คำนำ
โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน เป็นโครงการหนึ่งตามนโยบายงาน
การศึกษาต่อเน่ือง และจุดเน้นการดาเนินงานสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา
ตามอัธยาศยั ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มอบหมายแนวทางการขับเคล่ือนงาน กศน. ตามภารกิจ
หนึ่งในภารกิจนั้น สถานศึกษาในสังกัด จึงดาเนินการจัดโครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและ
ชุมชน โดยขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ท่ีสนองตอบยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างการเติบโตบน
คุณภาพชีวิตท่เี ป็นมติ รต่อสิ่งแวดลอ้ ม มกี ารพัฒนาทสี่ าคัญเพื่อนาไปสู่การบรรลเุ ป้าหมายการพัฒนาที่
ย่ังยืนในทุกมิติท้ังมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม ธรรมาภิบาลและความเป็นหุ้นส่วน ความ
รว่ มมือระหวา่ งกันทัง้ ภายในและภายนอกประเทศอย่างบูรณาการใช้พื้นท่ีเป็นตัวต้ังในการกาหนดกล
ยุทธ์ และแผนงานและการใหท้ กุ ฝา่ ย ทเี่ กย่ี วข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากท่ีสุดเท่าท่ี
จะเป็นไปได้ โดยเป็นการดาเนินการบนพ้ืนฐานการเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ
ส่ิงแวดล้อมและคุณภาพชีวิต โดยให้ความสาคัญ กับการสร้างสมดุลทั้ง ๓ ด้านอันจะนาไปสู่
ความยั่งยนื เพอ่ื คนรุ่นต่อไปอยา่ งยง่ั ยนื
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภออุทัย เล็งเห็นถึงความสาคัญ
ตามนโยบายและและจุดเน้นการดาเนินงาน ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ จึงได้ดาเนินการจัดกิจกรรม
โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนข้ึน ขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านและบุคลากร กศน.
อาเภออทุ ัย ที่ใหก้ ารสนับสนนุ การจดั กจิ กรรมโครงการการศึกษาเพอ่ื พฒั นาสงั คมและชุมชน ให้สาเร็จ
เปน็ ท่เี รียบรอ้ ย
(นางสาวรงั สมิ า บญุ เกดิ รัมย์)
ครูอาสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรียน
สำรบัญ หน้า
บทท่ี ๑ บทนา ๑
หลักการและเหตุผล ๑
วัตถปุ ระสงค์ ๑
วธิ ีการดาเนินงาน ๑
เป้าหมาย ๑
ผลท่ีคาดวา่ จะได้รับ
๑๒
บทท่ี ๒ สาระการเรียนรู้ ๑๒
เรอื่ ง การจดั การขยะในชมุ ชนไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ ๑๕
ผลการดาเนินงานการจัดกิจกรรม
-ผลผลติ เชงิ ปริมาณ ๑๖
-ผลผลิตเชงิ คุณภาพ ๑๗
๑๘
บทท่ี ๓ ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู
ตารางท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไป
ตารางที่ 2 ระดับความพึงพอใจตอ่ การจัดกิจกรรม
สรุปความพงึ พอใจต่อการจัดกิจกรรม
ภาคผนวก
บทที่ ๑
บทนำ
หลกั กำรและเหตุผล
ขยะมลู ฝอยเป็นของเสยี ทเ่ี กิดขนึ้ จากการใช้ทรัพยากรของมนุษย์อย่างไม่สมเหตุสมผล ทา
ใหส้ ง่ ผลกระทบกบั การดารงชวี ิตของมนุษย์และส่ิงมีชีวิตอื่นๆ อย่างมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม
การจัดการขยะมลู ฝอยจึงมีความจาเป็นต้องแกท้ ต่ี ้นตอของสาเหตุ คือมนษุ ย์ท่เี ป็นผู้ก่อ ดังน้ันจึงต้องมี
การสร้างจิตสานึกในการ ใช้ทรัพยากร การเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ การจัดการขยะมูล
ฝอย โดยนาแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาใชเ้ ปน็ วิถชี ีวติ พอเพยี งในการดารงชีวิตด้วยการมี
เหตุผล ความพอประมาณ การสร้างภูมิคุ้มกัน ภายใต้เงื่อนไขของความรู้ที่เข้าใจ เข้าถึงหลักในการ
จัดการ โดยท่ีทุกคนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาด้วยเงื่อนไขของคุณธรรม ที่มีความ
รับผิดชอบ การเสียสละ การประหยัด การปฏิบัติต่อระเบียบและกฎหมาย โดยมุ่งหวังให้เศรษฐกิจ
สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมในชุมชน และประเทศชาติ มีทรัพยากรไว้ใช้อย่างสมดุลตลอดไป
อันส่งผลตอ่ คุณภาพชีวติ ท่ีดีของทกุ คนอยา่ งยั่งยืน
วัตถุประสงค์
๑. เพอื่ ใหป้ ระชาชนมคี วามรคู้ วามเข้าใจในหลกั การจัดการขยะในชมุ ชนไปใชใ้ หเ้ กิด
ประโยชน์
๒. เพื่อให้ประชาชนนาความรไู้ ปใชแ้ ละจัดการขยะในชุมชนได้อยา่ งถูกตอ้ ง
วธิ กี ำรดำเนินงำน
๑. สารวจความต้องการของประชาชน
๒. วิเคราะห์ความตอ้ งการของกล่มุ เปา้ หมาย
๓. ประชมุ ชีแ้ จงผูเ้ กีย่ วขอ้ งและแต่งต้งั คณะทางาน
๔. ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
๕. ประเมนิ ผลการดาเนนิ การจัดกจิ กรรม/นิเทศติดตามผล
เปำ้ หมำย
๕.๑ เชงิ ปริมาณ
- ผู้รับบริการ ในพื้นท่อี าเภออุทยั ท้งั ๑๑ ตาบล ๆ ละ ๑๕ คน จานวน ๑๖๕ คน
๕.๒ เชิงคุณภาพ
- ผู้รับบริการทเ่ี ข้าร่วมกจิ กรรมร้อยละ ๘๐ ไดร้ ับความรู้สามารถนาความรู้ทไี่ ด้รบั ไปปรับ
ใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้
ผลทีค่ ำดวำ่ จะได้รบั
