ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
ั
ุ
ิ
ประวตและความสาคญของพระพทธศาสนา
ั
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
วิภาวรรณ กูนา
สาระการเรียนรู้
สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวัติ ความส าคัญ ศาสดา หลักธรรม
ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น
มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่
ร่วมกันอย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่
ดี และธ ารงรักษาพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ
ี
้
่
หนวยการเรยนรูที ่ ๑
ประวัติและความสาคัญของพระพุทธศาสนา
กรอบเนื้อหา
๑.การท าสังคายนา
๒. การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย
๓. ความส าคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย
๔. พระพุทธศาสนากับการพัฒนาตนเองและครอบครัว
พระพุทธศาสนาได้ก่อก าเนดข้นในประเทศ
ิ
ึ
ี
ี
ิ
อนเดยมากว่า ๒,๕๐๐ ป โดยหลังจากการท า
่
ั
สังคายนาคร้งท ๓ พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ไป
ี
ยังดนแดนต่างๆ รวมถงดนแดนสวรรณภมด้วย
ึ
ิ
ิ
ุ
ิ
ู
ั
นับจากนั้นมาชาวไทยส่วนใหญ่ก็ได้ยอมรบ
นับถอพระพุทธศาสนามาเปนหลักในการ
ื
็
ด าเนนชวิต
ิ
ี
ั
๑. การท าสงคายนา
สงคายนา มาจาค าวา “ส ” หมายถง ร่วมกัน
ึ
ั
่
ึ
พรอมกัน กับค าว่า “คายนา” หมายถง การสวด
้
้
ื
หรอสาธยาย การสวดพรอมกัน รวมทั้งการจัด
ู
หมวดหม่พระธรรมวินัยด้วย
ั
้
้
ั
ดังนน การสงคายนาจึงหมายถึง การรอยกรอง
ึ
หรอการจัดหมวดหมูพระธรรมวินยดวย ซง
่
ั
่
้
ื
้
่
ั
การท าสงคายนา ไดมีการกระท าติดตอกันมา
ั
้
็
หลายครงเปนระยะ ทังในประเทศอินเดียและ
้
ประเทศอนๆ รวมทังสน ๑๐ ครง
ิ
ื่
้
ั
้
้
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๑
ั
้
สาเหตุ
่
ื
่
ื
เนองจากพระภิกษุชอ สุภัททะ ไดกลาว
้
่
์
วาจาดูหมินพระพุทธองค และแสดงความ
่
่
่
ดีใจเมอไดยินขาววาพระพุทธเจา
้
้
ื
่
ปรนพพาน พระมหากัสสปะเกรงวาจะท า
่
ิ
ิ
ี
้
่
ื
ใหพระธรรมวินยเสอมสูญจึงเรยกประชุม
ั
พระสงฆเพอกระท าการสงคายนา
์
ั
ื่
ิ
ิ
เวลาที่กระท า เร่มหลังจากพระพุทธเจ้าปรนพพาน
ิ
ื
ื
็
ได้ ๓ เดอน กระท าอยู่ ๗ เดอน จงส าเรจพระสงฆ์
