The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โยบ เล่ม4

โยบ เล่ม4

บทเรยี นจากหนังสอื

โยบ

เล่ม 4
ให้คาปรกึ ษาแก่ผทู้ ีก่ าลังมี
ความทุกข์ขากลาบาก

สบุ ิน ปน้ั บญุ

คริสตจกั รของพระคริสต์ หมู่บา้ นมิตรภาพ

1

“ให้คำปรึกษำแกผ่ ู้ที่กำลงั
มคี วำมทุกข์ยำกลำบำก”

(โยบ 5)

โยบ 5:1-4 “บัดนี้จะร้องทุกข์ก็ร้องไปเถิด
มีใครจะตอบท่านเลา่ ท่านจะหันหน้าไปหาเทพ
เจ้าองค์ไหน เพราะว่าการวิตกเดือดร้อนไป
เปล่าๆ ก็เป็นเคร่ืองประหารคนโง่และการ
เกร้ียวโกรธก็เป็นเครื่องฆ่าคนเขลา ข้าเคยได้
เหน็ คนโฉดเขลาลงรากเปน็ หลักแหลง่ แล้วในชั่ว

2

พริบตาเดียวก่ิงก้านสาขาของเขาก็ผุเน่าเสียไป
ลูกหลานของเขาจึงอยู่ห่างจากการปลอดภัย
และเขาก็ถูกบีบคั้นเอาจนส้ินเนื้อประดาตัวท่ี
ประตเู มืองและไม่มใี ครจะชว่ ยเหลอื เขา”

คำนำ:1.ในบทที่ 5 อะลีฟาศยังโต้ตอบโยบ
อย่างต่อเนื่องจากบทที่4 “ด้วยความปรารถนา
ดที ีเ่ ปน็ หมัน”

อะลีฟาศกาลังให้คาปรึกษาแก่สหายโยบ
ซึ่งเป็นความคิดท่ีดีสิ่งท่ีอะลฟี าศพูดหลายอย่าง
โดยเทคนิคแล้วถือว่าเป็นความจริง แต่
ข้อผิดพลาดของอะลีฟาศต้ังธงไว้แล้วว่า การท่ี
โยบกาลังเผชิญกับความทุกข์ยากอยู่ในขณะนี้
เพราะโยบมีความบาปบางประการในชีวิต น่ี

3

เป็ น ห ลั ก ข้ อ เ ชื่ อ ข อง ค น ใ น ยุค น้ั น อ ย่ า ง
กวา้ งขวาง

2.อะลีฟาศได้เทศนาเรื่อง ฤทธานุภาพของ
พระเจา้ แต่ไม่มีความสงสารต่อการเจ็บปวดของ
โยบ

อะลีฟาศให้คาแนะนาปรึกษาที่ดี แต่อะ
ลีฟาศขาดวิจารณญาณเขาใช้วาทกรรมท่ีฟังลื่น
หู แต่ยังวินิจฉัยไม่ลึกพอ อะลีฟาศมองไม่เห็น
ความชอบธรรมของโยบ คิดว่าส่ิงที่เกิดขึ้นกับ
โยบเป็นเพราะพระเจ้าใชว้ นิ ัยลงโทษโยบ

3.บางคร้ังเพ่ือนต้องการคาแนะนาจากเรา
และบางครั้งเราก็ตอ้ งการคาแนะนาจากเพ่ือน

เพื่อนของเราอาจจะมีความปรารถนาดี
และมีเจตนาดีแต่แม้กระน้ันเขายังให้คาแนะนา
ที่ใช้การไม่ได้ เพราะคาแนะนาต้ังอยู่บนความ

4

ลาเอียง เม่ือเราให้คาแนะนาผู้ใดก็ตาม
โดยเฉพาะกับพี่น้องคริสเตียน เราควรยึดกฎ4
ข้อดังต่อไปน้ี

