อทิ ธพิ ล
ของการเปน็ ตัวอย่าง
บทท่ี 3
ทา่ นทงั้ หลายเปน็ ความสวา่ งของโลก
สบุ ิน ปน้ั บุญ
คริสตจักรของพระคริสต์ หมบู่ ้านมติ รภาพ
1
ทา่ นท้ังหลายเปน็
ความสว่างของโลก
“ท่านท้ังหลายเป็นความสว่างของโลก เมือง
ซ่ึงสร้างไว้บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้ เม่ือเขาจุด
ตะเกียงแล้วมิได้เอาถังครอบไว้ ย่อมต้ังไว้ที่เชิง
ตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนท่ีอยู่ในเรือน
นั้น ให้ความสว่างของท่านส่องไปต่อหน้าคนท้ัง
ปวงอย่างนั้น เพื่อเขาจะได้เห็นการดีของท่าน
2
แล้วจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้อยู่ใน
สวรรค์” (มัดธาย 5:14-16)
อารัมภบท : อยากจะย้าเตือนว่า ยังไง! ยังไง!
ท่านก็มีอิทธิพลในการเป็นตัวอย่างแก่ผู้อ่ืน
ทา่ นหนีไม่พ้น
จุดประสงค์ของบทเรยี นในซีร่ีนีเ้ พ่ือ :
1.เพื่อปลุกจิตส้านึก: คริสเตียนทุกคนให้
ตระหนักดีว่า เขามีอิทธิพลในการเป็นตัวอย่าง
แกผ่ ้อู น่ื
2.เพื่อกระตุ้น: คริสเตียนทุกคนให้จุด
ประกายในการมีอิทธิพลเป็นตัวอย่างท่ีดีแก่คน
รอบข้าง ที่บ้าน ท่ีโบสถ์ ท่ีท้างาน ท่ีโรงเรียน
ฯลฯ
3
3. เพ่ือสร้างแรงบันดาลใจ: ให้คริสเตียน
เสริมสร้างอิทธิพลในการเป็นตัวอย่างในทาง
เสริมสร้าง ไม่ใช่เป็นอิทธิพลในทางท้าลาย
คริสตจักรจะเจริญได้ถ้าคริสเตียนสงั วรณ์ว่าเขา
มีอิทธิพลในการเป็นตัวอย่าง คริสเตียนต้อง
ตื่นตัว
คานา :
1.พระเจ้าเป็นความสว่าง (1โยฮัน 1:5)
พระเยซูเป็นความสว่างของโลก (โยฮัน 8:12)
ในมัดธาย 5:14-16 พระเยซูตรัสว่า คริสเตียน
เป็นความสว่างของโลก คริสเตียนเป็นเหมือน
พระเจา้ และเหมือนพระเยซู “เป็นความสว่าง”
ไม่มอี ะไรทยี่ กยอ่ งครสิ เตียนใหส้ ูงกว่าน้ี
4
2.คริสเตียนได้รับเกียรติให้เป็นความสว่าง
เหมือนพระเจ้า เกียรติอันน้ีมาควบคู่กับความ
รับผิดชอบอันสูงส่งด้วย ไม่ว่าความสว่างท้า
หน้าที่อย่างไร คริสเตียนก็ต้องท้าหน้าที่เหมือน
ความสวา่ งนน้ั
I. คริสเตียนเป็นความสว่างเพราะโลกอยู่ใต้
อทิ ธิพลของความมดื
“ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก”
(มัดธาย 5:13) คริสเตียนควรมีอิทธิพลในการ
เป็นตัวอย่างท่ีดีในโลก เพราะอะไร? เพราะว่า
โลก
- ตาบอด - มองเหน็ มัวๆ - อยู่ในความมดื
- สะดดุ ล้มลง - มองไม่เหน็ - กา้ ลังประสบ
ความยุ่งยาก
5
- คลา้ หาทาง - ไม่รูต้ วั - ก้าลังประสบ
อันตราย
- ลม้ ลง - สับสนวนุ่ วาย - ไมร่ ้จู กั พินจิ
พเิ คราะห์
1.ค้าอุปมาเรื่อง “ความสว่าง” เป็นค้า
เปรียบท่ีเหมาะเจาะที่สุดกับทุกสมัยเพราะว่า
โลกทอดจมอยู่ในความมืด 1โยฮัน 5:19 “เรา
ท้ังหลายรู้ว่าเราบังเกิดจากพระเจ้า และมนุษย์
โลกทงั้ ส้นิ ทอดตัวจมอยใู่ นมารรา้ ย”
2.มนุษย์โลกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความ
มืดอะไรบา้ ง?
