The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงานวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม 2 ไม่มีเฉลย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Whan Whan, 2022-09-22 04:20:10

ใบงานวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม 2

ใบงานวิทยาศาสตร์ ม.3 เทอม 2 ไม่มีเฉลย

ใบใบงงาานนววทิ ิทยยาาศศาาสสตตรร์์
ชัน้ชั้นมมธั ยธั ยมมศศกึ กึษษาปาปที ที ี่ ่ี 31

ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551

เ(พฉจบวับทิ ปยราับศปาสรงุตรพ์ .ปศร.ะ2ถ5ม6ม0.)ตน้
เพจวทิ ยาศาสตร์ ประถม ม.ต้น

ใบงานวทิ ยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

เทอม 2

➢ หน่วยท่ี 5 ปฏิกิรยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวนั
บทท่ี 1 ปฏิกริ ิยาเคมี
บทที่ 2 วสั ดุในชวี ิตประจาวนั

➢ หน่วยท่ี 6 ไฟฟา้
บทท่ี 1 วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย
บทท่ี 2 ไฟฟา้ ในชวี ติ ประจาวัน

➢ หนว่ ยที่ 7 ระบบนเิ วศและความหลากหลายทางชวี ภาพ
บทที่ 1 ระบบนิเวศ
บทท่ี 2 ความหลากหลายทางชวี ภาพ

ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

เพจวทิ ยาศาสตร์ ประถม ม.ตน้

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

หน่วยท่ี 5 ช่ือ-สกุล ชนั้ ม.3/ เลขท่ี
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวัน

คาชแ้ี จง ทบทวนความรูก้ ่อนเรยี น เขียนเคร่อื งหมาย  หน้าขอ้ ความทถ่ี กู ตอ้ งตอ่ ไปนี้

ภาพที่กาหนดให้ เขียนเครือ่ งหมาย  หน้าข้อความท่ีถูกตอ้ งต่อไปนี้

❑ การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ
❑ การเปลีย่ นแปลงทางเคมี

การเกิดสนมิ เหล็ก

❑ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ
❑ การเปลย่ี นแปลงทางเคมี

การผสมน้าหวานสแี ดงกบั นา้

❑ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
❑ การเปลีย่ นแปลงทางเคมี

การจดุ ไมข้ ดี ไฟ

❑ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
❑ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี

การหลอมเหลวของนา้ แขง็

3

Science ว23101 ใบงานที่ 1 ปฏิกริ ยิ าเคมี

หนว่ ยที่ 5 ชอ่ื -สกุล ช้ัน ม.3/ เลขท่ี
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวัน

คาชแี้ จง ทบทวนความร้กู อ่ นเรียน เขียนเคร่ืองหมาย  หน้าข้อความทถี่ ูกต้องตอ่ ไปน้ี

ภาพทกี่ าหนดให้ เขียนเครือ่ งหมาย  หนา้ ข้อความทถ่ี กู ตอ้ งต่อไปน้ี

❑ การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ
❑ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี

การผสมน้าอญั ชนั กบั มะนาว

❑ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ
❑ การเปล่ียนแปลงทางเคมี

การตม้ น้า

2. สมการข้อความต่อไปนี้ มีสารใดบ้างเป็นสารตง้ั ต้น สารใดบ้างเปน็ ผลติ ภัณฑ์
2.1 แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ + แคลเซยี มไฮดรอกไซด์ → แคลเซยี มคารบ์ อเนต + น้า
สารตง้ั ตน้ คือ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ แคลเซยี มไฮดรอกไซด์
ผลิตภัณฑ์ คอื แคลเซยี มคารบ์ อเนต น้า
2.2 กรดซัลฟิวริก + แบเรียมไฮดรอกไซด์ → แบเรยี มซลั เฟต + น้า
สารตงั้ ตน้ คือ กรดซลั ฟิวริก แบเรียมไฮดรอกไซด์
ผลติ ภณั ฑ์ คอื แบเรียมซลั เฟต น้า

4

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

หน่วยที่ 5 ชอื่ -สกลุ ช้นั ม.3/ เลขที่
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวนั

2.3 กรดแอซีติก + โซเดียมไฮดรอกไซด์ → โซเดียมแอซีเตต + นา้

สารต้ังตน้ คือ กรดแอซีติก โซเดยี มไฮดรอกไซด์

ผลติ ภัณฑ์ คอื โซเดียมแอซีเตต น้า

2.4 เหลก็ + แก๊สออกซิเจน + นา้ → สนมิ เหลก็
สารตงั้ ต้น คอื เหล็ก แกส๊ ออกซิเจน นา้

ผลิตภัณฑ์ คอื สนมิ เหลก็

2.5 แกส๊ บิวเทน + แกส๊ ออกซิเจน → แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ + นา้
สารตั้งต้น คอื

ผลติ ภัณฑ์ คือ

2.6 โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต + กรดไฮโดรคลอริก → โซเดียมคลอไรด์ + แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ + นา้
สารต้ังต้น คอื

ผลติ ภัณฑ์ คอื

2.7 แคลเซียมคารบ์ อเนต → แคลเซียมออกไซด์ + แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์
สารต้ังตน้ คือ

ผลิตภณั ฑ์ คอื

5

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปฏิกริ ยิ าเคมี

หน่วยที่ 5 ช่ือ-สกุล ชั้น ม.3/ เลขท่ี
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวัน

3. กฎทรงมวล (Law of Conservation of Mass) คอื “มวลรวมของสารกอ่ นทาปฏกิ ิริยาจะ
เท่ากับมวลรวมของสารหลงั ทาปฏกิ ริ ิยา”

4. ใหน้ ักเรยี นนาขอ้ ความต่อไปน้ี เตมิ ลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้องสมบรู ณ์

ระบบเปดิ ระบบปิด

ไม่เปน็ ไปตามกฎทรงมวล เป็นไปตามกฎทรงมวล

4.1 จากการทดลองดงั ภาพ

เกดิ ปฏิกิรยิ าในระบบเปดิ หรือปิด
เป็นไปตามกฎทรงมวลหรอื ไม่

4.2 จากการทดลองดงั ภาพ

เกดิ ปฏิกิรยิ าในระบบเปิดหรอื ปดิ
เป็นไปตามกฎทรงมวลหรอื ไม่

6

Science ว23101 ใบงานที่ 1 ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

หนว่ ยท่ี 5 ชือ่ -สกลุ ชั้น ม.3/ เลขที่
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวัน

5. ปฎิกิรยิ าดดู ความร้อน (Endothermic reaction) คอื ปฏิกิรยิ าท่ีเกิดข้นึ แล้วดูดพลังงาน
ความร้อนจากส่งิ แวดลอ้ มเขา้ ไป ทาใหอ้ ุณหภมู ิสงู ข้ึน แต่ส่ิงแวดล้อมอณุ หภมู ลิ ดลง เมอื่ เอามอื สัมผัส
ภาชนะจะรู้สกึ เย็น

6. ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งปฏกิ ริ ิยาดูดความร้อน มา 3 ตัวอย่าง

7. ปฏกิ ิรยิ าคายความรอ้ น (Exothermic reaction) คอื ปฏกิ ิริยาทเ่ี กดิ ขน้ึ แลว้ ใหพ้ ลังงาน
ความร้อนออกมา ทาใหส้ ่งิ แวดล้อมมีอณุ หภูมสิ ูงขน้ึ แตอ่ ณุ หภมู ิของสารลดลง เมอ่ื เอามอื สมั ผัส
11ภาชนะจะรู้สกึ รอ้ น
8. ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่างปฏิกริ ิยาคายความรอ้ น มา 3 ตวั อย่าง

9. ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาขอ้ ความต่อไปนี้เกี่ยวกบั กฎทรงมวล ใส่เครือ่ งหมาย ✓ และ เครื่องหมาย X
❑1. ในปฏกิ ิรยิ าดดู ความรอ้ นหรือคายความร้อน พลงั งานของสารกอ่ นทาปฏิกิริยา
และหลงั ทาปฏกิ ริ ิยาย่อมเทา่ กันเสมอ
❑2. มวลของสารตั้งต้นแต่ละชนดิ จะเทา่ กับมวลของผลติ ภัณฑ์แตล่ ะชนิดเสมอ
❑3. อะตอมจะไมส่ ญู หายหรือเกิดขนึ้ ใหม่ เมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี ทาใหม้ วลรวม
ของสารก่อนเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเทา่ กับมวลรวมของสารหลังเกดิ ปฏกิ ิริยา

7

Science ว23101 ใบงานท่ี 2 ปฏกิ ริ ยิ าเคมรี อบตวั

หน่วยท่ี 5 ชื่อ-สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขที่
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวัน

10. ใหน้ กั เรยี นเขยี นเครื่องหมาย ✓ หนา้ ขอ้ ความทถ่ี ูกตอ้ ง และเขียนเครือ่ งหมาย X หนา้ ขอ้ ความ
ทีไ่ ม่ถกู ตอ้ ง

❑ 10.1 สารทเ่ี ขา้ ทาปฏกิ ิริยาเคมเี ปน็ สารตั้งต้น ส่วนสารใหม่ทเ่ี กิดขนึ้ จากปฏกิ ิริยาเคมี
เป็นผลิตภณั ฑ์

❑ 10.2 อะตอมของสารตัง้ ต้นจะไมส่ ญู หายไประหวา่ งการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี
แต่อะตอมจะจดั เรยี งตัวเปลี่ยนไปเกิดเปน็ สารใหม่

❑ 10.3 ปฏกิ ริ ิยาเคมที ม่ี กี ารถา่ ยโอนความรอ้ นจากสง่ิ แวดล้อมเข้าสู่ระบบ
จดั เปน็ ปฏกิ ริ ยิ าคายความรอ้ น

11. ใหน้ กั เรียนเติมคาตอบลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้องเกย่ี วกบั การถา่ ยโอนความรอ้ นขณะเกิดปฏิกิริยาเคมี
ระบบ คอื สง่ิ ทีต่ อ้ งการศกึ ษา เช่น สารตั้งตน้ ผลิตภัณฑ์
สิง่ แวดล้อม คือ สว่ นท่ีอยู่นอกระบบ เช่น ภาชนะ เทอร์โมมิเตอร์ อุปกรณอ์ ่ืน ๆ

12. ปฏิกิรยิ าเคมีมี 2 ประเภท คือ เมื่อใช้มือจับจะรู้สกึ .........
1. ปฏกิ ริ ยิ าดดู ความร้อน

สารตั้งตน้ + ความร้อน → .............ลิตภณั ฑ์

2. ปฏิกิริยาคายความร้อน ใช้มือจบั จะร้สู กึ ...........
สารตัง้ ตน้ → ผลติ ภณั ฑ์ +.................
13. จงเตมิ คาตอบลงในช่องว่างตอ่ ไปน้ี ว่าเปน็ ปฏิกิรยิ าแบบดูดความรอ้ นหรือคายความร้อน

8

Science ว23101 ใบงานที่ 2 ปฏกิ ริ ยิ าเคมรี อบตวั

หนว่ ยท่ี 5 ช่อื -สกุล ชน้ั ม.3/ เลขท่ี
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวนั

14. ให้นกั เรียนเตมิ คาตอบลงในชอ่ งว่างต่อไปนใ้ี หถ้ ูกต้อง เกย่ี วกับปฏกิ ริ ิยาเคมปี ระเภทต่าง ๆ

14.1 ปฏกิ ิรยิ าเคมขี องกรดกบั เบส (acid-base reaction)
สมการข้อความแสดงปฏกิ ิริยาอย่างง่ายคือ

ตวั อยา่ งสมการเคมี

กรดซลั ฟิวรกิ + แบเรียมไฮดรอกไซด์ → แบเรียมซลั เฟต + น้า
กรด เบส เกลือ(ตะกอน)

กรดแอซีติก + โซเดียมไฮดรอกไซด์ → โซเดียมแอซีเตต + นา้
กรด เบส เกลอื (ตะกอน)

14.2 ปฏกิ ิรยิ าเคมขี องกรดกบั โลหะ
สมการขอ้ ความแสดงปฏิกิริยาอย่างงา่ ยคือ

ตวั อย่างสมการเคมี
กรดไฮโดรคลอรกิ + สังกะสี → ซงิ คลอไรด์ + แก๊สไฮโดรเจน

กรด โลหะ เกลือของสังกะสี

14.3 ปฏิกิรยิ าเคมขี องเบสกบั โลหะ
สมการขอ้ ความแสดงปฏกิ ริ ยิ าอย่างงา่ ยคอื

ตัวอย่างสมการเคมี
โซเดยี มไฮดรอกไซด์ + สงั กะสี → โซเดียมซนิ เกต + แก๊สไฮโดรเจน

เบส โลหะ เกลอื ของสังกะสี

9

Science ว23101 ใบงานที่ 2 ปฏกิ ริ ยิ าเคมรี อบตัว

หนว่ ยที่ 5 ช่อื -สกลุ ชั้น ม.3/ เลขที่
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวนั

14. ให้นักเรียนเติมคาตอบลงในช่องวา่ งต่อไปนีใ้ หถ้ กู ตอ้ ง เกีย่ วกบั ปฏิกิรยิ าเคมีประเภทต่าง ๆ

14.4 การเกดิ สนมิ เหลก็ (Rusting)
สมการขอ้ ความแสดงปฏิกริ ยิ าอย่างง่ายคอื

วิธีปอ้ งกันการเกิดสนมิ เหล็ก

1. ทาสบี นผิวของวัสดุ
2. การเคลอื บผิววัสดุดว้ ยน้ามัน

14.5 การเผาไหม้ (Combustion)
สมการขอ้ ความแสดงปฏกิ ิริยาอย่างงา่ ยคือ

การเผาไหม้ แบง่ ออกเปน็ 2 กรณี คอื
1. แกส๊ ออกซเิ จนไม่เพียงพอ สง่ ผลให้ เกดิ การเผาไหมไ้ ม่สมบูรณ์

(เกิดเขมา่ , ควันดา)
2. แกส๊ ออกซเิ จนมากเกินพอ สง่ ผลให้ เกิดการเผาไหมส้ มบรู ณ์

(ไม่เกิดเขม่า, ไมเ่ กดิ ควันดา)

14.6 การเกดิ ฝนกรด (Acid Rain Formation)
สมการขอ้ ความแสดงปฏิกริ ยิ าอย่างง่ายคอื

แกส๊ ไนโตรเจนไดออกไซด์ + นา้ → กรดไนตรกิ + แก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์
แก๊สซลั เฟอรไ์ ตรออกไซด์ + น้า → กรดซลั ฟวิ รกิ

ตัวอย่างผลกระทบท่ีเกิดจากฝนกรด
1. เกดิ การระคายเคอื งตอ่ ผิวหนัง
2. ทาให้พชื ตาย
3. ความเปน็ กรดของแหล่งนา้ เพิ่มข้นึ

10

Science ว23101 ใบงานที่ 2 ปฏกิ ริ ยิ าเคมรี อบตวั

หนว่ ยที่ 5 ชอื่ -สกุล ชัน้ ม.3/ เลขที่
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวนั

14. ให้นกั เรยี นเตมิ คาตอบลงในช่องว่างตอ่ ไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง เก่ียวกับปฏกิ ิรยิ าเคมปี ระเภทต่าง ๆ

14.7 การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง (Photosynthesis)
สมการขอ้ ความแสดงปฏิกิริยาอยา่ งงา่ ยคอื

ประโยชนข์ องการสังเคราะหด์ ้วยแสง

1. ไดแ้ กส๊ ออกซเิ จนซึง่ จาเป็นต่อการดารงชวี ติ ของพืชและสัตว์
2. ลดปริมาณของแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึง่ เปน็ สาเหตหุ นึ่งของภาวะโลกร้อน

15. จากภาพดา้ นบน (การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช) นักเรียนคดิ ว่า พชื มคี วามสาคัญตอ่ มนษุ ย์
และต่อโลกอย่างไร

ใหน้ ักเรยี นตอบตามความคดิ ของตนเอง เพ่อื ดมู มุ มองของนกั เรยี นวา่ เปน็ อย่างไรบา้ ง

11

Science ว23101 ข้อสอบประจาบท เรื่องปฏกิ ริ ยิ าเคมี

หนว่ ยที่ 5 ช่ือ-สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขที่
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวัน

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลอื กคาตอบต่อไปน้ี ข้อใดถูกตอ้ งที่สดุ คะแนน............/20
1. ปฏกิ ริ ยิ าเคมีที่มีการถา่ ยเทพลังงานให้กบั สิ่งแวดล้อมเรยี กว่าอะไร

1. ปฏกิ ิริยาดดู ความร้อน 2. ปฏิกริ ยิ าคายความรอ้ น

3. ปฏกิ ิริยาออกซเิ ดชั่น 4. ปฏิกริ ิยาการเผาไหม้

2. เมอื่ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าการสะเทนิ ระหว่างกรดกบั เบส จะเกิดสารในขอ้ ใด

1. เกลอื กับแกส๊ 2. แก๊ส

3. เบสกบั นา้ 4. เกลอื กบั นา้

3. ขอ้ ใดเป็นการเปลย่ี นแปลงในระบบปดิ 2. ใช้นา้ กรดราดบนหนิ ปูน
1. น้าตาลทรายละลายในน้า 4. จุดเทียนไข
3. เผากระดาษ

4. การเกดิ หินงอกหนิ ยอ้ ยเกดิ จากสารใดทาปฏิกิรยิ ากนั

1. กรดกบั เบส 2. กรดกับโลหะ

3. กรดกบั หินปูน 4. กรดกบั ออกซเิ จน

5. ข้อใดไม่ใชป่ ฏิกริ ิยาเคมี 2. เติมนา้ ตาลลงในกาแฟร้อน
1. จุดธปู ไหว้พระ 4. อาหารบดู เนอื่ งจากอากาศรอ้ น
3. บม่ มะมว่ งให้สกุ

6. ข้อใดเปน็ การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ 2. การตม้ นา้ ให้เดือด
1. การเผากระดาษ 4. การย่อยอาหาร
3. การหมักผลไม้

7. การเปล่ยี นแปลงใดเปน็ การเปล่ยี นแปลงในระบบเปิด

1. น้าโซดาในขวดทป่ี ิดฝา 2. นา้ แขง็ ท่เี ก็บไว้ในกระติกน้าแข็ง

3. น้าร้อนทตี่ ้มจนเดือด 4. สารละลายน้าตาลอมิ่ ตัว

8. ข้อความเก่ียวกับปฏิกิรยิ าคายความร้อน ข้อใดถูกตอ้ ง
1. ทาใหส้ ง่ิ แวดล้อมมีอุณหภมู ิลดลง 2. ตอ้ งใช้ตัวเร่งปฏิกริ ิยา
3. ตอนเร่ิมปฏิกริ ยิ าต้องให้พลังงานเขา้ ไป 4. สารตั้งตน้ มีพลังงานมากกว่าสารผลติ ภัณฑ์

12

Science ว23101 ขอ้ สอบประจาบท เรื่องปฏกิ ริ ยิ าเคมี

หนว่ ยท่ี 5 ชื่อ-สกุล ชัน้ ม.3/ เลขท่ี
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวนั

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลอื กคาตอบตอ่ ไปนี้ ข้อใดถูกต้องท่สี ุด คะแนน............/20
9. HCl(ag) + NaOH(aq) → NaCl(aq) + H2O(l)
จากสมการขา้ งตน้ สารตงั้ ตน้ ของปฏกิ ิริยาน้ไี ด้แก่สารใด

1. HCl 2. NaOH

3. HCl + NaOH 4. NaCl + H2O

10. โลหะ + Y → สาร A + แก๊สไฮโดรเจน
จากสมการสาร Y ควรเปน็ สารใด

1. กรด 2. นา้

3. อโลหะ 4. แก๊สออกซเิ จน

11. HCl(ag) + NaOH(aq) → NaCl(aq) + H2O(l)
NaCl หรือโซเดียมคลอไรด์ท่ีเกิดขึน้ มีสถานะตามขอ้ ใด

1. แก๊ส 2. ของแขง็

3. ของเหลว 4. สารละลาย

12. ผลติ ภัณฑ์ที่เกดิ จากการเผาไหมท้ ่ไี มส่ มบูรณท์ ่ีก่อให้เกิดอันตรายตอ่ ชวี ติ มากทีส่ ุดคือสารข้อใด

1. คารบ์ อน(เขมา่ ) 2. แก๊สออกซิเจน (O2)
3. แกส๊ คารบ์ อนมอนอกไซด์(CO) 4. แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2)

13. ขอ้ ใดจดั เป็นสารตัง้ ต้นของปฏิกิรยิ าการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช

1. CO2 + H2O 2. H2O + O2
3. CO2 + C6H12O6 4. C6H12O6 + H2O + O2

14. พจิ ารณาการเปลีย่ นแปลงตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคาถาม

A. การเผาไหม้ของเชอื้ เพลงิ

B. เทโซเดยี มไฮดรอกไซดล์ งในน้าแล้วอณุ หภูมิสูงข้นึ กวา่ เดมิ

C. เทสาร A รวมกับสาร B ไดส้ าร C เม่อื จบั แล้วรสู้ กึ เยน็ กว่าเดิม

ขอ้ ใดเปน็ ปฏกิ ริ ิยาเคมแี บบคายความร้อน

1. ข้อ A 2. ข้อ B

3. ข้อ C 4. ขอ้ A และ B

13

Science ว23101 ขอ้ สอบประจาบท เรอ่ื งปฏกิ ริ ยิ าเคมี

หนว่ ยท่ี 5 ชอื่ -สกุล ชนั้ ม.3/ เลขท่ี
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวนั

คาชแี้ จง ให้นักเรียนเลอื กคาตอบต่อไปนี้ ขอ้ ใดถูกตอ้ งทส่ี ุด คะแนน............/20

15. จากการเปลี่ยนแปลงตอ่ ไปนี้
A. แนฟทาลีน (s) → แนฟทาลีน(g)
B. แก๊สไฮโดรเจน + แกส๊ ออกซเิ จน → นา้
C. แกส๊ ไนโตรเจน + แกส๊ ไฮโดรเจน → แก๊สแอมโมเนีย
ข้อใดจดั เปน็ การเปล่ียนแปลงทางเคมี

