หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ
ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
วิภาวรรณ กูนา
๕ หนาทีชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ
้
ี
หนวยการเรยนรูที ่
่
้
่
พระพุทธศาสนาไดเขามาผสมกลมกลนกับวิถี
้
้
ื
่
่
็
ื
่
ชวิตความเปนอยูของคนไทย หรออาจกลาวไดวา
้
ี
ิ
ั
การประพฤติปฏิบติตนของพุทธศาสนกชนยอม
่
สงผลกระทบตอพระพุทธศาสนา
่
่
้
่
่
้
ั
ิ
่
ดังนน พุทธศาสนกชนทีดีจงมีหนาทีทีจะท านุบารุง
ึ
พระพุทธศาสนาใหเจรญมันคงสบไป
่
ื
้
ิ
่
้
๑. หนาทีชาวพุทธ
ิ
่
๑.๑ การเขาใจบทบาทของพระภกษุในการเผยแผพระพุทธศาสนา
้
ี่
ิ
หน้าทส าคัญของพระภกษุ คอ
ื
ึ
• ศกษาพระธรรมค าสอนของ
พระพุทธองค์ให้เข้าใจอย่าง
ถ่องแท้
• น าหลักธรรมมาเผยแผ่แก่มวล
ุ
มนษย์
บทบาทของพระภกษุสงฆ ์
ิ
การแสดงธรรม ปาฐกถาธรรม
ื
• การแสดงพระธรรมเทศนา หรอ
์
่
็
การเทศนเปนรูปแบบทีท ากันมา
ี
ั
่
ี
แตโบราณ มีระเบยบวิธปฏิบติ
่
เปนแบบอยางโดยเฉพาะ
็
็
• การแสดงปาฐกถาธรรม เปนการ
แสดงธรรมโดยใชภาษาธรรมดา
้
่
ื่
ที่สอความหมายไดงาย ตัด
้
้
ี
รูปแบบพิธกรรมอยางทีใชในการ
่
่
เทศนออก
์
้
็
่
การประพฤติตนใหเปนแบบอยาง
้
้
้
้
ั
้
่
้
• ผูทีจะเผยแผพระพุทธศาสนาไดนน ตองรูเขาใจหลักธรรมถูกตอง
้
่
ั
และปฏิบติตามหลักธรรมนนดวย
้
้
ั
ื
่
่
เรองนารู ้
อุปปถกิรยา
ิ
ื
ี
ิ
อุปปถกิรยา คอ การกระท านอกรตนอกรอยของพระภิกษุสามเณร มี ๓
ประการ ดังน้ ี
ื
ื
่
่
่
่
• อนาจาร คอ การประพฤติที่ไมดี ไมงาม ไมเหมาะสม มี ๓ อยาง คอ
่
• การเลนเหมอนเด็ก
ื
้
• การรอยดอกไม ้
• การเรยนดิรจฉานวิชา
ั
ี
• บาปสมาจาร คอ ความประพฤติเหลวไหล เลวทราม
ื
• อเนสนา คอ การหาเลี้ยงชพในทางที่ไมเหมาะสมกับความเปนภกษุ
็
ิ
ี
ื
่
ั
ผิดสมณวิสย
๑.๒ การฝกบทบาทของตนในการชวยเผยแผพระพุทธศาสนา
่
ึ
่
่
ื่
้
้
การบรรยายธรรม ในการบรรยายเพอเผยแผพระศาสนานน มีขอควรค านง
ึ
ั
ดังน้ ี
่
ื
้
ื
่
่
่
่
• อยาดูหมินศาสนาอน ไมวาโดยตรงหรอโดยออม
• ตองดูกาลเทศะทีเหมาะสม ไมอธบายหรอบรรยายพราเพอ
่
้
ื
่
่
่
ิ
ื
