ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ วรรณคดีดี ดี วิดี วิ วิจัวิจักษ์ษ์ษ์ษ์
คำ นำ ก หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งรายวิชา การออกแบบและการผลิตสื่อเพื่อ การเรียนรู้ภาษาไทย (๒๑๙๑๓๑๖) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเป็นบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ รายวิชาภาษาไทย สำ หรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ เรื่องกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน การจัดทำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในครั้งนี้ผู้จัดทำ ได้ศึกษา ค้นคว้าจากหนังสือตำ ราต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกาพย์เห่เครื่องคาวหวาน การอ่านบทร้อยกรอง อ่านทำ นองเสนาะ ผู้จัดทำ ขอขอบคุณ คณาจารย์สาขาวิชาภาษาไทย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุก ๆ ท่าน ที่ให้คำ ปรึกษาในการจัดทำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำ ขออภัยมา ณ ที่นี้ คณะผู้จัดทำ
คำ แนะนำ สำ หรับผู้สอน ข ๑. ให้ผู้สอนทำ ความเข้าใจ เกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ พร้อมทั้งใช้หนังสือเล่มนี้ เป็นสื่อประกอบการสอน ๒. ผู้สอนกำ หนดเกณฑ์การประเมินในการศึกษาหนังสือเล่มนี้ของผู้เรียน ๓. ในหนังสือเล่มนี้ มีแบบทดสอบก่อนเรียน จำ นวน ๑๕ ข้อ กิจกรรมในบทเรียน จำ นวน ๘ กิจกรรม และแบบทดสอบหลังเรียน จำ นวน ๑๕ ข้อ ผู้สอนสามารถนำ เกณฑ์การประเมินในเล่มนี้ มาวัดผลการเรียนรู้ของนักเรียนได้ โดยออกมาเป็นคะแนนก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน ๔. ผู้สอนสามารถเพิ่มเติมเนื้อหาที่นอกเหนือจากในหนังสือได้ คำ แนะนำ สำ หรับผู้เรียน ๑. ทำ ความเข้าใจในคำ แนะนำ ทุกครั้งก่อนใช้หนังสือเล่มนี้ ๒. ศึกษาจุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเรียนในบทนี้ ๓. ทำ แบบฝึกหัดก่อนเรียน จำ นวน ๑๕ ข้อ เพื่อทดสอบความรู้เบื้องต้น ก่อนศึกษาเนื้อหาในบทเรียน ๔. ศึกษาเนื้อหาในหนังสือ E-BOOK ให้ครบทั้งเล่ม และทำ กิจกรรม ให้ครบทั้ง ๘ ชุด ๕. ทำ แบบฝึกหัดหลังเรียน จำ นวน ๑๕ ข้อ เพื่อวัดความเข้าใจในการศึกษาหนังสือเล่มนี้ โดยต้องผ่านเกณฑ์ประเมินจากครูผู้สอน ๖. ผู้เรียนหมั่นทบทวนเนื้อหาเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความรู้แก่ตัวเอง คำ แนะนำ สำ หรับการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์์
แผนผัังลำ ดับขั้นตอนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ค ทำ แบบฝึกหัด กิจกรรมที่ ๑ - ๘ อ่านคำ แนะนำ ทำ แบบทดสอบก่อนเรียน ศึกษาเรียนรู้ภายในเนื้อหา ทำ แบบทดสอบหลังเรียน ผ่าน ไม่ผ่าน
มาตรฐานตัวชี้วัด ง • มาตรฐานการเรียนรู้ • ตัวชี้วัด • จุดประสงค์การเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำ ไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน การดำ เนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่า และนำ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. นักเรียนสามารถอ่านบทร้อยกรองกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานเป็น ทำ นองเสนาะได้ตามหลักการ ๒. นักเรียนสามารถจำ แนกชนิดของอาหารคาว ผลไม้ และของหวาน ในบทกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานได้ถูกต้อง ๓. นักเรียนสามารถวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ ๔. นักเรียนสามารถอธิบายความเป็นมาของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ม.๑/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและ บทร้อยกรองได้ถูกต้อง เหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ท ๕.๑ ม.๑/๒ วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรม ที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ ท ๕.๑ ม.๑/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่าน
สารบัญ จ เรื่อง หน้า คำ นำ คำ แนะนำ สำ หรับการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แผนผัังลำ ดับขั้นตอนการเรียนรู้ด้วยตนเอง มาตรฐานตัวชี้วัด แบบทดสอบก่อนเรียน จุดมุ่งหมายในการแต่ง ความเป็นมา ประวัติผู้แต่ง ลักษณะคำ ประพันธ์ การวิเคราะห์คุณค่าวรรณศิลป์ ภาพสะท้อนวัฒนธรรมอาหารกิน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน - อาหารคาว - ผลไม้ - อาหารหวาน บทอาขยานหลัก การอ่านบทร้อยกรอง แบบทดสอบหลังเรียน กิจกรรมแบบฝึกหัด - ใบกิจกรรมที่ ๑ - ๘ ภาคผนวก - เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน - เฉลยใบกิจกรรมที่ ๑ - ๘ รายชื่อผู้จัดทำ บรรณานุกรม คำ นำ คำ แนะนำ สำ หรับการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แผนผัังลำ ดับขั้นตอนการเรียนรู้ด้วยตนเอง มาตรฐานตัวชี้วัด แบบทดสอบก่อนเรียน จุดมุ่งหมายในการแต่ง ความเป็นมา ประวัติผู้แต่ง ลักษณะคำ ประพันธ์ การวิเคราะห์คุณค่าวรรณศิลป์ ภาพสะท้อนวัฒนธรรมอาหารกิน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน - อาหารคาว - ผลไม้ - อาหารหวาน บทอาขยานหลัก การอ่านบทร้อยกรอง แบบทดสอบหลังเรียน กิจกรรมแบบฝึกหัด - ใบกิจกรรมที่ ๑ - ๘ ภาคผนวก - เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน - เฉลยใบกิจกรรมที่ ๑ - ๘ รายชื่อผู้จัดทำ บรรณานุกรม ก ข ค ง ๑ - ๓ ๔ ๔ ๔ ๕ ๖ - ๘ ๙ - ๑๐ ๑๑ - ๒๘ ๑๑ - ๑๖ ๑๗ - ๒๒ ๒๓ - ๒๘ ๒๙ ๓๐ - ๓๑ ๓๒ - ๓๔ ๓๕ - ๔๓ ๔๔ ๔๕ ๔๖ - ๕๒ ๕๓
แบบทดสอบก่อนเรียน ๑. ผู้แต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานคือใคร ก. สุนทรภู่ ข. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ค. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ง. พระบาทสมเด็จพระนั่งเก้าเจ้าอยู่หัว ๒. จุดมุ่งหมายในการแต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานคือข้อใด ก. เพื่อชมฝีพระหัตถ์นางอันเป็นที่รัก ข. เพื่อใช้เป็นบทเห่เรือพระที่นั่ง ค. เพื่อบอกชื่อของอาหารหวานคาวในสมัยนั้น ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ๓. “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง”มีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ใดอย่างชัดเจน ก. การเล่นเสียงวรรณยุกต์ ข. การเล่นเสียงสระ ค. การเล่นเสียงพยัญชนะ ง. มีการใช้โวหาร ๔. อาหารชนิดใด ที่มีส่วนผสมของลูกกระวาน ก. พล่าเนื้อสด ข. ตับเหล็กลวก ค. มัสมั่น ง. ข้าวหุง ๕. “ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย” คำ ว่า “ตับเหล็ก” หมายถึงอะไร ก. ตับของหมู ข. หัวใจของหมู ค. ลิ้นของหมู ง. ม้ามของหมู คำ ชี้แจง : จงเลือกคำ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑
๖. ข้อใดต่างจากพวก ก. ล่าเตียง ข. จ่ามงกุฎ ค. ช่อม่วง ง. มัศกอด ๗. ข้อใดจำ แนกอาหารประเภทเดียวกันได้ถูกต้อง ก. ล่าเตียง ลำ เจียก ผลชิด มัสมั่น ข. ฝอยทอง มัศกอด ซ่าหริ่ม ลุดตี่ ค. จาก ตาล ผลเกด ลุดตี่ ง. พล่าเนื้อสด หมูแนม รังนก ขนมเทียน ๘. คำ ประพันธ์ในข้อใดกล่าวถึงอาหารสองชนิด ก. ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น ข. เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน ค. ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย ง. ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน ๙. กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน แต่งด้วยลักษณะคำ ประพันธ์ประเภทใด ก. โคลงสี่สุภาพและกาพย์ฉบัง ๑๖ ข. โคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ ค. โคลงสี่สุภาพและกลอนสุภาพ ง. กลอนสุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ ๑๐. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นอาหาร ก. ลูกเอ็น ข. ตับเหล็กลวก ค. พล่าเนื้อสด ง. แสร้งว่า แบบทดสอบก่อนเรียน ๒
