8} ?.K .L .M= þ L=W?BN
;S?32N DN 0L43K A#þ <K X?J8K,3L6D S "S GL<R[1<
#.K 8Ċ;8X ?JW6<X8=Y
.< ;S?3N2ND0L4K3Aþ#<K X?J8,K 3L6DS "S GL<R[1<
ùù &8E?Y<2N3 úú X A"#G;8?
W /#/R#K = 1; ù
Y1=ú ýùùýýý Y1=DL= ú ýùùüú
ÜÜÜÙÍÆÎÙÌ×ÎÔ×Ì
คำนำ
สัญญาณเตือนถึงความชราของมนุษย์นอกจากจะมีตัวเลขอายุเป็น
ตัวบ่งชี้แล้ว สภาพร่างกายที่เริ่มโรยราและโรคภัยไข้เจ็บก็ยังเป็น
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาตามวัย ซึ่งแม้จะปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงของ
ร่างกายยามชราไม่ได้ แต่ก็สามารถชะลอให้การเปลี่ยนแปลงนั้น
เกิดขึ้นกับเราช้าที่สุดด้วยการหมั่นทำสิ่งที่เป็นแนวทางป้องกันเพื่อ
ให้ก้าวสู่วัยชราได้อย่างแข็งแรง เพราะตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ เรา
ย่อมหลีกหนีความชราไปไม่พ้น
ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุก็ใช่จะมีแค่เรื่อง
ของการเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคภัยเท่านั้น แต่ยังมีภาวะทางกายและ
ใจที่จะเข้ามามีผลต่อชีวิตและความเป็นอยู่อีกด้วย โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งอาการหลงๆ ลมื ๆ จาก “ภาวะสมองเสอ่ื ม” กน็ บั เปน็ การ
เปลย่ี นแปลงตามวัยที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะแม้อาการเหล่านี้จะไม่ได้
เกิดขึ้นกับผู้สงู อายุทุกราย แต่โอกาสที่จะเกิดในผู้สูงอายุนั้นถือว่ามี
มากกว่าคนในวัยอื่นๆ
จึงเป็นที่มาของ “ยากันลืม” ยาสามัญประจำบ้านที่ทุกครัวเรือน
ควรมีไว้สำหรับทำความรู้จักกับภาวะการเกิดสมองเสื่อมให้มากขึ้น
เพื่อเตรียมการป้องกันและใช้เป็นแนวทางดูแลบุคคลในครอบครัว
ให้ห่างไกลกับสิ่งนี้ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมไม่เป็นผลดีทั้งกับตนเอง
และบุคคลรอบข้างเลยแม้แต่คนเดียว
สารบัญ
6
8
•
ทำความรู้จกั กับภาวะสมองเสือ่ ม
10
•
ลกั ษณะอาการของภาวะสมองเสอ่ื ม
11
•
สมองเสื่อม...จริงหรอื
12
•
ภาวะสมองเส่ือมตามวยั และอลั ไซเมอร
15
•
ความเส่ยี งในผ้สู งู อายกุ ับการเกิดภาวะสมองเสอ่ื ม
16
•
ผลกระทบจากภาวะสมองเสอ่ื ม
18
•
แนวทางการดแู ลรกั ษา
19
•
ทำอยางไรให้หางไกลจากภาวะสมองเสือ่ ม
19
การออกกำลงั กาย
20
ฝก สมองประลองเชาว
21
•
แถมทา้ ย:
ทำอยา งไรให้มีสุขภาพดี
22
•
แบบคดั กรองผมู้ ภี าวะสมองเสอ่ื มชนดิ อลั ไซเมอร
36
•
บทสง ทา้ ย
7
เกม
7
วนั
ฉนั ไมล มื
•
อ้างอิง
ทำความรู้จักกบั
ภาวะสมองเส่อื ม
คนสว่ นใหญเ่ ชอ่ื กนั มาตลอดวา่ ปญั หาทเ่ี กย่ี วกบั
สมองประเภทความจำเสื่อม ความจำถดถอย
และขี้หลงขี้ลืมนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ต้อง
เกิดขึ้นอย่างแน่นอนในผู้สูงอายุ ทำให้น้อยนัก
จะมีใครสนใจใส่ใจดูแลตนเองเพื่อให้สมองคง
ประสิทธิภาพอยู่กับเราไปนานๆ เพราะเชื่อว่าแก่
ไปก็ต้องเจอ ทั้งที่จริงๆ แล้วความเชื่อเหล่านี้ผิด
ไปจากความเป็นจริงอย่างมาก
นั่นเพราะความจริงคือ สมองไม่ได้เสื่อมสภาพไป ให้เติบโตด้วยการใช้ความคิดขบคิดแก้ไขปัญหา
ตามอายุของคนเสมอไป และเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ พยายามเข้าสังคมเพื่อพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับ
แล้วเราอาจไม่มีอาการความจำเลอะเลือนอย่าง เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง หรืออ่านหนังสืออยู่เป็น
ที่คิดตราบเท่าที่มีการดูแลและบริหารสมองอยู่ ประจำก็ล้วนแต่เป็นแนวทางเสริมสร้างและยืด
อยา่ งสมำ่ เสมอ หมน่ั ทำกจิ กรรมสรา้ งเซลลส์ มอง อายุสมองทั้งสิ้น
6
ภาวะสมองเสอื่ มคืออะไร
ทางการแพทย์ให้ความหมายของ “ภาวะ
สมองเส่ือม” (Dementia Syndrome)
ว่าเป็นภาวะที่สมองเริ่มถดถอยการทำงาน
ด้านใดด้านหนึ่งลงไป เช่น ด้านความจำ
ด้านภาษา ด้านการประมวลผล และด้าน
สมาธิ โดยจะเริ่มสูญเสียเซลล์สมองจาก
ส่วนหนึ่งแล้วค่อยลุกลามไปยังสมองอีกส่วน
หนง่ึ อยา่ งชา้ ๆ เมอ่ื เวลาผา่ นไปนานเปน็ สบิ ปี
ความผิดปกติเหล่านี้จะปรากฏชัดเจนใน
ตัวผู้มีอาการจนคนรอบข้างเริ่มสังเกตเห็น
ความเปลี่ยนแปลงนั้นได้ทีละน้อย
แม้ความสูงอายุจะเป็นผู้ต้องหาอันดับหนึ่งที่เชื่อ แต่แท้จริงแล้วหากพบว่ามีสมาชิกในครอบครัว
ว่ามีส่วนทำให้คนเราเกิดภาวะสมองเสื่อม แต่นั่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุเกิดอาการแปลกไปจากเดิม
ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะภาวะสมองเสื่อมยังเกิดขึ้น จนผิดสังเกตในเรื่องความจำและพฤติกรรม
ได้จากสาเหตุอื่น เช่น ละเลยการบริหารหรือออก แต่ละวัน การพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจ
กำลังสมอง การที่เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยง วินิจฉัยถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพราะนอก
สมองไม่เพียงพอจนทำให้การทำงานของสมอง เหนือจากอาการหลงลืมจากน้อยไปหามากแล้ว
โดยรวมเสื่อมลง มีภาวะเลือดคั่งหรือมีเนื้องอก หากภายหลังเกิดภาวะทางอารมณ์เข้ามา
ในสมอง หรือเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้สมองขาด เกี่ยวข้องด้วยก็อาจก่อให้เกิดความเครียดหรือมี
ออกซิเจนเป็นเวลานาน เหล่านี้มีส่วนทำให้เกิด อาการของโรคซึมเศร้าตามมาจนกลายเป็น
ภาวะสมองเสื่อมได้โดยเฉพาะในคนทั่วไปที่ไม่ใช่ ปัญหาใหญ่ได้
ผู้สูงอายุด้วย อย่างไรก็ตามมีหลายแนวทางป้องกันการเกิด
ภาวะสมองเสื่อมในขั้นต้นมักแสดงผลให้เห็นใน ภาวะสมองเสื่อมที่ค่อนข้างได้ผลและมีงานวิจัย
รูปแบบของการสูญเสียความจำ จดจำเรื่องราว ทางวิชาการรับรอง ซึ่งหากเรียนรู้เพื่อเตรียมการ
ต่างๆ ในชีวิตประจำวันไม่ได้ทั้งที่บางเรื่องราว ป้องกันก่อนเริ่มมีอาการก็จะช่วยบริหารสมอง
เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หนักเข้าก็เริ่มลืม และป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ดี เพราะหากมี
