คู่มือโควิด-19
ดร.นำชยั ชวี วิวรรธน์
ฝ่ ายสร้างสรรคส์ ่อื และผลติ ภณั ฑ์
สานักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.)
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 1 -
ภำพปก: ภำพถ่ำยซำรส์ -โคว-ี 2 ไวรัสก่อโรคโควิด-19 จำกกลอ้ งจลุ ทรรศนอ์ เิ ลก็ ตรอนชนดิ แสงส่องผำ่ น
ไวรัสในภำพแยกมำจำกผปู้ ่วยรำยหนึ่งในสหรัฐอเมริกำ และจำกภำพจะเห็นวำ่ ไวรสั กำลังออกจำกผิวเซลล์
ท่ใี ช้เพำะเลีย้ งในห้องปฏบิ ัตกิ ำร โปรตีนหนำมท่ผี ิวของอนุภำคไวรสั มีลักษณะคลำ้ ยมงกฎุ และเปน็ ท่มี ำ
ของชือ่ “โคโรนำไวรสั ” เพรำะ corona คอื มงกฎุ (ทีม่ ำภำพ: วิกิพเี ดยี )
Disclaimer: ข้อมลู ในเอกสารนีไ้ ดจ้ ากการประมวลขอ้ มูลจากหลายแหลง่ อา้ งองิ โดยหลักมาจากศูนย์ควบคมุ
และป้องกนั โรค (CDC, Centers for Disease Control and Prevention) ประเทศสหรฐั อเมริกา, องคก์ าร
อนามัยโลก (WHO, World Health Organization), เว็บไซตด์ ้านวชิ าการ เช่น วารสารวิจยั ทางวิทยาศาสตร์
ต่างๆ และส่อื สารมวลชนทม่ี ีระดับความน่าเชอ่ื ถือสงู ท้งั นี้ สาหรับข้อมูลการปฏิบตั ติ นบางอยา่ งที่แตกต่าง
ออกไป ใหถ้ อื ปฏบิ ัติตามประกาศของศนู ย์บรหิ ำรสถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ 2019
กระทรวงมหำดไทย (ศบค.มท.)
เอกสำรนที้ ำข้ึนเพื่อเผยแพร่ควำมร้เู กีย่ วกับโรคโควดิ -19
สำมำรถเผยแพร่ไดใ้ นวงกวำ้ งโดยไมต่ อ้ งขออนญุ ำต
*** ขอสงวนสทิ ธิห์ ำ้ มนำไปตพี มิ พ์เพื่อจดั จำหนำ่ ยทำงกำรคำ้ ***
เผยแพรค่ ร้งั แรก มกรำคม 2564
หากมคี าแนะนาหรือพบความไม่ถกู ตอ้ งของขอ้ มลู
สามารถแนะนาไดท้ ี่ [email protected]
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 2 -
สำรบัญ
หมวดหมู่ คาถาม หน้า
ความรู้พนื้ ฐาน โคโรนำไวรสั ชนดิ ใหมค่ อื อะไร? 7
การแพร่กระจาย ทำไมจงึ เรยี กวำ่ โควิด-19? 7
การป้องกันตัว โควิด-19 พบครง้ั แรกในประเทศจีนใชห่ รือไม?่ 7
ไวรสั แพรก่ ระจำยอยำ่ งไร? 8
หำกคนใกล้ชิดผู้ป่วย อำกำศรอ้ นชว่ ยหยดุ ยง้ั กำรแพรร่ ะบำดไดจ้ รงิ หรือไม?่ 8
การดูแลเด็กและผูส้ ูงอายุ ยงุ หรอื เหบ็ หมดั นำเชอื้ ไวรสั นไี้ ดห้ รอื ไม?่ 8
อาการป่ วย ตอ้ งปอ้ งกนั ตวั เองอยำ่ งไร? 8
การตรวจโรค กำรสวมหนำ้ กำกอนำมยั สำคญั อยำ่ งไร? 9
มขี อ้ ควรระวงั เกย่ี วกบั หนำ้ กำกอะไรบำ้ ง? 9
หำกตอ้ งไปรกั ษำตวั ดว้ ยโรคอน่ื ท่ีโรงพยำบำลชว่ งโควิด-19 ระบำด จะ 10
ปลอดภยั หรือไม?่
จะติดเชอื้ จำกจดหมำยหรอื พสั ดภุ ณั ฑไ์ ดห้ รือไม?่ 10
ยงั บริจำคเลือดไดไ้ หม? 10
คนท่สี วมคอนแทกตเ์ ลนสต์ อ้ งระวงั อะไรเป็นพเิ ศษหรอื ไม่? 10
นำ้ สบหู่ รอื แอลกอฮอลป์ อ้ งกนั โควดิ -19 ไดห้ รือไม?่ 11
กำรทำควำมสะอำดพนื้ ผิวและผลิตภณั ฑต์ ำ่ งๆ ควรทำอยำ่ งไร? 11
11
ถ้าปว่ ยหรอื มคี นในบ้านปว่ ย ควรทาอย่างไร? 12
หำกสมั ผสั ใกลช้ ิดกบั ผปู้ ่วยโควดิ -19 ตอ้ งทำอยำ่ งไร? 12
เด็กๆ มีควำมเสี่ยงที่จะป่วยจำกโควดิ -19 แคไ่ หน? 12
เด็กๆ จำเป็นตอ้ งสวมหนำ้ กำกอนำมยั หรอื ไม?่ 12
เดก็ ๆ ออกไปเลน่ กบั เพ่อื นไดห้ รอื ไม?่ 13
เดก็ ๆ ใชเ้ วลำกบั ผสู้ งู อำยหุ รือผมู้ โี รคประจำตวั ไดห้ รือไม?่ 13
โควดิ -19 ทำใหเ้ กดิ อำกำรอยำ่ งไรบำ้ ง? 14
เป็นไปไดห้ รอื ไมท่ ่ีจะตดิ ไขห้ วดั ใหญ่และโควดิ -19 พรอ้ มกนั ? 14
เป็นไปไดห้ รือไมท่ ่จี ะเกบ็ ตวั อยำ่ งและตรวจทบ่ี ำ้ น? 14
จำเป็นตอ้ งตรวจกำรตดิ เชอื้ แคไ่ หน? 15
เมอ่ื ใดควรเขา้ รบั การตรวจโควดิ -19? และผลตรวจหมำยควำมวำ่ อยำ่ งไร?
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 3 -
ตรวจการตดิ เชื้อในอดตี (ตรวจแอนตบิ อด)ี ไดอ้ ยา่ งไร? ผลการตรวจ 15
หมายความว่าอยา่ งไร? 16
16
เป็นไปไดห้ รอื ไมท่ จี่ ะตรวจไวรสั ไมพ่ บ แลว้ ตอ่ มำภำยหลงั ตรวจพบไวรสั ? 17
17
ผเู้ ส่ยี งป่ วยหนัก ใครบำ้ งทีเ่ สี่ยงจะป่วยหนกั จำกโควดิ -19? 17
18
ควรงดยำใดบำ้ งหรือไม่ หำกป่วยโควิด-19?
18
ผทู้ พุ พลภำพมีควำมเสี่ยงมำกกวำ่ คนท่วั ไปหรอื ไม่? 18
ผูป้ ่ วยภูมิแพต้ ามฤดูกาล ผปู้ ่วยโควดิ -19 กบั ป่วยภูมแิ พต้ ำมฤดกู ำล มีอำกำรแตกตำ่ งกนั อยำ่ งไร? 19
19
กำรป่วยภมู แิ พต้ ำมฤดกู ำล เพิ่มควำมเส่ียงทีจ่ ะป่วยโควดิ -19 หรอื ไม่ และ 19
19
หำกติดโควดิ -19 จะทำใหม้ ีอำกำรหนกั ขนึ้ หรอื ไม?่ 20
20
กำรสวมหนำ้ กำกอนำมยั จะทำใหล้ ดอำกำรภูมิแพต้ ำมฤดกู ำลไดห้ รอื ไม่? 20
22
การตรวจสอบเส้นทางการ กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรติดเชอื้ (contact tracing) คอื อะไร? 22
ติดเชอื้ 22
ระหวำ่ งกำรตรวจสอบ จะเกดิ อะไรขนึ้ กบั ขอ้ มลู สว่ นตวั บำ้ ง? 23
23
หำกผลตรวจพบวำ่ ตดิ เชอื้ จะตอ้ งทำอยำ่ งไรบำ้ ง? 24
24
ใครบำ้ งทีถ่ อื เป็นผสู้ มั ผสั ใกลช้ ดิ (close contact) กบั ผปู้ ่วยโควดิ -19? 24
หำกขณะนนั้ ใสห่ นำ้ กำก จะถอื วำ่ เป็นผสู้ มั ผสั ใกลช้ ดิ หรอื ไม?่ 24
หำกเป็นผสู้ มั ผสั ใกลช้ ดิ จะตอ้ งตรวจโรคโควิด-19 หรือไม?่
หำกเคยอยใู่ นบรเิ วณใกลเ้ คยี งกบั ผตู้ ดิ เชอื้ อยู่ จะตอ้ งทำอยำ่ งไรบำ้ ง?
จำเป็นตอ้ งดำวนโ์ หลดแอปติดตำมกำรตดิ เชอื้ ไวใ้ นมอื ถอื หรือไม่?
งานศพ มีควำมเสี่ยงแคไ่ หนในกำรรว่ มงำนศพผเู้ สียชีวิตจำกโควิด-19?
ควรจดั กำรขำ้ วของของผเู้ สียชีวิตจำกโควิด-19 อยำ่ งไร?
การทาความสะอาดและ ตอ้ งทำควำมสะอำดฆำ่ เชอื้ ขำ้ วของตำ่ งๆ อยำ่ งไร?
ฆา่ เชอื้
กำรทำควำมสะอำดแตกตำ่ งจำกกำรฆำ่ เชอื้ อยำ่ งไร?
บรเิ วณที่พบผู้ป่วย จะดดู ฝ่นุ ทาความสะอาดอย่างไรให้ปลอดภัย?
ควรทำควำมสะอำดแบบกิจวตั รอยำ่ งไร? บอ่ ยครงั้ มำกนอ้ ยเพยี งใด?
ใครมหี นำ้ ท่ที ำควำมสะอำดและฆำ่ เชอื้ ?
คล่ืนอลั ตรำซำวนด,์ แสงยวู คี วำมเขม้ ขน้ สงู , หลอดแอลอดี สี ีนำ้ เงิน หรอื
อโุ มงคฆ์ ำ่ เชอื้ มปี ระสิทธิภำพมำกนอ้ ยเพยี งใด?
ควรฉีดฆำ่ เชอื้ บรเิ วณทโี่ ลง่ นอกอำคำร, ทำงเดนิ และถนน เพอ่ื ปอ้ งกนั กำร
แพรก่ ระจำยของโรคหรอื ไม?่
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 4 -
สัตวเ์ ลีย้ งและปศสุ ัตว์ ติดโควดิ -19 จำกสตั วเ์ ลีย้ งหรือปศสุ ตั วไ์ ดห้ รอื ไม?่ 25
ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ติดอยบู่ นผิวหนงั หรอื ขนของสตั วห์ รอื ไม?่ 25
การรับมือของชุมชน ใชน้ ำ้ ยำฆำ่ เชอื้ ท่ีเชด็ ลำ้ งมอื กบั สตั วไ์ ดห้ รอื ไม?่ 26
อาหารและนา้ 26
อจุ จาระและนา้ เสยี นำสนุ ขั ไปสวนสำธำรณะไดห้ รอื ไม?่ 26
สระว่ายนา้ , อา่ งอาบนา้ นำสุนขั ไปฝำกเลีย้ งหรือทำควำมสะอำดไดห้ รือไม?่ 27
และสวนสนุกทม่ี นี า้ 27
หำกสตั วเ์ ลีย้ งป่วย และคดิ วำ่ ติดโควดิ -19 ตอ้ งทำอยำ่ งไร? 27
วัคซนี สตั วห์ รอื ผลิตภณั ฑจ์ ำกสตั วท์ น่ี ำเขำ้ ปลอดภยั หรอื ไม่? 27
สตั วป์ ่ำแพรก่ ระจำยโรคโควดิ -19 ใหค้ นหรอื สตั วเ์ ลีย้ งไดห้ รือไม?่ 28
ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 จะกลบั สสู่ ่ิงแวดลอ้ มผำ่ นทำงนำ้ เสียและสตั วใ์ น 28
ธรรมชำติที่ติดเชอื้ ไดห้ รอื ไม?่
ชมุ ชนจะรบั มอื และบรรเทำควำมรุนแรงของกำรระบำดโควดิ -19 ไดอ้ ยำ่ งไร? 29
ตดิ โควิด-19 จำกอำหำร (รวมทงั้ ทซ่ี อื้ กลบั จำกรำ้ นอำหำร, ทำใหมๆ่ , อำหำร 29
แชแ่ ข็ง, หรืออำหำรในบรรจภุ ณั ฑ)์ หรอื นำ้ ดมื่ ไดห้ รอื ไม?่ 29
ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 แพรก่ ระจำยผำ่ นนำ้ ท่ฆี ำ่ เชอื้ แลว้ ไดห้ รอื ไม่? 29
พบไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ในอจุ จำระหรือไม?่ 30
ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แพรก่ ระจำยผำ่ นระบบนำ้ เสียไดห้ รอื ไม?่
ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 แพรก่ ระจำยผำ่ นนำ้ ทว่ มไดห้ รอื ไม?่ 30
ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แพรก่ ระจำยผำ่ นสระวำ่ ยนำ้ , อำ่ งอำบนำ้ และสวน 30
สนกุ ทม่ี นี ำ้ ไดห้ รอื ไม?่
ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 แพรก่ ระจำยผำ่ นนำ้ ในสระวำ่ ยนำ้ แบบนำ้ เกลือได้ 30
หรือไม?่ 31
ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 แพรก่ ระจำยผำ่ นนำ้ ในทะเลสำบ, แมน่ ำ้ หรอื 31
มหำสมทุ รไดห้ รอื ไม?่
ตอ้ งสวมหนำ้ กำกผำ้ ในนำ้ หรอื ไม?่ 31
32
แสงยวู ใี นแสงอำทิตยฆ์ ่ำเชอื้ ตำมผิววตั ถทุ ี่ใชร้ ว่ มกนั หรอื ไม่?
ตอ้ งทำควำมสะอำดหรอื ฆำ่ เชอื้ ผิวหนำ้ วตั ถทุ ใ่ี ชร้ ว่ มกนั (เชน่ มือจบั ใน
หอ้ งนำ้ ) ในสระวำ่ ยนำ้ , อำ่ งนำ้ อนุ่ และสวนสนกุ ทมี่ นี ำ้ บอ่ ยเพียงใด?
วคั ซนี ปอ้ งกนั โควดิ -19 จะทำใหป้ ่วยเป็นโควิด-19 ไดห้ รือไม?่
หลงั จำกฉีดวคั ซีนแลว้ จะทำใหผ้ ลตรวจไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 เป็นบวกใช่
หรือไม?่
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 5 -
ยา หลงั จำกเป็นโควิด-19 และหำยป่วยแลว้ ยงั จำเป็นตอ้ งฉีดวคั ซนี ปอ้ งกนั โค 32
ยุคหลังวคั ซนี โควดิ -19 วดิ -19 หรือไม?่
กำรฉีดวคั ซนี ชว่ ยปอ้ งกนั ไมใ่ หป้ ่วยจำกโรคโควดิ -19 ใชห่ รอื ไม?่ 32
วคั ซีนโควดิ -19 จะไปเปล่ียนดีเอน็ เอของคนไดร้ บั วคั ซนี หรือไม?่ 33
ภมู คิ มุ้ กนั ทไ่ี ดจ้ ำกกำรติดเชอื้ ไวรสั ตำมธรรมชำติกบั ท่ีไดจ้ ำกกำรฉีดวคั ซนี โค 33
วิด-19 แบบใดอยไู่ ดน้ ำนกวำ่ กนั ?
มีอะไรเป็นส่วนประกอบในวคั ซีนบำ้ ง? 33
ใครจะไดร้ บั วคั ซนี กอ่ นหลงั ตำมลำดบั อยำ่ งไร? 34
ระหวำ่ งท่รี อรบั กำรฉีดวคั ซีน ตอ้ งปอ้ งกนั ตวั เองอยำ่ งไร? 34
จำเป็นตอ้ งฉีดวคั ซีนโควดิ -19 กคี่ รง้ั ? 35
หำกฉีดวคั ซีนครบ 2 โดสแลว้ ยงั ตอ้ งใสห่ นำ้ กำกและหลีกเล่ียงกำรใกลช้ ิด 35
อยหู่ รือไม?่
ฉีดวคั ซนี โควิด-19 พรอ้ มกบั วคั ซีนอืน่ ไดห้ รอื ไม?่ 35
หำกมีอำกำรป่วยอน่ื อยู่ จะสำมำรถฉีดวคั ซีนโควิด-19 ไดห้ รือไม?่ 35
มโี อกำสท่ีจะเกดิ อำกำรแพอ้ ยำ่ งรุนแรงจำกวคั ซนี โควดิ -19 ไดห้ รอื ไม?่ 36
มียำท่ใี ชร้ กั ษำโควิด-19 หรอื ไม?่ 36
ยำตระกลู คลอโรควนิ รกั ษำโควิด-19 ไดจ้ ริงหรอื ไม?่ 36
ใชย้ ำปฏิชวี นะปอ้ งกนั หรอื รกั ษำโรคโควดิ -19 ไดห้ รอื ไม?่ 37
หลงั จำกเริม่ ฉีดวคั ซนี ในประชำกรจำนวนมำก จะเป็นอยำ่ งไรตอ่ ไป? 37
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 6 -
ควำมร้พู นื้ ฐำน : โคโรนำไวรัสชนดิ ใหม่คืออะไร?
โคโรนำไวรสั (coronaviruses) คอื กลุ่มของไวรสั กลมุ่ หนึ่งท่มี สี ารพนั ธกุ รรมเป็น อารเ์ อน็ เอ (RNA viruses) ซึง่ พบว่า
กอ่ โรคได้ในสัตวป์ ีกและสตั วเ์ ล้ียงลกู ดว้ ยนมซงึ่ รวมทงั้ มนษุ ย์ โดยจะทาให้เกิดการตดิ เช้อื ในทางเดินหายใจ โดยอาจมอี าการ
เล็กน้อย เชน่ เป็นโรคหวัดธรรมดา (แตม่ ีไวรัสอื่นที่ทาให้เกดิ โรคหวดั ธรรมดาด้วย) ไปจนถึงทาใหเ้ สียชีวติ ได้ ได้แก่ พวกท่ี
ทาให้เกิดโรคซำร์ส (SARS) เมอรส์ (MERS) และโควดิ -19 (COVID-19)
ชื่อเรียก “โคโรนาไวรัสชนดิ ใหม่” เปน็ ชือ่ ทใี่ ชเ้ รยี กเช้ือไวรสั ที่ก่อโรคโควดิ -19 ขณะท่ียงั ไม่รู้รายละเอยี ดแน่ชดั
เกี่ยวกับมนั ภายหลงั เมอ่ื รวู้ ่าลักษณะพนั ธกุ รรมคล้ายคลงึ กับไวรสั ที่กอ่ โรคซาร์สจงึ ตงั้ ชือ่ ว่า ซำรส์ -โควี-2 (SARS-CoV-2)
ควำมร้พู ้นื ฐำน : ทำไมจงึ เรยี กว่ำ โควดิ -19?
ช่อื โควิด-19 เปน็ ช่อื อยา่ งเป็นทางการที่องค์กำรอนำมยั โลก (World Health Organization) ประกาศให้ใช้
เรยี กชอ่ื โรคทเี่ กดิ จากการระบาดของโคโรนาไวรสั ชนดิ ใหม่ ตัง้ แตว่ ันที่ 11 กมุ ภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เปน็ ตน้ มา ก่อน
หนา้ นั้นใชช้ ื่อเรยี กช่วั คราวว่า โคโรนำไวรสั ชนดิ ใหม่ 2019 (2019 novel coronavirus) หรอื 2019-nCoV
โควดิ -19 (COVID-19, Corona Virus Disease) เป็นโรคทีเ่ กดิ จากโคโรนาไวรัสและเร่ิมพบในปี ค.ศ.
