The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by plarnkhoi11, 2021-05-26 08:16:49

รู้แจ้ง เห็นจริง

พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย

Keywords: ธรรม,พลาญข่อย,meditation,plarnkhoi,พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย,ศูนย์พลาญข่อย,ทุกข์,ebookplarnkhoi

1

มรรค ผล นิพพาน
เป้าหมายสูงสุด ของ พุทธศาสนา

2

สารบญั

ความรู้ หรือ ปัญญา 3
เราพน้ ทกุ ข์ หรือยงั 7
รู้แจง้ เห็นจริง 17
คิดดี ไม่ไดแ้ ปลวา่ คิดบวก 22

3

ความรู้ หรือ ปัญญา

ทกุ วนั น้ีความรู้ตา่ งๆ น้ี เกิดมาจากสะสมขอ้ มลู จากการ
อ่าน จา ทอ่ งจาความรู้จากคนอ่ืน มนั ไม่ใช่ปัญญา ความรู้ทาง
โลก ความรู้ทางวชิ าการ สูงสุดก็เรียนจบดอ็ กเตอร์ ปริญญาเอก
บางทีเรียนจบมา เรียนวชิ าหาเงิน กบ็ งั เอิญวา่ มาทางานแลว้
สาเร็จจริงๆ ร่ารวย มีลาภยศ สรรเสริญ

แตถ่ า้ ยงั ร้องไหอ้ ยู่ ยงั กลวั อยู่ ยงั กงั วลอยู่ ยงั ทะเลาะกนั
อยู่ ถือว่าไม่มีปัญญา ยงั ถือว่าเป็ นคนโง่ก็ได้ เพราะโง่ที่ทาให้
ตวั เองทุกข์ จิตซ่ึงมีปัญญาแลว้ เขาจะไม่มีอาการแบบน้ี
ทุกวนั น้ี มีแค่ความรู้ เด็กๆก็เป็ นเหยื่อ ถูกสอนให้ไปเรียน
ไปท่องจาความรู้คนอ่ืน เป็ นแค่นกั เลียนแบบ ไม่ใชน้ กั เรียนรู้
เก่งที่สุดกเ็ ทา่ กบั เจา้ ของตารา มีความรู้แต่ขาดปัญญา

พระพทุ ธเจา้ สอนใหเ้ ราเกิดปัญญา ศาสนาพทุ ธไม่ได้
สอนใหค้ นเป็นคนดี ศาสนาพทุ ธไมไ่ ดส้ อน ใหเ้ ราเป็นคนชว่ั
เป็น กค็ ือ อตั ตา เป็นคนดี เคา้ วา่ เราไมด่ ี เรากท็ ุกข์ เราไปติดดี
ศาสนาพทุ ธสอนใหเ้ รา พน้ ทุกข์ สอนใหเ้ ราทาดี ทาแค่พอดี
แต่ไม่ติดดี แลว้ กล็ ะชวั่ แลว้ กข็ ดั เกลาจิต ใหผ้ อ่ งใส อนั น้ีตอ้ ง
เนน้ กนั บ่อยๆ อยา่ ไปหลงประเดน็

4

แต่ตอนน้ี การศึกษาทกุ วนั น้ี สอนใหเ้ ป็น คนเก่ง เก่ง
ทาดี เก่งทาชวั่ ชนะถึงจะดี แพไ้ มด่ ี มีเงินเยอะเยอะ รวยแลว้
ค่อยเป็นสุข เราสอนแบบน้นั เราไม่ไดส้ อนใหพ้ น้ ทกุ ข์ แลว้ ก็
ขยนั เรียน เพอื่ จะเป็นคนเก่ง แลว้ คุยกบั พ่อกบั แม่ไม่รู้เร่ือง
อนั น้ี คนเกง่ แลว้ กโ็ งด่ ว้ ย ไปท่องจาความรู้เขา เราก็ไปหลง
วา่ ตวั เองมีความรู้ ความรู้คนอื่นสร้างอตั ตาข้ึนมา

เด็กๆทุกวนั น้ี เขา้ อินเทอร์เน็ตเก่งมาก ไปทอ่ งโลกได้
เขา้ ไปในอินเทอร์เนต็ ไมม่ ีซกั ความรู้ ที่เป็นของเขา เขาเป็นแค่
คนไปเลียนแบบ เป็นนกั ก๊อปป้ี คิดไม่เป็น ไปหลงวา่ ตวั เองรู้
ตวั เองเกง่ นน่ั แหละความรู้ มนั เป็นอยา่ งน้นั มนั ไมใ่ ช่ปัญญา

คนจีนเคา้ พดู คาวา่ “เจียง ซาน อ้ี ก่าย เป่ิ น ซิ่ง หนาน อวี๋”
เป็นจีนกลาง เคา้ บอก แม่น้ามหาสมุทร กบั ภูเขา เปล่ียนง่าย
ระเบิดภูเขาไปถมกไ็ ด้ แตก่ ระบวนการอุปนิสยั หรือสนั ดาน
เขาใชค้ าวา่ เปลี่ยนยาก ไม่ไดแ้ ปลวา่ เปล่ียนไม่ได้ เปล่ียนยาก
แตเ่ ปลี่ยนได้ โดยเฉพาะถา้ เราบริโภคพุทธโอสถ ธรรมะโอสถ
ของพทุ ธเจา้ เราเปล่ียนได้

บางคนเบ่ือที่โน่น กห็ นีมาท่ีนี่ ทาไปทามา กเ็ บื่อที่นี่ ก็
หนีไปที่โน่น โดยโทษเพราะสถานท่ี มนั ไมด่ ีบา้ ง หลวงพอ่ ชา
ก็เคยเทศนเ์ ร่ืองน้ีนะ ธรรมะหมาข้ีเร้ือน พอมนั นอนอยทู่ ี่นี่ มนั

5

ก็เกาคนั คนั คนั บอกทนี่ ี่คนั ฉนั ยา้ ยไปที่อื่นดีกวา่ ไปท่ีอ่ืนมนั
ก็ไปคนั อีก ท่ีโน่นมนั กค็ นั ก็หนีไปท่ีอ่ืนอีก หนีไปตลอดชีวติ
อนั น้นั คือ ธรรมะหมาข้ีเร้ือน ไม่ไดแ้ ก้ เพราะสถานที่มนั ไม่ดี
ตอ้ งแกท้ ี่มนั คนั ไมใ่ ช่ร่างกายเรา มนั คนั นะ ไอใ้ จเรามนั คนั มนั
ตอ้ งแกต้ รงน้นั ไอต้ วั รู้สึก คือ ตวั จิต ตวั ใจเรา น่ีมนั ไม่เกี่ยวกบั
อะไรท้งั น้นั

นี่แหละ เรามาปฏิบตั ิธรรม เพอ่ื ใหเ้ ราเห็นตวั เอง ใหเ้ รา
เห็นความจริง ไมใ่ ช่ไปท่องจาเลียนแบบความรู้คนอื่น แลว้ ก็
ไปหลงวา่ ฉนั รู้ สร้างอตั ตาข้ึนมา ใช่ไหม จบด็อกเตอร์คุยกนั
ไม่รู้เร่ือง ทะเลาะกนั ท้งั บา้ นท้งั เมือง ยง่ิ เรียนยง่ิ โง่หรือเปล่า
ในขณะท่ีชาวนาสอนควายไถนาได้ เพราะมนั ไมต่ อ้ งใชภ้ าษา
มนั ไมต่ อ้ งใชค้ วามรู้ มนั จิตส่ือจิต ตรงไปตรงมา

แต่ตอนน้ีสังคมต้งั โจทยผ์ ิด เม่ืออาทิตยท์ ่ีแลว้ พอ่ ครูู
เห็นรถคนั นึง เขียนขา้ งหลงั รถวา่ “ความสาเร็จของลกู คือ
ความสุขของพอ่ แม่” อา้ ว มนั ใช่รึเปลา่ คนอนั ดบั หน่ึงของ
โลกยงั ไม่สาเร็จเลย ใครจะสาเร็จ สาเร็จ แปลวา่ เสร็จแลว้ ไมม่ ี
แมแ้ ต่หน่ึงคน มนั สาเร็จ มนั ไมเ่ สร็จ มนั ไมม่ ีวนั เสร็จ แลว้ พ่อ
แมก่ เ็ ลยไมม่ ีวนั สุข เพราะลูกมนั ยงั ไมส่ าเร็จ เราไมไ่ ดร้ ักลูก
เลย เรารักอนาคตลูก เรากลวั มนั ไม่ทุกขเ์ หมือนเรา ลกู สู้ตาย สู้

6

ตายนะ ตอ้ งชนะ ตอ้ งเก่ง อนาคตรวย แลว้ มนั ถึงจะสุข ลกู ก็
ตอ้ งทุกขต์ ลอดชีวติ เพอ่ื ไปสร้างอนาคต และอนาคตที่วา่ น้ี มนั
ไมม่ ีวนั สาเร็จ เพราะมนั ไม่มีวนั เสร็จ พอ่ แม่กเ็ ลยไมม่ ีวนั สุข

