CRHEOWATO TE
MINA D
HUMANTHTHEOSUECGRHETTROEFVEALED
ความลบั ความคดิ มนษุ ย์
How to Create a Mind
เรย์ เคริ ์ซแวล : เขยี น วฒุ นิ นั ท์ ชมุ ภู : แปล
พมิ พ์ พ.ศ. 2563
จดั ท�ำโดย
สำ� นักพิมพ์แอรโ์ รว์
ในเครอื บรษิ ทั แอรโ์ รว์ มัลตมิ เี ดยี จำ� กดั
เลขที่ 1 ซอยก�ำแพงเพชร 6 ซ.5 แยก 6 (โกสมุ นเิ วศน์ ซ.2)
แขวงทุง่ สองห้อง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ 10210
โทรศัพท์ 02-573-6584, 065-403-7466 โทรสาร 02-573-6585
Email : arrowclassicbook@gmail.com Line ID : @arrow11
www.arrowmultimedia.co.th
Original Edition Copyright © by Ray Kurzweil, 2012
Thai Language Translation Copyright © 2020 by Arrow Multimedia Co.,Ltd.
All rights reserved.
© สงวนลขิ สิทธ์โิ ดย บริษัท แอร์โรว์ มลั ตมิ เี ดีย จ�ำกัด
หา้ มนำ� สว่ นหน่ึงส่วนใดของหนังสือเล่มน้ไี ปลอกเลยี น ท�ำสำ� เนา ถา่ ยเอกสาร หรือนำ� ไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต
หรือสือ่ ต่างๆ ไม่วา่ ในรูปแบบใด นอกจากได้รบั อนุญาตเปน็ ลายลักษณอ์ ักษรเท่านน้ั
ขอ้ มูลทางบรรณานกุ รม
เคริ ์ซแวล, เรย.์
ความลบั ความคิดมนุษย์ : How to Create a Mind.—กรงุ เทพฯ : แอร์โรว,์ 2563.
416 หน้า.
1. วิทยาศาสตร์ I. วฒุ ินันท์ ชุมภู, แปล II. ชอื่ เร่อื ง.
ISBN 978-616-434-228-6
บรรณาธิการ : นคิ ม ชาวเรือ
กองบรรณาธกิ าร : สุภาภรณ์ สว่างจันทร์, รจนา นครโสภา, อรรถพร ทองบรรเทิง
ศลิ ปกรรม : ชมพูนุช ขอดค�ำ พสิ ูจนอ์ ักษร : วลัยกร เตม็ ขนั ท์, ปวันรัตน์ เกียรตธิ ีรชัย
ฝ่ายขาย : ณลณิ พรรณ เผา่ พนั ธ์ขุ าว ผูจ้ ดั การทว่ั ไป : เดือนนภา สุรามิตร
จดั จำ� หนา่ ยทั่วประเทศโดย
บรษิ ทั อมรนิ ทร์ บกุ๊ เซ็นเตอร์ จำ� กัด
108 หมู่ท่ี 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวสั ดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบรุ ี 11130
โทรศพั ท์ 02-423-9999 โทรสาร 02-449-9561-3
www.naiin.com
พมิ พท์ ่ ี : บรษิ ัท ไอดี ออล ดจิ ิตอลพริ้นท์ จ�ำกดั
52 ซอยเอกชัย 69 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150
โทรศัพท์ 02-899-5429-35 โทรสาร 02-416-4097
ราคา 320 บาท
ประวัตผิ ู้เขยี น
RAY KURZWEIL
เรย์ เคิรซ์ แวล คือ หน่ึงในนกั ประดิษฐ์ นกั คิด และผมู้ องเห็นอนาคต
ชนั้ แนวหนา้ ของโลก ท่ีมาพรอ้ มกบั สถิตกิ ารทำ� นายไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งแมน่ ยำ�
ยอ้ นหลงั ไปถึงสามสิบปี นอกจากจะไดร้ บั การขนานนามจาก The Wall
Street Journal ใหเ้ ป็น “อัจฉริยะผู้ไม่ยอมหยุดน่ิง” และ “สุดยอด
เครื่องกลนักคดิ ” จากนิตยสาร Forbes แลว้ นิตยสาร Inc. ยงั เลือกให้
เคิรซ์ แวลเป็นหน่ึงในสุดยอดผูป้ ระกอบการ ซ่ึงบรรยายถึงเขาว่าเป็น
“ทายาทโดยชอบธรรมของโธมัส เอดสิ ัน” อีกทงั้ PBS ยงั ไดเ้ ลือกเขา
ใหเ้ ป็นหนง่ึ ใน “สบิ หกนกั ปฏิวตั ผิ กู้ ่อรา่ งสรา้ งอเมรกิ า”
เคริ ซ์ แวลเป็นนกั ประดษิ ฐค์ นสำ� คญั ซง่ึ มผี ลงานท่เี ป็นชนิ้ แรกของ
โลกอย่มู ากมาย อนั ไดแ้ ก่ เคร่อื งสแกนแท่นนอน เคร่อื งจดจำ� อกั ษรชนิด
ทกุ ชดุ แบบอกั ษร เครอ่ื งอา่ นตวั อกั ษรเป็นคำ� พดู สำ� หรบั ผพู้ กิ ารทางสายตา
เคร่ืองสงั เคราะหข์ อ้ ความเป็นคำ� พดู เคร่ืองสงั เคราะหด์ นตรีท่ีสรา้ งเสียง
แกรนดเ์ ปียโนและเครอ่ื งดนตรขี องวงออเคสตราขนึ้ มาใหม่ และเครอ่ื งจดจำ�
คำ� พดู ท่ีรูศ้ พั ทเ์ ป็นจำ� นวนมากมายและใชท้ ำ� การตลาดในเชิงพาณิชย์
เคริ ซ์ แวลไดร้ บั รางวลั The National Medal of Technology ได้
รบั การบนั ทกึ นามไวใ้ น The National Inventors Hall of Fame และไดร้ บั
ปริญญาดษุ ฎีบณั ฑิตกิตติมศกั ดิ์เป็นจำ� นวนสิบเกา้ ใบ รวมทงั้ ไดร้ บั การ
เชิดชเู กียรตจิ ากประธานาธิบดีสหรฐั เป็นจำ� นวนถงึ สามคน
คำ� นยิ ม
ส�ำหรับ How to Create a Mind
“วสิ ยั ทศั นข์ องเคริ ซ์ แวลในเรอ่ื งอนาคตของพวกเรา ท่ีถกู ยกระดบั ไปจนถงึ
ขีดสดุ แลว้ นนั้ เป็นเรอ่ื งท่ีเขา้ ทีอยา่ งย่ิง และเขาคิดหาเหตผุ ลมาสนบั สนนุ
ไดอ้ ยา่ งสขุ มุ นมุ่ ลกึ อีกทงั้ หนงั สือของเขาก็นา่ จะชว่ ยใหก้ ารกา้ วขนึ้ มาเป็น
เจา้ นายของพวกหนุ่ ยนตแ์ หง่ โลกใบนีเ้ ป็นไปอยา่ งราบรน่ื ย่ิงขนึ้ ”
—The New York Times
“หนงั สอื เลม่ นีร้ าวกบั อากาศสดช่ืนท่ีคณุ สดู เขา้ ไปในปอด...เคริ ซ์ แวลทำ� ให้
พวกมองโลกในแงด่ ีมีขอ้ โตแ้ ยง้ แลว้ ”
—Laura Spinney, New Scientist
“แบบฝึกหดั ท่ีชวนใหห้ ลงใหลของวิชาอนาคตศาสตร”์
—Kirkus Review
“หนงั สอื ทม่ี เี นอื้ หาอนั มเี อกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั และใหแ้ รงบนั ดาลใจไดท้ กุ หนา้
นนั้ หาไดย้ ากย่ิง หนงั สือเล่มนีท้ ำ� ไดม้ ากกว่านนั้ เสียอีก [เคิรซ์ แวล] มีวิธี
จดั การกบั โจทยท์ ่ีถาโถมเขา้ ใสไ่ ดด้ ว้ ยเหตผุ ลท่ียกมาอยา่ งมากมาย ทำ� ให้
ผอู้ า่ นเช่ือวา่ การสรา้ งสติปัญญาแบบไมม่ ีเลือดเนือ้ ซง่ึ จะทะยานขา้ มของ
พวกเราไปอยา่ งรวดเรว็ นนั้ ยงั อยใู่ นเงือ้ มมือของพวกเราเอง น่ีคือผลงานท่ี
เตม็ ไปดว้ ยภาพแหง่ อนาคตท่ีใครๆ ก็เขา้ ถงึ ไดอ้ ยา่ งเพลดิ เพลนิ ”
—Rafael Reif, president, MIT
“เป็นหนงั สือเก่ียวกบั วิธีคิดเลม่ ใหม่ของเคิรซ์ แวลท่ีสดุ ยอด ทนั สมยั และ
โตแ้ ยง้ ไดอ้ ยา่ งหนกั แนน่ ย่ิงนกั ! ยอดเย่ียมท่ีสดุ เทา่ ท่ีเขาเขียนมา!”
