1
สารบัญ 2
อารมณ์สองข้วั 3
ลงั เล สงสยั 6
จิตในจิต คือ อะไร 9
รู้ไดอ้ ยา่ งไร วา่ เขา้ ไปในจิต 12
รู้สึกอยา่ งไร เม่ือ เขา้ ไปในจิต 14
อิทธิปาฏิหาริย์ 18
อธิษฐานบารมี 23
3
คนท่ีมีอาการอารมณ์สองขว้ั เวลาดกี ด็ ีสุดๆ เวลาเศร้ากท็ กุ ข์
สุดโต่ง ย่ิงเวลาโกรธแล้ว ไม่สามารถคมุ อารมณ์ได้ และพวกที่
มีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง สามารถฝึ กปฏิบตั ิภาวนาแบบท่ี
ศนู ย์นไี้ ด้ไหม และไม่ทราบว่า วิธีนีม้ ขี ้อจากัดสาหรับคน
ประเภทไหนบ้างไหม
วธิ ีน้ีไมม่ ีขอ้ จากดั แตม่ ีขอ้ จากดั คือ คนท่ีไมย่ อมปฏิบตั ิ
ไมย่ อมทา เพราะเราทาแทนไมไ่ ด้ ส่วนบางคนท่ีวิกลจริต
ลกั ษณะวา่ เป็นโรคจิต แลว้ ก็พ่งึ ยาอยู่ ยากดระงบั ประสาท
แนวที่เราปฏิบตั ิ เรียกวา่ อายตนะวปิ ัสสนากรรมฐาน เราใช้
อายตนะ ไดย้ นิ เสียง เสียงก็อายตนะ ถา้ เรากินยาระงบั ประสาท
แลว้ มนั จะทาใหอ้ ายตนะ ฝ่ ายท่ีเป็นสมอง เหมือนมนั เบลอ
มนั ชา ก็ปฏิบตั ิได้ แตจ่ ะไมเ่ ตม็ ท่ีร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะยาไป
คุมไว้ แต่ถา้ หยดุ ยา มนั จะแสดงอาการ กค็ วบคุมไม่ไดอ้ ีก
แนะนาวา่ กินไปดว้ ย ปฏิบตั ิไปดว้ ย ส่วนทาไดเ้ ท่าไหร่ ก็ไดไ้ ป
ดาเนินไปเร่ือย ๆ เมือ่ กาลงั มนั เตม็ ที่แลว้ คอ่ ยๆ ลดยาลง ก็
4
ไมใ่ ช่ขอ้ จากดั อยทู่ ี่วา่ เรามุ่งมน่ั หรือเปลา่ เราศรัทธา กบั สิ่งที่
เราทาหรือเปล่า
คนประเภทไหน ก็ปฏบิ ตั ิได้ ธรรมะไม่ใช่ของคนใด
คนหน่ึง พลงั งานที่เกิดจากการหมนุ สามารถถา่ ยทอดใหผ้ อู้ ื่น
ปฏิบตั ิได้ คนท่ีมีอารมณ์สองข้วั เพราะมนั ไมส่ มดุล เดี๋ยวดี
เด๋ียวร้าย เด๋ียวเยน็ เด๋ียวร้อน เป็นธรรมดาเป็นเร่ืองปกติ ทกุ คน
ในตวั เองมีสองข้วั อยแู่ ลว้ ข้ึนกบั วา่ อาการจะรุนแรง แค่ไหน
โดยเฉพาะ เราฝึกเขา้ ไปในจิตไดแ้ ลว้ จิตมนั บอกวา่ ไมเ่ อา แต่
ใจมนั บอกวา่ เอา มนั ก็เหมือนคนสองข้วั เรากลายเป็นคน ๆ
เดียว ที่มีสองอารมณ์ในน้นั เหมือนกนั
พระพทุ ธเจา้ คน้ พบ เรื่องมหาสติปัฏฐาน โดยยดึ หลกั
สติปัฏฐานส่ี คือ บรู ณาการระหวา่ ง กาย เวทนา จิต ธรรม
อารมณ์ก็คือเวทนา อารมณ์มนั ไมส่ มดุล เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย การ
เจริญมหาสติปัฏฐาน เป็นการ Emotion Detox คือ ลา้ งพษิ ทาง
อารมณ์ แลว้ ปรับสมดลุ ของอารมณด์ ว้ ย มนั เก่ียวกบั อารมณ์
5
ท้งั น้นั แต่ตอ้ งอาศยั ร่างกาย เป็นเครื่องมือ เทวดาทาไมไ่ ด้
เพราะไมม่ ีกาย เราจึงตอ้ งใช้ กาย เวทนา จิต ธรรม สี่ฐานน้ี
จะแบ่งเป็นสองข้วั ระหวา่ งฐานกายกบั ฐานจิต เวทนากเ็ กิดข้ึน
ท่ีใจ ใจกเ็ ป็นส่วนหน่ึงของร่างกาย ส่วนฐานจิต ฐานธรรม
ธรรมารมณ์อยใู่ นจิตใตส้ านึกเราเป็นฐานจิต เราตอ้ งบูรณาการ
ท้งั สองฐาน ใหเ้ ป็นหน่ึงเดียวใหไ้ ด้ จะเกิดพลงั พลงั จิต เคา้ จะ
ปรับสมดุลของอารมณ์ ท้งั อารมณ์ภายนอกคือ เวทนา อารมณ์
ภายใน คือ ธรรมในธรรม
ทาไปเรื่อย ๆ เด๋ียวอารมณ์ท่ีเราสุดโตง่ สองข้วั มนั จะ
ออ่ นลง แลว้ สุดทา้ ย จิตเคา้ จะแกท้ ่ีตน้ เหตุ คือ มนั มีคน ซ่ึงมี
อารมณ์สองข้วั มนั จะฆ่าคน ๆ น้นั ทงิ้ เมื่อคน ๆ น้นั ไมม่ ีแลว้
ไมม่ ีใครที่จะมีอารมณ์สองข้วั อีกตอ่ ไป ก็ตอ้ งปรับสมดุลทาง
อารมณ์ โดยใชห้ ลกั มหาสติปัฏฐาน ดาเนินไปเรื่อย ๆ
6
ลงั เล สงสัย
พลังงานที่เกิดจากการหมนุ สามารถถ่ายทอดให้ผ้อู ื่น ได้ไหม
หรือ เป็นแค่โปรแกรมของจิตในอดตี หรือว่าเราคิดปรุงแต่ง
ขึน้ เองทั้งหมด แล้วควรหยดุ ทา หรือทาไปเร่ือย ๆ จนกว่ามนั
จะหายไปเอง
หลงป่ า หาทางเดินออกจากป่ า ไม่ใช่เดินไปคร่ึงนึง
บอกเบื่อ ช้นั ไมเ่ ดินแลว้ รอใหเ้ สือมากิน รอใหไ้ ฟไหมป้ ่ า ก็
ทาตอ่ ไป การลงั เลสงสยั ของเรา มนั ก็เป็นกิเลสของเรา ท่ีเรา
เป็นนกั คิด นกั หาเหตุผล อยากรู้ทุกเร่ือง พอปฏิบตั ิก็ต้งั โจทย์
ถา้ ในทางโลกเป็นเร่ืองท่ีดี ตอ้ งถามตวั เองบอ่ ย ๆ หาคาตอบ
เราจะกลายเป็นผรู้ ู้ แตใ่ นทางจิตมนั กลบั กนั ความลงั เลสงสยั
เป็นตวั บนั่ ทอนการเดินทางของจิต เรียกวา่ นิวรณ์ มนั เป็นส่ิง
ขวางก้นั ทางเดินของจิต พอ่ ครูถึงเนน้ วา่ อารมณ์ใดเกิดข้ึน ก็
สักแต่วา่ รู้ สกั แต่วา่ เห็น ไมพ่ ิจารณาไมต่ ดั สิน ถา้ เราพจิ ารณา
เราจะเกิดความลงั เล สงสยั อีก แทนท่ีจะใชเ้ วลาเดินทาง กม็ า
7
นงั่ คิดวิจยั มนั เกิดอะไรข้ึน เหมือนเลน่ ชกั กะเยอ่ ดึงกนั ไปดึง
กนั มา มนั กไ็ ม่กา้ วหนา้ แตว่ า่ ไม่ใช่เรื่องถูก เร่ืองผิด มนั เป็น
กรรม ท่ีฝึกใหเ้ ราเป็นนกั คิด นกั ใฝ่ เรียนรู้ ตอ้ งการรู้ทกุ เร่ือง
หลายปี ก่อน มีชาวตา่ งชาติ เป็นคนอเมริกนั มาท่ีนี่ เป็น
คนหนุ่มเคา้ ทกุ ขม์ าก มนั กอ็ อกจากอารมณ์น้นั ไม่ได้ เหมือน
คนบา้ ถามพ่อครูคร่ึงวนั เคา้ บอกเคา้ เป็นคนรุ่นใหม่ ตอ้ งมี
เหตผุ ล ถา้ เคา้ ไม่เชื่อแลว้ เคา้ ก็ไม่ยอมปฏิบตั ิ ไม่ตอ้ งเสียเวลา
ซ่ึงมนั มีเหตผุ ล ที่เคา้ พดู กใ็ ช่ บางอยา่ งมนั พดู ดว้ ย เหตุผลแบบ