2019 โคโรนาไวรสั ในมนุษย์มอี ยู่หลายชนดิ ซง่ึ กร็ วมท้งั บางชนิดท่ที าใหเ้ กดิ โรคในทางเดนิ หายใจส่วนบน โควดิ -19
เปน็ โรคใหมท่ เี่ กดิ จากเชอื้ โคโรนาไวรสั ชนิดใหม่ ซงึ่ ยงั ไมเ่ คยพบมากอ่ นในมนุษย์
ควำมรพู้ ื้นฐำน : โควิด-19 พบครัง้ แรกในประเทศจีนใชห่ รอื ไม?่
มรี ำยงำนกำรระบำดของโควดิ -19 อยำ่ งเป็นทำงกำร คร้ังแรกในวันที่ 31 ธนั วาคม ค.ศ. 2019 ในเมืองอฮู่ ่นั
ประเทศจนี ภำยหลงั ่จงึ พบวำ่ มผี ปู้ ่วยรำยหนงึ่ ตงั้ แตว่ นั ท่ี 1 ธันวำคม ค.ศ. 2019 แตบ่ คุ คลดงั กลำ่ วไมเ่ กีย่ วขอ้ ง
ใดๆ กบั ตลำดคำ้ สตั วเ์ มอื งอฮู่ ่นั 1 และมีอกี รำยหนงึ่ ท่ีตดิ เชอื้ ตง้ั แต่ 17 พฤศจกิ ำยน ค.ศ. 20192 คำดหมำยกนั วำ่
ผปู้ ่วยรำยแรกหรอื ผู้ป่ วยหมายเลขศูนย์ (patient zero) อำจเรม่ิ ตดิ เชอื้ ตงั้ แตเ่ ดอื นตลุ ำคม ค.ศ. 20193
นอกจำกนี้ ยงั มีกำรตรวจพบเชือ้ ไวรัสกอ่ โรคโควิด-19 ในนา้ เสียในสองเมอื งของอติ ำลี4 ตง้ั แตเ่ ดือนธันวำคม
ค.ศ. 2019 และตรวจพบแอนติบอดีตอ่ โคโรนาไวรัสในตัวอย่างเลือดทเี่ กบ็ จากชาวอติ าลี 23 คน ตงั้ แต่
เดือนกนั ยำยน ค.ศ. 20195 อีกดว้ ย
1 Science. doi:10.1126/science.abb0611. และ Lancet. 395 (10223): 470–473.
2 South China Morning Post. Archived from the original on 13 March 2020. Retrieved 16 March 2020.
3 "New coronavirus spread swiftly around world from late 2019, study finds". Reuters. Retrieved 10 September 2020.
4 https://www.bbc.com/news/world-europe-53106444
5 https://www.businessinsider.com/coronavirus-circulated-europe-china-before-wuhan-outbreak-2020-12
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 7 -
กำรแพร่กระจำย : ไวรัสชนดิ น้ีแพรก่ ระจำยอย่ำงไร?
สว่ นใหญแ่ ลว้ พบวำ่ ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 แพรก่ ระจำยระหวำ่ งคนทอ่ี ยใู่ กลช้ ิดกนั ในระยะรำว 6 ฟตุ หรือ 2 เมตร
(รำว 2 ชว่ งแขน) โดยผำ่ นทำงละอองฝอยทมี่ ีอนุภาคขนาดเลก็ เชน่ ในรูปของแอโรซอล (aerosol) ซง่ึ
เกิดขนึ้ ขณะผมู้ ีเชอื้ ในตวั ไอ จาม ร้องเพลง พดู คยุ หรือหายใจ
ไวรัสอาจเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจเขา้ ไป เช่อื กนั ว่านค่ี ือวิธกี ารหลกั ทเี่ ชอื้ เขา้ สรู่ ่างกาย แต่
ละอองฝอยอำจรว่ งหล่นบนพนื้ ผิววตั ถตุ ำ่ งๆ และจำกกำรสมั ผสั มือก็อาจเป็ นตวั กลางนาเชอื้ เข้าส่รู ่างกายผ่าน
ทางปาก, จมกู และตาไดเ้ ช่นกนั แตไ่ มน่ ำ่ จะเป็นทำงหลกั
มหี ลกั ฐำนเพ่มิ เตมิ มำกขนึ้ เรอ่ื ยๆ วำ่ อนภุ ำคขนำดเล็กทีผ่ ไู้ ดร้ บั เชอื้ ไอหรอื จำม อาจแขวนลอยอยูใ่ น
อากาศ และตดิ ต่อไปยังคนอืน่ ไดเ้ ชน่ กัน กำรเวน้ ระยะหำ่ งระหวำ่ งกนั จงึ มคี วำมสำคญั สถำนทใี่ นรม่ ทอี่ ำกำศ
ถำ่ ยเทไดไ้ มด่ ีจงึ เพม่ิ โอกำสเส่ียงที่จะติดเชอื้ ไดม้ ำกขนึ้
กำรแพร่กระจำย : อำกำศรอ้ นช่วยหยดุ ย้งั กำรแพรร่ ะบำดได้จรงิ หรือไม่?
ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ภูมิอากาศและอุณหภมู ิส่งผลต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยา่ งไรแน่ สำหรบั
ไวรสั อน่ื หลำยชนดิ เชน่ จำพวกที่กอ่ โรคหวดั ธรรมดำและไขห้ วดั ใหญ่ พบกำรระบำดมำกขนึ้ ในเดอื นท่มี ีอำกำศ
หนำวเยน็ แตก่ ็ไมไ่ ดห้ มำยควำมวำ่ เป็นไปไมไ่ ดท้ จ่ี ะป่วยจำกไวรสั พวกนใี้ นเดือนอ่นื ๆ คาตอบเร่ืองอากาศร้อน
จงึ ยงั ไมแ่ น่ชัดนัก ยงั ตอ้ งศกึ ษำเก่ียวกบั สมบตั ิตำ่ งๆ ของไวรสั กอ่ โรคนอี้ กี มำก ไมว่ ำ่ จะเป็นควำมสำมำรถใน
กำรตดิ ตอ่ หรือควำมรุนแรงของโรค ฯลฯ
กำรแพร่กระจำย : ยุงหรือเหบ็ หมดั นำเชอ้ื ไวรสั นี้ไดห้ รอื ไม?่
ขณะนยี้ งั ไมม่ ขี อ้ มลู ที่ชวี้ ำ่ ไวรสั ซำรส์ -โควี-2 หรอื โคโรนำไวรสั อนื่ ทค่ี ลำ้ ยคลงึ กนั แพรก่ ระจำยผ่ำนทำงยงุ หรอื
เหบ็ หมดั ได้ เทา่ ทมี่ ีขอ้ มูลอยู่ วิธกี ารตดิ ต่อของโรคโควิด-19 ยงั คงเป็ นแบบจากคนสูค่ นเทา่ น้ัน
กำรปอ้ งกนั ตัว : ตอ้ งปอ้ งกันตัวเองอยำ่ งไร?
มีวิธีกำรหลกั สำคญั อยสู่ ำมแบบทใ่ี ชล้ ดกำรแพรร่ ะบำดของโรคนไี้ ดค้ ือ
1. สวมหนำ้ กำกผำ้ หรอื หนำ้ กำกอนำมยั
2. อยหู่ ำ่ งจำกผอู้ ่ืน (ท่ไี มไ่ ดอ้ ยรู่ ว่ มกนั ในบำ้ นเดยี วกนั ) รำว 2 ชว่ งแขนขนึ้ ไป หลีกเล่ียงสถำนที่ผคู้ นแออดั หรืออยู่
รวมกนั เป็นจำนวนมำก ยิ่งเจอกบั คนมำกเทำ่ ไหร่ กย็ ิ่งเพม่ิ ควำมเส่ียงที่จะเจอกบั โรคโควิด-19 มำกขนึ้ เทำ่ นนั้
3. หม่นั ลำ้ งทำควำมสะอำดมือดว้ ยสบหู่ รอื เชด็ ดว้ ยแอลกอฮอล์ 70% ขนึ้ ไป
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 8 -
กำรปอ้ งกนั ตัว : กำรสวมหนำ้ กำกสำคญั อยำ่ งไร?
กำรสวมหนำ้ กำกในทส่ี ำธำรณะ เม่ือคนรอบๆ ตวั ไม่ใชส่ มาชิกในบ้าน มีความสาคัญเป็ นพเิ ศษในกรณที ่ี
การเว้นระยะหา่ งทาไดย้ าก เชน่ ในซเู ปอรม์ ำรเ์ กต, รำ้ นขำยยำ และรำ้ นคำ้ ตำ่ งๆ หนำ้ กำกชว่ ยลดกำร
แพรก่ ระจำยของไวรสั ได้ และชว่ ยใหค้ นท่ีติดไวรสั โดยไมร่ ูต้ วั ไมแ่ พรก่ ระจำยเชอื้ ใหแ้ กผ่ อู้ ืน่ และทสี่ ำคญั ทสี่ ุดคือ
ชว่ ยปกปอ้ งผสู้ วมใสด่ ว้ ย
ผู้ตดิ เชอื้ แตไ่ มม่ ีอาการกส็ ามารถแพรก่ ระจายไวรัสไดโ้ ดยไม่รูต้ ัว จงึ สำคญั ที่ทกุ คนตอ้ งพยำยำม
เวน้ ระยะหำ่ ง (อยหู่ ำ่ งจำกกนั อยำ่ งนอ้ ยสองชว่ งแขน) และสวมหนำ้ กำกในทสี่ ำธำรณะ หนำ้ กำกอนำมยั มีชน้ั วสั ดุ
พเิ ศษทช่ี ว่ ยปอ้ งกนั ไมใ่ หล้ ะอองฝอยออกสู่อำกำศ และในทำงกลบั กนั กช็ ว่ ยป้องกนั ละอองฝอยจำกส่ิงแวดลอ้ ม
ไมใ่ หเ้ ขำ้ สรู่ ำ่ งกำยดว้ ยเชน่ กนั แตไ่ มม่ คี วำมจำเป็นตอ้ งใชห้ นำ้ กำกผ่ำตดั หรอื หนำ้ กำกแบบ N-95 เสมอไป ในกรณี
ท่ีไมเ่ พียงพอหรือขำดแคลน อำจจำเป็นตอ้ งสำรองใหก้ บั บคุ ลำกรทำงกำรแพทยเ์ ป็นหลกั
กำรปอ้ งกันตัว : มีขอ้ ควรระวงั เกย่ี วกับหน้ำกำกอะไรบำ้ ง?
สำหรบั เด็กที่มีอำยุ 2 ปีขนึ้ ไปและผใู้ หญ่ควรสวมหนำ้ กำกในทสี่ ำธำรณะ แตใ่ นกรณีของเดก็ ทอี่ ายุน้อยกว่า 2
ปี หรือผูม้ ีปัญหาเร่ืองการหายใจ อาจมีปัญหาหากสวมหน้ากากเป็ นเวลานาน แมจ้ ะเวน้ ระยะหำ่ งแลว้ ก็
ตำม กำรสวมหนำ้ กำกกย็ งั เป็นเรอ่ื งจำเป็น โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ ในที่ปิดและมีคนอ่ืนนอกครอบครวั แวดลอ้ มอยู่
อย่าสวมหน้ากากไว้ทบี่ ริเวณคอหรือหน้าผาก และไม่สมั ผัสดา้ นนอกของหน้ากาก หำก
จำเป็นตอ้ งสมั ผสั ใหล้ ำ้ งมอื ดว้ ยสบหู่ รอื ยำฆำ่ เชอื้ หลงั กำรสมั ผสั กำรถอดหนำ้ กำกเมอ่ื กลบั ถงึ บำ้ น ใหส้ มั ผสั ท่ี
บริเวณสายคาดเทา่ นั้น พบั มมุ หนำ้ กำกเพ่ือใหด้ ำ้ นนอกปิดเขำ้ หำกนั
อย่าสัมผัสตา, จมูก หรือปาก หลงั จากถอดหน้ากาก และควรลา้ งมือทนั ทหี ลงั จากถอดหน้ากาก
หนำ้ กำกทสี่ กปรกหรือเปียก (เลอะเหง่ือหรอื นำ้ ลำย ฯลฯ) ควรเก็บไวใ้ นถงุ พลำสตกิ ท่รี ูดปิดได้ จนกวำ่ จะ
นำไปซกั ลำ้ ง พยำยำมนำไปทำควำมสะอำดใหเ้ ร็วทส่ี ุดเพอ่ื ไมใ่ หเ้ กดิ รำขนึ้ หน้ากากทเี่ ปี ยกจะมีประสทิ ธภิ าพ
ในการป้องกันไวรัสไดน้ ้อยลงกว่าหน้ากากแหง้ ๆ
กำรซกั ลำ้ งหนำ้ หนำ้ กำกชนิดทที่ ำควำมสะอำดได้ เชน่ หนำ้ กำกผำ้ (หน้ากากอนามัยไม่ควรซักล้าง
เพื่อนามาใชใ้ หม่ เพราะจะทาใหเ้ สยี ความสามารถในการป้องกันไวรสั ) สำมำรถใชส้ บหู่ รือผงซกั ฟอกให้
เหมำะสมกบั เนอื้ ผำ้ ได้ ส่วนกำรทำใหแ้ หง้ สำมำรถตำกแดดหรอื ใชเ้ ครอ่ื งอบได้ เมอื่ แหง้ แลว้ ควรเกบ็ ไวใ้ นถงุ
กระดำษ เพอ่ื รอนำกลบั มำใชใ้ หม่ และใสใ่ หถ้ กู ดำ้ นเหมอื นเดมิ ทกุ ครงั้
หากตอ้ งเกบ็ หนา้ กากช่ัวคราว เพ่ือดม่ื หรอื รบั ประทานอาหาร สามารถถอดเกบ็ ชั่วคราวในกระเป๋าหรอื
ถงุ กระดาษ ควรทาความสะอาดมือหลงั ถอดหน้ากากออก หลังจากดมื่ หรือรับประทานเสรจ็ แล้ว สวมหน้ากาก
อกี คร้งั ใหถ้ ูกด้าน แลว้ ล้างมืออกี คร้ังหลงั จากใสห่ นา้ กาก
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 9 -
กำรปอ้ งกนั ตัว : หำกตอ้ งไปรกั ษำตัวดว้ ยโรคอน่ื ทโ่ี รงพยำบำลชว่ งโควดิ -19 ระบำด จะปลอดภัยหรือไม?่
สำหรบั ผปู้ ่วยโรคอนื่ อยู่ นอกจำกปอ้ งกนั ตวั เองเบอื้ งตน้ โดยใสห่ นำ้ กำก, ลำ้ งมอื และเวน้ ระยะหำ่ ง มีขอ้ ควรปฏิบตั ิ
ดงั นีค้ อื ยงั คงตอ้ งดแู ลสุขภำพและกินยำท่ไี ดร้ บั ตอ่ ไป, ไมเ่ ปล่ยี นแปลงกำรรกั ษำโดยไมป่ รกึ ษำแพทย,์ ควรสำรอง
ยำท่จี ำเป็นใหเ้ พียงพออยำ่ งนอ้ ย 2 สปั ดำห์
ปรกึ ษำแพทยห์ ำกมอี ำกำรป่วย และหำกจำเป็นตอ้ งรบั กำรรกั ษำฉุกเฉิน ใหเ้ ขำ้ รบั กำรรกั ษำในทนั ที
สถำนพยำบำลและโรงพยำบำลจะมีมำตรกำรเพอ่ื ปอ้ งกนั คณุ จำกโรคโควิด-19 หำกเขำ้ รบั กำรรกั ษำ
กำรปอ้ งกนั ตวั : จะตดิ เชอ้ื จำกจดหมำยหรอื พสั ดภุ ัณฑไ์ ดห้ รอื ไม?่
แมว้ ำ่ กำรตดิ เชอื้ โคโรนำไวรสั สว่ นใหญจ่ ะเกิดขนึ้ ผ่ำนทำงกำรหำยใจเอำละอองฝอยเขำ้ ไป แตก่ ำรไดร้ บั เชือ้ จำก
มือทเ่ี ปื้อนกเ็ ป็นไปไดเ้ ชน่ กนั ไวรสั นอี้ ำจยงั ตกคำ้ งและออกฤทธิ์อยไู่ ดเ้ ป็นระยะเวลำสนั้ ๆ บนพนื้ ผิวส่ิงตำ่ งๆ มกี าร
ทดลองพบว่าโคโรนาไวรสั อาจอยไู่ ดบ้ นผิวกล่องกระดาษสง่ ของนาน 24 ช่วั โมงก่อนหมดฤทธ6ิ์ แมจ้ ะมี
โอกำสนอ้ ยท่จี ะตดิ ตอ่ ผ่ำนทำงจดหมำยหรอื พสั ดไุ ปรษณีย์ แตเ่ พ่อื เป็นกำรปอ้ งกนั ควรทำควำมสะอำดมือ
หลงั จำกสมั ผสั จดหมำยหรือพสั ดุ
กำรปอ้ งกนั ตัว : ยังบรจิ ำคเลอื ดไดห้ รอื ไม?่
ปกตแิ ลว้ มคี วำมจำเป็นตอ้ งใชเ้ ลือดจำกกำรบรจิ ำคอยอู่ ยำ่ งสมำ่ เสมอ กำรบริจำคเลือดยงั คงทำไดภ้ ำยใตก้ ำร
จดั กำรทเี่ หมำะสมของสถำนพยำบำลหรอื โรงพยำบำลท่เี ปิดรบั บรจิ ำคเลือด เชน่ จดั เกำ้ อหี้ รอื เตียงสำหรบั ผู้
บริจำคหำ่ งกนั กวำ่ ปกติ และทำควำมสะอำดอปุ กรณแ์ ละหอ้ งบริจำคเลือดบอ่ ยๆ
กำรปอ้ งกันตวั : คนท่สี วมคอนแทกต์เลนสต์ อ้ งระวงั อะไรเป็นพเิ ศษหรือไม่?
ขณะนีย้ งั ไม่มีหลกั ฐานใดทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ว่า ผู้สวมคอนแทกตเ์ ลนสม์ ีความเสย่ี งมากกว่าผู้สวมแว่นตา ผู้
สวมคอนแทกตเ์ ลนสค์ วรทำตำมมำตรฐำนควำมสะอำดของกำรใชค้ อนแทกตเ์ ลนส์ เพอ่ื ปอ้ งกนั กำรติดเชอื้ ใดๆ ก็
ตำมผำ่ นทำงเลนสเ์ หล่ำนี้ เชน่ ลำ้ งมอื ดว้ ยนำ้ นำ้ และสบกู่ อ่ นสวมคอนแทกตเ์ ลนส์
นำ้ ยำทำควำมสะอำดคอนแทกตเ์ ลนสท์ ่ีมีไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซดเ์ ป็นสว่ นประกอบ มปี ระสิทธิภำพ
ปอ้ งกนั ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ไดด้ ี แตน่ ้ายาเอนกประสงค์ (multipurpose solution) และกำรทำควำมสะอำด
ดว้ ยเครื่องอัลตราโซนิก ยงั ไมม่ ีหลกั ฐำนทำงวิทยำศำสตรว์ ำ่ มีประสิทธิภำพในกำรกำจดั ไวรสั นดี้ ีเพยี งใด
ผทู้ มี่ รี ำ่ งกำยแขง็ แรงเป็นปกตสิ ำมำรถสวมใส่คอนแทกตเ์ ลนสไ์ ดต้ ำมปกติ
6 https://www.webmd.com/lung/how-long-covid-19-lives-on-surfaces
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 10 -
กำรปอ้ งกันตัว : น้ำสบูห่ รอื แอลกอฮอล์ปอ้ งกันโควดิ -19 ได้หรือไม?่
การล้างมือเป็ นวิธกี ารทดี่ ที สี่ ดุ แบบหน่ึงในการป้องกันตวั เองและครอบครัวไม่ใหเ้ จบ็ ป่ วย ล้างมือด้วย
สบูอ่ ยา่ งทว่ั ถึงนานอยา่ งน้อย 20 วินาที โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ หลงั จำกไอจำม, ไปหอ้ งนำ้ , เตรียมอำหำรหรือกอ่ น
กนิ อำหำร หำกอยใู่ นสถำนกำรณท์ ี่ไมม่ ีหรอื ไมส่ ะดวกจะลำ้ งดว้ ยนำ้ และสบู่ อาจใชแ้ อลกอฮอล์ 70% แทนได้
กำรปอ้ งกนั ตวั : กำรทำควำมสะอำดพนื้ ผวิ และผลติ ภัณฑต์ ำ่ งๆ ควรทำอยำ่ งไร?
ควรทำควำมสะอำดพนื้ ผวิ ส่งิ ตำ่ งๆ เชน่ โต๊ะ, ลกู บดิ ประต,ู มือจบั , โทรศพั ท,์ คียบ์ อรด์ คอมพวิ เตอร,์ หอ้ งนำ้ ,
ผำ้ มำ่ น และอำ่ งลำ่ งหนำ้ ฯลฯ บอ่ ยๆ อาจใช้นา้ สบหู่ รือผงซกั ฟอก, นา้ ยาทาความสะอาดพนื้ ทวี่ ำงขำยท่วั ไป
กม็ ีประสทิ ธิภำพในกำรฆำ่ เชอื้ ไดด้ ี
หำกคนใกล้ชดิ ป่วย : ถำ้ ปว่ ยหรอื มคี นในบำ้ นป่วย ควรทำอย่ำงไร?