—Marvin Minsky, MIT Toshiba Professor of Media Arts and
Sciences; cofounder of the MIT Artificial Intelligence Lab;
widely regarded as the father of artificial intelligence
“ถา้ เคยสงสยั วา่ จิตใจคณุ ทำ� งานไดอ้ ยา่ งไร ก็ตอ้ งลองอา่ นหนงั สือเลม่ นีด้ ู
ความเขา้ ใจอนั ถ่องแทข้ องเคิรซ์ แวลจะเผยความลบั สำ� คญั ท่ีซ่อนอยู่ใน
ความคิดมนษุ ยแ์ ละความสามารถในการสรา้ งบางส่ิงขนึ้ มาใหม่ หนงั สือ
เลม่ นีเ้ ขียนไดอ้ ยา่ งคมคายและกระตนุ้ ความคดิ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี”
—Dean Kamen, physicist; inventor of the first wearable insulin
pump, the HomeChoice dialysis machine, and the IBOT mobility
system; founder of FIRST; recipient of the National Medal of
Technology
“เรย์ เคิรซ์ แวล หนง่ึ ในผบู้ กุ เบกิ ดา้ น AI ระดบั แนวหนา้ เขียนหนงั สือเลม่
ใหมข่ นึ้ มา เพ่ืออธิบายธรรมชาตทิ ่ีแทจ้ รงิ ของความมีสตปิ ัญญา ทงั้ แบบท่ี
มีเลือดเนือ้ และไม่มีเลือดเนือ้ หนงั สือเล่มนีอ้ ธิบายสมองมนษุ ยว์ ่า เป็น
เหมือนเครอ่ื งกลท่สี ามารถเขา้ ใจแนวคดิ ท่เี ป็นลำ� ดบั ชนั้ ไลต่ งั้ แตท่ ่อี ยใู่ นรูป
ของเกา้ อีต้ วั หนง่ึ ไปจนถงึ ธรรมชาติของอารมณข์ นั ความเขา้ ใจอนั ถ่องแท้
และสำ� คญั ย่ิงของเขาจะเนน้ ยำ้� บทบาทท่ีเป็นหวั ใจสำ� คญั ของการเรียนรู้
ทงั้ ในสมองและ AI เคริ ซ์ แวลนำ� เสนอแผนการอนั นา่ ทง่ึ ทจ่ี ะนำ� ไปสกู่ ารบรรลุ
เปา้ หมายเร่ืองสติปัญญาในระดบั สดุ ยอดมนษุ ย์ อนั เป็นส่ิงท่ีจำ� เป็นท่ีจะ
ตอ้ งนำ� มาใชใ้ นการแกป้ ัญหาใหญ่ของมวลมนษุ ยชาต”ิ
—Raj Reddy, founding director, Robotics Institute, Carnegie Mellon
University; recipient of Turing Award from the Association for
Computing Machinery
“เรย์ เคริ ซ์ แวล คือ ผบู้ กุ เบกิ ระบบปัญญาประดษิ ฐ์ท่ีอา่ นอกั ษรตวั พิมพไ์ ด้
ทกุ รูปแบบ ท่ีสงั เคราะหค์ ำ� พดู และดนตรี และท่ีเขา้ ใจคำ� พดู ทงั้ หมดนีจ้ ะ
กรุยทางไปสกู่ ารปฏวิ ตั กิ ารเรยี นรูใ้ นเครอ่ื งกลของยคุ ปัจจบุ นั ซง่ึ กำ� ลงั มกี าร
สรา้ งคอมพิวเตอรท์ ่ีมีสติปัญญา และสามารถเอาชนะมนษุ ยใ์ นการเล่น
หมากรุก ชนะรายการ Jeopardy! และขบั รถยนตไ์ ด้ หนงั สอื เลม่ ใหมข่ อง
เคิรซ์ แวลเล่มนีเ้ ป็นการสรุปภาพรวมอันชัดเจนและน่าสนใจของความ
กา้ วหนา้ โดยเฉพาะในการเรยี นรู้ มนั จะช่วยใหเ้ กิดการปฏิวตั ิเทคโนโลยี
ดา้ นสติปัญญาขนึ้ มา หนงั สือเลม่ นีย้ งั ช่วยใหเ้ ราเขา้ ใจไดอ้ ย่างถ่องแทถ้ ึง
ช่วงเวลาหน่ึงในอนาคต ซ่งึ เป็นเวลาท่ีเรากำ� ลงั เร่ิมจะแกไ้ ขในส่ิงซ่งึ ท่ีผม
เช่ือวา่ เป็นปัญหาใหญ่ท่ีสดุ ของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในยคุ ปัจจบุ นั
น่นั คือ ปัญหาเก่ียวกับวิธีการทำ� งานของสมองและวิธีการสรา้ งความมี
สตปิ ัญญาขนึ้ มา
—Tomaso Poggio, Eugene McDermott Professor, MIT Department
of Brain and Cognitive Sciences, director, MIT Center for Biological
and Computational Learning; former chair, MIT McGovern
Institute for Brain Research; หนงึ่ ในนักประสาทวทิ ยาศาสตร์ทีม่ ีผู้อา้ ง
ถงึ มากท่ีสุดในโลก
“หนงั สอื เลม่ นรี้ าวกบั เป็นศลิ าโรเซตตาสำ� หรบั ไขความลลี้ บั ของความคดิ มนษุ ย ์
ทน่ี า่ ทง่ึ กวา่ นนั้ กค็ อื มนั เป็นพมิ พเ์ ขยี วสำ� หรบั การสรา้ งสตสิ มั ปชญั ญะเทยี ม
ซง่ึ มนั จะเกง่ ในเรอ่ื งชกั จงู ใจและเตม็ ไปดว้ ยอารมณค์ วามรูส้ กึ เหมอื นกบั ของ
เรา เคริ ซ์ แวลจดั การกบั เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ความมสี ตสิ มั ปชญั ญะไดด้ กี วา่ ใครๆ
ตงั้ แตแ่ บลค็ มอรไ์ ปจนถงึ เดนเน็ตต์ การทดลองทางความคดิ ท่ีเขานำ� เสนอ
ก็โนม้ นา้ วใจไดใ้ นคณุ ภาพระดบั เดยี วกนั กบั ของไอนส์ ไตน์ มนั ทำ� ใหเ้ รานกึ
ขอ้ เทจ็ จรงิ ในเรอ่ื งนนั้ ๆ ออกมาได”้
—Martine Rothblatt, chairman and CEO, United Therapeutics;
creator of Sirius XM Satellite Radio
“สง่ิ ท่ีหนงั สอื ของเคริ ซ์ แวลเลม่ นีไ้ ดแ้ สดงใหเ้ หน็ อยา่ งชดั เจนเลยก็คอื ความ
สามารถอนั มากมายของเขาในการสงั เคราะหแ์ นวคิดจากหลายๆ อาณา
บรเิ วณท่ีแตกตา่ งกนั อยา่ งสนิ้ เชิง และนำ� มาอธิบายใหผ้ อู้ า่ นฟังดว้ ยภาษา
ท่ีเรยี บงา่ ยและสละสลวยเป็นอยา่ งย่ิง เฉกเชน่ เดียวกบั หนงั สอื Progress
in Flying Machines ของ Chanute ท่ีกลายเป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ของวชิ าการบนิ
ตงั้ แต่เม่ือกว่าศตวรรษท่ีแลว้ หนงั สือเลม่ นีถ้ ือเป็นทพั หนา้ ของการปฏิวตั ิ
วงการปัญญาประดษิ ฐท์ ่ีกำ� ลงั จะเกิดขนึ้ มาในไมช่ า้ อนั จะทำ� ใหค้ ำ� ทำ� นาย
ของเคริ ซ์ แวลในเรอ่ื งนีก้ ลายเป็นเรอ่ื งจรงิ ขนึ้ มาในทกุ ประเดน็ ”
—Dileep George, AI scientist; pioneer of hierarchical models of the
neocortex; cofounder of Numenta and viacarious Systems
“ความเขา้ ใจของเรย์ เคริ ซ์ แวลในเรอ่ื งสมองและปัญญาประดษิ ฐ์จะสง่ ผล
กระทบอยา่ งใหญ่หลวงตอ่ ทกุ ๆ ดา้ นของชีวติ เรา ทกุ ๆ อตุ สาหกรรมในโลก
ใบนี้และหนทางในการคดิ ถงึ อนาคตของพวกเรา ถา้ สนใจเรอ่ื งใดเรอ่ื งหนง่ึ
ในนี้ ก็รบี ไปหามาอา่ นไดเ้ ลย!”
—Peter H. Diamandis, chairman and CEO, X PRIZE; executive
chairman, Singularity University; author of the New York Time
bestseller Abundance : The Future Is Better Than You Think
ค�ำน�ำสำ� นักพิมพ์
“ความเข้าใจในเรื่องสมองและปัญญาประดิษฐ์จะส่ง
ผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทกุ ๆ ด้านของชวี ติ เรา และทกุ ๆ
อุตสาหกรรมในโลกใบนี”้
ถา้ เคยสงสยั วา่ จิตใจคณุ ทำ� งานไดอ้ ยา่ งไร
ก็ตอ้ งลองอา่ นหนงั สือเลม่ นีด้ ู
หนงั สอื ‘How to Create a Mind’ หรอื ‘ความลบั ความคดิ
มนุษย’์ ผลงานของ ‘เรย์ เคริ ซ์ แวล’ จะเผยความลบั สำ� คญั ท่ีซอ่ น