ตรรกะไมไ่ ด้ ยงิ่ พูดก็ยง่ิ ขดั แยง้ เพราะทกุ คนมีธงของตวั เอง
ทุกคนมีเหตุผล เขา้ ขา้ งทิฐิมานะของตวั เอง อา้ งเหตผุ ล เพอ่ื
ตอบสนองตณั หา อปุ าทาน ทิฐิมานะของตวั เอง ถึงคุยกนั ไม่รู้
เรื่อง บางอยา่ ง พระพทุ ธเจา้ ไมบ่ อกวา่ เป็นไปตามเหตผุ ล
พระองคบ์ อกวา่ เป็นไปตามเหตแุ ละปัจจยั ตามความเป็นจริง
ตามธรรมชาติ แต่ทีน้ีถา้ คนไม่มีสติปัญญา ก็สูก้ ิเลสตวั เอง
ไมไ่ ด้ กิเลสตวั อยากชนะ อยากรู้ อยากเห็น อยากเป็นผถู้ ูก
8
โยนความผดิ ใหค้ นอื่นหมด แลว้ มนั ก็สร้างเหตุผลต่าง ๆ มา
รองรับสิ่งที่ตวั เองอยาก
ฝรั่งคนน้ีคุยกบั พอ่ ครูคร่ึงวนั พอ่ ครูบอกไม่ไดเ้ รื่องแลว้
กี่วนั มนั ก็ไมจ่ บ ถามเรื่องน้ีตอบเรื่องน้ี ถามเรื่องนูน้ ตอบเรื่อง
น้ี บงั เอิญระฆงั ช่วย ไดเ้ วลากินขา้ ว วนั น้นั โรงครัวทาก๋วยเตี๋ยว
พอ่ ครูก็ถามฝร่งั วา่ คุณรู้จกั หรือเปลา่ เคา้ บอกไมร่ ู้ คนไทย
เรียกวา่ ก๋วยเต๋ียว ถา้ เธอถามพอ่ ครูวา่ รสชาติมนั เป็นยงั ไง
อร่อยม้ยั พอ่ ครูบอกอร๊อยอร่อย คุณรู้หรือเปลา่ อร่อยแคไ่ หน
ทาไมไมช่ ิมดู รับรองไม่ตาย ไม่ใส่ยาพษิ ไมเ่ สียสตางค์ เคา้
บอก I got it ช้นั จะลองกิน บางอยา่ งพดู ดว้ ยเหตุผลไม่ได้
ตอ้ งลองปฏิบตั ิดู เคา้ กล็ องปฏิบตั ิ สุดทา้ ยกอ็ ยกู่ บั พอ่ ครูเป็นปี
เคา้ กฟ็ ้ื นฟูชีวิตเคา้
มนั เกิดจากวิตกจริต เรากลวั แลว้ ที่ผา่ นมาทาไมไมก่ ลวั
กท็ าไปเร่ือย ๆ ไมต่ อ้ งหยดุ ข้ีเกียจกท็ า เบือ่ ก็ทา ต่ืนเชา้ มา
เดินทางออกจากป่ า กลางคืนมากห็ ลบั ตื่นเชา้ มาก็เดินอีก ยงั
9
ไม่ตอ้ งอา้ งเหตุผล เราจะรออะไร รอไฟไหมป้ ่ า เราหลงในป่ า
วฏั สงสาร ไม่รู้กี่รอบแลว้ รอเสือมนั มากินหรือ เดินต่อไป
จิตเข้าไปในจิต คือ อะไร
คาถามเป็นปกติ ใหมส่ าหรับคนใหม่ แต่เก่าสาหรับคน
เก่า จิตเขา้ ไปในจิตคืออะไร หลวงป่ ดู ูลยท์ า่ นเคยเปลง่ วาจา
ออกมาวา่ จิตเห็นจิตคอื มรรค ผลของจิตเห็นจิตอยา่ งแจ่มแจง้
คือนิโรธ ภาษาตวั น้ีถา้ ใครเขา้ ไปในจิตแลว้ จะเขา้ ใจภาษาน้ี
แต่ถา้ คนยงั ไม่เขา้ กจ็ ะเขา้ ใจผิด จิตเห็นจิตคือมรรค คาวา่ เห็น
ของเราคือ ไม่ตอ้ งไปเพ่งดู มีบางสายไปนงั่ ดจู ิต ถามวา่ ใคร
ดูจิต จิตก็คือเรา เรากค็ ือจิต ทีน้ีคาวา่ เห็นจิต คือไปนง่ั ดูจิต ไป
เพง่ จิต จริง ๆ แลว้ เขา้ ใจผิด จิตเห็นจิตคือมรรค ไม่ใช่เห็นโดย
การท่ีเรา ไปเพ่ง ไปดูมนั กค็ ือจิตในจิต อยา่ งสติปัฏฐานส่ี กาย
10
ในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ตอ้ งเขา้ ไปในจิตในจิต เรา
ถึงจะสมั ผสั ธรรมในธรรม ธรรมารมณ์ที่บนั ทึก ในจิตใต้
สานึกเรา ในรูปของกรรมดี กรรมชวั่
บางทา่ นตอนน้ีเป็นคนแก่ ไปเสพอารมณ์คนแก่ ตอนน้ี
เรายงั หนุ่มๆ เราเห็นคนแก่อายเุ กา้ สิบ เดินมาหลงั คอ่ มๆ ลกุ ก็
โอย นงั่ กโ็ อย น่าสงสาร เราก็จินตนาการวา่ คนแก่น่ีน่าสงสาร
เดินไวๆ ก็ไมไ่ ด้ ลกุ กโ็ อย นง่ั กโ็ อย ถามวา่ ทกุ ขแ์ คไ่ หนรู้ม้ยั
เรากไ็ ม่รู้ แตพ่ อเราเขา้ ไปในจิตในจิต เราไปเสพธรรมในธรรม
เรายอ้ นไปสู่อดีต ตอนท่ีเราเคยเป็นคนแก่ ไมใ่ ช่เราเห็นมนั
อยา่ งน้นั เราเป็นอารมณ์น้นั เราเขา้ ไปเสพอารมณ์คนแก่ได้
จริงๆ น่ีคือตวั ปัญญา ปัญญาเกิดจาการเห็นแจง้ ของจิต ไม่ได้
เกิดจากการนึกคิด การคิดพิจารณาคาดคะเน จินตนาการ คือ
เราตอ้ งเขา้ ไปเสพอารมณ์น้นั อารมณ์น้นั มีไวใ้ หเ้ สพ มีไวใ้ ห้
เห็น แตไ่ มม่ ีไวใ้ หเ้ ป็น เราก็เห็นอารมณ์น้นั วา่ คนแก่ทุกข์
11
อยา่ งไร แต่เราไม่ตอ้ งไปทุกขก์ บั มนั คือโดดเขา้ ไปเป็นอารมณ์
น้นั คลา้ ย คลา้ ยวา่ ไปอยใู่ นอารมณ์น้นั แตไ่ มห่ ลงอารมณ์น้นั
จิตเขา้ ไปในจิต คือ จิตปัจจุบนั เราหลุดพน้ จากการยดึ
ติดกบั ใจ ใจน่ีเป็นอายตนะ ตา หู จมกู ลิ้น กาย ใจ โดยเฉพาะ
ภาษาไทยเรียกไวว้ า่ จิตใจ เรากเ็ ลยเขา้ ใจวา่ ส่ิงเดียวกนั จริงๆ
แลว้ จิตก็จิต ใจก็ใจ ใจน่ีคือหวั ใจ ท่ีเราเรียกวา่ หวั ใจ เป็นกอ้ น
เน้ือกอ้ นนึง มีหนา้ ท่ีปั๊มเลือดลม หลอ่ เล้ียงร่างกาย เป็นโกดงั
เกบ็ อารมณ์ แต่มนั ทางานดว้ ยวญิ ญาณ คือ มโนวิญญาณ เป็น
พลงั ของจิต ทาใหห้ วั ใจมนั เตน้ จิตรับรู้อารมณ์ท่ีใจ รับรู้เสียง
ที่หู ใบหู ประสาทหู ติ่งหู เป็นตวั ดูดเสียงเขา้ มา แต่ตวั ไดย้ นิ
เสียงคือวิญญาณหู คือโสตะวิญญาณ ถา้ ไมว่ ญิ ญาณ มนั ไม่
ทางาน ก็ไมไ่ ดย้ นิ ตวั รู้ตวั ไดย้ นิ เสียง เป็นตวั วญิ ญาณ
เมื่อมนั ไดย้ นิ เสียง มนั ก็ส่งไปใหม้ โนวิญญาณ เขา้ ไป
ในกลอ่ งบนั ทึกโปรแกรมเรา ตวั น้ีถึงรู้เลยวา่ เสียงใคร เสียง
อะไร วญิ ญาณส่ง เปรียบเหมือนโทรศพั ทไ์ ร้สาย วิญญาณเรา
12
เคา้ กท็ างานแบบน้นั วญิ ญาณที่หูกส็ ่งมาให้ มโนวิญญาณ
วญิ ญาณท่ีตากส็ ่งมาใหม้ โนวิญญาณ วญิ ญาณที่จมกู ก็ส่งไปให้
มโนวิญญาณ วิญญาณที่ลิน้ ก็ส่งไปใหม้ โนวญิ ญาณ กาย
วิญญาณถูกกระทบ แลว้ กส็ ่งไปให้ เหมือนวญิ ญาณไมต่ อ้ งมี
