The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การปลูกพืชผักสวนครัว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-01 05:37:16

การปลูกพืชผักสวนครัว

การปลูกพืชผักสวนครัว

ประกอบการเรยี นการสอน
รายวชิ า

การปลูก

พชื ผกั สวนครวั

1

เรอื่ ง การปลกู พชื ผกั สวนครวั

ความหมายของผกั สวนครัว

ผักสวนครัว คือ พืช ที่ใช้ส่วนต่างๆ เป็นอาหาร เช่น ลาต้น ใบ
ดอก ผล และหัวผักท่ีปลูกไว้ในบริเวณบ้านหรือที่ว่างต่าง ๆ ในชุมชน
ต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกไว้สาหรับรับประทานเอง ภายใน
ครอบครัวหรือชมุ ชน การปลกู ผักสวนครวั ไวร้ ับประทานจะทาให้ผู้ปลูก
ได้รับประทานผักสดท่ีอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ มีความ
ปลอดภัยจากสารเคมีลดรายจ่ายในครัวเรือนและท่ีสาคัญทาให้สมาชิก
ในครอบครัวมีกิจกรรมรว่ มกนั ในการปลกู ผักเพ่ือเกิดสัมพันธ์ท่ีดีภายใน
ครอบครวั โดยท่ัวไปคนต้องมกี ารบริโภคผักอย่างนอ้ ย วันละ 200 กรัม
เพือ่ ให้ได้สารอาหารครบถ้วน

2

ประโยชนข์ องการปลกู ผักสวนครวั

➢ ปลกู เป็นรั้วบ้าน ( ร้ัวกินได้ ) ผักท่ีสามารถนามาปลูกเป็นทาเป็นร้ัว
ได้แก่ กระถินบ้าน ชะอม ตาลึง ผักหวาน ผักปลัง ต้นแค ถ่ัวพู
มะระ ฯลฯ ซึ่งเป็นผักท่ีปลูกง่ายและให้ผลผลิตตลอดปีมีคุณค่าทาง
อาหารสงู และปลอดภยั จากสารเคมี

➢ สามารถใช้ประดบั ตกแต่งบริเวณบ้าน เช่น จัดสวนผักสวนครัว การ
ปลูกต้นแคเป็นรั้วกินได้ การนาผักสวนครัวท่ีปลูกในกระถางแบบ
แขวน – ห้อย มาตกแต่งบริเวณรอบ ๆ บ้าน

➢ ใช้พ้ืนท่สี ว่ นทวี่ า่ งเปล่าให้เกดิ ประโยชน์
➢ ลดคา่ ใช้จา่ ยในการซ้อื ผกั มาประกอบอาหารประจาวัน
➢ ครอบครัวได้รับประทานผักที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนและ

ปลอดภยั จากสารเคมี
➢ สร้างความสัมพันธ์และสานสายใยรักที่ดีในครอบครัวและใช้เวลา

วา่ งให้เปน็ ประโยชน์

3

4

ขอ้ พจิ ารณาในการปลกู ผกั สวนครวั

1. การเลอื กสถานทหี่ รือทาเลปลกู
ควรเลอื กพ้ืนท่ที ม่ี คี วามอุดมสมบูรณ์ท่ีสุด อยู่ใกล้แหล่งน้าไม่ไกล

จากท่ีพักอาศัยมากนัก เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานด้านการปลูก
การดูแลรักษา และสะดวกในการเก็บมาประกอบอาหารได้ทันทีตาม
ความต้องการ

2. การเลอื กประเภทผักสาหรบั ปลกู
ควรเลือกปลูกผักให้มากชนิดท่ีสุด เพ่ือให้ได้คุณค่าทางอาหารที่

หลากหลาย เป็นผักที่สมาชิกในครอบครัวชอบบริโภคและเลือกปลูกผัก
ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและปลกู ให้ตรงกบั ฤดกู าล

3. ความพรอ้ มของผปู้ ลกู
• ผู้ปลูกควรกาหนดว่าจะปลูกผักโดยมีวัตถุประสงค์อะไร เช่น ปลูก

เพื่อต้องการได้ผักมาบริโภคประจาวัน ปลูกเพื่องานอดิเรก ปลูก
เพ่ือจดั สวนตกแตง่ บรเิ วณบา้ น
• ผู้ปลูกต้องมีความรู้ ความเข้าใจธรรมชาติของผัก วิธีการปลูกผัก
ตลอดจนการดแู ลรกั ษา
• แรงงานในการปลูกผัก ควรมีแรงงานในการดูแลรักษาเฉล่ียวันละ
ประมาณ2 – 3 ชว่ั โมง เน่อื งจากผักสวนครัวต้องการความพิถีพิถัน
ในการดแู ลรกั ษา
• ความชานาญในการปลูกผัก การปลูกให้ได้ผลผลิตดี ผู้ปลูก
จาเป็นต้องมีความชานาญ รู้จักสังเกตในการเจริญเติบโตของผัก
และการเปลีย่ นแปลงต่าง ๆ

5

3. สภาพแสงและรม่ เงา
มีความจาเป็นในการสังเคราะห์แสงของพืช เพื่อสร้างอาหาร

ปริมาณแสงทไี่ ด้รับในพื้นท่ปี ลูกแตล่ ะวันนั้น จะมผี ลต่อชนิดของผกั ท่ี
ปลกู แบ่งความตอ้ งการแสงในการปลกู ผัก ดงั นี้