อยใู่ นความคดิ มนษุ ย์ และความสามารถของเราท่ีจะสรา้ งมนั ขนึ้ มา
ใหม่ เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจอยา่ งถ่องแทข้ องความคดิ มนษุ ย์
หนงั สอื เลม่ นีจ้ ะกระตนุ้ ความคดิ คณุ ไดอ้ ยา่ งแนน่ อน
สำ� นักพมิ พแ์ อรโ์ รว์
สารบัญ
บทนำ� 13
การทดลองทางความคิดเกีย่ วกับโลกใบนี้ 29
การทดลองทางความคิดเกีย่ วกับการใชค้ วามคดิ 46
ตวั แบบของนีโอคอร์เทกซ์ : ทฤษฎีการจดจ�ำแบบแผนของจิตใจ 59
นีโอคอร์เทกซ์แบบมเี ลือดเนอ้ื 117
สมองยุคเกา่ 143
ความสามารถที่เหนอื ธรรมดา 166
ดิจทิ ลั นโี อคอรเ์ ทกซท์ ไี่ ดร้ ับแรงบนั ดาลใจมาจากแบบท่ีมชี วี ติ 184
วธิ คี ิดแบบคอมพวิ เตอร์ 266
การทดลองทางความคิดกับจิตใจ 296
กฎผลตอบแทน (ในอตั รา) ท่ี (มีแต่จะยง่ิ ) สงู ขึ้นเรอื่ ยๆ ซึ่งน�ำมา
ประยุกตใ์ ชก้ ับสมอง 368
ขอ้ คัดค้าน 391
บทส่งท้าย 408
บทนำ�
สมองนนั้ กวา้ งใหญ่กวา่ ทอ้ งนภา
เพราะถา้ จบั มาวางเคยี งขา้ งกนั
กจ็ ะเอาทอ้ งฟา้ รวมทงั้ ตวั เธอ
ใสล่ งในสมองไดโ้ ดยงา่ ย
สมองนนั้ ลกึ ลำ้� กวา่ ทอ้ งทะเล
หากเอาทงั้ คูม่ าถอื ไวใ้ นมอื
สมองจะดูดซบั นำ้� ทะเล
ใหแ้ หง้ หายไดค้ ลา้ ยกบั ฟองนำ้�
สมองนนั้ หนกั เทา่ พระผูเ้ ป็นเจา้
เพราะถา้ ลองช่งั เปรยี บเทยี บกนั ดู
หากทงั้ คูจ่ ะตา่ ง...กจ็ ะตา่ งกนั
อยา่ งทพี่ ยางคต์ า่ งจากเสยี งคำ�
—เอมลิ ่ี ดคิ กินสัน
14 How to Create a Mind
สตปิ ัญญาสามารถเอาชนะขอ้ จำ� กดั ทางธรรมชาตแิ ละแปรเปล่ยี นโลก
ใหเ้ ป็นไปตามท่ีตอ้ งการได้ ก็ดว้ ยความท่ีมนั เป็นปรากฏการณอ์ นั
สำ� คญั ท่ีสุดในจักรวาล เพราะมีสติปัญญาไวใ้ นครอบครอง มนุษยจ์ ึง
เอาชนะขอ้ จำ� กดั ทางชีววิทยาท่ีสืบทอดกนั มา และเปล่ียนแปลงตวั เองไป
ตามกระบวนการไดส้ ำ� เรจ็ พวกเราคือส่งิ มีชีวิตสปีชีสเ์ ดียวท่ีทำ� เชน่ นีไ้ ด้
เร่อื งราวของสติปัญญามนษุ ยน์ นั้ เรม่ิ ตน้ จากจกั รวาลแหง่ หน่งึ ท่ี
สามารถเอาขอ้ มลู มาเขียนเป็นรหสั ปัจจยั สรา้ งเสรมิ ความสามารถนีเ้ องท่ี
เปิดโอกาสใหว้ วิ ฒั นาการไดถ้ ือกำ� เนิดขนึ้ มา ลำ� พงั หนทางท่ีทำ� ใหจ้ กั รวาล
จำ� ตอ้ งเป็นไปตามวิถีทางท่ีเป็นอยู่ก็ถือว่าน่าสนใจพออยู่แลว้ ตวั แบบ
มาตรฐานทางฟิสกิ สต์ า่ งเตม็ ไปดว้ ยคา่ คงท่มี ากมายท่ตี อ้ งเป็นอยา่ งนนั้ โดย
ขาดเกินไมไ่ ดเ้ ลยแมแ้ ตน่ อ้ ย ไมอ่ ยา่ งนนั้ พวกอะตอมตา่ งๆ ก็คงเกิดขนึ้ มา
ไมไ่ ด้ และมนั ก็คงไมม่ ีหมดู่ าว ดาวเคราะห์ สมอง และหนงั สือวา่ ดว้ ยเรอ่ื ง
สมองใหเ้ ราไดเ้ ห็นกนั เร่อื งท่ีกฎฟิ สิกสต์ อ้ งมีความพอดิบพอดีถงึ เพียงนนั้
ทำ� ใหว้ ิวฒั นาการดา้ นขอ้ มลู ดเู ป็นเร่ืองเหลือเช่ือเขา้ ไปใหญ่ แต่ถา้ ว่ากนั
ตามหลกั แอนโทรปิก (Anthropic) แลว้ เราก็คงจะไมม่ ามวั พดู ถงึ เรอ่ื งนีก้ นั
ถา้ มนั ไม่ไดม้ ีอย่จู รงิ พวกเราบางคนอาจรบั รูไ้ ดถ้ ึงพลงั อำ� นาจของมืออนั
ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ แตม่ นั กย็ งั มอี กี หลายคนท่ไี ดเ้ หน็ ถงึ พหภุ พ (Multiverse) ซง่ึ กำ� ลงั
กอ่ รา่ งสรา้ งววิ ฒั นาการของเอกภพทงั้ หลายขนึ้ มา ทา่ มกลางการคอ่ ยๆ สญู
สลายลงไปของจกั รวาลท่ีไมน่ ่าสนใจ (ซง่ึ ไมม่ ีเร่อื งขอ้ มลู เขา้ มาเก่ียวขอ้ ง)
เราอาจตงั้ ตน้ เรอ่ื งราวของเราจากโลกใบท่ีใชข้ อ้ มลู เป็นฐาน ไมว่ า่ จกั รวาล
ของเราจำ� ตอ้ งเป็นไปในแบบท่ีมนั เป็นอยมู่ ากนอ้ ยเพียงใดก็ตาม
เร่ืองราวของวิวฒั นาการเร่มิ เป็นท่ีรูจ้ กั พรอ้ มกบั ระดบั ความเป็น
นามธรรมท่ีเพ่ิมขึน้ เร่ือยๆ อะตอมต่างๆ (โดยเฉพาะของคารบ์ อนท่ีสรา้ ง
โครงสรา้ งขอ้ มลู ไดม้ ากมาย ดว้ ยการเช่ือมโยงกนั ในสท่ี ศิ ทาง) ไดก้ อ่ รูปเป็น
โมเลกลุ อนั ซบั ซอ้ นขึน้ มา วิชาฟิ สิกสจ์ ึงถือเป็นผใู้ หก้ ำ� เนิดวิชาเคมีก็ดว้ ย
เหตนุ ีเ้ อง
ความลับความคิดมนุษย์ 15
อกี หนง่ึ พนั ลา้ นปีตอ่ มา โมเลกลุ อนั ซบั ซอ้ นอยา่ งหนง่ึ ท่เี รยี กกนั วา่
ดีเอ็นเอก็ไดพ้ ฒั นาตวั ขึน้ มา โดยสามารถเขา้ รหสั ขอ้ มลู ท่ีเก่ียวเน่ืองเป็น
ทิวแถวยาวๆ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และใหก้ ำ� เนิดส่ิงมีชีวิตท่ีอธิบายไดด้ ว้ ย
“โปรแกรม” เหลา่ นี้ และน่ีก็คือท่ีมาท่ีทำ� ใหว้ ิชาเคมีกลายมาเป็นตน้ กำ� เนิด
ของวชิ าชีววิทยา
ส่ิงมีชีวิตไดพ้ ฒั นาโครงข่ายเพ่ือการส่ือสารและการตดั สินใจท่ี
เรยี กวา่ ระบบประสาท ขนึ้ มาในอตั ราความเรว็ ท่ีสงู ขนึ้ เรอ่ื ยๆ ซง่ึ ทำ� ใหเ้ กิด
การประสานงานขนึ้ ในบรรดาภาคสว่ นท่มี แี ตจ่ ะซบั ซอ้ นย่งิ กวา่ ของรา่ งกาย
รวมทงั้ ในพวกพฤติกรรมท่ีจะช่วยใหม้ ีชีวิตรอดต่อไปได้ เซลลป์ ระสาทท่ี
รวมกนั ขนึ้ เป็นระบบประสาทไดผ้ สมผสานเขา้ ดว้ ยกนั จนเกิดเป็นสมองท่ี
สามารถแสดงพฤตกิ รรม ซง่ึ นบั วนั จะฉลาดขนึ้ เรอ่ื ยๆ ชีววทิ ยาจงึ กลายเป็น
แหลง่ ท่ีมาของประสาทวทิ ยา โดยมีสมองเป็นเครอ่ื งมือชนั้ แนวหนา้ ในการ
จดั เก็บและใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู ทงั้ หมดนีท้ ำ� ใหเ้ ห็นวา่ เราไดข้ ยบั จาก
อะตอม ไปเป็นโมเลกลุ ดีเอน็ เอ และสมอง โดยกา้ วตอ่ ไปจะเป็นเรอ่ื งราวท่ี
เป็นเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั ของพวกมนษุ ยเ์ พียงอยา่ งเดียว
สมองของสตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยนมมคี วามถนดั อนั โดดเดน่ ทไ่ี มอ่ าจพบ
ไดใ้ นสตั วป์ ระเภทอน่ื พวกเราสามารถคดิ อะไรในแบบทเ่ี ป็นลำ� ดบั ชนั้ เขา้ ใจ
โครงสรา้ งท่ีมีองคป์ ระกอบหลากหลาย ซง่ึ จดั เรยี งกนั เป็นแบบแผนหน่งึ ๆ
นำ� เสนอโครงสรา้ งท่ีเรยี งตวั แบบนนั้ ดว้ ยสญั ลกั ษณ์ และใชส้ ญั ลกั ษณน์ นั้
ในฐานะท่ีเป็นองคป์ ระกอบในโครงแบบ (Configuration) ท่ีซบั ซอ้ นขึน้
ไปอีก ขีดความสามารถนีเ้ กิดขนึ้ ในโครงสรา้ งสมองท่ีเรยี กกนั วา่ “นีโอคอร-์
เทกซ์ (Neocortex)” ซ่ึงเป็นสมองมนุษยส์ ่วนท่ีสามารถกา้ วขึน้ ไปแตะ
มาตรฐานขนั้ ต่ำ� ในเร่ืองความวิจิตรพิสดารและในดา้ นขีดความสามารถ
