
๑๘
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี ๑ เรื่อง การปฏบิ ตั ิตนตามหลักทศิ ๖
คําชแ้ี จง : ใหนักเรยี นยกตัวอยา งบคุ คลรอบตัวและเสนอปฏิบตั ติ นตามหลกั ทิศ ๖
ไดแก .....บ...ดิ ..า..ม...า..ร..ด..า................ ไดแก .....ค...ร..อู ..า..จ..า..ร..ย................. ไดแก ....บ...ตุ...ร...ภ..ร..ร..ย...า...............
............................................... ............................................... ...............................................
วิธีปฏบิ ตั ิ ..เ.ช..ื่อ...ฟ..ง..ค...ํา..ส..ั่ง..ส..อ..น...ข..อ. ง วธิ ีปฏิบัติ ..ใ.ห...ค ..า..จ...า .ง..ค...ุม..ค...า ..ก..ับ... วิธปี ฏิบตั ิ .ใ..ห..ค...ว..า..ม..ร..กั...แ..ล..ะ..ก...า..ร.
..ท...า..น...แ..ล..ะ..ป...ฏ...บิ ..ัต...ิต..า..ม................ .....แ...ร..ง.ง..า..น....ไ..ม..เ.อ...า..เ.ป..ร..ยี...บ.......... ..ด..ูแ...ล...ย...ก..ย..อ...ง..ใ.ห...เ .ก..ยี...ร..ต..ิ...........
............................................ ............................................ ............................................
ทศิ เบื้องหนา ทศิ เบื้องขวา ทิศเบอื้ งหลัง
ทิศ ๖
ทิศเบ้ืองบน ทิศเบ้ืองลาง ทศิ เบื้องซาย
ไดแก ....พ...ร..ะ..ภ...ิก..ษ...ุ.................. ไดแก ...ผ..อู...ย..ใู .ต...บ ..ัง..ค...บั ..บ...ญั...ช..า...... ไดแก ....ม..ติ...ร..ส..ห...า..ย...................
............................................... แ...ล..ะ..ล...ูก..จ..า..ง............................... ...............................................
วิธปี ฏิบตั ิ ..อ..ุป...ถ..ัม..ภ...ด...ว ..ย............ วธิ ปี ฏิบตั ิ ..ใ.ห...ค..า..จ...า ..ง.ค...มุ ..ค...า..ก..บั... วธิ ีปฏิบตั ิ .ช..ว..ย...เ.ห...ล..อื..ซ...ง่ึ .ก...นั ........
..ป...จ..จ...ัย...๔.................................. .....แ...ร..ง.ง..า..น....ไ..ม..เ.อ...า..เ.ป...ร..ีย..บ.......... ..แ..ล..ะ...ก..ัน....ม..ีน...าํ้..ใ.จ........................
............................................ ............................................ ............................................
ถาทกุ คนในโลกปฏิบตั ติ อ กันอยางเหมาะสมจะเกดิ ผลอยางไร
.............................................................................................................................................................
...............................................................อ..ย..ูใ..น..ด...ุล..พ...นิ ..จิ...ข..อ..ง..ค...ร..ผู ..สู..อ...น.......................................................
การปฏิบตั ติ นเปนลูกทด่ี ตี ามหลกั ทิศ ๖ ปฏิบัติ ผลท่ีเกดิ ขนึ้
.............................................................................................................................................................
...............................................................อ..ย...ใู .น...ด..ุล...พ..ิน...ิจ..ข..อ...ง..ค..ร..ูผ..สู...อ..น.......................................................
การปฏบิ ัตติ นเปนลูกทด่ี ตี ามหลกั ทศิ ๖ ไมป ฏิบัติ ผลทเี่ กดิ ขนึ้
.............................................................................................................................................................
...............................................................อ...ย..ใู.น...ด..ุล...พ...นิ ..ิจ..ข...อ..ง..ค..ร..ผู...สู ..อ..น.......................................................