I.จงพดู ควำมจริงดว้ ยใจรัก
1.อะลฟี าศ พูดความจริงในบทที่ 5:2 เม่ือ

เขาพูดว่า “เพราะว่าการ(อิจฉา)วิตกเดือดร้อน
ไปเปล่าๆ ก็เป็นเครื่องประหารคนโง่และการ
เกรีย้ วโกรธกเ็ ป็นเครื่องฆา่ คนเขลา

เราทั้งหลายรู้ดีว่าความอิจฉา (KJV ใช้คา
ว่า ENVY) และความเกร้ียวกราดจะพาไปสู่
ความยุ่งยากสารพดั แต่อะลีฟาศเอาความจริงน้ี
กล่าวหาว่าโยบอิจฉาและเกร้ียวกราด อะ
ลีฟาศ ยกข้อความใน 5:3-4 เพื่อประณามว่า
โยบเปน็ คนโงเ่ ขลา

5

โยบ 5:3-4 “ข้าเคยได้เห็นคนโฉดเขลาลง
รากเป็นหลักแหล่งแล้วในชั่วพริบตาเดียว
ก่ิงก้านสาขาของเขากผ็ ุเน่าเสียไป ลูกหลานของ
เขาจึงอยู่ห่างจากการปลอดภัยและเขาก็ถูกบีบ
ค้ันเอาจนส้ินเน้ือประดาตัวท่ีประตูเมืองและไม่
มีใครจะชว่ ยเหลือเขา ”

2.อะลีฟาศพูดความจริงในข้อ 5:7 เมื่อเขา
พูดว่า “แต่ว่ามนุษย์น้ันเองก่อให้เกิดความ
ยากลาบากน้ันดุจลูกไฟที่พลุ่งออกจากกองไฟ”
(KJV “Yet man is born unto trouble as
the spark fly upward”)

พระเยซูตรัสว่าตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่
บ น โ ล ก น้ี เ ร า จ ะ ต้ อ ง เ ผ ชิ ญ กั บ ค ว า ม ทุ ก ข์
ยากลาบาก

6

โยฮัน 16:33 “สง่ิ เหล่าน้ันเราได้บอกท่าน
ทั้งหลายเพื่อท่านจะมีความสุขโดยเรา ในโลกนี้
ท่านทั้งหลายมีความทุกข์ยากแต่จงยินดีเถิดเรา
ชนะโลกแล้ว”

3.อะลีฟาศพูดความจริงและให้คาแนะนาดี
ทีส่ ุดในบท 5:8 “ถ้าเป็นตัวข้า ข้าจะเข้าหาพระ
เจา้ และเสนอมอบเร่อื งของข้าไวก้ ับพระเจ้า”

อะลฟี าศแนะนาโยบให้อธิษฐานมอบภาระ
ให้กับพระเจ้า อัครสาวกเปาโลก็แนะก็นาไว้
เช่นเดียวกันใน ฟิลปิ ปอย 4:6-7 “อย่ากระวน
กระวายด้วยส่ิงใดเลย แต่จงเสนอความ
ปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้าโดยการ
อธิษฐานกับการขอบพระคุณ และสันติสุขแห่ง
พระเจ้าซึ่งเหลือท่ีจะเข้าใจได้ จะคุ้มครองใจ

7

และความคิดของท่านท้ังหลายไว้ในพระเยซู
คริสต์”

เราท้ังหลายทุกคน ควรแสวงหาพระเจ้า
อย่างสม่าเสมอทั้งในยามท่ีเรามีความทุกข์หรือ
ในยามทเ่ี รามีความสขุ อะลีฟาศกล่าวหาว่าโยบ
ไม่บริสุทธิ์ และแสวงหาพระเจ้าโดยไม่บริสุทธ์ิ
ใจ