๑๑. “หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา” จากคำ ประพันธ์ข้างต้นกล่าวถึงผลไม้ ชนิดใด และมีกี่สายพันธุ์ ก. มะม่วง มี ๒ สายพันธุ์ ข. ทุเรียน มี ๒ สายพันธุ์ ค. มะม่วง มี ๓ สายพันธุ์ ง. ทุเรียน มี ๔ สายพันธุ์ ๑๒. ทองหยอด ทอดสนิท ทองม้วน มิดคิดความหลัง จากคำ ประพันธ์ ข้างต้น ปรากฏชื่อ ของหวานกี่ชนิด อะไรบ้าง ก. ๑ ชนิด มี ทองม้วน ข. ๑ ชนิด มี ทองหยอด ค. ๒ ชนิด มี ทองหยอด ทองม้วน ง. ๓ ชนิด มี ทองหยอด ทอดสนิท ทองม้วน ๑๓. คำ ประพันธ์ในข้อใดไม่ได้บอกส่วนประกอบของเครื่องปรุงในอาหาร ก. ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม ข. เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำ ค. ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น ง. ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย ๑๔. ขนมชนิดใด มีต้นตำ รับมาจากต่างประเทศ ก. ช่อม่วง ข. จ่ามงกุฎ ค. ลุดตี่ ง. ขนมดอกลำ เจียก ๑๕. “ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุม” จากบทประพันธ์ข้างต้น คำ ว่า “โกสุม” มีความหมายว่าอะไร ก. กลิ่มหอม ข. ดอกไม้ ค. อร่อย ง. งดงาม QR Code แบบทดสอบก่อนเรียน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน แบบทดสอบก่อนเรียน ๓
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรง พระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลกมหาราชและสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านวรรณศิลป์ ผลงานด้านภาษา ศิลปะ และวัฒนธรรมของพระองค์ เป็นที่ประจักษ์เด่นชัดแก่สายตาชาวโลก จึงทรงได้รับ การเทิดพระเกียรติจากยูเนสโก (UNESCO) เนื่องใน อภิลักขิตสมัยครบ ๒๐๐ ปีแห่งพระบรมราชสมภพ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ ในฐานะบุคคลสำ คัญของโลก และ รัฐบาลไทยจึงถือเอาวันคล้ายวันพระราชสมภพของ พระองค์ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันศิลปิน แห่งชาติ จนถึงทุกวันนี้ ๔ • ความเป็นมา รัชกาลที่ ๒ ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เพื่อชมสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ด้วยทรงมีความสามารถเป็นเลิศในการปรุงเครื่องเสวย และเพื่อใช้เป็นบทเห่เรือเสด็จ ประพาสส่วนพระองค์ ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ใช้กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานใน การเห่เรือของทางราชการคู่กับบทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร • ประวัติผู้แต่ง • จุดมุ่งหมายในการแต่ง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน มีจุดมุ่งหมายในการแต่ง ดังนี้ ๑. เพื่อเป็นบทเห่เรือพระที่นั่งเวลาเสด็จประพาสส่วนพระองค์ ๒. เพื่อชมฝีพระหัตถ์ในการปรุงเครื่องเสวยของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
แผนผัง แผนผัง กาพย์ยานี ๑๑ โคลงสี่สุภาพ ๕ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน แต่งเป็นกาพย์เห่ ประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ โดยมีโคลงสี่สุภาพ ๑ บท เป็นบทนำ หรือ บทขึ้นต้น แล้วแต่งกาพย์ยานี ๑๑ อีกหลายบทให้เนื้อมี ความสอดคล้องและสัมพันธ์กับโคลงบทนำ • ลักษณะคำ ประพันธ์
๖ • การวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ คำ ว่า “วรรณศิลป์” มีความ หมายว่า ศิลปะในการประพันธ์หนังสือ,วรรณกรรมที่ถึงขั้นเป็นวรรณคดี, หนังสือที่ได้รับ ยกย่องว่าแต่งดี จากความหมายนี้ การพิจารณาคุณค่าด้านวรรณศิลป์ต้องศึกษาตั้งแต่การเลือกชนิด คำ ประพันธ์ให้เหมาะสมกับประเภทของงานเขียน การรู้จักตกแต่งถ้อยคำ ให้ไพเราะสละสลวย อันเป็นลักษณะเฉพาะของภาษากวี และทำ ให้ผู้อ่านเกิดความสะเทือนอารมณ์ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ก็ยังปรากฏคุณค่าด้านวรรณศิลป์ที่มีความสวยงามของ ภาษาในคำ ประพันธ์ได้อย่างงดงาม เช่น การเล่นคำ การเล่นเสียง การใช้ภาพพจน์ เป็นต้น • การเล่นคำ คือ การนําคําที่มีรูปหรือเสียงพ้องกันหรือใกล้เคียงกันมาเล่นในเชิงเสียง และความหมาย • การหลากคำ หรือคำ ไวพจน์ คือ คำ ที่มีความหมายเหมือนกัน อ่านและเขียนต่างกัน เช่น ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง ใช้คำ ว่า “โอชา” ที่มีความหมายว่า อร่อย • การเล่นคำ ซ้ำ คือ การนำ คำ คำ เดียวกันมาใช้ซ้ำ ๆ กัน ในที่ใกล้ ๆ กัน เพื่อย้ำ ความหมาย เช่น ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ คิดความยามพิสมัย หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น ใช้คำ ว่า “ยิ่ง” ในตำ แหน่งต่าง ๆ • การเล่นคำ พ้อง คือ คำ ที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน เช่น ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำ เป็น จากช้ำ น้ำ ตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง ใช้คำ ว่า “จาก” ที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน จาก คำ แรกแปลว่า ผลจาก จาก คำ ที่สองแปลว่า การจากลา ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ คำ ว่า “วรรณศิลป์” มีความ หมายว่า ศิลปะในการประพันธ์หนังสือ,วรรณกรรมที่ถึงขั้นเป็นวรรณคดี, หนังสือที่ได้รับ ยกย่องว่าแต่งดี จากความหมายนี้ การพิจารณาคุณค่าด้านวรรณศิลป์ต้องศึกษาตั้งแต่การเลือกชนิด คำ ประพันธ์ให้เหมาะสมกับประเภทของงานเขียน การรู้จักตกแต่งถ้อยคำ ให้ไพเราะสละสลวย อันเป็นลักษณะเฉพาะของภาษากวี และทำ ให้ผู้อ่านเกิดความสะเทือนอารมณ์ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ก็ยังปรากฏคุณค่าด้านวรรณศิลป์ที่มีความสวยงามของ ภาษาในคำ ประพันธ์ได้อย่างงดงาม เช่น การเล่นคำ การเล่นเสียง การใช้ภาพพจน์ เป็นต้น • การเล่นคำ คือ การนําคําที่มีรูปหรือเสียงพ้องกันหรือใกล้เคียงกันมาเล่นในเชิงเสียง และความหมาย • การหลากคำ หรือคำ ไวพจน์ คือ คำ ที่มีความหมายเหมือนกัน อ่านและเขียนต่างกัน เช่น ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง ใช้คำ ว่า “โอชา” ที่มีความหมายว่า อร่อย • การเล่นคำ ซ้ำ คือ การนำ คำ คำ เดียวกันมาใช้ซ้ำ ๆ กัน ในที่ใกล้ ๆ กัน เพื่อย้ำ ความหมาย เช่น ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ คิดความยามพิสมัย หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น ใช้คำ ว่า “ยิ่ง” ในตำ แหน่งต่าง ๆ • การเล่นคำ พ้อง คือ คำ ที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน เช่น ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำ เป็น จากช้ำ น้ำ ตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง ใช้คำ ว่า “จาก” ที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน จาก คำ แรกแปลว่า ผลจาก จาก คำ ที่สองแปลว่า การจากลา
• การเล่นเสียง คือ การเลือกสรรคำ ที่มีเสียงสัมผัสกัน ได้แก่ การเล่นเสียง พยัญชนะ เสียงสระ และเสียงวรรณยุกต์ เพื่อเพิ่มความไพเราะ แสดงความสามารถของ กวี ที่แม้จะเล่นเสียงคำ แต่ยังคงความหมายไว้ได้ • การเล่นเสียงพยัญชนะหรืออักษร คือ การใช้คำ ที่มีเสียงพยัญชนะต้น เดียวกันเรียงอยู่ในวรรคเดียวกัน เพื่อความไพเราะ เช่น หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา คิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร ใช้คำ ว่า แอบ อก อร มีพยัญชนะต้นที่เหมือนกัน คือ ตัว “อ” • การเล่นเสียงสระ คือ การใช้สัมผัสสระที่มีเสียงตรงกัน ถ้าเป็นตัว สะกดก็ต้องเป็นตัวสะกดเดียวกัน เช่น รสรักยักลำ นำ ประดิษฐ์ทำ ขนมเทียน คำ นึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม มีคำ ว่า “รัก” และ “ยัก”, “เหลา” และ “เกลา” เป็นการเล่นเสียงสระ • การเล่นเสียงวรรณยุกต์ คือ การใช้คำ ที่ไล่ระดับเสียง เช่น เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง มีคำ ว่า “หรุ่ม” “รุม” “รุ่ม” เป็นการเล่นเสียงวรรณยุกต์ • การใช้ภาพพจน์ คือ การพลิกแพลงภาษาให้แปลกออกไปกว่าที่เป็นอยู่ตาม ปกติ ทำ ให้เกิดรส เกิดอารมณ์ ความรู้สึก ต่างกับภาษาที่ใช้อย่างตรงไปตรงมา เช่น การ ใช้อุปมา อุปลักษณ์ เป็นต้น • อุปมา คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเหมือนกับสิ่งหนึ่ง โดยมีคำ แสดง ความเปรียบ เช่น เปรียบ ประดุจ ดุจ ดั่ง เหมือน ราวกับ ราว เฉก เช่น เป็นต้น เช่น ทับทิมพริ้มตาตรู ใส่จานดูดุจเม็ดพลอย สุกแสงแดงจักย้อย อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย ใช้คำ ว่า ดุจ เพื่อเปรียบเทียบ “ทับทิม”(ผลไม้) เหมือนกับ “เม็ดพลอย” • การเล่นเสียง คือ การเลือกสรรคำ ที่มีเสียงสัมผัสกัน ได้แก่ การเล่นเสียง พยัญชนะ เสียงสระ และเสียงวรรณยุกต์ เพื่อเพิ่มความไพเราะ แสดงความสามารถของ กวี ที่แม้จะเล่นเสียงคำ แต่ยังคงความหมายไว้ได้ • การเล่นเสียงพยัญชนะหรืออักษร คือ การใช้คำ ที่มีเสียงพยัญชนะต้น เดียวกันเรียงอยู่ในวรรคเดียวกัน เพื่อความไพเราะ เช่น หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา คิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร ใช้คำ ว่า แอบ อก อร มีพยัญชนะต้นที่เหมือนกัน คือ ตัว “อ” • การเล่นเสียงสระ คือ การใช้สัมผัสสระที่มีเสียงตรงกัน ถ้าเป็นตัว สะกดก็ต้องเป็นตัวสะกดเดียวกัน เช่น รสรักยักลำ นำ ประดิษฐ์ทำ ขนมเทียน คำ นึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม มีคำ ว่า “รัก” และ “ยัก”, “เหลา” และ “เกลา” เป็นการเล่นเสียงสระ • การเล่นเสียงวรรณยุกต์ คือ การใช้คำ ที่ไล่ระดับเสียง เช่น เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง มีคำ ว่า “หรุ่ม” “รุม” “รุ่ม” เป็นการเล่นเสียงวรรณยุกต์ • การใช้ภาพพจน์ คือ การพลิกแพลงภาษาให้แปลกออกไปกว่าที่เป็นอยู่ตาม ปกติ ทำ ให้เกิดรส เกิดอารมณ์ ความรู้สึก ต่างกับภาษาที่ใช้อย่างตรงไปตรงมา เช่น การ ใช้อุปมา อุปลักษณ์ เป็นต้น • อุปมา คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเหมือนกับสิ่งหนึ่ง โดยมีคำ แสดง ความเปรียบ เช่น เปรียบ ประดุจ ดุจ ดั่ง เหมือน ราวกับ ราว เฉก เช่น เป็นต้น เช่น ทับทิมพริ้มตาตรู ใส่จานดูดุจเม็ดพลอย สุกแสงแดงจักย้อย อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย ใช้คำ ว่า ดุจ เพื่อเปรียบเทียบ “ทับทิม”(ผลไม้) เหมือนกับ “เม็ดพลอย” ๗
๘ • อุปลักษณ์ คือ การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งให้เป็นสิ่งหนึ่ง มักใช้คำ ว่า “เป็น” “คือ” ในการเปรียบ เช่น ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤาโฉมไหน ผักหวานซ่านทรวงใน ใคร่ครวญรักผักหวานนางฯ เป็นการเปรียบเทียบว่าชื่อของผักโฉมเป็นความงามของน้อง
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานนี้ ผู้อ่านจะได้รู้จักอาหารหลากหลาย ซึ่งคงจะเป็น ที่นิยมรับประทานกันในสมัยรัชกาลที่ ๒ บางชนิดเป็นอาหารที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน เช่น มัสมั่น หมูแนม ก้อยกุ้ง แกงคั่ว เป็นต้น แต่บางชนิดเป็นอาหารโบราณที่นับวันจะหา รับประทานได้ยาก เพราะมีกรรมวิธีการปรุงหลายขั้นตอน มีเคล็ดเฉพาะในการทำ และทำ ให้อร่อยได้ยาก เช่น ล่าเตียง และ หรุ่ม อาหารบางอย่างเป็นอาหารต่างชาติ ใช้เครื่องปรุงเฉพาะทำ ให้รสชาติมีอาหารที่แตกต่างกันไป เช่น ลุดตี่ เป็นของว่าง “โอชาหน้าไก่แกง แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย”, ข้าวหุงเครื่องเทศ “ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น” ผู้อ่านยังได้ทราบว่าอาหารไทยเป็นทั้งประณีตศิลป์และวิจิตรศิลป์ คนไทยได้ชื่อว่า เป็นเลิศในเรื่องฝีมือ ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็ทำ ได้อย่างงดงามละเอียดประณีต อาหารไทยก็ เช่นกัน ต้องอาศัยฝีมือในการปรุง นอกจากจะทำ ให้ได้บริโภคอาหารมากแล้ว ยังมีลักษณะ เป็นอาหารตา คือตกแต่งอย่างวิจิตรอีกด้วย การปรุงอาหารไทยให้มีกลิ่นหอมรสดี และมี ความงดงามนั้น เริ่มตั้งแต่การรู้จักเครื่องปรุง ต้องเป็นดีและผู้ปรุงต้องเลือกเป็น เมื่อปรุง เสร็จแล้วเมื่อปรุงเสร็จแล้วยังต้องรู้จักจัดวางตกแต่งให้สวยงามน่ารับประทานทั้งรูปลักษณ์ และสีสันด้วย บทพรรณนานี้จึงมีทั้งการบอกส่วนประกอบของเครื่องปรุง เช่น “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง”, “เหล็กลวนหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย”, “แกงคั่วส้มใส่ ระกำ ” และการบอกวิธีจัดอาหาร เช่น “พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย”, “หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง” กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานนี้ ผู้อ่านจะได้รู้จักอาหารหลากหลาย ซึ่งคงจะเป็น ที่นิยมรับประทานกันในสมัยรัชกาลที่ ๒ บางชนิดเป็นอาหารที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน เช่น มัสมั่น หมูแนม ก้อยกุ้ง แกงคั่ว เป็นต้น แต่บางชนิดเป็นอาหารโบราณที่นับวันจะหา รับประทานได้ยาก เพราะมีกรรมวิธีการปรุงหลายขั้นตอน มีเคล็ดเฉพาะในการทำ และทำ ให้อร่อยได้ยาก เช่น ล่าเตียง และ หรุ่ม อาหารบางอย่างเป็นอาหารต่างชาติ ใช้เครื่องปรุงเฉพาะทำ ให้รสชาติมีอาหารที่แตกต่างกันไป เช่น ลุดตี่ เป็นของว่าง “โอชาหน้าไก่แกง แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย”, ข้าวหุงเครื่องเทศ “ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น” ผู้อ่านยังได้ทราบว่าอาหารไทยเป็นทั้งประณีตศิลป์และวิจิตรศิลป์ คนไทยได้ชื่อว่า เป็นเลิศในเรื่องฝีมือ ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็ทำ ได้อย่างงดงามละเอียดประณีต อาหารไทยก็ เช่นกัน ต้องอาศัยฝีมือในการปรุง นอกจากจะทำ ให้ได้บริโภคอาหารมากแล้ว ยังมีลักษณะ เป็นอาหารตา คือตกแต่งอย่างวิจิตรอีกด้วย การปรุงอาหารไทยให้มีกลิ่นหอมรสดี และมี ความงดงามนั้น เริ่มตั้งแต่การรู้จักเครื่องปรุง ต้องเป็นดีและผู้ปรุงต้องเลือกเป็น เมื่อปรุง เสร็จแล้วเมื่อปรุงเสร็จแล้วยังต้องรู้จักจัดวางตกแต่งให้สวยงามน่ารับประทานทั้งรูปลักษณ์ และสีสันด้วย บทพรรณนานี้จึงมีทั้งการบอกส่วนประกอบของเครื่องปรุง เช่น “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง”, “เหล็กลวนหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย”, “แกงคั่วส้มใส่ ระกำ ” และการบอกวิธีจัดอาหาร เช่น “พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย”, “หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง” ๙ • ภาพสะท้อนวัฒนธรรมอาหารกิน
๑๐ การอ่านกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนี้ นอกจากจะทำ ให้ผู้อ่านได้ความรู้และความเพลิดเพลินไปกับบทพรรณนา อาหารนานาชนิดแล้ว ยังทำ ให้เห็นว่าอาหารเป็นเครื่องหมายแทนความรัก ความผูกพัน แล้ว ความเอื้ออาทรที่คนในครอบครัวมีต่อกัน การปรุงอาหารไทยจึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ฝีมือ ความประณีตและความตั้งใจในการประดิษฐ์ออกมาให้งดงามและโอชารส การอ่านกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนี้ นอกจากจะทำ ให้ผู้อ่านได้ความรู้และความเพลิดเพลินไปกับบทพรรณนา อาหารนานาชนิดแล้ว ยังทำ ให้เห็นว่าอาหารเป็นเครื่องหมายแทนความรัก ความผูกพัน แล้ว ความเอื้ออาทรที่คนในครอบครัวมีต่อกัน การปรุงอาหารไทยจึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ฝีมือ ความประณีตและความตั้งใจในการประดิษฐ์ออกมาให้งดงามและโอชารส
มัสมั่น มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : แกงมัสมั่นไก่ของน้องที่รัก มีกลิ่นหอมหวนของยี่หร่า หาก ชายใดซดเข้าไป อาจมิลืมเลือน ฤๅฝันหา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ๑๑ ของคาว แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ฯ โคลง กาพย์ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : แกงมัสมั่นไก่หรือเนื้อ มีกลิ่นหอมของยี่หร่า ชายใดที่ได้กินจะต้องหลงในรสชาติฝีมือของน้อง จึงอยากชื่นชมน้อง ยำ ใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา รสดีด้วยน้ำ ปลา ญี่ปุ่นล้ำ ย้ำ ยวนใจ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ยำ ใหญ่ที่มากด้วยเครื่องคาว ถูกจัดจานอย่างสวยงาม น่ารับประทาน ยิ่งปรุงด้วยน้ำ ปลาญี่ปุ่นยิ่งยั่วยวนจิตใจให้หิวโหยอยากรับประทาน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ยำ ใหญ่ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ยี่หร่ามีสรรพคุณมากล้น ทั้งสามารถช่วยยับยั้งหรือช่วยชะลอ การขยายตัวของเซลล์มะเร็งได้ ทั้งช่วยในการบำ รุงธาตุในร่างกาย และใบยี่หร่าอุดมไปด้วยวิตามินซีและธาตุแคลเซียม จึงทำ ให้ ยี่หร่ามากไปด้วยสรรพคุณทั้งปวง น้ำ ปลาญี่ปุ่นดังกล่าวนั้นเป็นน้ำ ปลาที่น่าจะเข้ามากับเรือสินค้าที่ เดินทางมายังกรุงเทพฯ ในยุคสมัยนั้น ซึ่งน้ำ ปลาญี่ปุ่นนั้นเป็นคนละ อย่างกับโชยุ (ซอสถั่วเหลืองจากการหมัก) แต่สิ่งที่ทั้งคู่เป็นเหมือนกัน คือ ซอส
