The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการดำเนินงานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kasanomchanokdam, 2019-07-27 00:34:11

คู่มือการดำเนินงานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

คู่มือการดำเนินงานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

คู่มอื การดาเนนิ งาน
กิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสัยรักการอา่ น

และการพฒั นาหอ้ งสมดุ
ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๑

สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน

คูม่ อื การดาเนินงาน
กิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นสิ ัยรักการอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมดุ
ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๑

พมิ พค์ รัง้ แรก พ.ศ. ๒๕๖๑

จดั ทาโดย กลุ่มพฒั นาและสง่ เสรมิ วิทยบริการ
สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร
http://academic.obec.go.th

จัดพมิ พท์ ี่ สานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คาช้แี จง

สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน ได้กำหนดแผนปฏิบัติรำชกำรประจำปีงบประมำณ

พ.ศ. 2561 ตำมยุทธศำสตร์ในกำรดำเนินงำนด้ำนพัฒนำคุณภำพผู้เรียนและส่งเสริมกำรจัดกำรศึกษำ

เพ่ือสร้ำงขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน โดยกำรส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีนิสัยรักกำรอ่ำน ตลอดจน

สนับสนุนกำรผลิต จัดหำ และกำรใช้สื่อกำรเรียนกำรสอน เทคโนโลยี นวัตกรรม และส่ิงอำนวยควำมสะดวก

ที่หลำกหลำย รวมท้ังกำรพัฒนำห้องสมุดและแหล่งกำรเรียนรู้ภำยในโรงเรียนในกำรจัดกำรเรียนรู้ได้ท้ังใน

ห้องเรียนและนอกห้องเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่ำงเต็มศักยภำพ และบริบทต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ

กำรสง่ เสรมิ นิสัยรกั กำรอำ่ นและกำรพัฒนำหอ้ งสมดุ มีชีวติ

ดังน้ัน เพ่ือให้เป็นไปตำมแผนปฏิบัติรำชกำรประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 ของสำนักงำน

คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และสอดคล้องกับกรอบยุทธศำสตร์ชำติระยะ 20 ปี แผนพัฒนำ

เศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 12 นโยบำยรัฐบำล นโยบำยกระทรวงศึกษำธิกำร และแผนแม่บท

ส่งเสริมวัฒนธรรมกำรอ่ำนสู่สังคมแห่งกำรเรียนรู้ของไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ สำนักงำนคณะกรรมกำร

กำรศึกษำข้ันพื้นฐำน โดยสำนักวิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ จึงจัดทำคู่มือกำรดำเนินงำนกิจกรรม

โครงกำรส่งเสริมนิสัยรักกำรอ่ำนและกำรพัฒนำห้องสมุด ประจำปีงบประมำณ 2561 ข้ึน วัตถุประสงค์

เพื่อให้สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำใช้เป็นกรอบแนวทำงดำเนินงำนกิจกรรมโครงกำรส่งเสริมนิสัยรักกำรอ่ำน

และกำรพัฒนำห้องสมุดได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยกำหนดเป้ำหมำยกำรอ่ำนของนักเรียน (ไม่รวมหนังสือเรียน)

ดังน้ี

- ระดบั ปฐมวยั อำ่ นไม่นอ้ ยกวำ่ 6 เล่มตอ่ ปี หรอื เฉลีย่ วันละ 10 นำที

- ระดับประถมศึกษำปีที่ 1 - 3 อ่ำนไม่นอ้ ยกวำ่ 12 เลม่ ต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 30 นำที

- ระดบั ประถมศกึ ษำปที ่ี 4 - 6 อ่ำนไม่นอ้ ยกวำ่ 14 เล่มตอ่ ปี หรอื เฉลี่ยวันละ 60 นำที

- ระดับมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 - 3 อำ่ นไม่นอ้ ยกว่ำ 20 เล่มต่อปี หรอื เฉลี่ยวนั ละ 90 นำที

- ระดับมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 4 - 6 อ่ำนไม่นอ้ ยกว่ำ 20 เล่มตอ่ ปี หรอื เฉล่ยี วันละ 120 นำที

และส่งเสริมสนับสนุนให้โรงเรยี นพัฒนำห้องสมุดโรงเรียนให้เปน็ หอ้ งสมุดมีชีวิต เพ่ือพัฒนำกำรจัดกำรเรียน

กำรสอนและกำรแสวงหำควำมรูด้ ้วยตนเองของนักเรียนอย่ำงมีคุณภำพ

คู่มือกำรดำเนินงำนกิจกรรมโครงกำรส่งเสริมนิสัยรักกำรอ่ำนและกำรพัฒนำห้องสมุด ประจำปี

งบประมำณ 2561 ฉบับน้ี มีสำระสำคัญประกอบด้วย กรอบแนวทำงขับเคล่ือนกำรส่งเสริมกำรเรียนรู้

ภำษำไทย กำรสง่ เสรมิ นสิ ยั รักกำรอ่ำนและกำรพัฒนำห้องสมุดมชี วี ิต ประจำปีงบประมำณ 2561 กำรจัด

กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักกำรอ่ำน แบบบันทึกกำรอ่ำน กำรคัดเลือกสื่อส่งเสริมนิสัยรักกำรอ่ำน กำรสร้ำง

เครอื ข่ำยหอ้ งสมุดโรงเรยี น และกำรคัดเลือกนักเรยี น ครู ผู้บรหิ ำร โรงเรียนรักกำรอ่ำนและห้องสมุดมชี วี ติ

สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน หวังว่ำเอกสำรฉบับนี้จะเป็นแนวทำงให้สำนักงำน

เขตพื้นที่กำรศึกษำและโรงเรียนดำเนินงำนส่งเสริมนิสัยรักกำรอ่ำนและกำรพัฒนำห้องสมุดให้เป็นไปตำม

เป้ำหมำยท่กี ำหนดไว้อย่ำงเปน็ รูปธรรมยงิ่ ขนึ้

สำนกั วชิ ำกำรและมำตรฐำนกำรศกึ ษำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน

สารบัญ หนำ้

คำชแี้ จง 1
1 กรอบแนวทำงขับเคลื่อนกำรส่งเสรมิ กำรเรียนรภู้ ำษำไทย กำรส่งเสรมิ นสิ ยั รกั กำรอ่ำน
9
และกำรพัฒนำห้องสมุดมีชวี ิต ประจำปงี บประมำณ 2561 49
2 กำรจัดกิจกรรมส่งเสริมนสิ ัยรกั กำรอ่ำน 62
3 แบบบันทกึ กำรอ่ำน 67
4 กำรคดั เลือกส่ือส่งเสริมนสิ ัยรกั กำรอ่ำน 72
5 กำรสร้ำงเครือข่ำยห้องสมุดโรงเรียน 85
6 กำรคัดเลอื กนักเรยี น ครู ผูบ้ รหิ ำร โรงเรยี นรักกำรอำ่ น และหอ้ งสมดุ มีชวี ิต
7 แนวทำงกำรประเมนิ กำรเรยี นรู้ภำษำไทย กำรส่งเสรมิ นิสยั รกั กำรอำ่ น 91
92
และกำรพัฒนำห้องสมดุ มีชีวติ
บรรณำนุกรม
คณะผู้จัดทำ



กรอบแนวทางขบั เคล่อื น

การสง่ เสรมิ การเรียนรภู้ าษาไทย การสง่ เสริมนิสัยรักการอา่ น
และการพฒั นาห้องสมดุ มีชีวติ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๑

หลักการและเหตผุ ล

การอ่าน เป็นวัฒนธรรมในการแสวงหาความรู้ของประชากรทุกคน ปัจจุบันสังคมโลกเป็นสังคม
แห่งการเรียนรู้และการแข่งขัน การอ่านจึงเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ประชากรได้รับความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และ
แนวคิดใหม่ ๆ อนั จะเป็นการพฒั นาตนเองและรจู้ ักปรับตัวให้อยู่ในสังคมอย่างมคี วามสุข ประเทศไทยตระหนัก
ถึงความสาคญั ดงั กลา่ วและใหก้ ารส่งเสริมสนับสนุนมาอยา่ งต่อเน่ือง อีกทงั้ ยงั มีหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกันจัด
กิจกรรมและรณรงค์ส่งเสริมการอ่าน กอปรกับรัฐบาลได้กาหนดนโยบายปฏิรูปการศึกษาทั้งในด้านคุณภาพ
ประสิทธิภาพ มาตรฐานและความเหลื่อมล้าทางการศึกษา โดยมุ่งแก้ปัญหาเร่ืองคุณภาพ โอกาส และ
ประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ โดยให้มีความเช่ือมโยงและส่งผลดี
ต่อการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง (ท่ีมา: นโยบายด้านการศึกษาของนายกรัฐมนตรี พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา : ๒๕๕๙) และยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒
แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ แผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย
พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ นโยบายกระทรวงศึกษาธกิ าร และนโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน

คูม่ อื การดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรกั การอ่านและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

1

สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักถึงความสาคัญและความจาเป็นเร่งด่วน
ในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย การส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิต
ให้สอดคล้องกับนโยบาย จึงได้กาหนดกรอบแนวทางขับเคลื่อนการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย การส่งเสริม
นิสัยรักการอ่านและพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน ประจาปีงบประมาณ 2561 ให้แก่สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
โรงเรยี น และหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งนาไปสกู่ ารปฏิบัติให้บรรลตุ ามเป้าหมายทก่ี าหนด

วตั ถุประสงค์

๑. นักเรียนสามารถใช้ทักษะภาษาไทยเพ่ือสร้างนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับวัย
อย่างมคี ณุ ภาพตามบริบทของพื้นที่

๒. นกั เรียนมีการอา่ นอยา่ งต่อเนอ่ื งจนเป็นนสิ ัย
๓. โรงเรียนมหี อ้ งสมดุ มชี วี ิตเป็นแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนในการสร้างนสิ ยั รกั การอา่ นและการเรยี นรู้
4. ครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรที่ทาหน้าที่บรรณารักษ์ มีสมรรถนะในการขับเคล่ือนกิจกรรมส่งเสริม
นสิ ัยรกั การอ่านและการเรียนรูส้ ู่คณุ ภาพทีด่ ี

เป้าหมาย

เด็กไทยทุกคนมีความสขุ กับการอา่ นอย่างนอ้ ย 12 เล่มต่อปี หรือ 60 นาทีต่อวนั

กลยุทธก์ ารดาเนินงาน

กลยทุ ธ์ท่ี ๑ ส่งเสรมิ และพฒั นาทกั ษะภาษาไทยเพอื่ สร้างนสิ ัยรักการอา่ นและการเรียนรู้
กลยทุ ธ์ที่ 2 สง่ เสรมิ และพัฒนาห้องสมุดมีชวี ติ ส่ือการอา่ น กจิ กรรม วิจยั และนวัตกรรมการอ่าน
กลยทุ ธ์ท่ี 3 ส่งเสรมิ และพัฒนาคุณภาพครูบรรณารกั ษ์ ครหู รอื บุคลากรทที่ าหนา้ ทบี่ รรณารกั ษ์

คมู่ อื การดาเนินงานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรกั การอา่ นและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

2

กลยทุ ธ์ที่ ๑
ส่งเสริมและพฒั นาทักษะภาษาไทยเพ่อื การสร้างนิสัยรกั การอ่านและการเรียนรู้

1) นักเรียนมีทักษะภาษาไทยเหมาะสมกับวยั และสามารถนาความรจู้ ากการอา่ นไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน
และประยุกต์ใช้แกป้ ญั หาในการดาเนินชีวิต

2) นักเรียนใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียนและมีนสิ ัยรกั การอ่าน

ตวั ชีว้ ัด เปา้ หมายดาเนนิ งาน

๑. เด็กปฐมวัย สนทนา โตต้ อบ เลา่ เรอื่ งให้ผอู้ นื่ เขา้ ใจ อา่ น เขยี นภาพ และสัญลักษณไ์ ด้ ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐

2. นักเรียนระดับประถมศึกษาปีท่ี 1 - ๖ เลือกอ่านหนังสือ/สื่อท่ีต้องการ และ ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐
ส่ือสารเรื่องท่ีอ่านให้ผู้อื่นเข้าใจ โดยการพูด เขียน แสดงความคิดเห็น สรุปความ
และข้อคิดจากเรอ่ื งที่อ่านไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐

3. นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 1 - ๖ เลือกอ่านหนังสือ/ส่ือตามความสนใจ ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐
และส่ือสารเร่ืองท่ีอ่านให้ผู้อ่ืนเข้าใจ โดยการพูด เขียน แสดงความคิดเห็น ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80
วิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์ ประเมินค่า และนาข้อคิดไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหา ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
ในการดาเนนิ ชีวิต ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80

4. นักเรียนทุกระดับชั้นอ่านหนังสือ/ส่ือที่หลากหลายประเภทอย่างสม่าเสมอ
และมนี สิ ยั รักการอ่าน

5. โรงเรียนบริหารแผนงาน/โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านได้บรรลุวัตถุประสงค์
และเป้าหมายอย่างชดั เจน

6. ครูผู้สอน ครูหรือบุคลากรท่ีทาหน้าที่บรรณารักษ์ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริม
การอา่ นอย่างต่อเนอื่ งและเกดิ ประสทิ ธภิ าพ

7. ครูผู้สอน ครูหรือบุคลากรที่ทาหน้าที่บรรณารักษ์มีการบูรณาการการอ่าน
ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ทัง้ ในหอ้ งเรยี นและนอกห้องเรียน

หน่วยงานท่ีดาเนนิ งาน

 สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา
1) จัดทาแผนงาน/โครงการในการขับเคล่ือนให้สอดคล้องกับนโยบายและบรรลุเป้าหมายอย่างเป็น
รปู ธรรม
2) ส่งเสริมสนบั สนนุ ใหโ้ รงเรียนจัดกิจกรรมเสริมทักษะภาษาไทยอย่างเข้มแข็งสู่การสร้างนสิ ัยรักการอ่าน
ของนกั เรียน
3) สรา้ งการมีสว่ นร่วมการจดั กิจกรรมสง่ เสริมนิสยั รักการอา่ นในโรงเรยี นอย่างมีคุณภาพ
4) ส่งเสริมสนบั สนุนใหโ้ รงเรียน ผปู้ กครอง ชุมชน และหนว่ ยงาน ในการมสี ่วนรว่ มดาเนินการสง่ เสริม
นิสยั รกั การอ่าน

คู่มือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนสิ ยั รกั การอ่านและการพัฒนาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

3

 โรงเรยี น
1) เสรมิ สรา้ งแรงจงู ใจให้นักเรียนเกดิ การอา่ นอย่างต่อเน่ืองตามความเหมาะสมกับวัย และอย่างมีคุณภาพ
2) ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนใช้สื่อการอ่านท่ีหลากหลายท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียนอย่าง
สมา่ เสมอ
3) ร่วมมือกันดาเนินการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้บรรลุผลสาเร็จตามเป้าหมายของนโยบาย/
แผนงาน/โครงการ
4) สร้างแบบอย่างทีด่ ีในการอา่ นสกู่ ารมนี ิสัยรักการอา่ นที่ยั่งยนื

กลยทุ ธท์ ี่ ๒
ส่งเสริมและพัฒนาห้องสมุดมชี ีวิต สื่อการอ่าน กิจกรรม วิจยั และนวตั กรรมการอา่ น

1) โรงเรยี นมีห้องสมดุ มีชีวิตทมี่ มี าตรฐานไวบ้ รกิ ารใหแ้ ก่นกั เรยี นทุกระดับช้นั
2) โรงเรียนมีส่อื การอ่านและนวตั กรรมการอ่านท่มี ีคุณภาพ มปี ริมาณเพยี งพอแก่นักเรียนทุกระดับชัน้
3) โรงเรียนมหี ้องสมุดจัดกิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ นและการเรยี นรอู้ ยา่ งสมา่ เสมอ

ตวั ชีว้ ัด เปา้ หมายดาเนนิ งาน

1. โรงเรียนจัดห้องสมดุ มีชวี ิตตามมาตรฐานห้องสมดุ โรงเรียนของ สพฐ. ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 75

๒. ห้องสมุดโรงเรยี นมสี ือ่ การอา่ นและนวัตกรรมการอา่ นท่มี ีคุณภาพ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 75
อย่างน้อยปีละ ๒ ครง้ั
3. หอ้ งสมุดโรงเรียนจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เช่น ค่ายการอา่ น สปั ดาหห์ ้องสมุด
วนั รกั การอา่ น ฯลฯ ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70

4. นักเรียนใชบ้ ริการห้องสมดุ ในการศึกษาคน้ คว้าและการพัฒนาการอา่ น ไม่นอ้ ยกว่า 6 เล่ม
ไม่น้อยกว่า ๑๒ เลม่
5. นกั เรียนอา่ นหนังสอื ต่อปี (ไมร่ วมหนังสอื เรียน) ไม่น้อยกวา่ ๑๔ เลม่
 เด็กปฐมวยั ไม่น้อยกวา่ ๒๐ เลม่
 นกั เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ มากกว่า ๒๐ เลม่
 นกั เรยี นระดับประถมศึกษาปที ี่ ๔-๖
 นักเรยี นระดบั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑-๓ เฉล่ยี วันละ ๑๐ นาที
 นกั เรยี นระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-๖ เฉล่ียวันละ ๓๐ นาที
เฉลีย่ วันละ ๖๐ นาที
6. นักเรียนอา่ นนอกเวลาเรยี น เฉลย่ี วนั ละ ๙๐ นาที
 เด็กปฐมวัย เฉลยี่ วันละ ๑๒๐ นาที
 นักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๓
 นักเรียนระดับประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖
 นักเรียนระดบั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑-๓
 นักเรยี นระดบั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔-๖

คูม่ อื การดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอา่ นและการพัฒนาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

4

ตวั ชี้วัด เปา้ หมายดาเนนิ งาน

7. นักเรียนทุกระดับชั้นเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน หรือสมัครใจเป็นสมาชิก ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80

ชมรม/ชมุ นมุ หอ้ งสมดุ หรอื ยวุ บรรณารักษ์

8. โรงเรียนมีเครือขา่ ยความร่วมมือชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกนั เพ่อื พัฒนาทักษะทาง ไมน่ อ้ ยกว่า 5 เครือข่าย

ภาษา สง่ เสริมนสิ ยั รักการอ่าน และหอ้ งสมดุ มีชวี ติ

9. โรงเรียนและเครือข่ายโรงเรียน/ชุมชน/ประชาสังคม/ภาคเอกชน ร่วมกัน กาหนดเป็น KPI

กาหนดตวั ชวี้ ดั ผลการดาเนนิ งานไปสกู่ ารปฏิบัตอิ ยา่ งเป็นรปู ธรรม ในคารบั รองปฏบิ ตั ริ าชการ

10. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา/โรงเรียน มกี ารนิเทศ กากบั ตดิ ตาม ประเมินผล ไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง

และจัดทาขอ้ มูลสารสนเทศ

หน่วยงานทีด่ าเนนิ งาน

 สานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษา
๑) ส่งเสริมสนบั สนนุ ห้องสมุดมชี ีวิตภายในโรงเรียน กิจกรรม และนวัตกรรมการอา่ น
๒) ส่งเสริมสนับสนุนโรงเรียนให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
อย่างสม่าเสมอ
3) ส่งเสริมสนับสนุนสื่อการอ่าน รูปแบบกิจกรรม นวัตกรรมการอ่าน และการใช้ระบบห้องสมุด
อัตโนมตั ิ สพฐ. ในการบริหารจัดการหอ้ งสมุด
4) ส่งเสริมสนับสนุนและสร้างเครือข่ายความร่วมมือของโรงเรียนในการพัฒนาทักษะภาษาไทย
ส่งเสรมิ นสิ ยั รกั การอ่าน และพัฒนาหอ้ งสมุดมชี วี ติ
5) กากับ ติดตาม ประเมินผล จัดทาข้อมูลสารสนเทศ และรายงานผลการดาเนินงานส่งเสริมการอ่าน
เสนอต่อสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน

 โรงเรียน
๑) จดั ใหม้ ีห้องสมุดมีชีวติ โดยเน้นส่อื การอ่านที่หลากหลายมคี ณุ ภาพและปรมิ าณเพยี งพอเหมาะสมกบั วยั
๒) จัดให้มีการใช้ระบบห้องสมดุ อตั โนมัติ สพฐ. เพอื่ บรหิ ารจดั การหอ้ งสมุด
3) จัดให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านแบบบูรณาการการอ่านทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้โดยใช้
สื่อการอ่านของห้องสมดุ /แหล่งเรียนรู้อยา่ งสม่าเสมอ
4) จัดให้มกี ารอ่านอย่างมีความสุข และได้รบั ประโยชน์จากการอา่ น รวมทั้งบันทึกการอา่ นในทุกระดับชัน้
5) สร้างเครือข่ายความร่วมมือและแสวงหาความชว่ ยเหลือเพื่อพัฒนาทักษะภาษาไทย ส่งเสริมนิสยั
รักการอา่ น และพฒั นาหอ้ งสมดุ มชี ีวติ
6) กากับ ติดตาม ประเมินผล จัดทาข้อมูลสารสนเทศ และรายงานผลการดาเนินงานส่งเสริมการอ่าน
เสนอตอ่ สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา

คูม่ ือการดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นสิ ัยรกั การอ่านและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

5

กลยทุ ธ์ที่ 3
สง่ เสรมิ และพฒั นาคุณภาพครูบรรณารกั ษ์ ครหู รือบคุ ลากรที่ทาหน้าทบี่ รรณารักษ์

1) สร้างแรงจูงใจให้ครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรท่ีทาหน้าท่ีบรรณารักษ์มีขวัญและกาลังใจในการ
ปฏบิ ัตงิ าน

2) ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรท่ีทาหน้าท่ีบรรณารักษ์มีการดาเนินงานใน
รปู แบบ PLC

3) ส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ของครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรท่ีทาหน้าที่บรรณารักษ์ผ่าน TEPE
Online

ตัวชว้ี ัด เปา้ หมายดาเนินงาน

1. สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา/โรงเรียน ประกาศเกยี รติคุณ ผูบ้ ริหาร ครผู ู้สอน อย่างน้อย ๑ ครง้ั
ครหู รอื บุคลากรที่ทาหนา้ ทบ่ี รรณารักษ์ นกั เรียนรกั การอา่ น อยา่ งน้อยร้อยละ 50
อยา่ งน้อยรอ้ ยละ 50
2. ครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรท่ีทาหน้าที่บรรณารักษ์มีการพัฒนาคุณภาพ
งานในรูปแบบ PLC อยา่ งน้อย ๑ ครงั้

3. ครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรท่ีทาหน้าท่ีบรรณารักษ์พัฒนาตนเอง
ผ่าน TEPE Online

4. ครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรท่ีทาหน้าที่บรรณารักษ์เข้าร่วมกิจกรรมของ
ชมรม สมาคม หรอื กลมุ่ วชิ าชีพท่ีเกย่ี วขอ้ ง

หน่วยงานทด่ี าเนนิ งาน

 สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษา
๑) สร้างเสรมิ ขวัญและกาลังใจ ยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติ และเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์โรงเรยี นรักการอ่านและ
การพฒั นาห้องสมุดมีชีวติ
2) ส่งเสริมและพัฒนาครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรที่ทาหน้าท่ีบรรณารักษ์ให้สามารถดาเนินการ
ส่งเสรมิ นสิ ยั รักการอ่านและการปฏบิ ตั งิ านห้องสมดุ มชี วี ติ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและเกดิ ประสิทธผิ ล

 โรงเรียน
1) สร้างเสริมขวญั และกาลงั ใจ ยกย่องเชิดชูเกียรติครู นักเรียนรักการอ่าน
2) ส่งเสริม สนับสนุนครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรที่ทาหน้าท่ีบรรณารักษ์ให้สามารถนาความรู้
ท่ไี ดร้ ับไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนนิ งานพัฒนาการอ่าน กิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ น และพฒั นาหอ้ งสมุดมชี วี ิต
3) ส่งเสริม สนับสนุนครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากรที่ทาหน้าที่บรรณารักษ์เป็นสมาชิกสมาคม
ชมรม หรือกลุม่ วิชาชีพท่เี ก่ียวข้องเพ่อื เสรมิ สรา้ งสมรรถนะด้านวิชาชพี ให้มีความเข้มแข็ง

คู่มอื การดาเนินงานกจิ กรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสัยรักการอ่านและการพฒั นาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

6

๑. นักเรียนสามารถใช้ทักษะภาษาไทยเพื่อสร้างนิสัย เดก็ ไทยทกุ คนมีความสุขกับ
รักการอ่านและการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับวัย และ การอ่านอยา่ งน้อย
อยา่ งมีคณุ ภาพตามบริบทของพืน้ ท่ี 12 เล่มต่อปี
หรอื 60 นาทตี อ่ วนั
๒. นกั เรียนมีการอา่ นอย่างตอ่ เนอ่ื งจนเปน็ นิสยั
เปา้ หมาย
๓. โรงเรียนมีห้องสมุดมีชีวิตเป็นแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน
ในการสรา้ งนิสัยรักการอา่ นและการเรียนรู้

4. ครูบรรณารกั ษ์ ครูหรือบุคลากรที่ทาหน้าที่บรรณารกั ษ์
มีสมรรถนะในการขบั เคล่ือนกจิ กรรมสรา้ งเสรมิ นสิ ัยรัก
การอ่านและการเรียนรสู้ คู่ ณุ ภาพทีด่ ี

วตั ถปุ ระสงค์

กรอบแนวทางขบั เคล่อื น
การสง่ เสรมิ การเรยี นรภู้ าษาไทย การส่งเสริมนิสยั รักการอา่ น
และการพฒั นาห้องสมดุ มชี ีวิต ประจาปงี บประมาณ ๒๕๖๑

กลยทุ ธก์ ารดาเนินงาน

กลยุทธ์ที่ ๑ กลยุทธ์ท่ี ๒ กลยุทธ์ที่ 3

ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ส่งเสริมและพัฒนาห้องสมุด ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ
ภาษาไทยเพื่อการสร้างนิสัย มีชีวิต สื่อการอ่าน กิจกรรม ครูบรรณารักษ์ ครูหรือบุคลากร
รกั การอ่านและการเรียนรู้ วจิ ยั และนวัตกรรมการอา่ น ท่ีทาหน้าท่ีบรรณารกั ษ์

ตวั ชีว้ ดั ตัวช้ีวดั ตวั ชวี้ ัด

คู่มือการดาเนินงานกิจกรรมโครงการส่งเสรมิ นิสยั รักการอ่านและการพฒั นาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

7

แนวทางขับเคลื่อนของโรงเรียน
สกู่ ารสง่ เสรมิ นิสัยรักการอา่ น และการพัฒนาหอ้ งสมุด

โรงเรียนเปน็ หนว่ ยงานสาคัญที่มีหน้าท่ีโดยตรงในการส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้นักเรยี นชอบอ่านและมีนสิ ัย
รักการอ่าน ดังน้ัน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนและการพัฒนา
ห้องสมุดสู่การปฏบิ ัติอย่างเป็นรูปธรรม โรงเรยี นควรมีการส่งเสรมิ นิสัยรักการอ่านของนักเรียนและการพัฒนา
ห้องสมดุ ให้ชัดเจน โดยมีดาเนนิ งานดังตอ่ ไปน้ี

1. วางแผนกาหนดกิจกรรมการอา่ นท้ังในห้องเรียนและนอกเวลาเรียน และกิจกรรมการเรียนการสอน
ทีส่ อดแทรกการอ่าน โดยความร่วมมอื ของผู้บริหาร ครูผูส้ อน ครูบรรณารกั ษ์ และคณะกรรมการสถานศกึ ษา

2. กาหนดนโยบายของโรงเรียนให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้เป็นไปอย่างสม่าเสมอและ
ตอ่ เน่อื ง มีการกากบั ติดตาม นเิ ทศ แก้ปัญหาและให้กาลังใจ ตลอดจนการสนบั สนนุ งบประมาณประจาปี

3. จัดการเรียนการสอนท่ีสอดแทรกการอ่าน ปรับกระบวนการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนมี
กระบวนการเรียนรูด้ ้วยการศึกษาค้นคว้า มีความเข้าใจวา่ การอ่านเป็นความจาเป็น หรือเป็นพฤติกรรมท่ีติดตัว
นักเรียนไปตลอดชีวิต ฝึกให้นักเรียนอ่านอย่างต่อเนื่องและสม่าเสมอ การฝึกที่ดีท่ีสุดก็คือการสอนของครู
ทมี่ ุ่งฝึกให้นกั เรยี นได้อ่าน การเตรยี มการสอนทใี่ ห้นักเรยี นได้อา่ นและจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน

4. จัดหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนให้มีการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการใช้ห้องสมุดสอดแทรก
ในกิจกรรมการเรียนการสอนของรายวิชาพื้นฐาน กาหนดให้นักเรียนอ่านหนังสืออย่างน้อยสัปดาห์ละ ๑ เล่ม
หรือ ๕ ชั่งโมงต่อสัปดาห์ และเขียนบันทึกการอ่าน จัดเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินผลการเรียนรายวิชา หรือ
จัดการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการใช้ห้องสมุดเป็นรายวิชาเพ่ิมเติมในช่วงชั้นทุกระดับ หรือจัดเป็นกิจกรรม
พัฒนาผูเ้ รยี น หรอื กิจกรรมเพม่ิ เวลารู้

5. จัดหอ้ งสมดุ มีชีวติ และกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และหนังสอื ใหม่ ๆ ทใ่ี ห้ความรแู้ ละสาระบนั เทงิ
๖. จัดให้มคี รหู รือครบู รรณารกั ษ์ปฏบิ ตั ิงานห้องสมุดและจดั กิจกรรมเต็มเวลา อยา่ งน้อย 1 คน
๗. จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการใช้หอ้ งสมุดในช่วงเวลาพักกลางวนั ชว่ งละไม่เกิน ๓๐ นาที หรือ
ในช่วงเวลาทีก่ าหนดไว้ในแตล่ ะวนั ทกุ วัน
๘. จดั กิจกรรมท่ีนักเรยี นมีสว่ นรว่ มจัดกจิ กรรม เชน่ กิจกรรมนทิ านหรรษาพาเพลนิ ซง่ึ นกั เรียนจะต้องอ่าน
นทิ านใหเ้ ข้าใจเรื่องและบทตัวละคร จัดนทิ รรศการหนงั สือ สนทนาเกี่ยวกับหนงั สือ เป็นตน้
๙. จัดกิจกรรมช่วยนักเรียนในการทารายงาน การค้นคว้า แนะนาหนังสือในห้องสมุด สอนวิธีเขียน
บรรณานุกรม จัดทาแฟ้มประวัติสว่ นตัวของนกั เรยี น บันทึกเรื่องท่ีนักเรียนสนใจ/ปัญหาท่ีพบระดับพัฒนาการ
การอา่ นจากการแนะนาหนงั สอื ใหอ้ ่าน พยายามช่วยเหลอื ใหส้ ามารถแกป้ ญั หาและพฒั นาการอา่ นของตนเอง
๑๐. สร้างบรรยากาศของห้องสมุดให้น่าสนใจ มีชีวิตชีวา ตกแต่งห้องสมุดด้วยส่ิงสวยงามสะดุดตา
จัดระบบหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาหนังสือด้วยตนเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ข้อสาคัญต้อง
รกั ษาสภาพหอ้ งสมดุ ใหส้ ะอาด ปราศจากฝุ่น และวัสดุครภุ ณั ฑ์ไม่ทรดุ โทรม

คู่มอื การดาเนินงานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนสิ ยั รกั การอ่านและการพฒั นาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

8



การจัดกิจกรรมสง่ เสริมนิสัยรกั การอา่ น

การอ่านหนังสือเป็นการพัฒนาตนเองและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นสิ่งจาเป็นมากในการ
พัฒนาคนและพัฒนาสังคม ถ้าจะให้การอ่านหนังสือเกิดเป็นนิสัยจาเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิด
ความสนใจ มีการอ่านอย่างต่อเน่ืองและสม่าเสมอ โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ซ่ึงควรมีลักษณะ
ดงั นี้

๑. เร้าใจ บุคคลที่เป็นเป้าหมายอาจเป็นคนเดียว กลุ่มคน หรือคนทั่วไป ให้เกิดความอยากอ่านหนังสือ
โดยเฉพาะหนงั สอื ทมี่ คี ณุ ภาพตามทป่ี ระสงค์ หรือท่ผี ู้จัดกิจกรรมเหน็ วา่ ควรอ่าน

๒. จูงใจ บุคคลท่ีเป็นเป้าหมายเกิดความพยายามท่ีจะอ่านให้แตกฉาน เพ่ือจะได้รู้เร่ืองราวอันน่ารู้
น่าสนุก นอกจากประโยชน์แล้วยังเกิดความรู้สึกว่าความพยายามอ่านให้เข้าใจถ่องแท้นั้นคุ้มค่า ให้ความรู้สึก
เป็นอิสระเสรี ไม่ต้องพ่ึงพาผู้อื่นให้ช่วยอ่าน เห็นความจาเป็นท่ีจะต้องฝึกฝนการอ่านและการใช้คู่มือช่วยการอ่าน
เช่น พจนานุกรม ศัพท์วิชาเฉพาะ เป็นต้น ไม่เกิดความเบ่ือหน่ายท้อแท้ที่จะต้องต่อสู้เอาชนะตนเองให้เอาชนะ
หนังสอื ใหไ้ ด้

๓. กระตุ้น แนะนา ให้อยากรู้อยากเห็น เร่ืองราวต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ในหนังสือมากมายหลายอย่าง
อยากมองดูให้รู้รอบและรู้ลกึ ซึ้ง เปิดความคิดให้กว้าง เมื่ออ่านเร่ืองหนึ่งแลว้ ก็อยากอ่านเร่ืองอื่นต่อไป มีความรู้สึกวา่
การอ่านเป็นกิจกรรมประจาวันที่ขาดเสียมิได้ เกิดความรู้สึกว่าหนังสือท้าทายให้อ่าน ให้วิจารณ์ ให้ประเมินค่า
ให้อยากนาเอาความรู้ท่ีได้รับไปปรับใช้อย่างเหมาะสม อยากเขียนหนังสือทานองเดียวกันนี้ให้ดีกว่าเล่มที่อ่าน
เหล่านีเ้ ปน็ ตน้

๔. สร้างบรรยากาศการอ่านขึ้นในบ้าน ในโรงเรียน และในสังคม นอกจากกิจกรรมจะเร้าใจ จูงใจ
ให้อ่าน และกระตุ้นให้เกิดความคิดให้กว้างแล้ว กิจกรรมส่งเสริมการอ่านจะเก่ียวข้องกับการผลิตวัสดุการอ่าน
ให้เหมาะสม การสรา้ งและปรับปรงุ แหล่งวัสดุการอา่ นให้มีเพียงพอ การบูรณาการการอ่านในการเรียนการสอน
และในการตัดสินใจเพือ่ ดาเนินการต่าง ๆ

ผูม้ ีสว่ นเกี่ยวข้องในการส่งเสรมิ นสิ ัยรักการอา่ น

1. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กาหนดนโยบายและเป้าหมายการส่งเสริมนิสัย
รักการอา่ นทชี่ ัดเจนและต่อเนือ่ ง

2. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้ประสานแหล่งการเรียนรู้ องค์ความรู้ที่มีในชุมชนท้องถ่ิน
เป็นพี่เลี้ยง สนับสนุน ช่วยแก้ปัญหาให้โรงเรียนสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้บรรลุเป้าหมาย
ไปสคู่ วามสาเรจ็ ตามนโยบายทวี่ างไว้

3. โรงเรียน โดยผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครอง ต้องร่วมกันจัดกิจกรรม
เพ่ือสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กท้ังในเวลาเรยี นและนอกเวลาเรียนอย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง ชุมชนอาจมี
บทบาทในการช่วยให้เกิดการส่งเสริมการอ่านได้ด้วยการให้บริการต่าง ๆ สนับสนุนแหล่งความรู้ชุมชน ภูมิปัญญา
ท้องถ่นิ องค์ความรู้ ใหโ้ รงเรยี นสามารถจดั กจิ กรรมให้เด็กเกดิ การอา่ นไดส้ ม่าเสมอและตอ่ เน่อื งตลอดชีวติ

คู่มอื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนิสยั รักการอ่านและการพัฒนาหอ้ งสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

9

แนวคดิ เกีย่ วกับกิจกรรมส่งเสริมนสิ ัยรักการอ่าน

การเรียนรู้ท่ีจะอ่านเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป เด็กแต่ละคนจะเรียนรู้การอ่านตามจังหวะ
ธรรมชาตขิ องตน เดก็ บางคนอ่านได้เร็ว บางคนอา่ นไดช้ ้า มีหลากหลายวิธที จี่ ะช่วยกระตุ้นเด็กอา่ นได้เร็วขน้ึ

การสร้างนสิ ัยรกั การอ่านในโรงเรียน

ผู้บริหารและครูมีบทบาทสาคัญในการสร้างทัศนคติอันถูกต้องเก่ียวกับการอ่าน การอ่านต้องใช้วิธีสอน
และแนะนาวธิ ีเรยี น ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นต่าง ๆ ของเด็กอยา่ งเหมาะสม และชว่ ยปลูกฝงั นสิ ยั รักการอา่ น ดงั น้ี

๑. ผู้บริหารสนับสนุนการจัดห้องสมุดโรงเรียนและมุมหนังสือในห้องเรียน สนับสนุนงบประมาณ
เพ่ือการซ้ือหนังสือและส่งเสริมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของโรงเรียน ควรมีหนังสือเสริมประสบการณ์
ความรู้ หนงั สอื การเสรมิ สร้างลักษณะนสิ ยั พัฒนาบคุ ลิกภาพ สรา้ งความเขา้ ใจในสง่ิ แวดลอ้ มและการอยรู่ ่วมกับ
ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม หนังสอื นวนยิ าย หนังสอื อ่านสนุกทป่ี ระเทอื งปญั ญาและกล่อมเกลาอารมณ์

๒. ผู้บรหิ ารจัดครบู รรณารกั ษ์ประจาในหอ้ งสมดุ และมีการปฏบิ ตั ิงานในรูปของคณะทางาน สนับสนุน
ให้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สอนวิธีใช้ห้องสมุด แนะแนวการอ่านเพื่อการศึกษาและพัฒนาบุคลิกภาพเป็น
รายกลุ่มหรือรายบุคคล ส่งเสริมให้ครูผู้สอนทุกคนมีส่วนร่วมดาเนินงานตามนโยบายของโรงเรียนที่สนับสนุน
การสอนโดยวิธีบูรณาการหนังสืออ่ืน ๆ ร่วมกับหนังสือเรียน เน้นการสอนให้เด็กรู้จักค้นคว้าด้วยตนเอง หัดให้
เด็กรู้จักฟัง พูด อ่าน เขียน ควบคู่กับฝึกให้เด็ก รู้จักถาม สนับสนุนให้ค้นหาคาตอบด้วยตนเองเพ่ือให้ได้ความรู้
ลกึ ซง้ึ และกว้างขวาง เกดิ ความเข้าใจแจ่มแจ้ง

๓. ครูบรรณารักษ์ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและแนะนานักเรียนรู้จกั อ่าน ประสานความร่วมมือ
กันระหว่างโรงเรียนในกลมุ่ เดียวกัน ในการจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านอย่างหลากหลาย

