ประเพณแี หดอกไม
วัดทา กกแก
ตำบลตาลเด่ยี ว อำเภอหลมสกั จังหวดั เพชรบูรณ
มหสาำวนทิักยศาลิ ลปัยะรแาลชะภวฏั ฒั เพนธชรรรบมรู ณ
คำนำ
ประเพณีแห่ดอกไม้ วดั ท่ากกแก ตำบลตาลเด่ียว อำเภอหล่มสัก จงั หวัดเพชรบูรณ์ เป็นเอกสารองค์ความรู้
ภายใต้โครงการจัดเก็บข้อมูลทางด้านศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นข้อมูลที่ทีมงานสำนักศิลปะ
และวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์ ได้จัดทำขึ้นจากการลงพื้นท่ีภาคสนาม เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล
องค์ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนรุ่นหลังได้รับรู้ถึง
เร่อื งราวท่ีเกดิ ข้ึนในอดตี และปจั จุบัน
ทั้งนี้ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
เอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจทั้งหลาย นำองค์ความรู้นี้ไปเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและ
เลง็ เห็นถึงคณุ ค่าของรอ่ งรอยทางวฒั นธรรมทค่ี นในอดีตได้สรา้ งไวต้ อ่ ไป
สำนักศลิ ปะและวฒั นธรรม
มหาวิทยาลยั ราชภัฏเพชรบรู ณ์
สารบัญ หนา้
เรื่อง ๑
องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม ๑
เรื่อง ประเพณีแห่ดอกไม้ ๑
๑
วัตถปุ ระสงค์ ๑
ขอบเขต ๒
เปา้ หมาย ๖
ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ บั ๖
ประเพณีแหด่ อกไม้ วัดทา่ กกแก ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหลม่ สกั จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ๗
แนวทางการนำไปปฏบิ ัติใช้ ๘
ขอ้ เสนอแนะ
บรรณานุกรม
ภาคผนวก รายละเอียดรายวิชา (มคอ. ๓) ทใ่ี ช้บูรณาการ
องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม
เรอ่ื ง ประเพณแี ห่ดอกไม้
วัดท่ากกแก ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสกั จังหวัดเพชรบรู ณ์
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อเป็นการเสาะหา รวบรวม จัดเก็บข้อมูลในตัวบุคคลที่มีประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญด้าน
ประเพณีพน้ื บา้ น ประเพณแี ห่ดอกไม้ วัดทา่ กกแก ตำบลตาลเด่ยี ว อำเภอหลม่ สัก จงั หวัดเพชรบรู ณ์
๒. เพอ่ื จัดทำเป็นเลม่ องคค์ วามร้สู ำหรับเผยแพร่ให้แก่เยาวชนและผู้ท่ใี หค้ วามสนใจศึกษาเรียนรู้
ขอบเขต
ศกึ ษาประวัติความเปน็ มา และข้นั ตอนการจดั ประเพณีแหด่ อกไม้ วัดทา่ กกแก ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอ
หลม่ สกั จงั หวดั เพชรบูรณ์
เป้าหมาย
จัดเกบ็ ขอ้ มลู ทางดา้ นวัฒนธรรม เรอ่ื งประเพณีพน้ื บ้าน ประเพณีแห่ดอกไม้ วัดทา่ กกแก ตำบลตาลเด่ียว
อำเภอหล่มสกั จังหวัดเพชรบรู ณ์
ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ
๑. ได้ข้อมูลทางด้านวัฒนธรรม เรื่องประเพณีพื้นบา้ น ประเพณีแห่ดอกไม้ วัดท่ากกแก ตำบลตาลเดี่ยว
อำเภอหล่มสัก จงั หวัดเพชรบูรณ์
๒. ได้สบื สานและอนุรักษ์มรดกทางวฒั นธรรมประเพณีพื้นบา้ นจังหวัดเพชรบูรณ์
๓. ได้องค์ความรสู้ ำหรับนำไปบรู ณาการกับการเรยี นการสอน
๒
ประเพณีแห่ดอกไม้
วดั ทา่ กกแก ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบรู ณ์
ประเพณีแห่ต้นดอกไม้ เป็นงานบุญที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชุมชนบ้านท่ากกแก
ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชุมชนที่ยึดมั่นถือมั่นในบวร
พระพุทธศาสนา ซง่ึ ปีหน่งึ จะจดั ขึน้ เพียงครั้งเดียวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เปน็ ประจำของทุกปี โดยจัดขึ้นเพ่ือ
เปน็ การบชู าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เนอ่ื งในวนั ขึ้นปีใหม่ไทย ซงึ่ ในแตล่ ะคุ้มชาวบ้าน จะช่วยกันนำไม้ไผ่
มาสานผูกขึ้นเป็นทรงดอกบัวตูมแล้วนำดอกไม้มาประดับตกแต่งให้สวยงาม พร้อมทั้งนำเงินปัจจัยติดไปที่ต้น
ดอกไม้นนั้ ดว้ ย
การทำต้นดอกไม้
เช้าวันที่ ๑๗ เมษายน กลุ่มชาวบ้านจะเดินทางมารวมตัวกันที่วัดโดยมีการแบ่งหน้าที่กันดังนี้ กลุ่ม
ผชู้ ายจะออกเดินทางไปตดั ไม้ไผ่ภายในหมู่บ้านมาสานผูกขน้ึ เป็นโครงสร้างเตรยี มไว้รอการนำดอกไม้มาตกแต่ง
ตั้งแต่เช้าตรู่ โดยจะเลือกตัดไม้ไผ่หลายขนาด ตามแต่วา่ จะนำไปใชท้ ำโครงสรา้ งส่วนใดของต้นดอกไม้ มีทั้งตน้
เลก็ และตน้ ใหญ่เม่ือได้ไมไ้ ผ่ท่ีต้องการ แล้วก็จะนำมาช่วยกนั ประกอบเป็นโครง โดยโครงสร้างจะต้องทำด้วยไม้
ไผ่ทั้งหมด ไม่มีลวด ตะปู โดยไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ ในระหว่างที่กลุ่มของฝา่ ยชายกำลงั ทำโครงสร้าง
ตน้ ดอกไมอ้ ยู่ภายในลานวดั กลมุ่ ฝ่ายผู้หญิงก็จะออกเดินทางไปตามเส้นทางในหมูบ่ า้ นเพ่ือหาเก็บดอกไม้สดท่ีมี
อย่ทู ว่ั ไปในหมู่บ้านมาเตรยี มเอาไว้ประดับตกแตง่ โครงตน้ ดอกไม้ ซึ่งดอกไมท้ ่เี ราพบเหน็ ส่วนใหญ่จะเปน็ ดอกไม้
๓
ที่ออกดอกในช่วงฤดูร้อน คือ ดอกคูณหรือดอกราชพฤกษ์ ดอกคณู หรือดอกราชพฤกษ์
ที่มีดอกเป็นพวงสีเหลืองๆ ดอกหางนกยูงดอกออกสีส้มๆ
ดอกตะแบกดอกออกสีม่วงอมชมพู และดอกเฟืองฟ้า เป็น
ต้น และยังมีการนำเครื่องไทยทานอื่นๆ เช่น สมุด ดินสอ
ด้ายไหม ฝ้าย ไม้ขีดไฟ ยารักษาโรค ธูปเทียน ฯลฯ มา
ประดบั ประดาตกแต่งเพ่มิ เติมอีกอย่างสวยงาม ซ่ึงการเก็บ
ดอกไม้นั้นจะมีผู้เฒ่าผู้แก่พาออกเดินทางไปเก็บและจะนำ
กลา่ วคำขอดอกไมด้ งั นี้
“สาธุ ขอแนเ่ ด้อขอดอกไมแ้ น่เดอ้ ซินำไปบูชาพระเจ้าลกู หลานเต้ามาเอาอยา่ ถือ
ให้ลูกหลานหอมคือดอกไม้ สาธุ”
ต้นดอกไมใ้ นขบวนแห่
หลังจากที่กล่าวคำขอดอกไม้จบลงผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะเด็ดดอกไม้เป็นคนแรกจากนั้นลูกหลานก็จะเด็ด
ดอกไม้ที่เหลือจะมากจะน้อยตามแต่ใครจะถือได้พอเด็ดจนครบทุกคนแล้ว จึงออกเดินทางกันต่อโดยมีผู้เฒา่ ผู้
แก่เดนิ นำหน้าแล้วตามดว้ ยลกู หลานถือดอกไมเ้ ดนิ ตามหลังไปพร้อมกับกลา่ วร้อง “ไชโย ไชโย” ไปเร่ือย ๆ
๔
เมอ่ื ทำโครงสร้างเสร็จแล้ว ชาวบา้ นจะช่วยกนั มัดดอกไม้เข้ากับโครงด้วยไม้ไผ่ที่ทำเปน็ แผ่นบาง ๆ เล็ก ๆ
ให้พอมัดได้ ตน้ ดอกไมท้ งั้ เลก็ และใหญ่น้ี จะตอ้ งทำใหเ้ สร็จภายในวนั เดียวเท่านั้น และทนั สำหรับท่ีจะแห่ในช่วง
เยน็ ของวันงานอกี ดว้ ย นอกจากการทำตน้ ดอกไม้แลว้ ยงั มีการรว่ มกนั ขนทรายจากลำหว้ ยเข้ามาร่วมกันก่อเป็น
เจดีย์พรอ้ มทง้ั ตกแตง่ ด้วยดอกไม้อย่างสวยงามทีบ่ ริเวณโดยรอบของโบสถ์อกี ดว้ ย
ขนทรายเขา้ วัด เพอื่ กอ่ เจดยี ์
นอกจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านภายใน
ชุมชน ยังเห็นถึงความสนุกสนานและความสามัคคีกันระหว่าง
ที่ช่วยกันทำต้นดอกไม้ มีการเปิดเพลงเต้นไปทำไป บ้างก็