(1) ตกอยู่ในความมืดของความบาปที่กัด
กินชีวิตของคน โรม 3:9, 23 “ถ้าอย่างนั้นพวก
เราจะได้เปรียบกว่าพวกเขาหรือ ก็หามิได้ ด้วย
6
ว่าเราได้ช้ีแจงให้เห็นแล้วว่าท้ังพวกยูดาและ
พวกต่างประเทศดว้ ยก็อยูใ่ ตอ้ า้ นาจความผิดทุก
คน” ข้อ 23 “เหตุว่าคนทั้งปวงได้ท้าผิดทุกคน
และขาดการถวายเกยี รติยศแกพ่ ระเจ้า”
(2) ตกอยู่ในความมืดของนับถือลัทธิ
ศาสนา, ขนบประเพณี, การถือโชคลาง, ความ
โง่เขลา และความป่าเถ่ือน เอเฟโซ 4:17-18
“เหตุฉะน้ันข้าพเจ้าจึงพูด และเป็นพยานใน
องค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ตั้งแต่น้ีไปท่านท้ังหลาย
อ ย่ า ป ร ะ พ ฤ ติ ต า ม อ ย่ า ง ค น ต่ า ง ช า ติ ท่ี เ ข า
ประพฤตินนั้ คือด้วยใจโงแ่ กมหย่งิ ของเขาโดยที่
ความคิดของเขามืดไป และเขาอยู่ห่างจากชีวิต
ซึ่งมาจากพระเจ้า เพราะเหตุความโง่ซึ่งอยู่ใน
ตัวเขาเพราะใจเขาแข็งกระด้างไป” (กิจการ
17:30-31)
7
(3) ตกอยู่ในความมืดในการคล่ังไคล้ใน
วัตถุนิยม บูชาความสนุกสนาน และความ
บันเทิงและบูชาเรื่องเซ็กซ์ โรม 1:21
“เพราะว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้รู้จักพระเจ้าแล้ว
เขายังมิได้ถวายเกียรติยศแด่พระองค์อย่าง
สมควรที่เขาจะกระท้าแก่พระเจ้า และหาได้
ขอบพระคุณไม่แต่ได้คิดในสิ่งท่ีไม่เป็นสารและ
ใจโง่ของเขาก็มืดไป” ฆะลาเตีย 5:19-20
“ฝ่ายการของเน้อื หนังกป็ รากฏแล้ว คอื การล่วง
ประเวณี, การโสโครกการอุลามก, การไหว้รูป
เคารพ, การดูดวงชะตาราศี, การเป็นศัตรูกัน,
การวิวาทกัน, การริษยากัน การโกรธกัน, การ
ทุ่มเถียงกัน, การแตกก๊กกัน, การถือลัทธิต่างๆ
กัน”
8
3.“ความสว่าง” เป็นภาพที่สวยงามที่
สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของการเป็นตัวอย่างที่ดี
ของคริสเตียนในสังคมที่ตกอยู่ในความมืด พระ
เจ้าเป็นความสว่าง (โยฮัน 1:5) พระเยซูเป็น
ความสว่าง โยฮัน 1:4-5 “ในพระองค์มีชีวิต
และชีวิตน้ันเป็นความสว่างของมนุษย์ท้ังปวง
ความสวา่ งน้ันก็ส่องเข้ามาในความมืด แต่ความ
มืดนน้ั หาไดม้ ชี ัยต่อความสว่างน้ันไม่”
โยฮัน 8:12 “อีกครั้งหน่ึงพระเยซูตรัสแก่
เขาทั้งหลายว่า เราเป็นความสว่างของโลก ผู้ใด
ที่ตามเรามาจะไม่ได้เดินในความมืด แต่จะมี
ความสว่างแห่งชีวิต” พระค้าของพระเจ้าเป็น
ความสว่าง
9
บทเพลงสรรเสริญ 119:105 “พระวจนะ
ของพระองค์เป็นโคมส้าหรับเท้าของข้าพเจ้า
และเปน็ แสงสว่างตามทางของข้าพเจา้ ”
ความชอบธรรมเป็นความสว่าง โรม
13:12 “กลางคืนก็ล่วงไป และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้า
มาแล้ว เราท้ังหลายจงปลดเปล้ืองการของ
ความมืด และจงประดับกายด้วยเคร่ืองอาวุธ
อันสมกบั ความสว่าง”
คริสเตียนเป็นความสว่าง 1เธซะโลนเิ ก 5:5
“ท่านท้ังหลายเป็นบุตรของความสว่าง และ
เป็นบุตรของกลางวัน เราทั้งหลายไม่ได้เป็นมา
จากลางคืน และไม่ได้เป็นมาจากความมืด” ข้อ
พระคัมภีร์เหล่านี้ชีวิตของคริสเตียนต้องชอบ
ธรรม สะอาดบริสุทธ์ิ ไม่ใช่ประพฤติตนเป็นลูก
ของซาตาน
10
II. คณุ สมบตั ิของความสว่าง
“แต่ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก
เมืองซ่งึ สรา้ งไว้บนภูเขาจะปิดบงั ไว้ไมไ่ ด้”
คริสเตียนทุกคนควรมีคุณสมบัติเหมือน
ความสว่างเพ่ือมีอิทธิพลในการเป็นตัวอย่างท่ีดี
ดังต่อไปน้ี
1.ความสว่างเปิดเผยและส่องสว่าง คริส
เตียนควรใช้ชีวิตเป็นอิทธิพลท่ีดีในการเปิดเผย
ไม่ใชล่ กึ ลับ ตอ้ งสว่างสดใสเสมอ เอเฟโซ 5:13
“แต่ว่าส่ิงสารพัดท่ีได้แสดงเปิดเผยอยู่แล้ว ก็
ปรากฏแจ้งโดยความสว่าง” คนตาบอดถือ
ตะเกียงขณะเดินไปไหนก็ตาม มีคนถามว่า
ท้าไมต้องจุดตะเกียงในเม่ือคุณมองไม่เห็นอยู่
แล้วเขาตอบว่า “เพื่อให้คนอ่ืนมองเห็นตัวผม
