หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ พุทธประวัติ พระสาวก ศาสนิกชนตัวอย่าง และชาดก
ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
วิภาวรรณ กูนา
่
ี
้
หนวยการเรยนรูที่ ๒
ิ
พุทธประวัติ พระสาวก ศาสนกชนตัวอยาง และชาดก
่
ิ
ึ
การศกษาพุทธประวัติ ประวัติพระสาวก ศาสนกชน
่
ตัวอยาง และชาดกตางๆ มีความสาคัญ ดังน้ ี
่
็
ิ
่
ี
้
่
• ชวยท าใหเราเหนแบบอยางในการด าเนนชวิตที่ดีม
คุณคา
่
• สามารถนาไปใชเปนแบบยางในการด าเนนชวิตของเรา
่
ี
้
ิ
็
่
ิ
ื
ื
่
• เพอการด ารงชวิตไดอยางสงบสุขและเจรญรุงเรอง
่
้
ี
๑. พุทธประวัติ
พุทธประวัติ เปนเรองราวความเปนมา
็
็
่
ื
้
่
้
ของพระพุทธเจา ตังแตประสูติ เสด็จออก
ั
ผนวช ตรสรู แสดงปฐมเทศนา ประกาศพระ
้
ิ
ิ
ศาสนา จนถึงปรนพพาน
ประสูติ
้
่
ั
ิ
พระพุทธเจาทรงมีพระนามเดิมวา สทธตถะ
็
้
่
ิ
่
่
ื่
(แปลวาผูสาเรจในสงทีประสงค) ประสูติเมอวัน
์
้
ี
่
ื
ขึ้น ๑๕ ค ่า เดอน ๖ โดยพราหมณผูเชยวชาญได ้
์
ั
ิ
่
็
ื
ท านายวา หากเจาชายสทธตถะครองเรอนจะเปน
้
พระเจาจกรพรรดิผูยิงใหญ หากเสด็จออกผนวช
ั
้
่
่
้
้
จะไดเปนศาสดาเอกของโลก
็
ั
ิ
้
ึ
ั
้
เจาชายสทธตถะไดรบการศกษา
ื
ศลปวิทยาเกอบทุกแขนง เมอ
ิ
่
ื
้
พระชนมายุได ๑๖ พรรษา ก็ทรงอภิเษก
ื
สมรสกับพระนางยโสธราหรอพิมพา มี
่
พระโอรสพระนามวา ราหุล
เสด็จประพาสอุทยาน
ั
้
ครงหนงเจาชายสทธตถะเสด็จ
ึ่
ั
ิ
้
ประพาสอุทยาน ทอดพระเนตร
็
่
เหนคนแก คนเจ็บ คนตาย และ
สมณะตามล าดับ
ิ
จงทรงด ารวาชวิตของทุกคน
ี
่
ึ
่
่
้
ั
่
้
ตองตกอยูในสภาพเชนนนไมมี
ใครหลีกเลี่ยงได และวิถีทาง
้
้
ื
ี
้
ทีจะพนทุกขเชนน้ คอ ตองสละ
่
่
์
เพศผูครองเรอน
้
ื
ออกผนวช
่
ในทีสุดพระองคก็ตดสนพระทัยเสด็จออกผนวช และ
์
ั
ิ
่
่
ั
เสด็จไปศกษายังสานกตางๆ เมอทรงเหนวาไมใชทางตรสรู
่
็
่
้
ั
ึ
ื่
้
ี
้
์
พระองคจงเปลียนมาใชวิธบ าเพ็ญทุกกรกิรยา ถึงกระนนก็ยัง
ั
ิ
่
ึ
่
้
่
้
่
ึ
ั
้
ไมพบทางตรสรู จงด ารวาไมใชทางทีถูกตอง จึงทรงเลิกแลว
่
่
ิ
์
กลับมาเสวยพระกระยาหารตามเดิม ท าใหปญจวัคคียที่คอย
้
ั
ั
ี
ปรนนบัติเสอมศรทธาและพากันหนไป
ิ
ื่
ั
ตรสรู ้
พระสทธตถะทรงบ าเพ็ญเพียรทางจตจนความรูแจม