จนเราสามารถเรียกขานแบบแผนเหล่านีไ้ ดว้ ่า ความคิด (Idea) ดว้ ย
กระบวนการแบบวนซำ้� ขนั้ ตอนเดมิ อยา่ งไมร่ ูจ้ กั จบสนิ้ นีเ้ อง เราจงึ สามารถ
ก่อรา่ งสรา้ งความคิดใหย้ ่ิงซบั ซอ้ นขนึ้ ไปอีก เราเรยี กทิวแถวของความคิด
16 How to Create a Mind
จำ� นวนมากมายท่ีเช่ือมโยงกนั อยา่ งวนซำ้� ไปมาเหลา่ นีว้ า่ ความรู้ (Knowl-
edge) ฐานความรูท้ ่ีมีวิวฒั นาการและเติบโตอยา่ งกา้ วกระโดด รวมทงั้ มี
การสง่ ผา่ นจากรุน่ หนง่ึ ไปสอู่ กี รุน่ หนง่ึ ไดด้ ว้ ยตวั เองในลกั ษณะนี้จะมใี หเ้ หน็
ก็แตใ่ นมนษุ ยย์ คุ ปัจจบุ นั (Homo Sapiens) เทา่ นนั้ เอง
สมองเรายงั เป็นตน้ กำ� เนิดของความเป็นนามธรรมอีกระดบั หน่ึง
ดว้ ย เน่ืองจากเราไดใ้ ชส้ ตปิ ัญญาในสมองของเราบวกกบั ปัจจยั สรา้ งเสรมิ
ความสามารถอกี ตวั หนง่ึ (ซง่ึ น่นั กค็ อื ความสามารถในการใชน้ วิ้ โปง้ แตะกบั
นวิ้ อ่นื ๆ ในมอื ขา้ งเดยี วกนั ได)้ เพ่อื ฉวยใชป้ ระโยชนจ์ ากสง่ิ แวดลอ้ มมาสรา้ ง
เป็นเคร่ืองมือชนิดต่างๆ ในขณะท่ีประสาทวิทยาไดใ้ หก้ ำ� เนิดเทคโนโลยี
ขนึ้ มา เครอ่ื งมือเหลา่ นีก้ ็ไดส้ ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ววิ ฒั นาการใหมใ่ นอีกรูปแบบ
หนง่ึ ดว้ ยเครอ่ื งมือตา่ งๆ ท่ีเรามีอยนู่ ่ีเอง ฐานความรูข้ องเราจงึ เตบิ โตไปได้
อยา่ งไมม่ ีขีดจำ� กดั
ส่ิงประดิษฐ์ชิน้ แรกของเราคือ เร่ืองเลา่ หรือการพดู ออกมาเป็น
ภาษา ท่ีทำ� ใหเ้ ราสามารถสะทอ้ นภาพความคิดต่างๆ ออกมาทางนานา
ถอ้ ยคำ� เรารูจ้ กั พฒั นารูปทรงตา่ งๆ ขนึ้ มา เพ่ือใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณแ์ ทนความ
คดิ ของเราผา่ นทางภาษาเขียน ซง่ึ ถือเป็นส่งิ ประดษิ ฐ์ในลำ� ดบั ถดั มา พวก
คลงั สำ� หรบั เก็บรวบรวมส่งิ ท่ีเขียนออกมาเป็นภาษา ไดช้ ว่ ยใหส้ มองท่ีไมม่ ี
ใครคอยชว่ ยเหลือของเรา สามารถเก็บรกั ษาและขยายฐานความรูอ้ อกไป
ไดม้ ากกวา่ เดมิ โดยใชค้ วามคดิ ท่ีมีการจดั โครงสรา้ งแบบวนซำ้� มาเป็นฐาน
มีขอ้ ถกเถียงอยบู่ า้ งวา่ ส่งิ มีชีวติ สปีชีสอ์ ่ืน อยา่ งเชน่ ลงิ ชิมแปนซี
จะสามารถถ่ายทอดความคิดท่ีเป็นลำ� ดบั ชนั้ ออกมาทางภาษาไดห้ รือไม่
ชิมแปนซีเรียนรูช้ ุดของสญั ลกั ษณท์ ่ีใชเ้ ป็นเคร่ืองหมายทางภาษาไดแ้ ค่
จำ� นวนหนง่ึ เทา่ นนั้ ซง่ึ อาจนำ� มาสอ่ื สารกบั มนษุ ยท์ เ่ี ป็นครูฝึกได้แตข่ อบเขต
ความซบั ซอ้ นของโครงสรา้ งทางภาษาท่ลี งิ พวกนนั้ อาจจดั การไหว กจ็ ะเป็น
อีกระดบั หนง่ึ เลย พวกมนั พดู ไดเ้ ฉพาะประโยคท่ีเอาคำ� นามกบั คำ� กิรยิ ามา
เรยี งตอ่ กนั เทา่ นนั้ และมิอาจขยายคณุ ลกั ษณะดา้ นความซบั ซอ้ นออกไป
ความลับความคดิ มนษุ ย์ 17
อยา่ งไรข้ อ้ จำ� กดั ไดอ้ ยา่ งมนษุ ยเ์ รา ถา้ อยากเหน็ ตวั อยา่ งสนกุ ๆ ของความ
ซบั ซอ้ นทางภาษาท่ีเป็นฝีมือมนษุ ย์ ผมก็อยากใหไ้ ปลองอา่ นประโยคยาว
หลายหนา้ ในงานเขียนหรอื นิยายของ เกเบรยี ล การเ์ ซีย มารเ์ กส สกั เรอ่ื ง
หนง่ึ ดู งานเขียนยาวหกหนา้ ท่ีช่ือ “The Last Voyage of the Ghost” ของ
เขาจะมีแคป่ ระโยคเดียวเทา่ นนั้ แถมยงั เป็นงานเขียนท่ีจดั วา่ ดีเลยดว้ ย ทงั้
ในฉบบั ภาษาสเปนและท่ีแปลออกมาเป็นภาษาองั กฤษ
หนังสือว่าดว้ ยเทคโนโลยีสามเล่มท่ีผมเขียนขึน้ มาก่อนหนา้ นี้
(The Age Of Intelligent Machines ท่ีเขียนในชว่ งทศวรรษ 1980 และ
ตีพิมพเ์ ม่ือปี 1989 The Age of Spiritual Machines ท่ีเขียนในครง่ึ หลงั
ของทศวรรษ 1990 และตีพิมพเ์ ม่ือปี 1999 รวมทงั้ The Singularity Is
Near ท่ีเขียนในช่วงตน้ ทศวรรษ 2000 และตีพิมพเ์ ม่ือปี 2005) นนั้ มี
แนวคดิ พนื้ ฐานวา่ กระบวนการทางววิ ฒั นาการจะเรง่ ความเรว็ ขนึ้ อยา่ งเป็น
ธรรมชาติ (อนั เป็นผลมาจากระดบั ความเป็นนามธรรมท่สี งู ขนึ้ ของมนั ) และ
ผลผลิตจากกระบวนการนีจ้ ะเติบโตอยา่ งกา้ วกระโดด ทงั้ ในแง่ของความ
ซบั ซอ้ นและขีดความสามารถ ผมเรยี กปรากฏการณน์ ีว้ า่ กฎผลตอบแทน
(ในอตั รา) ท่ี (มีแตจ่ ะย่งิ ) สงู ขนึ้ เรอ่ื ยๆ (The Law of Accelerating Returns
หรือ LOAR) ซ่งึ จะเก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั วิวฒั นาการทงั้ ของส่ิงมีชีวิตและ
เทคโนโลยี ตวั อย่างอนั น่าต่ืนตาต่ืนใจท่ีสดุ ของกฎท่ีว่านีก้ ็คือ การเติบโต
แบบกา้ วกระโดด ท่สี ามารถทำ� นายไดอ้ ยา่ งนา่ ทง่ึ ถงึ เรอ่ื ง ความจแุ ละอตั รา
ราคาตอ่ ประสทิ ธิภาพของเทคโนโลยสี ารสนเทศ กระบวนการทางเทคโนโลยี
ท่ีมีวิวฒั นาการไปเร่อื ยๆ ไดท้ ำ� ใหค้ อมพิวเตอรเ์ กิดขนึ้ มาอย่างไม่ขาดสาย
ฐานความรูข้ องเราจงึ ขยายออกไปไดอ้ ีกมาก ดว้ ยการเช่ือมโยงความรูจ้ าก
เรอ่ื งหนง่ึ ไปยงั อีกเรอ่ื งหนง่ึ ไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่ือง หนา้ เวบ็ เองจะถือเป็นตวั อยา่ ง
ท่ีชดั เจนและเหมาะสมของความสามารถของระบบท่ีเป็นลำ� ดบั ชนั้ เพ่ือ
รวบรวมความรูจ้ ำ� นวนมากมายในเร่ืองต่างๆ มาไวด้ ว้ ยกัน พรอ้ มๆ กับ
การเพียรพยายามรกั ษาโครงสรา้ งในตวั เอาไวใ้ หไ้ ดม้ ากท่ีสดุ โลกเราก็มี
18 How to Create a Mind
ลกั ษณะเป็นลำ� ดบั ชนั้ อย่ใู นตวั ดว้ ยเช่นกนั ดงั จะเห็นไดจ้ ากการท่ีตน้ ไม้
ทงั้ หลายตา่ งประกอบไปดว้ ยก่ิงกา้ นสาขา แตล่ ะก่ิงกา้ นจะประกอบไปดว้ ย
ใบไมเ้ ป็นจำ� นวนมากมาย และในแตล่ ะใบก็จะมีเสน้ ใบเป็นองคป์ ระกอบท่ี
สำ� คญั อาคารบา้ นเรอื นตา่ งมีโครงสรา้ งมากมายหลายชนั้ แตล่ ะชนั้ จะมี
หอ้ งหบั อยภู่ ายใน และแตล่ ะหอ้ งก็จะประกอบไปดว้ ยประตู หนา้ ตา่ ง ผนงั
และพืน้ หอ้ ง
นอกจากนี้ ในปัจจบุ นั เรายงั สามารถพฒั นาเคร่อื งมือ ซง่ึ ช่วยให้
เราเขา้ ใจระบบชวี วทิ ยาในตวั พวกเรา ผา่ นทางขอ้ มลู อนั ถกู ตอ้ งและแมน่ ยำ�
ไดเ้ ป็นท่ีเรยี บรอ้ ยแลว้ เรากำ� ลงั เรง่ ทำ� วศิ วกรรมยอ้ นรอยกระบวนการดา้ น
ขอ้ มลู ท่ีเป็นรากฐานสำ� คญั ในส่ิงมีชีวิต รวมทงั้ ท่ีเป็นของสมองเราดว้ ย
เชน่ กนั ขณะนีเ้ ราไดเ้ ป็นเจา้ ของรหสั จดุ หมาย (Object Code) ของชีวติ ท่ี