• ในการบรรยายเมอเปรยบเทียบกับศาสนาอน ควรแยกใหออกวาอะไรคอ
ื่
ื่
ี
่
ื
้
ี
ิ
็
ขอเท็จจรง อะไรเปนความเหน ผูรูนอยควรหลีกเลียงการเปรยบเทียบ
้
็
้
่
้
้
ิ
ื
่
้
็
่
• การจัดนทรรศการ มีการใชรูปภาพเปนสอประกอบเพิมเติมจากการ
ใชค าพูดหรอเสยงเปนสอ สามารถดึงดูดคนไดมาก เพราะใชเวลา
ี
่
ื
็
้
้
ื
้
้
่
้
ั
นอยแตรบรูเนอหาไดมาก แตการที่จะใหคนเขาใจหลักธรรมที่
้
่
้
้
้
ื
็
ั
คอนขางยากและลึกซ้ง โดยการจัดนทรรศการนนเปนไปไดยาก
้
ิ
ึ
้
้
่
ิ
ิ
๑.๓ การเปนลูกทดีตามหลักทศ ๖ (ทศเบองหนา)
่
ี
็
้
ื
้
่
• ทิศในทางพระพุทธศาสนาเปนนยเปรยบเทียบถึงบุคคลประเภทตางๆ ที่
็
ั
ี
ั
้
์
ั
สมพันธเกี่ยวของในสงคม
์
้
็
ั
ื
่
่
ื
• ทิศ ๖ ถอเปนหลักธรรมที่กอใหเกิดความสมานฉนท การเก้อกูลระหวาง
บุคคลตางๆ
่
ิ
่
ั
ื
• ทิศเบองหนา (ปุรตถิมทิศ หรอทิศตะวันออก) ไดแก บดามารดา
้
้
ื
้
ื
็
่
ตารางแสดงการปฏิบติตนเพอเปนลูกทีดีตามหลักทิศ ๖
ั
่
่
ั
ิ
ิ
ิ
ั
่
บดามารดาปฏิบติตอบุตรธดา บุตรธดาปฏิบติตอบดามารดา
ิ
ี
• ห้ามปรามมให้ท าชั่ว • เล้ยงดท่าน
ู
ิ
ุ
• อบรมให้ตั้งอยู่ในความด ี • ช่วยท าธระของท่าน
ี
• ให้การศกษาเล่าเรยน • ด ารงวงศ์สกุล
ึ
• หาค่ครองทเหมาะสมให้ • ประพฤตตนให้เหมาะสมกับความเปน
ี
ิ
็
่
ู
ทายาท
ิ
ุ
ุ
ื่
ั
ึ
ื
• มอบทรพย์สมบัตให้เมอถงโอกาสอันควร • เมอท่านล่วงลับ ท าบญอทศส่วนกุศลให้
ิ
่
ท่าน
๑.๔ การเขาคายคุณธรรม
้
่
ุ
ั
ั
• สภาพสังคมปจจบันเต็มไปด้วยปญหา
่
็
ต่างๆ มากมาย ซงล้วนเกิดจากความเหน
ึ
ุ
แก่ตัว การขาดคณธรรม ส่งผลให้สังคม
เสอมโทรม
ื่
ั
็
ิ
• การปลูกฝงคณธรรม จรยธรรม เปนการ
ุ
ั
ึ
ช่วยแก้ปญหาทางหนง
่
• การหาวิธให้เยาวชนเข้าใจบทบาทของ
ี
ั
ิ
ี
ตนเอง มจตส านกรบผิดชอบต่อตนเอง
ึ
และสังคม
• ให้เยาวชนรจักน าหลักธรรมไปใช้ในการ
ู
้
ี
ด ารงชวิตได้อย่างเหมาะสม
่
ี
๑.๕ การเขารวมพิธกรรมทางพระพุทธศาสนา
้
พิธกรรมทางพระพุทธศาสนา
ี
ิ
ิ
ึ
หมายถง ระเบยบปฏบัตเกียวกับศาสนา หรอ
ี
ื
่
ี
ั
่
ึ
็
ี
ิ
ลัทธประเพณทก าหนดข้นเปนแบบอย่างส าหรบ
ให้พุทธศาสนกชนได้ยึดถอปฏบัต ิ
ื
ิ
ิ
ื่
็
เปนการแสดงออกถงความเชอทาง