- ประชาชนนาความรู้ไปใชแ้ ละจดั การขยะในชุมชนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
- ประชาชนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในหลกั การจัดการขยะในชมุ ชนไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์
บทท่ี ๒
สำระกำรเรยี นรู้
ในการดาเนินการจดั กจิ กรรม โครงการจัดและสง่ เริมการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชนใน
คร้ังนี้ ผู้จัดได้ดาเนินการให้ความรู้และประเมินผลการจัดกิจกรรม โดยมีกรอบสาระความรู้ในเร่ือง
ดังตอ่ ไปนี้
-อบรมใหค้ วามรู้ในหลักสตู รการจัดการขยะในชมุ ชนไปใช้ให้เกิดประโยชน์
กำรพัฒนำตนเอง
ความหมายของ “การพัฒนา”(Development) หมายถึง การทาให้ดขี ึ้น ใหเ้ จรญิ ข้ึนเป็นการ
เพมิ่ คณุ ค่าของส่ิงต่างๆ การพัฒนาอาจพฒั นาจากส่ิงท่มี อี ยเู่ ดิมหรอื สร้างสรรค์ส่งิ ใหมข่ ้นึ มาได้
ความหมายของ การพฒั นาตนเอง (Self Development) หมายถงึ ความต้องการของบุคคล
ในการท่ีจะพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนจากที่เป็นอยู่ ให้มีความรู้ ความสามารถเพ่ิมข้ึนเกิด
ประโยชน์ต่อตนเองและหน่วยงาน อีกท้ังยังเป็นการพัฒนาตนเองตามศักยภาพของตนให้ดีข้ึนท้ัง
ทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและ สติปัญญาเพื่อเป็นสมาชิกที่มีประสิทธิภาพของสังคม
เปน็ ประโยชนต์ ่อผอู้ ื่น ตลอดจนเพื่อการดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งมคี วามสขุ
หลักการพัฒนาตนเอง การพัฒนาตนเองเป็นการพัฒนาคุณสมบัติที่อยู่ในตัวบุคคล เป็นการ
จดั การตนเองใหม้ เี ปา้ หมายชีวติ ที่ดี ท้ังในปัจจบุ นั และอนาคต การพัฒนาตนเองจะทาให้บุคคลสานึก
ในคณุ คา่ ความเป็นคนได้มากย่ิงข้นึ
วธิ ีการพัฒนาตนเอง องคก์ ร หน่วยงานต่างๆ มีจุดมุ่งหมายท่ีจะพัฒนาบุคลากรของตน ให้มี
ประสิทธิภาพสูงสุด เป็นผู้ทรงคุณค่า การท่ีบุคลากรได้รับการพัฒนาน้ัน จะเป็นหลักประกันได้ว่า
หนว่ ยงานนั้นจะสามารถรักษาบุคลากรไวไ้ ดย้ าวนาน และเปน็ ทรพั ยากรมนษุ ย์ท่มี คี า่ สงู ขององค์กรน้ัน
ตอ่ ไป ซ่งึ มวี ธิ ีการพัฒนาตนเองโดยการฝึกอบรม ตามหลักวชิ าการ ดังน้ี
๑. การลงมอื ฝึกปฎิบตั จิ รงิ
๒. การบรรยายในหอ้ งเรยี น
๓. การลงมือปฎบิ ัตงิ านจริง นอกเวลางานควบคู่กันไป
๔. การอบรมเพม่ิ เติม
๕. การฝกึ จาลองเหตกุ ารณ์ และใชว้ ธิ ีการอน่ื ๆ
๖. การศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้ดว้ ยตนเองจากแหล่งความรู้ต่างๆแล้วนามาประยุกต์ใช้ให้เป็น
ประโยชนอ์ ยู่เสมอ
เมือ่ บุคคลได้มีการพัฒนาตนเองได้อย่างสมบูรณ์แล้ว จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆกับตนเอง
รวมถงึ ประโยชนจ์ ากการเก่ยี วข้องกบั บุคคลอน่ื และสงั คมดังน้ี
๑. ประโยชน์ท่ีจะเกดิ ขน้ึ กบั ตนเอง
๒. ประโยชนจ์ ากการเก่ียวขอ้ งกับบุคคลอนื่ และสังคม
การดาเนินการพฒั นาตนเอง เปน็ การลงมือปฎิบตั เิ พื่อเสริมสร้างตนเองให้บรรลุวัตถุประสงค์
ตามท่ีกาหนดไว้ ควรดาเนินการ ดังตอ่ ไปนี้
๑. การหาความรเู้ พมิ่ เติม
๒. การเพมิ่ ความสามารถและประสบการณ์
กำรพฒั นำชุมชน
การพัฒนาชมุ ชนเป็นการนาคาสองคามารวมกัน คือคาว่า“การพัฒนา”กับคาว่า“ชุมชน” ซึ่ง
ความหมายของคาว่า“การพัฒนา”ไดก้ ล่าวถงึ แล้วในเร่อื งของการพัฒนาตนเองในท่นี ีจ้ ะกล่าวถงึ
ควำมหมำยของชุมชน
ความหมายของ “ชุมชน”(Community) หมายถึง กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน
มีความรูส้ ึกเป็นพวกเดยี วกัน มคี วามศรัทธา ความเชื่อ เช้ือชาติ การงาน มีความสนใจ และปฎิบัติตน
ในวถิ ีชีวติ ประจาวนั ท่ีคล้ายคลึงกนั มคี วามเอ้อื อาทรต่อกัน
ควำมหมำยของ “กำรพัฒนำชมุ ชน”
การพัฒนาชุมชน (Community Development)หมายถีง การทาให้ชุมชนมีการ
เปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดีข้ึน หรือเจริญขึ้นทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้น ประชาชนในชุมชนนั้นๆร่วมกัน
วางแผนและลงมือกระทาเองกาหนดว่ากลุ่มของตนเองและของแต่ละคนต้องการ และมีปัญหาอะไร
เพื่อให้ได้มาในส่ิงท่ีต้องการและสามารถแก้ไขปัญหาน้ัน โดยใช้ทรัพยากรในชุมชนให้มากท่ีสุด
ถ้าจาเปน็ อาจขอความชว่ ยเหลอื จากรฐั บาลและองคก์ รตา่ งๆสนับสนุน
ดังนั้น เมอื่ นาคาวา่ “การพฒั นา”รวมกับ “ชมุ ชน”แลว้ ก็จะไดค้ วามหมายวา่ การพัฒนาชุมชน
ก็คือ การเปลี่ยนแปลงชุมชนให้ดีข้ึน หรือให้เจริญข้ึนในทุกๆด้านนั่นเอง นั่นคือจะต้องพัฒนาคน
กลุ่มชน สิ่งแวดล้อมทางวัตถุหรือสาธารณสมบัติ และพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้บัง
เกดิ ผลดีแก่ประเทศชาติโดยส่วนรวม
ปรัชญาขั้นมูลฐานของงานพัฒนาชุมชน สรปุ ได้ดังน้ี
๑. บุคคลแต่ละคนย่อมมีความสาคัญ และมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน จึงมีสิทธิ
อันพึงได้รับการปฎบิ ัตดิ ว้ ยความยตุ ธิ รรม และอยา่ งบุคคลมีเกยี รตใิ นฐานะทเ่ี ป็นมนุษย์ปถชุ นผ้หู นึง่
