The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Unit_9_ประโยคในภาษาไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by areeyawat.th, 2022-07-09 12:58:11

Unit_9_ประโยคในภาษาไทย

Unit_9_ประโยคในภาษาไทย

คำนำ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท22101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ นี้ได้จดั ทำขึ้น
เพอื่ ใช้เปน็ แนวทางในการจดั การเรยี นรู้โดยเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ใหน้ กั เรยี นมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมและ
กระบวนการเรยี นรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ทั้งเปน็ รายบคุ คลและรายกลมุ่ สร้างสถานการณ์
การเรยี นรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ทำให้นักเรียนสามารถเช่ือมโยงความรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
อน่ื ๆ ไดใ้ นเชงิ บรู ณาการดว้ ยวธิ ีการทีห่ ลากหลาย เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และสรปุ ความรู้
ดว้ ยตนเอง ทำใหน้ ักเรียนได้รับการพฒั นาทงั้ ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ และด้านคณุ ธรรม
จรยิ ธรรม และคา่ นิยมท่ีดี นำไปสู่การอย่รู ่วมกนั ในสังคมอย่างสนั ติสุข

การจัดทำแผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชาท22101 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 เลม่ นี้
ไดจ้ ัดทำตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ซ่ึงครอบคลมุ ตัวช้วี ดั และมาตรฐาน
การเรียนรู้ โดยได้นำเสนอแผนการจดั การเรยี นรเู้ ป็นรายชว่ั โมงตามหนว่ ยการเรียนรู้ และในแต่ละหนว่ ยการ
เรยี นรู้มีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรทู้ ้ัง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านพุทธิพสิ ัยหรือความรู้ Cognitive Domain (K),
ดา้ นจติ พสิ ยั หรือทกั ษะ Psychomotor Domain (P) และดา้ นทกั ษะพสิ ัยหรือเจตคติ Affective Domain (A)

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชาท22101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เล่มน้ีได้ออกแบบ
การเรียนรู้ด้วยเทคนิคและวิธีการสอนอยา่ งหลากหลาย เพ่ือการจดั การเรียนร้สู ำหรับนกั เรียนใหบ้ รรลุ
เปา้ หมายของหลกั สูตรต่อไป

นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นิรันดร
ผ้จู ดั ทำ

สารบญั

คำนำ.............................................................................................................................................. ก
สารบัญ.......................................................................................................................................... ข
บันทกึ ข้อความขออนุญาตใช้แผนการจดั การเรยี นรู้........................................................................ ค
คำอธบิ ายรายวิชา........................................................................................................................... 1
โครงสร้างการแบ่งเวลารายชั่วโมงในการจัดการเรยี นรู้................................................................... 2
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 ประโยคในภาษาไทย.......................................................................................7

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 ความรู้พนื้ ฐานเก่ียวกบั โครงสรา้ งของประโยค......................................7
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ชนดิ ของประโยคแบ่งตามโครงสร้าง...................................................11
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 จำแนกประโยค...................................................................................15
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 ประโยคความเดยี ว..............................................................................19
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 ประโยคความรวม................................................................................23
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 ประโยคความซ้อน...............................................................................27
ภาคผนวก......................................................................................................................................31

บันทึกขอ้ ความ

สว่ นราชการ โรงเรียนหนองกี่พทิ ยาคม อำเภอหนองก่ี จงั หวัดบุรรี มั ย์ โทร ๐๔๔-๖๔๑๓๒๔

ที่ /๒๕๖๕ วันท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เรอื่ ง ขออนุมัตใิ ช้แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ๓ (ท๒๒๑๐๑) ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

---------------------------------------------------------------------------------------

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองก่ีพิทยาคม

ตามทข่ี า้ พเจา้ นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ริ ันดร ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นหนองก่ีพิทยาคม ได้รับมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหน้าทส่ี อน รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๒๑๐๑

ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ในภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕

ขา้ พเจ้าจึงได้วิเคราะห์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั คำอธบิ ายรายวิชา โครงสรา้ งรายวิชา

เพอ่ื จดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้วชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๒๑๐๑ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ กล่มุ สาระการ

เรียนร้ภู าษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ซึ่งสอดคล้องกับหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นหนองก่ี

พทิ ยาคมกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย (ฉบบั ปรับปรุง) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา

ข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ

บัดนี้ ข้าพเจ้าไดด้ ำเนนิ การจัดทำแผนการจัดการเรยี นรเู้ รยี บร้อยแลว้ จึงขออนุมัตใิ ช้แผนการจดั การ

เรียนรูด้ งั กลา่ ว เพ่ือใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้เกิดประสิทธภิ าพสูงสดุ และเพอื่ พฒั นาคุณภาพ

ผู้เรียนใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายของหลักสตู รฯ ตอ่ ไป

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ

ลงชื่อ
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ิรนั ดร)
ตำแหน่ง ครู

ความเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

 อนมุ ัติ  ไม่อนุมตั ิ  อนื่ ๆ..........................................................................................

ลงช่ือ
(นางปนัดดา ยอดแกว้ )

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
………/……………./………

ความคิดเห็นของผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ

 อนุมัติ  ไมอ่ นุมัติ  อ่ืน ๆ..........................................................................................

ลงชื่อ
(นายสุเนตร บอกประโคน)

ผ้ชู ่วยผูอ้ ำนวยการฝา่ ยบริหารงานวิชาการ
………/……………/………..

ความคิดเห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ

 อนุมตั ิ  ไมอ่ นุมตั ิ  อน่ื ๆ..........................................................................................

ลงช่อื
(นายเฉลิมพล คนชมุ )

รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ
………/……………/………..

ความคดิ เหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี นหนองกพ่ี ทิ ยาคม

 อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นุมัติ  อืน่ ๆ..........................................................................................

ลงช่ือ
(นายชาตรี อัครสขุ บตุ ร)

ผ้อู ำนวยการโรงเรียนหนองกพ่ี ทิ ยาคม
………/……………/………

1

คำอธิบายรายวชิ าภาษาไทย 3

รหสั วิชา ท 22101 เวลา 60 ช่วั โมง 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาหลักภาษาเก่ียวกบั ชนิดของประโยคสามญั ประโยคความรวม ประโยคความซ้อน
การแต่งคำประพนั ธ์ ใช้คำราชาศพั ท์ได้ถกู ต้องเหมาะสมตามฐานะของบุคคล หลักการอ่านออกเสยี ง
รอ้ ยแกว้ ร้อยกรอง หลักการจับใจความ หลกั การพูด หลกั การเขียน เพื่อให้สามารถจับใจความสำคัญ
แยกข้อเทจ็ จรงิ จากข้อคดิ เหน็ แสดงความคดิ เหน็ วเิ คราะห์และประเมินคา่ สง่ิ ทไ่ี ด้อ่าน ฟัง พูด
และเขียนไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน

ฝึกการฟัง ดู พดู อ่าน เขียน โดยอ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว ร้อยกรอง อ่านจับใจความอา่ น
สรปุ ความ อา่ นวรรณคดี และวรรณกรรมท้องถ่นิ ท่องจำบทอาขยาน หรอื บทร้อยกรองทม่ี คี ณุ คา่
ตามความสนใจ คัดลายมือบรรจงครึ่งบรรทดั เขยี นเลขไทย เขียนบรรยาย พรรณนาย่อความ เรยี งความ
รายงานการศึกษาคน้ คว้า วเิ คราะห์ วิจารณ์ แสดงความคดิ เห็น ข้อโตแ้ ย้งวิเคราะห์จำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ
ขอ้ คิดเห็น และประเมินค่า พูดสรุปความ พดู อวยพรในโอกาสต่าง ๆ

มีมารยาทและมนี ิสยั รักการอ่าน การฟงั การดู การพูด และการเขยี น ทอ่ งจำและอธบิ ายคุณคา่
บทอาขยาน ซาบซงึ้ ในบทอาขยาน นำไปใช้อ้างอิง สามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้

รหสั ตัวช้ีวดั
ท1.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/8
ท2.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/8 ม.2/4 ม.2/5
ท3.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/6 ม.2/3 ม.2/2
ท4.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3
ท5.1 ม. 2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/5

2

โครงสร้างรายวิชา

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความคดิ รวบยอด (ชม.) คะแนน

เรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั 3 2

1 การอา่ นออกเสียง 1. อธบิ ายความรูเ้ ร่อื ง การอ่านออกเสียงบทร้อย 7 10

ตวั ชี้วดั ขอ้ ที่ 1,2 หลกั การอา่ นออกเสยี งบท แก้วและบทร้อยกรองเป็น

ร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอา่ นท่ีเปน็ เอกลักษณ์ของ

ได้ถูกตอ้ ง (K) ไทยที่ผู้อ่านจะต้องเข้าใจ

2. ปฏิบัติตามหลักการ ฉันทลักษณ์ในการอ่านและ

อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง

และบทร้อยกรองได้ รวมทั้งสามารถถ่ายทอด

ถูกต้อง (P) อารมณ์ของบทประพันธ์สู่

3. มมี ารยาทในการอา่ น ผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้งและเห็น

และนำข้อคดิ ประโยชน์ คุณคา่

จากเรอ่ื งทีอ่ ่านมา

ประยุกต์ใช้ในชีวติ

ประจำวันได้ (A)

2 การอา่ นใน 1. อธิบายหลักการอา่ น การอา่ นจับใจความสำคัญ

ชวี ิตประจำวนั จับใจความสำคัญ สรปุ เปน็ ทกั ษะการอา่ นทคี่ วร

สรา้ งสรรค์ปัญญา ความและอธิบาย ฝึกฝนจะช่วยให้ผู้อ่าน

ตวั ช้วี ัดขอ้ ท่ี 3,4,5 รายละเอยี ดจากเรอ่ื ง สามารถเขา้ ใจเรอ่ื งราวท่ีอ่าน

ท่ีอ่านได้ (K) ได้อยา่ งรวดเรว็ ทำให้เขา้ ใจ

2. อธบิ ายหลกั การ หลักการอา่ นจับใจความ

อภปิ รายแสดงความ สำคญั จากสือ่ ต่าง ๆ ทงั้ บท

คดิ เห็นและข้อโต้แยง้ ได้ รอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง

(K) ตลอดจนสามารถอภปิ ราย

3. อธิบายหลกั การอ่าน แสดงความคิดเห็น จากสอื่

เพอื่ จบั ใจความสำคัญ ทอี่ ่านและสรปุ ความ

วิเคราะห์ ประเมินคา่ (K) เปน็ แผนผังความคิดได้อยา่ ง

4. ปฏิบตั ิตามหลักการ ถูกต้อง

อ่านจับใจความสำคัญ

สรุปความและอธิบาย

รายละเอียดจากเร่อื ง

ท่อี ่านได้ (P)

3

ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก
หน่วยท่ี /มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความคดิ รวบยอด (ชม.) คะแนน

เรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด 2 2

5.อภิปรายแสดงความ

คิดเหน็ และขอ้ โตแ้ ยง้

เก่ียวกับเรอื่ งทีอ่ ่าน (P)

6. เขียนผังความคิดเพื่อ

แสดงความเข้าใจใน

บทเรียนทีอ่ า่ น (P)

7. ตระหนกั และเห็น

ความสำคัญของการอ่าน

(A)

8. มีนสิ ยั รกั การอ่าน (A)

3 การคัดลายมือ 1. อธิบายหลักการ ลายมอื ทใ่ี ช้ในการเขียน

ตัวช้ีวดั ข้อที่ 6 คดั ลายมอื ตัวบรรจง สอื่ สารคือลายมอื ตวั บรรจง

คร่ึงบรรทดั ตามรปู แบบ คร่ึงบรรทดั และคดั ตาม

การเขยี นตวั อักษรไทย รปู แบบการเขียนตัว

(K) อกั ษรไทย ซง่ึ การคัดลายมอื

2. คดั ลายมอื ตวั บรรจง ตามรปู แบบการเขียนตัว

ครง่ึ บรรทัดตามรูปแบบ อกั ษรไทยเพ่ือใชใ้ นการ

การเขยี นตัวอักษรไทย ส่ือสารจะต้องศึกษารูปแบบ

(P) ตัวอักษรเพื่อใหส้ ามารถคัด

3. มวี นิ ยั และรกั ความ ลายมอื ไดอ้ ย่างถูกต้องและ

เปน็ ไทย (A) สวยงาม

4 การเขยี น 1. อธบิ ายความรพู้ ื้นฐาน การเขียนเพอ่ื การสือ่ สารมี 9 6

เพ่อื การส่อื สาร เกย่ี วกับการเขยี น/ ความจำเปน็ ในชีวิตประจำวนั

ตัวช้ีวัดขอ้ ที่ หลักการเขยี นบรรยาย ผู้เขยี นควรศกึ ษาเรยี นรู้ทำ

7,8,9,10 และพรรณนาได้(K) ความเข้าใจรูปแบบการเขยี น

2. อธบิ ายหลกั การเขียน หลักการเขียนบรรยายการ

ยอ่ ความได้ (K) เขยี นพรรณนา การเขียน

3. อธิบายหลักการเขียน ย่อความ และการเขยี น

เรียงความได้ (K) เรยี งความอย่างถูกตอ้ ง

4. ปฏิบตั ติ ามหลกั การ อกี ทง้ั จะต้องมีมารยาทใน

เขียนบรรยายและ การเขียนและสามารถนำมา

พรรณนาได้ (P) ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวัน

4

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก
หนว่ ยท่ี /มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน

เรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั 4 2
5 4
6. ปฏิบัตติ ามหลักการ
5 4
เขียนเรียงความได้ (P)

7. ปฏิบตั ติ ามหลกั การ

เขียนย่อความได้ (P)

8. มีมารยาทในการ

เขียน และนำข้อคดิ

ประโยชน์มาประยุกต์ใช้

ในชีวติ ประจำวันได้ (A)

