The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัย ม.3 เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by S. Yaowalak, 2022-07-11 01:43:58

วิจัย ม.3 เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วิจัย ม.3 เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วิจยั ในชน้ั เรยี น
เรือ่ ง การพฒั นาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนวชิ าสงั คมศกึ ษาพื้นฐาน เรือ่ งวนั สำคัญทาง
พระพทุ ธศาสนา ของนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนเทพอดุ มวิทยา อำเภอสงั ขะ

จงั หวัดสรุ ินทร์ ปกี ารศกึ ษา 2564

จัดทำโดย
นางสาวเยาวลกั ษณ์ ซอื่ สัตย์

ตำแหน่ง ครู

โรงเรยี นเทพอดุ มวทิ ยา
อำเภอสงั ขะ จงั หวัดสุรินทร์
สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาสุรินทร์

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสงั คมศึกษาพื้นฐาน เรื่องวันสำคัญทางพระพทุ ธศาสนา ของ
นักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นเทพอดุ มวทิ ยา อำเภอสงั ขะ จงั หวัดสุรนิ ทร์ ปีการศึกษา 2564

1. ความเปน็ มาและความสำคญั ของปญั หา
การศึกษาของชาติ ถือเป็นกลไกสำคญั ในการพฒั นาคุณภาพคนเพ่ือสรา้ งคนในชาตใิ ห้เป็นคนดีมีปัญญามี

ศักยภาพพร้อมที่จะแข่งขันและร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในเวทีโลกทั้งในด้านการงานและการดำเนินชีวิตซึ่งใน
ปจั จุบันมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ทัง้ ทางด้านเศรษฐกิจการเมืองสงั คมและความเจริญกา้ วหน้าทางวิทยาการ
ดา้ นตา่ งๆของโลกยุคโลกาภิวตั น์อนั มีผลกระทบต่อการเปลยี่ นแปลงทางสงั คมและเศรษฐกิจของทุกประเทศรวมท้ัง
ประเทศไทยด้วยจึงมคี วามจำเปน็ ทจ่ี ะต้องเสริมสร้างคุณภาพของประชากรใหพ้ ร้อมกับการเปลีย่ นแปลงมีหลักการ
ทางความคิดรู้จักไตร่ตรองและเลือกสรรสิ่งที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงให้แก่ตนเองและส่วนรวมการเตรียมคนให้มี
ลักษณะมองไกลคิดไกลใฝ่ดีหรือการเตรียมคนเพื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง
รวดเรว็ จึงจำเป็นตอ้ งให้การศึกษาที่มีคณุ ภาพ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน 2542

พระราชบัญญตั ิการศึกษาแหง่ ชาตพิ ุทธศักราช 2542 มาตรา 6 ไดก้ ำหนดใหก้ ารจดั การศกึ ษาต้องเป็นไป
เพือ่ พฒั นาคนไทยใหเ้ ป็นมนษุ ยท์ ี่สมบูรณ์ทง้ั ร่างกายจิตใจสติปัญญาความรแู้ ละคุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรม
ในการดำรงชวี ติ สามารถอยู่ร่วมกับผูอ้ ่ืนได้อย่างมคี วามสุขดังนัน้ หลักสตู รการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544
จึงได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้โดยยึดหลักผู้เรียนสำคัญที่สุด ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตาม
ธรรมชาตแิ ละเต็มศกั ยภาพสถานศึกษาตอ้ งจดั กระบวนการเรียนรูท้ ่ีมุง่ การฝึกทักษะกระบวนการคิดการจัดการการ
เผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้ป้องกันและแก้ไขปัญหาการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จาก
ประสบการณ์จริงฝึกการปฏิบัติให้คิดเป็นทำเปน็ รักการอ่านและเกดิ การใฝ่รู้อย่างต่อเน่ืองผสมผสานสาระความรู้
ด้านตา่ งๆอย่างได้สดั ส่วนสมดุลกนั ปลกู ฝังคุณธรรมค่านยิ มทดี่ ีงามและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไว้ในทกุ กลุ่มสาระ
การเรียนรอู้ ำนวยความสะดวกเพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้และมีความรอบรรู้ วมท้งั สามารถใชก้ ารวจิ ัยเปน็ สว่ นหน่ึง
ของกระบวนการเรียนรู้โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียนจัดการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทกุ
สถานท่ี กระทรวงศึกษาธกิ าร 2546

