สังคมศึกษา หนงั สือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน
ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด สาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรมบรษิ ัท สรา งสรรคส ือ่ เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จํากัด
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
คณะผเู้ รียบเรยี ง บริษัท สรางสรรคส ่ือเพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จํากดั
ดร.เปีย่ มจันทร์ ดวงมณี .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
มโนธรรม ทองมหา
ดร.สชุ าดา ทองมาลัย จัดพิมพ์และจ�าหนา่ ยโดย พิมพ์คร้ังที่ ๑
คชพล เชษฐ์ชาติพรชยั
มนพัทธ์ สขี าว บริษทั สร้างสรรค์สอ่ื เพอ่ื การเรียนรู้ (สสร.) จา� กัด สงวนลิขสทิ ธ์ติ ามพระราชบัญญตั ิ
๑๕๑๘/๗ ถนนประชาราษฎร์ ๑ แขวงวงศส์ วา่ ง เขตบางซ่อื กรงุ เทพฯ ๑๐๘๐๐ ISBN 978-616-7768-68-7 ปีทีพ่ มิ พ์ ๒๕๖๓
คณะผ้ตู รวจ โทรศพั ท์ : ๐-๒๕๘๗-๗๙๗๒, ๐-๒๕๘๖-๐๙๔๘, ๐-๒๕๘๗-๙๓๒๒-๒๖ จ�านวนที่พิมพ์ ๑๐,๐๐๐ เลม่
โทรสาร : ๐-๒๐๔๔-๔๔๗๒
ผศ. ดร.อุเทน ทองทิพย์ E-mail : [email protected]
บญุ เลิศ ส่มุ ประเสรฐิ
ธนกฤต ธรรมวณชิ ย์
บรรณาธกิ าร
พชิ าติ แก้วพวง
บริษทั สร้างสรรคส์ ือ่ เพอ่ื การเรยี นรู้ (สสร.) จา� กดั
SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD.
คา� ชแี้ จงการใชส้ อ่ื การเรยี นรู้
องคป์ ระกอบตา งๆในแตล ะหนว ยการเรยี นรู้
ภาพประกอบ ชือ่ หนวยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้
หนวยการเรียนรู้ และตวั ชี้วดั
ภาพประกอบที่เชื่อมโยง
หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่
กําหนดให้สอดคล้องในแต่ละหน่วย
การเรียนรู้
บรษิ ัท สรา งสรรคส อื่ เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด สรปุ
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
สาระส�าคญั แผนผังสาระการเรยี นรู้ เปนการสรุปเน้ือหาของแต่ละหน่วยการเปลย่ี นแปลงทด่ี ขี องชมุ ชนลว้ นขนึ้ อยกู่ บั การตดั สนิ ใจรว่ มกนั
ใจความสําคัญของ เปนการกําหนดหัวข้อให้กับผู้เรียน ของสมาชกิ ในชมุ ชน ดงั นนั้ การเลอื กผนู้ า� มาเปน็ ตวั แทนของชมุ ชน เพอ่ื ทา�
เน้ือหาที่ทําให้ผู้เรียน
เข้าใจง่าย การเรยี นรู้ เพื่อให้ผูเ้ รียนไดท้ บทวนหน้าที่แทนสมาชิกจงึ ควรเลอื กตวั แทนท่ีมีความรู้ ความสามารถ มคี วาม
ซอ่ื สตั ย์ และมีความเสียสละ เหน็ ประโยชน์สว่ นรวมมาก่อนเสมอ
หนา้ นา� เขา้ สบู ทเรยี น
เพ่ือกระตนุ้ ผู้เรยี นให้เกดิ ความรู้ก่อนทํากิจกรรมและตอบความรู้เสริมการเรียน
ความสนใจก่อนการเรยี น อบต. ย่อมาจาก องคก์ ารบริหารสว่ นต�าบล เปน็ องคก์ ร
ดว้ ยคาํ ถามและภาพท่ี
น่าสนใจ คําถามปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่งในระดับต�าบล ซึ่งมีสมาชิก
ภาพประกอบเนอ้ื หา สภาองค์การบริหารส่วนต�าบล มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของ
เพอ่ื เพ่มิ ความน่าสนใจ ประชาชน จ�านวนหมู่บ้านละ 2 คน โดยมีนายกองค์การบริหาร
และกระตุน้ ให้เกดิ ส่วนต�าบล (นายก อบต.) เป็นผู้บริหาร
การเรยี นรู้ อบจ. ยอ่ มาจาก องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั เปน็ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ รปู แบบ
หนงึ่ ในระดับจังหวัด ซึง่ มสี มาชกิ สภาองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั มาจากการเลอื กตงั้ โดยตรง
ของประชาชน โดยมีนายกองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั (นายก อบจ.) เปน็ ผู้บรหิ าร สังกัดกรม
สง่ เสรมิ การปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
สรุป
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมตามกระบวนการประชาธิปไตย คอื การ
ปฏิบัติตนตามบทบาทและหน้าที่ของตนในฐานะเป็นสมาชิกในช้ันเรียน
โรงเรียน และชุมชนนั้นๆ ได้ถูกต้องและเหมาะสม รวมถึงการเข้าไป
มีส่วนร่วมในการท�ากิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงความคิดเห็นอย่างมี
เหตุผล การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ นื่ การเหน็ ประโยชนส์ ว่ นรวม
ส�าคัญกว่าประโยชน์ส่วนตน ตลอดจนการใช้สิทธิหน้าท่ีในการออกเสียง
