The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ฤทธิ์เดชของการฟื้นคืนพระชนม์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ฤทธิ์เดชของการฟื้นคืนพระชนม์

ฤทธิ์เดชของการฟื้นคืนพระชนม์

ฤทธเ์ิ ดชของการ
ฟื้นคืนพระชนม์

สบุ ิน ปนั้ บญุ

คริสตจักรของพระครสิ ต์ หมบู่ า้ นมิตรภาพ

1

ฤทธ์ิเดชของการ
ฟืน้ คืนพระชนม์

ฟลิ ิปปอย 3:8-11 “แทจ้ ริงขา้ พเจา้ ถอื วา่ สิง่
สารพัดเป็นท่ีไร้ประโยชน์เพราะเห็นแก่ความ
ประเสริฐแห่งความรู้ถึงพระเยซูคริสต์เจ้าของ
ข้าพเจ้า เพราะเหตุพระองค์นั้นข้าพเจ้าได้ยอม
สละส่ิงสารพัด และถือว่าส่ิงเหล่านั้นเป็น
เหมือนหยากเยื่อเพื่อข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์
และจะได้ปรากฏอยู่ในพระองค์ คือความชอบ

2

ธรรมที่ข้าพเจ้ามีอยู่นั้นมิได้มีโดยพระบัญญัติ
แต่มีโดยความเช่ือในพระคริสต์ คือเป็น
ความชอบธรรมซึ่งมาแต่พระเจ้าโดยความเชื่อ
เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้จักพระองค์ และฤทธ์ิเดชซ่ึง
เนื่องด้วยการท่ีพระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น
และการร่วมทุกข์กับพระองค์ คือยอมต้ัง
อารมณ์ตายเหมือนพระองค์ เพื่อไม่อย่างหนึ่งก็
อย่างใดขา้ พเจา้ กจ็ ะไดเ้ ปน็ ขึ้นมาจากตายดว้ ย”

คานา : 1) การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู
เป็นศูนย์กลางแห่งฤทธ์ิเดชของศาสนาคริสต์
การฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นเหตุการณ์
ที่ ส า คั ญ ที่ สุ ด ใ น ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ข อ ง ม นุ ษ ย์
นับต้งั แต่วันท่พี ระเจ้าสร้างโลก และเป็นพลงั ใน
การสร้างแรงบันดาลใจในการประกาศ คา

3

บรรยายเหลา่ นแี้ ละอื่นๆ ทีย่ ืนยันให้เห็นการฟื้น
คืนพระชนม์ มีความสาคญั ตอ่ บรรดาผู้มอบชีวิต
ไวใ้ นพระหัตถ์ของพระเยซู

2) ศึกษาชีวิตของเปาโลสร้างแรงบันดาลใจ
และเป็นท่ีท้าทายในการเป็นตัวอย่างท่ียิ่งใหญ่
ในการทุ่มเทเสียสละของเปาโล ขณะเดียวกัน
รู้สึกไม่สบายใจถึงความไม่สมประกอบของเรา
เม่ือเปรียบเทียบกับพละกาลังฝ่ายความเช่ือ
ของเปาโล ยิ่งกว่าน้ันเราพบว่าการฟ้ืนคืนพระ
ชนม์ของของพระเยซูเป็นพลังอันสาคัญในชีวิต
ของเปาโล ซึ่งเปาโลจะเป็นจุดโฟกัสของ
บทเรยี นในวันน้ี

3) จุดหมายการเดินทางของเราคือ เพ่ือ
ถ่ายทอดพลังของการฟ้ืนคืนพระชนม์เข้ามาใน
ชีวิตของเรา พลังของการฟื้นคืนพระชนม์ของ

4

พระเยซูมีพลังมากในสมัยแรกฉนั ใดควรจะเป็น
พลังในสมัยน้ีเช่นเดียวกัน การฟื้นคืนพระชนม์
ของพระเยซูควรเป็นพลงั ในชีวิตของเรา

I. พระวิญญาณบริสทุ ธ์ติ รัสแกเ่ ราโดยเปาโล
ฟิลิปปอย 3:8-11 “แท้จริงขา้ พเจ้าถอื ว่าส่ิง

สารพัดเป็นที่ไร้ประโยชน์เพราะเห็นแก่ความ
ประเสริฐแห่งความรู้ถึงพระเยซูคริสต์เจ้าของ
ข้าพเจ้า เพราะเหตุพระองค์น้ันข้าพเจ้าได้ยอม
สละส่ิงสารพัด และถือว่าส่ิงเหล่านั้นเป็น
เหมือนหยากเย่ือเพ่ือข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์
และจะได้ปรากฏอยู่ในพระองค์ คือความชอบ
ธรรมท่ีข้าพเจ้ามีอยู่นั้นมิได้มีโดยพระบัญญัติ
แต่มีโดยความเช่ือในพระคริสต์ คือเป็น
ความชอบธรรมซึ่งมาแต่พระเจ้าโดยความเชื่อ

5

เพ่ือข้าพเจ้าจะได้รู้จักพระองค์ และฤทธ์ิเดชซ่ึง
เนื่องด้วยการที่พระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น
และการร่วมทุกข์กับพระองค์ คือยอมต้ัง
อารมณ์ตายเหมือนพระองค์ เพ่ือไม่อย่างหน่ึงก็
อย่างใดข้าพเจ้าก็จะได้เป็นข้ึนมาจากตายด้วย”