ึ
ุ
่
ศาสนา ซงกระท าเพอให้เกิดความอบอ่นทางใจ
่
ึ
ื
ี
ิ
ิ
ิ
็
ท าให้การปฏบัตศาสนกิจเปนส่งส าคัญ มความ
่
ั
ื
ึ
น่าเชอถอ น่าศรทธามากยิ่งข้น
ื
การประกอบ มีใจมั่น หมายถง มใจบรสทธ์ ิ
ิ
ี
ึ
ุ
พธกรรม หรอ
ี
ื
ิ
การเข้าร่วม ถูกตองตามหลักทางพระพุทธศาสนา หมายถง ยึดหลักและระเบยบทาง
ึ
ี
้
ิ
พธกรรมทาง พระพุทธศาสนาเปนส าคัญ
ี
็
พระพุทธศาสนา ประหยัด หมายถง การประหยัดทรพย์ในการจัดพธกรรม
ิ
ั
ึ
ี
ี
ควรมหลักเกณฑ์
ดังน้ ี
ั
์
ุ
์
ึ
ค านึงถึงประโยชน หมายถง พจารณาว่าจะได้รบคณประโยชนอย่างไรบ้าง
ิ
ิ
มีความเหมาะสม หมายถง พธกรรมนั้นไม่ขัดต่อประเพณนยม
ี
ี
ิ
ึ
ิ
ี
การเข้าร่วมพธกรรมทางพระพุทธศาสนาจะต้องกระท าด้วยความตั้งใจ และปฏบัตตน
ิ
ิ
ิ
ื
ิ
ู
ให้ถกต้องตามหลักเกณฑ์ทปฏบัตสบต่อกันมา
่
ี
็
๑.๖ การแสดงตนเปนพุทธมามกะ
พุทธมามกะ หมายถง ผู้ถอพระพุทธเจ้าว่าเปนของเรา หรอ
ึ
ื
็
ื
ื
็
ผู้ประกาศตนว่าเปนผู้นับถอพระพุทธศาสนา
ื
การแสดงตนเปนพุทธมามกะ คอ การแสดงให้ปรากฏว่า
็
ี
ตนยอมรบนับถอพระพุทธศาสนาเปนศาสนาประจ าชวิตของตน
ื
็
ั
• ประวัติความเปนมา
็
ึ
ื่
็
ั
ื
ี
ี
่
ึ
็
ยสกุลบตรเปนเศรษฐผู้มทรพย์มากมาย คนหนงเขาตนข้นมาเหน
ุ
ิ
บรวารของตนหลับด้วยอาการต่างๆ จตจงตั้งมั่นอยู่ในความเบอหน่าย
่
ิ
ึ
ื
ตอนเช้าเขาได้เข้าเฝาพระพุทธเจ้าและขอบรรพชา
้
ั
ี
ี
ตอนเช้าเศรษฐคหบดผู้เปนบดาออกตามหา และได้ฟงธรรมจาก
็
ิ
พระพุทธเจ้าจนได้ดวงตาเหนธรรม และได้กลายเปนเตวาจกอุบาสก
ิ
็
็
คนแรกของโลก พรอมทั้งมารดา และภรยาเก่าของพระยสะเปนอุบาสกา
ิ
้
ิ
็
ู
ค่แรกของโลก
ี
การเตรยมการ
่
๑. ผู้จัดก าหนดวัน เวลา สถานทให้แน่นอน
ี
่
ื
๒. จัดหาคณะกรรมการร่วมมอเพอด าเนนการ
ื
ิ
๓. จัดเครองสักการะ
ื่
ั
ื
๔. นมนต์พระ ๗ หรอ ๙ รป ตามศรทธา
ิ
ู
๕. จัดเตรยมทบชาพระพรอมอาสนสงฆ์เท่าจ านวนพระทนมนต์
ิ
ี่
์
ู
้
ี
ี
่
พิธปฏิบัติ
ี
ื่
๑. เมอพระสงฆ์มาถงแล้ว ให้ผู้ทจะแสดงตนเปนพุทธมามกะ
็
ี่
ึ
ั
ิ
ู
ู
ุ
ี
จดธปเทยนบชาพระ และกราบเบญจางคประดษฐ์ ๓ คร้ง
แล้วน าสวด ดังน้ ี
ฺ
ู
ฺ
ิ
อิมนา สกกาเรน พุทธ ปเชมิ
ิ