โดยตรงและการเลือกตัวแทนออกเสียง เพ่ือให้ได้ผู้น�าหรือตัวแทนที่ดี
มาทา� หนา้ ทดี่ แู ลทกุ ขส์ ขุ ของสมาชกิ ในชนั้ เรยี น โรงเรยี น และชมุ ชน ใหเ้ กดิ
การพัฒนาและเกดิ ความสงบสุข
9966 สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓
ปจั จัยใดจำ� เป็นท่ีสดุ กิจกรรมการเรยี นรู้เชงิ รุก
ในกำรดำ� รงชีวิตของมนษุ ย์
เปนกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียน
มีบทบาท มีส่วนริเริ่ม และดําเนิน
๑ การใชส้ นิ คา้ และบรกิ ารในการด�ารงชวี ติ การเรียนรู้ ทําให้ผู้เรียนได้ความรู้
และพัฒนาความสามารถจากเอพย่ือ่าจงตะกไ่อดาเนว้รใา่ือชงง้สแไนิผมนค่จา้ก�าแกาลรัดใะหชบรจ้ รือ่ากิ สยา้ินทรสีถ่ในุดกู กตาเ้อรรงาดแคา�ลวระรงเรชหู้หวี มติลาขักะอกสงามมรซน้ือษุ สยินเ์ .บปSครน็R้าิษAแสัทNลง่ิ ทGะสบSเ่ี กAรริดNาิกขงSาึน้สUรEรPรHคUสA่อื KเพAR่ือNกRาIรAเNรRยี UนUรู
(สสร.) จาํ กัด สรุป
(SSR.) CO.,LTD
๑.๑ ความหมายของสินคา้ และบรกิ าร ประสบการณ์ตรงสงิ่ แวดลอ มประกอบดว ยสงิ่ แวดลอ มทางธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ มทม่ี นษุ ย
สรางขนึ้ ซึ่งมกี ารเปลย่ี นแปลงทั้งทางธรรมชาตแิ ละการกระทาํ ของมนษุ ย
สินค้าและบริการ คือ ส่ิงท่ีใช้ตอบสนองความต้องการและ การเพ่ิมขึ้นของประชากร การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และความกาวหนา
ความจา� เปน็ ของคนเรา รวมถงึ การใหค้ วามสะดวกสบายตา่ งๆ แกผ่ บู้ รโิ ภค ทางเทคโนโลยี และการขาดความตระหนกั รใู นการรกั ษาสง่ิ แวดลอ ม สง ผลใหเ กดิ
มลพษิ แกส ง่ิ แวดลอ ม เชน มลพษิ จากฝนุ ควนั มลพษิ ทางนา้ํ มลพษิ ทางดนิ มลพษิ
สนิ คา้ คอื สงิ่ ของทซี่ อื้ ขายกนั เชน่ อาหาร ผกั ผลไม้ เสอ้ื ผา้ ของเลน่ ทางเสียง และมลพิษทางอาหาร
โดยมเี งนิ เปน็ สอื่ กลางใชใ้ นการแลกเปลยี่ น ซงึ่ แตกตา่ งจากอดตี ทใี่ ชส้ ง่ิ ของ การจัดการส่ิงแวดลอมในชุมชน ทุกคนสามารถมีสวนรวมไดดวยการ
แลกเปลี่ยนส่งิ ของ เชน่ นา� ข้าวมาเเลกไข่ เขา รว มกจิ กรรมใหค วามรใู นโอกาสตา งๆ การชว ยกนั ดแู ลและจดั การสงิ่ แวดลอ ม
ภายในชุมชนถอื เปน การจดั การปญ หาทม่ี ีประสทิ ธภิ าพและมีความยัง่ ยนื
u ขา้ วคอื สนิ คา้ ท่ีจ�าเปน็ ต่อการดา� รงชวี ิต u สนิ คา้ จากร้านสะดวกซอื้ กิจกรรมการเรียนรเู ชงิ รุก
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓ 99 ๑. ใหนักเรียนสํารวจสิ่งแวดลอมในชุมชนท้ังส่ิงแวดลอมทางธรรมชาติ
และสิ่งแวดลอมท่ีมนุษยสรางข้ึน จากนั้นเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง
ส่ิงแวดลอมในอดีตกับปจจุบัน โดยอาจสอบถามขอมูลเพ่ิมเติมจาก
ผปู กครองหรือคนในชมุ ชน
๒. ใหนักเรียนแบงกลุมตามความเหมาะสม รวมกันอธิบายสาเหตุท่ีทําให
เกดิ มลพิษโดยมนุษย จากน้นั สรปุ สาเหตุดงั กลาวเปน แผนผังความคิด
๓. นักเรียนแบงกลุม ๕ - ๖ คน หรือตามความเหมาะสม วาดภาพแนวคิด
ที่แสดงถึงการมสี วนรว มในการจดั การส่งิ แวดลอมในชมุ ชนของตน
คา� ถามพัฒนาผเู้ รยี น คําถามพฒั นาผเู รียน
๑. ส่ิงแวดลอมในชุมชนของนักเรียนในอดีตมีความแตกตางกับปจจุบัน
อยางไรบา ง อธบิ ายพอสังเขป
๒. มลพษิ ในชุมชนของนักเรียนทเี่ กดิ จากมนษุ ยม อี ะไรบาง เพราะเหตใุ ด
๓. จากขอ ๒ นกั เรยี นสามารถมสี ว นรว มในการจดั การสง่ิ แวดลอ มใหด ขี นึ้ ไดอ ยา งไร
เปนคําถามพัฒนาผู้เรียน เพ่ือวัด ๑๑๙๙๒๒ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๓
และประเมินความเข้าใจของผู้เรียน
ให้สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้
คาํ นาํ
หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
จดั ทาํ ขนึ้ ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั สาระภมู ศิ าสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา
ข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ครูและนักเรียนได้ใช้เปน
ส่ือการเรียนการสอน พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนให้มีคุณภาพ และเกิด
ประสิทธภิ าพอยา่ งหลากหลาย
บรษิ ทั สรางสรรคส ื่อเพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากดั
เน้อื หาสาระของหนงั สอื เรยี นเลม่ น้ี แบง่ เปน ๕ สาระ.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD ไดแ้ ก่
