หนังสือ สื รายวิชาพื้นฐาน อาณาจัก จั รล้า ล้ นนา ชั้น ชั้ มัธ มั ยมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิ รู้ วิ ชาสัง สั คมศึก ศึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ฉบับ บั ปรับปรุง รุ พุทธศัก ศั ราช ๒๕๖๖ ม.๔ ผู้จั ผู้ ด จั เรียง นายพรหมลิขิต ขิ ทิพ ทิ ย์สีร สี าช นายสมัช มั ญ์ ดุกขุน ขุ ทด นางสาวฐิติม ติ า รอดเมือ มื ง นางสาวศิร ศิประภา อ่อนน้อม นางสาวอริสราภา แสนเพียร
หนังสือ สื รายวิชาพื้นฐาน อาณาจัก จั รล้า ล้ นนา ม.๔ ชั้น ชั้ มัธ มั ยมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิ รู้วิชา สังสัคมศึก ศึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูต สู รแกนกลางการศึก ศึ ษา ขั้นขั้พื้นฐาน ฉบับบั ปรับปรุง รุ พุทธศักศัราช ๒๕๖๖ ผู้จั ผู้ ด จั เรียง นักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชลบุรี นายพรหมลิขิตขิทิพทิย์สีร สี าช นายสมัชมัญ์ ดุกขุน ขุ ทด นางสาวฐิติมติา รอดเมือ มื ง นางสาวศิรศิประภา อ่อนน้อม นางสาวอริสราภา แสนเพียร
คำ นำ หนังสือ สื เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาประวัติศติาสตร์ไทย : อาณาจักรล้าน นา ส31103 ชั้นมัธ มั ยมศึก ศึ ษาปีที่ ๔ ของนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยา ลับ ชลบุรี โดยมีจุ มี จุ ดประสงค์เพื่อศึก ศึ ษาเรื่องราวทางประวัติศติาสตร์ของล้าน นา ประวัติคติวามเป็นมาของอาณาจักร การล่มสลายของอาณาจักร โดยผู้จัด ทำ ได้คำ นึงถึง ถึ ความถูกต้องของข้อมูลเป็นอย่างมาก และหวังว่าหนังสือ สื ฉบับ บั นี้จะให้ความรู้ค รู้ วามเข้าใจแก่ผู้อ่านทุกๆท่า ท่ น ๓
สารบัญ บั เรื่องที่๑ ที่ ประวัติศ ติ วามเป็นมาของอาณาจักรล้านนา………..๕ หน้า น้ เรื่องที่๒ ที่ ตำ แหน่งที่ตั้ ที่ ตั้ ง ตั้ ของอาณาจักรล้านนา…………………..๖ เรื่องที่๓ ที่ ความโดดเด่นของอาณาจักรล้านนา………….…….๗ เรื่องที่๔ ที่ ความเชื่อที่เ ที่ กี่ย กี่ วข้องอาณาจักรล้านนา………….….๘ เรื่องที่๕ ที่ การค้าขายของอาณาจักรล้านนา……………………….๙ เรื่องที่๖ ที่ การเมือ มื งการปกครองอาณาจักรล้านนา……….……๑๐ เรื่องที่๗ ที่ การแต่งกายของอาณาจักรล้านนา…………………….๑๑ เรื่องที่๘ ที่ การล่มสลาย ของอาณาจักรล้านนา…………….…….๑๒ แผนที่ข ที่ องอาณาจักรล้านนา………………………………..…………..๑๓ คำ ถามท้ายบท…………………………………………………………..………๑๔ เฉลยคำ ถามท้ายบท………………………………………………………….๑๕ บรรณานุกรม……………………………………………………………..…….๑๖ ๔