ในกรณีส่วนใหญแ่ ลว้ ผปู้ ่วยโควิด-19 จะสำมำรถรกั ษำตวั เองจนหำยป่วยไดท้ บี่ ำ้ น คำแนะนำกำรปฏิบตั ติ นคอื
หำกป่วย ใหห้ ยดุ อยบู่ ำ้ น นอกจำกกรณีมอี ำกำรหนกั ตอ้ งเขำ้ รบั กำรรกั ษำ
หำกทำได้ ใหแ้ ยกหอ้ งนอนและหอ้ งนำ้ ทสี่ มำชกิ ที่ป่วยใชต้ ำ่ งหำกจำกสมำชกิ อน่ื ในบำ้ น
สมำชกิ ในบำ้ นใหล้ ำ้ งมอื ดว้ ยนำ้ และสบบู่ อ่ ยๆ อยำ่ งนอ้ ยครงั้ ละ 20 วนิ ำที โดยเฉพำะหำกไอหรอื จำม ไป
หอ้ งนำ้ หรือระหวำ่ งกำรเตรียมอำหำร และกอ่ นกินอำหำร หำกหำนำ้ และสบไู่ มไ่ ด้ หรอื ไมส่ ะดวกจะใช้ ให้
ใชแ้ อลกอฮอล์ 70% ลำ้ งมือแทน
จดั หำหนำ้ กำกแบบใชค้ รงั้ เดยี วทงิ้ ใหผ้ ปู้ ่วยสวมใสข่ ณะรกั ษำตวั อยทู่ บ่ี ำ้ น เพอื่ ป้องกนั กำรแพรก่ ระจำย
เชอื้ ใหส้ มำชกิ คนอนื่ ในบำ้ น สมำชิกทกุ คนควรสวมหนำ้ กำกขณะอยทู่ บ่ี ำ้ น หนำ้ กำกชว่ ยปอ้ งกนั ผสู้ วมใส่
หรือชว่ ยปอ้ งกนั บคุ คลรอบๆ ตวั ในกรณีทผ่ี สู้ วมติดเชอื้ ไวรสั อยู่
ทำควำมสะอำดหอ้ งนอนและหอ้ งนำ้ ผปู้ ่วย เพอ่ื ปอ้ งกนั เชอื้ ติดตอ่ ไปยงั สมำชกิ คนอ่นื
อย่างไรกต็ าม หากมีอาการป่ วยต่างๆ ตามด้านลา่ งนี้ ตอ้ งรีบไปสถานพยาบาลเพ่อื รบั การรกั ษา
แบบฉุกเฉินในทนั ที โดยอำจโทรศพั ทแ์ จง้ ทำงโรงพยำบำล เพ่อื ใหส้ ง่ รถพยำบำลมำรบั จะไดล้ ดกำรแพรก่ ระจำย
เชอื้ สู่ผอู้ ่ืน
อำกำรป่วยตำ่ งๆ ท่ีควรเขำ้ รบั กำรรกั ษำแบบฉุกเฉินในทนั ทีประกอบดว้ ย
หำยใจลำบำก มอี ำกำรเจบ็ หรอื แนน่ หนำ้ อกอยตู่ ลอดเวลำ
มนึ งง, สบั สน, ลกุ ไมข่ นึ้
ริมฝีปำกหรอื ใบหนำ้ เปล่ียนเป็นสีคลำ้
* ทงั้ นี้ อำกำรที่ใหไ้ วน้ ี้ ไมใ่ ชอ่ ำกำรทงั้ หมดทอี่ ำจเกิดขนึ้ ในทำงกลบั กนั ก็ไมจ่ ำเป็นตอ้ งมีอำกำรเหลำ่ นที้ งั้ หมด จงึ
คอ่ ยเขำ้ รบั กำรรกั ษำฉกุ เฉิน
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 11 -
หำกคนใกลช้ ดิ ผปู้ ว่ ย : หำกสมั ผสั ใกล้ชดิ กับผปู้ ่วยโควดิ -19 ต้องทำอย่ำงไร?
ในกรณีท่พี บวำ่ ตวั เองสมั ผสั ใกลช้ ิดกบั ผทู้ ่ตี รวจพบวำ่ เป็นโควดิ -19 วธิ ีท่ดี ที ่สี ุดคอื กกั ตวั เองอยกู่ บั บำ้ น 14 วนั
หลีกเล่ียงผทู้ ่มี โี อกำสเสี่ยงสูงทจ่ี ะติดโรค ขณะเดยี วกนั กเ็ ฝำ้ ดอู ำกำรตนเองวำ่ มีไข้, ไอ, หำยใจลำบำก, สญู เสีย
กำรดมกล่ิน หรอื มอี ำกำรอน่ื ๆ ของโควิด-19 รว่ มดว้ ยหรอื ไม่
กำรดแู ลเดก็ และผ้สู ูงอำยุ : เดก็ ๆ มีควำมเสย่ี งที่จะปว่ ยจำกโควดิ -19 แคไ่ หน?
เดก็ ๆ ก็อำจตดิ เชอื้ โคโรนำไวรสั ทก่ี อ่ โรคโควิด-19 และป่วยไดเ้ ชน่ กนั ส่วนใหญแ่ ลว้ เด็กๆ จะมอี ำกำรป่วยไมร่ ุนแรง
หรอื แมแ้ ตไ่ มม่ อี ำกำรป่วยปรำกฏเลย (asymptomatic) มีเดก็ เพียงสว่ นน้อยทป่ี ่ วยจากโควิด-19 หากเทยี บกบั
ผู้ใหญ่
อย่างไรกต็ าม เดก็ ทปี่ ่ วยโรคอ่ืนอยู่และทารกอายนุ ้อยกว่า 1 ปี มีความเส่ยี งทจี่ ะป่ วยรุนแรงจาก
โควิด-19
นอกจำกนี้ ยงั มเี ด็กสว่ นหนง่ึ ทีเ่ มอ่ื ติดโรคโควดิ -19 แลว้ จะกลำยเป็นโรครำ้ ยแรงหำยยำกเรยี กวำ่ กลมุ่
อาการอักเสบหลายระบบ (multisystem inflammatory syndrome, MIS-C) ผปู้ ่วย MIS-C จะเกดิ กำรอกั เสบ
ของส่วนตำ่ งๆ ของรำ่ งกำย เชน่ หวั ใจ, ปอด, ไต, สมอง, ผิวหนงั , ตำ, หรอื อวยั วะในทำงเดินอำหำร ฯลฯ ยงั ไมร่ ู้
สำเหตแุ นช่ ดั วำ่ เหตใุ ดจงึ มอี ำกำรดงั กลำ่ ว และเดก็ ท่ีป่วยจำกโรคนมี้ กั จะมอี ำกำรไมส่ บำยมำกหรอื อำจเสียชวี ิตได้
กำรดแู ลเดก็ และผสู้ ูงอำยุ : เดก็ ๆ จำเป็นตอ้ งสวมหนำ้ กำกอนำมยั หรอื ไม?่
โดยท่วั ไปเดก็ อายุ 2 ขวบหรือมากกว่าน้ันควรสวมหน้ากาก หนำ้ กำกชว่ ยปอ้ งกนั ตวั คนสวมและคนรอบขำ้ ง
เมอื่ ไมร่ ูแ้ นว่ ำ่ มีกำรตดิ เชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 หรือไม่
อยำ่ งไรก็ตำม กำรสวมใส่หนำ้ กำกอำจไมส่ ะดวกสำหรบั บำงคนและบำงสถำนกำรณ์ หรืออำจจดั วำ่ เป็น
ควำมทำ้ ทำยสำหรบั เด็กจำนวนมำก เชน่ เด็กทที่ พุ พลภำพหรอื มีควำมผิดปกตบิ ำงอยำ่ งในดำ้ นกำรพฒั นำหรือ
พฤติกรรม เพรำะอำจเป็นอนั ตรำย เนอื่ งจำกใส่หรอื ถอดหนำ้ กำกเองไมไ่ ด้
กำรดแู ลเด็กและผ้สู งู อำยุ : เด็กๆ ออกไปเลน่ กบั เพอื่ นได้หรือไม?่
ยิ่งเดก็ ๆ เล่นกับเพอ่ื นจานวนมากเทา่ ใด และเล่นนานมากเทา่ ใด กย็ ่ิงเพม่ิ ความเส่ยี งทจี่ ะตดิ โรคโควิด-
19 มากขนึ้ เทา่ นั้น
ขณะทเ่ี ดก็ ใชเ้ วลำทส่ี ถำนรบั เลีย้ งเด็กหรอื โรงเรียน การลดจานวนคนทเ่ี ดก็ จะพบปะหรือเลน่ ดว้ ย
โดยเฉพำะคนท่ไี มใ่ ชส่ มำชกิ ในครอบครวั จะชว่ ยลดกำรตดิ เชอื้ หรอื แพรก่ ระจำยเชอื้ โคโรนำไวรสั ได้ เด็กทอี่ ำยเุ กิน
2 ปี ควรสวมหนำ้ กำกเพอื่ ลดควำมเสี่ยงเมือ่ อยใู่ นทสี่ ำธำรณะ โดยเฉพำะเมือ่ ไมส่ ำมำรถเวน้ ระยะหำ่ งได้
อย่างไรกต็ าม ควรสวมหน้ากากรว่ มกบั ทาตามมาตรการสาคัญอ่นื ๆ เช่น ลา้ งมือบ่อยๆ ด้วย
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 12 -
กำรดแู ลเด็กและผู้สงู อำยุ : เด็กๆ ใชเ้ วลำกับผู้สงู อำยุหรอื ผูม้ โี รคประจำตวั ได้หรือไม่?
ผสู้ งู อำยแุ ละผทู้ มี่ โี รคบำงอยำ่ งอยู่ ถือเป็นผมู้ คี วำมเส่ียงทจ่ี ะป่วยหนกั จำกโควิด-19 หำกเทยี บกบั คนทว่ั ไป คำวำ่
“ผสู้ งู อำย”ุ ในที่นี้ หมำยถงึ ผทู้ อ่ี ำยุ 60 ปี ขนึ้ ไป โดยผทู้ ม่ี ีอำยุ 85 ปีหรอื มำกกวำ่ จะมคี วำมเส่ียงสงู สุด (โดยเฉพำะ
ผทู้ ่มี ีโรคประจำตวั บำงอยำ่ ง) ตำมดว้ ยอำยรุ ะหวำ่ ง 70 ปี และ 60 ปี ตำมลำดบั
หำกอำศยั อยกู่ บั ผทู้ ่ีมีควำมเสี่ยงมำกเป็นพเิ ศษทจ่ี ะป่วยหนกั จำกโควิด-19 และมีเด็กในบำ้ นท่ีมกั เลน่ กบั เด็ก
อืน่ นอกบำ้ น (เชน่ ทโ่ี รงเรยี นหรือทอี่ น่ื ) ควรแยกเด็กออกจำกคนกลุม่ นี้
ควรพิจำรณำงดเวน้ หรอื เล่ือนกำรแวะเย่ยี มผสู้ งู อำยอุ อกไปกอ่ น หำกมคี วำมจำเป็น ควรเวน้ ระยะหำ่ ง
ระหวำ่ งเด็กๆ กบั ผสู้ ูงอำยุ และทกุ คนควรสวมหนำ้ กำกขณะไปเยย่ี ม
ตารางแสดงความเสย่ี งจะป่ วยหนักและเสียชวี ิต โดยเปรยี บเทยี บกบั กลมุ่ อายุ 18-29 ปี 7
ช่วงอายุ โอกาสจะป่ วย โอกาสจะเสียชวี ติ
18–29 ปี กลมุ่ ท่ีใชเ้ ปรยี บเทียบ กลมุ่ ท่ีใชเ้ ปรยี บเทียบ
30–39 ปี สงู เป็น 2 เท่ำ สงู เป็น 4 เทำ่
40–49 ปี สงู เป็น 3 เท่ำ สงู เป็น 10 เทำ่
50–64 ปี สงู เป็น 4 เท่ำ สงู เป็น 30 เท่ำ
65–74 ปี สงู เป็น 5 เท่ำ สงู เป็น 90 เท่ำ
75–84 ปี สงู เป็น 8 เทำ่ สงู เป็น 220 เทำ่
84 ปีขนึ้ ไป สงู เป็น 13 เท่ำ สงู เป็น 630 เทำ่
อำกำรปว่ ย : โควิด-19 ทำใหเ้ กดิ อำกำรอยำ่ งไรบำ้ ง?
ผู้ป่ วยเป็ นโรคโควิด-19 มีอาการทห่ี ลากหลาย โดยมกั ปรากฏอาการตงั้ แตว่ ันที่ 2–14 หลงั จาก
ได้รับเชือ้ ไวรัสเข้าสรู่ ่างกาย อำกำรทพี่ บบอ่ ยไดแ้ ก่
มไี ขห้ รือหนำวส่นั
ไอ, เจ็บคอ, มีนำ้ มกู
หำยใจตนื้ ๆ หรือหำยใจตดิ ขดั ลำบำก
เหน่อื ยลำ้ , ปวดเม่ือยกลำ้ มเนอื้ และรำ่ งกำย} อำจมอี ำกำรปวดหวั รว่ มดว้ ย
จมกู ไมร่ บั กลิ่นหรอื ลิน้ ไมร่ บั รส
อำหำรไมย่ อ่ ย, คล่ืนไส,้ อำเจยี น หรอื ทอ้ งเสีย
ทง้ั นี้ อาการทกี่ ลา่ วมาไม่ใช่อาการทง้ั หมดทพี่ บ แตเ่ ป็ นอาการป่ วยทพ่ี บได้บ่อย
7 https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/need-extra-precautions/older-adults.html#footnote01
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 13 -
อำกำรปว่ ย : เป็นไปได้หรือไมท่ จ่ี ะตดิ ไขห้ วดั ใหญ่และโควดิ -19 พรอ้ มกนั ?
เป็ นไปได้ทจี่ ะตดิ เชือ้ ไวรัสไขห้ วดั ใหญ่และไวรัสกอ่ โรคโควิด-19 ในเวลาเดียวกัน แตเ่ น่อื งจำกอำกำรป่วย
จำกไขห้ วดั ใหญแ่ ละโควดิ -19 มีลกั ษณะคลำ้ ยคลงึ กนั จงึ ยำกท่ีจะบอกควำมแตกตำ่ งไดจ้ ำกอำกำรเพยี งอยำ่ ง
เดียว จาเป็ นตอ้ งตรวจยนื ยันดว้ ยวิธกี ารในหอ้ งปฏบิ ตั ิการ
กำรปอ้ งกนั กำรตดิ เชอื้ ไวรสั ไขห้ วดั ใหญท่ ำไดโ้ ดยกำรฉีดวคั ซีนประจำปี แตว่ คั ซนี เหลำ่ นีไ้ มไ่ ดช้ ว่ ยปอ้ งกนั
กำรตดิ เชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19
กำรตรวจโรค : เปน็ ไปได้หรือไมท่ จี่ ะเกบ็ ตวั อยำ่ งและตรวจทบี่ ้ำน?
เป็ นไปได้ แตไ่ มแ่ นะนา เพรำะ (1) กำรเกบ็ ตวั อยำ่ งตอ้ งทำอยำ่ งถกู วธิ ี (2) ชดุ ตรวจทสี่ ่งั ตำมออนไลน์ อำจมีที่
ใชไ้ ดจ้ รงิ หรือของปลอม และ (3) ผลตรวจไมเ่ ทยี บเทำ่ กบั วธิ ีกำรตรวจมำตรฐำนในหอ้ งปฏิบตั ิกำร (วธิ ี RT-PCR)
สดุ ทำ้ ยก็ตอ้ งตรวจยนื ยนั อีกครง้ั อยดู่ ี
ในบำงประเทศ โดยเฉพำะประเทศท่ีมกี ำรระบำดอยำ่ งกวำ้ งขวำง เชน่ สหรฐั อเมรกิ ำ อำจอนญุ ำตใหใ้ ช้
ชดุ ตรวจสำเร็จรูป (test kit) ตรวจตวั เองที่บำ้ นได้ (อนญุ ำตโดยองคก์ ำรอำหำรและยำสหรฐั ตง้ั แตเ่ ดือน
พฤศจิกำยน ค.ศ. 2020)8 โดยซอื้ เองไดท้ เ่ี คำนเ์ ตอร์ ไมต่ อ้ งมใี บส่งั แพทย์
ชดุ ตรวจพวกนี้มกั ใช้ตวั อยา่ งสารคัดหล่ังจากจมูกในการตรวจ ปกตแิ ลว้ ผลตรวจท่ีเป็นลบจะ
หมำยควำมวำ่ อำกำรป่วยท่ีเป็นไมไ่ ดม้ ีสำเหตมุ ำจำกโรคโควดิ -19 แตก่ ม็ ีโอกำสท่จี ะไดผ้ ลลบลวง (false
negative) ไดใ้ นบำงกรณีเชน่ กนั ในทำงตรงกนั ขำ้ ม อำจมบี ำงกรณีท่ใี หผ้ ลบวกลวง (false positive) คอื ไมไ่ ดต้ ิด
เชือ้ ไวรสั แตผ่ ลตรวจแสดงวำ่ ตดิ เชอื้ ไดเ้ ชน่ กนั (แคส่ ว่ นนอ้ ย) ตอ้ งตรวจยนื ยนั ผลในหอ้ งปฏิบตั กิ ำรอีกครงั้
สำหรบั ประเทศไทย สำนกั งำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ (อย.) ออกคำเตอื น9 วำ่ ไมค่ วรหำซอื้ ชดุ ตรวจ
โควดิ แบบรวดเรว็ (rapid test) มำใช้ เพรำะเสี่ยงตอ่ กำรแปลผลทผ่ี ิดพลำด การตรวจแบบนี้มกั เป็ นการ
ตรวจหาภมู ิตา้ นทาน ไมใ่ ช่การตรวจหาเชือ้ ดงั นั้นหากเพงิ่ ไดร้ ับเชือ้ จะตรวจไม่พบ นอกจำกนี้ ยงั อำจทำ
ใหเ้ ขำ้ ใจผิดวำ่ ตวั ผตู้ รวจปลอดภยั จงึ อำจขำดควำมระมดั ระวงั หำกติดเชอื้ อยกู่ อ็ ำจแพรเ่ ชอื้ ใหผ้ อู้ น่ื ไดอ้ ีกดว้ ย
กำรตรวจโรค : จำเปน็ ตอ้ งตรวจกำรตดิ เชอ้ื แค่ไหน?
โดยท่วั ไปหากไม่มีอาการป่ วย ไมม่ ีความจาเป็ นต้องตรวจโควิด-19
แตใ่ นกรณที ่ีมีอำกำรป่วยและตอ้ งกำรตรวจ อำจทำไดเ้ ชน่ กนั แมว้ ำ่ คนสว่ นใหญ่ไมจ่ ำเป็นตอ้ งตรวจ
เพรำะมกั มอี ำกำรป่วยแคเ่ ล็กนอ้ ย และหำยไดเ้ องโดยไมต่ อ้ งเขำ้ รบั กำรรกั ษำ
8 https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/testing/at-home-testing.html -
9 https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/915950
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 14
กำรตรวจโรค : เม่อื ใดควรเข้ำรบั กำรตรวจโควดิ -19? และผลตรวจหมำยควำมว่ำอยำ่ งไร?
โดยท่วั ไปหำกมอี ำกำรคลำ้ ยคลงึ กบั โรคโควดิ -19 แตไ่ มม่ ีประวตั ิสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั ผปู้ ่วย หรอื อยใู่ นกลุ่มผมู้ คี วำม
เส่ียงต่ำ อำจใชว้ ธิ ีอยกู่ บั บำ้ นเพอื่ สงั เกตอำกำร
แตห่ ำกมอี ำกำรป่วยและมปี ระวตั ใิ กลช้ ิดกบั ผปู้ ่วยหรอื สถำนทซ่ี งึ่ ผปู้ ่วยเคยเดนิ ทำงไป อำจเขำ้ รบั กำร
ตรวจหำเชอื้ ไวรสั โดยเฉพำะหำกเป็นผทู้ อ่ี ยใู่ นกลุม่ เส่ียงจะป่วยหนกั คอื อำยมุ ำกหรือมโี รคประจำตวั บำงอยำ่ ง จะ
ไดร้ กั ษำอยำ่ งทนั ทว่ งที
อยำ่ งไรกต็ ำม หากผลตรวจจากหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเป็ นลบ กแ็ คห่ มายความว่าตวั อย่างทเี่ กบ็ ไปตรวจ
ในคราวนี้ไม่พบเชือ้ ซง่ึ อาจจะ (1) ไม่ได้ตดิ เชือ้ จริงๆ หรือ (2) ยังเพง่ิ ตดิ เชือ้ ระยะตน้ จึงมีไวรัสไม่มาก
พอจะตรวจพบ นอกจำกนี้ หลงั จำกตรวจแลว้ คณุ กย็ งั มโี อกำสตดิ เชอื้ และแพรเ่ ชอื้ ไดต้ ลอดเวลำเชน่ เดิม
หำกปรำกฏอำกำรป่วยขนึ้ อกี ในภำยหลงั จงึ ควรตรวจอีกครงั้
กำรตรวจโรค : ตรวจกำรตดิ เชื้อในอดตี (ตรวจแอนตบิ อด)ี ได้อยำ่ งไร? ผลกำรตรวจหมำยควำมว่ำอยำ่ งไร?
