เผด็ ร้อน
เป็นยา
รูไ้ หมวา่ โรคฮติ อยา่ งโรคเบาหวาน
โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจขาดเลือด
และโรคหลอดเลอื ดสมอง
ท้งั หมดล้วนมีสาเหตใุ หญ่มาจาก
การบริโภคทีผ่ ิดหลักโภชนาการ
เชน่ ที่เรานยิ มทานอาหารฟาสต์ฟู้ด
หรอื อาหารฝร่งั ซงึ่ มรี สหวานมนั
และเต็มไปดว้ ยแป้งและไขมนั
รวมถึงมีพฤติกรรมการทานอาหาร
ทห่ี า่ งไกลจากสิง่ ทเ่ี รยี กวา่ สขุ ภาพดี
ทัง้ ท่ีจริงแลว้ อาหารไทยและรสชาตแิ บบไทย
ถกู ออกแบบมาให้เหมาะสมกบั คนไทยเราอยแู่ ลว้
เผ็ดรอ้ น
เป็นยา
รสเผ็ดร้อนแบบไทย
ดว้ ยสภาพภมู อิ ากาศของเมอื งไทยเราเปน็ เขตรอ้ นชนื้ ทตี่ ง้ั อยใู่ กลเ้ สน้ ศนู ยส์ ตู ร เรยี กวา่ แทบ
ไมม่ ฤี ดหู นาวกบั เขาเลย จะมกี แ็ ตฤ่ ดรู อ้ นและฤดฝู นทย่ี าวนานพอจะนบั เปน็ ฤดกู าลได้ ซง่ึ ในเมอ่ื
เมอื งไทยเปน็ เมอื งรอ้ น ธาตขุ องคนไทยจงึ เหมาะกบั รสทก่ี ำ� เนดิ ในฤดรู อ้ น ซงึ่ กค็ อื “รสเผด็ รอ้ น”
ธรรมชาติของคนไทยคุ้นเคยกับรสเผ็ดร้อนมาแต่โบราณ และได้พิสูจน์มาหลายชั่วอายุคนแล้ว
วา่ ดีกับสขุ ภาพโดยรวมของเรา ต่างจาก “รสหวาน” ทมี่ กี ำ� เนิดในฤดหู นาว ซ่งึ เปน็ ธาตขุ องคน
เมืองหนาว และด้วยเหตุท่ีคนไทยนิยมบริโภคตามวัฒนธรรมตะวันตกที่เน้นแป้งและรสหวาน
มัน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ท�ำให้คนไทยเป็นโรคยอดฮิต อย่างโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง
อกี อยา่ งคือ โดยทว่ั ไปคนมกั เข้าใจว่า รสเผด็ รอ้ นเปน็ รสประจำ� ธาตุไฟเทา่ นั้น แตอ่ นั ที่จริงแลว้
สมุนไพรรสเผ็ดร้อนมีคณุ สมบัติบำ� รุงธาตไุ ดท้ ุกธาตุ
รสเผด็ รอ้ นดี
อย่างไร
รแสกโเ้ รผค็ดลรม้อจนกุ เมสีสยี รดรขพบั คลุณมเขดบั ่นเหคงืออื่ -
ช่วยย่อยอาหาร และช่วยให้
เจริญอาหาร ช่วยให้ปอดและ
ล�ำไส้ใหญ่ท�ำงานปกติ กระตุ้น
การไหลเวียนเลือด อีกทั้งยัง
บำ� รุงธาตุได้ทุกธาตุ
เผ็ดรอ้ น
เป็นยา
ตวั อย่างอาหารไทย “เผด็ รอ้ น”
มากประโยชน์
นำ�้ พริก เมนเู ผด็ ร้อนคบู่ า้ น
อาหารเผด็ รอ้ นทอี่ ยคู่ โู่ ตะ๊ รบั ประทานอาหารของคนไทย
แทบทุกมื้อมาแต่ไหนแต่ไรก็คือ น�้ำพริก ที่เคียงคู่กับผักสด