เขาจะไม่เดินมาชนผมท้าให้ผมสะดุด” โรม
11
14:13 “เหตุฉะนั้นอย่าให้เราท้ังหลายพิพากษา
ซงึ่ กนั และกนั เลย แตก่ ระท้าเช่นน้ีดีกว่า คืออย่า
ใหผ้ หู้ นงึ่ ผู้ใดวางสิ่งซ่ึงท้าให้สะดุดหรือสิ่งซึ่งเป็น
เหตุให้ล้มลงไว้ต่อหน้าพ่ีน้อง” คริสเตียนควร
ใชช้ วี ติ อย่างดที ่ีสุดเพื่อไม่ให้คนอ่ืนสะดุดแต่ควร
จะเป็นส่องสว่างให้คนอื่นมองเห็นหนทางแคบ
ของพระเจ้า (มัดธาย 7:13-14)
2 . ค ว า ม ส ว่ า ง ข จัด ค ว า ม มื ด อ อ ก ไ ป
อิทธิพลในชีวิตคริสเตียนที่ดีจะขจัดความบาป
ความไม่ถูกต้องออกไปทันที ความสว่างกับ
ความมืดไม่อยู่ร่วมกัน เม่ือความสว่างปรากฏ
ความมืดต้องออกไป การปรากฏตัวของคริส
เตียนท้าให้สถานที่ตรงน้ันเปล่ียนไป ตัวอย่าง
เม่ือมีการสนทนาเครียด การปรากฏตัวของคริส
12
เตียนท้าให้การสนทนาเปลี่ยนไป ท่ีไหนศาสนา
คริสต์เข้าไปความมืดของความบาป, ความมืด
ของการถือโชคลาง, ความมืดของการติด
ลอตเตอรี่ และการพนันอย่างงอมแงม, ความ
มืดของการโกง หรือคอรัปช่ันจะถูกขจัดออกไป
โยโฮัน 3:19-21 “หลักของการพิพากษาเป็น
อย่างน้ี คือเพราะความสว่างได้เข้ามาในโลก
แล้ว และมนุษย์ได้รักความมืดมากกว่ารักความ
สว่าง เพราะการของเขาชั่ว ด้วยว่าทุกคนที่
ประพฤติชวั่ กย็ อ่ มชงั ความสว่าง และไม่ได้มาถึง
ความสว่างกลัวเกลือกว่าการของตนจะปรากฏ
แต่ทุกคนท่ีประพฤติตามความจริงย่อมมาถึง
ความสว่าง เพ่ือจะให้การของตนปรากฏว่าได้
กระทา้ การนัน้ โดยพ่งึ พระเจ้า”
13
3.ความสว่างให้ความอบอุ่น, ให้ขวัญและ
ก้าลังใจ ให้อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างท่ีดี
ของคริสเตียนสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นเป็น
ก้าลังใจ หนุนใจผู้อ่ืนเสมอ 1เธซะโลนิเก 5:11
“เหตุฉะน้ันจงหนุนน้าใจซึ่งกันและกัน และจง
ต่างคนต่างก่อร่างสร้างกันขึ้นตามอย่างซึ่งท่าน
ทงั้ หลายกระท้าอยู่น้ัน” เหมือนกับบาระนาบา
ลูกแห่งการหนุนน้าใจ (กิจการ 4:36) ท้าไม
คนไข้มักจะมีอาการไม่ดีในเวลากลางคืนแต่ใน
เวลาเช้าอาการดีขึ้น? ในยามค้่าคืน เมื่อรู้สึก
หวาดกลัว หรือเหงาหงอยเม่ือเปิดสวิตช์ไฟจะ
รู้สึกสบายใจข้ึน คนมากมายควรได้ยินค้า
ปลอบใจว่า “บรรดาความกระวนกระวายของ
ท่านจงฝากไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์
ยอ่ มทรงระลึกถึงและรกั ษาท่านท้ังหลาย” (1เป
14
โตร 5:7) และคนอีกมากควรไดยินค้ายืนยันว่า
“ฝ่ายเราทั้งหลายรู้แล้วว่า พระเจ้าทรงร่วมมือ
กับคนทั้งหลายท่ีรักพระองค์ คือคนท้ังปวงที่
พระองค์ทรงเลือกไว้ตามพระด้าริของพระองค์
ให้บังเกดิ ผลอันดใี นทกุ สง่ิ ” (โรม 8:28)
4.ความสว่างน้าทาง อิทธิพลในการเป็น
ตัวอย่างที่ดีของคริสเตียนสามารถเป็นความ
สว่างน้าทางคนมาถึงพระคริสต์ได้ คริสเตียน
ทั้งผใู้ หญ่และอนุชนต้องใช้ชีวิตที่ดีเพ่ือชักจูงคน
อื่นมาเป็นคริสเตียน ความกระตือรือร้นของ
ท่าน การมาโบสถ์เป็นประจ้าสร้างแรงบันดาล
ใจให้คนอื่นอยากเป็นคริสเตียนเหมือนท่าน
สุภาษิต 11:30 “ผลของคนชอบธรรมก็คือ
15
ต้นไม้แห่งชีวิต และบุคคลผู้มีปัญญาย่อมมีชัย
แกว่ ญิ ญาณหลายดวง”
ดานิเอล 12:3 “ฝ่ายคนมีสติสัมปชัญญะ
จะรุ่งโรจน์ดังดารา ผู้ท่ีชักน้าคนมากหลายให้
กลบั มาถงึ ความชอบธรรมจะโชติชว่ งดังดวงดาว
เปน็ นิตย์นริ นั ดร”
5 . ค ว า ม ส ว่ า ง ส่ อ ง สั ญ ญ า ณ อั น ต ร า ย
อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างที่ดีของคริสเตียนท้า
ให้คนท่ีตกเป็นทาสความบาปตาสว่างมองเห็น
อันตรายของความบาปท่ีท้าลายชีวิตให้อับปาง
ได้ แสงสว่างจากประภาคารสามารถส่องสว่าง
เรือเดินทะเลให้พันอันตรายจากหินโสโครก
เหมือนกับคนยามบนหอสูงบนก้าแพงมีหน้าท่ี
16
ให้สัญญาณอันตรายจากศัตรูท่ีมาจากการรัก