อยใู่ นรูปแบบจีโนม (Genome) ของมนษุ ย์ ซง่ึ ถือเป็นความสำ� เรจ็ อนั เป็น
ตวั อยา่ งท่ีดขี องการเตบิ โตแบบกา้ วกระโดด เน่ืองจากขอ้ มลู ทางพนั ธกุ รรม
ท่ีโลกเรากำ� ลงั เรียงลำ� ดบั อย่นู ี้ ไดท้ วีจำ� นวนขึน้ ไปอีกปีละประมาณหน่ึง
เทา่ ตวั ตลอดระยะเวลาย่ีสบิ ปีท่ีผา่ นมาปัจจบุ นั เราสามารถใชค้ อมพวิ เตอร์
จำ� ลองวิธีการเรียงลำ� ดบั ของค่เู บส ซ่งึ จะมีผลต่อการเรียงลำ� ดบั ของกรด
อะมโิ นท่มี ว้ นไขวเ้ ขา้ หากนั จนกลายเป็นโปรตนี แบบสามมติ ิ อนั เป็นพนื้ ฐาน
ในการกอ่ รา่ งสรา้ งสง่ิ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ ขนึ้ มา บรรดาโปรตนี ทเ่ี ราสามารถจำ� ลอง
การไขวก้ นั ของโปรตนี กำ� ลงั ทวคี วามซบั ซอ้ นขนึ้ เรอ่ื ยๆ ในขณะท่ที รพั ยากร
ทางคอมพิวเตอร์ ก็ยงั คงเติบโตอยา่ งกา้ วกระโดดอยอู่ ยา่ งตอ่ เน่ือง เรายงั
สามารถจำ� ลองวิธีท่ีโปรตีนมีปฏิสมั พนั ธต์ อ่ กนั ใหอ้ อกมาภาพการรา่ ยรำ�
อนั ละเอยี ดออ่ นในแบบสามมติ ขิ องแรงระหวา่ งอะตอมไดอ้ กี ดว้ ย การท่เี รา
เรม่ิ เขา้ ใจเรอ่ื งราวทางชวี วทิ ยามากขนึ้ เรอ่ื ยๆ ถอื เป็นแงม่ มุ ทส่ี ำ� คญั อยา่ งหนง่ึ
ของการคน้ พบความลลี้ บั ทางสตปิ ัญญาท่วี วิ ฒั นาการไดม้ อบไวใ้ หพ้ วกเรา
ก่อนจะนำ� เอาบรรดากระบวนทศั นท์ ่ีไดร้ บั แรงบนั ดาลใจจากเร่อื งราวทาง
ชวี วทิ ยาเหลา่ นี้ มาใชส้ รา้ งสรรคเ์ ทคโนโลยใี หย้ ง่ิ ฉลาดลำ้� ขนึ้ ไปอกี
ความลบั ความคิดมนุษย์ 19
ปัจจบุ นั กำ� ลงั มกี ารดำ� เนนิ โครงการขนาดใหญ่อยโู่ ครงการหนง่ึ ซง่ึ
ตอ้ งระดมนกั วทิ ยาศาสตรแ์ ละวศิ วกรหลายพนั คนมาทำ� ความเขา้ ใจสมอง
ของมนุษย์ ซ่ึงถือเป็นตวั อย่างของกระบวนการดา้ นการใชส้ ติปัญญาท่ี
ดีท่ีสุดท่ีมีอยู่ในตัวเรา ว่ากันว่าน่ีคือความพยายามครงั้ สำ� คัญท่ีสุดใน
ประวตั ิศาสตรข์ องอารยธรรมแห่งการทำ� งานร่วมกันระหว่างมนุษยก์ ับ
เครอ่ื งจกั รเลยทีเดียว ในหนงั สือ The Singularity Is Near ผมไดน้ ำ� เสนอ
เหตผุ ลเพ่ือชีใ้ หเ้ ห็นว่า กฎผลตอบแทน (ในอตั รา) ท่ี (มีแต่จะย่ิง) สงู ขนึ้
เร่ือยๆ จะก่อใหเ้ กิดผลพวงท่ีตามมาอย่ขู อ้ หน่ึง ซ่งึ น่นั ก็คือ การอาจไม่มี
อยจู่ รงิ ของสง่ิ มชี ีวติ ท่มี สี ตปิ ัญญาสปีชีสอ์ ่นื ผมอยากสรุปขอ้ โตแ้ ยง้ นีว้ า่ ถา้
ส่ิงเหลา่ นนั้ มีอย่จู รงิ เราก็ควรสงั เกตเห็นกนั ไปตงั้ นานแลว้ เม่ือพิจารณา
จากช่วงเวลาอันค่อนขา้ งสัน้ ท่ีล่วงเลยไปในระหว่างยุคสมัยท่ีผูค้ นคือ
ผคู้ รอบครองเทคโนโลยีซง่ึ ไม่ไดซ้ บั ซอ้ นอะไร (ลองคิดถึงปี 1850 ท่ี The
Pony Express คือหนทางอนั รวดเรว็ ท่ีสดุ ในการสง่ ขา่ วไปท่วั ประเทศ) กบั
ยคุ สมยั ทพ่ี วกเราคอื ผคู้ รอบครองเทคโนโลยที ก่ี า้ วขา้ มโลกของตวั เองไปแลว้
เม่ือมองมมุ นี้ การทำ� การวิศวกรรมยอ้ นรอยสมองมนษุ ยจ์ งึ อาจถกู มองวา่
เป็นโครงการท่ีสำ� คญั ท่ีสดุ ในจกั รวาลแหง่ นีเ้ ลยก็ได้
โครงการนีต้ งั้ เป้าท่ีจะทำ� ความเขา้ ใจใหไ้ ดอ้ ย่างถ่องแทเ้ ลยว่า
สมองมนษุ ยน์ นั้ ทำ� งานกนั อยา่ งไร ก่อนจะนำ� เอาวธิ ีการท่ีคน้ พบเหลา่ นีม้ า
ทำ� ความเขา้ ใจตวั เราใหไ้ ดด้ ีย่ิงขึน้ มาซ่อมแซมสมองเม่ือถึงคราวจำ� เป็น
และทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั ช่อื หนงั สอื เลม่ นมี้ ากทส่ี ดุ เลยกค็ อื มาสรา้ งสรรคเ์ ครอ่ื งกล
ท่ีมีสตปิ ัญญาสงู ย่ิงขนึ้ ไปกวา่ เดมิ โปรดจำ� ไวว้ า่ ขีดความสามารถของงาน
วศิ วกรรมจะชว่ ยใหเ้ ราอธิบายรายละเอียดของปรากฏการณท์ างธรรมชาติ
ไดอ้ ีกมากเลยทีเดียว คณุ อาจลองคิดถึงปรากฏการณท์ ่ีค่อนขา้ งแยบยล
ตามกฎของเบอรน์ ลู ลี (Bernoulli’s Principle) เป็นตวั อยา่ งดกู ็ได้ กฎนีไ้ ด้
บญั ญตั ไิ วว้ า่ แรงกดอากาศท่มี ตี อ่ วสั ดผุ วิ โคง้ ซง่ึ กำ� ลงั เคลอ่ื นท่จี ะมคี อ่ นขา้ ง
นอ้ ยกวา่ วสั ดผุ ิวเรยี บท่ีกำ� ลงั เคล่ือนไหวอยู่ หลกั คณิตศาสตรท์ ่ีใชอ้ ธิบาย
20 How to Create a Mind
ว่ากฎของเบอรน์ ลู ลีจะทำ� ใหเ้ กิดแรงพยงุ ปีกนนั้ ยงั ไม่เป็นท่ียตุ ิกนั ในหมู่
นกั วทิ ยาศาสตร์แตว่ ชิ าวศิ วกรรมกลบั เขา้ ใจหลกั วชิ าอนั ละเอียดออ่ นขอ้ นี้
ไดเ้ ป็นอยา่ งดี โดยมงุ่ ความสนใจไปท่ีเรอ่ื งพละกำ� ลงั ท่ีมีอยใู่ นตวั มนั ก่อน
จะสรา้ งสรรคโ์ ลกแหง่ วิชาการบนิ ขนึ้ มาจนครบถว้ นในทกุ แงม่ มุ
ในหนงั สือเลม่ นี้ ผมจะนำ� เสนอทฤษฎีท่ีมีช่ือวา่ ทฤษฎีการจดจำ�
แบบแผนของจิตใจ (The Pattern Recognition Theory of Mind หรอื
PRTM) ซง่ึ เป็นขอ้ โตแ้ ยง้ ท่ผี มใชอ้ ธิบายอลั กอรทิ มึ (Algorithm) พนื้ ฐานของ
นีโอคอรเ์ ทกซ์ (สมองสว่ นท่ีทำ� หนา้ ท่ีเก่ียวกบั การรบั รู้ การจดจำ� และการ
ใชค้ วามคดิ แบบมีวิจารณญาณ) ในบทถดั ๆ ไป ผมจะอธิบายวา่ งานวิจยั
ดา้ นประสาทวทิ ยาศาสตรเ์ ม่ือเรว็ ๆ นี้(รวมทงั้ การทดลองทางความคดิ ของ
พวกเราเอง) จะนำ� ไปสขู่ อ้ สรุปท่ีเป็นอ่ืนไปไมไ่ ดเ้ ลย นอกจากวา่ ทงั้ หมดนี้
คือวิธีการท่ีมีการนำ� มาใชอ้ ย่างไม่ว่างเวน้ อย่ทู ่วั ทงั้ นีโอคอรเ์ ทกซ์ ความ
หมายโดยนยั ของทฤษฎี PRMT ท่ีถกู ผนวกเขา้ กบั กฎ LOAR แลว้ ก็คือ เรา
จะสามารถนำ� เอาหลกั การพืน้ ฐานเหลา่ นีม้ าใชใ้ นงานวศิ วกรรม เพ่ือทำ� ให้
สตปิ ัญญาของเรามีพลงั อำ� นาจเพ่ิมขนึ้ ไดอ้ ีกตงั้ มากมายเลยทีเดียว
ท่ีจรงิ กระบวนการนีไ้ ดเ้ ร่มิ ตน้ มาตงั้ นานแลว้ มีงานและกิจกรรม
เป็นรอ้ ยๆ อยา่ งท่ีเคยอยใู่ นความรบั ผิดชอบของสติปัญญามนษุ ยแ์ ตเ่ พียง
ลำ� พงั แตป่ ัจจบุ นั สามารถดำ� เนนิ การไดด้ ว้ ยคอมพวิ เตอร์โดยสว่ นใหญ่แลว้
จะมีความถกู ตอ้ งแมน่ ยำ� มากกวา่ และดว้ ยสดั สว่ นท่ีสงู กวา่ มาก ทกุ ครงั้ ท่ี
คณุ สง่ อีเมลหรือใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถือโทร.ออกไป อลั กอรทิ มึ อจั ฉรยิ ะจะวาง
เสน้ ทางของขอ้ มลู ไดอ้ ย่างเหมาะสมท่ีสดุ เม่ือป้อนภาพคล่ืนไฟฟ้าหวั ใจ
ลงไป คอมพิวเตอรจ์ ะใหค้ ำ� วินิจฉยั ท่ีไปกนั คนละทางกบั ของคณุ หมอเลย