เรื่อ รื่ งที่ ๑ประวัติค ติ วามเป็นมาของอาณาจักรล้านนา ความเป็นมา อาณาจักรล้านนา เริ่มก่อตั้งตั้ขึ้นขึ้เมื่อมื่พญามังมัรายทรงสร้างเมือมืงเชียงใหม่ใน พ.ศ. 1839 เพื่อให้ เป็นศูนศูย์กลางการปกครองของเมือมืงที่อที่ยู่ภายใต้พระราชอำ นาจของพระองค์ และได้ดำ รงอยู่ ต่อมา 600 ปีเศษจนถึงถึพ.ศ. 2442 เมื่อมื่พระบาทสมเด็จ ด็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง ประกาศยกเลิกหัวเมือมืงประเทศราชให้อาณาจักรล้านนาซึ่งอยู่ในฐานะเมือมืงประเทศราชเปลี่ยน ฐานะเป็นมณฑลพายัพก่อตั้งตั้อาณาจักรล้านนาได้แก่ พญามังมัราย (พ.ศ. 1782 – 1854) ซึ่ง ตามตำ นานพื้นเมือมืงเชียงใหม่กล่าวว่า เป็นโอรสของลาวเมง กษัตริย์องค์ที่ 24 แห่งแคว้นหิรัญ นคร หรือเงินงิยางเชียงแสน พระมารดาคือ นางอั้วอั้มิ่งมิ่จามเมือมืง หรือ นางเทพคำ ข่าย ซึ่งเป็นธิดธิาของท้าวรุ่งรุ่แก้นชาย กษัตริย์ไทลื้อแห่ง เมือมืงเชียงรุ้งรุ้เขตสิบสิสองปันนาพญามังมัรายประสูติสูเติมื่อมื่พ.ศ. 1782 ต่อมาเมื่อมื่พระบิดบิาสวรรคต ก็ไก็ ด้เสวยราชย์แทนใน พ.ศ. 1804 เป็นกษัตริย์ราชวงศ์ล ศ์ าวจังกราชองค์ที่ 25 ซึ่งเป็นองค์ สุดสุท้ายหลังจากขึ้นขึ้ครองราชแล้ว พญามังมัรายมีปมีระสงค์จะสร้างอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่จึงทรง รวบรวมเมือมืงต่างๆ เข้าไว้ในอำ นาจ และทรงสร้างเมือมืงใหม่และย้ายราชธานีมายังเมือมืงที่สที่ร้าง ใหม่ตามลำ ดับดัดังดันี้ พ.ศ.1805สร้างเมือมืงเชียงราย พ.ศ.1816 สร้างเมือมืงฝาง (อำ เภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ในปัจจุบันบั) พ.ศ. 1829 สร้างเวียงกุมกาม (อยู่ในอำ เภอสารภี จังหวัด เชียงใหม่) ๕
