The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือเรียน วิชาสังคม ป.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ssr., 2021-04-22 23:34:31

หนังสือเรียน วิชาสังคม ป.2

หนังสือเรียน วิชาสังคม ป.2

สังคมศึกษา หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน

ศาสนา และวัฒนธรรม

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒

ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระภมู ศิ าสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรมบรษิ ทั สรา งสรรคสือ่ เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คณะผเู้ รยี บเรยี ง บริษัท สรา งสรรคส อ่ื เพื่อการเรียนรู (สสร.) จํากัด

ผศ. ดร.ฐติ ริ ตั น์ ป้ันบา� รุงกจิ .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ศรยี า เนตรนอ้ ย
สดใส ใจตรง
ศกั ดชิ์ าย วลั ดา

คณะผ้ตู รวจ

ผศ. ดร.ยอดชาย ชตุ กิ าโม
สมหวัง ชัยตามล
กนกพร กระบวนศรี

บรรณาธิการ

รศ.ผ่องศรี จั่นหา้ ว

บรษิ ทั สร้างสรรคส์ อ่ื เพอื่ การเรยี นรู้ (สสร.) จ�ากัด จัดพมิ พ์และจา� หน่ายโดย พิมพ์ครั้งที่ ๑
SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD.
บริษทั สร้างสรรคส์ ือ่ เพ่อื การเรียนรู้ (สสร.) จา� กัด สงวนลิขสิทธต์ิ ามพระราชบัญญัติ
๑๕๑๘/๗ ถนนประชาราษฎร์ ๑ แขวงวงศ์สวา่ ง เขตบางซือ่ กรงุ เทพฯ ๑๐๘๐๐ ISBN 978-616-7768-63-2 ปีท่ีพมิ พ์ ๒๕๖๓
โทรศพั ท์ : ๐-๒๕๘๗-๗๙๗๒, ๐-๒๕๘๖-๐๙๔๘, ๐-๒๕๘๗-๙๓๒๒-๒๖ จา� นวนทีพ่ มิ พ์ ๑๐,๐๐๐ เลม่
โทรสาร : ๐-๒๐๔๔-๔๔๗๒ E-mail : [email protected]

คา� ชแี้ จงการใชส้ อ่ื การเรยี นรู้

องค์ประกอบตา่ ง ๆ ในแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้

หนา้ นา� เขา้ ส่บู ทเรยี น

ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิด

ความสนใจก่อนการเรียน
ด้วยเนื้อหาและภาพประกอบ
ภาพประกอบ ๑๑๔ ท่นี า่ สนใจหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ โลก ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์
หน่วยการเรยี นรู้ บรษิ ัท สรา งสรรคส ่ือเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากัด
ภาพประกอบที่ใช้เชื่อมโยง .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
หนว่ ยการเรียนรู้
นกั เรียนคดิ วา่ ดวงอาทติ ยแ์ ละ
ดวงจันทรม์ คี วามสมั พันธก์ บั
ปรากฏการณบ์ นโลกอยา่ งไร

มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชี้วดั แผนผงั สาระการเรียนรู้ นอกจากโลกท่ีเราอาศัยอยู่ พวกเรายังรู้จักกับดวงอาทิตย์และ
และตวั ชวี้ ัด ๑. สงั เกตและแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโลก ดวงอาทติ ย์ ๑ดคววงาอมาสทัมติ พยัน์ แธลร์ ะะดหววงา่ จงโันลทกร์ ดวงจันทร์ เม่ือมองไปบนท้องฟ้าในกลางวัน เราจะเห็นแสงสว่าง จาก
โลก ดวงอาทิตย์ ท�าให้เราสามารถท�ากิจกรรมต่างๆ ได้ ในขณะที่เวลา
มาตรฐานการเรียนรู้และตัว และดวงจันทร์ท่ีทา� ให้เกดิ ปรากฏการณ์ ดวงอาทิตย์ กลางคืนท้องฟ้ามืด เราจะเห็นแสงสว่างของดวงจันทร์ที่เกิดจากการ
ชี้วัดที่ก�าหนดให้สอดคล้อง (มฐ. ส ๕.๑ ป.๒/๓) และดวงจนั ทร์
ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ๒. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งฤดกู าลกบั การดา� เนนิ ชวี ติ 1สะทอ้ นจากดวงอาทิตย์
ของมนษุ ย์ (มฐ. ส ๕.๒ ป.๒/๓) ๒ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งโลก ดวงอาทติ ย์
สรปุ และดวงจันทร์
สาระสา� คญั ที่มีอิทธิพลต่อการด�าเนินชีวิต
ส่ิงแวดล้อมรอบตัวเรา มีท้ังสิ่งที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ และท่ี ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโลก ดวงอาทติ ย์ และดวงจนั ทร์ ในช้ันเรียนน้ีจะกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างดาว ๓ ดวง ได้แก่
มนุษย์สร้างขึ้น ซ่ิึงมีความส�าคัญต่อการด�ารงชีวิตของมนุษย์ โดยใช้ โลก ดวงอาทติ ย์ และดวงจนั ทร์
ประโยชน์ในชีวิตประจ�าวัน ส่วนสิ่งแวดล้อมท่ีมนุษย์สร้างขึ้นถูกใช้ ทเี่ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของระบบสรุ ยิ ะ ทา� ใหเ้ กดิ ปรากฏการณท์ าง
ประโยชน์เพื่อสังคมและสาธารณะ เพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร้อยใน ธรรมชาตทิ ม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การดา� เนนิ ชวี ติ ๑.๑ โลก เปน็ ดาวเคราะหท์ มี่ สี ภาพแวดลอ้ ม
สังคม และเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งข้ึน การรู้จักทรัพยากรทาง เหมาะสมต่อการด�ารงชีวิตของมนุษย์
ธรรมชาติแต่ละประเภท รู้ถึงประโยชน์และคุณค่า หาแนวทางการแก้ไข สาระส�าคญั พืช และสัตว์ โดยอาศัยพลังงานความร้อน
ปัญหา แนวทางการดูแลทรพั ยากร จะท�าใหม้ นุษย์มีทรพั ยากรใช้ได้อย่าง และแสงสวา่ งจากดวงอาทิตย์ โลกโคจรรอบ
ยั่งยืน ดวงอาทติ ย์ ขณะเดยี วกนั ยงั หมนุ รอบตัวเอง
อีกด้วย
การเปล่ียนแปลงของส่ิงแวดล้อม มีท้ังท่ีเกิดจากธรรมชาติและ
เกดิ จากมนษุ ย์ อาจเปลยี่ นแปลงไปในทางทดี่ ขี นึ้ และในทางทเี่ สอ่ื มโทรมลง สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๒ 161
การเปล่ียนแปลงดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน
เราควรแก้ไขปัญหาและหาแนวทางในการดูแลรักษา เพื่อให้นักเรียน ใจความส�าคัญของเน้ือหาที่ กจิ กรรมกำรเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning)
ตระหนกั ถงึ ความส�าคญั ของสิง่ แวดลอ้ มภายในโรงเรียน จะทา� ใหน้ กั เรยี น ท�าให้ผู้เรียนเข้าใจง่าย
อยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ มทเี่ หมาะสมสา� หรบั การเรยี นรู้ และอยรู่ ว่ มกนั ในโรงเรยี น ภาพประกอบเน้อื หา๑. แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นเดนิ สา� รวจภายในบรเิ วณโรงเรยี น แลว้ นา� มารายงาน
ได้อย่างมีความสขุ
หน้าช้นั เรยี นว่ามสี ิง่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตอิ ะไรบา้ ง และ
สรุป อยูบ่ ริเวณใดของโรงเรยี น
เป็นการสรุปเนื้อหาของแต่ละ เพือ่ เพม่ิ ความน่าสนใจและ๒. นกั เรยี นรว่ มกนั สบื คน้ ขอ้ มลู จากสอื่ ตา่ งๆ เกย่ี วกบั ปญั หาของการใช ้
หน่วยการเรียนรู้ เพื่อให้ ทรพั ยากร และการรกั ษาส่งิ แวดล้อม เชน่ นา้� ป่าไม ้ สัตว์ป่า แลว้ มา
ผู ้ เ รี ย น ไ ด ้ ท บ ท ว น ค ว า ม รู ้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๒ 187 กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ นา� เสนอหน้าชนั้ เรียน
ก่อนเข้าสูก่ ารท�ากจิ กรรมและ ๓. นักเรียนแบ่งกลุ่มกันส�ารวจปัญหาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนโดยการ
ตอบค�าถาม บริษัท สรางสรรคส อื่ เพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั เดนิ สา� รวจและช่วยกนั คิดวิธีฟ้นื ฟสู ภาพแวดลอ้ มในโรงเรียน
๔. นักเรียนช่วยกันหาข่าวเก่ียวกับสิ่งแวดล้อมทั้งที่เปล่ียนแปลงในทาง
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ทีด่ ขี ้ึนและเสอ่ื มโทรมลง จากนั้นมาน�าเสนอหน้าช้นั เรียน