เหตุการณท์ ำ� นองนีจ้ ะเกิดขึน้ กับภาพเม็ดโลหิตดว้ ยเช่นกัน อลั กอริทึม
อัจฉริยะจะทำ� งานอย่างอัตโนมัติในการสืบหาการฉ้อโกงบัตรเครดิต
ควบคมุ การบินและนำ� เคร่ืองบินลงจอด ชีน้ ำ� ระบบอาวุธท่ีควบคมุ ดว้ ย
สมองกล ช่วยออกแบบผลิตภณั ฑผ์ ่านทางระบบออกแบบอจั ฉริยะดว้ ย
ความลับความคดิ มนษุ ย์ 21
คอมพวิ เตอร์ตรวจตดิ ตามระดบั ตา่ งๆ ในระบบสนิ คา้ คงคลงั แบบ “ทนั เวลา
พอดี” ประกอบผลิตภณั ฑใ์ นโรงงานท่ีใชห้ ่นุ ยนต์ และเล่นเกมบางอย่าง
อย่างเช่น หมากรุก หรือแมแ้ ต่เกมท่ีแยบยลอย่างหมากลอ้ มไดใ้ นระดบั
เซียน
ผคู้ นหลายลา้ นคนไดร้ ว่ มเป็นพยานในวนั ทว่ี ตั สนั (Watson) ซง่ึ เป็น
คอมพวิ เตอรข์ องไอบเี อม็ ไดร้ ว่ มเลน่ เกม Jeopardy! ท่ีใชภ้ าษาธรรมชาติ
โดยทำ� คะแนนไดส้ งู กวา่ มนษุ ยท์ ่ีเลน่ เกมนีไ้ ดเ้ กง่ ท่ีสดุ ในโลกสองคนรว่ มกนั
เสยี อกี เป็นท่นี า่ สงั เกตวา่ ไมเ่ พยี งแตว่ ตั สนั จะอา่ นและ “เขา้ ใจ” ภาษาอนั
แยบยลในคำ� ถามของเกม Jeopardy! (ซง่ึ ประกอบไปดว้ ยอะไรบางอยา่ งท่ี
ไมธ่ รรมดาอยา่ งพวกคำ� พดู สองแงส่ องงา่ มและคำ� เปรยี บเปรย) นีไ้ ดเ้ ทา่ นนั้
แต่มนั ยงั มีความรูท้ ่ีตอ้ งใชใ้ นการคิดหาคำ� ตอบ จากการทำ� ความเขา้ ใจ
เอกสารท่เี ขยี นขนึ้ ดว้ ยภาษาธรรมชาตเิ ป็นรอ้ ยๆ ลา้ นหนา้ จากวกิ ิพเี ดยี และ
สารานกุ รมอ่ืนๆ วตั สนั จะตอ้ งเป็นผเู้ ช่ียวชาญในเกือบทกุ วิชาท่ีมนษุ ยต์ า่ ง
ตอ้ งเพียรพยายามใชส้ ติปัญญากนั อย่างหนกั อนั ไดแ้ ก่ ประวตั ิศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ วรรณกรรม ศลิ ปะ วฒั นธรรม และอ่นื ๆ อกี มากมาย ปัจจบุ นั
ไอบเี อม็ กำ� ลงั รว่ มมอื กบั Nuance Speech Technologies (กอ่ นหนา้ นีค้ อื
บรษิ ัทแรกของผมในช่ือ Kurzweil Computer Products) เพ่อื พฒั นาวตั สนั
ในเวอรช์ นั ใหม่ใหส้ ามารถอ่านส่ิงตีพิมพท์ างการแพทยไ์ ด้ (โดยเฉพาะ
อยา่ งยง่ิ วารสารทกุ ฉบบั และบรรดาบลอ็ กชนั้ นำ� ในแวดวงการรกั ษาพยาบาล)
เพ่ือมาทำ� หนา้ ท่ีเป็นผเู้ ช่ียวชาญทางการวินิจฉยั โรคและการใหค้ ำ� ปรกึ ษา
ทางการแพทย์ โดยอาศยั เทคโนโลยีท่ีสามารถเขา้ ใจภาษาทางการรกั ษา
พยาบาลท่มี ี Nuance เป็นผพู้ ฒั นาไดเ้ ป็นอยา่ งดี ผสู้ งั เกตการณบ์ างคนได้
ออกมาโตแ้ ยง้ วา่ จรงิ ๆ แลว้ วตั สนั นนั้ ไมไ่ ด้“เขา้ ใจ” ภาษาในคำ� ถามของเกม
Jeopardy! หรอื สารานกุ รมทม่ี นั อา่ นหรอก เพราะสง่ิ ทม่ี นั ทำ� กเ็ ป็นไดแ้ คก่ าร
“วเิ คราะหเ์ ชงิ สถติ ”ิ เทา่ นนั้ ถงึ ตรงนี้ผมอยากอธิบายประเดน็ สำ� คญั ใหฟ้ ังวา่
บรรดาเทคนคิ ทางคณิตศาสตรท์ ่นี ำ� มาใชใ้ นแวดวงปัญญาประดษิ ฐ์ (Artifi-
22 How to Create a Mind
cial Intelligence) (อยา่ งท่ีใชใ้ นวตั สนั หรอื ผชู้ ว่ ยสว่ นบคุ คลในไอโฟนท่ีช่ือ
สิริ (Siri)) นนั้ จะมีความเหมือนกนั ในเชิงคณิตศาสตรเ์ ป็นอย่างมากกบั
วิธีการต่างๆ ท่ีระบบชีววิทยาค่อยๆ พฒั นาขึน้ มาในรูปของนีโอคอรเ์ ทกซ์
ถา้ การทำ� ความเขา้ ใจภาษาและปรากฏการณอ์ ่ืนๆ โดยอาศยั การวเิ คราะห์
ทางสถติ ิ จะไมอ่ าจถอื เป็นความเขา้ ใจทแ่ี ทจ้ รงิ ไดแ้ ลว้ นนั้ มนษุ ยเ์ รากค็ งไมม่ ี
ความเขา้ ใจในเรอ่ื งใดๆ ดว้ ยเชน่ กนั
ความสามารถของวตั สนั ในการจดั การความรูใ้ นเอกสารทใ่ี ชภ้ าษา
ธรรมชาติไดอ้ ย่างชาญฉลาด กำ� ลงั ถูกนำ� มาใชก้ ับโปรแกรมคน้ หาใกล้
ตวั คณุ โดยจะเกิดขึน้ ภายในเวลาอนั ใกลน้ ี้ ปัจจบุ นั นีผ้ คู้ นเร่ิมพดู จากบั
โทรศพั ทข์ องตวั เองดว้ ยภาษาธรรมชาตกิ นั แลว้ (อยา่ งเชน่ ผา่ นทางสริ ิ ซง่ึ
Nuance ก็มีสว่ นสรา้ งความสำ� เรจ็ ในเรอ่ื งนีด้ ว้ ยเชน่ กนั ) นบั วนั ผชู้ ว่ ยท่ีใช้
ภาษาธรรมชาติเหล่านีจ้ ะย่ิงฉลาดขึน้ เร่ือยๆ เน่ืองจากไดห้ นั มาใชว้ ิธีการ
แบบวตั สนั กนั มากขนึ้ ในขณะทว่ี ตั สนั เองกย็ งั คงเดนิ หนา้ พฒั นาตอ่ ไปอยา่ ง
ไมห่ ยดุ ยงั้
รถยนตไ์ รค้ นขบั ของกูเกิลไดอ้ อกว่ิงไปในบา้ นเมืองอนั จอแจทงั้
ใหญ่และเลก็ ในรฐั แคลฟิ อรเ์ นีย จนผา่ นระยะทาง 200,000 ไมลไ์ ปเป็นท่ี
เรยี บรอ้ ยแลว้ (ตวั เลขจะตอ้ งสงู ขนึ้ กวา่ นีอ้ ีกแนๆ่ ในวนั ท่ีหนงั สือเลม่ นีอ้ อก
วางขายทงั้ ในรา้ นจรงิ ๆ และในโลกเสมือนจรงิ ) ตวั อยา่ งปัญญาประดษิ ฐ์ท่ี
นอกเหนือจากเร่อื งนีย้ งั มีใหเ้ ห็นอีกมากมายในโลกยคุ ปัจจบุ นั และจะย่ิง
เพ่ิมมากขนึ้ ในอนาคตอนั ใกลน้ ี้
ความละเอยี ดเชงิ พนื้ ท่ขี องการสแกนสมองและจำ� นวนขอ้ มลู ท่เี รา
รวบรวมเก่ียวกบั สมอง (ซง่ึ ถือเป็นอีกตวั อย่างหน่งึ ของกฎ LOAR) กำ� ลงั
เพม่ิ ขนึ้ อกี เทา่ ตวั หนง่ึ ในทกุ ๆ ปี เรากำ� ลงั แสดงใหเ้ หน็ อกี ดว้ ยวา่ เราสามารถ
ปรบั เปลย่ี นขอ้ มลู ท่วี า่ นี ้ ใหก้ ลายมาเป็นตวั แบบและการจำ� ลองการทำ� งาน
ของสมองสว่ นตา่ งๆ เราประสบความสำ� เรจ็ ในการทำ� การวศิ วกรรมยอ้ นรอย
ความลบั ความคิดมนุษย์ 23
การทำ� หนา้ ท่ีหลกั ของเปลือกสมองส่วนการไดย้ ิน (Auditory Cortex)
ซ่ึงเป็นส่วนท่ีเราใชป้ ระมวลผลขอ้ มูลเสียง เปลือกสมองส่วนการเห็น
(Visual Cortex) ซง่ึ เป็นสว่ นท่ีเราใชป้ ระมวลผลขอ้ มลู ภาพ และซีรเี บลลมั
(Cerebellum) หรอื สมองนอ้ ยซง่ึ เป็นสว่ นท่เี ราใชส้ รา้ งทกั ษะสว่ นหนง่ึ (เชน่
การรบั ลกู บอลท่ีลอยอยใู่ นอากาศ) ขนึ้ มา
ความลำ้� สมยั ของการทำ� โครงการเพ่อื ทำ� ความเขา้ ใจ สรา้ งตวั แบบ
และทำ� การจำ� ลองสมองของมนษุ ยน์ นั้ กค็ อื เราจะทำ� การวศิ วกรรมยอ้ นรอย
นีโอคอรเ์ ทกซข์ องสมองใหญ่ (Cerebral Neocortex) ซง่ึ เป็นสว่ นท่ีเราใช้
คดิ อะไรทเ่ี ป็นลำ� ดบั ชนั้ แบบวนซำ้� ไปมา คอรเ์ ทกซห์ รอื เปลอื กของสมองใหญ่
(Cerebral Cortex) ถือเป็นรอ้ ยละ 80 ของสมองมนษุ ย ์ จะประกอบไปดว้ ย
โครงสรา้ งท่ีซำ้� กนั เป็นอย่างมาก ทำ� ใหม้ นษุ ยส์ ามารถสรา้ งโครงสรา้ งอนั
สลบั ซบั ซอ้ นของความคดิ ตา่ งๆ ขนึ้ มาไดโ้ ดยไมเ่ ป็นไปตามแบบแผนใดๆ เลย
ในทฤษฎีการจดจำ� แบบแผนของจิตใจ ผมจะอธิบายตวั แบบท่ี