1. ขอ้ A B 2. ขอ้ B C

3. ขอ้ A C 4. ข้อ A B C

16. การผสมสารคู่ใดเมือ่ ผสมกันแลว้ ทสี่ มบัติเป็นเบส
1. แอมโมเนยี มคลอไรด์กับแคลเซียมไฮดรอกไซด์
2. น้ากับเกลอื แกง
3. เกลอื แกงกับน้าตาลทราย
4. โพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนตกับนา้ ตาลทราย

17. ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ งเกย่ี วกับปฏิกิริยาการเผาไหม้
1. การเผาไหมไ้ ม่สมบูรณ์กอ่ ให้เกิดเขม่าของซัลเฟอร์
2. การเผาไหมอ้ ยา่ งสมบรู ณเ์ ป็นปฏกิ ริ ยิ าทไี่ มใ่ ช้ออกซเิ จน
3. การเผาไหมอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ได้แก๊สทเี่ ป็นพิษต่อการหายใจ
4. การเผาไหม้อยา่ งสมบูรณไ์ ดผ้ ลติ ภัณฑ์เป็นแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดแ์ ละนา้

18. โลหะโซเดยี มทาปฏิกิริยากับน้า ไดส้ ารใหม่ คอื โซเดยี มไฮดรอกไซด์และแก๊สไฮโดรเจนข้อใดเป็น

สารต้ังต้น

1. Na กับ H2O 2. NaOH กบั H2
3. Na กบั NaOH 4. H2O กบั H2

19. ปฏกิ ิริยาเคมใี นชีวิตประจาวนั ข้อใดเปน็ ปฏกิ ริ ิยาเคมีแบบดูดความร้อน

1. การจดุ พลุ 2. การยอ่ ยแป้งเป็นน้าตาล

3. การแยกสลายแอมโมเนีย 4. การเผาไหม้ของเชือ้ เพลงิ

20. ถ้าสาร A 2 กรัม ทาปฏิกริ ิยาพอดีกบั สาร B 4 กรัม ได้ ผลติ ภัณฑ์เปน็ สาร C 6 กรมั ถา้ นา

สาร A มา 6 กรัม จะไดส้ าร C กีก่ รมั

1. 7 กรมั 2. 9 กรัม 3. 11 กรัม 4. 18 กรมั

14

Science ว23101 ใบงานท่ี 3 วสั ดุรอบตวั

หนว่ ยท่ี 5 ช่ือ-สกลุ ช้นั ม.3/ เลขที่
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวนั ง. เกา้ อ้ี

1. ทดสอบความรู้พนื้ ฐานเกี่ยวกับวัสดุ
ข้อใดไมใ่ ชว่ สั ดุ
ก. ยาง ข. ไม้ ค. เหล็ก

2. ให้นกั เรยี นจบั คู่ วธิ ีทดสอบสมบตั ทิ างกายภาพท่ีกาหนดให้

ความแข็งแรง ก. นาวสั ดุที่แขวนไว้ผกู กับถงุ ทราย จากนนั้ นาถงุ ทรายออก
การนาไฟฟ้า เปรยี บเทยี บความยาวของวัสดกุ ่อนผูก ขณะผูก
การนาความรอ้ น และหลังจากนาถุงทรายออก

ข. ตดิ ก้อนดนิ น้ามันไวท้ ่ีปลายด้านหนึง่ ของวสั ดแุ ล้วใหค้ วามร้อน
ทป่ี ลายอีกดา้ นหนึ่งของวสั ดุ สงั เกตการเปลยี่ นแปลงของกอ้ นดิน
นา้ มัน

ค. ใช้ตะปหู รอื เข็มหมดุ ขีดลงบนวัสดุ สังเกตรอยที่ปรากฏ
บนผวิ วสั ดุ

สภาพยดื หยุน่ ง. นาวัสดุไปต่อกบั วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ยท่มี หี ลอดไฟฟา้
สงั เกตความสว่างของหลอดไฟฟา้

3. พอลเิ มอร์ (Polymer) คอื สารประกอบท่มี ีโมเลกุลขนาดใหญ่ เกิดจากโมเลกุล
ขนาดเลก็ จานวนมากมาทาปฏกิ ริ ิยาเคมีกัน

4. มอนอเมอร์ (monomer) คอื โครงสร้างของพอลิเมอรท์ ีป่ ระกอบด้วยหนว่ ยซา้ ๆ กัน

15

Science ว23101 ใบงานที่ 3 วสั ดรุ อบตวั

หน่วยท่ี 5 ชื่อ-สกลุ ชั้น ม.3/ เลขท่ี
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวัน

5. พอลิเมอร์ (Polymer) มโี ครงสร้าง 3 ประเภทคอื

พอลเิ มอรแ์ บบเสน้

พอลิเมอร์แบบกง่ิ

พอลิเมอร์แบบร่างแห

6. ให้นักเรียนระบโุ ครงสรา้ งประเภทของพอลิเมอรใ์ ห้ถูกตอ้ ง
พอลิเมอรแ์ บบเสน้

พอลเิ มอรแ์ บบก่งิ

พอลิเมอร์แบบรา่ งแห

7. ใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งพอลิเมอร์ในชีวติ ประจาวัน มา 3 ตวั อย่าง

ขวด PET ทอ่ PVC ถุงมือยาง

16

Science ว23101 ใบงานท่ี 3 วสั ดรุ อบตวั

หนว่ ยท่ี 5 ชือ่ -สกุล ชนั้ ม.3/ เลขท่ี
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวนั

8. เซรามกิ (Ceramic) คือ
ที่ใช้งานกนั ทั่วไปเป็นวัสดทุ ่ีผลติ จากหิน ดนิ ทราย และแร่ธาตุตา่ ง ๆ จาก

ธรรมชาติ ผ่านการข้ึนรูปแลว้ นาไปเผาที่อุณหภมู ิสูง ทาให้โครงสรา้ งเปล่ยี นไปจากเดิม

คณุ สมบัตขิ องเซรามกิ

1. แข็งแตเ่ ปราะ
2. ทนตอ่ การสกึ กรอ่ น
3. จดุ หลอมเหลวสูง
4. ไม่นาความร้อนและไม่นาไฟฟ้า

8. โลหะ (Metal) คือ
เปน็ วัสดุที่ได้จากการถลุงสินแรใ่ นธรรมชาติ เชน่ ทอง ทองแดง เงิน อะลูมเิ นยี ม

คณุ สมบัตขิ องโลหะ

1. มีความแข็ง
2. มีความเหนียว
3. ตอี อกเปน็ แผน่ ได้
4. นาความรอ้ นและนาไฟฟา้ ได้ดี
5. มจี ุดเดือดจดุ หลอมเหลวสูง

9. วัสดุผสม หรอื วัสดุคอมโพสติ (Composites)
เปน็ การนาวสั ดุต่างชนิดที่มสี มบัตติ า่ งกัน มาผสมกนั ไดเ้ ป็นวัสดใุ หม่ทดี่ กี วา่ เดมิ

ตวั อย่างของ วัสดผุ สม หรอื วสั ดุคอมโพสติ (Composites)

1. ผ้าคอมโพสิต
2. ชดุ กนั ฝน
3. ชดุ ดาน้า
4. ชุดสกี
5. คอนกรีตเสริมเหล็ก
6. ยางเรเดียล

17

Science ว23101 ขอ้ สอบประจาบท เรือ่ งวสั ดรุ อบตวั

หนว่ ยท่ี 5 ชอ่ื -สกลุ ช้นั ม.3/ เลขที่
ปฏิกริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวัน

คาชแ้ี จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบตอ่ ไปนี้ ข้อใดถกู ต้องที่สุด คะแนน............/20

1. วสั ดุในขอ้ ใดมคี วามเหนียวและสามารถดึงยดื ใหเ้ ป็นเส้นได้

1. โลหะ 2. กระดาษ

3. แก้ว 4. ไม้

2. การผลติ เครื่องใชใ้ นข้อใดตอ้ งพิจารณาจากสมบตั กิ ารนาความร้อนของวสั ดุ

1. เฟอรน์ เิ จอร์ 2. ของตกแตง่ บ้าน

3. เครอ่ื งนอน 3. ภาชนะหุงตม้

3. ถา้ ต้องการใชค้ ตั เตอรก์ รีดกระดาษบนโตะ๊ ไม้ โดยไมใ่ ห้โตะ๊ เปน็ รอยควรใชส้ ่ิงใดรองบนโต๊ะ

1. แผ่นกระจก 2. แผน่ กระดาษ

3. แผ่นพลาสติก 4. แผน่ หนงั

4. โลหะในขอ้ ใดนาไฟฟ้าได้ดที สี่ ุด 2. ดบี กุ
1. ทองคา 4. นกิ เกลิ
3. ทองแดง

5. ยางรถยนตต์ ้องมีสมบัติในขอ้ ใด 2. ความเหนยี ว
1. ความแขง็ 4. ความยดื หยุน่
3. ความหนาแน่น

6. วสั ดทุ เ่ี ปน็ ตัวนาความร้อนทด่ี ี มักจะมสี มบัติใดควบคไู่ ปดว้ ย

1. มคี วามยดื หยุ่นสูง 2. มคี วามแขง็ มาก

3. เปน็ ตวั นาไฟฟา้ ท่ีดี 4. มีความหนาแน่นมาก

7. ถ้าต้องการวสั ดุเพื่อใช้หิ้วของทม่ี ีนา้ หนกั 5 กิโลกรมั จะเลอื กวัสดุใด

1. ดา้ ยเย็บผ้า 2. เชือกกลว้ ย

3. เชอื กฟาง 4. โซ่

8. วัตถุในข้อใดมีความยืดหยุน่ 2. แผ่นยาง
1. แผ่นไม้ 4. แผน่ พลาสติก
3. แผ่นเหลก็

18

Science ว23101 ข้อสอบประจาบท เรื่องวสั ดุรอบตวั

หนว่ ยท่ี 5 ช่อื -สกุล ชั้น ม.3/ เลขท่ี
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชีวติ ประจาวนั

คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบตอ่ ไปนี้ ขอ้ ใดถกู ต้องทส่ี ดุ คะแนน............/20

9. แร่ธาตุในขอ้ ใดมคี วามแข็งมากท่สี ดุ

1. ทองแดง 2. ตะกว่ั

3. เหล็ก 4. เพชร

10. ฉนวนความรอ้ นหมายถึงข้อใด 2. วตั ถุท่ีนาความรอ้ นได้ปานกลาง
1. วตั ถทุ ่นี าความรอ้ นไดด้ ี 4. วตั ถุทีไ่ ม่ยอมให้ความรอ้ นไหลผา่ นได้
3. วัตถทุ นี่ าความร้อนได้น้อยมาก