หอ้ งปฏิบตั ิกำรจำเพำะสำมำรถตรวจแอนติบอดี (ภมู ิตำ้ นทำนท่ีรำ่ งกำยสรำ้ งขนึ้ ) ตอ่ โควดิ -19 ได้ ชดุ ตรวจ
สำเรจ็ รูปทมี่ ีหลำยบริษัทวำงขำยก็มกั เป็นกำรตรวจหำแอนตบิ อดแี บบนี้
ผลบวกหมำยควำมวำ่ รำ่ งกำยของคณุ มีแอนตบิ อดี เพรำะมีกำรติดเชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 แลว้ กอ่ น
หนำ้ นน้ั อย่างไรกต็ าม บางคร้ังการตรวจแบบนี้ก็อาจใหผ้ ลทกี่ ากวม เพราะอาจใหผ้ ลตรวจเป็ นบวกจาก
การทค่ี ุณติดเชอื้ ในกลมุ่ โคโรนาไวรัสตวั อน่ื (เช่น ไวรัสทกี่ อ่ โรคหวัดธรรมดา) แตช่ ดุ ตรวจไมอ่ ำจแยกควำม
แตกตำ่ งระหวำ่ งไวรสั ชนิดดงั กลำ่ วออกจำกไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ได้
ปกติแลว้ แอนติบอดีทเ่ี กิดขนึ้ อยำ่ งจำเพำะจะชว่ ยปกปอ้ งคณุ จำกกำรตดิ เชือ้ ไวรสั เดิมอีกครง้ั แต่ยงั ไม่มี
ข้อมูลยนื ยันว่าแอนติบอดตี ่อโควดิ -19 ชว่ ยป้องกนั การตดิ เชือ้ ซา้ ไดด้ เี พยี งใดและยาวนานแค่ไหน มี
รำยงำนกำรตดิ เชอื้ ซำ้ อยบู่ ำ้ ง แตพ่ บนอ้ ยมำก
ในกรณีทผี่ ลตรวจแอนตบิ อดเี ป็นลบ โดยท่วั ไปหมำยควำมวำ่ คณุ ไมเ่ คยติดเชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 แต่
อำจมกี รณีผลลบลวง (false negative) ทค่ี ณุ มแี อนติบอดี แตผ่ ลตรวจคลำดเคล่ือนจงึ ไมพ่ บ กรณีนพี้ บนอ้ ย
แตไ่ มว่ ำ่ ผลตรวจจะเป็นบวกหรอื ลบกต็ ำม ผลตรวจไมอ่ ำจใชย้ นื ยนั วำ่ คณุ สำมำรถแพรเ่ ชอื้ ไวรสั นไี้ ด้
หรือไม่ ซงึ่ ในกรณีนหี้ ำกตอ้ งกำรรู้ จำเป็นตอ้ งตรวจตรวจแอนติเจน (antigen) ซง่ึ กค็ ือ ตวั ไวรสั จงึ จะทรำบได้
วธิ ีกำรตรวจทใี่ ชใ้ นหอ้ งปฏบิ ตั ิกำรท่วั โลกเป็นมำตรฐำนเดียวกนั เรยี กวำ่ วธิ ีอำรท์ -ี พซี ีอำร์ (RT-PCR) มำจำกคำ
เต็มวำ่ รีเวริ ส์ ทรำนสครปิ ชนั -โพลีเมอเรสเชนรแี อก็ ชนั (Reverse Trasnscription-Polymerase Chain Reaction)
กำรทำรเี วิรส์ ทรำนสครปิ ชนั เป็นกระบวนกำรแปลงขอ้ มลู ของสำรพนั ธุกรรมในไวรสั ท่ีเป็นอำรเ์ อ็นเอ ให้
เป็นดีเอน็ เอ กอ่ นจะนำมำเพ่ิมจำนวนดเี อ็นเอดว้ ยกระบวนกำรลูกโซโ่ พลเี มอเรสหรอื polymerase chain reaction
ใหม้ ำกพอทจ่ี ะตรวจสอบได้
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 15 -
กำรตรวจโรค : เปน็ ไปไดห้ รือไมท่ ่ีจะตรวจไวรสั ไม่พบ แลว้ ตอ่ มำภำยหลงั ตรวจพบไวรสั ?
เป็ นไปได้ ผลตรวจตวั อยำ่ งทีเ่ กบ็ มำครงั้ แรก (ขณะเพงิ่ เร่มิ ตดิ เชอื้ ) อำจใหผ้ ลเป็นลบ ขณะทเี่ ม่อื ผำ่ นไปไมน่ ำนผล
ตรวจอีกครง้ั กลบั เป็นบวกและมอี ำกำรป่วย กรณีนอี้ ำจจะเน่ืองมำจำกมไี วรสั ไมม่ ำกพอทว่ี ธิ ีกำรตรวจจะตรวจพบ
ได้ ส่วนอกี กรณีหนง่ึ คอื ในกำรตรวจครงั้ แรกยงั ไมม่ กี ำรติดเชอื้ แตม่ ำติดเชอื้ ในภำยหลงั
ดังนั้นแมผ้ ลตรวจไวรัสเป็ นลบ ก็จาเป็ นตอ้ งทาตามมาตรการป้องกนั ตวั เองและผู้อืน่ ตามปกติ
ผูเ้ ส่ยี งปว่ ยหนกั : ใครบำ้ งทเี่ ส่ยี งจะป่วยหนกั จำกโควดิ -19?
ผทู้ ม่ี ีควำมเสี่ยงทจี่ ะป่วยหนกั มำกเป็นพเิ ศษจำกโควิด-19 ประกอบดว้ ย
ผสู้ งู อำยุ
ผทู้ ม่ี ีโรคประจำตวั บำงอยำ่ ง
คนตง้ั ครรภ์
ขอ้ มลู ที่รวบรวมจนถงึ วนั ที่ 23 ธนั วำคม ค.ศ. 2020 ระบวุ ำ่ 10 มีหลกั ฐำนวำ่ โรคหรือพฤติกรรมตอ่ ไปนี้ มี
ควำมเส่ียงท่ีจะป่วยหนกั กวำ่ คนท่วั ไป แมว้ ำ่ อำจจะรวบรวมไมไ่ ดค้ รบถว้ นทง้ั หมด (ไมร่ วมโรคหรอื อำกำรป่วยทห่ี ำ
ยำกหลำยชนิด และอำจมกี ำรเปล่ียนแปลงเม่อื มขี อ้ มลู เพ่มิ มำกขนึ้ )
โรคมะเร็ง
โรคไตเรอื้ รงั
โรคอดุ กน้ั กำรไหลเวยี นของปอดเรอื้ รงั (COPD, Chronic Obstructive Pulmonary Disease)
ดำวนซ์ ินโดรม
โรคหวั ใจ, โรคหลอดเลือดหวั ใจ, โรคกลำ้ มเนอื้ หวั ใจ
มภี ำวะภมู ิคมุ้ กนั ตำ่ จำกกำรปลูกถำ่ ยอวยั วะ
โรคอว้ น (มีดชั นีมวลกำย (BMI) 30 kg/m2หรือสงู กวำ่ แตน่ อ้ ยกวำ่ 40 kg/m2)
โรคอว้ นอยำ่ งมำก (BMI มำกกวำ่ หรอื เทำ่ กบั 40 kg/m2)
โรคเซลลร์ ูปเคยี ว (sickle cell disease)
โรคหืดหอบ
โรคเบำหวำน ประเภทท่ี 2
ผสู้ บู บหุ รี่
10 https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/need-extra-precautions/people-with-medical-
conditions.html?CDC_AA_refVal=https%3A%2F%2Fwww.cdc.gov%2Fcoronavirus%2F2019-ncov%2Fneed-extra-
precautions%2Fgroups-at-higher-risk.html
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 16 -
ผู้เสี่ยงปว่ ยหนกั : ควรงดยำใดบ้ำงหรอื ไม่ หำกปว่ ยโควดิ -19?
จนถงึ ปัจจบุ นั ยงั ไมม่ ีหลกั ฐำนวำ่ มยี ำชนิดใด (เชน่ ยำลดควำมดนั หรือยำแกอ้ กั เสบ) ทำใหม้ ีอำกำรป่วยเพ่ิมขนึ้
จำกโควดิ -19 แตอ่ ยำ่ งใด จงึ ควรกนิ ยำทใี่ ชร้ กั ษำอยเู่ ดมิ ตอ่ ไป
ผูเ้ สยี่ งป่วยหนกั : ผทู้ พุ พลภำพมีควำมเสย่ี งมำกกว่ำคนทั่วไปหรือไม?่
เฉพำะผทู้ พุ พลภำพที่เป็นผใู้ หญ่มแี นวโนม้ จะเกิดควำมเสี่ยงป่วยหนกั จำกโควิด-19 มำกกวำ่ คนท่วั ไป เฉพำะใน
รำยทีม่ ีโรคประจำตวั รว่ มดว้ ย เชน่ โรคหวั ใจ, โรคเบำหวำน, โรคไตเรอื้ รงั , โรคมะเรง็ , โรคควำมดนั โลหติ สูง และโรค
อว้ น (อำจมีโรคอ่ืนเพ่มิ เติมอีก เม่อื ไดข้ อ้ มลู เพิ่มเติมมำกขนึ้ )
นอกจำกนี้ ยงั อำจมีปัญหำควำมยงุ่ ยำกในกำรเวน้ ระยะหำ่ ง, สวมหนำ้ กำก และลำ้ งมือ อกี ดว้ ย
ผปู้ ่วยภูมแิ พต้ ำมฤดกู ำล : ผู้ป่วยโควดิ -19 กับปว่ ยภมู ิแพต้ ำมฤดูกำล มอี ำกำรแตกต่ำงกนั อยำ่ งไร?
โรคโควดิ -19 เป็นโรคติดตอ่ ของระบบทำงเดินหำยใจ ทเี่ กดิ จำกกำรตดิ เชอื้ โคโรนำไวรสั ชนิดใหม่ (ซำรส์ -โควี-2)
ขณะทอี่ ำกำรภมู แิ พต้ ำมฤดกู ำลเกดิ จำกละอองเรณทู ี่ปลิวมำในอำกำศ จนเกดิ อำกำรแพเ้ ยื่อบจุ มกู อกั เสบ, โพรง
จมกู อกั เสบ (ไซนสั อกั เสบ) และเยอื่ ตำอกั เสบ
สองโรคนมี้ ีลกั ษณะอำกำรบำงอยำ่ งที่คลำ้ ยคลงึ กนั แตก่ ม็ ีลกั ษณะหลกั ๆ บำงอยำ่ งทแ่ี ตกตำ่ งกนั เชน่
โควดิ -19 ทำใหเ้ กดิ ไข้ ซงึ่ ไมพ่ บบอ่ ยนกั ในผเู้ ป็นภูมแิ พต้ ำมฤดกู ำล ตำมรูปดำ้ นลำ่ งนี้
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 17 -
ผปู้ ่วยภมู ิแพ้ตำมฤดูกำล : กำรปว่ ยภูมิแพต้ ำมฤดกู ำล เพิม่ ควำมเสยี่ งที่จะป่วยโควดิ -19 หรอื ไม่? และ
หำกตดิ โควดิ -19 จะทำใหม้ อี ำกำรหนกั ข้นึ หรอื ไม?่
ยงั ไมม่ ีขอ้ มลู ทำงวทิ ยำศำสตรม์ ำกพอยืนยนั ไดว้ ำ่ กำรเป็นโรคภมู แิ พต้ ำมฤดกู ำลจะทำใหเ้ สี่ยงติดโรคโควดิ -19
ง่ำยขนึ้ หรอื ทำใหเ้ มือ่ ตดิ แลว้ มอี ำกำรหนกั กวำ่ คนท่วั ไป เทำ่ ทรี่ ูค้ ือ ผสู้ งู อำยแุ ละผมู้ โี รคประจำตวั บำงอยำ่ ง เชน่
โรคเบำหวำน, โรคอว้ น, โรคหวั ใจ หรอื โรคปอด มีควำมเส่ียงทจี่ ะป่วยหนกั กวำ่ คนท่วั ไปหำกป่วยเป็นโรคโควดิ -19
ผู้ป่วยภูมิแพ้ตำมฤดูกำล : กำรสวมหนำ้ กำกอนำมยั จะทำใหล้ ดอำกำรภมู แิ พต้ ำมฤดกู ำลไดห้ รอื ไม่?
นอกจำกหนำ้ กำกชว่ ยปอ้ งกนั ไมใ่ หต้ ดิ โควิด-19 ไดง้ ่ำยแลว้ ยงั ชว่ ยลดอำกำรภูมิแพต้ ำมฤดกู ำลไดด้ ว้ ย เนือ่ งจำก
ปกปอ้ งไมใ่ หเ้ รำหำยใจเอำอนภุ ำคขนำดใหญ่ท่เี ป็นสำเหตขุ องโรคภูมิแพต้ ำมฤดกู ำล เชน่ ละอองเรณตู ำ่ งๆ เขำ้ ไป
แตส่ ำหรบั อนภุ ำคขนำดเล็กกวำ่ ก็ยงั อำจลอยผำ่ นหนำ้ กำกเขำ้ ไปไดอ้ ยู่
วธิ ีกำรปอ้ งกนั กำรเป็นภูมแิ พต้ ำมฤดกู ำลทดี่ ที สี่ ุดคือ ลดกำรตอ้ งพบเจอละอองเรณรู ะหวำ่ งท่มี ลี ะอองเรณู
ในอำกำศมำก โดย
ลดกำรออกส่ทู ี่แจง้ และอยใู่ นท่รี ม่ ซงึ่ มอี ำกำศบรสิ ทุ ธิ์
ใชเ้ ครอ่ื งฟอกอำกำศในบำ้ น โดยปิดประตแู ละหนำ้ ตำ่ งใหม้ ิดชดิ หำกมปี ัญหำรำคำแพงสำมำรถเลือกทำเอง
ตำมวิธีกำรแบบ DIY ได1้ 1
รกั ษำอณุ หภมู หิ อ้ งใหเ้ หมำะสม โดยเปิดเคร่ืองปรบั อำกำศ, พดั ลม หรือเครอ่ื งทำควำมรอ้ น
หำกจำเป็นตอ้ งออกกลำงแจง้ ใหห้ ลีกเลี่ยงกิจกรรมทอี่ ำจทำใหล้ ะอองเรณฟู งุ้ กระจำยมำกขนึ้ เชน่ กำรตดั
ตน้ ไมห้ รอื กำรตดั หญำ้ และเม่อื กลบั เขำ้ ทีร่ ม่ ใหอ้ ำบนำ้ และเปล่ียนเสือ้ ผำ้ ทนั ที
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรตดิ เช้ือ : กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรติดเชือ้ (contact tracing) คืออะไร?
กำรติดตำมเสน้ ทำงกำรติดเชอื้ ทำเพือ่ ลดหรอื หยดุ กำรแพรก่ ระจำยของโรคติดตอ่ ซงึ่ ทำใหโ้ ควิด-19 กระจำย
นอ้ ยลงหรอื ชำ้ ลง ทง้ั นอี้ ำจแบง่ กลุ่มครำ่ วๆ ไดเ้ ป็น (1) ผู้ตดิ เชอื้ (2) ผู้สมั ผัสใกล้ชดิ กบั ผ้ตู ดิ เชอื้ และ (3) ผู้ที่
เคยอยู่ในบรเิ วณเดยี วกบั ผู้ตดิ เชอื้
แจง้ กบั ผทู้ อี่ ำจตดิ โควดิ -19 เพอื่ ใหต้ ดิ ตำมอำกำรป่วย
ชว่ ยเหลือนำผเู้ ส่ียงตดิ เชอื้ (ผสู้ มั ผสั ใกลช้ ดิ กบั ผตู้ ดิ เชอื้ ) มำตรวจสอบ เพรำะอำจไมร่ ูว้ ำ่ ตนเองเสี่ยงตดิ เชอื้
ทำใหส้ ำมำรถติดตอ่ ขอใหผ้ มู้ คี วำมเสี่ยง ไมว่ ำ่ จะเสี่ยงสูง (เพรำะอำจเคยสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั ผตู้ ดิ เชอื้ ) หรอื เสี่ยง
ต่ำ (เคยอยใู่ นบรเิ วณเดยี วกบั ผตู้ ดิ เชอื้ ) ใหก้ กั ตวั อยกู่ บั บำ้ นได้
11 ลองทำตำมวธิ ีกำรในวดิ ีโอนี้ https://www.youtube.com/watch?v=ukyF2xm8cws&feature=youtu.be
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 18 -
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรติดเชอื้ : ระหวำ่ งกำรตรวจสอบ จะเกิดอะไรขึ้นกบั ข้อมูลส่วนตวั บำ้ ง?
ขอ้ มูลสว่ นบุคคลทพ่ี ูดคยุ กบั เจ้าหน้าทถ่ี อื เป็ นความลบั ขอ้ มลู ทเ่ี ผยแพรไ่ ดจ้ ะเป็นขอ้ มลู ท่ีจำเป็นตอ่ กำร
ปอ้ งกนั กำรระบำด และขอ้ มลู เพอ่ื กำรรกั ษำตวั คณุ เทำ่ นนั้ ชอ่ื ของคณุ และผสู้ มั ผสั ใกลช้ ิดทง้ั หมดจะไมม่ กี ำร
เผยแพร่ และผสู้ มั ผสั ใกลช้ ิดทงั้ หมดจะไดร้ บั กำรติดตอ่ เพอื่ แจง้ ควำมเส่ียง เพอ่ื ใหป้ ฏิบตั ิตนตำมมำตรกำรที่
เหมำะสมตอ่ ไป
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรติดเช้อื : หำกผลตรวจพบวำ่ ติดเชือ้ จะตอ้ งทำอยำ่ งไรบำ้ ง?
หำกผลตรวจในหอ้ งปฏิบตั กิ ำรแสดงวำ่ มกี ำรตดิ เชอื้ จะไดร้ บั แจง้ ผลกำรตรวจจำกเจำ้ หนำ้ ทดี่ ำ้ นสำธำรณสขุ และ
จะตอ้ งมีการกักกันตนทนั ที ในบำงประเทศทีม่ ผี ตู้ ดิ เชอื้ จำนวนมำก (เชน่ ประเทศสหรฐั อเมริกำ) อำจแนะนำให้
กกั ตวั ทบ่ี ำ้ น เพรำะผตู้ ดิ เชอื้ รำว 80% ไมแ่ สดงอำกำรป่วยหรอื แสดงอำกำรป่วยนอ้ ยมำก เฉพำะผปู้ ่วยทมี่ อี ำกำร
หนกั จงึ รบั เขำ้ ส่สู ถำนพยำบำลตอ่ ไป
แตใ่ นบางประเทศ (เชน่ ประเทศไทย) อาจจดั สถานทจี่ าเพาะ เช่น โรงพยาบาลสนาม ไว้เพ่อื
รองรับผู้ตดิ เชือ้
ทง้ั นี้ เจำ้ หนำ้ ทด่ี ำ้ นสำธำรณสขุ (และอำจรว่ มดว้ ยเจำ้ หนำ้ ท่ีบรหิ ำรงำนส่วนทอ้ งถิน่ ) จะสมั ภำษณเ์ พ่อื
สอบสวนเสน้ ทำงกำรติดเชอื้ เพอ่ื จะไดต้ ิดตำมผตู้ ดิ เชอื้ รำยอ่ืนหรอื ผสู้ มั ผสั ใกลช้ ดิ มำตรวจสอบตอ่ ไป รวมไปถงึ กำร
แจง้ บรเิ วณพนื้ ทซ่ี งึ่ เคยไปเพื่อเป็นขอ้ มลู สำหรบั คนในวงกวำ้ ง เพื่อใหส้ ำมำรถตรวจสอบควำมเสี่ยงในกำรติดเชอื้
ของตนเองได้
มำตรกำรเหล่ำนชี้ ว่ ยใหป้ อ้ งกนั กำรแพรร่ ะบำดในวงกวำ้ งไดอ้ ยำ่ งมปี ระสิทธิภำพย่งิ ขนึ้
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรตดิ เช้อื : ใครบ้ำงทถ่ี อื เป็นผู้สมั ผัสใกลช้ ิด (close contact) กบั ผู้ปว่ ยโควิด-19?
ในทำงวชิ ำกำร ผทู้ ่ีอยใู่ กลช้ ดิ กบั ผตู้ ิดเชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 ในระยะไมถ่ งึ 2 เมตร นำน 15 นำทขี นึ้ ไป ถอื วำ่ เป็น
ผสู้ มั ผสั ใกลช้ ิด
ผู้ทต่ี ิดเชือ้ สามารถแพรก่ ระจายไวรัสได้ใน 48 ช่ัวโมงหรือ 2 วัน ก่อนทจ่ี ะเกดิ อาการป่ วยหรือ
ตรวจสอบพบว่ามีเชอื้ ไวรัสในตวั
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรตดิ เชื้อ : หำกขณะนนั้ ใสห่ นำ้ กำก จะถือว่ำเป็นผู้สัมผัสใกล้ชดิ หรอื ไม่?
ถอื ว่าเป็ นผู้สมั ผัสใกล้ชดิ ด้วยเช่นกนั แม้ว่าจะสวมหน้ากากในขณะทอ่ี ยูใ่ กล้กบั ผตู้ ดิ เชือ้ ไวรัสก่อโรคโค
วิด-19 กต็ าม อยำ่ งไรก็ตำม หนำ้ กำกชว่ ยปอ้ งกนั ตวั ผสู้ วมใสไ่ ดใ้ นระดบั หนง่ึ จงึ มีโอกำสทจ่ี ะไมต่ ดิ เชอื้ ตำมไป
ดว้ ย
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 19 -
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรตดิ เช้ือ : หำกเป็นผสู้ ัมผสั ใกลช้ ดิ จะต้องตรวจโรคโควิด-19 หรอื ไม่?
หำกเป็นผสู้ มั ผสั ใกลช้ ดิ กบั ผตู้ ิดเชอื้ ควรตรวจสอบดว้ ยว่าตดิ เชอื้ หรือไม่ แม้ว่าจะไม่มีอาการป่ วยโควิด-19 ก็
ตาม โดยระหวำ่ งนน้ั ใหก้ กั ตวั เองนำน 14 วนั และตรวจสอบตนเองวำ่ มอี ำกำรป่วยโควดิ -19 หรอื ไม่ เพอ่ื ปอ้ งกนั
ครอบครวั และเพอ่ื นหรอื เพอ่ื นรว่ มงำน รวมทง้ั ผอู้ ่ืนจำกโอกำสทจี่ ะตดิ เชอื้
หากผลตรวจพบว่าตดิ เชือ้ ไวรสั ควรจะกกั ตวั เองและแยกตวั จำกสมำชกิ คนอน่ื ๆ ในบำ้ น หำกมอี ำกำร
หนกั ขนึ้ จงึ เขำ้ รบั กำรรกั ษำในสถำนพยำบำลตอ่ ไป โดยเฉพำะหำกมอี ำกำรหำยใจลำบำก, แนน่ หนำ้ อก, มอี ำกำร
มนึ งง หรอื ริมฝีปำกและใบหนำ้ เป็นสีคลำ้
หากผลตรวจเป็ นลบและไมม่ ีอาการป่ วยใดๆ ใหก้ กั ตวั จนครบ 14 วนั เพรำะเป็นไปไดเ้ ชน่ กนั ท่ีจะมี
อำกำรปรำกฏชำ้ แตไ่ มจ่ ำเป็นตอ้ งตรวจซำ้ ยกเวน้ แตจ่ ะมีอำกำรป่วย
หากผลตรวจเป็ นลบแตม่ ีอาการป่ วย ควรจะกกั ตวั เองนำน 14 วนั หลงั จำกวนั ทอี่ ยใู่ กลช้ ิดกบั ผปู้ ่วย
หำกอำกำรแยล่ งอำจตอ้ งเขำ้ รบั กำรรกั ษำหรอื ตรวจซำ้ เพือ่ ยนื ยนั
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรตดิ เชือ้ : หำกเคยอยใู่ นบริเวณใกลเ้ คยี งกบั ผตู้ ิดเชอื้ อยู่ จะตอ้ งทำอยำ่ งไรบำ้ ง?