๒. บุคคลแต่ละคนย่อมมีสิทธิ และสามารถที่จะกาหนดวิธีการดารงชีวิตของตนไปในทิศทาง
ท่ีตนต้องการ
๓. บุคคลแต่ละคนถ้าหากมีโอกาสแล้ว ย่อมมีความสามารถที่จะเรียนรู้ เปล่ียนแปลงทัศนะ
ประพฤติปฎิบัตแิ ละพฒั นาขีดความสามารถใหม้ ีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมสูงข้นึ ได้
๔. มนุษย์ทุกคนมพี ลงั ในเรือ่ งความคิดรเิ รื่ม ความเป็นผู้นา และความคิดใหม่ๆซึ่งซ่อนเร้นอยู่
และพลังความสามารถเหลา่ น้สี ามารถเจรญิ เติบโต และนาออกมาใช้ได้ ถ้าพลังท่ีซ่อนเร้นเหล่าน้ีได้รับ
การพัฒนา
๕. การพัฒนาพลังและขีดความสามารถของชุมชนในทุกด้านเป็นส่ิงที่พึงปรารถนาและมี
ความสาคัญยง่ิ ตอ่ ชีวติ ของบคุ คล ชุมชน และรฐั
โครงกำรจดั และส่งเสริมกำรศึกษำเพ่อื พัฒนำสงั คมและชุมชน มีกรอบสำระควำมรู้ดังน้ี
อบรมใหค้ วำมรู้ในหลักสตู รกำรจัดกำรขยะในชุมชนไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
ขยะมูลฝอย คืออะไร ขยะหรือขยะมูลฝอย (Refuse or Solid Waste ) หมายถึง ของเสียท่ี
อยใู่ นรูปของแข็ง ซงึ่ อาจจะมีความชื้นปะปนมา ด้วยจานวนหน่ึง ขยะท่ีเกิดข้ึนจากอาคารที่พักอาศัย
สถานทีท่ าการโรงงานอุตสาหกรรม หรือตลาดสดก็ตามจะมีปริมาณและ ลักษณะแตกต่างกันออกไป
โดยปกติแล้ววัตถุต่างๆ ที่ถูกท้ิงมาในรูปของขยะน้ัน จะมีท้ังอินทรีย์สารและอนินทรีย์สาร สารวัตถุ
ต่างๆ เหล่าน้ีบางชนิดก็สามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในเวลา อันรวดเร็ว โดยเฉพาะพวก
เศษอาหารเศษพชื ผกั แตบ่ างชนดิ กไ็ ม่อาจจะย่อยสลายได้เลย เช่น พลาสติก เศษแกว้ เป็นต้น
ประเภทขยะมูลฝอย
๑. ขยะอินทรีย์ คือ ขยะท่ีเน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว สามารถนามาทาปุ๋ยหมักได้ เช่น
เศษผกั เปลือกผลไม้ เศษอาหาร ใบไม้ เศษเนื้อสตั ว์ฯ
๒. ขยะรไี ซเคลิ คอื ของเสยี บรรจุภัณฑ์หรือวัสดุเหลือใช้ ซ่ึง สามารถนากลับมาใช้ประโยชน์
ใหม่ได้ เช่น แก้ว กระดาษ กระป๋องเครื่องดื่ม เศษพลาสติก เศษโลหะ อลูมิเนียม ยางรถยนต์ กล่อง
เครื่องดมื่ แบบยูเอชทฯี
๓. ขยะท่ัวไป คือ ขยะประเภทอื่นนอกเหนือจากขยะย่อยสลาย ขยะรีไซเคิล และขยะ
อันตราย มีลักษณะย่อยสลายยาก และไม่คุ้มค่าสาหรับการนากลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ เช่น
ห่อพลาสติกใส่ขนม ถุงพลาสติกบรรจุผงซักฟอก พลาสติกห่อลูกอม ซองบะหมี่ ก่ึงสาเร็จรูป
ถุงพลาสติกเปื้อนอาหาร โฟมเปื้อนอาหาร ฟอยล์เป้ือนอาหาร ซองหรือถุงพลาสติกสาหรับบรรจุ
เครอ่ื งอปุ โภคด้วยวิธีรีดความรอ้ นฯ
๔. ขยะอันตราย คือ ขยะที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออาจทาให้เกิด
อันตรายต่อบุคคล สัตว์ พืช เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่โทรศัพท์เคล่ือนที่
ภาชนะท่ีใช้ บรรจสุ ารกาจดั แมลงหรอื วัชพชื กระป๋องสเปรย์บรรจสุ ีหรอื สารเคมี ฯ
แหลง่ กาเนิดขยะมลู ฝอย แหลง่ กาเนดิ และประเภทขยะมูลฝอยจากกิจกรรมต่างๆขยะเป็นสิ่ง
ทเ่ี หลือใช้ หรือส่งิ ทไ่ี มต่ อ้ งการอกี ตอ่ ไป สามารถแบง่ ตามแหล่งกาเนดิ ไดด้ งั น้ี
๑. ของเสียจากอตุ สาหกรรม โรงงานต่างๆ
๒. ของเสยี จากโรงพยาบาลและสถานท่ศี กึ ษาวิจัย
๓. ของเสียจากภาคเกษตรกรรม เชน่ ยาฆ่าแมลง ปยุ๋ มูลสตั ว์น้าท้งิ จากการทาปศุสัตว์ฯลฯ
๔. ของเสยี จากบา้ นเรือนแหลง่ ชมุ ชน เช่น หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ แก้ว เศษอาหาร
พลาสตกิ โลหะ หินไม้ กระเบอ้ื ง หนงั ยาง ฯลฯ
๕. ของเสยี จากสถานประกอบการในเมือง เช่น ภตั ตาคาร ตลาดสด วัด สถานเรงิ รมย์
การคดั แยกขยะ
ในปัจจุบนั ปญั หาขยะเปน็ ปญั หาทีส่ าคัญเน่ืองจากปริมาณขยะที่เกิดข้ึนในแต่ละวันมีจานวน
มาก ถ้าหากมีประชากรเพ่ิมขน้ึ เรื่อยๆ แตม่ ีแนวทางลดปรมิ าณขยะอนาคตจะก่อให้เกิดปัญหาที่จะก่อ
ผลกระทบ ในดา้ นตา่ งๆ ในชุมชนหรือองค์กร ไดแ้ ก่
-ชมุ ชนหรือองค์กรสกปรกเสียทศั นยี ภาพ
-เปน็ แหล่งเพาะเช้อื โรคเป็นแหล่งปนเปอื้ นสารพิษแหล่งนา้ เน่าเสีย
-ท่อระบายน้าอุดตัน อากาศเป็นพิษ ขยะบางชนิดยอ่ ยสลายยาก
สาเหตุทเี่ ราทกุ คนควรคดั แยกขยะ
การณรงค์ใหป้ ระชาชนทกุ คนชว่ ยกันคัดแยกขยะเป็นแนวทางท่ีจะลดปรมิ าณและเกิดผล
มหาศาล ดังนี้
๑. สามารถลดปริมาณขยะลงได้
๒. สามารถประหยัดงบประมาณลงได้
๓. สามารถนากลับมาใชใ้ หม่
๔. สามารถลดการใชท้ รพั ยากรและพลงั งาน
๕. สามารถช่วยใหส้ งิ่ แวดลอ้ มดขี ้นึ
การเผาขยะ สามารถทาลายขยะมูลฝอยได้เกือบทุกชนิด เตาเผามีหลายชนิดข้ึนอยู่กับ
ลักษณะของขยะมูลฝอย ถ้าเป็นประเภทท่ีติดไฟง่าย เราสามารถใช้เตาเผาชนิดท่ีไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง
ช่วย แตถ่ า้ ขยะมูลฝอย มคี วามชนื้ มากกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ เตาเผาขยะต้องเป็นชนิดท่ีใช้เช้ือเพลิงจากพวก
น้ามันเตาช่วยในการเผาไหม้ การเผาในเตาเผาใช้เนื้อที่น้อย ส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้ เช่น ข้ีเถ้า