๔. ตวั อยา่ งกจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ น
4.1 กิจกรรมทใี่ ช้เวลาและค่าใชจ้ า่ ยไมม่ ากนกั ได้แก่ การจัดแสดงหนงั สือที่ได้รับมาใหม่ (News Arrival)

ทารายชื่อหนังสือที่น่าอ่าน (พร้อมบรรณนิทัศน์) (Recommended) ปิดไว้ที่ป้ายนิเทศ การเล่านิทานสั้น ๆ
การเลา่ เรอื่ งจากหนงั สือ การอา่ นหนังสือใหฟ้ งั ระหว่างเวลาพักรับประทานอาหารชว่ งเวลาไม่เกนิ ๓๐ นาที

4.2 กิจกรรมที่ต้องใช้เวลาเตรียมค่อนข้างมากและต้องให้ผู้อื่นช่วยเหลือด้วย เช่น การจัด
นิทรรศการเรื่องสาคัญ ๆ การจัดโครงการยอดนักอ่าน การประกวดการอ่านในใจและอ่านออกเสียง การทายปัญหา
จากหนังสือ การแขง่ ขันหาคาตอบจากหนงั สอื เปน็ ต้น

4.3 กิจกรรมท่ีเน้นเด็กมีส่วนร่วม เช่น การเล่านิทานประกอบการแสดงบทบาทสมมุติ การจัด
นิทรรศการโดยให้เด็กเป็นผู้ช่วยดาเนินกิจกรรม เช่น การเขียนคาอธิบาย นิทรรศการการจัดวางหนังสือและ
ส่ิงของตามแผนผังท่ีกาหนด การโต้วาทีเกี่ยวกับหนังสือ การสนทนาเกี่ยวกับหนังสือ เป็นต้น อาจจะขอความ
ร่วมมือจากครผู ู้สอนในแต่ละรายวชิ าร่วมด้วย

5. ฝึกการจัดทารายงานและศึกษาค้นควา้ แนะนาหนังสือในห้องสมุด วิธีการเขียน เรียบเรียง ย่อเร่ือง
และการเขียนบรรณานุกรม ทาใหเ้ ด็กไว้วางใจโดยคณุ ครูจะต้องทาหนา้ ท่ีเป็นที่ปรึกษาของเด็กในเรื่องการเรียน
หรือบคุ ลกิ ภาพ แนะนาหนงั สือใหอ้ า่ น เพ่ือช่วยใหเ้ ดก็ สามารถแก้ปญั หาไดแ้ ละพัฒนาการอ่านของตนได้

6. สร้างบรรยากาศในห้องสมุดให้เอื้อต่อการอ่านและเป็นท่ีน่าสนใจ เชิญชวนให้เข้าใช้ มีความเป็น
ระเบียบ สะดวกสบาย มีการจัดแสดงหนังสือใหม่ มีหนังสือท่ีสอดคล้องกับการเรียนการสอน หนังสือแนะนา
แนวทางให้กับนักเรียน โดยระเบียบของหอ้ งสมุดไม่ควรเคร่งครัดเกินไป มีการเขียนและปิดประกาศระเบียบไว้
ในที่เห็นได้ชัดเจน ตกแต่งห้องสมุดให้มีแสงสว่างเพียงพอและมีสีสันสวยงามน่าสนใจ นาวัสดุเก่ามาปรับปรุง

ค่มู ือการดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสัยรักการอา่ นและการพัฒนาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

10

ใหม่ซึ่งไม่จาเป็นต้องเป็นวัสดุราคาแพง สามารถนาวัสดุของท้องถ่ินมาใช้ ข้อสาคัญต้องรักษาสภาพให้สะอาด
ปราศจากฝนุ่ และไม่ดทู รุดโทรม เพอื่ ไมใ่ หเ้ กดิ อันตรายตอ่ นักเรยี นและผ้ใู ชห้ ้องสมุด

7. ครูบรรณารักษ์เป็นเครื่องดึงดูดเด็กใหเ้ ข้าห้องสมดุ ไดอ้ ย่างดี ควรเข้าใจเด็ก ย้ิมแย้มแจ่มใส มีใจใฝ่บริการ
รักการอ่าน และพยายามหาเวลาอ่านหนังสือให้มากและหลากหลาย สามารถแนะนาหนังสือท่ีดีและเหมาะสม
ให้แกเ่ ด็กได้ และมสี ัมพนั ธภาพอนั ดกี บั ผู้บริหาร เพื่อนครู และเจา้ หน้าทท่ี กุ ระดบั

แนวทางการจัดกจิ กรรมส่งเสริมนสิ ัยรกั การอา่ น

วธิ อี า่ นหนังสอื

๑. สว่ นประกอบทสี่ าคัญในการอ่าน การอา่ นจะไดผ้ ลดตี อ้ งประกอบด้วย
๑) ความร้แู ละประสบการณ์เดิม จะมสี ว่ นให้เข้าใจเร่ืองที่อ่านไดเ้ รว็
๒) ความรู้ด้านภาษา คาบางคามีความหมายหลายอย่าง ความหมายตรง ความหมายแฝง คาใหม่

ศพั ทบ์ ญั ญตั ิ ฯลฯ
๓) วิธีการเขียนของผ้แู ตง่
๔) นสิ ัยรักการอ่าน เปน็ สว่ นประกอบทีส่ าคัญท่ีจะทาให้การอ่านประสบความสาเร็จ
๕) รจู้ กั สิ่งพิมพป์ ระเภทต่าง ๆ การร้จู ักสงิ่ พิมพ์แตล่ ะประเภทจะทาให้อ่านได้เรว็ ขึน้

๒. คณุ สมบัตขิ องนกั อา่ นทด่ี ี
๑) มคี วามสนใจในการอา่ นหนังสือ
๒) ร้จู กั วธิ ีการอ่านหนังสอื ไดเ้ รว็
๓) มีประสบการณท์ ่ีจะเขา้ ใจและซาบซึง้ กับความหมายของเนอื้ เร่ือง
๔) ตดิ ตามความเคล่ือนไหวทางวทิ ยาการตา่ ง ๆ
๕) มีความร้เู รือ่ งหนังสอื สามารถเลอื กหนงั สือได้ตรงกับความต้องการและความสนใจได้
๖) มีวิจารณญาณในการอ่านคอื อา่ นอยา่ งไตร่ตรอง ก่อนจะเช่อื หรือไม่เช่ือ

การเลือกหนงั สืออา่ น

การเลือกหนงั สืออา่ น หมายถึง วธิ ีการเลือกหนงั สืออ่านใหต้ รงตามท่ตี อ้ งการ มวี ธิ กี ารดงั น้ี
๑. เลอื กหัวเรื่องที่สนใจจากฐานขอ้ มลู จดเลขเรยี กหนังสือแลว้ ไปหาหนงั สอื บนช้ัน
๒. เลอื กช่อื หนงั สือที่นา่ สนใจอ่าน
๓. พิจารณาจากชือ่ ผแู้ ตง่ หนังสอื
๔. พิจารณาจากปีที่พิมพ์ หากเป็นหนังสือประเภทวิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ควรเลือก
ฉบับที่พมิ พป์ ที เี่ ปน็ ปัจจุบนั หรอื ฉบบั ทีพ่ ิมพ์ลา่ สดุ
๕. อ่านสารบัญพจิ ารณาแตล่ ะบทวา่ มีเรอื่ งทีต่ อ้ งการหรือมีเร่ืองท่ีนา่ อ่านหรอื ไม่
๖. ถา้ มีคาวิจารณ์ให้อ่านบทวิจารณ์น้ัน จะทาใหท้ ราบเรอื่ งราวของหนงั สือโดยสงั เขป
๗. อา่ นหนงั สือ ๒-๓ หนา้ แรก แล้วจึงเปิดพิจารณาตอนกลางของหนังสือน้นั เพอ่ื ทราบเร่อื งราวโดยสังเขป

ลักษณะหนังสือท่อี า่ นสนุก

การ๑อ. า่ หนนหงั นสืองั สไมอื ่มใหคี ฟ้ำยงั ำกและใชถ้ อ้ ยคำสละสลวย
๒. หนงั สอื ที่มปี กหรือภำพประกอบสวยงำมดึงดูดใจ

๓. หนังสอื ทีไ่ ม่ใหญ่หรอื หนำเกินไป เปน็ หนงั สอื ที่ไมใ่ ช่หนังสอื เรียน

คู่มอื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนสิ ัยรกั การอ่านและการพฒั นาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

11

การอ่านหนังสือให้ฟัง เป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างหน่ึงที่จะจูงใจผู้ฟังให้รักหนังสือ อยาก
ติดตามเร่อื งที่ได้ฟังต่อไปดว้ ยตนเอง และท่ีไดป้ ระโยชน์อย่างย่ิงคือ ไดฟ้ งั การอา่ นออกเสียงท่ีถูกต้อง การอ่านท่ี
ถูกวิธี ไดฟ้ ังความไพเราะของภาษาอนั เปน็ ประโยชน์ตอ่ การเรยี นภาษา

สิง่ สาคญั ในการอ่านหนังสือให้ฟงั ประกอบดว้ ย ผอู้ า่ น สงิ่ ท่ีอ่าน ผู้ฟงั และการเตรยี มการ ดังน้ี
๑. ผอู้ า่ น ท่จี ะอ่านหนังสอื ให้ผู้อื่นฟัง ต้องเปน็ ผทู้ ่ีอา่ นหนงั สือถกู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี อา่ นชัดเจน เวน้ วรรคตอน
ถูกต้อง ฯลฯ ทุกคนมีโอกาสทาได้ด้วยการฝกึ ฝน ผู้ท่ีอ่านหนังสืออาจจะเป็น ๑) ครูบรรณารักษ์หรือ ครูท่ีสนใจ
๒) นักเรียนท่ีอ่านหนังสือได้คล่องแคล่ว ถูกต้องตามอักขรวิธี ๓) วิทยากรจากภายนอก ๔) เจ้าของบทประพันธ์ที่
นามาอ่าน
๒. สิ่งทอ่ี ่าน ส่งิ ที่นามาอ่านใหผ้ ู้ฟงั อาจจะเปน็ ในลักษณะต่อไปน้ี

๒.๑ บทความจากหนงั สือพมิ พ์ วารสาร
๒.๒ หนงั สอื ประเภทต่าง ๆ ทั้งรอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง
๒.๓ ประกาศต่าง ๆ
การอา่ นแต่ละคร้ัง อาจจะเป็นการอ่านตอนหน่ึงหรือหลายตอนของเร่ืองเดียวกัน หรอื อ่านหลาย ๆ เร่ือง
เรื่องละตอนกไ็ ด้
๓. ผฟู้ งั
๓.๑ ได้ฟังความไพเราะของภาษา
๓.๒ ไดฟ้ ังการอ่านออกเสยี งทถี่ ูกต้อง
๓.๓ ได้ฟังการอ่านหนังสือท่ีถกู ต้องตามอักขรวิธี เชน่ การเว้นวรรค การทอดจงั หวะ ฯลฯ
๓.๔ ถ้าเป็นการอ่านในลักษณะที่เห็นตัวผู้อ่าน ผู้ฟังก็จะได้เห็นท่าทางของผู้อ่าน การหยิบจับ
หนังสอื ท่ถี กู ต้อง
๓.๕ ได้รจู้ ักหนังสือและข่าว เร่ืองราวท่ีน่าสนใจ เปน็ แนวทางในการอ่านและศึกษาด้วยตนเอง
๔. การเตรยี มการ การเตรยี มการอ่านหนงั สอื ให้ฟัง ควรมีการเตรยี มการ ดังนี้
๔.๑ การเลอื กเร่อื ง ผู้ทจี่ ะอ่านหนงั สอื ใหฟ้ ังควรจะ

- เลือกเรื่องที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้ฟัง ตามวัย ตามวาระและโอกาส เช่น ถ้าเป็นเด็กก่อนวัยเรียน
ควรเลอื กเรอื่ งท่ีมคี าศัพทเ์ ขา้ ใจง่าย มีคาคลอ้ งจอง ฯลฯ

- เลือกเรือ่ งท่เี หมาะสมกบั ความถนดั และบุคลกิ ของผู้อ่าน
- ถ้าเป็นหนังสือ เมื่อเลือกเร่ืองได้แล้ว ควรเลือกตอนที่น่าสนใจ ซ่ึงเป็นตอนท่ีดีท่ีสุดของ
หนังสือเลม่ นน้ั หรืออาจจะเลอื กบางบท หรอื อ่านบางสว่ นของบท เพือ่ ชวนให้ผู้ฟงั อยากติดตามอา่ นต่อไป
- ถ้าเปน็ การอา่ นทางวิทยุ ซ่ึงเปน็ รายการตดิ ต่อกัน ให้อ่านเปน็ ตอน ๆ ไปจนจบเรื่อง
๔.๒ การเตรียมตัวสาหรบั ผ้อู า่ น ผ้ทู จี่ ะอ่านหนังสอื ใหฟ้ งั ควรจะ
- ต้องรู้ว่าการอ่านหนังสือให้ฟังแต่ละครั้งนั้นเป็นการอ่านต่อหน้าผู้ฟังกลุ่มเล็กหรือใหญ่ และ
จะตอ้ งไปนง่ั อ่านหรือยืนอ่าน หรอื เปน็ การอ่านผา่ นสื่อตา่ ง ๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หรอื เสียงตามสาย
- หนังสือหรือส่ิงพิมพ์ที่จะอ่าน ควรคั่นหน้าหรือตอนที่จะอ่านไว้ให้เรียบร้อย ถ้ามีหลายตอน
อาจบนั ทกึ หวั ชือ่ เรอื่ งไว้ทีบ่ นกระดาษคั่นหน้าหนังสอื ทกุ ๆ เรือ่ งที่จะอา่ น
- เตรียมตัวฝึกซ้อมการอ่านล่วงหน้าจนกระท่ังพอใจ ถ้าเป็นการอ่านมากกว่าหน่ึงคน ควรมี
การฝึกซ้อมลว่ งหนา้ ให้แมน่ ยา โดยเฉพาะถา้ อ่านบทสนทนาโต้ตอบกัน

คมู่ อื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนสิ ยั รักการอ่านและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

12

๔.๓ สถานท่ีสาหรับจัดกิจกรรมอ่านหนังสือให้ฟัง อาจเป็นหน้าเสาธง ห้องสมุด ห้องเรียน ห้องประชมุ
สถานท่ีจัดงานสาคัญต่าง ๆ ห้องส่งเสียงตามสาย สถานีวิทยุ ฯลฯ ถ้าการอ่านน้ันต้องมีอุปกรณ์การอ่านประกอบ
ตอ้ งเตรียมให้พร้อม ถา้ เป็นการอ่านต่อหน้าผู้ฟงั ควรจัดทนี่ ่ังใหผ้ ฟู้ ังสามารถมองเหน็ และได้ยนิ ผู้อา่ นอย่างชัดเจน
ถ้าเป็นการอ่านหนังสือให้กลุ่มผู้ฟังซ่ึงเป็นเด็กเล็ก ควรจัดให้ผู้อ่านได้อยู่ใกล้กับเด็ก และจัดกลุ่มขนาดเล็ก
เพื่อเดก็ จะได้ดูรูปจากหนังสือหรอื หยิบจบั หนังสือด้วย

๔.๔ อุปกรณ์ประกอบการอ่าน ในการอ่านหนังสือให้ฟัง ถ้ามีอุปกรณ์อื่น ๆ ประกอบด้วย จะทาให้
กิจกรรมการอ่านหนงั สือใหฟ้ ังน่าสนใจยงิ่ ขน้ึ อปุ กรณ์ท่ีควรจัดหามาตามความเหมาะสม เช่น

- ภาพประกอบเรอ่ื ง ซึ่งอาจจะเปน็ ภาพถา่ ย หรือภาพวาดกไ็ ด้
- เพลงประกอบ
- การแสดงหุน่
- ป้ายนทิ รรศการ
- ภาพนงิ่ ภาพเล่ือน วิดีโอ
- แผน่ ภาพและป้ายผา้ สาลี
๔.๕ วิธกี ารอ่าน
- ถ้าเปน็ การอ่านตอ่ หน้าผ้ฟู ัง ผู้อา่ นควรอยใู่ นทา่ ที่จะเห็นผ้ฟู ังทวั่ ถึง
- การจับหนงั สือและเปดิ หนงั สือควรใหถ้ กู ต้อง
- ท่าทางในการอา่ นควรอยใู่ นอาการสารวม แต่มีลักษณะชวนใหอ้ ยากฟัง
- การอารัมภบทควรใหก้ ะทดั รดั เรา้ ใจผฟู้ ังใหส้ นใจในเรือ่ งท่จี ะอ่าน ถ้ามอี ุปกรณป์ ระกอบต้อง
เตรยี มใหพ้ ร้อม
- อ่านออกเสียงใหไ้ ด้ยนิ ชัดเจนทว่ั ถงึ โดยเฉพาะการออกเสยี ง ร ล คาควบกล้า ฯลฯ
- ทอดจงั หวะในการอ่านใหเ้ หมาะสม
- อ่านเว้นวรรคตอนให้ถกู ต้อง
- ผอู้ ่านควรมองหนา้ ผู้ฟงั เป็นระยะ
๔.๖ การประชาสัมพันธ์กิจกรรมการอ่านหนังสือให้ฟัง ควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ฟังได้ทราบว่าจะมี
การอา่ นหนงั สือให้ฟัง วนั เวลาใด ใครเปน็ ผู้อา่ น จัดที่ไหน มกี ารจดั กจิ กรรมประกอบอะไรบ้าง และเมือ่ จัดแล้ว
ควรจัดอยา่ งสมา่ เสมอ
๔.๗ กจิ กรรมการอา่ นหนงั สือใหฟ้ ัง จัดไดห้ ลายลักษณะ เชน่
- อา่ นในรายการเสยี งตามสาย
- อ่านหนังสอื วนั ละหน้าหรอื อ่านขา่ วตอนเชา้ หน้าเสาธง หนา้ ช้ันเรียน
- อา่ นหนงั สือเพอ่ื เป็นการแนะนาหนงั สือ วารสาร หนงั สือพมิ พ์ หรือแนะนาสิ่งพิมพใ์ หม่
- อ่านหนังสอื ในวนั สาคญั ตา่ ง ๆ เชน่ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา วนั เด็กแห่งชาติ ฯลฯ
- ประกวดการอ่านหนังสือให้ฟัง
- กจิ กรรมอา่ นหนงั สือในครอบครวั
- อ่านหนงั สือทางวิทยุกระจายเสยี ง

คู่มือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสัยรกั การอา่ นและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

13

การเลา่ นิทาน

การเล่านิทาน เป็นประสบการณ์ทางการศึกษาหลายรูปแบบ โดยมีความสุข สนุกสนาน เป็นองค์ประกอบ
สาคญั เด็กจะไดร้ บั ประสบการณจ์ ากการฟงั นิทาน ไดแ้ ก่

๑. เกิดการเร้าทางสื่อภาษา ได้ยินกับหูและเห็นกับตา การเล่านิทานทาให้เด็กได้เข้าใจรูปแบบการใช้
ภาษา ในการเล่าเร่อื งในบทสนทนาต่าง ๆ ได้รบั ความรู้ คาศัพท์ใหม่ ๆ

๒. เกิดการเร้าทางสาเนียง การเล่านิทานที่มีบทบรรยาย บทสนทนาที่มีเสียง มีจังหวะท่ีแปรเปล่ียน
จะจงู ใจให้เดก็ ตัง้ ใจฟงั และสามารถจับความหมายในน้าเสยี งน้ันได้

๓. เกดิ การเร้าทางจกั ษุ ไดแ้ ก่ หนงั สอื ภาพ ภาพยนตร์ หุ่นของจริง รวมถงึ ตวั ผูเ้ ลา่ นทิ านท่เี ด็กมองเห็น
สีหน้าทา่ ทาง อากปั กริ ิยาทแี่ สดงออก