แม้กระทั่งสิ่งที่ตนเองทำอยู่ประจำเป็นกิจวัตร อาการภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้น โอกาสที่จะยับยั้ง
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เมื่อเกิดในผู้สูงอายุส่วน และรักษาให้หายขาดกลับมาเป็นปกติได้นั้น
ใหญ่ญาติพี่น้องบุตรหลานมักคิดว่าเป็นสิ่งที่เกิด น้อยมาก
ขึ้นตามปกติของวัย จึงไม่ได้ให้ความใส่ใจนัก
7
ภลกั าษณวะะอสากมารอของงเ
ส่ือม
จะรู้ไดอ้ ยา่ งไรว่าคนใกลต้ วั
อาการเตือนภาวะสมองเสื่อม 10 ประการที่เมื่อ
มีภาวะสมองเสอ่ื ม เกิดขึ้นแล้วควรระวัง ได้แก่
1. สญู เสียความจำโดยเฉพาะเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
ดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วไปแลว้ วา่ ภาวะสมองเสอ่ื มนน้ั อาการ 2. ทำกิจวัตรประจำวันที่คุ้นเคยไม่ได้เหมือนเดิม
ที่แสดงให้เห็นชัดเจนจนคนรอบข้างหรือสมาชิก
ในครอบครัวรับรู้ได้ก็คือเริ่มหลงลืม จำสิ่งเดิมๆ หรือทำได้แต่ก็ยากลำบากเต็มที
ที่เคยทำไม่ได้ ลืมกระทั่งสิ่งที่เคยทำอยู่เป็น 3. มปี ญั หาในการใชภ้ าษา เชน่ ลมื คำศพั ทง์ า่ ยๆ
ประจำและสิ่งที่เพิ่งทำไปไม่นาน ขั้นต้นนี้หากมี
การสังเกตก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ส่วน ใช้ศัพท์ผิดความหมาย
ใหญ่มักปล่อยผ่านเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ 4. สับสนวันเวลาและสถานที่ เช่น หลงวัน เวลา
หรือหากเป็นการหลงลืมของผู้สูงอายุก็อาจไม่มี
ใครสนใจเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่วัน บอกที่อยู่บ้านตนเองไม่ได้
ใดก็วันหนึ่ง 5. มีการตัดสินใจอย่างไม่เหมาะสม เช่น เปด
ขั้นต่อมาผู้มีภาวะสมองเสื่อมอาจมีสภาพทาง
อารมณ์เปลี่ยนไปจากเดิม บุคลิกภาพเปลี่ยนไป พัดลมแรงทั้งที่อากาศเย็นมาก
มักพูดซ้ำหรือถามซ้ำอยู่บ่อยครั้ง หลงลืม เริ่มลืม 6. มีปัญหาเกี่ยวกับความคิดรวบยอด เช่น ไม่
ชื่อหรือลืมสมาชิกในครอบครัว เก็บข้าวของใน
บา้ นผดิ ทผ่ี ดิ ทาง เรม่ิ แตง่ ตวั ใหต้ นเองไมไ่ ดเ้ หมอื น เข้าใจค่าของตัวเลข บวกลบคูณหารไม่ได้
ปกตแิ ละจำทางกลบั บา้ นไมไ่ ด้ อาการเชน่ นข้ี อให้ เหมือนก่อน
สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าอาจเกิดภาวะสมองเสื่อม 7. เก็บสิ่งของผิดที่ผิดทาง เช่น เก็บเตารีดใน
เข้าแล้ว ตู้เย็น เก็บนาฬกาในโถน้ำตาล
8. อารมณ์เปลี่ยนแปลงได้ง่ายภายในเวลาไม่
8 นาน
9. บุคลิกภาพเดิมเปลี่ยนไป เช่น กลายเป็นคน
ช่างสงสัย หรือหวาดกลัวง่ายกว่าเดิมมาก
10. ชอบเก็บตัว ขาดความกระตือรือร้นในการใช้
ชีวิต เลือกที่จะนั่งหรือนอนทั้งวัน ไม่อยาก
พบเจอผู้คน
โดยทั่วไปจะแบ่งระดับความรุนแรงของภาวะ
สมองเสื่อมออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับเริ่มต้น
ระดับกลาง จนถึงระดับรุนแรง ซึ่งในแต่ละระดับ
ผู้ป่วยจะมีพัฒนาการของโรคจากน้อยไปหามาก
ดังนี้
ระยะท
ี่ 1
ภาวะสมองเสื่อมระดบั เล็กน้อย ระยะท่ี
2
ภาวะสมองเสือ่ มระดบั ปานกลาง
ผู้ป่วยจะมีอาการหลงลืม โดยเฉพาะลืมเรื่องที่ ในระยะนี้ความจำเริ่มเสื่อมลงมากขึ้น มีความ
เพิ่งเกิดขึ้น เช่น จำไม่ได้ว่าวางของใช้ไว้ที่ใด ไม่ บกพร่องในเรื่องความเข้าใจ ความสามารถใน
สามารถจำชื่อสถานที่ที่คุ้นเคยได้ ไม่ค่อยมีสมาธิ การเรียนรู้ การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ เช่น
เหลือเพียงความจำส่วนที่เกี่ยวข้องกับอดีตที่ยังดี ความสามารถในการคำนวณ การกะระยะทาง
อยู่ เริ่มมีความบกพร่องในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดได้ทั้งที่เคย
และการใช้ชีวิตในสังคม แต่ยังสามารถอยู่คน ทำได้มาก่อน ทำอาหารที่เคยทำไม่ได้ ลืมชื่อ
เดยี วได้ ชว่ ยเหลอื ตนเองได้ และยงั มกี ารตดั สนิ ใจ สมาชิกในครอบครัว ช่วงท้ายระยะนี้อาจมี
ที่ค่อนข้างดี อาการทางจิต เช่น ประสาทหลอน ดังนั้นการ
ปล่อยให้ผู้มีอาการเหล่านี้อยู่ตามลำพังอาจเป็น
อันตราย จึงต้องได้รับการดแู ลอย่างใกล้ชิด
ระยะท่ี
3
ภาวะสมองเสอ่ื มขนั้ รนุ แรง
ผปู้ ว่ ยจำสง่ิ ทเ่ี พง่ิ เกดิ ขน้ึ ไมไ่ ดเ้ ลย สญู เสยี ความจำ
อยา่ งรนุ แรง จำญาตพิ น่ี อ้ งไมไ่ ด้ หรอื แมแ้ ตต่ นเอง
ก็อาจจำไม่ได้ด้วย มักเดินหลงทางในบ้านตนเอง
มีความผิดปกติต่างๆ เช่น บุคลิกภาพเปลี่ยนไป
เคลอ่ื นไหวชา้ เดนิ ชา้ และอาจเกดิ อาการแทรกซอ้ น
ที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
9
สมองเสื่อม...จริงหรอื
ด้วยเหตุที่ความเชื่อของคนทั่วไปเห็นว่าอาการ ลักษณะนี้อาจเกิดการหลงลืมแค่เพียง 5 นาที
หลงลืมเป็นเหมือนสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสูง จนถึงมากกว่า 1 ชั่วโมง และหลังจากนั้นไม่นาน
อายุ ฉะนั้นเมื่อมีใครสักคนเริ่มมีอาการหลงลืม เมื่อมีสมาธิมากขึ้น มีเวลาให้ลองคิดไตร่ตรอง
ง่าย จำเรื่องราวบางอย่างไม่ได้แม้เพิ่งผ่านมา ใคร่ครวญดูอีกครั้งก็จะจำเรื่องราวเหล่านั้นได้
เพียงแค่ไม่กี่วันก็มักถูกเหมาว่าเกิดภาวะสมอง อย่าลืมว่าความจำที่ดีและสมองที่แข็งแรงจะ
เสื่อมไปเสียหมด ทั้งที่จริงๆ แล้วอาการดังกล่าว มีอายุอยู่ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้เป็นเจ้าของ
อาจเป็นเพียงแค่ “สมองเสือ่ มเทยี ม” เท่านั้น จะหมั่นฝึกฝนเพื่อให้เซลล์สมองแข็งแรงหรือไม่
อาการหลงลืมอยู่บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน เช่น แต่บางครั้งบางขณะการที่คนเราต้องใช้ชีวิต
ขับรถเลยที่หมาย ลืมกุญแจรถ ลืมโทรศัพท์ ประจำวันด้วยความเร่งรีบ วุ่นวายอยู่กับหน้าที่
มือถือ ลืมชื่อคนที่เคยรู้จักกันนั้น บางครั้งอาจ การงาน ขาดสมาธิ มีเรื่องกังวลใจหรือมีหลาก
ไม่ใช่สัญญาณเตือนถึงการมีภาวะสมองเสื่อม หลายกิจกรรมเข้ามาแทรกในเวลาเดียวกันก็อาจ
เสมอไป แต่อาจเป็นเพียงแค่พฤติกรรมที่เกิดขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพความจำลดลงไป กลายเป็น
จากการขาดสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่างๆ มากกว่า เหตุผลสำคัญให้เกิดภาวะหลงลืมชั่วครู่เช่นนี้ได้
10