สามารถนาไปใช้ถมที่ดนิ หรอื ใช้ประโยชนอ์ ย่างอืน่ ได้
การฝังกลบทาไดโ้ ดยนาขยะมูลฝอยมาเทลงในพ้ืนท่ีทีเ่ ตรียมเอาไว้แล้วกลบด้วยดินและบดให้
แนน่ อกี ครั้งหน่ึง การฝังกลบไม่สร้างความราคาญและเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม พื้นท่ีบางแห่ง
เม่อื ถมเสร็จเรยี บรอ้ ยอาจนาไปใช้ประโยชนอ์ นื่ ๆ เช่น ทาเป็นสวนหย่อม สนามกีฬา เปน็ ต้น
รปู โรงกำจัดขยะ
การแปรสภาพขยะมูลฝอยเป็นพลงั งาน คือการนา ขยะมูลฝอยที่ติดไฟได้มาทาเปน็ เชอื้ เพลิง
สาหรับตม้ นา้ หรอื ผลติ ไอนา้ เพือ่ ไปหมนุ เครื่องกาเนิดไฟฟ้าได้
การหมกั ทาปยุ๋ ใชว้ ธิ ีนาขยะมูลฝอยที่ส่วนมากเน่าเป่ือยได้ มาผ่านขบวนการบดหมักทาลาย
ของโรงงานกาจัดขยะมูลฝอย เพื่อให้เกดิ การย่อยสลายตวั ขยะมูลฝอยท่ีผ่านการหมักแล้ว จะถูกนาไป
ผ่งึ ตอ่ ทลี่ านผึ่งประมาณ ๔๐ -๖๐ วัน เพอื่ ให้การย่อยสลายเปน็ ไปโดยสมบรู ณ์ จากน้ันจะถูกนาไปร่อน
แยกเอาส่วนท่ีจะใช้เปน็ ป๋ยุ ตอ่ ไป ขยะมูลฝอยมีจานวนเพิ่มมากข้ึนทุกวันตามจานวนประชากร ถ้าเรา
มักง่าย ไม่ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางจะเป็นปัญหาต่อสภาพแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อ สุขภาพของ
เรา กองขยะมลู ฝอยเปน็ แหลง่ สะสมสิ่งสกปรก นอกจากจะส่งกล่ินเหม็น ทาให้อากาศเป็นพิษ ยังเป็น
ท่ีอาศัยของสัตว์นาโรค เช่น ยุง แมลงวัน และหนู เป็นแหล่งแพร่ เช้ือโรคอย่างดี เราทุกคนจึงควร
ชว่ ยกนั ทง้ิ ขยะมลู ฝอยใหเ้ ป็นระเบียบ บา้ นเมอื งของเราจะได้สวยงาม สะอาด ร่มรื่น และไม่มีมลพิษ
เศษกระดาษ เศษถุงพลาสตกิ เศษผัก เศษอาหาร ใบไม้ ซากสตั ว์ รวมถึงวัตถุอื่นๆ ที่มนุษย์ไม่ต้องการ
เรียกว่า ขยะมูลฝอย ขยะมูลฝอยเกิดจากกิจกรรมใน บ้านเรือน โรงงาน โรงเรียน ตลาด ร้านค้า
ข้างถนน บรเิ วณทมี่ กี ารก่อสร้าง และทกุ แห่งท่ีมมี นษุ ยอ์ ยู่ เปน็ ต้น
วสั ดุทตี่ อ้ งเตรยี ม
๑. เศษอาหารในครัวเรอื น ๓ กโิ ลกรัม
๒. กากน้าตาล ๒ กโิ ลกรมั (หรือนา้ ตาลทรายแดง ๑ กิโลกรมั )
๓. น้าหมักชวี ภาพจากหนอ่ กลว้ ย ๒๐๐ ซซี ี (ประมาณ ๑ แกว้ ) หรือใช้สารเร่ง พด.๖
๔. นา้ ๑ ลิตร (หากเศษอาหารมีน้าแกงอยู่แล้วไมต่ ้องเติมน้าเปล่าเพิม่ )
วิธที ำ
๑. ช่ังน้าหนกั เศษอาหารทีไ่ ด้ในครวั เรือน
๒. เทกากน้าตาล ๒ กิโลกรมั กบั น้าในถังหมัก
๓. ละลายส่วนผสมใหเ้ ขา้ กนั
๔. เทเศษอาหารลงในถังหมกั
๕. คนสว่ นผสมทุกอย่างให้เข้ากนั
๖. เติมจุลินทรีย์ลงในถัง หมักทง้ิ ไว้ ๑๔ วัน ปิดฝาตั้งทิ้งไว้ในร่ม
กำรนำไปใช้
๑. ใช้บาบดั น้าเสียและขจดั กลนิ่ เหมน็ อตั ราการใช้ ๑ ลติ รต่อน้าเสีย ๑๐ ลูกบาศก์เมตร
ทกุ ๆ ๑๐ วัน
๒. ใช้ทาความสะอาดพ้ืนและคอกปศสุ ตั ว์ อัตราการใช้ เจือจางดว้ ย นา้ ๑ ตอ่ ๑๐ ราดให้ทว่ั พ้ืนท่ี
ทุกๆ ๓ วัน
ในบ้านของเราก็มีขยะมูลฝอย ถ้าเราท้ิงขยะเกลื่อนกลาดไม่เป็นท่ีเป็นทาง บ้านก็จะสกปรก
ขาดความสวยงามและความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นท่ีรังเกียจแก่ผู้ พบเห็น และยังมีกล่ินเหม็นที่
กอ่ ให้เกดิ ความราคาญ แกผ่ ทู้ อ่ี ยูอ่ าศยั และบรเิ วณใกลเ้ คียงอกี ด้วย นอกจากน้ี กองขยะมูลฝอยยังเป็น
แหล่งอาหาร แหล่งเพาะพันธุ์ และเป็นท่ีหลบซ่อนของสัตว์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ คือ
เปน็ พาหะนา โรค เชน่ หนู แมลงวนั แมลงสาบและยงุ ตลอดจนส่ิงมชี วี ติ ทีม่ องไม่เหน็ คือ เชื้อโรคต่าง
ๆ อกี ดว้ ย การท้ิงขยะมูลฝอยใหเ้ ป็นที่เปน็ ทาง คือทิง้ ขยะมลู ฝอยลงในภาชนะ เช่น ถังที่มีฝาปิด ถ้าใช้
ถุงพลาสติก เม่ือเต็มแล้วต้องผูกปากถุงให้มิดชิดเพ่ือป้องกันกล่ินเหม็น และป้องกันไม่ให้สัตว์คุ้ยเข่ีย
ทั้งนี้จะช่วยป้องกันความสกปรก และอันตรายที่เกิดจากขยะมูลฝอย เช่น เศษแก้วบาดเท้า การเก็บ
ขยะมลู ฝอยใหม้ ิดชดิ ทาใหบ้ า้ นเมอื งของเราสะอาดเป็นระเบยี บ สวยงามน่าอยู่อาศัย ขยะมูลฝอยเกิด
ขึน้ มาพรอ้ มๆ กับมนุษย์ เมอ่ื มนุษยท์ าสงิ่ ของเครอ่ื งมอื เครื่องใช้ ปรงุ อาหารหรอื รับประทานอาหาร จะ
มเี ศษหรือส่งิ ที่ไม่ตอ้ งการเหลือ เช่น เศษไม้เหลือจากการแกะสลัก ถงุ พลาสติกใสข่ องทซ่ี ้ือมา กระดาษ
หนังสือพิมพท์ ่ีอ่านแล้ว และเศษอาหารเหลอื จากการรบั ประทาน เป็นต้น ขยะมูลฝอยที่กองหมักหมม
เปน็ ส่งิ สกปรก ส่งกลน่ิ เนา่ เหมน็ มีแมลงวนั ตอม หนู แมลงสาบ มด และเช้อื โรคต่างๆ อาศัยอยู่ในกอง
ขยะมูลฝอย ซึ่งเปน็ แหล่งอาหารและ ที่เพาะพันธ์ุของมัน การท้ิงขยะมูลฝอยลงบนพื้นถนนหรือลงใน
แม่น้าลาคลองน้ัน นอกจากจะทาให้บ้านเมืองดูไม่เป็นระเบียบแล้ว ขยะมูลฝอยยังเป็นส่ิงกีดขวาง
การจราจรอกี ดว้ ย การทง้ิ ขยะ มลู ฝอยลงในลาน้าจะทาให้ลาน้าต้ืนเขิน และน้าไหลเวียนไม่สะดวก
ขยะมูลฝอยท่มี ีปรมิ าณมาก จะทาให้น้า ในลาคลองเน่าเสีย และ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้าและสัตว์น้า