มนั ส่งไร้สายเหมือนกนั นี่คือขบวนการทางาน จิตเขา้ ไปใจจิต
คือ จิตปัจจุบนั อิสระ จากความเป็นทาสของใจ เหมือนเราเขา้
ไปในเวบ็ ไซตเ์ รา คือ จิตใตส้ านึกเรา
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า จิตเข้าไปในจิตแล้ว
ถา้ แสดงอาการอะไรตา่ งๆ โดยที่สมองเรา ไม่ไดส้ ่ังการ
เป็นไปตามธรรมชาติของเคา้ พอ่ ครูถามวา่ ใครส่งั ใหเ้ ราทา
ไมใ่ ช่จิตปัจจุบนั แน่นอน อุปาทาน หรือเปลา่ ทาไมเราตอ้ ง
อุปาทาน เพอื่ มาทาสิ่งน้ี เอาแค่สมองคิด ราทาไม อาย มนั ไม่
13
ทาอยแู่ ลว้ แลว้ ใครทา ก็ดาเนินไปเร่ือย ๆ เราถึงจะรู้ คาวา่ จิต
คืออะไร เราตอบไม่ไดว้ า่ จิตคืออะไร แตม่ นั คือส่ิง ส่ิงหน่ึง
มนั ไม่ใช่นามธรรม แต่มนั ไม่ใช่รูปธรรม ทเี่ ราจะจบั ตอ้ งได้
ดว้ ยตาเน้ือ ดว้ ยเทคโนโลยี แตม่ นั ก็ไม่ใช่นามธรรม ถา้ เป็น
นามธรรมแลว้ ใครจะเป็นคนเวยี นวา่ ยตายเกิด ใครจะเป็นคน
ไปรับวิบากกรรม
มนั คือสิ่งสิ่งหน่ึง สิ่งน้นั เราสัมผสั ไดด้ ว้ ย ที่เราปฏิบตั ิ
เราเขา้ ไปสมั ผสั เคา้ มนั ตอบเป็นภาษาไมไ่ ด้ วา่ มนั คืออะไร
แตถ่ า้ ตอบงา่ ย ๆ กค็ ือ ตวั รู้ แตต่ วั รู้น้นั รูปร่างหนา้ ตาอยา่ งไร
มีก่ีแขนก่ีขา มนั แตง่ ชุดสีอะไร มนั ไม่ใช่หยาบขนาดน้นั แต่
เราสมั ผสั เคา้ ได้ โดย มหาสติปัฏฐาน จิตเห็นจิตคือมรรค เรา
เขา้ ไปในกระแส เรียกวา่ เขา้ ไปในกระแสในจิตใตส้ านึกได้
เหมือนบา้ นหลงั น้ีชื่อวา่ จิต เราไปนง่ั เพง่ บา้ นหลงั น้ีเฉย ๆ
แลว้ ก็เห็นเงาของมนั เป็นแคเ่ วทนา ไปส่องหนา้ ตา่ งดูขา้ งใน
บา้ นก็ยงั เป้ื อนเหมือนเก่า เพ่งไปจนตาย มนั ก็เป้ื อนเหมือนเก่า
14
มนั ไมไ่ ดข้ ดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส เราตอ้ งเปิ ดประตูบา้ น เขา้ ไป
ในจิตในจิต เขา้ ไปขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส ขอใหเ้ คา้ เปิ ดประตู
บา้ น แลว้ ตอนน้นั กระบวนการที่เคา้ ทา เคา้ จดั การทา ไมใ่ ช่
สมองปัจจุบนั ไมใ่ ช่จิตปัจจุบนั สั่ง มนั เป็นไปตามอตั โนมตั ิ
เราจะรู้ไดเ้ ลยวา่ นนั่ แหละ คือ จิตเคา้ ทางานแลว้
ตอนกาลังทาสมาธิเหวยี่ ง เมื่อจิตเข้าไปในจิตได้ เราจะมี
ความรู้สึกอย่างไร
เรารู้เฉยๆ มนั เคล่ือนไหวเราก็รู้ อารมณ์ดีเรากร็ ู้ อารมณ์
ร้ายเรากร็ ู้ รู้ เราเห็นอารมณ์ เห็นธรรมในธรรม ถา้ เราไมเ่ ขา้ ไป
ในจิต เราแค่เห็นเวทนา เห็นอารมณ์ภายนอก เราฝึกขวาซา้ ย
หรือไปวง่ิ จอ๊ กกิ้ง เราใชอ้ ิริยาบถของร่างกาย หรือแมก้ ระทงั่
ลมหายใจพุทโธ ก็ช่าง อยใู่ นฐานกาย ถา้ เราทาบ่อยๆ เราเดิน
15
จงกรมบอ่ ยๆ เรารู้สึกเหน่ือย เหน่ือยน่ีเป็นเวทนา เป็นอารมณ์
ภายนอก เป็นอารมณ์ปัจจุบนั ถา้ เราเขา้ ไปในจิตในจิตไม่ได้
เราจะไมม่ ีทางไปเสพธรรมในธรรม ธรรมารมณ์ ซ่ึงบนั ทึกอยู่
ในจิตใตส้ านึกเรา เหมือนเขา้ ไปในเวบ็ ไซต์ โปรแกรมดี
โปรแกรมร้าย นน่ั คือ ประสบการณอ์ ยา่ งยงิ่ ไม่ตอ้ งไปสร้าง
เวทนาใหม่ข้ึนมา ธรรมในธรรมน้นั เป็นเวทนาในอดีตชาติ
หลาย ๆ ชาติ แลว้ เราบนั ทึกเป็นสญั ญาไว้ นนั่ เรียกวา่ ธรรมใน
ธรรม มนั เป็นปัญญาเดิมของเรา
ไม่ใช่เอาเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง เราตอ้ งบรู ณาการระหวา่ ง
กาย เวทนา จิต ธรรม รวมเป็นหน่ึงเดียว สายที่เคา้ ฝึกทีละข้นั
นงั่ เขา้ ฌาน เจริญฌาน เจริญไปเร่ือย ๆ สะสม ระหวา่ งฐานกาย
ฐานเวทนา แลว้ กฐ็ านจิต เคา้ เขา้ ไปไดเ้ หมือนกนั เคา้ ก็ระลึก
ชาติไดเ้ หมอื นกนั แต่เคา้ เป็นทีละสเตป็ นนั่ เป็นพวกเดินฌาน
เคา้ จะไม่แสดง ออกมาทางกายภาพ เป็นมหาสติปัฏฐาน แบบ
แยกส่วน แบบทีละสเตป็ เรียนทีละข้นั มนั ชา้ มหาสติปัฏฐาน
16
จริง ๆ แลว้ พระพทุ ธเจา้ บอกวา่ สติปัฏฐานท้งั ส่ี คือ กาย
เวทนา จิต ธรรม ตอ้ งบริบูรณ์ เคา้ กบ็ ริบูรณ์ แตว่ า่ เคา้ ศึกษา
ต้งั แต่ ฐานกายในกาย ฐานเวทนาในเวทนา ฐานจิตในจิต แลว้
ก็ไปเสพฐานธรรมในธรรม เคา้ กร็ ะลึกชาตไิ ด้ เคา้ กบ็ รรลุ
ธรรมได้ แตเ่ คา้ ทาแบบทีละข้นั แบบแยกส่วน
แต่จริงๆ แลว้ สติปัฏฐานท้งั ส่ีตอ้ งบริบูรณ์ คือวา่
ในขณะจิตเดียวเป็นหน่ึงเดียวเลย อนั น้ีส่ิงท่ีเรากาลงั ดาเนินอยู่
จะมีความรู้สึกอยา่ งไร เรารู้ เรารู้ตามอารมณ์น้นั ๆ มนั เกิด
ไม่ใช่วา่ รู้สึกดีอยา่ งเดียว ไมใ่ ช่รู้สึกไมด่ ีดว้ ย รู้สึกเจบ็ ปวดดว้ ย
รู้สึกอะไรดว้ ย รู้สึกตามความเป็นจริง ท่ีเราบนั ทึกวิบากกรรม
ไวอ้ ยา่ งน้นั ถา้ ตอบวา่ รู้สึกอยา่ งไร มนั ตอบไม่ไดว้ า่ ตอ้ งเป็น
อยา่ งน้นั อยา่ งน้ี มนั เป็นตามท่ีมนั เป็น แต่เรารู้เฉยๆ เรารู้เฉยๆ
วา่ อะไรมนั เกิดข้ึน แลว้ ทาไมตอ้ งไปรู้ แคช่ ีวติ มีบางคนต่อวา่
พอ่ ครู ชีวิตประจาวนั น้ีกเ็ บื่อมากมายแลว้ ยงั จะไปยงุ่ กบั อดีต
ทาไม พดู อยา่ งน้ีเหมือนวา่ หน้ีสินกส็ มมุติ เหวีย่ งมนั ทิง้ ไม่
17
ตอ้ งไปสนใจ ถามวา่ ธนาคารจะยอมม้ยั เราข้ีเกียจทางาน เรา