5 การพดู สรุปความ 1. อธิบายความรู้พื้นฐาน การพูดสรปุ ใจความสำคัญ

จากเร่ืองท่ีฟังและดู เร่อื งการพูด (K) จากส่ือต่าง ๆ ที่ฟังและดู

ตวั ชว้ี ดั ขอ้ ที่ 11 2. พดู สรุปใจความสำคัญ ผูพ้ ูดจะต้องมีพ้ืนฐานใน

ของเร่ืองท่ีฟงั และดู (P) การพดู เพ่อื นำไปใช้ได้อย่าง

3. มีความซื่อสตั ย์ (A) ถูกต้อง

6 โคลงภาพพระราช 1. มีความรคู้ วามเขา้ ใจ การศึกษาเรื่อง โคลงภาพ

พงศาวดาร เกยี่ วกับหลกั การ พระราชพงศาวดาร จะตอ้ ง

ตัวช้วี ดั ขอ้ ท่ี 12 วเิ คราะห์และวจิ ารณ์ วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์

วรรณคดีวรรณกรรมท่ี วรรณคดีจากเรื่องท่ีอ่านได้

อ่าน (K) พร้อมทงั้ ยกเหตุผลประกอบ

2. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์ เก่ียวกับเนอ้ื เร่ืองท่ีอา่ นได้

วรรณคดีเร่อื ง โคลงภาพ อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม

พระราชพงศาวดาร ตอน

พระสรุ โิ ยทยั ขาดคอชา้ ง

ได้ (P)

3. มีความซ่อื สตั ย์ (A)

7 บทเสภา 1. อธบิ ายหลักการพดู การศกึ ษาเรื่อง บทเสภา

สามคั คีเสวก วิเคราะห์ วิจารณจ์ ากส่ือ สามคั คเี สวก ตอน

ตัวชี้วดั ขอ้ ที่ 13,14 ทฟ่ี ังและดู (K) วิศวกรรมาและสามคั คีเสวก

2. มารยาทในการฟัง จะตอ้ งวเิ คราะห์วิจารณเ์ รื่อง

การดู และการพูด (K) ได้ รวมทง้ั มีมารยาทในการ

3. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์ ฟังและดู

เรอ่ื งที่ฟงั และดู

อยา่ งมวี ิจารณญาณ (P)

5

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ ความคิดรวบยอด (ชม.) คะแนน
3
เรยี นรู้/ตวั ชี้วดั 6 5
5
4. มมี ารยาทในการฟัง 4
4
การดู และการพดู นำ

ขอ้ คิดมาประยกุ ต์ใชใ้ นการ

ดำเนนิ ชีวติ (A)

5. มคี วามซอื่ สตั ย์ (A)

8 สรา้ งคำในภาษาไทย 1. อธิบายหลกั การ การศกึ ษาเร่ือง สรา้ งคำใน

ตวั ช้วี ัดขอ้ ที่ 15 สรา้ งคำในภาษาไทย (K) ภาษาไทย จะต้องมีความรู้

2. สามารถสรา้ งคำ พนื้ ฐานในการสร้างคำ ทงั้

ในภาษาไทยได้ (P) หลักเกณฑว์ ธิ ีการสรา้ งคำ

3. มีความกระตือรือร้นใน ในภาษาไทย เพื่อใหม้ ี

การทำงาน (A) ความเขา้ ใจและสามารถ

ใช้ไดอ้ ย่างถูกต้อง

9 ประโยคในภาษาไทย 1. อธิบายโครงสรา้ ง การศึกษาเรื่องประโยคใน

ตวั ชว้ี ดั ข้อท่ี 16 ประโยคสามัญ ประโยค ภาษาไทย ต้องวเิ คราะห์

รวม และประโยคซ้อนได้ โครงสร้างประโยคให้

(K) ถูกต้อง

2. วเิ คราะหโ์ ครงสร้าง

ประโยคสามัญประโยค

รวม และประโยคซ้อนได้

(P)

3. มีความกระตือรือรน้ ใน

การทำงาน (A)

10 รามเกยี รติ์ ตอน 1. หลกั การสรปุ เนื้อหา การศึกษาเร่ืองรามเกยี รติ์

นารายณ์ปราบน วรรณคดีและวรรณกรรมที่ ตอน นารายณป์ ราบนนทก

นทก อา่ นในระดบั ทย่ี ากข้นึ (K) จะต้องจับใจความสำคัญ

ตวั ชีว้ ัดข้อท่ี 17 2. สรปุ เนื้อหาวรรณคดี สรปุ ความ อธิบาย

และวรรณกรรมจาก รายละเอียดจากเรอื่ งท่ี

บทเรียนในวรรณคดี (P) อา่ น และยงั ต้องรู้ความ

3. ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ เปน็ มาและประวตั ิผู้แตง่

ของวรรณคดีและนำมา

ประยกุ ต์ใชใ้ น

ชีวิตประจำวันได้ (A)

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ เวลา 6
หนว่ ยที่ /มาตรฐานการ ความคิดรวบยอด (ชม.) น้ำหนัก
4 คะแนน
เรียนรู้/ตวั ชี้วัด
2 4
11 ศิลาจารึกพอ่ ขุน 1. หลกั การวเิ คราะห์และ การศึกษาเร่ืองศิลาจารึก
2
รามคำแหงมหาราช วิจารณ์วรรณคดี พ่อขนุ รามคำแหง จะต้อง

ตัวช้ีวัดขอ้ ท่ี 18 วรรณกรรม และ สามารถวเิ คราะห์วจิ ารณ์

วรรณกรรมท้องถ่ิน (K) เร่อื งที่อา่ นพร้อมอธบิ าย

2. วเิ คราะห์และวิจารณ์ เน้อื หาและยกเหตุผล

วรรณคดีวรรณกรรมจาก ประกอบเรอื่ งได้อยา่ ง

เร่ือง บทเรยี นในวรรณคดี ถกู ต้อง

และวรรณกรรมทอ้ งถ่ิน

ทอ่ี ่าน พร้อมยกเหตผุ ล

ประกอบ (P)

3. รักชาตศิ าสน์ กษัตริย์

ซอ่ื สตั ย์และมีจิตสาธารณะ

(A)

12 ทอ่ งจำบทอาขยาน 1. หลกั การท่องบท บทอาขยานเปน็ บททมี่ ี

ตัวชว้ี ัดข้อท่ี 19 อาขยาน (K) คุณค่า ให้ข้อคิด จงึ ควรนำ

2. ท่องจำบทอาขยาน บทอาขยานตามทกี่ ำหนด

ตามท่ีกำหนดและบทร้อย มาทอ่ งจำ

กรองท่ีมีคุณคา่ ตามความ

สนใจ (P)

3. มีความซื่อสัตย์ (A)

7

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1

รหสั วิชา ท22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 9 ประโยคในภาษาไทย เวลา 6 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกบั โครงสร้างของประโยค เวลา 1 ชวั่ โมง

สอนวันที่……………เดอื น…………………………………….พ.ศ………. ครูผู้สอน นางสาวอารียวฒั น์ พงษน์ ิรนั ดร

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั
1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ
1.2 ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ท 4.1 ม.2/2 วิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน

2. สาระสำคัญ
ประโยคเปน็ ขอ้ ความท่มี ีใจความสมบรู ณ์ แตล่ ะประโยคประกอบด้วย ภาคประธาน

และภาคแสดง ประโยคมี 3 ชนิด
ประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน การมคี วามรูเ้ รื่องประโยคจะทำให้การใช้ภาษา