จากแนวคิดทกี่ ล่าวมาข้างตน้ ผู้ศกึ ษามีความสนใจท่จี ะนำรูปแบบการเรียนการสอนในรปู แบบของ IDPRS
Model ซ่ึงเปน็ การจัดการเรียนรู้ที่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญและสง่ เสรมิ พฒั นาการของผู้เรียนทั้งด้านร่างกายอารมณ์
สังคมและสติปัญญาอันจะส่งผลให้นักเรียนได้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการกลุ่มโดย
นักเรยี นจะต้องมคี วามรว่ มมอื ในการเรียนรเู้ พื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นรู้ให้สูงผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดและ
ปลูกฝงั คุณธรรมจริยธรรมทจี่ ำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ติ เพอ่ื ใหเ้ ป็นคนดีของครอบครัวสงั คมและเป็นกำลงั สำคัญในการ
พัฒนาประเทศชาติในอนาคต

วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั
1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เรื่องวัน
สำคัญทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทพอุดมวทิ ยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 โดยใชร้ ูปแบบ IDPRS Model
2. เพือ่ เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวชิ าสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เรือ่ งวัน
สำคัญทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรยี นเทพอุดมวทิ ยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 ก่อนและหลงั โดยใช้รปู แบบ IDPRS Model
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมเรื่องวัน
สำคัญทางพระพุทธศาสนาของนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรยี นเทพอดุ มวิทยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ภายหลังการเรียนโดยใชร้ ปู แบบการเรยี นการสอนแบบ IDPRS Model

ขอบเขตของการศึกษา
ประชากรและกลมุ่ เปา้ หมาย

ประชากร เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนเทพอุดมวิทยา
อำเภอสังขะจังหวัดสุรนิ ทรจ์ ำนวนท้งั หมด 31 คน

กลุ่มเป้าหมาย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
โรงเรยี นเทพอุดมวิทยา อำเภอสังขะ จงั หวดั สุรินทร์ สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาสุรนิ ทร์
ระยะเวลา

ระยะเวลาในการศกึ ษาภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ใช้เวลาสอนจำนวน 5 ช่วั โมง
ตัวแปรท่ีศกึ ษา

ตวั แปรต้น คอื การจดั กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้รูปแบบ IDPRS Model
ตวั แปรตาม

ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นรใู้ นรายวชิ าพระพุทธศาสนาของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
และ ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบ IDPRS
Model
ขอบเขตของเน้อื หา ในการศกึ ษาครงั้ น้ีประกอบด้วยเนอ้ื หาตามหลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา
และวฒั นธรรมฉันไม่ยอมศึกษาปีที่ 3 สาระที่ 1 ศาสนาศีลธรรมและจรยิ ธรรมมาตรฐานส 1.1 รูแ้ ละเขา้ ใจประวตั ิ

ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั
1. นักเรยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเพม่ิ ข้นึ จากกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ IDPRS

Model
2 เป็นแนวทางสำหรับครูในการพัฒนาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและ

วฒั นธรรมอันจะก่อใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อการจัดการเรยี นรขู้ องผเู้ รียนโดยตรง

วิธกี ารดำเนนิ การวจิ ัย
1. กลุ่มเป้าหมายกลุม่ เป้าหมายในการทำวิจัยในช้ันเรียนครั้งนี้คอื นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียน

เทพอดุ มวทิ ยาอำเภอสงั ขะจังหวัดสรุ ินทร์ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2560 จำนวน 612 คนได้มาโดยการเลอื กแบบ
เจาะจง

2. การออกแบบการวิจยั การวิจยั ในช้ันเรียนครั้งนี้เปน็ การวจิ ัยเชิงทดลองโดยไดท้ ำการทดลองกับนักเรียน
กลมุ่ เดยี วมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี นตามสญั ลกั ษณ์

3. เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการวจิ ัยการวจิ ัยในชนั้ เรยี นเป็นการวจิ ัยเชงิ ทดลองเครื่องมอื ทีใ่ ช้ในการทำวิจัยไดแ้ ก่
3.1 แผนการสอนเป็นแผนที่คณะผู้วิจัยสร้างขนึ้ สำหรับใช้ในการวิจัยจำนวน 5 แผนโดยแผนที่ 1

เรื่องวันวิสาขบูชาและวันมาฆบูชาแผ่นที่ 2 เรื่องวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาและแผนที่ 3 เรื่องวันออก
พรรษา

3.2 นวัตกรรมในการวจิ ัยในชั้นเรียนครั้งนี้ใช้รูปแบบ IDPRS Model วิชาสาระการเรยี นรูส้ ังคม
ศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม เรอ่ื งวนั สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา เปน็ นวตั กรรมในการวิจัยในครงั้ นี้

4. การเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้คณะผู้วิจัยได้ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวม
ข้อมลู ของนักเรียนกลุ่มเดียวโดยมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนดังนี้

4.1 ทำหนังสือขออนุญาตผู้บริหารโรงเรียนทำความเข้าใจกับคณะครูในโรงเรียนและแจ้ง
วัตถปุ ระสงคก์ บั นักเรียนกลุ่มทดลอง

4.2 ทำการทดสอบกอ่ นเรยี นดว้ ยแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นโดยใชเ้ วลาในคาบ
4.3 ดำเนินการสอนตามแผนท่กี ำหนดไว้โดยใช้เวลาจำนวน 6 คาบคาบละ 1 ชว่ั โมงระหว่างวันที่
4.4 เมื่อดำเนินการทดลองเสร็จสิ้นตามเวลาที่กำหนดก็มีการทำแบบทดสอบหลังเรียนด้วย
แบบทดสอบฉบับเดียวกันกบั การทดสอบก่อนเรียนในวนั ที่
4.5 การทดสอบเสร็จสน้ิ ลงก็ทำการวัดความพึงพอใจในการเรียนกับนักเรียนโดยแบบวัดความพึง
พอใจทคี่ ณะผ้จู ดั ทำสรา้ งขึ้นจำนวน 5 ข้อโดยใช้เวลา 20 นาที
5. การวิเคราะห์ข้อมูลคณะผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเองโดยใช้เครื่องมือประกอบกับ
การศึกษาตัวอยา่ งจากเอกสารวิชาการและงานวิจัยที่เป็นแนวทางคล้ายกนั ตามรายละเอยี ดดังต่อไปนี้

5.1 วิเคราะห์คะแนนสอบก่อนเรียนโดยใช้การแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละของนักเรียนท่ี
ผา่ นเกณฑ์และไม่ผ่านเกณฑร์ วมท้ังหาค่าเฉล่ียและสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน

5.2 วิเคราะห์ วิเคราะหค์ ะแนนการ วเิ คราะห์คะแนนการสอบหลัง วิเคราะห์คะแนนการสอบหลัง
เรียนโดยการแจกแจงความถี่หาค่าร้อยละของนักเรียนทีผ่ ่านเกณฑ์และไม่ผ่านเกณฑ์รวมทั้งหาค่าเฉลี่ยและส่วน
เบย่ี งเบนมาตรฐาน

5.3 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ค่าสถิติ t test
กรณกี ลมุ่ ตวั อย่างไม่เป็นอิสระต่อกนั

5.4 วิเคราะห์คะแนนจากแบบวัดความพึงพอใจโดยการแจกแจงความถี่และการหาค่าเฉลี่ยและ
ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน

สรปุ ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล
การวจิ ัยในช้นั เรียนครั้งนี้สามารถสรุปผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลได้ดังน้ี

1. การศกึ ษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นวิชาสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมเร่ืองวันสำคัญ
ทางพระพุทธศาสนาที่เรียนโดยรูปแบบการเรียนการสอน IDPRS Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเทพอดุ มวิทยา อำเภอสงั ขะ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 โดยการแจกแจงความถ่ี หา
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนเรียนและหลังเรียน ผลปรากฏว่ากรณีก่อนเรียนผู้มีผู้ผ่าน
เกณฑค์ ิดเปน็ ร้อยละ ซง่ึ อยูใ่ นการเรียนอยูใ่ นระดบั ตำ่ และกรณหี ลังเรียนมีผ้ไู มผ่ ่านเกณฑค์ ิดเป็นร้อยละ