ผักลวก ปลาน่ึง เมนูง่ายๆ ท่ีมากคุณประโยชน์ เพราะ
วัตถุดิบที่อยู่ในน�้ำพริกล้วนเต็มไปด้วยสมุนไพรรสเผ็ดร้อน
ไมว่ า่ จะเป็นพรกิ ข้หี นู กระเทียมไทย กระชาย หอมแดง ตะไคร้ เป็นตน้
มีผลจากการศึกษาพบว่า น้�ำพริก ซ่ึงประกอบด้วยกลุ่มสมุนไพรเผ็ดร้อนนั้นมีฤทธ์ิต่อต้าน
สารอนมุ ลู อสิ ระและชะลอความชรา สามารถกำ� จดั เชอ้ื โรคในระบบทางเดนิ อาหารไดห้ ลายชนดิ
กระตุน้ การไหลเวียนโลหติ และระบบการหายใจ ช่วยสร้างภูมคิ ุม้ กันโรค อกี ท้งั ยงั ชว่ ยลดปจั จัย
เสีย่ งของการเกดิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคทางสมอง
แม้ทุกวันนี้ด้วยชีวิตปัจจุบันอันแสนรีบเร่ง ท�ำให้คนไม่มีเวลามาโขลกน้�ำพริกทานเอง แต่
เมนนู ำ�้ พรกิ กย็ งั เปน็ เมนนู ยิ มตามรา้ นอาหารและตลาดทใ่ี หค้ นหาซอ้ื กลบั ไปทานทบ่ี า้ น นำ�้ พรกิ
จึงเป็นเมนูที่ควรมีคู่บ้าน เพราะนอกจากจะมากด้วยสมุนไพร ยังช่วยให้เราเจริญอาหาร ทาน
ผักได้มากขนึ้ ที่ส�ำคญั ไมอ่ ว้ น!
ส้มต�ำ แซ่บสขุ ภาพดี
ส้มต�ำ มีส่วนผสมของผักและสมุนไพรท่ีเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น
มะละกอ กระเทยี ม มะเขอื เทศ พรกิ ขหี้ นู ถวั่ ฝกั ยาว ซง่ึ มสี รรพคณุ ทางยาทช่ี ว่ ยสรา้ ง
ภูมติ ้านทานให้กบั รา่ งกาย ชว่ ยตอ่ ต้านอนุมูลอสิ ระ และชะลอวยั
แต่การทานส้มต�ำให้ได้ประโยชน์ต้องค�ำนึงถึงความสะอาดของวัตถุดิบเป็น
ส่ิงส�ำคัญ เนื่องจากเป็นเมนูที่ไม่ผ่านความร้อน อาจเส่ียงท�ำให้เกิดท้องเสียได้ โดย
เฉพาะต้องระวังเชื้อราอย่าง ‘อะฟลาทอกซิน’ ท่ีมักอยู่ในถั่วลิสง กุ้งแห้ง กระเทียม
ท่ีมีโทษต่อตับ และไม่ควรทานส้มต�ำเกิน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากมีส่วนผสมของ
ปูดองเค็มหรอื ปลารา้ ควรทานเพยี งอาทติ ย์ละ 1 ครงั้ เทา่ นัน้ ท่ีสำ� คัญส่วนผสมนต้ี ้อง
ตม้ ให้สุกกอ่ น
เผด็ ร้อน
เป็นยา
แกงมัสมนั่ รสรอ้ นแรง
แกงมสั ม่นั มีสว่ นผสมของผงยี่หร่าคั่ว
รสเผด็ หอมกรนุ่ ทง้ั ยังมพี รกิ แหง้ กบั
พริกไทย รวมถึงกลมุ่ เครื่องเทศไทย
รสเผ็ดรอ้ นอ่นื เช่น กระเทยี มไทย ตะไครซ้ อย
ข่าแก่ หอมแดง หอมใหญ่ รากผักชี อบเชย ลูกกระวาน ใบกระวาน กานพลู ฯลฯ