เรื่อ รื่ งที่ ๒ ตำ แหน่งที่ตั้ ที่ ตั้ ง ตั้ ของอาณาจักรล้านนา ที่ตั้ ที่ตั้งตั้หลักฐานทางประวัติศติาสตร์กล่าวไว้ว่า ดินดิแดนล้านนานั้นหมายถึง ถึ ดินดิแดนบาง ส่วนของอาณาเขตบริเวณ ลุ่มน้ำ แม่โขง ลุ่มน้ำ สาละวิน แม่น้าเจ้าพระยา ตลอดจน เมือ มื งที่ตั้ ที่ตั้งตั้ตามลุ่มน้ำ สาขาเช่นแม่นำ กก แม่น้ำ ปิง แม่น้ำ วัง แม่น้ำ ยม แม่น้ำ น่าน แม่น้ำ ปาย แม่น้ำ แตง แม่น้ำ งัดงัฯลฯโดยมีอ มี าณาเขตทางทิศทิใต้จดเมือ มื งตาก (อำ เภอบ้านตาก ในปัจจุบันบั) และจดเขตดินดิแดนด้านเหนือของอาณาจักรสุโสุขทัยทัทิศทิตะวันตกเลยลึก เข้าไปในฝั่งฝั่ตะวันตกของแม่น้ำ สาละวิน ทิศทิตะวันออกจดฝั่งฝั่ตะวันตกของแม่น้ำ โขง ทิศทิเหนือจดเมือ มื งเชียงรุ่งรุ่ (หรือคนจีนเรียกในปัจจุบันบัว่า เมือ มื งจิ่งหง) ซึ่งบริเวณชาย ขอบของล้านนา อาทิ เมือ มื งเชียงตุงตุเชียงรุ่งรุ่เมือ มื งยอง เมือ มื งปุ เมือ มื งสาด เมือ มื งนาย เป็นบริเวณที่รั ที่รัฐล้านนาแผ่อิทอิธิพธิล ไปถึง ถึในเมือ มื งนั้นๆ ๖
เรื่อ รื่ งที่ ๓ ความโดดเด่นของอาณาจักรล้านนา จุดเด่นของอณาจักรล้านนา คือ ตอนนี่สมัย มั ยุครุ่ง รุ่ เรือง ความเจริญของล้านนานั้นเริ่ม ปรากฏอย่างเด่นชัดนับตั้ง ตั้ แต่ สมัย มั พญากือ กื นาเป็นต้นมา ด้วยการทำ ให้เชียงใหม่เป็น ศุน ศุ ย์กลางศาสนาแทนหริภุญภุ ชั ยพระองค์ทรงรับพุทธ ศาสนา นิกายลังกาวงศ์จ ศ์ ากสุโ สุ ขทัย ทั และอาราธนาพระสุม สุ นเถระ มาจำ พรรษาที่วั ที่วั ดสวนดอก ใน ช่วงเวลานี้หลักฐานสำ คัญคือ จารึกวัดพระยืนนั้นกล่าวถึง ถึ การอัญ อั เชิญพระธาตุโ ตุ ดยพระ สุม สุ นเถระจากสุโ สุ ขทัย ทั ขึ้น ขึ้ มา ๗
ความเชื่อ ความเชื่อดั้งเดั้ดิมของชาวดิล้านนา มีแนวมีคิดพื้นฐานเกี่ยวกี่กับเกัรื่องผี ผสมผสานกับความเกั ป็นพุทธได้อย่างลงตัวตั เสมือนหมืนึ่งว่าผีและผีพุทธร่วม กันสกัร้างโลกทัศทัน์ให้ชาวล้านนามีรูมีปแบบเฉพาะของตนเองรู ดังเดัช่นใน ขณะที่มีที่การเมีลี้ยงผีปู่ผีปู่แสะย่าแสะ ก็จะ ก็ ต้องขึงภาพพระบฏเขึพื่อเป็น สัญสัลักษณ์การมา ณ์ ถึงของพระถึพุทธเจ้าด้วย •ผี ผีเป็นความเชื่อดั้งเดั้ดิมของชาวดิล้านนา มีลัมีลักษณะเป็นวิญญาณ ศักศัดิ์สิดิ์ทสิธิ์หธิ์รือเทวดาอารักษ์ที่คอยที่ดูแลคุ้มครองคนและสถานที่ใที่ห้ ปลอดภัยจากภัสิ่งสิ่ชั่วร้าย ดังดันั้นผีในโลก ผีทัศทัน์ของชาวล้านนาจึงไม่ได้น่า กลัวหรือคอยหลอกหลอนคน แต่ความรู้สึรู้กสึที่มีที่ต่มีต่อผีจะเผี ป็นเหมือนมืมิตรมิที่ สร้างความอุ่นใจใอุ่ห้กับตนกั ทั้งทั้นี้ผีก็ผีมี ก็ หมีน้าที่แตกที่ต่างกันไปตามสถาน กัที่ที่ที่ที่ ดูแล •ขวัญ ในความเข้าใจของชาวล้านนาหมายถึงถึ หมุดหมาย ศูนศูย์กลาง หรือสิ่งสิ่สำ คัญที่แสดงที่ถึงความถึมีตัมีวตนตั โดยเชื่อว่าขวัญของ คนอยู่กลางกระหม่อม เป็นสิ่งสิ่สำ คัญที่อที่ยู่คู่กับกัจิตและกาย คนปกติ ทั่วไปจะ ทั่มีขมีวัญครบสมบูรณ์ทั้ ณ์ ทั้งทั้ 32 ขวัญ •พุทธศาสนา เป็นอีกหอีนึ่งศรัทธาความเชื่อของชาวล้านนาที่ไที่ม่ เคยจางหายไป นับตั้งแตั้ต่ครั้งที่พระที่สุมณะเถระสุนำ พุทธศาสนาเถรวาท มายังดินแดนดิล้านนาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 ที่จิตวิญญาณของความเป็น ชาวพุทธทำ ให้เกิดงานกิศิลปกรรมทางศาสนา ศิที่มีที่ความงามและมีมีเสนมีห์ อย่างลึกซึ้ง •วัด รูปแบบรูวัดล้านนามีวิมีวิหารเป็นที่ประกอบ ที่พิธีกรรมธีต่างๆ โดยมีพระธามีตุเจตุดีย์ดีย์ เป็นศูนศูย์กลางของวัด ซึ่งทั้งสองทั้ส่วนนี้จะอยู่ในแนว เดียวดีกันกั รวมทั้งทั้ซุ้มประซุ้ตูโขงตูที่เที่ป็นประตูทางเตูข้าด้านหน้าวัดด้วย นอกจากวัดจะมีคุมีคุณค่าในด้านศิลปกรรม ศิล้านนาแล้ว วัดยังมีความมีสำ คัญ กับชาวกัล้านนา ในฐานะที่เที่ป็นศูนศูย์รวมจิตใจมาแต่อดีตดี เรื่อ รื่ งที่ ๔ ความเชื่อที่เ ที่ กี่ย กี่ วข้องอาณาจักรล้านนา ๘
เรื่อ รื่ งที่ ๕ การค้าขายของอาณาจักรล้านนา การค้าขาย จากที่ตั้ที่ตั้งตั้ของอาณาจักรล้านนาที่อที่ยู่ระหว่างเส้นทางการค้าของดินดิแดนในแถบพม่า จีน ลาว รวมถึงถึสุโสุขทัยทัและ อยุธยา จึงมีพ่มี พ่อค้ากลุ่มต่างๆ เดินดิทางมาติดติต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินสิค้ากันกัอยู่เสมอ จึงมีกมีารนำ ยังใช้เงินงิตราจากดินดิ แดนข้างเคียคีงเป็นสื่อสื่กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินสิค้า นอกเหนือจากเงินงิตราที่ผที่ลิตขึ้นขึ้ใช้เองในล้านนา เงินงิฮ้อย เงินงิลาด เงินงิลาดฮ้อย เป็นเงินงิตราที่อที่าณาจักรล้านช้างผลิตขึ้นขึ้ใช้ สันสันิษฐานว่าเริ่มใช้มาตั้งตั้แต่ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙ และใช้ต่อ เนื่องมาจนถึงถึสมัยมัรัชกาลที่ ๕ ที่ตัที่วตัเงินงิมีกมีารตอกประทับทัตราสัญสัลักษณ์ขณ์องอาณาจักรเช่น