1
ก คำนำ รายงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์๘ กิจกรรม ระดับประถมศึกษาปีที่ @ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรายงานสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ของโรงเรียนบ้านโผลง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นราธิวาส เขต ๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์จัดการเรียนรู้ให้ ผู้เรียนรู้วิธีคิด การตั้งคำถาม การค้นหาคำตอบ การสื่อสารความคิดต่างๆ ออกมาเป็นถ้อยคำที่ผู้อื่นเข้าใจ และทำงานกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานกิจกรรมเล่มนี้ คงจะมีข้อมูลเป็นประโยชน์ในการนำเป็นแนวทางใน การพัฒนากิจกรรมตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ให้ดียิ่งขึ้น นูรฮายาตี บินสะดอเลาะ
ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข สารบัญภาพ ค กิจกรรมที่ ๑ ไม่เห็นไม่ได้ยิน ๑ กิจกรรมที่ ๒ ลายนิ้วมือ ๓ กิจกรรมที่ ๓ โครงกระดูก ๕ กิจกรรมที่ ๔ การปรุงรส ๗ กิจกรรมที่ ๕ การทดสอบความรู้สึก ๙ กิจกรรมที่ ๖ ความสูงของฉัน ๑๒ กิจกรรมที่ ๗ มือยาง ๑๔ กิจกรรมที่ ๘ การได้รับกลิ่น ๑๖ ภาคผนวก - เกียรติบัตรอบรม ๑๙ - โครงการการเรียนรู้ตามแนวทางบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ๒๑ - ผลงานนักเรียน ๒๕ - สำเนาเอกสารเบิกเงิน ๔๐ - ไฟล์รายงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์๘ กิจกรรม ๕๒
ค สารบัญภาพ เรื่อง หน้า ๑ ครูอธิบายการทำกิจกรรมไม่เห็นไม่ยิน ๒ ๒ นักเรียนทำกิจกรรมปิดตาแล้วเดินตามคำสั่ง ๒ ๓ นักเรียนทำกิจกรรมปิดตาแล้วเดินตามคำสั่ง ๒ ๔ นักเรียนทำกิจกรรมปิดตาแล้วเดินตามคำสั่ง ๒ ๕ นักเรียนทำกิจกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือลงแบบบันทึก ๔ ๖ นักเรียนทำกิจกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือลงแบบบันทึก ๔ ๗ นักเรียนทำกิจกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือลงแบบบันทึก ๔ ๘ นักเรียนเปรียบเทียบลายนิ้วมือของตนเอง ๔ ๙ ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างโครงกระดูกแขน ๖ ๑๐ นักเรียนร่วมกันออกแบบโครงกระดูกแขน ๖ ๑๑ นักเรียนออกมานำเสนอโครงกระดูกแขน ๖ ๑๒ ผลงานนักเรียน ๖ ๑๓ นักเรียนฟังครูอธิบายกิจกรรมการปรุงรส ๘ ๑๔ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการปรุงรส ๘ ๑๕ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการปรุงรส ๘ ๑๖ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการปรุงรส ๘ ๑๗ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ๑๑ ๑๘ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ๑๑ ๑๙ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ๑๑ ๒๐ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ๑๑ ๒๑ นักเรียนวัดความสูงของเพื่อน ๑๓
ง สารบัญภาพ (ต่อ) เรื่อง หน้า ๒๒ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมความสูงของฉัน ๑๓ ๒๓ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมความสูงของฉัน ๑๓ ๒๔ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง ๑๕ ๒๕ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง ๑๕ ๒๖ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง ๑๕ ๒๗ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง ๑๕ ๒๘ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น ๑๗ ๒๙ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น ๑๗ ๓๐ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น ๑๗ ๓๑ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น ๑๗ ๓๒ เกียรติบัตรการอบรม ๑๙ ๓๓ ภาพตารางวิเคราะห์กิจกรรมการสืบเสาะเกี่ยวกับร่างกาย ๒๔ ๓๔ ภาพตารางวิเคราะห์กิจกรรมการสืบเสาะเกี่ยวกับร่างกาย ๒๕ ๓๕ แบบบันทึกกิจกรรม “บัตรประจำตัว” ๒๖ ๓๖ แบบบันทึกกิจกรรมโครงกระดูก ๒๗ ๓๗ แบบบันทึกกิจกรรมโครงกระดูก ๒๘ ๓๘ แบบบันทึกกิจกรรมการปรุงรส ๒๙ ๓๙ แบบบันทึกกิจกรรมการปรุงรส ๓๐ ๔๐ แบบบันทึกกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ๓๑ ๔๑ แบบบันทึกกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ๓๒