กจิ กรรมบรู ณาการการเรยี นรู้ ค�ำถำมพัฒนำผูเ้ รยี น

๑. ระหว่างบ้านกับโรงเรียนนักเรียนพบสิ่งแวดล้อมอะไรที่มีประโยชน ์
ต่อนกั เรียนบ้าง
๒. ทรพั ยากรทน่ี กั เรยี นใชบ้ อ่ ยในชวี ติ ประจา� วนั มอี ะไรบา้ ง และนกั เรยี น
มีแนวทางการใช้ทรพั ยากรดงั กล่าวให้คมุ้ คา่ อยา่ งไร
๓. นกั เรยี นคดิ วา่ มนษุ ยส์ ามารถอยไู่ ดโ้ ดยอาศยั สง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ
เพยี งอยา่ งเดยี วไดห้ รอื ไม ่ เพราะเหตใุ ด
๔. การเปลย่ี นสภาพแวดลอ้ มทเ่ี กดิ จากธรรมชาตมิ ผี ลตอ่ นกั เรยี นอยา่ งไร
๕. ถ้าสภาพแวดล้อมเสียหาย นักเรียนมีแนวทางการจัดการดูแล
สภาพแวดลอ้ มให้คงอยใู่ นสภาพที่ดไี ดอ้ ยา่ งไร

ค�าถามพฒั นาผ้เู รยี น11888 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๒

เปน็ การนา� กจิ กรรมบรู ณาการ การต้ังค�าถามพัฒนาผู้เรียน
การเรียนรู้มาใช้ฝึกทักษะและ เพอื่ วดั และประเมนิ ความเขา้ ใจ
กระบวนการ เพ่ือให้ผู้เรียน ของผู้เรียนให้สอดคล้องกับ
ไดค้ ดิ วเิ คราะหก์ ารเรยี นรแู้ ละ หน่วยการเรียนรู้
นา� ไปใช้ในชวี ติ ประจ�าวนั ได้

คำ� น�ำ

หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานสงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรมชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒
จดั ทา� ขน้ึ ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั สาระภมู ศิ าสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา
ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ครูและนักเรียนได้ใช้เป็นสื่อ
การเรยี นการสอน พฒั นาทกั ษะการเรยี นรขู้ องนกั เรยี นใหม้ คี ณุ ภาพ และเกดิ ประสทิ ธภิ าพ
อย่างหลากหลาย

บริษัท สรางสรรคส ื่อเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

เนอ้ื หาสาระของหนังสือเรียนเลม่ นี้ แบ่งเปน็ ๕ สาระ.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD ได้แก่
๑. สาระศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
๒. สาระหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดา� เนนิ ชวี ติ ในสังคม
๓. สาระเศรษฐศาสตร์
๔. สาระประวตั ิศาสตร์
๕. สาระภูมิศาสตร์
โดยเนอื้ หาสาระเหลา่ นมี้ เี นอื้ หามงุ่ ใหน้ กั เรยี นไดเ้ รียนรู้ และเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมท่ามกลางการเปล่ียนแปลงอย่างเท่าทันและรอบดา้ น มคี วามศรทั ธาตอ่ ศาสนา
และวฒั นธรรม รกั และภมู ใิ จในความเปน็ ชาตไิ ทย และความเปน็ สากลของประเทศเพอ่ื นบา้ น
ปลกู ฝงั และบม่ เพาะคณุ ธรรม จรยิ ธรรมทด่ี ใี หก้ บั นกั เรยี น สามารถดา� รงชวี ติ ในสงั คมไดอ้ ยา่ ง
มคี วามสขุ และเปน็ พลเมอื งดขี องประเทศอยา่ งมคี ณุ ภาพ
บริษัท สรา้ งสรรค์สอ่ื เพ่ือการเรียนรู้ (สสร.) จา� กดับรษิ ัท สรางสรรคส่อื เพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จหาํ กัดวังเปน็ อยา่ งยิ่งวา่ หนังสอื เรยี น
เลม่ นจี้ ะชว่ ยใหค้ รแู ละนกั เรยี นไดจ้ ดั กจิ กรร.SRมANGกSANาSUEรPHUเAรKARยีNRIAนNRUUก(SSาR.)รCO.,สLTDอนตรงตามเจตนารมณท์ ม่ี งุ่ หวงั
และไดร้ บั ประโยชนท์ พี่ อจะเปน็ พนื้ ฐานหรอื แนวทางการตอ่ ยอดองคค์ วามรเู้ พอื่ สรา้ งเปน็
ความคดิ รวบยอดใหแ้ กผ่ ูเ้ รียนไดอ้ ยา่ งครบถว้ นและสมบูรณ์

