The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยในชั้นเรียน การส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วม สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนผดุงปัญญา จังหวัดตาก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by e-book takcc, 2023-07-07 00:42:02

วิจัยในชั้นเรียน

วิจัยในชั้นเรียน การส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วม สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนผดุงปัญญา จังหวัดตาก

44 ตารางที่ ๑ ผลการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกในวงรอบปฏิบัติการที่ 1 ด้าน วงรอบที่ ๑ ระดับพฤติกรรม S.D ๑.ด้านบุคลิกภาพ ๒.๗๕ ๐.๒๐ กระท าพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๒.ด้านการสื่อสาร ๒.๐๓ ๐.๑๘ กระท าพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๓.ด้านการแสดงออก/ยอมรับความคิดเห็น ๒.๐๔ ๐.๑๙ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง ๔.ด้านการมีส่วนร่วม ๒.๓๘ ๐.๑๗ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง รวม ๒.๓๐ ๐.๑๘ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง จากตารางที่ ๑ พบว่า พฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ โรงเรียนผดุงปัญญา จ านวน ๑๒๓ คน อยู่ในระดับกระท าพฤติกรรมนาน ๆ ครั้ง ( =2.30, S.D.=0.18) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ด้านบุคลิกภาพ ( =2.75, S.D.=0.20) รองลงมาคือ ด้านการมีส่วนร่วม ( =2.38, S.D.=0.17) และ ด้านการแสดงออก/ยอมรับความคิดเห็น ( =2.03, S.D.=0.18) 4.3.2 ผลการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกในวงรอบปฏิบัติการที่ 2 ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลของผลการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียน โดยข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์มีจ านวนทั้งหมด 14 ข้อ โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน โดยผู้วิจัยได้น าเสนอ ข้อมูลอออกมาเป็นรายด้าน โดยมีรายละเอียดดังตารางที่ ๒ ตารางที่ ๒ ผลการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกในวงรอบปฏิบัติการที่ 2 ด้าน วงรอบที่ ๒ ระดับพฤติกรรม S.D ๑.ด้านบุคลิกภาพ ๓.๘๐ ๐.๔๐ กระท าพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๒.ด้านการสื่อสาร ๓.๕๐ ๐.๐๗ กระท าพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๓.ด้านการแสดงออก/ยอมรับความคิดเห็น ๓.๑๔ ๐.๒๘ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง ๔.ด้านการมีส่วนร่วม ๓.๐๙ ๐.๓๐ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง รวม ๓.๓๘ ๐.๒๖ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง


45 จากตารางที่ ๒ พบว่า พฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ อยู่ในระดับกระท าพฤติกรรมบางครั้ง ( = 3.38, S.D. = 0.26) และเมื่อพิจารณา เป็นรายด้าน เรียง ตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ด้านบุคลิกภาพ ( = 3.80, S.D. = 0.40) รองลงมาคือ ด้านการสื่อสาร ( = 3.50, S.D. = 0.07) และ ด้านการแสดงออก/ยอมรับความ คิดเห็น ( = 3.14, S.D. = 0.28) 4.3.3 ผลการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกในวงรอบปฏิบัติการที่ 3 ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลของผลการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียน โดยข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์มีจ านวน 14 ข้อ 4 ด้าน โดยผู้วิจัยได้น าเสนอข้อมูลเป็นรายด้าน โดยมี รายละเอียดดังตารางที่ ๓ ตารางที่ ๓ ผลการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกในวงรอบปฏิบัติการที่ 3 ด้าน วงรอบที่ ๓ ระดับพฤติกรรม S.D ๑.ด้านบุคลิกภาพ ๔.๒๘ ๐.๒๙ กระท าพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๒.ด้านการสื่อสาร ๔.๐๕ ๐.๒๐ กระท าพฤติกรรมบ่อยครั้ง ๓.ด้านการแสดงออก/ยอมรับความคิดเห็น ๔.๐๘ ๐.๒๙ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง ๔.ด้านการมีส่วนร่วม ๔.๐๘ ๐.๓๔ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง รวม ๔.๑๐ ๐.๒๘ กระท าพฤติกรรมบางครั้ง จากตารางที่ ๓ พบว่าพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ จ านวน ๑๒๓ คน อยู่ในระดับกระท าพฤติกรรมบ่อยครั้ง ( = 4.10, S.D. = 0.29) และเมื่อพิจารณาเป็น รายด้านเรียงตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ด้านบุคลิกภาพ ( = 4.28, S.D. = 0.29) รองลงมาคือ ด้านการมีส่วนร่วม ( = 4.08, S.D. = 0.34) และ ด้านการ แสดงออก/ยอมรับความคิดเห็น ( = 4.08, S.D. = 0.29) สรุปผลการสังเกตพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ จ านวน ๑๒๓ คน ตามวงรอบปฏิบัติการที่ 1 วงรอบปฏิบัติการที่ 2 และ วงรอบ ปฏิบัติการที่ 3 หลังจาก การได้รับการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกในแต่ละวงรอบปฏิบัติการ พบว่านักเรียนมีพฤติกรรมการกล้าแสดงออกดีขึ้นตามล าดับ


46 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ในการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Classroom Action Research) ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อการ ส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมส าหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ จ านวน ๑๒๓ คน ท าการจัดการเรียนกันสอน ทั้งหมด ๓ แผน การจัดการเรียนรู้ รวม 12 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสังเกตพฤติกรรมการกล้า แสดงออก แบบประเมินความพึงพอใจต่อการสอน และแบบประเมินพฤติกรรมการกล้าแสดงออก ส่วน เครื่องมือที่ใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วมซึ่งผู้วิจัยได้ท าการสรุปผลการวิจัยตามล าดับ ดังนี้ 1. สรุป 2. อภิปรายผล 3. ข้อเสนอแนะ 5.1 สรุป ผลของการวิจัยเรื่อง การส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกโดยใช้กระบวนการ เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ โรงเรียนผดุงปัญญา มีข้อสรุปผลดังนี้ 5.1.1 ผลการศึกษาแบบประเมินพฤติกรรมการกล้าแสดงออก ผู้วิจัยได้ท าการเก็บ ข้อมูลหลังจากที่ได้ท าการสอนครบทุกแผนการจัดการเรียนรู้ รวมถึง ได้ถ่ายวีดีโอและท าแบบประเมิน พฤติกรรมเพื่อบันทึกพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนในแต่ ละวงรอบปฏิบัติการของนักเรียน จ านวน ๑๒๓ คน ด้วยแบบประเมินพฤติกรรมการกล้าแสดงออก จ านวน 14 ข้อ 4 ด้าน ผลการสังเกต ดังตารางที่ ๔