• สภาพพื้นที่ไม่ได้รับแสงแดดตลอดท้ังวัน ควรปลูกพืชผักที่
เจริญเติบโตในร่มได้ เช่น ชะพลู สะระแหน่ ตะไคร้ โหระพา
ขงิ ข่า และกะเพรา เปน็ ต้น

6

• สภาพพน้ื ที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ควรเลือกผกั ท่ีสามารถ
เจริญเติบโตได้ในแสงปกติ เช่น ถ่ัวฝักยาว คะน้า ผักกาดเขียว
กวางตงุ้ พรกิ ตา่ ง ๆ ยกเวน้ พริกขี้หนสู วน

7

5. ชนิดของผกั ทีจ่ ะปลกู
ผักแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันในเรื่องอายุการเก็บเก่ียว และ

ฤดูกาลเพาะปลกู การวางแผนการปลูกทเ่ี หมาะสม จะทาให้มีผลผลิตผัก
ออกสมา่ เสมอและใช้พืน้ ทใ่ี ห้เกิดประโยชนไ์ ด้เตม็ ที่

การจาแนกผกั ตามอายกุ ารเกบ็ เกยี่ ว ดงั นี้

5.1 ผักอายุส้ัน ( น้อยกว่า 2 เดือน ) ได้แก่ ผักชี ผักกาดหอม
ผักกาดเขียว กวางตุ้ง คะน้า ผักบุ้งจีน ผักกาดหัว ผักกาดขาว แตงกวา
ขา้ วโพดฝักออ่ น ปวยเหลง็ ผักโขม

5.2 ผักอายุปานกลาง ( 2 – 5 เดือน ) ได้แก่ กะหล่าปลี ผักกาดขาว
ปลี บร็อคโคล่ี กะหล่าดอก ถั่วฝักยาว ถั่วแขก หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ
พริก แตงโม มะระ บวบ ฟักทอง ข้าวโพดหวาน มนั ฝรั่ง มนั เทศ

8

5.3ผักยืนต้น ( มากกว่า 1 ปี ) ได้แก่ กุยช่าย ผักหวาน มะเขือ
ชะอม สะตอ ชะพลู โหระพา กะเพรา ถั่วพู ตะไคร้ แมงลัก กระชาย ขิง
หน่อไมฝ้ รงั่ ขา่ ขมิ้น

6. ฤดกู าล
ควรเลือกปลูกผักสวนครวั ใหเ้ หมาะสมกบั ฤดูกาล เพราะจะทาให้ดูแล

รักษาง่ายไดผ้ กั ทม่ี ีคุณภาพ ผลผลิตดี มีโรคและแมลงรบกวนน้อย ฤดูกาลที่
เหมาะสมในการปลกู พืชผักแตล่ ะชนดิ ดงั นี้

• พฤศจกิ ายน – มกราคม หอมแบ่ง กุยช่าย ค่นื ฉา่ ย
กะหล่าปลี ผักกาดขาดปลหี อ่ กะหลา่ ปม กะหล่าดอก
มะเขอื เทศ ถ่วั แระญี่ป่นุ หอมแดง หอมหวั ใหญ่ กระเทียม

• กมุ ภาพันธ์ – เมษายน ผักชี ผกั บ้งุ จีน ผักกาดหัว
ถ่วั ฝักยาว แตงกวา แตงไทย มะระ ผกั กาดขาวปลี
ผกั คะน้า ผักกาดเขยี วกวางตงุ้ ผกั กาดขาว

• พฤษภาคม – กรกฎาคม ผกั คะนา้ กยุ ช่าย บวบเหลยี่ ม
กวางตุ้งไต้หวัน ขา้ วโพดหวาน หอมแดง

• สิงหาคม – ตุลาคม ผกั ชลี าว ผกั โขม กยุ ชา่ ย ผักกาดขาว
ผกั กาดเขยี วกวางตงุ้ หอมแบง่ มนั แกว มันเทศ
ผกั กาดหอม ผกั คะน้า ผักบงุ้ จีน พรกิ ชฟี้ ้า พรกิ ขหี้ นู
มะเขือเปราะ มะเขือยาว