ตราช้าง ดอกไม้ ดอกพิกุล งู ตัวตัเลข ตัวตัหนังสือสืเป็นต้น เงินงิฮ้อย มีลัมีลักษณะเป็นแท่งท่ โลหะตันตัรูปรูร่างคล้ายเรือชะล่าหรือกระสวยทอผ้า หัวท้ายเรียว ด้านบนของเงินงิ ฮ้อยมีตุ่มีตุ่มตุ่ทั่วทั่ไปเป็นท้องบุ้งส่วนด้านล่างเรียบ ทำ จากโลหะเงินงิเจือด้วยทองแดงเล็ก ล็ น้อย แบ่งออกเป็น ๓ ชนิดตาม สัดสัส่วนของเนื้อเงินงิที่ผที่สมอยู่ เงินงิลาด ทำ จากโลหะทองลงหิน เคลือบผิวผิด้วยโลหะเงินงิรูปรูร่างคล้ายเงินงิฮ้อยแต่เรียวเล็ก ล็ กว่า มี ๓ ขนาด ไม่มีตุ่มีตุ่มตุ่ที่ตัที่วตัเงินงิแต่มีกมีารประทับทัตรารูปรูจักร ช้าง เต่า ปลา และดอกไม้ จากการผลิตที่มีที่กมีารเคลือบโลหะเงินงิที่ ประณีตณีมีรูมีปรูร่าง ขนาด น้ำ หนัก มีตมีราประทับทัที่ไที่ด้มาตรฐาน จึงเชื่อได้ว่าเป็นเงินงิตราที่ผที่ลิตจากโรงกษาปณ์หณ์ลวง เงินงิลาดเป็นเงินงิ ปลีกที่มีที่รมีาคาต่ำ เนื่องจากทำ ด้วยโลหะผสม เงินงิลาดฮ้อย ทำ จากทองแดงหรือทองเหลือง ลักษณะเหมือมืนเรือชะล่าและเรือขุดขุไม่มีกมีารประทับทัตราหรือทำ ลวดลายลงบนตัวตัเงินงิมีมูมีมูลค่าต่ำ สุดสุในท้องตลาดโดยมีค่มีค่าตามน้ำ หนักของโลหะที่หที่ล่อขึ้นขึ้ ประชาชนที่มีที่โมีลหะ ทองแดง ทองเหลือง สามารถหล่อขึ้นขึ้ใช้เองได้ จึงมีขมีนาดต่างกันกัไปตามปริมาณและน้ำ หนักของโลหะที่ใที่ช้หล่อ และมี ความประณีตณีในการผลิตต่างกันกัมาก ๙
เรื่อ รื่ งที่ ๖ การเมือ มื งการปกครองอาณาจักรล้านนา การปกครองและการเมือมืง •อาณาจักรล้านนาเป็นรัฐพื้นเมือมืง มีคมีติเติกี่ยกี่วกับกัรัฐและกษัตริย์มีรูมีปรูแบบเฉพาะของท้องถิ่นถิ่ที่เที่รียบ ง่าย โดยรับแนวคิดจารีตท้องถิ่นถิ่และแนวคิดที่ไที่ด้อิทอิธิพธิลจากพระพุทธศาสนา เมือมืงราชธานีไม่มีอำมีอำนาจ ในการปกครองมากนัก เนื่องด้วยปัญหาการคมนาคมที่ยที่ากลำ บากของรัฐในบริเวณที่รที่าบสูงสูส่งผลให้ ท่อท่งถิ่นถิ่ ปกครองตนเองอย่างอิสอิระ •สถาบันบักษัตริย์ สังสัคมล้านนาสมัยมัโบราณมีศูมีนศูย์กลางอย่างสถาบันบัพระมหากษัตริย์ กษัตริย์ทรงมีอำมีอำนาจสูงสูสุดสุในการ ปกครอง สถาบันบักษัตริย์ล้านนามีลัมีลักษณะที่เที่รียบง่าย อาทิ กษัตริย์จะสร้างคุ้มไม้ซึ่งเหมือมืนกับกั ประชาชน ทั่วทั่ไป ไม่ได้มีคมีวามโดดเด่น