ข้ีเกียจขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส มวั แตไ่ ปเพม่ิ สติ เพม่ิ สมาธิอยู่
อยา่ งน้นั แลว้ ของเกา่ นี่แกลง้ ลืม ไดม้ ้ยั
พระพุทธเจา้ ถึงบอกวา่ ของเก่าชาติปัจจุบนั คือ กิเลส
ตณั หา อุปาทาน ที่เราสร้างข้ึนมาใหม่ กก็ ลายเป็นของเก่าเรา
แลว้ มนั เป้ื อน ทีน้ีมนั มขี องเก่าที่ละเอียด ก่อนกวา่ น้นั อีก เป็น
อนุสัยเดิมเรา เป็นอาสวะกิเลสเรา คือ พวกหน้ีกรรม แนวที่
เราทา ทาไมมนั แรง เพราะมนั เร็ว ถา้ มนั ไมแ่ รงมนั ก็ไมเ่ ร็ว
มนั ตอ้ งเร็ว ตอ้ งแรง ถา้ สาหรับส่วนตวั พอ่ ครูแลว้ โดยเฉพาะ
ยคุ โลกาภิวตั น์ โลกาวนิ าศ ยคุ ข่าวสารไร้พรหมแดน กิเลสเร็ว
มาก ดีก็ดีไว เลวก็เลวไว เรากระทบทุกเวลาเลย ไม่มีเวลาที่จะ
คอ่ ยๆ ไปฝึกแลว้ ไมม่ ีเวลาตอ้ งวดั ดวง ส่วนใครจะวดั ไม่วดั
ชีวิตเป็นของเรา แลว้ แตน่ ะ
18
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ มีจริงม้ัย
อิทธิฤทธ์ิ ปาฏิหาริย์ พระพทุ ธเจา้ ก็ตรัสไวว้ า่ มีสาม
อยา่ ง คือ หนึ่ง อิทธิปาฏิหาริย์ เหาะเหินเดินอากาศได้ หูทิพย์
ตาทิพย์ โดยเฉพาะภาพยนตร์พระพทุ ธเจา้ เราก็เห็น เหาะข้ึน
ไปบนยอดไม้ เพื่อปรามเศรษฐี เพราะลบหลพู่ ระพุทธเจา้
อันที่สอง อาเทสนาปาฏิหาริย์ คือ ไปหยงั่ รู้วาระจิตเคา้ รู้อดีต
กรรมเคา้
ตอนน้ี ตวั เองยงั ไมร่ ู้วา่ ตวั เองเป็นใคร หาเงิน ๆ ก็เอา
เงินไปใหห้ มอดู ใหผ้ มู้ ีฤทธ์ิมาดูหน่อย บอกช้นั หน่อย วา่ ช้นั
เป็นใคร แลว้ ใหเ้ คา้ ช้ีทางชีวติ เรา ถา้ จิตมนั เขา้ ถึงตรงน้นั
มาแลว้ เมอื่ เรารู้จิตเราแลว้ เรารู้จิตคนอ่ืนหมด แตส่ องขอ้ น้ี
มนั ไมใ่ ช่ทางพน้ ทกุ ข์ พระพทุ ธเจา้ ไมส่ นบั สนุน แตพ่ ระองค์
ไม่ใช่บอกวา่ มนั ไมม่ ี ในภาพยนตร์พระพุทธเจา้ ก็มี
พระพทุ ธเจา้ บอกไมค่ วรกระทา เพราะวา่ เราไปแสดงฤทธ์ิให้
19
เคา้ เห็น เคา้ จะไปหลงวา่ การจะพน้ ทกุ ข์ ตอ้ งไปฝึกใหม้ ีฤทธ์ิมี
เดชก่อน
บางคนก็คาดคะเน ไม่รู้จริงหรอก หมอดูหมอเดา อา้ ง
โน่นอา้ งน่ี อดีตกรรมเคา้ เป็นยงั ไง กเ็ พ่ือจะใหเ้ คา้ ไปทาบุญ
เม่ือเคา้ รู้แลว้ น่ีเคา้ ทกุ ขแ์ ลว้ เคา้ ไมท่ าบุญ เคา้ กน็ อนไม่หลบั
เคา้ กต็ อ้ งไปทา แต่เคา้ ไม่ไดอ้ ะไรเลย เคา้ ไมไ่ ดป้ ัญญาเลย ยงั
ทาใหเ้ คา้ หลงอีก สองขอ้ น้ีพระพทุ ธเจา้ ไม่สนบั สนุน พระองค์
สนบั สนุน ขอ้ ที่สามคืออนสุ าสนปี าฏิหาริย์นะ คือ พดู คือช้ีทาง
ใหเ้ คา้ เกิดปัญญา เคา้ ไดป้ ัญญากลบั บา้ น เพราะปัญญาเทา่ น้นั
ที่จะทาใหเ้ คา้ พน้ ทุกข์ เป็นอิทธิฤทธ์ิอยา่ งนึง อทิ ธิปาฏิหาริย์
พอ่ ครูกเ็ อามาพดู ใหฟ้ ัง เป็นตวั อยา่ ง เพอ่ื ใหท้ กุ คนมอง
ภาพชดั คร้ังน้นั พระเทวทตั หลีกเร้นอยใู่ นท่ีสงดั ไดเ้ กิด
ความคิดคานึงข้ึนในใจวา่ เราจะพงึ ยงั ใครหนอใหเ้ ล่ือมใส ซ่ึง
เม่ือเขาเลื่อมใสเราแลว้ ลาภสักการะ เป็นอนั มากพึงเกิดข้ึน
ลาดบั น้นั พระเทวทตั ไดม้ ีความคิด ดง่ั น้ีวา่ อชาตศตั รูกมุ ารน้ี
20
ยงั เป็นหนุ่ม จะมีความเจริญรุ่งเรืองตอ่ ไป ถา้ เราพงึ ยงั อชาต
ศตั รูกมุ ารน้ีใหเ้ ลอ่ื มใส เมื่อเคา้ เลื่อมใสแลว้ ลาภสกั การะเป็น
อนั มาก จะเกิดข้ึน ลาดบั น้นั พระเทวทตั เกบ็ เสนาสนะ ถือ
บาตร และจีวร จาริกไปทางกรุงราชคฤห์ จนถึงกรุงราชคฤห์
โดยลาดบั
คร้ังน้นั พระเทวทตั ไดแ้ ปลงเพศ เนรมิตตนเป็นกุมาร
นอ้ ย เอางพู นั เอวปรากฏบนพระเพลา คือ ตกั ของอชาตศตั รู
กุมาร คร้ังน้นั อชาตศตั รูกุมารทรงกลวั หวาดหวนั่ สะดงุ้
ตกพระทยั พระเทวทตั จึงถามวา่ กุมาร ทา่ นกลวั ช้นั หรือ
พระกมุ ารตรัสวา่ ใช่ เรากลวั ท่านเป็นใคร พระเทวทตั ตอบวา่
ช้นั คือพระเทวทตั พระกุมารตรัสวา่ ถา้ ท่านเป็นพระคุณเจา้
เทวทตั ก็กลบั เป็นตามเพศเดิมเถิด เพราะกลวั
คร้ังน้นั พระเทวทตั เปล่ียนเพศกมุ ารนอ้ ย กลบั เป็น
ภิกษุ ทรงสังฆาฏิ บาตรและจีวร ยนื อยขู่ า้ งหนา้ พระกุมาร
ลาดบั น้นั พระกุมารเล่อื มใสยง่ิ นกั เพราะอิทธิปาฏิหาริยน์ ้ี ได้
21
เสดจ็ ไปอปุ ัฏฐากท้งั เวลาเยน็ และเวลาคา่ เวลาเชา้ พร้อมดว้ ย
ราชรถหา้ ร้อยคนั ไดน้ าอาหารหา้ ร้อยสารับไปดว้ ย ตอ่ มา
พระเทวทตั ถกู ลาภสกั การะ และความสรรเสริญ ครอบงา
เกิดความตอ้ งการดงั่ น้ีวา่ เราจะปกครองภิกษุสงฆ์ พระเทวทตั
จึงเส่ือมจากฤทธ์ิ พร้อมกบั เกิดความคิดเช่นน้ี พระเทวทตั ถกู
อสัทธรรมสามอยา่ ง ครอบงาย่ายจี ิตใจ ตอ้ งไปเกิดในอบาย
ตอ้ งไปเกิดในนรก ดารงอยชู่ ว่ั กปั แกไ้ ขไม่ได้ อสทั ธรรม
สามอยา่ ง คือ หน่ึงความปรารถนาชวั่ สองความท่ีมีมิตรชว่ั
สาม การไดบ้ รรลุคุณวิเศษข้นั ต่า แลว้ เลิกเสียกลางคนั ไม่
ปฏิบตั ิตอ่ แลว้ ไปหลงติดในสภาวธรรมน้นั โดยเขา้ ใจวา่ เป็น
การบรรลธุ รรมแลว้ มนั เป็นอภิญญาอยา่ งหน่ึง
อิทธิฤทธ์ิ ปาฏิหาริย์ มนั มี แตม่ นั ไมใ่ ช่ทางพน้ ทกุ ข์
แลว้ ทาใหเ้ ราหลงดว้ ย โดยเฉพาะเราเป็นปุถชุ น เราถูกสอนให้
พฒั นาตวั เอง ตอ้ งพิเศษกวา่ คนอื่น เรามีกิเลสตรงน้ีอยแู่ ลว้
เม่ือไปเจออภิญญาเหลา่ น้ี ทกุ คนกไ็ ปติดมนั ทีแรกก็อา้ งวา่ จะ
