The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ครูที่ดี ภูมิพัฒน์ กอบกัยกิจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ninephoo46, 2022-09-27 12:22:40

รายงานครูที่ดี

ครูที่ดี ภูมิพัฒน์ กอบกัยกิจ

รายงาน

เรื่อง “ครูยคุ ใหม่”
เสนอ

ดร.ณิชาภา ธพพิ ฒั น์

จัดทาํ โดย
นายภูมิพัฒน์ กอบกยั กิจ รหสั 6511328889

รายงานเรอื่ งนีเ้ ปน็ ส่วนหน่งึ ของรายวิชา คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณความ
เปน็ ครู ( EDUC1101)

หลกั สูตรครุศาสตรบ์ ณั ฑิต สาขาวชิ ภาษาองั กฤษ ปีการศึกษา 2565
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั จนั ทรเกษม

คํานํา
รายงานนเ้ี ป็นสว่ นหน่งึ ของรายวชิ า คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณความเป็นครู
( EDUC1101) ผู้จัดทาํ ได้ทําการศกึ ษาเรือ่ ง การเปน็ คณุ ครูในยคุ ใหม่ บทบาทหนา้ ท่ี
สภาพงาน ความเป็นผ้นู ำทางวชิ าการ และในหัวข้อต่างๆ มีจดุ มุ้งเนน้ ให้ผู้อ่านเกิดความรู้
ความเขา้ ใจและทำความเขา้ ใจกบั ปัจจยั ต่างๆที่จะทำใหผ้ ู้อา่ นเกดิ ความเข้าใจและนำไป
ปรับใชใ้ นการเป็นครูยคุ ใหม่ท่องแท้
หวงั ว่ารายงานฉบับนี้จะใหค้ วามรแู้ ละประโยชนแ์ กผ่ อู้ า่ นทกุ ๆทา่ น

ภมู พิ ัฒน์ กอบกัยกิจ

สารบัญ หน้า
เรื่อง

คาํ นํา ข
สารบัญ
1
บทท่ี 1 บทบาทหน้าท่ขี องครู สภาพงานครู ความเป็นผ้นู ำทางวิชาการ
และการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ 1

1.1 บทบาทหนา้ ทขี่ องครู 1
1.2 สภาพงานครแู ละความเป็นผ้นู ำทางวิชาการ 2
1.3 การเป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้
4
บทที่ 2 คณุ ลักษณะของครูที่ดี 7
10
บทท่ี 3 การพัฒนาบคุ ลิกภาพเพ่อื เป็นแบบอยา่ งในวชิ าชีพคร 12
16
บทที่ 4 การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรูท้ างวชิ าชพี (PLC)
บทท่ี 5 การสร้างความก้าวหน้าและการพฒั นาวิชาชีพครู
บรรณานกุ รม

บทท่ี 1

บทบาทหน้าที่ครู สภาพงานครู ความเปน็ ผู้นำทางวิชาการ
เเละการเปน็ บุคคลเเหง่ การเรียนรู้

บทบาทหน้าที่ครู

การศกึ ษาต้ังเเต่อดีตจนถึงปัจจุบันน้ี ได้มกี ารเปลย่ี นเเปลงรปู เเบบหรือมีการจำเเนกรปู เเบบต่างๆไปตายุคสมัย
ท่เี ปลี่ยนไปการววิ ัฒนาการของสังคมเเละความกา้ วหน้าทางวชิ าการจะพัฒนาไปเท่าใดก็ตาม ครูก็ยังมีบทบาท
ที่สำคัญต่อการศึกษาเเละการเรียนการสอนอยู่เสมอและบุคคลทีเป็นครูส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัตหิ น้าที่ดว้ ยความ
เป็นครูอย่าง สมบูรณ์ แต่ก็มีเพียงส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อยเท่าที่ได้ละทิ้งอุดมการณ์ความเป็นครูมิได้ปฏิ บัติ
หน้าที่อย่างแท้จริง ซึ่งถ้า หากปล่อยปละละเลยจนทำให้ขยายใหญ่โตเป็นวงกว้างแล้ว ความเป็นครูปูชนีย
บุคคลและอาชีพที่มีเกียรติย่อมลดน้อย ถอยลงไปตามลำดับ เเละคำว่าบทบาท ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า
Role เป็นเรื่องของพฤติกรรมและหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า เมื่อบุคคลดำรงตำแหน่ง
ใดกค็ วรแสดงพฤตกิ รรมให้ตรง และเหมาะสมกบั หนา้ ที่ ความรับผดิ ชอบนั้น

สภาพงานครูเเละความเป็นผู้นำทางวิชาการ

เริ่มต้นเราจะพูดถึงเรื่องแรกนั่นคือ สภานที่ทำงาน สถานที่ทางานของคุณครูคือโรงเรียน ท่ีจะประกอบดว้ ย
หอ้ งเรียน โรงอาหาร ห้องพกั ครู และบริเวณโรงเรียนท้งั หมด และหอ้ งพกั ครูจะเป็นห้องท่ีมีโต๊ะทางานของ
คุณครู โดยแยกเป็นหมวดหมู่ของวิชา หรือ ระดบั ช้นั เรียนต่างๆแลว้ แต่ขอ้ กาหนดของโรงเรียน การทางาน
ส่วนใหญ่แลว้ แต่ความเหมาะสมของวิชาน้ันๆว่าจะทาการเรียนการสอนที่ใด เช่น วิชาการ จะตอ้ งเรียนใน
หอ้ งเรียนของนกั เรียนเอง หรือเป็นวิชาปฏิบตั ิต่างๆท่ีตอ้ งออกไปสอนนอกสถานท่ี ตามความเหมาะสมของ
วิชาน้นั ๆ

และตอ่ มาคือสภาพการทำงานของครู ข้ึนอยูก่ ับระดบั ชั้นที่สอน มคี วามแตกต่างกันเน่อื งจากช่วงวัยของเดก็