ภาวะสมองเสอ่ื ม
ตามวยั และอลั ไซเมอร
์
ปกติแล้วเซลล์สมองจะมีโอกาสเสื่อมลงได้เมื่อ บี 12 เหล่านี้ล้วนแต่ลดทอนประสิทธิภาพการ
คนเรามีอายุ 40 ปีขึ้นไปเช่นเดียวกับที่อวัยวะ ทำงานของสมองลงเรื่อยๆ
และระบบต่างๆ ในร่างกายก็เริ่มสึกหรอไปตาม และแม้ภาวะสมองเสื่อมจะไม่ถือว่าเป็นโรค แต่
สภาพ และจะปรากฏอาการเด่นชัดในช่วงหลัง อีกด้านหนึ่งก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิด “โรค
อายุ 65 ปี ดังนั้นระยะห่างของช่วงอายุนี้จึงควร อลั ไซเมอร” (Alzheimer’s Disease) ตามมา
เป็นช่วงเวลาของการดูแลและพัฒนาเซลล์สมอง ซึ่งถือเป็นโรคเกี่ยวกับการเสื่อมของสมองในอีก
การออกกำลังลับสมองอยู่เป็นประจำจะยิ่งช่วย รปู แบบหนง่ึ ทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ผสู้ งู อายไุ ดม้ ากถงึ รอ้ ยละ
คงความแข็งแรงของสมองได้อย่างดี 60-80 อีกทั้งอัลไซเมอร์ยังไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นพร้อม
ภาวะการเกิดสมองเสื่อมที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นจาก กับอายุที่เพิ่มมากขึ้นเสมอไป แต่สามารถพบได้
หลายสาเหตุ และแน่นอนว่าอายุที่มากขึ้นก็เป็น ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปและยังเป็นโรคที่
ส่วนหนึ่งในสาเหตุด้วย แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุหลัก สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้อีกด้วย
เพราะใช่ว่าผู้สูงอายุทุกคนจะต้องเกิดภาวะนี้ ใน โรคอัลไซเมอร์เกิดจากความเสื่อมสภาพของ
ขณะเดียวกันแม้จะยังไม่เข้าสู่วัยสูงอายุแต่หาก เซลล์สมองจนทำให้สมองเสื่อมสภาพลง ทั้งยัง
สมองถูกละเลยไม่เคยได้รับการดูแลบริหารก็อาจ เกิดได้จากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง
พาให้ระบบความจำทำงานได้ไม่เต็มร้อยเช่นกัน ส่งผลให้สารสื่อประสาทที่ช่วยในการจดจำสิ่ง
และมักมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงด้าน ต่างๆ มีปริมาณลดน้อยลง ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์
ความคิดและพฤติกรรมตามวัย ลักษณะนี้ จึงมักมีปัญหาเรื่องความจำสั้น บางรายเริ่มต้น
เรียกว่าเป็นภาวะ “สมองเสื่อมตามวัย” อาการของโรคนี้ด้วยการเล่าเรื่องซ้ำๆ พูดหรือ
ภาวะสมองเสื่อมตามวัยเกิดจากอายุที่มากขึ้น ถามคำถามซ้ำๆ อาการเหล่านี้เมื่อมีมากขึ้นจะ
โน้มนำให้อวัยวะหลายส่วนภายในสมองเริ่ม เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตรวมถึงการช่วย
เสื่อมสภาพ พร้อมกับมีโรคหลายชนิดเข้ามาเป็น เหลือตนเองในชีวิตประจำวันด้วย ท้ายที่สุดก็
สาเหตุร่วม เช่น หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองตีบ ต้องพึ่งพาการดูแลจากผู้อื่น เพราะดูแลตนเอง
หรือแตกจากโรคไขมันในเลือดสงู ความดันโลหิต ไม่ได้อีกต่อไป
สูงหรือเบาหวาน มีเนื้องอกในสมอง การขาด
สารอาหารบำรุงสมองจำพวกวิตามินบี 1 และ
11
12
ความเสีย่ งในผสู้ งู อายุ
กับการเกิดภาวะสมองเส่ือม
คนทั่วไปมักเข้าใจว่าอาการหลงลืม พูดจาซ้ำไป
ซ้ำมา หรือดื้อรั้นเอาแต่ใจเป็นนิสัยปกติของ
ผู้สูงอายุ โดยไม่ทันสังเกตว่าการที่ผู้สูงอายุใน
ครอบครัวแสดงอาการลักษณะนี้ออกมานั่นคือ
สัญญาณอันตรายเตือนถึงการคืบคลานเข้าสู่
ภาวะสมองเสื่อมแล้ว
ฉะนั้นกว่าที่ผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมจะถูก แตท่ น่ี า่ เศรา้ กค็ อื สว่ นใหญแ่ ลว้ ผสู้ งู อายทุ ม่ี อี าการ
ส่งตัวถึงมือแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการก็เคลื่อนเข้า จากภาวะสมองเสื่อมจำนวนมากในปัจจุบันมัก
สู่ระดับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ไม่สามารถดแู ล ถูกบุตรหลานทอดทิ้งไม่ดูแลเสียมากกว่า ทั้งที่
ตนเองได้ ขณะเดียวกันระหว่างนั้นก็เกิดความ ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแล ต้องการ
เบื่อหน่ายของคนในครอบครัวขึ้นเนื่องจากไม่ ความเข้าใจในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก และ
สามารถพูดคุยเจรจากับผู้สูงอายุให้เข้าใจได้ ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้าย
นำไปสู่การเพิกเฉย ทอดทิ้ง กักขัง และทำทารุณ ขึ้นจากความผิดปกติในเรื่องของความจำและ
กรรมทั้งทางร่างกาย จิตใจและคำพูด ประสิทธิภาพทางสมอง เพราะผู้สูงอายุบางราย
จึงเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด จำไม่ได้แม้แต่เส้นทางเดิมที่ใช้เดินทางไปกลับ
สำหรับการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมก็ บ้านตนเองทั้งที่คุ้นเคยมาเป็นเวลาหลายสิบปี
คือการให้ความเป็นอยู่ที่ดีในพื้นที่ที่สะอาด และใชอ้ ยเู่ ปน็ ประจำทกุ วนั กรณผี สู้ งู อายหุ ลงทาง
ปลอดภัย และสะดวกในการใช้ชีวิต ซึ่งแน่นอน จึงมีให้เห็นอยู่เสมอ
ว่าครอบครัวที่มีศักยภาพในการดูแลมากพอจะ
ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอยู่ในระดับดีและ
ได้รับการปรนนิบัติที่ดีทุกด้าน
13
11.4%
ไม่มีอาการสมองเส่อื ม
45.6% ผ้ปู ว่ ยสมองเสอ่ื ม
เหตใุ ดภาวะ11ส.4%มองเสื่อม
ส่วนสาเหตุสำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือภาวะสมอง
จงึ มักเกิดกบั ผู้สงู อายุ เสื่อมนั้นถือว่ามีความเชื่อมโยงกับอายุที่เพิ่ม
มากขึ้น เรียกว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีส่วน
จากทก่ี ลา่ วไปขา้ งตน้ วา่ ภาวะสมองเสอ่ื มสามารถ เกี่ยวข้องกัน เพราะยิ่งมีอายุมากขึ้นเท่าไร
เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การป่วยด้วย โอกาสและความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อม
โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน การขาดสารอาหา4ร5.6%ก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากความเสื่อมสภาพ
และการเกิดเนื้องอกในสมองแล้ว ยังเกิดขึ้นได้ ของเซลล์สมองในผู้สูงอายุย่อมมีมากขึ้นไปตาม