เปาโลรู้เร่ืองการฟื้นคนื พระชนมอ์ ยา่ งไร?
(1) บนถนนท่ีไปเมืองดาเมเซ็ก (กิจการ
9:22,26)
(2) เม่ืออะนาเนียสอนและให้รับบัพติศมา
(กจิ การ 9:22,26)
(3) เปาโลประกาศตนเองเป็นอัครสาวก
ของพระเยซู 1โกรินโธ 9:1-2 “ข้าพเจ้ามิได้มี
อิสระหรือ ข้าพเจ้ามิได้เป็นอัครสาวกหรือ
ข้าพเจ้ามิได้เห็นพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็น

6

เจ้าของเราหรือ ท่านทั้งหลายมิได้เป็นผลแห่ง
การของข้าพเจ้าในองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
หรือ แม้ว่าข้าพเจ้ามิได้เป็นอัครสาวกมายังคน
อื่น ข้าพเจ้าก็เป็นอัครสาวกมายังท่านทั้งหลาย
โดยแท้ ด้วยว่าตราตาแหน่งอัครสาวกของ
ข้าพเจ้านั้นก็คือท่านท้ังหลายผู้เช่ือถือในองค์
พระผเู้ ปน็ เจ้า”

II. การฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระเยซู เป็นฤทธิ์
เดชของพระกติ ตคิ ณุ

1.การฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นข้อ
พิสูจน์อันทรงพลังว่าพระองค์เป็นพระบุตรของ
พระเจ้า โรม 1:4 “แต่ฝ่ายพระวิญญาณแห่ง
ความบริสุทธิ์นั้น ยังทรงชี้หมายไว้ว่าเป็นบุตร
ของพระเจ้าโดยฤทธานุภาพด้วยทรงเป็นข้ึนมา

7

จากความตาย คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็น
เจา้ ของเรา”

2.ถ้าการฟ้ืนคืนพระชนม์ไม่ได้เกิดข้ึนจริง
ตามประวัติศาสตร์ ถ้าเช่นน้ันความเชื่อของเรา
กไ็ รป้ ระโยชน์ 1โกรนิ โธ 15:12-13, 17-19 “ถา้
เทศนาว่าพระคริสต์ได้ทรงคืนพระชนม์แล้ว
เปน็ ไฉนบางคนในพวกท่านยังกล่าวว่า การเป็น
ขนึ้ มาจากตายไม่มี ถ้าการเป็นข้ึนมาจากตายไม่
มีแล้ว พระคริสต์ก็หาได้ทรงคืนพระชนม์ไม่
และถ้าพระคริสต์ไม่ได้ทรงคืนพระชนม์ ความ
เช่ือของท่านท้ังหลายนั้นก็ไร้ประโยชน์ ท่าน
ท้งั หลายกย็ ังคงอย่ใู นความบาปของตน และคน
ทั้งหลายที่วางใจในพระคริสต์และตายไปแล้วก็
พินาศไปด้วย ถ้าแม้เราท้ังหลายมีความไว้ใจใน

8

พระครสิ ตไ์ ดแ้ ตใ่ นชีวิตน้เี ท่านนั้ เรากเ็ ป็นพวกท่ี
นา่ สังเวชทส่ี ุดในหมู่คนท้ังปวง”

3.ศาสนาคริสต์จะตั้งมั่นคงอยู่หรือล้มลง
ข้ึนอยู่บนความจริงท่ีว่า อุโมงค์ของพระเยซูว่าง
เปลา่ เพราะพระองค์ได้ฟ้ืนคืนพระชนม์ ถ้าพระ
เยซูไม่ฟ้ืนคืนพระชนม์จะไม่มีข่าวดี ถ้าไม่มีการ
ฟื้นคืนพระชนม์จะไม่มีข่าวประเสริฐ ถ้าไม่มี
การฟื้นคืนพระชนม์ พระกิตติคุณจะไร้สมมรรถ
ภาพไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะฉะนั้นเรา
จะต้องพิจารณาการฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระ
เยซูว่าเป็นการเกิดขน้ึ จริงในประวตั ศิ าสตร์

4.หลักฐานจากพระคัมภีร์ที่ยืนยันว่าพระ
เยซูฟ้ืนคืนพระชนม์?

9

(1) พระเยซูชี้ให้เห็นว่าการฟื้นคืนพระ
ชนมเ์ ป็นไปตามพระคัมภรี ์เดิม

ลกู า 24:44-47 “พระองค์ตรัสแก่เขาว่า
“นี่เป็นถ้อยคาของเราซ่ึงเราได้บอกไว้แก่ท่าน
ทั้งหลาย เมื่อเรายังอยู่กับท่านว่า “บรรดาคาท่ี
เขียนไว้ในบัญญัติของโมเซ และในคัมภีร์ของ
เหล่าศาสดาพยากรณ์ และในคัมภีร์เพลงสดุดี
กล่าวเล็งถึงเราน้ัน จาเป็นจะต้องสาเร็จ” คร้ัง
น้ันพระองค์ทรงบันดาลให้ใจเขาท้ังหลายเกิด
สว่างข้ึน เพ่ือจะได้เข้าใจพระคัมภีร์ พระองค์
ตรัสแก่เขาว่า “มีคาเขียนไว้อย่างนั้นว่า จาเป็น
ท่ีพระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมาน และเป็น
ขึ้นมาจากตายในวันท่ีสาม และจะต้องประกาศ
ในนามของพระองค์เร่ืองการกลับใจใหม่ และ