แสดงใหเ้ หน็ ถงึ วธิ ีบรรลคุ วามสามารถอนั สำ� คญั ยง่ิ น ี้ ทส่ี มองมนษุ ยน์ ำ� มาใช้
โดยอาศยั โครงสรา้ งอนั ชาญฉลาดอยา่ งหนง่ึ ทม่ี วี วิ ฒั นาการทางชวี วทิ ยาเป็น
ผอู้ อกแบบเอาไวใ้ ห้กลไกในเปลอื กสมองนจี้ ะเตม็ ไปดว้ ยรายละเอยี ดตา่ งๆ
ท่ีเรายงั ไมอ่ าจเขา้ ใจไดอ้ ยา่ งลกึ ซงึ้ แตก่ ็รูม้ ากพอถงึ การทำ� หนา้ ท่ีท่ีจำ� เป็น
ตอ้ งกระทำ� ซ่งึ เราสามารถออกแบบอลั กอรทิ ึม เพ่ือใหบ้ รรลจุ ดุ ม่งุ หมาย
อยา่ งเดยี วกนั นีไ้ ดแ้ ลว้ การเรม่ิ ทำ� ความเขา้ ใจนีโอคอรเ์ ทกซไ์ ดพ้ าเรามายืน
อยู่ในตำ� แหน่งท่ีสามารถขยายพลงั อำ� นาจของมนั ออกไปไดอ้ ีกไกลเลย
เหมือนอย่างท่ีโลกของวิชาการบินสามารถขยายพลงั อำ� นาจของกฎของ
เบอรน์ ลู ลีใหข้ จรขจายออกไป หลกั การพืน้ ฐานท่ีใชใ้ นการดำ� เนินงานของ
นีโอคอรเ์ ทกซด์ ูเหมือนจะเป็นแนวคิดท่ีสำ� คัญท่ีสุดในโลกเลยก็ว่าได้
เน่ืองจากมนั จะสามารถแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความรูแ้ ละทกั ษะทกุ ๆ อยา่ ง และ
ยงั สรา้ งสรรคค์ วามรูใ้ นเร่ืองใหม่ๆ ไดอ้ ีกดว้ ย นีโอคอรเ์ ทกซน์ ่ีแหละท่ีเป็น
24 How to Create a Mind
ท่ีมาของนวนิยายทกุ เรอ่ื ง บทเพลงทกุ เพลง ภาพเขียนทกุ ภาพ ขอ้ คน้ พบ
ทางวิทยาศาสตรท์ ุกประเด็น และผลผลิตอ่ืนๆ อีกมากมาย ท่ีมาจาก
ความคดิ ของมนษุ ยเ์ รา
วชิ าประสาทวทิ ยาศาสตรจ์ ำ� เป็นอยา่ งย่งิ ท่ีจะตอ้ งมีทฤษฎีทฤษฎี
หนง่ึ ท่ีสามารถนำ� เอาขอ้ สงั เกตอนั กวา้ งขวางและแตกตา่ งกนั อยา่ งสนิ้ เชิง
ซง่ึ ถกู นำ� เสนออยใู่ นทกุ วนั มาผนวกเขา้ ดว้ ยกนั ทฤษฎีท่ีผสมผสานจนเป็น
เนือ้ เดียวกันจะถือเป็นขอ้ กำ� หนดท่ีสำ� คญั ย่ิงในทุกๆ สาขาหลกั ของวิชา
วิทยาศาสตร์ ในบทท่ี 1 ผมจะอธิบายถงึ วิธีท่ีนกั ฝันกลางวนั สองคนใชใ้ น
การสรา้ งความเป็นหน่ึงเดียวใหก้ บั ชีววิทยาและฟิ สิกส์ โดยท่ีทงั้ สองต่าง
เคยมีทา่ ทีวา่ เป็นวิชาท่ียงุ่ เหยิงและหลากหลายมาอยา่ งสดุ ๆ และจากนนั้
กจ็ ะพดู ถงึ วธิ ีนำ� ทฤษฎที ว่ี า่ นนั้ มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั ดนิ แดนสว่ นตา่ งๆ ทป่ี รากฏ
ใหเ้ หน็ กนั อยใู่ นสมองของเรา
ทกุ วนั นีเ้ ราจะไดเ้ ห็นการช่ืนชมกนั อย่างมากมายต่อความสลบั
ซบั ซอ้ นของสมองมนษุ ย์ เม่ือมีคำ� ขอใหค้ น้ หาเร่ืองนีม้ ายงั กเู กิล มนั จะมี
คำ� ตอบปรากฏขนึ้ มาประมาณ 30 ลา้ นลงิ กด์ ว้ ยกนั (อยา่ งไรก็ตาม มนั เป็น
เรอ่ื งยากท่ีจะหาจำ� นวนขอ้ เสนอท่ีแทจ้ รงิ ท่ีกเู กิลตอบกลบั มาได้ เพราะบาง
เวบ็ ไซตจ์ ะปรากฏซำ้� กนั หลายครงั้ และบางเวบ็ ก็ไมป่ รากฏใหเ้ ห็น) เม่ือปี
1992 เจมส์ ดี. วตั สนั ไดเ้ ขียนไวว้ า่ “สมองคือเขตแดนสดุ ทา้ ยและย่ิงใหญ่
ท่สี ดุ ของสง่ิ มชี วี ติ เป็นอะไรท่ซี บั ซอ้ นท่สี ดุ ในจกั รวาลท่เี ราเคยคน้ พบกนั มา”
เขายังอธิบายสาเหตุท่ีทำ� ใหเ้ ขาเช่ือเช่นนั้นไวอ้ ีกดว้ ยว่า “ในสมองจะ
ประกอบไปดว้ ยเซลลท์ ่ีเช่ือมโยงกันอยู่หลายแสนลา้ นเซลล์ ผ่านทาง
จุดเช่ือมโยงหลายลา้ นลา้ นจุด ไม่มีใครคิดหรอกว่าสมองจะเป็นไดถ้ ึง
เพียงนี”้
ผมเหน็ ดว้ ยกบั แนวคดิ ของวตั สนั ท่วี า่ สมองคอื เขตแดนอนั ยง่ิ ใหญ่
ท่สี ดุ ในสง่ิ มชี ีวติ แตข่ อ้ เทจ็ จรงิ ท่วี า่ ในสมองมเี ซลลห์ ลายพนั ลา้ นเซลลแ์ ละ
มีจดุ เช่ือมโยงอย่หู ลายลา้ นลา้ นจดุ ก็ไม่ไดท้ ำ� ใหว้ ิธีการสำ� คญั ของสมอง
ความลบั ความคดิ มนษุ ย์ 25
ตอ้ งกลายเป็นเรอ่ื งซบั ซอ้ นเสมอไป ตราบใดท่ีเรายงั สามารถระบแุ บบแผน
ในเซลลแ์ ละจดุ เช่ือมโยงเหลา่ นนั้ ใหส้ ามารถเขา้ ใจกนั ไดง้ ่ายๆ (และสรา้ ง
ขนึ้ ใหมไ่ ด)้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง พวกท่ีเกิดขนึ้ ซำ้� ซอ้ นกนั เป็นจำ� นวนนบั ครงั้
ไมถ่ ว้ น
เรามาลองคิดกนั ดดู ีกว่าว่า ความซบั ซอ้ นนนั้ จะมีลกั ษณะเป็น
เชน่ ใด เราอาจตงั้ คำ� ถามวา่ ป่าไมน้ นั้ ใชส่ ง่ิ ท่ีมีความซบั ซอ้ นหรอื ไม่ คำ� ตอบ
กจ็ ะขนึ้ อยกู่ บั มมุ ท่คี ณุ เลอื กมอง คณุ อาจสงั เกตเหน็ วา่ ในป่านนั้ เตม็ ไปดว้ ย
ตน้ ไมเ้ ป็นพนั ๆ ตน้ โดยแต่ละตน้ ก็จะมีความแตกต่างกนั ออกไป จากนนั้
คณุ ก็สงั เกตเหน็ อีกดว้ ยวา่ ตน้ ไมแ้ ตล่ ะตน้ ตา่ งประกอบไปดว้ ยก่ิงกา้ นเป็น
พนั ๆ สาขา โดยไม่มีก่ิงกา้ นใดท่ีเหมือนกนั เลย ตอ่ มาคณุ ก็อาจอธิบายได้
อกี ดว้ ยวา่ ก่งิ ไมแ้ ตล่ ะก่งิ จะมคี วามผนั ผวนปรวนแปรทส่ี ลบั ซบั ซอ้ นมากมาย
เพยี งใด ถงึ ตอนนี้คณุ กอ็ าจสรุปไดแ้ ลว้ วา่ ป่าไมน้ นั้ มคี วามซบั ซอ้ นเกินกวา่
ท่ีเราจะจินตนาการไปถงึ เสยี อีก
แตจ่ รงิ ๆ แลว้ วิธีท่ีวา่ นีจ้ ะทำ� ใหเ้ รามองไมเ่ หน็ ในภาพรวม เพราะ
จะไปสนใจในรายละเอยี ดมากจนเกินไป แนน่ อนวา่ มนั ยอ่ มมคี วามผนั แปร
แบบแฟรก็ ทลั (Fractal Variation) เป็นอย่างมากในบรรดาก่ิงกา้ นและ
ตน้ ไม้ แตถ่ า้ อยากเขา้ ใจหลกั การพืน้ ฐานของป่าไมส้ กั แหง่ หนง่ึ ใหไ้ ดอ้ ยา่ ง
ถกู ตอ้ ง คณุ กค็ วรจะตงั้ ตน้ จากการระบแุ บบแผนความซำ้� ซอ้ นท่แี ตกตา่ งกนั
ดว้ ยความผนั แปรแบบเฟน้ สมุ่ (Stochastic) (หมายถงึ การสมุ่ น่นั เอง) ซง่ึ
พบไดใ้ นเร่ืองนนั้ ๆ หรือถา้ ใหด้ ีก็ควรจะตอ้ งบอกว่า แนวคิดเร่ืองป่ าแห่ง
หนง่ึ นนั้ จะเป็นอะไรท่ีเขา้ ใจไดง้ า่ ยกวา่ แนวคดิ เรอ่ื งตน้ ไมต้ น้ หนง่ึ เสยี อีก
สมองท่ีเต็มไปดว้ ยความซำ้� ซอ้ นเป็นจำ� นวนมหาศาลในแบบ
เดียวกนั (โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในนีโอคอรเ์ ทกซ)์ ก็จะเป็นอยา่ งนีด้ ว้ ยเชน่ กนั
ผมจะขออธิบายไวใ้ นหนงั สือเลม่ นีเ้ ลยว่า ถา้ ใหด้ ีก็ควรบอกไปเลยว่า ใน
เซลลป์ ระสาทหน่งึ เซลลจ์ ะมีความซบั ซอ้ นมากกว่าโครงสรา้ งทงั้ หมดของ
นีโอคอรเ์ ทกซเ์ สียอีก
26 How to Create a Mind
หนงั สือเล่มนีไ้ ม่ไดต้ งั้ เป้าหมายไวว้ ่า จะพยายามทำ� ใหร้ ายการ
แสดงตามคำ� ขอกบั คนนบั ลา้ นท่ีมีอย่แู ลว้ วา่ สมองมีความซบั ซอ้ นเพียงใด
แต่อยากทำ� ใหค้ ณุ ไดป้ ระทบั ใจไปกบั พลงั ความเรียบง่ายท่ีมีอย่ใู นตวั มนั