ถา้ เราเขา้ ใจชีวติ แลว้ เราเขียนใหมต่ ีกลบั มา “ความสุข
ของลกู คือความสาเร็จของพ่อแม่” พ่อแมค่ นไหนเล้ียงลกู ใหม้ ี
ความสุขได้ นน่ั ละ่ สาเร็จ พอ่ แม่สาเร็จ ทาหนา้ ที่อยา่ งสมบูรณ์
ลกู ก็สุขไดท้ กุ วนั ไม่ใช่ห่วงแตอ่ นาคตลกู แตไ่ ม่ห่วงชีวติ ลูก
ลกู มนั กเ็ ครียด เพอื่ จะใหม้ นั ตอ้ งเก่ง ตอ้ งชนะคนอื่น พอมนั แพ้
มา มนั ก็ทุกข์

ท้งั หมดคือเรา ไม่เขา้ ใจชีวิต เราไม่เอาชีวิต เราจะเอา
อนาคต พ่อครูไปทวั่ โลกมาแลว้ ไม่เห็นใครสาเร็จ คนที่สาเร็จ
จริงๆ แลว้ ก็สุขดว้ ย ใครเปลี่ยนสุขกไ็ ม่ได้ พระพทุ ธองคส์ าเร็จ
มาแลว้ สองพนั กวา่ ปี ไม่ตอ้ งเวียนวา่ ยตายเกิดอีก แลว้ อนั น้ี
สาเร็จจริงๆ ในทางโลกไมม่ ีวนั สาเร็จ อนาคตอยไู่ หน อยนู่ ู่น
ตายก่อนสาเร็จ เพราะมนั ไมม่ ีวนั เสร็จ

7

เราพ้นทกุ ข์ หรือยงั
พระสังกัจจายน์ คือ พระศรีอริยเมตไตรยหรือเปล่า

ถา้ รู้แลว้ พน้ ทุกขห์ รือเปล่า อยากรู้ถงึ อนาคตเลย ความรู้
ท่ีเราถาม คาวา่ พระสังกจั จายน์น่ีไปรู้จกั ยงั ไง ทาร์ซานมนั รู้จกั
คาวา่ สังกจั จายน์ไหม ความรู้น่ี เรารู้จากเราไปอ่าน แลว้ เคา้
บอกเรา มนั ไมใ่ ช่ความจริง ภาษาน่ีกไ็ มจ่ ริง แลว้ ภาษา คือ ส่ิงท่ี
มนุษยส์ ร้างข้ึน ธรรมะจริงๆ มนั ไม่มีภาษา ในตวั เรามีแตข่ ยะ
ความรู้พอรู้มาก ก็สงสยั เยอะ สงสัยวา่ งเกินไป

เขาบอกวา่ ยคุ น้ี อยา่ ปฏบิ ตั ิธรรม ปฏิบตั ิยา๊ กยาก ไมต่ อ้ ง
ปฏิบตั ิ ทาบุญเยอะๆ จะไดเ้ กิดในยคุ พระศรีอาริย์ เพราะยคุ
พระศรีอาริยป์ ฏิบตั ิงา่ ย เกิดแน่ๆยคุ พระศรีอาริย์ อาจจะเป็นกงุ้
หอย ปู ปลา หรืออาจเป็นเต่า กไ็ ดน้ ะ

น่ีแหละคือ ผลดั วนั ประกนั พรุ่ง กิเลสมนั มนั พดู ท้งั น้นั
มีพระพทุ ธเจา้ ตอ่ หนา้ ไม่เอา จะไปหวงั พ่ึงน้าบ่อหนา้ กเ็ ป็น
การทานายอยา่ งหน่ึงวา่ พระสงั กจั จายน์ จะไดเ้ กิด เป็นพระ
ศรีอารยเ์ รารู้แลว้ จะพน้ ทกุ ขไ์ หม สิ่งเหลา่ น้ีอยา่ ไปเสียเวลากบั
มนั เอาปัจจุบนั น้ี ถามวา่ เราพน้ ทกุ ขห์ รือยงั ถามบ่อยๆ เราพน้
ทกุ ขห์ รือยงั แลว้ กไ็ มต่ อ้ งทาไม ถามคนอืน่ ทาไปเรื่อยๆ
จนกวา่ มนั จะพน้ ทุกข์ ไดป้ ระโยชนก์ วา่

8

พุทธเจา้ เคยตรัสเตือนวา่ ความรู้ใด ท่ีไมเ่ กี่ยวกบั การพน้
ทุกข์ อยา่ ไปเสียเวลากบั มนั หน่ึงชาติ หน่ึงร้อยปี ของเรา มนั
แสนส้นั ไมร่ ู้วิง่ ทนั หรือเปล่า ยงั มีเวลา ไปชมดอกไมข้ า้ งทาง
อีกนะ คนยคุ น้ีสอนใหเ้ ป็นคนใฝ่ เรียนรู้ รู้มนั ทุกเร่ือง ที่เรา
มองเห็นรู้ทุกเรื่อง ท่ีเราไดย้ นิ เอาเวลาไปวิเคราะห์ วจิ ยั นะ
แทนท่ีจะเอาเวลา ไปเดินทางออกจากป่ าเร็วๆ

คนเราจริตไม่เหมือนกนั แต่ถา้ พ่อครู มีจริตยึดมน่ั ถือ
มน่ั ในจริตพ่อครู ทุกคนมาท่ีนี่ทาเหมือนกนั หมดนะ พ่อครู
แต่งชุดยงั ไง ก็แต่งเหมือนพ่อครู อันน้ันเรียกอุดมการณ์
อุดมการณ์มนั ไม่ใช่ธรรมะ มนั เป็ นลทั ธิอุดมการณ์ ท่ีนี่ไม่มี
ลทั ธิอุดมการณ์ ที่น่ีเรายึดคาสอนของพระพุทธเจา้ ถา้ คนเคา้
ติดรูปแบบ ลทั ธินิกาย เขาจะรับไม่ได้ พ่อครูก็บอกอย่าไป
รับสิ มนั หนัก ก็สักแต่ว่าเห็น ถา้ เกิดลทั ธินิกาย แลว้ ตอ้ งเป็ น
แบบน้นั ตอ้ งเป็นแบบน้ี เพราะฉนั รู้วา่ เขาบอกวา่ เป็นแบบน้นั
ที่น่ีไม่มี เป็นยคุ ร่วมสมยั

สตั วท์ ้งั หลายเป็นเพอ่ื นทกุ ข์ เกิด แก่ เจบ็ ตาย ดว้ ยกนั
ท้งั หมดท้งั สิ้น ไมแ่ ยกลทั ธินิกาย ไมต่ อ้ งไปทะเลาะกนั พอ่ ครู
ไม่เป็นส่วนหน่ึงของการทะเลาะกนั เพียงแตว่ า่ อารมณ์ของจิต
แตล่ ะดวง เราปลูกฝังอนุสัยมาไมเ่ หมือนกนั จริตไม่เหมือนกนั

9

พระพุทธเจา้ ถงึ ยกตวั อยา่ ง จริตท้งั ๖ โลภะ โทสะ โมหะ
ศรัทธา วิตกจริต แลว้ กพ็ ุทธจริต มนั ไม่เหมือนกนั

พระองคเ์ ห็นวาระจิต พระองคจ์ ึงใชเ้ ทคนิค ท่ีไม่
เหมือนกนั ในแตล่ ะคน ไม่ใช่ไปก๊อปป้ี เหมือนกนั หมด มาใหม่
ใช่ไหม มาใหม่รุ่นนอ้ งไปไปเรียนABC ฌาน๑ ฌาน๒ ฌาน๓
ฌาน๔ ทุกคนเป็นหุ่นยนตเ์ หมือนกนั หมด อนั น้นั ไมใ่ ช่ธรรมะ
อนั น้นั เป็นอตุ สาหกรรมธรรมะ เราไปเรียนแค่วชิ าเทคนิค ใน
การฝึกสมาธิสติเท่าน้นั เอง

การปฏิบตั ิธรรม ไมใ่ ช่การเจริญสติ ไมใ่ ช่การฝึกสมาธิ
อนั น้นั เป็นวชิ าฝึกสมาธิ ทาใหเ้ กิดสมาธิ วิชาฝึกสติ ทาใหเ้ กิด
สติ แตไ่ มใ่ ช่ปฏิบตั ิธรรม การปฏิบตั ิธรรมตอ้ งเจริญ มรรค ผล
นิพพาน ไม่ใช่ไปฝึกวชิ าใดใดท้งั น้นั แค่สติอยา่ งเดียว สมาธิ
อยา่ งเดียว ไม่มีกาลงั พอที่จะมุ่งสู่นิพพาน เราตอ้ งใชเ้ ครื่องมือ
ที่เรามีอยแู่ ลว้ เตม็ เปี่ ยม คือ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ เป็น
เคร่ืองมือในการเดินทาง นี่คือปฏิบตั ิธรรม