หำกไดร้ บั กำรตดิ ตอ่ จำกเจำ้ หนำ้ ทสี่ ำธำรณสขุ หรอื ทรำบจำกขำ่ ววำ่ เคยอยใู่ นบรเิ วณใกลเ้ คยี งกบั ทผี่ ตู้ ิดเชอื้ เคยอยู่
ในเวลำใกลเ้ คียงกนั วิธกี ารทดี่ ีทสี่ ดุ คอื กกั ตัวอยู่ทบี่ า้ นนาน 14 วัน เพ่ือสงั เกตอาการ ใหพ้ ยำยำมสวม
หนำ้ กำกแมอ้ ยใู่ นบำ้ น และแยกตวั จำกคนอน่ื ในบำ้ นหรอื สตั วเ์ ลีย้ ง
ปกติหำกมีกำรตดิ เชอื้ จะมีอำกำรป่วยแสดงออกมำในเวลำ 2-14 วนั ใหห้ ลงั หำกมีอำกำรป่วยใหแ้ จง้
เจำ้ หนำ้ ท่สี ำธำรณสุขและคนใกลช้ ิด หำกมอี ำกำรหนกั ขนึ้ ใหเ้ ขำ้ รกั ษำตวั ในสถำนพยำบำล
อยำ่ งไรก็ตำม แม้ผลตรวจในหอ้ งปฏิบตั ิการออกมาเป็ นลบ (ไม่ตดิ เชือ้ ) กย็ ังควรจะกกั ตวั เองนาน
14 วัน หลงั จำกวนั ท่เี กดิ ควำมเสี่ยงอยดู่ ี ระยะเวลำ 14 วนั คือระยะเวลำทผี่ ตู้ ิดเชอื้ แสดงอำกำรป่วยโควิด-19
ดังน้ันการไดผ้ ลตรวจเป็ นลบจึงไมไ่ ด้ตดั ความเป็ นไปไดท้ จี่ ะติดเชอื้ ออกไปอย่างสิน้ เชงิ
นอกจำกนี้ ผปู้ ่วยโรคโควดิ -19 ยงั อำจแพรก่ ระจำยไวรสั ได้ แมว้ ำ่ จะไมม่ อี ำกำรใดๆ เลยกต็ ำมอกี ดว้ ย
กำรตรวจสอบเสน้ ทำงกำรตดิ เชอื้ : จำเปน็ ตอ้ งดำวนโ์ หลดแอปตดิ ตำมกำรตดิ เช้ือลงไว้ในมอื ถือหรือไม่?
แอปพลิเคชนั ตำ่ งๆ ทอี่ อกแบบมำใชต้ ิดตำมกำรติดเชอื้ มปี ระโยชนใ์ นการสอบสวนเส้นทางการติดเชือ้ และ
ใช้แจ้งเตอื นผู้ใช้งานถงึ ความเสย่ี งในการติดเชอื้ จงึ ควรลงในโทรศพั ทม์ ือถือ
สำหรบั ประเทศไทย แอปพลิชนั ที่ทำงรฐั บำลแนะนำใหล้ งไวค้ อื แอปไทยชนะ และแอปหมอชนะ
ควำมแตกตำ่ งของแอปทงั้ สองนคี้ อื แอปไทยชนะใชส้ ำหรบั เชก็ อินสถำนท่เี ขำ้ ใชบ้ รกิ ำร ขณะที่แอปหมอชนะใช้
ติดตำมตำแหนง่ ของผใู้ ชง้ ำนขณะเดนิ ทำงไปยงั ท่ตี ำ่ งๆ มเี ปำ้ หมำยเหมือนกนั คอื ตรวจควำมเส่ียงในกำรตดิ เชอื้
โดยออกแบบไมใ่ หก้ ระทบตอ่ สิทธ์ิและไมล่ ะเมดิ สิทธิส่วนบคุ คล
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 20 -
ท่มี ำ: https://www.facebook.com/AntiFakeNewsCenter/photos/a.113638500070332/266751651425682/
ทีม่ ำ: https://news.thaipbs.or.th/content/300045
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 21 -
งำนศพ : มคี วำมเสย่ี งแค่ไหนในกำรรว่ มงำนศพผ้เู สียชวี ิตจำกโควิด-19?
ข้อมูลทมี่ ีอยู่ไม่ไดแ้ สดงถงึ ความเส่ยี งใดๆ ทเี่ พม่ิ ขึน้ จากการเข้าร่วมงานศพมากเป็ นพเิ ศษ
อยำ่ งไรกต็ ำม ในงำนศพอำจมผี เู้ ขำ้ รว่ มจำนวนมำก มีขอ้ สงั เกตและขอ้ ควรปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรปอ้ งกนั
ตวั เองจำกโควิด-19 ดงั นี้
สวมหนำ้ กำกตลอดเวลำ
พยำยำมเวน้ ระยะหำ่ งเทำ่ ที่จะทำได้
ใชเ้ วลำในงำนใหส้ นั้ ทสี่ ดุ
ทอ้ งทข่ี องวดั ทีจ่ ดั งำน หำกมกี ำรตดิ เชอื้ มำก กย็ งิ่ เสี่ยง
หำกอยทู่ โี่ ลง่ ลมพดั ผำ่ นดไี ด้ จะปลอดภยั กวำ่ ทปี่ ิด
ลดกำรใชว้ ตั ถสุ ่ิงของรว่ มกนั เทำ่ ท่จี ะทำได้
ลำ้ งมอื หรือเชด็ แอลกอฮอลบ์ อ่ ยๆ
ระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษในกรณีผสู้ งู อำยหุ รอื มีอำกำรป่วยประจำตวั ทเ่ี พิม่ ควำมเสี่ยง เชน่ เบำหวำนหรอื ควำมดนั
หำกเล่ียงได้ ควรเล่ียง
งำนศพ : ควรจัดกำรขำ้ วของของผ้เู สยี ชวี ติ จำกโควิด-19 อย่ำงไร?
ขอ้ มลู ท่ีมีอยชู่ วี้ ำ่ กำรตดิ โรคโควดิ -19 เกดิ จำกกำรไดร้ บั เชอื้ ไวรสั จำกผตู้ ดิ เชอื้ ในระยะใกลเ้ ป็นหลกั โดยเฉพำะผำ่ น
ทำงละอองฝอยขณะผตู้ ิดเชอื้ ไอ จำม หรือพดู คยุ การแพร่กระจายโรคลกั ษณะนีจ้ ึงไมเ่ กดิ ขนึ้ เมื่อผู้ตดิ เชอื้
เสยี ชวี ิตแล้ว
อยำ่ งไรกต็ ำม กำรสมั ผสั พนื้ ผวิ หรอื วตั ถทุ ม่ี ไี วรสั ปนเปือ้ นอยู่ แลว้ นำไปสมั ผสั กบั ปำก จมกู หรอื ปำ้ ยกบั
ตำ กอ็ ำจทำใหไ้ ดร้ บั เชอื้ ไวรสั ไดเ้ ชน่ กนั หำกไดร้ บั กำรยนื ยนั วำ่ ผปู้ ่วยตดิ เชอื้ กอ่ โรคโควดิ -19 ควรหลีกเลี่ยงกำรจบู ,
อำบนำ้ , เปลี่ยนเสือ้ ผำ้ , หรือหอ่ ศพ นอกเสียจำกมีกำรทำควำมสะอำดฆำ่ เชอื้ อยำ่ งเหมำะสมแลว้ เทำ่ นน้ั
กำรทำควำมสะอำดและฆำ่ เช้ือ : ตอ้ งทำควำมสะอำดฆำ่ เชื้อขำ้ วของตำ่ งๆ อยำ่ งไร?
เป็นไปไดท้ ่จี ะติดเชอื้ จำกกำรสมั ผสั พนื้ ผิวหรอื วตั ถทุ ่ีมเี ชอื้ ไวรสั ติดอยู่ กอ่ นเอำมอื ไปสมั ผสั ปำก, จมกู หรือตำ แต่
ไม่ใชว่ ิธีการหลกั ในการแพร่กระจายของเชือ้
สำหรบั พนื้ ผวิ วตั ถทุ ใ่ี ชง้ ำนและตอ้ งสมั ผสั บอ่ ย สำมำรถใชน้ ำ้ สบู่, แอลกอฮอล์ 70% หรือนำ้ ยำฆำ่ เชอื้ ทำ
ควำมสะอำดและฆ่ำเชอื้ แตต่ อ้ งดูใหเ้ หมำะกบั สมกบั ชนิดของพนื้ ผิวนน้ั ๆ ไมใ่ หเ้ กดิ ควำมเสียหำย
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 22 -
กำรทำควำมสะอำดและฆำ่ เชือ้ : กำรทำควำมสะอำดแตกตำ่ งจำกกำรฆ่ำเช้ืออยำ่ งไร?
การทาความสะอาด (cleaning) ปกตแิ ลว้ จะหมำยถงึ กำรใชส้ บหู่ รอื สำรซกั ฟอก (detergent) ผสมนำ้ เพื่อกำจดั
ครำบสกปรกจำกพนื้ ผิวส่ิงตำ่ งๆ ทงั้ นสี้ บแู่ ละสำรซกั ฟอกมฤี ทธิ์ฆำ่ เชอื้ โรค (รวมทงั้ แบคทเี รยี และไวรสั ) ไดด้ ว้ ย จงึ มี
ประสิทธิภำพระดบั หนงึ่ ในกำรลดควำมเสี่ยงติดเชอื้
ขณะทกี่ ารฆา่ เชือ้ (disinfect) ดว้ ยสำรเคมชี นิดตำ่ งๆ ชว่ ยฆำ่ เชอื้ โรคไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ และ
สำมำรถฆำ่ เชอื้ หลงั จำกทำควำมสะอำดพนื้ ผิวดว้ ยนำ้ เปลำ่ หรอื นำ้ สบู่ จงึ ชว่ ยลดกำรแพรก่ ระจำยของเชอื้ ไดด้ ี
ย่ิงขนึ้
แตส่ ำรฆำ่ เชอื้ บำงชนิดอำจทำลำยหรอื ทำใหพ้ นื้ ผิวชำรุดเสียหำยได้ จงึ ควรอำ่ นคมู่ อื ประกอบและใชง้ ำน
ดว้ ยควำมระมดั ระวงั
กำรทำควำมสะอำดและฆำ่ เชอ้ื : บริเวณท่ีพบผปู้ ่วย จะดดู ฝ่นุ ทำควำมสะอำดอยำ่ งไรใหป้ ลอดภยั ?
ยงั ไมม่ ีรายงานเกีย่ วกับความเส่ยี งจากการตดิ เชือ้ กอ่ โรคโควิด-19 จากการดดู ฝ่ ุน
คำแนะนำเบอื้ งตน้ คือ หำทำงลดพนื้ ทซ่ี งึ่ ขรุขระ ทำควำมสะอำดไดย้ ำก และควำมจำเป็นท่ีตอ้ งทำควำม
สะอำด ฆ่ำเชอื้ หรอื ดดู ฝ่นุ ใหม้ ำกทสี่ ดุ
ในกรณีทจี่ ำเป็นตอ้ งดดู ฝ่นุ ควรทำดงั นี้
ปิดพนื้ ทซ่ี งึ่ ผตู้ ิดเชอื้ เคยใชง้ ำน เปิดประตแู ละหนำ้ ตำ่ งเพอื่ เพมิ่ กำรระบำยอำกำศของพนื้ ที่
ควรทงิ้ พนื้ ที่ไว้ 24 ช่วั โมงในลกั ษณะขำ้ งตน้ กอ่ นเรม่ิ ทำควำมสะอำดหรอื ฆำ่ เชอื้
หำกมีอปุ กรณท์ ี่ปล่อยแสงยวู ฆี ่ำเชอื้ ได้ สำมำรถเปิดเพอ่ื ฆำ่ เชอื้ ในชว่ งเวลำดงั กลำ่ วขำ้ งตน้ ดว้ ย กจ็ ะ
ชว่ ยอีกทำงหนงึ่ กำรตงั้ เวลำกำรฆ่ำเชอื้ ดว้ ยแสงยวู ีควรใหเ้ หมำะสมกบั ควำมเขม้ ของอปุ กรณท์ ตี่ ิด
ตง้ั อยู่
หลงั จำกทำควำมสะอำดและฆำ่ เชอื้ แลว้ เพ่ือเป็นกำรลดควำมเส่ียงสำหรบั เจำ้ หนำ้ ทห่ี รอื ผเู้ กยี่ วขอ้ ง
ทต่ี อ้ งดดู ฝ่นุ ใหท้ ำดงั นี้
o ใชอ้ ปุ กรณด์ ดู ฝ่นุ ทม่ี แี ผน่ กรองละเอยี ดชนดิ HEPA หำกเป็นไปได้
o ไมท่ ำควำมสะอำดขณะทยี่ งั มคี นอยใู่ นพนื้ ที่ รอใหห้ อ้ งวำ่ งกอ่ นจะดดู ฝ่นุ โดยอำจทำในเวลำ
กลำงคนื หรือทำในเวลำกลำงวนั ในเขตพนื้ ทส่ี ว่ นตวั ทีค่ วบคมุ ได้
o ปิดระบบหมนุ เวียนอำกำศที่ติดเฉพำะหอ้ งเป็นกำรช่วั ครำว เพ่ือปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ กำรปนเปือ้ น
กบั ระบบดงั กลำ่ ว
o ไมจ่ ำเป็นตอ้ งปิดระบบหมนุ เวยี นอำกำศแบบรวม เพรำะระบบมแี นวโนม้ จะมีควำมสำมำรถใน
กำรกรองอำกำศท่ดี กี วำ่ และยงั นำอำกำศท่อี ยภู่ ำยนอกหอ้ งเขำ้ มำเจอื จำงอำกำศในหอ้ งอกี ดว้ ย
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 23 -
กำรทำควำมสะอำดและฆำ่ เชือ้ : ควรทำควำมสะอำดแบบกิจวตั รอยำ่ งไร? บอ่ ยครัง้ มำกนอ้ ยเพียงใด?
ในบรษิ ทั , หนว่ ยงำน หรือชมุ ชน ควรทำควำมสะอำดทกุ วนั พนื้ ผิวทอี่ ำจมีกำรสมั ผสั บอ่ ย เชน่ ลกู บดิ ประต,ู พนื้ ผิว
ในหอ้ งนำ้ และรำวบนั ได ใหท้ ำควำมสะอำดและฆำ่ เชอื้ ดว้ ยนำ้ สบหู่ รอื สำรซกั ฟอก พนื้ ผิวเหล่ำนตี้ อ้ งทำควำม
สะอำดอยำ่ งนอ้ ยวนั ละครง้ั หำกยงั มีกำรใชง้ ำนบรเิ วณดงั กลำ่ วอยู่
พนื้ ผิวบำงแหง่ หรอื วตั ถบุ ำงอยำ่ งในทส่ี ำธำรณะทใ่ี ชร้ ว่ มกนั บอ่ ย อำจตอ้ งทำควำมสะอำดบอ่ ยครงั้ มำก
ขนึ้ เชน่ รถเข็นสินคำ้ ในหำ้ งสรรพสินคำ้ หรอื พนื้ ที่บริเวณท่ใี หบ้ ริกำรซอื้ ขำย และควรทำควำมสะอำดฆำ่ เชอื้ กอ่ นใช้
งำนทกุ ครงั้ ก็จะชว่ ยลดควำมเสี่ยงจำกกำรติดเชอื้ ไวรสั ได้
กำรทำควำมสะอำดและฆำ่ เช้อื : ใครมหี นำ้ ที่ทำควำมสะอำดและฆำ่ เช้อื ?
ผทู้ ี่ปกติเป็นเจำ้ หนำ้ ทหี่ รือพนกั งำนทำควำมสะอำด มีหนำ้ ทใ่ี นกำรทำควำมสะอำดและฆ่ำเชอื้ และควรตอ้ งไดร้ บั
กำรอบรมกำรใชง้ ำนสำรเคมที ใ่ี ชท้ ำควำมสะอำดและฆำ่ เชอื้ รูว้ ิธีกำรปอ้ งกนั ตวั เองดว้ ยหนำ้ กำกและชดุ ปกปอ้ ง
ตวั เองหรือ พพี อี ี (PPE, Personal Protective Equipment)
กำรทำควำมสะอำดและฆำ่ เชอ้ื : คลื่นอลั ตรำซำวนด,์ แสงยูวีควำมเข้มขน้ สูง, หลอดแอลอดี สี ีนำ้ เงิน
และอุโมงคฆ์ ่ำเชอื้ มปี ระสทิ ธิภำพมำกนอ้ ยเพียงใด?
ประสิทธิภำพของวธิ ีกำรตำ่ งๆ เหล่ำนยี้ งั ไมร่ ูแ้ นช่ ดั นกั หนว่ ยงำนทง้ั ระดบั ประเทศและนำนำชำติมกั แนะนำใหใ้ ช้
สำรฆำ่ เชอื้ (หรอื นำ้ ยำฆำ่ เชอื้ ) มำกกวำ่ กำรใชแ้ สงยวู คี วำมเขม้ ขน้ สูงท่ีมีกำรนำมำใชท้ ำควำมสะอำดตทู้ ดลองหรอื
ใชฆ้ ำ่ เชอื้ ปนเปือ้ นในหอ้ งปฏิบตั ิกำรภำยหลงั ใชง้ ำน
สำหรบั อโุ มงคฆ์ ่ำเชอื้ (sanitizing tunnel) ยงั ไม่มีหลักฐานใดทแี่ สดงว่ามันช่วยลดการแพร่กระจาย
ของโควิด-19 ได้ นอกจำกนี้ สำรเคมีท่ีใชย้ งั อำจทำใหเ้ กดิ กำรระคำยเคืองหรอื บำดเจ็บกบั ผิวหนงั , ดวงตำ หรอื
ระบบหำยใจไดอ้ กี ดว้ ย ยงั ไมม่ ีหนว่ ยงำนดำ้ นอนำมยั ใดทยี่ นื ยนั ประสิทธิภำพหรอื สนบั สนนุ ใหใ้ ชอ้ ปุ กรณแ์ บบนี้
กำรทำควำมสะอำดและฆำ่ เชอื้ : ควรฉดี ฆ่ำเชอื้ บริเวณท่ีโล่งนอกอำคำร, ทำงเดิน และถนน เพื่อป้องกนั
กำรแพรก่ ระจำยของโรคหรอื ไม?่
ศนู ยค์ วบคุมสหรัฐอเมริการะบวุ ่า ไม่แนะนาใหฉ้ ดี ฆ่าเชอื้ ทางเดนิ , ถนน หรือพืน้ ทแ่ี จง้ อ่ืนๆ ในลกั ษณะ
เดยี วกนั กำรฉีดฆำ่ เชอื้ ตำมสถำนทเ่ี หลำ่ นน้ั ไม่มปี ระสิทธภิ าพ และยงั ไมม่ ีข้อพิสูจนว์ ่าช่วยลดความเสี่ยง
การตดิ โรคโควิด-19 ในทส่ี าธารณะ โอกำสเสี่ยงจำกกำรแพรก่ ระจำยไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 จำกพนื้ ผิวเหลำ่ นมี้ ี
อยนู่ อ้ ยมำก อีกทงั้ กำรฉีดฆำ่ เชอื้ ลงบนพนื้ ผิวเหล่ำนีก้ ็มปี ระสิทธิภำพนอ้ ยมำก
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 24 -
สตั ว์เลี้ยงและปศุสตั ว์ : ตดิ โควดิ -19 จำกสตั วเ์ ล้ยี งหรอื ปศุสัตว์ไดห้ รอื ไม?่
ขณะนยี้ งั มีขอ้ มลู เก่ยี วกบั เรอ่ื งนนี้ อ้ ยมำก แมว้ ่าอาจจะมีกรณที สี่ ุนัขและแมวตดิ โควิด-19 ซง่ึ น่าจะมีทมี่ าจาก
ผู้เลยี้ ง12 แต่ถอื ว่าความเสี่ยงทจ่ี ะติดเชอื้ ไวรัสก่อโรคโควิด-19 จากสัตวค์ อ่ นขา้ งต่า
ใหถ้ อื วำ่ สตั วเ์ ลีย้ งเสมอื นเป็นคนในครอบครวั ปอ้ งกนั ไมใ่ หส้ มั ผสั ใกลช้ ิดกบั คนทไ่ี มใ่ ชส่ มำชกิ ของ
ครอบครวั และหำกมสี ตั วป์ ่วย ควรแยกจำกคนหรือสตั วอ์ น่ื ในบำ้ น ในทำงกลบั กนั หำกมผี ปู้ ่วยในบำ้ น กใ็ หล้ ะเวน้
กำรสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั สตั วเ์ ลีย้ ง
ไม่มีความจาเป็ นต้องใสห่ น้ากากใหส้ ัตวเ์ ลยี้ ง เพราะอาจทาอันตรายกบั พวกมันได้
อยำ่ งไรก็ตำม สตั วต์ ำ่ งๆ แพรโ่ รคมำกมำยหลำยโรคสูค่ นได้ จงึ ควรระมดั ระวงั ตวั และลำ้ งมอื ใหส้ ะอำด
หลงั จำกสมั ผสั สตั วเ์ ลีย้ งหรือปศสุ ตั ว์ เดก็ อำยุ 5 ปีหรือนอ้ ยกวำ่ นน้ั จะมภี มู ิคมุ้ กนั รำ่ งกำยท่ียงั ไมแ่ ขง็ แรงดนี กั จงึ
อำจจะป่วยจำกเชอื้ ในสตั วไ์ ด้ ผสู้ งู อำยกุ เ็ ชน่ กนั
สตั วเ์ ล้ียงและปศสุ ตั ว์ : ไวรัสกอ่ โรคโควดิ -19 ตดิ อยู่บนผิวหนงั หรอื ขนของสัตวห์ รอื ไม่?
