ลิลิตตะเลงพ่าย
(๑-๕)
จัดทำโดย
นาย ปฏิภาณ คัมภีรศาสตร์ ม.5/2 เลขที่ 3
น.ส. รัญชิตา อัตตนาถ ม.5/2 เลขที่ 9
นาย เตชสิทธิ์ ศรีนารถนาวา ม.5/2 เลขที่ 11
น.ส. กัญญากรณ์ งามสม ม.5/2 เลขที่ 14
น.ส. ชัญญา ทิวารัตนอังกูร ม.5/2 เลขที่ 17
เสนอ
มิส ศรุตา นิจนิรันดร์กุล
โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
คำนำ
หนังสือ ลิลิตตะเลงพ่าย(๑-๕) รูปแบบ E-Book(เอกสารอิเล็กทรอนิกส์)
เป็นหนังสือที่คณะผู้จัดทำ ดำเนินการจัดทำขึ้น เพื่อใช้ในการเรียนรู้ บทประพันธ์
บทที่ ๑-๕ ของบทประพันธ์ลิลิตตะเลงพ่าย ตามผลงานการประพันธ์ ของ
สมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิต โดยมี มิส ศรุตา นิจนิรันดร์กุล
เป็นที่ปรึกษาการจัดทำ
แนวการนำเสนอเนื้อหาของหนังสือลิลิตตะเลงพ่าย(๑-๕) มุ่งเน้นให้ผู้อ่าน
ได้ศึกษาบทประพันธ์ เรื่องลิลิตตะเลงพ่าย ในบทที่๑-๕ และเพื่อให้เข้าใจถึง
คุณค่า ของบทประพันธ์ในด้านต่างๆ เช่น คุณค่าด้านคุณธรรม คุณค่าด้าน
วรรณศิลป์ และ คุณค่าที่สร้างสรรค์จากจินตนาการของกวี นอกจากนี้ยังส่ง
เสริมและกระตุ้นให้ผู้อ่านใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล นำไปสู่ความ
รู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดและวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ รู้ถึงข้อคิดใน
บทประพันธ์ ซาบซึ้งในวัฒนธรรมทางภาษาและความเป็นไทย โดยนำเสนออย่าง
น่าสนใจ
คณะผู้จัดทำหวังว่า หนังสือลิลิตตะเลงพ่าย(๑-๕) จะเป๊นประโยชน์ต่อ
การเรียนรู้บทประพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักการและบรรลุจุด
หมายของการจัดทำ และขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำหนังสือลิลิต
ตะเลงพ่าย(๑-๕) ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี หากมีข้อบกพร่องและข้อผิดพลาด
ประการใด คณะผู้จัดทำจึงขออภัยในความผิดพลาดมา ณ ที่นี้
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ หน้า
คำนำ ๑
บทที่ ๑ เหตุการณ์ทางกรุงหงสาวดี ๖
๘
๙
บทประพันธ์ บทที่ ๑ ๙
ถอดบทประพันธ์ บทที่ ๑ ๙
วิเคราะห์บทประพันธ์ บทที่ ๑
๑๐
บทประพันธ์ บทที่ ๒ ๑๐
ถอดบทประพันธ์ บทที่ ๒ ๑๐
วิเคราะห์บทประพันธ์ บทที่ ๒
๑๑
บทประพันธ์ บทที่ ๓ ๑๑
ถอดบทประพันธ์ บทที่ ๓ ๑๑
วิเคราะห์บทประพันธ์ บทที่ ๓
๑๒
บทประพันธ์ บทที่ ๔ ๑๒
ถอดบทประพันธ์ บทที่ ๔ ๑๒
วิเคราะห์บทประพันธ์ บทที่ ๔
บทประพันธ์ บทที่ ๕
ถอดบทประพันธ์ บทที่ ๕
วิเคราะห์บทประพันธ์ บทที่ ๕
บทประพันธ์
บทที่๑
๑(๖)๑ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัศดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุ บ มิ
หึง แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราช
นรินทร์ เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวย
ศวรรยา แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่ นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธ ก็บัญชาพิภาษ
ด้วยมวลมาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร
เพื่อกษัตริย์สองสู้ บ ร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ
แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยีย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธ
ก็เอื้อนสารเสาวพนจ์ แด่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพกับ
นครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยีบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย
ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธ
ก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญศึก บ มิย่อ ต่อสู้ศึก
บ มิหยอน ไป่พักวอนว่าใช้ ให้ ธ หวง ธ ห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ
จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธ ตรัสเยาะเยี่ยง
ขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักต์ผ่องเผือด
เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล
ทูลลาไท้ลีลาศ ธ ก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบล บ่ มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด
เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้ว ธ ให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว
บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง
ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง
คั่งคับนับเหลือตา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์
บพิตร ธ เทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุหบาตร จักยาตราตรู่เช้า
เสด็จคืนเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา
๑ เลขนอกวงเล็บเป็นเลขประจำบทประพันธ์เฉพาะหนังสือเล่มนี้เท่านั้น ส่วนเลขในวงเล็บนั้น ๑
เป็นเลขประจำบทประพันธ์ฉบับสมบูรณ์
บทประพันธ์
บทที่๑
๑(๖)๑ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัศดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุ บ มิหึง
แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์
เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา
แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่ นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธ ก็บัญชาพิภาษ ด้วยมว
ลมาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร
เพื่อกษัตริย์สองสู้ บ ร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ
แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยีย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธ
ก็เอื้อนสารเสาวพนจ์ แด่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพกับนคร
เชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยีบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้า
บาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชด
บัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญศึก บ มิย่อ ต่อสู้ศึกบ มิ
หยอน ไป่พักวอนว่าใช้ ให้ ธ หวง ธ ห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ
จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธ ตรัสเยาะเยี่ยง
ขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักต์ผ่องเผือด
เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูล
ลาไท้ลีลาศ ธ ก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบล บ่ มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด
เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้ว ธ ให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว
บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง
ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง
คั่งคับนับเหลือตา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์
บพิตร ธ เทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุหบาตร จักยาตราตรู่เช้า
เสด็จคืนเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา
สัมผัสผยัญชนะ สัมผัสสระ สัมผัสวรรณยุกต์
สัมผัสเสียงคู่ การเล่นคำ
๑ เลขนอกวงเล็บเป็นเลขประจำบทประพันธ์เฉพาะหนังสือเล่มนี้เท่านั้น ส่วนเลขในวงเล็บนั้น ๒
เป็นเลขประจำบทประพันธ์ฉบับสมบูรณ์
บทประพันธ์
บทที่๑
๑(๖)๑ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัศดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุ บ มิหึง
แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์
เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา
แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่ นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธ ก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวล
มาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร
เพื่อกษัตริย์สองสู้ บ ร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ
แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยีย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธ
ก็เอื้อนสารเสาวพนจ์ แด่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพกับ
นครเชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยีบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย
ข้อยผู้ข้าบาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธ
ก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญศึก บ มิย่อ ต่อสู้ศึกบ
มิหยอน ไป่พักวอนว่าใช้ ให้ ธ หวง ธ ห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ
จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธ ตรัสเยาะเยี่ยง
ขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักต์ผ่องเผือด
เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล
ทูลลาไท้ลีลาศ ธ ก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบล บ่ มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด
เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้ว ธ ให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว
บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง
ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง
คั่งคับนับเหลือตา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์
บพิตร ธ เทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุหบาตร จักยาตราตรู่เช้า
เสด็จคืนเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา
สัมผัสผยัญชนะ สัมผัสสระ สัมผัสวรรณยุกต์
สัมผัสเสียงคู่ การเล่นคำ
๑ เลขนอกวงเล็บเป็นเลขประจำบทประพันธ์เฉพาะหนังสือเล่มนี้เท่านั้น ส่วนเลขในวงเล็บนั้น ๓
เป็นเลขประจำบทประพันธ์ฉบับสมบูรณ์
บทประพันธ์
บทที่๑
๑(๖) ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัศดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุ บ มิหึง
แห่งเ๑อิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์
เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา
แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่ นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธ ก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวล
มาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร
เพื่อกษัตริย์สองสู้ บ ร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ
แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยีย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธ
ก็เอื้อนสารเสาวพนจ์ แด่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพกับนคร
เชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยีบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้า
บาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชด
บัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญศึก บ มิย่อ ต่อสู้ศึกบ มิ
หยอน ไป่พักวอนว่าใช้ ให้ ธ หวง ธ ห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ
จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธ ตรัสเยาะเยี่ยง
ขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักต์ผ่องเผือด เลือด
สลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้
ลีลาศ ธ ก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบล บ่ มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด
เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้ว ธ ให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว
บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง
ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง
คั่งคับนับเหลือตา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์
บพิตร ธ เทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุหบาตร จักยาตราตรู่เช้า
เสด็จคืนเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา
สัมผัสผยัญชนะ สัมผัสสระ สัมผัสวรรณยุกต์
สัมผัสเสียงคู่ การเล่นคำ
๑ เลขนอกวงเล็บเป็นเลขประจำบทประพันธ์เฉพาะหนังสือเล่มนี้เท่านั้น ส่วนเลขในวงเล็บนั้น ๔