๑๙
เฉลยใบกจิ กรรมที่ ๒ เรือ่ ง การวเิ คราะหส ถานการณก ารปฏิบตั ิตนตอ พระสงฆ
คาํ ชีแ้ จง : ใหน กั เรยี นวิเคราะหส ถานการณเ กี่ยวกบั การปฏิบตั ติ นตอพระสงฆ แลวตอบคาํ ถาม
๑. มาลีและเพือ่ นๆ ยนื รอคุณยายอยูห นาวดั ในขณะน้ันมพี ระภิกษเุ ดนิ ผาน
มาลีและเพอ่ื นๆ จะตองปฏิบตั ิอยา งไร ..ห..ล...ีก..เ.ข...า..ช..ิด..ข...า..ง.ด...า..น..ซ...า ..ย..ม..ือ...ข..อ...ง.พ...ร..ะ..ภ...กิ..ษ...ุ.ย...ืน..ต...ร..ง...ม..อื..........
.ป...ร..ะ..ส..า..น...ก..ัน...ไ.ว..ข...า..ง.ห...น...า...เ.ม...่ือ..ท...า ..น..เ.ด...ิน..ผ...า..น..ม...า..ถ..ึง...ใ..ห..น...อ..ม...ต..วั..ล...ง..ย..ก..ม...ือ..ไ..ห..ว..ด...ว ..ย..ค...ว..า..ม..เ.ค...า..ร..พ....ร..อ..จ..น........
.ท...า ..น..เ..ด..ิน...ผ..า ..น..ไ..ป.................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๒. ประพนั ธน งั่ รถโดยไปโรงเรียน ตอมามีพระภกิ ษุรปู หน่ึงขึน้ รถโดยสารมา แตไ มม ีทนี่ ัง่
ประพันธจ ะตองปฏบิ ตั ิอยางไร...ห..า..ก...ไ.ม...ม..ีท...ีน่ ..ง่ั..ก...็ค..ว..ร..ล..ุก...ใ.ห...ท...า ..น..น...่ัง.....................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๓. พิมพาจดั งานทําบุญข้ึนบา นใหม ซง่ึ บรเิ วณในบานไมม ีพนื้ ท่ีกวา งมากนกั จึงจดั ที่นั่งบนพน้ื ให
สาํ หรับพระภกิ ษุพมิ พาจะตองปฏบิ ัตอิ ยา งไร..ใ..ห...พ ..ร..ะ...ภ..ิก...ษ..ุน...ั่ง..แ..ถ..ว..ห...น...า...ก..า..ร..น...่งั ..แ..ถ..ว..เ..ด..ยี..ว..ก...บั .............
.พ...ร..ะ..ภ...กิ..ษ...ุ.ค...ฤ..ห...ัส..ถ..ช...า..ย..ใ..ห..น...่ัง..ด..า..น..ซ...า ..ย..ข..อ...ง..พ..ร..ะ...ภ..กิ...ษ..ุ..ถ..า..ห...า.ก...ม..คี...ว..า..ม..จ..ํ.า.เ..ป..น...ใ.ห...ค..ฤ...ห...ัส..ถ..ช...า.ย...น..่งั..ค...ั่น......
...ร..ะ..ห..ว...า.ง..ก...ล..า..ง...ถ...า .เ..ป..น...ก..า..ร..น...ง่ั ..บ..น...พ...้นื ....ใ.ห...จ ..ดั..อ...า..ส..น...ะ..ข..อ...ง.พ...ร..ะ..ภ...ิก..ษ...ุแ..ย...ก..ไ..ว.. .โ.ด...ย..ป...อู ..า..ส..น...ะ..เ..ล..็ก..บ...น..พ...ร..ม....
...ส..ํา..ห...ร..ับ..เ.ป...น...ท..่ีน...ั่ง..ข..อ..ง..พ...ร..ะ..ภ...กิ ..ษ...ุ.......................................................................................................
........................................................................................................................................................