47 ตารางที่ ๔ ผลการศึกษาแบบประเมินพฤติกรรมการกล้าแสดงออก ด้าน วงรอบที่ ๑ วงรอบที่ ๒ วงรอบที่ ๓ ภาพรวมแต่ละ ด้าน พฤติกรรมการ กล้าแสดงออก หลังเรียน S.D. S.D. S.D. S.D. S.D. ๑.ด้านบุคลิกภาพ ๒.๗๕ ๐.๒๐ ๓.๘๐ ๐.๔๐ ๔.๒๘ ๐.๒๙ ๓.๖๑ ๐.๓๐ ๔.๒๘ ๐.๒๙ ๒.ด้านการสื่อสาร ๒.๐๓ ๐.๑๘ ๓.๕๐ ๐.๐๗ ๔.๐๕ ๐.๒๐ ๓.๑๙ ๐.๑๕ ๔.๐๖ ๐.๒๐ ๓.ด้านการแสดงออก/การ ยอมรับความคิดเห็น ๒.๐๔ ๐.๑๙ ๓.๑๔ ๐.๒๘ ๔.๐๘ ๐.๒๙ ๓.๐๙ ๐.๒๕ ๔.๑๐ ๐.๒๙ ๔.ด้านการมีส่วนร่วม ๒.๓๘ ๐.๑๗ ๓.๐๙ ๐.๓๐ ๔.๐๘ ๐.๓๔ ๓.๑๘ ๐.๒๗ ๔.๑๓ ๐.๓๒ รวม ๒.๓๐ ๐.๑๘ ๓.๓๘ ๐.๒๖ ๔.๑๓ ๐.๒๘ ๓.๒๗ ๐.๒๔ ๔.๑๔ ๐.๒๘ 5.1.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ผู้วิจัยได้ท าการวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ จ านวน ๑๒๓ คน ด้วยแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบมี ส่วนร่วม จ านวน 20 ข้อ 4 ด้านผลการศึกษาแสดงในตารางที่ ๕ ตารางที่ 5 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประเด็นที่สอบถาม S.D. ระดับความพึงพอใจ ๑.ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๖๘ ๐.๔๐ มากที่สุด ๒.ด้านเครื่องมือและสื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ๔.๘๖ ๐.๔๓ มากที่สุด ๓.ด้านบรรยากาศในชั้นเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรมการ เรียนรู้ ๓.๘๒ ๐.๒๕ มาก ๔.ด้านความรู้ที่ได้รับ ๓.๘๕ ๐.๓๙ มาก รวม ๔.๓๐ ๐.๓๗ มาก จากตารางที่ 5 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ โรงเรียน ผดุงปัญญา ที่เรียนรายวิชา การพูดอย่างมืออาชีพ โดยใช้การบวนการการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ผลการ ประเมินความพึงพอใจของ นักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยรวมเฉลี่ยทั้ง 4 ด้าน อยู่ ในระดับมาก ( = 4.30, S.D. = 0.37)


48 5.2 อภิปรายผล 5.2.1 ผลการศึกษาการส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกจากการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม โดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ รายวิชา การพูดอย่างมืออาชีพ ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา จ านวน ๓ แผนการ เรียนรู้ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่เน้นสร้างเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียน พบว่า แต่ละวงรอบปฏิบัติการมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นตามล าดับ คือ วงรอบปฏิบัติการที่ 1 มีค่าเฉลี่ยที่ 2.30 ( =2.30, S.D.=0.18) วงรอบปฏิบัติการที่ 2 มีค่าเฉลี่ยที่ 3.38 ( =3.38, S.D.=0.26) และ วงรอบ ปฏิบัติการที่ 3 มีค่าเฉลี่ยที่ 4.13 ( =4.13, S.D.=0.28) สอดคล้องกับวิธีของ Kolb (1984, อ้างถึงใน กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, 2544, น. 14 -16) คือ ประสบการณ์, การสะท้อน/ อภิปราย, การทดลอง/ประยุกต์แนวคิด และความคิดรวบยอดผลการศึกษาพฤติกรรมการกล้าแสดงออก ของนักเรียนจากแบบประเมินพฤติกรรมการกล้าแสดงออก การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ การ จัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมมีกระบวนการเรียนรู้ตามขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ ทั้งหมด 4 ขั้นตอน (ประสบการณ์, การสะท้อน/อภิปราย, การทดลอง/ประยุกต์แนวคิด และความคิดรวบยอด) โดยในการ ด าเนินกิจกรรมการสอนในแต่ละครั้งผู้วิจัยจะพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ให้มีความสอดคล้อง กับขั้นตอน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ก าหนด 5.2.2 ผลการศึกษาพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียนระหว่างเรียนและ พฤติกรรม การกล้าแสดงออกของนักเรียนหลังเรียน พบว่าพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียน ระหว่าง เรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าคิด กล้าท า กล้าแสดงออก มีการพัฒนาเพิ่มขึ้น ระยะแรกอยู่ ใน ระดับต่ า ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 อยู่ในระดับมาก พฤติกรรมหลังเรียนอยู่ในระดับมาก ( = 4.14, S.D. = 0.28) แสดงว่านักเรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าคิด กล้าท า กล้าแสดงออกได้ซึ่งสอดคล้อง กับผลการวิจัยของ นรีพร ขุ่ยอาภัย (2552) ได้ท าวิจัยเรื่องการเสริมสร้างพฤติกรรมกล้าแสดงออกของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านเชิงดอย (ดอยสะเก็ดศึกษา) จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ กระบวนการกลุ่มจ านวน 30 คน ในรายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยีหลังจากท าการทดลองแล้ว พบว่าบุคลิกภาพของนักเรียนเปลี่ยนแปลงจากพฤติกรรมไม่กล้าแสดงออกเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพกล้า แสดงออกมากขึ้น 5.2.3 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกระบวนการการจัดการเรียนรู้ แบบมีส่วน ร่วม หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนพึงพอใจในด้านเครื่องมือและสื่อที่ใช้ ในการจัดการเรียนรู้มากที่สุด ( =4.86, S.D.=0.43) ทั้งนี้เพราะนักเรียนเห็นว่ากระบวนการจัด กิจกรรม การเรียนรู้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทการเรียนรู้และความรู้ที่ได้รับของนักเรียน ( =4.68, S.D.=0.40) และด้านความรู้ที่ได้รับ ( =3.85, S.D.=0.39) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือ


49 และสื่อที่ใช้ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้น่าสนใจ สนับสนุนให้นักเรียนได้ร่วมมือกันเรียนรู้และ ช่วยเหลือ กัน นักเรียนสนุกกับการเรียน ได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ส่งผลให้นักเรียนพึงพอใจในระดับ มาก ( =4.30, S.D.=0.37) 5.3 ข้อเสนอแนะ จากการด าเนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน (Classroom Action Research) ซึ่ง การจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการกล้า แสดงออกส าหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕/๖ – ๕/๙ โรงเรียนผดุงปัญญา มีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้ 5.3.1 ข้อเสนอแนะเพื่อน าผลการวิจัยไปใช้ในการวิจัยครั้งต่อไปควรมีการแจ้งผลการประเมิน พฤติกรรมการกล้าแสดงออกให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อที่ผู้ปกครองจะได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของการ ส่งเสริมพฤติกรรมการกล้า แสดงออกของบุตรหลาน 5.3.1.1 ควรสร้างแรงจูงใจโดยการยกย่องให้เกียรติแก่ผู้ที่มีพัฒนาการการกล้า แสดงออก เช่น การยอมรับ ค าชม การให้เกียรติ การปรบมือ การประกาศรายชื่อผู้ได้คะแนนการกล้า แสดงออกในระดับสูง ให้แก่นักเรียนบ้างในบางครั้ง 5.3.1.2 ควรให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับการเรียน การสอนแบบมีส่วนร่วม 5.3.2 ข้อเสนอแนะเพื่อท าการวิจัยครั้งต่อไป 5.3.2.1 ควรส่งเสริมให้มีการสอดแทรกกิจกรรมการสอนให้หลากหลายมากขึ้น เช่น ใช้เกมต่าง ๆ 5.3.2.2 ควรใช้กลุ่มตัวอย่างที่หลายหลายเพื่อประเมินประสิทธิภาพของเครื่องมือ 5.3.2.3 ควรปรับเครื่องมือทางการวิจัยให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย


50 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. กรมวิชาการ. (2546). การจัดสาระการเรียนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคม ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.). กรมสุขภาพจิต. (2544). คู่มือฝึกอบรมแบบมีส่วนร่วม. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : วงศ์กมล โปรดักชั่น. เกวลี ศรีบุรี. (๒๕๖๐). การส่งเสริมพฤติกรรมการกล้าแสดงออกโดยใช้กระบวนการการเรียนรู้แบบ มีส่วนร่วม ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนผดุงนารี. (วิทยานิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต). มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. คุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2551). การเสริมสร้างคุณลักษณะเด็กไทย. กรุงเทพฯ : ศูนย์สื่อและสิ่งพิมพ์ แก้วเจ้าจอม. ชนิดา ตันไพบูลย์. (2557). ผลของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มพัฒนาตนที่มีต่อพฤติกรรม การกล้าแสดงออกของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ. (วิทยานิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต). ศรีสะเกษ : มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ. ญาญญัฎา หวงัอนุภาพ. (2545). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาคทฤษฏีทักษะ วิชามนุษย สัมพันธ์ในองค์การ ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันราชภัฏจันทรเกษม จากการ สอน แบบมีส่วนร่วม. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : สถาบันราชภัฏจันทรเกษม. บุญชม ศรีสะอาด. (2546). การวิจัยส าหรับครู. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. ประวิต เอราวรรณ์. (2545). การวิจัยปฏิบัติการ. ขอนแก่น : ขอนแก่นการพิมพ์. ไพศาล วรค า. (2558). การวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 7). มหาสารคาม : ตักสิลาการพิมพ์. ยาใจ พงศ์บริบูรณ์. (2537). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2544). เอกสารประกอบการสอนวิชาการพัฒนาการเรียนการสอน. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วิมลรัตน์สุนทรโรจน์. (2549). เอกสารประกอบการสอนนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้.มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วัฒนาพร ระงับทุกข์. (2542). แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. (พิมพ์ครั้งที่2). กรุงเทพฯ : ม.ป.ท. ศิริลักษณ์ สุวรรณวงศ์. (2538). ทฤษฎีและเทคนิคการสุ่มตัวอย่าง. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.


51 สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน. (2544). การจัดการะบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม. เชียงใหม่ : เชียงใหม่ บี เอส การพิมพ์. ประไพ ประดิษฐ์สุขถาวร. (2556). สมรรถนะของผู้เรียน. สืบค้นจาก http://taamkru.com/th/ สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน/ (วันที่ค้นข้อมูล : ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖). สายสุนีย์ กลิ่มสุคนธ์. (2545). ผลของการใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมแรงร่วมใจที่มีต่อ ความคิด สร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์อ าเภอ พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร. สุวิทย์ มูลค า. (2549). กลยุทธ์การสอนคิดสังเคราะห์. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2555). คู่มือประเมินสมรรถนะส าคัญของผู้เรียนระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช (2551) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ส านักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2546). หลักการสอน. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์. เอกรินทร์ สี่มหาศาล. (2545). กระบวนการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษา แนวคิดสู่ปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : บุ๊คพอยท์. Baker, Therese L. (1994). Doing Social Research. USA : McGraw-Hill Inc. Dubois, David D. Rothwell, William J. (2004). Competency – Based Human Resource Management. California : Davies – Black Publishing. Fraenkel, Jack R. (1993). How to Design and Evaluate Research in Education. Singapore : McGraw-Hill Inc.


52 ภาคผนวก


53 แบบประเมินพฤติกรรมกล้าแสดงออกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา ค าชี้แจง ๑. แบบสอบถามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินพฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียน ๒. โปรดท าเครื่องหมาย หรือเขียนข้อความในช่องที่ต้องการ ตอนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไป เพศ ชาย หญิง ตอนที่ ๒ พฤติกรรมการกล้าแสดงออกของนักเรียน รายการประเมิน ระดับพฤติกรรม ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ด้านบุคลิกภาพ ๑.มีการแต่งกายที่เหมาะสม ๒.บุคลิกของผู้พูดระหว่างท าการพูด ๓.ผู้พูดประสานสายตากับผู้ที่ก าลังสนทนาด้วย ๔.ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง ด้านการสื่อสาร ๑.สามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่ว ๒.มีน้ าเสียงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ๓.มีมารยาทในการพูด ๔.มีมารยาทในการฟัง ด้านการแสดงออก/ยอมรับความคิดเห็น ๑.ไม่เคอะเขินหรือลังเลเวลาพูด ๒.กล้าคิด กล้าท า และกล้าแสดงออก ๓.มีการแสดงออกทางใบหน้าที่เหมาะสม ด้านการมีส่วนร่วม ๑.สามารถยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นได้ ๒.มีส่วนร่วมในการตอบค าถาม ๓.มีส่วนในการแสดงความคิดเห็น ตอนที่ ๓ ข้อเสนอแนะอื่นๆ .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... ความหมายของระดับพฤติกรรม 5 กระท าทุกครั้ง 4 กระท าบ่อยครั้ง 3 กระท าบางครั้ง 2 กระท านานๆครั้ง 1 แทบไม่เคยกระท า


54 แบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกระบวนการ การจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา ค าชี้แจง ๑. แบบสอบถามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส ารวจความพึงพอใจของนักเรียน ๒. โปรดท าเครื่องหมาย หรือเขียนข้อความในช่องที่ต้องการ ตอนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไป เพศ ชาย หญิง ตอนที่ ๒ ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วม รายการประเมิน ระดับพฤติกรรม ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑.นักเรียนทราบจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ชัดเจน ๒.กิจกรรมการเรียนสอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนการสอน ๓.ครูส่งเสริมให้นักเรียนท างานร่วมกันเป็นกลุ่ม ๔.ครูส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มและรู้จัก วิพากษ์วิจารณ์ ๕.ครูใช้วิธีสอนหลายวิธี ด้านเครื่องมือและสื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ๑.ครูมีการเตรียมการสอน พิจารณาจาสื่ออุปกรณ์ ๒.ครูส่งเสริมให้นักเรียนค้นคว้าหาความรู้จาก ห้องสมุดและแหล่งอื่นๆ ๓.ครูสามารถประยุกต์สิ่งที่สอนเข้ากับสภาพสังคม และสิ่งแวดล้อม ๔.ครูส่งเสริมให้ทดลอง ท างานนอกห้องเรียน ๕.ครูตั้งใจสอน ให้ค าแนะน านักรเยในการท า กิจกรรม ด้านบรรยากาศในชั้นเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ๑.การจัดสภาพห้องเรียน ๒.กิจกรรมการเรียนมีความสนุกสนานและน่าสนใจ ๓.ครูให้ความสนใจแก่นักเรียนอย่างทั่วถึงขณะสอน ๔.ครูจัดกิจกรรมให้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ภายนอก ห้องเรียน ๕.นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข


55 รายการประเมิน ระดับพฤติกรรม ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ด้านการมีส่วนร่วม ๑.ครูให้โอกาสนักเรียนในการซักถามเมื่อมีปัญหา ๒.เนื้อหาที่สอนสอดคล้องกับชีวิตและความทันสมัย ๓.นักเรียนชอบเรียนวิชานี้ ๔.นักเรียนน าความรู้จากวิชานี้ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ๕.ความรู้จากวิชานี้สามารถน าไปประกอบอาชีพได้ ตอนที่ ๓ ข้อเสนอแนะอื่นๆ .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... .......................................................................................................... ความหมายของระดับความพึงพอใจ 5 มากที่สุด 4 มาก 3 ปานกลาง 2 น้อย 1 น้อยที่สุด


56 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ รายวิชา การพูดอย่างมืออาชีพ รหัสวิชา ท 32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง รอบรู้เรื่องการพูด จ านวน ๔ ชั่วโมง เรื่อง ความหมายและความส าคัญของการพูด จ านวน ๔ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ศึกษาหลักการและวิเคราะห์แนวทางการพูดที่มีประสิทธิภาพในรูปแบบต่าง ๆ เรียนรู้ ศิลปะการพูดการใช้ถ้อยค า น้ าเสียง และการใช้ท่าทางประกอบการพูดตามกาลเทศะ การพูดในโอกาส ต่าง ๆ ตลอดการพูด ในงานอาชีพ ฝึกออกแบบการพูด วางโครงร่างการพูด และสามารถเตรียมการพูด ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ได้แก่ การพูดในที่ประชุมชน และการพูดเฉพาะอาชีพ ทั้งแบบที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการพูด ตลอดจนเห็นคุณค่าการใช้ภาษาพูด ในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ส าคัญ ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายและความส าคัญของการพูดได้ ๒. บอกลักษณะและวิเคราะห์องค์ประกอบและแนวทางการพูดเพื่อเตรียมการพูดได้ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ - ด้านความรู้(K) : 1. นักเรียนสามารถบอกความหมายและความส าคัญของการพูดได้ ๒. นักเรียนบอกลักษณะและวิเคราะห์องค์ประกอบและแนวทางการพูดเพื่อ เตรียมการพูดได้ - ด้านทักษะ (P) : ๑. นักเรียนมีทักษะในการวางแผนการเขียนเค้าโครงเรื่องที่พูดได้ ๒. นักเรียนมีทักษะในการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติผ่านแอพพลิเคชั่น เพื่อเพิ่มความเป็น มืออาชีพในการพูดได้ - ด้านคุณลักษณะ (A) : ๑. นักเรียนมีการท างานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ความ สนใจใฝ่รู้ความมีเหตุผล


57 ๓. สาระส าคัญ การพูดเป็นกระบวนการสื่อสารจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร ผ่านสื่อประเภทต่างๆ เพื่อ ถ่ายทอดความรู้ อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดให้เกิดความรู้และเพื่อตอบสนองความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่ง ได้ถูกต้อง ซึ่งการสื่อสารให้ประสบความส าคัญ ผู้พูดต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการพูดอย่างถ่องแท้ ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการน ากระบวนการต่างๆ ไป ใช้ในการด าเนินชีวิตประจ าวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การท างาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความ ขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และ การรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ๕. สาระการเรียนรู้ การเป็นนักพูดเป็นอาชีพ ๖. สาระการเรียนรู้สู่การบูรณาการ สามารถบูรณาการเข้ากับรายวิชา IS การศึกษาค้นคว้าอิสระ เรียนรู้ตามความสนใจ ของผู้เรียน และสามารถสืบค้นข้อมูลจากเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบสากล ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ (ใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๕ ขั้นตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) คาบเรียนที่ ๑ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - ครูตั้งประเด็นค าถาม จากประสบการณ์จริงของนักเรียน นักเรียนรู้สึกอย่างไรเมื่อ ต้องออกมาน าเสนองานหน้าชั้นเรียน หรือการที่ต้องออกไปพูดในที่ประชุมชน ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - ครูสนทนากับนักเรียนและสังเกตความกล้าแสดงออกของนักเรียน ให้นักเรียนเสนอ หัวข้อในการออกมาน าเสนอ ว่าหากมีระยะเวลาที่จ ากัด ต้องออกมาพูดโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นักเรียนจะ น าเสนอหัวข้ออะไร ที่คิดว่าเราจะท าผลงานออกมาได้ดีที่สุด ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - ให้นักเรียน ร่างบท วางเค้าโครงเรื่องที่จะออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน เป็นเวลา ๑๕ นาที และสุ่มให้นักเรียนออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน ๑๐ นาที


58 ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - ครูให้นักเรียนวิพากษ์วิจารณ์ ผลงานที่เพื่อนออกมาน าเสนอในเชิงสร้างสรรค์ พร้อม กับให้ค าแนะน าเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ปรับปรุงทั้งนักเรียนที่เป็นตัวแทนออกมาน าเสนอ และไม่ได้ออกมา น าเสนอ ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ครูสรุปภาพรวมในกิจกรรม และประเมินผลในภาพรวม เพื่อให้นักเรียนรู้ถึงความ พร้อมในการพูดน าเสนอหน้าชั้นเรียน และบอกจุดบกพร่องที่ควรแก้ไข และให้นักเรียนออกมาน าเสนอ หน้าชั้นเรียนในคาบถัดไปทุกคน โดยให้นักเรียนเขียนประวัติส่วนตัว ร่างเค้าโครงการเนื้อหาที่จะให้ น าเสนอลงในสมุด โดยไม่ให้น าสมุดออกมาอ่านให้เพื่อนฟัง คาบเรียนที่ ๒ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - นักเรียนดูตัวอย่างการพูดน าเสนอ ผ่านคลิป https://youtu.be/02IREW-pQJw ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - ให้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องของโครงร่าง และเตรียมพร้อมในการน าเสนอหน้า ชั้นเรียน ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - ให้นักเรียนน าเสนอ ประวัติส่วนตัวหน้าชั้นเรียน - โดยน าสมุดส่งให้ครูผู้สอน เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลที่นักเรียนน าเสนอ - ครูให้ค าแนะน าการน าเสนอของนักเรียนเป็นรายบุคคลหลังจากที่นักเรียน น าเสนอเสร็จ ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - ให้นักเรียนช่วยกันสรุป ถึงกิจกรรมที่น าเสนอประวัติส่วนตัวหน้าชั้นเรียน ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ครูท าการประเมินผลงานนักเรียนตามเกณฑ์ คาบเรียนที่ ๓-๔ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - นักเรียนช่วยกันตอบ มีองค์ประกอบอะไรบ้างที่จะท าให้เราไปเป็นนักพูดมืออาชีพได้ และมีอาชีพอะไรที่จ าเป็นต้องมีทักษะการพูดการสื่อสารที่ดี


59 ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - ครูให้นักเรียนศึกษาเอกสาร หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม http://ge.vru.ac.th/gevru/wp-content/uploads/2020/07/บทที่-๔-การพัฒนาทักษะการพูด.pdf ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ ๕ คน สรุปเนื้อหาการพัฒนาทักษะการพูด โดยเขียนเป็น แผนผังความคิด ลงในแอพพลิเคชั่น CANVA ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - นักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหา เตรียมน าเสนอคาบถัดไป ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ครูตรวจผลงานของนักเรียนจากผลงานแผนผังความคิด และจากการน าเสนอใน คาบเรียนที่ ๔ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ ๑. แอพลิเคชั่น CANVA ๒. ใบความรู้http://ge.vru.ac.th/gevru/wp-content/uploads/2020/07/บท ที่-๔-การพัฒนาทักษะการพูด.pdf 8.2 แหล่งการเรียนรู้ ๑. กูเกิล สืบค้นบนอินเทอร์เน็ต ๒. ห้องสมุดโรงเรียน ๙. การวัดและประเมินผล (K-P-A) สิ่งที่วัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K): ตรวจผลงาน แบบบันทึกคะแนน ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ (P): สังเกต แบบสังเกต ทักษะ/ กระบวนการ ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านทักษะ/ กระบวนการ ด้านคุณลักษณะ (A): สังเกต แบบสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านคุณลักษณะ