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ตับเหล็กลวก ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤาจะเปรียบเทียบทันขวัญ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ก้อยกุ้งปรุงกลิ่นหอมหวน แม้ขณะที่วางบนลิ้นเหล่ากุ้งก็ยัง ดิ้นไปมา ดั่งอาหารทิพย์ มิหาอะไรเปรียบได้ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤาจะเปรียบเทียบทันขวัญ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ก้อยกุ้งปรุงกลิ่นหอมหวน แม้ขณะที่วางบนลิ้นเหล่ากุ้งก็ยัง ดิ้นไปมา ดั่งอาหารทิพย์ มิหาอะไรเปรียบได้ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ก้อยกุ้ง ก้อย อาหารท้องถิ่นทางภาคอีสาน คล้ายกับลาบและส้มตำ นิยมปรุงจากเนื้อสัตว์ดิบรวมถึงไข่และตัวอ่อนของแมลงที่กินได้ เช่น เนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อเก้ง เนื้อหมูป่า เนื้อปลา (ตะเพียน หรือ ปลาขาว) กุ้งฝอย หอยเชอรี่ กิ้งก่า ไข่มดแดง ไข่แมงมัน ตัวอ่อนตัวต่อเป็นต้น ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : น้องลวกตับเหล็ก มีน้ำ ราดเป็นน้ำ ส้ม โรยด้วยพริกไทยรสชาติ นั้นคงหาใครเปรียบไม่ ๑๒ หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : หมูแนมรสอร่อยเลิศ กินกับพริกสดและใบทองหลาง ห่อแล้ว สวยงาม พอห่างก็อยากกิน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม หมูแนม ตับเหล็ก คือ ม้ามของหมู อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี ๒, ๓ และ ๑๒ ที่มีส่วนช่วยในการบำ รุงและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของ ร่างกายได้เป็นอย่างดี ใบทองหลาง มีสรรพคุณใช้เป็นยาสมุนไพรจากทุกส่วนของใบ เป็น ยาขับพยาธิ แก้ริดสีดวง แก้ลม ดอกจะขับโลหิตระดู ผลบำ รุงน้ำ ดี เปลือกแก้เสมหะ แก้ลมและนิ่วให้ออก กระพี้แก้พิษฝี แก่นแก้ฝีในท้อง รากแก้พิษทั้งปวง
ความรักยักเปลี่ยนท่า ทำ น้ำ ยาอย่างแกงขม กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ความรักของน้อง น้องจึงทำ น้ำ ยาคล้ายแกงขมมะระมาให้ พี่ ซึ่งกลมกล่อมจนพี่ชมขาดปาก ดั่งใบหน้าของน้อง ๑๓ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม น้ำ ยาแกงขม เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ปลาเทโพในแกงเทโพ ใช้เนื้อพื้นท้อง ทำ ให้มีรสมัน น้ำ มันลอยบนแกง รสอร่อยน่าซด ดั่งอาหารจากสวรรค์ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม เทโพเนื้อ ปลาเทโพเป็นปลาน้ําจืดที่ไม่มีเกล็ด มีจุดสีดำ ขนาดใหญ่ที่ โคนครีบหูทั้งสองด้าน พบในแม่น้ําโขง แม่น้ำ เจ้าพระยา แม่น้ําปิงและแม่น้ำ มูล อาศัยในแหล่งน้ําลึกที่มีกระแสน้ําไหล กินพืชและสัตว์เป็นอาหาร แกงขม เป็นอาหารชาววังชนิดหนึ่ง เป็นเครื่องที่กินกับ ขนมจีนน้ำ ยามีมะระหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วลวกให้สุก แต่ที่ว่าขม ก็ อาจเป็นเพราะมีมะระจีนผ่า ซอย ต้มใส่ไปด้วย นอกนั้นก็จะมีผัก บุ้งลวก หอมเจียว ใบแมงลัก ถั่วงอก ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ข้าวหุงใส่เครื่องเทศของพวกแขก รสอร่อยสูตรพิเศษใส่ลูก กระวาน ถ้าทำ ไม่เป็นจะเหม็นฉุนไม่น่ารับประทาน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ข้าวหุง ลูกเอ็น หรือกระวานเทศ ในตำ รายาไทยใช้ผล บำ รุงธาตุ กระจายโลหิต เสมหะ ขับลม ช่วยเจริญอาหาร และระบาย แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้อาการเกร็งของลำ ไส้
๑๔ เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำ รอยแจ้งแห่งความขำ ซ้ำ ทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : น้องรู้จักสื่อสารผ่านอาหาร นำ หมูป่ามาแกงคั่วส้มใส่ระกำ บอกเงื่อนงำ ของเราสองคน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม แกงคั่วส้มหมูป่า ระกำ มีสรรพคุณทำ ให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ช่วยป้องกันโรคหวัด คลายร้อน ช่วยย่อยอาหาร และทำ ให้เจริญ อาหาร ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม คิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : น้องทำ พล่าเนื้อสดหอมหวน ทำ ให้นึกถึงยามที่ดูแลกัน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม พล่าเนื้อ พล่า เป็นอาหารไทยประเภทยำ ใช้เนื้อสัตว์สด ๆ ปรุงรส ด้วยน้ำ มะนาว น้ำ ปลา พริก ตะไคร้ฝอย ใบสะระแหน่ เป็นต้น พล่าต่างจากยำ ตรงที่พล่ามักใช้เนื้อสัตว์ที่ไม่สุกมาก คลุกกับผัก และเครื่องปรุงแบบยำ แต่ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด และน้ำ พริกเผา เพิ่มเข้ามาด้วย ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำ เมืองบน ลดหลันชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : อาหารนามว่าล่าเตียง ทำ ให้นึกถึงเตียงนอนของน้อง และอยากนอนกับน้อง เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ล่าเตียง ล่าเตียง คืออาหารว่างชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้ไข่โรยเป็นร่างแห ห่อไส้ซึ่งทำ ด้วยกุ้งผัดกับเครื่องปรุง ให้มีขนาดพอดีคำ เป็น อาหารโบราณที่หารับประทานได้ยาก เนื่องจากมีวิธีการปรุงที่ ต้องใช้ศิลปะและต้องใช้ความประณีตในการทำ เป็นอย่างมาก
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม รังนก รังนกนึ่งน่าซด โอชารสกว่าทั้งปวง นกพรากจากรังรวง เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : รังนกนึ่งน่าชด ทำ ให้นึกถึงนกที่ต้องจากรัง เปรียบได้กับรัก ของพี่ที่ต้องจากกับน้อง ๑๕ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : อาหารชื่อหรุ่ม ทำ ให้พี่โศกเศร้าที่ต้องจากน้อง ร้อนใจ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม หรุ่ม ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน ใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : แกงไตปลากับแสร้งว่า ทำ ให้นึกถึงวาจาของน้อง ใบโศกบอก ความโศกของรักที่ต้องอยู่ไกลกัน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ไตปลา แสร้งว่า หรุ่ม เป็นอีกชื่อหนึ่งของล่าเตียง คนไทยสมัยก่อนเรียก ชาวตุรกีว่า “แขกหรุ่ม” เป็นภาษาอาหรับแปลว่าโรมัน หมายถึงตุรกีซึ่งเคยเป็นอาณาจักรโรมันตะวันออก “หรุ่ม” จึงหมายถึงขนมของแขก รังนก ทำ มาจากน้ำ ลายของนกนางแอ่นกินรัง รังนกมี สรรพคุณในการรักษาโรคและบำ รุงร่างกาย ในประเทศไทย รังนกถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำ คัญและมีคุณค่า ทางเศรษฐกิจ พบได้ตามถ้ำ ในเกาะต่างๆ บริเวณริมชายฝั่งทะเล อ่าวไทยและทะเลอันดามัน แกงไตปลา หรือแกงพุงปลา เป็นแกงที่มีไตปลาเป็นส่วน ประกอบ ไตปลา หรือ พุงปลา เป็นการถนอมอาหารของชาวไต้ โดยนำ กระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่นๆ มาหมัก กับเกลือจนได้ที่กลายเป้นของเหลวและมี มัน นำ ไปทำ เป็นอาหารได้หลายชนิด ส่วน แสร้งว่า จัดเป็นน้ำ พริกเครื่องจิ้มผักดิบ มีลักษณะ ข้น รสจัดจ้าน สันนิษฐานว่าดัดแปลงมาจาก ‘ยำ ไตปลา’ ของ ชาวปักษ์ใต้ แต่ด้วยชาววังที่ไม่คุ้นเคยกับกลิ่นรสในตำ รับท้อง ถิ่นใต้จานนี้ จึงมีการดัดแปลงวัตถุดิบหลักอย่างไตปลา เปลี่ยน มาใช้ปลาสลาดย่างและเยื่อเคยดี
ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤาโฉมไหน ผักหวานซ่านทรวงใน ใคร่ครวญรักผักหวานนางฯ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผักโฉมชื่อที่ไพเราะ คล้ายความงามของน้อง ผักหวานที่หวาน ไปในอก ทำ ให้นึกถึงความรักอันหวานหอมของน้อง เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ผัดโฉม ๑๖ ๑. ภุญช์ หมายถึง รับประทาน ๒. โอชา หมายถึง มีรสดี อร่อย ๓. รางชาง หมายถึง สวย งามเด่น ๔. เสาวคนธ์ หมายถึง กลิ่นหอม ๕. ประทิ่น หมายถึง เครื่องหอม ๖. ข้อน หมายถึง ยกมือทุบแรง ๆ ๗. เรียม หมายถึง พี่ ๘. เคร่า หมายถึง คอย ๙. กล หมายถึง เหมือน ๑๐.ไฟฟอน หมายถึง กองไฟที่ดับแล้วแต่ยังมีความร้อนอยู่ ผักโฉม หรือผักกระโฉม เป็นไม้ล้มลุกชอบขึ้นที่ชื้นแฉะ มีดอกเล็กๆสีม่วงแกมชมพูกลางเหลืองออกเป็นกระจุกที่ง่ามใบ หรือปลายกิ่งทุกส่วนของไม้นี้มีกลิ่นหอมใช้เป็นอาหารและทำ ยาได้ ส่วน ผักหวาน เป็นผักที่ใช้ปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิด และยังเป็นพืชสมุนไพร มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่ง ของโปรตีน วิตามินซี (vitamin C) บีตา-แคโรทีนซึ่งช่วยในการ มองเห็น บำ รุงสายตา และมีสรรพคุณเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ผัดหวาน คำ ศัพท์น่ารู้