นำเอาน้ำมาสาดใส่กันเพิ่มความสดชื่นให้ทั้งดอกไม้และคนทำ
หลังจากที่ประกอบโครงและตกแต่งต้นดอกไม้เสร็จเป็นท่ี
เรียบร้อยแล้ว ไม่เกินหกโมงเย็น ชาวบ้านภายในหมู่บ้านก็จะ
เริ่มตั้งขบวนแห่ต้นดอกไม้มายังที่วัดแล้วนำมาตั้งไว้ด้านหน้า
ของโบสถ์ หรอื บริเวณด้านขา้ งของโบสถภ์ ายในวัดท่ากกแก ซง่ึ
เป็นสถานที่จัดงานประเพณีแห่ต้นดอกไม้ งานนี้เต็มไปด้วย
ชาวบ้านที่มาร่วมงาน เพื่อรอถ่ายรูปขบวนแห่และต้นดอกไม้
กนั อยา่ งคึกคัก
ขบวนแห่ดอกไม้
๕
ประดบั ทุงตน้ ดอกไม้ ตกแต่งสถานท่ีด้วยทุง
กจิ กรรมก่อเจดีย์ทราย กิจกรรมการละเลน่ สะบ้า
ก่อนที่จะถึงเวลาแห่ชาวบ้านจะนำเทียนจุดตั้งที่คานหาบต้นดอกไม้เพื่อให้เกิดแสงสว่างที่สวยงาม
ทางวัดจะตีกลองเพล เพ่อื เป็นสญั ญาณให้ชมุ ชนรูว้ ่าใกลถ้ ึงเวลาทจี่ ะแห่ต้นดอกไม้แล้ว ชาวบา้ นจะจุดเทียนเล่ม
ใหญท่ ีต่ ้ังอยู่ดา้ นในของตน้ ดอกไม้ แลว้ แบง่ หน้าทก่ี ันออกเป็นฝ่ายๆ คอื กลุม่ คนหามต้นดอกไม,้ ตีกลอง ฆอ้ ง ฉ่ิง
ฉาบ แคน พิณ และกลมุ่ ที่ถือกำดอกไม้รำนำหน้าขบวนแห่อย่างสนุกสนานไม่เว้นแม้แต่ตน้ ดอกไม้ที่ต้องโยกไป
ด้วยตามจงั หวะพณิ แคนน้ันดว้ ย
ผบู้ ริหารและบุคลากรสำนักศิลปะและวัฒนธรรมรว่ มรำหน้าขบวนแห่ดอกไม้รอบพระอโุ บสถ
๖
ผ้บู รหิ ารและบุคลากรสำนักศิลปะและวฒั นธรรมรว่ มกจิ กรรมสรงนำ้ พระพทุ ธรูป
เมื่อขบวนแห่ต้นดอกไม้ถึงยังบริเวณภายในวดั ก็จะเดินแหไ่ ปรอบโบสถ์ ๓ รอบ เพื่อเป็นการบูชาพระ
พทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ และเมอ่ื แห่ครบสามรอบก็จะวางตน้ ดอกไม้ทุกต้นไว้ด้านหน้าและรอบโบสถ์แล้ว
จงึ กลา่ วคำถวายตน้ ดอกไม้ จากนัน้ ก็จะตงั้ ต้นดอกไม้ไวท้ ้ังคนื จำนวน ๓ คนื โดยมคี วามเชือ่ ว่าเป็นสริ ิมงคล ทีไ่ ด้
นำดอกไม้มาบูชาพระรัตนตรัย ทำให้อยู่ดีมีสุข ฝนตกต้องตามฤดูกาล บ้านเมืองร่มเย็น ปราศจากโรคภัย วัว
ควาย สัตว์เล้ียงขยายคอกออกผลสมบูรณ์
แนวทางการนำไปปฏิบัตใิ ช้
๑. เผยแพร่ใหก้ ับผูท้ ี่สนใจ นกั ศึกษา และประชาชนทั่วไป
๒. บรู ณาการกบั การเรยี นการสอน รายวิชา BPPA102 การเมอื งการปกครองไทย โดยนำองค์ความรู้ท่ี
ได้ไปใชใ้ นกระบวนการเรยี นการสอน
ข้อเสนอแนะ
ควรมกี ารลงพืน้ ท่ี ทบทวน ข้อมลู ใหค้ รบถ้วนทกุ อำเภอในจังหวดั เพชรบูรณ์ เพ่ือใหเ้ ยาวชนรนุ่ หลังได้
ใช้ศึกษาหาความรู้ สง่ ต่อจากร่นุ สรู่ นุ่ ต่อไป
๗
บรรณานุกรม
กองแก้ว ท้าวเงิน. (๒๕๖๕). อายุ ๖๒ ปี บ้านเลขท่ี ๕๒ หมู่ ๔ ตำบลตาลเดีย่ ว อำเภอหล่มสัก
จังหวัดเพชรบูรณ์. สัมภาษณ์, ๑๖ กมุ ภาพนั ธ์.
ถาวร เชื่องแสง. (๒๕๖๕). อายุ ๕๑ ปี บา้ นเลขที่ ๑๗๖ หมู่ ๔ ตำบลตาลเดีย่ ว อำเภอหลม่ สัก
จงั หวดั เพชรบรู ณ.์ สมั ภาษณ์, ๑๖ กุมภาพันธ์.
ทฤษฎี วงศม์ มี า. (๒๕๖๕). อายุ ๒๗ ปี บา้ นเลขท่ี ๖๓ หมู่ ๘ ตำบลตาลเด่ยี ว อำเภอหลม่ สัก
จงั หวดั เพชรบรู ณ์. สัมภาษณ์, ๑๖ กมุ ภาพนั ธ์.
ธนั ยา คำม.ี (๒๕๖๕). อายุ ๔๓ ปี บา้ นเลขที่ ๗๖ หมู่ ๘ ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จงั หวดั เพชรบูรณ.์
สัมภาษณ์, ๑๖ กมุ ภาพันธ์.
บาง ล่ทู อง. (๒๕๖๕). อายุ ๗๓ ปี บา้ นเลขที่ ๔๐ หมู่ ๔ ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหลม่ สกั จงั หวัดเพชรบูรณ.์
สมั ภาษณ์, ๑๖ กุมภาพนั ธ์.