ซง่ึ ใหค้ ณุ คา่ ทางโภชนาการเตม็ ทจ่ี ากโปรตนี และไขมนั ของเนอื้ สตั วท์ ถ่ี กู ชว่ ยยอ่ ยดว้ ย
กลุ่มเคร่ืองเทศรสเผด็ รอ้ น จึงทานไดโ้ ดยไมม่ ีอาการทอ้ งอดื เฟอ้ จุกเสียดจากอาหาร
ตม้ ยำ� ก้งุ หมอ้ ยาใหญ่
เปน็ เมนทู เี่ สมอื นเปน็ หมอ้ ยาหมอ้ ใหญท่ อ่ี ดุ มไป
ด้วยสมุนไพรนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนู
ตะไคร้ ใบมะกรดู ขา่ รากผกั ชี ทแี่ ตล่ ะชนดิ ลว้ น
มสี รรพคณุ ดแู ลสขุ ภาพรา่ งกาย อาทิ ใบมะกรดู
ช่วยแก้จุกเสียด ขับลม พริกช่วยบ�ำรุงธาตุ
เปน็ ต้น
หมยู า่ งน้�ำตก เลศิ กวา่ บาร์บีควิ ฝร่งั
หมูย่างน้�ำตกอุดมด้วยกลุ่มสมุนไพรเผ็ดร้อนของพริกข้ีหนูสดผสมพริกป่น
กลมกลอ่ มดว้ ยหอมแดง ตน้ หอม ผกั ชี ใบสะระแหน่ คลกุ เคลา้ มะนาว รวม
ถงึ คลกุ กบั ขา้ วคัว่ เพือ่ ชว่ ยดดู ซับแกส๊ ในชอ่ งทอ้ งที่เกดิ จากหมูนำ้� ตกไม่ย่อย
เม่ือเทียบกันแล้ว สเต็กบาร์บีคิวของฝรั่งที่ทาเนยแสนเล่ียนจ้ิมกับซอส
มะเขอื เทศนา่ จะตอ้ งหลกี ทางให้กับหมยู า่ งน�ำ้ ตก แตจ่ ะใหด้ คี วรเลอื กทาน
หมูไรม้ ันดว้ ย
เผด็ รอ้ น
เปน็ ยา
วัตถดุ ิบเผด็ รอ้ นง่ายๆ ท่คี วรค่มู อ้ื อาหาร
ปรงุ อาหารแตล่ ะมือ้ อยา่ ลมื ส่วนผสมของสมุนไพรมากประโยชน์เหลา่ นี้
พริก สารแคปไซซนิ
มีสรรพคุณเป็นยาขับลม บ�ำรุงธาตุ ซงึ่ เปน็ สารหลกั ท่ีให้ความเผด็ ในพริก
ช่วยย่อยอาหาร ท�ำให้เจริญอาหาร พบมากตรงสว่ นท่ีเปน็ ไส้ของพริก
บรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้�ำมกู ช่วยลด แต่ไมพ่ บในเมล็ดดงั ทเี่ ข้าใจกัน
การอุดตันของหลอดเลือด ลดไขมันใน
เลอื ด อกี ทั้งลดความเสย่ี งของโรคมะเร็ง และพบมากตามลำ� ดบั ดงั นี้
ดว้ ยสารทชี่ อื่ วา่ แคปไซซนิ (Capsaicin) พริกข้หี นู พริกเหลือง พริกชฟี้ ้า
ท่ีมักอยู่ภายในผลหรือภายในเม็ดพริก
รวมทั้งสีของพริกที่ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง พรกิ หยวก และพริกหวาน
สสี ม้ และสแี ดง คอื สารตง้ั ตน้ ของวติ ามนิ
เอท่ีช่วยบ�ำรุงสายตา อีกท้ังในพริกยังมี
วิตามินซีมากกว่าในผลส้มเสียอีก แต่
วติ ามนิ ซใี นพรกิ จะสลายตวั เมอื่ ถกู ความ