22
ช่วยเหลือคนได้ เป็นขอ้ อา้ งของกิเลส พอทาไปทามา ก็ไปหลง
หลงกบั สกั การะ หลงลาภยศสรรเสริญ แลว้ สุดทา้ ยจิตมนั ก็
เสื่อม ตกนรก มนั เป็นแค่ โลกียอภิญญา มนั เป็นอิทธิฤทธ์ิ
ปาฏิหาริย์ เป็นอภิญญาแบบโลกๆ ไมใ่ ช่ทางพน้ ทุกข์
ทางพน้ ทกุ ขต์ อ้ งเป็น โลกุตระอภิญญา มีอยา่ งเดียว
เทา่ น้นั คือ อาสวกั ขยญาณ ญาณรู้วา่ ดว้ ยการกาจดั อาสวกิเลส
ก็คือ มรรคมีองคแ์ ปด กย็ กตวั อยา่ งใหฟ้ ังใหเ้ ขา้ ใจ อยา่ ไปติด
มนั เราเขา้ ไปในจิตแลว้ สวรรคก์ ็เหวยี่ งทิ้ง นรกก็เหวีย่ งทิ้ง ดีก็
เหวี่ยงทิง้ ชว่ั กเ็ หวีย่ งทิง้ เหวย่ี งทิ้งในที่น้ี ไมใ่ ช่ไปเหวย่ี ง
สวรรคท์ ิ้ง เหวี่ยงนรกทิ้ง เราเหว่ียงทงิ้ ไมไ่ ด้ มนั กม็ ีของมนั
นนั่ แหละ เหวย่ี งความยดึ มน่ั ถือมนั่ ท่ีเราจะไปหลงติดมนั ทิง้
คือเตือนเราวา่ อยา่ ไปติดมนั ลา้ งไปเร่ือย ๆ ยงิ่ ใหญแ่ ค่ไหนก็
ไม่เอา ถา้ ทุกคนสามารถระลึกชาติไดจ้ ริงๆ มีทิพยจกั ษุ เรา
เป็นมาหมดแลว้ แลว้ เราอยากจะเป็นอะไร อกี หรือ เราเกิดมา
23
เพอ่ื จะไมเ่ ป็น หนทางสู่การพน้ ทกุ ข์ คือตอ้ งเลิกเป็น เป็นทาง
ทางเดียวท่ีเราจะพน้ ทุกข์
อธิษฐานบารมี เกิดขึน้ ได้จริงหรือ แล้วต่างอะไรกับการทา
พิธีกรรม สวดอ้อนวอน เพ่ืออธิษฐานขอให้ได้ส่ิงที่ต้องการ
จะเป็ นการไถ่บาปได้จริ งหรื อ
อธิษฐานบารมี มีอยใู่ นบารมีสิบทศั อธิษฐานในน้นั
ไมใ่ ช่อธิษฐาน เพอื่ ขอจะไดอ้ ะไร สมมุติวา่ มาทาบญุ กบั
พระพทุ ธเจา้ ไหวพ้ ระพทุ ธรูป ซ่ึงเป็นแคส่ ญั ลกั ษณ์ ของ
พระพุทธเจา้ เทา่ น้นั เอง เราไหวใ้ นฐานะส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ แลว้ ก็
ขอโน่นขอนี่ เป็นอธิษฐานฝ่ ายกิเลส สนองความอยากตวั เอง
เรากราบไหวพ้ ระพุทธเจา้ ในฐานะพระพุทธรูป เป็นแค่
สญั ลกั ษณ์ เพือ่ ระลึกถึง ครูบาอาจารย์ ผรู้ ู้ ผตู้ ื่น ผเู้ บิกบาน
ผหู้ ่างไกลจากกิเลส ไมไ่ ดก้ ราบไหวใ้ นฐานะส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ แลว้
24
กข็ อโน่นขอนี่ พระพทุ ธเจา้ ไมไ่ ดท้ รงสอนแบบน้นั พระองค์
สอนใหเ้ ราพ่งึ ตนเอง ทาบุญกบั พระพุทธเจา้ ร้อยบาท สาธุ
อธิษฐานจิตขอใหถ้ ูกรางวลั ที่หน่ึง นี่ไม่ใช่อธิษฐานบารมี น่ีคา้
กาไรเกินควร เป็นกิเลสท้งั น้นั
ส่วนอธิษฐานบารมีน้ี ก็คือ อธิษฐานเพอ่ื ต้งั สัจจะ
ใหก้ บั ตวั เอง เพ่อื ความมุง่ มนั่ เพ่อื ความเพียร ไมใ่ ช่อธิษฐาน
เพอ่ื ขอ เป็นการย้าเตอื น เตือนสติใหม้ ีขนั ติ มีความมงุ่ มนั่
เราทาอะไรกช็ ่าง ถา้ เราทาดว้ ยความมุ่งมนั่ เราอธิษฐานแลว้ วา่
เราจะมงุ่ มนั่ เพื่อพน้ ทกุ ข์ พน้ ทุกขค์ ือไม่ไดอ้ ะไร เราจะไดม้ ี
ความมงุ่ มน่ั เมอ่ื มีความม่งุ มน่ั มนั กเ็ กิดผล อธิษฐานบารมี
แบบน้ีมีจริงแน่นอน เกิดข้ึนไดจ้ ริง ๆ ส่วนอธิษฐานเพ่ือขอ
มนั เป็นการ สนองกิเลสตณั หา ไมใ่ ช่อธิษฐานฝ่ ายกศุ ล
ก็มีตวั อยา่ ง สมยั หน่ึงพระผมู้ ีพระภาค ประทบั อยู่ ณ
ปาวาริกอมั พวนั เขตเมอื งนาลนั ทา คร้ังน้นั ผใู้ หญ่บา้ น ชื่อ
อสิพนั ธกบุตร ไดท้ ลู ถามพระผมู้ ีพระภาคดงั น้ี วา่ ขา้ แต่
พระองคผ์ เู้ จริญ พวกพราหมณ์ชาวปัจฉาภูมิ มีคนโทน้าติดตวั
25
ประดบั พวงมาลยั สาหร่าย อาบน้า ทุกเชา้ เยน็ บาเรอไฟ
พราหมณ์เหลา่ น้นั ชื่อวา่ ทาสัตวท์ ี่ตายแลว้ ใหฟ้ ้ื น ใหร้ ู้ชอบ
ใหข้ ้ึนสวรรค์ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จริญ พระผมู้ พี ระภาคอรหนั ต
สมั มาสมั พุทธเจา้ สามารถจะทาสตั วโ์ ลกท้งั หมด หลงั จากตาย
แลว้ ใหไ้ ปเกิดในสุคตโิ ลกสวรรค์ ไดห้ รือ
พระผมู้ ีพระภาค ตรัสตอบวา่ ผใู้ หญ่บา้ น ถา้ เช่นน้นั
เราจกั ยอ้ นถามในปัญหาขอ้ น้ี พงึ ตอบตามสมควร ทา่ นเขา้
ใจความขอ้ น้นั อยา่ งไร บรุ ุษในโลกน้ี เป็นผฆู้ า่ สตั ว์ ลกั ทรพั ย์
ประพฤติผดิ ในกาม พดู เทจ็ พดู ส่อเสียด พดู คาหยาบ พูดเพอ้
เจอ้ เพ่งเลง็ อยากไดข้ องเคา้ มีจิตพยาบาท เป็นมิจฉาทิฐิ หมู่
มหาชนพงึ มาประชุม แลว้ สวดออ้ นวอน สวดสรรเสริญ
ประนมมือเดินเวยี นรอบบุรุษน้นั วา่ ขอบรุ ุษน้ีหลงั จากตายแลว้
จงไปเกิด ในสุคติโลกสวรรคเ์ ถิด
ทา่ นเขา้ ใจความขอ้ น้นั วา่ อยา่ งไร บุรุษน้นั หลงั จากตาย
แลว้ พงึ ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เพราะการสวดออ้ นวอน
เพราะการสวดสรรเสริญ หรือเพราะการประนมมือเดินเวยี น
26
รอบ แห่งหมู่มหาชน เป็นเหตไุ ดห้ รือ พระพทุ ธเจา้ ถาม
ผใู้ หญ่บา้ นกต็ อบวา่ ไม่ไดพ้ ระพทุ ธเจา้ ขา้ พระองคก์ ็ถามตอ่
ผใู้ หญ่บา้ น เปรียบเหมือนบุรุษ โยนกอ้ นหินใหญ่ ลงในทอ้ ง
น้าลึก หมมู่ หาชนพงึ มาประชุม สวดออ้ นวอน สวดสรรเสริญ
ประนมมือเดินเวียน รอบกอ้ นหินใหญ่ น้นั วา่ โผล่ข้ึนเถดิ พอ่
กอ้ นหินใหญ่ ลอยข้ึนเถิดพอ่ กอ้ นหินใหญ่ ข้ึนบกเถิด พอ่ กอ้ น
หินใหญ่ ทา่ นเขา้ ใจความขอ้ น้นั อยา่ งไร กอ้ นหินใหญน่ ้นั พงึ
โผลข่ ้ึน ลอยข้ึน หรือข้ึนบก เพราะการสวดออ้ นวอน เพราะ