พระสมุหไ์ พรศาล ภทฺรมุนี. (๒๕๖๕). อายุ ๔๐ ปี พรรษา ๑๕ พรรษา วนั ท่ากกแก หมทู่ ี่ ๘ ตำบลตาลเดย่ี ว
อำเภอหล่มสกั จงั หวดั เพชรบูรณ.์ สัมภาษณ์, ๑๖ กมุ ภาพนั ธ์.
สดี า ท้าวเงนิ . (๒๕๖๕). อายุ ๘๓ ปี บ้านเลขท่ี ๑๘๘ หมู่ ๔ ตำบลตาลเดย่ี ว อำเภอหลม่ สัก
จงั หวดั เพชรบูรณ์. สมั ภาษณ์, ๑๖ กุมภาพนั ธ์.
สมร จันทรห์ อม. (๒๕๖๕). อายุ ๘๐ ปี บา้ นเลขที่ ๖๓/๑ หมู่ ๘ ตำบลตาลเดีย่ ว อำเภอหล่มสัก
จังหวดั เพชรบรู ณ.์ สมั ภาษณ์, ๑๖ กุมภาพันธ.์
๘
ภาคผนวก
รายละเอยี ดรายวชิ า (มคอ. ๓) ที่ใช้บูรณาการ
มคอ. 3
รายละเอียดของรายวิชา (มคอ.3)
คณะ มนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์
หลกั สตู ร/สาขาวิชา หลักสูตรรฐั ประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ ารัฐประศาสนศาสตร์
หมวดที่ 1 ข้อมูลโดยทั่วไป
1. รหสั และช่ือรายวชิ า
สถาบนั ทางการเมืองไทย HSPA409
Political Institution
2. จานวนหน่วยกติ
3 (3-0-6)
3. หลกั สูตรและประเภทของรายวชิ า
หลกั สูตรรัฐประศาสนศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ วชิ าเฉพาะดา้ น...วชิ าบงั คบั
4. อาจารย์ผ้รู ับผดิ ชอบรายวิชาและอาจารย์ผู้สอน
ผรู้ ับผดิ ชอบรายวิชาและอาจารยผ์ สู้ อน อาจารย์ ดร. สดุดี คามี
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. สุวฒั น์ อินทรประไพ
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. ธีรภทั ร กิจจารักษ์
5. ภาคการศึกษา/ช้ันปี ที่เรียน
ภาคการศึกษาที่ 2/2564 ช้นั ปี ที่ 3
6. รายวิชาทีต่ ้องเรียนมาก่อน (Pre-requisite)
ไม่มี
7. รายวิชาที่ต้องเรียนพร้อมกนั (Co-requisites)
ไมม่ ี
8. สถานท่เี รียน
คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณ์
9. วนั ทจ่ี ัดทาหรือปรับปรุงรายละเอยี ดของรายวชิ าคร้ังล่าสุด
1 ตลุ าคม 2564
กรอบมาตรฐานคณุ วุฒิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขยี นรายละเอยี ดของรายวิชา (มคอ. 3) มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเพชรบรู ณ์ Page 1
หมวดที่ 2 จดุ ม่งุ หมายและวตั ถุประสงค์
1. จุดมุ่งหมายของรายวิชา
นกั ศึกษามีความรู้ความเขา้ ใจ ประวตั ิความเป็นมาและความเปล่ียนแปลงทางการเมืองของไทย
โครงสร้างอานาจ รูปแบบการปกครอง สถาบนั การปกครอง ต้งั แตส่ มยั สุโขทยั อยธุ ยา รัตนโกสินทร์
การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ถึงปัจจุบนั ศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจาก
อิทธิพลทางเศรษฐกิจ สงั คม และความเปล่ียนแปลงท่ีไดร้ ับจากอิทธิพลสงั คมโลก
2. วัตถปุ ระสงค์ในการพฒั นา/ปรับปรุงรายวิชา
เพ่อื ใหน้ กั ศึกษามีความสานึกถึงหนา้ ท่ีทางดา้ นการเมืองการปกครอง มี
ความรู้ดา้ นววิ ฒั นาการทางการเมืองการปกครองของไทย และการเปล่ียนแปลงทางการเมืองจากอิทธิพล
ทางเศรษฐกิจ สังคม และความเปลี่ยนแปลงที่ไดร้ ับจากอิทธิพลสงั คมโลก
หมวดที่ 3 ลกั ษณะและการดาเนนิ การ
1. คาอธบิ ายของรายวชิ า
ศึกษาแนวคดิ และหลกั การ และวิวฒั นาการของสถาบนั ทางการเมืองไทย เช่น รัฐสภา
คณะรัฐมนตรี สถาบนั พระมหากษตั ริย์ พรรคการเมือง กลุม่ ผลประโยชน์ และองคก์ รอิสระอื่นๆ
study concepts and principles and the evolution of the study of Thai political institutions such
as the parliament, the cabinet, the monarchy, political parties, interest groups and other independent
organizations
กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขยี นรายละเอยี ดของรายวิชา (มคอ. 3) มหาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์ Page 2
2. จานวนชั่วโมงท่ใี ช้ต่อภาคการศึกษา
หน่วยกติ บรรยาย จานวนชั่วโมง/ภาคการศึกษา สอนเสริม
45 ชวั่ โมง/ การฝึ กปฏิบตั ิ/การฝึ กงาน การศึกษาด้วยตนเอง ตามความ