๑. สาระศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
๒. สาระหนา้ ที่พลเมือง วฒั นธรรม และการด�าเนินชีวิตในสงั คม
๓. สาระเศรษฐศาสตร์
๔. สาระประวัติศาสตร์
๕. สาระภูมศิ าสตร์
โดยเนือ้ หาสาระเหล่าน้มี เี นื้อหาม่งุ ใหน้ ักเรียนไดเ้ รียนรู้ และเขา้ ใจในการอยู่รว่ มกนั
ในสังคมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างเท่าทันและรอบด้าน มีความศรัทธาต่อศาสนา
และวัฒนธรรม รักและภูมิใจในความเปนชาติไทย และความเปนสากลของประเทศ
เพือ่ นบ้าน ปลกู ฝงและบม่ เพาะคุณธรรม จริยธรรมทด่ี ีให้กบั นกั เรียน สามารถดํารงชีวิต
ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ และเปนพลเมืองดีของประเทศอยา่ งมคี ณุ ภาพ
บริษัท สรา้ งสรรค์สอ่ื เพอ่ื การเรยี นรู้ (สสร.) จาํ กัดบรษิ ัท สรางสรรคส อื่ เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํหกัด วังเปนอย่างย่งิ วา่ หนังสือเรียน
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
เล่มนี้จะช่วยให้ครูและนักเรียนได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตรงตามเจตนารมณ์
ที่มุ่งหวัง และได้รับประโยชน์ท่ีพอจะเปนพื้นฐานหรือแนวทางการต่อยอดองค์ความรู้
เพ่อื สร้างเปนความคดิ รวบยอดให้แกผ่ ้เู รียนไดอ้ ย่างครบถ้วนและสมบรู ณ์
บรษิ ทั สร้างสรรค์สอื่ เพือ่ การเรยี นรู้ (สสร.) จ�ากดั
สารบัญ หนา้
สาระศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม ๑
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ ศาสนาในสังคมไทย
๒
๑. ความส�าคญั ของพระพุทธศาสนา ๕
๒. พทุ ธประวัติ ๑๐
๓. ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล
๑๔
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๒ หลักธรรมนา� ชีวิตบริษัท สรา งสรรคส ่ือเพือ่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ๑๕
๑๖
๑. พระไตรปฎ ก ๑๗
๒. พระรตั นตรยั ๒๓
๓. หลักธรรมโอวาท ๓
๔. พุทธศาสนสภุ าษติ ๒๖
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ ชาดกและชาวพุทธตวั อยาง ๒๗
๒๙
๑. พทุ ธสาวก ๓๓
๒. ชาดก
๓. พทุ ธศาสนกิ ชนตัวอย่าง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ ชาวพทุ ธทด่ี ี ๓๘
๑. มรรยาทชาวพุทธ ๓๙
๒. การปฏบิ ัตติ นในศาสนพิธีบรษิ ัท สรางสรรคสอ่ื เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จํากดั ๔๓
๔๘
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ๕๑
๓. การแสดงตนเปนพทุ ธมามกะ ๖๒
๔. การสวดมนตไ์ หวพ้ ระและแผ่เมตตา
๖๓
สาระหน้าทีพ่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการด�าเนินชวี ติ ในสงั คม ๖๙
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ การปฏบิ ัติตนตามประเพณีและ ๗๒
๗๗
วฒั นธรรม
๑. ประเพณีและวัฒนธรรม
๒. การดา� เนนิ ชวี ติ ในวฒั นธรรมทีห่ ลากหลาย
๓. วันหยดุ ราชการทส่ี �าคญั
๔. บุคคลตัวอย่าง
หนา้
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ สมาชกิ ที่ดีในระบอบประชาธปิ ไตย ๘๒
๑. บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในชุมชน ๘๓
๒. การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมต่างๆ ตามกระบวนการประชาธปิ ไตย ๘๔
๓. การออกเสยี งโดยตรงและการเลือกตัวแทนออกเสียง ๘๗
๔. ยกตัวอย่างการเปลยี่ นแปลงในชั้นเรยี น โรงเรียน และชมุ ชน ๙๐
ทเ่ี ปนผลจากการตดั สนิ ใจของบุคคลและกลุ่ม
สาระเศรษฐศาสตร์
บริษทั สรา งสรรคส ่อื เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั ๙๖
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๗ การผลติ และการบริโภค
๑. การใชส้ ินค้าและบรกิ ารในการดา� รงชวี ติ ๙๗
๒. การใชจ้ ่ายของตนเอง ๑๐๓
๓. การผลติ และการบรโิ ภคสินค้าและบรกิ าร ๑๐๗
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๘ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจ ๑๑๒
๑. สินค้าและบรกิ ารของภาครฐั ๑๑๓
๒. บทบาทของประชาชนในการเสียภาษี ๑๑๕
๓. การแข่งขนั ทางการค้า ๑๑๘
สาระประวตั ิศาสตร์ ๑๒๒
บรษิ ทั สรางสรรคส ่อื เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั ๑๒๓
๑๒๘