โลก (1โยฮนั 2:15-17)
อันตรายของลัทธินิกายต่างๆ (1โกรินโธ
1:10, โยฮัน 17:20-21) อันตรายของการ
ปฏเิ สธไม่เชอื่ พระเจ้า (เฮบ็ ราย 11:6, บทเพลง
สรรเสริญ 14:1) ถ้าคริสเตียนไม่ส่งสัญญาณ
อนั ตรายเราจะมโี ทษ (ยะเอศเคล 33:7-9)
6.ความสว่างส่องสว่างเพ่ือผลประโยชน์
ของผู้อ่ืน ความสว่างไม่ใช่ส่องเพ่ือตัวเอง แต่
ส่องเพื่อคนอื่นเหมือนดวงอาทิตย์ส่องสว่างให้
ดาวดวงอ่ืน คริสเตียนควรเป็นเหมือนความ
สว่าง เพราะความสว่างไม่เห็นแก่ตัว “ให้ความ
สว่างแก่ผู้อ่ืนไม่มีการรับเลย คริสเตียนได้รับ
ความสว่างจากพระเยซู เพราะฉะน้ันเราก็ควร
17
ส่องสว่างต่อไปยังผู้อ่ืนเราได้รับความรอดแล้ว
เราก็ควรช่วยให้คนอื่นได้รับความรอด 2ติโม
เธียว 2:2 “จงฝากข้อความเหลา่ น้ันซึ่งท่านได้
ยินจากข้าพเจ้าต่อหน้าพยานหลายคนไว้กับคน
สัตย์ซ่ือ ที่ สามาร ถสอนคนอื่นได้ด้วย ”
นอกจากเราเป็นผู้ถือคบเพลิงแล้วเราควรเป็น
ผู้ให้ความสว่างด้วย กิจการ 26:16-18 “ด้วย
ว่าเราได้ปรากฏแก่เจ้าเพื่อจะต้ังเจ้าไว้ให้เป็นผู้
ปฏิบัติ และเป็นพยานถึงเหตุการณ์ซ่ึงเจ้าได้
เห็น และถงึ เหตุการณ์ท่ีเราจะส้าแดงตวั เราเอง
แก่เจ้าในเวลาภายหน้า เราจะช่วยเจ้าให้พ้น
จากพลเมอื ง และจากคนต่างชาติท่ีเราจะใช้เจ้า
ไปหานั้น และให้เจ้าเปิดตาของเขา เพื่อเขาจะ
กลับจากทางมืดมาถึงทางสว่าง และจาก
อ้านาจของซาตานมาถึงพระเจ้า เพื่อเขาจะ
18
ได้รับการยกโทษแห่งความผิดของเขา และให้
ได้รับส่วนที่จะได้ด้วยกันกับคนท้ังหลายซ่ึงถูก
ช้าระให้เป็นผู้ชอบธรรมแล้วโดยความเช่ือใน
เรา.”
7.ความสว่างขจัดสิ่งสกปรกออกไป ขจัด
ความข้ีโกงออกไป อิทธิพลในการเป็นตัวอย่าง
ของคริสเตียนขจัดความสกปรกของสังคม
ออกไป คริสเตียนจะต้องใช้ชีวิตยืนหยัดในสิ่งที่
ถูกต้องชอบธรรม ติโต 2:11-12 “เพราะว่า
พระคุณของพระเจ้าซึ่งทรงน้าคนท้ังปวงให้ถึงที่
รอดมาปรากฏแล้ว สอนเราให้รู้ว่าควรจะละท้ิง
ความอธรรม และโลกีย์ตัณหา และประกอบ
ชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ อย่างยุติธรรม และ
อยา่ งธรรมในปัจจุบันน้ี” ฟิลปิ ปอย 2:15 “เพ่ือ
19
ท่านท้ังกลายจะกลายเป็นคนปราศจากต้าหนิติ
เตยี น เปน็ บุตรของพระเจา้ ปราศจากตเิ ตียน ใน
ท่ามกลางคนชาติคดโกงและดื้อด้าน ท่าน
ทง้ั หลายจึงปรากฏดุจดวงสวา่ งต่างๆ ในโลก”
8.ความสว่างใสแจ๋วและบริสุทธ์ิ อิทธิพล
ในการเป็นตัวอย่างของคริสเตียนควรบริสุทธิ์
สดใสเสมอเหมือนความสว่าง ไม่ใช่ด่างด้าหรือ
เทาๆ มัวๆ ไม่ชัดเจน น้าเมื่อใช้ช้าระแล้วจะ
สกปรกอีก, ไฟเม่ือเผาแล้วจะท้าให้เกิดข้ีเถ้า
แต่ความสว่าง ยัง ไงก็ ยัง สะอาดบริสุท ธิ์
เหมือนเดิม ความสว่างสะอาดหมายถึงส่ิงที่ดี,
สิ่งท่ีถูก และสิ่งที่จริง อิทธิพลในการเป็น
ตัวอย่างที่ดีของคริสเตียนเหมือนความสว่างที่
สามารถแยกแยะระหว่างส่ิงที่ถูกกับสิ่งท่ีผิดได้
20
เอเฟโซ 5:8-13 “เพราะว่าเม่ือก่อนท่าน
ทั้งหลายเป็นความมืด แต่บัดน้ีท่านเป็นความ
สวา่ งแลว้ ในองค์พระผเู้ ป็นเจ้าจงประพฤติอย่าง
ลูกของความสว่าง ด้วยว่าผลของความสว่างน้ัน
คือความดีทุกอย่าง และความชอบธรรม และ
ความจริง ท่านทั้งหลายจงพิสูจน์ดูว่าท้า
ประการใดจึงจะเป็นท่ีชอบพระทัยองค์พระผู้
เป็นเจ้า และอย่าเข้าส่วนกับกิจการของความ
มืดที่ไร้ผล แต่จงให้กิจการน้ันปรากฏเปิดเผย
ดีกว่า เพราะว่าการที่จะพูดถึงการเหล่าน้ันซ่ึง
เขากระท้าในท่ีลบั กน็ ่าอาย แต่วา่ ส่ิงสารพัดที่ได้
แสดงเปิดเผยอยู่แล้ว ก็ปรากฏแจ้งโดยความ
สว่าง เพราะว่าทุกส่ิงท่ีปรากฏแจ้งก็คือความ
สว่าง”
21
9.ความสว่างสามารถมองเห็นได้ในตัวของ
มันเอง อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างของคริส
เตียนสามารถท้าให้ผู้อื่นมองเห็นได้ ถ้าความ