3(3-0 -6) ตอ้ งการของ
ภาค ไมม่ ีการฝึกปฏิบตั ิ 6 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ นกั ศึกษา
การศึกษา
3. จานวนช่ัวโมงต่อสัปดาห์ที่อาจารย์ให้คาปรึกษาและแนะนาทางวิชาการแก่นกั ศึกษาเป็ นรายบุคคล
ตารางการให้คาปรึกษาและแนะนาทางวชิ าการแก่นักศึกษาเป็ นรายบคุ คล
รายวิชา อาจารย์ วนั -เวลา สถานที่หรือ หมายเลข ที่อยู่ของ รวมจานวน
ผู้สอน ให้ หมายเลข โทรศัพท์ E-mail ผู้สอน ช่ัวโมงต่อ
ผู้สอน สัปดาห์
การเมืองการ อ.สดุดี คาปรึกษา ห้อง [email protected]
ปกครองไทย คามี ผ้สู อน 0857326130 ทใ่ี ห้
วนั พุธ คาปรึกษา
13.00- ห้องการ
16.00 น. บริหาร 3 ชว่ั โมง
การ ตอ่ หน่ึง
ปกครอง สปั ดาห์
ทอ้ งถ่ิน
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขยี นรายละเอียดของรายวิชา (มคอ. 3) มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณ์ Page 3
หมวดท่ี 4 การพฒั นาการเรียนรู้ของนักศึกษา
1. ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม
พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความเสียสละ รับผิดชอบ มีระเบียบวินยั มีจรรยาบรรณวชิ าชีพ เคารพใน
สิทธิส่วนบคุ คลไม่ละเมิดสิทธ์ิของบคุ คลอื่น ซ่ือสัตย์ ซื่อตรง รับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม โดยเนน้
ใหผ้ เู้ รียนตระหนกั ถึงส่ิง ตอ่ ไปน้ี
1.1 ผลการเรียนรู้ 1.2 กลยุทธ์/วิธกี ารสอน 1.3 กลยทุ ธ์/วธิ กี ารประเมนิ ผล
1 มีความเสียสละ มีคณุ ธรรม 1 การสอนเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั 1 ใชแ้ บบสอบถามมาตรฐานที่วดั คุณธรรม
จริยธรรม ซ่ือสัตยส์ ุจริต จริยธรรม ใหน้ กั ศึกษาประเมินการเรียนรู้
ดว้ ยตนเอง
2 มีความรับผดิ ชอบ มีวินยั ตรง 2 สอน คณุ ธรรม จริยธรรม 2 สมั ภาษณ์เพอื่ นและผทู้ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั
ต่อเวลา แทรกในเน้ือหา นกั ศึกษา ในเรื่องความซื่อสตั ยแ์ ละความ
รับผดิ ชอบ
3 มีภาวะผนู้ าและเป็นผตู้ ามทีด่ ี 3 มีกิจกรรมส่งเสริมดา้ น 3 ประเมินโดยสังเกตพฤติกรรมและการ
รู้จกั การทางานเป็นทีม คณุ ธรรม จริยธรรม แสดงออก โดยมีการบนั ทึกคะแนน
ระหวา่ งการเรียนการสอน
4 เคารพสิทธิและรบั ฟังความ 4 นาเหตุการณ์ท่ผี เู้ รียนสนใจมา 4 ประเมินโดยสงั เกตพฤติกรรมและการ
คดิ เห็นของบุคคลอน่ื ใหผ้ เู้ รียนฝึกฝนการคดิ แสดงออก โดยมีการบนั ทึกคะแนน
ขยนั หมน่ั เพียร อดทน วิเคราะหแ์ ละหาทางแกไ้ ข ระหว่างการเรียนการสอน
เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผ่ ปัญหาดว้ ยตนเอง
5 เคารพกฎระเบียบและขอ้ บงั คบั 5 ใหผ้ เู้ รียนฝึกฝนการทางาน 5 ประเมนิ โดยสงั เกตพฤติกรรมและการ
ตา่ ง ๆ ขององคก์ รและสังคม มี เป็นทีมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงออก โดยมีการบนั ทึกคะแนน
จรรยาบรรณทางวชิ าการและ ซ่ึงกนั และกนั ระหวา่ งการเรียนการสอน
วชิ าชีพ รักษาความลบั ของ
องคก์ ร
2. ด้านความรู้
เชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฎี และประวตั ิศาสตร์ทางการเมืองการปกครองของไทย มาสร้าง
จิตสานึกและความตื่นตวั ทางการเมือง เพอ่ื นาไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตและเป็นพ้ืนฐานในการเรียนรู้ใน
ระดบั ท่ีสูงข้นึ ไป
กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขียนรายละเอียดของรายวิชา (มคอ. 3) มหาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบูรณ์ Page 4
2.1 ผลการเรียนรู้ 2.2 กลยทุ ธ์/วิธกี ารสอน 2.3 กลยุทธ์/วิธกี ารประเมินผล
1 นกั ศึกษามีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั 1 บรรยาย อภิปราย การ 1 ประเมนิ จากทดสอบยอ่ ย สอบ
หลกั การและทฤษฎที ี่สาคญั ทางานกลุ่ม การนาเสนอ กลางภาค สอบปลายภาค ดว้ ย