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรยี นวิชาสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา
และวฒั นธรรมเร่ืองวันสำคญั ทางพระพทุ ธศาสนาของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนเทพอดุ มวิทยา อำเภอ
สังขะจังหวัดสุรินทร์ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบ IDPRS Model พบว่าผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนหลังเรยี นสงู กว่ากอ่ นเรยี นอยา่ งมนี ัยยะสำคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั 0.05 หรอื เช่อื ถอื ได้ร้อยละ 95

3. ผลการศกึ ษาความพงึ พอใจในการเรียนวิชาสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม เร่ืองวัน
สำคญั ทางพระพุทธศาสนา ของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นเทพอดุ มวทิ ยา อำเภอสงั ขะ จงั หวัดสุรินทร์
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบ IDPRS Model พบวา่ โดยภาพรวมนักเรียนมีความพงึ พอใจในการ
เรียนอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อแล้วจะพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 4 ข้อคือ 1
ด้านเนื้อหาในการเรียนน่าสนใจเหมาะสมและเข้าใจง่ายด้านสื่อมีความหลากหลายน่าสนใจและเหมาะสมกับ
กระบวนการเรียนการสอน ดา้ นเคร่ืองมอื ในการวัดประเมินผลและเกณฑใ์ นการวัดประเมินผล มคี วามชดั เจนด้าน
ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนหลงั เรยี นโดยใช้รูปแบบ IDPRS Model เปน็ ที่น่าพอใจและนักเรียนมีความพงึ พอใจระดับ
ปานกลาง 1 ข้อคอื ดา้ นกจิ กรรมการจดั การเรียนการสอนมคี วามเหมาะสมและครูกบั นักเรยี นเปน็ กนั เอง

ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรียนโดยการใช้แผนท่ี ๒๕ หนว่ ยวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา เรอ่ื งวนั

สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา รหสั วิชา ส๒๓๑๐๒ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

เลขท่ี ช่ือ - สกุล กิจกรรม
กิจกรรมท่ี ๒.๑ (๑๒) ใบกิจกรรม ๒.๒ (๑๐) กิจกรรม ๒.๓ (๑๐)

๑ เดก็ ชายกฤษณพงศ์ ราชรักษ์ ๘ ๑๐ ๑๐

๒ เดก็ ชายกันตภณ สุภิษะ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๓ เดก็ ชายจีราวัฒน์ ปัดภัย ๑๒ ๑๐ ๑๐

๔ เดก็ ชายชยั ศิริ นอ้ งดี ๑๒ ๑๐ ๑๐

๕ เดก็ ชายธราเทพ แม่นผล ๑๒ ๑๐ ๑๐

๖ เดก็ ชายธรี พล สนนา ๘ ๑๐ ๑๐

๗ เด็กชายธีรพฒั น์ จงสุข ๑๒ ๑๐ ๑๐

๘ เด็กชายพัทธดนธ์ พลศรี ๘ ๑๐ ๑๐

๙ เด็กชายภทั รพล จำนงรกั ษ์ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๑๐ เด็กชายภวู ษา ลำดวนหอม ๑๒ ๑๐ ๑๐

๑๑ เด็กชายรณกร ราชรักษ์ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๑๒ เด็กชายฤทธากร คณุ วงษ์ ๘ ๑๐ ๑๐

๑๓ เด็กชายสรศกั ด์ิ คงหลัก ๘ ๑๐ ๑๐

๑๔ เดก็ ชายอานิวฒั น์ เอบิ ทวี ๘ ๑๐ ๑๐

๑๕ เดก็ หญงิ กนกภรณ์ แสนพันธ์ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๑๖ เดก็ หญิงกญั ญารัตน์ อนงชัย ๑๒ ๑๐ ๑๐

๑๗ เดก็ หญงิ จสั มนิ ชาติสันตกิ ลุ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๑๘ เด็กหญิงจริ าพร นนั ทา ๑๒ ๑๐ ๑๐