11. ภาชนะหงุ ต้มอาหาร นิยมทาจากโลหะเพราะอะไร

1. เป็นฉนวนความรอ้ นทีด่ ี 2. เป็นตวั นาความร้อนท่ีดี

3. เป็นตัวนาไฟฟา้ ท่ดี ี 4. เปน็ ฉนวนไฟฟ้าทด่ี ี

12. วัสดใุ นขอ้ ใด ไมเ่ ปน็ ตวั นาความรอ้ น

1. กระเบื้อง 2. เงนิ 3. ทองแดง 4. อะลูมิเนยี ม

13. ถ้านานา้ ร้อนใสแ่ กว้ 4 ใบ เมือ่ จบั แก้วใบใดจะรู้สึกรอ้ นทสี่ ดุ

1. แก้วพลาสตกิ 2. แกว้ กระเบ้อื ง

3. แกว้ สแตนเลส 4. แก้วไม้

14. โลหะ ไม่มี สมบัติในข้อใด 2. การนาไฟฟา้
1. การนาความร้อน 4. ความแขง็
3. ความยืดหยนุ่

15. ส่งิ ใด เม่อื ได้ถูกแรงกระทารปู รา่ งหรือขนาดของวสั ดุจะเปลยี่ นไปแต่เมอ่ื หยุดออกแรงกระทาวสั ดจุ ะ

คืนรูปรา่ งและขนาดสสู่ ภาพเดิม

1. ผ้า 2. เชอื กฟาง 3. อะลูมิเนียม 4. หนงั สต๊กิ

16. ถ้าเราใชท้ ัพพที ี่ทาจากโลหะคนแกงทก่ี าลงั เดอื ด จะรู้สกึ รอ้ นเพราะเหตุใด

1. มืออยใู่ กลเ้ ตาไฟเกนิ ไป 2. ทพั พีนาความรอ้ นมาสู่มือ

3. น้าแกงทกี่ าลังเดือดกระเด็นสมู่ ือ 4. ไอรอ้ นจากแกงลอยข้ึ

19

Science ว23101 ข้อสอบประจาบท เร่ืองวสั ดุรอบตวั

หน่วยท่ี 5 ชอื่ -สกลุ ชน้ั ม.3/ เลขที่
ปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละวสั ดใุ นชวี ติ ประจาวัน

คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบตอ่ ไปน้ี ข้อใดถกู ตอ้ งทีส่ ุด คะแนน............/20
4. ยาง
17. วตั ถุในข้อใดมสี มบตั ิการนาไฟฟ้า

1. หนงั สือ 2. ลูกบอล 3. ตะปู

18. ของใชใ้ นข้อใดตอ้ งทาจากวสั ดทุ มี่ ีความออ่ นนมุ่

1. เครือ่ งประดับ 2. เครอื่ งเรอื น

3. เครื่องนงุ่ ห่ม 4. เครอื่ งเลน่

19. แก้วเปน็ วัสดุทผ่ี ลิตจากทรัพยากรธรรมชาตใิ นข้อใด 4. ทราย
1. ดนิ 2. หนิ 3. กรวด

20. ขอ้ ใดเป็นการนาสมบัติของวสั ดุไป ใชป้ ระโยชนไ์ ดเ้ หมาะสมทสี ุด

1. ยางไปทาภาชนะหุงตม้ 2. โลหะนาไปทาของเลน่ เดก็

3. ทองแดงนาไปทาสายไฟ 4. แก้วนาไปทาค้อน

20

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปรมิ าณทางไฟฟา้

หน่วยท่ี 6 ช่อื -สกุล ชัน้ ม.3/ เลขท่ี
ไฟฟ้า

1. จากภาพ นาตัวเลขหนา้ อุปกรณไ์ ฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย เติมให้ถกู ตอ้ ง

1. ถ่านไฟฉาย .......... เปิดหรือปิดวงจรไฟฟ้า

2. สวติ ช์ ......... เปน็ แหลง่ กาเนิดพลังงานไฟฟา้
3. สายไฟฟ้า ......... เปลย่ี นพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสง
4. หลอดไฟฟ้า ......... เช่อื มตอ่ ระหว่างแหล่งกาเนิดไฟฟ้า

และอปุ กรณไ์ ฟฟา้

2. จากภาพ ตอ้ งตอ่ ถ่านไฟฉายอย่างไรหลอดไฟฟา้ จงึ สว่าง (วงกลมขอ้ ท่ีถูกตอ้ ง)

กข ค

3. วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย ประกอบด้วย 3 อย่างคือ

แหลง่ กาเนิดไฟฟ้า สายไฟ อปุ กรณไ์ ฟฟา้

4. ใหน้ กั เรียนเติมคาตอบลงไปในชอ่ งวา่ งต่อไปนใี้ ห้ถูกต้อง เกย่ี วกบั วงจรไฟฟา้ อย่างง่าย

แหล่งกาเนิดไฟฟา้ สวิตช์ อุปกรณ์ไฟฟ้า

แสง

กระแสไฟฟา้

21

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปริมาณทางไฟฟา้

หนว่ ยที่ 6 ชอื่ -สกุล ช้นั ม.3/ เลขที่
ไฟฟ้า

5. กระแสไฟฟา้ (Electric Current) สญั ลกั ษณ์คือ I

มหี นว่ ยเปน็ แอมแปร์

ความหมาย

กระแสไฟฟ้า (Electric Current) คอื ปรมิ าณประจไุ ฟฟ้าทีเ่ คล่ือนท่ีผ่านพื้นท่ีหนา้ ตัดของ
ตวั นาไฟฟ้าในหน่ึงหน่วยเวลา โดยเคลอ่ื นทจ่ี ากจดุ ที่มีศกั ย์ไฟฟ้าสูงไปยงั จดุ ทีม่ ศี ักย์ไฟฟา้ ต่า

6. กาหนดภาพการต่อวงจรไฟฟา้ ต่อไปนี้

6.1 ใหน้ ักเรียนอธิบายความสมั พันธ์ของกระแสไฟฟา้ ท่ไี หลผา่ นตัวนาทรงกลมกับความต่าง
ศักยใ์ นตัวนา

ตอบ กระแไฟฟ้าเคล่ือนทใ่ี นตัวนาทรงกลมจะเคลอื่ นท่จี ากบรเิ วณทศี่ ักย์ไฟฟา้ สูงไปยังบรเิ วณ
ท่มี ศี กั ย์ไฟฟ้าตา่

6.2 เครื่องมือทใ่ี ช้วดั ค่ากระแสไฟฟา้ คอื แอมมเิ ตอร์ (Ammeter)

7. ความตา่ งศักย์ไฟฟา้ (Voltage) สัญลักษณค์ อื V

มีหนว่ ยเป็น Volt

ความหมาย

ความต่างศกั ย์ไฟฟา้ (Voltage) คอื ความแตกตา่ งของพลงั งานไฟฟา้ ระหว่างจดุ สองจดุ ซึ่ง
ทาใหเ้ กดิ กระแสไฟฟ้าขน้ึ โดยกระแสไฟฟา้ จะไหลจากจุดทมี่ รี ะดบั พลงั งานไฟฟ้าสงู (ศักย์ไฟฟ้า
สงู ) ไปยังจุดทีม่ ีระดบั พลงั งานไฟฟา้ ตา่ กว่า (ศกั ย์ไฟฟา้ ตา่ ) และจะหยุดไหลเมอ่ื ศกั ย์ไฟฟา้ ท้งั
สองจุดเท่ากัน

7.1 เครื่องมอื ท่ใี ชว้ ดั คา่ ความต่างศกั ยไ์ ฟฟา้ คอื โวลตม์ เิ ตอร์ (Voltmeter)

22

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปริมาณทางไฟฟา้

หน่วยที่ 6 ชือ่ -สกลุ ช้นั ม.3/ เลขท่ี
ไฟฟ้า

8. ความตา้ นทานไฟฟ้า (Resistant) สัญลักษณ์คือ R
มีหน่วยเปน็ โวลตต์ อ่ แอมแปร์ หรือ โอห์ม

9. พิจารณาขอ้ มลู จากกราฟดังตอ่ ไปนี้ และเติมคาตอบลงในช่องว่างใหถ้ กู ต้อง

จากกราฟ
ความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟ้าเพมิ่
กระแสไฟฟา้ กจ็ ะเพมิ่ ตามดว้ ย

อัตราสว่ นระหวา่ งความต่างศกั ย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้ามีค่าคงที่ ดงั นี้ V = คา่ คงที่
ค่าคงท่ี ท่เี กิดขึน้ คือ R (ความต้านทานไฟฟา้ ) I

จากความสมั พนั ธ์ของกระแสไฟฟา้

ความต่างศกั ย์ไฟฟ้าและความต้านทานไฟฟ้า

จะไดส้ มการ V = R หรอื
I

V = IR

10. เมอ่ื ตอ่ แอมมิเตอรแ์ ละโวลตม์ ิเตอร์เขา้ กบั วงจรไฟฟ้า คา่ ท่อี า่ นไดจ้ ากมเิ ตอร์ทัง้ สองเป็นดังภาพ ลวด
ตวั นาน้มี ีความตา้ นทานไฟฟ้าเทา่ ใด

จากภาพจะไดว้ ่าความต่างศักยไ์ ฟฟ้าของลวดตวั นา
V = 4.5 Vและกระแสไฟฟา้ I = 300 mA หรือ 0.3 A
จากสตู ร V = IR

4.5 = 0.3R
4.5/0.3 = R

R = 15 โอหม์

23

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปริมาณทางไฟฟา้

หน่วยที่ 6 ชื่อ-สกลุ ชั้น ม.3/ เลขท่ี
ไฟฟ้า

11. วงจรไฟฟา้ ดงั ภาพ มคี วามต่างศกั ย์ไฟฟ้าคร่อมหลอดไฟฟา้ เทา่ กบั 9 โวลต์ ถา้ หลอดไฟฟา้ น้มี ี
ความตา้ นทานไฟฟ้า 30 โอห์ม ค่าทอ่ี ่านไดจ้ ากแอมมเิ ตอร์จะเปน็ เทา่ ใด

จากสูตร V = IR
9 = I(30)

9/30 = I

I = 0.3 แอมแปร์

12. วงจรไฟฟ้าดังภาพ ถ้ากระแสไฟฟ้าทผี่ ่านหลอดไฟฟ้าเทา่ กบั 0.2 แอมแปร์ ความต้านทานไฟฟ้า
ของหลอดไฟฟ้าเปน็ 30 โอห์ม ค่าทอ่ี ่านไดเ้ มือ่ ต่อโวลตม์ เิ ตอรค์ ร่อมหลอดไฟฟ้าจะเป็นคา่ ของปริมาณ
ใด และมคี า่ เป็นเทา่ ใด

จากสตู ร V = IR
V = 0.2x30
V = 6 โวลต์

13. ถา้ อุปกรณไ์ ฟฟ้าหนง่ึ มคี วามต้านทานไฟฟ้า 100 โอห์ม และกระแสไฟฟา้ ทผ่ี ่านอุปกรณไ์ ฟฟา้ น้นั
เท่ากบั 0.05 แอมแปร์ ความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟา้ ของอุปกรณ์ไฟฟ้ามีค่าเทา่ ใด