บรษิ ทั สร้างสรรค์สือ่ เพ่ือการเรียนรู้ (สสร.) จ�ากดั

สำรบญั หน้ำ

สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ๑
หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๑ ขพอุทงธพปรระะพวทุตั ธแิ ศลาะสคนวาามส�าคัญ

๑. ความสา� คัญของพระพุทธศาสนา ๔
๒. พทุ ธประวตั ิ ๙
๓. ชาดก

หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๒ หลกั ธรรมนา� ใจบรษิ ัท สรา งสรรคส ่ือเพ่ือการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั ๑๕
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๑๖
๑. พระรตั นตรยั ๑๘
๒. หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา ๒๕
๓. พทุ ธศาสนสภุ าษติ ๒๖
๔. การท�าความดี

หน่วยกำรเรียนร้ทู ี่ ๓ พแลทุ ะธศสาาสวนกาชนา่าวรพู้ ุทธตวั อย่าง ๒๙

๑. พุทธสาวก ๓๐
๒. ชาวพุทธตัวอยา่ ง ๓๒
๓. ศาสนานา่ รู้ ๓๔

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๔ ชาวพทุ ธท่ดี ีบรษิ ัท สรา งสรรคส่ือเพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด ๔๐
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๔๑
๑. มรรยาทชาวพุทธ ๔๗
๒. ศาสนพิธี ๕๑
๓. การทา� จิตให้ผ่องใสบรสิ ทุ ธ์ิ

สาระหน้าท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรม และการด�าเนนิ ชวี ติ ในสังคม ๖๐
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๕ พลเมืองดี
๖๑
๑. การปฏิบตั ติ นเปน็ พลเมอื งดี ๖๖
๒. มารยาทไทย ๗๑
๓. ความสมั พันธ์ระหว่างตัวเราและสมาชกิ

ในครอบครัวกับชุมชน

หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๖ การอยู่รว่ มกันในสังคม หน้ำ

ประชาธิปไตย ๗๖
๑. สิทธแิ ละเสรีภาพ
๒. การยอมรบั ในความแตกตา่ ง ๗๗
๓. บทบาทและอา� นาจในการตัดสินใจ ๘๐
๘๓
สาระเศรษฐศาสตร์
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๗ อาชพี กับการใชจ้ ่ายบริษัท สรา งสรรคสือ่ เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด ๘๘

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD ๘๙
๙๓
ของครอบครวั
๑. การประกอบอาชพี ของครอบครวั ๙๘
๒. ร้จู ักใช้ รู้จักจ่าย
๙๙
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๘ สินค้าและบรกิ าร ๑๐๓
๑๐๗
๑. ทรัพยากรที่ใชใ้ นการผลิตสินคา้ และบรกิ าร
๒. การแลกเปลีย่ นสนิ คา้ และบรกิ าร ๑๑๒
๓. ความสัมพันธ์ระหวา่ งผู้ซือ้ และผขู้ าย
๑๑๓
สาระประวัติศาสตร์ ๑๑๘
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๙ อดีต ปจั จุบัน อนาคตบริษทั สรางสรรคส ื่อเพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
๑๒๕
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๑๒๖
๑. ช่วงเวลาและวนั สา� คญั ตามปฏิทิน ๑๒๗
๒. เรอ่ื งราวของตนเองและครอบครวั

หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ ชมุ ชนของฉนั

๑. การสืบคน้ ขอ้ มูลของชมุ ชน
๒. วถิ ีชีวติ ของคนในชมุ ชน

หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑๑ บคุ คลส�าคัญของไทย หน้ำ

๑. พระบาทสมเด็จพระมหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช ๑๓๕
บรมนาถบพิตร (รชั กาลท่ี ๙)
๑๓๖
๒. ท้าวสรุ นารี
๓. สบื นาคะเสถยี ร ๑๓๘
๑๓๙
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑๒ วัฒนธรรม ประเพณี
๑๔๑
และภมู ปิ ัญญาไทย
๑๔๒
บริษทั สรา งสรรคส ื่อเพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กัด ๑๔๖
๑๔๘
๑. วัฒนธรรมและประเพณีไทย.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
๒. ภมู ิปญั ญาไทย ๑๕๐
๓. การอนุรกั ษ์วัฒนธรรม ประเพณี และภมู ิปญั ญาไทย
๑๕๑
สาระภมู ศิ าสตร์ ๑๕๓
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑๓ รู้จกั เครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ ๑๕๕
๑๕๖
๑. แผนผัง
๒. แผนท่ี ๑๖๐
๓. รูปถ่าย
๔. ลกู โลก ๑๖๑
๑๖๒
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑๔ โลก ดวงอาทติ ย์ และดวงจันทร์

๑. ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งโลก ดวงอาทติ ย์ และดวงจันทร์บรษิ ัท สรางสรรคส ่ือเพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

๒. ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่มี อี ทิ ธิพล
ตอ่ การด�าเนินชีวติ

หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑๕ การจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม ๑๗๒

และทรัพยากรธรรมชาติ ๑๗๓
๑. เรียนรู้สิ่งแวดลอ้ ม ๑๗๖
๒. สง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั เรา ๑๘๑
๓. รูจ้ ักใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ๑๘๓
๔. การจดั การส่งิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น
๑๘๙
บรรณานกุ รม