๔. เกดิ การรับรู้เก่ียวกับสังคม เดก็ จะรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับขนมธรรมเนียม ศีลธรรมจรรยา การปฏิบัติตน
ในสังคม บรรยากาศในการเลา่ นทิ านจะทาให้เกดิ ปฏิสมั พนั ธก์ บั ผ้เู ลา่ นิทาน

นิทานที่ดีจะกระตนุ้ ให้มอี ารมณ์ตอบสนอง ผฟู้ ังฝึกฝนจินตนาการเกดิ ความรู้สึกตามเนื้อเรอ่ื งทฟี่ ัง

นิทานทเ่ี หมาะสมแกก่ ารเลา่ ควรมลี ักษณะ ดงั น้ี

๑. มกี ารเคลือ่ นไหว
๒. มเี น้อื หาเร้าใจ
๓. มพี รรณนาโวหารและภาพพจน์
๔. มคี าซ้า ข้อความซ้า ๆ และคลอ้ งจองกัน ซง่ึ เป็นสิง่ ทช่ี ว่ ยใหเ้ ด็กติดใจ
๕. มกี ารสนทนาโต้ตอบท่แี สดงสตปิ ญั ญาเฉียบแหลม และนาเสนอปฏิภาณไหวพริบของตวั ละคร
๖. มเี นอ้ื หาท่แี สดงอารมณแ์ ละมีการเคล่อื นไหวสอดแทรกในเรอ่ื งท่เี ลา่
๗. มเี รอื่ งท่เี กี่ยวกบั เด็กและสัตว์เลก็ ๆ ที่ใชไ้ หวพรบิ ความสามารถ หรือการปอ้ งกนั ตัวเองให้พน้ ภยั
๘. มนี ทิ าน สภุ าษิต และนิทานอสี ป
๙. มเี รอ่ื งขาขนั
10. มีตานาน นิทานพ้นื เมอื ง เทพนิยาย

เรอ่ื งท่ีไม่ควรเลือกมาเลา่ คือ

๑. เรือ่ งทดี่ าเนนิ เรอื่ งซับซอ้ น มรี ายละเอยี ดมาก
๒. เรอื่ งทม่ี คี วามยาว และใชเ้ วลาในการทาความเข้าใจ
๓. เรื่องทม่ี ีความรนุ แรง เชน่ การทารณุ ทารา้ ยกัน
๔. เรือ่ งทีเ่ นอ้ื หาไม่เหมาะสม ไมส่ ุภาพ

ข้อเสนอแนะในการจดั กจิ กรรมสง่ เสริมนิสัยรกั การอ่าน

การจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ การอ่านใหม้ ปี ระสิทธิภาพควรมีการเตรียมพร้อมและคานงึ ถงึ ในเร่ืองต่อไปนี้
๑. จัดห้องสมุดใหน้ ักเรยี นไดศ้ ึกษาคน้ คว้าอยา่ งเพียงพอ จดั สง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรียนให้เอื้อตอ่ การเรียนรู้
สาหรับนักเรียน เพ่ือให้นักเรียนได้เข้าสู่บรรยากาศของการอ่านและได้ใกล้ชิดกับหนังสือมากยิ่งขึ้น เช่น
จดั นทิ รรศการหนงั สอื ในโอกาสต่าง ๆ จดั กิจกรรมเชญิ ชวนใหอ้ ่านหนังสือสมา่ เสมอ ฯลฯ
๒. ครผู ้จู ัดกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน ควรเตรียมพร้อมในดา้ นวธิ กี ารดาเนนิ การ และสือ่ อุปกรณ์ เพื่อให้
การจัดกจิ กรรมดาเนนิ ไปดว้ ยความเรยี บร้อยบรรลุตามเปา้ หมายที่กาหนด รวมทงั้ ต้องเปน็ แบบอยา่ งที่ดใี นเรื่อง
นิสัยรักการอ่านดว้ ย

ค่มู ือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสัยรกั การอ่านและการพัฒนาห้องสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

14

๓. การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ต้องเป็นกิจกรรมท่ีเร้าใจ ท้าทายความสนใจของนักเรียน มีความ
หลากหลาย เพ่ือให้นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมีความสุข ควรเป็นกิจกรรมเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง
สามารถแสวงหาความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง

๔. ครูผ้จู ดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่าน ควรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ดา้ นการอ่านของนักเรียนรายบุคคล เพือ่ จัด
กิจกรรมให้สนองกบั ความต้องการและความสนใจของผูเ้ รยี นแตล่ ะคนได้อย่างเหมาะสม

๕. จดั สภาพแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสมเพอ่ื ใหก้ จิ กรรมน่าสนใจ แปลกใหม่ และสามารถนาไปปฏบิ ัตจิ รงิ
๖. โรงเรียนจะมีบทบาทสาคัญในการสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่นักเรียนได้นั้น จาเป็นต้องอาศัย
ความร่วมมือจากพ่อแม่ ผปู้ กครองอีกทางหนึง่ ด้วย เพ่ือให้การปลกู ฝงั นสิ ัยรักการอ่านเป็นไปอยา่ งสม่าเสมอและ
ตอ่ เน่อื ง

แนวทางการจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ นิสยั รกั การอา่ นในโรงเรยี น

โรงเรียนสามารถจดั กิจกรรมได้ 2 ลักษณะ ไดแ้ ก่
1. กิจกรรมหลัก เป็นกิจกรรมที่สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกาหนดให้โรงเรียนใน
สังกัดดาเนินการอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ือง โดยสามารถปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของนักเรียนและ
ครผู ูร้ ับผิดชอบ โดยแบ่งเป็น 4 ระดบั ดังน้ี

1) ระดับปฐมวัย
2) ระดับประถมศึกษา
3) ระดับมัธยมศึกษา
4) ระดับโรงเรยี น
2. กิจกรรมเสนอแนะ โรงเรียนสามารถเลือกจัดกิจกรรมอย่างอิสระตามความเหมาะสมและบริบท
ของโรงเรียน

คาชีแ้ จงการจดั กจิ กรรม

การจัดกิจกรรมสง่ เสริมนิสัยรักการอ่าน มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ครูบรรณารักษ์ และ หรือครูผู้สอนแต่ละ
กล่มุ ทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สามารถจดั กิจกรรมให้เป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ โดยดาเนินการ ดังน้ี

๑) ศึกษารายละเอยี ดกิจกรรมสง่ เสรมิ นสิ ัยรกั การอา่ นท้งั กจิ กรรมหลักและกิจกรรมเสนอแนะ
๒) โรงเรยี นสามารถปรบั ประยกุ ต์วตั ถปุ ระสงค์ สือ่ และอปุ กรณ์ การจดั กิจกรรม การวัดและประเมนิ ผล
และข้อเสนอแนะแตล่ ะกจิ กรรมไดต้ ามบริบทและความต้องการของผรู้ บั ผดิ ชอบ
๓) โรงเรยี นจดั เตรยี มความพร้อมในการดาเนนิ งาน ทั้งเวลา สถานท่ี และวสั ดุอุปกรณ์
๔) จัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านกิจกรรมหลักอย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง ในขณะทากิจกรรม
ครูผู้สอน ครูบรรณารักษ์ ครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ควรให้คาแนะนานักเรียน และอานวยความสะดวกให้
นกั เรยี นตลอดจนการดาเนินกิจกรรม รวมถึงมกี ารวัดและประเมินผลกจิ กรรมตามสภาพจรงิ ของนักเรยี น
๕) มกี ารนิเทศ และติดตามผลการจดั กจิ กรรม โดยใหบ้ ุคลากรทกุ ฝ่ายในโรงเรียนมสี ว่ นร่วม

คู่มอื การดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสรมิ นสิ ัยรกั การอ่านและการพฒั นาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

15

กิจกรรมส่งเสรมิ นิสัยรกั การอา่ น

• กจิ กรรมหลกั ๒๐ กิจกรรม
ระดับปฐมวัย “หนังสือสนกุ ปลุกสมอง”
๑. มารูจ้ ักหนังสอื กันเถอะ
๒. หนนู อ้ ยยอดนกั ฟงั
๓. หนุ่ นอ้ ยเล่านทิ าน
๔. สรา้ งสขุ สนุกกบั นิทาน
๕. ระบายสกี ับนิทาน
ระดับประถมศกึ ษา “อ่านให้รู้ ดูใหเ้ พลิน”
๑. ฟงั นิทานแสนสนกุ
๒. หอ้ งสมุดของฉนั
๓. เลม่ โปรด
๔. อ่านเป็นจบั ประเด็นได้
๕. กาหนดคา ทาใหเ้ ปน็ เรอื่ ง
ระดบั มธั ยมศกึ ษา “อ่านเขียน เรียนรโู้ ลก”
๑. ยอดรกั นกั อา่ น
๒. สรุปขา่ ว เลา่ เร่ือง
๓. ทคี่ ัน่ หนังสอื สอ่ื ความรู้
๔. ภาษาพาสนกุ
๕. นิทานเร่อื งนไี้ ม่มตี อนจบ
ระดบั โรงเรียน “สนกุ อ่าน สาราญเขยี น”
๑. ยอดนกั อา่ น
๒. ยวุ บรรณารักษ์
๓. สัปดาห์หอ้ งสมดุ /สปั ดาหร์ ักการอ่าน
๔. ค่ายรกั การอ่าน
๕. หนงั สอื ทามือ

• กจิ กรรมเสนอแนะ ๑๙ กิจกรรม “อ่าน เพียร เขียน สนุกทกุ กจิ กรรม”

คมู่ อื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนสิ ัยรักการอา่ นและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

16

กจิ กรรมหลักระดบั ปฐมวัย
“หนังสอื สนุกปลุกสมอง”

กิจกรรมท่ี 1 มารู้จักหนังสอื กันเถอะ

เวลา ๕ - ๑๐ นาที

วัตถปุ ระสงค์
เพอ่ื ใหน้ ักเรียนรู้จกั ลักษณะและประโยชนข์ องหนงั สอื

ส่อื และอุปกรณ์
หนงั สือภาพสาหรบั เด็ก (มีตวั หนงั สือน้อยทีส่ ดุ )

การจดั กิจกรรม
1. ครูแนะนาหนังสอื ภาพสาหรบั เด็กเกีย่ วกับลักษณะและประโยชน์ของหนงั สือ
2. ชวนนักเรยี นสนทนาเก่ยี วกับปกหนังสือ (ภาพ สี ชื่อเรือ่ ง)
3. แนะนาส่วนตา่ ง ๆ ของหนังสอื (ปก ช่ือเร่ือง ชือ่ ผู้แต่ง ผู้วาดภาพ เนือ้ หา จานวนหนา้ รปู เล่ม)
4. อ่านหนังสอื หรอื เล่าเรื่องให้นกั เรียนฟงั
5. นักเรียนสมั ผัสสว่ นต่าง ๆ ของหนงั สือดว้ ยตนเอง

การวัดและประเมินผล
สังเกตการมีส่วนร่วมและการสนทนาโต้ตอบของนักเรียน

ข้อเสนอแนะ
1. แนะนาประโยชนข์ องหนังสอื เพ่ือใช้อ่านอย่างสนุกสนาน ไม่ใชส้ าหรับฉกี หรือเล่น
2. แนะนาส่วนประกอบของหนงั สอื เริ่มต้ังแต่ ปก ชือ่ เรื่อง เน้ือหา รปู เลม่
3. หนังสือสาหรบั เด็กเล็กสามารถทาจากวสั ดหุ ลายชนดิ เช่น กระดาษ ผา้
4. แนะนาการเปิดหนังสืออย่างถูกต้อง ไม่ขยา ไม่กระชาก
5. กจิ กรรมนี้ ครูผรู้ บั ผดิ ชอบสามารถจัดกจิ กรรมได้อย่างต่อเน่อื งสม่าเสมอ

กจิ กรรมท่ี 2 หนูนอ้ ยยอดนกั ฟัง เวลา ๕ - ๑๐ นาที

วัตถุประสงค์
1. เพอื่ เพ่ิมวงคาศัพท์ของนักเรยี น
2. เพื่อใหน้ ักเรียนมสี มาธใิ นการฟัง

สื่อและอุปกรณ์
1. หนงั สอื ภาพหรือการเล่าเร่ืองดว้ ยนา้ เสียงและประกอบท่าทาง
2. เพลงส้ัน ๆ สาหรับเด็ก หรอื บทร้องเล่นของเด็ก

คูม่ ือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสรมิ นิสยั รกั การอา่ นและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

17

การจดั กจิ กรรม
1. ครอู า่ นหรือเล่าเร่ืองโดยใชภ้ าษาทา่ ทางท่สี อดคลอ้ งกบั เรื่องท่มี าจากหนงั สือภาพ เรื่องเล่า บทเพลง
2. นกั เรยี นแสดงทา่ ทางเลยี นแบบและออกเสียงตาม

การวดั และประเมินผล
1. สังเกตการสนทนาโตต้ อบจากนกั เรียน
2. สังเกตการออกเสยี ง การแสดงทา่ ทางเลยี นแบบคล้ายคลงึ กบั ตน้ แบบ

ขอ้ เสนอแนะ
1. ครคู วรเล่าหรืออ่านด้วยเสียงสอดคล้องกับเนื้อเร่ืองหรือมีท่าทางประกอบ โดยควรเตรียมความพร้อมหรือ

ฝึกทา่ ทางการเลา่ มาก่อน
๒. กจิ กรรมน้ีควรจัดกจิ กรรมอย่างต่อเน่อื งโดยปรบั ใหเ้ ข้ากับโอกาสตา่ ง ๆ

กจิ กรรมที่ 3 หนุ่ นอ้ ยเล่านทิ าน

เวลา 5 - 10 นาที
วตั ถุประสงค์

1. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมสี มาธิในการดแู ละฟัง
2. เพื่อให้นักเรยี นเข้าใจเร่ืองราวท่ดี ู และ/หรอื ฟังโดยสมั พันธ์กับหนงั สอื
สือ่ และอุปกรณ์
1. หนุ่ น้วิ หรอื ห่นุ มอื ท่ีมาจากหนงั สอื ทีค่ รูต้องการเล่าให้เด็กฟงั
2. หนงั สอื ภาพหรือเพลงสาหรับเดก็ ที่เป็นโครงเร่ืองสาหรบั การเลา่ นทิ าน
การจดั กจิ กรรม
1. ครอู า่ นและวเิ คราะหน์ ทิ านทีต่ ้องการอ่านให้นกั เรยี นฟัง
2. ครปู ระดิษฐต์ วั ละครจากหนงั สือเพ่ือใช้เปน็ หุ่นสาหรบั เล่าเรอื่ ง
3. นาห่นุ มาแสดงท่าทางเป็นเรื่องราวสอดคล้องกบั หนังสือ
4. นกั เรียนฝึกใช้หุ่นทาท่าทางเลยี นแบบตวั ละครหนุ่
การวัดและประเมินผล
1. สงั เกตการสนทนาโต้ตอบและการตอบคาถามงา่ ย ๆ เกี่ยวกบั เรื่องเลา่ ของนักเรียน
2. สังเกตการมสี ่วนร่วมเลน่ กิจกรรมของนกั เรยี น
ขอ้ เสนอแนะ
ห้องเรียนทม่ี นี ักเรียนจานวนนอ้ ยครูควรใชห้ ุ่นน้วิ มือ หากหอ้ งเรียนมีนกั เรียนจานวนมากครคู วรใช้หุ่นมอื

กจิ กรรมที่ 4 สรา้ งสุข สนกุ กบั นิทาน เวลา ๕ - ๑๐ นาที

วตั ถปุ ระสงค์
เพอื่ ใหน้ ักเรียนมีส่วนรว่ มในการแสดงบทบาทสมมตุ ใิ นเร่ือง

คู่มือการดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสัยรักการอา่ นและการพัฒนาหอ้ งสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

18

ส่อื และอุปกรณ์
1. หนังสือนิทานหรอื หนงั สอื ภาพสาหรบั เด็ก
2. บทบาทสมมตุ ิ

การจัดกิจกรรม
1. ครูอ่านหรือเล่าเร่อื งจากหนงั สอื นทิ านหรือหนังสอื ภาพสาหรบั เด็ก
2. นกั เรยี นร่วมแสดงบทบาทสมมุติเป็นตวั ละครในเรือ่ ง โดยมีครูเปน็ ผนู้ า

การวัดและประเมนิ ผล
1. สังเกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วมของนักเรียน
2. สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออกสอดคล้องกับคาสง่ั

ข้อเสนอแนะ
หนงั สือนทิ านหรือหนงั สอื ภาพควรมตี ัวละครทนี่ ักเรยี นแสดงการมีส่วนรว่ มได้ทุกคน

กิจกรรมที่ ๕ ระบายสกี บั นทิ าน

เวลา 5 - 10 นาที
วตั ถุประสงค์

๑. เพอื่ ให้นกั เรยี นมีสมาธิในการฟังและรู้จกั ตัวละครทีอ่ ยู่ในนิทาน
๒. เพือ่ ฝึกการใหน้ กั เรียนใช้กล้ามเนือ้ เลก็
๓. เพื่อฝึกใหน้ ักเรยี นคดิ สร้างสรรค์และระบายสีตามจนิ ตนาการ
สื่อและอุปกรณ์
๑. หนังสือนทิ านหรอื หนังสอื ภาพสาหรับเดก็
๒. แผ่นภาพสาหรบั ระบายสี
๓. สีไมห้ รือสเี ทียน
การจดั กิจกรรม
1. นกั เรียนฟังครูอ่านหนังสือนิทานหรอื หนังสือภาพสาหรับเดก็
2. ร่วมกนั สนทนาโตต้ อบเก่ียวกับนทิ านและตัวละครในนิทาน
3. นกั เรียนระบายสตี วั ละครหรือภาพงา่ ย ๆ จากนิทานหรือหนงั สอื ภาพสาหรับเดก็
4. นาภาพของนักเรียนทุกคนจัดป้ายนเิ ทศหรือนทิ รรศการในห้องเรียน เผยแพร่ให้ทกุ คนชืน่ ชม
การวดั และประเมนิ ผล
๑. สังเกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วมกิจกรรมของนักเรียน
๒. สงั เกตการใช้กลา้ มเน้ือมือของนักเรยี นขณะระบายสี
๓. ตรวจผลงานของนกั เรยี นรายบุคคล
ขอ้ เสนอแนะ
1. การเลือกหนงั สือ ควรมเี รอื่ งราวทงี่ า่ ยสาหรบั ทาความเขา้ ใจของนกั เรยี นและมีตัวละครไม่มากนัก
๒. ภาพร่างควรเปน็ ตวั ละครเอกหรือตัวละครเด่นของเร่ือง

คู่มือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสรมิ นสิ ยั รกั การอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

19

กิจกรรมหลกั ระดบั ประถมศึกษา
“อา่ นให้รู้ ดใู ห้เพลิน”

กิจกรรมที่ 1 ฟังนิทานแสนสนุก

เวลา 10 - ๑5 นาที
วัตถปุ ระสงค์

๑. เพื่อให้นกั เรียนมีสมาธิในการฟังนทิ านหรือหนังสอื ภาพสาหรบั เดก็
๒. เพือ่ ใหน้ กั เรียนอ่านเพอ่ื เล่าเรือ่ งย้อนกลับรว่ มกนั ได้
๓. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นอธิบายสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ของหนังสือ
สื่อและอุปกรณ์
๑. นิทานหรือหนังสอื ภาพสาหรบั เด็ก
๒. ใบงานกจิ กรรมอ่านสนุก
การจัดกิจกรรม
1. ทบทวนลกั ษณะ องคป์ ระกอบและประโยชน์ของหนังสือนิทานหรือหนังสอื ภาพสาหรับเดก็
2. นักเรียนฟงั นิทานหรือหนงั สือภาพท่ีครูอา่ น
3. สนทนาเก่ียวกับนิทานหรือหนังสือท่ีอ่านร่วมกันระหว่างนักเรียนและครู (พฤติกรรมตัวละคร เน้ือเรื่อง
การปฏบิ ัติตนในชีวติ ประจาวนั คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์)
4. อา่ นหรือเล่าเร่อื งย้อนกลบั ร่วมกนั
5. นกั เรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามใบงานท่ีกาหนด
๖. นาใบงานทนี่ กั เรยี นทุกคนทา ไปจัดนทิ รรศการผลงาน
การวัดและประเมินผล
๑. สังเกตพฤติกรรมการฟงั ของนักเรยี น
๒. สงั เกตพฤติกรรมการพูด เล่า หรืออ่านของนักเรยี น
๓. ตรวจผลงานของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล
ขอ้ เสนอแนะ
1. ใบงานควรเป็นภาพลายเสน้ จากตัวละครในนิทานหรือหนังสอื ภาพทีน่ ักเรียนฟัง
2. เลือกนทิ านให้เหมาะสมกับวยั ของนักเรียนท่ีฟัง

คูม่ ือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสรมิ นิสัยรกั การอา่ นและการพัฒนาหอ้ งสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

20

ใบงานกจิ กรรมอ่านสนกุ

ช่อื เรอ่ื ง ..................................................................................................................................................................................
ผู้แต่ง .....................................................................................................................................................................................
ผวู้ าดภาพประกอบ ................................................................................................................................................................
ตัวละคร .................................................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชอบ ☺ ไมช่ อบ 

ชื่อนกั เรียน ..................................................................