ในการสอื่ สารมีประสทิ ธภิ าพยง่ิ ข้ึน
ประโยคสามญั หรอื ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) คือ ประโยคท่ีมปี ระธานและกรยิ า

สำคัญเพียงบทเดียว ไม่มคี ำเชื่อมปรากฏ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 อธิบายเกยี่ วกบั โครงสร้างประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน (K)
3.2 วเิ คราะห์โครงสรา้ งประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซอ้ น (P)
3.3 เหน็ ความสำคัญของการศึกษาเรื่องประโยค และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 โครงสร้างประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน
4.2 วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งม่ันในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
6.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

8

7. การจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นการตั้งคำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 นักเรยี นสแกน QR CODE จากสไลด์อิเล็กทรอนิกส์ ในชดุ กิจกรรมที่ 35

เรอ่ื ง ความรู้พนื้ ฐานเกีย่ วกบั โครงสร้างของประโยค เพ่ือทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำหนว่ ยการ
เรียนรูท้ ่ี 9 ประโยคในภาษาไทย จำนวน 10 ข้อ จากโปรแกรมประยุกตก์ ารทำแบบทดสอบออนไลน์
เพื่อวัดความรพู้ ้ืนฐานของนักเรยี น (ใหเ้ วลา 10 นาที)

7.2 ครูถามคำถามกระตนุ้ ความคิด (นกั เรยี นคดิ ว่าประโยคท่ีเราใชอ้ ยู่ทุกวันน้ี
มีโครงสร้างอยา่ งไรบา้ ง)

7.3 นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
ข้นั การสบื ค้นความรู้และสารสนเทศ (Learning to Search)

7.4 ครนู ำพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์รายวัน 2-3 ฉบับ มาให้นักเรยี นอา่ น
7.5 นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ข้อความที่เป็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์น้ัน
เป็นประโยคหรือไม่
7.6 นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ (ขอ้ ความทเี่ ป็นพาดหัวขา่ วหนงั สอื พิมพ์
มลี ักษณะอย่างไร)
ขั้นการสรา้ งความรู้ (Learning to Construct)
7.7 นกั เรยี นศกึ ษาความรู้เร่ือง ความหมายของประโยค และสว่ นประกอบของประโยค
จากหนงั สอื เรียนและอินเทอร์เน็ต
7.8 ครอู ธบิ ายเน้อื หาเกยี่ วกบั โครงสรา้ งของประโยคให้นักเรยี นเหน็ ถึงความแตกต่าง
เพือ่ จะได้จำแนกได้ถูกต้อง
7.9 บันทกึ ความร้ลู งสมุด
ขั้นการส่ือสารและนำเสนออยา่ งมีประสิทธภิ าพ (Learning to Communication)
7.10 ครูและนักเรยี นร่วมอภิปรายเน้ือหา

ขน้ั การบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Learning to Serve)
7.11 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ บทเรยี น หาแนวทาง/นำความร้จู ากบทเรยี น

ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวันและนำความรู้ที่ได้ไปทำความเข้าใจเพื่อเตรยี มความพร้อมในการเรยี น
ในชั่วโมงตอ่ ไป

9

8. การวัดผลประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
แบบสงั เกต
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ตอบคำถามเกยี่ วกับ ระดบั คุณภาพ 3

8.1 อธบิ ายเกยี่ วกบั โครงสร้าง โครงสร้างประโยคสามญั ผ่านเกณฑ์
ประโยคสามัญประโยครวม
และประโยคซ้อน ประโยครวม
และประโยคซ้อน

8.2 วเิ คราะหโ์ ครงสร้างประโยค ตรวจสมุด 2. บันทึกความรูล้ งในสมุด ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
60
สามญั ประโยครวม

และประโยคซ้อน

8.3 เห็นความสำคัญของ แบบสงั เกต 4. แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 3
คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
การศึกษาเร่ืองประโยค อนั พึงประสงค์

และนำไปประยุกต์ใช้ใน

ชวี ติ ประจำวนั ได้

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
9.1 ชุดกจิ กรรมท่ี 35 เรือ่ ง ความรู้พืน้ ฐานเก่ียวกบั โครงสร้างของประโยค
9.2 หนงั สือเรยี นหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.3 เวบ็ เบราวเ์ ซอร์/อินเทอร์เน็ต
9.4 โปรแกรมประยุกต์การทำแบบทดสอบออนไลน์

10

10. บันทึกหลังสอน
10.1 ผลการจดั การเรียนรู้
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ มีจุดประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คุณธรรม/การตา้ นการทจุ รติ /หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบคน้ ข้อมูล/การใช้เทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนือ่ งจาก....................................................................
 ................................................................................................................................................
 อนื่ ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์
 จำนวนนักเรียนที่ผา่ นการประเมนิ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนักเรยี นทีไ่ มผ่ า่ นการประเมนิ .................. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............................
สาเหต.ุ ...................................................................................................................... ...........
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 นักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 นกั เรียนทไ่ี ม่สนใจเรียน
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรือ่ ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไม่ผา่ นการประเมนิ /ไม่สนใจเรียน ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 .................................................................................................................................. ..............
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................

ลงชอ่ื ........................................... ผูบ้ ันทึก
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษ์นิรนั ดร)
ครูผสู้ อน

11

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2

รหัสวิชา ท22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 9 ประโยคในภาษาไทย เวลา 6 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง ชนิดของประโยคแบ่งตามโครงสร้าง เวลา 1 ช่ัวโมง

สอนวันท่ี……………เดอื น…………………………………….พ.ศ………. ครผู ้สู อน นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ริ นั ดร

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ
1.2 ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ท 4.1 ม.2/2 วิเคราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน

2. สาระสำคญั
ประโยคเปน็ ข้อความทม่ี ใี จความสมบรู ณ์ แต่ละประโยคประกอบด้วย ภาคประธาน

และภาคแสดง ประโยคมี 3 ชนดิ
ประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน การมคี วามรเู้ รือ่ งประโยคจะทำใหก้ ารใชภ้ าษา

ในการสือ่ สารมีประสิทธภิ าพย่งิ ขน้ึ
ประโยคสามญั หรอื ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) คือ ประโยคที่มีประธานและกริยา

สำคญั เพียงบทเดียว ไม่มคี ำเช่ือมปรากฏ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 อธบิ ายเก่ียวกับโครงสรา้ งประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน (K)
3.2 วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน (P)
3.3 เหน็ ความสำคญั ของการศึกษาเร่ืองประโยค และนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 โครงสร้างประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน
4.2 วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุง่ มน่ั ในการทำงาน

12

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
6.1 ความสามารถในการส่อื สาร
6.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. การจดั กระบวนการเรียนรู้
ขัน้ การตั้งคำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 ครถู ามคำถามกระต้นุ ความคิด (นักเรียนคดิ ว่าประโยคที่เราใช้อยทู่ ุกวันนี้

สามารถพบได้ในเน้ือหาใดบา้ ง)
7.2 นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด

ขน้ั การสบื ค้นความร้แู ละสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 ครนู ำพาดหัวขา่ วหนงั สือพมิ พร์ ายวัน 2-3 ฉบบั มาให้นักเรียนอา่ น
7.4 นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ข้อความที่เป็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์นั้น

เป็นประโยคชนิดใด
7.5 นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด (ข้อความทเี่ ป็นพาดหวั ขา่ วหนังสือพิมพ์

มีลกั ษณะอยา่ งไร)
ข้ันการสร้างความรู้ (Learning to Construct)
7.6 นักเรยี นศึกษาความรู้เรื่อง ความหมายของประโยค และสว่ นประกอบของประโยค

จากสไลดอ์ ิเล็กทรอนกิ สใ์ นชุดกจิ กรรมที่ 40 เรอ่ื ง ชนดิ ของประโยคแบ่งตามโครงสร้าง
7.7 ครอู ธบิ ายเน้อื หาเก่ียวกับโครงสร้างของประโยคใหน้ ักเรียนเหน็ ถึงความแตกตา่ ง

เพอ่ื จะได้จำแนกได้ถูกต้อง
7.8 ครูแจกใบงานที่ 1 เรอ่ื ง โครงสรา้ งของประโยค โดยให้นักเรียนทำใบงาน

เป็นรายบุคคล
7.9 นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ครูมอบให้เสรจ็ แล้วตรวจสอบความเรียบร้อย

ข้ันการส่ือสารและนำเสนออย่างมีประสทิ ธภิ าพ (Learning to Communication)
7.10 ครูส่มุ นักเรียนเฉลยใบงาน จากนัน้ ครเู ฉลยใบงานเพิ่มเตมิ โดยใหน้ กั เรยี นเปลยี่ นกนั

ตรวจกบั เพ่อื นในห้อง
ขั้นการบรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ (Learning to Serve)
7.11 ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ บทเรยี น หาแนวทาง/นำความรู้จากบทเรยี น

ไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวันและนำความรู้ทไี่ ด้ไปทำความเขา้ ใจเพือ่ เตรียมความพร้อมในการเรยี น
ในชว่ั โมงต่อไป

13

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
1. ตอบคำถามเกีย่ วกบั ระดบั คุณภาพ 3
8.1 อธิบายเกย่ี วกบั โครงสร้าง แบบสังเกต โครงสรา้ งของประโยค ผา่ นเกณฑ์

ประโยคสามัญประโยครวม 2. ใบงานท่ี 1 เรื่อง ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
โครงสรา้ งของประโยค 60
และประโยคซ้อน
3. แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 3
8.2 วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยค ตรวจใบงาน คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์
สามัญประโยครวม

และประโยคซ้อน

8.3 เห็นความสำคัญของ แบบสงั เกต

การศกึ ษาเร่ืองประโยค

และนำไปประยุกต์ใชใ้ น

ชีวติ ประจำวันได้

9. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ชุดกิจกรรมที่ 36 เรอื่ ง ชนิดของประโยคแบ่งตามโครงสรา้ ง
9.2 ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงสร้างของประโยค
9.3 หนงั สือเรยี นหลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ม.2
9.4 เวบ็ เบราว์เซอร์/อนิ เทอรเ์ น็ต

14

10. บันทึกหลังสอน
10.1 ผลการจดั การเรยี นรู้
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ มจี ดุ ประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การต้านการทุจริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
 มีกระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบคน้ ขอ้ มลู /การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนอ่ื งจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อืน่ ๆ ....................................................................................................................................
10.2 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์
 จำนวนนกั เรียนท่ีผ่านการประเมนิ ................... คน คดิ เป็นร้อยละ .................................
 จำนวนนักเรยี นท่ไี ม่ผา่ นการประเมนิ .................. คน คิดเป็นร้อยละ ...............................
สาเหต.ุ .................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา................................................................................................................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 นกั เรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 นกั เรียนที่ไมส่ นใจเรยี น
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เร่ือง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นการประเมิน/ไมส่ นใจเรยี น ................................................
 ................................................................................................................................. ...............
 ................................................................................................................................................
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงช่อื ........................................... ผบู้ ันทึก
(นางสาวอารียวัฒน์ พงษ์นริ ันดร)
ครผู สู้ อน

15

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3

รหสั วชิ า ท22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 9 ประโยคในภาษาไทย เวลา 6 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง จำแนกประโยค เวลา 1 ช่ัวโมง

สอนวนั ที่……………เดอื น…………………………………….พ.ศ………. ครผู ู้สอน นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ิรนั ดร

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ
1.2 ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ท 4.1 ม.2/2 วิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน

2. สาระสำคัญ
ประโยคเป็นขอ้ ความที่มีใจความสมบูรณ์ แต่ละประโยคประกอบดว้ ย ภาคประธาน

และภาคแสดง ประโยคมี 3 ชนดิ ประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน การมคี วามรเู้ รอื่ ง
ประโยคจะทำใหก้ ารใช้ภาษาในการสอ่ื สารมปี ระสิทธภิ าพยิ่งข้ึน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 อธบิ ายเกี่ยวกบั โครงสร้างประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน (K)
3.2 จำแนกประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซอ้ นได้ (P)
3.3 เหน็ ความสำคัญของการศึกษาเร่ืองประโยค และนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 โครงสร้างประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซอ้ น
4.2 จำแนกประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมัน่ ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.2 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

16

7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้
ขน้ั การตั้งคำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 ครูทบทวนความรจู้ ากชัว่ โมงทผ่ี า่ นมา (นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโครงสรา้ ง

ของประโยคอย่างไรบ้าง)
7.2 นักเรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ

ขั้นการสบื คน้ ความรู้และสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 ให้นักเรยี นศึกษาเร่ือง ชนิดของประโยคแบ่งตามโครงสร้าง จากสไลด์อิเลก็ ทรอนิกส์

ในชุดกจิ กรรมที่ 41 เรื่อง จำแนกประโยค (ประโยคแบ่งตามโครงสร้างจะมีอยู่ 3 ชนดิ คือ ประโยค
ความเดียว ประโยคความรวมและประโยคความซ้อน)

7.4 นักเรยี นสบื คน้ ข้อมลู จากหนงั สือและอนิ เทอร์เน็ตเพ่ิมเตมิ
ข้นั การสรา้ งความรู้ (Learning to Construct)

7.5 ครแู จกใบงานที่ 2 เร่ือง จำแนกประโยค ใหน้ ักเรยี นแยกภาคประธาน ภาคแสดง
ของประโยคใหถ้ ูกต้อง โดยให้นักเรียนทำใบงานเป็นรายบคุ คล

7.6 นักเรียนแตล่ ะคนทำใบงานเสร็จแล้วตรวจสอบความเรยี บร้อยก่อนนำสง่ ครู
ขั้นการส่อื สารและนำเสนออย่างมีประสิทธภิ าพ (Learning to Communication)

7.7 นกั เรียนออกมาเฉลยคำตอบให้เพอ่ื น ๆ ในห้องฟงั
7.8 ครูและนกั เรียนอภปิ รายเน้อื หารว่ มกนั
ขนั้ การบริการสังคมและจติ สาธารณะ (Learning to Serve)
7.9 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปบทเรียน หาแนวทาง/นำความรูจ้ ากบทเรยี น
ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวันและนำความรู้ท่ไี ด้ไปทำความเข้าใจเพื่อเตรยี มความพร้อมในการเรียน
ในชั่วโมงตอ่ ไป