๑หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี พขอทุ งธพปรระะพวุทตั ธแิ ศลาะสคนวาามสา� คัญ

บริษัท สรางสรรคสือ่ เพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ช้ีวดั แผนผงั สาระการเรยี นรู้
๑. บอกความสา� คญั ของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ีบริษนทั นสรา บังสรถรคสอื ื่อเพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากดั
๑๒. ๒
(มฐ. ส ๑.๑ ป.๒/๑) .SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
สรุปพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงการอ พุทธประวตั ิ
ประวตั ศิ าสดาทตี่ นนบั ถอื ตามทกี่ า� หนด (มฐ. อกผนวชหรือ พควราะมพสทุ �าธคศญั าสขนอาง
ส ๑.๑ ป.๒/๒)
๓. ชื่นชมและบอกแบบอย่างการด�าเนินชีวิตและข้อคิดจาก
ประวัติสาวก ชาดก เร่ืองเลา่ และศาสนกิ ชนตวั อยา่ งตามท่ี
กา� หนด (มฐ. ส ๑.๑ ป.๒/๓) พุทธประวัตแิ ละ
ความส�าคัญของ
สาระส�าคญั พระพทุ ธศาสนา

พระพุทธศาสนามีความส�าคัญต่อสังคมไทยเพราะเป็น
เอกลกั ษณ์ของชาตไิ ทยและเป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทย
พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา การศึกษา ๓

พุทธประวัติและชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวในอดีตชาติของ ชาดก
พระพทุ ธเจา้ แลว้ นา� แบบอยา่ งทด่ี ขี องพระองคม์ าปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ
ประจา� วันจะทา� ให้มคี วามสุข และเกิดความสงบสุขในสังคม

ท�ำไมพระพุทธศำสนำ
จึงถือว่าเป็นเอกลักษณ์

ของชำติไทย

บรษิ ทั สรา งสรรคส ่อื เพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ประชากรในประเทศไทยนับถือพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่
พระพทุ ธศาสนาจงึ เปน็ พนื้ ฐานในการดา� เนนิ ชวี ติ และมอี ทิ ธพิ ลตอ่ วถิ ชี วี ติ
ของคนไทย โดยสะท้อนออกมาในรูปแบบของวัฒนธรรม ศิลปกรรม
ขนบธรรมเนียมและประเพณีไทย อิทธิพลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า

๑พระพุทธศาสนากอ่ ให้เกิดเอกลักษณ์ประจ�าชาติไทย
ความส�าคัญของพระพทุ ธศาสนา
พระพุทธศาสนามีความส�าคัญต่อสังคมไทยและมีอิทธิพลต่อ

การดา� เนนิ ชวี ติ ของคนไทยหลายๆ ดา้ น จนกลายเปน็ เอกลกั ษณข์ องชาตไิ ทย
บริษัท สรางสรรคส่ือเพือ่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

และเปน็ รากฐานของวัฒนธรรมไทย ดงั นี้.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD

๑.๑ เอกลักษณ์ด้านอุปนิสัยของคนไทย

อปุ นสิ ยั ของคนไทยสว่ นใหญไ่ ดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากพระพทุ ธศาสนา
เพราะคนไทยนา� หลกั ธรรมคา� สอนทางพระพทุ ธศาสนามาปรบั ใชใ้ หเ้ ขา้ กบั
การด�าเนินชีวิต จึงท�าให้คนไทยมีนิสัยใจคอที่อ่อนโยน มีน้�าใจ เอ้ือเฟื้อ
เผอ่ื แผ่ มคี วามเมตตากรณุ า รู้จักกตญั ญกู ตเวที เคารพเช่อื ฟงั ผูใ้ หญ่

๒ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๒

๑.๒ เอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีต
ประเพณีไทย

วัฒนธรรมและประเพณีไทย

สว่ นใหญไ่ ดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากพระพทุ ธ-

ศาสนา เช่น การแสดงความเคารพ

การอุปสมบท (การบวช) การท�าบุญ
ตักบาตร การท�ากิจกรรมในวันส�าคัญบรษิ ทั สรา งสรรคส ื่อเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ทางพระพุทธศาสนา การทอดผ้าป่า

ประเพณีลอยกระทง การทอดกฐิน

แหเ่ ทยี นพรรษา u ชายไทยท่ีนับถือพระพุทธศาสนาจะ
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เพ่ือศึกษา
พระธรรมวินยั

๑.๓ เอกลักษณ์ด้านวิถีชีวิต

วิถีชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่มี

ความผูกพันกับพิธีกรรมทางพระพุทธ-

ศาสนา เช่น การท�าบุญข้ึนบ้านใหม่บรษิ ทั สรางสรรคส อ่ื เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

การท�าบุญตักบาตรในวันคล้ายวันเกิด

การแต่งงาน จนกลายเป็นเอกลักษณ์

ของชาตไิ ทยทคี่ นไทยควรรว่ มกนั อนรุ กั ษ์

เพ่ือความสงบสุขของสังคมไทย และ

ด�ารงไวซ้ ึ่งพระพทุ ธศาสนา u พระพุทธศาสนากบั วิถชี วี ติ ของคนไทย
ก่อให้เกดิ เอกลกั ษณ์ที่ดงี ามทางด้าน
วฒั นธรรมและประเพณีไทย

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒ ๓

๒ พทุ ธประวัติ
พุทธประวัติ คือ ประวัติของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาของ
พระพุทธศาสนา การที่นักเรียนได้ศึกษาพุทธประวัติ จะท�าให้นักเรียน
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาของพระพุทธเจ้า ก่อให้เกิด
ความศรทั ธา และสามารถนา� แบบอยา่ งทด่ี ขี องพระองคม์ าเปน็ หลกั ปฏบิ ตั ติ น
เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสงบสขุ ในสังคมและการด�าเนินชีวติ ประจ�าวนั

๒.๑ ประสตู ิ บรษิ ทั สรางสรรคส ่ือเพ่อื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