ทำให้มีความยากง่ายทั้งเรื่องของเนื้อหา รูปแบบการสอน และเรื่องการควบคุมเด็กๆ ให้ตั้งใจเรียนและเชื่อฟงั
นอกเหนือจากจะต้องทำหนา้ ท่ีในการสอนหนังสือให้เด็กๆไดร้ ับความรู้มากทีส่ ุดแลว้ ยังรวมไปถึงเร่ืองการดูแล
และให้คำปรึกษาเด็กๆเหมือนกับเป็นคนในครอบครัว และมีความใส่ใจในตัวนักเรียนทุกๆคน การเป็นครูท่ี
ปรึกษา ครูฝ่ายปกครอง หรอื แม้แต่ครูประจำวชิ า ทุกคนลว้ นมีหน้าท่ีท่เี หมือนกันอย่างหนึ่งคือ ดูแลเด็กๆอย่าง
เทา่ เทียมกัน เมอื่ เห็นว่าเด็กๆมปี ญั หาไมว่ า่ จะเรื่องการเรยี นหรือเร่ืองส่วนตัวกเ็ ปน็ หน้าที่ของคุณครูที่จะต้องอยู่
ขา้ งๆเพือ่ แนะนำและให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ และในตัวเด็กๆทุกคนมีความแตกต่างกันเป้าหมายของการเป็น
ครคู อื ทำอย่างไรให้ความแตกต่างนี้ สามารถอย่รู ่วมกันในสังคมได้ ประสบความสำเรจ็ ในชีวิต มีแนวความคิดท่ี
ดี และมีอาชีพการงานที่ดีต่อไปในอนาคต โดยไม่จำเปน็ ต้องเป็นเด็กที่เรียนเก่งเทา่ น้ัน เด็กๆทุกคนก็สามารถมี
ชีวิตที่ดีได้ ถ้าเลือกแนวทางที่ถูกต้องของตัวเอง ครูจึงมีหน้าที่ชี้แนะแนวทางเหล่านั้นตามความถนัดและ
ความชอบของนักเรียน ให้นักเรียนเดินไปในทางที่ถูกต้องและมีคุณภาพในการใช้ชีวิตและประกอบอาชีพมาก
ทส่ี ุด

ความเป็นผู้นำทางวิชาการ

และครูควรที่จะต้องมีความเป็นผู้นำทางด้านวิชาการอยู่ด้วย และความหมายของภาวะผู้นำทางวิชาการก็คือ
ตามทก่ี ระทรวงศึกษาธิการ (2553, น. 10) ไดก้ ลา่ ววา่ ภาวะผนู้ าํ ทางวิชาการ หมายถึง ความสามารถในการนํา
บุคลากรของสถานศึกษาให้ร่วมมือปฏิบัติงานจน บรรลุเป้าหมายของสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งงาน
ด้านวิชาการเป็นงานหลัก ที่สําคัญที่สุดในการบริหารและจัดการศึกษาในสถานศึกษา ผู้นําต้องมีความรู้ความ
เข้าใจขอบข่ายเนื้อหา และหลักการบริหารงานด้านวิชาการอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ ขอบข่ายงานวิชาการ ด้าน
หลักสูตรและการบริหารหลักสูตรด้านการจัดการเรียนการ สอน ด้านการนิเทศภายในด้านการวัดและ
ประเมินผลการศึกษา และด้านการประกัน คุณภาพการศึกษา เพื่อนำความรู้ด้านนี้นำมาปรับใช้ และนำไป
พฒั นา สั่งสอนเด็กนักเรียนใหเ้ กิดประสิทธภาพมากทีส่ ุด

การเปน็ บคุ คลแห่งการเรียนรู้

และในหัวขอ้ น้ีเราก็จะมารูใ้ นกอ่ นวา่ การเป็นบคุ คลแหง่ การเรียนรู้หมายความว่าอะไร ซึ่งบุคคลแห่งการเรยี นรู้
หมายถงึ ผูท้ ่มี คี ุณลกั ษณะนิสัยใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีพฤตกิ รรมที่แสดงออกถึงความกระตอื รือรน้ สนใจเสาะแสวงหา
ความรู้อยู่เสมอ มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ในการเรียนรู้และสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่าง
เหมาะสม การเรียนรู้อาจทำได้หลายวิธี เช่น อ่านหนังสือหรือวารสารที่มีประโยชน์ ดูรายการโทรทัศน์หรือฟงั
วทิ ยทุ มี่ ีสาระ คน้ คว้าหาความรูโ้ ดยผ่านเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ซักถามข้อมูลจากผรู้ ู้ รวมทัง้ สามารถจับใจความ

สำคัญเพื่อแยกแยะและเลือกสาระข้อมูลที่ได้มาอย่างมีเหตุผล ทักษะพื้นฐานสำคัญต่อการเป็นบุคคลแห่งการ
เรยี นรู้ ไดแ้ ก่

1. ทักษะการฟงั ทำใหร้ ับรขู้ อ้ มลู ข่าวสารซ่ึงมคี วามสัมพันธเ์ กีย่ วขอ้ งกบั การคดิ และการพดู
2. ทักษะการถาม ทำให้เกดิ ประบวนการคดิ การเรียนรู้ในเรอ่ื งนัน้ ๆ เนื่องจากคำถามท่ีดีทำใหเ้ กดิ การ
เรียนรไู้ ดต้ ั้งแต่

ระดบั การจำไปจนถึงระดับวิเคราะห์และประเมินคา่
3. ทักษะการอ่าน ทำใหร้ ับรขู้ ้อมูลข่าวสาร ซ่ึงนอกจากจะเป็นทกั ษะการอ่านข้อความ จะรวมถงึ การอ่าน
สถติ ิ ขอ้ มลู เชงิ