จ สารบัญภาพ (ต่อ) เรื่อง หน้า ๔๒ แบบบันทึกกิจกรรมความสูงของฉัน ๓๓ ๔๓ แบบบันทึกกิจกรรมความสูงของฉัน ๓๔ ๔๔ แบบบันทึกกิจกรรมมือยาง ๓๕ ๔๕ แบบบันทึกกิจกรรมการได้รับกลิ่น ๓๖ ๔๖ แบบบันทึกกิจกรรมการได้รับกลิ่น ๓๗ ๔๗ บันทึกข้อความเบิกจ่ายเงิน ค่าจัดซื้อวัสดุการศึกษา ๓๙ ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ๔๘ บันทึกข้อความรายงานขอซื้อวัสดุการศึกษา ๔๐ ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ๔๙ รายละเอียดแนบท้ายรายงานขอซื้อวัสดุการศึกษา ๔๑ ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ๕๐ คำสั่งการจัดซื้อวัสดุการศึกษา ๔๒ ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ๕๑ บันทึกข้อความรายงานผลการพิจารณาและขออนุมัติซื้อวัสดุการศึกษาใน ๔๓ โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ๕๒ ใบสั่งซื้อ ๔๔ ๕๓ ใบสั่งซื้อ ๔๕ ๕๔ บิลเงินสด ๔๖ ๕๕ ใบตรวจรับการจัดซื้อ/จัดจ้าง ๔๗ ๕๖ ข้อมูลผู้ขาย ๔๘ ๕๗ ข้อมูลผู้ขาย ๔๙
๑ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๑ ไม่เห็นไม่ได้ยิน วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้นักเรียนสามารถอธิบายความสำคัญและหน้าที่ของหูและตา ๒. เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสและออกแบบวิธีการสื่อสารเมื่อตาและหูไม่สามารถทำงานได้ ตามปกติ วัสดุอุปกรณ์ ๑. ปีบ ๒. ไม้บรรทัดเหล็ก ๓. ผ้าปิดตา วิธีการดำเนินการ แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ ๔ คน ตอนที่ ๑ ๑. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ ๑ คน เพื่อปิดตา โดยใช้ผ้าปิดตา ๒. ให้นักเรียนนักเรียนที่ปิดตา ฟังคำสั่งของเพื่อนในกลุ่มและเดินตามคำสั่ง เพื่อไปตีปีบให้สำเร็จ ๓. นักเรียนในกลุ่มไปวางปีบโดยไม่บอกตำแหน่งให้เพื่อนที่ปิดตาทราบ ๔. แต่ละกลุ่มผลัดกันทำกิจกรรม ตอนที่ ๒ ๑. นักเรียนในกลุ่มร่วมวางแผนการเดิน เช่น - หากสัมผัส ๑ ครั้ง ให้หันซ้าย - หากสัมผัส ๒ ครั้ง ให้หันขวา เป็นต้น ๒. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม เลือกตัวแทนกลุ่ม ๆ ละ ๑ คน เพื่อปิดตา โดยใช้ผ้าปิดตา ๓. เพื่อนในกลุ่มใช้คำสั่งตามที่ได้วางแผนไว้ โดยไม่ให้มีเสียง ๔. ให้นักเรียนที่ปิดตา เดินตามคำสั่งของเพื่อน เพื่อไปตีปีบให้สำเร็จ ๕. แต่ละกลุ่มผลัดกันทำกิจกรรม ๖. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมนี้
๒ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน 1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ นักเรียนในกลุ่มสามาถสื่อสารกับเพื่อนที่ปิดตาได้เมื่อเพื่อนมองไม่เห็น และสามารถสื่อสารโดยใช้การ สัมผัสเมื่อเพื่อนไม่เห็นและไม่ได้ยิน เพื่อให้เพื่อนทำภารกิจให้สำเร็จ และนักเรียนสามรถสรุปได้ว่า ตา และหู มี ความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน 2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐานตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนสามารถสังเกตและอธิบายความสำคัญของตาและหู ความแตกต่างของตาและหูรับฟังบุคคลอื่น และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือและเคารพซึ่งกันและกัน ออกแบบวิธีการสื่อสารเมื่อตาและหูไม่ สามารถทำงานได้ปกติ เข้าใจและยอมรับเอกลักษณ์ของร่างกายแต่ละบุคคล วางแผนและดำเนินกิจกรรมด้วยตนเอง อย่างอิสระ และเรียนรู้การทำงานให้สำเร็จด้วยความสามารถของตนเองโดยอาศัยความรู้ที่ได้มาจากการปฏิบัติด้วย ตนเอง ปัญหา/อุปสรรค - สมาชิกในกลุ่มบางคนไม่เคารพกติกาของการเล่น - จำนวนนักเรียนมากเกินไป ทำให้ควบคุมชั้นเรียนค่อนข้างยาก - บางกลุ่มนักเรียนไม่รู้จักซ้าย ขวา ไม่สามารถบอกทิศทางได้ทำให้การสื่อสารผิดพลาด การปฏิบัติ ภารกิจไม่สำเร็จ ข้อเสนอแนะ - ควรจัดกิจกรรมในสนามหรือที่กว้าง และไม่มีสิ่งกีดขวาง ภาพที่ ๑ ครูอธิบายการทำกิจกรรมไม่เห็นไม่ยิน ภาพที่ ๒ นักเรียนทำกิจกรรมปิดตาแล้วเดินตามคำสั่ง เพื่อน ภาพที่ ๔ นักเรียนทำกิจกรรมปิดตาแล้วเดินตามคำสั่ง เพื่อน ภาพที่ ๓ นักเรียนทำกิจกรรมปิดตาแล้วเดินตามคำสั่ง เพื่อน
๓ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๒ ลายนิ้วมือ วัตถุประสงค์ ๑. สังเกต บอกลักษณะของลายนิ้วมือ และเปรียบเทียบลายนิ้วมือของนิ้วต่างๆของตนเอง ๒. เพื่อให้นักเรียนสามารถระบุรูปแบบลายมือของตนเอง และของเพื่อนได้ ๓. อภิปรายและลงข้อสรุปเกี่ยวกับลายนิ้วมือของแต่ละบุคคล วัสดุอุปกรณ์ ๑. แบบบันทึกลายนิ้วมือ ๒. ตลับหมึก ๓. ทิชชูเปียก (สำหรับเช็ดนิ้วมือ) ๔. ดินสอ วิธีการดำเนินการ ๑. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ ๔ คน ๒. ครูแจกอุปกรณ์ที่ใช้ทำกิจกรรม กลุ่มละ ๑ ชุด ๓. ครูแจกแบบบันทึกลายนิ้วมือให้นักเรียน คนละ ๑ ชุด ๔. ครูอธิบายประโยชน์ของการพิมพ์ลายนิ้วมือ ๕. ให้นักเรียนทำการพิมพ์ลายนิ้วมือตนเองลงในแบบบันทึก โดยวางนิ้วบนกระดาษเพียงครั้งเดียว ไม่ขยับ มือไปมา และไม่ออกแรงกดมากไป ๖. ทำซ้ำจนครบทุกนิ้ว จากนั้นทำความสะอาดนิ้วมือ ๗. ให้นักเรียนสังเกตและเปรียบเทียบลายนิ้วมือของตนเองและของเพื่อนว่าเป็นลายนิ้วมือรูปแบบใด ๘. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมนี้ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน 1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ นักเรียนสามารถสังเกต บอกลักษณะของลายนิ้วมือ และเปรียบเทียบลายนิ้วมือของนิ้วต่างๆของตนเอง สามารถสังเกต เปรียบเทียบ และระบุความแตกต่างของลายนิ้วมือของตนเองกับเพื่อน อภิปรายและลงข้อสรุป เกี่ยวกับลายนิ้วมือของแต่ละบุคคล