ผมจะทำ� เร่ืองนีโ้ ดยอธิบายใหเ้ ห็นว่า กลไกอจั ฉริยะพืน้ ฐานอย่างหน่ึงท่ี
ใชท้ ำ� ความรูจ้ กั จดจำ� และทำ� นายแบบแผนอยา่ งหนง่ึ ซง่ึ ถกู ทำ� ใหเ้ กิดขนึ้
ซำ้� ๆ เป็นรอ้ ยๆ ลา้ นครงั้ ในนีโอคอรเ์ ทกซน์ นั้ จะช่วยใหเ้ ราใชค้ วามคิดท่ี
หลากหลายขนาดนีไ้ ดอ้ ยา่ งไร บรรดาแนวคดิ ความคดิ และทกั ษะท่ีอยใู่ น
รูปทวิ แถวอนั นา่ ทง่ึ และมพี นื้ ฐานอยบู่ นคา่ ของแบบแผน (ของความเชอ่ื มโยง
และความแข็งแรงของไซแนปส์ (Synapse)) ท่ีพบในและระหว่างบรรดา
ตวั จดจำ� แบบแผนในนีโอคอรเ์ ทกซข์ องพวกเรานนั้ ก็จะไมต่ า่ งอะไรไปจาก
ความหลากหลายอนั นา่ พศิ วงของบรรดาสง่ิ มชี วี ติ ทเ่ี กดิ มาจากสว่ นผสมอนั
แตกตา่ งกนั ของคา่ รหสั ทางพนั ธกุ รรม ซง่ึ พบในนวิ เคลยี รด์ เี อน็ เอ (Nuclear
DNA) และไมโทคอนเดรยี ดีเอ็นเอ (Mitochondrial DNA) เหมือนดงั ท่ี
นกั ประสาทวทิ ยาศาสตรป์ ระจำ� เอม็ ไอทที ช่ี อ่ื เซบาสเตยี น ซงุ ไดก้ ลา่ วในเรอ่ื ง
เดียวกนั นีไ้ วว้ ่า “อตั ลกั ษณไ์ ม่ไดอ้ ย่ใู นยีนของพวกเราหรอก แต่จะอย่ใู น
จดุ เช่อื มโยงระหวา่ งเซลลส์ มองของพวกเรา”
เราจำ� เป็นตอ้ งแยกแยะใหอ้ อกวา่ อะไรคอื ความซบั ซอ้ นของภาพรา่ ง
ขนั้ ตน้ กบั ความซบั ซอ้ นท่ปี รากฏใหเ้ หน็ กนั อยู่ ผมอยากใหค้ ณุ ลองพจิ ารณา
เซตแมนเดลบรอต (Mandelbrot Set) หรอื ภาพท่ีมีช่ือเสียงจากการใชเ้ ป็น
สญั ลกั ษณข์ องความซบั ซอ้ นมาอย่างยาวนานกนั ดู ถา้ อยากช่ืนชมความ
ซบั ซอ้ นอนั ชดั แจง้ ของมนั ก็ตอ้ งลองขยายภาพของมนั ออกมา ภาพนีจ้ ะ
เป็นความซบั ซอ้ นในความซบั ซอ้ นท่ีไม่มีท่ีสิน้ สดุ แตภ่ าพรา่ งขนั้ ตน้ (ซง่ึ ก็
คือสตู ร) สำ� หรบั ของเซตแมนเดลบรอต (Mandelbrot) นนั้ กลบั เป็นอะไรท่ี
เรยี บงา่ ยสดุ ๆ ไปเลย โดยจะประกอบไปดว้ ยตวั อกั ขระจำ� นวน 6 ตวั น่นั คอื
Z = Z2 + C ซง่ึ Z ในท่ีนีค้ ือจำ� นวน “เชิงซอ้ น” (หมายถงึ จำ� นวนคหู่ นง่ึ ) และ
C คือ คา่ คงตวั เราจะมองออกเลยวา่ ทงั้ หมดนีเ้ ป็นเรอ่ื งงา่ ยขนาดไหน โดย
ความลบั ความคิดมนษุ ย์ 27
ไมจ่ ำ� เป็นตอ้ งเขา้ ใจฟังกช์ ่นั แมนเดลบรอตใหไ้ ดอ้ ยา่ งถ่องแทเ้ ลย สตู รนีจ้ ะ
ถกู วนกลบั มาใชใ้ หมแ่ ละในทกุ ระดบั ของลำ� ดบั ชนั้ หนง่ึ ๆ สมองก็เป็นอยา่ ง
นีเ้ หมือนกัน โครงสรา้ งท่ีเกิดขึน้ ซำ้� ๆ ของมนั ไม่ไดเ้ รียบง่ายเหมือนสตู ร
อกั ขระหกตวั ของเซตแมนเดลบรอต แตก่ ็ไมไ่ ดซ้ บั ซอ้ นเหมือนอยา่ งท่ีบอก
เอาไวใ้ นรายการทเ่ี ป็นคำ� ตอบของคำ� ขอเรอ่ื งความซบั ซอ้ นของสมองจำ� นวน
หลายลา้ นเหลา่ นนั้ ภาพรา่ งขนั้ ตน้ ของนีโอคอรเ์ ทกซจ์ ะถกู นำ� มาใชซ้ ำ้� ๆ ใน
ทกุ ๆ ระดบั ของลำ� ดบั ชนั้ ทางกรอบความคดิ ท่ีนีโอคอรเ์ ทกซไ์ ดแ้ สดงใหเ้ หน็
ไอนส์ ไตนไ์ ดพ้ ูดถึงเป้าหมายของผมในหนังสือเล่มนีไ้ วเ้ ป็นอย่างดีจาก
คำ� กลา่ วของเขาท่ีวา่ “คนโง่เขลาผมู้ ีสติปัญญาหนา้ ไหนก็อาจทำ� เร่อื งราว
ตา่ งๆ ใหใ้ หญ่โตและซบั ซอ้ นขนึ้ ไดท้ งั้ นนั้ ...แตม่ นั ตอ้ งใช.้ ..ความหาญกลา้
ไมน่ อ้ ยเลย จงึ จะพลกิ เรอ่ื งทงั้ หมดใหห้ นั กลบั ไปในอีกทิศทางหนง่ึ ได”้
มุมหนึ่งของภาพแสดงเซตแมนเดลบรอต ซ่ึงเป็นสูตรง่ายๆ ที่ถูกวนกลับมาใช้ใหม่
ถา้ ลองขยายรปู นด้ี ู กจ็ ะพบกบั รปู ภาพทเี่ ปลย่ี นแปลงไปเรอื่ ยๆ และยงิ่ ดกู จ็ ะยง่ิ ซบั ซอ้ นขน้ึ
28 How to Create a Mind
ณ ตอนนี้ ผมไดพ้ ดู ถงึ เร่อื งสมองไปแลว้ แลว้ เร่อื งราวท่ีเก่ียวกบั
จิตใจ (อย่างเช่นคำ� ถามท่ีว่า นีโอคอรเ์ ทกซท์ ่ีใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหาจะ
มีสตสิ มั ปชญั ญะ (Consciousness) ไดอ้ ยา่ งไร) นนั้ จะเป็นอยา่ งไรบา้ งละ่
และขณะท่ีกำ� ลงั พดู คยุ เรอ่ื งนีก้ นั อยู่ สมองเราจะมีจิตใจท่ีมีสตสิ มั ปชญั ญะ
อยกู่ ่ีดวง มีหลกั ฐานยืนยนั วา่ มนั อาจมีมากกวา่ หนง่ึ ก็ไดน้ ะ
คำ� ถามเก่ียวกบั จติ ใจอกี ขอ้ หนง่ึ กค็ อื เจตจำ� นงเสรี (Free Will) นนั้
คืออะไร และเรามีกนั หรอื เปลา่ มีการทดลองท่ีแสดงใหเ้ ห็นวา่ เราจะเรม่ิ
ลงมือทำ� ในส่งิ ท่ีเราไดต้ ดั สนิ ใจลงไป ก่อนจะรูต้ วั วา่ ไดต้ ดั สนิ ใจไปแลว้ เสีย
ดว้ ยซำ้� อยา่ งนีจ้ ะบอกเป็นนยั ๆ ไดห้ รอื ไมว่ า่ เจตจำ� นงเสรนี นั้ กเ็ ป็นแคเ่ พยี ง
ภาพลวงตาเทา่ นนั้ เอง
คำ� ถามท่ีตามมาเป็นลำ� ดบั สดุ ทา้ ยนนั้ ก็คือ คณุ ลกั ษณะดา้ นไหน
ของสมองเราท่ีทำ� หนา้ ท่ีในการกอ่ รา่ งสรา้ งอตั ลกั ษณ์ (Identity) ของตวั เรา
ขนึ้ มา ผมเป็นคนคนเดียวกบั เม่ือหกเดือนก่อนหรอื ไม่ เห็นชดั เลยวา่ ไมไ่ ด้
เป็นคนคนเดียวกนั แน่ๆ แลว้ อย่างนีอ้ ตั ลกั ษณข์ องผมจะยงั คงเหมือนเดิม
อยหู่ รอื เปลา่ นะ
เราจะมาพิจารณากนั วา่ ทฤษฎีการจดจำ� แบบแผนของจิตใจจะ
บอกเป็นนยั เก่ียวกบั คำ� ถามท่มี มี าอยา่ งยาวนานเหลา่ นไี้ วว้ า่ อยา่ งไรกนั บา้ ง
1
การทดลองทางความคิด
เกยี่ วกับโลกใบนี้
ทฤษฎีการคดั เลือกโดยธรรมชาติของดารว์ ินนนั้ มีขึน้ ในช่วงปลาย
ของประวตั ศิ าสตรท์ างความคดิ
สาเหตุท่ีถูกทำ� ใหช้ า้ ออกไปนั้นเป็นเพราะมันไปขัดแยง้ กับ
ความจรงิ ทเ่ี หน็ กนั อย ู่ หรอื อาจเป็นเรอ่ื งใหมถ่ อดดา้ มในประวตั ศิ าสตร์
แหง่ วทิ ยาศาสตร์ หรอื เป็นเพราะมนั เป็นเรอ่ื งเฉพาะตวั ของพวกส่ิง
มชี วี ติ เทา่ นนั้ หรอื เป็นเพราะมนั เก่ียวขอ้ งกบั จดุ มงุ่ หมายและสาเหตุ
สดุ ทา้ ยท่ีไมม่ ีการนำ� เสนอการกระทำ� เพ่ือการสรา้ งสรรคก์ นั แน่ ผม
วา่ มนั ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนนั้ เลยนะ สง่ิ ท่ดี ารว์ นิ คน้ พบเป็นแคบ่ ทบาทในการ
คดั เลอื กเทา่ นนั้ เป็นความสมั พนั ธเ์ ชงิ เหตผุ ลประเภทหนง่ึ ท่ตี า่ งจาก
กลไกท่ีตอ้ งใชท้ งั้ การผลกั และการดงึ ของวิทยาศาสตรใ์ นยคุ นนั้ ไป
อย่างลิบลบั ตน้ กำ� เนิดของความหลากหลายของส่ิงมีชีวิตท่ีมีอยู่
อยา่ งเหลอื เช่ือนนั้ อาจถกู อธิบายได้ โดยขนึ้ อยกู่ บั วา่ คณุ ลกั ษณะ
เดน่ ท่เี ป็นเรอ่ื งใหมเ่ รอ่ื งใด (ซง่ึ อาจมตี น้ กำ� เนดิ มาจากท่ไี หนกไ็ ด)้ ได้