ึ
็
ผู้กระท า มพระมหากัสสปะเปนประธาน พระอุบาล ี
ี
็
เปนผู้ตอบด้านพระวินัย และพระอานนท์เปนผู้ตอบ
็
ี
พระธรรม และมพระสงฆ์เข้าร่วมการสังคายนา
จ านวน ๕๐๐ ร ูป
้
่
สถานทีและผูอุปถัมภ ์ ถ าสัตตบรรณ
้
ุ
ข้างภเขาเวภาระ ใกล้กรงราชคฤห์ โดยม ี
ู
ุ
็
พระเจ้าอชาตศัตรเปนองค์อปถัมภ์
ิ
ู
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๒
ั
้
่
ี
ุ
ุ
ิ
ี
ุ
สาเหตุ เนองจากกล่มพระภกษทชอว่า พระวัชชบตร
่
ื
ื
่
ิ
ุ
ปฏบัตหย่อนทางวินัย ๑๐ ประการ พระยสกากัณฑบตร
ิ
จงชักชวนพระเถระให้ร่วม
ึ
ิ
วินจฉัยแก้ความผิดคร้งน้ ี
ั
เวลาที่กระท า กระท าใน
พ.ศ. ๑๐๐ และกระท าอยู่
๘ เดอน จงเสรจ
ึ
็
ื
็
ุ
พระสงฆผูกระท า พระยสกากัณฑบตรเปนผู้ชักชวนพระ
้
์
็
เถระทั้งหลายให้กระท าสังคายนา พระเรวตะเปนผู้
็
ี
่
ั
ซักถาม และพระสัพพกามเปนผู้ตอบปญหาเกียวกับพระ
ุ
ี
ธรรมวินัย โดยมพระสงฆ์ร่วมประชมกัน ๗๐๐ ร ูป
ื
ี
สถานทีและผูอุปถัมภวาลการาม เมองเวสาล แคว้นวัชช
ิ
ี
์
่
้
ี
โดยมพระเจ้ากาฬาโศกเปนองค์อปถัมภ์
ุ
็
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๓
ั
้
ี
สาเหตุ มพวกนอกศาสนาปลอมเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา
มาก จนอาจท าให้พระพุทธศาสนามัวหมองได้ พระโมคคัลลี
ิ
บตรตสสเถระจงคดทจะท าการสังคายนา
ี่
ิ
ุ
ึ
เวลาที่กระท า กระท าใน พ.ศ. ๒๓๔ (บางแห่งว่า พ.ศ. ๒๓๕)
และกระท าอยู่ ๙ เดอน จงเสรจ
็
ื
ึ
ุ
ี
พระสงฆผูกระท า พระโมคคัลลบตรตสสเถระ
ิ
์
้
ี
เปนประธาน และมพระสงฆ์เข้าร่วมประชม
ุ
็
ู
๑,๐๐๐ รปสถานทีและผูอุปถัมภ อโศการาม
้
์
่
ี
ุ
็
กรงปาฏลบตร โดยมพระเจ้าอโศกมหาราชเปน
ุ
ี
องค์อปถัมภ์
ุ
้
การท าสงคายนาครงที่ ๔
ั
ั
สาเหตุ ต้องการวางรากฐานพระพุทธศาสนาใน
ประเทศลังกา
ิ
เวลาที่กระท า เร่มกระท าใน พ.ศ. ๒๓๘ไม่
ปรากฏว่าใช้ระยะเวลาเท่าใด
็
ิ
พระสงฆผูกระท า พระมหนทเถระเปนประธาน
้
์
ิ
็
ี
พระอรฏฐะเปนผู้สวดวินัย และมพระสงฆ์ร่วม
ิ
ประชมทั้งส้น ๖๘,๐๐๐ รป
ู
ุ
ื
ู
ุ
สถานทีและผูอุปถัมภ ถปาราม เมองอนราธประ
ุ
้
่
์
็
ประเทศลังกา พระเจ้าเทวานัมปยะตสสะ เปนองค์
ิ
ิ
ุ
อปถัมภ์
้
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๕
ั
สาเหตุ พระสงฆ์ในลังกาเหนพ้องว่า พระพุทธวจนะท ี่