ท่ีอาศัยในแมน่ ้าลาคลองน้ัน กองขยะมูลฝอยทถี่ ูกทิง้ ไว้นานๆจะเนา่ เสียและสง่ กลน่ิ เหม็นรบกวนผู้ที่อยู่
บริเวณข้างเคียง เศษช้ินส่วนของขยะมูลฝอยบางชนิดมี น้าหนักเบา จะฟุ้งกระจายไป ในอากาศส่ง
กลน่ิ เหม็น และฝนุ่ ท่ีเกดิ จากเศษขยะทาให้คุณภาพอากาศเสียไปด้วย เม่ือเราเป็นผู้ที่ทาให้เกิดขยะมูล
ฝอยขนึ้ มา เราทกุ คนจึงควรชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาด ปอ้ งกนั อนั ตรายตา่ ง ๆ ท่ีอาจเกิดขึน้ ได้จากขยะ
มลู ฝอย การทงิ้ ขยะให้ถูกต้อง คือ ท้ิงขยะมูลฝอยในภาชนะที่จัดไว้สาหรับทิ้งขยะมูลฝอยแล้วจัดการ
เผาหรือฝังเสีย ในทอ้ งที่ซึง่ มีเจา้ หนา้ ท่ีทางการเก็บขยะมลู ฝอย เรากค็ วรใส่ขยะลงในขยะไดส้ ะดวก
ประเภทของขยะมูลฝอย ขยะมูลฝอยอาจแบ่งออกได้ตามลักษณะส่วนประกอบของขยะมูล
ฝอย ไดเ้ ปน็ ๑๐ ประเภท ได้แก่
๑. ผกั ผลไม้ และเศษอาหาร ได้แก่ เศษผัก เศษผลไม้ เศษอาหารที่เหลือจากการปรุงอาหาร
และเหลอื จากการบริโภค เชน่ ข้าวสกุ เปลือกผลไม้ เนอื้ สตั ว์ ฯลฯ
๒. กระดาษ ได้แก่ วัสดุหรือผลิตภัณฑ์ที่ทาจากเย่ือกระดาษ เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์
ใบปลวิ ถงุ กระดาษ กลอ่ งกระดาษ ฯลฯ
๓. พลาสติก ได้แก่ วัสดุหรือผลิตภัณฑ์ท่ีทาจากพลาสติก เช่น ถุงพลาสติก ภาชนะพลาสติก
ของเล่นเดก็ ผลติ ภณั ฑ์ไฟเบอร์กลาส ฯลฯ
๔. ผ้า ได้แก่ สิ่งทอต่างๆ ท่ีทามาจากเส้นใยธรรมชาติและใยสังเคราะห์ เช่น ฝ้าย ลินินขน
สตั ว์ ผ้าไนลอน ไดแ้ ก่ เศษผ้า ผา้ เช็ดมือ ถุงเทา้ ผา้ ขรี้ ิว้ ฯลฯ
๕. แก้ว ได้แก่วัสดหุ รือผลิตภณั ฑท์ ีท่ าจากแก้ว เชน่ เศษกระจก ขวดหลอดไฟ เครอ่ื งแก้วฯลฯ
๖. ไม้ ได้แก่ วัสดุหรือผลิตภัณฑ์ท่ีทามาจากไม้ ไม้ไผ่ ฟาง หญ้า เศษไม้ เช่น กล่องไม้เก้าอี้
โต๊ะ เฟอร์นเิ จอร์ เครอ่ื งเรอื น ฯลฯ
๗. โลหะ ได้แก่ วัสดุหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ท่ีทาจากโลหะ เช่น กระป๋อง ตะปู ลวดภาชนะ
ทีท่ าจากโลหะตา่ งๆ ฯลฯ
๘. หิน กระเบ้ือง กระดูก และเปลือกหอย ได้แก่ เศษหิน เปลือกหอย เศษกระดูกสัตว์
เช่น ก้างปลา เครอ่ื งป้นั ดินเผา เปลอื กหอย กุง้ ปู เครือ่ งเคลือบ ฯลฯ
๙. ยางและหนัง ไดแ้ ก่วัสดแุ ละผลิตภัณฑ์ทท่ี าจากยางและหนัง เช่น รองเทา้ กระเปา๋ ลูกบอล
ฯลฯ
๑๐. วสั ดุอน่ื ๆ ได้แก่ วัสดทุ ีไ่ มส่ ามารถจัดเข้ากลมุ่ ตา่ งๆ ขา้ งต้น
ผลกระทบของขยะมูลฝอยต่อสภำวะแวดลอ้ ม
ขยะมูลฝอยนั้น นับวันจะเพิ่มมากขึ้นตามจานวนของประชากร ถ้าหากไม่มีการกาจัดขยะ
มลู ฝอย ใหถ้ กู ต้องและเหมาะสมแลว้ ปญั หา ความสกปรกตา่ ง ๆ ท่เี กดิ จากขยะมลู ฝอย จะต้องเกิดขึ้น
อย่างแน่นอน ถ้ามองกันอย่างผิวเผินแล้ว ขยะมูลฝอยนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อ มนุษย์มากนัก ท้ังนี้
อาจเป็นเพราะผลกระทบท่ีเกิดขึ้นโดยตรงต่อมนุษย์ ยังอยู่ในขั้นท่ีไม่รุนแรงมากนัก ผลกระทบท่ี
เกิดข้นึ จงึ ไมช่ ัดเจนเท่าไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ขยะมูลฝอยจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อม
เป็นอย่างมาก และจะมผี ลกระทบตอ่ สุขภาพอนามัยของมนุษยด์ ้วย ท้ังโดยทางตรงและทางอ้อม ทั้งน้ี
เนื่องจาก
๑. ขยะมูลฝอยเปน็ แหลง่ อาหารและแหลง่ เพาะพันธ์ขุ องแมลง นาโรคเช่นแมลงวัน
แมลงสาบ ยุง ฯลฯ และเปน็ ทีซ่ กุ ซอ่ นของหนูและสัตว์อ่ืนๆ
๒. ขยะมูลฝอย ทาใหเ้ กิดกล่ินเหม็นและก่อใหเ้ กิดความราคาญ
๓. ขยะมูลฝอยท่ีท้ิงเกลื่อนกลาด ถูกลมพัดกระจัดกระจายไปตกอยู่ตามพ้ืน ทาให้พ้ืนท่ี
บริเวณน้ันสกปรกขาดความสวยงามเป็นท่ีรังเกียจแก่ผู้พบเห็น และผู้ที่อาศัยบริเวณใกล้เคียง
นอกจากนขี้ ยะมลู ฝอยท่ีตกอยู่ หรอื ถูกทง้ิ ลงในคคู ลอง หรือทางระบายน้า จะไปสกัดกั้นการไหลของ
น้าทาใหแ้ หลง่ น้าสกปรก และเกดิ การเน่าเสยี
๔. นา้ เสยี ทเ่ี กิดจากกองขยะมูลฝอยท่ีกองทิ้งไว้ เป็นน้าเสียท่ีมีความสกปรกสูงมาก ซ่ึงมีท้ัง
สารอินทรีย์ สารอนินทรยี ์ เชอ้ื โรค และสารพิษต่างๆ เจือปนอยู่ เม่ือน้าเสีย จากกองขยะมูลฝอยไหล
ไปตามพื้นดนิ บริเวณใด ก็จะทาให้บริเวณนั้นเกิดความสกปรกและความเส่ือมโทรมของพ้ืนดินและ
อาจเปลย่ี นสภาพ ทาใหด้ ินมีคณุ สมบัตเิ ปน็ ดินด่างหรือดนิ กรดได้ ในกรณที ่ีน้าเสียจากกองขยะมูลฝอย
ไหลลงสู่แหลง่ นา้ ก็จะทาใหค้ ุณภาพนา้ เสยี ไป
ท้ังนี้ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้าผิวดินหรือแหล่งน้าใต้ดินก็ตามล้วนเป็นอันตรายต่อผู้ใช้น้าและ
ส่ิงที่มีชวี ิตท่ีอาศัยในแหล่งน้า นา้ ทีส่ กปรกมากหรือมีสารพษิ เจือปนอยู่ ก็อาจทาให้สัตว์น้าตายในเวลา
อันสน้ั นอกจากน้นั สง่ิ สกปรกตา่ งๆ ที่เจือปนในน้าก็จะส่งผลต่อระบบนิเวศของน้าทาให้สัตว์น้าท่ีมีค่า
บางชนิดสญู พันธุไ์ ป นอกจากนี้นา้ ทมี่ สี ิ่งสกปรกเจอื ปนย่อมไม่เหมาะแกก่ ารอุปโภคบรโิ ภค แมจ้ ะนาไป
ปรับปรงุ คุณภาพแล้วก็ตาม เช่นการทาระบบน้าประปา ซ่ึงก็ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในกระบวนการ
ปรับปรุงคุณภาพนา้ มากขน้ึ
๕. ขยะมูลฝอยทาใหเ้ กดิ มลพษิ แก่อากาศ ขยะมูลฝอยท่กี องทิง้ ไวใ้ นเขตชุมชนหรือท่กี องท้ิงไว้
ในแหลง่ การ จัดซึ่งไมม่ ีการฝังกลบ หรือขณะท่ีทาการเก็บขนโดยพาหนะท่ีไม่มีการปกปิดอย่างมิดชิด
ขยะมูลฝอยเหล่าน้ันสง่ กลนิ่ เหมน็ นา่ รังเกียจออกมา เศษชน้ิ สว่ นของขยะมูลฝอยจะสามารถปลิวไปใน
อากาศทาให้เกิดความสกปรก แก่บรรยากาศ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์และความสกปรกให้กับ
บริเวณข้างเคียงได้นอกจากนี้ขยะมูลฝอยท่ีกองทิ้งไว้นานๆ จะมีก๊าซท่ีเกิดจากการหมักขึ้น ได้แก่
ก๊าซชวี ภาพ ซ่งึ ตดิ ไฟหรือเกิดระเบดิ ขึน้ ได้ และกา๊ ซไข่เนา่ (กา๊ ซไฮโดรเจนซลั ไฟด์) ซงึ่ มีกลิ่นเหม็น
กำรแก้ไขปญั หำขยะมลู ฝอย
ขยะมูลฝอยมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทาให้เกิดการปนเป้ือนของพื้นดิน แหล่งน้าและ
อากาศ ทาให้บา้ นเมืองไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เป็นท่ีเจริญตาของผู้ท่ีได้พบเห็น ส่งผลกระทบต่อ
สุขภาพของประชาชนโดยทั่วไป การแก้ไขปัญหาของขยะมูลฝอย จึงควรปฏิบัติเพ่ือป้องกันและแก้ไข
ผลเสียที่จะเกิดขึ้น สาหรับการป้องกันและแก้ไขท่ีดีควรพิจารณาถึงต้นเหตุที่ก่อให้เกิดขยะมูลฝอย
ขึน้ มา ซึง่ กค็ งจะหมายถึง มนษุ ย์ หรือผู้สร้างขยะมูลฝอย นั้นเอง การป้องกันและการแก้ไขปัญหาของ
ขยะมูลฝอย เริ่มตน้ ดว้ ยการสร้างจิตสานึกแก่มนุษย์ให้รู้จักรับผิดชอบในการรักษาความสะอาดทั้งใน
บา้ นเรอื นของตวั เอง และ ภายนอกบา้ น ไมว่ า่ จะเปน็ ถนนหนทาง สถานท่ีทางาน หรือท่ีสาธารณะอ่ืน
ๆ ให้รจู้ กั ท้งิ ขยะมูลฝอยลงในภาชนะใหเ้ ปน็ ที่เป็นทาง ไมม่ กั งา่ ยทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ทั้งน้ีเป็นการช่วย
ใหพ้ นกั งานเกบ็ ขยะนาไปยงั สถานทกี่ าจัดไดส้ ะดวกและรวดเรว็ ข้ึน
ผลกำรดำเนนิ งำนกำรจัดกจิ กรรม
โครงการการศกึ ษาเพื่อพัฒนาสังคมและชมุ ชน ปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ( ตลุ าคม ๖๔ ถึง มนี าคม ๖๕ )
จาแนกรายตาบลดงั นี้ ( กลุ่มป้าหมาย ตาบลละ ๑๕ คน รวม ๑๖๕ คน )
กศน.ตำบล กิจกรรม/โครงกำร แผน สถำนที่ ผลกำร รวม คดิ
(คน)
ดำเนินงำน เป็น
ชำย หญิง รอ้ ยละ
คานหาม การจดั การขยะในชุมชน ๑๕ ที่ทาการผู้ใหญบ่ ้าน หมู่ ๖ ๕ ๑๐ ๑๕ ๑๐๐
ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ตาบลคานหาม อาเภออทุ ัย
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ )
อทุ ยั การจัดการขยะในชุมชน ๑๕ ศาลาประชาคม หมู่ ๑๑ ๓ ๑๒ ๑๕ ๑๐๐
ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ตาบลอุทยั อาเภออทุ ยั
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ )
ข้าวเมา่ การจดั การขยะในชุมชน ๑๕ ท่ีทาการผู้ใหญบ่ ้าน ๖ ๙ ๑๕ ๑๐๐
ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ หมู่ ๑๓ ตาบลข้าวเม่า
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ ) อาเภออทุ ัย
เสนา การจดั การขยะในชุมชน ๑๕ กศน.ตาบลเสนา หมู่ ๓ ๕ ๑๐ ๑๕ ๑๐๐
ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ตาบลเสนา อาเภออทุ ัย
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ )
โพสาวหาญ การจดั การขยะในชมุ ชน ๑๕ บ้านเลขที่ ๘๒/๕ หมู่ ๒ ๑ ๑๔ ๑๕ ๑๐๐
ไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ ตาบลโพสาวหาญ
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ ) อาเภออทุ ยั
หนอง การจัดการขยะในชุมชน ๑๕ ศาลาประชาคม หมู่ ๒ ๑ ๑๕ ๑๖ ๑๐๐
น้าสม้ ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ตาบลหนองน้าส้ม
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ ) อาเภออุทยั
สามบณั ฑิต การจดั การขยะในชมุ ชน ๑๕ บ้านหนงั สอื ชุมชน หมู่ ๓ ๖ ๙ ๑๕ ๑๐๐
ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ ตาบลสามบัณฑิต
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ ) อาเภออทุ ยั
ธนู การจัดการขยะในชุมชน ๑๕ ทท่ี าการกานนั หมู่ ๗ ๒ ๑๓ ๑๕ ๑๐๐
ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ตาบลธนู อาเภออทุ ัย
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ )
บ้านชา้ ง การจัดการขยะในชุมชน ๑๕ กศน.ตาบลบ้านช้าง หมู่ ๔ ๒ ๑๓ ๑๕ ๑๐๐
ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ ตาบลบ้านช้าง อาเภออทุ ัย
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ )
หนองไมซ้ งุ การจัดการขยะในชมุ ชน ๑๕ บา้ นสวนลุงชาญ หมู่ ๕ ๒ ๑๓ ๑๕ ๑๐๐
ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ตาบลหนองไม้ซงุ อาเภอ
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ ) อทุ ัย
บ้านหบี การจดั การขยะในชมุ ชน ๑๕ กศน.ตาบลบ้านหีบ อาเภอ ๖ ๙ ๑๕ ๑๐๐
ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ อุทัย
( ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ )
รวม ๑๖๕ ๓๙ ๑๒๗ ๑๖๖ ๑๐๐
ผลผลิตเชงิ คุณภำพ
- ประชาชนทเี่ ข้าร่วมโครงการนาความรู้เรอื่ งการจดั การขยะในชุมชน ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนแ์ ละ
สามารถนาไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั และในชุมชนได้
บทท่ี ๓
ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู
กิจกรรมโครงกำรกำรศึกษำเพ่ือพัฒนำสังคมและชุมชน เป็นการจัดกิจกรรมให้กับ
กลุม่ เปา้ หมายประชาชนทวั่ ไปในอาเภออทุ ยั ๑๑ ตาบลๆละ ๑๕ คน รวมทั้งหมด ๑๖๕ คน รูปแบบ
การจดั กจิ กรรมแบบใหค้ วามรู้ สาธติ ปฎิบัติ และแลกเปลย่ี นเรยี นรูร้ ่วมกัน
มีผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมทงั้ สิ้นจานวน ๑๖๖ คน เปน็ ชาย ๓๙ คน หญงิ ๑๒๗ คน
เก็บแบบสอบถามได้จานวนทงั้ หมด ๖๓ คน การประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรม แบ่งการวิเคราะห์ข้อมูล
ออกเปน็ ๕ ระดบั ไดแ้ ก่ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และนอ้ ยทีส่ ุด คิดเปน็ เปอร์เซ็นต์ได้ดงั นี้
ตำรำงที่ ๑ ข้อมลู ทัว่ ไป
เพศ จำนวน รอ้ ยละ
หญงิ ๕๕ ๘๗.๓๐
ชาย ๘ ๑๒.๗๐
รวมท้งั สนิ้ ๖๓ ๑๐๐.๐๐
อำยุ จำนวน ร้อยละ
๑๕ – ๒๔ ปี ๘ ๑๒.๗๐
๒๕ – ๓๔ ปี ๑ ๑.๕๙
๓๕ – ๔๔ ปี ๖ ๙.๕๒
๔๕ – ๕๔ ปี ๑๐ ๑๕.๘๘
๕๕ ปขี ้ึนไป ๓๘ ๖๐.๓๑
รวมท้ังสน้ิ ๖๓ ๑๐๐.๐๐
อำชพี จำนวน ร้อยละ
ค้าขาย ๗ ๑๑.๑๑
เกษตรกร ๑๓ ๒๐.๖๓
รับจ้าง ๑๖ ๒๕.๔๐
นกั ศกึ ษา ๑ ๑.๕๐
แมบ่ า้ น ๒๖ ๔๑.๒๗
รวมทง้ั สิน้ ๖๓ ๑๐๐.๐๐
ระดับกำรศึกษำ จำนวน รอ้ ยละ
ประถม ๓๐ ๔๗.๖๑
มธั ยมศึกษาตอนต้น ๗ ๑๑.๑๑
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ๑๕ ๒๓.๘๑
ปวช. ๒ ๓.๑๘
ปวส. ๓ ๔.๗๗
ปรญิ ญาตรี ๖ ๙.๕๒
รวมทั้งสนิ้ ๖๓ ๑๐๐.๐๐
จากตารางท่ี ๑ พบว่าข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามจานวน ๖๓ คน ส่วนใหญ่เป็น
เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ ๘๗.๓๐ อายุ ๕๕ ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ ๖๐.๓๑ อาชีพส่วนมากเป็น
แม่บ้าน คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๒๗ และมีระดับการศึกษาอยู่ในระดับประถมเป็นส่วนมาก คิดเป็น
รอ้ ยละ ๔๗.๒๒
ตำรำงท่ี ๒ ระดับควำมพงึ พอใจต่อกำรจัดกิจกรรม
ระดับควำมพึงพอใจ
ท่ี รำยกำร มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย รวม ผลกำร
ท่ีสดุ กลาง ทสี่ ุด เฉล่ยี ประเมนิ
๕ ๔ ๓ ๒๑
๑ เนือ้ หาตรงตามความต้องการ ๒๒ ๒๗ ๑๔ - - ๔.๑๑ มาก
๒ เน้ือหาเพียงพอตอ่ ความต้องการ ๒๔ ๓๐ ๙ - - ๔.๒๒ มากที่สุด
๓ เนื้อหาปจั จุบนั ทันสมยั ๒๕ ๒๕ ๑๓ - - ๔.๑๗ มาก
๔ เนื้อหามปี ระโยชน์ต่อการนาไปใชใ้ นการพฒั นา ๒๔ ๒๐ ๑๙ - - ๔.๐๖ มาก
คุณภาพชวี ติ
๕ การเตรียมความพรอ้ มก่อนอบรม ๒๓ ๒๔ ๑๔ ๒ - ๔.๐๖ มาก
๖ การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ ๒๔ ๒๔ ๑๒ ๓ - ๔.๐๘ มาก
๗ การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา ๒๖ ๒๐ ๑๕ ๒ - ๔.๐๙ มาก
๘ การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย ๒๕ ๒๑ ๑๖ ๑ - ๔.๑๐ มาก
๙ วิธกี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับ ๒๕ ๒๑ ๑๒ ๕ - ๔.๐๓ มาก
วตั ถุประสงค์
๑๐ วิทยากรมีความรคู้ วามสามารถในเรอื่ งทีถ่ า่ ยทอด ๓๒ ๑๙ ๑๒ - - ๔.๓๐ มากทสี่ ุด
๑๑ วทิ ยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้สอ่ื เหมาะสม ๓๑ ๒๐ ๑๒ - - ๔.๒๙ มากท่สี ดุ
๑๒ วิทยากรเปดิ โอกาสให้มีสว่ นรว่ มและซักถาม ๒๙ ๑๕ ๑๖ ๓ - ๔.๑๐ มาก
๑๓ สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก ๒๙ ๒๐ ๑๓ ๑ - ๔.๒๐ มาก
๑๔ การสอ่ื สารการสรา้ งบรรยากาศเพื่อให้เกดิ การ ๒๗ ๒๑ ๑๕ - - ๔.๑๘ มาก
เรยี นรู้
๑๕ การบรกิ าร การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ัญหา ๒๓ ๒๐ ๑๘ - - ๓.๙๓ มาก
รวมทงั้ หมด ๔.๙๑ มำกท่สี ดุ
ระดับความพึงพอใจต่อการจดั กิจกรรม ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั มากทส่ี ุด
๔.๒๑ - ๕.๐๐ ผลการประเมินอยใู่ นระดับมาก
ผลการประเมินอย่ใู นระดับปานกลาง
๓.๔๑ - ๔.๒๐ ผลการประเมนิ อยู่ในระดับนอ้ ย
๒.๖๑ - ๓.๔๐
๑.๘๑ - ๒.๖๐ ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั น้อยทีส่ ดุ
๑.๐๐ - ๑.๘๐
สรปุ ควำมพึงพอใจต่อกำรจดั กิจกรรม
โครงการการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน จากจานวนกลุ่มเป้าหมาย ๑๖๕ คน ผู้ตอบ
แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกิจกรรม จานวน ๖๓ คน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึง
พอใจอย่ใู นระดับมากทีส่ ุด คิดเป็นระดับผลการประเมนิ รอ้ ยละ ๔.๓๐ อยใู่ นหวั ข้อวิทยากร มีความรู้
ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด ภาพรวมระดับผลการประเมินความพึงพอใจคิดเป็นร้อยละ ๔.๙๑
อย่ใู นระดับมากท่ีสดุ
ภำคผนวก