การสวดสรรเสริญ หรือเพราะการประนมมือ เดินเวียนรอบ
แห่งหมู่มหาชน เป็นเหตุไดห้ รือ
ไมไ่ ด้ พระพทุ ธเจา้ ขา้ ผใู้ หญ่บา้ นตอบ อปุ มาน้นั ฉนั ใด
อุปมยั น้ีก็ฉนั น้นั เหมอื นกนั บรุ ุษท่ีเป็นผฆู้ า่ สัตว์ ลกั ทรัพย์
ประพฤติผดิ ในกาม พดู เทจ็ พูดส่อเสียด พดู คาหยาบ พูดเพอ้
เจอ้ เพง่ เลง็ อยากไดข้ องเคา้ มีจิตพยาบาท เป็นมิจฉาทิฐิ หมู่
มหาชนพงึ มาประชุม แลว้ สวดสรรเสริญ ประนมมือเดินเวียน
รอบบรุ ุษน้นั วา่ ขอบุรุษน้ีหลงั จากตายแลว้ จงไปเกิดในสุคติ
27
โลกสวรรคเ์ ถิด ถึงกระน้นั บุรุษน้นั หลงั จากตายไปแลว้ พึงไป
เกิดในอบาย อบายทคุ ติ วนิ ิบาต นรก
ยกตวั อยา่ งใหฟ้ ัง ถา้ เราทาชวั่ แลว้ เหมือนเราโยนหินลง
ไปในน้า เราทาพธิ ีกรรมยงั ไง กช็ ่าง หินมนั ลอยข้ึนไม่ได้
มนั แก้ บุญใครบุญมนั กรรมใครกรรมมนั แต่ตอนน้ีเคา้ บอก
ใหเ้ รา ไปทาพธิ ีกรรมอะไรตา่ งๆ ก็เป็นอบุ ายวธิ ี ทาใหเ้ รา
สบายใจ แตม่ นั ไปแกก้ ฎแห่งกรรมน้นั ไม่ได้
ในภาพยนตร์พระพทุ ธเจา้ พระปเสนทิโกศล ท่านทรง
สุบิน คือฝันร้าย พราหมณ์กว็ นิ ิจฉยั ความฝันน้นั วา่ พระบดิ า
ซ่ึงสิ้นพระชนมไ์ ปแลว้ น้นั ไปสู่ทุคติภูมิ วิญญาณน้นั มีความ
ทุกขม์ าก พระเจา้ ปเสนทิโกศล กค็ ิด อยากจะทาพิธีบวงสรวง
ทาบญุ ส่งไปใหเ้ สด็จพอ่ เลยนิมนตใ์ หพ้ ระพทุ ธเจา้ พร้อมท้งั
คณะมาทาพิธีให้ พอพระพทุ ธเจา้ เดินทางมาถึง กเ็ ห็นเคา้ จดั
พธิ ีแบบพราหมณ์ พระเจา้ ปเสนทิโกศล ก็รายงาน เล่าเร่ืองให้
ฟังท้งั หมด
28
พระพุทธเจา้ ตอบวา่ ทา่ นจะทาพิธีให้ ทา่ นกส็ ง่ั ใหไ้ ป
เอาหมอ้ ดินมาสองหมอ้ หมอ้ นึงใส่น้ามนั หมอ้ นึงใส่หินกรวด
มาใหเ้ ตม็ หมอ้ แลว้ เอามา พระพทุ ธเจา้ กม็ อบหมอ้ สองใบ ให้
พระเจา้ ปเสนทิโกศล เดินถือลงไปริมน้า บอกเอาวางลงไป
ในน้า แลว้ ทา่ นก็มอบไมใ้ หท้ ่อนนึง บอกวา่ ตหี มอ้ น้นั ใหแ้ ตก
พอตีหมอ้ แตกแลว้ หินกรวดน้นั ก็จมลงไปในน้า ส่วนน้ามนั ก็
ลอยข้ึนบนผวิ น้า
พระพทุ ธเจา้ ถามวา่ ทา่ นสามารถทาพิธีบวงสรวง เมื่อ
เสร็จพิธีแลว้ ใหห้ ินกรวด มนั ลอยข้ึนมาไดห้ รือไม่ พระเจา้
ปเสนทิโกศล บอกวา่ ไม่ได้ แลว้ ก็ทาใหน้ ้ามนั มนั จมลงไป
ในน้า ไดห้ รือไม่ ทา่ นก็บอกไมไ่ ด้ เพยี งแคน่ ้ี พระเจา้
ปเสนทิโกศล มีดวงตาเห็นธรรม ทา่ นบอกวา่ ท่านเขา้ ใจแลว้
เวลาพอ่ แม่อยู่ เราจะทาบุญ กร็ ีบทากบั ทา่ น พอท่านจาก
ไปแลว้ เรารู้ไดอ้ ยา่ งไร วา่ ทา่ นไม่ไปเกิดอีกแลว้ คนจีนท่ีเคา้ มี
วนั เชงเมง้ ไปกราบไหวบ้ รรพบรุ ุษ มนั ไมใ่ ช่เร่ืองไม่ดี เป็น
อบุ ายวธิ ี ที่ทาใหค้ นอยู่ ไมว่ า่ งแคไ่ หนกช็ ่าง เพ่อื แสดงออกถึง
29
ความกตญั ญูรู้คุณ ไดเ้ ป็นวนั พบญาติ แต่ตอนน้ีพอ่ ครูติดตาม
ขา่ ว ไมใ่ ช่อยา่ งง้นั แลว้ คนน้ีเป็นวนั ค่ี คนน้นั เป็นวนั คู่ ไม่
อยากเจอพน่ี อ้ ง ไมไ่ ดป้ ระโยชน์อะไรเลย คนท่ีไปแลว้ กไ็ ป
แลว้ อยา่ งน้ามนั ลอยข้ึนขา้ งบน น้าเปรียบเสมือนคนทาบุญ
คนทาบุญอยบู่ นผิวน้า ยงั มีโอกาสไหลไปตามกระแสน้า ยงั
กา้ วหนา้ ต่อไป แต่คนทาบาป เหมือนคนตกนรก เหมือนหินที่
มนั จมอยใู่ นน้า เราขบั ยงั ไงกไ็ ปไมไ่ ด้
ถามวา่ เราทาบุญแผส่ ่วนกุศล ใหค้ นท่ีเคา้ จากไปแลว้
ได้ หรือไมไ่ ดร้ ับ คาตอบ คือไดร้ ับ แลว้ กไ็ ม่ไดร้ ับ ส่วน
พระพุทธเจา้ ท่านจากไปแลว้ บอกทาบญุ ใหพ้ ระพุทธเจา้ อนั น้ี
โกหก พระพทุ ธเจา้ ไมต่ อ้ งการบุญจ๊ิบจอ๊ ย กบั พวกเรา อยา่ ไป
เล่นของพวกน้ี บางทีทาอุบายไป อบุ ายมา เพือ่ จะปลดปลอ่ ย
ความเศร้า ความเสียใจเรา กลายเป็นวา่ ไปหลงอุบายน้นั เอา
เป็นจริงเป็นจงั ไปหลง ก็ไมใ่ ช่ทางพน้ ทุกข์ พระพุทธเจา้
ยกตวั อยา่ งดีมาก ง่าย ๆ ปลดเปล้ือง ใหค้ วามโศกเศร้า ให้
ความเขา้ ใจผิด หลงผดิ น้นั สวา่ งได้ กรรมใครกรรมมนั บุญ
ใครบุญมนั
30
พระพุทธเจา้ สอนแบบ วทิ ยาศาสตร์อยา่ งยง่ิ ไมใ่ หไ้ ป
หลงงมงายสิ่งเหลา่ น้ี บางทีประเพณีวฒั นธรรม เป็นแค่อุบาย
วิธี ทาใหเ้ ราไดป้ ลอ่ ยวาง สมมตุ ิวา่ เราเป็นคนข้ีเหนียว ข้ี
ตระหนี่ ไมเ่ คยใหเ้ ลย ก็เอาบุญ จากการทาบญุ ทาทาน มาเป็น
อบุ าย เพอ่ื สลดั ความโลภ ความตระหน่ีออก บญุ ท่ียงิ่ ใหญ่ การ
ทาทานที่ยงิ่ ใหญ่ท่ีสุด เรียกวา่ สุญญตาทาน เป็นทานท่ีไม่มี
ผรู้ ับ ไม่มีผใู้ ห้ ไมต่ อ้ งระบเุ จา้ กรรมนายเวรเรา
พระพุทธเจา้ บอก สตั วท์ ้งั หลายเป็นเพอื่ นทกุ ข์ เกิดแก่
เจบ็ ตาย ดว้ ยกนั ท้งั หมด ท้งั สิ้น ไมใ่ ช่ระบใุ หเ้ ฉพาะเจา้ กรรม
นายเวรเรา เทา่ ท่ีเราจาได้ คือชาติน้ีชาติเดียว มดมอดแตล่ ะตวั
กเ็ คยเป็นเจา้ กรรมนายเวรเรา เคยเป็นพ่อเป็นแม่เราดว้ ย ถา้ เรา
เขา้ ใจ ในส่ิงท่พี ระพุทธเจา้ สอน เราจะไม่หลงงมงาย เราทาบุญ
เราปฏิบตั ิธรรม เราก็แผเ่ มตตา ใหส้ รรพสัตวท์ ้งั หมด ไม่ตอ้ ง
เลือกระบุวา่ เป็นญาตชิ ้นั เจา้ กรรมนายเวรของช้นั ยงั รักษา
ความข้ีเหนียวอยู่ ใหเ้ ฉพาะคนของช้นั คนของคนอื่นช้นั จะ