10

เร่ืองยกบาปทั่วทุกประเทศ ตั้งต้นที่กรุงยะรู
ซาเลม”

(2) พระเยซูรู้ล่วงหน้าถึงการสนิ้ พระชนม์
และได้บอกสาวกให้เตรียมใจ โยฮัน 2:19-21
“พระเยซูจึงตรัสตอบเขาว่า "ถ้าทาลายโบสถ์นี้
เสีย เราจะสร้างขึ้นในสามวัน" พวกยูดายจึงทูล
ว่า "โบสถ์น้ีเขาสร้างถึงสี่สิบหกปีจึงสาเร็จและ
ท่านจะสร้างข้ึนใหม่ในสามวันหรือ" แต่
พ ร ะ อ ง ค์ ต รั ส ถึ ง โ บ ส ถ์ แ ห่ ง พ ร ะ ก า ย ข อ ง
พระองค์”

ลูกา 9:22 “และตรัสว่า "บุตรมนุษย์
จะตอ้ งทนทกุ ข์ทรมานหลายประการและพวกผู้
เฒ่า พวกปุโรหิตและพวกอาลักษณ์จะละทิ้ง
และฆ่าท่านเสีย และวันที่สามท่านจะเป็นข้ึน
ใหม่”

11

มัดธาย 12:40-41 “ด้วยว่าโยนาได้อยู่ใน
ท้องปลาใหญ่สามวันสามคืนฉันใด บุตรมนุษย์
จะอยู่ในท้องแผ่นดินสามวันสามคืนฉันนั้น ชน
ชาวนีนะเวจะยืนข้ึนกล่าวโทษคนสมัยน้ีในวัน
พิพากษาด้วยว่าชาวนีนะเวได้กลับใจเสียใหม่
เพราะคาประกาศของโยนา และนี่แน่ะมีผู้ใหญ่
กวา่ โยนาอยู่ที่น่ี”

มดั ธาย 16:21 “ต้ังแตเ่ วลาน้ันมาพระเยซู
ตรัสแก่พวกสาวกของพระองค์ว่า พระองค์
จะต้องเสด็จไปกรุงยะรูซาเล็มเพื่อจะรับความ
ทนทกุ ขท์ รมานตา่ งๆ อยา่ งสาหัสจากพวกผเู้ ฒ่า
และพวกปุโรหิตใหญ่และพวกอาลกั ษณ์จนต้อง
ถึงแก่ประหารชีวิตแต่ในวันท่ีสามพระองค์จะ
เป็นข้นึ มาใหม่”

12

มัดธาย 20:18-19 “นี่แน่ะเราทั้งหลาย
ข้ึนไปยังกรุงยะรูซาเล็มและบุตรมนุษย์จะต้อง
ถู ก ม อ บ ไ ว้ กั บ พ ว ก ปุ โ ร หิ ต ใ ห ญ่ แ ล ะ พ ว ก
อาลักษณ์ เขาจะปรับโทษท่านถึงชีวิตและจะ
มอบทา่ นไวก้ ับคนต่างประเทศให้เยาะเย้ยเฆี่ยน
ตีและให้ตรึงไว้ที่กางเขน และวันที่สามท่านจึง
จะเป็นขึ้นมาใหม่”

มาระโก 8:31 “แต่น้ันมาพระองค์กล่าว
สอนเหล่าสาวกว่า บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์
ทรมานหลายประการ และผู้เฒ่าผู้แก่ พวก
ปุโรหิต และพวกอาลักษณ์จะละท้ิงและฆ่า
พระองค์เสีย แล้วเม่ือลว่ งไปได้สามวันพระองค์
จะเปน็ ขึ้นมาใหม่”

(3) พระกิตตคิ ุณทั้งสี่สอดคลอ้ งกัน

13

(ก) การฟ้ืนคืนพระชนม์ตรงกับวันต้น
สัปดาห์

(ข) พวกผูห้ ญงิ ได้เหน็ กอ่ น
(ค) หินปิดปากอุโมงค์ถูกกลิ้งออกไป
กอ่ นที่พวกผูห้ ญงิ จะไปถึง
(ง) ทูตสวรรค์หลายองค์อยทู่ ี่นั่น
(จ) พระเยซูได้ปรากฏแก่คนหลายคนใน
โอกาสต่างๆ
(ฉ) พระเยซูเปน็ พระเยซอู งค์เดยี วกันทถ่ี กู
ตรงึ บนไมก้ างเขน (ไมใ่ ชค่ นอ่นื )
(4) พระวรกายของพระเยซูหายไปไหน?
ข้อมูลบ่งช้ีว่าพระเยซูฟ้ืนคืนพระชนม์ขึ้น
จากอุโมงค์ เพราะไม่มีผู้ใดสามารถพบวรกาย
ของพระเยซูท่ีตายไปและนามาให้ปรากฏแก่

14

สายตาประชาชน เกิดอะไรกบั พระกายของพระ
เยซู?