๑๙ เด็กหญิงชญาดา สิงหวัฒน์ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๐ เดก็ หญงิ ชนากานต์ จันทรศ์ ิริ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๑ เดก็ หญิงไปรยา กฬี า ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๒ เด็กหญงิ พัชรพร สนทิ ไทย ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๓ เด็กหญิงพมิ พช์ นก ช่นื บาน ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๔ เด็กหญงิ เพชรา พนั ธภ์ า ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๕ เด็กหญิงภทั รานษิ ฐ์ นอ้ งดี ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๖ เดก็ หญิงมณั ฑนา หลวงรักษ์ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๗ เดก็ หญงิ วลยั รตั น์ ทุมโสภา ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๘ เดก็ หญงิ สโรชนิ ี ฝอยทอง ๑๒ ๑๐ ๑๐

๒๙ เด็กหญิงสธุ าทิพย์ โสมทอง ๑๒ ๑๐ ๑๐

๓๐ เด็กหญงิ มณีรัตน์ เตมิ ทอง ๑๒ ๑๐ ๑๐

๓๑ เดก็ ชายสรุ ศกั ดิ์ แบง่ บุญ ๑๒ ๑๐ ๑๐

๓.๕ ร้อยละการพัฒนาคะแนนก่อนเรยี น – หลังเรยี น

เลขที่ ชือ่ - สกลุ คะแนน คะแนนทดสอบ คะแนนความ คะแนนเพม่ิ
ทดสอบกอ่ น หลงั เรียน แตกต่าง สมั พทั ธ์
๑ เดก็ ชายกฤษณพงศ์ ราชรกั ษ์
๒ เดก็ ชายกนั ตภณ สภุ ิษะ เรียน ๗๒ ๔๐
๓ เดก็ ชายจรี าวฒั น์ ปัดภัย ๕ ๘๓ ๖๐
๔ เดก็ ชายชัยศริ ิ น้องดี ๕ ๘๓ ๖๐
๕ เดก็ ชายธราเทพ แม่นผล ๕ ๖๒ ๓๓
๖ เดก็ ชายธีรพล สนนา ๔ ๗๒ ๔๐
๗ เดก็ ชายธรี พัฒน์ จงสุข ๕ ๖๓ ๔๓
๘ เดก็ ชายพทั ธดนธ์ พลศรี ๓ ๖๒ ๓๓
๙ เดก็ ชายภทั รพล จำนงรักษ์ ๔ ๕๑ ๑๗
๑๐ เด็กชายภูวษา ลำดวนหอม ๔ ๗๓ ๕๐
๑๑ เด็กชายรณกร ราชรักษ์ ๔ ๗๔ ๕๗
๑๒ เด็กชายฤทธากร คุณวงษ์ ๓ ๖๒ ๓๓
๑๓ เด็กชายสรศกั ดิ์ คงหลกั ๔ ๗๓ ๕๐
๑๔ เด็กชายอานิวัฒน์ เอิบทวี ๔ ๕๑ ๑๗
๑๕ เด็กหญิงกนกภรณ์ แสนพันธ์ ๔ ๖๑ ๒๐
๑๖ เด็กหญงิ กญั ญารตั น์ อนงชัย ๕ ๙๔ ๘๐
๑๗ เด็กหญงิ จสั มิน ชาตสิ นั ติกุล ๕ ๘๒ ๕๐
๑๘ เดก็ หญิงจิราพร นันทา ๖ ๘๓ ๖๐
๑๙ เดก็ หญงิ ชญาดา สิงหวัฒน์ ๕ ๘๒ ๕๐
๒๐ เดก็ หญิงชนากานต์ จนั ทร์ศิริ ๖ ๑๐ ๔ ๑๐๐
๒๑ เดก็ หญงิ ไปรยา กีฬา ๖ ๗๒ ๔๐
๒๒ เดก็ หญิงพัชรพร สนิทไทย ๕ ๙๓ ๗๕
๒๓ เด็กหญงิ พมิ พ์ชนก ช่ืนบาน ๖ ๘๓ ๖๐
๕ ๘๒ ๕๐