ไม่ให้ อนั น้นั ไดบ้ ญุ นอ้ ย สุญญตาทาน เป็นบญุ ที่ยงิ่ ใหญ่
31
วนั น้ีพอ่ ครู ก็มีโอกาสไดท้ าบญุ พอ่ ครูพาเดก็ ของเรา
สามสิบแปดคน พาไปเลน่ น้าในเข่ือน แลว้ ก็กินขนมนมเนย
เราทาบญุ เล้ียงเด็ก ส่วนเราทาบุญเล้ียงพระ เล้ียงทกุ วนั อยแู่ ลว้
เล้ียงชีทกุ วนั เล้ียงเณรทุกวนั อยแู่ ลว้ โอกาสท่ีจะเล้ียงเด็กนอ้ ย
มาก คือเราทาจริงๆ ไมใ่ ช่มีแตพ่ ดู เด็กๆเคา้ กร็ ักเรา เคา้ กม็ ี
ความรู้สึกอบอุ่น ตอ่ ไปเราขออะไรเคา้ ขอใหเ้ คา้ ทาส่ิงดี ๆ
เคา้ กท็ าใหเ้ รา ไม่ใช่ลกู เป็นคนดี เป็นคนดี ไม่เคยพาลูกไป
ทาความดี แคอ่ ยา่ ไปทาความชวั่ ใหพ้ ่อแมเ่ ดือดร้อนเทา่ น้นั เอง
นน่ั แหละคนดีของเคา้ แลว้ มนั จะดีไดอ้ ยา่ งไร เราตอ้ งพาเคา้
ทาความดี ความดีคือใหไ้ ด้ อภยั ได้ รู้จกั รับผิดชอบตวั เอง
กบั สังคม ตอนน้ีกต็ วั ใครตวั มนั ใครรักชอบอยา่ งไร กใ็ ชค้ าวา่
นิมนต์
ส่วนพ่อครู กเ็ ป็นแบบพ่อครูนี่แหละ แบบท่มี นั ไมม่ ี
แบบ มีเวลาวนั นึง เราก็ทาในสิ่ง ที่มนั พงึ จะเป็น พงึ จะทา ไม่
ตอ้ งไปรายงานใคร แตม่ ีโอกาสกเ็ ลา่ ประสบการณ์ ท้งั ทางโลก
ทางธรรม ใหพ้ วกเราฟัง ทางโลกพอ่ ครูไปมาสุดๆ แลว้ ซิ่งแค่
ไหน ก็ซ่ิงมาแลว้ ทาไมจ่ ะไมร่ ู้ รู้โลกอยา่ งแจ่มแจง้ รู้วา่ คน
32
โลกเคา้ คิดอะไรอยู่ เคา้ รักลูกแบบไหน เคา้ ไม่ไดร้ ักลกู เคา้ เลย
เคา้ รักอนาคตลูกเคา้ มากกวา่ เรียนเกง่ เก่งลูก จะไดเ้ ป็นเจา้ คน
เป็นนายคน จะไดร้ ่ารวยมงั่ คง่ั แลว้ นน่ั จึงจะมีความสุข ไป
สอนเป็นชุดวชิ าเลย กลวั ไมท่ กุ ขเ์ หมือนเรา กม็ ีโอกาสเตือน
พอ่ ครูก็เตือน
ขอบคุณมากท่ีใหพ้ อ่ ครู ไดม้ ีโอกาสไดท้ าบญุ ไม่ใช่พดู
เฉย ๆ ทามายสี่ ิบหกปี แลว้ มนั เหลือเวลาวนั นึง กท็ าวนั นึง
ทาเพราะทา ธรรมะคอื หนา้ ที่ หนา้ ที่คือธรรมะ ขอใหเ้ รามี
เมตตา รักเคา้ แลว้ สุดทา้ ยเราจะเปล่ียนเคา้ ได้ จิตเดิมทุกดวงจิต
ดีอยแู่ ลว้ แตม่ นั ถูกสิ่งแวดลอ้ ม โดยเฉพาะเดก็ ในชนบทแถวน้ี
พอ่ แมเ่ คา้ หนุ่มสาวว่ิงตามเงิน คนแก่เล้ียงหลานท่ีบา้ น เดก็ มนั
มีสองอยา่ ง หน่ึงซึมเศร้า สองกา้ วร้าว มนั เอาตวั รอด เราตอ้ ง
แกด้ ว้ ยเมตตา เมตตาธรรมค้าจุนโลก อยา่ เอาแต่พูด ตอ้ งเมตตา
จริงๆ เดก็ ไมไ่ ดย้ าก คนยากคือผใู้ หญ่ต่างหาก มีธงของตวั เอง
จะเอาแตใ่ จตวั เอง เราบอกรักลูก รักลกู ทกุ คนกร็ ักลูกหมด
ใครจะไม่รัก แตร่ ักแบบไหน เรารักชีวิตเคา้ จริงม้ยั หรือเรารัก
33
อนาคตเคา้ ใหเ้ คา้ เอาชีวิตไปทกุ ข์ เพ่ือสร้างอนาคต เราทุกขย์ งั
ไมพ่ อเหรอ ทุกข์ ทุกข์ เพอ่ื จะสร้างอนาคต
สามีจะขายสิบบาท ภรรยาจะขายสิบเอด็ บาท เถียงกนั
สามวนั ไมม่ องหนา้ กนั แค่เงินบาทนึง แลว้ คุณจะไปหาเงินมา
ทาไม คุณไมเ่ อาชีวิต คุณจะเอาแพ้ เอาชนะ เอาอนาคต มนั ก็
กระทบถึงลูก ผใู้ หญ่อยา่ ทะเลาะกนั อยา่ ใหเ้ ด็กมนั รู้ใหม้ นั เห็น
เดก็ ก็คือเดก็ เราไม่รักเคา้ จริง ๆ เราไม่ไดห้ ่วงความรู้สึกของ
เคา้ เราห่วงแตค่ วามรู้สึกของเรา เดก็ เป็นเหยอ่ื
พ่อครูพดู แรง ยคุ น้ีการศึกษา ทาใหเ้ ดก็ หลงทาง เป็นแค่
ไปท่องจา เลียนแบบวชิ าของคนอื่น เป็นนกั เลียนแบบ ไม่ใช่
นกั เรียนรู้ อินเทอร์เนต็ นี่กต็ อ้ งระวงั พอ่ ครูสร้างคอมพิวเตอร์
ดว้ ยมือพอ่ ครูเองเลย ตอนอยอู่ เมริกา แต่ตอนน้ีเลน่ ไมเ่ ป็น
มนั ลืมวิชาหมด รับโทรศพั ท์ กดไมเ่ ป็น อินเทอร์เนต็ คือ
กบั ดกั ทางความคิด ลูกหลานเราเขา้ อินเทอร์เนต็ เคา้ คิดวา่ เคา้
รู้หมด รู้มาก พ่อแมเ่ ตา่ ลา้ นปี อยา่ พดู มาก พ่อครูตอนน้ีเขา้
อินเทอร์เน็ต ก็ไม่เป็น เคา้ วา่ พอ่ ครูน่ีเต่าลา้ นปี ไม่ทนั สมยั
34
จริงๆแลว้ พอ่ ครูเป็นคนทนั สมยั ที่สุดเลย แตเ่ ดก็ ทุกวนั น้ีมนั
แคต่ ามสมยั มนั ไม่ทนั สมยั มนั ถูกสมยั หลอก พอ่ ครูทนั สมยั
พ่อครูถึงไมต่ อ้ งใชม้ ือถอื เราตามสมยั ต่างหาก มนั เปล่ียนรุ่น
ใหม่ ก็ว่ิงไปตามมนั ตามมนั นนั่ ไมใ่ ช่ทนั สมยั ยงั เป็นทาส
ของมนั ผใู้ หญ่เป็นทาสไมพ่ อ ใหล้ กู หลานเป็นทาสอีก พอ่ ครู
เห็นแลว้ สงสารเด็ก ก็เปิ ดโรงเรียน แตท่ า เทา่ ท่ีกาลงั เราทาได้
ถา้ พอ่ ครู มีครูใจถึงหน่อยนึง เปิ ดกี่แห่ง กไ็ มเ่ ป็นไร แต่
ตอนน้ีหาครูยาก ครูถกู ฆ่าตายหมดแลว้ ในเมอื งไทย เหลือแต่
อาจารยห์ น่ึง อาจารยส์ อง อาจารยส์ าม ครู คอื คุรุ ผปู้ ระสาท
วชิ า แตต่ อนน้ี เป็นอาจารยข์ ายวชิ า ในหอ้ งเรียนช้นั กใ็ หเ้ ธอ
เท่าที่ใหไ้ ด้ ไปเรียนพเิ ศษช้นั กใ็ หพ้ เิ ศษ
หมอกเ็ หมือนกนั หมอกต็ ายหมดแลว้ เคา้ ไม่ใหเ้ ป็น
หมอ เป็นธุรกิจการแพทยห์ มด หมอในอดีตเห็นคนไขท้ ุกวนั
แพทยป์ ัจจุบนั เห็นแต่ไข้ ไมเ่ ห็นคน ไขน้ ้ีราคาแค่น้ี ไขน้ ้ีราคา
แคน่ ้ี คนน้ีไม่มีเงิน ไมต่ อ้ งเห็น ไมใ่ ช่เห็นหมอนะ เห็นแพทย์
หมอโบราณตีสองเขา้ ไปปลุกหมอ ไมส่ บาย หมอกห็ ิ้วกระเป๋ า
35
ยาเครื่องมือ ไปนอนกบั คนไขเ้ ลย รักษาแลว้ ก็กลบั บา้ น ไม่
ถามหาเงิน พอคนไขห้ ายเคา้ กเ็ อาอะไรมาฝากหมอ แตท่ ุกวนั น้ี