ิ
้
ิ
ั
่
ิ
่
่
่
์
แจงนนปรากฏขึ้น สงทีพระองคตรสรูเรยกวา อรยสจ มี
ี
ั
้
้
ั
ั
ิ
้
๔ ประการ ไดแก ่
้
• ทุกข คอ ความทุกข ์
ื
์
ื
• สมุทัย คอ สาเหตุของทุกข ์
ิ
• นโรธ คอ ความดับทุกข ์
ื
ื
• มรรค คอ ทางดับทุกข ์
่
้
็
ทรงประกาศพระศาสนาและมอบความเปนใหญใหพระสงฆ ์
้
ั
้
้
่
เมอตรสรูแลวพระพุทธเจาทรงพิจารณาธรรมเปนเวลา ๗
็
ื
่
วัน กอนเสด็จไปเผยแผพระพุทธศาสนา โดยแสดงธรรมโปรด
่
ั
ี
ี
่
ั
์
้
ปญจวัคคีย การแสดงธรรมครงน้เรยกวา “ปฐมเทศนา”
ี
ธรรมที่ทรงแสดงเรยกวา “ธมมจักกัปปวัตตนสูตร”
ั
่
ั
ภายหลังการตรสรู ้
้
้
ั
้
็
ั
่
ื
• ภายหลังการตรสรู มีผูเลอมใสศรทธาเขามาขอบวชเปน
จานวนมาก การบวชในระยะแรกพระพุทธเจาจะทรง
้
ั
้
บวชให เรยกวา “เอหภิกขุอุปสมปทา”
ิ
่
ี
ี
้
• ตอมาพระองคมอบหนาที่น้ใหพระสาวก เรยกวา
ี
่
้
์
่
ั
“ติสรณคมนูปสมปทา”
้
ิ
่
็
้
• ตอมาทรงมอบหมายใหคณะสงฆเปนผูด าเนนการ
์
่
ี
ั
เรยกวา “ ญัตติจตุตถกรรมอุปสมปทา”
ปรนพพาน เมอแตละบรษัทก็มีความรู ้
ิ
ิ
ื่
ิ
่
ื
ทรงสถาปนาพุทธ ความสามารถที่จะสบสาน
ื
์
์
้
ิ
บรษัท ๔ ขึ้น ไดแก ่ เจตนารมณของพระองค และสบ
้
ื
ิ
➢ ภกษุ ทอดพระพุทธศาสนาใหยนยาว
ิ
้
์
ตอไปได พระองคจึงตัดสน
่
ิ
➢ ภกษุณี
์
ิ
พระทัยเสด็จดับขันธปรนพพาน
ิ
➢ อุบากสก
ในวันขึ้น ๑๕ ค ่า เดอน ๖
ื
➢ อุบาสกา
ิ
ิ
พระพุทธรูปปางปรนพพาน เมองกุสนารา ประเทศอินเดีย
ิ
ิ
ื
์
บทวิเคราะหพระพุทธประวัติ
พุทธประวัติตอนประสูติ
ิ
ื
้
• พระนางสรมหามายาทรงพระสุบินเหนชางเผอก สามารถตีความ
็
ิ
่
็
ั
ื
้
่
์
ไดวา ชางเผอกเปนสญลักษณของบารมี เปนสญลักษณแหงความ
์
้
ั
็
่
้
่
ยิงใหญ ยอมแปลความหมายไดวา การเสด็จอุบัติขึ้นของ
่
่
ื
่
พระพุทธเจา คอ การเกิดของพระมหาบุรุษทียิงใหญ ่
่
้
้
้
• เจาชายสทธตถะเสด็จพระด าเนน ๗ กาว อาจเปนนมิตหมายใหรู ้
ิ
็
ั
ิ
ิ
้
้
้
วาพระพุทธเจาจะไดทรงประกาศศาสนาใหขยายกวางไปใน ๗
้
้
่
แควน หรอตีความไดวาจะทรงบรรลุโพชฌงค ๗ คอ ธรรมที่เปน
ื
้
็
้
่
์
ื
่
ั
์
องคแหงการตรสรู ้
็
พุทธประวัติตอนทอดพระเนตรเหนพระเทวทูต
็
้
่
• การเหนภาพคนเจ็บ คนแก คนตาย ท าใหพระองคคิด
์
็
่
พิจารณาใครครวญไตรตรองจนเหน
่