60 ๙.๑ เกณฑ์การประเมิน ๑) ด้านความรู้ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1. นักเรียนสามารถบอก ความหมายและความ ส าคัญของการพูดได้ ๒. นักเรียนบอกลักษณะ และวิเคราะห์ องค์ประกอบและแนว ทางการพูดเพื่อ เตรียมการพูดได้ นักเรียนท าแบบฝึก ทักษะได้ถูกต้อง ร้อยละ 80 ขึ้นไป นักเรียนท าแบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้องร้อยละ 70 – 79 นักเรียนท าแบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้องร้อยละ 50 – 69 นักเรียนท า แบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้อง ต่ ากว่า ร้อยละ 50 การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป 2) ด้านทักษะ/กระบวนการ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 ๑. นักเรียนมีทักษะ ในการวางแผนการ เขียนเค้าโครงเรื่องที่ พูดได้สามารถ น าเสนอหน้าชั้นเรียน ได้ ๒. นักเรียนมีทักษะ กระบวนท างานเป็น ทีม นักเรียนออกแบบ วางแผนเขียนเค้า โครงเรื่องที่พูดได้ และน าเสนอหน้า ชั้นเรียนได้อย่าง มั่นใจ ข้อมูล ถูกต้อง สื่อสาร ชัดเจน ตอบ ค าถามได้ทุกข้อ นักเรียนออกแบบ วางแผนเขียนเค้า โครงเรื่องที่พูดได้ และน าเสนอหน้า ชั้นเรียนได้อย่าง มั่นใจ ข้อมูล ถูกต้อง สื่อสาร ชัดเจน ตอบ ค าถามได้บางข้อ นักเรียนออกแบบ วางแผนเขียนเค้า โครงเรื่องที่พูดได้ และน าเสนอหน้า ชั้นเรียนได้ ค่อนข้างมั่นใจ ข้อมูลถูกต้อง สื่อสารชัดเจน ตอบค าถามได้ บางข้อ นักเรียนออกแบบ วางแผนเขียนเค้า โครงเรื่องที่พูดได้ และน าเสนอหน้า ชั้นเรียนได้ขาด ความมั่นใจ ข้อมูลถูกต้อง ตอบค าถามได้ บางข้อ


61 การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป 3) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 มีวินัย ท างานสะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ก าหนดให้ ร่วมกันทุกครั้ง ท างานส่วนใหญ่ สะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตน อยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน เป็นส่วนใหญ่ ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและปฏิบัติ ตนอยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกันเป็น บางครั้งต้องอาศัย การแนะน า ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและไม่ ปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ เพียรพยายามในการ เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ ไม่ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นในการท างาน ตั้งใจและรับผิดชอบใน การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้ส าเร็จมี การปรับปรุงและ พัฒนาการท างานให้ ดีขึ้นด้วยตนเอง ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ มีการปรับปรุง และพัฒนาการ ท างานให้ดีขึ้น ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ ไม่ตั้ง หรือไม่ รับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป


62 แบบบันทึกคะแนนด้านความรู้ เลขที่ ชื่อ-สกุล ใบงาน (๑๐คะแนน) รวมคะแนน (๑๐คะแนน) ร้อย ละ ระดับ คุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


63 แบบบันทึกการประเมินผลด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ ชื่อ-สกุล ท างานเป็นระบบ (๕คะแนน) มีความรอบคอบ (๕คะแนน) (3 รวม คะแนน) (๑๐คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


64 แบบบันทึกการประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ เลขที่ ชื่อ-สกุล การแก้ปัญหา (๕คะแนน) การให้เหตุผล (๕คะแนน) รวม (๑๐คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


65 บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) นักเรียนมีความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.........คน คิดเป็น ร้อยละ ........................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................................. . ด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนมีทักษะกระบวนการ (P) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.................คน คิดเป็น ร้อยละ ............................................................................................................................................. ...................... ............................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ด้านคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.........คน คิดเป็น ร้อยละ ........................................................................................................................................... ........................ ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................................................................................... ........ ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ...................................... ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................................. . ลงชื่อ..................................................ครูผู้สอน (นางรพิชา มัตนามะ) ต าแหน่ง ครู


66 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ รายวิชา การพูดอย่างมืออาชีพ รหัสวิชา ท 32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง พูดกระจ่างอย่างมีศาสตร์และศิลป์ จ านวน ๔ ชั่วโมง เรื่อง เทคนิคการพูดอย่างมืออาชีพ จ านวน ๔ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ศึกษาหลักการและวิเคราะห์แนวทางการพูดที่มีประสิทธิภาพในรูปแบบต่าง ๆ เรียนรู้ ศิลปะการพูดการใช้ถ้อยค า น้ าเสียง และการใช้ท่าทางประกอบการพูดตามกาลเทศะ การพูดในโอกาส ต่าง ๆ ตลอดการพูด ในงานอาชีพ ฝึกออกแบบการพูด วางโครงร่างการพูด และสามารถเตรียมการพูด ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ได้แก่ การพูดในที่ประชุมชน และการพูดเฉพาะอาชีพ ทั้งแบบที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการพูด ตลอดจนเห็นคุณค่าการใช้ภาษาพูด ในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ส าคัญ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายและความส าคัญของศาสตร์และศิลป์การพูดได้ 2. วิเคราะห์องค์ประกอบของศาสตร์และศิลป์ของการพูดได้ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ - ด้านความรู้(K) : 1. นักเรียนอธิบายความหมายและความส าคัญของศาสตร์และศิลป์การพูดได้ ๒. นักเรียนวิเคราะห์องค์ประกอบของศาสตร์และศิลป์ของการพูดได้ - ด้านทักษะ (P) : ๑. นักเรียนมีทักษะในใช้แอพพลิเคชั่น Teleprompter ในการสร้างความเป็นมือ อาชีพ ๒. นักเรียนมีทักษะในการค้นคว้าข้อมูลเพื่อน าเสนอได้อย่างถูกต้อง - ด้านคุณลักษณะ (A) : ๑. นักเรียนมีการท างานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ความ สนใจใฝ่รู้ความมีเหตุผล ๓. สาระส าคัญ การพูดจะเกิดผลสัมฤทธิ์ได้นั้น ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ฟัง กล่าวคือ ผู้ฟังจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่ดี เชื่อถือ และคล้อยตามผู้พูดแต่หากพฤติกรรมของผู้ฟังมีทิศทางตรงกัน ข้าม คือ ไม่คล้อยตามและปฏิบัติตาม ย่อมถือว่าการพูดไม่ประสบความส าเร็จ