คณิตศาสตรต์ า่ งๆด้วย
4. ทักษะการคดิ ทำให้บุคคลมองการไกล สามารถควบคมุ การกระทำของตนใหเ้ ป็นไปตามเจตนารมณ์
การคิดอยา่ งมี

เหตผุ ลและมีวจิ ารณญาณ มผี ลตอ่ การเรยี นรู้ การตัดสินใจ และการแสดงพฤตกิ รรม

อรวรรณ พ. ผบู้ ันทึก
บทความนคี้ ดั มาจาก หนังสือ "มาตรฐานครูวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย"ี . สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

เทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ

สรปุ

คณุ ครใู นยุคสมัยใหม่หรอื รวมไปถึงคณุ ครยู ุคเกา่ น้นั ควรทจ่ี ะต้องพฒั นาเพ่ิมพนู ทักษะเพ่ือให้สอดคล้องและมี
ความเข้ากนั กับการศึกษาในยุคสมัยใหม่ เพือ่ ทจี่ ะทำให้การศึกษาและการเรยี นรูข้ องนักเรยี นเกิดประสทิ ธิภาพ
ในการศึกษามากทีส่ ดุ

บทที่ 2

คณุ ลักษณะของครูท่ดี ี

“ความดีนั้นเป็นสากล สามารถที่จะทอแสงแห่งความดีนั้นได้ในสถานภาพหรือภาวะต่างๆ ดังนั้น ครูที่ดีก็จะมี
ลกั ษณะทค่ี ลา้ ยคลึงกบั คนดปี ระเภทอน่ื ๆ เชน่ ตำรวจดี นักธุรกจิ ดี จะตา่ งกันเฉพาะรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ
ตามวิชาชพี นนั้ ๆ อนั เป็นที่แสดงออกหรือสนามแห่งปรากฏของความดเี ทา่ นัน้ ”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันได้พระราชทานพระบรมราโชวาท แก่ครูอาวุโสประจำปี ๒๕๒๒
เมื่อวันอังคารที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ มีข้อความตอนหนึ่ง ที่แสดงถึงลักษณะครูดีไว้ดังนี้

"ครูที่แทน้ ้ันจะตอ้ งทำแต่ความดีคือต้องหมนั่ ขยัน และอุตสาหะพากเพยี ร ต้องเออื้ เฟื้อเผื่อแผแ่ ละเสียสละ ต้อง
หนักแน่นอดกล้ันและอดทน ตอ้ งรักษาวนิ ัย สำรวมระวงั ความประพฤติของตนให้อยู่ในระเบยี บแบบแผนอันดี
งาม ต้องปลีกตัวปลกี ใจจากความสะดวกสบายและความสนุกรื่นเรงิ ท่ีไม่สมควรแก่เกียรติภูมิของตน ต้องตั้งใจ
ม่นั คงและแนว่ แน่ ต้องซอ่ื สัตย์ รกั ษาความจริงใจ ตอ้ งเมตตาหวังดี ตอ้ งวางใจเปน็ กลาง ไม่ปลอ่ ยไปตามอำนาจ
อคติ ตอ้ งอบรมปญั ญาใหเ้ พิม่ พนู สมบรู ณ์ขนึ้ ท้ังในด้านวทิ ยาการ และความฉลาดรอบรใู้ นเหตุและผล"
และคณุ ลักษณะของครทู ด่ี ีมี 10 ประการด้วยกัน
1.ความมีระเบียบวนิ ัย
2.ความซื่อสัตย์สจุ รติ และความยุตธิ รรม
3.ความขยนั ประหยดั และยึดม่ันในสมั มาอาชีพ
4.ความสำนึกในหนา้ ทแ่ี ละการงานต่าง ๆ รวมไปถึงความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมและประเทศชาติ
5. ความเป็นผู้มีความคิดริเร่มิ วจิ ารณ์และตดั สินอย่างมเี หตุผล

6.ความกระตือรือร้นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีความรักและเทิดทูน ชาติ ศาสนา
พระมหากษตั ริย์

7. ความเปน็ ผู้มพี ลานามยั ท่สี มบรู ณท์ งั้ ทางร่างกายและจติ ใจ

8. ความสามารถในการพึ่งพาตนเองและมีอุดมคติเป็นที่พึ่ง ไม่ไว้วานหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยไม่
จำเปน็

9. ความภาคภมู ิและการรู้จักทำนบุ ำรงุ ศิลปะ วฒั นธรรม และทรพั ยากรของชาติ

10. วามเสยี สละ และเมตตาอารี กตัญญูกตเวที กล้าหาญ และความสามัคคกี นั

และคุณลักษณะทั้ง 10 ประการนี้นั้นก็จะเป็นทั้งแนวทางและเป้าหมายในการจัดการศึกษาและอบรมสั่งสอน
นักเรียน ไม่ว่าจะสถานศึกษาระดับไหนก็ต้องควรที่จะต้องถือปฏิบัติด้วยเช่นกันและรวมไปถึง ผู้อำนวยการ
ผู้บริหาร หรือแม้กระทั้งผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย เพราะยิ่งเราเป็นผู้บริหารการศึกษาเป็นทั้งผู้นำและเป็นผู้
วางแผนงานต่างๆ ในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เข้าใจในหลักจริยธรรมและคุณธรรม เพื่อต่อยอด
ในการเตบิ โตไปในทางที่ถกู และมีคณุ ลักษณะของการเป็นครูที่ดีในอนาคต