แตต่ อนน้ีไม่ปฏิบตั ิธรรม ไปฝึกแคว่ ิชา ทาใหเ้ กิดสมาธิ
วิชาเกิดสติ สมาธิ สติ เป็นเครื่องมืออยา่ งหน่ึงในมรรคมีองค๘์
มนั ไม่ใช่พระเอก แตต่ อนน้ีเราฉีกแนวไปฝึกสมาธิ เจริญสติ
มนั เขา้ ไปถึงปัญญานะ

10

มรรค ผล นิพพาน เป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนา คือ
ทาใหม้ นุษยเ์ รา เกิดปัญญา ไม่ใช่ไปจบแคส่ ติ เมื่อจิตมีปัญญา
แลว้ มนั กไ็ ม่โง่ ที่จะใหต้ วั เองทกุ ข์ มนั กไ็ มโ่ ง่ ท่ีจะไป
เบียดเบียนคนอื่น น่ีแหละ เราเรียนแตกแขนง มนั แยกเป็น
วชิ าๆ แลว้ เรื่องจิตวญิ ญาณ ก็ไปแยกแบบน้นั กาลงั มนั ไมถ่ ึง
ไปฝึกอนุสติสติเลก็ ๆ เพือ่ เอามาใชป้ ระจาวนั

เราข่ีจกั รยานน่ี ขากถ็ บี ไป มือก็จบั แฮนดไ์ ป ตากม็ อง
ขา้ งหนา้ สติสัมปชญั ญะ คือ รู้ตวั ทว่ั พร้อม เอามาใชใ้ น
ชีวิตประจาวนั แตม่ นั เป็นอนุสติสติเลก็ ๆ มนั ระลึกรู้ตวั ทวั่
พร้อม แตม่ นั ระลึกรู้อดีตชาติไมไ่ ด้ มนั ไมม่ ีกาลงั มนั ตอ้ งเป็น
มหาสติ เขา้ ไปสู่จิตในจิตใตส้ านึก ไปเอาบารมี ท่ีเราฝึกมา
หลายชาติ มาต่อยอด ไมใ่ ช่มาฝึกใหม่ มาใหมม่ าเรียนABC น่ี
ตายก่อน กระแสกรรมมนั ไล่บ้ีเรา

คาวา่ ปฏิบตั ิธรรม ไมใ่ ช่เจริญสติ ไมใ่ ช่ฝึกสมาธิ ตอ้ ง
เจริญมรรค ผล นิพพาน แตก่ ารเจริญมรรค ตอ้ งใชส้ ติ ใชส้ มาธิ
ตอ้ งใชเ้ ครื่องมือท้งั หมดเลย ๓๗ ประการ คือ โพธิปักขิยธรรม
๓๗ ประการ นี่คือการปฏิบตั ิธรรม

อนั ดบั แรกเราตอ้ งใชส้ ติปัฏฐานท้งั ๔ กาย เวทนา จิต
ธรรม ซ่ึงเทวดาทาไมไ่ ด้ เทวดาไมม่ ีกาย เทวดาตอ้ งรับกรรมดี

11

ตรงน้นั ไปหลงกรรมดี ตอ้ งเสพกรรมดีตรงน้นั เทวดาเสพ
กรรมดีทุกวนั ทกุ ขม์ ากเลย พอเสพ เสพ มนั ก็เบ่ือ พอกรรมดี
หมด ก็เกิดมาอยใู่ นร่างลูกเศรษฐี วนั แรกกอ็ อกมา แหกปาก
ร้องอีก เป็นเทวดาร้องไหท้ าไม อยากไปสวรรคก์ ็ไดไ้ ปแลว้
สวรรคส์ มบตั ิ มนุษยส์ มบตั ิ นรกสมบตั ิ ยงั อยใู่ นวฏั สงสาร มนั
ไม่ใช่ทางพน้ ทุกข์

อนั น้ีตอ้ งเขา้ ใจ การปฏิบตั ิธรรมไม่ไดอ้ ยแู่ คส่ ติ สมาธิ
เราตอ้ งใช้ สติปัฏฐานท้งั ๔ คือกาย เวทนา จิต ธรรม แลว้ กใ็ ช้
หลกั อิทธิบาท๔ ฉนั ทะ วิริยะ จิตตะ วมิ งั สา มีความพงึ พอใจ
กบั สิ่งท่ีเราทา มีความมุ่งมน่ั ต้งั มน่ั ไมว่ อกแวก เมื่อเราต้งั มนั่
ไมว่ อกแวก ก็เกิดประสบการณ์ แลว้ ก็ทาใหม้ นั เกิด ปัญญา คือ
วิมงั สา ยงั ไมพ่ อนะ

ตอ้ งใช้เครื่องมืออีกอย่างเตือนสติ คือ สัมมปั ปธาน๔
ต้องสารวมระวงั ไม่ให้อกุศลใหม่มันเกิดข้ึน อันน้ีผูไ้ ม่
ประมาทน ตอ้ งเพียรละอกุศล ที่มนั มีอยู่แลว้ ให้มนั หมดไป
แลว้ ก็เพียรสร้างกุศลใหม่ ให้มนั เกิดข้ึน เติมน้ามนั ให้ตวั เอง
บอ่ ยๆ เรียกวา่ สัมมปั ปธาน๔

อิทธิบาท๔ สัมมปั ปธาน๔ สติปัฏฐาน๔ สี่คูณสาม
เทา่ กบั สิบสอง ไมพ่ อ ตอ้ งใช้ อินทรีย๕์ พละ๕ ศรัทธา วริ ิยะ

12

สติ สมาธิ ปัญญา ที่เรามีอยแู่ ลว้ ตอ้ งใชม้ นั ยงิ่ ใช้ กย็ งิ่ ชานาญ
เหมือนเราออกกาลงั กาย วงิ่ ทกุ วนั มนั กเ็ กิดความแขง็ แรง
ความแขง็ แรงน้ี เรียกวา่ พละ๕ คือ กาลงั ของอินทรียม์ นั มาก
ข้ึน อินทรีย๕์ พละ๕ เป็นสิบ บวกไปสิบสอง เป็นยสี่ ิบสอง
พอมยั๊ ไมพ่ อ

ตอ้ งใช้ โพชฌงค๗์ ทีน้ี ถา้ เราไม่เขา้ ไปในจิตในจิตแลว้
เราไม่มีวนั เสพโพชฌงคไ์ ด้ โพชฌงค๗์ เป็นบารมีเก่า ท่ีจิตเรา
ฝึกมาแลว้ ตอ้ งเขา้ ไปในจิตใตส้ านึกเรา ทีน้ีเขา้ ไปตอ้ งอาศยั
ขบวนการ มหาสติปัฏฐาน คือ กายในกาย เวทนาในเวทนา
ตอ้ งเขา้ ไปในจิตในจิต ถึงจะเสพธรรมในธรรม ธรรมารมณ์
ในน้นั ส่วนหน่ึงเป็นกรรมดี ส่วนหน่ึงเป็นกรรมชว่ั ส่วนหน่ึง
เป็ นบารมี

โพชฌงค๗์ บวกกบั ยสี่ ิบสอง เป็นยส่ี ิบเกา้ พอมย๊ั ไม่พอ
ตอ้ งบวกกบั มรรคมีองค๘์ ดว้ ยกลายเป็น ๓๗ ประการ นี่
เรียกวา่ การปฏิบตั ิธรรม ไม่ใช่ไปฝึกแค่ สติ สมาธิ เราด่าคน
ถา้ ไม่มีสติ เรากใ็ ชภ้ าษาผดิ ตอ้ งมีสติ โจรผรู้ ้ายถา้ มนั ไมม่ ีสติ
มนั ไม่มีสมาธิ มนั กป็ ลน้ ไม่สาเร็จ มนั ตอ้ งใชส้ ติ สมาธิ
มากกวา่ พวกเราอีก แต่มนั ไมม่ ีศีล มนั ไม่มีปัญญา จึงใชส้ ติ
สมาธิ น้ีไปเบียดเบียน

13

ที่พูดอยา่ งน้ีน่ี เพือ่ จะเนน้ วา่ สติ ไม่ใช่พระเอก แต่
สังคมไทยเรานี่ มีสตินะ เราไม่เขา้ ใจ วา่ มีสตแิ ลว้ กจ็ บ มีสติ
ท้งั น้นั แหละ ไมม่ ีสติก็เดินมา กล็ ม้ ไง เราไมม่ ปี ัญญา เราจึงใช้
สติตวั น้นั ไปทาอะไรโง่ๆ กส็ ติไม่ใช่พระเอก