ตอ้ งถามก่อน เธอมีประกนั ภยั ม้ยั เธอมีเงินม้ยั ไม่อยา่ งน้นั
ไม่ไดเ้ ห็นหมอ นี่เห็นแต่ไข้ ไม่เห็นคน
สังคม มนั เปล่ียนแปลงหมด หมอก็ถกู ฆา่ ตายหมดแลว้
ไม่มี เหลือแตน่ ายแพทย์ ครูก็ตายหมดแลว้ เหลือแต่อาจารย์
หน่ึง อาจารยส์ อง อาจารยส์ าม มนั เป็นธุรกิจหมด ธุรกิจ
การแพทย์ ธุรกิจการศึกษา แต่ท่ีนี่ไมไ่ ดท้ าธุรกิจ ไม่มีการ
ตอ่ รอง เรากท็ า เทา่ ท่ีเราทาได้ ใครเห็นดว้ ย กม็ าช่วยกนั ทา
ใครไมเ่ ห็นดว้ ย ก็ไมต่ อ้ งมาช่วย มนั เป็นเรื่องกรรมใครกรรม
มนั บญุ ใครบญุ มนั พ่อครูพดู ใหต้ รงๆ เพราะเรากท็ าตรงๆ
ไมอ่ อ้ มคอ้ ม ทาอยา่ งไรกพ็ ูดอยา่ งน้นั เราทาในฐานะท่ีเราเป็น
ผใู้ หญค่ นนึง พอ่ ครูเคยบอกวา่ พอ่ ครูไมโ่ ทษเด็กๆ เหล่าน้ี ติด
ยาบา้ ง ติดอะไรบา้ ง ถา้ จะโทษ ตอ้ งโทษผใู้ หญ่ เราสร้างสงั คม
เลวๆ ใหเ้ คา้ อยู่
36
พ่อครูก็เป็นผใู้ หญค่ นนึง พอ่ ครูก็ทาหนา้ ที่ เด๋ียวกจ็ ะ
บอกวา่ มีแตพ่ ูด ทา แตท่ าเท่าท่ีเราทาได้ ส่วนมนั จะทาไดแ้ ค่
ไหน มนั กอ็ ีกเรื่องนึง เด็กๆแถวน้ีแปดเกา้ ร้อยคน ช่วงวนั เปิ ด
เรียนจนั ทร์ถึงศกุ ร์ พอ่ ครูก็มีหนา้ ที่ใหท้ กุ วนั ส่วนเคา้ ดีข้ึน ก็
อนุโมทนา สาธุ เคา้ ไมด่ ีข้ึน กเ็ ป็นกรรมของเคา้ เราไม่ไดช้ ่วย
เคา้ เรามีหนา้ ที่ใหเ้ คา้ ทาน ศลี ภาวนา
อยา่ บงั อาจ ไปช่วยเหลือคน ช่วยไม่ได้ สตั วโ์ ลกยอ่ ม
เป็นไปตามกรรม แตเ่ รามีหนา้ ที่ใหส้ ิ่งดีๆ แก่เคา้ ใหแ้ ลว้ ได้
อะไร กไ็ ดใ้ ห้ ทาไมตอ้ งให้ กล็ องใหด้ ูสิ บางทีใหส้ ลึงนึงกใ็ ห้
ได้ ใหส้ ิบบาทชกั ไม่ได้ พอใหร้ ้อยบาทไม่ไดล้ ะ แลว้ เราจะรู้
เองวา่ ใหแ้ ลว้ มนั เป็นยงั ไง อยากรู้กล็ องให้ ใหเ้ หมือนตดั เน้ือ
ตวั เอง ทีแรกกเ็ จบ็ อยู่ ก็ตดั ไป ตดั มา มนั เคยชินแลว้ ตดั ไปตดั
มา ไมม่ ีเน้ือเลย นี่ก็ไมต่ อ้ งไปแบก ตวั เบาเลย แลว้ ใครทาให้
เราเจบ็ ไดอ้ ีกบา้ ง
ทานนี่ยงิ่ ใหญม่ าก ทาบุญทาทาน บญุ เกิดจากการให้
ทาน ไมเ่ คยคิดจะให้ มีแตว่ า่ ลกู ช้นั ตอ้ งดีที่สุด มีแต่ลกู กู ตวั กู
37
เด๋ียวทกุ ขแ์ น่ ตวั เราก็ทกุ ข์ ลูกเรากท็ ุกข์ แต่ถา้ เราให้ เราใหแ้ ลว้
มนั จะทกุ ขไ์ ดอ้ ยา่ งไร การให้ คือการใหท้ าน บุญเกิดจากการ
ใหท้ าน ทาบุญทาทาน เป็นการเอาความโลภ ความตระหน่ีเรา
ออกไป
เม่ือเราไม่ตอ้ งมีเหลี่ยม กไ็ ม่ตอ้ งเสียเหล่ียม ไมอ่ ยากเสีย
เหล่ียม ก็ไม่ตอ้ งมีเหล่ยี ม เม่ือเราไม่มีอะไร ใครจะมาขโมย
ของเรา มนั ก็ไมม่ ีอะไรใหข้ โมย เราก็เกิดความมน่ั คงมากเลย
ไม่ตอ้ งกลวั ของหาย นน่ั แหละอานิสงคข์ องการให้ แตต่ อนน้ี
ใหไ้ มไ่ ด้ เพราะวา่ สงั คมสอน ใหเ้ ราตอ้ งแขง่ ขนั แคน่ ้ีช้นั ยงั ไม่
พอ แลว้ ยงั จะไปใหไ้ ดย้ งั ไง ก็ไมม่ ีใครวา่ ไม่ตอ้ งให้ ก็ไม่
เป็นไร ตารวจกไ็ มจ่ บั
มีครอบครัวอยสู่ องครองครัว ครอบครัวแรก ภรรยาต้งั
ทอ้ งลกู คนแรก ในขณะที่ทอ้ งกต็ อ้ งออกไปทางาน กลบั มา
บา้ นก็ตอ้ งทางานบา้ น แต่สามีไปตีกอลฟ์ กวา่ จะกลบั ก็ดึกด่ืน
ภรรยาก็นอ้ ยใจ หลงั จากเคา้ เหวี่ยงแลว้ เคา้ กว็ าง พ่อครูกบ็ อก
อะไรหลายหลายอยา่ ง มนั กเ็ ป็นกรรมของเรา เราเลอื กทา
38
อะไรแลว้ เราตอ้ งรับกรรมที่เราสร้าง นี่คือครอบครัวนึง ถาม
วา่ ตีกอลฟ์ ผิดกฎหมายม้ยั กลบั บา้ นดึกผดิ กฎหมายม้ยั ไมผ่ ิด
ใช่ม้ยั ส่วนอีกครอบครัวนึงจนมาก ลกู เมียไม่สบาย ไม่มีเงิน
พาไปหาหมอ พอ่ บา้ นเสี่ยงเป็นเส่ียงตาย ไปขโมยเงินมา แลว้
พาลกู เมียไปหาหมอ
ระหวา่ งพ่อบา้ นสองคนน้ี ถามวา่ ใครดีใครชว่ั คนนึง
ไม่ดูแลลูกเมีย ไมม่ ีน้าใจ ไมผ่ ดิ กฏหมาย อีกคนเป็นขโมย ยอม
เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ถา้ ถกู จบั ได้ ก็ติดคุก แตเ่ น่ืองจากความรัก
ลูกเมีย ถึงยอมทาผิดกฎหมาย ถามวา่ พอ่ บา้ นสองคนน้ี ใครดี
ใครชว่ั ตอนน้ีสังคม มนั บา้ กนั ไปหมดแลว้ อา้ งกฎหมายมา
ห้าหน่ั กนั มาทะเลาะกนั พอ่ ครูไม่ไดย้ ดึ กฎหมาย พอ่ ครูยดึ
กฏแห่งกรรม
สงั คมน้ียากแลว้ คนขโมยน้ีเป็นคนผิด แตค่ นไม่ดูแล
ลูกเมียอีกคน ตีกอลฟ์ ดึก ๆ ดื่น ๆ แลว้ ไมผ่ ดิ กฎหมาย เป็น
สิทธิของช้นั นรกอยใู่ กลๆ้ คนขโมยเคา้ ผิดศีล แตเ่ คา้ ยงั มีความ
ดีอยู่ อนั น้ีก็แลกเปล่ียนกนั
39
ชีวติ เรา กอ็ ยา่ ไปซีเรียสมากมาย ทาหนา้ ที่เราใหด้ ีที่สุด
ส่วนผลมนั คือผล ผลพลอยไดเ้ ท่าน้นั เอง เราทาดี ท่ีเคา้ เถียงกนั
อยู่ มนั ก็บอกทาดีไดด้ ี ทาชวั่ ไดช้ วั่ มนั ยงั มีคาวา่ ได้ ยงั เป็น
อามิส มนั ไม่ดีจริงๆ ทาดีดี ทาชวั่ ชวั่ ไมต่ อ้ ง ได้ อยากกเ็ ป็น
อยา่ งน้นั ไมอ่ ยากก็เป็นอยา่ งน้นั ทาสีขาวแลว้ มนั จะเป็นสีแดง
ไมไ่ ด้ ทาขาวมนั ก็คือขาว ทาดากค็ ือดา ทาดีดี ทาชว่ั ชวั่ ทา
อยา่ งไรก็เป็นอยา่ งน้นั คุณคือส่ิงที่คุณทาทกุ อยา่ งจบอยทู่ ่ีกรรม
40
ท่ีมา : เรื่อง อทิ ธิปาฏิหาร์ย
บรรยาย โดย พ่อครูบัญชา ต้งั วงษ์ไชย
ศูนย์พลาญข่อย 23 สิงหาคม 2558