9

10

ความรู้เรอ่ื งดนิ สาหรบั ปลูกผกั สวนครัว

การเตรียมดินปลูกผัก ควรต้องมีดินท่ีละเอียด เพราะจะช่วยให้ดินมีการ
ระบายน้าที่ดี และมีการหมุนเวียนถ่ายเทอากาศได้ดีทาให้ผักเจริญเติบโตได้ดี การ
จะปลูกผักเปน็ แปลงทาไดโ้ ดยใช้จอบขดุ หน้าดินให้ลึกประมาณ 8 นิ้ว พลิกกลับดิน
บนลงล่าง ขุดดินตากให้แห้งประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นก็รดน้าให้ชุ่ม แล้วย่อย
ดินใหแ้ ตกร่วนเป็นกอ้ นเล็กๆ ใส่ปุย๋ ลงไปหวา่ นกระจายทั่วๆแปลง ถ้าดินไม่สมบูรณ์
ก็ใสป่ ุย๋ มากๆสับดินให้เขา้ กบั ปยุ๋ ถ้าปลูกผักติดๆกันหลายแปลง ต้องให้แปลงขนาน
กันไปกับแนวทิศตะวันตกและตะวันออก เม่ือปลูกผักท่ีมีความสูงต่าต่างกันไว้ใน
แปลงใกลก้ นั จะได้ไมบ่ งั แดดกนั ดนิ ท่ีใชป้ ลูกผกั ในกระถางหรือภาชนะอน่ื ๆก็ปฏบิ ตั ิ
เช่นเดียวกัน เพื่อให้เก็บความช้ืนไว้ได้สม่าเสมอรอบๆบริเวณรากของพืชถ้ามีการ
ระบายน้า เร็วเกินไปจะเก็บความช้ืนไว้ไม่พอ หรือดินท่ีมีการระบายน้าไม่ดีและ
ภาชนะที่ใสด่ นิ มีช่องระบายแคช่ อ่ งเดียวอาจ เกบ็ ความช้ืนไวม้ ากเกนิ ไป รากของพืช
อาจเน่าได้

11

วิธีการขยายพนั ธขุ์ องผกั สวนครวั

การขยายพนั ธพุ์ ืชผักสวนครัว หมายถงึ การเพม่ิ จานวนพืชผักสวน
ครัวให้มีปริมาณเพ่ิมข้ึนมากกว่าเดิม โดยคงไว้ซ่ึงคุณสมบัติ ลักษณะและ
คุณภาพในการผลิตพืชให้ดีเท่าเดิมหรือ ดีข้ึนกว่าเดิมซ่ึงการขยายพันธ์ุพืช
สวนครัวมหี ลายวธิ ี ไดแ้ ก่

1. การเพาะเมลด็ หมายถงึ การขยายพันธุ์พืชโดยการนาเมลด็ พันธท์ุ ่ี
ผา่ นการคดั เลือกแลว้ มาปลูกไวใ้ นพ้ืนที่ทเ่ี ตรียมไว้ ไดแ้ ก่

1) การหวา่ นเมลด็ ลงในแปลงปลกู เช่น ผักกาดหวั ผักคะนา้
ผักบุง้ ผักชี เป็นต้น

2) การเพาะเมล็ดลงในถงุ หรอื กระถางกอ่ นนาไปปลกู ในแปลง
เช่น มะเขือเทศ พรกิ หยวก มะเขอื เปราะ เป็นตน้

3) การหยอดเมล็ดลงในหลุม เชน่ บวบ มะระ ข้าวโพด ถ่ัวตา่ งๆ
เป็นต้น

2. การแบ่งและแยกสว่ นตา่ งๆ ของพืช หมายถึง การนาเอาส่วนที่
เป็นหัว หน่ออ่อน หรือต้นอ่อนของพืชมาปลูก ซ่ึงผักสวนครัวท่ีเหมาะแก่
การขยายพันธ์วุ ธิ ีนี้ เช่น กระเทียม หอม กระชาย ขงิ ข่า เปน็ ตน้

12

3. การตอน หมายถึง การทาให้ก่ิงของพืชออกรากขนึ้ มาในขณะท่ีกงิ่
ยงั ตดิ กบั ตน้ เดิม และเมื่อกิ่งมีรากมากและแข็งแรงดีก็จะตัดมาปลูกเป็น
พืชต้นใหม่ ผักสวนครัวท่ีเหมาะต่อการ ขยายพันธ์ุวิธีนี้ เช่น มะกรูด
มะนาว

4. การปักชา หมายถงึ การใช้ส่วนต่างๆ ของพืช ปักชาลงไปในท่ีที่
เตรียมไว้ ซึ่งส่วนของพืชเหล่าน้ันก็จะเจริญงอกงามต่อไป ผักสวนครัวที่
เหมาะต่อการขยายพนั ธ์ุวธิ นี ้ี เชน่ ชะอม ชะพลู สะระแหน่ เป็นตน้

13

หลักการปลูกผกั สวนครวั

1. การปลกู ผกั ในแปลงปลกู มขี ้ันตอน คือ

1.1 การพรวนดิน ใชจ้ อบขุดดนิ ลึกประมาณ 6 น้ิว เพือ่ พรวนดนิ
ให้มโี ครงสรา้ งดีข้ึน กาจัดวัชพชื ในดนิ กาจัดไข่แมลงหรือโรคพืชที่
อยู่ในดิน โดยการพรวนดินและตากท้ิงไว้ประมาณ 7-15 วัน
1.2 การยกแปลง ใชจ้ อบพรวนยกแปลงสงู ประมาณ 4-5 นว้ิ จาก
ผวิ ดิน โดยมคี วามกว้างประมาณ 1-1.20 เมตร ส่วนความยาวควร
เปน็ ตามลักษณะของพ้ืนที่หรืออาจแบ่งเปน็ แปลงยอ่ ยๆ ตามความ
เหมาะสม ความยาวของแปลงนั้นควรอยู่ในแนวทิศเหนือ - ใต้
ท้งั นเี้ พื่อให้ผักได้รบั แสงแดดทวั่ ท้ังแปลง
1.3การปรับปรุงเน้ือดิน เนื้อดินท่ีปลูกผักควรเป็นดินร่วนแต่
สภาพ ดนิ เดิมนั้นอาจจะเป็นดิน ทรายหรือดินเหนียว จาเป็นต้อง
ปรับปรุงให้เนื้อดินดีขึ้นโดยการใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตรา
ประมาณ 2-3 กิโลกรัม ต่อเนื้อท่ี 1 ตารางเมตร คลุกเคล้าให้เข้า
กัน
1.4การกาหนดหลุมปลูกจะกาหนดภายหลังจากเลือกชนิด ผัก
ต่างๆ แล้วเพราะว่าผักแต่ละชนิดจะใช้ระยะปลูกที่ต่างกัน เช่น
พ ริ ก ค ว ร ใ ช้ ร ะ ย ะ 7 5 * 1 0 0 เ ซ น ติ เ ม ต ร ผั ก บุ้ ง จ ะ
เป็น 5*5 เซนตเิ มตร เปน็ ต้น

