The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานจักสานป่าบง(9คน)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ์Napagorn, 2021-12-13 08:22:36

งานจักสานป่าบง(9คน)

งานจักสานป่าบง(9คน)

สัมภาษณ์ปราชญ์ผู้รู้ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่ดำเนินชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง

ชื่อภูมิปัญญา งานจักสาน (แม่เขียวข้องหลวง)
ตำบลป่าบง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

จัดทำโดย

1. ด.ช.วรชัย ไชยปินชนะ เลขท่ี 3 ชน้ั ม.1/3
2. ด.ช.ฐาปณกิ ก้เู กียรตนิ ันท์ เลขท่ี 4 ชั้น ม.1/3
3. ด.ช.ธนพฒั น์ วิชยั สงิ ห์ เลขท่ี 5 ชน้ั ม.1/3
4. ด.ช.จิรพสั ธารสขุ ชำนาญ เลขท่ี 11 ชน้ั ม.1/3
ชน้ั ม.1/3
5. ด.ช.นภกร วงศ์ศรีใส เลขที่ 16 ชั้น ม.1/3
6. ด.ช.มารโิ อ กาญจนรกั ษ์ เลขท่ี 17 ชน้ั ม.1/3
ชั้น ม.1/3
7. ด.ช.ชนาศิส จตพุ ิพธิ พร เลขที่ 21 ชั้น ม.1/3
8. ด.ช.ณัฏฐนันท์ มะธุ เลขที่ 22

9. ด.ช.พชรดนัย แกว้ ยงั เลขท่ี 25

คำนำ

ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นสิ่งที่สร้างสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน และเป็น
สิ่งมีคุณค่ายิ่งที่ชุมชนรุ่นหลังควรอนุรักษ์และสืบสานต่อไป ภูมิปัญญาส่วนใหญ่จะเชื่อมโยง
สู่การใช้ประโยชน์ ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น งานจักสาน เป็นต้น ซึ่งเป็น
ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่าแก่การจดบันทึกไว้ เป็นการสืบสานและ
อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สำคัญและมีประโยชน์ไว้ไม่ให้สูญหายไปจากชุมชน และนำไป
สู่การอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญานั้นๆ ต่อไป หากต้องการจะอนุรักษ์และปรับใช้ประโยชน์
จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาชุมชน จำเป็น อย่างยิ่งที่จะต้องใช้ภูมิปัญญาเดิม
กับภูมิปัญญาใหมใ่ ห้สอดคลอ้ งกับฐานทรัพยากรที่มีอยู่ ผนวกกับปัจจบุ ัน เยาวชนและคนรุ่นต่อมา
ไม่ค่อยให้ความสำคัญ หรือไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับภูมิปัญญาที่มีอยู่ในชุมชนมากนัก จึงจำเป็น
อย่างยง่ิ ที่จะต้องจดั ทำเอกสารภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ขน้ึ

คณะผจู้ ัดทำ
กลุ่มนักเรียนชน้ั ม.1/3

สารบัญ หนา้

เร่อื ง 1
3
ชอ่ื ภมู ิปัญญา งานจกั สาน (แมเ่ ขยี วข้องหลวง)
ความเปน็ มาของภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่น 7
ภาคผนวก 8
- สมาชิกในกลุ่ม 9
- บทสัมภาษณป์ ราชญผ์ ู้รูด้ า้ นภมู ปิ ัญญา 11
- รายละเอียดการนำเสนองานบนพนื้ ฐานหลักคิดพอเพียง
- รูปภาพประกอบ

สมั ภาษณ์ปราชญผ์ ู้รดู้ า้ นภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น 1

ทีด่ ำเนินชวี ติ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง

ช่อื ภมู ิปัญญา งานจกั สาน (แมเ่ ขยี วขอ้ งหลวง) ตำบลป่าบง อำเภอสารภี จังหวดั เชียงใหม่

1. สาระสำคญั
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางในการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนทุกระดับตั้งแต่

ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงยึดหลักพอประมาณมีเหตุผล
มีภูมิคมุ้ กันในตวั ท่ีดี ซงึ่ ความพอเพียงตอ้ งใช้ความรู้ควบคูก่ บั คุณธรรม

2. วัตถปุ ระสงค์
1. เพอื่ ศกึ ษาภูมปิ ัญญาในทอ้ งถ่นิ ท่ีสนใจ
2. เพอ่ื นำหลักคดิ เศรษฐกิจพอเพยี งจากการสัมภาษณป์ ราชญ์ผู้รไู้ ปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั
3. เพ่อี สง่ เสรมิ ทักษะการทำงานรว่ มกนั เป็นกลุ่ม
4. เพ่ือสรา้ งอาชพี ให้แก่ประชาชนในชุมชนและบุคคลทว่ั ไป
5. เพื่อส่งเสรมิ ให้ประชาชนในชุมชนมรี ายไดเ้ พียงพอกับรายจา่ ย
6. เพ่ือสง่ เสริมใหป้ ระชาชนใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์
7. เพ่อื สง่ เสรมิ ให้อนุรกั ษ์จักสานภมู ิปญั ญาไทย

3. วสั ดุอปุ กรณ์

1. ดนิ สอ,ปากกา
2. สมดุ จดบนั ทกึ
3. กล้องถ่ายภาพ
4. โทรศพั ท์

4. ขั้นตอนการทำงาน

P = การวางแผนการทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงการเรียน On-line การวางแผนจึงใช้วิธีการประชุม

ผา่ นทาง Line Meeting โดยมีข้ันตอน ดงั นี้
1. ประชุมและวางแผนงานภายในกลมุ่ และกำหนดหน้าที่ในการทำงานของสมาชกิ ในกลุ่มรว่ มกนั
2. สมาชกิ ในกลมุ่ แต่ละคนทำงานตามหน้าท่ที ี่ไดร้ บั ผิดชอบ โดยใหเ้ วลาในการทำ 1 สัปดาห์
3. รวบรวมขอ้ มลู ท่ีได้แต่ละคน
4. นำข้อมลู ทไ่ี ด้มาวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหข์ ้อมลู ต่างๆรว่ มกัน
5. สรุปผลที่ได้จากการทำงาน

2

D = นำไปปฏิบัติ/วธิ แี กไ้ ขปัญหาอุปสรรค มีขั้นตอน ดงั น้ี

การนำไปปฏบิ ตั ิ
- การเก็บข้อมูลที่ชุมชนงานจักสาน โดยการสัมภาษณ์การผลิตงานจักสาน ในด้าน วัสดุ
วธิ ีการทำและส่งิ ที่ไดจ้ ากการทำอาชพี น้ี
ปัญหาอุปสรรค
- สมาชิกในกล่มุ มเี วลาว่างไม่ตรงกนั ทำให้การนัดหมายเวลาทำงานทำได้ยาก ไดแ้ บ่งงาน

มอบหมายหน้าท่ใี หส้ มาชกิ กลุ่มตามความถนดั

C = ตดิ ตามตรวจสอบการทำงาน

การติดตามในการทำงานมีการติดตามเป็น 2 ระยะ คือ
- หลังจากการแบ่งหน้าที่ในการทำงานของสมาชิกในกลุ่ม ตามหน้าท่ีได้รับมอบหมาย ทุกคน
สามารถทำงานของตนเองได้ดี
- การรวบรวมข้อมูล มีการนำข้อมูลมารวมกันเพื่อจัดทำเป็นรูปเล่ม ทุกคนนำข้อมูลมาครบ
และมกี ารชว่ ยกันเพิม่ เติมขอ้ มลู ในสว่ นท่สี ำคญั ลงไปในงาน
จากการพูดคุยกันเกิดอุปสรรคในการทำงานคือ สมาชิกภายในกลุ่มมีเวลาไม่ตรงกันในการทำ
กจิ กรรมและต้องนัดกันเรอ่ื ย ๆ หลายครงั้ เพื่อความคืบหน้าของงาน และเพอื่ ความรวดเรว็ ในการทำงาน