ร้อน ดงั น้นั ถ้าตอ้ งการวิตามนิ ซจี ากพรกิ
จะต้องกินพริกสด
กระเทียมไทย
มสี รรพคณุ ชว่ ยลดความดนั โลหติ ลดไขมนั ในเลอื ด บำ� รงุ ไตและตบั ออ่ นใหแ้ ขง็ แรง
ชว่ ยเหนยี่ วนำ� ใหว้ ติ ามนิ บ ี 1 ออกฤทธบิ์ ำ� รงุ ระบบประสาท ชว่ ยยบั ยงั้ หลอดเลอื ดแดง
แข็งตัว และป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด ช่วยให้ระบบโลหิตสูบฉีดไหลเวียน
ได้ดี แกไ้ ข้หวดั ช่วยบ�ำรุงต่อมลกู หมาก บำ� รงุ ก�ำลงั
ข้อควรระวงั
ไม่ควรกินกระเทียมขณะท้องว่าง เพราะจะท�ำให้ระคายเคืองกระเพาะล�ำไส้
และหากทานมากเกนิ ไปจะทำ� ใหม้ ีอาการรอ้ นในและเจ็บคอได้
ต�ำรบั ยาในครวั เรือน
ทานเปน็ ยา โดยใชก้ ระเทยี มสดสบั ละเอยี ดขนาด 1 ใน 4 ถงึ ½ ชอ้ นชา ทานพรอ้ ม
อาหารวนั ละ 2-3 มอื้ และใหส้ งั เกตวา่ เมอื่ ทานไปแลว้ มอี าการเผด็ รอ้ นในรา่ งกายมาก
ไปหรอื ไม่ ถ้าร้อนในมากควรหยดุ
ใช้รักษากลากเกลอื้ น โดยขย้กี ระเทยี มแลว้ ทาไดเ้ ลย หรอื ตำ� เอาน้�ำทากไ็ ด้
เผด็ รอ้ น
เป็นยา
หอมแดง
มสี ารไบโอฟลาโวนอยดท์ ช่ี อ่ื เควอซติ นิ (Quercetin)
ทมี่ ฤี ทธ์ติ อ่ ตา้ นอนมุ ลู อิสระ อกี ทั้งยังเป็นอาหารสมุนไพร
ในครัวเรือนที่คนสมัยก่อนใช้รักษาโรคหวัดและภูมิแพ้
คัดจมูก โดยกินหอมหัวแดงพร้อมอาหารเล็กน้อยวันละ
½-1 หัวเท่าน้ัน ก็จะท�ำให้ร่างกายสดชื่นและสามารถ
ต้านทานโรคหวัดได้
ต�ำรบั ยาในครัวเรือน
ชว่ ยลดอาการเปน็ หวดั มีน้ำ� มกู ได้ 3 วธิ ีดังนี้
• กินสด เอาหอมหัวแดงขนาดเล็กๆ 1-3 หวั ซอยเป็นแว่นบางๆ โรยทานกบั ข้าวและอาหาร
หากมีอาการเป็นหวัดคัดจมูกให้ทานทุกมื้อ ส�ำหรับคนที่ไม่ชอบหอมหัวแดง ลองทาน
ตน้ หอมแทนดู
• สูดดม นำ� หอมแดงมาทุบพอแหลกแลว้ สูดดม หรอื หอ่ ผา้ วางไวใ้ กล้ตัว หรอื วางบนหวั นอน
ตอนกลางคืน ทำ� แบบนี้หลายคืนจะช่วยลดอาการหวัดคดั จมกู แต่วธิ ีนอ้ี าจเจอกบั ไอของ
หวั หอมแดงท่ีจะทำ� ให้แสบตาจนน�ำ้ ตาไหลได้ จึงต้องระวัง
• รมไอนำ้� ตม้ น้ำ� ให้เดือดในหม้อขนาดกลาง น�ำหอมแดง 1 กำ� มอื โขลกพอแหลกใส่ลงไป
ปดิ ฝาหมอ้ ตม้ ตอ่ สกั 5 นาที ยกหมอ้ ลงจากเตา เอาผา้ คลมุ ศรี ษะและหมอ้ ไว้ จากนนั้ คอ่ ยๆ