ผลชิดแช่อิ่มโอ้ เอมใจ หอมชื่นกลืนหวานใน อกชู้ รื่นรื่นรสรมย์ใด ฤๅดุจ นี้แม่ หวานเลิศเหลือรู้รู้ แต่เนื้อนงพาล ฯ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลชิดมีกลิ่นหอม รสชาติหวาน เปรียบเหมือนเนื้อ น้องนางที่หวานหอม ผลชิดแช่อิ่มอบ หอมตรลบล้ำ เหลือหวาน รสไหนไม่เปรียบปาน หวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลชิดหวานอร่อย แต่ไม่เท่าน้องนาง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ๑๗ ผลไม้ โคลง กาพย์ ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ คิดความยามพิสมัย หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลตาลเฉาะเย็น ๆ ทำ ให้ใจเย็น แล้วนึกถึงน้องนาง เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลูกชิด เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลูกตาล ผลชิด หรือที่เราเรียกกันว่าลูกชิด เป็นผลไม้ที่ได้จากต้นต๋าว ซึ่งเป็นพืช ตระกูลปาล์มพบมากทางภาคใต้ มีรสหวานอร่อย ตาลเฉาะ หรือก็คือผลลูกตาล เป็นพืชตระกูลปาล์ม เป็นผลไม้อีกชนิดที่มี รสชาติหวานนุ่มลิ้นไม่ต่างจากลูกชิด
ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำ เป็น จากช้ำ น้ำ ตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลจาก พ้องกับคำ ว่าจากกัน คือบ่อเกิดแห่งความทุกข์โศก ๑๘ หมากปรางนางปอกแล้ว ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง ยามชื่นรื่นโรยแรง ปรางอิ่มอาบซาบนาสา ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลมะปรางในโถแก้วสวยงาม ทำ ให้นึกถึงแก้มน้อง หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา คิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : มะม่วงอกร่องและหมอนทอง ทำ ให้นึกถึงเวลานอนกายแนบ ชิดกับอกน้อง เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลูกจาก มะปราง มะม่วง ต้นจาก เป็นพืชตระกูลปาล์ม พบมากทั่วไปในแถบภาคใต้ เช่นกัน ลูกจากนั้นมีเนื้อนุ่ม หอม และรสชาติก็หวาน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม มะปราง หรือหมากปราง เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีรสชาติหวาน อมเปรี้ยว หอม เนื้อนุ่ม เกร็ดความรู้เพิ่มเติม มะม่วงอกร่อง เป็นผลดิบมีสีเขียวอ่อน เนื้อผลมีสีขาว มีรสเปรี้ยวจัด ผลแก่ หรือผลห่ามมีรสเปรี้ยวอมหวาน ผลสุกมีสีเหลืองอ่อน เนื้อผลมีสีเหลืองอ่อน มีรส หวานมาก และมากกว่ามะม่วงทุกชนิด
๑๙ ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น เรียกส้มฉุนใช้นามกร หวนถวิลลิ้นลมงอน ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ลิ้นจี่ เดิมเรียก ส้มฉุน ทำ ให้นึกถึงเวลาน้องออดอ้อนและ ความหอมหวาน เหมือนรสหวานและเปรี้ยวกลมกล่อมของลิ้นจี่ พลับจีนจักด้วยมีด ทำ ประณีตน้ำ ตาลกวน คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน ยลยิ่งพลับยับยับพรรณ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : พลับจีนแกะสลักด้วยมีดกับน้ำ ตาลกวน ทำ ให้นึกถึงปาก อันสวยงามของน้อง น้อยหน่านำ เมล็ดออก ปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย์ มือใครไหมจากทัน เทียบเทียมที่ฝีมือนาง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : น้องปอกน้อยหน่าเอาเมล็ดออก รสฝาดแต่อร่อย คงไม่มี ใครปอกน้อยหน่าได้เก่งกว่านี้แล้ว เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลิ้นจี่ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลูกพลับ น้อยหน่า เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลิ้นจี่ ซึ่งเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว หอม เนื้อนุ่ม ลูกพลับ คือผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีแคลอรี่และไขมันต่ำ มีประโยชน์มากมาย น้อยหน่า จะเพาะปลูกมากในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะ ของผลน้อยหน่า เนื้อผลจะมีสีขาว ให้รสหวาน มีเมล็ดสีดำ สำ หรับคนไทยนิยม นำ ใบหรือเมล็ดของน้อยหน่ามาใช้ในการกำ จัดเหา เห็บหมัด เป็นต้น
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ทับทิม เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ทุเรียน ผลเกด ๒๐ ผลเกดพิเศษสด โอชารสล้ำ เลิศปาง คำ นึงถึงเอวบาง สางเกศเส้นขนเม่นสอ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : รสชาติของผลเกดทำ ให้นึกถึงเอวบาง อรชร ที่นั่งสางผม ทับทิมพริ้มตาตรู ใส่จานดูดุจเม็ดพลอย สุกแสงแดงจักย้อย อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : เมล็ดทับทิมคล้ายกับเม็ดพลอยที่ต้องตาต้องใจชาย ที่นิ้วของน้อง ทุเรียนเจียนตองปู เนื้อดีดูเหลืองเรืองพราย เหมือนศรีฉวีกาย สายสวาทพี่ที่คู่คิด ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ทุเรียนสีเหลืองนวลบนใบตอง เหมือนกับสีผิวของน้อง เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ผลเกด เป็นผลของต้นเกด ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำ จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ โดยผลจะมีรสชาติหวาน กินเป็นยาฝาดสมาน และบำ รุงกำ ลัง แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ท้องผูก ผลทับทิม เป็นผลไม้มีรสหวานหรือเปรี้ยวอมหวาน เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพ น้ำ ทับทิมมีวิตามินซีสูงและยังมีสารเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ในปริมาณที่สูงเหมาะสำ หรับการดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย ทุเรียน ขึ้นชื่อเป็น “ราชาแห่งผลไม้” เป็นผลไม้ที่มีน้ำ ตาลสูง วิตามินซี โพแทสเซียม และยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันอย่างดี ทุเรียนถือเป็นแหล่งไขมันสดที่ดีในอาหารไม่ผ่านความร้อนหลาย ๆ ชนิด
๒๑ ลางสาดแสวงเนื้อหอม ผลงอมงอมรสหวานสนิท กลืนพลางทางเพ่งพิศ คิดยามสารทยาตรามา ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลลางสาดเนื้อหวานหอม ผลสุกงอมหวาน ทำ ให้นึกถึง เทศกาลตรุษสารท ผลเงาะไม่งามแงะ มล่อนเมล็ดและเหลือปัญญา หวนเห็นเช่นรจนา จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลเงาะภายนอกไม่งาม แต่รสชาติหวานอร่อย เหมือนกับ นางรจนาที่เลือกเจ้าเงาะเพราะเห็นรูปทองภายใน สละสำ แลงผล คิดลำ ต้นแน่นหนาหนาม ท่าทิ่มปิ้มปืนกาม นามสละมละเมตตาฯ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ผลสละชื่อพ้องกับคำ ว่า เสียสละ มีความเมตตา เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลางสาด เกร็ดความรู้เพิ่มเติม เงาะ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม สละ ลางสาด ผลไม้ชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกับ ลองกอง เนื้อของผลลางสาดจะมีรสหวาน อมเปรี้ยวมากกว่าและเนื้อจะ ดูฉ่ำ ใส เงาะ ใช้เป็นอาหาร ผลสุก รับประทานเป็นผลไม้ ทำ ผลไม้กระป๋อง ทำ แยม ทำ น้ำ ผลไม้ คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อเงาะ มีน้ำ ตาลสูง มีแร่ธาตุ และวิตามิน สละ เป็นผลไม้ที่มีเอกลักษณ์ คือมีหนามแข็งแหลมยื่นออกมารอบผล มี รสชาติเปรี้ยวนำ หวานตาม เป็นแหล่งของวิตามินมากมาย ช่วยในการย่อยอาหาร
คำ ศัพท์น่ารู้ ๒๒ ๑. พิสมัย หมายถึง ความรัก ๒. เพ่งพิศ หมายถึง ดูด้วยความพินิจพิเคราะห์ ๓. นิทรา หมายถึง นอน ๔. อุรา หมายถึง อก ๕. เกศ หมายถึง ผม ๖. มละ หมายถึง ละ ทิ้ง ๗. โอษฐ์ หมายถึง ปาก ๘. สำ แลง หมายถึง ของแสลงที่ทำ ให้เกิดโรคกำ เริบ ๙. สายสวาท หมายถึง ผู้เป็นที่รัก ๑๐.ลอยแก้ว หมายถึง ของหวานเนื้อผลไม้รสเปรี้ยว ลอยในน้ำ เชื่อมเจือเกลือเล็กน้อย