๒๔ เดก็ หญงิ เพชรา พันธ์ภา ๔ ๗ ๓ ๕๐
๒๕ เดก็ หญิงภทั รานษิ ฐ์ น้องดี ๖ ๙ ๓ ๗๕
๒๖ เด็กหญงิ มัณฑนา หลวงรกั ษ์ ๔ ๗ ๓ ๕๐
๒๗ เด็กหญงิ วลัยรัตน์ ทุมโสภา ๔ ๖ ๒ ๓๓
๒๘ เดก็ หญงิ สโรชินี ฝอยทอง ๖ ๙ ๓ ๗๕
๒๙ เดก็ หญงิ สุธาทิพย์ โสมทอง ๕ ๘ ๓ ๖๐
๓๐ เด็กหญิงมณีรัตน์ เตมิ ทอง ๖ ๘ ๒ ๕๐
๓๑ เด็กชายสรุ ศกั ด์ิ แบง่ บญุ ๖ ๗ ๑ ๒๕
๔.๘๔ ๗.๓๒
คา่ เฉล่ยี ๐.๙๒ ๑.๒๐
S.D

จากตาราง จากการทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น นกั เรียนจำนวน ๓๑ คน คะแนนเฉล่ยี ของคะแนน
ทดสอบกอ่ นเรียน เทา่ กับ ๔.๘๔ ค่าเบีย่ งเบนมาตรฐาน เท่ากบั ๐.๙๑ คะแนนเฉลี่ยของคะแนนทดสอบหลังเรียน
เทา่ กบั ๗.๓๒ คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน เทา่ กบั ๑.๒๐ นักเรยี น นักเรียนมีคา่ คะแนนการพัฒนา และ คะแนนเพิ่มสัม
พันธิ์ หลังเรียน สูงกวา่ ก่อนเรยี น

๓.๖ ความพงึ พอใจของนกั เรยี นทีม่ ีตอ่ การจดั การเรียนการสอน
ตารางที่ ๒ ความพงึ พอใจของนกั เรียนที่มตี อ่ การจัดการเรยี นการแผนที่ ๒๕ หนว่ ยวนั สำคญั ทางพระพุทธศาสนา
เรอ่ื งวันสำคัญทางพระพทุ ธศาสนา รหสั วิชา ส๒๓๑๐๒ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

ท่ี รายการ ระดับความพงึ พอใจ
ค่าเฉลีย่ S.D. แปลผล
ด้านเนือ้ หา
๑ มคี วามยากง่ายพอเหมาะ ๔.๓๔ ๐.๕๗ มาก
๒ มีประโยชนน์ ่าสนใจ ๔.๕๗ ๐.๔๒ มากท่สี ดุ
๓ เหมาะสมกบั เวลา ๔.๕๔ ๐.๒๐ มาก
รวม ๔.๔๒ ๐.๓๒ มาก
ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
๔ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนหลายรปู แบบนา่ สนใจ ๔.๑๙ ๐.๖๘ มาก

๕ จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ กระบวนการกลุม่ และการระดมพลงั ๔.๕๓ ๐.๔๓ มาก
สมอง
๔.๖๗ ๐.๖๑ มากท่สี ดุ
๖ จัดกจิ กรรมใหผ้ ู้เรียนไดฝ้ ึกฝน คน้ ควา้ สงั เกต รวบรวม
ข้อมูล วเิ คราะห์ คดิ อย่างหลากหลาย และสร้างสรรค์ สามารถสรา้ ง ๔.๕๔ ๐.๔๗ มากที่สุด
องคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ๔.๒๙ ๐.๕๓ มาก

๗ ครเู ปน็ ผชู้ แี้ นวทางให้ผู้เรียนคน้ หาคำตอบด้วยตนเองโดย ๔.๔๔ ๐.๕๐ มาก
ทำกิจกรรมกลมุ่ ๔.๕๒
๔.๒๙ ๐.๔๗ มากท่สี ดุ
๘ มกี ารสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม และใหแ้ รงเสริมดว้ ย ๒.๑๙ ๐.๕๓ มาก
การยกยอ่ งชมเชย ๔.๓๕ ๐.๕๗ มาก
๐.๒๔ มาก
๙ ฝกึ ใหผ้ ู้เรยี นมีพฤติกรรมเป็นประชาธิปไตย ยอมรับความ คิดเหน็ ของ
ผ้อู นื่ รจู้ ักหนา้ ทข่ี องตนเอง เป็นผนู้ ำและผู้
ตามทดี่ ี