67 ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการน ากระบวนการต่างๆ ไป ใช้ในการด าเนินชีวิตประจ าวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การท างาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความ ขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และ การรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ๕. สาระการเรียนรู้ การเป็นนักพูดเป็นอาชีพ ๖. สาระการเรียนรู้สู่การบูรณาการ สามารถบูรณาการเข้ากับรายวิชา IS การศึกษาค้นคว้าอิสระ เรียนรู้ตามความสนใจ ของผู้เรียน และสามารถสืบค้นข้อมูลจากเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบสากล ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ (ใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๕ ขั้นตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) คาบเรียนที่ ๑ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - ครูตั้งประเด็นค าถาม นักเรียนจะมีวิธีใดเพื่อท าให้ตนเองสามารถพูดได้อย่าง คล่องแคล่ว เป็นธรรมชาติ หากต้องใช้สื่อเทคโนโลยีเข้ามาช่วย นักเรียนรู้จักสื่ออะไรบ้าง ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - ครูสนทนากับนักเรียนและให้นักเรียนหาสื่อเทคโนโลยี หรือแอพพลิเคชั่นที่เป็นตัว ช่วยท าให้นักพูดฝึกหัด มีความมั่นใจส่งผลท าให้เป็นนักพูดมืออาชีพได้ ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - ครูให้นักเรียนทดลองโหลดแอพพลิเคชั่น Teleprompter และสอนวิธีใช้ ข้อดีของ การใช้ Teleprompter คือท าให้นักเรียนได้มีเครื่องมือในการฝึกพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติผ่านกล้อง วีดีโอ ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - ครูให้นักเรียนเขียนเค้าโครงบทพูดลงใน Teleprompter โดยใช้หัวข้อ ความหมาย และความส าคัญของศาสตร์และศิลป์การพูด และองค์ประกอบของศาสตร์และศิลป์ของการพูด


68 ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ให้นักเรียนน าเสนอผลงานผ่านคลิป Teleprompter ครูจะท าการประเมินผลงาน เป็นรายบุคคล การส่งผลงานให้นักเรียนส่งผลงานในกลุ่มไลน์ โดยการใช้แชร์ลงโน้ตกลุ่ม ก าหนดส่งก่อน ถึงคาบถัดไป เพื่อจะได้น าผลงานของนักเรียนมาวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ คาบเรียนที่ ๒ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - ครูสอบถามถึงกระบวนการท างานและปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการอัดคลิป Teleprompter ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างท างาน และช่วยกันหาแนว ทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - ครูเปิดคลิป Teleprompter ผลงานของนักเรียนทีละคน - นักเรียนและครูร่วมกับวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของแต่ละคน ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - นักเรียนมีประสบการณ์ในการใช้แอพพลิเคชั่น Teleprompter เพื่อให้นักเรียนมี ความเชื่อมั่นในการใช้เครื่องมือ ให้นักเรียนท าซ้ าอีกครั้ง โดยเปลี่ยนหัวข้อ ให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่จะ น าเสนอผ่าน Teleprompter เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือแหล่งเรียนรู้ใกล้บ้าน ในชุมชน จังหวัดตาก โดยไม่ซ้ ากับเพื่อนในห้อง ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ครูท าการประเมินผลงานนักเรียนตามเกณฑ์ คาบเรียนที่ ๓-๔ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - นักเรียนเลือกหัวข้อแหล่งเรียนรู้ โดยไม่ซ้ ากันกับเพื่อนในห้อง ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - นักเรียนท าการศึกษาค้นคว้าข้อมูล แหล่งเรียนรู้ที่เลือก ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - นักเรียนร่างบทพูด พร้อมกับน าบทพูดเข้า Teleprompter - ท าการอัดคลิป และส่งผลงาน


69 ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - ตรวจสอบผลงาน การพูดต้องเป็นไปตามบทที่นักเรียนร่าง ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ครูตรวจผลงานของนักเรียนจากผลงานจากคลิปวีดีโอ ในคาบถัดไป และให้ ค าแนะน าร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ผลงานร่วมกันกับนักเรียนในคาบที่ ๔ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ ๑. แอพลิเคชั่น Teleprompter 8.2 แหล่งการเรียนรู้ ๑. กูเกิล สืบค้นบนอินเทอร์เน็ต ๒. ห้องสมุดโรงเรียน ๙. การวัดและประเมินผล (K-P-A) สิ่งที่วัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K): ตรวจผลงาน แบบบันทึกคะแนน ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ (P): สังเกต แบบสังเกต ทักษะ/ กระบวนการ ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านทักษะ/ กระบวนการ ด้านคุณลักษณะ (A): สังเกต แบบสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านคุณลักษณะ


70 ๙.๑ เกณฑ์การประเมิน ๑) ด้านความรู้ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1.อธิบายความหมาย และความส าคัญของ ศาสตร์และศิลป์การพูด ได้ 2. วิเคราะห์ องค์ประกอบของศาสตร์ และศิลป์ของการพูดได้ นักเรียนท าแบบฝึก ทักษะได้ถูกต้อง ร้อยละ 80 ขึ้นไป นักเรียนท าแบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้องร้อยละ 70 – 79 นักเรียนท าแบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้องร้อยละ 50 – 69 นักเรียนท า แบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้อง ต่ ากว่า ร้อยละ 50 การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป


71 2) ด้านทักษะ/กระบวนการ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1.อธิบายความหมาย และความส าคัญของ ศาสตร์และศิลป์การ พูดได้ผ่าน แอพพลิเคชั่น Teleprompter 2. วิเคราะห์ องค์ประกอบของ ศาสตร์และศิลป์ของ การพูดได้ผ่าน แอพพลิเคชั่น Teleprompter คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ครบถ้วน น าเสนออย่าง มั่นใจ ไม่ติดขัด ถูกต้องตามหลัก ภาษา เป็น ธรรมชาติ คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ไม่ ครบถ้วน น าเสนอ อย่างมั่นใจ ติดขัด บ้าง ถูกต้องตาม หลักภาษา เป็น ธรรมชาติ คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ไม่ ครบถ้วน น าเสนอ อย่างมั่นใจ ติดขัด บ้าง ถูกต้องตาม หลักภาษา ไม่เป็น ธรรมชาติ คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ไม่ ครบถ้วน น าเสนออย่างไม่ มั่นใจ ติดขัด ไม่ ถูกต้องตามหลัก ภาษา ไม่เป็น ธรรมชาติ การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป


72 3) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 มีวินัย ท างานสะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ก าหนดให้ ร่วมกันทุกครั้ง ท างานส่วนใหญ่ สะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตน อยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน เป็นส่วนใหญ่ ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและปฏิบัติ ตนอยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกันเป็น บางครั้งต้องอาศัย การแนะน า ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและไม่ ปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ เพียรพยายามในการ เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ ไม่ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นในการท างาน ตั้งใจและรับผิดชอบใน การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้ส าเร็จมี การปรับปรุงและ พัฒนาการท างานให้ ดีขึ้นด้วยตนเอง ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ มีการปรับปรุง และพัฒนาการ ท างานให้ดีขึ้น ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ ไม่ตั้ง หรือไม่ รับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป


73 แบบบันทึกคะแนนด้านความรู้ เลขที่ ชื่อ-สกุล ใบงาน (๑๐คะแนน) รวมคะแนน (๑๐คะแนน) ร้อย ละ ระดับ คุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


74 แบบบันทึกการประเมินผลด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ ชื่อ-สกุล ท างานเป็นระบบ (๕คะแนน) มีความรอบคอบ (๕คะแนน) (3 รวม คะแนน) (๑๐คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


75 แบบบันทึกการประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ เลขที่ ชื่อ-สกุล การแก้ปัญหา (๕คะแนน) การให้เหตุผล (๕คะแนน) รวม (๑๐คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