อิมนา สกกาเรน ธมม ปเชมิ
ู
ฺ
ฺ
อิมนา สกกาเรน สงฆ ปเชมิ
ฺ
ฺ
ิ
ู
ื่
๒. เข้าถวายเครองสักการะ แล้วกราบด้วยเบญจางค
ิ
ั
ประดษฐ์ ๓ คร้ง
ั
๓. จากนั้นทกคนกล่าวนมัสการพระพุทธเจ้า ๓ คร้ง
ุ
ดังน้ ี
ิ
็
๔. จากนั้นกล่าวค าปฏญาณตนเปนพุทธมามกะ ดังน้ ี
ิ
ฺ
ุ
ฺ
ิ
ิ
(ผู้ชาย) เอเต มย (ผู้หญง) เอตา มย ภนเต สจรปรนิพพุตมป ต
ฺ
ิ
ฺ
ิ
ฺ
ฺ
ฺ
ภควนต สรณ คจฉาม ธมมญจ สงฆญจ พุทธมามกาต โน สงโฆ
ฺ
ฺ
ฺ
ฺ
ธาเรตุ
้
ี
ุ
๕. พระเถระให้โอวาท และทกคนอาราธนาศลพรอมกัน
ดังน้ ี
ั
ุ
๖. ถวายจตปจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์
ื่
๗. เมอพระสวด ...ยถา วารวหา... ตัวแทน
ิ
ิ
กรวดน ้าอทศส่วนกุศล
ุ
ี
ั
๘. เมอพระสวด ...สพพตโย... รบพรจากพระ
ฺ
ื่
ี
ั
ิ
แล้วกราบเบญจางคประดษฐ์ ๓ คร้ง
ิ
ั
๙. รบพุทธมามกบัตรจากพระเถระ เปนอันจบพธ ี
็
๒. มารยาทชาวพุทธ
มารยาท หมายถง ระเบยบปฏบัตทสังคม
ิ
ิ
ึ
ี
ี่
็
ก าหนดไว้เปนแนวทางในการแสดงออกทางกาย และทาง
วาจาในด้านต่างๆ
ั
คนไทยได้รบการยกย่องมานานแล้วว่า เปนผู้ม ี
็
ู
ี
้
มารยาทอ่อนน้อม น่ารก เราจงควรเรยนรมารยาทในสังคม
ั
ึ
เพอจะได้ปฏบัตได้ถูกต้อง
ื่
ิ
ิ
ิ
ั
ั
๒.๑ การตอนรบ (ปฏสนถาร)
้
ี
การต้อนรบ ท าได้หลายวิธ คอ
ั
ื
ิ
ี่
ปฏสันถารด้วยวาจา ปฏสันถารด้วยการให้ทพัก
ิ
ิ
อาศัย และปฏสันถารด้วยการแสดงน ้าใจต่อกัน
๒.๒ มารยาทของผูเปนแขก
็
้
ิ
ิ
๑. ควรหาโอกาสไปเยี่ยมญาตมตรตามสมควร
๒. ก่อนเข้าบ้านควรให้เสยงหรอสัญญาณอนๆ
ี
่
ื
ื
๓. ท าความเคารพเจ้าของบ้านก่อน
ิ
๔. ถ้าไม่ใช่ญาตสนทไม่ควรอยู่นานเกินสมควร
ิ
้
ู
๕.ไม่ควรน าคนทเจ้าของบ้านไม่รจักไปด้วย
่
ี
ู
ุ
ื่
๖. เมอจะกลับควรบอกลา และท าความเคารพตามฐานานรป
ี
ิ
ิ
๒.๓ ระเบยบพิธปฏบตตอพระภกษุ
ิ
ี
่
ั
ื
การยน
• การยืนตามล าพัง ควรยืนในลักษณะสภาพ
ุ
• การยืนต่อหน้าผู้ใหญ่และพระภกษุ ยืนตรง
ิ
ิ
ื
ขาชด ปลายเท้าห่างกันเล็กน้อย มอแนบข้าง
ล าตัว ท่าทางส ารวม
การใหที่นั่ง
้
ี
ึ
• ถ้ามเก้าอ้ให้ลกข้น หลกให้พระสงฆ์นั่งแถวหน้า
ุ
ี
ี
ี
็
• ถ้าจ าเปนต้องนั่งแถวเดยวกัน ให้นั่งทางซ้าย
ี
ี
• สตรถ้าจะนั่งอาสนะยาวเดยวกับพระสงฆ์ต้องม ี