จากการที่สมองได้รับความกระทบกระเทือน วัย หากเทียบสถิติผู้สูงอายุในประเทศไทยจะพบ
อย่างรุนแรง รวมถึงผู้ที่อยู่ในภาวะอ้วนและมี ว่าผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีโอกาสเกิด
กิจกรรมทางกายน้อย ทำให้ยิ่งต้องระมัดระวัง ภาวะสมองเสื่อมได้ร้อยละ 11.4 ในขณะที่โอกาส
การลื่นล้มในผู้สูงอายุ รวมทั้งเสริมกิจกรรมออก และความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 4 เท่าทันที
กำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไม่นั่งๆ นานๆ เมื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป
อย2ู่ก5ับ48บ้านทั้งวัน 2568
2598 การนำตัวผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมเข้าพบ
แพทย์ทันทีเมื่อสังเกตเห็นอาการก็เพื่อไม่ให้เพิ่ม
ระดับความรุนแรงขึ้น ที่สำคัญคือต้องเฝ้าดูแล
เอาใจใส่ตลอดเวลาเพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนไป
ในพฤติกรรมประจำวันที่เป็นอยู่ของผู้สูงอายุ
โดยเฉพาะการพดู จาสอ่ื สารและเรอ่ื งของความจำ
จึงเป็นการดีไม่น้อยหากบุตรหลานจะใช้เวลา
พดู คยุ กบั ผสู้ งู อายใุ นบา้ นเปน็ ประจำทกุ วนั ชกั ชวน
ให้คิดถึงเรื่องราวดีๆ ในอดีตและเล่าสู่กันฟัง
เป็นการเสริมสร้างบรรยากาศดีๆ ในครอบครัว
2548 2568 2598 และผู้สงู อายุก็จะรู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างมาก
14
ผลกระทบ
จากภาวะสมองเสือ่ ม
ภาวะสมองเสื่อมนั้นนอกจากจะส่งผลกระทบต่อ
ตัวผู้ที่มีอาการแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสมาชิกใน
ครอบครัวรวมถึงผู้ที่เข้ามารับหน้าที่ดูแลด้วย
ส่วนที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือค่าใช้จ่ายที่ใช้ใน
การดูแลซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจัดสรรโดยประมาณ
เดอื นละ 10,000-20,000 บาท กลายเปน็ ผลกระทบ
ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิต
หากผู้ดูแลเป็นคนในครอบครัวอาจเกิดปัญหา คุณสมบตั ขิ องผ้ดู ูแล
ความขัดแย้งและส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้
ดูแลขึ้นได้จนเกิดเป็นความเครียดที่ต้องแบกรับ • มีความเข้าใจในอาการของผู้ที่มีภาวะสมอง
ภาระเรื่องนี้อย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง เพราะ เสื่อม
ผู้ดูแลจะได้รับผลกระทบเป็นคนแรกและมาก
ที่สุด ฉะนั้นการจะเข้ามาเป็นผู้ดูแลจึงต้องมี • พร้อมให้การดูแลผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมด้วย
ความเข้าใจถึงอาการของผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม ความรักและเห็นอกเห็นใจ
มากพอเพื่อเตรียมสภาพจิตใจตนเองให้พร้อม
หากต้องดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว อันดับแรก • สามารถดูแลและช่วยเหลือในกิจวัตรประจำ
ต้องให้ความรักและมีความเข้าใจว่า ภาวะสมอง วันของผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมได้
เสื่อมจะส่งผลให้ผู้มีอาการแสดงออกในสิ่งที่
แปลกไปจากเดิมโดยไม่ได้แกล้งทำ ผู้ดูแลจึงยิ่ง • ใส่ใจ เข้าใจ และอดทน
ต้องให้กำลังใจ มีความอดทน และให้ความช่วย • ไม่เป็นคนใจร้อนหรือหงุดหงิดง่าย
เหลือในกิจวัตรประจำวันของผู้ที่มีภาวะสมอง และที่สุดแล้วตัวผู้ดูแลเองก็ต้องคอยดูแลสภาพ
เสื่อม โดยเฉพาะเมื่อต้องออกนอกบ้านก็ยิ่งต้อง จิตใจของตนเองด้วย เพราะการดูแลผู้ที่มีภาวะ
ให้การดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดการพลัด สมองเสื่อมนั้นอาจทำให้เราเกิดความเครียดได้
หลงกันซึ่งจะเป็นปัญหาตามมา แบบไม่รู้ตัว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ควรมีผู้ดูแล 2 คน
สำหรับทดแทนในยามสลับกันพักผ่อนเพื่อไม่ให้
เกิดความเหนื่อยล้ามากเกินไป ไม่เช่นนั้นตัว
ผู้ดแู ลเองอาจจะกลายเป็นผู้ป่วยไปอีกคนหนึ่งได้
15
แกนาวทราดง ูแลรักษา
ภาวะสมองเส่ือมในผู้สูงอายุ
รกั ษาไดห้ รอื ไม่
ปัจจุบันสำหรับภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุซึ่ง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่มีราคาสูง เช่น
เกิดจากความเสื่อมถอยของเซลล์สมองนั้นยังไม่ ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดใบแปะกวย (Gingko
พบว่ามีวิธีการใดที่จะรักษาได้ จะมีก็เพียงแค่การ Biloba) ยาลดไขมันกลุ่ม Statin ฮอร์โมน ยา และ
ให้ยาเพื่อชะลออาการเสื่อมของสมองในระดับ วิตามินเสริมอื่นๆ อีกหลายชนิดซึ่งแท้จริงแล้ว
เล็กน้อยและระดับปานกลางไม่ให้เข้าสู่ภาวะ ไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันรักษาภาวะสมอง
สมองเสื่อมระดับรุนแรง และเพื่อยืดระยะเวลาให้ เสื่อมแต่อย่างใด แต่กลับจะทำให้ต้องเสียเงิน
ผู้ที่อยู่ในภาวะสมองเสื่อมสามารถช่วยเหลือ เป็นจำนวนมากเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาใช้กับ
ตนเองไดน้ านทส่ี ดุ เทา่ นน้ั ทง้ั นก้ี ข็ น้ึ อยกู่ บั สขุ ภาพ ผู้มีอาการ
ของผู้มีอาการเป็นหลักด้วย ซึ่งแต่ละคนก็จะ เพราะนับถึงทุกวันนี้ผลการศึกษางานวิจัยต่างๆ
แตกต่างกันไป พบว่าการใช้ยาหรือวิตามินต่างๆ เช่น โปรเคน
นอกจากนี้แม้ว่าภาวะสมองเสื่อมที่พบได้ในผู้ที่ (Procaine) ฮอรโ์ มนทดแทนในเพศหญงิ (Hormone
มีอายุน้อยซึ่งเกิดจากการขาดวิตามิน ฮอร์โมน Replacement Therapy) และวติ ามนิ อขี นาดมากกวา่
และโรคภัยต่างๆ อาจสามารถให้ยาเพื่อบรรเทา หรือเท่ากับ 400 หน่วยต่อวันนั้น นอกจากจะ
อาการลงได้บ้าง แต่ก็จะขึ้นอยู่กับกรณีและ ไม่มีประโยชน์ในการป้องกันและรักษาภาวะ
ระดับความรุนแรงของอาการด้วย ขณะเดียวกัน สมองเสื่อมโดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์แล้วก็ยังมี
ก็มีความเข้าใจผิดมากพอสมควรสำหรับแนวทาง ผลเสียต่อสุขภาพร่างกายอย่างชัดเจนอีกด้วย
การป้องกันรักษาภาวะสมองเสื่อมจากการ
โฆษณาชวนเชื่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ว่ามีสรรพคุณ
ในการป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้
16
1.