และการที่จะเป็นครูที่ดีนั้นก็ควรที่จะปลูกฝังความมั่นใจให้กับนักเรียน เพราะเนื่องจาก ถ้าเกิดตัวนักเรียนมี
ความมั่นใจในตัวเองต่ำ จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการจัดการเรียนของครูที่ต่อเนื่องมากที่จุด ดังนั้น วิธีการ
ปลูกฝังความมั่นในให้กับนักเรียน จะต้อง สร้างเป้าหมายการเรียนรู้ร่วมกับนักเรียน ปลูกฝังความคิดแบบ
เติบโต (Growth-Mindset) ด้วยการให้ความคิดเชงิ บวก เช่น “ครูเชื่อว่าเธอทำได้” และนอกจากนี้คุณครูที่ดี
นนั้ จะตอ้ งมีความสามารถในการจดั การห้องเรยี นไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ การจดั การห้องเรียนเป็นการ

รวมกลยุทธ์ทุกอย่างที่ครูใช้ เช่น การผลิตสื่อการเรียนรู้ การจัดการพื้นที่ และการใช้เวลาในห้องเรียนเพ่ือเพ่ิม
ประสิทธิภาพในการสอนใหแ้ ก่ตวั นักเรียน และเราจะต้องเน้นทบี่ รรยากาศเชิงบวกท่เี อ้อื ตอ่ การเรยี นรู้

สรุป

การที่จะเป็นครูที่ดีนั้นจะมีลักษณะต่างๆที่ครูทุกคนควรปฏิบัติ เพื่อให้ตัวเรานั้นนำคุณลักษณะต่างๆที่ดี
เหล่านั้นนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพแก่ตัวผู้เรียนมากที่สุด
และการทค่ี รูมคี ุณลักษณะทด่ี ีเหล่านี้กจ็ ะช่วยทำให้เปน็ คุณครูท่ีมีคุณค่าและคุณภาพ

บทที่ 3

การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพเพื่อเปน็ แบบอยา่ งในวิชาชีพครู

การเปน็ ครยู ุคใหมห่ รือแม้กระท้งั ครูยคุ เกา่ ถ้าหากต้องการเปน็ ครูทดี่ นี ัน้ เรอื่ งของบคุ ลิกภาพกเ็ ป็นเร่ืองสำคัญ
อยา่ งย่งิ สำหรบั อาชพี ครู เพราะบคุ ลิกภาพเป็นสง่ิ ทชี่ ่วยสร้างความศรทั ธา ความนา่ เชอ่ื ถือและความประทับใจ
ใหก้ ับผเู้ รยี น อกี ทั้งยังเป็นแรงผลกั ดันใหก้ ารประกอบอาชีพครูนนั้ บรรลุวตั ถปุ ระสงค์มากย่ิงขนึ้ ด้ังน้ัน
ครทู ่ีดจี งึ ต้องมีการพัฒนาตนเองในด้านบุคลิกภาพอย่างสม่ำเสมอ

โดยคำว่า “บุคลกิ ภาพ” นั้นหมายถงึ พฤตกิ รรมลักษณะเฉพาะของมนุษย์ทีท่ ำประจำและสอดคลอ้ งกนั ทีม่ า
คำวา่ บคุ ลิกภาพ ในภาษาอังกฤษ คือ “personality” เช่ือวา่ มาจากภาษาลาตนิ “persona” ซึง่ หมายถงึ
หนา้ กาก ทีช่ าวกรีกใชส้ วมในการแสดงละครเวที และยังหมายถึง ตวั ละคร นักแสดง หรือคนที่มีพฤติกรรม
ลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล รวมไปถงึ แนวโนม้ พฤตกิ รรมเคยชินทีเ่ กิดจากการปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับ
สภาพแวดล้อม

และสำหรบั คนท่เี ปน็ ครนู ้ัน บุคลิกภาพเปน็ เร่ืองทส่ี ำคัญมาก เพราะมันถือเปน็ สง่ิ แรกทีจ่ ะสร้างความประทับใจ
ใหแ้ ก่ผเู้ รียน ดงั นั้นครูจึงต้องเป็นแบบอย่างทีด่ ีในทกุ ดา้ นเพ่อื เป็นแบบอย่างในแกน่ กั เรียนไดเ้ รยี นรู้และนำไป
ปรบั ใช้ แตใ่ นท่นี ี้นนั้ ไมไ่ ด้หมายถึง ความสวย ความหล่อ ความดดู ใี นรปู ลักษณ์ภายนอกเพียงอยา่ งเดยี ว
แตย่ ังมีองค์ประกอบอกี หลายอย่าง อาทิเชน่ บคุ ลิกทางกาย , บคุ ลิกภาพทางการแตง่ กาย , บคุ ลกิ ภาพ
ทางสังคม ,บคุ ลิกภาพทางอารมณ์ และบุคลิกภาพทางปัญญา ทง้ั หมดน้ีล้วนเปน็ สิ่งทส่ี ำคญั อย่างมากในการ
เปน็ ครทู ีด่ ใี นยุคสมัยปัจจุบนั ทีค่ รตู ้องนำมาพฒั นาตนเอง

และการพฒั นาบุคลิกภาพนัน้ คอื การวเิ คราะหบ์ ุคลกิ ภาพของครแู ตล่ ะคนวา่ เหมาะสมเพียงใด เพื่อนำไปสู่การ
ปรับปรงุ แก้ไขสว่ นท่ียังขาด หรือบกพร่องให้เป็นไปในลกั ษณะท่ีปรารถนา ดว้ ยการฝึกฝนบุคลิกภาพท้ังด้าน
กาย อารมณ์ ด้านสงั คม และสติปญั ญาใหเ้ หมาะกับการประกอบวิชาชีพครู

และสำหรับการพฒั นาบคุ ลิกภาพนั้น ต้องมีองคป์ ระกอบ 3 ด้านด้วยกัน คือ สอนดี มีความรูด้ แี ละ
ประพฤติดี ดงั นั้นจึงมวี ิธกี ารพัฒนาบคุ ลิกภาพครู 10 ขนั้ ตอนดว้ ยกัน ได้แก่