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๙ ศเหักตรุกาชารใณนป์สฏา� คทิ ญัินและการล�าดบั.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
๑. ศกั ราชท่สี า� คัญตามปฏทิ นิ ทใ่ี ช้ในชวี ิตประจ�าวัน
๒. เหตกุ ารณ์ส�าคัญของโรงเรียนและชุมชน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ ชุมชนของเรา ๑๓๔
๑. ปจั จัยท่ีมอี ิทธิพลต่อการตง้ั ถิ่นฐานและพัฒนาการ ๑๓๕
ของชมุ ชน
๑๔๐
๒. ลักษณะส�าคญั ของขนบธรรมเนยี ม ประเพณี
และวัฒนธรรมของชุมชน ๑๔๔
๓. ความเหมอื นและความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมของชมุ ชน
ตนเองกบั ชมุ ชนอืน่ ๆ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๑ บคุ คลสา� คญั ของไทย หน้า
๑. พระมหากษตั รยิ ผ์ สู้ ถาปนาอาณาจกั รไทย ๑๔๘
๒. พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยูห่ ัว
๓. วีรกรรมของบรรพบรุ ุษไทย ๑๔๙
๑๕๔
๑๕๙
สาระภมู ิศาสตร์ ๑๖๖
บรษิ ทั สรางสรรคสือ่ เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด ๑๖๗
๑๗๔
๑๒ ขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์ในหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
โรงเรยี นและชมุ ชนของเรา
๑. ขอ้ มลู ทางภูมิศาสตร์ในโรงเรยี นและชมุ ชน
๒. ต�าแหนง่ ท่ตี งั้ ของสถานทส่ี า� คัญบริเวณโรงเรยี น
และชุมชน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๓ การเปล่ียนแปลงและการจดั การ ๑๘๐
สงิ่ แวดล้อมในชุมชน ๑๘๑
๑. ส่งิ แวดล้อมของชมุ ชนในอดตี กบั ปัจจบุ ัน ๑๘๔
๒. มลพษิ ที่เกิดจากมนษุ ย์ ๑๙๐
๓. การมสี ่วนร่วมในการจดั การสง่ิ แวดลอ้ มในชุมชน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๔ ส่ิงแวดลอ้ มกับการดา� เนินชีวติบริษัท สรา งสรรคสื่อเพ่อื การเรียนรู (สสร.) จํากดั ๑๙๓
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๑๙๔
ของมนุษย์ ๑๙๖
๑. ภูมิประเทศและภูมิอากาศท่มี ีผลตอ่ การด�าเนนิ ชีวติ ๑๙๙
ของคนในชุมชน
๒. การใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งแวดล้อมในการดา� เนนิ ชีวิต
ของมนุษย์
๓. ลักษณะของเมืองและชนบท
บรรณานกุ รม ๒๐๒
๑หนว ยการเรยี นรทู ่ี ศาสนาในสังคมไทย
มาตรฐานการเรยี นรแู ละตวั ชวี้ ัด
๑. อธิบายความสําคัญของพระพุทธศาสนา
หรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะท่ีเปนรากฐาน
สาํ คญั ของวัฒนธรรมไทย (มฐ. ส ๑.๑ ป.๓/๑)
๒. สรุปพุทธประวัติต้ังแตการบําเพ็ญเพียรบริษทั สรา งสรรคสือ่ เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
จนถึงปรินิพพาน หรือประวัติของศาสดาท่ีตน
นบั ถอื ตามทกี่ าํ หนด (มฐ. ส ๑.๑ ป.๓/๒)
๓. บอกชื่อ ความสําคัญและปฏิบัติตนได
อยางเหมาะสมตอศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และ
ศาสนบคุ คลของศาสนาอน่ื ๆ (มฐ. ส ๑.๑ ป.๓/๗)
สาระสําคญั
พระพทุ ธศาสนามคี วามสาํ คญั ตอ สงั คมไทยเพราะมคี วามสมั พนั ธก บั วถิ ชี วี ติ และเปน รากฐาน
ของวฒั นธรรมไทย การศกึ ษาพทุ ธประวตั แิ ละนาํ แบบอยา งความดมี าปฏบิ ตั จิ ะทาํ ใหช วี ติ มคี วามสงบสขุ
การศึกษาศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล จะทําใหเกิดความเขาใจและสามารถบรษิ ทั สรา งสรรคส อ่ื เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั
ปฏิบัติตนตอศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล ทั้งในพระพุทธศาสนาและศาสนาอ่ืนๆ.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD ได
อยางเหมาะสม
๑ แผนผงั สาระการเรยี นรู ๒
ความสาํ คัญของ พทุ ธประวัติ
พระพุทธศาสนา
ศาสนาในสังคมไทย
๓
ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล
นักเรียนคิดวา การไหวพระ
ในพระพุทธศาสนาเกี่ยวขอ ง
กบั การไหวในวฒั นธรรมไทย
อยางไร
บรษิ ทั สรางสรรคส ่ือเพ่ือการเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๑ ความสาํ คัญของพระพทุ ธศาสนา
พระพุทธศาสนา เปน ศาสนาทคี่ นไทยสว นใหญน บั ถอื มาตง้ั แตอ ดตี
จนถงึ ปจ จบุ นั มบี ทบาททง้ั ดา นการดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั และการสรา งสรรค
ผลงานทางวัฒนธรรม พระพุทธศาสนาจึงมีความสําคัญในฐานะที่เปน
รากฐานสาํ คญั ของวฒั นธรรมไทย ดงั นี้
๑.๑ ความสัมพันธของพระพุทธศาสนากับการดําเนิน