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
แพทย์จะแนะนำให้ผู้ดูแลและบุคคลในครอบครัว
ร่วมกันสร้างสัมพันธ์ที่ดี ให้ความรู้ถึงภาวะสมอง
เสื่อมเพื่อสร้างความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้มี
อาการ แนะนำการจัดสภาพแวดล้อมภายในที่
อยู่อาศัยให้เหมาะสมเพื่อให้ผู้มีอาการปลอดภัย
จากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เพราะเมื่อ
ทุกคนมีความเข้าใจมากพอแล้วโอกาสที่ผู้สูงอายุ
จะถูกทอดทิ้งหรือถูกส่งตัวไปอยู่ในสถานอภิบาล
คนชราอย่างโดดเดี่ยวก็จะลดน้อยลง
รวมทั้งยังไม่พบหลักฐานงานวิจัยที่ชี้ชัดว่าการใช้
ยา สารเคมี หรือวิตามินต่างๆ เหล่านี้จะช่วย
ป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน
DHEA หรอื ดไี ฮโดรอพี แิ อนโดร สเตอโรน ยาตา้ น
การอักเสบกลุ่ม NSAID กรดไขมันโอเมก้า 3
และโฟลิก (ยกเว้นผู้ป่วยที่มีภาวะโฮโมซีสเตอีน
สูง เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่แพทย์จะ
แนะนำให้กินโฟลิก)
แนวทางการดูแลรักษาเพื่อบรรเทาอาการจาก 2.
การรกั ษาโดยการใชย้ า
ภาวะสมองเสื่อมอาจแบ่งได้เป็น 2 ส่วนตาม
อาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้น ได้แก่ มียาที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้อาการของผู้ที่มีภาวะ
สมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ดีขึ้น เช่น Denepezil,
Rivastigmine หรือ Galantamine ซึ่งล้วนแต่เป็น
ยาที่ออกฤทธิ์บรรเทาอาการทางสมองเพื่อให้ผู้มี
อาการสามารถหวนกลับมาดูแลตนเองได้มาก
ที่สุด แต่ต้องใช้ยาเหล่านี้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น
เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงตามมาหลังการใช้ได้
และอาจมีการให้ยาในกลุ่ม Antipsychotics agent
เช่น Clozapine, Risperidone และ Olanzapine
เพื่อระงับอาการที่แสดงออกทางอารมณ์ ซึ่ง
ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลโดยแพทย์ที่
จะให้ยาโดยพิจารณาจากลักษณะและความ
รุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น
17
ทำอยา่ งไรให้หา่ งไกล
จากภาวะสมองเส่อื ม
เมื่อผลิตภัณฑ์และอาหารเสริมทั้งหลายไม่มีผลต่อการ
ช่วยลดภาวะสมองเสื่อมลงได้ ดังนั้นขั้นตอนและวิธีการ
ป้องกันก่อนจะเกิดสิ่งนี้กับตนเองจึงเป็นทางเลือกที่ดี
ที่สุด ซึ่งนอกจากจะหมั่นดูแลลับสมองอยู่เป็นประจำ
แลว้ กค็ งไมม่ สี ง่ิ ใดดไี ปกวา่ การเลอื กกนิ อาหารทม่ี ปี ระโยชน์
มีส่วนประกอบจากผัก ผลไม้ ธัญพืช เนื้อปลาและ
ไวน์แดงเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
ที่เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม อย่างอัลไซเมอร์ และรวมไป
ถึงโรคพาร์กินสัน (Parkinson) ได้
ขณะเดยี วกนั กม็ งี านวจิ ยั พบวา่ การดม่ื เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์
ในปริมาณน้อยประมาณ 1-6 แก้วปกติต่อสัปดาห์ หรือ
1 แก้วปกติต่อวันจะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิด
ภาวะสมองเสื่อมได้อย่างดี โดยผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์
ในปริมาณน้อยระดับนี้จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ
สมองเสื่อมลดลงร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่ม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยหรือดื่มในปริมาณมาก และ
สำหรับกาแฟนน้ั จากงานวจิ ยั หลายชน้ิ พบวา่ การดม่ื กาแฟ
เป็นประจำจะไม่มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการ
เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้เลย
กล่าวโดยสรุปคือควรหมั่นใช้ความคิดไปในทิศทางที่จะ