8. การวดั ผลประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์
แบบสังเกต 1. ตอบคำถามเก่ียวกบั ระดบั คุณภาพ 3
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ โครงสร้างของประโยค ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงาน
8.1 อธิบายเกี่ยวกบั โครงสร้าง 2. ใบงานท่ี 2 เรื่อง ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
ประโยคสามญั ประโยครวม แบบสงั เกต จำแนกประโยค 60
และประโยคซ้อน
8.2 จำแนกประโยคสามญั 3. แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 3
ประโยครวม และประโยคซ้อน คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ได้ อันพงึ ประสงค์
8.3 เห็นความสำคัญของ
การศึกษาเร่ืองประโยค
และนำไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้

17

9. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
9.1 ชดุ กจิ กรรมที่ 37 เร่ือง จำแนกประโยค
9.2 ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง จำแนกประโยค
9.3 หนงั สอื เรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.4 เวบ็ เบราวเ์ ซอร/์ อินเทอร์เน็ต

18

10. บันทึกหลังสอน
10.1 ผลการจัดการเรียนรู้
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ มีจดุ ประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การต้านการทุจริต/หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 มีกระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบค้นขอ้ มูล/การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนอ่ื งจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อืน่ ๆ ....................................................................................................................................
10.2 ผลการเรียนรตู้ ามจุดประสงค์
 จำนวนนักเรียนทีผ่ ่านการประเมนิ ................... คน คดิ เป็นร้อยละ .................................
 จำนวนนักเรียนทไ่ี มผ่ ่านการประเมนิ .................. คน คิดเป็นร้อยละ ...............................
สาเหตุ....................................................................................................... ...........................
แนวทางแก้ปัญหา............................................................................................................... .
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
 นกั เรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 นักเรยี นทไี่ มส่ นใจเรยี น
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอื่ ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................................. ...
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนที่ไมผ่ า่ นการประเมิน/ไม่สนใจเรยี น ................................................
 ................................................................................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อื่น ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงชอื่ ........................................... ผ้บู ันทึก
(นางสาวอารียวฒั น์ พงษน์ ิรนั ดร)
ครูผสู้ อน

19

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 4

รหสั วชิ า ท22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 9 ประโยคในภาษาไทย เวลา 6 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง ประโยคความเดียว เวลา 1 ชว่ั โมง

สอนวันที่……………เดอื น…………………………………….พ.ศ………. ครผู ูส้ อน นางสาวอารยี วฒั น์ พงษ์นริ ันดร

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั
1.1 มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา

และพลังของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ
1.2 ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท 4.1 ม.2/2 วิเคราะหโ์ ครงสร้างประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน

2. สาระสำคญั
ประโยคเป็นขอ้ ความทีม่ ใี จความสมบูรณ์ แตล่ ะประโยคประกอบดว้ ย ภาคประธาน

และภาคแสดง ประโยคมี 3 ชนดิ
ประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน การมีความรู้เรอื่ งประโยคจะทำให้การใชภ้ าษา

ในการส่อื สารมีประสทิ ธภิ าพยิ่งขนึ้
ประโยคสามัญหรอื ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) คือ ประโยคที่มีประธานและกรยิ า

สำคัญเพยี งบทเดยี ว ไม่มีคำเชื่อมปรากฏ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 อธิบายเกยี่ วกับโครงสรา้ งประโยคสามัญ (K)
3.2 วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคสามัญและแตง่ ประโยคสามญั ได้ (P)
3.3 เหน็ ความสำคัญของการศกึ ษาเร่ืองประโยค และนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคสามญั
4.2 แตง่ ประโยคสามัญ

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรยี นรู้
5.2 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

20

6. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
6.1 ความสามารถในการคิด
6.2 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. การจัดกระบวนการเรยี นรู้
ขัน้ การตง้ั คำถาม/สมมตฐิ าน (Learning to Question)
7.1 ครูยกตัวอย่างประโยคมา 3 ประโยค แลว้ ให้นกั เรียนตอบคำถามวา่ เป็นประโยค

ความเดียว ความรวมหรือความซอ้ น
7.2 นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ

ข้ันการสืบค้นความรูแ้ ละสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 ครอู ธบิ ายเน้ือหาเรอื่ งประโยคความเดยี วคร่าว ๆ แล้วให้นักเรียนยกตัวอยา่ งประโยค

ความเดยี วงา่ ย ๆ ที่ใช้กันในชีวิตประจำวนั มาคนละ 2 ประโยค
7.4 ครูให้นักเรยี นศึกษาใบความรู้เรอื่ ง ประโยคความเดียว แลว้ บันทึกลงสมดุ

ขน้ั การสร้างความรู้ (Learning to Construct)
7.5 นกั เรยี นทำใบงานที่ 3 เรื่อง ประโยคความเดียว โดยครใู หเ้ วลา 15 นาที

ข้นั การส่อื สารและนำเสนออยา่ งมีประสิทธภิ าพ (Learning to Communication)
7.6 นกั เรยี นออกมาอธิบายคำตอบของตนเองให้เพ่ือน ๆ ในหอ้ งฟัง
7.7 ครแู ละนักเรยี นอภิปรายเนอ้ื หารว่ มกัน

ข้นั การบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ (Learning to Serve)
7.8 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรียน หาแนวทาง/นำความรู้จากบทเรียน

ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันและนำความรู้ที่ได้ไปทำความเขา้ ใจเพ่อื เตรียมความพร้อมในการเรียน
ในชวั่ โมงตอ่ ไป

8. การวดั ผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวดั ผล เครื่องมือ เกณฑ์

8.1 อธิบายเก่ยี วกับโครงสรา้ ง แบบสังเกต 1. ตอบคำถามเกย่ี วกบั ระดบั คุณภาพ 3
โครงสรา้ งของประโยค ผา่ นเกณฑ์
ประโยคสามญั 2. ใบงานท่ี 3 เรื่อง ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ประโยคความเดยี ว 60
8.2 วเิ คราะหโ์ ครงสร้างประโยค ตรวจใบงาน 3. แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3
คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
สามญั และแต่งประโยคสามัญได้ อนั พึงประสงค์

8.3 เหน็ ความสำคัญของ แบบสงั เกต

การศึกษาเร่ืองประโยค

และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ น

ชีวติ ประจำวันได้

21

9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ชดุ กิจกรรมที่ 38 เรือ่ ง ประโยคความเดียว
9.2 ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง ประโยคความเดียว
9.3 ใบความรเู้ รื่อง ประโยคความเดียว
9.4 หนงั สอื เรยี นหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ม.2
9.5 เวบ็ เบราว์เซอร์/อินเทอรเ์ น็ต

22

10. บันทกึ หลังสอน
10.1 ผลการจัดการเรียนรู้
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ มจี ุดประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การต้านการทจุ ริต/หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบคน้ ขอ้ มลู /การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนอ่ื งจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์
 จำนวนนักเรียนที่ผา่ นการประเมนิ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ ่านการประเมนิ .................. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............................
สาเหตุ..................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................