สง่ิ ทรี่ ู้แน่ชัดแลว้ กค็ อื แบคทเี รียและเชอื้ ราอยู่บนขนสตั วไ์ ด้ แต่ยังไม่มีหลกั ฐานทชี่ ดั เจนสาหรบั ไวรสั ซงึ่
ก็รวมไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 วำ่ กระจำยจำกผิวหนงั หรอื ขนสตั วม์ ำยงั คนไดห้ รือไม่ แตก่ ย็ งั ควรระมดั ระวงั เร่ืองควำม
สะอำด และปฏิบตั ิตำมมำตรกำรพนื้ ฐำนตำ่ งๆ เชน่
ลำ้ งมอื หลงั จำกสมั ผสั สตั ว,์ อำหำร, ของเล่น, ของใช้ หรอื ของเสียจำกสตั ว์ ลำ้ งมอื ใหเ้ ดก็ ที่สมั ผสั สตั วด์ ว้ ย
อยำ่ จบู , กอด หรืออมุ้ สตั วเ์ ลีย้ งใกลบ้ รเิ วณหนำ้ เพรำะจะทำใหไ้ ดร้ บั เชือ้ โรคงำ่ ยขนึ้
แยกบรเิ วณของกนิ ของเล่นสำหรบั สตั วเ์ ลีย้ งออกจำกหอ้ งครวั ที่ใชเ้ ตรยี ม, เสิรฟ์ หรอื กินอำหำร
ทำควำมสะอำดใหเ้ หมำะสมกบั สตั วเ์ ลีย้ งนนั้ เชน่
o ตกั อแึ มวทกุ วนั และเปลี่ยนทรำยแมวทกุ สองสปั ดำหเ์ ป็นอยำ่ งนอ้ ย ไมค่ วรใหห้ ญิงตงั้ ครรภท์ ำ
ควำมสะอำดอแึ มว
o เก็บอสึ ุนขั ทปี่ ลอ่ ยไวต้ ำมทส่ี ำธำรณะและกำจดั อยำ่ งเหมำะสม
o ทำควำมสะอำดกรงสตั วเ์ ลีย้ งและหลีกเลี่ยงใชม้ ือเปลำ่ สมั ผสั พนื้ ผิวทเี่ ลอะ
ไมเ่ ลน่ รุนแรงกบั สตั วเ์ ลีย้ ง เพอ่ื ปอ้ งกนั กำรกดั หรอื ขว่ น และทำควำมสะอำดดว้ ยนำ้ เปลำ่ และสบทู่ นั ทที ี่
โดนกดั หรอื ขว่ น และหำกแผลบวม, แดง หรือเจ็บ หรอื พบวำ่ สตั วป์ ่วย ตอ้ งไปพบแพทย์
สอนใหเ้ ดก็ ๆ เล่นกบั สตั วเ์ ลีย้ งอยำ่ งเหมำะสม อยำ่ ใหเ้ ด็กเล็กอยใู่ กลส้ ตั วเ์ ลีย้ งขณะกำลงั กนิ
ทงิ้ ระยะหำ่ งจำกสตั วป์ ่ำใหเ้ หมำะสม เพ่ือปอ้ งกนั กำรจโู่ จมทำรำ้ ยและติดเชอื้ โรคจำกสตั วเ์ หลำ่ นน้ั
12 https://www.biorxiv.org/content/10.1101/2020.07.21.214346v2
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 25 -
สตั ว์เลย้ี งและปศสุ ตั ว์ : ใช้นำ้ ยำฆ่ำเชื้อทีเ่ ชด็ ลำ้ งมอื กบั สัตว์ไดห้ รือไม?่
ไม่ควรใชย้ าฆ่าเชือ้ เชด็ ตวั หรืออาบนา้ ใหส้ ตั วเ์ ลีย้ ง ไม่ว่าจะเป็ นจาพวกแอลกอฮอล,์ ไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์ หรือผลติ ภณั ฑอ์ ื่นๆ เพราะอาจทาใหส้ ัตวป์ ่ วยได้
หำกบงั เอิญสตั วเ์ ลีย้ งสมั ผสั ถกู สำรเหล่ำนี้ ใหล้ ำ้ งออกดว้ ยนำ้ ทนั ที หำกบงั เอญิ สตั วเ์ ลีย้ งกินสำรเหลำ่ นี้
(เชน่ เคยี้ วขวดทมี่ สี ำรเหลำ่ น)ี้ และมีอำกำรป่วย ใหน้ ำไปหำสตั วแพทยท์ นั ที
สัตว์เลี้ยงและปศุสตั ว์ : นำสุนขั ไปสวนสำธำรณะได้หรอื ไม่?
กำรนำสนุ ขั ไปเดินออกกำลงั สำคญั สำหรบั สขุ ภำพของพวกมนั ทง้ั นไี้ มค่ วรใหส้ ตั วส์ มั ผสั ใกลช้ ดิ กบั คนอ่นื นอก
ครอบครวั ของคณุ
คำแนะนำทว่ั ไปเมื่อนำสุนขั ออกไปนอกบำ้ นคอื
ใหห้ ลีกเล่ียงบริเวณท่ีมีคนและสนุ ขั แออดั กนั เป็นจำนวนมำก
หลีกเลี่ยงกำรนำสนุ ขั ไปสวนสำธำรณะ หำกคณุ ป่วยหรือมีประวตั สิ มั ผสั ใกลช้ ดิ กบั ผปู้ ่วย
หลีกเล่ียงกำรนำสุนขั ไปสวนสำธำรณะ หำกสนุ ขั ป่วย เชน่ ไอ, จำม, มีไข,้ หำยใจลำบำก, เซ่ืองซมึ , มี
นำ้ มกู , อว้ ก หรือทอ้ งเสีย
หำกตรวจพบสนุ ขั ติดเชอื้ กอ่ โรคโควิด-19 ปรกึ ษำสตั วแพทยใ์ นทนั ที
พยำยำมลดกำรสมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั คนที่ไมใ่ ชส่ มำชิกในครอบครวั ขณะพำสนุ ขั ไปยงั สวนสำธำรณะ
พยำยำมหลีกเลี่ยงกำรสมั ผสั ขำ้ วของส่ิงตำ่ งๆ ในสวนสำธำรณะ และลำ้ งมอื ดว้ ยสบหู่ รอื แอลกอฮอลห์ ลงั
สมั ผสั
ไมน่ ำของเลน่ สตั วเ์ ลีย้ งหรือชำมขำ้ วไปยงั สวนสำธำรณะ
ไมใ่ ชแ้ อลกอฮอลห์ รือสำรฆำ่ เชอื้ เชน่ ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ เชด็ ทำควำมสะอำดหรืออำบนำ้ สนุ ขั
สตั ว์เลย้ี งและปศสุ ัตว์ : นำสนุ ขั ไปฝำกเล้ียงหรือตัดขนทำควำมสะอำดได้หรือไม?่
คำแนะนำท่วั ไปคือ หำกเป็นไดห้ ลีกเลี่ยงกำรไปยงั บรเิ วณทีม่ ีคนหรอื สตั วเ์ ลีย้ งอยเู่ ป็นจำนวนมำก หำกไมจ่ ำเป็นให้
เวน้ ชว่ งไปกอ่ น
แตห่ ำกจำเป็น ใหส้ วมหนำ้ กำกและเวน้ ระยะหำ่ งเทำ่ ทจ่ี ะทำได้
หา้ มใชแ้ อลกอฮอล,์ ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ หรอื สำรฆำ่ เชอื้ แบบอนื่ ๆ เชด็ หรอื อำบนำ้ สุนขั เด็ดขำด
ไม่จาเป็ นและไม่ควรใส่หนำ้ กำกใหส้ นุ ขั ไมน่ ำสนุ ขั ทปี่ ่วยไปยงั รำ้ นตดั ขนหรือสถำนที่รบั เลีย้ ง หำกสนุ ขั
ป่วยใหป้ รกึ ษำสตั วแพทย์ ซง่ึ อำจใหค้ ำแนะนำทำงโทรศพั ทห์ รอื รบั เขำ้ ตรวจรกั ษำแลว้ แตก่ รณี
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 26 -
สตั ว์เลี้ยงและปศุสัตว์ : หำกสตั วเ์ ลย้ี งปว่ ย และคิดว่ำติดโควดิ -19 ตอ้ งทำอยำ่ งไร?
สตั วเ์ ลีย้ งส่วนใหญ่ทีป่ ่วยจำกโควิด-19 ตดิ จำกกำรสมั ผสั ใกลช้ ิดกบั ผปู้ ่วยโควดิ -19 หำกพบสตั วเ์ ลีย้ งป่วย ใหโ้ ทร
ปรกึ ษำสตั วแพทยว์ ำ่ ควรทำอยำ่ งไร สาหรับผู้ป่ วยน้ันใหห้ ลกี เลี่ยงการนาสัตวเ์ ลยี้ งไปยงั คลนิ ิกสัตวด์ ว้ ย
ตัวเอง
สตั วแพทยจ์ ะชว่ ยประเมนิ อำกำรป่วยและหำวธิ ีกำรสง่ ตวั เพอื่ รกั ษำตอ่ ไป
สตั วเ์ ลี้ยงและปศุสตั ว์ : สตั วห์ รือผลติ ภัณฑจ์ ำกสตั วท์ ีน่ ำเขำ้ ปลอดภยั หรอื ไม่?
จนถงึ บดั นกี้ ็ยงั ไมม่ ีหลกั ฐำนแนช่ ดั เร่ืองควำมเสี่ยงจะตดิ เชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 จำกสตั วห์ รอื ผลิตภณั ฑจ์ ำกสตั ว์
ทส่ี ง่ ออกหรอื นำเขำ้ ระหวำ่ งประเทศ แมว้ ำ่ จะมขี อ้ กลำ่ วอำ้ งอยบู่ ำ้ งกต็ ำม เชน่ กรณีจนี อำ้ งถงึ ผลิตภณั ฑเ์ นอื้ แชแ่ ข็ง
ปนเปื้อนจำกอินเดีย, รสั เซยี และอำรเ์ จนตนิ ำ13 ไกแ่ ชแ่ ข็งจำกบรำซลิ และกงุ้ แชแ่ ขง็ จำกเอกวำดอร1์ 4 จนทำใหจ้ นี
ประกำศแบนกำรนำเขำ้ สินคำ้ แชแ่ ข็งจำก 23 บรษิ ัทจำกประเทศตำ่ งๆ ซง่ึ ก็รวมทงั้ สหรฐั อเมริกำ, องั กฤษ และ
เยอรมนี ดว้ ย ทง้ั นีอ้ าหารปรุงสกุ จะฆ่าไวรัสกอ่ โรคโควิด-19 จนหมดได้
สัตว์เล้ียงและปศุสัตว์ : สตั ว์ปำ่ แพรก่ ระจำยโรคโควิด-19 ใหค้ นหรอื สตั วเ์ ลยี้ งได้หรือไม่?
ยังไม่มีหลักฐานว่า เชือ้ ไวรัสก่อโรคโควิด-19 แพร่กระจายอยู่ในสัตวป์ ่ าในขณะนี้ หรือสตั วป์ ่ าอาจจะเป็ น
ต้นทางการแพรก่ ระจายของเชอื้ ไวรัสนีใ้ นคนหรือไม่ รวมไปถงึ วำ่ จะติดเชอื้ จำกสตั วป์ ่ำมำยงั สตั วเ์ ลีย้ งได้
หรือไม่ อยำ่ งไรก็ตำม สตั วป์ ่ำเป็นพำหะของโรคหลำยชนิด แมว้ ำ่ จะไมแ่ สดงอำกำรป่วยใหเ้ ห็นก็ตำม จงึ ควรอยู่
หำ่ งพวกมนั เอำไว,้ ไมค่ วรใหอ้ ำหำรหรอื สมั ผสั กบั ของเสียจำกสตั วป์ ่ำ, ไมส่ มั ผสั สตั วป์ ่ำที่ป่วยหรอื ตำย
สตั ว์เลี้ยงและปศสุ ตั ว์ : ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 จะกลบั สสู่ ่งิ แวดล้อมผ่ำนทำงนำ้ เสยี และสตั วใ์ นธรรมชำติ
ท่ตี ิดเชือ้ ได้หรือไม่?
มีรายงานว่า พบซารส์ -โควี-2 ในอุจจาระของผู้ป่ วยโควิด-19 และยงั พบสารพนั ธุกรรมของมันในนา้ เสีย
อีกด้วย แต่ข้อมูลทไ่ี ดย้ ังจากดั อยู่ ยงั ไม่มีขอ้ มลู แสดงความเป็ นไปได้ทจ่ี ะตดิ เชอื้ จากนา้ เสีย กำรศกึ ษำ
ควำมสำมำรถในกำรติดเชอื้ จำกอจุ จำระชวี้ ำ่ มโี อกำสต่ำมำกทีจ่ ะแพรก่ ระจำยผ่ำนทำงชอ่ งทำงแบบนี้ อยำ่ งไรก็
ตำมควรหลีกเลี่ยงกำรสมั ผสั สตั วป์ ่ำทปี่ ่วยหรือตำย
13 https://www.newindianexpress.com/world/2020/nov/19/china-says-covid-19-detected-on-more-fish-exports-from-india-amid-
growing-criticism-2225323.html
14 https://theloadstar.com/new-restrictions-in-china-as-covid-19-is-found-on-frozen-food-imports-again/
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 27 -
กำรรบั มือของชุมชน : ชมุ ชนจะรบั มือและบรรเทำควำมรุนแรงของกำรระบำดโควดิ -19 ได้อยำ่ งไร?
มีวิธีกำรอยหู่ ลำยอยำ่ งทค่ี นแตล่ ะคน หรอื ชมุ ชนตำ่ งๆ สำมำรถลงมือทำเพอ่ื ลดโอกำสในกำรติดเชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโค
วิด-19 ในชมุ ชน
โดยหลกั ใหญท่ ่ีตอ้ งใส่ใจไวเ้ สมอคอื ยงิ่ แพร่กระจายในชมุ ชนมากเทา่ ใด กย็ งิ่ มีโอกาสทคี่ ุณและ
ครอบครัวจะป่ วยโควิด-19 เพม่ิ มากขนึ้ ไปด้วยเทา่ น้ัน ยง่ิ มีปฏสิ ัมพนั ธก์ บั คนมากเทา่ ใด และใช้
ระยะเวลาปฏสิ ัมพันธม์ ากเทา่ ใด กย็ ง่ิ เส่ียงจะเกดิ การแพร่ระบาดของไวรัสมากยิ่งขนึ้ เทา่ นั้น ในสถำนท่ี
กลำงแจง้ มคี วำมเส่ียงนอ้ ยกวำ่ ในท่ีรม่
แตล่ ะคนชว่ ยลดกำรแพรก่ ระจำยไดโ้ ดย
สวมหนำ้ กำกเมอ่ื อยใู่ นทสี่ ำธำรณะ
ลำ้ งมอื บอ่ ยๆ
เวน้ ระยะหำ่ งทำงกำยภำพระหวำ่ งบคุ คล
หำกป่วยใหอ้ ยกู่ บั บำ้ น
ทำควำมสะอำดพนื้ ผิวตำ่ งๆ ทส่ี มั ผสั บอ่ ยๆ ทกุ วนั
สำหรบั ชมุ ชน สงิ่ ทคี่ วรทำได้
ชว่ ยกนั เผยแพรค่ วำมรูเ้ ก่ียวกบั สขุ นสิ ยั ทชี่ ว่ ยปอ้ งกนั กำรแพรก่ ระจำยดงั กลำ่ วขำ้ งตน้
ชว่ ยดแู ลสภำพแวดลอ้ มใหม้ ีควำมปลอดภยั
วำงแผนในกรณพี บผปู้ ่วย ใครจะตอ้ งทำอยำ่ งไรบำ้ ง
ปิดโรงเรยี น บรษิ ัท หรอื จำกดั กำรใหบ้ รกิ ำรบำงอยำ่ ง เพื่อลดกำรสมั ผสั ใกลช้ ิดตอ่ หนำ้
อำหำรและนำ้ : ตดิ โควิด-19 จำกอำหำร (รวมทัง้ ท่ซี ือ้ กลบั จำกรำ้ นอำหำร, ทำใหมๆ่ ,
อำหำรแช่แขง็ , หรอื อำหำรในบรรจุภณั ฑ)์ หรอื นำ้ ดืม่ ไดห้ รอื ไม่?
ยังไม่มีหลักฐานเรื่องการตดิ เชือ้ จากการกนิ หรือหยบิ จบั อาหาร
มีโอกำสท่ีจะตดิ เชอื้ ไวรสั จำกกำรสมั ผสั พนื้ ผิวตำ่ งๆ เชน่ แพก็ เกจอำหำรหรือเคร่อื งถว้ ยชำมท่ีมไี วรสั ตก
อยู่ แลว้ เอำมือไปสมั ผสั กบั ปำก, จมกู หรอื ตำ อยำ่ งไรกต็ ำม ชอ่ งทำงดงั กลำ่ วนำ่ จะไมใ่ ชช่ อ่ งทำงหลกั ในกำรตดิ
เชอื้ หำ้ มลำ้ งอำหำรดว้ ยแอลกอฮอลห์ รือนำ้ ยำฆำ่ เชอื้
ปัจจบุ ันยังไม่พบหลักฐานการตดิ เชอื้ ไวรัสก่อโรคโควิด-19 จากการดมื่ น้า ยงั ไมม่ ีกรณีตรวจพบ
ไวรสั นใี้ นนำ้ ดมื่ วธิ ีกำรบำบดั นำ้ เพือ่ นำมำใชผ้ ำ่ นกำรกรองและใชน้ ำ้ ยำฆำ่ เชอื้ หรอื แสงยวู แี บบที่หนว่ ยงำนดำ้ น
ประปำใชก้ นั อยู่ นำ่ จะเพยี งพอท่ีจะกำจดั หรอื ฆำ่ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 ได้
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 28 -
อำหำรและนำ้ : ไวรัสก่อโรคโควิด-19 แพรก่ ระจำยผำ่ นนำ้ ทีฆ่ ่ำเชือ้ แล้วไดห้ รอื ไม่?
ไม่พบหลักฐานการติดเชอื้ หรือแพร่กระจายเชอื้ ไวรัสก่อโรคโควิด-19 จากการดมื่ นา้ ทผ่ี ่านกระบวนการ
กรองและใชน้ า้ ยาฆ่าเชือ้ หรือแสงยวู ี แบบท่หี นว่ ยงำนดำ้ นประปำใชก้ นั อยู่
โดยหลกั ๆ แลว้ ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แพรก่ ระจำยผำ่ นกำรสมั ผสั ใกลช้ ดิ ระหวำ่ งคนสคู่ น ยงั คงสำมำรถใช้
นำ้ ประปำในกำรดื่มได้
อจุ จำระและนำ้ เสยี : พบไวรัสก่อโรคโควดิ -19 ในอุจจำระหรือไม?่
ผู้ป่ วยโควิด-19 อาจปล่อยไวรสั ออกมากับอจุ จาระ ซึง่ สามารถตรวจพบได้ แตย่ งั ไมแ่ นช่ ดั วำ่ เชอื้ กอ่ โรคโค
วิด-19 ทห่ี ลุดออกมำกบั อจุ จำระยงั มคี วำมสำมำรถในกำรแพรก่ ระจำยเชอื้ อยหู่ รอื ไม่ และยงั ไมพ่ บรายงาน
ยนื ยันการแพรก่ ระจายโรคนี้ผ่านทางอุจจาระไปยงั คน จงึ ยงั ไมอ่ ำจยนื ยนั ระดบั ควำมเสี่ยงได้
อยำ่ งไรก็ตำม จำกกำรระบำดของโรคจำกโคโรนำไวรสั กอ่ นหนำ้ เชน่ ซำรส์ (SARS) และเมอรส์ (MERS)
เป็นไปไดว้ ำ่ ควำมเส่ียงในเร่อื งนจี้ ะตำ่
อุจจำระและนำ้ เสยี : ไวรสั ก่อโรคโควดิ -19 แพร่กระจำยผำ่ นระบบนำ้ เสยี ได้หรอื ไม่?