A = นำผลไปแก้ไข

หลังจากมีการรวมประชุมเพื่อสรุปงานร่วมกัน ได้มีการนำผลงานมาตรวจสอบเพื่อดูความถูกต้อง
ในด้านวัตถุประสงค์ของการทำงาน รวมทั้งสิ่งที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้ให้ทุกคนได้เข้าใจใน
เรอื่ งของการทำงานกลมุ่ และการตรงตอ่ เวลา

5. สรุปผล
การทำงานหากมีการวางแผนการดำเนินงานจะทำให้ผลการดำเนินงานมีประสิทธิภาพ สำเร็จลุล่วง

ตามเป้าหมายที่กำหนด เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดความรัก ความสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจ
ความรับผดิ ชอบตอ่ งานทีต่ นเองได้รับมอบหมาย

3

งานจักสาน (แม่เขียวขอ้ งหลวง) ตำบลป่าบง อำเภอสารภี จงั หวดั เชยี งใหม่

หมู่บ้านป่าบง (Par Bong Village) เป็นหมู่บ้าน
ตำบลหนึ่งในเขตอำเภอสารภี ของจังหวัดเชียงใหม่
ในอดีตหมู่บ้านนี้มีต้นไม้ไผ่จำนวนมาก คนพื้นเมือง
เรียกว่า “ไม้บง” จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อตำบลป่าบง
คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะมีการนำไผ่บงมาจักสาน
เป็นข้าวของเครื่องใช้ หลังจากกลับจากการ
ท ำ ก า ร เ ก ษ ต ร ก ร ร ม โ ด ย เ ป ็ น ส่ ว น ห น ึ ่ ง ข อ ง
วิถีชีวิตประจำวันที่สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของชาวบ้าน
โดยต่อมาได้เปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นการประกอบอาชีพ
จักสานด้วยไม้ไผ่อย่างจริงจังและยึดเป็นอาชีพหลัก
โดยงานจักสานของชุมชนบ้านป่าบง มีลวดลายที่เป็น
เอกลักษณ์ นั่นคือ “ลายสองมีดี” จากกระบุงหาบและ “ลายกระตู๊นอกใน” จากข้องหลวง ลวดลายเหล่าน้ี
ได้ถูกนำมาพัฒนาสร้างสรรค์รูปแบบงานจักสานได้อย่างหลากหลาย ต่อมามารดา (นางเขียว แก้วสมุทร์)
ก็ได้คิดที่จะเพิ่มขนาดของการสานข้องขนาดปกติที่มีอยู่เดิมให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมหลายเท่าจนเป็นท่ี
สังเกต และจดจำได้ทันทีที่พบเห็น และผลงานดังกล่าวสร้างชื่อเสียงให้กับหมู่บ้านแห่งนี้เป็นอย่างมาก
ที่ได้เปลี่ยนแปลงจากข้องทรงเดิม ๆ ได้กลายเป็นข้องหลวงที่เป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะของตำบลป่าบง
จึงเป็นที่มาของชื่อ “แม่เขียวข้องหลวง”จากรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ
มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากภาคอื่นๆ ดังนั้น หมู่บ้านนี้จึงสร้างงานจักสานไม้ไผ่ที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้กับผู้ที่ได้
พบเห็นได้เป็นอย่างดี บ้านป่าบงหลวงจงึ เป็นแหลง่ ผลิตเครอ่ื งจกั สานไมไ้ ผท่ ไี่ ด้รับความนยิ ม ถงึ ปจั จุบนั

4

อุปกรณ์เริ่มจากไม่ไผ่ที่มีในท้องถิ่น “มีด” สำหรับผ่าและตัด “ มีดจักตอก”ที่มีปลายด้ามงอนเป็นพิเศษ
สว่ นดา้ มจะสอดรบั ระหวา่ งแขน ทำใหเ้ วลาจกั ตอกไดก้ ระชับ ทะมดั ทะแมง สะดวกรวดเร็วยิง่ ขนึ้ “ เหลก็ หมาด
ปลายแหลม และปลายหอก”ที่จะช่วยเจาะรูเครื่องจักสาน “เลื่อย”ใช้สำหรับแบ่งไม้ไผ่ให้ได้ตามขนาด
ทีต่ อ้ งการ “ถงั น้ำ” ใชส้ ำหรับแช่ไมไ้ ผ่