(ก) บ้างบอกว่าพระเยซูไม่ได้สิ้นพระชนม์
จริงๆ แค่สลบไปท่าน้ัน โมฮัมมัดประกาศไว้ใน
คัมภีร์โกหร่าน (KORAN) บอกว่าพระเยซูสลบ
ไป แต่พระคัมภีร์บอกไว้ชัดเจนว่าพระเยซู
เจ็บปวดทรมานจากบาดแผลท่ีถูกเฆ่ียนตี ถูก
ตรึงดว้ ยตะปู ทหารได้ใช้หอกแทงพระองค์

“พวกยูดายจึงขอปีลาตให้ทุบกระดูกขา
ให้หักและเอาศพไปเสีย เพื่อมิให้ศพนั้นค้างอยู่
ที่กางเขนในวันซะบาโตเพราะเป็นวันเตรียม
และวันซะบาโตน้ันเป็นวันสาคัญ พวกทหารจึง
มาทบุ ขาของคนท่หี นงึ่ และขาของคนทสี่ องท่ถี ูก
ตรึงไว้กับพระองค์ที่กางเขนให้หัก แต่เมื่อเขา
มาถึงพระเยซูและเห็นว่าพระองค์ส้ินพระชนม์

15

แล้ว เขาจึงมิได้ทุบกระดูกขาของพระองค์ แต่
ทหารคนหน่ึงเอาทวนแทงที่สีข้างของพระองค์
และมีน้ากับโลหิตไหลออกจากแผลนั้น” (โยฮัน
19:31-34) ทหารโรมท่ีได้ตรึงพระเยซูรู้ว่าพระ
เยซูส้ินพระชนมแ์ ล้ว

(ข) บ้างบอกว่าพวกยิวขโมยพระกายของ
พระเยซู แต่พวกยิวต้องการให้แน่ใจว่าพระกาย
ของพระเยซูไม่ถูกขโมยไปเพราะพวกยิวไม่
ยอมรบั พระเยซเู ปน็ พระมาซฮี า

มัดธาย 27:64-66 “เหตุฉะน้ันขอเจ้าคุณ
ไดม้ ีบัญชาส่ังให้ปิดอุโมงค์ไว้ให้มั่นคงจนถึงวันท่ี
สามเกลือกวา่ พวกสาวกของเขาจะมาลักเอาศพ
ไปในเวลากลางคืน แล้วจะประกาศแก่ฝูงคนว่า
เขาเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และการ
บกพร่องข้างปลายมือน้ีจะร้างแรงย่ิงกว่า

16

ข้างต้นมืออีก" ปีลาตจึงบอกเขาว่า "พวกเจ้าจง
พาทหารยามไปเฝ้าให้แข็งแรงให้เป็นท่ีมั่นใจ
ที่สุด" เขาจึงไปทาอุโมงค์ให้มั่นคง ประทับตรา
ไว้ท่ีหิน ใหท้ หารยามประจาอยู่”

คร้ันเม่ือพระเยซูเป็นข้ึนพวกผู้นาศาสนา
ยิวพยายามจะปิดปากพวกทหาร มัดธาย
28:11-15 “เม่ือหญิงเหลา่ น้ันกาลังไป มีทหาร
ยามบางคนในพวกท่ีเฝ้าอุโมงค์นั้นเข้าไปใน
เมืองเล่าเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งบังเกิดขึ้นน้ันให้
พวกปุโรหิตใหญ่ฟัง พวกปุโรหิตใหญ่ก็ประชุม
ปรึกษากันกับผู้เฒ่าแล้วแจกเงินเป็นอันมาก
ให้แก่พวกทหาร สั่งว่า "พวกเจ้าจงพูดว่าพวก
สาวกของเขามาลักเอาศพไปในเวลากลางคืน
เม่ือเรานอนหลับอยู่ ถ้าความนี้ทราบถึงหูเจ้า
เมืองเราจะพูดแก้ไขต่อท่านให้พวกเจ้าพ้นโทษ"

17

ครั้นพวกทหารได้รับเงินแล้วจึงทาตามคาส่ัง
และความน้ีก็ลือไปในท่ามกลางพวกยูดายจน
ทุกวันน้ี”

(ค) บ้างบอกว่าพวกทหารโรมันขโมยพระ
กายของพระเยซู พวกทหารโรมไม่มีเหตุผล
อะไรทีจ่ ะต้องขโมยพระกายของพระเยซู ถา้ เขา
ขโมยไปทหารจะถูกประหารชีวิตเพราะละเลย
ต่อหน้าที่ (มัดธาย 27:62-66, กิจการ 16:27-
28)

(ง) บ้างบอกว่าพวกคริสเตียนขโมยพระ
กายของพระเยซู และฝังศพไว้บนภูเขา คิดดู
วา่ คริสเตยี นจะต้องเสี่ยงชีวิตเพ่ือสู้กับทหารโรม
มืออาชีพ และจะต้องใช้กาลังมากที่จะเปิด
อโุ มงค์ คนอาจจะพดู มสุ าอะไรก็ไดแ้ ต่การที่คน