ผปู้ ่วยโควดิ -19 อำจปลอ่ ยเชอื้ ไวรสั ซำรส์ -โควี-2 ทเี่ ป็นสำเหตกุ อ่ โรคในอจุ จำระได้ มีการตรวจพบสารพันธกุ รรม
ของไวรัสชนิดนี้ในน้าเสีย15
อยำ่ งไรก็ตำม ยงั มขี อ้ มลู ในเรอ่ื งนอี้ ยำ่ งจำกดั มำก และแทบไมม่ หี ลกั ฐำนวำ่ ไวรสั ท่พี บนำ้ เสียเหลำ่ นีย้ งั
ติดตอ่ เขำ้ สมู่ นษุ ยไ์ ด้ จนกระท่งั บัดนี้ ยังไม่มรี ายงานแมแ้ ตร่ ายเดยี วของกรณีการป่ วยโควิด-19 จากการ
สมั ผัสน้าเสีย
ปกติโรงงำนกำจดั นำ้ เสียใชส้ ำรเคมแี ละสำรฆำ่ เชอื้ อื่นๆ ในกระบวนบำบดั เพอ่ื แยกหรอื กำจดั ไวรสั และ
แบคทเี รียอยแู่ ลว้ ขณะนถี้ อื วำ่ อนั ตรำยทอี่ ำจจะติดโรคโควดิ -19 จำกระบบนำ้ เสียถือวำ่ ตำ่
อุจจำระและนำ้ เสยี : ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แพร่กระจำยผำ่ นนำ้ ทว่ มไดห้ รอื ไม?่
ขณะนีย้ ังไม่มีหลกั ฐานว่า โควิด-19 แพร่กระจายผ่านทางนา้ ทว่ ม แมว้ ำ่ นำ้ ทว่ มอำจมีนำ้ เสียท่ีมเี ชอื้ กอ่ โรคโค
วดิ -19 ปะปนอยกู่ ต็ ำม อยำ่ งไรก็ตำม ควรหลีกเลี่ยงจำกกำรสมั ผสั กบั นำ้ ทว่ ม เพรำะมเี ชอื้ โรคหรอื สิ่งปนเปื้อนอน่ื ๆ
ที่อำจเป็นอนั ตรำยไดน้ อกเหนือจำกโควดิ -19
15 https://www.nature.com/articles/s41587-020-0690-1
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 29 -
สระว่ำยนำ้ , อ่ำงอำบนำ้ : ไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 แพร่กระจำยผำ่ นสระว่ำยน้ำ, อำ่ งอำบนำ้ และนำ้ ใน
และสวนสนุกที่มนี ำ้ สวนสนุกได้หรอื ไม?่
ขอ้ มลู วิทยำศำสตรท์ ีม่ ีอยยู่ งั ไม่มรี ายงานใดทร่ี ะบวุ ำ่ มีกำรแพรก่ ระจำยโควดิ -19 สู่คนผำ่ นทำงนำ้ ในสระวำ่ ยนำ้ ,
อำ่ งอำบนำ้ หรอื นำ้ ในสวนสนกุ
กำรจดั กำรนำ้ ในสถำนที่เหล่ำนอี้ ยำ่ งเหมำะสม เชน่ เดียวกบั ในกรณีของนำ้ ในสถำนท่ีพกั ขนำดใหญ่หรือ
ชมุ ชน ท่ีมกี ำรฆ่ำเชอื้ ในนำ้ ดว้ ยคลอรีนหรือโบรมีนสำมำรถฆ่ำไวรสั ได้
สระว่ำยนำ้ , อำ่ งอำบน้ำ : ไวรัสกอ่ โรคโควดิ -19 แพรก่ ระจำยผำ่ นนำ้ ในสระวำ่ ยน้ำแบบน้ำเกลือได้
และสวนสนุกท่มี ีนำ้ หรอื ไม่?
ยังไมม่ ีรายงานใดทรี่ ะบวุ ่า มกี ารแพร่กระจายโควิด-19 สคู่ นผ่านทางน้าในสระว่ายน้า ซง่ึ รวมทง้ั สระ
นา้ เกลอื สระนำ้ เกลือโดยปกติแลว้ จะใสเ่ กลือในควำมเขม้ ขน้ รำว 1,000–36,000 ppm (สว่ นตอ่ ลำ้ นส่วน) หรือ
รำว 1–36 กรมั ตอ่ ลิตร และมีกระบวนกำรฆำ่ เชอื้ โดยทำใหเ้ กลือแตกตวั เป็นกำ๊ ซคลอรนี (หรือคลอรีนในรูปทล่ี ะลำย
นำ้ ได)้ หรือกรดหรอื สำรประกอบอ่นื (ไฮโปคลอรสั และโซเดียมไฮโปคลอไรต)์ ซง่ึ มฤี ทธ์ิฆำ่ เชอื้ ได1้ 6
สระวำ่ ยนำ้ , อำ่ งอำบน้ำ : ไวรัสก่อโรคโควดิ -19 แพรก่ ระจำยผำ่ นนำ้ ในทะเลสำบ, แม่นำ้ หรือ
และสวนสนกุ ทมี่ ีนำ้ มหำสมทุ รได้หรอื ไม?่
ยงั ไม่พบรายงานใดทร่ี ะบุความสมั พันธร์ ะหวา่ งการแพร่กระจายของโควิด-19 กับนา้ ในทะเลสาบ แม่น้า
หรือมหาสมุทร หรือแหล่งน้าธรรมชาติอ่นื
แมจ้ ะมกี ำรตรวจพบสำรพนั ธุกรรมของไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ในอจุ จำระผปู้ ่วยและในนำ้ เสีย แตย่ งั ไมม่ ี
หลกั ฐำนชดั เจนวำ่ ไวรสั ในนำ้ เสียเหลำ่ นน้ั ยงั คงมีควำมสำมำรถในกำรกอ่ โรคอยเู่ พียงใด อยำ่ งไรกต็ ำม มี
ควำมสำคญั ทจ่ี ะปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กิดกำรปนเปื้อนของอจุ จำระผปู้ ่วยไปกบั แหล่งนำ้ ตำมธรรมชำติ
สระว่ำยนำ้ , อำ่ งอำบนำ้ : ตอ้ งสวมหน้ำกำกผำ้ ในนำ้ หรอื ไม?่
และสวนสนุกทม่ี ีนำ้
ไม่ตอ้ ง และอันทจี่ ริงแลว้ ไม่ควรสวมหน้ากากทเ่ี ปี ยกนา้ เพรำะหนำ้ กำกทเี่ ปียกนำ้ จะทำใหห้ ำยใจยำก และ
ไมม่ ปี ระสิทธิภำพในกำรปอ้ งกนั ไวรสั ไดด้ เี ทำ่ หนำ้ กำกแหง้ ๆ อกี ดว้ ย หำกหนำ้ กำกอนำมยั เปียกโดยกบ็ งั เอญิ ก็ควร
เปล่ียน
16 https://en.wikipedia.org/wiki/Salt_water_chlorination
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 30 -
สระว่ำยน้ำ, อ่ำงอำบนำ้ : แสงยูวีในแสงอำทติ ย์ฆำ่ เช้อื ตำมผวิ วัตถุทใี่ ชร้ ว่ มกันหรอื ไม่?
และสวนสนุกท่มี ีนำ้
ส่งิ ทร่ี ู้แลว้ ในขณะนีค้ อื แสงยวู ีจากดวงอาทติ ยส์ ามารถทาลายไวรัสกอ่ โรคโควิด-19 ได้ อยำ่ งไรกต็ ำม เม่ือ
ลงรำยละเอียด เชน่ ผวิ รำวจบั หรอื หอ้ งนำ้ หรือสิ่งของทใ่ี ชร้ ว่ มกนั เชน่ กระดำนหดั วำ่ ยนำ้ ยงั ไมม่ ผี ลกำรศกึ ษำท่ี
ชดั เจน มปี ัจจยั ที่ตอ้ งคำนงึ ถงึ จำนวนมำก เชน่ ปริมำณเมฆ, ระยะหำ่ งจำกเสน้ ศนู ยส์ ตู ร, ชว่ งเวลำของวนั และ
ชว่ งเวลำทแี่ สงแดดฉำยลงบนวตั ถนุ นั้ ฯลฯ ทสี่ ง่ ผลกบั ประสทิ ธิภำพกำรฆ่ำเชอื้ ของแสงยวู ใี นแสงแดด
สระว่ำยนำ้ , อ่ำงอำบนำ้ : ต้องทำควำมสะอำดหรอื ฆ่ำเช้ือผิวหนำ้ วตั ถุทีใ่ ชร้ ่วมกัน (เช่น มือจับใน
และสวนสนกุ ท่ีมีนำ้ ห้องน้ำ) ในสระวำ่ ยน้ำ, อ่ำงนำ้ อ่นุ และสวนสนุกทม่ี นี ้ำ บอ่ ยเพยี งใด?
หลกั กำรท่วั ไปคอื ย่งิ มีคนใชง้ ำนหรอื สมั ผสั พนื้ ผิวนนั้ บอ่ ยเทำ่ ไหร่ กย็ ง่ิ ตอ้ งทำควำมสะอำดบอ่ ยมำกขนึ้ เทำ่ นน้ั โดย
ขนั้ ต่ำคอื ตอ้ งทำควำมสะอำดทกุ วนั ใหท้ าความสะอาดพนื้ ผวิ กอ่ นฆ่าเชือ้ โดยพจิ ำรณำนำ้ ยำฆ่ำเชอื้ ให้
เหมำะสมกบั ชนิดของพนื้ ผิว
วคั ซีน : วัคซีนป้องกันโควดิ -19 จะทำใหป้ ่วยเปน็ โควดิ -19 ไดห้ รอื ไม่?
วคั ซีนทกุ ชนิดทใ่ี ชฉ้ ีดปอ้ งกนั โควิด-19 ท่ีใชฉ้ ีดกนั อยขู่ ณะน1ี้ 7 (ปลำยเดอื นมกรำคม พ.ศ. 2564) ไมม่ ชี นิดใดเลยที่
ใช้ “เชอื้ เป็น” (ไวรสั ซำรส์ -โควี-2) จงึ ไม่มีวัคซีนชนิดใดทจี่ ะทาใหป้ ่ วยจากโควิด-19 ได้
มีวัคซีนมากมายหลายชนิดทอี่ ยรู่ ะหว่างการพัฒนา (นับเฉพาะชนิดทมี่ ีความคบื หน้าไปมากทสี่ ุด
กม็ ีมากถงึ 15 ชนิด18 ซงึ่ อาจใชว้ ิธีการคล้ายคลึงหรือแตกตา่ งกนั ไปเล็กน้อย
ทง้ั นี้ วคั ซนี ทกุ ชนิดอำศยั หลกั กำรสอนใหภ้ ูมิคมุ้ กนั ของรำ่ งกำยตอ่ สกู้ บั ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 อยำ่ งไรก็
ตำม ในกระบวนกำรดงั กล่ำวอำจทำใหเ้ กิดผลขำ้ งเคยี งบำงอยำ่ ง เชน่ มไี ข้ ได้ อำกำรเหลำ่ นีเ้ ป็นเรอื่ งปกติ และเป็น
สญั ญำณแสดงวำ่ รำ่ งกำยกำลงั สรำ้ งภูมิคมุ้ กนั ตอ่ ไวรสั
ปกตแิ ลว้ จะกนิ เวลำรำวสองสำมสปั ดำหห์ ลงั กำรฉีดวคั ซนี กอ่ นท่จี ะรำ่ งกำยจะสรำ้ งภมู ิคมุ้ กนั
(immunity) มำชว่ ยปกปอ้ งรำ่ งกำยจำกกำรโจมตขี องโรคโควิด-19 ได้ ซงึ่ ยอ่ มหมำยควำมวำ่ มีโอกาสทผี่ ู้รบั
วัคซนี จะเกิดการตดิ เชอื้ ไวรัสก่อโรคโควดิ -19 ในหว้ งเวลาก่อนหรือหลงั การฉีดวัคซีนเพยี งไม่นาน จงึ
ป่ วยจากโรคนี้ได้ เพรำะวคั ซีนยงั มเี วลำไมพ่ อทีจ่ ะกระตนุ้ ใหร้ ำ่ งกำยสรำ้ งภมู คิ มุ้ กนั ขนึ้ เพอื่ ปกปอ้ งตวั เอง
ปัญหำดงั กล่ำวไมไ่ ดเ้ กิดจำกตวั วคั ซนี เองแตอ่ ยำ่ งใด
17 https://www.bbc.com/thai/international-55019177?fbclid=IwAR0D9a5-w4oWtuybRKAbWinfzl- -
UHb1w44Lc6f6nIY4dNol2dNroej2v-0o
18 https://www.prachachat.net/d-life/news-571744
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 31
วัคซีน : หลังจำกฉีดวคั ซนี แล้ว จะทำใหผ้ ลตรวจไวรัสก่อโรคโควดิ -19 เปน็ บวกใชห่ รอื ไม?่
ไม่ใช่ ผลตรวจจะไม่เป็ นบวก
หำกฉีดวคั ซนี แลว้ เกดิ ภมู คิ มุ้ กนั ขนึ้ ตำมเปำ้ หมำยท่ตี งั้ ไว้ มีความเป็ นไปได้ทจ่ี ะใหผ้ ลบวกหากตรวจ
แอนติบอดี (antibody test) ซง่ึ แสดงวำ่ เคยเกิดกำรตดิ เชอื้ มำกอ่ น และเกดิ ภูมิตำ้ นทำนตอ่ ไวรสั ขนึ้ ระดบั หนงึ่ ใน
รำ่ งกำย แต่หากตรวจตวั ไวรัสเอง (viral test) จะไม่สามารถตรวจพบ เพราะไม่ได้มีการตดิ เชือ้ หรือมเี ชือ้
ไวรสั อยู่ในตวั ขณะทตี่ รวจ
ขณะนนี้ กั วิจยั กำลงั ตรวจสอบรำยละเอยี ดอยวู่ ำ่ กำรฉีดวคั ซนี โควิด-19 สง่ ผลกระทบตอ่ กำรตรวจ
แอนตบิ อดีอยำ่ งไรบำ้ ง เชน่ ตรวจพบแอนติบอดนี ำนแคไ่ หน ฯลฯ
วคั ซีน : หลังจำกเปน็ โควิด-19 และหำยปว่ ยแล้ว ยังจำเปน็ ต้องฉีดวคั ซนี ป้องกนั โควดิ -19 หรอื ไม่?
ต้องฉีด
เนือ่ งจำกขอ้ เทจ็ จรงิ ทวี่ ำ่ ควำมเส่ียงท่จี ะป่วยหนกั จำกโควิด-19 และกำรตดิ เชอื้ ซำ้ กเ็ ป็นเร่อื งทอ่ี ำจเกิดขนึ้
ได้ วคั ซีนจะชว่ ยกระตนุ้ ภูมิคมุ้ กนั แมว้ ำ่ คณุ จะเคยติดเชอื้ ไวรสั โรคนแี้ ละเกดิ ภมู ิคมุ้ กนั ตามธรรมชาติ (natural
immunity) แลว้ กต็ ำม แตข่ อ้ มลู เบอื้ งตน้ ระบวุ ำ่ ภมู ิคุ้มกนั ตามธรรมชาตินีอ้ ยไู่ ม่นานนัก และแตกต่างกันไป
ในแตล่ ะคนอกี ดว้ ย19 ทงั้ นน้ั ผเู้ ชย่ี วชำญยงั ไม่มีข้อมูลว่าภูมคิ ้มุ กันทเี่ กดิ ขึน้ จากการฉีดวัคซนี จะคงอยู่ได้
นานเพียงใด ตอ้ งรอเกบ็ ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ตอ่ ไป นกั วทิ ยำศำสตรก์ ำลงั ศกึ ษำรำยละเอียดของภูมิคมุ้ กนั ตำมธรรมชำติ
และทเ่ี กดิ จำกกำรกระตนุ้ ดว้ ยวคั ซีนอยู่ เพรำะเป็นเรอ่ื งสำคญั ยิ่งสำหรบั ใชร้ บั มอื กบั โรคนี้
วคั ซนี : กำรฉีดวคั ซีนช่วยป้องกนั ไม่ใหป้ ่วยจำกโรคโควดิ -19 ใชห่ รือไม่?
ใช่ วัคซีนจะช่วยป้องกนั ไม่ใหป้ ่ วยจากโรคโควดิ -19
กำรฉีดวคั ซนี คือ กำรสอนใหร้ ะบบภมู คิ มุ้ กนั ของคนนน้ั จดจำ, ตอ่ สู้ และกำจดั ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19 ได้ จงึ
ทำใหผ้ รู้ บั กำรฉีดวคั ซนี ไมป่ ่วยดว้ ยโรคนี้ ซงึ่ เป็นเร่อื งสำคญั เพรำะแมค้ นจำนวนท่ตี ดิ เชอื้ จะแสดงอำกำรป่วยเพียง
เล็กนอ้ ย แตก่ ม็ ีจำนวนหนง่ึ ที่ป่วยหนกั และอำจเสียชวี ิตได้ ทงั้ นี้ มีผปู้ ่วยจำนวนมำกที่ไดร้ บั ผลกระทบในระยะยำว
จำกปอดทีโ่ ดนทำลำย
ไม่มีวิธกี ารใดทจ่ี ะระบไุ ดว้ ่า คุณจะป่ วยมากหรือน้อยเพยี งใด แมว้ ำ่ คณุ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นกล่มุ ควำมเส่ียง
สูงกต็ ำม กำรฉีดวคั ซนี จะชว่ ยปกปอ้ งคณุ ได้
19 https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-
ncov/vaccines/facts.html?CDC_AA_refVal=https%3A%2F%2Fwww.cdc.gov%2Fcoronavirus%2F2019-
ncov%2Fvaccines%2Fvaccine-benefits%2Ffacts.html
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 32 -
วัคซีน : วัคซนี โควิด-19 จะไปเปลีย่ นดีเอน็ เอของคนไดร้ บั วคั ซีนหรือไม่?
ไม่เปลี่ยน วคั ซนี โควิด-19 ท่สี รำ้ งขนึ้ จำก mRNA จะไมอ่ อกฤทธิ์กบั ดเี อ็นเอในรำ่ งกำยของคณุ เลย
วคั ซีนแบบ mRNA (messenger RNA) ถือเป็นวคั ซนี แบบใหม่ ตวั mRNA ในวคั ซีนจะไมเ่ ขำ้ สนู่ วิ เคลียส
ของเซลล์ ซงึ่ เป็นตำแหนง่ ทใ่ี ชเ้ กบ็ ดีเอน็ เอ จงึ ไมอ่ ำจสง่ ผลใดๆ กบั ดเี อน็ เอของรำ่ งกำยของเรำ แตจ่ ะไปชว่ ยกระตนุ้
ใหเ้ กิดภูมิคมุ้ กนั ตอ่ ไวรสั ได้ โดยรำ่ งกำยจะจดจำสำรพนั ธุกรรมของไวรสั ทก่ี อ่ โรคชนดิ นไี้ ด้ และกำจดั ไวรสั ได้
รวดเรว็ และมปี ระสิทธิภำพมำกขนึ้ กวำ่ ทีไ่ มไ่ ดฉ้ ีดวคั ซนี
ส่วนวคั ซีนทส่ี รำ้ งจำกไวรสั ไมอ่ นั ตรำยทผี่ ่ำนกำรปรบั เปล่ียนพนั ธุกรรมใหม้ โี ปรตนี หนำมของซำรส์ -โควี-2
กไ็ มม่ สี ำรพนั ธุกรรมที่จะไปเปล่ียนดีเอน็ เอของคนได้
วคั ซีน : ภูมิคมุ้ กันทไ่ี ด้จำกกำรตดิ เช้อื ไวรัสตำมธรรมชำติกบั ท่ีได้จำกกำรฉดี วัคซนี โควิด-19 แบบใด
อยู่ไดน้ ำนกวำ่ กนั ?
ยงั ไม่ทราบแน่ชดั
ภูมคิ มุ้ กนั ทเ่ี กิดขนึ้ หลงั จำกตดิ เชอื้ และป่วย ซง่ึ เรียกวำ่ “ภมู คิ มุ้ กนั ตำมธรรมชำติ (natural immunity)”
แตกตำ่ งกนั ไปในแตล่ ะโรค และยงั แตกตำ่ งกนั ไปในแตล่ ะคนอกี ดว้ ย
เนอื่ งจำกไวรสั กอ่ โรคโควดิ -19 ยงั เป็นไวรสั ทใี่ หม่ เราจงึ ยังไม่รู้แน่ชดั ว่าภมู ิคมุ้ กันตามธรรมชาติอยูไ่ ด้
นานเทา่ ใดกนั แน่ ขอ้ มลู ท่ีมอี ยใู่ นปัจจบุ นั ชวี้ ำ่ กำรติดเชอื้ ซำ้ ในชว่ ง 90 วนั หลงั จำกกำรตดิ เชอื้ ไวรสั ครง้ั แรกหำได้
ยำก
สาหรับภมู ิค้มุ กนั ทเ่ี กิดจากวัคซีนนั้น ต้องรอข้อมูลการทดลองใช้วัคซนี จริงจึงจะทราบ
วัคซนี : มอี ะไรเป็นส่วนประกอบในวคั ซีนบำ้ ง?