10.3 ปัญหาและอปุ สรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
 นักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 นกั เรียนท่ีไม่สนใจเรียน
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เร่อื ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมนิ /ไม่สนใจเรยี น ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ................................................................................................................................................
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงช่อื ........................................... ผู้บนั ทกึ
(นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นริ นั ดร)
ครูผู้สอน

23

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5

รหสั วชิ า ท22101 รายวิชาภาษาไทย 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 9 ประโยคในภาษาไทย เวลา 6 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง ประโยคความรวม เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวนั ที่……………เดอื น…………………………………….พ.ศ………. ครผู ูส้ อน นางสาวอารยี วัฒน์ พงษ์นริ นั ดร

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั
1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา

และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ
1.2 ตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ท 4.1 ม.2/2 วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน

2. สาระสำคญั
ประโยคเปน็ ข้อความที่มีใจความสมบรู ณ์ แตล่ ะประโยคประกอบด้วย ภาคประธาน

และภาคแสดง ประโยคมี 3 ชนิด
ประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน การมีความรู้เรอ่ื งประโยคจะทำใหก้ ารใชภ้ าษา

ในการสื่อสารมีประสิทธภิ าพยงิ่ ขนึ้
ประโยคความรวม คอื ประโยคความเดยี วตัง้ แต่ 2 ประโยคข้นึ ไปมารวมกัน โดยใชค้ ำสนั ธาน

เชือ่ มเพ่ือให้ได้ความชัดเจน แต่เม่ือแยกประโยค 2 ประโยคออกจากกนั
ก็จะมีใจความประโยคทสี่ มบรู ณ์ในตัวเอง

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 อธบิ ายเกย่ี วกบั โครงสรา้ งประโยคความรวมได้ (K)
3.2 วิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคความรวมและแต่งประโยคความรวมได้ (P)
3.3 เหน็ ความสำคัญของการศึกษาเรื่องประโยค และนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 วิเคราะห์โครงสร้างประโยคความรวม
4.2 แตง่ ประโยคความรวม

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
5.2 มุ่งม่ันในการทำงาน

24

6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
6.1 ความสามารถในการคิด
6.2 ความสามารถในการส่ือสาร
6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. การจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขนั้ การตงั้ คำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 ครทู บทวนเรื่อง ประโยคความเดียวหรอื ประโยคสามญั วา่ ประโยคตอ้ ง

มีภาคประธานและภาคแสดงประโยคความเดียวหรือประโยคสามัญ หมายถึงประโยคที่มใี จความเดียว
ซง่ึ หมายถึงจะมีประธาน 1 กริ ิยา 1 เทา่ นน้ั

7.2 ครยู กตวั อยา่ งประโยคให้นกั เรียนช่วยกันพจิ ารณาว่าประโยคเหลา่ น้ีเป็นประโยค
ความเดียวหรือไม่ เชน่ ครูและนักเรียนอยูใ่ นห้อง แม่ไปซ้ือของแตพ่ ่อไปดหู นงั

7.3 นักเรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ
ขน้ั การสืบค้นความรแู้ ละสารสนเทศ (Learning to Search)

7.4 ครูอธิบายถึงประโยคทีต่ ัวอยา่ ง ว่าเป็นประโยคความรวมเพราะหากแยกประโยค
เป็นประโยคความเดยี วได้ 2 ประโยค เชน่ ครูอย่ใู นห้อง นักเรยี นอยใู่ นห้อง

7.5 ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรุปความหมายของประโยคความรวม ทห่ี มายถงึ ประโยค
ที่นำประโยคความรวมตงั้ แต่สองประโยคขนึ้ ไปมารวมกันโดยใช้สันธานเชอ่ื ม แบง่ ออกตามเนอ้ื หาได้ 4
ประเภทตามเน้ือความ

7.6 ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาใบความรเู้ ร่ือง ประโยคความรวม แลว้ บันทกึ ลงสมุด
ขั้นการสร้างความรู้ (Learning to Construct)

7.7 นักเรียนทำใบงานท่ี 4 เรื่อง ประโยคความรวม โดยครูใหเ้ วลา 15 นาที
ข้นั การส่ือสารและนำเสนออยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (Learning to Communication)

7.8 นักเรยี นออกมาอธิบายคำตอบของตนเองใหเ้ พ่ือน ๆ ในห้องฟัง
7.9 ครูและนกั เรยี นอภปิ รายเน้อื หารว่ มกนั
ขน้ั การบริการสงั คมและจิตสาธารณะ (Learning to Serve)
7.10 ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปบทเรียน หาแนวทาง/นำความร้จู ากบทเรียน
ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวันและนำความรู้ที่ได้ไปทำความเขา้ ใจเพ่อื เตรียมความพร้อมในการเรยี น
ในชั่วโมงต่อไป

25

8. การวัดผลประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 3
8.1 อธิบายเก่ียวกับโครงสรา้ ง แบบสังเกต 1. ตอบคำถามเกย่ี วกับ ผา่ นเกณฑ์
โครงสร้างของประโยค ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
ประโยคความรวม 2. ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง 60
ประโยคความรวม
8.2 วิเคราะห์โครงสรา้ งประโยค ตรวจใบงาน ระดบั คุณภาพ 3
3. แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์
ความรวมและแตง่ ประโยค คุณลักษณะ
ความรวมได้ อันพึงประสงค์

8.3 เห็นความสำคญั ของ แบบสงั เกต
การศึกษาเร่ืองประโยค
และนำไปประยุกต์ใชใ้ น

ชวี ติ ประจำวันได้

9. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ชดุ กจิ กรรมท่ี 39 เรื่อง ประโยคความรวม
9.2 ใบงานท่ี 4 เร่ือง ประโยคความรวม
9.3 ใบความรเู้ รือ่ ง ประโยคความรวม
9.4 หนงั สือเรียนหลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.5 เว็บเบราว์เซอร/์ อนิ เทอร์เน็ต

26

10. บันทกึ หลังสอน
10.1 ผลการจดั การเรียนรู้
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ มจี ดุ ประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คณุ ธรรม/การต้านการทุจริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสืบคน้ ข้อมูล/การใชเ้ ทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์
 จำนวนนกั เรยี นทีผ่ ่านการประเมิน ................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นการประเมิน .................. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............................
สาเหต.ุ .................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................

10.3 ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 นักเรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 นกั เรียนท่ีไมส่ นใจเรียน
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เรอื่ ง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................. ...................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นการประเมนิ /ไม่สนใจเรยี น ................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 .................................................................................................................................. ..............
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................................