18

จะยอมตายเพื่อเรื่องโกหกคงไม่มีใครอยากจะ
ทา มีอัครสาวกและครสิ เตยี นเป็นอันมากยอม
สละชีวิตของพวกเขาเพื่อเป็นพยานยืนยันว่า
พระเยซูฟ้ืนคนื พระชนม์

กิจการ 8:1-4 “การท่ีเขาฆ่าซะเตฟาโน
เสียน้ันเซาโลก็เห็นชอบด้วย คราวน้ันบังเกิด
การข่มเหงคริสตจักรในกรุงยะรูซาเลมมากขึ้น
และสานุศิษย์ทั้งปวงนอกจากอัครสาวกได้
กระจัดกระจายไปทั่วแว่นแคว้นมณฑลยูดากับ
มณฑลซะมาเรีย ผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าได้หาม
ศพซะเตฟาโนไปฝังไว้แล้วพิลาปร่าไรสงสาร
ท่านเป็นอย่างยิ่ง ฝ่ายเซาโลประทุษร้าย
คริสตจักร คือเข้าไปฉุดลากชายหญิงจากทุกๆ
เรอื นไปจาไว้ในคกุ เหตุฉะนั้นสานศุ ษิ ย์ท้ังหลาย

19

ซึ่งกระจัดกระจายไปก็ได้เท่ียวประกาศพระคา
นัน้ ”

(จ) บ้างบอกว่าการฟ้ืนคืนพระชนม์เป็น
เรือ่ งนิทานในตานานหรอื เป็นอุปาทาน ไม่มีใคร
ยอมตายเพ่ือนิทาน พระเยซูได้ปรากฏตัวให้
เห็นในสถานการณ์และสภาวะที่แตกต่างกัน
มากที่สุดปรากฏแก่คน 500 คนในเวลาเดียวกัน

1โกรินโธ 15:4-8 “และทรงถูกฝงั ไว้ แล้ว
วันที่สามพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาใหม่ตามคัมภีร์
ท่ีเขียนไว้แล้วน้ัน แล้วพระองค์ทรงปรากฏแก่
เกฟา ภายหลังพระองค์ทรงปรากฏแก่อัคร
สาวกสิบสองคนน้ัน ภายหลังพระองค์ทรง
ปรากฏแก่พวกพ่ีน้องกว่าห้าร้อยคนในคราว
เดียว ซ่ึงส่วนมากยังอยู่จนถึงทุกวันน้ี แต่บาง
คนก็ล่วงหลับไปแล้ว ภายหลังพระองค์ทรง

20

ปรากฏแก่ยาโกโบอีก แล้วทรงปรากฏแก่อัคร
สาวกท้ังหมด ภายหลังท่ีสุดพระองค์ทรง
ปรากฏแก่ข้าพเจ้าด้วย เหมือนอย่างเด็กคลอด
ก่อนกาหนด”

(5) ผู้ท่ีเห็นด้วยตาเป็นพยานว่า พระเยซู
ฟื้นคืนพระชนม์ในวันเพ็นเตคอส ค.ศ. 33 พระ
เยซูมีตัวตนจริงๆ มิใช่อุปโลกน์ขึ้นมา ไม่ใช่
จินตนาการเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน แต่เป็น
เหตุการณท์ ีเ่ กิดข้นึ จรงิ ในประวตั ศิ าสตร์

(ก) ในกิจการ 2:23-32 เปโตรได้ช้ีแจงแก่
ฝูงชนในวันเพ็นเตคอสว่าการฟื้นคืนพระชนม์
ของพระเยซูเป็นหลักฐานยืนยันความเป็นองค์
พระผู้เปน็ เจ้าของพระเยซู

กิจการ 2:23-24 “พระเยซูนี้ถูกมอบไว้
ตามซ่ึงพระเจ้าได้ทรงดาริแน่นอนล่วงหน้าไว้

21

ก่อนแล้ว ท่านทั้งหลายได้ให้คนใจอามหิตจับ
พระองค์ไปตรึงที่กางเขนและประหารเสีย
พระองค์น้ันพระเจ้าได้ทรงบันดาลให้คืนพระ
ชนม์ด้วยทรงเปล้ืองปลดเครื่องจาจองแห่ง
ความตายเสียเพราะว่าความตายจะครอบงา
พระองคไ์ วก้ ็หามิได้”

กิจการ 2:31-32 “กษัตริย์ดาวิดก็ล่วงรู้
เหตุนี้ก่อนจึงกล่าวถึงการคืนพระชนม์ของพระ
ครสิ ต์ว่าวญิ ญาณจิตของพระองค์ไมต่ อ้ งละไวใ้ น
เมืองผีทั้งพระมังสะของพระองค์ก็ไม่เปื่อยเน่า
ไป พระเยซูน้ีพระเจ้าได้ทรงบันดาลให้คืนพระ
ชนม์แล้ว ข้าพเจ้าท้ังหลายเป็นพยานด้วย
เหตุการณ์น้ี”

กิจการ 2:36 “เหตฉุ ะนัน้ ใหช้ าตยิ ิศราเอล
ท้ังปวงทราบแน่นอนว่าพระเจ้าได้ทรงยกพระ

22

เยซูนี้ซ่ึงท่านทั้งหลายได้ตรึงไว้ท่ีกางเขนตั้งขึ้น
ให้เปน็ องคพ์ ระผู้เปน็ เจา้ และเปน็ พระคริสต์”