กิจกรรมที่ 2 ห้องสมดุ ของฉนั

เวลา 10 - ๑5 นาที
วตั ถปุ ระสงค์

1. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นรูจ้ ักห้องสมุดและแหลง่ การเรียนรู้ในโรงเรยี น
2. เพ่อื ให้นักเรยี นเขา้ ใจมารยาทหรือกฎกตกิ าการใช้หอ้ งสมุดโรงเรยี น
ส่ือและอุปกรณ์
สอื่ วัสดุ ครุภณั ฑ์ของหอ้ งสมุดโรงเรียน
การจดั กจิ กรรม
1. ครูสนทนาเก่ยี วกับแหลง่ การเรยี นร้ตู า่ ง ๆ ในโรงเรียน แล้วเช่ือมโยงถงึ ห้องสมุดของโรงเรียน
2. พานกั เรยี นไปห้องสมุดของโรงเรียน
๓. แนะนาสว่ นต่าง ๆ ของห้องสมดุ เช่น มุมตา่ ง ๆ ในห้องสมดุ บรรณารักษ์
๔. นาเสนอหนังสอื ทนี่ ่าสนใจหรอื สอดคล้องกับกจิ กรรมทีจ่ ะจดั การเรียนรู้ของสาระวิชานน้ั ๆ ต่อไป
การวดั และประเมนิ ผล
1. สังเกตความสนใจและการมีส่วนรว่ มของนกั เรยี น
๒. สงั เกตการสนทนาโตต้ อบของนักเรยี น
ข้อเสนอแนะ
กจิ กรรมนคี้ วรเปน็ สว่ นหน่ึงของวชิ าทจี่ ะใช้ห้องสมดุ ของโรงเรียนเป็นแหลง่ การเรียนรู้

กิจกรรมท่ี 3 เลม่ โปรด

เวลา 10 - 15 นาที

วัตถปุ ระสงค์
1. นกั เรียนเลือกหนงั สอื ตามความสนใจหรอื ความชอบ
2. นกั เรยี นนาเสนอความคิดเหน็ จากหนังสือเล่มทีเ่ ลือกได้

คมู่ อื การดาเนินงานกจิ กรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสยั รกั การอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

21

ส่อื และอุปกรณ์
หนงั สอื ทนี่ ักเรียนเลือกจากบ้าน หรอื ห้องสมุดโรงเรยี น

การจัดกจิ กรรม
1. นักเรียนนาหนงั สือเลม่ ท่เี ลือกมานาเสนอให้เพ่ือน ๆ และครูฟัง โดยบอกเหตุผลท่ีชอบหนังสือเล่มน้ี
2. ครูกาหนดจานวนนักเรยี นตามความเหมาะสมของเวลา แลว้ เปล่ยี นนักเรยี นมานาเสนอในวันต่อไปให้

ครบทุกคน
การวัดและประเมนิ ผล

1. สังเกตจากพฤติกรรมการนาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น
2. สงั เกตการเลือกหนังสอื และเหตุผลประกอบการเลือกหนงั สอื
ขอ้ เสนอแนะ
๑. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นเลือกและอ่านหนังสอื เลม่ ทีช่ อบทีส่ ุด ๑ เรื่อง
๒. ครเู ลือกนักเรยี นจากการสุ่มเลือก เร่ิมจากนักเรียนอาสาก่อน โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกจิ กรรมครบทุกคน
๓. ควรมีการนาเสนอวันละ 1 - ๒ คน เพอื่ ให้มีเวลาสนทนารว่ มกนั
๔. กิจกรรมน้สี ามารถประยุกตส์ าระการนาเสนอให้เหมาะสมกับนกั เรยี นแต่ละระดับชนั้

กจิ กรรมที่ 4 อา่ นเปน็ จับประเด็นได้

เวลา 10 – 15 นาที
วัตถุประสงค์

1. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นอา่ นหนงั สืออย่างสม่าเสมอ
2. เพอื่ ให้นกั เรยี นบอกเลา่ เรื่องราวทอ่ี า่ นได้
3. เพอื่ ใหน้ กั เรยี นประเมนิ เร่ืองที่ตนเองอา่ นอยา่ งง่าย ๆ ได้
ส่ือและอุปกรณ์
1. หนังสอื ท่นี ักเรียนเลอื กตามความสนใจหรือความชอบ
2. แบบบันทกึ การอา่ นของ สพฐ.
การจัดกจิ กรรม
1. กาหนดให้นักเรียนเลอื กหนงั สอื ทส่ี นใจ อ่านหนงั สอื สัปดาหล์ ะไมน่ ้อยกวา่ 1 เลม่
2. นกั เรยี นเขยี นสาระสาคัญลงในแบบบนั ทึกการอ่านทุกสัปดาห์สง่ ใหผ้ ปู้ กครองรบั ทราบ
3. สง่ แบบบันทึกการอ่านให้ครูผ้รู บั ผิดชอบติดตามความก้าวหนา้ ในการอา่ นของนกั เรยี น
การวัดและประเมนิ ผล
ตรวจสอบแบบบันทกึ การอ่านของนักเรียน
ข้อเสนอแนะ
1. หนงั สือท่ีนักเรียนอา่ นใหโ้ รงเรียนกาหนดจานวนตามความเหมาะสมสอดคลอ้ งกับวยั นกั เรียน
2. บนั ทึกการอา่ นของนักเรยี นควรไดร้ บั การตรวจติดตามให้กาลงั ใจทุกสัปดาห์
3. กจิ กรรมนค้ี วรให้นักเรียนทาอย่างต่อเนื่องสมา่ เสมอ
4. แบบบนั ทกึ การอ่านควรจัดทาเปน็ เลม่ สาหรับนกั เรียนแตล่ ะคน (ตามแบบบันทึกการอา่ นของ สพฐ.)

ค่มู อื การดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

22

กจิ กรรมที่ 5 กาหนดคาทาให้เป็นเรอ่ื ง

เวลา 10 - 15 นาที
วัตถปุ ระสงค์

เพอ่ื ให้นกั เรยี นสามารถแตง่ เร่ืองจากคาหรืองานที่กาหนดให้
ส่ือและอุปกรณ์

คาทกี่ าหนดให้
การจดั กจิ กรรม

1. นักเรียนจับคูก่ บั เพื่อนตามความชอบใจ
2. นักเรียนนาคาที่กาหนดให้ ๓ - ๕ คา หรือภาพท่ีกาหนดให้ แต่งเร่ืองจากคาศัพท์หรือภาพตามข้อตกลง
รว่ มกัน
3. นักเรียนนาเสนอหนา้ ชั้นเรยี นใหค้ รบทุกคู่
4. นาเร่ืองท่ีแต่งไปออกแบบรูปแบบเพ่ือนาเสนอตามความถนดั แล้วจดั นิทรรศการแบง่ ปันกนั อ่าน
การวดั และประเมนิ ผล
ตรวจผลงานการสรา้ งเรือ่ งของนกั เรยี น
ข้อเสนอแนะ
1. ใหค้ รูผู้รบั ผดิ ชอบยืดหยนุ่ เวลาในการจัดกิจกรรมตามความเหมาะสม
๒. กิจกรรมน้ีใหค้ รูผู้รบั ผดิ ชอบประยุกต์ใชต้ ามความเหมาะสมกับผเู้ รียน

กจิ กรรมหลกั ระดบั มธั ยมศึกษา

“อา่ นเขยี น เรยี นรู้โลก”

กจิ กรรมที่ 1 ยอดรกั นักอ่าน

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถปุ ระสงค์

1. พฒั นาสมาธกิ ับการอ่านของนักเรยี นจากเร่ืองที่ชื่นชอบ
2. นักเรยี นอ่านหนังสือทุกวันอย่างน้อยวันละ 15 นาที ในตอนเชา้
3. นกั เรยี นอ่านออกเสยี งทกุ คน ทุกห้อง วันละ 10 นาที ก่อนกลับบ้าน
สอื่ และอุปกรณ์
หนงั สอื ทนี่ ักเรียนคดั เลือกด้วยตัวเอง
การจัดกจิ กรรม
1. นกั เรียนทุกคนอา่ นหนงั สอื ทคี่ ัดเลือกด้วยตนเอง
๒. กาหนดเวลาอา่ น คือชว่ั โมงแรกของทุกวนั ทุกสาระ วนั ละ 5-10 นาที
๓. ครูทุกสาระการเรียนร้เู ปน็ ผู้ดูแลการอา่ นของนกั เรียนให้เปน็ ไปตามเวลาท่ีกาหนด

คูม่ อื การดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนสิ ัยรักการอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

23

4. กาหนดใหอ้ า่ นทุกช้นั เรยี น ทกุ หอ้ งเรียน
การวดั และประเมินผล

๑. สัมภาษณน์ ักเรียนเพื่อทราบความพึงพอใจในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
๒. ติดตามสถิติการเข้าห้องสมดุ หรือยืมหนงั สือ
ข้อเสนอแนะ
ครูทกุ สาระควรเป็นผู้ช่วยใหก้ ิจกรรมการอ่านนเ้ี ปน็ ไปตามเวลา ไม่รบกวนเวลาการเรียนการสอน

กิจกรรมที่ 2 สรปุ ขา่ ว เล่าเรอ่ื ง

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถปุ ระสงค์

1. นกั เรยี นสรุปความเน้ือหาท่ีอา่ นได้
2. นักเรียนเลา่ เรอื่ งได้
สอื่ และอุปกรณ์
หนงั สอื พิมพ์
การจดั กจิ กรรม
1. นักเรยี นอ่านข่าวหนังสอื พิมพแ์ ละเลือกหัวข้อข่าวทสี่ นใจ
๒. นักเรยี นสรุปขา่ วและบันทึก
๓. นกั เรยี นเลา่ ข่าวทส่ี รุปให้เพือ่ นฟัง
๔. นกั เรยี นรวบรวมผลงาน สรุปข่าว ทาเปน็ เล่มเก็บไว้ทีม่ ุมหนงั สอื ในชัน้ เรียนหรอื ในห้องสมดุ
การวัดและประเมินผล
1. ประเมนิ การบันทึกสรุปความ
2. ประเมินการเล่าสรุปเร่ือง
ข้อเสนอแนะ
ครคู วรเลอื กเนื้อหาข่าวทเี่ หมาะสมกับวยั และระดับความสนใจของนักเรียน

กิจกรรมที่ 3 ทีค่ น่ั หนังสอื ส่อื ความรู้ เวลาตามความเหมาะสม

วัตถปุ ระสงค์
1. คน้ คว้าสานวนและคาคมได้
2. ประดษิ ฐ์ที่ค่นั หนังสือได้

ส่อื และอุปกรณ์
1. หนังสืองานประดิษฐต์ า่ ง ๆ
2. หนงั สือสานวน คาคม
3. กระดาษและวสั ดอุ ุปกรณ์ทาที่คนั่ หนงั สือ

คู่มือการดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนสิ ยั รักการอ่านและการพฒั นาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

24

การจดั กิจกรรม
1. ครูนาสนทนาถึงความสาคัญของทค่ี นั่ หนังสือ
๒. นาเสนอตัวอยา่ งที่คั่นหนังสอื
๓. นักเรยี นอ่านและค้นควา้ สานวน คาคม จดลงในสมุดบันทกึ
4. นักเรียนประดิษฐท์ ่คี ่นั หนังสอื และเขียนสานวน คาคม ลงในที่คนั่ หนังสือ
5. นาเสนอผลงานการประดิษฐ์ท่ีคั่นหนังสือ

การวดั และประเมนิ ผล
แบบประเมนิ ชน้ิ งาน

ขอ้ เสนอแนะ
1. สามารถนาไปปรบั ใชใ้ นกลมุ่ สาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้
2. ควรสง่ เสริมให้นกั เรยี นประดิษฐท์ ี่คัน่ หนังสือเอาไว้ มอบเพ่ือนหรือผ้ทู ีเ่ คารพเนื่องในโอกาสตา่ ง ๆ

กิจกรรมที่ 4 ภาษาพาสนุก

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

1. เปดิ พจนานุกรมได้
2. ร้จู ักคาและความหมายกวา้ งข้ึน
ส่ือและอุปกรณ์
1. หนังสือพจนานกุ รมไทย
2. ใบงาน
1. เกมภาษาพาสนุก
การจดั กิจกรรม
1. ครสู าธติ การเล่นเกม “ภาษาพาสนุก”

- นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 3-4 คน
- ครยู กตวั อยา่ งคาบนกระดานเป็นคาหลกั
- ตวั แทนกลุ่มละ 1 คน ออกมาเขยี นขยายคาหลักท่ีครยู กบนกระดานให้เปน็ สานวน วลี ท่ไี ม่ซา้ กนั
2. ครูแจกบัตรคาเพื่อเล่นเกม “ภาษาพาสนุก” และหนังสือพจนานุกรมให้นักเรียนทาความเข้าใจ
รว่ มกนั เกีย่ วกบั กติกาการเล่นเกม
3. นกั เรยี นทกุ กลมุ่ เลน่ เกมภาษาพาสนกุ
4. ร่วมกันเฉลยหลักการแข่งขัน พร้อมให้เหตุผลในการเลือกคาและความหมาย พร้อมให้ข้อคิดในการ
นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
5. รวมคะแนน ทมี ที่ชนะ รับรางวลั
6. นกั เรยี นสนทนาเก่ยี วกบั “เกมภาษาพาสนุก” ได้แก่
- ความประทับใจ
- เทคนิคการเลือกคาและหาความหมาย
- วธิ กี ารค้นหาคาตา่ ง ๆ ในพจนานุกรม
7. สรปุ ความสาคญั ของการใช้คาที่มคี วามเกย่ี วขอ้ งกนั โดยมีความหมายต่างกนั

คู่มือการดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสยั รักการอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

25

การวัดและประเมนิ ผล
1. ตรวจผลงาน
2. สอบถามวิธเี ปิดพจนานกุ รม

ขอ้ เสนอแนะ
1. ครอู าจนาใบงานให้นักเรยี นเลน่ เปน็ หวั ขอ้ เชน่ ตอ่ คา ต่อสานวน ตอ่ คาพงั เพย ตอ่ วลี ฯลฯ
2. สามารถนาไปปรบั ใช้ในกลมุ่ สาระการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ได้
ใบงาน

ครูแจกใบงานโดยกาหนดคา 1 คา ให้นกั เรียนหาคาทมี่ คี วามหมายหรือเกี่ยวขอ้ งกับคาท่กี าหนด นามาเติมลงใน
ชอ่ งใหไ้ ดม้ ากท่สี ดุ

หมายถึง

กติกา “ เกมภาษาพาสนกุ ”
1. กาหนดคาที่จะใช้เล่นเกม 1 คา ควรเป็นคาท่ีสามารถหาคา สานวน หรือวลีอื่น ๆ ท่ีมีความสัมพันธ์และเก่ียวข้องกัน
มาตอ่ เติมได้อยา่ งกว้างขวาง และเขียนคาดงั กล่าวเปน็ คาหลักลงในใบงาน
2. เกมนี้เล่นเป็นรายบุคคลหรอื เปน็ กล่มุ ก็ได้
3. ผู้เล่นสลับกันเขียนคา สานวนหรือวลี ท่ีมีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกันกับคาหลักลงในใบงาน พร้อมเขียน
ความหมายส้ัน ๆ ประกอบ (เขียนในกรอบเลก็ ๆ) แล้วขีดเส้นเพอื่ เชื่อมโยงคาตอ่ ไปเรือ่ ย ๆ
4. เมือ่ ครบตามเวลา หรอื ไม่สามารถต่อคาไดแ้ ล้ว ใครต่อคาทีม่ คี วามหมายสัมพันธ์กันและถกู ต้องได้มากกว่าเป็นผู้ชนะ
5. เพ่ือให้ผู้เล่นสามารถค้นหาคา สานวน หรือวลีต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ควรนาหนังสือพจนานุกรมไทยมาใช้
ประกอบการเล่นเกม

คู่มือการดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการส่งเสรมิ นสิ ัยรกั การอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

26

กิจกรรมที่ 5 นทิ านเร่อื งน้ีไม่มตี อนจบ

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

แต่งนทิ านไดอ้ ย่างสร้างสรรค์
สอ่ื และอุปกรณ์

1. หนังสอื นิทานประเภทต่าง ๆ
2. หนังสอื ทเี่ กย่ี วกบั วธิ ีการหรอื แนวทางการแตง่ นิทาน
3. หอ้ งสมดุ
4. อนิ เทอรเ์ น็ต
การจดั กจิ กรรม
1. ครูเลา่ นิทานให้นักเรยี นฟัง 1 เร่อื ง
๒. ครแู ละนกั เรียนสนทนานิทานทค่ี รเู ลา่
๓. นักเรียนแตง่ นทิ านต่อจนจบโดยมีข้อแมว้ ่าต้องไมเ่ หมือนเดิมและมคี วามสร้างสรรค์
การวดั และประเมนิ ผล
1. ตรวจผลงานนทิ าน
2. ประเมนิ ความพึงพอใจในการเขียนนทิ าน
ขอ้ เสนอแนะ
1. ครูควรเลา่ นิทานทม่ี ีเนื้อหาหลากหลาย
2. ครูควรคานึงว่าการแต่งนิทานไมม่ ีถูกผิด แต่ควรแตง่ เรื่องท่แี ฝงคณุ ธรรมและมีขอ้ คดิ ทีส่ มเหตผุ ล
3. ครูควรจดั กจิ กรรมใหน้ กั เรยี นฝึกแตง่ นิทานอย่างต่อเน่ือง เป็นการพัฒนาทกั ษะการเขยี นสรา้ งสรรค์

คมู่ อื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นิสยั รกั การอา่ นและการพัฒนาห้องสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

27

นทิ านเรื่องนี้ไม่มีตอนจบ
เร่ือง หงส์ขาวผกู้ ลบั ใจ

กาลคร้ังหน่ึงนานมาแล้ว ณ บึงวิหควารีในป่าลึก มีหงส์ขาวอยู่ฝูงหน่ึง ได้พักอาศัยและหากินอยู่ในบึงอย่าง
มีความสุขและปลอดภัย หงสข์ าวฝงู นี้มีข้อตกลงกันว่า จะผลัดเปลีย่ นกันมาอย่เู วรยามวนั ละ 1 ตัว เพือ่ เฝา้ ระวงั สตั วร์ ้ายหรือ
มนุษย์ท่ีอาจเข้ามาทาร้ายพวกตนได้ วันน้ีเป็นหน้าที่ของ “เด่น” หงส์หนุ่มที่มีรูปร่างงดงาม สมส่วนและมีขนสีขาวนวล
ตลอดทั้งตัว เด่น มักหย่ิงทรนงในความงดงามของตนเอง เน่ืองจากใคร ๆ ก็พาช่ืนชมในความงามของ เด่น จน เด่น คิดว่า
ตนเองเปน็ หงสข์ าวท่ีงดงาม หลอ่ เหลาท่สี ุดในบึงวิหควารี