4.พระเจ้าเรียกร้องให้ลูกๆ ของพระองค์
พูดความจริงเสมอ คาว่า “ความจริง” ในที่นี้
หมายถึงสอดคล้องกับข้อมูลตามความเป็นจริง
ของพระคาของพระเจ้า ลกู ของพระเจ้าต้องพูด
ความจริงตามท่ีสาแดงไว้ในพระคัมภีร์ ในบทที่
4 อะลฟี าศอ้างว่าเขารับข่าวสารจากพระเจ้า ที่
ได้รับจากความฝัน แต่ในโยบบทท่ี 42:7 พระ

8

เจ้าตรัสกับอะลีฟาศว่าสิ่งที่อะลีฟาศพูดไม่เป็น
ความจรงิ เป็นเรือ่ งเท็จทงั้ น้ัน

โยบ 42:7 “อยู่มาเม่ือพระยะโฮวาได้ตรัส
คาเหล่าน้ีแก่โยบแล้วก็ได้ตรัสต่อไปแก่อะลีฟาศ
ชาวเธมานวา่ โทโสของเราได้พล่งุ ขน้ึ ตอ่ เจ้าแลว้
และต่อมิตรสหายสองคนของเจ้าด้วย เพราะ
เจ้าได้พูดอะไรๆ ถึงเราน้ันไม่เป็นความจริงดัง
โยบผู้ทาสของเราไดก้ ล่าวแล้ว”

5.นักเทศน์, ครูสอนพระคัมภีร์ และคริส
เตียนทุกคนต้องเทศนา ต้องสอน ต้องพูดสิ่งท่ี
ถูกต้อง และเป็นความจรงิ

เอเฟโซ 4:15 “แต่ให้เรายึดเอาความจริง
ด้วยใจรัก เพื่อจะจาเริญใหญ่ขึ้นทุกอย่างใน
พระองคผ์ ู้เปน็ ศีรษะ คือพระคริสต์”

9

6.อะลีฟาศไม่ได้พูดความจริงด้วยใจรัก
ไมไ่ ดแ้ สดงความเมตตาสงสารเทา่ ทค่ี วรจะเปน็

เอเฟโซ 4:29 “อย่าให้คาหยาบคายออกมา
จากปากท่านเลย แต่ให้ใช้คาดีตามแต่จะ
ต้องการซ่ึงจะเป็นที่ให้เกิดความจาเริญขึ้น เพื่อ
จะเป็นคุณแก่คนเหลา่ นนั้ ที่ไดย้ นิ ”

อะลีฟาศไม่ได้เลือกคาดี เพื่อให้เกิดความ
เจริญแก่โยบ และไม่ได้คานึงคิดถึงความทุกข์
ทรมานของโยบ ส่ิงท่ีโยบต้องการคือกาลังใจ
ไมใ่ ช่การซ้าเติม

II.จงมอบภำระไวก้ ับพระเจ้ำผูท้ รงสรำ้ ง
1.การที่อะลีฟาศได้กล่าวถึงฤทธานุภาพใน

การควบคุมทุกสงิ่ นา่ ชมเชย

10

โยบ 5:9 “ผ้ทู รงกระทาการใหญ่ยิ่งเหลอื ที่
จะเข้าใจได้และการมหัศจรรย์เหลือท่ีจะคณนา
ได้”

ส่ิงท่ีอะลีฟาศยกย่องพระเจ้าที่ทรงกระทา
การยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์เหลือท่ีจะคณาเป็น
ส่งิ ทล่ี กู ของพระเจ้าพระองค์ควรทาอยู่แล้ว

เอเฟโซ 3:20 “จงถวายสรรเสริญแด่
พระองค์ผู้ทรงฤทธ์ิอาจจะกระทาสารพัตรมาก
ย่ิงกว่าที่เราจะขอหรือคิดได้ ตามฤทธิ์เดชท่ีทรง
กระทาภายในตัวเรา”

2.อะลีฟาศเตือนให้โยบระลึกถึง พระราช
กิจของพระเจ้าอย่างเสมอภาคไม่เหล่ือมล้า

โยบ 5:10-11 “พระเจ้าได้ประทานฝนให้
ตกบนพื้นแผ่นดินและทรงให้น้าไหลเข้ามาใน

11

ทุ่งนา จึงเป็นเหตุยกฐานะของคนต่าต้อยให้
สูงขน้ึ และยกคนทคี่ ร่าครวญให้ปลอดภัย”