ลงช่อื ........................................... ผู้บันทกึ
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ริ ันดร)
ครูผ้สู อน

27

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6

รหัสวิชา ท22101 รายวชิ าภาษาไทย 3 กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย

ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 9 ประโยคในภาษาไทย เวลา 6 ชวั่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 เรอื่ ง ประโยคความซ้อน เวลา 1 ชวั่ โมง

สอนวันที่……………เดอื น…………………………………….พ.ศ………. ครผู สู้ อน นางสาวอารียวฒั น์ พงษน์ ริ ันดร

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด
1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ
1.2 ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ท 4.1 ม.2/2 วิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคสามัญประโยครวม และประโยคซ้อน

2. สาระสำคัญ
ประโยคเป็นข้อความทม่ี ใี จความสมบูรณ์ แต่ละประโยคประกอบดว้ ย ภาคประธาน

และภาคแสดง ประโยคมี 3 ชนดิ
ประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซ้อน การมีความรูเ้ รอื่ งประโยคจะทำให้การใชภ้ าษา

ในการส่อื สารมีประสทิ ธภิ าพย่ิงข้นึ
ประโยคซ้อน คือ ประโยคท่ีประกอบดว้ ยประโยคความเดียวตง้ั แต่ 2 ประโยคขน้ึ ไป

มีใจความสำคัญจะเปน็ ประโยคหลัก (มขุ ยประโยค) มีประโยคย่อย (อนุประโยค) ทำหน้าทขี่ ยายความ
ส่วนใดส่วนหน่ึงของประโยคหลกั ใหช้ ัดเจน โดยมคี ำเช่อื มท้ัง 2 ประโยคเขา้ ดว้ ยกัน

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 อธิบายเก่ียวกับโครงสร้างประโยคความซ้อนได้ (K)
3.2 วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคความซ้อนและแต่งประโยคความซ้อนได้ (P)
3.3 เห็นความสำคัญของการศกึ ษาเร่ืองประโยค และนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
4.1 วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคความซ้อน
4.2 แตง่ ประโยคความซ้อน

5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รยี นรู้
5.2 มุ่งม่ันในการทำงาน

28

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
6.1 ความสามารถในการคิด
6.2 ความสามารถในการส่ือสาร
6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. การจดั กระบวนการเรยี นรู้
ข้นั การต้ังคำถาม/สมมติฐาน (Learning to Question)
7.1 ครทู บทวนเรือ่ งประโยคความเดียว ความรวม และสอบถามความเข้าใจของนักเรยี น

(นกั เรียนอธบิ ายถงึ ความแตกต่างของประโยคความเดียวและประโยคความรวม)
7.2 นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด

ขน้ั การสบื คน้ ความรแู้ ละสารสนเทศ (Learning to Search)
7.3 ครูอธบิ ายถึงประโยคที่มใี นภาษาไทย มีหลายประเภท ประเภทที่จะตอ้ งศกึ ษากัน

คือ ประโยคความซ้อนโดยครูยกตัวอย่างบนกระดาน เช่น ครูท่สี วมชดุ สแี ดงเปน็ ครูสอนวิชาภาษาไทย
และอธิบายชนิดของประโยคความซ้อนในแตล่ ะประเภท

7.4 ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาใบความรเู้ รือ่ ง ประโยคความซ้อน แลว้ บันทกึ ลงสมุด
ขัน้ การสร้างความรู้ (Learning to Construct)

7.5 นกั เรยี นทำใบงานท่ี 5 เร่ือง ประโยคความซ้อน โดยครใู ห้เวลา 15 นาที
ขั้นการสอื่ สารและนำเสนออยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (Learning to Communication)

7.6 นักเรียนออกมาอธบิ ายคำตอบของตนเองใหเ้ พ่ือน ๆ ในหอ้ งฟัง
7.8 ครูและนกั เรียนอภปิ รายเน้อื หาร่วมกัน
ขั้นการบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Learning to Serve)
7.9 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปบทเรยี น และหาแนวทางเพื่อนำความรจู้ ากบทเรยี น
ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวัน โดยครูอธิบายเนื้อหาเพิม่ เติมในส่วนท่ีขาด
7.10 ใหน้ กั เรียนสแกน QR CODE บนสไลด์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ในชุดกิจกรรมท่ี 40
เรื่อง ประโยคความซ้อน เพ่ือบันทกึ การเรยี นรู้ของตนเองในกจิ กรรม learning logs โดยการบนั ทกึ
ผ่านโปรแกรมประยุกตบ์ ันทึกการเรยี นรู้ออนไลน์

1) สิง่ ทฉี่ ันไมแ่ นใ่ จ/ไม่เขา้ ใจในบทเรียนคือ.....
2) ฉนั จะนำความรจู้ ากบทเรียนไปประยุกตใ์ ชใ้ นเร่ือง.....

7.12 นกั เรยี นสแกน QR CODE บนสไลด์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ในชุดกิจกรรมท่ี 40
เรื่อง ประโยคความซ้อน เพื่อทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 9 ประโยคในภาษาไทย
จำนวน 10 ขอ้ จากโปรแกรมประยุกต์การทำแบบทดสอบออนไลน์ เพื่อติดตามความกา้ วหนา้
ในการเรียนรูข้ องนกั เรยี น

29

8. การวัดผลประเมนิ ผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 3
8.1 อธิบายเก่ยี วกับโครงสรา้ ง แบบสงั เกต 1. ตอบคำถามเกยี่ วกบั ผา่ นเกณฑ์
โครงสร้างของประโยค ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ประโยคความซ้อน 2. ใบงานท่ี 5 เรื่อง 60
ประโยคความซ้อน
8.2 วเิ คราะห์โครงสรา้ งประโยค ตรวจใบงาน/ตรวจ 3. แบบทดสอบหลงั เรียน ระดับคุณภาพ 3
4. แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์
ความซ้อนและแต่งประโยค แบบทดสอบ คณุ ลักษณะ
อนั พึงประสงค์
ความซอ้ นได้ หลังเรยี น

8.3 เห็นความสำคญั ของ แบบสังเกต

การศึกษาเรื่องประโยค

และนำไปประยุกตใ์ ชใ้ น

ชีวิตประจำวนั ได้

9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
9.1 ชุดกิจกรรมที่ 40 เรื่อง ประโยคความซ้อน
9.2 ใบงานที่ 5 เรอื่ ง ประโยคความซอ้ น
9.3 ใบความรเู้ รอื่ ง ประโยคความซ้อน
9.4 หนงั สอื เรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.2
9.5 เว็บเบราว์เซอร/์ อินเทอร์เน็ต

30

10. บันทกึ หลังสอน
10.1 ผลการจัดการเรียนรู้
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ มจี ดุ ประสงค์  K  P  A
 มีการบูรณาการ คุณธรรม/การต้านการทจุ ริต/หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
 มกี ระบวนการทำงานกลุ่ม/การสบื ค้นข้อมลู /การใช้เทคโนโลยี
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก....................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................... ..............
10.2 ผลการเรียนร้ตู ามจดุ ประสงค์
 จำนวนนกั เรยี นท่ผี า่ นการประเมิน ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จำนวนนกั เรยี นท่ไี ม่ผ่านการประเมิน .................. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............................
สาเหต.ุ .................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา................................................................................................................
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.3 ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 นักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 นกั เรียนท่ไี มส่ นใจเรยี น
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................... .............

10.4 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ..............................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 ............................................................................................................................................. ...
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมิน/ไม่สนใจเรยี น ................................................
 ................................................................................................................................................
 ............................................................................................................................. ...................
 อืน่ ๆ ...................................................................................................................... .............

ลงช่อื ........................................... ผู้บันทกึ
(นางสาวอารยี วฒั น์ พงษน์ ริ นั ดร)
ครผู สู้ อน

31

ภาคผนวก

32


Click to View FlipBook Version