14

2.การปลูกผักในภาชนะ

การปลูกผักในภาชนะควรจะ พิจารณาถึงการหยั่งรากของพืชผัก
ชนดิ นัน้ ๆ พชื ผกั ทห่ี ยั่งรากตนื้ สามารถปลกู ได้ดใี นภาชนะปลูกชนิดต่างๆ
และภาชนะชนิดห้อยแขวนที่มีความลึก ไม่เกิน 10 เซนติเมตร คือ
ผักบุ้งจีน คะน้าจีน ผักกาดกวางตุ้ง (เขียวและขาว) ผักกาดฮ่องเต้
ผักกาดหอม ผักกาดขาวชนิดไม่ห่อ (ขาวเล็ก ขาวใหญ่) ต้ังโอ๋ ปวยเล้ง
หอ มแ บ่ง (ต้นหอ ม) ผักชี ขึ้ นฉ่ าย ผักโ ขมจีน ก ระ เทียมใบ
(Leek) กุยช่าย กระเทียมหัว ผักชีฝรั่ง บัวบก สะระแหน่ แมงลัก
โหระพา (เพาะเมล็ด) กะเพรา (เพาะเมล็ด) พริกข้ีหนู ตะไคร้ ชะพลู
หอมแดง หอมหัวใหญ่ หวั ผกั กาดแดง (แรดชิ )

วัสดุ ท่ีสามารถนามาทาเป็นภาชนะปลูกอาจดัดแปลงจากส่ิงที่ใช้
แล้ว เชน่ ยางรถยนตเ์ กา่ กะละมงั ปลอกซเี มนต์ เปน็ ต้น สาหรับภาชนะ
แขวนอาจใช้ กาบมะพรา้ ว กระถาง หรอื เปลอื กไม้

15

วธิ กี ารปลกู ผักในภาชนะแย่งออกไดเ้ ป็น 2 วิธี

2.1 เพาะเมลด็ ดว้ ยการหวา่ นแลว้ ถอนแยกหรือหยอดเปน็ แถว
แลว้ ถอนแยก ซ่ึงพชื ทคี่ วรปลูกด้วยวธิ ีนี้ ไดแ้ ก่
- ผักบุง้ จีน - คะน้าจีน - ผักกาดขาวกวางต้งุ
- ผักกาดเขียวกวางตงุ้ - ผักฮอ่ งเต้(กวางตุ้งไต้หวนั )
- ตั้งโอ๋ - ปวยเล้ง - ผักกาดหอม
- ผกั โขมจนี - ผกั ชี - ข้ึนฉา่ ย
- โหระพา - กระเทยี มใบ - กุยฉา่ ย
- หวั ผักกาดแดง - กระเพรา - แมงลกั
- ผักชีฝร่ัง - หอมหัวใหญ่

2.2 ปักชาดว้ ยต้น และหวั ไดแ้ ก่
- หอมแบ่ง (หัว)
- ผกั ชีฝรั่ง - กระเทียมหวั (ใช้หวั ปลูก)
- หอมแดง (หัว)
- บวั บก (ไหล)
- ตะไคร้ (ต้น)
- สะระแหน่ (ยอด)
- ชะพลู (ตน้ )
- โหระพา กงิ่ อ่อน)
- แมงลกั (ก่งิ ก่งึ แกก่ ง่ึ ออ่ น)

หมายเหตุ มีบางพืชทีป่ ลกู ดว้ ยหัว หรอื สว่ นของตน้ กไ็ ด้
ปลูกด้วยเมลด็ กไ็ ด้ ดงั น้ันจงึ มีชือ่ ผกั ท่ซี ้ากันทัง้ ขอ้ 1และ 2

16

การดแู ล บารุงผกั สวนครวั

การบารงุ รักษาพืชผกั สวนครัวอย่างสม่าเสมอ จะทาใหพ้ ชื ทีป่ ลกู ไว้
เจริญเตบิ โตและงอกงามได้ดี โดยมหี ลักปฏบิ ัติ ดงั น้ี

1. การรดน้า ควรรดน้าในตอนเช้าและตอนเย็น โดยค่อย ๆ
รดน้าใหช้ มุ่ ชื้น แต่อยา่ ใหแ้ ฉะจนเกนิ ไป เพราะจะทาใหร้ ากเน่าได้

2. การพรวนดิน ควรพรวนดินทุก ๆ 7-10 วัน โดยพรวนให้
ท่ัวท้ังแปลง และพรวนให้ลึกพอสมควร แต่ควรระวังอย่าให้ถูก
ราก เพราะอาจทาให้รากขาดได้