พระพทุ ธเจา้ มพี ระนามเดมิ วา่ เจ้าชายสทิ ธัตถะ เปน็ พระราชโอรส

ของพระเจ้าสุทโธทนะกับพระนางสิริมหามายา เจ้าเมืองกบิลพัสดุ์

เม่ือพระมารดามีพระครรภ์แก่ ทรงมีพระราชประสงค์จะเสด็จกลับ

กรุงเทวทหะ ระหว่างทางทรง
หยุดพักผ่อน ณ ลุมพินีวัน
ตั้งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์
กบั กรงุ เทวทหะ และไดป้ ระสตู ิ
พระราชโอรสในวันข้ึน ๑๕ ค่�า
เดอื น ๖ กอ่ นพทุ ธศกั ราช ๘๐ ปีบริษทั สรา งสรรคสื่อเพ่อื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

u เจ้าชายสิทธัตถะประสตู ิในวันข้นึ ๑๕ ค�่า เดอื น ๖

หลังจากพระกุมารประสูติได้ ๕ วัน พระเจ้าสุทโธทนะได้เชิญ
พราหมณ์จ�านวน ๑๐๘ คน มาท�าพิธีขนานพระนาม ซึ่งในท่ีประชุม
ไดต้ ดั สนิ ใจขนานพระนามพระกมุ ารวา่ สทิ ธตั ถะ ซง่ึ แปลวา่ ผมู้ คี วามสา� เรจ็
ทกุ ประการ และพราหมณ์เหลา่ นนั้ ได้ทา� นายวา่ “หากพระกมุ ารไม่เสด็จ
ออกผนวชจะเปน็ พระราชาผ้ยู ่งิ ใหญ่ หากพระกุมารเสดจ็ ออกผนวชจะได้
เปน็ ศาสดาเอกของโลก” แตม่ พี ราหมณผ์ หู้ นง่ึ ชอื่ โกณฑญั ญะ ไดท้ า� นายว่า

4 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒

“พระกุมารจะเสด็จออกผนวช และจะไดต้ รสั ร้เู ปน็ พระพทุ ธเจ้า”
เม่ือเจ้าชายสิทธัตถะประสูติได้ ๗ วัน พระนางสิริมหามายา

กส็ วรรคต เจา้ ชายสทิ ธตั ถะจงึ อยใู่ นความดแู ลของพระนางมหาปชาบดโี คตมี
ซงึ่ มีศักด์ิเป็นพระน้านางของเจ้าชายสิทธัตถะ

๒.๒ เหตุการณ์หลงั ประสตู ิ
๑. พระราชพิธแี รกนาขวัญบรษิ ัท สรา งสรรคส อ่ื เพื่อการเรียนรู (สสร.) จํากัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เม่ือถึงฤดูท�านาจะมีพระราชพิธีแรกนาขวัญเป็นประจ�าทุกปี
โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ประกอบพิธี เพ่ือเป็นขวัญก�าลังใจแก่
เกษตรกร พระเจา้ สทุ โธทนะทรงพาเจา้ ชายสทิ ธตั ถะไปรว่ มพธิ แี รกนาขวญั
ทรงให้เจ้าชายสิทธัตถะพักอยู่กับพี่เล้ียง แต่บรรดาเหล่าพ่ีเล้ียงและ
นางสนมพากันออกไปชมพระราชพิธีแรกนาขวัญ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ
ทรงอยู่ตามล�าพัง พระองค์ได้เสด็จไปประทับใต้ต้นหว้าใหญ่ ทรงคิด
และพิจารณาถึงส่ิงต่างๆ ที่ทรงพบเห็น จนเกิดสมาธิขั้นแรกที่เรียกว่า
ปฐมฌาน ทรงเห็นถึงความทุกข์ท่ีก�าลังครอบง�าผู้คนและสรรพสัตว์
ท้งั หลายตลอดเวลา
ครั้นพระราชพิธีแรกนาขวัญเสร็จส้ินบรษิ ทั สรา งสรรคสอ่ื เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ในช่วงบ่าย เหล่าพ่ีเลี้ยงและนางสนมได้กลับ
มาหาเจ้าชายสิทธัตถะ ได้เห็นเหตุการณ์ที่เป็น
อัศจรรย์ คือ เงาของต้นหว้ายังให้ร่มเงาอยู่ท่ีเดิม
เสมือนเป็นเวลาตอนเท่ียงวัน จึงพากันน�าความ
ไปกราบทูลพระเจ้าสุทโธทนะให้ทรงทราบเรื่อง
เมื่อพระเจ้าสทุ โธทนะทรงเหน็ เหตกุ ารณด์ งั กลา่ ว u เจา้ ชายสทิ ธตั ถะประทบั
ดว้ ยพระองคเ์ องแล้วก็ทรงยกพระหัตถ์นมัสการ นัง่ สมาธิใตต้ น้ หว้าใหญ่
ดว้ ยความเคารพ จนบรรลปุ ฐมฌาน

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒ 5

๒. การศกึ ษาเลา่ เรียน
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเจริญวัย
จนมีพระชนมายุครบ ๗ พรรษา ได้เข้า
ศกึ ษาทสี่ า� นกั ครวู ศิ วามติ ร ศกึ ษาศลิ ปวทิ ยา
ตา่ งๆ เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มเปน็ กษตั รยิ ์
ปกครองเมืองตามพระราชประสงค์
ของพระราชบดิ า เจา้ ชายสทิ ธตั ถะไดท้ รง
ศกึ ษาเลา่ เรยี นศลิ ปศาสตร์ ๑๘ ประการบริษทั สรางสรรคส อ่ื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ได้อย่างรวดเร็วและได้รับการถ่ายทอด u เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงศกึ ษา
จากพระอาจารย์จนหมดสิ้น ในส�านักครวู ิศวามิตร

๓. การอภเิ ษกสมรส
เม่ือเจ้าชายสิทธัตถะพระชนมายุ ๑๖ พรรษา พระเจ้า

สทุ โธทนะทรงมีพระราชประสงค์ให้เจ้าชายสิทธัตถะครองราชสมบัติ
เป็นกษัตริย์ต่อจากพระองค์ จึง
ทรงสร้างปราสาท ๓ ฤดู ได้แก่
ฤดรู ้อน ฤดูฝน ฤดหู นาว เพอ่ื ให้
เจ้าชายสิทธัตถะทรงเพลิดเพลิน