จากสตู ร V = IR
V = 0.05x100
V = 5 โวลต์

14. กราฟแสดงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งความต่างศักยไ์ ฟฟ้าที่ครอ่ มตวั ต้านทานไฟฟ้าและกระแสไฟฟา้ ท่ี
ผา่ นตวั ตา้ นทานไฟฟา้ นนั้ เป็นดงั ภาพ ตัวต้านทานไฟฟา้ นีม้ ีค่าความตา้ นทานไฟฟ้าเปน็ เท่าใด

จากกราฟใชค้ วามตา่ งศกั ย์ 9V ระแสไฟฟา้ 0.045A
จากสตู ร V = IR

9 = 0.045xR
R = 9/0.045
R = 200 โอห์ม

24

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ปรมิ าณทางไฟฟา้

หน่วยที่ 6 ช่ือ-สกุล ชน้ั ม.3/ เลขที่
ไฟฟ้า

15. ใหน้ กั เรยี นเติมสัญลักษณ์ของอุปกรณ์ไฟฟา้ ทก่ี าหนดให้ต่อไปน้ี

ภาพอุปกรณไ์ ฟฟ้า สญั ลักษณ์ ชื่ออปุ กรณไ์ ฟฟ้า

แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ เชน่
ถา่ นไฟฉาย เซลล์ไฟฟา้

หลอดไฟฟ้า

สวติ ช์เปิด (วงจรเปดิ )

สวติ ช์ปดิ (วงจรปิด)

แอมมเิ ตอร์

โวลต์มิเตอร์

25

Science ว23101 ใบงานที่ 1 ปรมิ าณทางไฟฟา้

หนว่ ยท่ี 6 ช่อื -สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขที่
ไฟฟ้า

15. ใหน้ กั เรียนเตมิ สญั ลกั ษณข์ องอุปกรณ์ไฟฟา้ ท่ีกาหนดให้ต่อไปน้ี

ภาพอปุ กรณ์ไฟฟา้ สัญลกั ษณ์ ชอ่ื อปุ กรณ์ไฟฟ้า

สายไฟฟ้าทเ่ี ชื่อมต่อกนั

สายไฟฟ้าทไ่ี ม่เช่ือมต่อกนั

16. จงอธบิ ายวธิ กี ารเขยี นสัญลกั ษณ์ในวงจรไฟฟ้ามาพอสังเขป
ตอบ อปุ กรณ์ไฟฟ้าแตล่ ะตัวจะเช่ือมต่อกันดว้ ยเส้นทแ่ี ทนสายไฟฟ้า วงจรไฟฟา้ จะครบวงจร
เมอื่ ไม่มีเสน้ ใดขาดจากกัน

26

Science ว23101 ใบงานท่ี 2 การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รมและขนาน

หนว่ ยที่ 6 ชอื่ -สกลุ ช้ัน ม.3/ เลขท่ี
ไฟฟ้า

17. วงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม (Series Circuit)

ลักษณะวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมเป็นอยา่ งไร

วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม (Series Circuit)
- กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านเท่ากนั

- ความต่างศกั ยไ์ ฟฟา้ ไมเ่ ท่ากัน
- ความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ทคี่ ร่อมอุปกรณ์ไฟฟา้ และตวั รวมกนั จะเท่ากบั ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ารวม

ของวงจร
ถา้ อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ตวั ใดตวั หนงึ่ เสยี หายจะทาให้เป็นวงจรเปดิ ไม่มกี ระแสไฟฟ้าในวงจร อุปกรณ์
ไฟฟา้ ที่เหลือกจ็ ะไมท่ างาน ตัวอย่างเชน่ สวิตช์

18. วงจรไฟฟา้ แบบขนาน (Parallel Circuit)

ลักษณะวงจรไฟฟ้าแบบขนานเป็นอย่างไร

วงจรไฟฟา้ แบบขนาน (Parallel Circuit)
- กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านแต่ละตวั ไม่เทา่ กัน
- กระแสไฟฟา้ รวมจะเท่ากับกระแสไฟฟ้า
ทีผ่ า่ นอปุ กรณ์ไฟฟ้าแต่ละตวั รวมกนั
- ความต่างศักยไ์ ฟฟ้าแต่ละตวั เท่ากัน
ถา้ อุปกรณ์ไฟฟา้ ตวั ใดตัวหนึ่งเสยี หาย จะยังมกี ระแสไฟฟา้ ในวงจรผ่านอปุ กรณไ์ ฟฟ้าท่ี

เหลือใหท้ างานตอ่ ไปนี้ ตัวอยา่ งเชน่ อุปกรณ์ไฟฟา้ ต่าง ๆ ภายในบ้าน

19. จากภาพ ข้อใดเป็นการต่อวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม และข้อใดเป็นการตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบขนาน

วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม วงจรไฟฟา้ แบบขนาน

27

Science ว23101 ข้อสอบประจาหนว่ ย วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย

หนว่ ยที่ 6 ชอ่ื -สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขท่ี
ไฟฟ้า

คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบต่อไปนี้ ขอ้ ใดถูกตอ้ งทสี่ ุด คะแนน............/15

1. ข้อใดไม่ใชอ่ ปุ กรณ์ในการตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย

1. หลอดไฟ 2. เซลลไ์ ฟฟ้า

3. สายไฟ 4. แบตเตอรี่

2. ข้อใดเป็นอุปกรณใ์ นการต่อวงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย

1. มอเตอร์ แบตเตอร่ี เซลล์ไฟฟ้า 2. สายไฟ สวติ ช์ไฟ เซลลไ์ ฟฟ้า

3. หลอดไฟ เซลล์ไฟฟ้า สายไฟ 4. หลอดไฟ สวติ ช์ไฟ มอเตอร์

3. ข้อใดแสดงการไหลของกระแสไฟฟา้ ไดถ้ กู ต้อง

1. ไหลจากศกั ย์ไฟฟา้ สงู ไปยังศกั ยไ์ ฟฟ้าตา่ 2. ไหลจากแรงดันต่าไปยงั แรงดนั สูง

3. ไหลจากข้ัวลบไปยงั ข้ัวบวก 4. ไหลจากทีส่ งู ลงสู่ทตี่ ่า

4. ไหลจากขวั้ ลบไปขว้ั บวก คือการเคล่อื นทข่ี องสง่ิ ใด

1. การไหลของอิเลก็ ตรอน 2. การไหลของโปรตรอน

3. การไหลของนิวตรอน 4. การไหลของกระแสไฟฟา้

5. วงจรใดที่ทาให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทางานได้

1. วงจรปิด 2. วงจรเปดิ 3. วงจรตรง 4. วงจรสลับ

6. จากภาพเป็นวงจรไฟฟ้าประเภทใด

1. วงจรปิด
2. วงจรเปิด
3. วงจรตรง
4. วงจรสลับ

7. เราใช้สวติ ช์ไฟเพื่อจดุ ประสงค์ใด 2. ชว่ ยลดการกินไฟฟ้า
1. ลดแรงดนั ไฟฟ้า 4. ตัด-ตอ่ กระแสไฟฟ้าในวงจร
3. เพิ่มปรมิ าณกระแสไฟฟ้า

28

Science ว23101 ข้อสอบประจาหนว่ ย วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย

หน่วยท่ี 6 ชื่อ-สกลุ ชน้ั ม.3/ เลขท่ี
ไฟฟ้า

คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบตอ่ ไปน้ี ขอ้ ใดถกู ตอ้ งท่ีสดุ คะแนน............/15
8. จากภาพเปน็ การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใด

1. วงจรไฟฟา้ แบบขนาน

2. วงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม 1 หลอด

3. วงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม 2 หลอด

4. วงจรไฟฟา้ แบบผสม

9. ถ้าหลอด 1 เสีย จะเกิดอะไรขึ้นกบั วงจรน้ี

1. หลอดท่ี 2 ไฟติด
2. หลอดที่ 2 ไฟไมต่ ดิ
3. หลอดที่ 2 ไฟสวา่ งนอ้ ยลง
4. ไมม่ ขี อ้ ถกู

10. การต่อหลอดไฟแบบอนุกรมมขี ้อเสียอย่างไร

1. ไม่คอ่ ยปลอดภยั 2. ตอ้ งใช้อุปกรณ์ในการต่อมาก

3. กระแสไฟฟ้าในวงจรเดนิ ไม่สะดวก 4. ถา้ หลอดไฟดวงใดดวงหนึง่ ขาดจะทาให้วงจรเปิด

11. วตั ถทุ ่ยี อมให้กระแสไฟฟ้าผา่ น เรียกวา่ อะไร

1. ตวั นาไฟฟา้ 2. ฉนวนไฟฟา้ 3. ตวั ชว่ ยไฟฟา้ 4. ตัวละลายไฟฟา้

12. ในบ้านเรอื น ควรต่อวงจรไฟฟ้าแบบใด

1. วงจรอนุกรม 2. วงจรขนาน 3. วงจรผสม 4. วงจรสลบั

13. อุปกรณใ์ ดจะตอ้ งต่อแบบอนุกรมเข้ากับวงจรไฟฟา้ เท่าน้นั

1. แอมมิเตอร์ 2. โวลตม์ เิ ตอร์

3. โอห์มมิเตอร์ 4. แกลวานอมเิ ตอร์

14. คา่ ความต่างศกั ย์ไฟฟา้ มีหน่วยเป็นอะไร 3. V 4. R
1. A 2. I

15. ถา้ เราจะตอ่ โวลต์มเิ ตอรเ์ พือ่ วดั ค่าความตา่ งศักย์จะตอ้ งตอ่ วงจรแบบใด

1. แบบอนุกรม 2. แบบขนาน 3. แบบผสม 4. แบบวงกลม

29

Science ว23101 ใบงานท่ี 3 พลงั งานไฟฟา้

หน่วยที่ 6 ชอ่ื -สกุล ช้นั ม.3/ เลขที่

ไฟฟา้

คาชี้แจง ให้นักเรียนเติมคา้ หรือขอ้ ความลงในช่องวา่ งให้ถกู ตอ้ ง

1. พลงั งานไฟฟ้า (Electrical Energy) คอื ..................................................................................
..........................................................................................................................................................
2. หน่วยวัดคา่ พลังงานไฟฟ้า คือ ........................... และพลงั งานไฟฟา้ มสี ัญลักษณ์ คอื ........................
3. สูตรท่ใี ชใ้ นการคานวณหาคา่ พลังงานไฟฟา้ คือ ...............................
4. จงหาพลงั งานไฟฟา้ ทีใ่ ช้ตูอ้ บท่มี ีกาลงั ไฟฟ้า 1,250 วัตต์ และอบขนมนาน 20 นาที

ตอบ .................................................................................................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

5. หลอดไฟฟา้ ขนาด 60 w จานวน 2 หลอด เปดิ ไว้นาน 3 ช่วั โมง จะสนิ้ เปลืองพลังงานไฟฟ้าเท่าใด

ตอบ ...................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
6. บ้านหลังหนึ่งใชโ้ ทรทัศนข์ นาด 125 วตั ต์นาน 4 ช่ัวโมง และใชห้ ม้อหงุ ขา้ วขนาด 450 วตั ตน์ าน
40 นาที ในแต่ละวันเครือ่ งใช้ไฟฟ้าใดใชพ้ ลงั งานมากกว่าและใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าเทา่ ใด
ตอบ ...................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................