ชีวิตประจําวนั
บรษิ ทั สรา งสรรคส ่อื เพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
การดําเนินชีวิตประจําวันของคนไทยมีความผูกพันเก่ียวของกับ
พระพุทธศาสนามาชานาน กลายเปนสวนหน่ึงในวิถีชีวิตของคนไทย
เรียกวา วัฒนธรรมชาวพุทธ เชน การสวดมนต การทําบุญใสบาตร
การแสดงความเคารพ และการใชภาษา จึงกลาวไดวาพระพุทธศาสนา
มอี ิทธพิ ลตอวถิ ชี วี ิตคนไทยเปน อยางมาก ดังน้ี
๑) การสวดมนต เปนกิจวัตรสําคัญของชาวพุทธกิจกรรมหนึ่ง
ชาวพทุ ธนยิ มสวดมนตว นั ละ ๒ ครง้ั คอื ในตอนเชา เรยี กวา ทาํ วตั รเชา และ
๒ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓
ในตอนเยน็ เรยี กวา ทาํ วตั รเยน็ เพอื่
ทําใหจิตใจไดระลึกนึกถึงคุณของ
พระรัตนตรัย อีกทั้งเปนการสราง
กาํ ลงั ใจอนั เขม แขง็ ในการทาํ ความดี
ตามหลักปฏบิ ตั ขิ องชาวพทุ ธ
การสวดมนตเ ปน การระลกึ ถงึ คณุ พระรตั นตรยั
บริษทั สรา งสรรคสอื่ เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๒) การทาํ บญุ ใสบ าตร เปน
การถวายภตั ตาหารแดพ ระภกิ ษสุ งฆ
ในตอนเชา ซงึ่ ปฏบิ ตั สิ บื ตอ กนั มานาน
ซงึ่ จะสง ผลใหผ กู ระทาํ ความดมี จี ติ ใจ
ผองใสและมีความสุข
การทาํ บญุ ใสบาตรตอนเชา ของชาวพทุ ธ
๓) การแสดงความเคารพ ถือเปนมารยาทไทยท่ีไดรับอิทธิพล
มาจากการแสดงความเคารพและบชู าจากพระพทุ ธศาสนา เพอื่ แสดงความบรษิ ัท สรา งสรรคสอื่ เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ออนนอมถอมตน เชน การกราบ
และการไหว ชาวไทยนาํ มาปรบั ปรงุ
จนเกิดเปน วัฒนธรรมการไหว
ซงึ่ เปนเอกลกั ษณของไทย
การไหวเปนการแสดงความเคารพนอบนอม
ตอ ผูอาวุโสกวา
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๓ ๓
๔) การใชภ าษา ภาษาไทยนอกจากจะเปน ภาษาประจาํ ชาตแิ ลว ยงั ใช
บนั ทกึ คาํ สอนในพระพทุ ธศาสนา ไดร บั ตัวอยางคาํ ภาษาบาลใี นภาษาไทย
อิทธิพลมาจากภาษาบาลีสันสกฤต บาป บุปผา ปญ ญา
และไดรับการถายทอดสืบตอกันมา ปฏิบัติ มงคล
รส
โดยพระภกิ ษสุ งฆ เพราะในสมยั โบราณ ลัทธิ โลภ วิชา
วัดเปนเสมือนโรงเรยี นสอนหนังสอื สติ สนทนา สาหัส
อเนจอนาถ อวสาน
อดีต
บรษิ ัท สรา งสรรคสือ่ เพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
ตัวอยางคาํ ภาษาบาลีในภาษาไทย.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๑.๒ พระพุทธศาสนามีอิทธิพลตอการสรางสรรคผลงาน
ทางวัฒนธรรมไทย
พระพทุ ธศาสนามอี ทิ ธพิ ลตอ การสรา งสรรคผ ลงานทางวฒั นธรรมไทย
อนั เกดิ จากความศรทั ธา ซงึ่ แสดงในรปู แบบงานจติ รกรรม งานประตมิ ากรรม
และสถาปต ยกรรมไทย เชน วดั โบสถ วหิ าร พระสถปู เจดยี พระพทุ ธรปู
ปางตา งๆ รวมถึงวรรณคดีทมี่ ีเนื้อหาอา งองิ เกย่ี วกบั คาํ สอนในพระพทุ ธ-
ศาสนา ซึ่งผลงานเหลานี้ถูกสรางสรรคขึ้นอยางสวยงาม ประณีต และ
มีคุณคาตอสังคมไทย จนกลายเปนสมบัติอันล้ําคาของประเทศชาติ
มาถึงปจ จบุ ัน
บริษัท สรา งสรรคส่อื เพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
สถาปตยกรรมไทย วัดไชยวัฒนาราม จิตรกรรมฝาผนังพระพทุ ธประวัติ
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพระยืนพุทธบาทยคุ ล จังหวัดอุตรดติ ถ
๔ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓
๒ พุทธประวตั ิ
พระพทุ ธเจา มพี ระนามเดมิ วา สทิ ธตั ถะ เปน พระราชโอรสของพระเจา
สุทโธทนะ กษัตริยผูครองกรุงกบิลพัสดุ และพระนางสิริมหามายา
แหง ราชสกลุ โกลยิ วงศ กรงุ เทวทหะ เจา ชายสทิ ธตั ถะประสตู ิ ณ ลมุ พนิ วี นั
ใตตนสาละระหวางพรมแดนกรุงกบิลพัสดุและกรุงเทวทหะ เน่ืองจาก
พระองคเปนผูที่มีบุญบารมีมาก ตอนประสูติจึงเดินดวยพระบาทได
๗ กาว แตล ะกา วมดี อกบวั ผุดขน้ึ มารองพระบาทไวและทรงเปลง วาจาวาบรษิ ัท สรา งสรรคส่อื เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
“เราเปนผูเลิศที่สุดในโลก ประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดครั้งน้ีเปนชาติ
สดุ ทาย ภพใหมของเราไมมอี กี ตอไป”
เจาชายสิทธัตถะพร่ังพรอมไปดวยสิริราชสมบัติ เมื่อมีพระชนมายุ
๑๖ พรรษา ไดอ ภเิ ษกสมรสกบั พระนางยโสธรา (พมิ พา) พระราชธดิ าของ
พระเจากรุงเทวทหะ เม่ือเจาชายสิทธัตถะมีพระชนมายุ ๒๙ พรรษา
ไดเสด็จออกประพาสนอกพระราชวังและทอดพระเนตรเห็นคนชรา