ฝูงชนสนองตอบ ในกิจการ 2:37 “เมื่อ
คนท้ังหลายได้ยินแล้วก็รู้สึกแปลบปลาบใจจึง
กล่าวแก่เปโตรและอัครสาวกอ่ืนว่า "พี่น้องเอ๋ย
เราจะทาอย่างไร”

เปโตรตอบว่า “ฝา่ ยเปโตรจึงกลา่ วแก่เขา
ว่า "จงกลับใจเสียใหม่และรับบัพติศมาในนาม
แห่งพระเยซูคริสต์สิ้นทุกคนเพื่อความผิดบาป
ของท่านจะทรงยกเสีย แล้วท่านจะได้รับ
พระราชทานพระวิญญาณบริสทุ ธิ์” มีคนรับบัพ
ติศมา 3,000 คน ในวนั นน้ั (กจิ การ 2:38)

(ข) การท่ีพระเยซูถูกจับไปตรึงบนไม้
กางเขน การสิ้นพระชนม์และการฟ้ืนคืนพระ
ช น ม์ เ ป็ น พ ร ะ ด า ริ ข อ ง พ ร ะ เ จ้ า ก่ อ น แ ล้ ว

23

ขบวนการของโครงการไถ่โทษบาปเร่ิมตั้งต้น
ก่อนทพี่ ระเจ้าสร้างโลก

เอเฟโซ 1:4 “ในพระเยซูคริสต์นั้น
พระองค์ได้ทรงเลือกเราไว้ต้ังแต่ก่อนทรงวาง
รากสร้างโลก เพื่อเราท้ังหลายจะเป็นผู้ถูกยก
ถวายไว้และปราศจากตาหนิในความรักจาเพาะ
พระองค์”

เอเฟโซ 3:9-11 “และให้คนทั้งปวง
เห็นชัดถึงข้อลับลึกซ่ึงตั้งแต่แรกสร้างโลกทรง
ปิดบังไว้กับพระเจ้าผู้ทรงสร้างสารพัดท้ังปวง
บัดน้ีประสงค์จะให้ผู้มีบรรดาศักดิ์และผู้มี
อานาจในสวรรค์สถานรู้จักปัญญาอันซับซ้อน
ของพระเจ้าโดยคริสตจักร ตามพระดาริของ
พระองค์ซ่ึงพระองค์ได้ทรงดาริไว้ก่อนในพระ
เยซูคริสต์เจา้ ของเรา”

24

มุมมองด้านหน่ึง ปีลาตได้ประหาร
พระองค์ พวกโรมได้ประหารพระองค์ และ
พวกยวิ ได้ประหารพระองค์

ลกู า 23:22-25 “ปีลาตจึงถามเขาครั้งที่
สามว่า "ตรึงทาไม เขาได้ทาผิดอะไร เราไม่เห็น
เขาทาผิดอะไรที่สมควรจะมีโทษถึงตาย เหตุ
ฉะน้ันเมื่อเราเฆี่ยนเขาแล้วก็จะปล่อยเสยี " ฝ่าย
คนทั้งปวงร้องพร้อมกันเสียงดัง ขอให้ตรึงเสียที่
กางเขนและเสียงคนทั้งปวงน้ันมีชัยชนะ ปีลาต
จึงส่ังให้เป็นไปตามเขาทั้งหลายปรารถนา ท่าน
จึงปล่อยคนน้ันท่ีติดคุกอยู่เพราะทาจลาจลและ
ฆ่าคนให้เขาตามคาขอน้ัน แต่ท่านได้มอบพระ
เยซใู ห้เขาทาตามชอบใจ”

มองอีกด้านหนึ่ง พระเยซูได้ยอมสละพระ
ชนม์ของพระองค์ด้วยความเตม็ พระทัย

25

โยฮัน 10:18 “ไม่มีผใู้ ดชิงเอาชีวิตนั้นจาก
เราแต่เราสละชีวิตน้ันโดยใจสมัครของเราเอง
เรามีสิทธิทีจ่ ะสละชีวติ น้ันและมีสิทธิทจ่ี ะรับเอา
คืนอีก สิทธินั้นเราได้รับมากจาพระบิดาของ
เรา”

แต่พระเจ้าได้ปลุกให้พระองค์ฟ้ืนขึ้นมา
จากตาย กิจการ 2:24 “พระองค์นั้นพระเจ้าได้
ทรงบันดาลให้คืนพระชนม์ด้วยทรงเปล้ืองปลด
เคร่ืองจาจองแห่งความตายเสียเพราะว่าความ
ตายจะครอบงาพระองคไ์ ว้กห็ ามไิ ด้”

(ค) การฟื้นคืนของพระเยซูตา่ งจากคนอ่ืน
ทีฟ่ น้ื ข้นึ ในพระคมั ภีร์ แตกตา่ งกันเพราะ

(1) พระองค์ทานายล่วงหน้าว่าจะเป็นข้ึน
จากตาย

26

(2) การฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระองค์ทา
ใหค้ าพยากรณ์สาเร็จ

(3) การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็น
หลักประกันการเป็นขึ้นจากตายของเรา (1โก
รินโธ 15)

III. การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นฤทธิ์
เดชในชวี ติ และในการเทศนาของอัครสาวก

1.การฟื้นคืนพระชนม์เปล่ียนชีวิตและ
เปลีย่ นการเทศนาของอัครสาวก ฤทธ์ิเดชที่เกิด
จากการฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระเยซูส่งผลให้มี
ก าร เปลี่ยนวิถี ชีวิตข อง อัคร สาวก ก า ร
เปลี่ยนแปลงนี้เท่ากับเป็นหลักฐานยืนยันว่า
พระเยซูฟื้นคนื พระชนมแ์ นน่ อน

27

(1) จะอธิบายการที่เปโตรได้ปฏิเสธพระ
เยซูอย่างไร ก่อนหน้านี้เปโตรได้ซ่อนตัวอย่าง
ลับๆ ใกล้กับโฆละโฆธา แต่หลังจากนั้นอีก 50
วันเปโตรเต็มใจเสียสละชีวิตประกาศกิตติคุณ
อย่างกล้าหาญ ประกาศว่าพระเยซูได้ฟ้ืนคืน
พระชนม์แลว้ หลงั จากที่ได้ถูกประหารโดยฝมี ือ
ของฝูงชนชาวยิว (ลูกา 22:55f, กจิ การ 2)

(2) อัครสาวกโยฮันเป็นแต่เพียงผู้เดียวท่ี
ยืนอยู่โคนเสาไม้กางเขน ทั้งประวัติศาสตร์ของ
พระคัมภีร์และประวัติศาสตร์ของคริสเตียนยุค
แรกบันทึกไว้ว่าอัครสาวกโยฮันเสียสละเผชิญ
กบั ความยากลาบาก และยินดียอมตายเพือ่ พระ
เยซูโดยไม่ยอมถอยเร่ืองความเชื่อเรื่องพระเยซู
ฟื้นคืนพระชนม์

28

โยฮัน 21:24-25 “สาวกคนน้ีแหละที่ได้
เป็นพยานถึงเหตุการณ์เหล่าน้ี และได้จดเขียน
คาเหล่าน้ีไว้ และเรารู้ว่าคาพยานของเขาเป็น
ความจริง มีอกี หลายสิง่ ท่ีพระเยซูได้ทรงกระทา
ถ้าจะจดเขียนไว้ให้หมดทุกส่ิง ข้าพเจ้าคาดว่า
โลกนี้น่าจะไม่พอไวห้ นงั สือทจ่ี ะเขยี นนั้น”

(3) อัครสาวกเปาโลเปล่ียนจากผู้ข่มเหง
อย่างรุนแรงต่อผู้ถือทางนั้น กลายเป็นตัวหลัก
ในการประกาศทางนั้น ต่อหน้าผวู้ ่าการเฟลิกซ์
เปาโลกล่าวว่า “วันน้ีข้าพเจ้าถูกพิพากษาต่อ
หน้าท่านท้ังหลายเพราะเหตุที่มีความไว้ใจการ
เป็นข้นึ มาจากตาย” (กิจการ 24:21)

จะเห็นได้ว่าเม่ือองค์พระผู้เป็นเจ้าท่ีฟื้น
คื น พ ร ะ ช น ม์ ส ถิ ต อ ยู่ ใ น ชี วิ ต ข อ ง อั ค ร ส า ว ก

29

เหล่าน้ี พวกเขาไม่เป็นเหมือนคนเดิมต่อไป
ชวี ติ และการเทศนามพี ลังมากขึน้

2.การเปล่ียนแปลงชีวิตนาไปสู่ความกล้า
หาญในการประกาศ แม้ว่าจะถูกห้าม แม้จะถูก
เฆี่ยนตี แม้จะถูกติดคุกไม่สามารถหยุดการ
เทศนาของเปโตรกับโยฮันเร่ืองพระเยซูฟื้นคืน
พระชนม์ (กิจการ 4:1-19,33, 5:17-32) เปโตร
กับโยฮันตอบพวกผู้นาศาสนาว่า “บัดนี้
พระองค์เจ้าข้า ขอโปรดทอดพระเนตรการขู่
ข อ ง เ ข า แ ล ะ โ ป ร ด ป ร ะ ท า น ใ ห้ ผู้ ท า ส ข อ ง
พระองค์กล่าวถ้อยคาของพระองค์ด้วยใจกล้า”
(กจิ การ 4:29)

30

3.หัวข้อเร่ืองการฟื้นคืนพระชนม์เป็น
ประเด็นหลัก ในการเทศนาของอัครสาวกใน
พระคัมภีร์ใหม่ คาว่าฟื้นคืนพระชนม์ในภาษา
กรกี มี 2 คาคอื คาว่า “” กับคาว่า
“” 2คาน้ีเป็นคาที่อัครสาวกใช้ในการ
เทศนาเร่ืองพระเยซูฟ้ืนคืนพระชนม์ พระเจ้า
ไม่ได้บันทึกคาเทศนาอย่างละเอียดของอัคร
สาวกทุกๆ คนในพระคัมภีร์ แต่เรารู้แน่ว่าทุก
คนเทศนาเรื่องน้ี ในกิจการ 2:14 และข้อ 37
บอกว่าเปโตรยืนเทศนาร่วมกับอัครสาวก 11
คน