30

Science ว23101 ใบงานที่ 3 พลังงานไฟฟา้

หน่วยที่ 6 ชอ่ื -สกุล ชน้ั ม.3/ เลขท่ี

ไฟฟา้

คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง

7. ถา้ ใช้งานเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในแต่ละคืนประกอบด้วยหลอดไฟฟ้าขนาด 35 วัตตน์ าน 2 ชัว่ โมง
โทรทัศน์ขนาด 150 วัตต์นาน 3 ชว่ั โมง และพัดลมตั้งพื้นขนาด 75 วัตตน์ าน 30 นาที
เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าทั้งหมดใช้พลงั งานไฟฟา้ เท่าใดในเดอื นกนั ยายน
ตอบ หาพลงั งานไฟฟ้าทห่ี ลอดไฟฟ้าใชใ้ นเดือนกนั ยายน
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

หาพลงั งานไฟฟ้าทีโ่ ทรทศั นใ์ ช้ในเดือนกนั ยายน
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

หาพลังงานไฟฟ้าที่พัดลมตั้งพนื้ ใช้ในเดือนกนั ยายน
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

31

Science ว23101 ใบงานที่ 4 การคิดเงนิ คา่ พลงั งานไฟฟา้

หนว่ ยท่ี 6 ชอ่ื -สกุล ชน้ั ม.3/ เลขท่ี

ไฟฟ้า

คาชีแ้ จง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง

1. เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้วดั พลังงานไฟฟา้ ท่ีแตล่ ะบา้ นใช้ เรียกว่า ..........................................................
....................................................................................................................................
2. ค่า Ft หมายถึง .......................................................................................................
....................................................................................................................................

3. คา่ ไฟฟ้าที่ผู้ใชจ้ ะต้องชา้ ระในแตล่ ะเดือน เป็นดงั น้ี
......................................................................................................................................................
4. บา้ นหลงั หนึง่ มใี บแจง้ คา่ ไฟฟา้ ของเดอื นธันวาคม 2561 จากการไฟฟา้ นครหลวง ดงั ภาพ โดย
บ้านหลงั นใี้ ชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ประเภทอัตราปกติเกิน 150 หน่วยตอ่ เดือน เจ้าของบ้านหลังนจ้ี ะตอ้ งจา่ ย
ค่าไฟฟ้าเท่าใด จงแสดงการหาคา่ ไฟฟ้า

ตอบ....................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................
...........................................................................

32

Science ว23101 ใบงานที่ 4 การคดิ เงนิ คา่ พลงั งานไฟฟา้

หน่วยที่ 6 ชอ่ื -สกลุ ช้นั ม.3/ เลขที่

ไฟฟ้า

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ให้ถูกต้อง

5. ในชว่ งเดือนตุลาคมบ้านหลงั หนึง่ ใช้เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าทุกวนั ประกอบดว้ ย

หลอดไฟฟ้า 100 วัตตจ์ านวน 4 หลอด เปิดวนั ละ 4 ชั่วโมงทกุ หลอด

เตารีด 1,000 วตั ต์จานวน 1 เครือ่ ง ใชว้ นั ละ 1 ชว่ั โมง

โทรทศั น์ 150 วัตต์จานวน 1 เคร่ือง ใชว้ นั ละ 4 ช่วั โมง
ถ้าการไฟฟ้านครหลวงคดิ อตั ราคา่ ไฟฟา้ หนว่ ยละ 2 บาท

5.1 ผทู้ ่อี าศยั ในบา้ นหลังน้ใี ชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในเดอื นตลุ าคมก่หี น่วย
ตอบ หาพลงั งานไฟฟ้าที่บ้านหลังนี้ใช้ในเดอื นตุลาคม (31 วัน)

หาพลังงานไฟฟา้ ทห่ี ลอดไฟฟ้าใช้

......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

หาพลังงานไฟฟา้ ท่ีเตารดี ใช้
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

หาพลงั งานไฟฟ้าที่โทรทศั น์ใช้
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

33

Science ว23101 ใบงานท่ี 4 การคิดเงนิ คา่ พลงั งานไฟฟา้

หนว่ ยที่ 6 ชอ่ื -สกุล ชัน้ ม.3/ เลขที่

ไฟฟา้

คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนใ้ี หถ้ กู ต้อง

5. ในชว่ งเดอื นตุลาคมบ้านหลงั หนงึ่ ใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ทุกวันประกอบด้วย

หลอดไฟฟ้า 100 วตั ตจ์ านวน 4 หลอด เปิดวันละ 4 ชัว่ โมงทกุ หลอด

เตารดี 1,000 วัตต์จานวน 1 เครอ่ื ง ใช้วนั ละ 1 ชั่วโมง

โทรทัศน์ 150 วัตต์จานวน 1 เครื่อง ใช้วันละ 4 ชว่ั โมง
ถ้าการไฟฟ้านครหลวงคิดอตั ราค่าไฟฟา้ หนว่ ยละ 2 บาท

5.1 ผู้ทีอ่ าศยั ในบ้านหลังนใี้ ช้พลังงานไฟฟา้ ในเดอื นตุลาคมก่หี น่วย
ตอบ หาพลงั งานไฟฟา้ ท่บี า้ นหลงั น้ใี ชใ้ นเดอื นตุลาคม (31 วัน)

หาพลังงานไฟฟ้าทห่ี ลอดไฟฟ้าใช้

......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

หาพลงั งานไฟฟา้ ทีเ่ ตารดี ใช้
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

หาพลงั งานไฟฟา้ ทีโ่ ทรทศั นใ์ ช้

......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

34

Science ว23101 ใบงานที่ 5 ตวั ตา้ นทาน

หน่วยที่ 6 ชอ่ื -สกุล ชัน้ ม.3/ เลขท่ี

ไฟฟา้

คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนใ้ี หถ้ ูกต้อง

1. ตวั ต้านทานทาหน้าท่ี...........................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
2. ตัวต้านทานแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คอื .......................................................
3. ความต้านทาน ไฟฟ้ามีหนว่ ยเป็น .......................................................
4. การเขยี นตวั ต้านทานคงทใ่ี นแผนภาพ ใช้สญั ลักษณ์คือ

6. การเขยี นตัวต้านทานแปรคา่ ได้ ใชส้ ัญลักษณค์ ือ

7. การสลบั ขาของตัวตา้ นทานท่ีต่อในวงจรไฟฟ้าไมม่ ีผลตอ่ ปรมิ าณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเพราะเหตุใด
ตอบ ตวั ตา้ นทานเป็นชิ้นสว่ นอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ท่ไี ม่มขี ัว้ จงึ สามารถตอ่ สลับขาได้

8. ตวั ตา้ นทานคงทแ่ี ละตวั ต้านทานแปรคา่ ไดค้ วบคุมปริมาณกระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ แตกตา่ งกนั อย่างไร
ตอบ............................................................................................................................. ...........................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................

9. จากภาพเขยี นแผนภาพการต่อตัวต้านทานคงทแี่ ละตัวต้านทานแปรคา่ ได้ในวงจรไฟฟ้าได้ อยา่ งไร

แผนภาพการตอ่ ตวั ตา้ นทานแปรค่าได้ในวงจรไฟฟา้ แผนภาพการตอ่ ตวั ตา้ นทานคงท่ใี นวงจรไฟฟ้า

10. ระบเุ ครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าในบ้านวา่ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าใดใชต้ วั ต้านทานแปรค่าได้
ตอบ ....................................................................................................................................................

35

Science ว23101 ใบงานที่ 6 ไดโอด

หน่วยท่ี 6 ชอ่ื -สกลุ ชนั้ ม.3/ เลขที่

ไฟฟา้

คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ กู ต้อง

1. ไดโอดทาหน้าท่ี...............................................................................................................

2. โดยข้วั บวกของดโอดเรียกว่า ............................... และขว้ั ลบเรยี กว่า ...............................

3. แผนภาพใชส้ ญั ลักษณค์ ือ

4. ส่วนไดโอดทีส่ วา่ งเมื่อมีกระแสไฟฟา้ เคล่ือนท่ีผ่าน เรียกว่า ...............................
5. การเขียนไดโอดเปล่งแสงในแผนภาพใช้สญั ลกั ษณค์ ือ

6. การใช้งานไดโอดและไดโอดเปล่งแสงต้องตอ่ ขว้ั ใหถ้ กู ตอ้ ง คือตอ่ ...............................ข้วั บวกของ
แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ และตอ่ ...............................ข้ัวลบของแหล่งกาเนิดไฟฟ้า
7. การสลับขาของไดโอดมผี ลตอ่ การเคล่อื นทีข่ องกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า เพราะเหตุใด
ตอบ............................................................................................................................. .....................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

8. การระบุขัว้ ของไดโอดและไดโอดเปลง่ แสงทาไดอ้ ย่างไร
ตอบ ................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
9. จะเขียนแผนภาพการตอ่ ไดโอดและไดโอดเปลง่ แสงในวงจรไฟฟ้าทหี่ ลอดไฟฟา้ สวา่ งได้ อยา่ งไร

แผนภาพการตอ่ ไดโอดในวงจรไฟฟา้ แผนภาพการต่อไดโอดเปลง่ แสงในวงจรไฟฟา้

36

Science ว23101 ใบงานท่ี 7 ตัวเกบ็ ประจุ

หน่วยที่ 6 ชอ่ื -สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขท่ี

ไฟฟา้

คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ ง

1. ตวั เก็บประจุ......................................................................................................................

2. ความสามารถในการเก็บประจุไฟฟ้าของตัวเกบ็ ประจเุ รยี กวา่ .......................มีหน่วยเปน็ ...................

3. ตวั เก็บประจใุ ชส้ ัญลกั ษณใ์ นวงจรคือ

4. เมอ่ื ต่อตัวเกบ็ ประจุเข้ากบั แหลง่ กาเนิดไฟฟา้ ตัวเกบ็ ประจุจะรบั ประจไุ ฟฟา้ มาเกบ็ ในตัว
...............................และเมอ่ื ต่อลวดตวั นาหรอื อุปกรณ์ไฟฟา้ และชนิ้ สว่ นอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ขา้ กับตัวเกบ็ ประจุ
ทไี่ ดร้ บั การประจแุ ลว้ ตัวเกบ็ ประจจุ ะคายประจุไฟฟา้ ออกมาเรยี กว่า ...............................
5. จะเขยี นแผนภาพการตอ่ ตวั เกบ็ ประจุในวงจรไฟฟา้ ขณะท่ีมีการประจแุ ละมกี ารคายประจไุ ดอ้ ย่างไร

แผนภาพการตอ่ ตวั เกบ็ ประจุกบั ถ่านไฟฉายใน แผนภาพการตอ่ ตวั เกบ็ ประจกุ ับไดโอดเปล่งแสงใน
วงจรไฟฟา้ ขณะทมี่ กี ารประจุได้ วงจรไฟฟ้าขณะทีม่ กี ารคายประจไุ ด้

37

Science ว23101 ใบงานท่ี 8 ทรานซสิ เตอร์

หน่วยท่ี 6 ชอ่ื -สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขท่ี

ไฟฟ้า

คาช้แี จง ให้นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง

1. ทรานซิสเตอรท์ าหนา้ ท่ี.....................................................................................................