ประพฤติของท่านสามารถสอนคนอ่ืนให้พบ
หนทางของการใช้ชีวิตท่ีดีท่ีสุดในโลก ท่านก็
ต้องส้าแดงออกในชีวิตของท่าน และท่านก็ต้อง
ตระหนักให้จงดีว่าท่านเป็นความสว่างของโลก
ต้องสามารถมองเห็นได้ มัดธาย 5:16 “ให้
ความสว่างของท่านส่องไปต่อหน้าคนท้ังปวง
อย่างน้ัน เพ่ือเขาจะได้เห็นการดีของท่าน แล้ว
จ ะ ไ ด้ ส ร ร เ ส ริ ญ พ ร ะ บิ ด า ข อ ง ท่ า น ผู้ อ ยู่ ใ น
สวรรค์”คนอ่ืนสามารถมองเห็น “การดี” ของ
ท่านก็ต่อเม่ือท่านส้าแดงออกมนุษย์ไม่สามารถ
มองเหน็ ชวี ิตที่น่ารักของท่านความเชื่อของท่าน
น้าใจอันประเสริฐของท่าน ความรักของท่านที่
22
มีต่อพระเจ้า และพระเยซู การยกย่องเทิดทูน
ศาสนาคริสต์ ถ้าท่านไม่ส่องสว่างดังนั้นท่าน
ต้องส่องสวา่ ง (มัดธาย 7:21)
10.ความสว่างท้าให้กระอักกระอ่วนใจ
อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างท่ีดีของคริสเตียนท้า
ให้คนข้างเคียงท่ีมีชีวิตไม่ดีรู้สึกกระอักกระอ่วน
อดึ อัดใจ และอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เขากลับ
ใจมาเป็นคริสเตยี นก็ได้ แตอ่ ย่าใหแ้ สงสว่างของ
ท่านดับเสียเองเม่ืออยู่ท่ามกลางคนไม่เช่ือ
เพราะท่านเกรงใจเขา หรือละอายเม่ือท่าน
เป็นคริสเตียน ถ้าเปิดไฟในเวลากลางคืนทันที
ท้าให้ปรับตัวไม่ทัน ความสว่างจากเคร่ืองเช่ือม
ท้าให้ปวดตา อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างที่ดี
ของคริสเตียนเมื่อปรากฎตัวท่ามกลางคนท่ีใช้
23
ชีวิตอยู่ในความบาปจะท้าให้เขารู้สึกอึดอัดไม่
สบายใจ ลูกา 5:8 “ฝ่ายซีโมนเปโตรเม่ือเห็น
ดังนั้นก็กราบลงท่ีพระชานุของพระเยซูทูลว่า
พระองค์เจ้าข้า ขอเสด็จไปให้ห่างจากข้าพเจ้า
เถิดเพราะว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาป” กิจการ
24:25 “แต่เม่ือเปาโลอ้างถึงความชอบธรรม
ความอดกล้ันใจ และความพิพากษาซ่ึงจะมา
เบือ้ งหนา้ นนั้ เฟลกิ ซก์ ็สะดุ้งตกใจกลัว จึงพูดว่า
คราวน้ีจงไปก่อนเถอะ เวลาว่างเราจะเรียกมา
ใหม่”
1 1 . ค ว า ม ส ว่ า ง ส า ม า ร ถ เ ห็ น โ ด ด เ ด่ น
ตะเกียงตั้งบนที่สูงเมืองที่ต้ังบนท่ีสูงสามารถ
มองเห็นได้ อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างที่ดี
ของคริสเตียนเป็นเหมือนตะเกียง และเมือง
24
ที่ต้ังบนที่สูงเป็นไปไม่ได้ที่คนจะไม่รู้ว่าท่าน
เป็นคริสเตียน “ซ่อนไม่ได้” ถ้าคนรอบตัวท่าน
ไม่รู้ว่าท่านเป็นคริสเตียน มีเหตุผลสอง
ประการคือ (1) ท่านไม่เป็นคริสเตียนจริงๆ
เป็นคริสเตยี นปลอม (2) ทา่ นซอ่ นความสว่างใน
การมีอิทธิพลของการเป็นตัวอย่างที่ดีไว้ใต้เตียง
หรือเอาถังครอบไว้ อย่ามีความอายที่ได้ชื่อ
ว่าคริสเตยี น
1 เปโตร 4:16 “แต่ถ้าผู้ใดถูกการร้าย
เพราะมีช่ือว่าเป็นคริสเตียน อย่าให้คนน้ันมี
ความละอาย แต่ให้ถวายเกียรติยศเพราะชื่อ
นนั้ ” อยา่ เป็นครสิ เตียนลับๆ มีขุนนางหลายคน
ที่เชื่อพระเยซูแต่ไม่กล้าเปิดเผย โยฮัน 12:42
“แม้ในพวกขุนนางก็มีหลายคนท่ีเช่ือพระองค์
25
แต่เขาไม่ได้รับพระองค์โดยเปิดเผย กลัวว่า
พวกฟารซิ ายจะขบั ไล่เขาเสียจากธรรมศาลา”
12.ความสว่างเผาเครื่องบูชาด้วยการ
เสียสละ อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างท่ีดี
ของคริสเตียนเป็นเหมือนความสว่างเป็นผู้ให้
มากกว่าผู้รับ เมื่อความสว่างมีการเผาเกิดขึ้น
จะต้องมีบางสงิ่ เกดิ เผาไหมห้ ายไป การเป็นคริส
เตียนจะต้องลงทุน จะต้องเสียสละชีวิตเป็น
เครื่องบูชา (โรม 12:1) ต้องแบกไม้กางเขน
(มัดธาย 16:24) ต้องคิดค้านวณค่าราคาให้
ละเอียด ลูกา 14:28 “ด้วยว่าในพวกท่านมี
ผู้ใดเมื่อปรารถนาจะสร้างป้อม แล้วมิได้น่ังลง
คิดราคาดูเสียก่อนว่าจะมีพอสร้างให้ส้าเร็จได้
26