อะลีฟาศชี้แจงต่อไปว่าเพราะพระเจ้าทรง
ครอบครองโลกพระองค์ประทานความหวัง
ให้แกค่ นเข็ญใจ

โยบ 5:16 “โดยเหตุน้ีคนเข็ญใจก็มีหวัง
และตวั ความชวั่ ก็ถูกปิดปากเสยี ”

3.แล้วอะลีฟาศได้เขียนรายการต่างๆ
เกี่ยวกับพระพรท่ีจะได้รับจากการแสวงหาพระ
เจา้

ในโยบ 5:17-27 ในรายการได้บรรยายถึง
ความห่วงใยของพระเจ้าทรงดูแลลูกๆ ของ
พระองค์ เช่นการใช้วินัยสั่งสอนการผูกพัน
รักษาบาดแผล การถกู กดี กนั ไว้จากโรคระบาด

12

ข้อ21 “ท่านจะถูกกีดกันไว้จากโรคระบาด
และเมอื่ ความพินาศมีมาท่านกไ็ มต่ อ้ งกลัว”

พระเจ้าทรงปกป้อง และช่วยให้พ้น
อันตรายต่างๆ พระเจ้าทรงเป็นน้าพุแห่งพระ
พร

โยบ5:25 “และท่านจะรู้เถิดว่าพงศ์พันธ์ุ
ของท่านจะเจริญใหญ่โตและลูกหลานของท่าน
จ ะ มี ม า ก ม า ย ดุ จ ต้ น ห ญ้ า ท่ี ข้ึ น อ ยู่ บ น พ้ื น
แผน่ ดนิ ”

III.จงหลีกเล่ียงกำรคำดเดำและตัดสินไปก่อน
ล่วงหนำ้

1.โยบมีฝีและบาดแผลเต็มท้ังตัวกาลัง
เจ็บปวด และกาลังมคี วามทกุ ข์อย่างแสนสาหัส

13

อะลีฟาศกาลังยัดเหยียดน้าพระทัยของ
พระเจ้าให้เข้ากับการตัดสินของตัวเอง อะ
ลีฟาศคาดเดาว่า พระเจ้ากาลังใช้วินัยกับโยบ
เหมาเอาเองว่าโยบต้องทาอะไรผิดอย่างมาก
เฮ็บราย 12:5-12 สอนว่าพระเจ้าทรงใช้วินัย
กับพลไพรข่ องพระองค์

เฮ็บราย 12:5-7 “และท่านได้ลืมคาเตือน
น้ันเสีย ซ่ึงได้เตือนท่านเหมือนกับเตือนบุตรว่า
ดูก่อนบุตรของข้าพเจ้า อย่าประมาทต่อการตี
สอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าระอาใจ
เม่ือพระองค์ทรงติเตียนท่านน้ัน เพราะว่า
พระองค์ทรงรักผู้ใด พระองค์จึงทรงตีสอนผนู้ ้ัน
และพระองค์ทรงรับคนใดเป็นบุตร พระองค์ก็
ทรงเฆ่ียนตีผู้น้ัน ที่ท่านท้ังหลายต้องทนน้ันก็
เพราะการตีสอน พระเจ้าทรงกระทาแก่ท่าน

14

เหมือนท่านเป็นบุตร ด้วยว่ามีบุตรคนใดเล่าท่ี
บิดาไม่ไดต้ ีสอนเขาบ้าง”

2.หลักการน้ีใช้กับโยบไม่ได้ เพราะโยบ
ไมไ่ ด้ทาผิดบาป เราเรียนรู้จักบทท่ี 1,2 พระเจ้า
ต้องการทดสอบความเช่ือโยบไม่ใช่การใช้วินัย
กับโยบ