ขณะที่ เด่น ควรจะต้องว่ายน้าอยู่เวรเพ่ือเฝ้าระวังความปลอดภัย แต่ เด่น เผอเรอไม่รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่เวรยาม
เด่น เอาแต่ว่ายนา้ วนไปเวยี นมา เพ่ือจบี หงส์สาวสวยในฝูงอยา่ งมีความสขุ โดยหลงลมื หน้าท่ีของตนเอง ทันใดน้ันเสยี งปนื
กด็ งั ขน้ึ หงสต์ วั หนึ่งถูกยิงตายอยรู่ มิ บงึ หงสท์ งั้ ฝูงตกใจพากนั บินหนีข้ึนไปหมด รวมทงั้ เดน่ ดว้ ยเสยี งปนื ดังข้นึ อกี 1 นดั
เด่น รู้สึกเจ็บที่ใบหน้า และมีเลือดไหลออกมาเต็ม ลูกปืนถากหน้าของ เด่น ไป ทาให้ใบหน้าของ เด่น เกิดแผลยาวและ
ลึกจนหน้าเกลียด หงส์ท้ังฝูงพากันตาหนิ เด่น ท่ีไม่ทาหน้าท่ีเวรยามท่ีตนไดร้ บั ผดิ ชอบ ทาให้เพื่อนถูกยงิ ตายและตัวเอง
ไดร้ บั บาดเจ็บ เด่น เสยี ใจมากและตง้ั ใจว่าตอ่ ไปน้ีจะรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ขี องตนใหด้ ีท่สี ุด

ผ่านไปหลายวัน ครบรอบเวรของ เด่น อีกคร้ัง แต่คราวนี้ เด่น คอยว่ายน้าระวังภัยอย่างต้ังใจ เด่น ว่ายน้าไปรอบ ๆ บึง
อย่างช้า ๆ สายตาก็สอดส่ายตามองรอบ ๆ บึง อย่างระมัดระวัง เด่น มองเห็นอะไรบางอย่างเคล่ือนไหวช้า ๆ อยู่ตรงกอหญ้า
รมิ บึง เดน่ ตกใจมาก ท้งั ๆ ท่แี สนกลัวแต่ เด่น กฝ็ ืนใจวา่ ยนา้ เข้าไปดูใกล้ ๆ สิ่งที่ เด่น เหน็ คอื นายพรานใจรา้ ยทแ่ี อบซุ่ม
อยู่ในกอหญ้า ในมือของนายพรานมีปืนอยู่ด้วย เด่น กลัวนายพราน มาก เพราะเคยถูกนายพรานยิงมาแล้ว (โปรดพลิก
หนา้ หลังแลว้ ต่อเนือ้ เรอื่ งให้จบ)………...........................................................................................................

นักเรียนๆ คิดว่านิทานเรื่องนี้จะจบอย่างไร โปรดเขียนตอนจบส่งที่ห้องสมุด หากตอนจบของใครต่ืนเต้น
สนกุ สนาน เร้าใจ แฝงคณุ ธรรม จะมีของรางวัลแจกจานวน 10 ชิ้น หรืออาจมากกวา่ นน้ั ถา้ ถูกใจกรรมการ
หมายเหตุ : 1. ใหน้ ักเรยี นแต่งนิทานเพม่ิ ไม่เกิน 5 บรรทดั

2. นทิ านเรือ่ งหงส์ขาวผู้กลบั ใจ คัดลอกมาจากวิทยาลยั การอาชพี เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลาปาง

ชอ่ื ........................................................เลขที.่ ..............ชน้ั ................

นทิ านเรอ่ื งหงส์ขาวผู้กลบั ใจ
เน้ือเรื่องต่อไป…………….……………………………………………………………...............…………….......................................
................................................................................................................................................................................................
นิทานเรือ่ งน้สี อนใหร้ ู้ว่า.........................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................
นทิ านเรอ่ื งน้สี อดแทรกคณุ ธรรมอะไร...................................................................................................................

................................................... .................................................................................................... .................
.................................................................................................................................................... ....................
........................................................................................................................................................................

คมู่ ือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการสง่ เสริมนิสยั รกั การอ่านและการพัฒนาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

28

นิทานเร่อื งนไี้ ม่มตี อนจบ

เรอื่ ง ง่ายนิดเดยี ว

กาลคร้ังหนึ่งนานมาแล้วมีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวนี้มีลูกฝาแฝดถึงสามคน แฝดคนโตชื่อ เล็ก
เพราะตัวเล็ก แฝดคนรองช่ือ กลาง เพราะตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ แฝดคนสุดท้องชื่อ ใหญ่ เพราะตัวใหญ่ท่ีสุด ปกติฝาแฝด
ทั่วไปมักชอบอะไร ๆ เหมอื นกัน แตส่ ่งิ ท่ีฝาแฝดทง้ั สามคนนี้ชอบ กลับไม่เหมือนกันเลย ยง่ิ ไปกว่าน้นั สิ่งทแ่ี ต่ละคนชอบยัง
เป็นส่ิงท่อี ีกสองฝ่ายไม่ชอบเลยแม้แตน่ ดิ เดียว

พ่ีเล็ก แฝดคนโตชอบความเงียบสงบ เรียบร้อย ไม่ชอบสัตว์หรือเล้ียงสัตว์ เพราะส่งเสียงดังและทาเลอะเทอะ
แตแ่ ฝดกลางชอบเลี้ยงสตั ว์ แตไ่ ม่ชอบปลกู ต้นไม้ โดยเฉพาะตน้ ไมใ้ หญ่ ๆ เพราะเกยี จคร้านท่จี ะดูแล เนือ่ งจากสัตว์เลี้ยง
อย่างเดียวก็เหนอ่ื ยแล้ว ส่วนน้องใหญ่ชอบธรรมชาติ ชอบปลูกต้นไม้แต่ไม่ชอบสตั ว์เลี้ยง ทั้งยังไม่ชอบความเงียบเชน่ กนั
เพราะรสู้ ึกว่าไม่มีชวี ิตชีวา

ปัญหาคงไม่เกิด ถ้าวันหนึ่งพ่อและแม่ไม่เห็นว่าลูกทั้งสามโตพอที่จะไปปลูกบ้านอยู่กันเองได้แล้ว และปัญหา
อกี อย่างก็จะไม่เกดิ ถา้ พ่อและแมม่ เี งินพอที่จะแบ่งใหท้ ้ังสามคนไปปลูกบา้ นคนละหลงั

ดังน้ันฝาแฝดท้งั สามคนเลยตอ้ งสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน เมื่อเปน็ เช่นนั้นแต่ละคนกเ็ ร่มิ ตั้งข้อแม้ของตวั เอง โดยเร่มิ ท่ี
พ่เี ล็กกอ่ น “อยู่กบั ฉนั หา้ มเลี้ยงสตั วน์ ะ เพราะบ้านเลอะเทอะ แถมสัตวย์ ังเสียงดังอีก ฉนั ไม่ชอบ” ไม่ได้นะ ฉันชอบสัตว์
อยากมีสัตว์เล้ียง นายก็รู้นี่ ต้นไม้สิไม่ต้องปลูกหรอก ดูแลลาบาก โตก็ช้าไม่เหมือนสัตว์ โตเร็วดี ฉันชอบ” แฝดคนกลาง
เริม่ ต้งั ขอ้ แมบ้ ้าง

ส่วนน้องใหญท่ ชี่ อบต้นไมก้ ็ไมย่ อมจงึ แย้งวา่ “อย่างนก้ี แ็ ยส่ ิ ถา้ ไมม่ ตี น้ ไมบ้ า้ นก็ร้อนแย่ ไม่สดชืน่ ฉนั ว่าสตั ว์เล้ยี ง
ไม่ตอ้ งมีหรอก เดีย๋ วมันทาต้นไม้ฉนั เสียหายเปล่า ๆ” แต่ถ้าไมม่ สี ัตว์ฉนั กไ็ มร่ วู้ า่ บา้ นเราจะเงียบเกินไปหรือเปล่า แต่อยา่ งไร
ฉนั กช็ อบต้นไม้มากกว่าสตั วอ์ ยดู่ ี เพราะฉะน้ันไม่ต้องมหี รอกสตั วเ์ ลย้ี งน่ะ

ฝาแฝดท้ังสามคนเถียงกัน ทะเลาะกันด้วยเร่ืองนี้ ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่าย ๆ ตกลงกันไม่ได้ไม่รู้จะทาอย่างไร
จะไปปลกู บ้านแยกกนั อยกู่ ็ไม่มเี งิน นงั่ คดิ นอนคดิ อยหู่ ลายคนื

ทั้งสามคนก็นกึ ขึ้นมาได้ว่าควรนาเรอื่ งน้ีไปปรกึ ษาผรู้ ู้ คอื นักเรยี นโรงเรียน...ดกี ว่าเพราะนักเรยี นโรงเรยี นน้เี ขามี
ความสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะเร่ืองการแก้ไขปัญหา ว่าแล้วทั้งสามคนก็เดินทางไปท่ี โรงเรียน... ไปถาม
..............................................................................................................................................................................................

นักเรียนอ่านเร่ืองน้ีเสร็จแล้ว ช่วยแก้ไขปัญหาให้แฝดท้ังสามคนด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องแก้ไขปัญหาอย่างสุขุม
รอบคอบไมก่ ระทบความรู้สกึ ของทง้ั สามคนทีม่ ีความชอบ และไม่ชอบต่างกนั จะได้ทาให้ครอบครวั นี้อยู่กนั อย่างมคี วามสขุ ตลอดไป
ครเู ช่ือว่านกั เรยี นโรงเรยี น... ทกุ คน สามารถแก้ไขปญั หานี้ได้อย่างแน่นอน....อย่าลมื สง่ คาตอบโดยเรว็ ท่หี ้องสมุด
หมายเหตุ : 1. ให้นักเรยี นแตง่ นิทานเพ่มิ ไมเ่ กนิ 5 บรรทัด

2. นิทานเร่อื งนี้คดั ลอกมากจากวารสารเผยแพร่ของ บริษทั ปูนซีเมนตไ์ ทย จากัด (โปรดพลิกหนา้ หลงั แลว้
ต่อเนอื้ เร่ืองใหจ้ บ)

ชอื่ ...........................................เลขที.่ ..............ชั้น...............

นทิ านเรื่องงา่ ยนิดเดยี ว

เนือ้ เร่อื งตอ่ ไป…………….………………………………………………………………………...............….......................................
................................................................................................................................................................................................

นทิ านเร่อื งน้สี อนให้รู้วา่ .........................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................

นิทานเรือ่ งนี้สอดแทรกคุณธรรมอะไร...................................................................................................................

............................................................................................................................. ...........................................

................................................................................................................................................................................................

คู่มือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนิสยั รักการอ่านและการพัฒนาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

29

กจิ กรรมหลกั ระดบั โรงเรยี น

“สนุกอา่ น สาราญเขยี น”

กิจกรรมที่ 1 ยอดนกั อ่าน

เวลาตามทโี่ รงเรยี นกาหนด
วตั ถปุ ระสงค์

1. เพือ่ ส่งเสริมใหน้ กั เรียนอ่านหนังสืออย่างตอ่ เนื่องสม่าเสมอ
๒. เพื่อคดั เลือกนักเรียนทม่ี ผี ลงานการอา่ น
สอ่ื และอุปกรณ์
๑. หนงั สอื หลากหลายประเภทท่ีมีบรกิ ารในห้องสมดุ ของโรงเรยี น เว้นหนังสือเรียนและหนังสอื แบบเรียน
๒. แบบบันทกึ การอา่ นของ สพฐ.
การจดั กจิ กรรม
1. ประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักเรียนทุกคนเข้าร่วมกิจกรรม “ยอดนักอ่าน” โดยกาหนดเกณฑ์เง่ือนไข
การคัดเลอื กให้นักเรียนทุกคนทราบ
2. นักเรียนเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจแล้วจดบันทึกการอ่าน จากน้ันส่งผลงานเข้าร่วมการคัดเลือก
ตามกาหนดเวลา
3. ประกาศรายชื่อยอดนักอา่ นพรอ้ มมอบรางวลั ที่ระลึกและเกียรตบิ ตั ร
การวัดและประเมนิ ผล
๑. สงั เกตความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรยี น
๒. ตรวจบันทกึ การอ่านของนักเรียน
ขอ้ เสนอแนะ
1. ควรสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มระหว่างครบู รรณารกั ษ์และครผู ูส้ อนพร้อมจัดกจิ กรรมในรูปของทีมงาน
2. การคัดเลอื กควรแบ่งรางวัลยอ่ ย ๆ เพอ่ื กระจายยอดนักอา่ นให้ครอบคลุมนักเรยี นทุกระดบั ชนั้

กจิ กรรมท่ี 2 ยวุ บรรณารักษ์

เวลาตามท่ีโรงเรยี นกาหนด
วตั ถุประสงค์

1. เพื่อสง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นมีจิตอาสาในการทาหนา้ ท่บี รรณารกั ษ์หอ้ งสมุดของโรงเรียน
2. เพือ่ ใหน้ กั เรียนรว่ มจดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านของโรงเรียน
สอ่ื และอุปกรณ์
1. งานบรกิ ารของห้องสมดุ โรงเรียน
2. หนังสอื สือ่ และกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน

คมู่ อื การดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสยั รักการอา่ นและการพฒั นาหอ้ งสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

30

การจดั กจิ กรรม
1. ครูบรรณารักษ์หรือครูผู้รับผิดชอบกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนนักเรียน

เป็นยุวบรรณารักษข์ องหอ้ งสมุดโรงเรียน
2. ฝึกอบรมและชีแ้ นะการปฏิบัติงานบริการในห้องสมุดให้แกย่ วุ บรรณารกั ษ์
๓. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นมีประสบการณ์เปน็ ผ้นู าการทากจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นของโรงเรยี น
๔. ยุวบรรณารักษ์นาประสบการณ์การให้บริการในห้องสมุดโรงเรียนหรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน

มาแลกเปล่ียนเรยี นรเู้ พื่อปรับปรงุ การทางานให้มีประสทิ ธิภาพ
การวดั และประเมินผล

1. สังเกตพฤติกรรมและความสมั พนั ธข์ องยวุ บรรณารักษ์ที่มตี ่อผู้รบั บริการ
2. สารวจความพงึ พอใจในการให้บรกิ ารการจัดกิจกรรมของยวุ บรรณารักษ์
ขอ้ เสนอแนะ
1. การสรรหายวุ บรรณารักษ์ควรมนี กั เรยี นหลายระดบั ชน้ั คละกัน
2. การพัฒนาทักษะความสามารถของยุวบรรณารักษ์ควรได้รับการสนับสนุนจากครูและผู้บริหาร
โรงเรียนร่วมกัน

กิจกรรมท่ี 3 สัปดาหห์ อ้ งสมดุ /สปั ดาหร์ ักการอ่าน

เวลาตามท่โี รงเรยี นกาหนด
วัตถปุ ระสงค์

1. เพ่อื ส่งเสริมใหน้ ักเรียนเห็นความสาคัญของการอ่าน
2. เพื่อส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นเข้าร่วมกิจกรรมการอ่านอยา่ งหลากหลายตามความถนดั และความสนใจ
สื่อและอุปกรณ์
1. เกมการประกวด การแขง่ ขนั กจิ กรรมทตี่ อ้ งใช้หนังสอื หรอื สอ่ื การอา่ นต่าง ๆ
2. หนงั สือ
การจดั กิจกรรม
1. แต่งต้งั คณะทางานในการจัดกจิ กรรมสัปดาห์ห้องสมุด โดยการมีสว่ นร่วมของผู้บริหาร ครู ผปู้ กครอง
ยวุ บรรณารกั ษ์และครผู ูร้ ับผิดชอบห้องสมุดโรงเรียนหรือครสู ่งเสริมนสิ ัยรักการอ่าน วางแผนการ จัดกิจกรรมที่
กระต้นุ ใหเ้ กิดการใชป้ ระโยชน์จากหนังสอื ของหอ้ งสมุดโรงเรียนอยา่ งหลากหลาย
2. ประชาสมั พนั ธ์ให้นักเรียนเขา้ ร่วมงาน
3. จัดกิจกรรมโดยกระจายไปตามสถานท่ีต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น การเล่านิทาน การตอบคาถามจาก
สารานุกรมไทย แข่งขันการเปิดพจนานุกรม การประกวดอ่านร้อยแก้ว ประกวดอ่านร้อยกรอง ประกวดอ่านข่าว
ประกวดอ่านบทละคร แขง่ ขนั ตอบคาถามจากสาขาวิชาต่าง ๆ เช่น ปัญหาวิทยาศาสตร์ แขง่ ขนั คิดเลขเร็ว การเลน่ เกม
ตอ่ คาศัพท์ เกมทายปัญหาเชาว์ เกมเตมิ คาศัพท์ เวทีคนเกง่ หอ้ งแนะนาหนงั สอื เปน็ ตน้
4. มอบรางวลั ทรี่ ะลึกให้แกผ่ ู้รว่ มงานและร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ
การวดั และประเมินผล
1. สารวจความพงึ พอใจในการเขา้ รว่ มงานและเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนักเรียน ครู ผปู้ กครอง
2. สังเกตพฤติกรรมของผูเ้ ขา้ ร่วมงานและร่วมกจิ กรรม
๓. ตรวจสอบสถติ ิการใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมุดโรงเรียน

คูม่ ือการดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนิสยั รักการอา่ นและการพัฒนาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

31

ขอ้ เสนอแนะ
๑. คณะทางานจากผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายสามารถแสวงหาเครือข่าย และพันธมิตรสนับสนนุ การจัดกิจกรรม

ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั เวลาในการดาเนินงาน
๒. โรงเรียนควรจัดกจิ กรรมน้อี ย่างน้อยปีละ ๑ คร้ัง

กจิ กรรมท่ี ๔ ค่ายรักการอ่าน

เวลาตามทีโ่ รงเรียนกาหนด
วตั ถุประสงค์

1. เพ่ือสง่ เสริมใหน้ กั เรยี นเข้าร่วมกิจกรรมการอ่านอยา่ งมีความสขุ
2. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นใช้ทักษะทางภาษา
สือ่ และอุปกรณ์
1. หนังสอื และเอกสารประกอบการจัดกจิ กรรม
2. ส่ือและอปุ กรณ์ประกอบการจัดกจิ กรรม
การจดั กจิ กรรม
1. แต่งตั้งคณะกรรมการจัดค่ายรักการอ่านโดยการมีสว่ นร่วมของผ้บู ริหาร คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน
และครผู ูร้ บั ผดิ ชอบงานหอ้ งสมดุ โรงเรียนหรอื ครสู ่งเสรมิ นสิ ัยรักการอ่าน
2. กาหนดเวลา สถานท่ี เน้ือหาสาระ และคุณสมบตั ิของนักเรยี นทจ่ี ะเขา้ รว่ มกิจกรรม
๓. ประชาสมั พันธ์และช้ีแจงกตกิ าการเข้าร่วมกิจกรรมใหน้ ักเรียน
๔. จดั เตรยี มและซกั ซ้อมความพรอ้ มของฐานการเรยี นรู้ในค่าย
๕. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั ดาเนินกิจกรรมค่ายตามกติกาท่กี าหนด
๖. สรปุ และประเมนิ ผลการเข้าคา่ ยรกั การอ่าน
การวดั และประเมินผล
1. สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2. สังเกตการมีสว่ นรว่ มของผู้เก่ียวข้องในการดาเนนิ กจิ กรรมคา่ ย
๓. ประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรยี นทเี่ ข้ารว่ มกจิ กรรม
๔. ตรวจผลงานหรอื ทักษะการปฏิบตั ิงานของนักเรยี น
ขอ้ เสนอแนะ
1. การคัดเลอื กนักเรียนเขา้ ร่วมกิจกรรม ควรให้นกั เรยี นมวี ัยใกล้เคียงกัน
2. การออกแบบกจิ กรรมการเรียนรใู้ นแต่ละฐานควรหลากหลายตอบสนองความต้องการของนักเรียน
๓. ครแู ละผู้ปกครองควรรว่ มวางแผนและสะท้อนผลการดาเนนิ งานรว่ มกนั