ื่
็
่
ี
ิ
ความจรงของชวิต คอ การเกิด แก เจ็บ ตาย เปนเรอง
ื
ธรรมชาติทีทุกคนมิอาจหลีกเลียงได ้
่
่
้
พุทธประวัติตอนทรงแสวงหาความรู และการบ าเพ็ญ
ิ
ทุกกรกิรยา
็
ิ
้
• การบ าเพ็ญทุกกรกิรยานนเปนการทรมานตนเอง
ั
่
้
ท าใหสมองและรางกายไมมีก าลังคิดหรอ
ื
่
ิ
ื
่
่
์
ท าสงใดเพอแสวงหาความจรงแหงการดับทุกขได ้
ิ
่
่
่
ิ
้
่
์
• เมอพระองคทรงคนพบวา ทุกสงตองกระท าอยาง
ื
่
้
็
้
พอเหมาะพอดี จึงจะสาเรจผล สงผลใหพระองค ์
่
คนพบหลักธรรมมัชฌิมาปฏิปทา หรอทางสาย
้
ื
กลาง
๒. ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา
พระมหากัสสปะ
่
ิ
ิ
่
พระมหากัสสปะ มีนามเดิมวา ปปผลิ ทานมีนสยชอบความ
ั
่
ื
่
่
ั
สงบ ชอบปลีกตัวอยูตามปา และถอธุดงคอยางเครงครด
์
่
ื
่
็
่
คุณธรรมทีควรถอเปนแบบอยาง
่
็
•เปนบุตรทีดีของบิดามารดา
็
• เปนผูมีสจจะ
ั
้
• เปนผูมีความกตัญญูกตเวทีอยางยิง
่
่
้
็
ี
ี
่
•มีชวิตเรยบงาย
็
• เปนตัวอยางในทางที่ดีงาม
่
พระอุบาลี
็
ั
้
พระอุบาลี เปนผูทรงอภิญญาและแตกฉานในปฏิสมภิทา ๔ มี
็
ึ
้
ความสนใจในพระวินยเปนพิเศษ ไดศกษาพระวินยจากพระ
ั
ั
ี
พุทธองคจนมีความเชยวชาญ มีความสามารถในการพิจารณา
่
์
้
์
็
อธกรณเปนเอตทัคคะดานพระวินย
ั
ิ
คุณธรรมทีควรถอเปนแบบอยาง
่
่
็
ื
ั
ี
้
็
• เปนผูเชยวชาญพระวินย
่
็
่
• เปนครูทีดี
•ใฝความรูเสมอ
้
่
อนาถบิณฑิกะเศรษฐ ี
้
ี
็
อนาถบิณฑิกเศรษฐ มีนามเดิมวา สุทัตตะ เปนผูใจบุญสุน
่
ทาน โดยไดตังโรงทานใหแกยาจกวณิพกเปนประจ า จงเปน
้
้
้
ึ
็
็
่
่
ิ
ื
ที่มาของชอ อนาถบิณฑกะ (ผูมีกอนขาวเพอคนอนาถา)
้
้
้
ื่
่
็
ื
คุณธรรมทีควรถอเปนแบบอยาง
่
้
็
• เปนผูมันคงในการท าบุญ
่
• เปนทายกตัวอยาง
่
็
็
• เปนพอทีดีของลูก
่
่
้
็
• เปนผูมีความตงใจแนวแน ่
่
ั
้
นางวิสาขา
เมออายุ ๗ ขวบ นางวิสาขาได้ฟงธรรมจาก
ั
ื่
พระพุทธเจ้าและบรรลโสดาบัน กล่าวกันว่า นาง
ุ
วิสาขานั้น มลักษณะงามพรอม ๕ ประการ เรยกว่า
ี
้
ี
ี
“เบญจกัลยาณ” นางวิสาขาเปนสาวิกาทมั่นคงใน
ี
็
่
พระรตนตรยมาก นางได้ขอพรจากพระพุทธเจ้า ๘
ั
ั
ประการ เปนเอตทัคคะ ด้านการถวายทาน
็
็
ื
่
่
คุณธรรมทีควรถอเปนแบบอยาง
มีคารวธรรมอยางยิ่ง
่
้
ั