หรือไม่?” เราต้องเสียสละเวลา ความสามารถ
เงนิ กา้ ลงั กาย และท่สี ุดก็คอื สละตวั ของเรา
2โกรินโธ 8:5 “ไม่เหมือนเราได้คาดหมาย
ไว้ แต่ข้อส้าคัญท่ีสุดได้ถวายตัวเขาเองแก่องค์
พระผู้เป็นเจ้า แล้วได้ยอมตัวให้แก่เราตาม
พระทยั พระเจ้า”
III. อยา่ ปิดบงั ความสว่างของทา่ น
เม่ือเขาจุดตะเกียงแล้วมิได้เอาถังครอบไว้
ย่อมต้ังไว้ท่ีเชิงตะเกียงจะได้ส่องสว่างแก่ทุกคน
ท่ีอยู่ในเรือนน้ัน (มัดธาย 15:15) มาระโกได้
บันทึกว่า “แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า เขาเอา
ตะเกียงมาส้าหรับตั้งไว้ใต้ถัง และใต้เตียงนอน
หรือ และไม่ใช่ส้าหรับตั้งไว้บน เชิงตะเกียง
หรือ” (มาระโก 4:21)
27
1.คริสเตียนไม่ควรปิดบังอิทธิพลของการเป็น
ตัวอย่างที่ดีของท่าน คริสเตียนปิดบังอิทธิพล
ของตัวเอง “ไว้ใต้ถัง”ถังเป็นมาตรฐานในการ
ตวงขา้ วในเวลานัน้ เปน็ เครื่องมอื ของธุระกิจการ
หาเงินหรือการงานเพราะฉะนั้นคริสเตียนอาจ
ปกปิดอิทธิพลของการเป็นตัวอย่างท่ีดี “ไว้ใต้
ถัง” คือใต้ถังของธุรกิจ ธุรกิจการงานจ้าเป็น
เพ่ือการเลี้ยงชีพ แต่บ่อยครั้งเพราะธุรกิจการ
งานท้าให้เราเอาถังครอบความสว่างการเป็น
อิทธิพลในการเป็นตัวอย่างที่ดีไปเสยี ความจริง
ธุรกิจน่าจะเป็นโอกาสในการส่องสว่างไม่ใช่
ปิดบังความสว่าง ลูกา 8:14 “ที่ตกกลาง
หนามน้ันได้แก่คนเหลา่ นั้นที่ได้ยินแล้วก็ออกไป
และความปรารภปรารมภ์ และทรัพย์สมบัติ
และความสนุกสนานแห่งชีวิตน้ีก็ปกคลมุ หุ้มห่อ
28
เขา ผลของเขาก็ม้านไป” เศรษฐกิจพอเพียงท้า
ให้ครสิ เตียนสอ่ งสว่างได้
1ตโิ มเธียว 6:6-10 “แตว่ า่ ธรรมประกอบด้วย
สันโดษก็ได้ก้าไรมาก เพราะว่าเราเข้ามาในโลก
ไมไ่ ด้เอาอะไรมาฉันใด เราไปจากโลกก็ไม่ได้เอา
อะไรไปไม่ได้ฉันนั้นแต่ว่าถ้าเรามีเครื่องอุปโภค
บริโภค ก็ให้เราอ่ิมใจด้วยของเหล่านั้นเถิด ฝ่าย
คนเหล่านั้นท่ี อยากเป็นคนมั่งมีก็ย่อมตกใน
การทดลอง และในบ่วงแร้ว และในตัณหา
หลายอย่างอันโฉดเขลา และเป็นภัยแก่ตัว ซ่ึง
ย่อมท้าให้ตัวจมลงในความพินาศเส่ือมศูนย์ไป
ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นรากแห่งความช่ัว
ทุกอย่าง และบางคนที่ได้โลภเงินทอง จึงได้
หลงไปจากความเชื่อนั้น และความทุกข์เป็นอัน
มากจึงท่ิมแทงตวั เขาเองใหท้ ะลุ”
29
มัดธาย 6:33 “แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหา
แผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของ
พระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่ง
ทงั้ ปวงเหลา่ นี้ให้”
2.คริสเตียนไม่ควรปกปดิ อิทธิพลของการเป็น
ตัวอย่างท่ีดีของท่าน “ไว้ใต้เตียงนอน” เตียง
น อ น เ ป็ น สั ญ ลั ก ษ ณ์ ส บ า ย ๆ ด้ ว ย ค ว า ม
สะดวกสบาย เกียจคร้าน ชอบท้าแต่เรื่องง่ายๆ
ความเฉยๆ ท้าให้คริสตจักรไม่เจริญ พระเยซู
ทราบว่า “ถัง” และ “เตียง” เป็นอุปสรรค
ของคริสเตียนท่ีไม่สามารถใช้อิทธิพลของความ
สว่างที่มีอยู่แล้วได้ เป็นการฝืนธรรมชาติที่คน
จะเอาถังครอบตะเกียง หรือเอาตะเกียงวางไว้
ใต้ที่นอน วิวรณ์ 3:15-18 “เรารู้กิจการของเจ้า
30
ว่าเจ้าไม่เย็นหรือไม่ร้อน เราใคร่ให้เจ้าเย็นหรือ
ร้อน เพราะเหตุเจ้าเป็นแต่อุ่นๆ ไม่เย็นไม่ร้อน
เราจะคายเจ้าออกจากปากของเราเพราะเจ้า
พดู ว่าเราเปน็ คนมั่งมี ได้ทรัพย์สมบัติทวีมากขึ้น
และไม่ต้องการสิ่งหน่ึงส่ิงใดเลย และเจ้าไม่รู้ว่า
เจ้าเป็นคนแร้นแค้นเข็ญใจ เป็นคนขัดสน เป็น
คนตาบอดและเป็นคนเปลือยกายอยู่ เรา
เตือนสติเจ้าให้ซื้อทองค้าจากเราที่หลอมให้
บริสุทธิ์แล้ว เพื่อเจ้าจะได้เป็นคนม่ังมีและ
เสื้อผ้าขาวจะนุ่งห่มได้ และเพื่อความละอาย
แห่งกายเปลือยเปล่าของเจ้าจะไม่ได้ปรากฏ
และเอาน้ามันทาตาของเจ้า เพื่อเจ้าจะแลเห็น
ได้”