๔ 2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐานตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนสนใจการทำกิจกรรมอย่างดี นักเรียนมีทักษะการสังเกตสามารถบอกได้ว่าลักษณะลายนิ้วมือ บางนิ้วหรือทุกนิ้วมีความเหมือนและแตกต่างกันทั้งของตนเองและของคนอื่น รับฟังบุคคลอื่นและแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน สามารถสังเกตและอธิบายความแตกต่างของ ลายนิ้วมือ การจำแนกประเภทรูปแบบของลายนิ้วมือ เข้าใจและยอมรับเอกลักษณ์ของร่างกายแต่ละบุคคล วางแผน และดำเนินกิจกรรมด้วยตนเองอย่างอิสระ เรียนรู้การทำงานให้สำเร็จด้วยความสามารถของตนเองโดยอาศัยความรู้ที่ ได้มาจากการปฏิบัติด้วยตนเอง ปัญหา/อุปสรรค นักเรียนบางคนไม่สามารถจำแนกประเภทของลายนิ้วมือได้ นักเรียนบางคนกดหมึกแรงทำให้ไม่สามารถ มองเห็นลายนิ้วมือ นักเรียนเล่นหมึกโดยไม่ฟังครูผู้สอน ข้อเสนอแนะ ควรวางข้อตกลงกับนักเรียนเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ ภาพที่ ๕ นักเรียนทำกิจกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือ ลงแบบบันทึก ภาพที่ ๗ นักเรียนทำกิจกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือ ลงแบบบันทึก ภาพที่ ๖ นักเรียนทำกิจกรรมพิมพ์ลายนิ้วมือลงแบบบันทึก ภาพที่ ๘ นักเรียนเปรียบเทียบลายนิ้วมือของตนเอง
๕ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๓ โครงกระดูก วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้นักเรียนอภิปรายภายในกลุ่ม เกี่ยวกับความเหมือนและความแตกต่างของแขนและมือจริงกับ แบบจำลองที่สร้างขึ้น ๒. เพื่อให้นักเรียนสามารถอธิบายความสำคัญของกระดูกที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย วัสดุอุปกรณ์ ๑. กระดาษแข็งหรือกระดาษลัง ๒. กรรไกร ๓. ดินสอ ๔. ลวด ๕. ที่เจาะรูกระดาษ วิธีการดำเนินการ ๑. แบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๒ คน ๒. ครูใช้คำถามกระตุ้นความคิดเกี่ยวกับโครงกระดูกของนักเรียน ๓. ครูยกตัวอย่างแบบจำลองโครงกระดูกให้นักเรียนดู ๔. ให้นักเรียนออกแบบและสร้างแบบจำลองโครงกระดูกแขนและมือ ๕. นักเรียนออกมานำเสนอผลงานของตนเอง ๖. ครูอธิบายความสำคัญของกระดูกที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย ๗. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการท ากิจกรรมนี้ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน 1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ นักเรียนสามารถคิดและบอกลักษณะของโครงกระดูกแขน มือ ได้ สามารถวัดขนาดของแขนและมือได้ แต่ไม่สามารถสร้างแบบจำลองโครงกระดูกด้วยตนเองได้ ครูต้องดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดในการใช้อุปกรณ์เพื่อ ความปลอดภัยของนักเรียน
๖ 2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐานตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 1.นักเรียนสามารถบรรยายการทำหน้าที่ร่วมกันของ ส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ในการทำ กิจกรรมต่างๆ จาก ข้อมูลที่รวบรวมได้ 2. นักเรียนระบุชื่อ บรรยายลักษณะและบอกหน้าที่ของ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ รวมทั้ง บรรยายการทำหน้าที่ร่วมกันของ ส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่างๆ จากข้อมูลที่รวบรวม ได้ ปัญหา/อุปสรรค - นักเรียนขาดทักษะการใช้วัสดุ อุปกรณ์ (กรรไกร/มีดคัตเตอร์) ในการทำกิจกรรม และใช้เครื่องมือ วัดไม่ได้ ข้อเสนอแนะ - เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เครื่องมือของมีคม ครูควรดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ภาพที่ ๙ ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างโครงกระดูกแขน ภาพที่ ๑๑ นักเรียนออกมานำเสนอโครงกระดูกแขน ภาพที่ ๑๐ นักเรียนร่วมกันออกแบบโครงกระดูกแขน และสร้าง ภาพที่ ๑๒ ผลงานนักเรียน