็
็
ถ่ายทอดมาเปนเวลานานอาจขาดตกบกพร่องได้
์
ประกอบกับสถานการณทางการเมองตอนนั้นอยู่ในความ
ื
็
ิ
ี
ึ
ไม่สงบ จงมการจดบันทกพระไตรปฎกเปนลายลักษณ ์
ึ
อักษร
ิ
เวลาที่กระท า เร่มกระท าใน พ.ศ. ๒๓๓ (บางแห่งว่าพ.ศ.๔๕๐ )
ไม่ปรากฏว่าใช้ระยะเวลาเท่าใดพระสงฆผูกระท า พระสงฆ์ชาว
้
์
ลังกา
สถานทีและผูอุปถัมภ อาโลกเลณสถานมตเลณชนบท
์
่
้
ประเทศลังกา พระเจ้าวัฏฏคามณอภัยเปนองค์อปถัมภ์
ุ
ี
็
้
การท าสงคายนาครงที่ ๖
ั
ั
ิ
ิ
ี
ี
สาเหตุ ในประเทศอนเดยมแต่เพียงพระไตรปฎก
ึ
ย
ี
ไม่มอรรถกถา พระพุทธโฆษาจาร ์ จงท าการแปล
็
ิ
พระอรรถกถาพระไตรปฎกจากภาษาลังกาเปนภาษาบาล ี
ิ
เวลาที่กระท า เร่มกระท าใน พ.ศ. ๙๕๖ ไม่ปรากฏว่าใช้
ระยะเวลาเท่าใด
ย
พระสงฆผูกระท าพระพุทธโฆษาจาร ์ และพระ
์
้
เถระแห่งวัดมหาวิหารจ านวนหนง
ึ
่
สถานทีและผูอุปถัมภวัดมหาวิหาร ประเทศศร ี
่
์
้
ุ
ลังกา โดยมพระเจ้ามหานามเปนองค์อปถัมภ์
ี
็
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๗
ั
้
สาเหตุ ในลังกายังขาดคัมภรฎกา พระเถระทั้งหลาย
ี
์
ี
จงประชมกันเพือรจนาคัมภรข้น
ี
ุ
ึ
ึ
่
์
เวลาที่กระท า เร่มกระท าใน พ.ศ. ๑๕๘๗ ไม่ปรากฏ
ิ
ว่าใช้ระยะเวลาเท่าใด
็
พระสงฆผูกระท า พระกัสสปะเถระเปนประธานสงฆ์
์
้
ี
ร่วมกับพระสงฆ์อก จ านวน ๑,๐๐๐ รป
ู
ี
่
สถานทีและผูอุปถัมภ ์ ประเทศศรลังกา โดยม ี
้
ุ
พระเจ้าปรากรมพาหมหาราชเปนองค์อปถัมภ์
็
ุ
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๘
้
ั
สาเหตุ พระไตรปฎกยังขาดตกบกพร่อง ผิดเพี้ยน และไม่
ิ
ครบ พระเถระผู้ทรงพระไตรปฎกหลายรอยรป จง
ิ
้
ึ
ู
ู
์
ึ
ร่วมกันช าระพระไตรปฎกให้สมบรณยิ่งข้น
ิ
เวลาที่กระท า เร่มกระท าใน พ.ศ. ๒๐๒๐ ใช้เวลากระท า
ิ
ึ
ี
๑ ป จงแล้วเสรจ
็
็
ิ
พระสงฆผูกระท า พระธรรมทนนเถระเปนประธาน
์
้
ู
้
สงฆ์ ท าร่วมกับพระเถระหลายรอยรป
ี
สถานทีและผูอุปถัมภวัดโพธาราม จังหวัดเชยงใหม่
์
่
้
ั
็
ประเทศไทย (เปนการสังคายนาคร้งแรกในประเทศ
ุ
ไทย) โดยมพระเจ้าตโลกราชเปนองค์อปถัมภ์
็
ิ
ี
้
ั
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๙
ู
สาเหตุ พระผู้ใหญ่ถกถอดถอนและจับศก เพราะประพฤต ิ
ึ
หย่อนในธรรมวินัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจฬา
้
ุ
ี
ึ
โลกมหาราช จงทรงมพระราชประสงค์ให้ช าระล้าง
ิ
พระไตรปฎกข้น
ึ
เวลาที่กระท า เร่มกระท าใน พ.ศ. ๒๓๓๑ ใช้เวลากระท า
ิ
๕ เดอน จงแล้วเสรจ
ึ
็
ื
ู
ิ
พระสงฆผูกระท า พระเถระ ๒๑๘ รป และบัณฑต
์
้
ี
คฤหัสถ์ อก ๓๒ คน
ั
สถานทีและผูอุปถัมภวัดมหาธาตยุวราชรงสฤษฎ์ ิ
ุ
์
้
่
ี
โดยมพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา
้
จฬาโลกมหาราชเปนองค์อปถัมภ์
ุ
ุ
็
ั
การท าสงคายนาครงที่ ๑๐
ั
้
ิ
สาเหตุ เพื่อช าระพระไตรปฎก แล้วจัดพิมพ์ในวโรกาสท ี่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรชกาลปจจบัน ทรงเจรญ
ั
ิ
ุ
ั
พระชนมายุครบ ๖๐ พรรษาใน พ.ศ. ๒๕๓๐
เวลาที่กระท า เร่มกระท าใน พ.ศ. ๒๓๒๘ ไม่ปรากฏ
ิ
ระยะเวลาทกระท า
ี่
็
พระสงฆผูกระท า สมเด็จพระสังฆราชเปนองค์
์
้
ุ
่
ประมข ร่วมกับพระสงฆ์ทั้งฝายมหานกาย และ
ิ
ธรรมยุตกนกาย
ิ
ิ
สถานทีและผูอุปถัมภวัดมหาธาตยุวราชรงสฤษฎ์ ิ
ั
ุ
์
่
้
ี
โดยมรฐบาลเปนผู้อปถัมภ์
็
ุ
ั
้
๒. การเผยแผพระพุทธศาสนาเขาสูประเทศไทย
่
่
ั
ื
ั
้
การนบถอพระพุทธศาสนาในประเทศไทยนน
็
้
สามารถแบงออกไดเปน 4 ยุค ดังน้ ี
่
ยุคเถรวาทสมัยพระเจาอโศกมหาราช
้
ยุคมหายาน
ยุคเถรวาทแบบพุกาม
ยุคเถรวาทแบบลังกาวงศ ์
้
ยุคเถรวาทสมัยพระเจาอโศกมหาราช
้
ในสมัยของพระเจาอโศกมหาราช พระพุทธศาสนา
ื
ั
่
่
ไดรบการท านุบารุงจนมีความรุงเรองอยางมาก พระราช
้
กรณียกิจที่สาคัญของพระองค คอ ทรงจัดใหมีการท า
้
์
ื
สงคายนา ครงที่ ๓ และไดสงคณะสมณทูตเดินทางไปเผย
่
ั
ั
้
้
่
แผพระพุทธศาสนายังดินแดนตางๆ
่
็
รวมถึงดินแดนอันเปนที่ตังของ
้
ประเทศไทยในปจจุบนดวย
ั
้
ั
ยุคมหายาน
ื
ั
ประมาณ พ.ศ. ๑๓๐๐ อาณาจักรศรวิชยเรองอ านาจ
ี
ื
่
ิ
มากมีอิทธพลครอบคลุมพ้นทีทางคาบสมุทร
ิ
ื
ตอนใต ทังน้กษัตรยศรวิชยนบถอ
ั
ั
ี
์
้
้
ี
พระพุทธศาสนานกายมหายาน จึงท าให ้
ิ
ื
่
่
้
พ้นทีภาคใตของไทยทีอยูในอาณาจักร
่
ิ
์
ของพระองค ตางนบถอนกายมหายาน
่
ื
ั
ตามไปดวย
้
ิ
ตอมาประมาณ พ.ศ. ๑๕๕๐ กษัตรยกัมพูชาผูทรง
์
่
้
ิ
้
ื
ั
นบถอพระพุทธศาสนานกายมหายานเรองอ านาจ ไดแผ ่
ื
ิ
ี
้
้
ขยายอิทธพลมายังดินแดนละโว (ลพบุร) จึงท าใหเกิดการ
ี
ื
ั
ิ
ิ
นบถอพระพุทธศาสนานกายมหายานในบรเวณน้ขึ้น
ยุคเถรวาทแบบพุกาม
้