สังขยา หน้าตั้งไข่ ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง เป็นนัยไม่เคลือบแคลง แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : สังขยาไข่กับข้าวเหนียวสีโศกเขียวอ่อน เป็นความหมายว่า เจ้าเศร้าเหลือเกิน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน เกร็ดความรู้เพิ่มเติม สังขยาหน้าไข่ ๒๓ ขนมหวาน สังขยาหน้าไข่คุ้น เคยมี แกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อม เป็นนัยนำ วาที สมรแม่ มาแม แถลงว่าโศกเสมอพ้อม เพียบแอ้อกอร ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : สังขยาทำ มาจากไข่และข้าวเหนียวย้อมสีโศก ข้าวเหนียวสีโศกก็เปรียบถึงความโศกเศร้าที่ต้องพรากจากคนรัก โคลง กาพย์ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ แทรกใส่น้ำ กะทิเจือ วิตกอกแห้งเครือ ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ซาหริ่มรสหวานละมุน ใส่น้ำ กะทิ เวลากังวล ก็มากินและได้ความเย็นจากผงพิมเสนที่โรยไว้ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ซ่าหริ่ม สังขยาในไทยเป็นขนมที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส นิยม รับประทานกับข้าวเหนียว หรือใส่ในฟักทอง เผือกหรือมะพร้าว แล้วนำ ไปนึ่ง เป็นคนละชนิดกับสังขยาที่ปรุงด้วยการกวนและมักกินกับขนมปัง ซ่าหริ่ม หรือ ซาหริ่ม เป็นขนมไทยประเภทหนึ่งมีลักษณะเป็นเส้นที่มักมี หลายสีและรับประทานกับน้ำ กะทิโดยมีรสชาติหอมมันและมีกลิ่นใบเตยอีกด้วย นิยมรับประทานกันในช่วงฤดูร้อน มักรับประทานโดยเติมน้ำ เชื่อมและน้ำ แข็ง
มัศกอดกอดอย่างไร น่าสงสัยใคร่ขอถาม กอดเคล้นจะเห็นความ ขนมนามนี้ยังแคลง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : กวีสงสัยในชื่อขนม และมันกอดอย่างไร เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลำ เจียก เกร็ดความรู้เพิ่มเติม มัศกอด ๒๔ ลำ เจียกชื่อขนม นึกโฉมฉมหอมชวยโชย ไกลกลิ่นดิ้นแดโดย โหยไห้หาบุหงางาม ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ชื่อขนมเจียกพ้องกับดอกลำ เจียกอันหอมหวน ลุดตี่นี้น่าชม แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง โอชาหน้าไก่แกง แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ลุดตี่มีลักษณะเป็นแผ่นกลม ๆ กินกับแกงไก่ คาดว่าเป็น ของชาวแขก เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ลุดตี่ ขนมดอกลำ เจียก เป็นขนมขึ้นชื่อของจังหวัดอ่างทอง มีลักษณะเป็นแป้ง ห่อไส้ขนมแล้วม้วน นำ ไปคลุกกับมะพร้าวขูดเพิ่มรสชาติ มัศกอด เป็นชื่อขนมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีรสชาติคล้ายขนมไข่ ส่วน ลักษณะภายนอกเหมือนคัพเค้กเลย โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดใส่สีต่างๆ ลุดตี่ มีลักษณะเป็นแป้งแผ่นกลม ทอดกรอบ และมีการราดด้วยแกงไก่ มีรสชาติและกลิ่นคล้ายอาหารแขก ลุดตี่ในสมัยโบราณอาจจะมีความใกล้เคียง กับโรตีในปัจจุบัน
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ทองหยิบ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ขนมจีบ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ขนมเทียน ๒๕ ขนมจีบเจ้าจีบห่อ งามสมส่อประพิมพ์ประพาย นึกน้องนุ่งจีบกราย ชายพกจีบกลีบแนบเนียน ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : เวลาน้องทำ ขนมจีบ สวยงามประพิมพ์ประพาย ทำ ให้นึกถึงเวลาน้องจับจีบผ้า รสรักยักลำ นำ ประดิษฐ์ทำ ขนมเทียน คำ นึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ขนมเทียน/ขนมรสรัก เวลาน้องทำ นิ้วน้องมวยงาม ทำ ให้นึกถึงต้นเทียน ทองหยิบทิพย์เทียมทัด สามหยิบชัดน่าเชยชม หลงหยิบว่ายาดม ก้มหน้าเมินเขินขวยใจ ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ทองหยิบสามจีบ กวีหยิบมานึกว่ายาดม ทำ ให้กวีอาย ทองหยิบ เป็นขนมโปรตุเกสที่ไทยได้รับมาจากท้าวทองกีบม้าที่เข้ามายัง กรุงศรีอยุธยา ทำ มาจากไข่แดงที่ตีจนฟูนำ ไปหยอดลงในน้ำ เชื่อมที่ต้มจนเดือด ทำ ให้ทองหยิบมีรสชาติหวานนุ่ม และเพราะชื่อขึ้นต้นด้วยคำ ว่า ทอง ปัจจุบันผู้คน มักใช้เป็นขนมในงานมงคล ขนมเทียนเกิดจากคนจีนโบราณ ซึ่งดัดแปลงมาจากขนมใส่ไส้ของไทย มีทั้งรสเค็มและรสหวาน ขนมจีบไทย หรือ ขนมจีบตัวนก เป็นอาหารว่างไทยโบราณ สูตรของ แป้งและตัวไส้คล้ายกับขนมช่อม่วง แต่หน้าตาแตกต่างกันเพราะทำ เป็นรูปนกตัว เล็กๆ จับจีบโดยรอบอย่างสวยงาม แต่งตาด้วยงาดำ และใช้แครอตทำ เป็นปาก ไส้ของขนมจีบไทยนั้นใช้ได้ทั้งไก่และกุ้งตามชอบ
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ขนมผิง เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ขนมรังไร/เรไร ทองหยอดทอดสนิท ทองม้วนมิดคิดความหลัง สองปีสองปิดบัง แต่ลำ พังสองต่อสอง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ขนมทองหยอดค่อยๆหยอด ค่อยๆทอด ส่วนทองม้วนทำ ให้ นึกถึงความรักที่ปิดบังไว้ลำ พังสองต่อสองนานสองปี เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ทองหยอด ๒๖ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน ร้อนนักรักแรมไกล เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ขนมผิงใช้ความร้อนทำ เหมือนร้อนไฟในอก เมื่อเห็นน้องแล้วก็เย็นใจ รังไรโรยด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้วทำ รังรวง โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ขนมรังไร/เรไร มีลักษณะคล้ายกับรังของนก กวีรู้สึกยินดี กับนก ที่ได้มีรัง ขนมเรไร หรือ ขนมรังไร เป็นชื่อเรียกขนมไทยโบราณชนิดหนึ่งที่ทำ ขึ้นจากส่วนผสม แป้ง กะทิ และน้ำ ตาล อาจจะมีการใส่สีสัน ทองหยอด เป็นขนมโปรตุเกส มีถิ่นกำ เนิดจากเมืองอาไวรู (Aveiro) เมืองชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโปรตุเกส ทำ จากแป้งผสมกับ ไข่แดงและน้ำ หยอดลงในน้ำ เดือดเคี่ยวกับน้ำ ตาล เมื่อแป้งสุกจะเป็นเม็ดคล้าย หยดน้ำ มีสีเหลืองทอง ทองม้วน เป็นขนมไทยชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นม้วนกลมเป็นวง มี ลักษณะกรอบ โดยมีส่วนผสมหลักคือ แป้ง มะพร้าว น้ำ ตาลปีบ ไข่ไก่ น้ำ มัน พืช และ งาดำ ต้นกำ เนิดมีแรงบันดาลใจจากขนมโปรตุเกส คนไทยมักให้ทอง ม้วนเป็นของขวัญเนื่องจากชื่อสื่อถึงการมั่งมี ทองม้วน ขนมผิง เป็นขนมไทยชนิดหนึ่ง ทำ มาจากแป้งผสมกับน้ำ ตาลทรายกับ ไข่แดงและกะทิ แล้วนำ ไปอบด้วยไฟบนและไฟล่างจนกรอบ มีรูปร่างแบนคล้าย ไข่แมงมุม มีสีเหลืองนวล
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม จ่ามงกุฎ บัวลอยเล่ห์บัวงาม คิดบัวกามแก้วกับตน ปลั่งเปล่งเคร่งยุคล สถนนุชดุจประทุม ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : หน้าอกของน้องเปรียบได้กับดอกบัวตูม ซึ่งดอกบัวก็เปรียบ เหมือนขนมบัวลอย ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุม คิดสีสไลคลุม หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : สีม่วงของขนมช่อม่วงทำ ให้นึกถึงผ้าสไบสีม่วงลายพุดตาน ของน้อง เกร็ดความรู้เพิ่มเติม บัวลอย เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ช่อม่วง ๒๗ งามจริงจ่ามงกุฏ ใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง เรียมร่ำ คำ นึงปอง สะอิ้งน้องนั้นเคยยล ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : จำ มงกุฏมีชื่อเหมือนมงกุฏ กินแล้วนึกถึงเวลาน้องเดินสะอิึ้ง จ่ามงกุฎ เป็นชื่อขนมไทยชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกะละแมสีขาว ไม่ใส่สี ทำ จากแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งข้าวเหนียวนวดผสมกับแป้งถั่วเขียว นำ ไปกวนกับกะทิและน้ำ ตาลทรายขาวจนเหนียว โรยเมล็ดถั่วลิสงคั่วซอย หรือเมล็ดแตงโมกะเทาะเปลือกเป็นไส้ในตัวขนม ขนมบัวลอย มีการนำ ผักหรือผลไม้ที่มีสีสันต่างกันมาบด ละเอียด คลุกกับแป้งก่อนจะปั้นเป็นก้อน ขนมช่อม่วง เป็นขนมที่ต้องผ่านฝีมือที่ประณีตงดงาม เป็นขนมชาววัง สอดไส้ด้วยหมู ไก่ หรือกุ้งผัดตามชอบ ทำ ให้ได้รสชาติของแป้งที่ตัดกับไส้คาว