กิจกรรมที่ ๕ หนังสอื ทามือ

เวลาตามท่ีโรงเรียนกาหนด

วัตถปุ ระสงค์
1. เพอื่ สง่ เสริมให้นักเรยี นผลิตหนงั สือทามือ
2. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนทางานดว้ ยกระบวนการกลุม่

คมู่ ือการดาเนินงานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนสิ ัยรักการอ่านและการพัฒนาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

32

ส่อื และอุปกรณ์
1. กระดาษ สี ดินสอ
2. วัสดอุ ื่น ๆ สาหรับการจดั ทาหนงั สอื

การจดั กิจกรรม
1. ประชาสมั พันธ์เชญิ ชวนนกั เรียนทีส่ นใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการทาหนงั สือทามือ
2. เชญิ วิทยากรหรอื ผู้มปี ระสบการณ์มาฝึกอบรมพัฒนาความรู้ ความเขา้ ใจ ขัน้ ตอนวธิ ีการในการจัดทาหนงั สือ
3. นักเรียนวางแผนและลงมือผลิตหนังสอื ทามือ
4. นกั เรียนนาเสนอผลงานและแลกเปลีย่ นเรยี นร้รู ะหว่างกัน

การวดั และประเมินผล
1. สงั เกตการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรยี น
2. สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม
๓. ตรวจผลงานของนกั เรียน

ข้อเสนอแนะ
๑. หนังสือทามอื อาจทาเป็นกลุ่มหรือบุคคล
๒. ครแู ละนักเรยี นควรกาหนดประเดน็ สาหรับจดั ทาหนังสอื ทามือ

กจิ กรรมเสนอแนะ

“อ่าน เพยี ร เขียน สนุกทกุ กจิ กรรม”

กจิ กรรมเสนอแนะ : พอี่ ่านใหน้ ้องฟัง

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

1. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นฝึกฟงั และอ่านหนังสอื ดว้ ยกนั
2. เพอ่ื ช่วยสรา้ งความสัมพนั ธ์ระหว่างเพอ่ื น พ่ี นอ้ ง ในโรงเรียน
3. ฝกึ ทักษะการเลือกหนงั สอื และการอา่ นออกเสียง
สื่อและอุปกรณ์
หนังสือในหอ้ งสมุดตามความสนใจของนักเรยี น
การจัดกจิ กรรม
1. ให้นักเรียนจับคู่ตามความชอบใจหรือครูจัดให้ แล้วแต่ความเหมาะสม เช่น อาจจะเป็น ป.6 คู่กับ ป.1
หรือ ป.2
๒. ให้นักเรียน (พี่) อ่านหนังสือให้น้อง (คู่) ฟัง เวลาเช้าหรือกลางวัน อย่างน้อยคร้ังละ 10-15 นาที
สปั ดาห์ละอย่างนอ้ ย 3 วนั (หรือทุกวัน) ตลอดปกี ารศึกษา
๓. พี่อา่ นออกเสยี งให้นอ้ งฟงั (ไม่ใช่เลา่ เรื่อง)

คมู่ อื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนิสยั รกั การอ่านและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

33

การวดั และประเมนิ ผล
๑. นกั เรยี น (น้อง) ประเมนิ นักเรียน (พ่ี) ช่นื ชม/บอก/วา่ พ่ีอา่ นให้ฟังรเู้ รอ่ื งไหม สนุกไหม อ่านทกุ วันไหม
๒. นักเรียน (น้อง) คัดเลือกนักเรียน (พ่ี) ให้อ่านออกเสียงตามสายและให้ครู+นักเรียนเป็นกรรมการให้

คะแนนตามการไดย้ นิ จากเสียงตามสายเท่านั้น (ถา้ จะให้รางวลั ให้เป็นหนังสือและเกียรติบตั ร)
ข้อเสนอแนะ

1. ครคู วรคดั เลือกและเสนอแนะหนงั สือใหน้ ักเรยี น (พ)ี่ เพ่ือความเหมาะสมกบั วัย
2. ควรสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน (พี่/คนู่ อ้ ง) หรือเร่อื งการคัดเลือกหนังสือ ความสมา่ เสมอของการอ่าน

กจิ กรรมเสนอแนะ : มาอ่านหนังสือพิมพ์กนั เถอะ

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

1. เพือ่ ใหน้ กั เรยี นเลือกอ่านข่าวหนังสอื พิมพ์ได้เหมาะสม
2. เพือ่ ใหน้ ักเรยี นสรปุ สาระสาคัญของข่าวทไ่ี ด้อ่าน
สื่อและอุปกรณ์
หนงั สือพมิ พ์
การจดั กจิ กรรม
1. ครูนาสนทนาขา่ วเหตกุ ารณใ์ นหนงั สือพมิ พแ์ ละวิธีการอ่านหนงั สอื พิมพ์
๒. อา่ นและเลา่ สรปุ สาระสาคัญของข่าว
๓. เลือกขา่ วทชี่ อบนามาเขียนสรปุ
๔. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายเกย่ี วกับการอ่านหนังสอื พมิ พเ์ ก่ยี วกบั วิธกี ารคน้ หาข่าวตา่ ง ๆ ในหนงั สือพิมพ์
และการนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั
การวดั และประเมินผล
1. ตรวจผลงาน
2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนักเรยี น
ขอ้ เสนอแนะ
1. ครูสามารถปรบั กจิ กรรมเป็น “มาอ่านนติ ยสาร-วารสารกนั เถอะ” หรือสง่ิ พิมพ์อน่ื ๆ
2. สามารถนาไปปรบั กิจกรรมให้สอดคล้องกับกลุ่มสาระต่าง ๆ

กิจกรรมเสนอแนะ : เมนเู ดด็ รกั การอ่าน

เวลาตามความเหมาะสม

วัตถุประสงค์
1. เพือ่ ให้นักเรียนสรปุ สาระสาคัญได้
2. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นบอกประโยชน์ของหนังสือท่อี ่านได้

สื่อและอุปกรณ์
1. หนงั สอื
2. อนิ เทอร์เนต็

คมู่ อื การดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการสง่ เสริมนสิ ยั รกั การอา่ นและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

34

การจดั กิจกรรม
1. ครูเสนอหนงั สือให้นักเรียนอ่านตามความสนใจ
2. ครูแนะนาประโยชนข์ องการเขียนบรรณนทิ ัศน์และยกตัวอย่างบรรณนิทัศน์
3. นกั เรียนลงมอื ปฏบิ ัติเขยี นบรรณนิทศั น์หนงั สือท่ีตนเองอ่าน

การวัดและประเมนิ ผล
ตรวจผลงาน

ขอ้ เสนอแนะ
ควรนาเสนอหนังสอื ที่เหมาะสมกบั ระดับของนักเรียน

กิจกรรมเสนอแนะ : หรรษาสารานกุ รมไทย

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

เพอ่ื ให้นกั เรียนตอบคาถามจากการอา่ นได้
ส่ือและอุปกรณ์

1. หนงั สอื สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน
2. ใบคาถาม
3. ต้นไมป้ ลอม (หรือส่ืออ่ืน ๆ ตามความเหมาะสม)
4. อินเทอร์เนต็
การจัดกจิ กรรม
1. ครทู บทวนความรเู้ ก่ยี วกบั โครงการสารานุกรมไทย และกระตุ้นชกั ชวนให้นักเรียนสนใจอา่ นสารานกุ รมไทยฯ
๒. ครูกาหนดเล่มสารานุกรมไทยฯ ให้นกั เรยี นอ่านและสรปุ เรือ่ งทอี่ ่าน
๓. นักเรียนค้นหาคาตอบจากสารานุกรมไทยฯ และตอบคาถามลงในใบงาน
๔. นกั เรียนนากระดาษคาตอบไปแขวนบนต้นไม้ความรู้
๕. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุประโยชน์จากการทากิจกรรม
การวัดและประเมินผล
ประเมินผลงานนกั เรียน
ขอ้ เสนอแนะ
ครูควรแนะนาใหน้ ักเรยี นรจู้ กั และเข้าคน้ คว้าสารานุกรมไทยฯ จากเวบ็ ไซต์ของโครงการสารานุกรมไทย

กิจกรรมเสนอแนะ : สนุกกับเพลง เวลาตามความเหมาะสม

วัตถุประสงค์
1. รอ้ งเพลงลอยกระทงภาคภาษาอังกฤษได้
2. ค้นควา้ และบอกขอ้ มลู วนั ลอยกระทงได้

คู่มอื การดาเนินงานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนสิ ยั รักการอา่ นและการพัฒนาหอ้ งสมดุ ประจาปงี บประมาณ 2561

35

สอื่ และอุปกรณ์
1. แผนภูมิเพลง
2. แผ่นซดี พี รอ้ มอุปกรณเ์ ปดิ
3. หนงั สือประวตั วิ ันลอยกระทง

การจดั กิจกรรม
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั จาลองประเพณลี อยกระทงและกจิ กรรมทนี่ ักเรียนเคยทาเกยี่ วกับประเพณี
2. นกั เรียนฟังเพลงลอยกระทงภาคภาษาองั กฤษ ชมวดิ ีทัศน์ และสนทนาร่วมกนั ดงั ต่อไปน้ี
- เนอ้ื เพลงมีความหมายเก่ยี วกบั อะไร
- มคี าศพั ทภ์ าษาอังกฤษทีเ่ ก่ยี วกับลอยกระทงคาใดบา้ ง
- นกั เรียนรว่ มกันร้องเพลงลอยกระทงพร้อมกัน
3. ครแู ละนักเรียนร่วมกันแปลคาศัพท์ ถอดความเน้ือเพลง
4. รอ้ งเพลงลอยกระทงรว่ มกัน
5. นกั เรียนอา่ นหนงั สือเกี่ยวกับประเพณลี อยกระทง
6. สรปุ และบนั ทึกเนอ้ื หาจากการอา่ น

การวัดและประเมนิ ผล
1. ประเมินการร้องเพลงภาคภาษาอังกฤษ
2. ตรวจบันทึกสรุปความ

ขอ้ เสนอแนะ
1. ครูเลือกเพลงอ่ืน ๆ ทัง้ ภาษาอังกฤษและภาษาไทยทากิจกรรม
2. ควรมีหนังสอื ทีเ่ ก่ียวข้องกับเนอ้ื หาเสริมทุกครง้ั ทีจ่ ดั กจิ กรรม

เนือ้ เพลงลอยกระทง

November full moon shine loy kratong loy kratong And the water's high in local river and the klong
loy loy kratong loy loy kratong loy kratong is here and everybody's full of cheers We're together at the Klong
each on with each krathong as we push away we pray we woul see a better day

กิจกรรมเสนอแนะ : เร่ืองแตง่ ต่อ...ขอจบตามฝนั

เวลาตามความเหมาะสม
วัตถุประสงค์

1. เพ่ือให้นกั เรยี นบอกองค์ประกอบของเรอื่ งเลา่ ได้
2. แต่งเรอ่ื งตามจินตนาการได้อย่างสรา้ งสรรค์
ส่อื และอุปกรณ์
นิทาน ตานาน หนังสือเรื่องเล่า เรอื่ งส้นั การ์ตูน ฯลฯ
การจัดกิจกรรม
1. ครเู ล่าเรอ่ื งทม่ี ีตอนจบแตกตา่ งกันไป
2. ครูและนักเรยี นช่วยกันบอกองคป์ ระกอบของเรือ่ ง ได้แก่ ตวั ละคร เหตกุ ารณ์ ฉาก ฯลฯ ของเรื่อง

คูม่ อื การดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการสง่ เสรมิ นสิ ยั รักการอ่านและการพัฒนาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

36

3. ครูนาสนทนากับนักเรียนว่า ถ้าเราต้องการเปล่ียนตอนจบของเรื่องนั้น นักเรียนจะเปลี่ยนตอนจบ
ให้เปน็ อยา่ งไร

4. นกั เรยี นแตง่ นิทานต่อจนจบเรอ่ื ง ตามจนิ ตนาการอย่างสร้างสรรค์
5. นกั เรยี นนาเสนอผลงานพร้อมเหตผุ ลประกอบ
6. ครูเสนอแนะเพ่มิ เติมและเนน้ การแต่งเรื่องตอนจบอยา่ งสรา้ งสรรค์
๗. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปถึงการแต่งเร่อื งตามจนิ ตนาการอยา่ งสร้างสรรค์และรวมเปน็ เลม่
การวัดและประเมนิ ผล
ประเมินผลงานเร่ืองเล่าท่สี ร้างสรรค์
ขอ้ เสนอแนะ
1. ครูทุกกลุม่ สาระการเรียนรสู้ ามารถเลอื กเร่ืองเล่าในการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
2. ควรให้อสิ ระนักเรียนแต่งตอนจบของเรื่องตามจนิ ตนาการอย่างสร้างสรรค์

กิจกรรมเสนอแนะ : อา่ นข่าวก้าวทนั โลก

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถปุ ระสงค์

1. เพอ่ื ให้นักเรยี นจาแนกกล่มุ (ประเภท) ของขา่ วได้
2. เพ่อื ใหน้ กั เรียนสนใจขา่ วและแสวงหาความรูจ้ ากข่าวได้
สอ่ื และอุปกรณ์
1. ภาพข่าวจากหนงั สอื พมิ พ์
2. ใบงานวเิ คราะห์ขา่ ว
การจดั กจิ กรรม
1. ครูสนทนากับนักเรียนประเภทขา่ วกับชวี ิตประจาวนั พร้อมแจกภาพข่าวที่อยู่ในหนังสอื พิมพ์ (ภาพที่
ไม่มีตวั อกั ษร)
2. แบ่งนักเรียนกลุ่มละ 3 คน โดยใหอ้ ภิปรายเรอ่ื งข่าวกบั ชีวติ ประจาวนั
3. นกั เรยี นนาเสนอและแสดงความคิดเหน็
4. นกั เรียนจบั กลมุ่ 3 คน และให้เลือกขา่ วเพ่ือนาไปวิเคราะห์
5. ครูนาใบงานวิเคราะห์ข่าวให้ผูเ้ รียนแต่ละกลุม่
6. นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายข่าวทแี่ ต่ละกลุ่มได้รว่ มกนั วเิ คราะห์
๗. นักเรียนอภปิ รายเกีย่ วกับกจิ กรรมวเิ คราะห์ข่าวก้าวทนั โลก
การวดั และประเมินผล
ประเมนิ ความสามารถในการวิเคราะหข์ า่ ว
ข้อเสนอแนะ
ครอู าจใช้บทความท่นี ่าสนใจจากสอ่ื ความรู้อืน่ แทนขา่ วจากหนังสอื พิมพ์ได้

คู่มอื การดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสรมิ นสิ ัยรกั การอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

37

ใบงานวเิ คราะห์ขา่ ว
ขา่ วเรือ่ ง...........................................................................................

ใคร............................................... ทาอะไร..........................................
..................................................... ......................................................
..................................................... ......................................................
.....................................................
.....................................................

ทไ่ี หน............................................ เมือ่ ไหร.่ .........................................

ทาอะไร......................................... ประเภทของข่าว............................

แหล่งที่มา..............................................................................................................................

กจิ กรรมเสนอแนะ : ยวุ นักอ่าน

เวลาตามความเหมาะสม
วัตถปุ ระสงค์

1. เพอื่ ให้นกั เรียนวัยเดยี วกนั กระตนุ้ การอา่ นกับเพ่ือน
2. เพื่อให้นกั เรยี นอา่ นอยา่ งมีความสุขตามความสนใจ
ส่ือและอุปกรณ์
หนังสือเหมาะสมกบั วยั
การจดั กจิ กรรม
1. ครคู ดั เลือกนักเรยี น จานวน 5-10 คน ทม่ี คี ุณสมบัติ ดังนี้

- ความสามารถด้านการอ่าน
- เปน็ ทร่ี กั ของเพ่ือน ๆ
- มีจิตอาสา
๒. ประชมุ ตกลงหน้าท่ี นอกเหนืองานในห้องสมดุ
- อา่ นหนงั สอื 1 เลม่
- สรปุ และทาบรรณนิทัศนว์ ่าเหมาะกับใคร
- ครูแนะนานักเรยี นในการเชิญชวนเพอ่ื นมาอ่านหนงั สือ
- ยุวบรรณารักษ์ 1 คน ใหห้ าเพอื่ นได้อย่างน้อย 2 คน ต่อ 1 ภาคเรียน
๓. ทา้ ยภาคเรียนให้เพ่อื นทอี่ ่านเสนอหนังสอื ในห้องสมุดและนาผลงานจดั ปา้ ยนิเทศ

คู่มือการดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนสิ ัยรักการอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

38

4. มอบใบประกาศเกยี รติคุณยกย่องเชดิ ชูเกยี รติ
การวัดและประเมนิ ผล

๑. สัมภาษณ์เพิม่ เติมนกั เรยี นที่เขา้ ร่วมกิจกรรม
๒. ตรวจผลงานการเขียนบรรณนิทัศน์
ขอ้ เสนอแนะ
1. ยุวนกั อ่านสามารถเชญิ ชวนนักเรียนไดต้ ามความสมัครใจของตนเอง
2. ครรู ว่ มเสนอแนะหนังสือได้ตามความเหมาะสม

กิจกรรมเสนอแนะ : ตลาดนดั หนังสอื มือสอง

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

๑. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นแนะนาหนังสือตามความสนใจได้
๒. เพื่อให้นกั เรยี นสรปุ สาระสาคญั จากเรื่องท่ีอา่ นได้
สื่อและอุปกรณ์
1. หนังสอื
2. สื่อนาเสนอ เช่น แผน่ พบั แผนภมู ิ
การจัดกจิ กรรม
1. จดั เวลาให้นักเรยี นทาตลาดนัดมอื สองทุกสัปดาห์ครง้ั ละประมาณ ๔๐ นาที
2. นักเรยี นนาหนงั สอื ของตนเองมาเสนอแนะนาผู้สนใจซงึ่ เปน็ นักเรียนชัน้ ตา่ ง ๆ
3. นักเรยี นยืมหนังสอื ที่ตนเองสนใจไปอ่านและเขียนสรปุ สาระสาคญั
๔. สัปดาห์ตอ่ ไปนักเรยี นเล่าเร่อื งท่ีอ่านใหเ้ พอื่ นฟงั
การวดั และประเมนิ ผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน ความสนใจในการปฏิบัตกิ จิ กรรม
2. แบบสอบถามความพึงพอใจตอ่ การเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรยี น
ขอ้ เสนอแนะ
1. ครคู วรดูแลใหน้ ักเรยี นนาเสนอหนังสือท่ีมีประโยชน์และเหมาะสมกบั วัย
2. ครูทากิจกรรมน้หี ลงั นักเรียนฝกึ เขยี นบรรณนิทัศนแ์ ลว้

กิจกรรมเสนอแนะ : เพราะรักจึงบอก

เวลาตามความเหมาะสม

วตั ถุประสงค์
1. เพอ่ื ให้นกั เรียนค้นคว้าข้อมลู ดา้ นสุขภาพได้
2. เพื่อใหน้ ักเรียนบอกวิธปี อ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพได้