๑๐ ลำดบั ขั้นตอนในการจัดกจิ กรรมไม่สบั สน
๑๑ กจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา
๑๒ มคี วามสุขสนุกสนานกับการเรียน
รวม

ท่ี รายการ ระดับความพึงพอใจ
คา่ เฉลี่ย S.D. แปลผล

ดา้ นสอ่ื การเรียนการสอน

๑๓ ส่อื สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์ ๔.๕๙ ๐.๕๕ มากทสี่ ดุ

๑๔ ใชส้ อ่ื ตรงเนอื้ หา ๔.๓๖ ๐.๒๖ มาก

๑๕ สือ่ มีความชัดเจนนา่ สนใจ ๔.๕๗ ๐.๖๘ มากทส่ี ดุ

๑๖ สอ่ื ใช้จ่าย ไมย่ ่งุ ยาก ซับซอ้ น ๔.๔๖ ๐.๒๐ มาก

๑๗ ใช้สือ่ เหมาะสมกับวัยผู้เรียน ๔.๔๖ ๐.๔๒ มาก

รวม ๔.๔๖ ๐.๒๕ มาก

ดา้ นการวดั ผลประเมนิ ผล

๑๘ มีการวัดผลการเรยี นรู้หลายรปู แบบ เน้นการวดั ผลตาม ๔.๔๖ ๐.๓๒ มากทส่ี ดุ
สภาพจริง และจากช้ินงานที่มอบหมาย

๑๙ สร้างเกณฑก์ ารประเมินอย่างชดั เจน ๔.๒๕ ๐.๔๗ มาก

๒๐ ผูเ้ รยี นมสี ่วนรวมในการประเมิน ๔.๓๖ ๐.๓๕ มาก
รวม ๔.๔๘ ๐.๓๕ มาก
๔.๑๙ ๐.๓๘ มาก
เฉลยี่ รวม

จากตารางท่ี ๒ พบวา่ ความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั การจัดการเรียนการแผนท่ี ๒๕ หนว่ ยวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา
เรอ่ื งวันสำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา รหัสวิชา ส๒๓๑๐๒ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

ค่าเฉลี่ยรวมเทา่ กับ ๔.๑๙ อยใู่ นระดับมาก ด้านเนื้อหาผลการประเมนิ มคี า่ เฉล่ียเท่ากับ ๔.๔๒
อยูใ่ นระดับมาก ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ผลการประเมิน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๕ อยใู่ นระดบั มาก
ดา้ นสอื่ การเรียนการสอน ผลการประเมนิ มคี ่าเฉล่ยี เท่ากับ ๔.๔๖ อยู่ในระดบั มาก ด้านการวดั และประเมนิ ผล
ผลการประเมนิ มคี า่ เฉลย่ี เทา่ กบั ๔.๔๘ อยู่ในระดับมาก

อุปสรรค/ปัญหา

- ในการจดั กิจกรรมดังกล่าวเป็นรูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน On-site ภายใตส้ ถานการณ์โรคระบาด
Covid-๑๙ การประสานงานและการดูแลช่วยเหลือผู้เรียนในแต่ละคน อาจจะค่อนข้างยาก ต้องคอยสอนและ
แนะนำไปอยา่ งชา้ ๆ เพื่อใหผ้ ู้เรียนนนั้ สามารถดำเนนิ กิจกรรมได้อย่างทว่ั ถึง

ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื นำไปใช้

ในการจัดกิจกรรมต้องเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้พร้อมในแต่ละกลุ่ม เพื่อไม่ให้เสียเวลา และการทำงานท่ี
ถูกต้อง และมีการติดตามผ่านกลุ่มเฟสบุ๊ก และแชทข้อความส่วนตัว และ การรับ-ส่งเอกสารทางการเรียน On –
Hand ร่วมดว้ ย


Click to View FlipBook Version