ขน้ั ที1่ มน่ั ใจในตนเอง ครูตอ้ งมุ่งมั่นพัฒนาบคุ ลิกดว้ ยใจเบิกบาน ขจัดความกลัว ขจัดปมดอ้ ย เหน็ คุณค่าตวั
เราเอง

ขน้ั ที่2 มีไมตรจี ติ ครตู อ้ งรูจ้ ักการใหผ้ อู้ นื่ ก่อน ดว้ ยใจจริง จะทำใหไ้ ด้มิตรทแ่ี ท้จริงกลับมา หรือคนอ่นื
ประทับใจเราอย่างทเี่ ราประทับใจคนอ่ืน

ข้ันท3่ี คลอ่ งแคลว่ -ว่องไว ศกึ ษาบคุ ลิกบคุ คลรอบขา้ งว่าเคลอ่ื นไหวเป็นอย่างไร แล้วปรบั ตัวเอง ให้
มคี วามคล่องแคล่ว กระฉบั กระเฉง แต่ต้องรูจ้ ักสมั มาคาราวะ

ข้นั ที่4 ตรงต่อเวลา ครตู ้องรักษาเวลา เพราะการรักษาเวลานดั หมายเป็นเรื่องสำคญั ท่จี ะชว่ ยสร้าง
ความน่าเชอ่ื ถือไวใ้ จ และเกรงใจจากผู้อ่ืน

ข้ันท5่ี การควบคมุ ตวั เอง ครตู ้องมีรูจักควบคมุ อารมณ์ สติ ในการแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาด

ขน้ั ท6่ี รูจ้ กั กาลเทศะ ครูตอ้ งคิดเป็นวา่ สงิ่ ไหนดี- ไม่ดี อะไรควรทำ- ไม่ควรทำ แล้วอะไรเหมาะ -
ไม่เหมาะ และทำให้เกดิ ผลดี

ขั้นท่7ี มธรุ สวาจา ครูตอ้ งมที ักษะการพูดที่ดี คือพดู ดีมสี าระ จรงิ ใจ ไพเราะ ประทบั ใจคนฟัง

ขั้นที่8 เอาใจเขามาใส่ใจเรา ครคู ดิ ทำการใดต้องรูจ้ กั ประมาณใจคนอื่น(คดิ ว่าเราเป็นเขา เขาเป็น
เรา)

ขน้ั ที่9 เสรมิ ลักษณะทางกาย ครตู ้องแต่งกายให้เรียบรอ้ ย สะอาด และเหมาะสมกบั กาลเทศะ มี
มารยาทการออกสงั คมที่ดี

ขั้นท1่ี 0 เตมิ เต็มชีวติ ชวี า ครตู ้องผสมผสานท้ัง10ขั้นตอนเขา้ ดว้ ยกัน แตใ่ ห้เพ่ิมความน่ารกั และ
ความจรงิ ใจที่ไมแ่ สแสรง้ เขา้ ไปด้วย

สรปุ

การทีจ่ ะเปน็ ครทู ีด่ นี ้นั เรื่องของบุคลกิ ภาพเป็นส่งิ ท่ีสำคญั อยา่ งมากในการเป็นครูที่ดี และครคู วรท่จี ะพัฒนา
ตนเองในด้านบคุ ลกิ ภาพอยสู่ ม่ำเสมอ เพื่อให้เป็นครทู ี่มบี ุคลกิ ภาพท่ีดเี พื่อเป็นแบบอยา่ งใหก้ ับศิษย์ และทงั้ น้ี
ลกั ษณะของครูทีด่ คี วรมีคุณสมบตั ิเฉพาะสำหรับวิชาชีพครู ครูต้องมคี วามศรัทธาในวิชาชพี ครู และลักษณะครูท่ี
พึงประสงค์ควรมลี ักษณะท่สี ำคญั 3 ประการ คอื มคี วามรดู้ ี มบี คุ ลกิ ภาพดี และมีคณุ ธรรมจริยธรรม

บรรณานุกรม บท่ี 3

กนั ยา สุวรรณแสง (2533) การพัฒนาบคุ ลิกภาพและการปรับตวั พิมพค์ ร้ังท่ี1 กรงุ เทพฯ :บำรุง
สาส์น สำนกั พมิ พ์
พฒั นาบคุ ลกิ ภาพ เสรมิ สร้างเชาวป์ ัญญา (2544) พมิ พ์ครัง้ ที3่ กรุงเทพฯ :นานมีบุ๊ค
วไิ ล ตั้งจิตสมคดิ (2544ก) การศึกษาและความเปน็ ครไู ทย พมิ พ์ครง้ั ท่ี1 กรุงเทพฯ :โอเดยี นส
โตร์ สำนักพมิ พ์
วิไล ตง้ั จิตสมคดิ (2544ข) การศึกษาและความเป็นครไู ทย พมิ พ์ครง้ั ท่ี1 กรุงเทพฯ :โอเดียนส
โตร์ สำนกั พิมพ์
วิไล ตั้งจิตสมคดิ (2544ค) การศกึ ษาและความเปน็ ครไู ทย พมิ พ์คร้งั ที่1 กรงุ เทพฯ :โอเดยี นส
โตร์ สำนกั พิมพ์

บทท่ี 4

การเปน็ ชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC)

ชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี หรือ Professional Learning Community หมายถึง การรว่ มมอื รว่ มใจกันของ
ครู ผบู้ รหิ ารโรงเรียน และ หนว่ ยงานการศึกษาทเ่ี กย่ี วข้อง เพ่อื พฒั นาการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยมุง่ ผ
ผลสมั ฤทธไ์ิ ปทผี่ ู้เรยี นเปน็ สำคัญ เพ่ือให้ผใู้ ห้ผูเ้ รยี นสามารถพัฒนาการเรยี นรู้ได้ด้วยตนเอง ผ่านการวางแผน