ประมาณ พ.ศ. ๑๖๐๐ พระเจาอนุรุทธมหาราช
่
์
พระมหากษัตรยแหงพุกาม
ิ
้
่
้
ไดแผขยายอ านาจเขาครอบครอง
อาณาจักรทางตอนเหนอของ
ื
ประเทศไทย จึงท าให ้
พระพุทธศาสนาแบบเถรวาท
่
เฟองฟูในพ้นทีแถบน้ ี
ื
่
ื
โดยเรยกวา “นกายเถรวาทแบบพุกาม”
ิ
่
ี
่
ิ
ี
หลักฐานสาคัญที่พบในบรเวณน้ เชน
์
เจดียวัดเจ็ดยอด จังหวัดเชยงใหม ที่
ี
่
์
สรางเลียนแบบเจดียพุทธคยาในอินเดีย
้
เปนตน
็
้
ยุคเถรวาทแบบลังกาวงศ ์
้
ใน พ.ศ. ๑๖๙๖ พระเจาปรากรมพาหุมหาราช กษัตรย ์
ิ
้
ลังกา ไดทรงท านุบารุงพระพุทธศาสนา โดยรวม
ิ
็
้
ั
์
พระสงฆเปนนกายเดียว และโปรดใหมีการสงคายนาพระ
ธรรมวินยครงที่ ๗ ขึ้น ท าใหพระพุทธศาสนา
้
ั
้
ั
ึ
ั
เจรญรุงเรองมากทังดานการศกษาและปฏิบติ
้
ื
่
ิ
้
ั
สาหรบประเทศไทย ไดนบถอพระพุทธศาสนา
ื
ั
้
็
์
แบบลังกาวงศเปนศาสนาประจ าชาติจนถึงปจจุบน
ั
ั
็
่
่
แบงเปนสมัยตางๆ ดังน้ ี
ุ
๑. สมัยสโขทัย
๒. สมัยล้านนา
๓. สมัยอยุธยา
๔. สมัยธนบร ี
ุ
ั
๕. สมัยรตนโกสนทร ์
ิ
่
ั
๓. ความสาคัญของพระพุทธศาสนาตอสงคมไทย
็
ั
พระพุทธศาสนาเปนศาสนาหลักของสงคมไทย
่
ั
์
หลักธรรมของพระพุทธศาสนามี ความสมพันธตอการ
ิ
ี
ด าเนนชวิตของคนไทยมาโดยตลอด
ั
่
ความสาคัญของพระพุทธศาสนาตอสงคมไทยสามารถ
่
้
แบงไดเปน ๓ ดาน ดังน้ ี
้
็
• ในฐานะที่เปนศาสนาประจ าชาติ
็
ั
• เปนสถาบันหลักของสงคมไทย
็
่
้
• เปนสภาพแวดลอมทีกวางขวางครอบคลุม
็
้
สงคมไทย
ั
็
พระพุทธศาสนาเปนศาสนาประจาชาติไทย
ั
ื
ั
เหตุผลของการยอมรบนบถอพระพุทธศาสนามาเปน
็
ศาสนาประจ าชาติ มีดังน้ ี
ั
๑. คนไทยส่วนใหญ่ให้การยอมรบนับถอ
ื
ี
๒. มสญลักษณแทนพระพุทธศาสนาในสถานทีราชการ
ั
่
์
ั
๓. พระมหากษตรยทรงเปนพุทธมามกะและอัครศาสนูปถมภก
ั
ิ
็
์
๔. ก าหนดใหวันสาคัญทางพระพุทธศาสนาเปนวันหยุดราชการ
้
็
ั
ั
็
พระพุทธศาสนาเปนสถาบนหลักของสงคมไทย
ั
ุ
เหตผลของการยอมรบนับถอพระพุทธศาสนามาเปน
ื
็
ิ
ี
ศาสนาประจ าชาต มดังน้ ี
็
๑. พระพุทธศาสนาเปนสถาบันค่ชาตไทย
ู
ิ
๒. พระมหากษัตรย์ไทยทรงเปนพุทธมามกะ
็
ิ
ู
๓. พระมหากษัตรย์ไทยทรงอัครศาสนปถัมภก
ิ
ั
๔. รฐบาลไทยส่งเสรมสนับสนนพระพุทธศาสนา
ุ
ิ
้
พระพุทธศาสนาเปนสภาพแวดลอมทีกวางขวางและ
้
่
็
ครอบคลุมสงคมไทย
ั
็
้
เหตุผลของการทีพระพุทธศาสนาเปนสภาพแวดลอมทีกวางขวางและ