ส่งเสริมประสิทธิภาพสมอง ดูแลเรื่องอาหารการกิน ดื่ม
น้ำสะอาดให้มาก หมั่นเข้าสังคมเพื่อการเจรจาพูดคุย
แทนการจบั เจา่ อยกู่ บั บา้ นซง่ึ มผี ลใหส้ มองเกดิ ความเฉอ่ื ย
รวมไปถึงควรเล่นกีฬาหรือเข้าร่วมกิจกรรมผ่อนคลายไป
กับดนตรี หากมีการร้องเพลงและเต้นรำร่วมด้วยก็จะ
ช่วยได้มาก ทั้งยังได้ความกระฉับกระเฉงของร่างกาย
กลับมาเป็นของแถมอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่ามีวิธีง่ายๆ ที่จะ ฝกึ สมองประลองเชาว์
ช่วยเพิ่มการทำงานของสมองในผู้สูงอายุและ
ชะลอการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้อย่างมี ฝึกหัดทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดและเพิ่ม
ประสิทธิภาพ และเราทุกคนควรเริ่มดูแลตนเอง ความสามารถในการทำงานของสมองด้านต่างๆ
ตั้งแต่วันนี้ เพราะการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะ เช่น บวกลบคูณหารตัวเลข หรือวาดรูปเพื่อ
สมองเสื่อมย่อมเป็นหนทางที่ดีที่สุด กระตุ้นให้ใช้ความคิด ฝึกความจำ ความคิด
สมาธิและการแก้ไขปัญหาด้วยการเล่นเกมลับ
สมองที่ไม่ยากเกินไปจนทำให้เกิดความเครียด
ตามมา
การออกกำลงั กาย ควรเล่นเกมเพื่อให้เกิดการฝึกใช้ความคิดและ
ผ่อนคลาย สามารถฝึกเล่นคนเดียวหรือเล่น
การออกกำลังกายมีส่วนช่วยอย่างมากในการ ร่วมกันเป็นกลุ่มก็ได้ และยังสามารถเล่นเกมได้
ชะลอภาวะสมองเสื่อม และยังเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งบนกระดาษ บนคอมพิวเตอร์และบนแท็บเลต
ในการทำงานของสมองได้มากอีกด้วย ควรออก มีหลายผลงานวิจัยยืนยันว่าการฝึกการทำงาน
กำลังกายต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาทีต่อครั้ง ของสมองด้วยเกมที่ต้องใช้ความคิดเหล่านี้อย่าง
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถออกกำลังกายด้วยการวิ่ง สม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ได้ควรเลือกการเต้นแอโรบิค กายบริหาร ว่ายน้ำ ของสมองได้ดี
ปั่นจักรยานหรือเดินเร็ว หรอื ไมอ่ าจลองฝกึ สรปุ ใจความสำคญั ของขา่ วสาร
นอกจากนี้การทำงานบ้านเอง พรวนดินปลูก ต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟังจากโทรทัศน์และวิทยุ รวมทั้ง
ต้นไม้ทำสวนในรั้วบ้าน และใช้วิธีเดินแทนการนั่ง ฝึกทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น
รถในระยะใกล้ยังถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีได้ ฝกึ เลน่ ดนตรี เตน้ รำ ลองเขยี นหนงั สอื หรอื แปรงฟนั
อีกด้วย จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าการออก ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ทั้งหมดนี้ช่วยเสริมสร้าง
กำลังกายแบบแอโรบิคนานประมาณ 30 นาที และกระตุ้นสมองได้ดีและสามารถทำได้ไม่ยาก
และให้มีความถี่ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ดีกว่าเมื่อ
เทียบกับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย
19
แถมทา้ ย:
ทำอยา่ งไรใหม้ ีสขุ ภาพด
ี
สร้างพฤติกรรมประจำวันให้ห่างไกลภาวะสมอง 2. ดูแลน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและไม่
เสอ่ื ม และดแู ลสขุ ภาพรา่ งกายใหส้ มบรู ณแ์ ขง็ แรง อ้วน
ด้วยวิธีการดูแลตนเอง ดังนี้
1. เลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงอาหารที่มี 3. ไม่ดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือกินยาใดๆ โดยไม่มี
ความจำเปน็ เพราะอาจมอี นั ตรายตอ่ สมองได้
ไขมันอิ่มตัวและโคเลสเตอรอลสูง เน้นกิน
ปลาทะเล ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี วิตามิน 4. หมั่นเข้าสังคมเพื่อการพบปะเจรจาพูดคุย
อีและกรดโฟลิกสูง เช่น ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว 5. ตรวจสขุ ภาพเปน็ ประจำทกุ ปี หากมโี รคประจำตวั