5

ขั้นตอนการจักสาน เริ่มจากการ”จัก” คือ การผ่าไม่ไผ่ให้แตกแยกออกเป็นเส้น เป็นซี่บางๆ จากน้ัน
เหลาเพื่อลดความคมของไม้ แล้วนำมาสานขึ้นลาย ตามแม่แบบที่กำหนดวางไว้ อาจจะประยุกต์ลวดลายต่างๆ
เพื่อความสวยงาม การใช้เส้นตอกมาขัดกัน จากการสานอย่างง่ายๆ ด้วย”ยก” ขึ้นเส้นหนึ่งแล้ว “ข่ม” ลงเส้น
หนึ่งสลบั กนั ไปมา เรยี กว่า ลายขดั ลายหนึง่ จนถงึ การสอดและขดั แปลกออกไปเปน็ ลายที่ยากขึ้น จนถึงลายท่ีมี
ลักษณะพิเศษกวา่ ลายอื่นๆ ท่ชี ว่ ยใหเ้ ครอ่ื งจักสานอย่างมีจงั หวะชั้นเชงิ ความสวยงาม

ปจั จบุ ันหลายหน่วยงาน และชมุ ชนไดเ้ ห็นถึงคุณค่าภูมิปัญญาทสี่ ั่งสมมา ไดช้ ว่ ยกนั สานต่อยอดให้อยู่คู่
แผน่ ดินล้านนาสบื ตอ่ ไป

ไมไ้ ผเ่ หลาเปน็ เสน้ ตอก ผสานเปน็ เสน้ ลาย 6
สะทอ้ นเรอ่ื งราวเลา่ ขานวถิ ีชวี ติ คณุ คา่ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ

ภาคผนวก 7

สมาชิกในกลุม่ ชน้ั ม.1/3

ด.ช.วรชยั ไชยปิ นชนะ ด.ช.ฐาปณกิ กเู้ กยี รตนิ นั ท์ ด.ช.ธนพฒั น์ วิชยั สิงห์
เลขที่ 3 (พมิ พ์/หาข้อมูล) เลขท่ี 4 (พมิ พ์/หาขอ้ มลู ) เลขที่ 5 (พมิ พ/์ หาขอ้ มลู )

เลขที่ 3

ด.ช.จิรพัส ธารสุขชำนาญ ด.ช.นภกร วงศ์ศรใี ส ด.ช.มาริโอ กาญจนรกั ษ์
เลขท่ี 11 (พิมพ์/หาขอ้ มลู ) เลขที่ 16 (รวบรวม/จดั ทำรปู เล่ม) เลขท่ี 17 (พมิ พ/์ หาขอ้ มลู )

ด.ช.ชนาศิส จตพุ ิพิธพร ด.ช.ณฏั ฐนันท์ มะธุ ด.ช.พชรดนยั แกว้ ยงั
เลขท่ี 22 (สัมภาษณ/์ จดั ทำรูปเล่ม) เลขท่ี 25 (พมิ พ/์ หาข้อมลู )
เลขที่ 21 (พมิ พ์/หาข้อมลู )

8

บทสัมภาษณ์ งานจกั สาน (แม่เขยี วขอ้ งหลวง)
ตำบลป่าบง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