เป็นเลขประจำบทประพันธ์ฉบับสมบูรณ์
บทประพันธ์
บทที่๑
๑(๖)๑ ฝ่ายพระนครรามัญ ขัณฑ์เขตด้าวอัศดง หงสาวดีบุเรศ รั่วรู้เหตุ บ มิหึง
แห่งเอิกอึงกิดาการ ฝ่ายพสุธารออกทิศ ว่าอดิศวรกษัตรา มหาธรรมราชนรินทร์
เจ้าปถพินทร์ผ่านทวีป ดับชนมชีพพิราลัย เอารสไทนฤเบศ นเรศวรเสวยศวรรยา
แจ้งกิจจาตระหนัก จึ่งพระปิ่ นปักธาษตรี บุรีรัตนหงสา ธ ก็บัญชาพิภาษ ด้วยมวล
มาตยากร ว่านครรามินทร์ ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราช เยียววิวาทชิงฉัตร
เพื่อกษัตริย์สองสู้ บ ร้างรู้เหตุผล ควรยาตรพลไปเยือน เตือนประยุทธ์เอาเปรียบ
แม้นไป่เรียบเป็นที โจมจู่ยีย่ำภพ เสนีนบนึกชอบ ระบอบเบื้องบรรหาร ธ
ก็เอื้อนสารเสาวพนจ์ แด่เอารสยศเยศ องค์อิศเรศอุปราช ให้ยกยาตราทัพกับนคร
เชียงใหม่ เป็นพยุหใหญ่ห้าแสน ไปเหยีบแดนปราจิน บุตรท่านยินถ้อถ้อย ข้อยผู้ข้า
บาทบงสุ์ โหรควรคงทำนาย ทายพระเคราะห์ถึงฆาต ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชด
บัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เชี่ยวชาญ หาญศึก บ มิย่อ ต่อสู้ศึกบ มิ
หยอน ไป่พักวอนว่าใช้ ให้ ธ หวง ธ ห้าม แม้นเจ้าคร้ามเคราะห์กาจ
จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรีย์สร่างเคราะห์ ธ ตรัสเยาะเยี่ยง
ขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักต์ผ่องเผือด เลือด
สลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณตบทมูล ทูลลาไท้
ลีลาศ ธ ก็ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบล บ่ มิหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด
เร่งแจงจัดจตุรงค์ ลงมาสู่หงสา แล้ว ธ ให้หาเมืองออก บอกทุกแดนทุกด้าว
บอกทุกท้าวทุกเทศ ทั่วทุกเขตทุกขอบ รอบสีมามณฑล ทราบนุสนธิ์ทุกแห่ง
ต่างตกแต่งแสะสาร แสนยาหาญมหิมา คลาบรรลุเวียงราช แลสระพราศสระพรั่ง
คั่งคับนับเหลือตา ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแต่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์
บพิตร ธ เทียบทัพหลวง โดยกระทรวงพยุหบาตร จักยาตราตรู่เช้า
เสด็จคืนเข้านิเวศไท้ เกรียมอุระราชไหม้ หม่นเศร้าศรีสลาย อยู่นา
สัมผัสผยัญชนะ สัมผัสสระ สัมผัสวรรณยุกต์
สัมผัสเสียงคู่ การเล่นคำ
๑ เลขนอกวงเล็บเป็นเลขประจำบทประพันธ์เฉพาะหนังสือเล่มนี้เท่านั้น ส่วนเลขในวงเล็บนั้น ๕
เป็นเลขประจำบทประพันธ์ฉบับสมบูรณ์
ถอดบทประพันธ์
บทที่๑
ฝ่ายมอญพม่า นั่นก็คือ กรุงหงสาวดี ได้รับรู้ถึงข่าวว่าพระมหาธรรมราชา
กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จสวรรคต พระราชโอรส คือ พระนเรศวรได้ขึ้น
ครองราชย์สมบัติต่อ จึงได้ประชุมในหมู่อำมาตย์แล้วปรึกษากันว่า กรุงศรีอยุธยา
ในตอนนี้มีการเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ในบางทีโอรสทั้งสองพระองค์อาจจะมีการ
ทะเลาะวิวาท กันเพื่อแย่งชิงราชสมบัติ ในเวลาแบบนี้เราควรยกทัพไปดู
สถาณการณ์ ถ้าหากว่าได้เปรียบก็จะได้ทำสงครามแย่งชิงบ้านเมือง เหล่าขุนนาง
ทั้งหลายต่างก็เห็นชอบตามพระราชดำริ จึงได้รับสั่งให้พระมหาอุปราชา ราชโอรส
จัดเตรียมกองทัพพร้อมด้วยทัพจากเมืองเชียงใหม่เป็นจำนวนห้าแสนคนยกไปตี
กรุงศรีอยุธยา มีโหรกล่าวบังคมทูลพระอุปราชาว่าพระองค์เคราะห์ร้ายชะตาอาจ
ถึงฆาต พระเจ้าหงสาวดีจึงตรัสประชดว่า “เจ้าอยุธยามีโอรสเก่งกล้าสามารถใน
การรบ ไม่ต้องให้พระบิดาใช้ แต่กลับต้องไม่ให้ทำศึกเสียอีก ถ้าเจ้าเกรงว่าอาจจะ
เคราะห์ร้ายนักก็อย่าไปทำสงครามเลย นำผ้าสตรีมานุ่งเถิดจะได้หมดเคราะห์หมด
ห่วง” พระมหาอุปราชาทรงอับอายเหล่าขุนนางและข้าราชการเป็นอันมาก จึงจัด
เตรียมยกทัพทหารโดยเกณฑ์จากหัวเมืองต่างๆ มากหน้าหลายตา รวมห้าแสน
คนเตรียมยกทัพไปในเวลาเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
๖
ข้อคิดของบทประพันธ์
ความเชื่อและศรัทธาเป็นดาบสองคม แต่หากไม่มี สติและปัญญา คอยกำกับ
ก็จะกลายเป็นความงมงายในที่สุด
คำอธิบายศัพท์ในบทประพันธ์
กระทรวงพยุหบาตร ตามแบบแผนของกระบวนทัพ
กิศดาการ ข่าวอันเป็นที่เลื่ องลือ
จตุรงค์ ทหารสี่เหล่า คือ ช้าง ม้า รถและคน