การมีวิสยั ทศั รว่ มกัน การแลกเปล่ียนเรยี นรซู้ งึ่ กันและกนั จนเกิดเป็นวฒั นธรรม หรือชุมชนของการแลกเปลี่ยน
เรยี นรูใ้ นโรงเรยี น

และที่กลา่ วมาข้างตน้ คือ สาระสำคัญของหัวข้อนี้ และต่อมาเราจะมาดูกันที่ความหมายของ PLC คอื อะไร
โดยท่ี PLC ยอ่ มากจาก Professional Learning Community ซงึ่ หมายถงึ Community of Practice
(CoP)ในการทำหนา้ ทค่ี รนู ัน่ เอง หรอื กล่าวอีกนยั หนง่ึ เป็นการรวมตัวกนั ทำงานไปพฒั นาทักษะและการเรียนรู้
เพื่อปฏบิ ัตหิ นา้ ทค่ี รเู พ่อื ศิษย์

และองคป์ ระกอบของ PLC มีด้วยกัน 5 องคป์ ระกอบดว้ ยกัน คือ

1.วิสยั ทัศน์ ความเชื่อ และค่านิยม

2.ความเป็นผู้นำ

3.การชนี้ ำ

4.สิ่งแวดลอ้ มเชงิ บวก

5.การปฏบิ ัติสว่ นบุคคล

และในการทเ่ี ราจะเร่ิมตน้ และใช้ PLC นั้นคอื ต้องเร่มิ จากการ กำหนดความต้องการของโรงเรยี นและความ
พร้อมในการเปลี่ยนแปลง และหาคนเขา้ มาแลกเปลย่ี นวิสัยทัศน์ โดยการเริม่ ต้นจากการแลกเปล่ยี นแนวคิดกนั
กำหนดกรอบและพิจารณาจุที่ตอ้ งเปลย่ี นแปลงจากจดุ เล็กๆ เชน่ เร่มิ ตน้ จากบางส่ิงบางอยา่ งทสี่ ามารถ
มองเหน็ ไดช้ ดั เจนจากภายนอก เชน่ การประดบั ตกแต่งห้องโถง หรือ ทางเดินหน้าโรงเรยี น เป็นต้น

และ PLC น้นั ยังมีกลยทุ ธ์ในการจัดการและใช้ชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวิชาชพี อยา่ งยั่งยนื ดว้ ย
โดยทก่ี ารนำกระบวนการ PLC ไปใช้ในสถานศึกษา สามารถดำเนนิ การได้ดว้ ยขน้ั ตอนต่อไปนี้
1.เรม่ิ ต้นดว้ ยขนั้ ตอนงา่ ยๆ โดยการเร่มิ ต้นจาการกำหหนดเป้าหมายแลกเปลี่ยนความคิดกบั คนอ่นื ๆ
2.การวางแผนดว้ ยความร่วมมือของสมาชกิ ของกลุ่มกำหนดสารสนเทศทีต่ ้องใช้ในการดำเนินการ
3.กำหนดความคาดหวงั ในระดบั สงู และวิเคราะหก์ ารสอนสบื เสาะหาวธิ ีทจ่ี ะทำให้ประสบผลสำเร็จมากทสี่ ุด
4.เริ่มจากจุดเล็กๆ เริ่มตน้ จากการใช้กลุ่มเล็กๆ ก่อนแลว้ คอ่ ยปรบั ขยาย
5.ศึกษาและใชข้ ้อมูลตรวจสอบผลการนำไปใช้และการสะท้อนผลเพอ่ื นำมากำหนดวา่ แผนไหนควรใชต้ ่อไป
หรือต้องปรับปรงุ ยกเลิก
6.วางแผนเพื่อความสำเร็จ เรียนรู้จากอดีต ปรบั ปรุง
7.นำสู่สาธารณะ แผนไหนทีส่ ำเร็จกจ็ ะมีการเชญิ ชวนให้คนอื่นเข้ามามสี ว่ นร่วมและแลกเปล่ยี นความสำเรจ็
8.ฝึกฝนร่างกายและหล่อเลีย้ งสมอง จัดกิจกรรมท่ีไดม้ ีการเคลื่อนไหวและเตรียมครทู ี่ทำงานสำเร็จของแตล่ ะ
กลุม่

สรปุ

สรุป plc หรอื Professional Learning Community คอื การรวมตัว รว่ มมอื รว่ มใจ และร่วมเรยี นรรู้ ่วมกนั
ของท้ังครู ผู้บริหาร และนักการศึกษา บนพน้ื ฐานของกัลยาณมติ ร อยา่ งมวี สิ ัยทัศน์ เปา้ หมาย และภารกจิ
รว่ มกัน และสนับสนนุ การเรยี นร้แู ละพฒั นาวิชาชีพเพื่อเปลี่ยนแปลงคุณภาพของตนเอง สู่คุณภาพการจัดการ
เรยี นรทู้ เี่ นน้ ความสำเร็จรว่ มกันของสมาชิกในชมุ ชนการเรียนรู้

บทท่ี 5

การสรา้ งความกา้ วหนา้ และการพฒั นาวิชาชีพครู

การพฒั นาตน( Self Development )

นน้ั หมายถึง เปน็ กระบวนการของความคดิ และการตัดสนิ ใจเพือ่ นำไปสูค่ วามสำเร็จในชีวิต โดยทม่ี ีการสรา้ ง
การมองเหน็ สิง่ ท่ดี แี ละมีความเปน็ จริง ค้นหาสงิ่ ทีด่ แี ละมคี ุณภาพใหก้ ับตนเอง รวมท้ังรับผดิ ชอบการสร้างเจต
คตทิ ่ีดีต่อผู้อื่น ชมุ ชน และสังคม ดังนน้ั นะครับ การพัฒนาตนเองน้นั เน่ยี จึงเปน็ การตั้งเป้าหมายเพ่ือพัฒนา
ศักยภาพในด้านตา่ งๆ ของตนเองในการประกอบอาชพี ท้งั ส่วนของตนเอง และประเทศชาติ