จากการสัมภาษณ์ปราชญ์ผู้รู้ นางทองสุข แก้วสมุทร์ ท่านเล่าว่า “กลุ่มจักสานแม่เขียวข้องหลวง”
เกิดจากคุณแม่เขียว แก้วสมุทร์ (มารดา) ที่มีความคิดอยากสร้างเอกลักษณ์ของงานจักสานของหมู่บ้านป่าบง
ซึ่งหมูบ่ ้านป่าบง (Par Bong Village) เปน็ หม่บู ้านตำบลหนง่ึ ในเขตอำเภอสารภี ของจังหวัดเชียงใหม่ ในอดีต
หมู่บ้านนี้มีต้นไม้ไผ่จำนวนมาก คนพื้นเมืองเรียกว่า “ไม้บง” จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อตำบลป่าบง
คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะมีการนำไผ่บงมาจักสานเป็นข้าวของเครื่องใช้ หลังจากกลับจากการทำ
การเกษตรกรรม โดยเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันที่สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของชาวบ้าน โดยต่อมา
ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นการประกอบอาชีพจักสานด้วยไม้ไผ่อย่างจริงจังและยึดเป็นอาชีพหลัก โดยงาน
จกั สานของชุมชนบา้ นปา่ บง มีลวดลายทเ่ี ป็นเอกลักษณ์ นน่ั คือ “ลายสองมดี ี” จากกระบุงหาบและ “ลายกระตู๊
นอกใน” จากข้องหลวง ลวดลายเหล่านี้ได้ถูกนำมาพัฒนาสร้างสรรค์รูปแบบงานจักสานได้อย่างหลากหลาย
ตอ่ มามารดา (นางเขียว แกว้ สมุทร์) ก็ไดค้ ดิ ทจ่ี ะเพ่ิมขนาดของการสานข้องขนาดปกติทีม่ ีอยู่เดิมให้มีขนาดใหญ่
ขน้ึ จากเดมิ หลายเท่าจนเปน็ ทส่ี งั เกต และจดจำได้ทนั ทที ่ีพบเหน็ และผลงานดังกลา่ วสร้างชอื่ เสยี งใหก้ บั หมู่บ้าน
แห่งนี้เป็นอย่างมาก ที่ได้เปลี่ยนแปลงจากข้องทรงเดิม ๆ ได้กลายเป็นข้องหลวงที่เป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะ
ของตำบลป่าบง จึงเป็นที่มาของชื่อ “แม่เขียวข้องหลวง”จากรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสได้ถึงความ
เป็นธรรมชาติ มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากภาคอื่นๆ ดังนั้น หมู่บ้านนี้จึงสร้างงานจักสานไม้ไผ่ที่มีเสน่ห์
ดึงดูดให้กับผู้ที่ได้พบเห็นได้เป็นอย่างดี บ้านป่าบงหลวงจึงเป็นแหล่งผลิตเครื่องจักสานไม้ไผ่ที่ได้รับความนิยม
ถงึ ปจั จุบัน

9

รายละเอยี ดการนำเสนองานบนพ้ืนฐานหลักคดิ พอเพียง

ขัน้ ที่ 1 Inspiraition แรงบันดาลใจ

- อยากศึกษาเรียนรู้เรื่องงานจักสานของท้องถิ่น
- ตอ่ ยอดองค์ความรใู้ ห้คนรุน่ หลงั ไดศ้ ึกษา
- เผยแพรเ่ อกลักษณข์ องชมุ ชน
- อนรุ ักษ์เครื่องจักสานให้คงตลอดไป

ขนั้ ที่ 2 Decision making การตัดสินใจ

กลมุ่ เราตัดสนิ ใจทำภมู ปิ ญั ญาเก่ียวกับ งานจกั สาน (แม่เขียวขอ้ งหลวง) ตำบลปา่ บง อำเภอสารภี จังหวัด
เชียงใหม่ เพราะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความสำคัญต่อจังหวัดเชียงใหม่ และต้องการที่จะอนุรักษ์สืบสาน
ต่อไปให้คนรนุ่ หลังไดเ้ รียนรู้ รักษาไวไ้ มใ่ ห้สูญหายไปจากชมุ ชน

ขั้นท่ี 3 Process กระบวนการทำงาน ( PDCA)

P = การวางแผนการทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงการเรียน On-line การวางแผนจึงใช้วิธีการประชุม
ผา่ นทาง Line Meeting โดยมีขนั้ ตอน ดงั นี้