บรษิ ัท สรางสรรคส ่อื เพอ่ื การเรียนรู (สสร.) จํากัด

กับความสุข และทรงเห็นว่าถึง.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
เวลาสมควรทจี่ ะมพี ระชายา จงึ ให้
เจ้าชายสิทธัตถะอภิเษกสมรสกับ
พระนางยโสธรา (พมิ พา) พระราช-
ธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะและ
พระนางอมิตาแห่งกรุงเทวทหะ

uเจ้าชายสิทธัตถะอภเิ ษกสมรสกบั พระนาง
ยโสธรา (พมิ พา) เมื่อพระชนมายุ ๑๖ พรรษา

6 สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒

4. การพบเทวทูต 4
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ
มีพระชนมายุ ๒๙ พรรษา
พระองค์ประทับอยู่แต่เฉพาะ
ในปราสาทราชวัง วันหน่ึงมี
พระราชประสงคจ์ ะเสดจ็ ประพาส
อุทยาน เพ่ือทอดพระเนตร u เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาสอุทยาน
ทรงพบเทวทูตทั้ง ๔ คอื คนแก่ คนเจบ็
ภายนอกพระราชวัง คนตาย และสมณะ (นักบวช)บริษัท สรางสรรคส อ่ื เพื่อการเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาสอุทยานพร้อมกับนายฉันนะ
ได้พบเทวทูตทั้ง ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ (นักบวช)
ก็เกิดความสงสัย จึงถามนายฉันนะว่า ส่ิงเหล่าน้ีคืออะไร ท�าไมถึง
เป็นเช่นน้ัน นายฉันนะจึงกราบทูลว่า ส่ิงเหล่านี้ไม่มีใครหนีพ้น จะต้อง
ประสบกับความแก่ ความเจ็บ และความตายกันทุกคน เม่ือพระองค์ได้
พบสมณะ พระองคส์ งั เกตวา่ มกี ริ ยิ าสงบ สา� รวม ดนู า่ ศรทั ธาเลอื่ มใส ดงั นนั้
พระองค์จึงทรงคิดว่า สิ่งที่จะท�าให้พระองค์หลุดพ้นจากความทุกข์
เหล่านั้นได้ คอื การออกผนวชเป็นสมณะ

5. การเสด็จออกผนวช
บริษัท สรางสรรคส อ่ื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั เจ้าชายสิทธัตถะได้พบ

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เทวทูตท้ัง ๔ และทรงใคร่ครวญ
ถึงส่ิงท่ีพระองค์ทรงพบ จึงตัดสิน
พระทัยเสด็จออกผนวชในวันที่
พระโอรสราหุลประสตู ิ ซง่ึ พระองค์
อุทานว่า ราหุล (แปลว่า บ่วง)
เกิดแล้ว พันธนาการเกิดแล้ว
u เจ้าชายสทิ ธตั ถะทรงปลงพระเกศาด้วยพระขรรค์ พระองคท์ รงเหน็ วา่ พระโอรสราหลุ
รมิ ฝง่ั แมน่ า�้ อโนมา เพอื่ เสดจ็ ออกผนวช

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒ 7

เป็นสิ่งกระตุ้นให้ต้องรีบตัดสินพระทัย ด้วยทรงเกรงว่าหากล่าช้าไป
ความรักในพระโอรสอาจเป็นพันธะเหน่ียวรั้งจนไม่สามารถแสวงหา
หนทางดบั ทกุ ขไ์ ด้ ตอ่ มาพระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ออกจากพระราชวงั ในเวลากลางคนื
โดยทรงม้ากัณฐกะพร้อมกับนายฉันนะผู้ติดตามไปจนถึงริมฝั่งแม่น�้า
อโนมา พระองค์ทรงปลงพระเกศาด้วยพระขรรคแ์ ละเปลี่ยนเครอื่ งนุ่งหม่
ใหเ้ หมอื นกบั เครอื่ งนุ่งห่มของนักบวชทั้งหลาย

6. ตรัสรู้และปรินิพพาน
บรษิ ทั สรา งสรรคสอื่ เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั
หลังจากท่ีเสด็จออกผนวชแล้ว พระสิทธัตถะได้บ�าเพ็ญเพียร.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD

ด้วยการบ�าเพ็ญทุกรกิริยาเป็นเวลานาน ๖ ปี แล้วเปล่ียนมาเป็น
การบ�าเพญ็ เพียรทางจิต พระองค์จึงตรสั รู้หลักธรรมอริยสจั ๔ จนสา� เรจ็
เปน็ พระพุทธเจ้า ในวนั ขึน้ ๑๕ ค่า� เดอื น ๖ ณ ใตต้ ้นพระศรมี หาโพธิ์
ริมฝั่งแม่น้�าเนรัญชรา เม่ือพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ภายหลังพระองค์

ตรัสรู้แล้วได้เสด็จไปแสดงธรรม
ให้แก่สรรพสัตว์เพ่ือให้หลุดพ้น
จากความทกุ ข์ ทา� ใหผ้ คู้ นจา� นวนมาก
ที่ ไ ด ้ ป ฏิ บั ติ ต า ม ค� า ส่ั ง ส อ น ข อ ง
พระองค์ไดพ้ บกบั ความสุขบริษทั สรา งสรรคสอ่ื เพ่อื การเรียนรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ เผยแผ่
พระธรรมคา� สอนใหแ้ กป่ ระชาชนเปน็
เวลา ๔๕ ปี จงึ เสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พาน
เมอ่ื พระชนมายุ ๘๐ พรรษา ในวนั ขนึ้
๑๕คา่� เดอื น๖ณสาลวโนทยานเมอื ง
กสุ นิ ารา แควน้ มลั ละ ประเทศอนิ เดยี

uพระพทุ ธเจา้ ตรัสร้ใู นวันขน้ึ ๑๕ คา่� เดอื น ๖
ใต้ตน้ พระศรีมหาโพธิ์ ริมฝ่ังแมน่ า้� เนรัญชรา

88 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒

๓ ชาดก
ชาดก คือ เรอื่ งราวในอดตี ชาติของพระพทุ ธเจ้า กอ่ นท่ีพระองค์
จะประสตู แิ ละตรัสรู้เป็นพระพทุ ธเจา้ ในชาติสดุ ท้าย ซงึ่ มีแง่คิดคตสิ อนใจ
ในการปฏบิ ตั ิตน ในช้นั เรยี นน้นี กั เรียนจะไดศ้ กึ ษาชาดกเร่ือง “วรุณชาดก
และวานรนิ ทชาดก”