31
IV. จุดประสงคข์ องความสว่างคืออะไร?
“ให้ความสว่างของท่านส่องไปต่อหน้าคนทั้ง
ปวงอย่างน้ันเพ่ือเขาจะได้เห็นการดีของท่าน
แล้วจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้อยู่ใน
สวรรค์” (มดั ธาย5:16)
1.คริสเตียนควรเป็นอิทธิพลในการเป็น
ตัวอย่างที่ดี โดยการให้ความสว่างส่องไปต่อ
หน้าคนท้ังปวงเพ่ือเขาจะได้เห็นการดีของท่าน
หมายความว่าความสว่างของท่านสามารถ
ส้าแดงออกด้วยการกระท้า “การดี” ต่อตาของ
โลก แต่ท่านจะต้องระวังการที่ท่านท้าต่อหน้า
คนอื่น ควรท้าด้วยน้าใจจริง ด้วยความเต็มใจ
ด้วยก้าลังวังชาท้าเสมอต้นเสมอปลายไม่ใช่ท้า
เป็นพักๆ (1ติโมเธียว 6:17-19) “ท่านจง
ก้าชับคนเหล่านั้นท่ีม่ังมีฝ่ายโลกอย่าให้มีใจถือ
32
มานะทิฐิ อย่าให้ความหวังของเขาอิงอยู่กับ
ทรัพย์อนิจจัง แต่ให้หวังในพระเจ้าผู้ทรง
ประทานส่ิงสารพัดให้แก่เราอย่างบริบูรณ์เพ่ือ
จะให้เราใช้ด้วยความปิติยินดี ท่านจงก้าชับเขา
ให้กระท้าการดี ให้ร่้ารวยในการดีนั้น ให้มีใจ
พร้อมท่ีจะให้ทาน ให้มีใจกว้างขวาง และส่า้ สม
ไว้เป็นรากอันดีส้าหรับตัวของตน เผื่อเวลา
ข้างหน้า เพื่อเขาจะได้ยึดเอาชีวิตซ่ึงเป็นชีวิต
จรงิ ๆ นั้น”
(โกโลซาย 3:22-24) “ฝ่ายพวกทาสจงเช่ือ
ฟังผูท้ ่ีเป็นนายของตนตามเน้ือหนังทุกข้อ ไม่ใช่
อย่างคนที่ท้าต่อหน้า เช่นผู้ท่ีท้าให้ชอบใจคน
แต่ท้าด้วยน้าใสใจจริงโดยเกรงกลัว องค์พระผู้
เป็นเจ้า ท่านจะกระท้าส่ิงใด ก็จงกระท้าด้วย
เตม็ ใจเหมือนกระท้าถวายพระเจ้า ไม่ใช่เหมือน
33
กระท้าแกม่ นุษย์ ด้วยรแู้ ลว้ วา่ ทา่ นทั้งหลายควร
จะรับบ้าเหน็จจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นมรดก
เพราะว่าทา่ นทั้งหลายปฏบิ ัติพระคริสต์เจา้ ”
1เปโตร 2:12 “จงให้การประพฤติของท่าน
ท้ั ง ห ล า ย เ ป็ น ที่ น่ า นั บ ถื อ ท่ า ม ก ล า ง ค น
ต่างประเทศน้ัน (คนที่ไม่เช่ือพระเจ้า) เพ่ือว่า
ข้อที่เขาติเตียนท่านว่าเป็นคนท้าช่ัวนั้น เม่ือเขา
เห็นการดีของท่านแล้วเขาจะได้สรรเสริญพระ
เจ้าในวนั ซ่งึ พระองค์จะทรงเย่ียมเยยี นเขา”
2.โปรดสังเกตว่าคนจะเห็น “การดี” ไม่ใช่
เห็นตัว “บุคคล” พระเยซูสอนว่าเมื่อท่านท้า
การดีคนจะเห็นการดีไม่ใช่เห็นตัวท่าน โดย
ธรรมชาติความสว่างท้าหน้าท่ีส่องสถานเดียว
มันไม่เป็นห่วงใครจะเห็นการดีที่ท้า มนุษย์
34
ส่วนมากเป็นห่วงเร่ืองนี้มากเกินไป (มัดธาย
6:1-8) ขอ้ 1. “อย่าท้าความขอบธรรมของท่าน
ต่อหน้ามนุษย์ เพื่อจะให้เขาเห็น..” ข้อ2. “…
เมื่อท้าทานอย่าเป่าแตรข้างหน้าท่าน ..... เพื่อ
จะได้ความสรรเสริญจากมนุษย์” ข้อ 5. เม่ือ
ท่านทั้งหลายอธิฐานเพื่อให้คนเห็น ข้อ 10.