........................................................................................................................................................
2. ทรานซสิ เตอร์จะเริ่มทางาน เม่ือความต่างศกั ยไ์ ฟฟา้ ระหวา่ งขาเบสและขาอิมติ เตอร์หรอื สายรว่ มหรือ
กราวด์ ประมาณ ...............................
3. ทรานซิสเตอร์แบง่ เป็น 2 ชนดิ คอื ...............................
4. ทรานซสิ เตอร์ใช้สญั ลกั ษณ์ในวงจรไฟฟา้

- ชนดิ เอน็ พเี อน็ - ชนดิ พเี อน็ พี

5. จะเขยี นแผนภาพการตอ่ ทรานซสิ เตอรใ์ นวงจรไฟฟ้าในขณะท่ที รานซสิ เตอรท์ างานได้ อย่างไร

38

Science ว23101 ใบงานท่ี 9 อเิ ล็กทรอนกิ ส์

หน่วยท่ี 6 ชอ่ื -สกุล ช้ัน ม.3/ เลขที่

ไฟฟา้

คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ต้อง

1. การคานวณพลงั งานไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟา้ ทาได้อย่างไร

ตอบ ................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

2. การใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าให้ประหยดั และปลอดภยั ทาไดอ้ ย่างไร
ตอบ ................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................

3. วงจรไฟฟา้ ท่ปี ระกอบด้วยออดไฟฟ้า ตวั ตา้ นทานคงท่ี ทรานซิสเตอร์ชนดิ NPN เบอร์ C458
และถ่านไฟฉาย จานวน 4 กอ้ น ดงั ภาพ

3.1 จากภาพวงจรไฟฟา้ สบื ค้นสญั ลักษณข์ องออดไฟฟ้าทใี่ ชใ้ นวงจรและเขียนแผนภาพแสดง
วงจรไฟฟ้าได้ อย่างไร

39

Science ว23101 ใบงานที่ 9 อิเล็กทรอนกิ ส์

หนว่ ยที่ 6 ชอ่ื -สกลุ ชนั้ ม.3/ เลขท่ี

ไฟฟ้า

คาช้แี จง ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ ง

3.2 ทรานซสิ เตอร์ควบคุมใหอ้ อดไฟฟ้าทางานไดอ้ ยา่ งไร
ตอบ ...................................................................................................................................................

...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. การปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ไฟฟา้ ในบ้านเกิดไฟฟา้ ลัดวงจร ควรทาอยา่ งไร
ตอบ ..................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
5. การเลือกใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ให้ประหยดั ถูกตอ้ ง และปลอดภัย ควรทาอย่างไร

ชนดิ ของเครื่องใชไ้ ฟฟา้ วิธีการใชอ้ ย่างถกู ต้อง ประหยดั และคมุ้ ค่า
โทรทัศน์

เครือ่ งปรับอากาศ

หม้อหงุ ข้าว
หลอดไฟฟา้

40

Science ว23101 ใบงานท่ี 1 ระบบนเิ วศ

หน่วยท่ี 7ระบบนเิ วศ ชอ่ื -สกลุ ช้ัน ม.3/ เลขที่

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกตอ้ ง

1. บริเวณที่ส่ิงมชี ีวติ อาศยั อยเู่ รียกวา่ อะไร
ตอบ............................................................................................................................. ....................
2. คาว่าประชากรกับกลุ่มส่ิงมีชีวติ เหมือนหรือแตกตา่ งกันอย่างไร
ตอบ............................................................................................................................. .......................
...........................................................................................................................................................
3. ระบบนิเวศคอื อะไร เรากาหนดขอบเขตของระบบนิเวศอย่างไร
ตอบ............................................................................................................................. .......................
..........................................................................................................................................................
4. ระบบนเิ วศประกอบดว้ ยอะไร
ตอบ............................................................................................................................. .......................
..........................................................................................................................................................
5. องคป์ ระกอบสาคญั ในระบบนเิ วศมี 2 สว่ น คืออะไร
ตอบ............................................................................................................................. .......................
..........................................................................................................................................................

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นนาขอ้ ความท่ีกาหนดใหเ้ ติมลงในขอ้ ความใหถ้ กู ต้อง

แหลง่ ที่อยู่ ประชากร กลุ่มส่งิ มีชวี ติ
กลุ่มสง่ิ มีชีวติ ระบบนิเวศ องคป์ ระกอบที่มีชวี ิต

..................................คอื บรเิ วณท่สี ่งิ มีชวี ิตเหล่านี้อาศัยอยู่
..................................คือ สงิ่ มีชีวิตชนดิ เดียวกนั ท่อี าศยั อยู่ในแหล่งทอ่ี ยู่เดยี วกนั ในช่วงเวลาหนง่ึ

..................................คือ ประชากรของสิ่งมชี ีวิตหลาย ๆ ชนดิ ทอ่ี าศยั อย่ใู นแหลง่ ทีอ่ ย่เู ดยี วกันและมี
ความสัมพนั ธ์กัน

..................................คือ ระบบท่กี ลุ่มส่งิ มชี ีวิตอาศัยในแหล่งท่ีอยู่เดยี วกัน มคี วามสัมพนั ธ์ซึ่งกนั และกัน
และมคี วามสัมพนั ธก์ ับแหลง่ ท่ีอยูน่ น้ั ซึ่งการกาหนดขอบเขตของระบบนเิ วศ
ข้นึ อยกู่ บั ผ้ทู ่ศี กึ ษาเปน็ ผกู้ าหนด

41

Science ว23101 ใบงานท่ี 2 องคป์ ระกอบภายในระบบนเิ วศ

หนว่ ยท่ี 7ระบบนเิ วศ ชอ่ื -สกุล ชั้น ม.3/ เลขท่ี

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเติมคาลงในชอ่ งวา่ งทกี่ าหนดใหถ้ กู ตอ้ ง

เช่น

องค์ประกอบภายในระบบนเิ วศ คอื

เชน่

ประเภทระบบนเิ วศ องคป์ ระกอบที่มชี วี ิต องคป์ ระกอบท่ไี มม่ ีชวี ติ
ระบบนเิ วศสระน้า
42
ระบบนเิ วศสนามหญา้

ระบบนิเวศสวนหยอ่ ม

ผักบุ้ง หญ้า ตั๊กแตน
ดว้ งเต่าทอง หนอน

Science ว23101 ใบงานท่ี 3 ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ

หน่วยท่ี 7ระบบนเิ วศ ช่ือ-สกุล ช้นั ม.3/ เลขที่

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกตอ้ ง

1. ผ้ผู ลิตต่างจากผูบ้ รโิ ภคอย่างไร
ตอบ............................................................................................................................. ......................
.........................................................................................................................................................
2. ถา้ พิจารณาตามอาหารที่กนิ เราสามารถแบ่งผ้บู ริโภคได้กี่กล่มุ อะไรบา้ ง
ตอบ............................................................................................................................. ......................
.........................................................................................................................................................
3. ถ้าระบบนเิ วศไม่มผี ยู้ ่อยสลายสารอินทรีย์จะเกิดอะไรข้นึ
ตอบ............................................................................................................................. ....................
4. สงิ่ มชี ีวิตในระบบนเิ วศแบง่ เป็น 3 ชนิด ไดแ้ ก่
ตอบ............................................................................................................................. ....................
5. ยกตวั อยา่ งสงิ่ มชี ีวิตท่ีเป็นสิ่งมีชวี ติ กนิ พชื สง่ิ มชี วี ิตกินสัตว์ สงิ่ มีชีวติ กนิ พืชและสตั ว์ และสัตว์กินซาก
มา อยา่ งละ 2 ชนิด

สงิ่ มีชีวติ กินพชื เชน่ ................................................................
สิง่ มีชีวติ กินพืชและสตั ว์ เช่น ................................................................
สัตวก์ นิ ซาก เช่น ................................................................

คาชี้แจง ให้นักเรียนนาขอ้ ความทีก่ าหนดใหเ้ ตมิ ลงในข้อความให้ถกู ตอ้ ง

ผูผ้ ลติ ผูบ้ ริโภค ผู้ย่อยสลายสารอินทรยี ์

1. ส่งิ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศตา่ งมีบทบาทและหน้าที่แตกตา่ งกนั ส่ิงมีชีวติ ทีส่ ามารถสรา้ งอาหารได้เองโดยใช้
กระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง สิ่งมชี ีวิตกลุ่มนีม้ บี ทบาทเปน็ ..................................
2. สิง่ มีชวี ติ ท่ีไม่สามารถสร้างอาหารไดเ้ อง ตอ้ งกนิ สงิ่ มชี วี ิตอ่ืนเปน็ อาหาร สิง่ มีชีวติ กลุ่มนีม้ ีบทบาทเปน็
..................................
3. .................................. สามารถแบง่ ออกเปน็ ส่งิ มีชีวิตกนิ พชื ส่ิงมีชวี ิตกนิ สตั ว์ สิง่ มชี ีวติ กนิ พืชและสตั ว์
และสัตว์กินซาก
4. ..................................จะยอ่ ยซากสงิ่ มีชีวติ ที่ตายลง เพ่อื ดดู ซึมไปใช้บางส่วน สว่ นท่ีเหลอื จะอยู่ใน
สิ่งแวดลอ้ ม ซ่ึงผผู้ ลิตสามารถนาไปใชใ้ นการดารงชวี ติ ต่อไป
5. ..................................ทาใหเ้ กดิ การหมุนเวียนของสารเป็นวฏั จกั ร

43

Science ว23101 ใบงานที่ 4 สายใยอาหารในระบบนเิ วศ

หนว่ ยที่ 7ระบบนเิ วศ ช่ือ-สกุล ช้ัน ม.3/ เลขท่ี

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชี้แจง หว่ งโซอ่ าหารต่อไปน้ี ให้นกั เรียนตอบคาถามขอ้ 1-2 ใหถ้ ูกต้อง

1. ระบบุ ทบาทของส่งิ มชี ีวติ ในหว่ งโซ่อาหาร

- ผูผ้ ลิต คอื ..................................

- ผู้บรโิ ภคลาดับท่ี 1 คอื ..................................

- ผูบ้ ริโภคลาดบั ท่ี 2 คอื ..................................

- ผบู้ ริโภคลาดับสดุ ท้าย คอื ..................................

2. ถา้ ไมม่ กี บในโซอ่ าหารและงูสามารถกินตั๊กแตนทดแทนกบได้ ลาดับของการบรโิ ภคจะ

เปล่ียนแปลงอย่างไร

ตอบ............................................................................................................................. ..............