กจิ กรรมโครงกำรกำรศึกษำเพ่อื พฒั นำสงั คมและชุมชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลคำนหำม
อบรมให้ความร้หู ลักสูตรการจัดการขยะในชมุ ชนไปใช้ให้เกิดประโยชน์
สถานท่ี ท่ที าการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖ ตาบลคานหาม อาเภออุทัย
วนั ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศกึ ษำเพ่ือพัฒนำสังคมและชมุ ชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลบ้ำนหีบ
อบรมให้ความรูห้ ลกั สูตรการจดั การขยะในชมุ ชนไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
สถานที่ กศน.ตาบลบา้ นหบี อาเภออทุ ยั
วนั ท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศกึ ษำเพ่อื พัฒนำสังคมและชุมชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลข้ำวเม่ำ
อบรมให้ความรู้หลกั สูตรการจดั การขยะในชมุ ชนไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์
สถานที่ ทท่ี าการผู้ใหญบ่ า้ นหมู่ ๑๓ ตาบลขา้ วเมา่ อาเภออทุ ยั
วนั ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศกึ ษำเพือ่ พฒั นำสงั คมและชมุ ชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลธนู
อบรมใหค้ วามรหู้ ลกั สูตรการจดั การขยะในชุมชนไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์
สถานที่ ทท่ี าการกานัน หมู่ ๗ อาเภออทุ ยั
วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศกึ ษำเพอ่ื พัฒนำสงั คมและชุมชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลบำ้ นชำ้ ง
อบรมให้ความรหู้ ลกั สูตรการจดั การขยะในชุมชนไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
สถานที่ กศน.ตาบลบ้านช้าง หมู่ ๔ อาเภออุทัย
วันท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศึกษำเพอื่ พฒั นำสงั คมและชมุ ชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลเสนำ
อบรมให้ความรหู้ ลักสตู รการจดั การขยะในชุมชนไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
สถานท่ี กศน.ตาบลเสนา หมู่ ๓ อาเภออุทยั
วันท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศกึ ษำเพอ่ื พฒั นำสังคมและชมุ ชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลหนองน้ำสม้
อบรมใหค้ วามรู้หลกั สูตรการจัดการขยะในชุมชนไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์
สถานท่ี ศาลาประชาคม หมู่ ๒ ตาบลหนองน้าส้ม อาเภออทุ ยั
วนั ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศึกษำเพ่ือพัฒนำสงั คมและชุมชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลสำมบัณฑิต
อบรมใหค้ วามรู้หลกั สูตรการจดั การขยะในชมุ ชนไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์
สถานท่ี บ้านหนังสอื ชมุ ชน หมู่ ๓ ตำบลสำมบณั ฑิต อาเภออุทยั
วนั ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศึกษำเพือ่ พัฒนำสังคมและชมุ ชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลหนองไมซ้ งุ
อบรมให้ความรหู้ ลกั สตู รการจดั การขยะในชุมชนไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์
สถานท่ี บา้ นสวนลงุ ชาญ หมู่ ๕ ตาบลหนองไมซ้ งุ อาเภออุทยั
วันท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศึกษำเพื่อพัฒนำสังคมและชุมชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลโพสำวหำญ
อบรมให้ความรูห้ ลกั สูตรการจัดการขยะในชุมชนไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์
สถานที่ หมู่ ๒ ตำบลโพสำวหำญ อาเภออทุ ัย
วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
กจิ กรรมโครงกำรกำรศึกษำเพอื่ พฒั นำสังคมและชมุ ชน ปี งบประมำณ ๒๕๖๕
ตำบลอทุ ัย
อบรมให้ความรหู้ ลกั สตู รการจัดการขยะในชุมชนไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์
สถานท่ี ศาลาประชาคม หมู่ ๑๑ ตาบลอุทัย อาเภออทุ ัย
วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
คณะผู้จดั ทำ
ที่ปรึกษำ ครูชานาญการพิเศษรกั ษาการในตาแหน่ง
ผอ.กศน.อาเภออทุ ัย
๑. นางสาวฐฎิ า ทองเจรญิ บรรณารกั ษช์ านาญการพเิ ศษ
๒. นางสาววะลาพร วงค์ก่อ ครอู าสาสมคั รฯ
ครอู าสาสมคั รฯ
คณะทำงำน ครูอาสาสมคั รฯ
๑. นางสาวบังอร แกว้ วิไล ครู กศน.ตาบล
๒. นางสาวรงั สมิ า บุญเกดิ รัมย์ ครู กศน.ตาบล
๓. นางสาวฐิตมิ า สเุ สวี ครู กศน.ตาบล
๔. นางเกษสุริน ศรีสวุ รรณ์ ครู กศน.ตาบล
๕. นายถาวร อกั ษร ครู กศน.ตาบล
๖. นายพีระพล ณฐั ฤทธิศกั ดิ์ ครู กศน.ตาบล
๗. นางบุษราคมั เกดิ ชมุ่ ครู กศน.ตาบล
๘. นางสาวสยามมล เกษประดษิ ฐ์ ครู กศน.ตาบล
๙. นายทรงพล รังผ้งึ ครู กศน.ตาบล
๑๐. นายเจริญ นามหล้า ครู กศน.ตาบล
๑๑. นายพรี พล ปรเี ปรม
๑๒. นางสาวอุไรพร กลว้ ยกลาง ครูอาสาสมัครฯ
๑๓. นางสาวฉนั ทพิชญา นามวงค์
รวบรวมเรียบเรียงข้อมูล / จดั พมิ พร์ ูปเลม่
นางสาวรงั สมิ า บญุ เกิดรัมย์