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ฝอยทอง ๑. ผ่าว หมายถึง อาการที่รู้สึกร้อนแรงเมื่อมีไอร้อนมากระทบ ๒. เสพ หมายถึง กิน , บริโภค ๓. โฉมฉม หมายถึง รูปร่างงามเปล่งปลั่ง ๔. ยุคล หมายถึง คู่ , ทั้งสอง ๕.ประพิมพ์ประพาย หมายถึง รูปพรรณสัณฐาน โดยเฉพาะหมายถึงลักษณะหรือ ส่วนที่คล้ายคลึงกัน เช่น เด็กคนนี้มีประพิมพ์ ประพายคล้ายพ่อ ๖. สถน หมายถึง เต้านม ๗. ขวยใจ หมายถึง กระดากใจ, ขัดเขินใจ ๘. เคล้น หมายถึง บีบเน้นไปมา ๙. เล่ห์ หมายถึง กลอุบายที่ทำ ให้ผู้อื่นหลงผิด หรือเข้าใจผิด ๑๐. โกสุม หมายถึง ดอกไม้ ๒๘ ฝอยทองเป็นยองใย เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน คิดความยามเยาวมาลย์ เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ถอดคำ ประพันธ์ได้ว่า : ฝอยทองเหมือนกับไหมจีนจากเมืองจีนที่น้องใช้เย็บผ้า ฝอยทอง เป็นขนมโปรตุเกส ลักษณะเป็นเส้นฝอยสีทอง ทำ จากไข่แดง ของไข่เป็ด เคี่ยวในน้ำ เดือดและน้ำ ตาลทราย ชาวโปรตุเกสใช้รับประทานกับ ขนมปัง กับอาหารมื้อหลักจำ พวกเนื้อสัตว์ และใช้รับประทานกับขนมเค้ก โดยมี กำ เนิดจากเมืองอาไวรู (Aveiro) เมืองชายฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ ประเทศโปรตุเกส คำ ศัพท์น่ารู้
บทอาขยานหลัก เรื่อง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์ยานี ๑๑ ๏ มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา ๏ ยำ ใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา รสดีด้วยน้ำ ปลา ญี่ปุ่นล้ำ ย้ำ ยวนใจ ๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง ๏ หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย ๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ ๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์ ๒๙
การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ๓๐ การอ่านออกเสียงร้อยกรอง เป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลินซาบซึ้งในรส ของคำ ประพันธ์ ซึ่งจะต้องอ่านอย่างมีจังหวะ ลีลา และท่วงทํานองตามลักษณะคำ ประพันธ์เเต่ ละชนิด การอ่านบทร้อยกรอง อ่านได้ ๒ แบบ ดังนี้ ๑. อ่านออกเสียงธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงพูด ตามปกติเหมือนกับ อ่านร้อยแก้ว แต่มีจังหวะวรรคตอน ๒. อ่านเป็นทำ นองเสนาะ เป็นการอ่านมีสําเนียงสูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้น เป็นทํา นองเหมือนเสียงดนตรี มีการเอื้อนเสียง เน้นสัมผัส ตามจังหวะลีลาและ ท่วงทำ นองตามลักษณะบังคับของบทประพันธ์ให้ชัดเจนเเละเหมาะสม ๑. ศึกษาลักษณะบังคับของคําประพันธ์ เช่น การเเบ่งจังหวะจํานวนคําสัมผัส เสียง วรรณยุกต์ เสียงหนักเบา เป็นต้น ๒. อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคําประพันธ์ ๓. อ่านออกเสียง ร ล คำ ควบกล้ำ ให้ชัดเจน ๔. อ่านออกเสียงดังให้ผู้ฟังได้ยินทั่วถึง ไม่ดังหรือค่อยจนเกินไป ๕. คําที่รับสัมผัสกันต้องอ่านเน้นเสียงให้ชัดเจน ถ้าเป็นสัมผัสนอกต้องทอดเสียงให้มี จังหวะยาวกว่าธรรมดา ๖. มีศิลปะในการใช้เสียง เอื้อนเสียง และทอดจังหวะให้ช้าจนจบบท หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยกรอง
การอ่านบทร้อยกรอง หรือทำ นองเสนาะ ให้ไพเราะและประทับใจผู้ฟังมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้ ๑. ก่อนอ่านทํานองเสนาะควรรักษาสุขภาพให้ดี มีความพร้อมทั้งกายและใจ จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น ๒. ตั้งสติให้มั่นคง ไม่หวั่นไหว ตื่นเต้น ตกใจ หรือประหม่า ควรมีสมาธิก่อนอ่าน เเละขณะกำ ลังอ่าน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ๓. ก่อนอ่านควรตรวจดูบทอ่านอย่างคร่าวๆ และรวดเร็วเพื่อพิจารณาคํายาก หรือการผันวรรณยุกต์ และอื่นๆ ๔. พิจารณาบทที่จะอ่าน เพื่อตัดสินใจ เลือกใส่อารมณ์ในบทอ่านให้เหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อความ ๕. หมั่นศึกษาและฝึกฝนการอ่านทํานองเสนาะจากผู้รู้เกี่ยวกับกลวิธีต่างๆอยู่เสมอ จึงจะทําให้สามารถอ่านทํานองเสนาะได้อย่างไพเราะ ๓๑ ข้อควรคํานึงในการอ่านบทร้อยกรอง ๑. ผู้ฟังเห็นความงามของบทร้อยกรองที่อ่าน ๒. ผู้ฟังได้รับความไพเราะและเกิดความซาบซึ้ง ๓. เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน ๔. จดจำ บทร้อยกรองได้รวดเร็วเเม่นยํา ๕. ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนอ่อนโยน ๖. ช่วยสืบทอดวัฒนธรรมในการอ่านทํานองเสนาะไว้เป็นมรดกของชาติ คุณค่าของการอ่านทำ นองเสนาะ QR code บทอาขยานหลัก กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
คุณค่าของการอ่านทำ นองเสนาะ แบบทดสอบหลังเรียน ๑. มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง มีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ใดอย่างชัดเจน ก. การเล่นเสียงสระ ข. การเล่นเสียงพยัญชนะ ค. มีการใช้โวหาร ง. การเล่นเสียงวรรณยุกต์ ๒. ข้อใดต่างจากพวก ก. มัศกอด ข. ล่าเตียง ค. ช่อม่วง ง. จ่ามงกุฎ ๓. กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน แต่งด้วยลักษณะคำ ประพันธ์ประเภทใด ก. โคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ ข. กลอนสุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ ค. โคลงสี่สุภาพและกลอนสุภาพ ง. โคลงสี่สุภาพและกาพย์ฉบัง ๑๖ ๔. ทองหยอด ทอดสนิท ทองม้วน มิดคิดความหลัง จากคำ ประพันธ์ ข้างต้น ปรากฏชื่อ ของหวานกี่ชนิด อะไรบ้าง ก. ๓ ชนิด มี ทองหยอด ทอดสนิท ทองม้วน ข. ๒ ชนิด มี ทองหยอด ทองม้วน ค. ๑ ชนิด มี ทองหยอด ง. ๑ ชนิด มี ทองม้วน ๕. ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุม จากบทประพันธ์ข้างต้น คำ ว่า “ โกสุม” มีความหมายว่าอะไร ก. ดอกไม้ ข. กลิ่มหอม ค. งดงาม ง. อร่อย คำ ชี้แจง : จงเลือกคำ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๓๒
คุณค่าของการอ่านทำ นองเสนาะ แบบทดสอบหลังเรียน ๖. คำ ประพันธ์ในข้อใดไม่ได้บอกส่วนประกอบของเครื่องปรุงในอาหาร ก. เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำ ข. ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย ค. ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม ง. ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น ๗. ผู้แต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานคือใคร ก. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ข. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ค. สุนทรภู่ ง. พระบาทสมเด็จพระนั่งเก้าเจ้าอยู่หัว ๘. ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย คำ ว่า“ตับเหล็ก” หมายถึงอะไร ก. ลิ้นของหมู ข. ตับของหมู ค. ม้ามของหมู ง. หัวใจของหมู ๙. ข้อใดจำ แนกอาหารประเภทเดียวกันได้ถูกต้อง ก. จาก ตาล ผลเกด ลุดตี่ ข. ล่าเตียง ลำ เจียก ผลชิด มัสมั่น ค. พล่าเนื้อสด หมูแนม รังนก ขนมเทียน ง. ฝอยทอง มัศกอด ซ่าหริ่ม ลุดตี่ ๑๐. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นอาหาร ก. ตับเหล็กลวก ข. แสร้งว่า ค. ลูกเอ็น ง. พล่าเนื้อสด ๓๓
คุณค่าของการอ่านทำ นองเสนาะ ๑๑. หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา จากคำ ประพันธ์ข้างต้นกล่าวถึงผลไม้ชนิดใด และมีกี่สายพันธุ์ ก. มะม่วง มี ๓ สายพันธุ์ ข. ทุเรียน มี ๔ สายพันธุ์ ค. มะม่วง มี ๒ สายพันธุ์ ง. ทุเรียน มี ๒ สายพันธุ์ ๑๒. จุดมุ่งหมายในการแต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานคือข้อใด ก. เพื่อชมฝีพระหัตถ์นางอันเป็นที่รัก ข. เพื่อใช้เป็นบทเห่เรือพระที่นั่ง ค. เพื่อบอกชื่อของอาหารหวานคาวในสมัยนั้น ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ๑๓. อาหารชนิดใด ที่มีส่วนผสมของลูกกระวาน ก. มัสมั่น ข. พล่าเนื้อสด ค. ข้าวหุง ง. ตับเหล็กลวก ๑๔. คำ ประพันธ์ในข้อใดกล่าวถึงอาหารสองชนิด ก. ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน ข. ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น ค. ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย ง. เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน ๑๕. ขนมชนิดใด มีต้นตำ รับมาจากต่างประเทศ ก. ขนมดอกลำ เจียก ข. ลุดตี่ ค. จ่ามงกุฎ ง. ช่อม่วง QR Code แบบทดสอบก่อนเรียน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน แบบทดสอบหลังเรียน ๓๔