่
่
้
ั
ครอบคลุมสงคมไทย มีดังน้ ี
ี
๑. มวัดและส านักสงฆ์มากมายทั่วประเทศ
๒. มปชนยสถานและปูชนยวัตถมากมาย
ี
ุ
ู
ี
ี
่
๓. มประเพณและพธกรรมต่างๆ ของไทย ทเกียวข้องกับพระพุทธศาสนา
ี
ี
ี
ิ
่
ี
ั
ิ
๔. ลักษณะนสยและมารยาทของคนไทยมีรากฐานจากพระพุทธศาสนา
๕. ภาษาและวรรณคดีไทยมีอิทธพลมาจากพระพุทธศาสนา
ิ
ั
๖. การนบศกราชของไทยใชหลักการนบแบบพุทธศกราช
้
ั
ั
ั
ั
๔. พระพุทธศาสนากับการพัฒนาตนเองและครอบครว
พระพุทธศาสนากับการพัฒนาตน
้
้
ื
ั
็
การพัฒนาตนนน มองได ๒ ทาง คอ พัฒนาตนใหเปนคน
้
่
ดี กับการพัฒนาตนใหเปนคนเกง มีความสามารถ ซงการ
็
ึ่
้
ี
้
พัฒนาตนทัง ๒ ทางน้ สามารถ นาหลักธรรมทาง
พระพุทธศาสนามาใช ซง สามารถสรุปได ดังน้ ี
้
ึ
่
้
็
การพัฒนาตนเปนคนดี
้
้
หลักธรรมที่สามารถนามาใช ไดแก ่
เบญจศล
ี
่
้
• เวนจากการฆา
ื
• เวนจากการถอเอาสงของที่เขามิไดให ้
้
้
ิ่
้
• เวนจากการประพฤติผิดในกาม
้
• เวนจากการพูดเท็จ
• เวนจากการดมน้าเมา
ื่
้
เบญจธรรม
้
่
• เวนจากการฆา
ื
้
• เวนจากการถอเอาสงของที่เขามิไดให ้
้
ิ่
้
• เวนจากการประพฤติผิดในกาม
• เวนจากการพูดเท็จ
้
้
ื่
• เวนจากการดมน้าเมา
็
การพัฒนาตนใหเปนคนเกงมีความสามารถ
้
่
หลักธรรมที่สามารถนามาใช ไดแก ่
้
้
อิทธบาท ๔
ิ
ิ่
ั
ื
ั
้
• ฉนทะ คอ ความมีใจรกในสงที่ก าลังตังใจท า
้
• วิรยะ คอ ความพยายามเขมแข็ง อดทนที่จะท า
ื
ิ
ื
่
้
่
• จิตตะ คอ ความตังใจแนวแนที่จะท า
• วิมังสา คอ การวางแผน ไตรตรองตามเหตุผล
ื
่
พละ ๕
ั
ื่
ื
ิ่
• สทธา คอ ความเชอมั่นในสงที่ตนก าลังท า
ิ
ื
• วิรยะ คอ ความเพียร
ื
• สติ คอ ความระลึกไดไมประมาท
่
้
้
ิ
• สมาธ คอ มีจิตใจตังมั่น
ื
ื
่
่
• ปญญา คอ มีความรูชดเจนเกียวกับเรองที่ท า
้
ื
ั
ั
ั
พระพุทธศาสนากับการพัฒนาครอบครว
่
่
ิ
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทีสงเสรมใหมนุษย ์
้
่
่
ั
พัฒนาครอบครวมีอยูมากมาย ซงหลักธรรมทีนาสนใจ มีดังน้ ี
่
่
ึ
กุลจิรฏฐติธรรม ๔ ประการ
ั
ิ
เปนหลักธรรมเพอพัฒนาให ้
็
ื่
สกุลยังยน มี ๔ ประการ ดังน้ ี
่
ื
้
้
๑. ของหมดใหรูจักหามาไว ้
้
่
๒. ของเการูจักบูรณะซอมแซม
่
้
๓. รูจักประมาณการกินการใช ้
่
ื
่
้
้
๔. ตังผูมีศลธรรมเปนพอบานแมเรอน
้
็
ี