รายงาน การวเิ คราะห์ ขอ้ สอบทเี่ นน้ การวดั หลกั การและ
2 นกั ศึกษามีทกั ษะทางปัญญา นาความรู้ กรณีศึกษา และมอบหมายงาน ทฤษฎี
มาใชใ้ นสงั คมในประเดน็ ที่เหมาะสม ให้คน้ ควา้
2 บอกถึงแหล่งขอ้ มลู เพ่อื ให้ 2 ประเมินผลจากผลงานท่ีไดร้ ับ
3 นกั ศึกษามีทกั ษะในการวเิ คราะห์ การ นกั ศึกษาไดค้ น้ ควา้ ขอ้ มลู มอบหมาย ตามหวั ขอ้ ที่กาหนด
สื่อสาร รวมท้งั การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ใน สาหรับการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง โดยอา้ งอิงทฤษฎีในวชิ าที่เกี่ยวขอ้ ง
การแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3 จดั ประชุมแบง่ งาน ติดตาม 3 ประเมินจากการมีส่วนร่วมใน
งาน เป็นระยะเวลาที่กาหนด การแสดงความคดิ เห็น และการ
4 นกั ศึกษาสามารถบรู ณาการความรู้ท่ีได้ หรือตามความเหมาะสม ไดร้ ับการยอมรับจากเพื่อนของ
ศึกษากบั ความรู้ในศาสตร์อ่ืน ๆ ท่ี นกั ศึกษาหรือผทู้ ่เี กี่ยวขอ้ ง
เก่ียวขอ้ งมาใชป้ ระโยชน์ในเชิงวชิ าการ 4 จดั ทารายงานผล วิเคราะห์
และปฏิบตั ิ ความตอ้ งการ และนาเสนอ
5 นกั ศึกษาเขา้ ใจในบทบาทหนา้ ที่ที่ไดร้ บั
มอบหมาย และปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีไดอ้ ยา่ ง 5 เนน้ ผเู้ รียนเป็นศนู ยก์ ลางของ
ถกู ตอ้ ง การเรียนรู้
3. ด้านทกั ษะทางปัญญา
พฒั นาความสามารถในการคิดอยา่ งเป็นระบบมีการวเิ คราะห์ ประยกุ ตแ์ นวคิดกบั ปรากฏการณ์
ดา้ นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองไดเ้ ป็นอยา่ งดี สามารถเสนอแนะวิธีการพฒั นาการ
เมืองไทยไดเ้ ป็นอยา่ งดี
3.1 ผลการเรียนรู้ 3.2 กลยุทธ์/วธิ กี ารสอน 3.3 กลยทุ ธ์/วิธกี ารประเมินผล
1 ทกั ษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและคิด ประเมนิ ผลจากผลงานที่ไดร้ บั
อยา่ งเป็นระบบ 1 มอบหมายโจทกป์ ัญหา ให้ มอบหมาย ตามหวั ขอ้ ที่กาหนด
ฝึกการคน้ ควา้ หาความตอ้ งการ โดยอา้ งองิ ทฤษฎีในวชิ าท่ีเก่ียวขอ้ ง
2 ความสามารถการสืบคน้ ตีความ และ และวิเคราะหผ์ ลความตอ้ งการ และควรนามาเป็นพ้นื ฐานในการ
ประเมนิ สารสนเทศ เพอ่ื ใชใ้ นการ ทางการเมืองการปกครอง จดั การ
วิเคราะหเ์ น้ือหา
2 จดั ทารายงานผลวิเคราะห์
ความตอ้ งการทางการเมืองการ
ปกครอง และนาเสนอ
กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขียนรายละเอยี ดของรายวชิ า (มคอ. 3) มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ Page 5
3 ความสามารถรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ 3 ประชุมร่วมกนั ระหว่าง
และสรุปประเด็นปัญหา อาจารยท์ ่ีปรึกษาและนกั ศึกษา
4 ความสามารถประยกุ ตค์ วามรู้และทกั ษะ 4 มอบหมายโจทยป์ ัญหา ดา้ น
การวิเคราะหไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม การเมืองการปกครอง
5 ทกั ษะการเลือกใชท้ ฤษฎที างการเมือง 5 การนาเสนอดา้ นการจดั ทา
สามารถนาความรู้ทางทฤษฎีเป็นพ้นื ฐาน รายงานและการนาเสนอ
มาวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงทางการเมือง ร่วมกนั
4. ด้านทกั ษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
4.1 ผลการเรียนรู้ 4.2 กลยทุ ธ์/วธิ ีการสอน 4.3 กลยุทธ์/วธิ กี ารประเมนิ ผล
1 สามารถใหค้ วามช่วยเหลือและอานวย 1 สร้างกิจกรรมสันทนาการ 1 ประเมินจากการสงั เกตพฤติกรรม
ความสะดวกในการแกไ้ ขปัญหา ละลายพฤติกรรม เพื่อให้เกิด จากการสัมภาษณ์ผรู้ ่วมงานหรือ
สถานการณ์ต่าง ๆ ในกลุ่มท้งั ในบทบาท ความรู้รัก สามคั คี พร้อม ผเู้ กี่ยวขอ้ ง
ของผนู้ าหรือในบทบาทของผรู้ ่วมทีม ทางานเป็ นทีม 2 ประเมินจากขอ้ มลู ท่ีไดร้ ับจากท่ี
ทางาน 2 มอบหมายงานที่ตอ้ งทางาน นกั ศึกษาไปสมั ภาษณ์
ร่วมกนั เป็นทีม 3 ประเมินจากการมีส่วนร่วมใน
2 สามารถใชค้ วามรู้ในศาสตร์มาช้ีนา 3 มีการแบง่ งานกนั อยา่ งชดั เจน การแสดงความคดิ เห็น และการ