1. ประชุมและวางแผนงานภายในกลมุ่ และกำหนดหนา้ ที่ในการทำงานของสมาชิกในกลมุ่ ร่วมกัน
2. สมาชิกในกลมุ่ แตล่ ะคนทำงานตามหนา้ ท่ีท่ีไดร้ ับผดิ ชอบ โดยให้เวลาในการทำ 1 สปั ดาห์
3. รวบรวมข้อมูลท่ีไดแ้ ตล่ ะคน
4. นำข้อมลู ท่ไี ด้มาวเิ คราะหแ์ ละสังเคราะหข์ ้อมลู ต่างๆร่วมกนั
5. สรปุ ผลทไ่ี ดจ้ ากการทำงาน

D = นำไปปฏบิ ตั ิ/วิธีแกไ้ ขปญั หาอุปสรรค มีขัน้ ตอน ดงั นี้
การนำไปปฏบิ ตั ิ
- การเก็บข้อมูลที่ชุมชนงานจักสาน โดยการสัมภาษณ์การผลิตงานจักสาน ในด้าน วัสดุ

วธิ ีการทำและสิง่ ทีไ่ ด้จากการทำอาชพี น้ี
ปัญหาอุปสรรค
- สมาชกิ ในกลุ่มมเี วลาว่างไมต่ รงกันทำให้การนัดหมายเวลาทำงานทำได้ยาก ไดแ้ บง่ งาน
มอบหมายหน้าทีใ่ หส้ มาชกิ กลุ่มตามความถนดั

C = ติดตามตรวจสอบการทำงาน 10

การตดิ ตามในการทำงานมีการติดตามเปน็ 2 ระยะ คือ
- หลังจากการแบ่งหน้าที่ในการทำงานของสมาชิกในกลุ่ม ตามหน้าท่ีได้รับมอบหมาย ทุกคน
สามารถทำงานของตนเองได้ดี
- การรวบรวมข้อมูล มีการนำข้อมูลมารวมกันเพื่อจัดทำเป็นรูปเล่ม ทุกคนนำข้อมูลมาครบ
และมีการชว่ ยกันเพมิ่ เติมข้อมลู ในสว่ นที่สำคญั ลงไปในงาน
จากการพูดคุยกันเกิดอุปสรรคในการทำงานคือ สมาชิกภายในกลุ่มมีเวลาไม่ตรงกันในการทำ
กิจกรรมและต้องนดั กนั เรือ่ ย ๆ หลายครงั้ เพือ่ ความคืบหน้าของงาน และเพือ่ ความรวดเร็วในการทำงาน

A = นำผลไปแกไ้ ข

หลังจากมีการรวมประชุมเพื่อสรุปงานร่วมกัน ได้มีการนำผลงานมาตรวจสอบความถูกต้อง
ในด้านวัตถุประสงค์ของการทำงาน รวมทั้งสิ่งที่เป็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นเพื่อจะได้ให้ทุกคนได้เข้าใจในเรื่องของการ
ทำงานกลุม่ และการตรงต่อเวลา

ขั้นที่ 4 Result ผลท่ีเกิดขึ้น

เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนา
ให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดความยั่งยืน ดำเนินชีวิตแบบทางสายกลาง โดยตั้งอยู่บนหลักสำคัญสามประการ
คือ “ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ” เมื่อทุกคนสามารถดูแลตัวเอง
และครอบครัวได้แล้ว ขั้นต่อไปอาจทำการพัฒนาธุรกิจ โดยมีการรวมกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และ
ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การแบ่งปันความรู้ ต่อยอดความรู้ เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งและอยู่ร่วมกัน
อยา่ งสงบสุข

ขั้นที่ 5 Sharing การแบ่งปัน

มีการนำเสนอผลงานที่ได้ดำเนินการจัดทำ ค้นคว้าโดยการมีส่วนรวมของสมาชิกในกลุ่ม
แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำเสนอผลงานในชั้นเรียน ทำให้ผู้อื่นได้เข้าใจและเป็นความรู้เพื่อสืบสานภูมิปัญญา
ของท้องถน่ิ ตอ่ ไป

11

รปู ภาพประกอบ

12

การทำงานผ่านระบบ On-line


Click to View FlipBook Version