๔. เอกชยั เดนิ เขาไปรับวัตถุมงคลกบั พระภกิ ษุท่นี ่ังอยูกับพืน้ เอกชัยจะตอ งปฏิบตั ิอยางไร
เอกชยั จะตอ งปฏบิ ตั ิอยางไร ...น..่งั..ค...ุก..เ.ข...า..แ..ล..ว..เ..ด..นิ...เ.ข..า..ไ..ป..ใ..ก..ล..พ...อ...ป..ร..ะ..ม...า..ณ.....น..ั่ง..ค..ุก...เ.ข..า....ก..ร..า..บ...เ.บ..ญ....จ..า.งค
.....ป..ร..ะ..ด...ษิ ..ฐ... .๓....ค..ร..้งั....ย..่นื..ม...อื..ท...ั้ง..ส..อ...ง.ไ..ป..ร..บั...ส..งิ่..ข...อ..ง...เ.ม...อื่ ..ร..บั...ข..อ...ง.แ...ล..ว....ว..า..ง.ส...่ิง..ข..อ..ง..ไ..ว..ข ..า..ง..ห..น...า..ด..า..น...ข..ว..า..ม...ือ....
.....ก..ร..า..บ..เ..บ..ญ...จ...า..ง..ค..ป...ร..ะ..ด..ิษ...ฐ.. .๓.....ค..ร..ง้ั ...................................................................................................
........................................................................................................................................................
๕. วภิ าสนทนากับพระภิกษุ เพอ่ื นิมนตไ ปทําพิธงี านทําบุญ ๑๐๐ วันของคุณพอ
วภิ า จะตองปฏิบัติอยางไร ..ใ..น..ก..า..ร..ส...น..ท...น...า..ก..บั...พ..ร..ะ...ภ..กิ...ษ..ุ..ค..ว..ร..ป...ร..ะ..น..ม...ม..ือ...ข..ณ...ะ...ท..ีส่...น..ท...น...า.ก...ับ...ท..า..น...ท..กุ...
....ค..ร..งั้...ด...ว..ย..ก..ริ..ยิ...า..อ..า..ก..า..ร..ท...่ีเ.ร..ยี...บ..ร..อ..ย....โ..ด..ย..ค...าํ ..ส..ร..ร..พ...น..า..ม...ท..ใ่ี..ช..เ..ร..ีย..ก..พ...ร..ะ..ภ...กิ ..ษ...ุ .แ...ล..ะ..ใ..ช..ค..าํ..ส...ร..ร..พ..น...า..ม..ท...่ีใ..ช...
....เ.ร..ีย..ก...แ..ท...น..ผ..ูพ...ูด...ใ.ห...ถ ..กู..ต...อ..ง................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๒๐
เฉลยใบกิจกรรมที่ ๓ เรอ่ื ง การวเิ คราะหส ถานการณก ารแตงกาย
คําชี้แจง : ใหนักเรยี นวิเคราะหสถานการณก ารแตง กายตอ ไปนี้ แลวตอบคาํ ถาม
คณุ ยา พาการเกดไปงานบวชคุณอาท่ีวัดใกลบาน เม่ือไปถึงท่วี ดั ตอนทาํ พธิ ีอปุ สมบท มีกลุม
วัยรนุ กลมุ หนึง่ หยอกลอ กันเสยี งดัง และเดก็ ผหู ญิงในกลมุ นน้ั สวนใหญจ ะนงุ กางเกงขาส้นั ใสเสื้อ
เกาะอกซึ่งคณุ ยา บอกวาดูแลวไมสุภาพ เมือ่ เสรจ็ พิธีแลว คุณปา แจมทอี่ ยูข า งบานไดชวนคณุ ยา ไป
งานศพญาตๆิ ในตอนเย็นนี้ คุณยาจงึ บอกการเกดใหเตรียมตวั ไปงานศพดว ยกัน
๑. จากสถานการณเกย่ี วขอ งกบั งานบญุ พิธใี ด ...ง..า..น..พ...ธิ..อี...ุป..ส...ม..บ...ท.........................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๒. นักเรียนมีความคิดเห็นอยา งไรเกยี่ วกับการปฏบิ ัติตนของวัยรุน กลมุ นน้ั ........................................
......ก..า..ร..แ...ต..ง..ก..า..ย...ไ.ม...เ .ห..ม...า..ะ..ส..ม...ก..ับ...ก..า..ล...เ.ท...ศ..ะ....ไ.ม...ใ .ห...เ .ก..ีย...ร..ต..แิ..ก...ส..ถ..า..น...ท...แ่ี ..ล..ะ..เ..จ..า..ภ...า.พ..................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๓. นกั เรยี นคิดวา ในงานนก้ี ารเกดควรแตงกายอยางไรจึงจะเหมาะสม ..............................................