(1) เปโตรเทศนาเร่อื งการฟื้นคนื พระชนม์
ของพระเยซูโดยใช้ภาษากรีกทั้งสองคารวม 12
คร้ัง (กิจการ 1:22, 2:24,31, 3:15,26,
4:2,10,33, 10:40, 1เปโตร 1:3,21, 3:21)

31

(2) เปาโลเทศนาเร่อื งการฟื้นคืนพระชนม์
ของพระเยซู โดยใช้ภาษากรีกทั้งสองคารวม
29 คร้ัง (กิจการ 13:30,33,34; 17:18,32;
23:6; 24:15,21; 26:8; โรม 1:4; 4:24,25;
6 : 4 , 5 ; 7 : 4 ; 8 : 1 1 ; 1 โ ก ริ น โ ธ 6 : 1 4 ,
15:14,15,17,21,42; 2โกรินโธ 4:14; เอเฟโซ
2:6, ฟิลิปปอย 3:10,11; โกโลซาย 2:12; 1เธ
ซะโลนเิ ก 1:10; 2ติโมเธยี ว 2:8)

ก า ร ฟ้ื น คื น พ ร ะ ช น ม์ ข อ ง พ ร ะ เ ย ซู จุ ด
ประกายความสว่างในดวงใจของอัครสาวกใน
การประกาศ และเป็นแก่นแท้ในการดารงชีวิต
ท่ีมีจุดประสงค์โดยไม่สน่ั คลอน การฟื้นคืนพระ
ชนม์ของพระเยซูเป็นฤทธิ์เดชแก่เราในวันนี้
ขณะท่ีเราดาเนนิ ชีวติ ไปกบั พระเยซู

32

1) ครสิ เตียนควรมคี วามเชอ่ื ในฤทธ์ิเดชของ
การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูในชีวิตของเรา
แท้ที่จริงแล้วการฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระเยซู
น่าจะเป็นพลังทาใหค้ ริสเตียนใช้ชีวิตทด่ี ี

เปาโลกล่าวว่า “เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึง
กระทาการงานด้วย โดยความอุตสาหะตามการ
กระทาของพระองค์ผู้ทรงฤทธ์ิกระทาอยู่ในตัว
ขา้ พเจา้ ” (โกโลซาย 1:29)

“ด้วยว่าข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเร่ือง
กิตติคุณของพระคริสต์ เพราะว่ากิตติคุณน้ัน
เป็นฤทธ์ิเดชของพระเจ้าให้คนท้ังปวงท่ีเช่ือนั้น
ไดถ้ ึงท่รี อดทุกคน พวกยูดายก่อนทั้งพวกเฮเลน
ดว้ ย” (โรม 1:16)

เมื่อพูดถึงความเชื่อของเราแต่ละคนเร่ือง
ความเชื่อการฟ้นื คนื พระชนม์ของพระเยซูคงจะ

33

ไม่มีพลังเหมือนชีวิตของพวกอัครสาวกยุคแรก
พระกิตติคุณดูเหมือนว่าไม่ทาให้ชีวิตของคริส
เตียนเปน็ อันมากเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

2 ) ลอ ง คิดดูว่ าพร ะเ ยซูสาม าร ถ จ ะ
เปลี่ยนแปลงโลกโดยอาศัยเราเป็นเครื่องมือ
เหมือนคริสเตียนยุคแรก ถ้าเราจะอุทิศตัวของ
เราให้พระองค์ ถ้าเราเช่ือฟังและอุทิศถวายตัว
จริงๆ และใช้ชีวิตเพื่อพระองค์ เราก็ไม่ต้องโยน
ความผิดให้ใครว่า ทาไมคริสตจักรของเราไม่
เจริญเท่าท่ีควร เราไม่ต้องห่วงว่าแสงสว่างแห่ง
พระกติ ตคิ ณุ จะดบั วบู ท่ามกลางโลกท่ีมืดมิด

สรุป : 1) การฟ้ืนคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็น
ฤทธ์ิเดชปฏิรูปชีวิตของคนได้ ปฏิรูปชีวิตของ
อัครสาวกจากคนข้ีขลาดเป็นคนกล้าหาญ

34

ปฏิรูปชีวิตของคนสามัญชนธรรมดาให้เป็นผู้
กล้าหาญยอมพลีชีพเพ่ือเป็นพยานว่าพระเยซู
คนื พระชนม์

2) เราท้ังหลายกาลังยืนอยู่ระหว่างการฟื้น
ขึ้นจากตายสองอย่าง ระหว่างการฟ้ืนข้ึนจาก
ตายของพระเยซูกับการฟ้ืนข้ึนจากตายในวัน
สดุ ท้าย-วันสน้ิ โลก ถ้าเราสานึกได้เราควรทุ่มเท
ชวี ิตของเราเพอ่ื รับใช้พระเจา้ และเปน็ คริสเตียน
ที่ดี และไม่ต้องเป็นห่วงกับการที่จะต้องมาต่อสู้
กบั พี่น้องคริสเตียนและกบั เพื่อนมนุษย์

ฤทธเิ์ ดชของการ
ฟน้ื คนื พระชนม์

สุบิน ปนั้ บุญ

ครสิ ตจกั รของพระครสิ ต์ หมู่บ้านมิตรภาพ


Click to View FlipBook Version