และกษัตริย์จะไม่มีฐมีานะเป็นสมมุติเติทพ จึงไม่พบพระนามกษัตริย์ล้านนา พระองค์ใดมีชื่มีชื่อทางฮินดู แต่พระนามกษัตริย์จะเป็นแบบพื้นเมือมืงตามท้องถิ่นถิ่ซึ่งเป็นเหตุผตุลหนึ่งที่ ไม่มีคำมีคำราชาศัพศัท์ใท์ นอาณาจักรล้านนา กษัตริย์จะมีภมีาษาที่สุที่ภสุาพกว่าประชาชน เนื่องจากมีกมีารพัฒนามา จากผู้นำ ชุมชมขนาดเล็ก ล็ และไม่ได้อิทอิธิพธิลจากขอม ในความเป็นมาของผู้นำ เกิดกิจากสังสัคมต้องการจัด ระเบียบีบ ดังดัปรากฏในตำ นานสิงสิหนวติกุติกุมารสะท้อน หลังเวียงโยนกได้ล่มเป็นน้ำ แล้ว ชาวบ้านที่รที่อด ชีวิตจึงต้องการผู้นำ ซึ่งได้ "แก่บ้านบูมผู้หนึ่งที่ชื่ที่ชื่อว่าขุนขุลังนั้น ให้เป็นใหญ่แก่เขาทั้งทั้ปวง ๑๐
เรื่อ รื่ งที่ ๗ การแต่งกายของอาณาจักรล้านนา การแต่งกาย •การแต่งกายของคนเมือมืงล้านนาในอดีตดีที่ผ่ที่ผ่านมาสันสันิษฐาน กันกัว่า จะนิยมทอผ้าฝ้ายและผ้าไหมขึ้นขึ้เพื่อใช้เป็นเครื่องนุ่มห่ม สำ หรับถวายพระภิกภิษุสงฆ์ หรือให้เป็นทานแก่ผู้ยากจน ตลอดจน เป็นสินสิค้าสำ หรับส่งไปขายยังอาณาจักรอื่นอื่ๆ ผ้าที่เที่ชื่อกันกัว่าทอขึ้นขึ้ ใช้ในสมัยมันั้นได้แก่ ผ้าสีจัสีจันทน์ขาว, ผ้าสีจัสีจันทน์แดง, ผ้าสีดสีอก จำ ปา, ผ้าธรรมดาและผ้ากัมกัพล เป็นต้น •เมื่อมื่ชาวล้านนานิยมการสักสัตามตัวตัในสมัยมัรัตนโกสินสิทร์นั้น ชาวล้านนามักมัจะไม่สวมเสื้อสื้นอกจากในการแต่งตัวตัเต็ม ต็ ยศ โดย ทั่วทั่ไปผู้ชายจะสักสัยันต์ตต์ามตัวตันุ่งผ้าต้อย ซึ่งเป็นผ้านุ่งขนาดต่าง ๆ กันกั โดยจะม้วนชายผ้าเป็นเกรียวสอดระหว่างขาซึ่งเป็นการนุ่งแบบ เดียดีวกับกัการถกเขมรและโจงกระเบน นิยมใช้ผ้าคล้องไหล่และโพก หัว ส่วนผู้หญิงจะนุ่งซิ่นลายขวางเกือกืบคล่อมเท้า ท่อท่นบนมีผ้มีผ้าผืนผื หนึ่งไว้คล้องคอ พันหน้าอก หรือ พาดบ่า เกล้าผมมวยกลางศรีษะ ปักปิ่นไว้ที่ผที่ม •หญิงชาวล้านนาจะนิยมห่มผ้าเฉียงแบบสไบเรียกว่า “ห่มผ้า สะหว้ายแล่ง” นุ่งผ้าซิ่น ส่วนผู้ชายจะนุ่งผ้าต้อยขนาดยาวแบบโจง กระเบน สวมเสื้อสื้คอจีนติดติกระดุม ถ้าเป็นเจ้านายจะสวมเสื้อสื้ไหม คล้ายเสื้อสื้ครุยรุทับทัอีกอีชั้นหนึ่ง มีผ้มีผ้าพันเอว 2 ผืนผืคือ รัดทับทัผ้าต้อย และเสื้อสื้ ๑๑