3. การใส่ปุ๋ย ควรเลือกใสป่ ุ่ยให้เหมาะกับพืช โดยโรยให้ทั่ว
แปลงปลกู ในปรมิ าณทพ่ี อเหมาะ แลว้ รดนา้ ใหช้ มุ่ หลังจากใสป่ ๋ยุ แลว้ ทกุ
ครง้ั

4. การกาจดั วชั พืชและศัตรพู ืช ขณะพรวนดินควรถอนหรือ
เก็บวชั พชื ออกให้หมด และควราดายหญ้าในแปลงปลูกอยู่เสมอ ถ้ามี
แมลงศัตรูพืชต้องเก็บทิ้งหรือใช้ยากาจัดศัตรูพืชฉีดป้องกันประมาณ
สปั ดาหล์ ะ 1 คร้งั

17

การปอ้ งกนั กาจดั วชั พชื

การกาจัดวัชพืช หมายถึง การคอยดูแลตัดหรือถอนวัชพืชท่ีขึ้นแซม
พืชที่เราปลูกออกท้ิงโดยไม่ให้มาแย่ง อาหารพืช เช่น น้า แร่ธาตุอาหาร
ต่างๆ
วัชพืชข้นึ อยูท่ วั่ ไปแบง่ ตามอายกุ ารเจรญิ เติบโตได้ 3 ประเภท คอื

1. ประเภทล้มลกุ คือพวกทีอ่ อกดอกออกผลแลว้ ตายไปภายใน 1 ปี
ขยายพันธโุ์ ดยเมลด็ เช่น หญา้ ยาง หญา้ นกสชี มพู ผักโขมหนาม หญ้า
ขจรจบ เปน็ ตน้

2. ประเภททม่ี อี ายขุ า้ มฤดู คอื พวกทเ่ี ติบโตแตกกงิ่ กา้ นภายในปแี รก
แลว้ จึงออกดอกออกผลและตายภายในปที ่ี 2 ขยายพันธโุ์ ดยเมล็ด

3. ประเภททม่ี อี ายมุ ากกว่า 3 ปี พวกนีส้ ่วนมากมรี ากเหงา้ ซึ่งอยูใ่ ต้
ดิน ขยายพันธโุ์ ดยเมล็ด เช่น หญ้าคากระทกรก ตดู หมตู ูดหมา หญา้ พง
แห้วหมู เปน็ ตน้

18

ข้อควรปฏิบัตใิ นการปอ้ งกันและกาจดั วัชพืช มดี งั ต่อไปน้ี

1. ใช้เมล็ดพนั ธุ์ทสี่ ะอาดปราศจากวัชพชื และสิง่ เจอื ปน
2. หมั่นตรวจแปลง ขยายพันธ์หุ รอื เรือนเพาะ เพราะอาจมวี ัชพืชตดิ
มากับกิง่ ตน้ อ่อน ดิน หรอื ภาชนะทหี่ ่อหุ้ม
3. ไมเ่ ล้ยี งสัตว์ด้วยเมล็ดพชื หรือหญา้ ฟางที่มีเมล็ดวัชพืชปนอยู่
เพราะเมือ่ สัตว์กินเข้าไปกจ็ ะถา่ ยออกมา ทาให้วชั พชื แพร่หลายไปได้
4. ไมค่ วรใช้ปุ๋ยคอกสด เพราะอาจมเี มลด็ วชั พืชติดอยใู่ นมลู สัตว์ ควร
หมกั ไว้เสยี ก่อน 1 เดอื น
5. ดนิ ที่ใชส้ าหรับการเพาะปลกู การปราศจากเมล็ดเหงา้ หรอื หวั
วชั พชื
6. เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในการเกษตรควรสะอาด ไม่มีสว่ นตา่ งๆ ของวัชพืช
หรือเมลด็ วชั พืชทต่ี ิดอยู่
7. ตอ้ งดายหญา้ ทุกๆ 15 วัน ในบรเิ วณทป่ี ลกู พชื ผักสวนครวั
8. ควรถอนวัชพืชทีเ่ ป็นตน้ อ่อน เพราะรากหย่ังดนิ ยังไม่ลึก ง่ายตอ่
การถอน

19

การปอ้ งกนั กาจดั โรคและแมลงศตั รผู กั สวนครวั

การปอ้ งกันและกาจัดศตั รพู ืช
ศตั รูพืช หมายถงึ ส่งิ ทม่ี ชี ีวติ จาพวกจลุ นิ ทรีย์ รวมทั้งภยั ธรรมชาตทิ ี่

ทาให้พชื ผลเสยี หาย หยุดการเจริญเตบิ โตหรอื ตายในที่สดุ

1.1 ศตั รูมหี ลายชนิด เกดิ จากส่ิงสาคญั 4 อย่าง ไดแ้ ก่

1. มนษุ ย์ เกดิ จากการลกั ขโมยหรือเหยียบย่า ทาลายให้เสียหาย

2. สัตว์ เช่น หนู กระรอก นก แมลง คอยกัดกนิ เมลด็ ผล

3. ภัยธรรมชาติ ได้แก่
- อุทกภัย หมายถงึ ภัยที่เกิดจากนา้ ท่วม เนอ่ื งจากฤดฝู นมีฝน