ุ
บรษนั่งคั่นกลาง
ุ
็
ื
์
ึ
• ถ้าต้องนั่งพ้น พงจัดอาสนสงฆ์ให้เปนสัดส่วน
การเดินสวนทาง
ื
ิ
ี
• หลกชดทางซ้ายมอของพระสงฆ์
ื
• ยืนตรงหรอนั่งตามความเหมาะสม
ื
ึ
่
ื
• เมอพระสงฆ์เดนผ่านเฉพาะหน้า พงยกมอไหว้
ิ
ึ
ื
ื
่
• เมอท่านพูดด้วยพงประนมมอพูดกับท่าน
่
ิ
ื
• ถ้าท่านมได้พูดด้วย เมอไหว้แล้วให้ประสาน
มอไว้ข้างหน้า จนกว่าท่านจะผ่านไป
ื
การสนทนา
• ใช้สรรพนามให้เหมาะสม
• ใช้สรรพนามแทนท่านว่า พระคณเจ้า
ุ
หลวงพ่อ ฯลฯ
ั
ั
ั
• เวลารบค า ใช้ค าว่า ครบ ขอรบ ค่ะ เจ้าค่ะ
ึ
ั
• เวลาพระท่านพูด พงตั้งใจฟง เวลาท่านให้พร
ั
ึ
ื
พงประนมมอฟงโดยเคารพ
ิ
ั
การรบส่งของ
ิ
์
ั
่
ิ
• การรบสงของขณะพระภกษุสงฆยนอยู
่
ื
้
้
ื
ใหยนตรง นอมตวลงไหว และยนมอทัง
้
้
ื่
ั
ื
้
้
้
ั
้
สองขางไปรบ พรอมกับนอมตัวเล็กนอย
ิ
ั
่
ิ
์
่
• การรบสงของขณะพระภกษุสงฆนงเกาอี้
้
ั
้
ื่
เดินเขาไปดวยอาการสารวม เมอไดระยะ
้
้
้
่
้
ั
่
ยนตรงและคุกเขาดานซาย ชนเขาขวาขึ้น
ื
นอมตัวลงยกมอไหว แลวยนมอทังสอง
้
ื
้
ื่
้
ื
้
ั
ออกไปรบ
ิ
ั
ั
่
่
์
ิ
• การรบสงของขณะพระภกษุสงฆนงกับ
่
่
้
ั
้
่
ื
ื
พ้นนงคุกเขา แลวเดินเขาหรอคลานเขาเขา
่
่
่
ื
ั
่
ั
ไป เมอไดระยะรบของ ชายนงคุกเขา หญิง
้
์
พับเพียบ กราบเบญจางคประดิษฐ ๓ หน
้
แลวยนมอทังสองไปรบ
ั
ื่
ื
้
ี
่
๒.๔ การแตงกายในพิธตางๆ
่
การแตงกายไปวัด
่
้
• สะอาดเรยบรอย หลีกเลี่ยงการใช ้
ี
ี
้
ั
เสอผาสสนฉูดฉาด
ื
้
• ไมควรแตงกายหรูหราหรอนาสมัย
ื
่
่
เกินไป
ั
่
่
ื่
• ใสเสอผาหลวมๆ ไมรดรูป เพอ
ื
้
้
สะดวกในการกราบพระ
• ไมควรผาหนาผาหลังลึกเกินไป
่
่
้
่
่
• ไมใสเครองประดับมากเกินไป
ื่
่
่
การแตงกายไปงานมงคล
็
• แต่งกายให้เหมาะสมกับงานนั้นๆ เปน
ิ
การให้เกียรตเจ้าภาพ
ิ
• ทั้งน้อาจต้องยึดความนยมของสังคม
ี
ด้วย
่
การแตงกายไปงานอวมงคล
ุ
ิ
ื
ี
• ชาย แต่งชดสากลนยมสเข้ม หรอ
ี
ชดไทยพระราชทานสด าทั้งชด
ุ
ุ
ื
• หญง น่งซ่นหรอกระโปรงตามสมัย
ุ
ิ
ิ
็
ุ
็
นยม ควรเปนสด าทั้งชดถ้าเปนไปได้
ิ
ี
ิ
• ไม่ควรใส่เพชรนลจนดามากเกินเหตุ
ิ
ที่มา:https://www.aksorn.com