76 บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) นักเรียนมีความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.........คน คิดเป็น ร้อยละ ........................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................................. . ด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนมีทักษะกระบวนการ (P) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.................คน คิดเป็น ร้อยละ ............................................................................................................................................. ...................... ............................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ด้านคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.........คน คิดเป็น ร้อยละ ........................................................................................................................................... ........................ ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................................................................................... ........ ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ...................................... ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................... ........................ .......................................................................................................................................................... ......... .......................................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ..................................................ครูผู้สอน (นางรพิชา มัตนามะ) ต าแหน่ง ครู


77 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ รายวิชา การพูดอย่างมืออาชีพ รหัสวิชา ท 32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง พูดเสนาะเหมาะกาลเทศะ จ านวน ๔ ชั่วโมง เรื่อง ลงพื้นที่สร้างความเป็นมืออาชีพ จ านวน ๔ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ศึกษาหลักการและวิเคราะห์แนวทางการพูดที่มีประสิทธิภาพในรูปแบบต่าง ๆ เรียนรู้ ศิลปะการพูดการใช้ถ้อยค า น้ าเสียง และการใช้ท่าทางประกอบการพูดตามกาลเทศะ การพูดในโอกาส ต่าง ๆ ตลอดการพูด ในงานอาชีพ ฝึกออกแบบการพูด วางโครงร่างการพูด และสามารถเตรียมการพูด ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ได้แก่ การพูดในที่ประชุมชน และการพูดเฉพาะอาชีพ ทั้งแบบที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการพูด ตลอดจนเห็นคุณค่าการใช้ภาษาพูด ในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ส าคัญ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความส าคัญของกาลเทศะของการพูดได้ 2. พูดในโอกาสพิเศษต่างๆทางสังคมได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ - ด้านความรู้(K) : 1. อธิบายความส าคัญของกาลเทศะของการพูดได้ 2. พูดในโอกาสพิเศษต่างๆทางสังคมได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ - ด้านทักษะ (P) : ๑. นักเรียนมีทักษะในใช้แอพพลิเคชั่นในการตัดต่อวิดีโอ ๒. นักเรียนมีทักษะในการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งเรียนรู้ชุมชน - ด้านคุณลักษณะ (A) : ๑. นักเรียนมีการท างานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ความ สนใจใฝ่รู้ความมีเหตุผล ๓. สาระส าคัญ การพูดเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่มนุษย์ใช้มาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการจะใช้เครื่องมือ นี้ให้ประสบผลส าเร็จ ผู้พูดควรค านึงถึงสิ่งหนึ่ง คือ กาลเทศะ ผู้พูดที่ดีจึงมีความจ าเป็นต้องเรียนรู้ที่จะ พูดให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและผู้ฟัง


78 ๔. สมรรถนะของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการน ากระบวนการต่างๆ ไป ใช้ในการด าเนินชีวิตประจ าวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การท างาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความ ขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และ การรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ๕. สาระการเรียนรู้ การเป็นนักพูดเป็นอาชีพ ๖. สาระการเรียนรู้สู่การบูรณาการ สามารถบูรณาการเข้ากับรายวิชา IS การศึกษาค้นคว้าอิสระ เรียนรู้ตามความสนใจ ของผู้เรียน และสามารถสืบค้นข้อมูลจากเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบสากล ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ (ใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ๕ ขั้นตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) คาบเรียนที่ ๑ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - ครูตั้งประเด็นค าถาม นักเรียนเคยตัดต่อวีดีโอหรือไม่ แอพพลิเคชั่นอะไรที่นักเรียน นิยมใช้ตัดต่อวีดีโอ ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - ครูสนทนากับนักเรียนและให้นักเรียนหาสื่อเทคโนโลยี หรือแอพพลิเคชั่นที่เป็นตัวท า ให้ผลงานของนักเรียนมีความน่าสนใจ ร้อยเรียงเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - ครูให้นักเรียนทดลองโหลดแอพพลิเคชั่น ส าหรับตัดต่อคลิปวิดีโอที่นักเรียนชอบ และถนัด ครูแนะน าแอพพลิเคชั่น Capcut ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย และไม่มีค่าใช้จ่าย ตัดต่อวีดีโอได้ ง่านมีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้หลายอย่าง และให้นักเรียนวางแผนการท างานอัดคลิปวีดีโอ โดยผลงานต่อเนื่อง จากหน่วยการเรียนรู้ที่แล้ว ที่นักเรียนเลือกสถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งเรียนรู้ชุมชน จังหวัดตาก ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - ครูให้นักเรียนโหลดแอพพลิเคชั่น Capcut และสอนวิธีตัดต่อคลิปเบื้องต้น และ แนะน าให้นักเรียน เรียนรู้เพิ่มเติมจากยูทูป


79 ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ให้นักเรียนเขียนแผนงานด าเนินการส่ง เพื่อให้งานส าเร็จลุล่วงไปด้วยดี ปลอดภัย และได้ผลงานที่สมบูรณ์ คาบเรียนที่ ๒-๔ ๑. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการน าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความสนใจ ความสงสัย จากเหตุการณ์ที่ก าลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ น าไปสู่ประเด็นที่จะ ศึกษาค้นคว้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (๕ นาที) - ครูสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในการเก็บภาพ คลิปวิดีโอของนักเรียน ๒. ส ารวจและค้นหา (Exploration) (๑๐ นาที) - ครูให้นักเรียนส่งตัวอย่างคลิปที่นักเรียนลงพื้นที่ไปเก็บบรรยากาศ เพื่อให้ค าแนะน า นักเรียน และสามารถไปเก็บภาพบรรยากาศเพิ่มเติมได้ - ครูเปิดคลิปผลงานการรีวิว แนะน าสถานที่ท่องเที่ยวในชุมชนให้นักเรียนดูเป็น ตัวอย่าง https://youtu.be/IGeQx8KLpO0 ๓. อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (๒๕ นาที) - ครูให้นักเรียนตัดต่อคลิปวีดีโอ ในคาบที่ ๒-๓ - และส่งผลงาน ๔. ขยายความรู้ (๕ นาที) (Elaboration) - นักเรียนส่งผลงานลงในกลุ่มไลน์ แชร์ลงโน๊ต เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติม ๕. การประเมินผล (Evaluation) (๕ นาที) - ครูตรวจผลงานของนักเรียนจากผลงานจากคลิปวีดีโอ ในคาบถัดไป และให้ ค าแนะน าร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ผลงานร่วมกันกับนักเรียนในคาบที่ ๔ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ ๑. แอพลิเคชั่น Capcut หรือแอพพลิเคชั่นตัดต่อวีดีโออื่นๆ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ ๑. กูเกิล สืบค้นบนอินเทอร์เน็ต ๒. แหล่งเรียนรู้ในชุมชน


80 ๙. การวัดและประเมินผล (K-P-A) สิ่งที่วัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K): ตรวจผลงาน แบบบันทึกคะแนน ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ (P): สังเกต แบบสังเกต ทักษะ/ กระบวนการ ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านทักษะ/ กระบวนการ ด้านคุณลักษณะ (A): สังเกต แบบสังเกตคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ตามเกณฑ์ประเมิน ด้านคุณลักษณะ ๙.๑ เกณฑ์การประเมิน ๑) ด้านความรู้ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1.อธิบายความหมาย และความส าคัญของ ศาสตร์และศิลป์การพูด ได้ 2. วิเคราะห์ องค์ประกอบของศาสตร์ และศิลป์ของการพูดได้ นักเรียนท าแบบฝึก ทักษะได้ถูกต้อง ร้อยละ 80 ขึ้นไป นักเรียนท าแบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้องร้อยละ 70 – 79 นักเรียนท าแบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้องร้อยละ 50 – 69 นักเรียนท า แบบ ฝึกทักษะได้ ถูกต้อง ต่ ากว่า ร้อยละ 50 การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 70 ขึ้นไป