วคั ซนี สำหรบั โควิด-19 ทใี่ ชง้ ำนกนั อยใู่ นปัจจบุ นั แบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ประเภทใหญๆ่ ไดแ้ ก่ วคั ซีนท่มี ี mRNA ของ
ไวรสั ซำรส์ -โควี-2 ที่เป็นตน้ เหตขุ องโรคโควดิ -19 เป็นสว่ นประกอบ และวคั ซีนทมี่ ีโปรตนี หนาม (spike protein)
ของไวรสั ชนิดนที้ ผี่ ่ำนกำรตดั ตอ่ ทำงพนั ธุกรรมใหส้ รำ้ งขนึ้ ทผ่ี ิวของไวรสั อีกชนิดหนง่ึ คอื อะดโี นไวรัส
(adenovirus) ชนิดไมก่ อ่ โรครำ้ ยแรงในคน
สำหรบั สว่ นประกอบอื่นๆ ในวคั ซีนไดแ้ ก่ สำรตำ่ งๆ ทใี่ ชร้ กั ษำสภำพของ mRNA หรือโปรตนี ใหอ้ ยตู่ วั หรือ
สำรทอ่ี ยใู่ นกระบวนกำรผลิตวคั ซีน เชน่ ไขมนั , โซเดยี มคลอไรด,์ โซเดยี มแอซีเตต, โพแทสเซยี มคลอไรด,์ กรดแอซี
ตกิ และนำ้ ตำลซูโครส ฯลฯ (รำยละเอียดของวคั ซีนของบริษทั ไฟเซอร-์ ไบโอเอ็นเทค20 และโมเดอรน์ ำ21)
20 https://www.fda.gov/media/144414/download -
21 https://www.fda.gov/media/144638/download
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 33
วัคซีน : ใครจะได้รบั วัคซนี ก่อนหลงั ตำมลำดบั อยำ่ งไร?
ประเทศตำ่ งๆ อำจจดั ลำดบั ผไู้ ดร้ บั วคั ซีนโควดิ -19 กอ่ นหลงั แตกตำ่ งกนั ในรำยละเอยี ดบำ้ ง แตโ่ ดยหลกั ใหญแ่ ลว้
จะมคี วำมคลำ้ ยคลึงกนั คอื ตอ้ งทำโดยมเี ปำ้ หมำยเพือ่ (1) ลดกำรเสียชีวิตและเจ็บป่วยสำหสั จำกโรคนใี้ หไ้ ดม้ ำก
ทสี่ ดุ (2) ทำใหก้ ลไกในสงั คมยงั คงทำงำนเดินหนำ้ ตอ่ ไปได้ และ (3) ลดภำระตอ่ คนในสงั คม โดยเฉพำะในกลุ่มท่ี
ตอ้ งเผชิญปัญหำเนอื่ งจำกควำมแตกตำ่ งในดำ้ นตำ่ งๆ อยแู่ ลว้
บัณฑติ ยสถานวิทยาศาสตร,์ วิศวกรรม และการแพทยแ์ หง่ ชาตสิ หรัฐ (The US National
Academies of Sciences, Engineering and Medicine) กำหนดดงั นลี้ ำดบั กำรฉีดวคั ซนี จำกกอ่ นไปหลงั 22 ดงั นี้
(คำดวำ่ ในประเทศไทย ก็นำ่ จะใชห้ ลกั กำรคลำ้ ยคลงึ กนั น)ี้
เฟส 1 : บคุ ลำกรกำรแพทยแ์ ละผปู้ ฏิบตั หิ นำ้ ทหี่ นำ้ งำน (รำว 5% ของประชำกร)
เฟส 2 : ผมู้ คี วำมเส่ียงป่วยหนกั หรือเสียชวี ิต และผสู้ งู อำยทุ อ่ี ยกู่ นั หนำแนน่ (รำว 10% ของประชำกร)
เฟส 3: ผทู้ ำงำนสำคญั จำเป็นท่มี คี วำมเสี่ยงสงู , ครู อำจำรย์ และเจำ้ หนำ้ ทสี่ ถำบนั กำรศกึ ษำ, ผไู้ รท้ อี่ ยู่
อำศยั และผตู้ อ้ งขงั , ผสู้ งู อำยทุ ่ีเหลือ และผปู้ ่วยหรอื เป็นโรคทที่ ำใหม้ คี วำมเส่ียงระดบั ปำนกลำง (รำว 30–35%)
เฟส 4: วยั รุน่ , เด็ก และคนวยั ทำงำนทม่ี คี วำมเส่ียงจะตดิ โรค (รำว 40–45% ของประชำกร)
เฟส 5: คนท่ีเหลือทงั้ หมด (รำว 5–15% ของประชำกร)
ทงั้ นี้ คนในเฟส 1 และเฟส 2 อำจมีรำยชอื่ ซำ้ กนั บำ้ ง
วคั ซนี : ระหวำ่ งที่รอรบั กำรฉีดวัคซนี ต้องปอ้ งกันตวั เองอย่ำงไร?
ใหป้ อ้ งกนั ตวั เองตำมมำตรกำรตำ่ งๆ เบอื้ งตน้ คอื
สวมหนำ้ กำกอยำ่ งถกู วธิ ี ครอบปิดจมกู และปำก
ลำ้ งมอื ดว้ ยนำ้ และสบู่ หรอื เชด็ มอื ดว้ ยแอลกอฮอลบ์ อ่ ยๆ
หลีกเล่ียงฝงู ชนหรอื สถำนท่คี นแออดั
พยำยำมเวน้ ระยะหำ่ งจำกบคุ คลอน่ื เทำ่ ท่จี ะทำได้
หลีกเล่ียงกำรอยใู่ นทอ่ี ำกำศถำ่ ยเทไมส่ ะดวก
22 https://www.nature.com/articles/d41586-020-02684-9
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 34 -
วัคซีน : จำเป็นต้องฉีดวัคซนี โควดิ -19 กค่ี รง้ั ?
วคั ซนี สว่ นใหญ่ท่ีใชก้ นั ขณะนแี้ ละวคั ซนี สว่ นใหญท่ กี่ ำลงั ผลิตอยู่ ตอ้ งฉีดรวม 2 ครง้ั (หรอื 2 โดส) เพ่อื ใหเ้ กิด
ประสิทธิภำพสงู สดุ ไมว่ ำ่ จะเป็นวคั ซีนจำกโมเดอรน์ ำ, ไฟเซอรแ์ ละไบโอเอ็นเทค, แอสตรำเซเนกำและ
มหำวทิ ยำลยั ออกซฟ์ อรด์ และสปตุ นิกไฟว์ (Sputnik V) ของรสั เซยี แตก่ ็มวี คั ซีนจำกจอหน์ สนั แอนดจ์ อหน์ สนั ที่
กำลงั ทดสอบระดบั คลินิกอยู่ ซงึ่ อำจจะฉีดแคเ่ พยี งครง้ั เดียวได้
วคั ซีน : หำกฉีดวัคซนี ครบ 2 โดสแล้ว ยงั ตอ้ งใส่หน้ำกำกและหลกี เล่ยี งกำรใกลช้ ดิ อยู่หรือไม่?
ยังควรใสต่ อ่ ไป เรำยงั มีขอ้ มลู นอ้ ยเกินกวำ่ จะสรุปควำมสำมำรถของวคั ซนี ในกำรชว่ ยปอ้ งกนั โควดิ -19 ในโลกจรงิ
นอกจำกนี้ ยงั มปี ัจจยั อ่นื อีกมำกทเ่ี กี่ยวขอ้ ง เชน่ มีคนทีไ่ ดร้ บั วคั ซีนแลว้ มำกนอ้ ยเพยี งใด และไวรสั แพรก่ ระจำยใน
ชมุ ชนดว้ ยวิธีกำรเชน่ ไรแน่ ซง่ึ กระทบตอ่ กำรตดั สินใจในเรอื่ งนี้
เรือ่ งท่สี ำคญั ทีส่ ุดคอื เรำยงั ไมท่ รำบแนช่ ดั วำ่ หำกไดร้ บั วคั ซนี แลว้ ไดร้ บั ไวรสั วคั ซนี จะชว่ ยปอ้ งกนั คนผนู้ นั้
ไมใ่ หแ้ พรก่ ระจำยเชอื้ ไวรสั หรือไม่ ขอ้ มลู ท่ีมำกขนึ้ อำจทำใหเ้ รำตอบคำถำมนตี้ ำ่ งออกไปได้ ขณะนี้จงึ จาเป็ นทท่ี กุ
คนตอ้ งทาตามมาตรการป้องกนั ตวั เองต่อไป
วคั ซนี : ฉดี วคั ซนี โควิด-19 พร้อมกับวคั ซีนอื่นได้หรอื ไม่?
ไม่ควรฉดี วัคซนี โควดิ -19 พร้อมวัคซนี อ่นื ควรรออยำ่ งนอ้ ย 14 วนั หลงั ฉีดวคั ซนี โควดิ -19 กอ่ นจะฉีดวคั ซนี โรค
อนื่ ไมว่ ำ่ จะวคั ซนี ไขห้ วดั ใหญ่หรือวคั ซนี งสู วดั ในทำงกลบั กนั หำกฉีดวคั ซีนอน่ื ไป ควรรออยำ่ งนอ้ ย 14 วนั กอ่ นฉีด
วคั ซนี โควดิ -19 เชน่ กนั
หำกบงั เอญิ ฉีดวคั ซนี โควิด-19 ไป ภำยหลงั ไดร้ บั วคั ซนี อน่ื ยงั ไมค่ รบ 14 วนั ไม่จาเป็ นตอ้ งไปเร่ิมฉีด
วัคซีนโควิด-19 นับเป็ นคร้ังแรกใหม่อกี ครั้ง ใหฉ้ ีดวัคซีนคร้ังท่ี 2 ตามตารางเวลาตอ่ ไป
วัคซนี : หำกมอี ำกำรป่วยอ่นื อยู่ จะสำมำรถฉดี วัคซนี โควิด-19 ไดห้ รอื ไม่?
ผปู้ ่วยจำกอำกำรอ่นื สำมำรถรบั กำรฉีดวคั ซีนโควิด-19 ได้ หำกไมม่ อี ำกำรแพแ้ บบฉบั พลนั หรอื อยำ่ งหนกั อยู่
หรอื ไมเ่ คยแพส้ ำรอืน่ ใดทเี่ ป็นองคป์ ระกอบในวคั ซีนโควดิ -19 อนั ทีจ่ รงิ ผมู้ ีอำกำรป่วยบำงอยำ่ งอยู่ (เชน่ เบำหวำน
หรือควำมดนั ) จดั เป็นผมู้ คี วำมเส่ียงสงู กวำ่ คนท่วั ไปท่ีจะป่วยหนกั หำกติดเชอื้ ไวรสั กอ่ โรคโควิด-19
จงึ ควรพิจำรณำฉีดวคั ซีนดงั กลำ่ ว เพื่อเป็นกำรปอ้ งกนั ไวก้ อ่ น
- หนงั สอื ค่มู อื โควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 35 -
วัคซีน : มีโอกำสที่จะเกิดอำกำรแพ้อย่ำงรนุ แรงจำกวัคซนี โควิด-19 ได้หรือไม่?
อำกำรแพอ้ ยำ่ งรุนแรงจำกวคั ซนี โควดิ -19 อำจเกดิ ขนึ้ ได้ แตพ่ บไดน้ อ้ ยมำก
ยำ : มยี ำทใ่ี ช้รักษำโควดิ -19 หรอื ไม่?
มี
ยำทน่ี ำมำใชร้ กั ษำโรคโควิด-19 ในผปู้ ่วยจำนวนหนงึ่ มีชอื่ ทำงกำรคำ้ วำ่ เวกคลรู ี (Veklury) และมชี ือ่
สำมญั คอื เร็มเดสเิ วียร์ (Remdesivir) ยำนผี้ ำ่ นกำรอนมุ ตั ขิ ององคก์ ำรอำหำรและยำสหรฐั ใหส้ ำมำรถนำมำใช้
กบั ผปู้ ่วยทเ่ี ป็นผใู้ หญห่ รือผปู้ ่วยเดก็ ทม่ี ีอำยตุ งั้ แต่ 12 ปีขนึ้ ไปและมีนำ้ หนกั อยำ่ งนอ้ ย 40 กิโลกรมั ตงั้ แตว่ นั ที่ 22
ตลุ ำคม ค.ศ. 2020 ขณะนที้ ดลองทำงคลินิกเพื่อตรวจสอบประสิทธิภำพและควำมปลอดภยั ของยำนใี้ นผปู้ ่วยที่
เป็นเดก็ อยู่
ในกรณีเรง่ ดว่ นและอยใู่ ตส้ ภำวะจำเป็นบำงอยำ่ ง องคก์ ำรอำหำรและยำของบำงประเทศอำจอนมุ ตั ใิ หใ้ ช้
ยำบำงชนดิ ที่ยงั ไมผ่ ำ่ นกำรอนมุ ตั กิ อ่ นหนำ้ นี้ เชน่ กรณีผปู้ ่วยมีอำกำรหนกั และไมม่ ียำทผี่ ่ำนกำรอนมุ ตั อิ ยำ่ ง
เพียงพอ ขณะนีม้ ียาใหม่หลายชนิดทอ่ี ย่รู ะหว่างการขออนุมัตเิ พ่อื ใช้รักษาโรคโควิด-19
กรณีผปู้ ่วยโควิด-19 ที่มีอำกำรไมห่ นกั สำมำรถพกั รกั ษำตวั ทบี่ ำ้ นได้ หำกมอี ำกำรหำยใจลำบำก ควรเขำ้
รบั กำรรกั ษำตวั ทสี่ ถำนพยำบำล
ยำ : ยำตระกลู คลอโรควินรักษำโควิด-19 ได้จริงหรอื ไม่?
ไฮดรอกซีคลอโรควินซัลเฟต (hydroxycholoroquine sulfate) และคลอโรควินฟอสเฟต (chloroquine
phosphate) บำงชนดิ เป็นยำทีไ่ ดร้ บั อนมุ ตั ใิ หใ้ ชร้ กั ษำโรคมำลำเรยี ขณะที่ไฮดรอกซคี ลอโรควนิ ซลั เฟตยงั อำจใช้
รกั ษำโรคลปู ัส (lupus) และโรคขอ้ อกั เสบรูมำตอยด์ (rheumatoid arthritis) ไดด้ ว้ ย23
ไม่เคยมีการอนุมัตใิ หใ้ ชย้ าเหลา่ นี้รกั ษาผู้ป่ วยโรคโควิด-19 จงึ ไมค่ วรนำมำใชใ้ นกำรปอ้ งกนั หรือ
รกั ษำโรคดงั กลำ่ ว เนอื่ งจำกยงั ไมเ่ คยมกี ำรประเมินควำมปลอดภยั และประสิทธิภำพในกำรรกั ษำในมนษุ ย์
ทง้ั นี้ มีคลอโรควนิ ซลั เฟตทีม่ ีจำหนำ่ ย เพอ่ื ใชร้ กั ษำอำกำรป่วยของปลำในพพิ ธิ ภณั ฑส์ ตั วน์ ำ้ ซงึ่ ไมค่ วร
นำมำใชก้ บั คนหรือสตั วเ์ ลีย้ งและปศสุ ตั วเ์ ชน่ กนั
23 https://www.fda.gov/emergency-preparedness-and-response/coronavirus-disease-2019-covid-19/covid-19-frequently-asked-
questions#drugs
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 36 -
ยำ : ใชย้ ำปฏชิ ีวนะป้องกนั หรอื รกั ษำโรคโควิด-19 ไดห้ รือไม่?
ไม่ได้ ยาปฏิชีวนะใชไ้ ม่ไดก้ ับไวรัส แต่ใชไ้ ดก้ บั การติดเชอื้ จากแบคทเี รีย ยำปฏิชีวนะไมช่ ว่ ยปอ้ งกนั หรือ
รกั ษำโรคโควิด-19 เพรำะโรคนีเ้ กดิ จำกไวรสั ไม่ใชแ่ บคทเี รยี แต่ผปู้ ่ วยบำงรำยอำจตดิ เชอื้ แบคทีเรยี รว่ มดว้ ย ในขณะท่ีป่ วย
จำกโรคโควดิ -19 ในกรณีดงั กลำ่ วนี้ อำจใชย้ ำปฏิชีวนะร่วมในกำรรกั ษำดว้ ย
ยุคหลังวัคซนี โควดิ -19 ห:ลังจำกเร่ิมฉดี วัคซีนในประชำกรจำนวนมำก จะเปน็ อยำ่ งไรต่อไป?
มองกนั วำ่ มีควำมเป็นไปไดห้ ลกั ๆ เป็น 3 แบบ24 (ประยกุ ตจ์ ำกในเอกสำรอำ้ งอิงท่ีมองผลกระทบกบั ประเทศ
องั กฤษ)
แบบท่ี 1 “มองโลกในแงด่ ”ี คือ ภำยหลงั มกี ำรฉีดวคั ซนี ใหป้ ระชำกรของประเทศตำ่ งๆ จำนวนมำก เชน่
องั กฤษมแี ผนจะฉีดวคั ซนี ใหก้ บั ประชำกรรำว 80% ภำยในเดอื นพฤศจิกำยน ค.ศ. 2021 ก็คำดหมำยวำ่ จะเร่ิม
เปิดกำรเดนิ ทำงระหวำ่ งประเทศในชว่ งปลำยปี ของกล่มุ ประเทศท่ปี ระชำกรสว่ นใหญฉ่ ีดวคั ซีนแลว้ โดยอำศยั
รูปแบบ “พาสปอรต์ วัคซนี (vaccine passport)”
หลงั จำกนน้ั ระบบเศรษฐกจิ จะกลบั มำฟื้นตวั ขนึ้ อกี ครงั้ ทงั้ นปี้ ัญหำกำรกระจำยตวั ของวคั ซีนในกล่มุ
ประชำกรประเทศตำ่ งๆ อำจจะยงั ไมห่ มดสิน้ ไป
แบบทสี่ อง “มองโลกในแง่ร้าย” กำรกระจำยวคั ซนี เป็นไปอยำ่ งยำกลำบำกและไมท่ ่วั ถงึ ผลกค็ อื ยงั คงมี
ผตู้ ดิ เชอื้ และเสียชวี ิตจำนวนมำกอยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง มีเพยี งไมก่ ีป่ ระเทศในโลกที่ประชำกรไดร้ บั วคั ซีนทนั เวลำและ
สำมำรถเปิดประเทศไปมำหำสู่กนั ไดภ้ ำยในสิน้ ปีนี้
และแบบทส่ี าม “มองโลกในแงร่ ้ายสุดๆ” สภำวะอำกำศหนำวเย็นชว่ งฤดหู นำวตน้ ปีทำใหส้ ถำนกำรณ์
กำรตดิ เชอื้ แยล่ งไปพรอ้ มๆ กบั ทำใหก้ ำรขนสง่ วคั ซนี ทำไดย้ ำกลำบำก หรอื ทำไมไ่ ดใ้ นหลำยประเทศแถบเขตหนำว
กำรกระจำยของวคั ซนี จงึ เป็นแบบกระจกุ หรืออำจมปี ัญหำกำรผลิตหรอื จดั สง่ วคั ซีนใหผ้ รู้ บั ไมไ่ ดต้ ำมเปำ้ หมำยท่ี
กำหนดไว้ รว่ มกบั อำจเกดิ กำรขำดแคลนวตั ถดุ ิบทใ่ี ชผ้ ลิตวคั ซนี
อำจมปี ัญหำไมส่ ำมำรถกระจำยวคั ซีนใหก้ ลุ่มตำ่ งๆ ตำมควำมจำเป็นและควำมเสี่ยง อำจมีกำรยอื้ แยง่
หรือลกั ลอบซอื้ ขำย หรือแยย่ งิ่ กวำ่ นน้ั คอื บคุ ลำกรกำรแพทยป์ ่วยจนระบบสำธำรณสขุ ของหลำยประเทศล่มสลำย
รบั มือกำรระบำดไมไ่ หว จำเป็นตอ้ งล็อกดำวนอ์ ยำ่ งยำวนำนหรือทำเป็นระยะๆ
24 https://www.telegraph.co.uk/global-health/science-and-disease/three-vaccine-rollout-scenarios-good-bad-ugly/
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีวววิ รรธน์ (สวทช.), หนำ้ 37 -
แตส่ ถานการณจ์ ะเลวร้ายถงึ ทส่ี ุด หากเกดิ มีการกลายพนั ธุจ์ นได้ไวรัสสายพนั ธใุ์ หม่ทว่ี ัคซีนไม่
ช่วยป้องกนั อยา่ งทคี่ วรจะเป็ น ซง่ึ อำจมลี กั ษณะตดิ ตอ่ ไดด้ ยี ง่ิ ขนึ้ งำ่ ยยงิ่ ขนึ้ หรือมีควำมสำมำรถในกำรกอ่ โรค
รุนแรงยง่ิ ขนึ้ อยำ่ งใดอยำ่ งหนง่ึ เป็นอยำ่ งนอ้ ย แมค้ วำมเป็นไปไดแ้ บบนจี้ ะตำ่ แตไ่ มถ่ งึ กบั ไมเ่ ป็นไปไดเ้ สียทีเดียว
มีความเป็ นไปไดม้ ากว่า วัคซนี จะช่วยทาใหเ้ กิดภมู ิค้มุ กนั หมู่กับไวรัสสายพนั ธุท์ แี่ พร่หลายอยูใ่ น
ปัจจบุ นั ภายใน 12–18 เดอื น และสถานการณจ์ ริงอาจจะอย่กู ่งึ กลางระหว่างแบบที่ 1 กบั 2
*****
- หนงั สอื ค่มู ือโควิด-19, ดร.นำชยั ชีววิวรรธน์ (สวทช.), หนำ้ 38 -