ตกหนัก ทาใหพ้ ืชเสยี หาย
- วาตภยั หมายถงึ ภยั ทีเ่ กดิ จากลม เช่น ลมมรสุม ลมพายุ ซ่งึ

เกิดข้นึ ได้ทุกฤดู

4. โรคตา่ งๆ เชน่
- โรคทเี่ กิดจากเชื้อรา ไดแ้ ก่ โรคโคนเนา่ ของตน้ กล้า
- โรคที่เกดิ จากเชื้อแบคทเี รีย ไดแ้ ก่ โรคเน่าดาของผกั
- โรคทเ่ี กิดจากเช้อื ไวรสั ได้แก่ โรคใบหดยาสูบ

20

1.2 วิธีป้องกนั และกาจัดศัตรูพชื

1. รักษาบรเิ วณ ไร่ สวน ใหส้ ะอาด
2. ขดุ ไถ พรวนดนิ
3. เมอื่ ส้ินฤดเู กบ็ เก่ยี ว ควรขดุ ดนิ ตากแดด เพือ่ ฆ่าเชอื้ โรค
4. สร้างเครอ่ื งกีดขวาง เชน่ สร้างร้วั รอบบรเิ วณ ปลูกแนวต้นไผ่บงั ลม
5. สร้างเขอ่ื นปอ้ งกันน้าทว่ ม
6. บารุงรักษาพชื ใหแ้ ข็งแรง
7. ปลูกต้นพชื ท่แี ขง็ แรง
8. ฉีดยา พน่ ยา ปอ้ งกนั โรค
9. ปลูกพชื หมุนเวยี น ควรปลกู สลับ อยา่ ปลูกซา้ ชนิดกนั เพราะโรค
บางอยา่ งจะเปน็ กบั พชื บางชนดิ เท่านัน้
10. เมื่อพืชเรมิ่ เป็นโรค ให้รีบรักษาหรือทาลาย เพื่อไมใ่ หล้ ุกลามตอ่ ไป

21

การเกบ็ เก่ียวผลผลติ ผกั สวนครวั

การเก็บเก่ยี ว
การ เก็บเกี่ยวผักควรเก็บในเวลาเช้าจะทาให้ได้ผักสดรสดี และ

หากยังไม่ได้ใช้ให้ล้างให้สะอาด และนาเก็บไว้ในตู้เย็น สาหรับผัก
ประเภทผลควรเก็บในขณะที่ผลไม่แก่จัด จะได้ผลท่ีมีรสดีและจะทา
ใหผ้ ลดก หากปลอ่ ยให้ผลแก่คาตน้ ต่อไปจะออกผลนอ้ ยลง

สาหรับ ในผักใบหลายชนิด เช่นหอมแบ่ง ผักบุ้งจีน คะน้า
กะหลา่ ปลี การแบง่ เก็บผกั ท่ีสดอ่อนหรือโตได้ขนาดแล้ว โดยยังคงเหลือ
ลาต้นและรากไวไ้ ม่ถอนออกทั้งต้น รากหรอื ต้นท่เี หลืออยจู่ ะสามารถงอก
งามให้ผลได้อีกหลายคร้ัง ท้ังนี้จะต้องมีการดูแลรักษาให้น้าและปุ๋ยอยู่
การปลูกพืชหมุนเวียนสลับชนิดหรือปลูกผักหลายชนิดในแปลงเดียวกัน
และปลกู ผักท่ีมีอายกุ ารเกบ็ เกย่ี วส้นั บา้ งยาวบ้างคละกันในแปลงเดียวกัน
หรือปลูกผักชนิดเดียวกันแตท่ ยอยปลูกคร้ังละ 3-5 ต้น หรือประมาณว่า
พอรบั ประทานได้ในครอบครัวในแต่ละครง้ั ทเ่ี ก็บเกีย่ ว ก็จะทาให้ผู้ปลูกมี
ผกั สดเก็บรับประทานไดท้ กุ วนั ตลอดปี

22

การแปรรปู พชื ผกั และการถนอม

1. การดอง เป็นการถนอมอาหาร
โดยการแช่ หรือหมักชิ้นอาหารใน
เ ก ลื อ ห รื อ น้ า เ ก ลื อ ห รื อ
น้าส้มสายชู ซึ่งสามารถยับย้ังการ
เจริญเติบโต ของเช้ือจุลินทรีย์ที่ทา
ใหอ้ าหารเนา่ เสยี ช่วยเก็บอาหารไว้
ไดน้ าน และมรี สชาติแปลกใหมข่ น้ึ

2. การเช่ือม เป็นการเพ่ิมปริมาณ
น้าตาล ในอาหารให้สูงขึ้น โดยใช้
ความรอ้ นทาใหอ้ าหารสุก และน้าตาล
ซมึ ผ่าน เข้าไปในเนือ้ อาหาร อาหารจะ
ไม่เหี่ยวย่นและเก็บไว้ได้นาน น้าตาล
เป็นสารถนอม

3. การกวน เป็นวิธีการถนอม
อาหาร โดยการนาเอาผักผลไม้
มาผสมกับน้าตาล ใช้ความร้อน
เค่ียว ก วน จ นปริมา ณน้า ลด
น้อยลง และผสมเป็นเน้ือเดียวกัน
อาหารชนดิ น้ีเกบ็ ได้นาน