เรื่อ รื่ งที่ ๘ การล่มสลาย ของอาณาจักรล้านนา อาณาจักรล้านนาเริ่มเสื่อ สื่ มลงในปลายรัชสมัยมั “พญาแก้ว” เมื่อ มื่ กองทัพทัเชียงใหม่ได้พ่าย แพ้แก่ทัพทัเชียงตุงตุในการทำ สงครามขยายอาณาจักร ไพร่พล ในกำ ลังล้มตายลงเป็น จำ นวนมาก ประกอบกับกั ปีนั้น เกิดกิอุทอุกภัยภัใหญ่หลวงขึ้น ขึ้ในเมือ มื งเชียงใหม่ ทำ ให้ บ้าน เรือนราษฎรเสีย สี หายและผู้คนเสีย สี ชีวิตลงเป็น จําจํนวนมาก สภาพบ้านเมือ มื งเริ่มอ่อนแอ เกิดกิความไม่ มั่นมั่คง หลังจาก “พญาแก้ว” สิ้นสิ้พระชนม์ก็ ม์ เ ก็ กิดกิการ จลาจลแย่งชิงราช สมบัติบัติระหว่างขุนขุนางมีอำ มี อำนาจ มากขึ้น ขึ้ ถึง ถึ กับกัแต่งตั้งตั้หรือถอดถอนเจ้าได้ เมื่อ มื่ นคร เชียงใหม่ศูนศูย์กลางอำ นาจเกิดกิสั่นสั่คลอน เมือ มื งขึ้น ขึ้ ต่าง ๆ ที่อ ที่ ยู่ในการปกครองของ เชียงใหม่จึงแยกตัวตัเป็นอิสอิระ และไม่ส่งเครื่องราชบรรณาการอีก อี ต่อไป ในยุคนี้ล้านนา ถูกเข้าแทรกแซงอำ นาจจากอาณา จักร์ล้านช้างและอยุธยาซึ่งล้านช้างเป็นฝ่ายชนะใน การ แทรกแซงล้านนา ส่งผลให้ล้านช้างได้เข้ามามี อิทอิธิพธิลเหนือหัวเมือ มื งล้านนาทุกหัวเมือ มื ง ซึ่งเจ้าเมือ มื ง แต่ละหัวเมือ มื งได้ยอมอ่อนน้อมและอยู่ภายใต้ อำ นาจ ส่งผลให้อาณาจักร์ล้าน นากลายเป็นรัฐใน อารักขาของล้านช้างในที่สุ ที่ ดสุในระยะเวลาสั้นสั้ๆ ซึ่ง พระเจ้าโพธิศธิาลราช ได้กลายเป็นจักรพรรดิที่ดิที่อ ที่ ยู่ เบื้อ บื้ งหลังของการรวมล้านนาเข้าไว้กับกัล้านช้างใน ช่วงสั้นสั้ๆ โดยให้บุตรชายได้ปกครองเมือ มื งเชียงใหม่ ส่วนตนครองเมือ มื งหลวงพระบางต่อไป ซึ่ง เมือ มื ง หลวงพระบางในช่วงนี้มีอำ มี อำนาจเหนือแคว้นล้านนา ทุกหัวเมือ มื ง ๑๒
แผนที่อที่าณาจักจั รล้าล้ นนา ๑๓
คำ ถามท้า ท้ ยบท คำ ถามท้ายบท 1. ในปีที่พ ที่ ญามังมัรายทรงสร้าง “เวียงกวาดอยจอมทอง” และได้ชื่อว่า “เมือ มื งเชียงราย” นั้นเกิดกิเหตุก ตุ ารณ์ใณ์ ด 2. “ติโติลกจุฑาเทวี” เป็นตำ แหน่งพระมารดาของกษัตริย์พระองค์ใด 3. พระนามกษัตริย์ ”แสนเมือ มื งมา” มีที่ มีที่ม ที่ าอย่างไร 4. ราชบัลบัลังก์ใก์ นสมัยมัพญาติโติลกราชเรียกว่าอะไร 5. เหตุก ตุ ารณ์ใณ์ ดต่อไปนี้ ไม่ได้เกิดกิขึ้น ขึ้ในวัน “แปดเป๊ง” (หรือวันเพ็ญ พ็ เดือ ดื นแปดเหนือ ตรงกับกัวันวิสาขบูชา) 6. บุคคลใดต่อไปนี้ ที่มี ที่ บ มี ทบาทในการจุดชนวนสงครามระหว่างพญาติ โลกราชกับกัพระบรมโตรโลกนาถมากที่สุ ที่ ด สุ 7. เมื่อ มื่ ครั้งเจ้าฟ้าวชิราวุธเสด็จ ด็ เยือนมณฑลพายัพ เจ้าบุญวาทย์ ต้อง เดินดิทางไปรับเสด็จ ด็ ที่ใที่ ด 8. เมือ มื งโบราณใดต่อไปนี้ไม่ได้อยู่ในเขตลุ่มน้ำ แม่ปิง 9. “มันมัค็พ ค็ ระญา เราค็พ ค็ ระญา เราแพ้มันมัเท่าท่นั้น มันมัค็อ ค็ ายเราแล้ว…มึง มึ อย่าไปเทิอทิะ” เป็นคำ พูดใคร พูดถึง ถึใคร และกำ ลังพูดกับกัใคร 10. ข้อความในข้อ9ปรากฎในเอกสารใด ๑๔
เฉลยคำ ถาม เฉลยคำ ถามท้ายบท 1. ปีนั้น พญามัง มั รายทรงมีพ มี ระราชโอรสประสูติ สู ขึ้ ติ ขึ้ น ขึ้ ชื่อ ขุน ขุ เครื่อง 2. พญาสามฝั่ง ฝั่ แกน 3. ในปีที่พ ที่ ระองค์ถือ ถื กำ เนิดนั้น มีเ มี มือ มื งประเทศราชมาถวาย บรรณาการแก่พระบิด บิ ามากมายจึงได้ชื่อว่า แสนเมือ มื งนา 4. ตั่ง ตั่ งก 5. เจ้าท้าวลก ขึ้น ขึ้ เสวยสัม สั ปัตติเ ติ มือ มื งเชียงใหม่ เป็นพญาติโติ ลกกราช 6. เจ้าเมือ มื งเทิง ทิ 7. รอยต่อระหว่างแพร่-ลำ ปาง ในเขตอำ เภอลอง จ.แพร่ ใน ปัจจุบัน บั 8. เมือ มื งหอด 9. พญาติโติ ลกราช-พระบรมไตรโลกนาถ-หมื่น มื่ ดัง ดั 10. ตำ นานพื้นเมือ มื งเชียงใหม่ ๑๕
บรรณานุกรม เกริกฤทธี ไทคูนธนภพ. "สมัยมัสมเด็จ ด็ พระบรมไตรโลกนาถ." เล่า เรื่องกรุง รุ ศรีฯ ลำ ดับดัตามความพระราชพงศาวดาร.กรุง รุ เทพฯ : สยามความรู้,รู้ 2553. หน้า 86-99. ISBN 978-616-7110- 03-5 ทินทิกฤต สิรีสิรี รัตน์. (2564, ก.ค.-ธ.ค.). สมมติว่ติว่ามี “ล้านนา”: พื้นที่ อำ นาจ-ความรู้ และมรดกของอาณานิคมสยาม. วารสาร ประวัติศติาสตร์ ธรรมศาสตร์. 8 (2) : 169-202. พลาดิศัดิยศัสิทสิธิธัธิญธักิจกิ. เล่าขาน...ตำ นานสยาม. กรุง รุ เทพฯ : สยาม ความรู้,รู้ 2554. ISBN 978-616-7110-06-6 สรัสวดี อ๋ออ๋งสกุล. (2544). ประวัติศติาสตร์ล้านนา. สำ นักพิมพ์ อมรินทร์. เว็ปว็ ไซต์ https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E 0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8 %81%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2% E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2 ๑๖