คนเจบ็ ปว ยหนกั คนตาย และนกั บวช จงึ นาํ สงิ่ ทท่ี รงเหน็ มาพจิ ารณากพ็ บวา
มนุษยทกุ คนยอ มมเี กิด แก เจ็บ ตาย เปน ความทกุ ขท ไี่ มมีใครหลีกหนไี ด
พระองคจึงตัดสินพระทัยแนว แนท ี่จะเสด็จออกผนวช เพื่อหาหนทาง
พนทุกข ในคืนที่พระนางยโสธรา
บรษิ ทั สรา งสรรคส ือ่ เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั
ประสูติพระโอรส พระองคจึงทรง.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
มากัณฐกะ โดยมีนายฉันนะ ตาม
เสดจ็ ออกจากพระราชวงั เมอื่ เสดจ็
มาถึงริมฝงแมนํ้าอโนมาก็ทรงใช
พระขรรคตัดพระเมาลี เปลี่ยน
เคร่ืองทรงมาครองผากาสาวพัสตร
และทรงอธษิ ฐานเปน นกั บวชนบั แตน น้ั เจาชายสิทธัตถะทอดพระเนตรเห็นคนแก
คนเจบ็ คนตาย และนกั บวช (เทวทตู ๔)
ขณะเสด็จประพาสนอกพระราชวงั
สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๓ ๕
๒.๑ การบําเพ็ญเพยี ร
หลังจากออกผนวชแลว พระองคไดศึกษาในสํานักอาจารย
อาฬารดาบสและอทุ ทกดาบส จนสาํ เรจ็ ความรขู นั้ สงู สดุ ของอาจารยท งั้ สอง
แตก็ยังไมสามารถตรัสรูได จึงหันมาบําเพ็ญเพียรดวยการทรมานตนเอง
ท่ีเรียกวา การบําเพ็ญทุกรกิริยา เปนระยะเวลา ๖ ป เพื่อจะไดตรัสรู
แตไ มส าํ เรจ็ ในทส่ี ดุ ทรงคน พบวา บรษิ ัท สรา งสรรคส ่อื เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
นน่ั ไมใ ชห นทางทถ่ี กู ตอ ง จงึ หนั มา .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ปฏบิ ตั ติ ามทางสายกลาง เรยี กวา
มชั ฌมิ าปฏปิ ทา เปน การบาํ เพญ็
เพยี รทไ่ี มเ ครง ครดั และไมย อ หยอ น
จนเกินไป
ภาพจติ รกรรมฝาผนงั การบาํ เพญ็ ทกุ รกริ ยิ า
วัดพระยนื พทุ ธบาทยคุ ล จงั หวดั อุตรดติ ถ
๒.๒ ผจญมาร
เมอ่ื พระสทิ ธตั ถะทรงมพี ระชนมายไุ ด ๓๕ พรรษา ขณะทปี่ ระทบั
ใตต น พระศรมี หาโพธ์ิ ณ ริมฝงแมน้ําเนรัญชรา ตําบลอุรุเวลาเสนานิคมบริษัท สรางสรรคส่อื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
(ปจ จบุ นั คอื พทุ ธคยา อาํ เภอคยา รฐั พหิ าร ประเทศอนิ เดยี ) พระองคท รง
ต้ังพระทัยแนวแนวาจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณในครั้งนี้ จึงไดต้ัง
สตั ยาธษิ ฐานวา “แมเ นอ้ื และเลอื ดในสรรี ะเราจะแหง เหอื ดไปหมดสนิ้ จะเหลอื
แตห นัง เอ็น กระดูกกต็ ามที หากเรายงั ไมบ รรลุพระสัมมาสัมโพธญิ าณ
ก็จักไมทําลายบัลลังกน ี้” หมายความวา พระองคจะไมลกุ จากทเ่ี ด็ดขาด
ฝา ยพญามารวสวตั ตลี ว งรถู งึ ความคดิ นน้ั จงึ คดิ ทจ่ี ะขดั ขวางทาํ ลาย
ความตงั้ ใจของพระองค และขณะทพ่ี ระองคป ระทบั นงั่ บาํ เพญ็ เพยี รทางจติ
๖๖ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๓
ณ โพธบิ ลั ลงั กน นั้ พญามารไดน าํ กองทพั พญามารพรอ มดว ยศาสตราวธุ
จํานวนมากมุงหนามาขัดขวางไมใหพระองคไดตรัสรู และกลาวทวงวา
พระสิทธัตถะแยงบัลลังกที่ใตตนพระศรีมหาโพธิ์ของตนไป จึงเรียกรอง
ขอคนื แตพ ระองคไ มท รงหวน่ั ไหวในกองทพั พญามารแตอ ยา งใด กลบั ตรสั วา
บลั ลงั กน เ้ี กดิ ขน้ึ ดว ยบญุ ทที่ รงบาํ เพญ็ เพยี รมาตลอดเวลาอนั ยาวนาน โดย
มีพระแมธรณีเปนพยาน แลวทรงชี้นิ้วพระหัตถขวาลงพื้นดิน ทันใดนั้น
พระแมธรณีก็ผุดขึ้นมาจากผืน บริษทั สรางสรรคส่ือเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากัด
แผน ดนิ เปน พยาน และบบี มวยผม
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
จนเกดิ นาํ้ ไหลทว มเขา ใสก องทพั
พญามารจนพา ยแพ พระองคจ งึ
ไดพ ระนามวา พระผพู ชิ ติ มาร
พระแมธ รณบี บี มวยผม ทาํ ใหเ กดิ นาํ้ ทว มกองทพั
พญามารพินาศไป
๒.๓ ตรสั รู
เมอื่ กองทพั พญามารไดพ า ยไปบรษิ ัท สรางสรรคส่อื เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
พระองคจึงบําเพ็ญเพียรตอจนกระทั่ง
ทรงบรรลธุ รรม รแู จง ในสจั ธรรมทง้ั ปวง
เปน พระสัมมาสัมพุทธเจา ผูตรัสรู
ไดดวยพระองคเองในตอนเชามืด
ตรงกบั วนั ข้นึ ๑๕ ค่าํ เดือน ๖ ประกา
กอ นพทุ ธศกั ราช ๔๕ ป พระพทุ ธเจา ตรสั รใู ตต น พระศรมี หาโพธ์ิ
ณ ริมฝง แมน ํ้าเนรัญชรา
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓ ๗
๒.๔ ปฐมเทศนา
เมอื่ พระองคไ ดต รสั รเู ปน พระพทุ ธเจา พระองคท รงตงั้ พระทยั ทจ่ี ะ
แสดงธรรมโปรดสตั วโ ลก ทรงพจิ ารณาถงึ ผทู จี่ ะเสดจ็ ไปโปรด โดยไดเ สดจ็ ไปยงั
อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั เพอื่ แสดงพระธรรมเทศนา คอื ธมั มจกั กปั ปวตั นสตู ร
ซ่ึงกลาวถึงอริยสัจ ๔ ใหแกเหลาปญจวัคคียท้ัง ๕ คือ โกณฑญั ญะ
วปั ปะ ภทั ทยิ ะ มหานามะ และอัสสชิ ครั้งน้ันโกณฑัญญะไดบรรลุเปน
บริษัท สรา งสรรคส ่อื เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จํากัด
พระโสดาบัน จึงทูลขออุปสมบท
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
กับพระพุทธเจาเปนพระภิกษุ
รปู แรกในพระพทุ ธศาสนา ทําใหมี
พระรตั นตรัยครบ ๓ ประการ คอื
พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ
ในวนั เพญ็ ขน้ึ ๑๕ คา่ํ เดอื น ๘ และ
ในเวลาตอมาปญจวัคคียท่ีเหลือ
จึงไดทูลขออุปสมบทและบรรลุ
ธรรมเปน พระอรหนั ต พระพุทธเจา แสดงพระธรรมเทศนา
แกเ หลา ปญจวคั คยี บรษิ ัท สรางสรรคสื่อเพ่ือการเรียนรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
¤íÒÈѾ·¹ ‹ÒÃŒÙ
• ธมั มจักกปั ปวตั นสตู ร (ทาํ - มะ - จัก - กบั - ปะ - วดั - ตะ - นะ - สดู ) แปลวา พระสตู ร
วา ดวยการหมุนกงลอ คอื พระธรรม
• อริยสจั ๔ (อะ - ริ - ยะ - สดั - ส)่ี แปลวา ความจริงอนั ประเสริฐ ๔ ประการ ไดแ ก
ทุกข สมุทัย นโิ รธ มรรค
• มชั ฌมิ าปฏปิ ทา (มัด - ชิ - มา - ปะ - ติ - ปะ - ทา) แปลวา ทางสายกลาง
๘๘ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓
๒.๕ ปรินพิ พาน
ปรินิพพาน หมายถึง การดับสนิท ดับจากกิเลสและกองทุกข
ทงั้ ปวง ซงึ่ เปน เหตกุ ารณส าํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาอกี วาระหนง่ึ คอื วนั ท่ี
พระพุทธเจา ไดเ สด็จดบั ขันธปรินพิ พานหรอื ละสังขารเขา สนู ิพพาน
หลังจากที่พระพุทธเจาไดเผยแผห ลักธรรมแกประชาชนเปน
เวลา ๔๕ ป เมอ่ื ถึงเวลาใกลจ ะเสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พาน พระองคต รสั สงั่
ใหพ ระอานนทไ ปแจง ขา วปรนิ พิ พานบรษิ ทั สรางสรรคสอ่ื เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ใหเหลามัลลกษตั รยิ แ ละประชาชน
เมอื งกสุ นิ าราไดท ราบขา ว เมอ่ื ทกุ คน
ท ร า บ ขาวก า ร ป ริ นิ พ พ า น จ า ก
พระอานนทแ ลว เกดิ ความเศรา โศก
พ า กั น ม า เ ข า เฝาที่ ด ง ไ ม ส า ล ะ
สถานที่ที่พระองคไดประทับอยใู น
ขณะนน้ั
พระพุทธเจาเสด็จดับขันธปรินิพพานในเวลาใกลรุง
ของคืนวนั เพ็ญขึน้ ๑๕ คา่ํ เดือน ๖
ครง้ั นนั้ พระพทุ ธเจา จงึ ทรงแสดงปจ ฉมิ โอวาท คอื แสดงพระโอวาท
เปน ครั้งสดุ ทายวา “ภกิ ษุทงั้ หลาย บดั น้เี ราขอเตอื นทานทั้งหลาย สงั ขารบริษทั สรา งสรรคส ่ือเพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ทงั้ หลายมคี วามเสอื่ มความสนิ้ ไปเปน ธรรมดา ทา นทงั้ หลายจงยงั กจิ ทง้ั ปวง
ทั้งประโยชนตนและประโยชนผูอ ื่น ใหบ ริบรู ณดวยความไมประมาทเถดิ ”
พระองคทรงมุงหมายใหทุกคนไมประมาทในการดํารงชีวิต ใหรีบ
ฝก ฝนอบรมตนเองสงั่ สมความดใี หไ ดม ากทส่ี ดุ กอ นทจ่ี ะหมดเวลาของชวี ติ
เมื่อพระองคตรัสโอวาทสุดทายแลวก็เสด็จดับขันธปรินิพพานในเวลา
ใกลรงุ ของคืนวนั เพญ็ ขึ้น ๑๕ คา่ํ เดอื น ๖ เม่อื พระชนมายุ ๘๐ พรรษา
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓ ๙
๓ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบคุ คล
ทุกศาสนาลวนมีองคประกอบท่ีสงเสริมการดํารงอยูของศาสนา
ไดแก ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล ในแตละศาสนาลวนมี
ช่ือเรียกและใหความสําคัญแตกตางกันออกไป ศาสนิกชนควรรูจักทั้งชื่อ
และความสาํ คัญเพ่ือการปฏบิ ัตติ นท่ีถกู ตอ งเหมาะสม
๓.๑ ศาสนวตั ถุ บริษทั สรางสรรคส อ่ื เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ศาสนวัตถุ หมายถงึ มกั เปนสง่ิ ท่ี
เคารพบชู า เชน วัตถทุ ีเ่ ก่ยี วขอ งกับศาสนาตางๆ
พระพทุ ธศาสนา ศาสนาครสิ ต ศาสนาอสิ ลาม ศาสนาฮนิ ดู
พระพุทธรปู ไมก างเขน หนิ ดําเมอื งมกั กะฮ เทวรปู
๓.๒ ศาสนสถาน
บรษิ ัท สรางสรรคส อ่ื เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด
ศาสนสถาน หมายถึง สถานที่ที่สรางข้ึนเพื่อใชในการประกอบ.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
กจิ กรรมทางศาสนา เชน
พระพทุ ธศาสนา ศาสนาครสิ ต ศาสนาอสิ ลาม ศาสนาฮนิ ดู
วดั พระอุโบสถ โบสถ มัสยิด สุเหรา เทวสถาน