และผักใบเขียว
ต้องติดตามการรักษาเป็นระยะและปฏิบัติ
ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
6. ระมัดระวังอุบัติเหตุโดยเฉพาะการลื่นล้มที่จะ
มีผลกระทบกระเทือนต่อสมองโดยตรง
7. หมั่นทำกิจกรรมเสริมสร้างเซลล์สมอง
20
B 5 '1 =ĕ 9%I $9 6+4.%1 A.;1I % 8 1)5 E A%1'Ę
6 g6 8/'1; = ĕ =B)
µ·
°nµ¤°¸ µµ¦n°Å®Ê¸ ¦º°Å¤n ¤¸ Ť¤n ¸
Ä n ŤÄn n
°µ¤Îµµ¤Á¤· ÎʵÇ
®¨¨º¤n°¥
ʹ ¤¸ { ®µ¥n»¥µÁ¦°ºÉ ªµ¤µÎ ¦³¥³´Ê
o°¤¸ °¥Áº°Ä®o ε· ¦¦¤¸É εÁ}
¨º¤ª´´ ¨º¤Ã°µ¸É ε´
°¦°¦ª´ Án ª´Á· ª´ ®¥» ¡Á· «¬
¼¹¤¨ Á«¦µo ®¤° ®¦º°¦o°Å®on°¥ªµn Á·¤
Á¦É·¤¤¸ªµ¤¥»n¥µÄµ¦·Á¨
·Á· ®¦º°¨Îµµ¤µ
¹Êĵ¦´µ¦
Á¦°ºÉ Á· °
Ťn Ä· ¦¦¤Áɸ ¥°µÎ Án µ°Á· ¦Áɸ ¥µÎ · ¦¦¤´ ¤Áɸ ¥
Å
Á¦É·¤o°¤¸nª¥Á®¨º°Ä·¦¦¤¦³µÎ ª´ Án µ¦¦´ ¦³µ°µ®µ¦
®» ®· °µ¦¤Ár ¥¸ n°¥
¹Ê µn ´¥ Á¦·É¤Á®È Å¥o · Áº°É Ä·É ¸ÅÉ ¤Án }
¦·
Á¦·É¤¤¸ {®µÁ¦É°º «· µ Án oµÁ¥
´¦È®¨µn°¥ ε·«µÅ¤nÅo
´¦°´¦µ¥ ®¦º°Á¨·
´¦ÅÁ¨¥
¤¸ ªµ¤¥n» ¥µ ¨µÎ µÄµ¦®µµÎ ¡¼ ɸ °o µ¦³¡¼ Á¦¥¸ °ºÉ ·É
°
Ťn¼ ¡¼Å¤n¦³Ã¥
6'B ) )
®µ° ¤¸ Än ¤µªµn
o° Ä®o ´¥ªµn °µ¤£¸ µª³¤°ÁÉ°º ¤· °¨´ ÅÁ¤°¦r
µo nµ®¦°º µ
· °µn ¤°¸ µµ¦´¥£µª³¤°ÁºÉ°¤ ¦» µ¦¹¬µÂ¡¥r ¦³Îµª´
°nµ ®¦°º
µ¡¥µµ¨®ªn ¥¦· µ¦¤£¤¼ Ä· ¨o oµnµ Án æ¡¥µµ¨n Á¦¤·
» £µ¡Îµ¨ Á¡É°º ¸É ³Îµ
µ¦´ ¦° ¼Â¨¦´¬µ n °n °¥nµÁ}¦³°n Å Án æ¡¥µµ¨¤» æ¡¥µµ¨«¼¥ r µ´
¦³µª·¥µ ¨³¥´ ¤¸ ¤µ¤o¼ ¼Â¨o¼iª¥¤°ÁÉ°º ¤É¸ °¥Ä®oε¦¹ ¬µÄµ¦Â¼ ¨Ân¼o ¼ ¨o¼ ªi ¥
ä2ã1
.Ĕ 6ĕ &
7 A % 7 +5 5 E%)Ĕ ;%
®´º°Á¨n¤¸ÊÅo¦ª¦ª¤
o°¤¼¨µª·µµ¦Áɸ¥ª´µ¦j°´Â¨³
µ¦¦´ ¬µ£µª³¤°ÁºÉ°¤ ¨³µÎ Á°Ä®°o nµnµ¥ ¦ª¤¹ ª· ¸· ´·
´ªnµ¥Ç oª¥Á°Ä®o®nµÅ¨£µª³¤°ÁºÉ°¤ Änoµ¥Ê¸³
εÁ°Á¤ f¤°¦¼ µn Ç Án ü » Á¤· Á¨
Á¤´¼n
²¨² ɸnµµ¤µ¦®µÁ¨nÅo´ÉªÇ ŠŤnªnµ³Á}®´º°Á¤ f
¤° Á¤°¤¡·ªÁ°¦ r ®¦º°Â°¡¨·ÁÉ´¸É¤¸¤µ¤µ¥Ä®oÁ¨°º Á¨n
ÅÅo ¤nÊε´Ä °µ· ¥r ÅÁ¨nÁ¤ f ¤°´Á¨¥¸ªµn
A % I 9 ã + ) = /6' 6ĕ );%
Á¤Áʸ }µ¦ÎµªÁ¨
Äĵn ¥Ç Á¡É°º fªµ¤ÄnÄ ªµ¤Îµ Ä
o°¸É
εŤnÅo µ¤µ¦
µo ¤ÅµÎ
o°°ºÉÅo
y ;
y
;
; ;
y ;
; y
y
y
y
nµµ¤µ¦®µÁ¤¦¼ÂʸÅoµ®´º°Á¤·Á¨
°¥nµ Á¨
·¡··¤°ÁºÉ°¤ Á¸¥·
¡··¤°ÁºÉ°¤ ¦ª¤Ê´Á¤°¤¡·ªÁ°¦r Á¤°°Å¨r ®¦º°Â°¡¨·ÁÉ´ Án 0DWK :RUNRXW
(LQVWHLQ 0DWK $FDGHP\ ®¦°º %UDLQ 7UDLQLQJ
2ä2ä
A % I9 ä =C < ĕ.= %1
®¨µ¥°µÁ¥Å¥o · º°É Á¤Ã¼ ¤» µµo ®¦°º µÁ¦¸¥ Á¤¦·«µª´ Á¨
µ¦µ¼Ã³»· ³¤ ¸
Ė °n ¹Éo¼Á¨n o°Á¨º°Än ®¤µ¥Á¨
´Ê  n Á¨
¹Á¨
Ã¥¤Á¸ °ºÉ Å
ªµn ÄÂn¨³Âª´Ê ª´Ê
ª° ¨³£µ¥Ä¦°É¸Á®¨¸É¥¤Á¨È ´ªÁ¨
o°Å¤nÎʵ´ Á¤¸Ê¤¸ªµ¤¥µnµ¥®¨µ¥¦³´Ê´Ân
¦³´µn ¥ µ¨µ ¥µ ¨³¥µ¤µ Á¡°ºÉ fµ¦ªµÂ µ¦Ä®oÁ®»¨
´ª°¥nµÂnÁ¤¼Ã» ;
Ä®o¼oÁ¨nÄnÁ¨
¹ Ã¥¤¸
Á°Éº Å
ªµn ÄÂÂn ªÊ´ ª´Ê
ª° ¨³£µ¥Ä¦°
ɸÁ®¨É¸¥¤Á¨È ´ªÁ¨
o°
Ťn ÎµÊ ´
9 ´ª°¥nµÂnÁ¤¼Ã» ; Ä®o
Áo¼ ¨nÄnÁ¨
¹ Ã¥¤Á¸ °ºÉ Å
ªnµÄÂnªʴªʴ ª°
¨³£µ¥Ä¦° Á®¨¸É¥¤Á¨È
´ªÁ¨
o°Å¤nÊε´
nµµ¤µ¦Á¨nÁ¤¼Ã»Åo
µ¤°¨´¤rÄ®´º°¡·¤¡ r
9 °¨´¤roµ¥Á¨n¤
°ªµ¦µ¦
µn ®´ °º ¦ª¤Á¨¤n Á¤Ã¼ »
æ«´¡r¤º°º° Á¤
°¤¡·ªÁ°¦rnª»¨ ®¦º°
Á ¨ n °· Á ° ¦ r Á È µ ¤
ÁªÈ År µn Ç
ä2å3
9
A % 9 I å A ;1I %.%1 ä 9
Á¤ÊÁ¸ } Á¤µn ¥Ç Ťno°Ä°o »¦r Á¡¥¸  n ¤°º ¨³¤° Ȧ³¨°ªµ¤µÎ Å o ÁoÁ¡°Éº f ªµ¤
ÄnÄ µ¦¦³µ¤°Ê´ ¸ ¨³ÁÉ°º ¤Ã¥¤°´ ¦µn µ¥ Ä®´°º Á¨n¤¸ÊÁ¦µ¥´ª°¥nµ µn
µn ¥Ç ÅÂo n nµÃj °o ¥ µn ¸ °¨ ¨³nµ´ ¤¼ ´®¼
+ 8 A9 ) Ĕ
Ĕ6C Đ ĕ1& ¤°º
ªµ¼·ªÊ Ãj ¤°º µo ¥¼
ª·Ê °o ¥ Á¤°Éº εÅÄo ®o ¨´ Á¨¸É¥¤°º
ªµ
¼ ʪ· o°¥ ¤º°oµ¥Îµ¼ Ê·ªÃj
Ĕ6
9 B1) ¤°º
ªµÎµ¤º°Á} ¦¼ ¸ ¤°º µo ¥Îµ 6Ĕ
5
% =
5 /= ¤°º
ªµ´¨µ¥¤¼ ¤º°µo ¥
Á} ¦¼ °¨ Á¤°ºÉ µÎ ÅÄo ®o ¨´ Á¨¥¸É ¤°º
ªµµÎ ¤°º ´ ®
¼ ªµ Á¤ºÉ°ÎµÅoÄ®o¨´ Á¨¸É¥ ¤°º
ªµ´ ´
Á} ¦¼Â°¨ ¤º°µo ¥µÎ Á}¦¼¸ ®¼oµ¥ ¤°º oµ¥´ ¨µ¥¤¼
°µÊ¸ µn µ¤µ¦®µª· ¸ f¤° ¸ Åo µÁªÈ År°¥nµ ÁªÈ År®¤°µªoµ