.....ค..ว..ร..แ...ต..ง..ก..า..ย...ใ.ห...ส ..ะ..อ...า..ด..เ.ร..ีย...บ..ร..อ...ย...แ...ต..ง..ก..า..ย..ด...ว..ย..เ.ส...อ้ื..ผ...า .ส...ีเ.ร..ีย..บ...ๆ....ไ.ม...ฉ ..ดู...ฉ..า..ด..จ...น..เ.ก...ิน..ไ..ป....ส..ต...ร..ี ............
.....ค..ว..ร..แ...ต..ง..ก..า..ย...ใ.ห...ร ..ัด..ก..ุม....ไ..ม..ห...ว..อื..ห...ว..า..ห...ร..อื ..ร..ดั..ร..ปู...จ..น...เ.ก..นิ...ไ..ป..................................................................
........................................................................................................................................................
๔. ถาการเกดจะไปงานศพกบั คณุ ยาควรแตงกายอยา งไร ...................................................................
.....ค..ว..ร..แ...ต..ง..ก..า..ย...ด..ว..ย..เ..ส..ื้อ..ส...ีด..ํา...ร..อ...ง..เ.ท...า.ห...มุ...ส..น..ส...ีด..าํ....ห..ร..ือ...แ..ต..ง..ก..า..ย...ใ.ห...ส ..ภุ...า..พ....ไ.ม...ใ.ช...เ .ส..้อื...ผ..า...แ...ล..ะ.................
.....ร..อ..ง..เ.ท...า..ส..ีฉ...ดู ..ฉ..า..ด............................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๕. การปฏบิ ัตติ นตามมรรยาทการแตงกายทดี่ นี ้ันควรคาํ นงึ ถงึ อะไรบาง..............................................
.....ก..า..ร..แ...ต..ง..ก..า..ย..ใ..ห...เ .ห..ม...า..ะ..ส..ม...ค..ว..ร..ค...ํา..น..ึง..ม...ร..ร..ย..า..ท..ท...า..ง..ส..งั..ค..ม...แ..ล...ะ..เ.ป...น ..ก...า..ร..ใ.ห...เ.ก..ีย...ร..ต..ิแ..ก...ส ..ถ...า.น...ท...่ีแ..ล..ะ.........
.....เ.จ..า..ภ...า..พ.........................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
๒๑
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
ขอ เฉลย
๑ง
๒ค
๓ก
๔ข
๕ก
๖ค
๗ง
๘ง
๙ข
๑๐ ค
๒๒
บรรณานุกรม
กระทรวงศกึ ษาธิการ. สํานกั งานเลขาธิการสภาการศึกษา. (๒๕๔๗). เรยี นรูจากกระแสพระราชดาํ รัสพระบาท
สมเด็จพระเจาอยูหัวพระราชทานเมื่อวนั ท่ี ๔ ธันวาคม ๒๕๔๖ ท่ีเกย่ี วของกับการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ :
สาํ นักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา.
_______________. (๒๕๕๒). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ :
โรงพิมพช ุมนุมสหกรณการเกษตรแหง ประเทศไทย.
_______________. (๒๕๕๑). หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ สาระการเรยี นรสู งั คมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ พระพทุ ธศาสนา ม.๒.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพคุรุสภาลาดพราว.
ณัทธนัท เลี่ยวไพโรจน. (๒๕๕๘). หนังสือเรียน รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ ๒
กลุมสาระการเรยี นรสู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : บริษัทพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) จํากดั .
สถาบนั พัฒนาวิชาการ. (๒๕๕๘). คูมอื ครหู นังสือเรียนสาระการเรียนรพู ้ืนฐาน สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี ๒ ตามหลักสูตรการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : บรษิ ทั พฒั นา
คณุ ภาพวชิ าการ(พว.) จาํ กดั .
อรทริ า รตั นพงษโสภิต. (๒๕๕๒). New สรปุ เขม สังคมศกึ ษา ม.๒. กรงุ เทพฯ : สาํ นักพิมพวัฒนาพานชิ .
๒๓