๑๑๐๐ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๓
๓.๓ ศาสนบคุ คล
ศาสนบคุ คล หมายถงึ ผเู ผยแผห ลกั ธรรมในศาสนาตอ จากพระศาสดา
หรอื นกั บวชในศาสนา เชน
พระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต ศาสนาอสิ ลาม ศาสนาฮนิ ดู
บรษิ ัท สรางสรรคสอื่ เพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
พระสงฆ บาทหลวง อิหมาม พราหมณ
๓.๔ การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมตอศาสนวัตถุ ศาสนสถาน
และศาสนบคุ คล
ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน และศาสนบคุ คล เปนส่งิ ทส่ี าํ คัญสาํ หรบั
ศาสนา นกั เรยี นควรประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นใหเ หมาะสม ทงั้ ศาสนาทตี่ นนบั ถอื
และศาสนาอ่ืน ดังนี้
๑) แสดงความเคารพตอ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบคุ คล
ของทกุ ศาสนา
บรษิ ทั สรางสรรคส ื่อเพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๒) แตงกายใหสะอาด เรียบรอย และสวมใสเส้ือผาท่ีมีสีสุภาพ
เมอ่ื เขาไปในศาสนสถาน
๓) ปฏิบัติตนตามขอควรปฏิบัติ กฎระเบียบ หรือขอหามของ
ศาสนสถานแตล ะแหง อยางเครงครดั
๔) สาํ รวมกริ ยิ าวาจา ไมส ง เสยี งดงั ไมแ สดงอาการลบหลเู มอื่ เขา ไป
ในเขตศาสนสถาน
๕) ทาํ นบุ าํ รงุ ศาสนวตั ถแุ ละศาสนสถานใหอ ยใู นสภาพดอี ยูเสมอ
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓ ๑๑
สรุป
พระพทุ ธศาสนามคี วามสาํ คญั ตอ คนไทยมาตง้ั แตอ ดตี ทงั้ ดา นการดาํ เนนิ
ชีวิตประจําวัน เชน การสวดมนตระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย การทําบุญ
ใสบาตร การแสดงความเคารพ และการใชภาษา ตลอดจนมีอิทธิพลตอการ
สรา งสรรคผ ลงานทางวฒั นธรรมทเี่ กดิ จากแรงศรทั ธา เชน วดั โบสถ พระพทุ ธรปู
ภาพวาด และรปู ปน ตา งๆ สะทอ นใหเ หน็ วา พระพทุ ธศาสนาเปน รากฐานสาํ คญั
ของวัฒนธรรมไทย
พระพทุ ธเจาเปนศาสดาของพระพทุ ธศาสนา มพี ระนามเดมิ วา สทิ ธตั ถะบริษัท สรา งสรรคส ่อื เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
เม่ือทอดพระเนตรเห็นเทวทูต ๔ ทรงตัดสินใจออกผนวช บําเพ็ญทุกรกิริยา
แลวยังไมสามารถตรัสรูได จึงกลับมาปฏิบัติตามทางสายกลาง ทําใหตรัสรูเปน
พระสัมมาสัมพุทธเจาไดในที่สุด เมื่อตรัสรูแลวก็ทรงเผยแผหลักธรรมคําสอน
อยา งตอเน่อื งจนกระท่ังเสดจ็ ดับขันธปรินิพพาน
ทุกศาสนาลวนมีศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคล มีช่ือเรียกที่
แตกตางกัน มีความสําคัญเปนองคประกอบท่ีสงเสริมการดํารงอยูของศาสนา
เราควรใหค วามเคารพและปฏบิ ตั ติ นอยา งเหมาะสมตอ ทกุ ๆ ศาสนา
กจิ กรรมการเรยี นรูเชิงรุก
บรษิ ทั สรางสรรคสื่อเพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๑. ใหน กั เรยี นแบง กลมุ ยอ ยเพอื่ อธบิ ายความสาํ คญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะ
ท่ีเปน รากฐานสําคัญของวฒั นธรรมไทย
๒. ใหนักเรียนจับคูเพื่อรวมกันสรุปพุทธประวัติตั้งเเตการบําเพ็ญเพียรจนถึง
ปรินพิ พานโดยสรปุ เปน เเผนผงั เเสดงลาํ ดับเหตกุ ารณ
๓. ใหน กั เรยี นชว ยกนั บอกชอ่ื ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน และศาสนบคุ คลของศาสนา
ในสังคมไทย พรอมทั้งบอกความสําคัญเเละการปฏิบัติตนตอศาสนวัตถุ
ศาสนสถาน และศาสนบุคคลอยา งเหมาะสม
๑๑๒๒ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓
คาํ ถามพัฒนาผเู รียน
๑. พระพทุ ธศาสนามอี ทิ ธพิ ลตอ การสรา งสรรคผ ลงานทางวฒั นธรรมไทยอยา งไร
๒. พระพทุ ธเจา ทรงเปน แบบอยา งในการดาํ เนนิ ชวี ติ ใหแ กน กั เรยี นไดอ ยา งไรบา ง
๓. เพราะเหตใุ ดนกั เรยี นจงึ ควรเรยี นรเู รอื่ งราว ศาสนสถาน ศาสนวตั ถุ และศาสนบคุ คล
ของศาสนาอน่ื ๆ
๔. หากนกั เรยี นไมป ฏบิ ตั ติ ามขอ ควรปฏบิ ตั ิ กฎระเบยี บบรษิ ทั สรางสรรคสอื่ เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จํากัด หรอื ขอ หา มของศาสนสถาน
นักเรยี นคดิ วา จะเกิดผลดีหรือผล.เSRสANGSียANSUอEPHUยAKARาNRIงANRไUUร(SSRต.)COอ.,LTDตัวนักเรียนเอง
๕. นกั เรยี นคดิ วา ตนเองจะมสี ว นชว ยในการดแู ลศาสนวตั ถแุ ละศาสนสถานตา งๆ
ไดอ ยา งไรบาง
บริษทั สรางสรรคสอ่ื เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๓ ๑๓