การศึกษาวรณุ ชาดก จะท�าใหเ้ ราได้ข้อคิดเกี่ยวกับการทา� งาน คอื
งานใดมคี วามจา� เปน็ เรง่ ดว่ นตอ้ งรบี ทา� กอ่ น และการศกึ ษาวานรนิ ทชาดกบริษัท สรา งสรรคส ่ือเพ่อื การเรียนรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ท�าให้เราได้ข้อคิดเก่ียวกับการมีสติ การใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาและ
คณุ ธรรม ๔ ประการ คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ และจาคะ ซ่ึงขอ้ คดิ ทง้ั หลาย
เหล่านี้ สามารถน�าไปประพฤติปฏบิ ัตใิ นชีวิตประจา� วันได้

๓.๑ วรณุ ชาดก (ศษิ ยผ์ ้เู กยี จคร้าน)

กาลคร้ังหน่ึง เมื่อคร้ังอดีตชาติของพระพุทธเจ้าเกิดเป็นอาจารย์
ทิศาปาโมกข์ มีศิษย์ร่วมส�านักอยู่ ๕๐๐ คน วันหนึ่งบรรดาศิษย์พากัน
ไปเก็บฟืนในป่า มีศิษย์ผู้หน่ึงเป็นคนเกียจคร้าน ได้มองเห็นต้นกุ่มใหญ่

ตน้ หนง่ึ แลว้ เขา้ ใจวา่ เปน็ ตน้ กมุ่ ทม่ี ไี มแ้ หง้
จึงคิดว่านอนพักเสียก่อนแล้วค่อยปีนขึ้น
ตน้ กมุ่ แล้วหกั กิ่งเอาไปทา� ฟนื บรษิ ัท สรา งสรรคส อ่ื เพ่ือการเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

ครั้นศิษย์อีกคนหน่ึงเดินผ่านมา
เห็นศิษย์คนเกียจคร้านนอนหลับอยู่
จงึ ปลกุ ใหต้ นื่ แลว้ เดนิ ผา่ นไป เมอื่ ศษิ ยห์ นมุ่
ต่ืนข้ึนมาก็รีบปีนขึ้นต้นกุ่มเพื่อจะหักกิ่ง
ไปทา� ฟนื เขาเหนยี่ วกงิ่ กมุ่ แลว้ หกั เตม็ แรง
จนถกู ปลายกง่ิ ทเ่ี หลอื ดดี เขา้ ตา ทา� ใหศ้ ษิ ย์ u ศษิ ยผ์ เู้ กยี จครา้ นถกู กง่ิ กมุ่ ดดี ดวงตา
ผนู้ นั้ ตาบอดเลอื ดไหลอาบดว้ ยความตกใจ จนบาดเจ็บ

สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๒ 9

และร้อนรนจึงรีบหักกิ่งกุ่ม
สดๆ ลงมาจากต้นก่มุ แล้ว
ท�าเป็นมัดแบกกลับไปยัง
สา� นกั พอไปถงึ ส�านักก็โยน
มัดฟืนกิ่งกุ่มสดรวมไปกับ
มดั ฟนื แหง้ ของศษิ ยค์ นอนื่ ๆ u ต้นกุ่มเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ดอกสขี าวอมเหลือง

ผลทรงกลมบรษิ ัท สรา งสรรคส อ่ื เพ่ือการเรียนรู (สสร.) จาํ กัด
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

เย็นวันนั้นมีชาวบ้านมาเชิญอาจารย์เพื่อไปท�าพิธีสวดมนต์
พราหมณ์ท่ีหมู่บ้าน วันรุ่งขึ้นอาจารย์ทิศาปาโมกข์จึงบอกศิษย์ทั้งหลาย
เรอ่ื งทต่ี อ้ งไปสวดมนตท์ ห่ี มบู่ า้ น โดยใหเ้ ตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ ม กนิ อาหารเชา้
จากส�านักแล้วจึงเดินทางไปท�าพิธี จากน้ันอาจารย์ก็ส่ังคนรับใช้ให้
ปรงุ อาหารตง้ั แตเ่ ชา้ มดื

เมื่อถึงเวลาเช้ามืด คนรับใช้รีบต่ืนข้ึนมาปรุงอาหาร แต่เพราะ
ความมดื จงึ หยบิ ฟนื กงิ่ กมุ่ สดของศษิ ยผ์ เู้ กยี จครา้ นผนู้ น้ั มา แมจ้ ะพยายาม
กอ่ ไฟนานเทา่ ไรไฟกไ็ มต่ ดิ ศษิ ยก์ ลมุ่ ทตี่ อ้ งเดนิ ทางไปทา� พธิ สี วดมนตจ์ งึ ไม่
สามารถไปทา� พธิ ไี ด้ เพราะยงั ไมไ่ ดก้ นิ อาหารเชา้ เมอ่ื อาจารยท์ ศิ าปาโมกข์
ทราบเรือ่ ง จึงกลา่ วต�าหนแิ ละส่งั สอนศิษย์ผู้เกยี จคร้านผู้น้ันว่าบริษทั สรางสรรคส อ่ื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จํากัด

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

“ความผิดในครงั้ นีเ้ ปน็ ผลมาจากความเกยี จครา้ น จนทา� ใหต้ นเองและผ้อู นื่
ตอ้ งเดอื ดร้อน งานใดมีความส�าคญั ตอ้ งรบี ทา� ให้ส�าเร็จ หากเกยี จคร้านแล้ว
พอกงานไว้ไม่เรง่ ท�า จะท�าใหเ้ กดิ ความเดอื ดร้อนในภายหลงั ”

ขอ้ คิดที่ไดร้ บั จากชาดกเรอื่ งน้ี

เราควรทา� งานตามลา� ดบั ความสา� คญั พจิ ารณาวา่ งานใดควรทา� กอ่ น งานใดควร
ทา� ทหี ลงั หากเราไม่เรียงล�าดบั ความส�าคญั ของงาน ยอ่ มจะทา� ให้เกิดความเสยี หาย

๑00 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒

๓.๒ วานรินทชาดก (พญาวานรเจ้าปญั ญา)