“เม่ือท่านถือศีลอดอาหารสนอย่าท้าหน้าเศร้า
หมอง..... เพอื่ จะให้ปรากฏแกม่ นษุ ย์…”
3.โปรดวเิ คราะห์อีกว่าคนจะได้เห็นการดีของ
ท่านไม่ใช่ “ได้ยิน” หมายความว่าการดี เป็น
การกระท้าจริงๆ ไมใ่ ชเ่ พียงแต่พูด 1โยฮนั 3:18
“ดูก่อนลกู เล็กๆ ท้ังหลายอย่าให้เรารักเพียงแต่
ถ้อยค้าและลิ้นเท่านั้น แต่ให้เรารักด้วยการ
ประพฤติและด้วยความจริง” เป็นการถูกต้องท่ี
35
มี ก า ร ว า ง โ ค ร ง ก า ร แ ต่ ค ว ร จ ะ ท้ า ต า ม ที่ ตั้ ง
โครงการ ไม่ใช่ดีแต่พูดแล้วไม่ท้า มัดธาย
25:21 เป็นการดีจะได้ยินจากพระโอษฐ์ของ
พระเจ้าตรัสว่า “ดีแล้ว” ไม่ใช่ “เจ้าพูดดี”
เสยี งเดนิ ทางจากดวงอาทิตยถ์ งึ โลก 1936 นาที
แ ส ง เ ดิ น ท า ง ไ ด้ เ ร็ ว ม า ก ก ว่ า เ สี ย ง เ มื่ อ ฟ้ า ร้ อ ง
ฟ้าผ่าเราเห็นแสงแลบก่อน แล้วจึงได้ยินเสียง
แต่มนุษยใ์ ช้เสียงปากพูดเร็วกว่าสอ่ งสวา่ ง
4.จุดประสงค์ในการกระท้าการดีก็เพ่ือ “เขา
จ ะ ไ ด้ ส ร ร เ ส ริ ญ พ ร ะ บิ ด า ข อ ง ท่ า น ผู้ อ ยู่ ใ น
สวรรค์” แสงสว่างที่ติดต้ังบนเสาไฟฟ้าตาม
ถนนต่างๆ ให้สว่างเหมือนเท่ียงวันเพื่อปกป้อง
คนเดินถนน คนเดินถนนไม่ได้สรรเสริญ
หลอดไฟที่เสาไฟฟ้าแต่ย่อมสรรเสริญเจ้าหน้าท่ี
36
เทศบาล ฉันใดก็ดีคริสเตียนควรส้าแดงอิทธิพล
ของการเปน็ ตวั อยา่ งท่ดี ดี ว้ ยการสอ่ งสว่าง เพ่ือ
เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาไม่ใช่สรรเสริญตัว
ทา่ น
1โกรินโธ 10:31“เหตุฉะน้ันถ้าท่าน
ท้ังหลายจะกินจะด่ืมก็ดี หรือจะท้าประการ
ใดก็ดี จงกระท้าทุกสิ่งให้เป็นท่ีถวาย
เกยี รตยิ ศแกพ่ ระเจา้ ”
เอเฟโซ 3:21 “จงถวายเกียรติยศแด่
พระองค์ในคริสตจักรและในพระเยซูคริสต์
ทุกสมัยสืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน” กษัตริย์
เฮโรดไม่ได้ถวายเกียรติยศแก่พระเจ้า เขาก็
ถูกโรคร้ายท้าให้ถึงแก่พิลาลัยทันที (กิจการ
12:23)
37
สรุป :
1.โลกของเราตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ
ความมืด ตกอยู่ในความบาป ปัญหาความ
สับสนวุ่นวายมากมาย พระเยซูต้องการให้เรา
เป็นความสว่างของโลกน้ี ใช้อิทธิพลของการ
เป็นตัวอย่างที่ดีส่องสว่าง หน้าที่ของคริสเตียน
คือ “ส่องสว่าง” ไม่ใช่เอาถังมาครอบไว้ หรือ
เอาไวใ้ ต้เตยี งนอน
2.ความสว่างของท่านมีพลังแค่ไหนแสง
เจิดจ้าหรือแสงสลัวๆ หรือแสงริบหร่ี หรือแสง
ของท่านดับไปแลว้ ?
3.นักว่ิงชาวกรีกในสมัยโบราณจะประสบ
ชัยชนะไม่ใช่ผู้ท่ีสามารถว่ิงเข้าถึงเสน้ ชัยเป็นคน
แรกเท่าน้ัน ผู้ที่สามารถเป็นผู้ชนะคือผู้ที่ว่ิงถึง
เส้นชัยก่อนพร้อมด้วยคบเพลิงอยู่ในมือที่ยังลุก
38
โชติช่วงอยู่ไม่ใช่ดับไปแลว้ อธิษฐานให้เราทุก
คนว่ิงจนถึงเส้นชัยพร้อมด้วยคบเพลิงท่ียังลุก
โชติช่วงอยู่เพ่ือเราจะได้ยินพระเจ้าตรัสว่า “ดี
แล้วเจา้ เป็นบ่าวซ่ือตรงดี” (มัดธาย 25:21)
อิทธพิ ล
ของการเป็นตวั อยา่ ง
สบุ นิ ปน้ั บญุ
คริสตจกั รของพระครสิ ต์ หม่บู า้ นมิตรภาพ