81 2) ด้านทักษะ/กระบวนการ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1.อธิบายความหมาย และความส าคัญของ ศาสตร์และศิลป์การ พูดได้ผ่าน แอพพลิเคชั่น Teleprompter 2. วิเคราะห์ องค์ประกอบของ ศาสตร์และศิลป์ของ การพูดได้ผ่าน แอพพลิเคชั่น Teleprompter คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ครบถ้วน น าเสนออย่าง มั่นใจ ไม่ติดขัด ถูกต้องตามหลัก ภาษา เป็น ธรรมชาติ คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ไม่ ครบถ้วน น าเสนอ อย่างมั่นใจ ติดขัด บ้าง ถูกต้องตาม หลักภาษา เป็น ธรรมชาติ คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ไม่ ครบถ้วน น าเสนอ อย่างมั่นใจ ติดขัด บ้าง ถูกต้องตาม หลักภาษา ไม่เป็น ธรรมชาติ คลิปน าเสนอ ผลงานของ นักเรียนบทที่ ถูกต้อง ไม่ ครบถ้วน น าเสนออย่างไม่ มั่นใจ ติดขัด ไม่ ถูกต้องตามหลัก ภาษา ไม่เป็น ธรรมชาติ การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป


82 3) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 มีวินัย ท างานสะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ก าหนดให้ ร่วมกันทุกครั้ง ท างานส่วนใหญ่ สะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตน อยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน เป็นส่วนใหญ่ ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและปฏิบัติ ตนอยู่ในข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกันเป็น บางครั้งต้องอาศัย การแนะน า ท างานไม่สะอาด เรียบร้อยและไม่ ปฏิบัติตนอยู่ใน ข้อตกลงที่ ก าหนดให้ร่วมกัน ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ และมีความ เพียรพยายามในการ เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ ไม่ตั้งใจเรียน มุ่งมั่นในการท างาน ตั้งใจและรับผิดชอบใน การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้ส าเร็จมี การปรับปรุงและ พัฒนาการท างานให้ ดีขึ้นด้วยตนเอง ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ มีการปรับปรุง และพัฒนาการ ท างานให้ดีขึ้น ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมายให้ ส าเร็จ ไม่ตั้ง หรือไม่ รับผิดชอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่ ได้รับมอบหมาย การแปลความหมาย ระดับ 4 หมายถึง ระดับคุณภาพดีมาก ระดับ 3 หมายถึง ระดับคุณภาพดี ระดับ 2 หมายถึง ระดับคุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ระดับคุณภาพปรับปรุง หมายเหตุ : ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับพอใช้ขึ้นไป


83 แบบบันทึกคะแนนด้านความรู้ เลขที่ ชื่อ-สกุล ใบงาน (๑๐คะแนน) รวมคะแนน (๑๐คะแนน) ร้อย ละ ระดับ คุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


84 แบบบันทึกการประเมินผลด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ ชื่อ-สกุล ท างานเป็นระบบ (๕คะแนน) มีความรอบคอบ (๕คะแนน) (3 รวม คะแนน) (๑๐คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


85 แบบบันทึกการประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ เลขที่ ชื่อ-สกุล การแก้ปัญหา (๕คะแนน) การให้เหตุผล (๕คะแนน) รวม (๑๐คะแนน) เฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผ่าน ไม่ผ่าน


86 บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) นักเรียนมีความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.........คน คิดเป็น ร้อยละ ........................................................................................................................................... ........................ ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนมีทักษะกระบวนการ (P) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.................คน คิดเป็น ร้อยละ ........................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................................. . ด้านคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ (A) ผ่านเกณฑ์การประเมิน จ านวน.........คน คิดเป็น ร้อยละ ........................................................................................................................................... ........................ .................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ...................................... ......................................................................................................................................................... .......... ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................................. ...... ............................................................................................................................. ...................................... ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................... ........................ ........................................................................................................................................................ ........... ........................................................................................................................ ........................................... ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ..................................................ครูผู้สอน (นางรพิชา มัตนามะ) ต าแหน่ง ครู


87 กิจกรรมการเรียนการสอนเน้นผู้เรียนมีส่วนร่วม อัดคลิปการสอน เพื่อให้นักเรียนเห็นพัฒนาการในการกล้าแสดงออก


88 น าแอพพลิเคชั่น Teleprompter เข้ามาสอน เพื่อให้นักเรียนมีเครื่องมือในการฝึกพูด และลดความประหม่า สรรสร้างผลงานได้จากการไปศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ที่ตนสนใจ น ามาเป็นบทพูดน าเสนอผลงาน


89 ผลงานการรีวิวแหล่งท่องเที่ยวของนักเรียน ในรายวิชา การพูดอย่างมืออาชีพ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา


90 ผลงานการรีวิวแหล่งท่องเที่ยวของนักเรียน ในรายวิชา การพูดอย่างมืออาชีพ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนผดุงปัญญา


91 ประวัติส่วนตัว ๑.๑ ประวัติส่วนตัว ชื่อ – สกุล นางรพิชา มัตนามะ ต าแหน่ง ครู วิทยฐานะ ช านาญการพิเศษ วันเดือนปีเกิด วันที่ ๖ เดือน มกราคม พ.ศ.25๒๓ ปัจจุบันอายุ ๔๓ ปี สัญชาติ ไทย เชื้อชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ที่อยู่ ๓๔๙/๙ หมู่ ๑ ต าบลไม้งาม อ าเภอเมือง จังหวัดตาก ๖๓๐๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ 08๑-๓๗๙-๗๔๓๙ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] บิดา นายสุเทพ หมูถึง (เสียชีวิตแล้ว) มารดา นางบัวค า หมูถึง คู่สมรส นายกฤษติพงศ์ มัตนามะ บุตร เด็กชายภาคิน มัตนามะ ๑.๒ ประวัติการศึกษา ปริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต วิชาเอกการบริหารการศึกษา วิทยาลัยลุ่มน้ าปิง ปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต วิชาเอก บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏก าแพงเพชร ๑.๓ ประวัติการท างาน ประวัติการรับราชการ ๑. เริ่มรับราชการต าแหน่ง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สถานท างาน องค์การบริหารส่วนต าบลย่านรี อ าเภอสามเงา จังหวัดตาก สังกัด องค์การบริหารส่วนต าบลย่านรี ตั้งแต่วันที่ ๒๒ เดือน สิงหาคม พ.ศ.25๕๐ ๒. ย้ายมาด ารงต าแหน่ง ครู คศ.๑ สถานศึกษา โรงเรียนผดุงปัญญา จังหวัดตาก สังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๘ ตั้งแต่วันที่ ๑ เดือน มิถุนายน พ.ศ.255๓ ๓. ปัจจุบันด ารงต าแหน่ง ครู คศ. ๓ สถานศึกษา โรงเรียนผดุงปัญญา อ าเภอเมือง จังหวัดตาก สังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตาก ตั้งแต่วันที่ ๒๑ เดือน ธันวาคม พ.ศ.25๕๘ ๔. รวมเวลารับราชการทั้งหมด ๑๓ ปี


Click to View FlipBook Version