กาลคร้ังหน่ึง เม่ืออดีตชาติพระพุทธเจ้าเกิดเป็นพญาวานร
ช่ือ วานรินท์ อาศัยอยู่ในป่าท่ีมีแม่น�้าล้อมรอบและมีเกาะอยู่เกาะหนึ่ง
มผี ลไมอ้ ดุ มสมบรู ณ์ พญาวานรจะไปหากนิ ทเี่ กาะแหง่ นเ้ี สมอ โดยวธิ กี าร
กระโดดเหยียบหินกลางน�า้ เพ่อื ขา้ มฝัง่

เกาะแห่งน้ีมีจระเข้ ๒ ตัวผัวเมียอาศัยอยู่ เมื่อจระเข้ตัวเมีย
เห็นพญาวานรก็อยากกินหัวใจ จึงบอกกับจระเข้ตัวผู้ว่าอยากกินบรษิ ทั สรา งสรรคส ่อื เพอื่ การเรียนรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

หัวใจของพญาวานร จระเข้ตัวผู้
จึงคิดหาวิธีโดยไปนอนนิ่งอยู่
บนก้อนหินกลางน�้าท่ีพญาวานร
มกั จะกระโดดขา้ มฝ่ัง

เ มื่ อ พ ญ า ว า น ร ที่ ก� า ลั ง
จะข้ามฝั่งเห็นก้อนหินสูงผิดปกติ
จึงท�าทีร้องทัก จระเข้หลงกล
จึงตอบกลับไป เสียงตอบจาก
ก้อนหินกลางน�้าทา� ใหพ้ ญาวานร
รทู้ นั ทวี า่ ภยั กา� ลงั จะเกิดขึ้นกับตัว u พญาวานรใชไ้ หวพรบิ ปฏภิ าณกระโดดหนจี ระเข้

บริษทั สรา งสรรคส่อื เพือ่ การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

จึงรวบรวมสติ ถามออกไปว่า แท้จริงแล้วเจ้าเป็นใคร ต้องการส่ิงใด
จระเขจ้ งึ ตอบไปวา่ ขา้ คอื พญาจระเข้ จะมาเอาหวั ใจของเจา้

พญาวานรใช้ปัญญาไตร่ตรองอย่างมีสติ ก่อนบอกกับจระเข้ว่า
ตนยนิ ดมี อบหวั ใจให้ ขอใหจ้ ระเขอ้ า้ ปากรอไว้ แลว้ จะกระโดดไปหา จระเข้
จึงอ้าปากตามท่ีพญาวานรบอก แต่โดยธรรมชาติของจระเข้ เม่ืออ้าปาก
แล้วตาจะปิด พญาวานรจึงอาศัยจังหวะน้ีกระโดดเหยียบหัวจระเข้
แล้วทะยานขึน้ ฝัง่ อยา่ งปลอดภยั

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒ ๑๑

สรุป

พระพทุ ธศาสนา มคี วามสา� คญั ต่อสงั คมไทยในฐานะเป็นเอกลกั ษณ์
ของชาตไิ ทย ซ่งึ พจิ ารณาได้จากเอกลกั ษณ์ด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านอุปนสิ ยั
ของคนไทย ด้านวฒั นธรรมและประเพณี และดา้ นวถิ ชี ีวติ

พุทธประวัติ หมายถึง ประวัติของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาของ
พระพุทธศาสนา การศึกษาพุทธประวัติจะช่วยให้เกิดศรัทธาในคุณงาม
ความดีของพระพุทธเจ้า และสามารถน�าคุณธรรมของพระองค์มาเป็นบรษิ ัท สรา งสรรคส่ือเพื่อการเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

แบบอย่างในการด�าเนนิ ชวี ิตได้
ชาดก คอื เรอ่ื งราวของพระโพธิสัตว์ในชาติต่างๆ กอ่ นประสตู แิ ละ

ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย การศึกษาวรุณชาดกจะท�าให้
เราได้ข้อคิดเก่ียวกับการท�างาน คือ งานใดมีความจ�าเป็นเร่งด่วนต้อง
รีบท�าก่อน และการศึกษาวานรินทชาดกท�าให้เราได้ข้อคิดเก่ียวกับการมี
คุณธรรม การมีสติ และการใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา ซ่ึงข้อคิดเหล่าน้ี
สามารถนา� ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจ�าวันได้

บรษิ ทั สรา งสรรคส ือ่ เพื่อการเรยี นรู (สสร.) จํากดั

.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒ ๑๓

กจิ กรรมการเรยี นรู้เชงิ รุก

๑. ให้นักเรียนชมภาพยนตร์ หรือวีดิทัศน์เกี่ยวกับความส�าคัญของ
พระพทุ ธศาสนาเพือ่ เผยแพร่ความรู้

๒. ใหน้ กั เรยี นชมภาพยนตร์ หรอื วดี ทิ ศั น์ เรอื่ ง พระพทุ ธเจา้ มหาศาสดาโลก
ตอน เทวทูตท้ัง ๔ แล้วช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติ

บรษิ ัท สรางสรรคส ่ือเพอ่ื การเรยี นรู (สสร.) จาํ กดั

พระพทุ ธเจา้ ทปี่ รากฏในภาพยนตร์.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU(SSR.)CO.,LTD
๓. ให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ ๒ กล่มุ โดยให้กลมุ่ ที่ ๑ แสดงบทบาท

สมมติเร่ือง วรุณชาดก และกลุ่มท่ี ๒ แสดงเรื่อง วานรินทชาดก
แล้วให้นักเรียนยกตัวอย่างแบบอย่างการด�าเนินชีวิตและข้อคิด
ที่ไดร้ ับจากชาดก ๒ เรื่องน้ี

คา� ถามพฒั นาผเู้ รยี น

๑. เพราะเหตุใดพระพุทธศาสนาจึงได้ชื่อว่าเป็นบ่อเกิดเอกลักษณ์
บรษิ ัท สรางสรรคส ื่อเพอื่ การเรยี นรู (สสร.) จํากดั
.SRANGSANSUEPHUAKARNRIANRUU (SSR.) CO.,LTD
ของชาตไิ ทย

๒. การศกึ ษาพุทธประวัตมิ ีประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างไร

๓. การน�าข้อคิดจากวรุณชาดกและวานรินทชาดกไปประพฤติปฏิบัติ

จะเกิดผลดตี ่อตนเองและสงั คมอยา่ งไร

๑44 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.๒


Click to View FlipBook Version