..................................................................................................................................................
คาช้แี จง ให้นักเรียนนาข้อความเติมลงในข้อความใหถ้ ูกตอ้ ง

3. ..................................ส่ิงมีชีวติ จะมีการกนิ กนั เป็นทอด ๆ เริม่ ตน้ จากผ้ผู ลิต ผบู้ ริโภค ลาดับที่ 1

ผูบ้ รโิ ภคลาดับท่ี

2 และตอ่ ไปเรอื่ ย ๆ เปน็ ลักษณะคลา้ ยโซท่ ตี่ อ่ กนั เป็นสายยาว

4. ..................................คอื ความสัมพนั ธ์ของโซอ่ าหารท่ีมีความซบั ซอ้ นหรือมมี ากกว่าหนึ่ง โซอ่ าหารที่

สมั พนั ธก์ นั

5. ความสัมพนั ธ์ในภาพเรียกว่า ................................................................
6. สายใยอาหารมหี ว่ งโซอ่ าหารทัง้ หมดคือ ................................................................
7. ผ้บู ริโภคลาดับที่ 2 ได้แก่................................................................

44

Science ว23101 ใบงานท่ี 4 สายใยอาหารในระบบนเิ วศ

หนว่ ยที่ 7ระบบนเิ วศ ชื่อ-สกุล ชัน้ ม.3/ เลขท่ี

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชี้แจง ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ต้อง

8. มีโซอ่ าหารทัง้ หมดกี่โซ่อาหาร ยกตวั อย่างอย่างนอ้ ย 5 ตัวอย่าง
ตอบ............................................................................................................................. .......................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

9. ถ้าชาวนาจบั กบไปขายจนประชากรของกบเหลือน้อยมาก จะเกิดผลกระทบตอ่ สิ่งมชี ีวิตในสายใยอาหาร
น้ีอยา่ งไรบ้าง
ตอบ............................................................................................................................. .......................
...........................................................................................................................................................
10. โซอ่ าหารกับสายใยอาหารแตกต่างกันอยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................. .......................
...........................................................................................................................................................

45

Science ว23101 ใบงานที่ 5 สรา้ งแบบจาลองสายใยอาหาร

หนว่ ยที่ 7ระบบนเิ วศ ช่อื -สกลุ ชน้ั ม.3/ เลขที่

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนสร้างแบบจาลองสายใยอาหารจากสงิ่ มชี ีวติ ทก่ี าหนดใหใ้ หถ้ กู ตอ้ ง

ช่อื สง่ิ มีชีวิต อาหารท่บี ริโภค

ต้นหญ้า -

ตน้ ขา้ ว -

นกกระจอดเทศ ต้นขา้ ว ตก๊ั แตน

เปด็ หอยเชอร่ี

หอยเชอรี่ ต้นหญา้ ตน้ ขา้ ว

ตั๊กแตน ตน้ หญา้ ต้นข้าว

งเู หลือม หอยเชอรี นกกระจอก เป็ด

โซ่อาหาร ของระบบนิเวศนาขา้ ว

สายใยอาหาร ของระบบนิเวศนาข้าว

46

Science ว23101 ใบงานท่ี 6 การถา่ ยทอดพลงั งานและการสะสมสารพษิ

หนว่ ยท่ี 7ระบบนเิ วศ ชื่อ-สกลุ ชน้ั ม.3/ เลขที่

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง

1. โซอ่ าหารจากสถานการณ์น้เี ป็นอยา่ งไร และสง่ิ มชี ีวิตแต่ละชนิดมบี ทบาทอย่างไร
ตอบ............................................................................................................................. ......................
.........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
2. จากโซ่อาหารน้ปี ริมาณพลงั งานจากสาหรา่ ยทถ่ี ่ายทอดไปยังผ้บู รโิ ภคลาดับต่าง ๆ เปลีย่ นไปอย่างไร
ตอบ............................................................................................................................. ......................
.........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
3. สารพิษในระบบนิเวศเร่มิ ต้นสะสมอยใู่ นสิ่งมีชวี ิตชนดิ ใดเปน็ ลาดับแรก
ตอบ............................................................................................................................. ......................
4. ในลาดบั ของโซ่อาหาร สง่ิ มชี ีวติ ใดสะสมสารพษิ มากท่ีสดุ เพราะเหตใุ ด
ตอบ............................................................................................................................. ......................
.........................................................................................................................................................
5. เหตุใดผบู้ รโิ ภคลาดบั ท่สี งู กวา่ จงึ มีปรมิ าณสารพิษสะสมในร่างกายมากกวา่ ผบู้ รโิ ภคลาดับท่ตี า่ กว่า
ตอบ............................................................................................................................. ......................
.........................................................................................................................................................
6. ปรมิ าณพลังงานท่ีถ่ายทอดไปตามลาดับขั้นของการบรโิ ภคแตกตา่ งจากปริมาณสารพษิ ที่สะสมในโซ่
อาหาร หรือไม่ อยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................. ......................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

47

Science ว23101 ใบงานที่ 7 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสิง่ มชี วี ติ กบั สิ่งมชี วี ติ

หนว่ ยที่ 7ระบบนเิ วศ ชอ่ื -สกลุ ชน้ั ม.3/ เลขท่ี

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนนาขอ้ ความที่กาหนดให้ เติมลงหน้าข้อความท่มี คี วามสมั พนั ธ์กนั

ภาวะการได้ประโยชน์รว่ มกัน ภาวะพ่ึงพากัน ภาวะองิ อาศัย

ภาวะมีการแข่งขนั ภาวะปรสิต การล่าเหย่อื

…………………………………………………1. นกทารังบนตน้ ไม้
…………………………………………………2. เสือโคร่งกบั กวางดาว
…………………………………………………3. ไลเคน
…………………………………………………4. มดดากับเพลยี้

…………………………………………………5. โพรโทซวั ในลาไส้ปลวก

…………………………………………………7. ต้นไมช้ นดิ ต่าง ๆข้นึ บริเวณเดียวกัน
…………………………………………………8. กาฝากกบั ต้นไม้

…………………………………………………9.ปลาฉลามกับเหาฉลาม
…………………………………………………10 สิงโตกนิ มา้ ลาย

…………………………………………………11. แบคทเี รียไรโซเบียมในปมรากพืชตระกลู ถั่ว
…………………………………………………12. ปูเสฉวนกับดอกไม้ทะเล
…………………………………………………13. ปลาใหญก่ นิ ปลาเล็ก
…………………………………………………14. นกเอี้ยงกบั ควาย
…………………………………………………15. หมดั กบั สุนัข

คาชแ้ี จง จงเตมิ เคร่อื งหมายแสดงความสัมพนั ธ์ของสงิ่ มชี ีวติ และยกตวั อยา่ งส่งิ มีชีวิตท่ีมี
ความสัมพันธ์ตามทกี่ าหนดให้ (กาหนดให้ + แทนการได้ประโยชน์ , - แทนการเสีย
ประโยชน์ , 0 แทนการไมไ่ ดไ้ ม่เสยี ประโยชน์)

ค่สู ่งิ มีชีวติ สง่ิ มีชีวติ ตวั ที่ 1 สงิ่ มีชีวติ ตัวที่ 2

กล้วยไมป้ า่ กับตน้ ยางนา

ตั๊กแตนตาขา้ วกับแมลงปอ

เสือโคร่งกบั กวางดาว

ปลาการต์ ูนกับดอกไม้ทะเล

กาฝากกับมะม่วง

48

Science ว23101 ใบงานที่ 8 ระบบนเิ วศ

หน่วยท่ี 7ระบบนเิ วศ ชอ่ื -สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขท่ี

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง

1. ในระบบนเิ วศแห่งหนึง่ มสี ง่ิ มชี ีวติ อาศัยอย่รู ่วมกนั ดังน้ี
ต้นหญ้า ไส้เดอื นดนิ ตกั๊ แตน ตน้ มะขาม นกพิราบ หนู กระต่าย เหยย่ี ว กบ
1.1 เขียนสายใยอาหารในระบบนเิ วศ

1.2 ส่ิงมีชีวิตชนดิ ใดเป็นผ้ผู ลติ เพราะเหตุใด

ตอบ............................................................................................................................. ...................

1.3 ส่ิงมชี ีวติ ใดเป็นทั้งผู้บริโภคลาดบั ที่ 1 และลาดบั ที่ 2 เพราะเหตุใด

ตอบ............................................................................................................................. ...................

1.4 หากไสเ้ ดอื นดินถกู ทาลายจนหายไปจากระบบนเิ วศน้ี นกั เรียนคดิ ว่าจะสง่ ผลตอ่ ระบบนเิ วศนี้

หรอื ไม่ อยา่ งไร

ตอบ............................................................................................................................. ...................

.......................................................................................................................................................

2. จากสายใยอาหารข้างล่างนี้ ส่งิ มีชีวติ ชนดิ ใดเปน็ ผู้ผลติ สิ่งมีชวี ติ กนิ พชื สง่ิ มชี ีวิตกินสัตว์ สงิ่ มชี ีวิต

กนิ ทง้ั พชื และ สตั ว์ และผ้ยู ่อยสลายสารอินทรีย์ ตอบ....................................................

...........................................................

...........................................................

...........................................................

...........................................................

...........................................................

...........................................................

...........................................................

49

Science ว23101 ใบงานท่ี 8 ระบบนเิ วศ

หน่วยท่ี 7ระบบนเิ วศ ช่ือ-สกลุ ชัน้ ม.3/ เลขท่ี

และความหลากหลายทางชวี ภาพ

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนใี้ หถ้ กู ตอ้ ง

3. ผ้ยู อ่ ยสลายสารอินทรยี ์แตกต่างกบั สตั วก์ ินซากอยา่ งไร

ตอบ............................................................................................................................. .................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

4. ตอบคาถามโดยใชข้ ้อมูลจากกราฟแสดงประชากรของสิง่ มชี ีวติ ทีอ่ ยู่ร่วมกนั โดยมคี วามสัมพนั ธ์ใน
รูปแบบการล่าเหยอ่ื

4.1 สงิ่ มีชีวิตใดเป็นผ้ลู ่าและส่ิงมีชีวติ ใดเปน็ เหยื่อ เพราะเหตใุ ด
ตอบ............................................................................................................................. .................
.....................................................................................................................................................
4.2 อธิบายความสมั พนั ธข์ องกราฟน้ไี ดอ้ ยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................. .................
ดังนน้ั จานวนประชากรของสงิ่ มีชีวติ สองชนิดนี้นับว่ามีการแปรผันตามกัน
4.3 หากสงิ่ มีชีวิต B หายไปจากระบบนเิ วศน้ี จะสง่ ผลตอ่ ส่ิงมชี วี ติ A อย่างไร
ตอบ............................................................................................................................. .................
.....................................................................................................................................................
5. จากโซอ่ าหารท่ีกาหนด ตอบคาถามต่อไปน้ี

5.1 เรยี งลาดบั สิ่งมีชีวิตทม่ี พี ลงั งานสะสมในเน้อื เย่ือจากน้อยทสี่ ุดไปถงึ มากทีส่ ุด
ตอบ............................................................................................................................. .................
5.2 ถ้ามีสารพษิ สะสมอย่ใู นหญา้ สงิ่ มชี วี ติ ใดจะมกี ารสะสมสารพษิ ในร่างกายมากทสี่ ุด เพราะเหตใุ ด
ตอบ............................................................................................................................. .................

50


Click to View FlipBook Version