สงั คมในประเด็นท่ีเหมาะสม มอบหมายงานที่ตอ้ งพดู คยุ ไดร้ ับการยอมรับจากเพือ่ นร่วมงาน
ประชุมร่วมกนั เพ่ือมอบหมาย หรือผเู้ ก่ียวขอ้ ง
3 มีความรับผดิ ชอบในการกระทาของ งาน ติดตามงาน ประเมินผล
ตนเองและรับผดิ ชอบงานในกล่มุ
4 สามารถเป็นผรู้ ิเร่ิมแสดงประเดน็ ในการ
แกไ้ ขสถานการณ์ท้งั ส่วนตวั และส่วนรวม
พร้อมท้งั แสดงจดุ ยืนอยา่ งพอเหมาะท้งั
ของตนเองและของกลมุ่
5 มีความรับผดิ ชอบการพฒั นาการเรียนรู้
ท้งั ของตนเองและทางวชิ าชีพอยา่ ง
ต่อเนื่องเรียนรู้ภาวะทางอารมณ์ของตนเอง
เรียนรู้การทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ เรียนรู้
เทคนิคการขอความช่วยเหลือ หรือขอ
ขอ้ มูลเพอื่ นามาประกอบการทางาน
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขียนรายละเอยี ดของรายวชิ า (มคอ. 3) มหาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์ Page 6
6 สามารถวางตวั ในตาแหน่งงานท่ีไดร้ ับ
มอบหมายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
7 กลา้ แสดงความคิดเห็นในขอบเขตของ
งานและภาระหนา้ ที่
8 พฒั นาตนเองจากการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง
และจากการฝึกอบตม หรือการสอบถาม
เพือ่ นร่วมงาน
5. ด้านทกั ษะการวิเคราะห์เชิงตวั เลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
5.1 ผลการเรียนรู้ 5.2 กลยุทธ์/วิธกี ารสอน 5.3 กลยทุ ธ์/วิธีการประเมินผล
1 ประเมนิ จากเอกสาร ท่ีนาเสนอ
1 ทกั ษะในการใชเ้ คร่ืองมือที่จาเป็นที่มีอยู่ 1 มอบหมายงานผา่ นระบบ โดยใชเ้ ทีโนโลยสี ารสนเทศเป็นสื่อ
ในปัจจบุ นั ตอ่ การคน้ ควา้ และนาเสนองาน เทคโนโลยี การใชท้ กั ษะดา้ น 2 ประเมนิ จากเอกสารที่เขยี น เชน่
2 ทกั ษะการสื่อสารอยา่ งมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี ในการนาเสนอ E-Mail ท่ีใชส้ ่ือสารเพ่ือการทางาน
ท้งั ปากเปล่าและการเขียน เลือกใช้ ขอ้ มูล 3 ประเมินจากผลการแกป้ ัญหา
รูปแบบของส่ือการนาเสนออยา่ ง 2 มอบหมายงานที่ตอ้ งมีการ โดยเนน้ ความถูกตอ้ งเหมาะสม
เหมาะสม ส่ือสารโดยใชภ้ าษาท้งั ไทยและ
ต่างประเทศ ท้งั การพูด การ
3 ทกั ษะในการใชส้ ารสนเทศและ เขยี น ในการประสานงาน
เทคโนโลยสี ่ือสารอยา่ งเหมาะสม 3 มอบหมายงานที่ตอ้ งใช้
เทคโนโลยีในการแกป้ ัญหา
4 ทกั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยี เคร่ืองมือ หรือนาเสนองาน
อุปกรณ์ ซอฟตแ์ วร์ ในการสื่อสารเพ่อื
สนบั สนุนการทางาน เช่น การโตต้ อบ
แสดงความคิดเห็น ประสานการทางาน
การรับ-ส่งงาน การซกั ถามขอ้ สงสยั
5 สามารถใชเ้ ทคโนโลยี หรือ อนิ เทอร์
เนตในการคน้ ควา้ หาขอ้ มลู ประกอบการ
ทางาน
6 สามารถสื่อสารโดยใชภ้ าษาที่เหมาะสม
และส่งผลใหเ้ กิดประสิทธิภาพในการ
ทางาน
กรอบมาตรฐานคณุ วุฒิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขยี นรายละเอยี ดของรายวิชา (มคอ. 3) มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์ Page 7
หมวดที่ 5 แผนการสอนและการประเมินผล
1. แผนการสอน
สัปดา เนื้อหา จำนวน กจิ กรรมการเรียน อาจารยผ์ ูส้ อน
หท์ ่ี ช่วั โมง การสอน
3 - แนะนำลักษณะวชิ า
แนะนำลักษณะวิชา -,กจิ กรรม- - การสอน
ขอบขา่ ยการเรยี นรู้
1 และการประเมนิ ผล สดดุ ี คำมี
- ความคาดหวงั ข้อตกลง
รว่ มกนั
บทที่ 1 ความหมายและท่ีมาของสถานบัน - การบรรยาย การตอบ สดุดี คำมี
2-3 ทางการเมอื งไทย ข้อซักถาม
- กจิ กรรมท้ายบท
4-5 บทที่ 2 สถาบันรฐั ธรรมนญู - การบรรยาย การตอบ สดดุ ี คำมี
ขอ้ ซักถาม
- กิจกรรมทา้ ยบท
6-8 บทท่ี 3 สถาบันพระมหากษัตริย์ - การบรรยาย การตอบ สดดุ ี คำมี
ข้อซักถาม
- กิจกรรมทา้ ยบท
9-10 บทที่ 4 สถาบนั นิตบิ ัญญตั ิ - การบรรยาย การตอบ สดุดี คำมี
ข้อซักถาม
- กิจกรรมท้ายบท