หลงป่ า ตอ้ งรีบเดินทางออกจากป่ าใหเ้ ร็วที่สุด เดินทาง
ตอ้ งใชส้ ติ ถา้ ไมม่ ีสติ กเ็ ดินชนตน้ ไมแ้ ลว้ ตอ้ งมีสมาธิต้งั มน่ั
ตอ้ งใชเ้ ครื่องมือ ๓๗ ประการ เดินทางอยา่ งเดียว ใหม้ นั ออก
จากป่ าไวๆ มวั แตไ่ ปฝึกวชิ านู่น วชิ านี่ ไฟไหมป้ ่ าก็ตาย เราตาย
ในป่ าวฏั สงสาร มาหลายรอบแลว้ นะ เสือมามนั กก็ ินเรา ยงั ไม่
รีบเดินอีก

เราไม่ไดเ้ กิดมาเรียนเก่งๆ หาเงินเยอะๆ แลว้ รวย จะมี
ความสุข อนั น้นั อายลิงนะ ลิงไม่ตอ้ งเรียนหนงั สือ ไม่ตอ้ ง
ทางาน ไม่ตอ้ งมีเจา้ หน้ีลกู หน้ี มนั ตีลงั กาไดเ้ ห็นไหม มนั เบา
มากเลย เราเป็นมนุษยผ์ ปู้ ระเสริฐ ทาไมเราตอ้ งทุกขก์ วา่ ลิง เรา
เป็นสัตวป์ ระเสริฐ เราตอ้ งมีอะไรเหนือกวา่ ลิงหน่อยนึง อนั น้ี
ไปทาอะไรไม่รู้ ตวั เองเครียดไม่พอ กลวั ลกู ที่เราแสนรักนี่ กลวั
มนั ไมเ่ ครียดเหมือนเรา กลวั มนั ไม่ทุกขเ์ หมือนเรา สูต้ ายนะลูก
สู้ตายนะลกู มนั ก็ตายจริงๆ สูจ้ นวนั ตาย

14

คนรักลกู ตอ้ งสอนให้ มนั สูเ้ ป็น ไม่ใช่สูเ้ พอ่ื สร้างวตั ถุ
ภายนอก วนั ท่ีจะตายแลว้ สลึงนึงก็เอาไปไมไ่ ด้ อนั น้นั สู้ตาย
สู้ใหม้ นั เป็น สู้อะไร ชีวิตตอ้ งสู้นะ แต่ไม่ใช่สู้เพื่อสร้างอนาคต
สู้กบั กิเลส ตณั หา อปุ าทานเรา ตวั น้ีเป็นทางพน้ ทุกข์

ไม่ใช่เกิดมาเรียนเก่งๆ หาเงินเยอะๆ เห็นไหมคนที่หน่ึง
ของโลกกย็ งั ทกุ ขอ์ ยู่ เขาไม่ไดเ้ ดือดร้อนเร่ืองเงิน เพราะเงินเคา้
เตม็ บา้ น ฟังดีๆนะ เขาไมไ่ ดเ้ ดือดร้อนเร่ืองเงินเลย แตเ่ งินทาให้
เขาเดือดร้อน เขายงั วดั วา่ ใครเงินมากกวา่ คนน้นั ที่หน่ึง มนั
กลวั เป็นท่ีสอง มนั ก็นอนไม่หลบั แลว้ เราเม่ือไหร่เราจะสาเร็จ
ไมม่ ีวนั เสร็จ สาเร็จ แปลวา่ เสร็จแลว้ ทุกอยา่ ง

นนั่ แหละจบปริญญาตรี โท เอก เก่งมากนะ ไปเอา
เปรียบคนอื่นเขา แลว้ กร็ วยจริงๆ อนั น้ีเป็นแค่ความรู้ เราเป็น
แคน่ กั เลียนแบบคนอื่นเทา่ น้นั เอง เราไมใ่ ช่รู้จริง ถา้ รู้จริง กไ็ ม่
มีความอยากรู้ ถา้ คนรู้จริง เคา้ ไมถ่ ามทาไมหรอก เพราะเรา
รู้อยแู่ ลว้ วา่ ทกุ อยา่ งเป็น อนิจจงั ทุกขงั อนตั ตา มนั ไม่เท่ียง มนั
ดารงอยไู่ ดย้ าก เพราะมนั ไม่ใช่ตวั ตนท่ีแน่นอน มนั เกิดข้ึน
ต้งั อยู่ สลาย

มีอะไรตอ้ งรู้หรือ พจิ ารณาเรื่องน้ีเสร็จ รู้ท่ีมาท่ีไปของ
มนั แลว้ สุดทา้ ยก็เป็นอนตั ตา อา้ วพิจารณาเร่ืองน้ีเสร็จ ไปวจิ ยั

15

นู่นน่ี มนั ก็เป็นอนตั ตาอีก ถามวา่ อยากรู้อะไรหรือ ถา้ คนเคา้ รู้
จริง เขาไมม่ ีความอยากรู้ เพราะเรารู้อยแู่ ลว้ วา่ อะไรก็ไม่ใช่
อนั น้ีเรียกวา่ คนรู้มากขยะเยอะ ขอ้ มลู เยอะ แตไ่ มร่ ู้จริง

หลวงพอ่ ชา ทา่ นเตือนตลอด สมยั เด็กๆ พอ่ ครูไม่มี
โอกาสปฏิบตั ิหรอก แต่เราเป็นคนอุบล เราไปกราบทา่ นอยู่
เรื่อยๆ ก็ไดย้ นิ บา้ ง ไมไ่ ดย้ นิ บา้ ง เขา้ ใจบา้ ง ไม่เขา้ ใจบา้ งนนั่
แหละ ทา่ นเนน้ บ่อยๆ วา่ อยา่ เช่ือความรู้สึกนึกคิดของตวั เอง
ตวั เองยงั ไมเ่ ช่ือ อยา่ ไปเชื่อความรู้คนอน่ื ดว้ ย

เหมือนเรานงั่ เห็นๆ นิมิตจริงๆ เห็นโน่น เห็นนี่ เห็น
พระพทุ ธเจา้ ลอยมา ปิ ติมาก ไมก่ ลา้ เหวยี่ งพระพุทธเจา้ ทิง้ เร่ือง
อะไร พอ่ ครูบอกวา่ ผใู้ ดเห็นธรรม ผนู้ ้นั เห็นเราตถาคต แสดง
วา่ เราเห็นธรรมแลว้ เราเห็นตถาคตแลว้ พอออกกรรมฐาน ถาม
วา่ พระพทุ ธเจา้ เป็นอยา่ งไร นน่ั เป็นเหมอื นพระพุทธรูปเลย เรา
เห็นจริง แตส่ ่ิงที่เราเห็น มนั ไม่จริงมนั เป็นอุปทานของจิตที่
สร้างข้ึนมา เพอ่ื สอบจิตปัจจุบนั วา่ รู้เทา่ ทนั ไหม

เห็นไหม อยา่ เช่ือความรู้สึกนึกคิด พ่อครูถงึ บอกวา่
รู้เฉยๆนะ รู้แลว้ กเ็ หวยี่ งทิง้ รู้แลว้ ก็เหวี่ยงทงิ้ ถา้ รู้สึกเม่ือไหร่
มนั จะดึงใหเ้ ราไปหลงมนั ถา้ รู้สึกป๊ บุ น่ีชา้ เกินไปแลว้ เวทนา
มนั เกิดแลว้ อนั น้ีจิตเรามนั แฝง ดว้ ยความอยากรู้อยแู่ ลว้ เร่ือง

16

อะไรจะเหวีย่ งทิง้ กวา่ จะเจออยา่ งน้ีนี่ ก็ไปดึงมารู้สึก กม็ าคดิ
อีกแลว้ เอะ๊ มนั คือ อะไร ทาไม ที่ไหน เม่ือไหร่ อะไร แลว้
ยงั ไง มนั เสียเวลา รู้เฉยๆ ครูบาอาจารยบ์ อก อยา่ เช่ือความรู้สึก
ความนึก ความคิด มนั เป็นสิ่งปรุงแตง่ มนั ไม่ใช่ความจริง มนั
เป็นอปุ าทานของจิต

17

รู้แจ้ง เห็นจริง
การท่ีจะรู้จักตัวเอง ต้องทาอย่างไร

ถามมา ก็ตอบไปนะ แต่ฟังหู ไวห้ ู อย่าเพิ่งเชื่อคนท่ีพูด
น่ี เป็นครูบาอาจารยเ์ รา อยา่ เพง่ิ เชื่อตารา อยา่ เพิ่งเช่ือคาเลา่ ขาน
ฟังหูไวห้ ู กัลยาณมิตรเป็ นท่ีสุดแห่งพรหมจรรย์ อันน้ีส่วน
หน่ึง กลั ยาณมิตรท่ีอยรู่ อบขา้ งเรา เป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์
กลั ยาณมิตรเหมือนกระจกเงา ทาให้เราเห็นตวั เอง เห็นรูป
หยาบๆ เห็นอุปนิสัยหยาบๆ

ถา้ เป็นกลั ยาณมิตรของเราจริง กลั ยาณมิตร คือ มิตรแท้
มิตรที่ดี เขาซ่ือสัตยต์ ่อเราจริง เขาจะบอกความจริงวา่ เราเป็น
อยา่ งไร นิสัยเราเป็ นอยา่ งไร ส่ิงที่เราทานี่ มนั ควรไม่ควร แต่
ถา้ เป็นมิตรเทียม เขาจะหลอกเรา เราไม่ไดท้ าอะไรดี มนั บอก
เธอดีๆ เพราะมนั อยากไดข้ องเรา เราจะไม่เห็นความจริง นนั่
แหละ ท่ีเราอยดู่ ว้ ยกนั น่ี กลั ยาณมิตรเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์

บางทีกระจกเงา เราไปมอง เราก็เห็นเฉพาะขา้ งหนา้ เรา
ไม่เห็นขา้ งหลงั นะ กระจกเงายงั สูก้ ลั ยาณมิตรไมไ่ ดเ้ ลย เขา
เห็นขา้ งหลงั เราดว้ ย พออยดู่ ว้ ยกนั กระทบกระทง่ั กนั บา้ ง พอ
เขาชนเรา เราโกรธ ตอ้ งขอบคุณเขานะ ท่ีเขาทาให้ เราเห็นวา่
เราโกรธ ไมใ่ ช่ไปโทษเขา ตอ้ งเอาธูปเทียนดอกไม้ ไปขอบคุณ

18

เคา้ วา่ เธอทาใหฉ้ นั เห็น ฉนั โกรธ น่ีแหละเป็นท่ีสุดแห่ง
พรหมจรรย์

เราหนีไปในป่ าปฏิบตั ิคนเดียวไดไ้ หม ได้ ตารวจไมจ่ บั
คือ อยากกา้ วหนา้ ตอ้ งถอยหลงั ถอยเขา้ ไปในจิตเรา เรา
ตอ้ งการรู้นี่ นกั วทิ ยาศาสตร์ตอ้ งการรู้วา่ สิ่งน้ีประกอบดว้ ย
อะไร เรากไ็ ปหลอมละลาย ไปหาท่ีมาส่วนผสม เราอยากรู้วา่
เราเป็นใคร เราตอ้ งเขา้ ไปในจิต เขา้ ไปในเวบ็ ไซตข์ องเรา ไปดู
วา่ เราเป็นใครกนั แน่ เกิดมาทาไม โตมา เขาเรียกเรา ช่ือบญั ชา
บญั ชาเนี่ย เราเป็นบญั ชาจริงไหม เห็นไหม ตอนน้ีเราหลงวา่
เราเป็นบญั ชา บญั ชาน้ีไม่ใช่ของจริง มนั เป็นชื่อสมมตุ ิ

ร่างกายน้ีกไ็ มจ่ ริง มนั ประกอบดว้ ย ดิน น้า ลม ไฟ หรือ
ใครไม่เชื่อพอ่ ครู จะพสิ ูจน์เอาไหมเด๋ียวจะจบั ไปเผา เผาแลว้ ก็
กลายเป็นอากาศธาตุ ที่เหลือ ก็กลายเป็นธาตุดิน ตวั เรามนั
หายไปไหน ตวั เราจริงหรือ จริงแลว้ มนั หายไปไหน ตวั เราก็
ไม่ใช่ของจริง มนั ประกอบดว้ ย ดิน น้า ลม ไฟ มนั เป็นส่ิง
สมมตุ ิชว่ั คราว แลว้ เราคือใครจริงๆ

อยากกา้ วหนา้ ตอ้ งถอยหลงั พระพุทธเจา้ ตรัสรู้วชิ าแรก
คือ บพุ เพนิวาสานุสติญาณ ญาณรู้วา่ ดว้ ยการระลึกชาติ สมยั
เป็นพระเวสสันดร เป็นอะไรอะไรนี่ ไมใ่ ช่เร่ืองเหลวไหล

19

ไม่ใช่เร่ืองไสยศาสตร์ ไมใ่ ช่เร่ืองวิเศษวิโส มนั เป็นความจริง
ซ่ึงทุกคนทาได้ เราก็เขา้ ไป ถอยไปดู เรามาจากไหน ทาไมตอ้ ง
เกิดมา อยใู่ นร่างสตรี อยใู่ นร่างบรุ ุษ ทาไมตอ้ งเกิดอยใู่ นร่าง
เสือ หมู หมา แมว อนั น้ี สัตวเ์ ดรัจฉานมนั ทาไม่ได้ เทวดากท็ า
ไม่ได้ เราเป็นสัตวป์ ระเสริฐชนิดเดียวเท่าน้นั ที่ทาได้ ท่ีเรา
ประเสริฐกวา่ สัตวเ์ ดรัจฉาน มีอยา่ งเดียวเทา่ น้นั คือ เราเจริญ
มรรคจิตได้ นน่ั แหละ อยากกา้ วหนา้ ตอ้ งถอยหลงั

นี่คือ อยากรู้วา่ ตวั เองเป็นใคร ขา้ งนอกก็ตอ้ งพ่งึ พา
กลั ยาณมิตร เขาจะช้ีใหเ้ ราเห็นวา่ เราเป็นอยา่ งไร แตถ่ า้
กลั ยาณมิตรน้นั ไมม่ ีญาณรู้ เคา้ ก็ไม่เห็นขา้ งในเรา ตอนน้ีมีแต่
ญาณ หมอดู หมอเดา ไม่รู้วา่ ตวั เองเป็นใคร ก็ไปหาหมอดู ช่วย
กรุณาบอกฉนั หน่อยวา่ ฉนั เป็นใคร ทาไมโงข่ นาดน้ีตวั เองยงั
ไมร่ ู้วา่ เป็นใคร ตอ้ งไปใหค้ นอื่น มาบอกใหร้ ู้วา่ เราเป็นใคร มนั
ตอ้ งจิตที่เคา้ บรรลุธรรมแลว้

พระพุทธเจา้ รู้วาระจิต รู้ท่ีมาท่ีไป แตค่ นรู้จริงๆ เขาไม่
พูดพร่าเพร่ือหรอกนะ น่ีกลายเป็นธุรกิจไปเลย เราไม่เคยรู้วา่
ตวั เองเป็นใคร ไปถามเคา้ วา่ ช่วยบอกวา่ ฉนั เป็นใครนะ ความ
อยากรู้ของเรา วิธีอยากรู้วา่ เรา เป็นใครน่ี กค็ ือวา่ เราตอ้ งเขา้ ไป
ขา้ งใน โดยใชห้ ลกั การของการปฏิบตั ิมรรคจิต หรือ วิปัสสนา

20

ทีน้ีอยากเห็นขา้ งใน น่ีอนั ดบั แรก ตอ้ งหลบั ตา ลืมตาเรา
จะไม่เห็น ชีวติ เราหลบั ตาป๊ ุบ เหมือนคนตาบอด นอนหลบั ไม่
รู้เรื่อง พอลืมตาป๊ ุบ ตื่นเชา้ ข้ึนมา กเ็ ห็นแปรงสีฟัน ยาสีฟัน เห็น
เส้ือผา้ พอ่ แม่ พ่ีนอ้ ง เห็นสามีภรรยา เห็นบา้ นเห็นช่อง เห็นการ
เห็นงาน เห็นเงิน เห็นทอง กไ็ ม่เคยเห็นตวั เองเลย

ถา้ อยากจะเห็นตวั เอง อนั ดบั แรก ตอ้ งหลบั ตาก่อน
แลว้ ก็ใชพ้ ลงั ทกุ อยา่ ง ที่เรามีอยนู่ ี่ ปลดปลอ่ ยจิตเรา เขา้ ไปสู่
ขา้ งใน นน่ั แหละ เราจะรู้ท่ีมาที่ไปของเรา ทาไมคนน้ีเกิดมา
เป็นลกู เศรษฐี ทาไมคนน้ีเกิดมาพ่อเป็นหน้ีสิน ทาไมไอคิวสูง
ทาไมไอคิวต่า วทิ ยาศาสตร์โปรดตอบหน่อย ไม่มีทางรู้ เพราะ
ไมม่ ีเทคโนโลยอี ะไร ที่มาเรียนรู้เรื่องพวกน้ี

พระพุทธเจา้ รู้สิ่งน้ีมาต้งั นานแลว้ วิธีท่ีจะรู้ตวั เอง ก็คือ
อยู่ร่วมกบั กลั ยาณมิตร กลั ยาณมิตร มิตรที่แทแ้ ท้ นี่เขาจะไม่
โกหกเรา เขาจะกลา้ พูดความจริงวา่ เธอเป็นอยา่ งน้นั เธอเป็ น
อย่างน้ี แลว้ อนั น้ีก็รู้หยาบๆ ขา้ งนอก แต่เราเองตอ้ ง เขา้ ไป
ขา้ งใน ไปรู้ที่มาที่ไปของเรา วา่ ทาไมเราตอ้ งเกิดอยใู่ นร่างน้ี นี่
คือ ศาสตร์แรกท่ีพระพุทธเจา้ ตรัสรู้ บุพเพนิวาสานุสติญาณ
ญาณรู้วา่ ดว้ ย การระลึกชาติ

21

แลว้ กว็ ชิ าท่ีสอง ท่ีพระพุทธเจา้ ตรัสรู้ ทาไมเกิดมา
สมบูรณ์ ไมส่ มบรู ณ์ ทาไมเป็นอยา่ งน้ี ทีพ่ ระองคร์ ะลึกชาติ
พระองคไ์ ปเห็น พระองคเ์ ป็นหลายๆร้อยชาติ ประสบการณ์
น้นั ทาใหพ้ ระองคเ์ ห็นวา่ เราเกิดเนื่องดว้ ยกรรม ที่เราสร้างมา
วชิ าท่ีสองคือ จุตปู ปาตญาณ ญาณรู้วา่ ดว้ ยการเกิดเพราะกรรม
ตายเพราะกรรม ไมใ่ ช่พระเจา้ ที่ไหน ไม่ใช่ยมบาลท่ีไหน
กาหนดชีวติ เรา กรรมเป็นตวั กาหนด สตั วโ์ ลกตอ้ งเป็นไปตาม
กรรม เรามีกรรมเป็นทายาท เรามีกรรมเป็นเผา่ พนั ธุ์ ไม่มีแมแ้ ต่
หน่ึงอยา่ ง ไมเ่ ก่ียวกบั กรรม น่ีคือวชิ าท่ีสอง

ทีน้ีพระพทุ ธเจา้ ไปตรสั รู้วา่ เราหลงไปสร้างกรรมต้งั
หลายร้อย หลายพนั ชาติ แลว้ จะมาใชช้ าติเดียว แลว้ มนั จะไหว
หรือ หน่ึงชีวิตต่อหน่ึงชีวติ นะ เราฆ่าคนพนั คน ตอ้ งอีกพนั ชาติ
ถา้ คนต่อคน ถา้ สัตวเ์ ลก็ ๆ น่ีกเ็ จบ็ ปวดนิดๆหน่อยๆ รู้ได้
อยา่ งไร นกั วทิ ยาศาสตร์บอกวา่ ไมเ่ ชื่อ พิสูจนไ์ ดย้ งั ไง
พระพุทธเจา้ บอก ทา่ นจงมาดูเถิด พร้อมท่ีจะพสิ ูจน์ ทา้ ทาย
ดว้ ย ปฏิบตั ิเถิด ผใู้ ดเห็นธรรม ผนู้ ้นั เห็นเรา ตถาคต แตต่ อนน้ี
เราปฏิบตั ิธรรมไหม ไม่ เราแคฝ่ ึกวิชาสติ วชิ าสมาธิเท่าน้นั
แลว้ มนั จะเขา้ ไปขา้ งในไดอ้ ยา่ งไร มนั ตอ้ งเจริญมรรคจิต มนั ก็
เกิดผล ผลสูงสุด กค็ ือ นิพพาน

22

คิดดี ไม่ได้แปลว่า คิดบวก
ท่ีพ่อครูไม่เห็นด้วยกับการคิดบวก แล้วทาไมพระพุทธเจ้าตรัส
ถึงลกั ษณะของบณั ฑิตไว้ว่า ดกู ่อนภิกษทุ ้ังหลาย บณั ฑิตใน
โลกนยี้ ่อมเป็นผ้คู ิดแต่เร่ืองดี พดู แต่คาพดู ที่ดแี ละทาแต่กรรมดี

พระพทุ ธเจา้ ไม่ไดต้ รัสอะไรผิดนะ กถ็ ูกแลว้ อยากเป็น
บณั ฑิตก็ตอ้ งพดู ดี คิดดี ทาดีสิ เป็นแคบ่ ณั ฑิต แตไ่ ม่ใช่เป็นคน
พน้ ทุกข์ คิด ก็คือ สร้างมโนกรรมแลว้ มนั จะดีไดอ้ ยา่ งไร เห็น
ไหม เขาบอกการปฏบิ ตั ิธรรม อนั ดบั แรก ตอ้ งเลิกคิดก่อน
โดยเฉพาะการเจริญวิปัสสนา ถา้ ยงั คิดอยู่ ยงั พูดอยู่ ยงั กระทา
อยู่ วิปัสสนามนั จะไมเ่ กิดข้ึน

ถา้ นงั่ ไปดว้ ย คิดไปดว้ ย มนั เป็นวปิ ัสสนึก มนั นึกเอา
เราตอ้ งหยดุ คิด เพราะคนคิดเป็น คือคนไม่คิด มิใช่คนคิดเก่ง
คนคิดเก่ง ยงิ่ คิด กย็ งิ่ ทกุ ข์ เรียกวา่ คนคิดไม่เป็น คนคิดเป็น ถา้
จาเป็นตอ้ งคิด คิดแต่เร่ืองเป็นกุศล เป็นประโยชน์ต่อตวั เอง
และผอู้ ื่น แต่ถา้ เกิดวา่ จิตมีปัญญาสูงสุดแลว้ ไม่ตอ้ งคิด คิดดีก็
กรรมดี คิดชวั่ ก็กรรมชว่ั ถา้ ไม่คิด ไมต่ อ้ งมีกรรมนะ

ถึงวา่ อยา่ เขา้ ใจผดิ ท่พี ระพทุ ธเจา้ ตรัส กบั คนทว่ั ไป
เพื่อใหเ้ ขาเป็นบณั ฑิตกต็ อ้ งพดู อยา่ งน้ี แตถ่ า้ ตรัส เพ่อื ใหเ้ ขา
พน้ ทุกข์ พระพทุ ธเจา้ กใ็ ชภ้ าษาอืน่ คุณตอ้ งเลิกคิด อนั น้ีก็

23

ไปอา้ งพระพทุ ธเจา้ พดู อยา่ งน้นั อยา่ งน้ี ทกุ คนก็ไปทาตาม
หมดอยา่ งน้ีนะ เถียงกนั ทะเลาะกนั ท้งั บา้ นท้งั เมือง

สิ่งที่พระพุทธเจา้ เตือนพทุ ธศาสนิกชน แมก้ ระทง่ั
พระพุทธเจา้ จากไปแลว้ สิ่งที่เราตอ้ งทาเหมอื นกนั หมด คือ
โอวาทปาติโมกข์ คือ ทาดี ละชวั่ ขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส ไมใ่ ช่
ไปลงในขอ้ ปลีกยอ่ ย พระพุทธเจา้ วา่ อยา่ งน้นั พระพทุ ธเจา้ วา่
อยา่ งน้ี กพ็ ระพุทธเจา้ สอนใหเ้ ป็นบณั ฑิต ก็ตอ้ งวา่ อยา่ งน้ีสิ

คาตอบก็คือวา่ คิดดี ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ คิดบวก คดิ ดี คือ คิด
แตเ่ รื่องที่เป็นกุศล ที่เป็นประโยชน์ตอ่ ตวั เอง และผอู้ ื่น ไมใ่ ช่
คิดบวก เพอ่ื สนองตณั หา เพ่อื ท่ีจะไดร้ ับ ในสิ่งท่ีตวั เองตอ้ งการ
อนั น้นั มนั เป็นมโนกรรม หรือใครปฏิเสธวา่ คิดบวกเพราะ
ตวั เองไม่อยากได้ อยากชนะ อยากท้งั น้นั แหละ พระพุทธเจา้
บอกวา่ ตณั หา คือ ที่มาของทกุ ข์ แลว้ สนองตณั หาแลว้ มนั จะดี
ไดอ้ ยา่ งไร

คนคิดดี ไมใ่ ช่คนคิดเก่ง คนคิดเกง่ ยง่ิ คิด กย็ งิ่ ทุกข์
เรียกวา่ คนคิดไมเ่ ป็น คิดดี พูดดี ทาดี เป็นบณั ฑิต ถือวา่ เป็น
คนดี แตย่ งั ไม่ไดเ้ ป็นคนพน้ ทกุ ข์ อยากเป็นคนดี กค็ ิดดี พดู ดี
ทาดีนะ แตถ่ า้ อยากพน้ ทกุ ข์ ตอ้ งเลิกคิด ไม่ใช่ทาดี ทาเพราะทา

24

ไมม่ ีดี ไม่มีชว่ั ถา้ มีดีป๊ บุ มนั เป็นของคู่ มนั จะมีความชว่ั ทา
เพราะทา ไมต่ อ้ งคิด

การปฏิบตั ิธรรมเพ่ือพน้ ทกุ ข์ ตอ้ งเร่ิมจาก การหยดุ คิด
หยดุ พดู หยดุ กระทาท้งั ปวง วิปัสสนาจึงจะเกิดข้ึนได้ เห็นไหม
เราจากบณั ฑิตเป็นคนดี เรากจ็ ะมงุ่ สู่ความ เป็นคนพน้ ทกุ ข์
อนั ดบั แรกตอ้ งหยดุ คิด เหมือนเราปฏิบตั ินะ ตอ้ งหยดุ คิด หยดุ
พูด หยดุ การกระทาตา่ งๆ เหมือนน้ามนั น่ิง เมื่อมนั นิ่งเฉยๆ ฝ่ นุ
ละอองเมด็ นิดนึงร่วงลงมา มนั กส็ มั ผสั ได้ ใบไมร้ ่วงลงมา ก็
สมั ผสั ได้ วปิ ัสสนาเกิดข้ึนแลว้ คือไมต่ อ้ งทาอะไร แค่อยเู่ ฉยๆ
นน่ั แหละ ปัญญามนั จะเกิด

การพดู ดี พูดแตเ่ รื่องเป็นกุศล เป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง
และผอู้ ่ืน การใหธ้ รรมทานนนั่ แหละ ทีน้ีมนั มีคาหน่ึงวา่ เช้ือ
โรคเขา้ ทางปาก ออกทางปาก เขา้ ทางปาก คือ ถา้ เรากินอาหาร
บริโภคอะไรไม่ระวงั กินเช้ือโรคเขา้ ไปแลว้ มนั จะเกิดโรคภยั
ไขเ้ จบ็

ทีน้ีมนั ออกทางปากคืออะไร การสร้างวจีกรรม พูดดี
เป็นศรีแก่ตวั พดู ร้ายเขากเ็ กลียดเรา เรากส็ ร้างศตั รู นน่ั แหละ
มนั ออกทางปาก พดู เหมือนกนั แต่ไมเ่ หมอื นกนั อนั หน่ึงพูด
เป็นเร่ืองกุศลกบั ตวั เองและผอู้ ื่น ไม่มีการเบียดเบียนเกิดข้ึน อีก

25

อนั หน่ึงพดู ไปวา่ เขา ไปด่าเขา เขากเ็ กลียด เขากจ็ ะทาร้าย นี่
แหละ เช้ือโรคออกทางปาก

แตก่ ารทาดีที่สุด คือ หยดุ การกระทาท้งั ปวง ทาดี ท่ีดี
ท่ีสุด คืออะไร คือ การเจริญวปิ ัสสนา ถา้ ยงั มีการกระทาโดย
เจตนาการ คิดการอะไรอยู่ วิปัสสนาจะไมเ่ กิดข้ึน นี่คือการทาดี
ท้งั หมด คือหยดุ สร้างกรรมท้งั ปวง แลว้ เราจะเกิดปัญญา คือ
บางทีเรารู้ รู้มนั ก็รู้อีกระดบั หน่ึง

เหมือนพอ่ ครูเคยถามแตล่ ะคนเดก็ ๆ นาฬิกาเลขสูงมนั
อยตู่ วั ไหน ทกุ คนตอบเลข 12 นกั วชิ าการโน่น มุ่งมน่ั สูงสุดจะ
ไปเลข 12 พ่อครูถามวา่ จากเลข 6 ไปถึงเลข 12 น่ีก่ีนาที ตอบ
วา่ 30 นาที จากเลข 6 ไปถึงเลข 6 มนั กี่นาที ตอบวา่ 60 นาที ตวั
ไหนมากกวา่ กนั สูงสุดคืนสู่สามญั

วิชาการเรารู้แค่คร่ึงเดียว แต่เราไม่รู้รอบ เรื่องกฎแห่ง
กรรม เราสร้างอาวธุ นิวเคลียร์แลว้ ไปต้งั ช่ือวา่ นิวเคลียร์เพอ่ื
สนั ติ มนั สันติจริงไหม ถา้ อยกู่ บั ฉนั สนั ติ อยกู่ บั เธอไมส่ ันติ
มนุษยห์ ลอกตวั เอง เรารู้เรื่องวชิ าสร้างอาวธุ นิวเคลียร์ แลว้ ก็
หลงวา่ เราเก่ง เราไม่รู้เร่ืองกฎแห่งกรรม สักวนั หน่ึงอาวธุ ท่ีเรา
สร้างมา มนั จะมาฆา่ ลกู หลานตวั เอง นนั่ แหละเรารู้คร่ึงเดียว
มนั ยงั ไมร่ ู้จริง

26

ศิษยโ์ ง่ไปเรียนเซ็น คนโง่ที่เห็นวา่ ตวั เองโง่ ถือวา่ เป็น
บณั ฑิตอยา่ งยงิ่ แตถ่ า้ รู้แค่น้นั เมื่อรู้วา่ เราโง่ แสดงวา่ เราเป็น
บณั ฑิต แต่ถา้ เราหยดุ อยแู่ คน่ ้นั เราไมห่ าวิธีแกค้ วามโง่เรา เราก็
เป็นแค่บณั ฑิต เราจะไมเ่ ป็นคนพน้ ทุกข์ ลทั ธิขงจ้ืออยทู่ ่ีเมือง
จีน ปรัชญาขงจ้ือกส็ อนใหค้ นเป็นบณั ฑิต เป็นผดู้ ี อยกู่ นั แบบ
สนั ติตามอตั ภาพ ลทั ธิขงจื๊อน่ีอยากเป็นคนดี กค็ ือบณั ฑิต ลทั ธิ
เต๋านี่อยากอายยุ นื เป็นพนั ๆปี อยแู่ บบเตา่ ไมก่ ระตือรือร้นอะไร
อายยุ นื อนั น้ีคือ ไม่อยากตาย แตศ่ าสนาพทุ ธเรา ไม่อยากเกิด

เลือกเอา จะเอาทางไหน แก่มาลุกก็โอย นง่ั ก็โอย เจบ็ มา
ก็โอย วนั ที่จะตาย ตายไมล่ งอีก ห่วงลูก ห่วงหลาน เอาทองคา
ไปฝังตรงน้นั ลืมบอก มนั ตายไมล่ ง เป็นอยา่ งน้ีหลายรอบ
แลว้ แต่เราไมเ่ ขด็ ไมจ่ า พอตาย เกิดมาวนั แรก ก็แหกปากร้อง
ทุกขเ์ พราะเกิดอีก ถา้ ไม่อยากแก่ ไมอ่ ยากเจบ็ ไมอ่ ยากตาย
จาแม่นๆ หา้ มเกิดอีกเดด็ ขาด นี่คือ พทุ ธศาสนา

พระพุทธเจา้ แกท้ ี่ตน้ เหตุ ทาไดไ้ หม ทาได้ ทาไดท้ กุ คน
เพราะเราเป็นมนุษยผ์ ปู้ ระเสริฐ มดมอดมนั มญี าณรู้ มากกวา่
คนดว้ ยนะ ตอนน้ีมนั รู้ล่วงหนา้ ฝนจะตก มนั กห็ นีฝนก่อน มนั
รู้อนาคต เพราะจิตมนั บริสุทธ์ิ มนั รู้ดินฟ้าอากาศ แต่มนุษยเ์ รา

27

น่ีญาณรู้ตรงน้ีหายไปไหน ถูกอวชิ ชา ความรู้ผดิ บลอ็ กไวห้ มด
ก็ไปหลงวา่ กูเก่ง ใครแตะตอ้ งไมไ่ ด้ สัญชาตญาณเราหายหมด

แตถ่ า้ เราปฏิบตั ิแลว้ เราขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส จิตเขา
ไปสู่สภาวะเดิมแลว้ มนั กม็ ีญาณรู้ตามธรรมชาติ ไมใ่ ช่เราเก่ง
ไม่เก่งนะ มดมนั ยงั รู้ลว่ งหนา้ เลยวา่ ฝนจะตก มนั ไมต่ อ้ งเจริญ
วิปัสสนาดว้ ย แต่มดมนั ทุกขต์ ามอตั ภาพ มดมนั กเ็ ดินไปสู่
นิพพานเหมือนกนั นะ มนั อยใู่ นช่วงข้นั ตอนกระบวนการ ท่ี
กาลงั จ่ายหน้ีกรรมอยู่ มนั กไ็ ตบ่ นั ไดอยู่

นิพพานจึงไม่ใช่ของคนใดคนหน่ึง ไม่ใช่ของศาสนาใด
ศาสนาหน่ึง บงั เอิญพระพุทธเจา้ เจา้ ชายสิทธตั ถะไปตรัสรู้มา
ก็เอาสิ่งท่ีพระองคร์ ู้ พระองคเ์ ห็น มาบอกกล่าว ธรรมะท่ี
พระองคไ์ ปตรัสรู้มา กไ็ มใ่ ช่ของพระองคด์ ว้ ยนะ มนั มีอยแู่ ลว้
คูโ่ ลกคู่จกั รวาล มนั มีก่อนท่ีเจา้ ชายสิทธตั ถะจะประสูติอีก

ในสายพุทธเราบนั ทึกไว้ ในพระไตรปิ ฎก พระพุทธเจา้
ท้งั หลายก่อนหนา้ น้ีอีกยส่ี ิบเจด็ พระองค์ กไ็ มม่ ีพระไตรปิ ฎก
อ่าน ไม่มีพระสงฆอ์ งคแ์ รกของโลก ไม่มพี ระพุทธศาสนา
ทาไมท่านเหลา่ น้นั บรรลธุ รรมได้ เพราะทา่ นปฏิบตั ิ ท่านไม่
มวั มานงั่ อ่านหนงั สือ ไปทอ่ งจา มีแตข่ ยะ มนั เป็นแค่ความรู้
มนั ไมใ่ ช่ปัญญา ถา้ ปัญญาเรารู้แจง้ วา่ อะไรกไ็ ม่ใช่ มนั เกิดข้ึน

28

ต้งั อยู่ สลาย เป็นของชว่ั คราว ไมใ่ ช่ของเราท้งั น้นั แลว้ เรา
อยากจะรู้อะไรเหรอ ไมต่ อ้ งรู้ ไม่มีอะไรใหร้ ู้

อารมณ์อะไรเกิดข้ึน เราก็รู้เฉยเฉยๆ รู้บอ่ ยๆ รู้บอ่ ยๆ
อารมณ์น้นั มนั กห็ ลอกเราไมไ่ ด้ เห็นไหม กิเลสทาใหเ้ กิด
ตณั หา ตณั หาทาใหเ้ กิดอุปาทาน อปุ าทานก็ทาใหเ้ กิดทุกข์ แต่
ถา้ เราฝึกสติ เรารู้เทา่ ทนั กิเลส มนั กพ็ ฒั นาสู่ตณั หาไมไ่ ด้
อุปาทานกไ็ มเ่ กิด ทกุ ขก์ ็ไมเ่ กิด ถา้ เราทาไดเ้ วลาน้นั เราก็เป็น
แค่คนไม่ทกุ ขใ์ นเวลาน้นั แตย่ งั ไมพ่ น้ ทกุ ข์ เพราะเรายงั ไมไ่ ด้
ขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส

กระแสกรรมเก่า มนั ก็ยงั อยู่ อยา่ แกลง้ ลืมหน้ีเก่านะ
ไมใ่ ช่อยแู่ คส่ ติ สติน้นั เป็นของชว่ั คราว กาจดั ชวั่ คราว แต่ถา้ เรา
เขา้ ถึงปัญญาแลว้ เราจะรู้วา่ ตน้ เหตเุ รามี อตั ตา มนั จะระเบิด
อตั ตาตวั น้นั ทงิ้ เขา้ ไปสู่สุญญากาศ คือ วา่ งจากอตั ตา น้นั คือ
ปลอดภยั

ไมต่ อ้ งสารวมระวงั อะไรท้งั น้นั เพราะวา่ มนั ไม่มีกิเลส
มนั ไมม่ ีความอยาก ไมม่ ีอนาคต ทาไมมนั จะตอ้ งไปสร้างกรรม
มนั ไม่มีความอยาก ไมต่ อ้ งคิดดว้ ย ที่เราคิดนี่ เพราะเรามี
อนาคต เราถึงคิดวางแผน แต่ถา้ จิตมนั ไมม่ ีอนาคตแลว้ มนั จะ

29

ไปคิดทาไม ไมต่ อ้ งคิด ไมต่ อ้ งคิดเลย ไม่ตอ้ งเสียเวลา ไมต่ อ้ ง
ระวงั เพราะมนั เป็นโดยธรรมชาติ

ทกุ วนั น้ีเรามีศีล๕ ศีล๘ ศีล๑๐ ศีลปาฏิโมกข์ ศีล๒๒๗
ศีลเป็นแค่วนิ ยั เป็นกฎเกณฑ์ ที่เกิดข้ึนมาทีหลงั เป็นศีลในการ
อยรู่ ่วม เพ่ือเตือนสติเรา ไมใ่ หข้ ดั แยง้ กนั มนั เป็นแคศ่ ีลแค่
ตวั หนงั สือ แต่มีประโยชน์ ถา้ คนยงั เขา้ ไมถ่ งึ ตรงน้นั กต็ อ้ ง
อาศยั ศีลตวั น้ี มาบอกวา่ อยา่ ทานะ มนั ผดิ ศีล

เหมือนกฎหมายบา้ นเมือง อยา่ ทานะ มนั ผิดกฎหมาย
เดี๋ยวเขาจะจบั เขาจะปรับเรา บางคร้ังกท็ าได้ บางคร้ังกท็ า
ไม่ได้ ศีลเหมือนกนั ศีลตวั หนงั สือนี่ บางคร้ังก็ถือๆหลุดๆ
เพราะมนั ไมใ่ ช่ของจริง ศีลคือ ความปกติของจิต นี่มนั มีอยู่
แลว้ ตามธรรมชาติ

ทาร์ซานไมต่ อ้ งถือศีล๕ ทาร์ซานมีศีล๕ อยเู่ ตม็ เป่ี ยม
อยแู่ ลว้ ทาร์ซานเอาเหลา้ ที่แพงท่ีสุดในโลก เอาไปกิน มนั บอก
เอ๊ะ อะไรกไ็ ม่รู้ เอาไปไกลๆ เหมน็ อะไรกไ็ ม่รู้ กไู ม่เอา
ทาร์ซานมนั โกหกไหม มนั จะโกหกทาไมมนั ไม่มีความอยาก
ได้ ภาษามนั กพ็ ดู ไมเ่ ป็นดว้ ย

ศีล คือ ความปกติของจิต มนั มีอยแู่ ลว้ แต่ตอนน้ีศีลเรา
หายไป มนั หายไปไหน มนั กไ็ มห่ ายไปไหน มนั อยขู่ า้ งใน แต่

30

มนั ถกู ครอบงาโดย ความรู้ผดิ คือ อวชิ ชา ความรู้ซ่ึงแฝงดว้ ย
ความโลภ ความโกรธ ความหลง มนั ห่อหุม้ ศีล

ศีลแทถ้ ูกห่อหุม้ เลยถอื ศีลเทียม ศีลไม่ใช่มนั ไมด่ ี มนั
เป็นกติกา เป็นแค่วินยั ที่เป็นตวั เตือนสติเรา บางคร้ังก็คือถอื ๆ
หลดุ ๆ เอาเป็นวา่ อยากรู้วา่ ตวั เองเป็นใคร? เกิดมาทาไม? ตาย
แลว้ ไปไหน? ไอค้ วามสุขที่แทจ้ ริง รูปร่างหนา้ ตามนั เป็น
อยา่ งไร? เขา้ ไปถามอาจารยเ์ รา อยขู่ า้ งใน เขา้ ไปในจิตเดิมเรา

จิตเห็นจิต คือ มรรค จิตปัจจุบนั เห็นจิตเดิมเรา เราเขา้ ไป
กระแสมรรคแลว้ ผลของจิตเห็นจิตอยา่ งแจ่มแจง้ คือ นิโรธ
นน่ั แหละเราจะรู้วา่ เราเป็นใคร ตอนน้ีเราแกลง้ ลืม วา่ เราเกิดมา
ทาไม เราเกิดมาหลายชาติแลว้ เราแกลง้ ลืม ไม่ใช่แกลง้ หรอก
ธรรมชาติใหเ้ ราลืมจริงๆ

ทีน้ี ถา้ อยากจาไดค้ ืออะไร ก็ตอ้ งเจริญมหาสติปัฏฐาน
ใหม้ นั มี มหา คือ สติใหญ่ มนั จะไดม้ ีกาลงั ระลึกรู้อดีตได้ แลว้
กเ็ อาบารมีเกา่ ที่เราฝึกมาหลายชาติเอามาตอ่ ยอด ไม่ใช่มาฝึก
ใหมน่ ะ ตายก่อน กระแสกรรมมนั ไล่บ้ีเราอยู่ สมมุติวา่ ชาติน้ี
เราฝึก บงั เอิญมนั ไมถ่ ึงฝั่ง ตายป๊ บุ เอาไปเผามนั หมด แลว้ ท่ีฝึก
มาหมดเหรอ มนั ไม่ไดห้ ายไปไหน ชาติหนา้ เรากม็ ีโอกาสไป
ตอ่ ยอดนะ

31

ที่พวกเรามีโอกาสมานง่ั อยทู่ ่ีนี่ จาไวว้ า่ ไม่ใช่ธรรมดา
อยา่ ดูถกู ตวั เอง ท่ีรู้บา้ ง ไมร่ ู้บา้ ง ทาไปดว้ ย สงสยั ไปดว้ ยอนั น้ี
อะไรวะ ไอน้ ี่อะไรวะ ดึงชกั กะเยอ่ อยู่ นนั่ แหละท่ีไมร่ ู้อะไร
เลยยง่ิ ดี รู้มากทุกขม์ ากเป็นขยะ

32

ท่ีมา : เรื่อง รู้แจ้ง เห็นจริง
บรรยาย โดย พ่อครูบญั ชา ต้ังวงษ์ไชย
ศูนย์พลาญข่อย 25 เมษายน 2558


Click to View FlipBook Version