23

4. การแช่อ่ิม เป็นการถนอมอาหาร
โดยค่อยๆเพ่ิมน้าตาล เข้าไปในเน้ือ
อาหาร จนกระท่ังอาหารน้ัน อ่ิมตัว
ด้วยน้าตาล ทาให้สภาพของอาหาร
ไมเ่ หมาะสมต่อการเจริญเตบิ โต และ
ขยายพันธุ์ของจุลินทรีย์ ผัก ผลไม้
แช่อิม่ จึงเกบ็ ไดน้ าน

5. การตากแห้ง เป็นการใช้ความ
รอ้ น ทาใหน้ ้าหรือความชน้ื ที่มอี ยู่
ในอาหารเหลือน้อย จนจุลินทรีย์
ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ อาหาร
จึงเก็บได้นาน ผักและผลไม้ทุก
ชนิดนามาตากแห้งได้ ผักและ
ผลไมท้ ่นี ิยมนามาตากแห้ง ผกั ควร
เป็นใบ หรือเน้ือแน่น สด มีความ
แกห่ รือออ่ นเท่ากัน

6. การทาน้าผัก คือเคร่ืองด่ืมโดย
พ้ืนฐานทาข้ึนจากการปั่นผสมกันของ
ผัก บ่อยครั้งที่น้าผักจะถูกป่ันผสมกับ
ผลไม้บางชนิด เช่น องุ่นและมะเขือ
เทศ เพอื่ ปรับปรงุ รสชาตใิ หด้ ขี นึ้

ใบงานที่ 1
การปลกู พชื ผกั สวนครัว

คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง

1.จงบอกความหมายของผกั สวนครัวมาพอสังเขป
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
2.บอกประโยชน์ของการปลูกผกั สวนครวั มาพอสงั เขป
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
3.การเลือกสถานท่หี รือทาเลปลกู ควรเลือกพ้นื ทแ่ี บบใด เพราะเหตใุ ด
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
4.ผักทป่ี ลกู แบ่งความต้องการแสงในการปลกู ออกเปน็ ก่ปี ระเภท อะไรบ้าง
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................

ใบงานที่ 2
ชนิดผักทจ่ี ะปลูก

คาชี้แจง : ให้นักเรยี นจาแนกผักต่อไปน้ใี หต้ รงตามอายกุ ารเก็บเก่ยี ว

ผักชี แตงโม กะหล่าปลี ผกั กาดขาว ตะไคร้
ผกั กาดหอม ผักกาดเขียว สะตอ กวางตุ้ง คะน้า
มะเขือเทศ ผกั บงุ้ จีน บวบ ผักกาดหวั ผกั หวาน
ผักกาดขาว แตงกวา หอมหัวใหญ่ ชะอม พรกิ
มะระ ชะพลู ฟกั ทอง ขมิน้ กระชาย

ผักอายุส้ัน ผกั อายปุ านกลาง ผกั ยืนต้น

ใบงานที่ 3
ฤดูกาลผักสวนครัว

คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นบอกชอ่ื ผักที่ควรปลูกในแต่ละช่วงเดอื นมา
อย่างละ 4 ชนิด

1.มกราคม 2.กุมพาพนั ธ์ุ 3.มีนาคม

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

4.เมษายน 5.พฤษภาคม 6.มถิ ุนายน

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

............................. .............................. ..............................

7.กรกฏาคม 8.สงิ หาคม 9.กนั ยายน

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

............................. .............................. ..............................

10.ตุลาคม 11.พฤศจกิ ายน 12.ธันวาคม

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

.............................. .............................. ..............................

ใบงานที่ 4
การขยายพันธุ์ผักสวนครัว

คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถูกตอ้ ง

1.การเพาะเมล็ด หมายถึง
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
2.การตอน หมายถึง
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
3.การแบง่ และแยกสว่ นต่างๆ ของพชื หมายถงึ
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
4.การปกั ชา หมายถงึ
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................

ใบงานที่ 5
หลกั การปลูกผกั สวนครัว

คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกตอ้ ง

1. การปลกู ผักในแปลงปลูก มกี ่ีขนั้ ตอน อะไรบ้าง
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
2. ยกตวั อย่างพืชทปี่ กั ชาด้วยตน้ และหวั ไดแ้ ก่
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
3.จงบอกหลักการดแู ลพืชผักสวนครวั
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
............................................................................................................................
.

ใบงานที่ 6
การป้องกนั กาจัดวชั พชื โรคพชื และศัตรพู ชื

คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กทาเครื่องหมายถกู ✓หน้าขอ้ ทถ่ี ูก และทา
เครือ่ งหมายผดิ หน้าขอ้ ทผี่ ิด (10 คะแนน)