เปิดฝาหม้อสดู ดมไอน�้ำและกลิ่นไอจากหัวหอมแดงจนกว่าไอจะหมด จะชว่ ยให้จมกู โลง่
และขับน้ำ� มูกได้
ข้อควรระวงั
ต้องค่อยๆ เปิดฝาหม้อ ไม่เช่นนั้นความร้อนของไอน้�ำจะร้อนเกินไป ท�ำให้ลวกผิวได้
ตะไคร้
มสี รรพคุณแก้หวัด แก้ปวดศรี ษะ แกไ้ อ แก้ทอ้ งอืด
ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ขับลมในล�ำไส้ บ�ำรุงธาตุไฟ
ทำ� ใหเ้ จรญิ อาหาร แกป้ วดกระเพาะ แกท้ อ้ งเสยี แกป้ วด
ขอ้ ปวดเม่อื ย ขบั ปัสสาวะ และประจำ� เดอื นมาผดิ ปกติ
ต�ำรบั ยาในครวั เรอื น
แก้ท้องอืด โดยทุบตะไคร้แก่ 1 ก�ำมือให้พอแหลก แล้วต้มเอาน�้ำดื่ม หรือใช้ตะไคร้ท้ังต้น
และรากรวม 5 ตน้ สับเปน็ ท่อน ตม้ นำ�้ 3 สว่ น ให้เหลอื 1 สว่ น แล้วรบั ประทานครง้ั ละ 1 ถว้ ยแกว้
แม้ว่าอาหาร “รสเผ็ดร้อน” จะดีกับธาตุของคนไทยมากกว่า แต่ไม่ว่าอาหารรสชาติใด ก็ควร
ทานใหร้ า่ งกายเกดิ ภาวะสมดลุ ไมม่ ฤี ทธริ์ อ้ นหรอื เยน็ ไป อาหารทใ่ี หฤ้ ทธร์ิ อ้ นใหพ้ ลงั งานและกระตนุ้
ใหร้ า่ งกายมชี วี ติ ชวี ากจ็ รงิ แตถ่ า้ มากเกนิ กจ็ ะกระตนุ้ รา่ งกายใหท้ ำ� งานอยตู่ ลอดเวลา ซงึ่ ไมเ่ ปน็ ผลดี
กับร่างกายและอาจท�ำให้เกิดโรค เช่น โรคกรดในกระเพาะอาหาร, โรคไต, เกิดสิวได้ง่าย (ต่อม
ไขมนั ทำ� งานหนกั กวา่ ปกติ) หรือโรคหัวใจ (มฤี ทธิ์กระต้นุ การไหลเวียนเลือดมากเกินไป ทำ� ใหห้ วั ใจ
ทำ� งานหนกั ) เปน็ ต้น
เผด็ ร้อน
เป็นยา
เรียบเรยี งขอ้ มลู บางส่วนจาก
หนังสือรสเด็ดเผ็ดร้อนเลิศคุณค่ายาและอาหารไทย เขียนโดย
สันติสุข โสภณสิรแิ ละวีรพงษ์ เกรยี งสนิ ยศ
ขอ้ มูลจากเวบ็ ไซตส์ ำ� นักงานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสรมิ
สุขภาพ www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจากเว็บไซต์มลู นธิ ิหมอชาวบา้ น www.doctor.or.th
ขอ้ มลู จากเว็บไซตน์ ิตยสารชวี จิต www.cheewajit.com
สามารถสืบค้นข้อมูลจากหนงั สอื เพิม่ เตมิ ได้ท่หี ้องสร้างปัญญา
ศนู ย์เรยี นรูส้ ุขภาวะ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ (สสส.)
หรือดาวนโ์ หลดได้ท่ี resource.thaihealth.or.th โทร. 02-343-1500 กด 2