๗ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๔ การปรุงรส วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้นักเรียนสามารถคิดหาวิธีการแก้ปัญหารสชาติ ๒. เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัส การชิมรสในชีวิตประจำวัน วัสดุอุปกรณ์ ๑. แก้วกระดาษ ๒. น้ำเค็ม ๓. มะนาว ๔. เกลือ ๕. น้ำตาล วิธีการดำเนินการ ๑. แบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๔ คน ๒. ครูแจกอุปกรณ์กลุ่มละ ๑ ชุด ได้แก่ - น้ำผสมเกลือ ๑ แก้ว - มะนาว ๑ ลูก - เกลือ ๑ ช้อน - น้ำตาล ๑ ช้อน ๓. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันคิดหาวิธีแก้ปัญหา เพื่อให้น้ำผสมเกลือมีรสชาติที่ดี ๔. นักเรียนปรุงรสได้อย่างอิสระและสามารถทำให้น้ำมีรสชาติดีได้ ๕. แต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคำถามต่อไปนี้ - จะทำอย่างไรให้น้ำหายเค็มได้ - เมื่อใส่น้ำตาลในน้ำจะมีรสชาติอย่างไร - เมื่อบีบมะนาวลงไปน้ำจะมีรสชาติอย่างไร - ต้องใส่เครื่องปรุงขนาดเท่าไร น้ำในแก้วถึงจะมีรสชาติดี ๖. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมนี้
๘ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน 1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ นักเรียนสามารถสังเกต ทดลอง และอธิบายวิธีการแก้รสชาติให้หายเค็มได้สามารถชิมและบอกรสชาติ ของน้ำได้ 2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐานตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 รับฟังบุคคลอื่นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้ช่วยเหลือให้ความเคารพซึ่งกันและกัน สามารถเรียนรู้การทำงานให้สำเร็จด้วยความสามารถของตนเองโดยอาศัยความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติด้วยตนเองได้ ปัญหา/อุปสรรค - นักเรียนบางคนในกลุ่มเล่นน้ำที่ใช้ในการทดลองจนเปียกเละเทะ ข้อเสนอแนะ - ควรดูแลนักเรียนในการทำการทดลองอย่างใกล้ชิด ควรกำหนดข้อตกลงกับนักเรียนในการทำการ ทดลอง ภาพที่ ๑๓ นักเรียนฟังครูอธิบายกิจกรรมการปรุงรส ภาพที่ ๑๔ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการปรุงรส ภาพที่ ๑๖ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการปรุงรส ภาพที่ ๑๕ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการปรุงรส
๙ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๕ การทดสอบความรู้สึก วัตถุประสงค์ ๑. สังเกตและเปรียบเทียบการรับความรู้สึกของผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ที่ฝ่ามือและนิ้วมือ วัสดุอุปกรณ์ ๑. แบบบันทึกกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ๑ ชุด/คน ๒. ดินสอ ๑ แท่ง/คน ๓. ไม้บรรทัด ๑ อัน/คู่ (ใช้สำหรับวัดระยะห่างของดินสอ) วิธีการดำเนินการ ๑. นักเรียนจับคู่เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน ๒. แต่ละคู่ร่วมกันตอบคำถามต่อไปนี้ - จะมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อมีดินสอปลายแหลม ๑ แท่ง มาจิ้มที่ฝ่ามือหรือนิ้วมือ - จะมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อมีดินสอปลายแหลม ๒ แท่ง ที่ถือไว้ชิดติดกันมาจิ้มที่ฝ่ามือหรือนิ้วมือ - จะมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อมีดินสอปลายแหลม ๒ แท่ง ที่เว้นระยะห่างจากกันมาจิ้มที่ฝ่ามือหรือนิ้วมือ ๓. แต่ละคู่ผลัดกันทำกิจกรรม ดังนี้ ๓.๑ ทำความเข้าใจถึงวิธีการต่าง ๆ ในการจิ้มดินสอ ดังนี้ - วิธีการที่ ๑ ใช้ดินสอ ๑ แท่ง - วิธีการที่ ๒ ใช้ดินสอ ๒ แท่ง ที่อยู่ชิดติดกัน - วิธีการที่ ๓ ใช้ดินสอ ๒ แท่ง ที่มีระยะห่าง.......เซนติเมตร (กำหนดระยะห่างเอง) ๓.๒ ร่วมกันกำหนดจุดที่จิ้มดินสอบนบริเวณต่าง ๆ ของฝ่ามือและนิ้วมือให้ตรงกันในแต่ละวิธี ๓.๓ คนที่ถูกจิ้มด้วยดินสอต้องหลับตา เพื่อสังเกตและบอกความรู้สึกที่ถูกดินสอจิ้มในแต่ละบริเวณบน ฝ่ามือและนิ้วมือ และบอกว่าถูกดินสอจิ้มจำนวน ๑ หรือ ๒ แท่ง สิ่งที่ต้องควบคุมให้เหมือนกันขณะจิ้มดินสอ ๑. ปลายแหลมของดินสอ ๒. ตั้งแท่งดินสอให้ตรงขณะจิ้ม ๓. บริเวณที่จิ้มบนฝ่ามือและนิ้วมือตามที่แต่ละคู่กำหนด ๔. แรงที่ใช้จิ้ม
๑๐ ๓.๔ คนที่จิ้มดินสอจิ้มดินสอลงบนบริเวณที่กำหนดของคนที่ถูกจิ้ม โดยใช้วิธีการที่ ๑ ๒ หรือ ๓ โดยไม่ บอกว่าใช้วิธีการใดในการจิ้มดินสอในแต่ละครั้ง และช่วยบันทึกผลลงในแบบบันทึกกิจกรรม โดยเขียนจุดตามจำนวน ดินสอที่ผู้ถูกจิ้มดินสอบอกว่าถูกจิ้มด้วยดินสอ ๑ หรือ ๒ แท่ง ในบริเวณต่าง ๆ ดังรูป ๔. แต่ละคู่เปรียบเทียบผลการสังเกตจากการทำกิจกรรมและร่วมกันตอบคำถามต่อไปนี้ - ความรู้สึกจากการใช้ดินสอจิ้มแต่ละครั้งเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร - บริเวณใดที่รับความรู้สึกได้ดีกว่ากัน รู้ได้อย่างไร - จะทำอย่างไรให้คนอื่น ๆ รับรู้สัมผัสได้ว่าดินสอที่มาจิ้มมี๒ แท่ง - ในการจิ้มผิวหนังด้วยดินสอ ๒ แท่ง ถ้าระยะห่างระหว่างดินสอมากขึ้น จะรู้สึกอย่างไร ใช้ข้อมูลใดมาสนับสนุนความคิด ๕. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมนี้ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน 1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ สามารถสังเกตและเปรียบเทียบความรู้สึกของผิวหนังบริเวณต่างๆ ฝ่ามือ และนิ้วมือได้ ทดสอบ ความรู้สึกโดยการจิ้มดินสอบริเวณอื่น ๆ ตามความสนใจได้ 2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐานตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สามารถรับฟังบุคคลอื่นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือและให้ความเคารพซึ่งกัน และกัน สามารถสังเกตและอธิบายความแตกต่างเปรียบเทียบความรู้สึก สามารถเรียนรู้การทำงานให้สำเร็จได้ ปัญหา/อุปสรรค - นักเรียนไม่เคารพกติกาของการทำกิจกรรม มีการจิ้มเพื่อนแรง ทำให้เพื่อนได้รับบาดเจ็บ ข้อเสนอแนะ - ดินสอมีความแหลมคม ครูควรดูแลการทำกิจกรรมของนักเรียนอย่างใกล้ชิด รูปตัวอย่างการบันทึกผล - วิธีการที่ 2 ใช้ดินสอ 2 แท่ง ที่อยู่ชิดติดกัน
๑๑ ภาพที่ ๑๗ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม การทดสอบความรู้สึก ภาพที่ ๑๘ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม การทดสอบความรู้สึก ภาพที่ ๒๐ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม การทดสอบความรู้สึก ภาพที่ ๑๙ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรม การทดสอบความรู้สึก
๑๒ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๖ ความสูงของฉัน วัตถุประสงค์ ๑. วัดและเปรียบเทียบความยาวของเท้ากับความสูงของร่างกายตนเองโดยใช้หน่วยวัดที่ไม่ใช่หน่วย มาตรฐาน (เท้า) และหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐาน วัสดุอุปกรณ์ ตอนที่ 1 กระดาษขนาดใหญ่ ดินสอ/สี/ปากกา กรรไกร กาว/เทปใส และแบบบันทึกกิจกรรม ตอนที่ 2 เครื่องมือในการวัด เช่น ไม้บรรทัด สายวัด ตลับเมตร และแบบบันทึกกิจกรรม วิธีการดำเนินการ ตอนที่ 1 ความสูงของฉัน (เวลา 12-15 นาที) 1. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ ๔ คน และร่วมกันอภิปรายว่าเห็นด้วยกับข้อความต่อไปนี้หรือไม่ อย่างไร 2. สังเกตความยาวของเท้าของตนเอง และคิดว่าต้องมีจำนวนเท้า (ตามความยาว) เท่าใดจึงจะเท่ากับความ สูงของตนเอง จากนั้นบันทึกข้อมูล “ชื่อ” และ “จำนวนเท้าตามความคิด” ในแบบบันทึกกิจกรรม 3. สังเกตอุปกรณ์ที่จัดเตรียมไว้ ได้แก่ กระดาษขนาดใหญ่ ดินสอ/สี/ปากกา กรรไกร เทปใส จากนั้นร่วมกันอภิปรายวิธีการและวางแผนการตรวจสอบจำนวนเท้าที่คิดไว้เมื่อเทียบกับความสูงของตนเอง และ แบ่งหน้าที่สมาชิกในคู่ของตนเอง 4. ทำการตรวจสอบตามวิธีที่คิด และบันทึกผล “จำนวนเท้าที่นับได้” ในแบบบันทึกกิจกรรม 5. เปรียบเทียบข้อมูลของตนเองและเพื่อนในกลุ่ม โดยบันทึก “ชื่อ” และ “จำนวนเท้าที่นับได้เมื่อ เปรียบเทียบกับความสูงของร่างกาย” ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 6. ร่วมกันอภิปรายผลจากการทำกิจกรรมเพื่อตอบคำถามว่า “คนเรามักมีความสูงประมาณ 7 เท่าของ ความยาวของเท้าตนเองจริงหรือ” ตอนที่ 2 เท่ากันหรือไม่ (เวลา 5-8 นาที) 1. ร่วมกันอภิปรายว่า “คิดว่าส่วนใดของร่างกายของเราที่น่าจะมีความยาวเท่ากันบ้าง” 2. สังเกตเครื่องมือในการวัด เช่น ไม้บรรทัด สายวัด ตลับเมตร และวางแผนวิธีการหาคำตอบ 3. ดำเนินการรวบรวมข้อมูลตามวิธีการที่คิด หรือสำรวจและเปรียบเทียบความยาวของส่วนต่าง ๆ ของ ร่างกายของตนเอง โดยใช้เครื่องมือวัดเป็นเซนติเมตร และบันทึกผลลงในตาราง 4. อภิปรายผลร่วมกันในกลุ่มว่า “ส่วนใดของร่างกายที่มีความยาวเท่ากันบ้าง” “คนเรามักมีความสูงประมาณ ๗ เท่าของความยาวของเท้าตนเอง”
๑๓ ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน 1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ นักเรียนวัดและเปรียบเทียบความยาวของเท้ากับความสูงของร่างกายตนเองโดยใช้หน่วยวัดที ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน (เท้า) และหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานได้ 2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐานตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนสามารถสังเกตและอธิบายความแตกต่าง บางคนสามารถวัดและการใช้จำนวนโดยใช้ เท้า รับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือและให้ความเคารพผู้อื่น เข้าใจเอกลักษณ์ของร่างกาย เรียนรู้การทำงานจนสำเร็จ ปัญหา/อุปสรรค - การวัดอาจมีความผิดพลาด เนื่องจากนักเรียนวางจากจุดเริ่มต้นผิดและดูตัวเลขผิด บางคนใช้ เครื่องมือวัดไม่เป็น นักเรียนมีจำนวนมากคุมชั้นเรียนค่อนข้างลำบาก นักเรียนบางคนอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ ค่อยได้ ออกแบบวิธีการทดลองและบันทึกผลไม่เป็น ข้อเสนอแนะ - ครูควรสอนการใช้เครื่องมือวัด การอ่านตัวเลขจากสายวัด และการอ่านตัวเลขจากไม้บรรทัด ให้ใช้เป็น ก่อนทำกิจกรรม ภาพที่ ๒๐ นักเรียนวัดความสูงของเพื่อน ภาพที่ ๒๑ นักเรียนวัดความสูงของเพื่อน ภาพที่ ๒๒ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมความสูงของฉัน ภาพที่ ๒๓ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมความสูงของฉัน
๑๔ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๗ มือยาง วัตถุประสงค์ ๑. สังเกตและอธิบายหน้าที่ของกระดูกมือของมนุษย์ ๒. สร้างแบบจำลองและเปรียบเทียบแบบจำลองมือกับมือจริง ๓. สังเกตและอธิบายความสัมพันธ์ของลักษณะและหน้าที่ของกระดูกมือ วัสดุอุปกรณ์ 1. ถุงมือยางเบอร์ M กลุ่มละ ๒ คู่ 2. ทราย 3. หลอดกาแฟ 4. ยางรัดของ วิธีการดำเนินการ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ ๔ คน 2. ร่วมกันอภิปรายคำถาม“ถ้าอยากให้เพื่อนเข้าใจหน้าที่ของกระดูกมือ จะมีวิธีการสื่อสารอย่างไร” 3. แต่ละกลุ่มสังเกตวัสดุอุปกรณ์และช่วยกันคิดสร้างแบบจำลองมือที่มีกระดูกกับมือที่ไม่มีกระดูกจากวัสดุ อุปกรณ์ที่มี และร่วมกันอภิปรายคำถามดังต่อไปนี้ 3.1จะเลือกใช้วัสดุ/อุปกรณ์อะไรบ้าง เพราะเหตุใด 3.2จะมีวิธีการทดสอบความสามารถในการถือสิ่งของของมือจำลองที่สร้างขึ้นได้อย่างไร 4. ร่วมกันสร้างมือจำลองตามที่คิดไว้ (คำแนะนำเพิ่มเติม-ให้มือจำลองข้างหนึ่ง บรรจุทรายเพียงอย่างเดียว ส่วนอีกข้างหนึ่งให้เลือกใช้อุปกรณ์ตามที่กลุ่มเลือกและบรรจุทราย และมัดปากถุงมือเพื่อไม่ให้ ทรายหก) และวาดรูปลงในแบบบันทึก 5. ออกแบบการทดสอบความสามารถของมือจำลองทั้ง 2 แบบ เช่น ถือหรือยึดสิ่งของ หรือยกสิ่งของ และ บันทึกผล 6. สังเกตและร่วมกันอภิปรายว่าลักษณะมือของตนเองสัมพันธ์กับการหยิบจับสิ่งของอย่างไร 7. อภิปรายสิ่งที่ได้จากการทำกิจกรรม โดยใช้คำถามดังต่อไปนี้ - มือยางจำลองแต่ละข้างเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร - มือยางเหมือนหรือแตกต่างจากของจริงอย่างไร - กระดูกมือมีหน้าที่อะไร - ลักษณะของกระดูกมือสัมพันธ์กับหน้าที่อย่างไร
๑๕ ปัญหา/อุปสรรค - การวัดอาจมีความผิดพลาด เนื่องจากนักเรียนวางจากจุดเริ่มต้นผิดและดูตัวเลขผิด บางคนใช้ เครื่องมือวัดไม่เป็น นักเรียนมีจำนวนมากคุมชั้นเรียนค่อนข้างลำบาก นักเรียนบางคนอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ ค่อยได้ ออกแบบวิธีการทดลองและบันทึกผลไม่เป็น ข้อเสนอแนะ - ครูควรสอนการใช้เครื่องมือวัด การอ่านตัวเลขจากสายวัด และการอ่านตัวเลขจากไม้บรรทัด ให้ใช้เป็น ก่อนทำกิจกรรม ภาพที่ ๒๔ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง ภาพที่ ๒๖ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง ภาพที่ ๒๗ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง ภาพที่ ๒๕ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมมือยาง
๑๖ รายงานการดำเนินงานกิจกรรมวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโผลง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๒ กิจกรรมที่ ๘ การได้รับกลิ่น วัตถุประสงค์ ๑. สังเกต ทดลอง และอธิบายการใช้ประสาทสัมผัสในการดมกลิ่น ๒. สังเกตและบอกแหล่งที่มาหรือต้นตอของกลิ่น วัสดุอุปกรณ์ ๑. น้ำสะอาด (ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น) 1 ขวด ๒. แก้วใส 6 ใบ ๓. น้ำส้มสายชู1 ขวด ๔. หลอดหยด 1 อัน/กลุ่ม ๕. ช้อนพลาสติก 6 คัน/กลุ่ม ๖. ฝาพลาสติก ๖ ใบ ๗. กระดาษ A4 1-2 ใบ/กลุ่ม ๘. ดินสอหรือปากกา 1 แท่ง/กลุ่ม ๙. น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่าง ๆ 1 ขวดเล็ก วิธีการดำเนินการ 1. ครูเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการดมกลิ่น ๑ ชุด โดยใช้น้ำทั้งหมด ๖ แก้ว ดังนี้ - แก้วที่ ๑ ไม่ใส่น้ำมันหอมระเหย - แก้วที่ ๒ ใส่น้ำมันหอมระเหย ๑ หยด - แก้วที่ ๓ ใส่น้ำมันหอมระเหย ๒ หยด - แก้วที่ ๔ ใส่น้ำมันหอมระเหย ๓ หยด - แก้วที่ ๕ ใส่น้ำมันหอมระเหย ๔ หยด - แก้วที่ ๖ ใส่น้ำมันหอมระเหย ๕ หยด 2. ให้นักเรียนเข้าแถว แล้วเดินมาดมกลิ่นทีละ ๑ คนทั้งหมด ๖ แก้ว จนครบทุกคน 3. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่า เราสามารถรับกลิ่นได้ดีเพียงใด 4. ให้นักเรียนทายแก้วใบไหนได้รับกลิ่นน้ำมันหอมระเหยมากที่สุด 5. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการทดลองและลงข้อสรุปว่า แต่ละคนมีความสามารถในการรับกลิ่น แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร
๑๗ ผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก 1.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ นักเรียนสามารถสังเกต ทดลอง การใช้ประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นได้ สามารถบอกแหล่งที่มาของ กลิ่นได้ 2.พัฒนาการความสามารถพื้นฐานตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนมีทักษะการรับฟังบุคคลอื่นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือและให้ ความเคารพซึ่งกันและกัน และการบันทึกผลการทำกิจกรรม ปัญหา/อุปสรรค - นักเรียนบางคนยังไม่รู้จักการทำงานเป็นทีม ไม่ช่วยเพื่อนในกลุ่ม ไม่สนใจทำกิจกรรม นักเรียนในห้องมีจำนวนมาก ครูผู้สอนคนเดียวทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง ข้อเสนอแนะ - ควรมีครูดูแลนักเรียนในการทำกิจกรรมอย่างน้อย 2 คน เพื่อให้ดูแลนักเรียนอย่างทั่วถึง ภาพที่ ๒๘ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น ภาพที่ ๓๐ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น ภาพที่ ๓๑ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น ภาพที่ ๒๙ นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมการได้รับกลิ่น
๑๘
๑๙ เกียรติบัตรการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการบ้าน นักวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา
๒๐ ภาพที่ ๓๒ เกียรติบัตรการอบรม
๒๑ ชื่อโครงการ การเรียนรู้ตามแนวทางบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ฝ่ายงาน บริหารงานวิชาการ แผนงาน ระดับประถมศึกษา ลักษณะโครงการ ใหม่ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางนูรฮายาตี บินสะดอเลาะ สนองกลยุทธ์ที่ ๑ การพัฒนาครูให้มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลยุทธ์ที่ 2 การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สอดคล้องกับ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ระยะเวลาดำเนินการ เดือน กรกฎาคม ถึง เดือน กันยายน พ.ศ.2565 ๑. หลักการและเหตุผล วิทยาศาสตร์มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในประจำวันของมนุษย์ การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไป ใช้ในทางที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยให้เกิดการพัฒนาความคิดให้เป็นคนที่มีเหตุผล มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักการคิดวิเคราะห์และสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ ทางโรงเรียนบ้านเขาตะเภาทอง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของ วิทยาศาสตร์ต่อการพัฒนานักเรียนระดับปฐมวัยโดยเฉพาะด้านสติปัญญา ที่เป็นช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ การอยากรู้ อยากเห็น อยากทดลอง วัยแห่งการตั้งคำถามสงสัยใคร่รู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว เพื่อเป็นการพัฒนานักเรียนให้รู้จักตั้ง คำถามอย่างมีเหตุมีผลใช้ทักษะที่เหมาะสมกับวัย รู้จักใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัยเกิดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ และใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างเป็นระบบ ทางโรงเรียนบ้านเขาตะเภาทองจึงจัดทำโครงการ บ้าน นักวิทยาศาสตร์นี้ขึ้น ๒. วัตถุประสงค์ ๒.๑. เพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ และสื่อการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒.๒. เพื่อให้นักเรียนใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในทางที่เหมาะสม ๒.๓ เพื่อให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาและคิดสร้างสรรค์องค์ความรู้ ๓.เป้าหมาย ๓.๑. เชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ร้อยละ ๙0 ได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย
๒๒ ๓.๒. เชิงคุณภาพ นักเรียนมีวัสดุอุปกรณ์ และสื่อที่มีคุณภาพ และมีโอกาสในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาและตัดสินใจ ในการสร้างชิ้นงานด้วยตนเองได้ ๔.ขั้นตอนการดำเนินงาน ๔.๑. เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ ๔.๒. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินในแต่ละกิจกรรม - ชี้แจงวิธีการดำเนินกิจกรรม - แบ่งหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรม ๔.๓. กิจกรรมการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ และสื่อการจัดการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ และสื่อต่าง ๆ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน ๔.