การพัฒนาตนของครู

1. การพฒั นาตนในดา้ นวิชาชพี

-ดา้ นความรู้

-ดา้ นเทคนคิ วธิ กี าร

-ด้านคุณลกั ษณะกับเจตคติ

2. การพัฒนาตนในดา้ นการเปน็ สมาชกิ ของสงั คม

-หน่วยงาน

-ชุมชน/สังตม

-สมาคมวิชาชพี

ความกา้ วหน้าทางอาชพี

หมายถึง การได้เล่ือนตำแหน่งสูงข้นึ และการได้รับเงินเดอื นสงู ขึน้ กฏหมายท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการศกึ ษาของชาติได้
กำหนดแนวทางในการดำเนินการเพ่ือความกา้ วหน้าในเส้นทางวิชาชีพครู คือ

๑. การกำหนดให้มหี น่วยงานท่ีมีหน้าท่ีรบั ผดิ ชอบในการพฒั นาสง่ เสรมิ วชิ าชีพครู คือ กระทรวงศึกษาธกิ าร
คุรสุ ภา คณะกรรมการขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ,สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และ
บคุ ลากรทางการศึกษา (สคบศ.), สถาบันผลติ ครู

๒. การกำหนดให้วชิ าชีพครเู ปน็ วิชาชีพควบคมุ ท่ีต้องมีใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี
๓. การกำหนดมาตรฐาน และจรรยาบรรณของวิชาชีพ
๔. การปรับเปล่ียนระบบตำแหนง่ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา และระบบการบรหิ ารงาน
บุคคลของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
๕. การกำหนดวทิ ยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และ
๖. การกำหนดอตั ราเงินเดอื น เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการครแู ละบุคลากร
ทางการศึกษา

และต่อไปก็จะเป็นหวั ข้อของแนวทางการพฒั นาตนเองสู่ครมู อื อาขีพ เพ่ือพัฒนาและสร้างความกา้ วหนา้ ใน
อาชพี

แนวทางการพฒั นาตนเองสคู่ รูมอื อาชีพ

ครูมอื อาชพี ตามความหมายของกรมวิชาการ ได้ใหค้ วามหมายไว้วา่ คอื ครูทีม่ ีความพร้อมในทุก ๆ ดา้ นท่จี ะ
เป็นครู คอื มีความร้คู วามสามารถ มีทักษะในการใหก้ ารศึกษาอบรมศิษย์ในทุก ๆ ด้าน มีความประพฤตดิ ี
วางตัวดี เอาใจใสด่ ูแลศิษยด์ ี มีวญิ ญาณของความเปน็ ครู และปฏิบตั หิ น้าท่ีดว้ ยจิตวิญญาณ ซง่ึ จากความหมาย
น้ี เราจะเห็นไดว้ ่า ระดับของครูมอื อาชีพนัน้ แตกตา่ งจากระดับคนท่ปี ระกอบอาชพี ครอู ยู่พอสมควร ครทู กุ คน
ถึงแมจ้ ะมคี วามรทู้ างวชิ าชีพทัดเทยี มกนั เพราะสว่ นใหญ่ตา่ งจบจากสถาบันผลติ ครูเหมือนๆกัน หรอื จะ
แตกต่างกนั บา้ งกต็ รงชอ่ื ของมหาวทิ ยาลัยทเี่ รียนจบ แตเ่ ม่ือผา่ นการคดั เลอื กเข้ามาบรรจุครูในสถานศึกษาของ
รฐั หรือได้ทำงานในสถานศกึ ษาของเอกชน ครูทกุ คนกม็ จี ุดเร่ิมตน้ ในการทำงานที่แทบจะไมต่ ่างกัน แต่อะไร
เลา่ ? ที่เป็นตวั วดั วา่ ใครคอื ผู้ประกอบอาชีพครธู รรมดาๆ และใครควรจะถูกเรยี กว่าเปน็ ครมู ืออาชีพ

และสง่ิ ท่ที ำใหค้ รมู ืออาชพี แตกตา่ งจากครทู ีป่ ระกอบอาชีพครโู ดยทัว่ ไป คือการทสี่ ามารถปฏิบตั ติ นใหด้ ำรงไว้
ซ่งึ ปัจจยั ที่ส่งเสรมิ ความเป็นครูท่ดี ี 4 ประการ ซ่ึงปรากฏในหนังสอื คมู่ ือเส้นทางครูอาชีพสำหรับครูผู้ช่วย
ของสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบคุ คลและนติ กิ ร สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน อันได้แก่

1.อุดมการณข์ องครู

สำหรบั ครูมอื อาชีพ จะเนน้ ในเร่อื งในของการดำรงไว้ซ่ึงอุดมการณ์ความเป็นครูมากกว่าจะคำนงึ ถึง
อามสิ สินจา้ ง โดยพร้อมแสดงความเมตตากรณุ าต่อศิษย์ เสียสละและมุงมนั่ ในการทำงานเพือ่ เป้าหมายในการ
พฒั นาผู้เรยี นอย่างเต็มศักยภาพตามความสามารถท่ีตวั เองพงึ กระทำได้

2. คณุ ลักษณะของการเป็นครูทด่ี ี

ครูมืออาชพี สว่ นใหญ่จะมีลักษณะของการเปน็ ครูทดี่ ี ซ่ึงการเป็นครูท่ดี นี ัน้ ถ้ามองตามเกณฑ์มาตรฐาน
วชิ าชพี แลว้ จะสามารถสรปุ ได้ครา่ วดังน้ี คือ

- ตอ้ งเป็นผ้รู อบรใู้ นเรอ่ื งของนโยบายการศกึ ษา เข้าใจในหลกั สตู รและเนือ้ หาวชิ าทีส่ อน มี
ทักษะในการสอน วัดและประเมินผลผ้เู รียนไดอ้ ยา่ งถูกต้อง

- ติดตามสถานการณ์บา้ นเมืองอยา่ งสม่ำเสมอ สามารถจับประเด็นและวิเคราะหป์ ัญหา

ตา่ งๆได้

- สามารถสนบั สนุนและสง่ เสรมิ การเรียนการสอน ทัง้ ในเร่อื งของการดูแลผู้เรียน การจดั การ
สอ่ื การเรียนการสอน และการช่วยเหลอื งานสนับสนุนการจัดการในโรงเรยี นต่างๆ เช่น งานพัสดุ หรืองาน
ธุรการ เป็นตน้

- มีคุณธรรมจรยิ ธรรมตามหลกั ของจรรยาบรรณวชิ าชพี

- รูจ้ กั พัฒนาตนเองและส่งเสรมิ ชุมชนอยเู่ สมอ

ซึ่งจากคุณลักษณะการเปน็ ครูท่ีดี โดยสังคราะห์จากเกณฑม์ าตรฐานวิชาชพี จะเห็นว่าครมู ืออาชพี น้นั
จะตอ้ งเปน็ ปฏิบัติดที ั้งต่อตัวเอง ผูเ้ รียน โรงเรยี น รวมไปถงึ ชุมชนทอี่ ยูใ่ กล้เคียงดว้ ย

3. ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ปัจจุบนั น้ี อาชพี ครูกลายเป็นอาชพี หนึง่ ที่ถกู หยิบยกข้ึนมากลา่ วถึงในเร่ืองของหนส้ี นิ ซงึ่ เป็นเรือ่ งที่ไม่
เหมาะสมเป็นอยา่ งย่ิง ถึงแม้วา่ ครจู ะไม่ใชอ่ าชพี ที่ทำรายได้ในระดบั ทสี่ ูงมากนัก แต่รายได้ของครกู ็เพยี งพอต่อ
การใช้สอย ถ้ามคี วามพอเพียงและสามารถบริหารจัดการได้ดี การมหี นสี้ นิ ถา้ อยู่ในระดับท่ดี แู ลจดั การได้นน้ั ก็
ไมใ่ ช่เรือ่ งทเี่ ปน็ ปญั หาแตอ่ ย่างใด แต่สว่ นใหญท่ ี่พบมักเป็นลักษณะของการมหี น้ีสินติดพันรงุ รงั จนกระทบตอ่
การทำงาน ทำใหค้ รูไม่อาจทำงานได้เต็มที่ กงั วลกบั เร่ืองหน้ีสินตลอดเวลา ซ่งึ สำหรบั ครมู ืออาชีพนั้น จะเปน็ ผทู้ ่ี
หยบิ ยกแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมา
ใช้ในการดำเนินชวี ิตคือ พอประมาณ มเี หตผุ ล และมภี มู ิคุ้มกันทด่ี ีในตัวเอง ทำใหส้ ามารถใช้ชีวติ ในวชิ าชพี ครู
ไดเ้ ปน็ แบบอยา่ งท่ีดีและมีความสุข

สรปุ

ในการพฒั นาตนองนัน้ จะเห็นไดว้ ่าไม่ใช่เรื่องงา่ ยท่ีจะสามารถทำให้ถึงเปา้ หมายไดใ้ นเร็ววัน ครูทกุ คนจงึ ต้อง
ฝกึ ฝนและคอยพฒั นาตัวเองในด้านตา่ งๆอย่ตู ลอดเวลาและสม่ำเสมอ เพ่อื ใหส้ ามารถเตบิ โตไปทล่ี ะขัน้ ในหนา้ ท่ี
การงานซึง่ ต้องใชป้ ระสบการณพ์ อสมควร เพื่อนำไปสูก่ ารเป็นครูทีด่ ไี ดใ้ นอนาคต

บรรณานกุ รม

กมลชนกทอง ธงทอง.ภาวะผนู้ ำทางวชิ าการ.20 กันยายน 2565 ,
https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=&cad=rja&uact=8&ved
=2ahUKEwj6itWLqa36AhW7aGwGHZl4AVYQFnoECAcQAw&url=http%3A%2F%2Fea.grad.ssru.a
c.th%2Fuseruploads%2Ffiles%2F20200716%2Fadd04596559bffb15c972f0a6a43a79da64c7784
.pdf&usg=AOvVaw3mL5cHeDWK1cfIM-JaEsFl

5ForShare.บคุ คลแหง่ การเรียนรู้.20 กนั ยายน 2565 , https://www.gotoknow.org/posts/195826

ปัญจพล ขำสจั จา.คณุ ลกั ษณะของครทู ่ีดี.20 กนั ยายน 2565 , https://www.gotoknow.org/posts/490810

https://www.starfishlabz.com/blog/915-6-
%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E
0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%84%E0%
B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B5Ruadys. (2020).6

Key Qualities of a Good Teacher and 25 Ways to Live them
Out. www.prodigygame.com/main-en/blog/qualities-of-a-good-teacher/

Stoehr, J., Banks, M., & Allen, L. (2011). PLCs, DI, & RTI: A Tapestry for school
change. Thousand Oakes, California: Crowin.

http://www.banthepnakhornschool.com/news-detail_39_25160

สรปุ Professional Learning Community : ชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชพี
https://sites.google.com/site/professionallearncom/

อาจารย์ ดร.นกั รบ หม้ีแสน.วชิ าชพี ครู.20 กนั ยายน 2565 ,
https://krupasathaimaiake.files.wordpress.com/2016/08/e0b980e0b8ade0b881e0b8aae0b8b2
e0b8a3e0b881e0b8b2e0b8a3e0b8aae0b8ade0b899e0b981e0b899e0b8a7e0b897e0b8b2e0b8
87e0b881e0b8b2e0b8a3e0b8aa.pdf


Click to View FlipBook Version