ชิงฉัตร ชิงราชบัลลังก์
แดนปราจิน แดนด้านตะวันออกของพม่า คือ
กรุงศีอยุธยา
นครรามินทร์ เมืองของพระรามในที่นี้หมายถึง
กรุงศรีอยุธยา
บรรหาร พูด
พสุธารออกทิศ แดนด้านตะวันออกของพม่า คือ
กรุงศีอยุธยา
๗
วิเคราะห์บทประพันธ์
บทที่๑
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (โวหาร)
บรรยายโวหาร
มีการอธิบายถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ตามลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่ที่
กรุงศรีอยุธยามีการเปลี่ยนแผ่นดิน
การประชุมของกรุงหงศาวดี การทำนายของโหร การเตรียมกองทัพ
อธิพจน์
มีการกล่าวเกินจริงที่ว่า" ด้วยมวลมาตยากร ว่านครรามินทร์"
โดยเปรียบอยุธยาเป็นดั่งนครรามินทร์หรือคือเมืองของพระราม เพราะเปรียบ
กษัตริย์ไทยเหมือนกับพระรามซึ่งเป็นอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์
อุปลักษณ์
มีคำว่า"ชิงฉัตร"ฉัตรที่กล่าวถึงนี้เป็นการเปรียบเทียบซึ่งหมายถึงการแย่งชิงราช
สมบัติ
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้คำ)
จินตภาพด้ารภาพ
มีการแสดงให้เห็นถึงจินตภาพด้านภาพอย่างชัดเจนที่ว่า
"นวลพระพักต์ผ่องเผือด เลือดสลดหมดคล้ำ ช้ำกมลหมองมัว"
โดยแสดงให้เห็น ถึงพระพักต์ที่สีซีดเผือก หมองคล้ำ มืดมน
คุณค่าด้านสังคม
มีการแสดงให้เห็นถึง ความเชื่อของผู้คนในสมัยอดีตว่ามีความเชื่อ
ที่หนักแน่นเกี่ยวกับโชคชะตาดวงเคราะห์ การทำนายต่างๆ โดยมีความเชื่อแบบ
สนิทใจ และเห็นได้ว่ามีความสำคัญนั่นคือมีโหรที่ทำนายในราชวัง นอกจากนี้
ในปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อเหล่านี้แฝงอยู่ในชีวิตประจำวัน
๘
บทประพันธ์
บทที่๒
๒(๗) พระผาดผายสู่ห้อง หาอนุชนวลน้อง
หนุ่มเหน้าพระสนม
สัมผัสผยัญชนะ สัมผัสสระ สัมผัสวรรณยุกต์
ถอดบทประพันธ์
บทที่๒
พระองค์เสด็จไปยังห้องของพระสนมอย่างรวดเร็วและเร่งรีบ
ซึ่งเป็นพระสนมที่กำลังสาว
วิเคราะห์บทประพันธ์
บทที่๒
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้คำ)
จินตภาพด้านการเคลื่อนไหวอย่างสวยงาม
มีการแสดงให้เห็นถึงจินตภาพด้านการเคลื่ อนไหวอย่างสวยงามว่า
"พระผาดผายสู่ห้อง หาอนุชนวลน้อง" โดยแสดงให้เห็นว่า พระองค์กำลังเสด็จ
ไปยังห้องของพระสนมอย่างรวดเร็วและเร่งรีบ
๙
บทประพันธ์
บทที่๓
๓(๘) ปวงประนมนบเกล้า งามเสงี่ยมเฟี้ ยมเฝ้า
อยู่ถ้าทูลสนอง
สัมผัสผยัญชนะ สัมผัสสระ สัมผัสวรรณยุกต์
ถอดบทประพันธ์
บทที่๓
เมื่อพระองค์มาถึงห้องของพระสนมแล้ว พระองค์ก็ได้บอกลากับพระ
สนม
วิเคราะห์บทประพันธ์
บทที่๓
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้คำ)
จินตภาพด้านการเคลื่อนไหวอย่างสวยงาม
มีการแสดงให้เห็นถึงจินตภาพด้านการเคลื่ อนไหวอย่างสวยงาม
อย่างชัดเจนที่ว่า
"ปวงประนมนบเกล้า งามเสงี่ยมเฟี้ ยมเฝ้า" โดยแสดงให้เห็น ถึงท่วงท่าที่
งดงาม
๑๐
บทประพันธ์
บทที่๔
๒(๗) กรตระกองกอดแก้ว เรียมจักร้างรสแคล้ว
คลาดเคล้าคลาสมร
สัมผัสผยัญชนะ สัมผัสสระ ไ่ม่มีสัมผัสวรรณยุกต์
ถอดบทประพันธ์
บทที่๔
พระองค์สวมกอดพระสนม และพระสนมก็ขอให้พระองค์แคล้วคลาด
ปลอดภัยกลับมา
วิเคราะห์บทประพันธ์
บทที่๔
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้คำ)
สั มผัสพยัญชนะ
"กรตระกองกอดแก้ว เรียมจักร้างรสแคล้ว คลาดเคล้าคลาสมร" โดยมีการใช้พยัญชนะคือ
ก ร และ ค ล ในการสัมผัสอย่างสวยงาม และตรงตามหลักการแต่งโคลง๒สุภาพ
สั มผัสสระ
"กรตระกองกอดแก้ว เรียมจักร้างรสแคล้ว คลาดเคล้าคลาสมร"โดย
มีสัมผัสระคือ กองกอด ในการสัมผัสอย่างสวยงาม
๑๑
บทประพันธ์
บทที่๕
๒(๗) จำใจจากสร้อย อยู่แม่อย่าละห้อย
ห่อนเช้าคืนสม แม่แล
สัมผัสผยัญชนะ ไม่มีสัมผัสสระ ไม่มีสัมผัสวรรณยุกต์
ถอดบทประพันธ์
บทที่๕
พระองค์ต้องจำใจจากพระสนม แต่ขอให้พระสนมอย่าเศร้าใจไป
จะกลับมาในไม่ช้า
วิเคราะห์บทประพันธ์
บทที่๕
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (รสวรรณคดี)
สั ลลาปังคพิสั ย
มีการแสดงให้เห็นถึงความเศร้าโศกจากการจากลากับพระสนม
"จำใจจรจากสร้อย" โดยแสดงให้เห็นว่า พระองค์เศร้าโศกและทุกข์ใจกับการ
ต้องจากไปกับพระสนมอันเป็นที่รัก
๑๒