๔. กิจกรรมการสืบเสาะเกี่ยวกับร่างกายระดับประถมศึกษา - จัดกิจกรรมการสืบเสาะเกี่ยวกับร่างกาย โดยเปิดโอกาสให้นักเรียน ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ ทุกคน ได้ทำกิจกรรม การเรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติ ๔.๕. ติดตามผลการจัดกิจกรรม - ครูผู้รับผิดชอบ แต่ละกิจกรรมส่งรายงานกิจกรรมให้ฝ่ายบริหารงานวิชาการทราบ ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม ๔.๖. ประเมินผล สรุปรายงานผลการปฏิบัติงาน - ฝ่ายบริหารงานวิชาการ นำรายงานกิจกรรม มาจัดทำรายงาน โครงการเพื่อเสนอต่อ ผู้บริหาร และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ต่อไป
๒๓ ๕. ระยะเวลาดำเนินการ กิจกรรม 2565 มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ แต่งตั้งคณะกรรมการการดำเนินการ ประชุมคณะกรรมการ - ชี้แจงการดำเนินกิจกรรม - แบ่งหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรม จัดโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย กิจกรรมการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ และสื่อ การจัดการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี กิจกรรมสืบเสาะเกี่ยวกับร่างกาย ติดตามผลการจัดกิจกรรม - ครูผู้รับผิดชอบ แต่ละกิจกรรมส่ง รายงานกิจกรรมให้ฝ่ายบริหารงาน วิชาการ ทราบภายใน 2 สัปดาห์หลังจาก เสร็จสิ้น กิจกรรม ประเมินผล สรุปรายงานผลการ ปฏิบัติงาน - ฝ่ายบริหารงานวิชาการนำรายงาน กิจกรรมแต่ละกิจกรรม มาจัดทำรายงาน โครงการเพื่อเสนอต่อผู้บริหาร และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ต่อไป - จัดทำรายงานการจัดกิจกรรม ๖. งบประมาณ ๓,000 บาท กิจกรรม งบประมาน กิจกรรมการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ และสื่อการจัดการเรียนรู้ด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓,000 รวมยอดเป็นตัวอักษร (สามหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) ๓,000
๒๔ ๗. ผู้รับผิดชอบโครงการ นางนูรฮายาตี บินสะดอเลาะ ๘. สถานที่ดำเนินการ โรงเรียนบ้านโผลง ๙. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีการประเมิน เครื่องมือ ๑.ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ จำนวนนักเรียนร้อยละ ๙๐ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ร้อยละ ๙0 ได้เข้าร่วมกิจกรรม การบันทึก แบบบันทึกการเข้าร่วม กิจกรรม ๒.ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ นักเรียนมีวัสดุอุปกรณ์ และสื่อที่มีคุณภาพ และมีโอกาสในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และตัดสินใจ ในการสร้างชิ้นงานด้วยตนเอง ได้ การสอบถามความพึงพอใจ แบบสอบถามความพึงพอใจ ลงชื่อ) ผู้เสนอโครงการ (ลงชื่อ) ผู้เห็นชอบโครงการ (นางนูรฮายาตี บินสะดอเลาะ) (นางสาวศิริพร บุตรมาตา) ครูโรงเรียนบ้านโผลง หัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการ (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นางสาวสุริดา ชลหัตถ์) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโผลง
๒๕
๒๖ ภาพที่ ๓๓ ภาพตารางวิเคราะห์กิจกรรมการสืบเสาะเกี่ยวกับร่างกาย
๒๗ ภาพที่ ๓๔ ภาพตารางวิเคราะห์กิจกรรมการสืบเสาะเกี่ยวกับร่างกาย
๒๘ กิจกรรมลายนิ้วมือ ภาพที่ ๓๕ แบบบันทึกกิจกรรม “บัตรประจำตัว”
๒๙ กิจกรรมโครงกระดูก ภาพที่ ๓๖ แบบบันทึกกิจกรรมโครงกระดูก
๓๐ ภาพที่ ๓๗ แบบบันทึกกิจกรรมโครงกระดูก
๓๑ กิจกรรมการปรุงรส ภาพที่ ๓๘ แบบบันทึกกิจกรรมการปรุงรส
๓๒ ภาพที่ ๓๙ แบบบันทึกกิจกรรมการปรุงรส
๓๓ กิจกรรมการทดสอบความรู้สึก ภาพที่ ๔๐ แบบบันทึกกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก
๓๔ กิจกรรมความสูงของฉัน ภาพที่ ๔๑ แบบบันทึกกิจกรรมการทดสอบความรู้สึก
๓๕ ภาพที่ ๔๒ แบบบันทึกกิจกรรมความสูงของฉัน
๓๖ ภาพที่ ๔๓ แบบบันทึกกิจกรรมความสูงของฉัน
๓๗ กิจกรรมมือยาง ภาพที่ ๔๔ แบบบันทึกกิจกรรมมือยาง
๓๘ กิจกรรมการได้รับกลิ่น ภาพที่ ๔๕ แบบบันทึกกิจกรรมการได้รับกลิ่น
๓๙ ภาพที่ ๔๖ แบบบันทึกกิจกรรมการได้รับกลิ่น
๔๐
๔๑ ภาพที่ ๔๗ บันทึกข้อความเบิกจ่ายเงิน ค่าจัดซื้อวัสดุการศึกษา ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา
๔๒ ภาพที่ ๔๘ บันทึกข้อความรายงานขอซื้อวัสดุการศึกษา ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา
๔๓ ภาพที่ ๔๙ รายละเอียดแนบท้ายรายงานขอซื้อวัสดุการศึกษา ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา
๔๔ ภาพที่ ๕๐ คำสั่งการจัดซื้อวัสดุการศึกษา ในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา