The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by plarnkhoi11, 2021-05-21 02:01:10

รู้แจ้งอย่างเซน

พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย

Keywords: ธรรม,พลาญข่อย,meditation,plarnkhoi,พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย,ศูนย์พลาญข่อย,ทุกข์,เซน,ebookplarnkhoi

1

ธรรมที่แท้จริง ไม่มีธรรมะ
ที่ไม่มธี รรมะ นัน่ แหละคือธรรมมะ

ปัจจุบนั ถ่ายทอด ไม่มธี รรมะ
แล้วจะมธี รรมะ ได้อย่างไร

สารบญั 2

คนข้ีสงสัย กบั คนมีปัญญา 3
คนคิดเป็นคือคนไมค่ ิด ไม่ใช่คนคิดเก่ง 4
ยงิ่ ปฏิบตั ิ ทาไมคิดอะไรไม่ออก 6
ฟังธรรมอยา่ งไร ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด 12
สุญตา คืออะไร 14

3

คนขสี้ งสัยกบั คนมปี ัญญา เหมือนหรือต่างกนั อย่างไร
ภาษามนั ก็ไมเ่ หมือนกนั เขียนก็ไม่เหมือนกนั ถา้ คนมี

ปัญญา เคา้ ก็ไม่สงสยั คนมีปัญญาที่แทจ้ ริง ก็หายสงสยั
คาตอบมีแคน่ ้ี คนข้ีสงสยั ก็คือ พวกวติ กจริต มนั มีหกจริต
โลภจริต โทสจริต ราคจริต วิตกจริต ศรัทธาจริต พทุ ธจริต
คนข้ีสงสยั คือพวกอยู่ ในขา่ ยของพวกวติ กจริต พวกน้ีวติ ก
วิจารณ์เยอะ แตไ่ ม่ใช่เร่ืองผดิ เรื่องถกู มนั เป็นอนุสยั ท่ีเรา
สะสมมาหลายชาติ ทกุ จริต มีโอกาสบรรลธุ รรมไดห้ มด มแี ต่
วา่ ถา้ เราตดิ มนั เยอะ เราก็ใชเ้ วลาเยอะหน่อย

คนวติ กจริต เคา้ กอ็ า้ งวา่ ถา้ เคา้ ไม่ไดร้ ับคาตอบ ที่เคา้
พอใจ เคา้ กไ็ มเ่ กิดศรทั ธา เคา้ ก็ไม่ยอมปฏิบตั ิ เคา้ จะมงุ่ หา
คาตอบ แบบเหตุผล แบบตรรกะ แต่ถา้ บุญบารมี เคา้ มีมากพอ
เคา้ กจ็ ะไม่หยดุ เคา้ กแ็ สวงหาปฏิบตั ิ แต่ก็เสียเวลาหน่อยหน่ึง
คนที่มีปัญญาน้นั ส่วนมากเป็นพทุ ธะจริต ฟังนิดเดียวกเ็ ขา้ ใจ
แลว้ พอเคา้ เขา้ ถึงแลว้ เคา้ มีปัญญาแลว้ เคา้ ก็ไม่มีขอ้ สงสัย มนั
เป็นกงั ขาวิตรณวิสุทธิ ขอ้ กงั ขามนั ไม่มีอีกแลว้ หายสงสัยหมด

4

ทาไมจึงบอกว่า คนคิดเป็น คือคนไม่คิด ไม่ใช่คนคิดเก่ง
คนคิดเก่ง ย่ิงคิด กย็ ่ิงทกุ ข์ เรียกว่าคนคิดไม่เป็น

อนั น้ีพอ่ ครู พดู บอ่ ยๆ ถา้ เราไมค่ ิดอะไรเลย คนอ่ืนเคา้
จะไม่หาวา่ เราโง่หรือ อนั น้ีเป็นเรื่องของโลกวสิ ยั เป็นยคุ ที่เรา
เกิดมา เราถกู สอนใหเ้ ป็นนกั คิด ตอ้ งคิดเก่งๆ คิดเก่งๆถึงจะ
สาเร็จ ทีน้ีพอคิดก็เป็นมโนกรรม เห็นไหม เหมือนเราตอ้ ง
สร้างกรรมเก่งๆ ตอ้ งสร้างกรรมเยอะๆ เธอถงึ จะได้ เป็นคนดี
จะไดเ้ ป็นคนเก่ง

คิด เราปฏิเสธไม่ได้ ที่เราคิด เนื่องจาก เรามีความอยาก
เราอยากมีอนาคต เราอยากจะสาเร็จ เราจึงคิด กค็ วามอยาก คือ
ตวั สมทุ ยั คือท่ีมาของทุกข์ เราก็รู้ เรากราบพระพุทธเจา้ เราก็
อ่านภาษา ทพ่ี ระองคเ์ ปลง่ สอนเรา เรากร็ ู้ รู้หมดทกุ คน เขา้ ใจ
แตไ่ ม่เขา้ จิต สมองรู้แต่จิตไม่รู้ เราก็สนอง ความอยากเรา
เหมือนเก่า เห็นไหม คนคิดเป็นคือคนไมค่ ิด ไมใ่ ช่คนคิดเก่ง
ทาไมไม่คิด

เม่ือปัญญารู้แจง้ แลว้ วา่ อะไรก็ไม่ใช่ เมื่อเคา้ ทาลาย
อตั ตาตวั ตน ทาลายความอยากแลว้ เคา้ ไม่มีอนาคตแลว้ ทาไม
เคา้ ตอ้ งคิด ท่ีเราคิด เพราะเรามีอนาคต เราจึงคดิ วางแผน แต่ถา้
เราไม่มีอนาคตแลว้ เราก็ไม่มีเหตุตอ้ งคิด ไปคิดสร้าง

5

มโนกรรมทาไม คิดจนนอนไมห่ ลบั คิดจนเครียด คิดกงั วล
คิดห่วงใย คิดสงสัย คิดวา้ วนุ่ แลว้ กค็ ิดกลวั ความกลวั ทาให้
เสื่อม ท่ีมาของมนั คือความอยาก

พระพุทธเจา้ พดู ส้ันๆ ทุกข์ สมุทยั นิโรธ มรรค ส่ีคาน้ี
รวมท้งั หมดเลยในน้นั ถา้ เราเขา้ ใจแค่ส่ีขอ้ น้ี เราปฏิบตั ิใหม้ นั
เขา้ ถึงจริงๆ นน่ั แหละ คือทางพน้ ทุกข์ เราก็ไม่สร้างมโนกรรม
ไมจ่ าเป็นตอ้ งคิด ไมม่ เี หตตุ อ้ งคิด ทางาน ทาเพราะทา ทา
เพราะหนา้ ท่ี หิวกก็ ิน งว่ งก็นอน

แตต่ อนน้ีไม่ใช่ เราตอ้ งการกินอาหาร แบบท่ีมนั แพง
มนั ถึงจะดี แลว้ ก็ดิ้นรนขวนขวายหาเงิน เพื่อจะไปสนอง
ตณั หา เวลาหาเงินก็ทุกข์ เวลาจะกินก็ยงั ทุกขอ์ ยู่ กาลงั อร่อยอยู่
เคา้ แยง่ ไปกท็ ุกขอ์ ีก กินเยอะๆ กต็ อ้ งเขา้ หอ้ งน้าเยอะๆ คือ
เขา้ หอ้ งน้า เราเรียกวา่ ไปปลอ่ ยทกุ ข์ เห็นไหม กร็ ู้อยแู่ ลว้ มนั
ทุกขไ์ ง แลว้ กินทุกขไ์ ปทาไม ตอ้ งไปเสียเวลาปล่อย

เรารู้หมด ทุกคนรู้คาสอนพระพุทธเจา้ แตเ่ ราไมเ่ คยเช่ือ
คาสอนพระองคเ์ ลย มีแตอ่ า้ งคาพดู ของพระองคม์ าแสดง แต่
ไมเ่ คยทาตามพระพทุ ธองค์ มแี ต่อา้ งคาพูด พระองคพ์ ดู วา่
อยา่ งน้นั พระองคพ์ ดู วา่ อยา่ งน้ี พระองคต์ รัสวา่ อยา่ งน้ีๆ แต่ไม่
เคยทาตามที่พระองคท์ า แลว้ มนั จะไปพน้ ทุกขไ์ ดอ้ ยา่ งไร

6

คนคิดเป็น คือ คนไมค่ ิด ไมใ่ ช่คนคิดเก่ง คนคิดเก่ง
ยงิ่ คิด ก็ยง่ิ ทุกข์ เรียกวา่ คนคิดไมเ่ ป็น คนคิดเป็นคุณจะไปคิด
ใหม้ นั ทกุ ขท์ าไม คิดจนไมห่ ลบั ไมน่ อน คิดจนเครียด เห็น
ไหม เราสนองความอยาก ตลอดเวลา เราเป็นคน แค่คนคิดเก่ง
แตเ่ ราคิดไมเ่ ป็น อนั น้ีกค็ ือคาตอบ

ยิ่งปฏิบตั ิ ทาไมคิดอะไรไม่ออกเลย ใครถามอะไรรู้สึกเบลอๆ
คิดไม่ทัน เป็นการปฏิบตั ิผิดหรือไม่

ไมม่ ีถูก ไม่มีผดิ ไมม่ ีเบ้ืองตน้ ไม่มีเบ้ืองปลาย
พระอรหนั ตจ์ ้ีกง ตอ้ งกินเหลา้ มอมสมองซีกซา้ ย ให้
มนั คิดไม่เป็น ใหม้ นั เบลอ ถา้ มนั ยงั คิดอยู่ จิตมนั ตื่นรู้ไมไ่ ด้ ที่
พวกเรา ช่วงปฏิบตั ิเราเหวีย่ งๆๆ มนั จะไปขดั แยง้ กบั กิเลสเรา
คิดตลอดเวลา ทนี ้ี มนั กต็ ่อสู้กนั สองดา้ น ไอต้ วั คิด มนั ก็ยงั คิด
อยู่ ไอจ้ ิต มนั ก็เลิกคิด มนั ก็ทาใหเ้ ราเบลอๆ เพอ่ื ทาใหก้ าลงั
ทางฝ่ ายคิด มนั ออ่ นแอ ช่วงที่เดินทาง มนั เป็นอยา่ งน้ีแหละ
แลว้ กลายเป็นวา่ ไมใ่ ช่คิดไม่เป็นนะ ข้ีลืมดว้ ย
จริงๆแลว้ เราไม่ไดล้ ืม แต่จิตมนั ไมจ่ า พ่อครูยสี่ ิบหกปี
ไม่เคยลืมเลย เพราะพ่อครู ไม่เคยจาเลย มนั ไมต่ อ้ งไปจา อยา่ ง

7

เราขบั รถ เดินเขา้ ทีพ่ กั ของมนั เคยแขวนอยตู่ รงไหน ก็แขวน
อยตู่ รงน้นั แหละ มีแตว่ า่ เดี๋ยวๆ ไมไ่ ด้ ตอ้ งแขวนอยตู่ รงน้นั
เรากไ็ ม่ตอ้ งไปจา เราเปลี่ยนระบบชีวิตเราใหม่ พอไมจ่ าแลว้ ก็
ไม่ตอ้ งแบกขยะ ความจาเป็นสญั ญา เป็นสญั ญา ไปเพิ่มขยะให้
มนั คนที่จาเก่งๆ เกง่ แค่ไหน เดี๋ยวมนั กล็ ืม มนั กล็ ืม เหมือนเรา
ท่องจาไปสอบ ทาไมสอบ บางคร้ังก็จาไม่ได้ เพราะเราจา แต่
ถา้ ไม่อยากลืม คือ ไม่ตอ้ งจา

อาการท่ีมนั เบลอๆ เป็นช่วงที่เรา ปรับสมดุลอยเู่ ป็น
เรื่องปกติของมนั ช่วงท่ีเรากาลงั เดินทาง กห็ ลีกเล่ียงในการไป
เลน่ เกมส์ขา้ งนอก ทาไมครูบาอาจารย์ ทา่ นปลีกวิเวก ในอดีต
ท่านหนีเขา้ ป่ า เห็นไหม จิตมนั จะไดม้ งุ่ มนั่ แต่พอเราออกไป
สงั คมแลว้ เรากต็ อ้ งระแวดระวงั เคา้ สูก้ นั เรื่องความคิด เคา้ สู้
กนั เร่ืองความรู้แบบขอ้ มูล

พอ่ ครูยส่ี ิบหกปี กลบั มาจากอเมริกาใหมๆ่ ตอนน้นั ก็
จาเป็นตอ้ งเดินทาง มีคร้ังหน่ึง ตอ้ งไปกระทรวงต่างประเทศ
ไปยนื เรียงแถวยาวเลย จิตพ่อครูกเ็ อะ๊ เรามาทาอะไรเน่ีย ทาไม
เราตอ้ งมาเลน่ เกมส์น้ี เห็นไหม ถา้ คุณอยากเดินทาง คุณกต็ อ้ ง
ไปเล่นเกมส์เคา้ ตอ้ งมีขนั ติ กย็ นื ก็ยนื ไง แตถ่ า้ มนั เลือกได้ มนั
เลือกวา่ ไม่ตอ้ งไปเล่นเกมส์ เพราะขา้ งนอก มนั เป็นอยา่ งน้นั

8

ไมใ่ ช่ถูกไมใ่ ช่ผดิ แลว้ เป็นอยา่ งน้นั แลว้ เป็นยงั ไง กท็ กุ ขถ์ ว้ น
หนา้ สาธารณะทกุ ขไ์ ง

พ่อครูบอก วิชาแรกที่เราปฏิบตั ิแลว้ เราจะสาเร็จกค็ ือ
เราจะเป็นคนเพ้ียน เราจะเพ้ยี นในสายตาเพ่ือนฝงู หมู่คณะ เคย
ไปกินเหลา้ กอดคอกนั อยๆู่ ก็เลิกกิน ไอน้ ี่มนั เพ้ียนแลว้ ชวน
ไปไหนก็ไมไ่ ป จะเป็นเพ้ยี น ในสายตาคนอ่นื ถา้ เราไมม่ ีขนั ติ
ไมม่ ีศรัทธาต้งั มน่ั แลว้ น่ี ทุกคนแพม้ นั เพราะผหู้ วงั ดีประสงค์
ร้ายเยอะมาก

ถา้ เราอดทน คาวา่ เพ้ยี นไมไ่ ด้ เราก็เดินตอ่ ไมไ่ ด้ ปฏิบตั ิ
ไปปฏิบตั ิมา อา่ วชกั เบลอๆ เอะ๊ คิดอะไรก็ไม่เป็น นน่ั แหละ
คือ กาลงั คิดเป็นแลว้ เราจะเป็นคนสิ้นคิด เพราะไมม่ ีอนาคต
มนั จะไปคิดทาไม แตค่ นโลภ กลวั มากคนสิ้นคิด คนสิ้นคิดก็
เป็นคน ไม่สร้างมโนกรรม เรากห็ ยดุ สร้างกรรมแลว้

เห็นไหม จิตมนั พยายาม ทาใหเ้ ราเลิกคิด ทางานไมต่ อ้ ง
คิด กินขา้ วไม่ตอ้ งคิด ขบั รถไมต่ อ้ งคิด เดินไมต่ อ้ งคิด ถา้ ขบั
ไปดว้ ย ฟังโทรศพั ทด์ ว้ ย คิดดว้ ย พดู ดว้ ย นน่ั แหละเด๋ียวชน
กนั ขบั รถทาไมตอ้ งคิดละ่ ก็ต้งั มนั่ มีสมาธิสติอยกู่ บั มนั เพราะ
เราอยากไง ขบั รถไม่พอนะ พดู โทรศพั ทด์ ว้ ย คิดดว้ ย พดู ดว้ ย
อนั น้นั สร้างกรรมเยอะแยะเลย เม่อื คิดมากๆ มนั กป็ วดหวั น่ี

9

คือผล ของมโนกรรม ก็เป็นเร่ืองปกติ น่ีวชิ า ท่ีสองเราจะเป็น
คนสิ้นคิด

เราปฏิบตั ิไปเรื่อยๆ ถา้ ไม่หยดุ วชิ าท่ีสาม เราจะเป็นคน
ไมม่ ีอนาคต เราจะอยปู่ ัจจุบนั ไม่ใช่งอมืองอเทา้ เราก็ทางาน
อยา่ งขยนั ขนั แขง็ มีความสุขกบั ส่ิงท่ีเราทา ไมใ่ ช่ทาดว้ ย คิดถึง
อนาคตดว้ ย ทาแลว้ จะไปโน่นไปนี่ ทา50% คิด50% ก็ทาถูกทา
ผดิ อนาคตพรุ่งน้ีเป็นยงั ไง กไ็ ด้ 50% แตถ่ า้ เราไม่มีอนาคต เรา
ต้งั มน่ั ทากบั มนั 100% มีความสุขกบั มนั อารมณ์แทรกไมไ่ ด้
นนั่ คือความสุขอยา่ งยง่ิ พรุ่งน้ีผลของงานได1้ 00% เราจะเป็น
คนไมม่ ีอนาคต

แลว้ อนั สุดทา้ ยเลย เราจะเป็นคนเพ้ยี น คนสิ้นคดิ คนไม่
มีอนาคต สามอยา่ งน้ี ถามวา่ คนในสังคมรับไดไ้ หม แคน่ ้ี พดู
หยาบๆ กูไม่เอาไว้ มึงเป็นบา้ เหรอ เรียนมาเกือบตาย ทาไมไม่
มีอนาคต แลว้ ถา้ ไม่หยดุ เดินทาง วิชาท่ีส่ี เราจะบรรลุคือ ไมม่ ี
วนั ผดุ ไม่มีวนั เกิด ถามกิเลส มนั เอาไหม อนั น้ีก็เป็นเรื่อง เรา
สู้ความจริง เราปฏิบตั ิธรรม คือ มาเดินทางเพอื่ พน้ ทุกข์ ถา้ เกิด
อีก มนั พน้ หรือเปลา่ วนั แรกเกิดมา กแ็ หกปากร้องแลว้ ไง นนั่
แหละปฏิบตั ิไปปฏิบตั ิมา เราจะไม่มีวนั ผดุ ไม่มีวนั เกิด นน่ั คือ
เป้าหมายของเรา

10

ท่ีบอกใหป้ ลอ่ ย ใหว้ าง ไม่รู้จะวางยงั ไง ยา๊ กยาก ถาม
วา่ ตารวจจบั ไหม ไม่ตอ้ งขอวซี ่าอีกตา่ งหาก ไม่ตอ้ งเสียเงิน ไม่
ตอ้ งขออนุญาตใคร มนั วางยากยงั ไง มนั ยาก เพราะมนั ง่าย
เห็นไหม ไม่ตอ้ งขออนุญาต มีอะไรง่ายขนาดน้ี น่ียกข้ึน ตอ้ ง
วิ่งไปหา วิธีวางไหม ถา้ อยากเบายงั ไง กว็ างไง ไม่ตอ้ งมี
เทคนิค ไม่ตอ้ งไปฝึกวิธีบา้ ๆบอๆอะไรท้งั น้นั เสียเวลา วางเลย
ที่เราทกุ ข์ เพราะจิตไมว่ า่ ง

ท่ีมนั ไม่วา่ ง เพราะมนั ติดไมเ้ อก เหวี่ยงไมเ้ อกทิ้งเด๋ียวน้ี
บรรลุเด๋ียวน้ี เหวยี่ งพรุ่งน้ีบรรลพุ รุ่งน้ี คือ วาง แลว้ มนั ก็วา่ ง
มนั จะยากอะไร มนั ยากเพราะมนั งา่ ย มนั เป็นเส้นผมบงั ภูเขา
นะ ไมม่ ีอะไรง่ายกวา่ น้ีอีก ไม่ตอ้ งไปเรียน เทคนิคบา้ บอ ไป
ฝึกวธิ ีวาง ไมต่ อ้ ง วางเลย เราไมไ่ ดเ้ กิดมา เพอ่ื เรียนวชิ าใดๆ
ท้งั น้นั นะ เกิดมาเพอ่ื เดินทางต่อ แตจ่ ะเดินทางแบกๆ อนั น้ี
แบกไวด้ ว้ ย มนั ไหวไหม มนั ก็ตอ้ งไปอยา่ ง ตวั เบาๆสิ

พ่อครูเคยบอกวา่ กระดาษขาวใบหน่ึง เอาเขม็ เจาะ รู
เขม็ น่ี กใ็ หญเ่ กินไป ทางไปนิพพาน ตอ้ งหารไม่รู้กี่ร้อยเทา่ เรา
จะแบกหวั โขนต่างๆไปดว้ ยไดไ้ หม ไม่ได้ วาง วางก่อน เดิน
ไปแบบตวั เบาๆ มนั ถงึ เมื่อไหร่ช่างมนั เรามหี นา้ ท่ีเดิน ทีน้ี
คาวา่ วาง เม่ือก้ีจิตพ่อครู กแ็ วบข้ึนมา

11

มนั มีคาบอกกลา่ วกนั มา อาจารยเ์ ซนสองทา่ น เดินไป
ดว้ ยกนั บงั เอิญไปเจอสตรีท่านหน่ึงตกน้า ช่วยดว้ ยๆ อีกท่าน
หน่ึงฉนั ไมย่ งุ่ เด๋ียวฉนั จะไม่สารวม อีกทา่ นหน่ึง ก็วง่ิ โดดลง
ไปช่วยสตรีท่านน้นั ข้นึ มาบนฝั่ง แลว้ ทา่ นกเ็ ดินกลบั ไปวดั อีก
รูปหน่ึงไปฟ้องอาจารย์ โกรธมากเลย บอกวา่ ผมเตือนแลว้ ก็
ไม่ฟัง นี่ผิดศลี ไปจบั ตวั สตรีเคา้ ผิดศีล อาจารยบ์ อกวา่ เคา้ วาง
ต้งั นานแลว้ ทา่ นยงั ไมว่ างเหรอ แบกอยตู่ รงน้นั แหละ อนั น้นั
เคา้ ทาเพราะทา อนั น้ีตวั เองไมท่ า ไมช่ ่วยชีวติ แลว้ ก็ยงั แบก
ตรงน้ี ไปฟ้องอาจารยอ์ ีก

วางไมไ่ ด้ แปลวา่ ทงิ้ ภาระหนา้ ท่ี วางความยดึ มน่ั ถือมน่ั
แมก้ ระทง่ั คนหลงศีล ศลี มีไวเ้ พ่อื อะไร เรายดึ ศีล เป็นแนวทาง
เดินอยา่ งมีสติ ถา้ ไปหลงศีล ไปยดึ มนั่ ถือมนั่ เมื่อไหร่ แลว้ มนั
จะไปไหน มนั ก็ติดดีไง ติดดี จนไปวา่ คนอ่ืนไมด่ ี

มีคณะญาติธรรม ครูบาอาจารย์ มาเยย่ี มพอ่ ครูหลายสิบ
คน หลวงพีท่ า่ นก็ถาม พอ่ ครูวา่ พอ่ ครูยดึ แนวทางไหน ตอน
น้นั เคา้ เรียกอาจารยบ์ ญั ชานะ สมยั ก่อน เคา้ ยงั ไม่เรียกพ่อครู
เคา้ เรียกยงั ไงกเ็ รียก เป็นช่ือสมมติ พอ่ ครูบอกพอ่ ครู ไมย่ ดึ มนั่
ถือมนั่ ทา่ นบอกวา่ พอ่ ครูไม่ยดึ มนั่ ถือมนั่ ข้ึนตน้ ไมพ้ ่อครูก็ตก
ลงมา พอ่ ครูก็มอง ทาไมพูดอยา่ งน้นั พอ่ ครูบอกหลวงพ่กี อด

12

อยตู่ รงน้นั อยา่ ปลอ่ ยนะ มนั ไม่ตก มนั ข้นึ ต่อไปไดห้ รือไม่
นนั่ กย็ ดึ มนั่ ถือมนั่ หลงศีลนะ เรายดึ ศีลเป็นแนวทางเดินอยา่ งมี
สติ แลว้ กว็ าง

พอ่ ครูกเ็ รียนถามทา่ นวา่ สมมติวา่ ฝ่ังโนน้ เป็นนิพพาน
สมมตินิพพาน มนั ไม่ใช่แดนอะไรหรอก เราจะขา้ มฝั่งเราตอ้ ง
มีเรือ เรือนี่เปรียบเสมือนศีล เราตอ้ งมีพาย ก็เปรียบเสมือน
สมาธิ เราตอ้ งมีเขม็ ทิศ เปรียบเสมือนปัญญา ถา้ ไม่มีเขม็ ทิศก็
พายไปไม่รู้ทิศไหน เป็นทิศไหน ถามวา่ เมื่อเราถึงฝ่ังแลว้ เรา
จะแบกเรือข้ึนไปดว้ ยไหม เห็นไหม ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นแค่
เคร่ืองมือในการเดินทาง ยดึ ศีลเป็นแนวทาง เดินอยา่ งมีสติ
ไมใ่ ช่ไปหลงศีล

การฟังธรรม ฟังอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
คร้ังหน่ึง อาจารยต์ กั๊ มอ้ คือพระโพธิธรรม ถูกนิมนตใ์ ห้

ไปเทศน์ ท่านเดินทาง มาจากอนิ เดียไปจีน ทา่ นกไ็ ปนงั่ ธรรม
มาสน์ นงั่ หลบั ตา พระคุณเจา้ เป็นร้อยรูป นง่ั อยตู่ รงน้นั 5นาที
10นาที 20นาทีก็ไมพ่ ดู สักทีหน่ึง หลวงพี่รูปน้นั ก็เอะ๊ คนน้ีก็
เอ๊ะ เอะ๊ ๆๆ จากเอะ๊ เฉยๆ หงดุ หงิด เบ่อื บางคนโกรธดว้ ย เป็น

13

ชว่ั โมงยงั ไมพ่ ูด พอเสร็จแลว้ ท่านกล็ ืมตา ทา่ นก็เดินไปเลย
แสดงโดยไมต่ อ้ งแสดง

ทาให้ เราเห็นอารมณ์ตวั เอง นนั่ แหละเกิดประโยชน์
สูงสุด ไม่ใช่ฟังแลว้ ปลาบปล้ืมยนิ ดี ฉนั มีความรู้แลว้ ความรู้
น้นั ไม่ใช่ความรู้ของเราเลย เป็นความจาท่ีคนอ่ืน เคา้ บอกเรา
เทา่ น้นั เอง แตน่ ่ีท่านนง่ั เฉยๆ ท่านทาให้ เราเห็นอารมณ์เรา ให้
เราเห็นข้ี เรามีข้ีหงุดหงิด ข้ีเบ่ือ ข้ีสงสัย นนั่ แหละ สุดยอดเลย
เราเกิดปัญญาแลว้ ไง นน่ั วิปัสสนาเกิดแลว้

แสดงโดยไมต่ อ้ งแสดง นนั่ แหละ การฟังธรรมท่ีเกิด
ประโยชนส์ ูงสุด คือฟังแลว้ ใหเ้ ห็นอารมณต์ วั เอง เห็นมนั
บอ่ ยๆ อารมณ์น้นั มนั กห็ ลอกเราไม่ได้ บางทฟี ังแลว้ มนั กแ็ ยง้
ความรู้ ที่เรามีอยมู่ นั กแ็ ยง้ มนั อะไรนี่ นน่ั แหละ เรากเ็ ห็น
ตวั เองวา่ เราเป็นอยา่ งไร เกิดประโยชน์ ไม่ใช่ฟังแลว้ ปลาบ
ปล้ืมยนิ ดี สนุกสนานเฮฮา อนั น้นั เพ่มิ อาหารใหก้ ิเลส ไม่ได้
อะไรเลย ปัญญาไม่เกิดนะ

14

สุญตา คือ อะไร
อนั น้ี ก็ตอ้ งระวงั พูดเร่ืองสุญตา มนั ไม่ใช่เรื่องท่ีงา่ ย ที่

จะนิยาม ความหมายของคาๆน้ี เพราะคาวา่ สุญตา ภาษามนั
หยาบเกินไป ที่จะอธิบายส่ิงน้นั พดู แลว้ เขา้ ใจเลยทนั ที มนั
ไมไ่ ด้ แตท่ ีน้ีเราเป็นมนุษย์ เรากใ็ ชภ้ าษาส่ือกนั เทา่ ที่เราสื่อได้
แตม่ นั ไมม่ ีภาษาใดทพ่ี ดู แลว้ ทุกคนเขา้ ถงึ ตรงน้นั อาจจะ
เขา้ ใจไม่เขา้ จิต สมองรู้แตจ่ ิตไม่รู้

คาคาน้ีไมไ่ ดส้ ื่อถึง ความจริงบางอยา่ งท่ีมีอยแู่ ลว้ ต้งั แต่
แรก ไม่ใช่ช่ือเรียกภาวะของความจริง ท่ีสุดบางอยา่ ง มนั ไมใ่ ช่
ชื่อเรียก ซ่ึงมีอยแู่ ลว้ อยา่ งตายตวั มนั ไมใ่ ช่ตรงน้นั แต่คลา้ ยๆ
มนั เป็นช่ือเรียก สภาพของความจริง ท่ีดาเนินไปอยา่ งต่อเน่ือง
ปฏิเสธไม่ได้ แตก่ เ็ ปล่ียนแปลงไปเรื่อยๆ ตามเหตุปัจจยั

เราใชภ้ าษาพดู คาวา่ สุญตา เป็นเพยี งเคร่ืองนาทางก่อน
จะสัมผสั เขา้ ถึงความหมายของคาวา่ สุญตา คาน้ีตอ้ งระวงั
เหมือนเราพดู นิพพาน ตอนน้ีผรู้ ู้ท้งั สองคน คนหน่ึงแปลวา่
อตั ตา คนหน่ึงแปลวา่ อนตั ตา เห็นไหม นิพพานไมไ่ ดส้ ะกด
ผิดเลย ทกุ คนก็เปล่งเหมือนกนั คนน้ีแปลวา่ อตั ตา คนน้ี
แปลวา่ อนตั ตา เถียงกนั ไมจ่ บ

15

พ่อครูยกตวั อยา่ ง สรุปคร่าวๆ เป็นโศลกธรรม ของ
พระอาจารยเ์ วย้ หลาง ที่อาจารยพ์ ทุ ธทาส ทา่ นแปลออกมา อนั
น้ีดีมาก ตอนน้นั พระสังฆาธิการ ทา่ นจะเกษียณตวั เอง อายุ
ทา่ นมากแลว้ ทา่ นก็ใชอ้ บุ ายวา่ ใหพ้ ระคุณเจา้ ในวดั ลองเขียน
โศลกธรรมข้ึนมาดู ไม่มีใครกลา้ เขียน เพราะอิทธิพลรองเจา้
อาวาส มีมากเหลอื เกิน รองเจา้ อาวาสช่ือ พระอาจารยช์ ิงเชา

วนั นึงทา่ นก็ไป เขียนที่กาแพงวดั ทา่ นเขียนวา่ “กาย
ของเราคือตน้ โพธ์ิ ใจของเราคือกระจกเงาอนั ใส เราเชด็ มนั
อยา่ งระมดั ระวงั ทุกชว่ั โมง และไมย่ อมใหฝ้ ่ นุ ละออง มาจบั มนั
เด็ดขาด” ทา่ นมงุ่ มนั่ มาก ทีน้ีทา่ นสงั ฆาธิการกม็ าเห็น ท่านก็
ใชอ้ บุ ายวา่ ทกุ คนอ่านนะๆ น่าสนใจ พระภิกษใุ นวดั ก็อา่ น
ท่อง ทอ่ ง บงั เอิญทอ่ งบน่ ไปถึงในครัว

กลา่ วถึง พระอาจารยเ์ วย่ หลาง ทา่ นไดย้ นิ ช่ือเสียงของ
พระสังฆาธิการรูปน้ี กไ็ ดเ้ ดินทางมา กราบขอมาเป็นศิษย์ พระ
สังฆาธิการเห็นจิต เห็นวาระจิต แลว้ กส็ ่งไปทางานที่ครัว
เพราะกลวั เดี๋ยวจะโดนถูกฆา่ เพราะ ในวดั น้นั มีอิทธิพล
พระอาจารยเ์ วย่ หลาง อา่ นหนงั สือไม่ออก

ทีน้ี พระก็ไปท่องบน่ โศลก ที่ในครัววา่ ตวั เรา คือ
ตน้ โพธ์ิ ใจของเราคือ กระจกเงาอนั ใส เราเชด็ มนั อยา่ ง

16

ระมดั ระวงั ทุกชวั่ โมง และไม่ยอมใหฝ้ ่ นุ ละอองมาจบั อาจารย์
เวย่ หลาง ทา่ นก็ไดย้ นิ ท่านบอกพาไปดูหน่อย เคา้ ก็เลา่ ใหฟ้ ัง
เกิดอะไรข้ึน เคา้ กเ็ ลา่ วา่ ท่านรองเจา้ อาวาส ทา่ นเขียนโศลก
แลว้ ทีน้ีท่านสงั ฆาธิการ พยายามจะใหท้ กุ คน ประกวดวา่ ใคร
แสดงธรรมอะไร ท่านจะเลือกใหค้ น มาดารงตาแหน่งน้ี พระ
อาจารยเ์ วย่ หลาง กใ็ หเ้ คา้ พาไปดู เคา้ กอ็ า่ นใหฟ้ ัง

ช่วงกลางดึก เท่ียงคืน พระสงั ฆาธิการ เรียกรองเจา้
อาวาสเขา้ ไปพบ ทีน้ีพอมาถึง ทา่ นกพ็ ดู ตรงๆเลยวา่ โศลกของ
เจา้ แสดงวา่ เจา้ ยงั ไมร่ ู้แจง้ จิตเดิมแท้ เจา้ มาถึงปากประตู
แห่งความรู้แจง้ แลว้ เป็นเวลานาน แตเ่ จา้ ยงั ไม่ไดก้ า้ ว ขา้ ม
ธรณีประตูเขา้ ไป การแสวงหา ความตรัสรู้อนั สูงสุด ดว้ ยความ
เขา้ ใจอยา่ งของเจา้ ที่มีอยขู่ ณะน้ีน้นั ยากที่จะสาเร็จได้

ท่านก็กลา่ วตอ่ วา่ การที่ใครจะ บรรลอุ นุตรสัมโพธิได้
น้นั ผนู้ ้นั จะตอ้ งสามารถรู้แจง้ ดว้ ยใจเอง ในธรรมชาติแทข้ อง
ตวั เอง หรือท่ีเรียกวา่ จิตเดิมแท้ ชว่ั เวลาขณะจิตเดียวเทา่ น้นั ผู้
น้นั สามารถ เห็นแจง้ จิตเดิมแท้ ไดโ้ ดยตลอดกาลท้งั ปวง
ต่อจากน้นั ทุกๆส่ิง ก็จะเป็นอิสระ จากการถกู กกั ขงั จะเขา้ สู่
ความเป็นวิมตุ ติ หลดุ พน้ ไป เรียกวา่ ตถตา

17

ตถตา เป็นแต่ท่ีเป็นอยเู่ ช่นน้นั ไมอ่ าจเปลี่ยน เป็นอยา่ ง
อ่ืนได้ ซ่ึงเป็นช่ือของ จิตเดิมแทอ้ ีกชื่อหน่ึง ปรากฏข้ึนเป็นคร้ัง
เดียวชว่ั ขณะจิตเดียว ทางญี่ป่ ุนเรียกวา่ ซาโตริ ผนู้ ้นั ก็จะเป็น
อิสระ จากความหลงไดต้ ลอดกาล ไมม่ ีที่สิ้นสุด ไม่วา่
สถานการณ์รอบขา้ ง จะเป็นเช่นไร ใจของผนู้ ้นั จะยงั คงอยใู่ น
สภาพ แห่งความเป็นเช่นน้นั สถานะเช่นน้ีท่ี จิตไดบ้ รรลุถึง
นน่ั แหละคือ ตวั สจั ธรรมแท้ ไม่ใช่ตวั หนงั สือที่ไหน ไม่ใช่
ความรู้ที่ไหน ถา้ เจา้ สามารถเห็นสิ่งน้นั สิ่งท้งั ปวง โดย
ลกั ษณะการเช่นน้ี เจา้ จะไดร้ ู้แจง้ จิตเดิมแท้ ซ่ึงเป็นการ ตรัสรู้
อนั สูงสุด

ทีน้ีส่วนพระอาจารยเ์ วย่ หลาง ก็ใหห้ ลวงพี่ ช่วยเขียนให้
ใหมท่ ่ีกาแพงวดั ทา่ นเขียนวา่ อยา่ งน้ี “ไม่มีตน้ โพธ์ิ ท้งั ไมม่ ี
กระจกเงา อนั ใสสะอาด เมื่อทกุ ส่ิงวา่ งเปลา่ แลว้ ฝ่ นุ ละอองจะ
จบั อะไรได”้ นี่คือ สุญตา

ตน้ โพธ์ิก็ไม่มี ตวั เรากไ็ มใ่ ช่ของเรา มนั มีอยู่ แต่เราไม่
ไปยดึ มนั่ ถือมน่ั กบั มนั อาจารยเ์ วย่ หลาง อา่ นหนงั สือไม่ออก
แน่นอนสิ่งที่ท่านเปลง่ ออกมา ไมเ่ กิดจากการไปท่องจาคนอื่น
เคา้ มาพดู แลว้ กเ็ ม่ือทา่ นสงั ฆาธิการไปเห็น ทา่ นก็เอารองเทา้
ของทา่ นไปเชด็ ออก และกก็ ลางดึกอีกนนั่ แหละ ทา่ นก็เรียก

18

อาจารยเ์ วย่ หลางเขา้ ไปพบ คือหนา้ ฉากตอ้ งเชด็ ออก คลา้ ยวา่
ท่านบอกวา่ ไร้สาระ แต่กลางดึกเรียกเขา้ ไปพบ ทา่ นกม็ อบ
สญั ลกั ษณ์ที่เป็นสังฆาธิการน้ี ใหอ้ าจารยเ์ วย่ หลาง แลว้ กใ็ ห้
ท่านหนีออกจากวดั น้ีกลางดึกน้นั อนั น้ีจิตเห็นจิต ถา้ ทา่ นขืน
อยตู่ รงน้นั ทา่ นอาจจะเป็นอนั ตราย

คาวา่ สุญตา ก็เป็นภาษาพูด เหมือนเราบอกวา่ นิพพาน
ก็เป็นภาษาพดู ถา้ เราไม่เขา้ ถึงตรงน้นั เราจะแปล เขา้ ขา้ งทิฐิ
มานะของตวั เอง รองเจา้ อาวาสความรู้ท่าน ก็เกิดจากทา่ นเรียน
ท่านอา่ น แลว้ กท็ า่ นก็ ปฏิบตั ิระดบั หน่ึง แต่ทา่ นก็ไปติด
รูปแบบ ยงั มีตน้ โพธ์ิ ยงั มีกระจกเงาใส เห็นไหม กระจกเงายงั
ใสสะอาด ถา้ ไม่ขดั บ่อยๆมนั กม็ วั ก็เห็นตวั เองไม่ชดั ขดั แลว้ ก็
เป้ื อนอีก ขดั แลว้ กเ็ ป้ื อนอีก ถา้ เราทบุ กระจกทิง้ ตอ้ งขดั ไหม ก็
ไมต่ อ้ งขดั นน่ั แหละคือสุญตา วา่ งจากอตั ตา

ธรรมท่ีแทจ้ ริง ไมม่ ีธรรมะ ที่ไม่มีธรรมะ นน่ั แหละคือ
ธรรมมะ ปัจจุบนั ถ่ายทอดไม่มีธรรมะ แลว้ จะมีธรรมะได้
อยา่ งไร ปัจจุบนั ถา่ ยทอด ไม่มีธรรมะ เพราะมนั มีตวั กู ของกู
วธิ ีกู ความเชื่อกู วชิ ากู ธรรมะ กลายเป็นตวั หนงั สือ มนั จึง
ไม่ใช่ธรรมะ

19

ธรรมะท่ีแทจ้ ริง ไมม่ ีธรรมะ ธรรมชาติเดิม ไม่มีภาษา
ตอนน้ีความรู้ มาในรูปของภาษา มนั ไม่ใช่เร่ืองผดิ
พระไตรปิ ฎก เราก็มี แตพ่ ระพุทธเจา้ บอกอยา่ เพ่ิงเชื่อ พอเขียน
เป็นภาษา มนั จะหยาบเกินไป ความรู้ท่ีเราเรียนรู้ทกุ วนั น้ี ถา้
เรารู้ เราฟังคาพระพทุ ธเจา้ ฟังป๊ บุ เกิดปัญญา เกิดสุตมยปัญญา
แลว้ ใหเ้ ราวาง ความยดึ มนั่ ถือมน่ั วางตวั ตนได้ นน่ั มี
ประโยชน์ แตถ่ า้ ฟังป๊ บุ เอาไปจากลายเป็นสญั ญา เพิ่มอตั ตาวา่
ฉนั เป็นผรู้ ู้ ยงิ่ เรียน ก็ยงิ่ มีอตั ตาเยอะ ไปมองจบั ผิดคนอื่น อนั
น้นั ไมใ่ ช่แนวทางที่ พระองคต์ อ้ งการ เรารู้เพ่อื วาง ไม่ใช่
แปลวา่ รู้มาก ไปอวดรู้กนั นะ

พอ่ ครูบอกวา่ ดอกเตอร์สองคนคุยกนั ไม่รู้เร่ือง ชาวนา
สอนควายไถนาได้ ไม่ใช่คนเป็นดอกเตอร์ ดีหรือไมด่ ี คนเป็น
ดอกเตอร์ เป็นคนดีกม็ ีมาก แตเ่ ป็นคนชว่ั ก็มีมาก คาวา่
ดอกเตอร์ คือมาตรวดั ความรู้ ซ่ึงเราเรียนรู้ มนั เป็นชื่อมาตรวดั
ความรู้ของเรา ไมเ่ ก่ียวกบั ตวั เรา

แต่ตอนน้ีพอเราไปหลงวา่ เราเป็นดอกเตอร์ มนั มีผล
สาหรับเรา คือเป็นอตั ตาข้ึนมา เป็นหวั โขน แลว้ เรากห็ ลงวา่
เราเป็นคนเก่ง เราเป็นคนรู้ เราไปวา่ คนอ่ืนไม่รู้ ไปสร้าง
วจีกรรม ความรู้ทกุ วนั น้ี มนั เป็นแบบน้นั

20

แตป่ ัญญา กบั ความรู้คนละเรื่อง ปัญญา ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ รู้
มาก คือ รู้แจง้ เห็นจริง แลว้ ก็วางได้ ทาใหต้ วั เอง พน้ ทุกขไ์ ด้
จริง หยดุ สร้างวจีกรรม มโนกรรม กายกรรมไดจ้ ริงๆ ภาษาท่ี
เปล่งออกมา เป็นเรื่องใหธ้ รรมทานหมด ไมใ่ ช่พดู เพือ่ โออ้ วด
หรือยกตนขม่ ทา่ น อนั น้นั เป็นวจีกรรม ปัญญา คือรู้แจง้ เห็น
จริง แลว้ ก็ทาได้ เลิกสร้างกรรมได้ ทาใหต้ วั เองพน้ ทุกขไ์ ด้
นน่ั คือ ปัญญาอยา่ งยง่ิ

แตย่ คุ น้ีวิชาการต่างๆ องคค์ วามรู้ต่างๆส่วนมากเกิดมา
จากผา่ นเร่ืองภาษา ไมใ่ ช่มนั ผดิ นะ ภาษามนั เป็นกลางๆ เรา
เขา้ ใจภาษา เราก็เอาภาษาส่ือกนั เพื่อเขา้ ใจกนั แตถ่ า้ จิตไม่มี
ปัญญา เรากใ็ ชภ้ าษา ตามกิเลสเรา เราก็เอาภาษาน่ีไปวา่ เคา้ ไป
ทะเลาะกนั

ทุกวนั น้ี เราทะเลาะกนั ท้งั บา้ นท้งั เมือง เพราะภาษานน่ั
แหละ ทาร์ซานมนั ไมเ่ คยทะเลาะกบั ลิงเลย เพราะมนั ไม่มี
อตั ตา รู้มากทกุ ขม์ าก ก็อา่ นหนงั สือบา้ ง แตไ่ ม่ตอ้ งไปจา
หนงั สือ อ่านเขา้ ใจก็เขา้ ใจ ไม่เขา้ ใจผา่ น แตอ่ ่านเยอะๆเป็น
หนอนหนงั สือ นนั่ ไปสร้างอตั ตา ไปหลงวา่ ฉนั เป็นผรู้ ู้ อนั น้นั
เป็นความรู้ผดิ ความรู้ใด ที่ทาใหเ้ ราทุกข์ ถือวา่ เป็นอวิชชา
ท้งั สิ้น วชิ ชา ช.ชา้ ง สองตวั คือ ความรู้ที่ถกู ตอ้ ง รู้แลว้ ทาให้

21

เราพน้ ทกุ ขไ์ ด้ แตต่ อนน้ี เราเรียนวิชาการ ช.ชา้ งตวั เดียว เรียน
เพือ่ เป็นวชิ าหาเงิน วิชาสร้างอนาคต วิชา เพ่อื จะเอาเปรียบคน
อ่ืน อนั น้ีกลายเป็นอวชิ ชา มนั เป็นความรู้ผิด ทาใหเ้ ราสร้าง
อตั ตาข้ึนมา

ตอนน้ีเราเรียนรู้ โดยเราไปฟังคนอื่น เคา้ ยดั เยยี ดความรู้
ใหเ้ รา แลว้ เราก็ไปอ่าน ไปท่องจา แลว้ เราหลงวา่ เรารู้ เรากร็ ู้
แตเ่ รายงั ไมร่ ู้แจง้ เหมือนนาฬิกา พอ่ ครูถามวา่ สูงสุดเบอร์
อะไร เลขอะไร ทกุ คนตอบเบอร์ 12 นนั่ แหละ คาวา่ ดอกเตอร์
คาวา่ ศาสตราจารยเ์ คา้ เรียนสูงสุด ถามวา่ จากเลข 6 ถึงเลข 12
กี่นาที ทุกคนตอบ 30 นาที ถามวา่ เลข 6มาถึงเลข 6 ก่ีนาที 60
นาที

สูงสุดคืนสู่สามญั เราเรียนวิชาการ เรารอบรู้เร่ืองวิชาท่ี
เรียน แต่เราไมร่ ู้รอบ เร่ืองกฎแห่งกรรม เรากเ็ อาวิชาที่เรารู้ไป
สร้างกรรมใหม่ ไปกลา่ วโทษคนอ่ืน ไปรังแกคนอื่น ไปเอา
เปรียบคนอ่ืน อภยั ทานกไ็ มม่ ี นนั่ แหละคือความรู้แบบโลกียะ
ถา้ เรารู้รอบนะ เราจะไม่ทาอยา่ งน้นั

เราเห็นนายก. ตนี ายข. ศาลตดั สิน พยานหลกั ฐาน
ชดั เจน วีดีโอถา่ ยกเ็ ห็น กลอ้ งวงจรปิ ดเห็นหมดเลย นายก. ตี
นายข.จริงๆ บอกนายก.ผิด เอาไปจาคุก พระพทุ ธเจา้ บอก

22

อโหสิกรรม เราบอกไดย้ งั ไงๆ มนั ก็ผดิ เห็นกบั ตาเลย มี
พยานหลกั ฐาน มนั ผิด อ่าว ถา้ ไม่มีคนผิด เราจะใหอ้ ภยั ใคร
อยๆู่ เดินไป ฉนั ใหอ้ ภยั เธอนะ เคา้ มองหนา้ กค็ งจะงง บางทีเคา้
อาจจะเตะเราดว้ ยซ้า ใหอ้ ภยั กทู าไม

ทกุ เร่ือง มนั ไม่ไดเ้ กิดข้ึนลอยๆ มนั มีเหตุ ของมนั อยู่
พ่อครู กย็ กตวั อยา่ งบอ่ ยๆ สตรีทา่ นหน่ึงขบั รถไป ยางระเบิด
ชายหา้ คนขบั รถมา แกป้ ัญหาให้ อีกท่านหน่ึงกม็ าท่ีเก่าเวลา
เดิมแต่คนละวนั ผหู้ ญงิ เหมือนกนั ยางระเบิด เจอชายหา้ คน
คนใหม่ ขบั รถมาฆา่ ข่มขืน

อุบตั ิเหตุท้งั สองอยา่ งน้ี ถามวา่ ทาไมคนน้ีรอด ทาไมคน
น้ีตาย เราไปเขา้ ใจวา่ บงั เอิญ บงั เอิญคนน้ีมาเจอหา้ คน ใจดีมา
ช่วย อนั น้ีบงั เอิญอีก ไปเจอหา้ คน โหดร้ายฆา่ ข่มขืน บงั เอิญ
ไม่มีแมแ้ ต่หน่ึงอยา่ งบงั เอิญ อุบตั ิเหตุ แปลวา่ อุบตั ิข้ึนตามเหตุ
ที่เคยสร้างมา สิ่งน้ีมี ส่ิงน้ีจึงมี เหตเุ กิด ผลจึงเกิด ไมม่ ีแมแ้ ต่
หน่ึงอยา่ งบงั เอิญ

ทาไมชาตนิ ้ี เราบงั เอิญมาเจอกนั บงั เอิญเหรอ ไมม่ ี มนั
มีเหตขุ องมนั อยู่ ถา้ ไมร่ ่วมสร้างบุญกนั มา ไมไ่ ดม้ าเจอกนั อยู่
ท่ีน่ี แต่ในขณะเดียวกนั เรากเ็ คยสร้างกรรมมาดว้ ยกนั

23

ยกตวั อยา่ ง พ่นี อ้ งทอ้ งแมเ่ ดียวกนั เกิดเป็น ฝาแฝด
ออกมา คนน้ีไอคิวสูง คนน้ีไอคิวต่า ดีเอน็ เอเหมือนกนั เลยนะ
คนน้ีข้ีแย คนน้ีไม่ข้ีแย คนน้ีข้ีโกง คนน้ีข้ีเมตตา ถามวา่ ทาไม
ถึงแตกตา่ ง ท้งั ท่ียงั ไมไ่ ดส้ อนเลย ในอดีต สมมติเราเคยเป็นพ่ี
นอ้ งเรากร็ ักกนั เรากโ็ กรธกนั เราก็ตีกนั เราก็ฆา่ กนั ท้งั ฝ่าย
บวกฝ่ ายลบนนั่ แหละ มนั มีท้งั สองดา้ น อยทู่ ่วี า่ ดา้ นบวกใคร
มากกวา่ คนน้นั กไ็ ปเลย ไม่อยา่ งน้นั มนั กช็ กั กะเยอ่ ดึงกนั ไป
ดึงกนั มา

กฎแห่งกรรมมีจริง ไม่มีแมแ้ ตห่ น่ึงอยา่ ง บงั เอิญ
อบุ ตั ิเหตุ อบุ ตั ิข้ึนตามเหตุ ท่ีเคยสร้างมา สิ่งน้ีมีสิ่งน้ีจึงมี เหตุ
เกิด ผลจึงเกิด พระพุทธเจา้ ถึงบอกวา่ ตอ้ งอโหสิกรรม นายก.
ตีนายข. กไ็ มไ่ ดเ้ กิดข้ึนลอยๆ ศาลก็ไม่เคยเห็น ตอนนายข. ตี
นายก. ตอ้ งแกโ้ ดย อโหสิกรรม

เวรยอ่ มระงบั ดว้ ยการไม่จองเวร ถา้ กดั ไม่ปลอ่ ย แคน้ น้ี
ตอ้ งชาระ สิบปี ยงั ไมส่ าย ไม่ใช่สิบปี นะ ผา่ นไป9ปี 11เดือน
29วนั เหลืออีกวนั หน่ึง จะหมดวซี ่า คืนน้นั คิดถึงมนั อีก วนี อีก
แคน้ มนั มาก ตอ่ วซี ่าไปอีกสิบปี ตายแลว้ เอาไปเผา สรีระกาย
มนั ประกอบดว้ ยดิน น้า ลม ไฟ มนั ก็กลายเป็น อากาศธาตุ ที่
เหลือเป็นธาตดุ ิน ธรรมชาติบอก อยา่ คา้ กาไรเกินควร กรรมท่ี

24

มนั บนั ทึกอยใู่ น จิตวญิ ญาณ มนั ไมใ่ หเ้ ราเผาง่ายๆ แคน้ น้นั
กลายเป็นพยาบาท แบกขา้ มภพ ขา้ มชาติต่อไป

25

ทมี่ า : เร่ือง รู้แจ้งอย่างเซน
บรรยาย โดย พ่อครูบญั ชา ต้ังวงษ์ไชย
ศูนย์พลาญข่อย 14 กุมภาพนั ธ์ 2558


Click to View FlipBook Version