ส่งิ ที่โยบไม่ตอ้ งการที่สุดคือคากล่าวหาท่ีไม่
มีมูลความจริง โยบไม่ต้องการให้ใครเป็นผู้
พิพากษาตดั สิน

3.ในยามท่ีโยบเจ็บปวดแสนสาหัส โยบ
ต้องการคาปลอบใจไม่ใช่คาสงั่ สอน

การเทศนาบนภูเขาของพระเยซูตรัสว่า
“อย่ากล่าวโทษเขาเพ่ือเขาจะไม่กล่าวโทษท่าน
เพราะว่าท่านทั้งหลายจะกล่าวโทษเขาอย่างไร
เขาจะกล่าวโทษท่านอย่างนั้นและท่านจะตวง

15

ให้เขาด้วยทะนานอันใด เขาจะตวงให้ท่านด้วย
ทะนานอนั นน้ั ” (มดั ธาย 7:1-2)

ในสภาพของโยบในเวลานั้นไม่ใช่เป็นเวลา
กลา่ วโทษแต่ควรใหก้ าลงั ใจ

IV.จงอย่ำเทศนำใส่เขำในยำมที่เขำมีควำม
ทกุ ขส์ ำหัส

1.โยบตระหนักดีถึงเดชานุภาพในการทา
สิ่งท่นี า่ อัศจรรยส์ ดุ บรรยายอย่เู สมอ

ท่านไม่ต้องการให้ใครมาเทศนาให้ท่านใน
เวลาน้ีต้องการคนท่ีเข้าใจความเจ็บปวดรวด
รา้ วของเขา โยบตอ้ งการผอ่ นคลายความเครียด
ต้องการเล้าโลมใจและต้องการสหายที่ช่วยแบก
ภาระรว่ มทกุ ขร์ ่วมสุข

16

ฆะลาเตีย 6:2 “จงช่วยแบกภาระ (ร่วม
ทุกข์ร่วมสุข) ซ่ึงกันและกันเถิด ดังนั้นจึงเป็นที่
ใหพ้ ระบัญญตั ิของพระครสิ ต์สาเร็จ”

โรม 12:15 “จงมีใจยินดีด้วยกันกับผู้ที่มี
ความยินดี จงร้องไหด้ ว้ ยกันกับผทู้ รี่ อ้ งไห้”

2.โยบต้องการให้อะลีฟาศมีความอดทน
กับเขา และอธษิ ฐานเผอ่ื เขา และร้องไหด้ ้วยกัน
กับเขา แต่ไมใ่ ช่เทศนาใหเ้ ขาฟงั

3.วาทะกรรมของอะลีฟาศ เป็นการ
กล่าวโทษและเป็นการใสร่ ้าย อะลฟี าศจบคาลง
ทา้ ยดว้ ยความยโสโอหงั ใจความวา่

โยบ 5:27 “เร่ืองมันก็เป็นดังน้แี หละ เราได้
สืบสวนรู้มาแล้วว่าเป็นดังนั้น จงฟังเอาเถอะ
และเก็บความรไู้ วเ้ ปน็ ประโยชนส์ าหรบั ตัวเอง”

17

วาทะกรรมของอะลีฟาศ อาจจะมีเจตนาท่ี
ถู ก แ ต่ ไ ม่ เ ป็ น ท่ี ห นุ น ใ จ เ ล ย ไ ม่ มี ป ร ะ โ ย ช น์
ปราศจากความเมตตาสงสารและปราศจาก
ความเอือ้ อาทร

สรุป:1. สิง่ ที่มนษุ ยต์ อ้ งการคอื การหนนุ ใจ
2.ส่ิงท่ีมนุษย์ไม่ต้องการคือ Discredit

ประณามหยามเหยยี ด

บทเรยี นจากหนงั สอื

โยบ

สุบิน ปน้ั บญุ

คริสตจักรของพระครสิ ต์ หม่บู ้านมิตรภาพ


Click to View FlipBook Version