.............. 1. วัชพืชประเภทล้มลุก คือพวกท่ีออกดอกออกผลแล้วตายไป
ภายใน 1 ปี ขยายพนั ธโุ์ ดยเมลด็ เช่น หญ้าคากระทกรก ตูดหมูตดู หมา
.............. 2.วัชพืชประเภทที่มีอายุข้ามฤดู คือ พวกที่เติบโตแตกก่ิงก้าน
ภายในปีแรก แลว้ จึงออกดอกออกผลและตายภายในปีที่ 2 ขยายพันธ์ุโดย
เมล็ด
............... 3. ดนิ ทใี่ ช้สาหรับการเพาะปลกู ควรปราศจากเมล็ดเหง้าหรือหัว
วชั พชื
.............. 4. ตอ้ งดายหญา้ ทกุ ๆ 20 วัน ในบริเวณทป่ี ลกู พืชผกั สวนครวั
.............. 5. โรคท่เี กิดจากเชือ้ ไวรัส ไดแ้ ก่ โรคใบหดยาสูบ
.............. 6. โรคทเี่ กดิ จากเช้อื แบคทเี รยี ไดแ้ กโ่ รคโคนเนา่ ของตน้ กลา้
.............. 7 ปลูกพืชหมุนเวียน ควรปลูกสลับ อย่าปลูกซ้าชนิดกัน เพราะ
โรคบางอย่างจะเปน็ กับพืชบางชนดิ เท่าน้ัน
............... 8. การกาจัดวัชพืช หมายถึง การคอยดูแลตัดหรือถอนวัชพืชที่
ข้นึ แซมพชื ที่เราปลกู ออกท้ิงโดยไมใ่ หม้ าแย่ง อาหารพืช
.............. 9 ควรเล้ียงสัตว์ด้วยเมล็ดพืชหรือหญ้าฟางท่ีมีเมล็ดวัชพืชปนอยู่
.............. 10. ศัตรูพืช หมายถึง ส่ิงท่ีมีชีวิตจาพวกจุลินทรีย์ รวมท้ังภัย
ธรรมชาตทิ ีท่ าให้พืชผลเสยี หาย หยดุ การเจริญเติบโตหรือตายในท่ีสุด

เร่อื ง การปลูกพืชผกั สวนครัว

คาช้แี จง ให้นักเรียนทาเครือ่ งหมายกากบาทหน้าขอ้ ที่ถกู ทส่ี ดุ เพยี ง
ข้อเดยี วในกระดาษคาตอบ

1. ข้อใดคอื ความหมายของ “พชื ผักสวนครัว”

ก) ผักที่ปลกู ไว้เพอ่ื จาหน่าย

ข) ผักทป่ี ลกู ไว้เพอ่ื แจกเพอ่ื นบา้ น

ค) ผักท่ีปลกู ไว้เพื่อรับประทานในครอบครัว

ง) ผักทปี่ ลกู ไว้เพอ่ื ประดับบ้าน

2. ขอ้ ใดถือว่าเป็นประโยชน์นอ้ ยทส่ี ดุ ท่ไี ด้รบั จากการปลูกพชื

ก) นาไปเป็นอาหาร

ข) เพอ่ื ความสวยงาม

ค) ทาใหส้ ุขภาพแขง็ แรง

ง) เป็นรายไดช้ ว่ ยเหลอื ครอบครัว

3. ขอ้ ใดไมใ่ ชพ่ ืชที่ใชร้ ากเป็นอาหารทง้ั หมด

ก) มนั ฝรัง่ เผอื ก

ข) กะหล่าปลี มนั แกว

ค) มนั เทศ ผกั กาดหัว

ง) แครอท มนั สาปะหลัง

4. ข้อใดคอื พืชทีใ่ ชห้ วั เป็นอาหาร

ก) ขมิ้น กวางตุ้ง

ข) กระชาย มนั เทศ

ค) เผอื ก

ง) กระเทียม มนั แกว

5. ปัจจัยส่ีทมี่ นุษยไ์ ด้รับจากการปลกู พชื ข้อใดท่ีสาคัญทส่ี ุด

ก) อาหาร ข) ทีอ่ ยู่อาศัย

ค) เครอ่ื งนงุ่ หม่ ง) ยารักษาโรค

6. ขนั้ ตอนแรกในการเตรียมดินปลกู ผัก คอื ขอ้ ใด
ก) ใสป่ ุ๋ยหมักหรอื ปุ๋ยคอก
ข) ย่อยดินใหร้ ่วนซยุ
ค) ขุดดนิ และเก็บวัชพืช
ง) ตากดนิ เพอื่ ฆ่าเชอ้ื โรค

7. พชื ผกั ชนดิ ใดที่ปลกู ด้วยวธิ ีหยอดเมล็ดลงหลุม
ก) ข่า
ข) ฟกั ทอง
ค) คะน้า
ง) ผกั ชี

8. ป๋ยุ พชื สดได้จากพืชชนดิ ใด
ก) ผลไม้
ข) พืชสดสเี ขียว
ค) พชื สมนุ ไพร
ง) พืชตระกลู ถวั่

9. การดกั จบั แมลงศัตรพู ืชเป็นวธิ กี ารใด
ก) วิธีธรรมชาติ
ข) วิธีกล
ค) วิธเี ทคนคิ
ง) วธิ ีนอก

10. การเตรียมผลผลติ ออกจาหนา่ ยควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร
ก) ควรจาหน่ายผลผลิตใหน้ ้อยชนดิ ทีส่ ดุ
ข) ผลผลิตท่ีจาหน่ายไม่ควรฉีดยาฆ่าแมลง
ค) ไมค่ วรตัดแตง่ ผลผลติ เพราะจะทาให้รูปทรงเสีย
ง) ผลผลติ จะต้องจัดไวเ้ ป็นหมวดหมู่และสะดดุ ตา


Click to View FlipBook Version