11-12 บทท่ี 5 สถาบนั ฝา่ ยบริหาร - การบรรยาย การตอบ สดุดี คำมี
กรอบมาตรฐานคุณวุฒริ ะดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขียนรายละเอียดของรายวชิ า (มคอ. 3) มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณ์ Page 8
ขอ้ ซักถาม
กิจกรรมท้ายบท
13-14 บทท่ี 6 สถาบันตุลาการ - การบรรยาย การตอบ สดุดี คำมี
ขอ้ ซักถาม
กจิ กรรมท้ายบท
ทบทวนบทเรยี นทีเรยี นมาทั้งหมด 3 - การบรรยาย แนะนำ
15 พรอ้ มแนะแนวการอ่านหนังสือสอบ แนะแนวการอ่านหนังสือ สดดุ ี คำมี
และทดสอบย่อยกอ่ นสอบปลายภาค กอ่ นสอบ การทดสอบยอ่ ย
เรยี น การตอบข้อซกั ถาม
16 สอบปลายภาค
2. แผนการประเมินผลการเรียนรู้
กิจกรรม ผลการ วิธีการประเมนิ สัปดาหท์ ่ี สดั ส่วนของ
ท่ี เรยี นรู้* ประเมิน การประเมิน
1 ทดสอบยอ่ ยคร้ังที่ 1
1.1, 1.6, สอบกลางภาค 4 10%
2 1.7, 2.1, 8 20%
2.4-2.6, ทดสอบยอ่ ยคร้ังที่ 2 12 10%
สอบปลายภาค 16 40%
3.2
วิเคราะห์กรณีศึกษา คน้ ควา้ การนาเสนอ ตลอดภาค 20%
1.1, 1.6, รายงาน การศึกษา
1.7, 2.1,
2.4-2.6, การทางานกลมุ่ และผลงาน
หมวดท่ี 6 ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน
กรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขียนรายละเอยี ดของรายวชิ า (มคอ. 3) มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบรู ณ์ Page 9
1. ตาราและเอกสารหลกั
เชาวว์ ศั เสนพงศ์ การเมืองการปกครองไทย โรงพิมพม์ หาวทิ ยาลยั รามคาแหง กรุงเทพฯ : 2547.
ชยั อนนั ต์ สมุทรวาณิช ไตรลกั ษณรัฐกบั การเมืองไทย การเปล่ียนแปลงทางการเมืองไทยในสี่ทศวรรษ
สถาบนั นโยบายศึกษา พี เพรส จากดั กรุงเทพฯ.
ฐิติพล ภกั ดีวนิช การสร้างความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ภาคประชาชนดว้ ยปรัชญาของเศรษฐกิจพอ เพียง สานกั งาน
กองทนุ สนบั สนุนการวิจยั ฝ่ ายชุมชนและสังคม 2551.
ธีรยทุ ธ บญุ มี สงั คมวฒั นธรรมหลงั การเลือกต้งั ก.พ. 2548 การเปลี่ยนแปลงสังคม วฒั นธรรมการเมืองคร้ัง
ที่ 2 ของไทย 2548.
2. เอกสารและข้อมูลสาคญั
ไมม่ ี
3. เอกสารและข้อมูลแนะนา
กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ริ ะดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขยี นรายละเอยี ดของรายวชิ า (มคอ. 3) มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์ Page 10
หมวดท่ี 7 การประเมนิ และปรับปรุงการดาเนินการของรายวชิ า
1. กลยุทธ์การประเมินประสิทธผิ ลของรายวชิ าโดยนกั ศึกษา
การประเมินประสิทธิผลในรายวชิ าน้ี ท่ีจดั ทาโดยนกั ศึกษา ไดจ้ ดั กิจกรรมในการนาแนวคิดและความเห็นจาก
นกั ศึกษาไดด้ งั น้ี
- การสนทนากลุม่ ระหวา่ งผสู้ อนและผเู้ รียน
- แบบประเมินผสู้ อน และแบบประเมินรายวชิ า
2. กลยทุ ธ์การประเมินการสอน
ในการเกบ็ ขอ้ มลู เพอ่ื ประเมินการสอน ไดม้ ีกลยทุ ธ์ ดงั น้ี
- การสงั เกตการณ์
- ผลการเรียนของนกั ศกึ ษา
- การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
3. การปรับปรุงการสอน
4. การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธ์ิของนักศึกษาในรายวชิ า
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธ์ิในรายหวั ขอ้ ตามทีค่ าดหวงั จาการเรียนรู้ใน
วิชา จากการสอบถามนกั ศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนกั ศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการทดสอบยอ่ ย และ
หลงั จากการออกผลการเรียนรายวชิ า
5. การดาเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรุงประสิทธผิ ลของรายวิชา
จาก
กรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ริ ะดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ แบบฟอร์มการเขยี นรายละเอยี ดของรายวิชา (มคอ. 3) มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เพชรบรู ณ์ Page 11