สือ่ และอุปกรณ์
1. หนังสอื เกี่ยวกบั อาหารและสุขภาพ
๒. หนังสือ แผน่ พบั เกี่ยวกบั ร่างกายของมนุษย์

ค่มู ือการดาเนินงานกจิ กรรมโครงการสง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอ่านและการพฒั นาห้องสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

39

การจัดกจิ กรรม
1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั อาหารที่สง่ ผลต่อสขุ ภาพของคน
๒. นักเรียนแบ่งกลุ่มคน้ คว้าปัญหาสขุ ภาพที่เกดิ จากภาวะโภชนาการจากรายช่ือหนังสือและแหล่งเรียนรู้
๓. นักเรยี นบันทกึ ประโยชน์และโทษของอาหาร และวธิ กี ารดูแลรักษาสุขภาพท่ีเกิดจากภาวะโภชนาการ

จากการค้นคว้า
๔. นกั เรียนตัดกระดาษเปน็ รูปหวั ใจและเขยี นสรปุ สนั้ ๆ ส่งให้เพ่ือน ๑ คน

การวดั และประเมินผล
1. ตรวจบันทกึ สรปุ การค้นคว้า
2. สนทนาเพ่อื ประเมินความเขา้ ใจเนื้อหาที่ค้นควา้

ขอ้ เสนอแนะ
ครูอาจเลือกเนื้อหาให้เหมาะสมกับวัยและความสนใจของนักเรียน เช่น บันเทิงและกีฬา การแต่งกาย

การสมาคม สัตวเ์ ล้ียง ฯลฯ

กจิ กรรมเสนอแนะ : พน่ี ้องท่องอินเทอรเ์ นต็

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถปุ ระสงค์

1. เพ่ือใหน้ ักเรียนค้นคว้าข้อมูลจากส่ือออนไลน์ได้
2. เพ่ือใหน้ ักเรยี นเขียนสาระสาคญั ของเรอ่ื งได้
สอ่ื และอุปกรณ์
1. ภาพข่าวหรอื บทความ
2. อินเทอร์เนต็
3. คอมพวิ เตอร์
การจัดกิจกรรม
1. ครนู าสนทนาการค้นคว้าข้อมูลจากอนิ เทอร์เน็ต และวิเคราะห์ข้อมลู ขา่ ว เรอื่ งราว เหตุการณ์
2. ให้นกั เรยี นจับค่พู ีน่ ้อง (เช่น ม. 2 กับ ม.1) และชว่ ยกันสืบค้นข้อมลู เร่อื งทตี่ นเองสนใจจากอินเทอรเ์ น็ต
๓. สรุปสาระสาคัญของเรื่องลงในใบงานที่ครเู ตรียมให้
๔. พ่ีและนอ้ งช่วยกนั บันทึกข้อคดิ ที่ได้จากเร่ืองท่ีสืบค้นพร้อมเขียนแหล่งข้อมูล
๕. นกั เรียนนาเสนอผลงานพร้อมบอกข้อคิดท่ีได้
๖. ให้รางวลั สาหรบั ผลงานดเี ด่น โดยการให้คะแนนเร่อื งที่น่าสนใจทส่ี ดุ
การวดั และประเมินผล
1. ตรวจผลงาน
2. ประเมินผลงาน
ข้อเสนอแนะ
๑. ปรบั เน้อื หาในใบงานให้เหมาะสมกบั ผู้เรียน
๒. นานกั เรียนเข้าสู่โลกกว้างของส่ือเทคโนโลยีอนื่ เช่น เฟสบคุ๊ ไลน์ อนิ สตราแกรม เป็นตน้

คู่มือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสรมิ นสิ ัยรกั การอ่านและการพัฒนาหอ้ งสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

40

ใบงานพ่นี ้องท่องอนิ เทอรเ์ น็ต

ชื่อกจิ กรรม.......................................................................................

ช่ือพ.ี่ .........................................................................................................................ชัน้ ............................
ช่ือน้อง......................................................................................................................ชั้น............................
สรุปสาระสาคญั ของเรือ่ งราว.....................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ขอ้ คิดเพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน...........................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................

กิจกรรมเสนอแนะ : ประเพณีไทยในบทกลอน

เวลาตามความเหมาะสม
วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้นักเรียนบอกชื่อประเพณีไทยในบทประพันธไ์ ด้
2. เพือ่ ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทประพันธ์เป็นทานองเสนาะได้
สื่อและอุปกรณ์
1. ใบความรูว้ รรณคดไี ทยเรอื่ งขนุ ช้างขนุ แผน
2. อา่ นวรรณคดไี ทยเร่ืองขนุ ช้างขุนแผน
3. วิดที ศั น์ประเพณีคือชวี ติ
การจัดกจิ กรรม
1. นกั เรยี นชมวดี ิทศั น์ เรอื่ ง ประเพณคี อื ชีวิต ช้ใี ห้เห็นความสาคัญของประเพณที เี่ ก่ียวขอ้ งกบั การดาเนินชวี ติ
2. ครูนาบทกลอนเรื่องขุนช้างขุนแผนให้นักเรียนอ่าน (ดูรายละเอียดในใบกิจกรรม “ประเพณีไทยใน
บทกลอน”)
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ว่ากลอนแต่ละบทเป็นประเพณีไทยท่ีเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร
รว่ มกนั เฉลยคาตอบของแตล่ ะบทกลอนและอภิปรายเก่ียวกบั กิจกรรมประเพณีไทยในบทกลอน
การวดั และประเมนิ ผล
1. ประเมินความรู้ความเข้าใจคาประพันธจ์ ากวรรณคดีไทย
2. สามารถอธิบายประเพณตี ่าง ๆ ในบทกลอนเร่อื งขนุ ชา้ งขุนแผนได้
3. ประเมนิ ความเขา้ ใจประเพณีเก่ยี วกับการเกิด การบวช การเทศนม์ หาชาติ การแต่งงาน และประเพณี
การทาศพในแต่ละบทกลอน
ขอ้ เสนอแนะ
สามารถปรับเปล่ียนวรรณคดีให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ เช่น พระราชพิธีสิบสองเดือน สมุทรโฆษคาฉันท์ ดุษฎี
สังเวยกล่อมชา้ งของเกา่ โคลงทวาทศมาส โคลงกาสรวลศรปี ราชญ์ พระมาลยั คาหลวง เป็นต้น

ค่มู อื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนสิ ัยรกั การอ่านและการพัฒนาห้องสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

41

กิจกรรมเสนอแนะ : สมนุ ไพรใกล้บ้าน

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถปุ ระสงค์

เพอื่ ใหน้ ักเรยี นบอกชือ่ สมุนไพรทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้
สื่อและอุปกรณ์

1. หนงั สือทีเ่ กยี่ วกับสมนุ ไพร
2. ตวั อยา่ งสมุนไพรของจริง เชน่ วา่ นหางจระเข้ ขิง ดอกอัญชัน เปน็ ต้น
การจัดกิจกรรม
1. ครแู ละนักเรียนสนทนาเกี่ยวกบั พชื สมุนไพร 2-3 ชนดิ เกี่ยวกับช่อื และประโยชน์สมุนไพร

- พืชทงั้ สามชนิดนี้นกั เรียนร้จู ักช่ือหรือไม่
- นกั เรยี นทราบประโยชนข์ องพืชสมุนไพรทง้ั สามชนดิ นหี้ รือไม่
๒. นักเรียนแบ่งกลุ่มละ 5 คน โดยมีสามหัวข้อให้นักเรียนเลือกท่ีจะศึกษาค้นคว้าจากห้องสมุด และ
แหล่งทรัพยากรสารสนเทศอ่ืน ได้แก่ สมุนไพรสาหรับรักษาโรค สมุนไพรสาหรับปรุงอาหาร และสมุนไพรกับ
ความเชอ่ื ของคนไทย
๓. นกั เรยี นนาเสนอ และแสดงความคิดเห็น
4. อภปิ รายความสาคัญและประโยชน์ของพืชสมนุ ไพรที่เกีย่ วข้องกับสมุนไพรสาหรับรักษาโรค สมุนไพร
สาหรับปรงุ อาหาร และสมนุ ไพรกับความเช่ือของคนไทย รวมทัง้ ความประทับใจในพืชสมนุ ไพร
5. นาเสนอประโยชนข์ องพืชสมุนไพรที่กลุ่มสนใจในรูปแบบแผ่นปา้ ยความรู้ โดยระบุชอื่ พันธ์ุไม้ช่ือวิทยาศาสตร์
ประโยชน์ และวธิ กี ารนามาใช้
การวดั และประเมินผล
นักเรยี นบอกชือ่ และประโยชนข์ องสมุนไพรท่ีนกั เรยี นคน้ ควา้
ขอ้ เสนอแนะ
สามารถจากัดขอบเขตของเรื่องสมุนไพรได้ เช่น สมุนไพรสาหรับรักษาโรค หรือสมุนไพรสาหรับทาเป็น
อาหาร หรอื สมนุ ไพรทเี่ กี่ยวขอ้ งกับความเชือ่ ของคนไทย อาจจะทาทัง้ สามหัวข้อหรอื เร่ืองใดเร่อื งหนง่ึ ก็ได้

กิจกรรมเสนอแนะ : รูต้ น รูห้ น้าท.่ี ..คนดีของสงั คม

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถปุ ระสงค์

1. เพื่อใหน้ ักเรยี นบอกสิทธิและหนา้ ท่ขี องตนเองในฐานะพลเมอื งไทย
2. เพื่อให้นกั เรียนปฏบิ ัติตามระเบียบข้อตกลง
สอื่ และอุปกรณ์
1. หนงั สือพมิ พ์
2. หนังสือ เอกสาร สื่อทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สิทธิ หน้าที่ ความเป็นพลเมืองไทย
การจัดกจิ กรรม
1. นาข่าวจากหนังสือพิมพ์เรื่อง “ปลดล็อกคนไทยไร้สัญชาติ 4 แสนคน” “สิทธิมนุษยชนข้ันพ้ืนฐาน
ทางานไดท้ ุกอาชีพ” และ “สนทนาเร่อื งสิทธิมนษุ ยชน การรักษาสทิ ธปิ ระโยชนข์ องตนเอง”

คมู่ อื การดาเนนิ งานกิจกรรมโครงการสง่ เสริมนสิ ัยรักการอา่ นและการพฒั นาห้องสมดุ ประจาปีงบประมาณ 2561

42

2. อภิปรายจากการใหน้ ักเรียนสารวจตนเองทีละคน ในดา้ น “รตู้ น รู้หน้าท่ี เป็นคนดขี องสังคม” ทลี ะคน
3. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ผลจากการสารวจ
4. นกั เรยี นจับกลุม่ 2 คน และทารายงาน โดยเลือกหัวขอ้ “รู้ตน ร้หู นา้ ท่ี เปน็ คนดีของสงั คม”
5. นาเสนอรายงานทแ่ี ตล่ ะกลมุ่ ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้
6. สรปุ ผลการนาเสนอหัวขอ้ “รตู้ น ร้หู น้าท่ี เปน็ คนดขี องสงั คม”
๗. นักเรยี นอภิปรายหัวข้อ “รู้ตน รูห้ นา้ ที่ เปน็ คนดีของสงั คม” ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดขี องสงั คม
การวดั และประเมนิ ผล
ตรวจรายงานของนักเรียน
ขอ้ เสนอแนะ
สามารถจากดั ขอบเขตเน้ือหาความเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม เชน่ หนา้ ท่ี เปน็ คนดีของโรงเรียนในชุมชน

กิจกรรมเสนอแนะ : รายงานเลม่ นฉ้ี นั มาจากไหน

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

1. เพอ่ื ให้นกั เรยี นเขียนบรรณานกุ รมรูปแบบต่าง ๆ ได้
2. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นอา้ งองิ แหล่งขอ้ มูลในงานเขียนได้
สือ่ และอุปกรณ์
1. เวบ็ ไซต์การเขยี นบรรณานุกรม
2. หนังสอื ฝกึ การเขียนบรรณานกุ รม
การจัดกจิ กรรม
1. ครูสนทนาให้นักเรียนรู้จักการเขียนบรรณานุกรมหรือการเขียนอ้างอิง และความสาคัญของ
การเขียนบรรณานกุ รม
2. ครูสาธิตการใช้งานเว็บไซต์ www.citationmachine.net การเขียนบรรณานุกรมตามรูปแบบของ
APA Style โดยสาธติ ทัง้ 3 รูปแบบ
3. ครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนบรรณานุกรมตามรูปแบบของ APA Style จานวนหนังสือ 3 เล่ม โดยให้
นาหนงั สือมาจากห้องสมุดมาใช้ในการเขียนบรรณานกุ รม
4. ครูมอบหมายให้นักเรยี นเขียนบรรณานุกรม ตามรูปแบบของ APA Style จานวนบทความในวารสาร
3 ชอื่ เร่อื ง โดยใหน้ าหนงั สอื มาจากหอ้ งสมุดมาใชใ้ นการเขียนบรรณานุกรม
5. ครมู อบหมายภาระงานใหน้ กั เรียนเขียนบรรณานุกรมตามรปู แบบของ APA Style เวบ็ ไซต์ จานวน 3
เว็บไซต์ โดยการเขียนบรรณานุกรมท้ัง 3 ประเภท จะต้องใช้เว็บไซต์ www.citationmachine.net ในการ
จดั ทาบรรณานกุ รรม ตามรปู แบบของ APA Style
6. ครูสนทนากบั นักเรยี นถึงประสบการณท์ ่ไี ด้รบั จากการเขยี นบรรณานกุ รม

- นกั เรียนมีความร้สู กึ อยา่ งไรในการใชง้ านเวบ็ ไซต์ www.citationmachine.net
- นักเรียนคิดว่าสามารถนาเว็บไซต์ www.citationmachine.net มาใช้ในการเขียนบรรณานุกรม
รายงาน โครงงานได้หรอื ไม่ อยา่ งไร

คมู่ ือการดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการสง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปีงบประมาณ 2561

43

7. นักเรยี นทดลองจัดทาบรรณานกุ รมจากแหล่งข้อมลู ต่อไปน้ี
- หนังสือ 3 เล่ม
- บทความในวารสาร 3 ช่อื เร่ือง
- เว็บไซต์ 3 เว็บไซต์

การวดั และประเมนิ ผล
ตรวจแบบการเขยี นบรรณานุกรม

ข้อเสนอแนะ
1. การเขียนบรรณานุกรมตามรูปแบบ ของ APA Style มีการจัดทาบรรณานุกรมหลากหลายประเภท

เช่น การเขียนอ้างอิงหนังสือ วารสาร เวบ็ ไซต์ และสิ่งพมิ พ์อืน่ ๆ
2. เหมาะกับนกั เรียนไมเ่ กนิ จานวนห้องคอมพวิ เตอรข์ องโรงเรยี นทีร่ องรับ
3. กจิ กรรมนีอ้ าจบรู ณาการกับการทารายงาน การเขยี นเลม่ รายงานโครงงาน และรายวชิ าการคน้ คว้าอสิ ระ (IS)
4. กิจกรรมน้ีอาจให้ผเู้ รียนเขียนอา้ งอิงจากหนงั สือพิมพ์ แมกกาซนี ส่ือโสตทศั น์ เป็นต้น

กิจกรรมเสนอแนะ : ตามรอยเจ้าฟา้ นักอา่ น

เวลาตามความเหมาะสม
วตั ถุประสงค์

1. เพ่ือให้นักเรียนเล่าเร่ืองราวจากหนังสือพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราช-
กุมารี ทีเ่ กย่ี วกับการเสด็จไปยงั สถานทต่ี ่าง ๆ ได้

2. เพือ่ ให้นกั เรียนเขียนสรุปจากเร่อื งท่ีอา่ นได้
สื่อและอุปกรณ์

๑. หนังสือพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เก่ียวกับการเสด็จไปยัง
สถานท่ีตา่ ง ๆ

๒. วดิ ีทัศนเ์ กย่ี วกบั สถานท/ี่ เรื่องราวในหนงั สอื พระราชนพิ นธ์
การจัดกจิ กรรม

1. ครูแนะนาหนงั สือพระราชนิพนธข์ องสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ที่เสด็จไปยัง
สถานที่ตา่ ง ๆ และนาสนทนาเกี่ยวกับหนงั สือพระราชนิพนธ์

๒. นักเรียนแบ่งกลุ่มศึกษาหนังสือพระราชนพิ นธ์
๓. นักเรียนเขยี นสรปุ เรือ่ งและบนั ทึกขอ้ คิดจากหนังสือท่ีอ่าน
การวัดและประเมินผล
๑. การนาเสนอผลงาน
๒. การตรวจผลงานนกั เรยี น
ข้อเสนอแนะ
ครูควรเสนอแนะหนงั สือพระราชนิพนธอ์ ื่น ๆ ใหน้ ักเรยี นอา่ นตามความสนใจ

ค่มู อื การดาเนินงานกิจกรรมโครงการส่งเสริมนิสยั รกั การอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

44

กจิ กรรมเสนอแนะ : เรอ่ื งเลา่ บ้านเรา

เวลาตามความเหมาะสม
วัตถุประสงค์

1. เพ่อื ให้นักเรยี นเรยี นรูป้ ระวัตคิ วามเปน็ มา และเร่ืองราวชมุ ชน
2. เพอื่ ใหน้ กั เรียนอา่ น สรปุ และเขยี นเร่ืองได้
3. เพือ่ ให้นกั เรยี นเรียนรู้การทาหนังสือเล่มเล็ก
ส่ือและอุปกรณ์
1. ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่
2. ตวั อย่างหนังสอื เล่มเล็ก
3. หนงั สือ/เอกสาร ข้อมูลของชมุ ชน
การจัดกจิ กรรม
1. นาเสนอรูปภาพประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทย ได้แก่ ภาพการเลิกทาส ภาพการเห่เรือ
ภาพบญุ สารทเดือนสิบ
2. สนทนากับนกั เรยี นถงึ ความรสู้ ึก และความภาคภมู ใิ จในชุมชน
3. นักเรียนแบ่งกลมุ่ ละ 3 คน สารวจข้อมลู ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรมในชมุ ชนของนักเรยี น จากภมู ิปัญญา
ท้องถนิ่ หรือผรู้ ู้ จากน้นั นาเสนอหน้าหอ้ ง เพื่อน ๆ ชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็
4. อภิปรายประวัติความเป็นมา เรื่องราว วัฒนธรรมในชุมชนของนักเรียนในแต่ละกลุ่มที่ไปศึกษา
คน้ คว้ามา
5. นาขอ้ มลู ประวตั ิความเป็นมา เรื่องราว วฒั นธรรมในชุมชนของนกั เรยี น นามาแตง่ เป็นร้อยกรอง หรือ
รอ้ ยแกว้ และจดั ทาเป็นหนงั สือเล่มเล็ก
6. เมอื่ ทาหนังสือเล่มเล็กครบทุกกลุ่มแลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ นาเสนองาน
การวัดและประเมนิ ผล
ตรวจผลงานของนักเรยี น
ขอ้ เสนอแนะ
สามารถปรับเปล่ยี นเนอื้ หาให้เหมาะสมไดต้ ามแต่ละท้องถ่ิน

กิจกรรมเสนอแนะ : Rally สองภาษา เวลาตามความเหมาะสม

วตั ถุประสงค์
เพ่อื ให้นักเรยี นสนทนาเป็นภาษาอังกฤษอยา่ งนอ้ ย 1 บทสนทนา

ส่ือและอุปกรณ์
1. วดิ ที ัศน์เพลง Down and Up
2. เอกสารบทสนทนา

คมู่ อื การดาเนนิ งานกจิ กรรมโครงการส่งเสริมนสิ ยั รักการอ่านและการพฒั นาหอ้ งสมุด ประจาปงี บประมาณ 2561

45


Click to View FlipBook Version