KWWS ZZZ GRFWRU RU WK DUWLFOH GHWDLO Á} o
2ä4æ
A % 9I æ A 6+ A ;I1%A )).Ę %1
®¨µ¥nµ°µÁ¥Á®ÈÁ¤ vÁ
µªw
µ¤®´º°ÂÁ¦¸¥ ®¦º°®´º°
°
ÁÈÇ Ã¥Ä®o¼oÁ¨n¨µÁoεÁ¡Éº°®µ
µ°°µ£µ¡Á
µª Á¤Ê¸Å¤nÄn
Á¡Éº°Ä®oÁÈÇ Á¨n»ÁnµÊ´ ¼oÄ®nÁ°È
µ ¤ µ ¦ Á ¨ n Å o Á ¡ºÉ ° f µ ¦ ª µ Â
¤·· ´¤¡´ r
°¤°
éĕâ EQQNOCVEJ EQO
°µÊ¥¸ ´¤¸Á¤¤É¸ ¸¨´¬³Ä¨Áo ¥¸ ´ Á¤Á
µª µ¤µ¦nª¥ fµ¦ªµÂ ¤· ·¤´ ¡´
r °
¤°ÅÁo n´ °¥nµÁ¤Á¦¥¸ ¨Îµ´ Á®» µ¦r µo ¨nµ
o
µo ª
oµªµ¦ ¦ª
µo ª
oµªÁ¨º°
ä2ç5
A % I 9 ç
5 Ĕ= =ĕ +6%
N6
Á¤´¼n£µ¡Á®¤º°Ê¸µ¤µ¦ÎµÁ¨nÁ°Åo¸Éoµ ®¦º°Á¨nnµ°¤¡·ªÁ°¦r °·Á°¦rÁ ®¦º°
°¡¨·ÁÉ´ÈÅo Ã¥ª·¸Á¨nÄ®o¼oÁ¨nÁ¨º°Ád¦¼µÂnÁ¤ ´¼n¦¼É¸Á®¤º°´ Á¡Éº° fªµ¤Îµ
µ¦ªµÂ
+ 8 9A)Ĕ A %
5 Ĕ= =ĕ +6%
6N
ªÉεÂn µ¦r εª Ân ŤnÄ®o¤°Á®È £µ¡ ¨´ Ânµ¦r
ªµµ¦rÁ¦¸¥ ª ª¨³ ¦¦´
Ádµ¦rÅo¨¸ ³ ¦´Ê oµÅ¤n µ¤µ¦´Å¼n oÄ®od Ä®¤n
°µ³Á¦¤É· oÁ¨n µ Ân n¼ µo εÅoÄ®oÁ¡É¤· 媵¦r Á¦Éº°¥Ç Án Á} Ân
µ¤¨Îµ´
°µ¸Ê¥´ ¤Á¸ ¤Äɸ Áo ¡Éº° fªµ¤µÎ µ¦ªµÂÅo°¸ Án fÁ·¤Á
Ȥµ¯d µÄ®o¤¦¼ r
3
93 93
4 4
87 6 5 8 6 5
7
+8 9A) Ĕ
Á
¸¥°Áª¨µ
Á·¤Á
¤È µ¯dµÄ®o¦´ Áª¨µ µ¯d µ
Á¤· ®µo { µ¯d µÄ®o ¤¦¼ r ¦´ Áª¨µ °¸ µ ¸ äÁ¥È
2ä6
เกมส์
จับค่กู ู้ความจำ
ä
27
A % I 9
6N 6N ,5" Ę
Á¤Ê¸ Á}°¸®¹ÉÁ¤É¸nµ¥Â¨³Å¤no°¤¸°»¦r Áo fªµ¤Îµ ªµ¤ÄnÄ ¤¸ª·¸Á¨nº° Ä®o°nµ
ε«´¡rnµÇ £µ¥ÄÁª¨µ µ ¸ ¨³Ä®oo¼Á¨n µÎ µÎ «¡´ rÄ®o¤µÉ¸ » ®¨´µÊ´dε«´¡r¨³
¡¼µÎ «´¡Ár µn ¸É εÅoÄ®o¤µ¸É»
+5 1&6Ĕ N6,"5 Ę
ÄŤ o ªµ¦¼ ÁÈ°o ¥ ªnµ °oª oŤ o » ¦ ¼ ¦³Áµl
oµªÁ®¥¸ ª ª¤r µÎ ¦ª ¨µ°
¦°Áoµ Ânµ oµÄ®¤n ®ªÁ¡¦ o¤Îµ n°Áɸ¥ª ´ª¼ ¦Ánµ ¡É¸µ¥ Á¤È¥µ ĸ ¦o°¥°
®¤µ¥ ®´°º ¥¤Ê· ªoµ µµ £¼Á
µ
°µ¸Ê¥´¤¸Á¤É¸Áo fªµ¤Îµ ªµ¤ÄnÄ ¦¼Â°ÉºÇ °¸ Án Á¤£µ¡´¤¡´r´´ª°¥nµ
oµ¨µn
A)1; $6".5%" 5 Ę I/9 6&E
12
âã âã
åè åè
34
âã âã
åè åè
ä29
A % 9I
N6 N6,5" Ę
µn µ¤µ¦ fªµ¤ÄÄn oª¥Á¤ f Á·¤£µ¡Ä®o¤¤µ¦ ®¦°º Á¤¤°£µ¡¨¼ µ« r
ã A %8 $6"D/ĕ.%%6 '
ä A %%1 $6")= 6, Ę ¤°µ¦´Á¦¸¥Å¤¨o ¼µ«rµ¤Ã¥r ¨ªo °ªµn Á¤°Éº ¤°µ¤»¤
³¤¸¦¼¦nµ°¥µn Ŧ ¨³¤¸µÎ ª¨¼ µ«r Ê´ ®¤É¨¸ ¼
Ã¥r £µ¡µ¤»¤ µÎ ª¨¼µ«r
3å0
åã
A )&A %
A )& Á¤ ª ¨ ¼ ®µ¦ oµ¨º¤
5 y 3 ; A )& Á¤¼Ã » ;
4
y 3 5
; 5 36
; 8 ; 56 5 3
7 6 45
8 y ; 54 3
; 9 y 6 43
y 5 4
7 y 6
4 8 y 3
A )& Á¤Ã¼ » ;
79 8 4
4 9 5
68 93
89 6
6 8 3 79
94763
9 4 7 8
7 8 9 6
843 9 7
3å2ä
A )& Á¤Á
µªÁºÉ°¤Á¨¨r¤°
A )& Á¤Á¦¥¸ ¨µÎ ´Á®»µ¦r
4 3
o
µo ª
µo ªµ¦ ¦ª
µo ª
µo ªÁ¨º°
4 3
3 4
3 å3å3
A )& Á¤ fÁ¤· Á
Ȥµ¯d µÄ®o ¤¼¦r
93 93 93
4 4 4
87 6 5 8 5 8 7 6 5
7
6
Áª¨µ Áoµµ¯dµ· µ ¸ ®¦°º
Á¤· Á
Ȥµ¯dµÄ®o ¦´ Áª¨µ µ¯dµ
Á¤· ®µo { µ¯d µÄ®o ¤¼¦ r ¦´ Áª¨µ °¸ µ ¸ äÁ¥È
A )& Á¤Á¨º°£µ¡´¤¡´ r ¸®É µ¥Å
°o °
°o °
°o °
°o °
A )& Á¤Á·¤£µ¡Ä®o¤¤µ¦
34
A )& Á¤¤°£µ¡¨¼ µ«r
Ã¥r £µ¡µ¤»¤ µÎ ª¨¼ µ«r
35
åç
1ĕ6 1 8
$PHULFDQ )DPLO\ 3K\VLFLDQ 7KH 6LJQV RI 'HPHQWLD $P )DP 3K\VLFLDQ
>°· Á°¦Ár È @ WKH $PHULFDQ $FDGHP\ RI )DPLO\ 3K\VLFLDQV >Á
µo ¹ Á¤°Éº ¥ @
Á
µo ¹ Åo µ KWWS ZZZ DDIS RUJ DIS S KWPO
浦¦³Á¤· ÁÃè¥Â¸ ¨³Ã¥µ¥µo »
£µ¡ ¦» µ¦¦³¤» ¦³¤¤°Á¡Éº°¡´µ
Ã¥µ¥µ¦j°´ ¦´¬µÂ¨³Â¼ ¨¼oªi ¥¤°Áº°É ¤Ä¦³Á«Å¥ ¦» ¸ ¦¬· ´ Á°³
¦µ¢¢d à · ÁȤ r µÎ ´
´ ¦°o¼ ¸¤É £¸ µª³¤°Á°Éº ¤·°¨´ ÅÁ¤°¦rµµ®· ¦º°¼o ¼Â¨ ªµÁª· ´ ·
£µª³¤°Áɺ°¤ &OLQLFDO 3UDFWLFH *XLGHOLQH IRU 'HPHQWLD ´ Á¦¥¸ Á¦¸¥¦Ê´¸ É
¡ «
¦· ·¦ ´ «·¦· µ ªµ¤µÎ Ê´ Ân¤¸ªµ¤®¤µ¥ o» · ÄÅɸ ¤°n µ¦³Á¤· nµ
»¨µ¦Ã¦µ¦¦³Á¤· ÁÃ襸¨³Ã¥µ¥µo »
£µ¡ e ɸ ´É¸
¦µ¤ y ´¥µ¥
Áµª¨´¬ r ¦» ¦µª¸ ¨³³ ¦µ¥µ´ ¤¼¦rÁ¦°ºÉ o » °¦¦¦³Ã¥
r °µ¦Äo
¥µ¨¤»n $FHW\OFKROLQHVWHUDVH ,QKLELWRUV ĵ¦¦´¬µÃ¦°´¨ÅÁ¤°¦¦r ³´¦» ¦°o ¥¹
µ¨µ ¦» ¸ ¦·¬´ Á°³ ¦µ¢¢d à · Á¤È r µÎ ´
3å6
å