ใบกิจกรรมที่ ๑ ๑. เสาวคนธ์ หมายถึง : ...……………………………………………………................... ๑. เสาวคนธ์ หมายถึง : ...……………………………………………………................... ๒. ข้อน หมายถึง : ………………………………………………..…….................... ๒. ข้อน หมายถึง : ………………………………………………..…….................... ๔. ประทิ่น หมายถึง : …………………………………….………….………...….......... ๔. ประทิ่น หมายถึง : …………………………………….………….………...….......... ๓. รางชาง หมายถึง : …………………………………..…………..……...................... ๓. รางชาง หมายถึง : …………………………………..…………..……...................... ๕. พิสมัย หมายถึง : ...…………………………………………………………............ ๕. พิสมัย หมายถึง : ...…………………………………………………………............ ๖. เพ่งพิศ หมายถึง : .......…………………………………………………………........ ๖. เพ่งพิศ หมายถึง : .......…………………………………………………………........ ๗. มละ หมายถึง : ...……………………………………………………………........ ๗. มละ หมายถึง : ...……………………………………………………………........ ๘. ผ่าว หมายถึง : …………………………………………..…..….………….......... ๘. ผ่าว หมายถึง : …………………………………………..…..….………….......... ๙. ยุคล หมายถึง : ..………………………………………………....………............ ๙. ยุคล หมายถึง : ..………………………………………………....………............ ๑๐. เคล้น หมายถึง : ………......………………………………………………............ ๑๐. เคล้น หมายถึง : ………......………………………………………………............ ๓๕ คำ ชี้แจง : จงเติมความหมายของคำ ศัพท์ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง QR Code ใบกิจกรรมที่ ๑ กิจกรรมแบบฝึกหัด
ใบกิจกรรมที่ ๒ ๓๖ คำ ชี้แจง : จงนำ ข้อความที่กำ หนดให้เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี การเล่นเสียงพยัญชนะ โคลงสี่สุภาพ กาพย์ยานี ๑๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กระวานเทศ การเล่นเสียงสระ การเล่นเสียงวรรณยุกต์ ๒ ๕. ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ มีคุณค่าวรรณศิลป์ด้าน …………………………............................. ๑. กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานเป็นพระราชนิพนธ์ใน สมัย………………………….................................................................... ๒. กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานแต่งด้วยคำ ประพันธ์ …..…. ชนิด ประกอบด้วย………………….. และ ……………………. ๓. รัชกาลที่ ๒ ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เพื่อชม …………………………………………………… ๔. ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น คำ ที่ขีดเส้นใต้ มีความหมายว่า ……………………........... ๖. หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา มีคุณค่าวรรณศิลป์ ด้าน …………………………................... ๗. เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน มีคุณค่าวรรณศิลป์ด้าน ……………………………............... QR Code ใบกิจกรรมที่ ๒
ใบกิจกรรมที่ ๓ มัสมั่น จ่ามงกุฎ บัวลอย ฝอยทอง ยำ ใหญ่ ผลชิด ลูกตาล ตับเหล็กลวก หมูแนม ทอง ม้วน ก้อยกุ้ง น้อยหน่า ผลเกด ทับทิม ซ่าหริ่ม ลิ้นจี่ ลูกพลับ พล่าเนื้อ ล่าเตียง มัศกอด ลุดตี่ มะปราง ไตปลา ขนมเทียน อาหารคาว..................................................................................................... ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ของหวาน...................................................................................................... ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ผลไม้............................................................................................................. ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ...................................................................................................................... ๓๗ คำ ชี้แจง : จงจำ แนกประเภทอาหารคาว หวาน และผลไม้ให้ถูกต้อง QR Code ใบกิจกรรมที่ ๓
ใบกิจกรรมที่ ๔ ๒. ตับเหล็ก ๘. แกงคั่วส้มหมูป่า ๓๘ คำ ชี้แจง : จงจับคู่ข้อความให้สัมพันธ์กัน ๑. ยำใหญ่ ๓. ไตปลา ๔.ข้างหุง ๕. หมูแนม ๖. มัสมั่น ๗. พล่า น้ำ ปลาญี่ปุ่น ยี่หร่า น้ำ ส้มโรยพริกไทย ใบทองหลาง ลูกเอ็น ระกำ เนื้อสด แสร้งว่า QR Code ใบกิจกรรมที่ ๔
ใบกิจกรรมที่ ๕ กาพย์ยานี ๑๑ ๏ มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา ๏ ยำ ใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา รสดีด้วยน้ำ ปลา ญี่ปุ่นล้ำ ย้ำ ยวนใจ ๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำ ส้มโรยพริกไทย โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง ๏ หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย ๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ ๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์ ๓๙ คำ ชี้แจง : ให้นักเรียนฝึกปฏิบัติการอ่านบทร้อยกรองเป็นทำ นองเสนาะและ ทดสอบการอ่านทำ นองเสนาะกับครูประจำ รายวิชา QR Code ใบกิจกรรมที่ ๕
แบบประเมินการอ่านทำ นองเสนาะ ๔๐ ระดับคะแนนการประเมิน ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ อ่านถูกต้องตามฉันทลักษณ์ (ทำ นอง จังหวะ ) อ่านถูกต้องตามอักขรวิธี (คำ ควบกล้ำ ไม่มีการตู่ ตก หรือ เติมคำ ) น้ำ เสียง (ความหนักเบาของเสียง ความชัดเจน เป็นธรรมชาติ ) บุคลิกภาพ (ความมั่นใจ การควบคุมอารมณ์ความรู้สึก) รวมคะแนน ผลรวมคะแนนทั้งหมด / ระดับที่ได้ เกณฑ์การให้คะแนน ๕ หมายถึง ดีมาก ๒ หมายถึง น้อย ๔ หมายถึง ดี ๑ หมายถึง น้อยที่สุด ๓ หมายถึง ปานกลาง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗ - ๒๐ ดีมาก ๑๓ - ๑๖ ดี ๙ - ๑๒ พอใช้ ๕ - ๘ ปรับปรุง เกณฑ์
กิจกรรมที่ ๖ หมากปรางนางบอกแล้ว ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง ยามชื่นรื่นโรยแรง ปรางอิ่มอาบซาบนาสา ลางสาดแสวงเนื้อหอม ผลงอมงอมรสหวานสนิท กลืนพลางทางเพ่งพิศ คิดยามสารทยาตรามา พลับจีนจักด้วยมีด ทำ ประณีตน้ำ ตาลกวน คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน ยิ่งพลับยับยับพรรณ สละสำ แลงผล คิดลำ ต้นแน่นหนาหนาม ท่าทิ่มปิ้มปืนกาม นามสละมละเมตตาฯ น้อยหน่านำ เมล็ดออกปล้น เปลือกปลอกเป็นอัศจรรย์ มือใครไหมจากทัน เทียบเทียมที่ฝีมือนาง ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำ เป็น จากช้ำ น้ำ ตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง ๔๑ คำ ชี้แจง : จงโยงเส้นคำ ประพันธ์ให้สัมพันธ์กับภาพที่กำ หนดให้ QR Code ใบกิจกรรมที่ ๖
กิจกรรมที่ ๗ ลำ เจียก มัศกอด ลุดตี่ ขนมเทียน ขนมรังไร จ่ามงกุฎ ช่อม่วง ทองหยิบ ซ่าหริ่ม QR Code ใบกิจกรรมที่ ๗ ๔๒ คำ ชี้แจง : จงนำ คำ ต่อไปนี้ใส่ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
กิจกรรมที่ ๘ อุปมา การเล่นเสียงสระ อุปลักษณ์ การเล่นเสียงพยัญชนะ การเล่นคำ ซ้ำ การเล่นคำ พ้อง QR Code ใบกิจกรรมที่ ๘ ๔๓ คำ ชี้แจง : จงเลือกคุณค่าของวรรณศิลป์จากคำ ที่ขีดเส้นใต้ให้ถูกต้อง ๑. ผลเงาะไม่งามแงะ มล่อนเมล็ดและเหลือปัญา หวนเห็นเช่นรจนา จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม ๒. เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน เจ็บไกลใจอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง ๓. ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น เรียกส้มฉุนใช้นามกร หวนถวิลลิ้นลมงอน ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน ๔. ขนมผิงผิงผ่าวร้อน เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน ร้อนนักรักแรมไกล เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง ๕. ฝอยทองเป็นยองใย เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน คิดความยามเยาวมาลย์ เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ๖. พลับจีนจักด้วยมีด ทำ ประณีตน้ำ ตาลกวน คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน ยลยิ่งพลับยับยับพรรณ ............................... ............................... ............................... ............................... ............................... ...............................