็
เปนผูมีปญญาและมีกุศโลบายในการ
้
แนะนาคนเขาหาพระธรรม
่
จรงใจตอเพอนและชวยเหลอเพอนเสมอ
ื่
่
ื
ิ
ื่
ั
็
เปนสาวิกาที่มั่นคงในพระรตนตรย
ั
่
ชวยปกปองพระศาสนา
้
่
เปนผูมีวิจารณญาณรอบคอบยิง
็
้
๓. ศาสนกชนตัวอยาง
่
ิ
พระเจาอโศกมหาราช
้
พระเจ้าอโศกมหาราชเปนพระราช
็
ื่
โอรสของพระเจ้าพินทสาร เมอพระราช
ุ
บดาสวรรคต พระเจ้าอโศกได้ส าเรจโทษ
็
ิ
ี
ึ
พระภาดาต่างพระชนนถง ๙๙ พระองค์
็
ิ
ึ
ต่อมาได้ปราบดาภเษกข้นเปนกษัตรย์ ด้วย
ิ
่
ึ
ี
ี
ึ
เหตน้ จงทรงมชอเรยกขานอกอย่างหนงว่า
ุ
ื
่
ี
ี
“จัณฑาโศก” แปลว่า “อโศกผูโหดราย”
้
้
ิ
เสาหนอโศก
์
ื่
่
ื
ั
ั
ตอมาเมอพระองคหนมานบถอ
พระพุทธศาสนาแลว ทรงประกอบกรรมอัน
้
็
็
เปนกุศลเปนอันมาก ทรงท านุบ ารุง
้
่
พระพุทธศาสนาเปนการใหญจนไดพระนาม
็
่
้
่
่
ใหมวา “ธรรมโศก” แปลวา “อโศกผูทรง
ธรรม”
็
ั
ั
เปนผู้มั่นคงในพระรตนตรยและ ทรงมความรบผิดชอบอย่างยิ่ง
ี
ั
ี่
็
เปนอุบาสกทด ี
่
ื
่
็
คุณธรรมทีควรถอเปนแบบอยาง
ของพระเจาอโศกมหาราช
้
ี
ทรงมน ้าพระทัยกว้างขวางให้ ทรงเปนมหาราชในอุดมคต ิ
็
เสรภาพในการนับถอศาสนา
ื
ี
พระโสณะและพระอุตตระ
ั
พระโสณะและพระอุตตระเปนชาวชมพูทวีป มีชวิตอยูในรช
ี
่
็
้
ิ
้
สมัยของพระเจาอโศกมหาราช เปนผูแตกฉานในพระไตรปฎก มี
็
ั
่
ั
้
็
ิ
้
้
่
สวนรวมในการสงคายนาครงที่ ๓ เมอเสรจสนการสงคายนา ไดรบ
ั
ื่
ั
่
่
่
การแตงตังเปนธรรมทูตเผยแผพระพุทธศาสนาในประเทศตางๆ
็
้
่
ื
็
คุณธรรมทีควรถอเปนแบบอยาง
่
็
่
• เปนสาวกทีดีของพระพุทธเจา
้
็
่
• เปนผูมีขันติธรรมสูงยิง
้
• เปนผูมีความสามารถในการถายทอดพระธรรม
่
้
็
๔. ชาดก
อัมพชาดก
ู
ู
ี
้
อัมพชาดกให้ข้อคดว่า ความกตัญญกตเวท รคณคน
ุ
ิ
และตอบแทนพระคณเปนพื้นฐานของคนด ี
ุ
็
ติตติรชาดก
้
ิ
ิ
ื
้
้
่
ตตตรชาดก ใหขอคิดในเรองการเคารพนบนอบผูอาวุโส
่
จะท าใหเกิดความย าเกรง เชอฟงและสามารถอยูรวมกันได ้
่
่
ื
ั
้
่
้
ั
อยางสนตสุข ดังทีพระพุทธเจาไดตรสวา
้
ั
ิ
่
่
“ คนเหลาใดฉลาดในธรรม เคารพนบนอมตอผูเจรญดวย
่
้
้
้
ิ
่
่
้
ั
วัยวุฒิ คนเหลานนยอมไดรบ
ั
่
้
ั
้
ิ
่
ยกยองสรรเสรญในปจจุบัน และมีทางไปทีดี ไดรบความ
่
ั
่
ิ
้
เจรญตอไปในภายภาคหนา”