1
สารบญั 2
ทางสายกลาง 3
สมาธิ คืออะไร 4
ติดสุขในฌาน 5
มรณานุสติ 6
เครื่องมือเดินทาง เพือ่ มงุ่ สู่การพน้ ทกุ ข์ 8
จริตท่ีแตกต่าง 13
3
ทางสายกลาง
ทางสายกลาง ของแต่ละคน ย่อมไม่เท่ากนั แต่เม่ือเรามาอยู่
ร่วมกนั และต้องการหาทางสายกลาง เช่น เลข 1 ถึงเลข 5 ทาง
สายกลางคือเลข 3 ทุกคนต้องทาให้ผลได้ออกมาเป็น 3 พอดี
ถึงจะเป็นทางสายกลาง ใช่หรือไม่
อนั น้ี คงเป็นนกั คณิตศาสตร์ คาวา่ กลาง คือพอดี พอดี
ของแตล่ ะคน มนั ไม่เหมือนกนั มนั ไมม่ ีตวั เลขแบบน้ี คนตวั
อว้ นกินสามชามอ่ิมพอดี คนกลาง ๆ กก็ ินสองชามอ่ิมพอดี
คนตวั เลก็ ก็กินชามนึง อยา่ ไปเถียงกนั วา่ ทาไมกินมากกินนอ้ ย
ทุกคนตอ้ งมีสติวา่ ความพอดีของตวั เอง อยทู่ ี่ไหน ไม่ใช่ไป
คานวณตวั เลขแบบน้ี
คาถามแบบน้ีไม่ตอ้ งไปเสียเวลา เหว่ียงทิ้ง ขดั เกลาไป
เร่ือย ๆ เอาข้ีสงสยั ใหม้ นั หมดไป ไมใ่ ช่ไปแกท้ ่ีหายสงสัย มนั
สงสยั จนนอนไม่หลบั ถา้ หายสงสัยแลว้ ก็มีความสุข กิเลส
สอนใหเ้ ราคิดแบบน้นั ตวั ข้ีสงสัย เหมือนเราเอาอาหารใหม้ นั
กิน กม็ ีกาลงั มากข้ึน พรุ่งน้ีก็สงสยั เรื่องอื่นอีก เราตอ้ งแกโ้ ดย
ไมส่ งสัย ไมใ่ ช่แกโ้ ดยหายสงสยั ความลงั เลสงสัย เป็นนิวรณ์
อยา่ งนึง เป็นส่ิงขวางก้นั ทางเดินของจิต เราถูกสอนใหเ้ ป็น
4
แบบน้นั มาตลอด กลายเป็นกิเลสของเรา เรามาปฏิบตั ิธรรม
เพือ่ ขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส คือ ลา้ งมนั ทิง้
สมาธิคืออะไร
ตอนที่เรานง่ั หมนุ ไปเรื่อย ๆ ได้ทงั้ ชั่วโมง มคี วามคิดบ้าง อย่าง
นีเ้ รียกว่าเป็นสมาธิหรือไม่
สมาธิ แปลวา่ ต้งั มน่ั เป็นหน่ึงเดียว กบั ส่ิงที่เราทา
อะไรก็ช่าง เราขบั รถ เรากเ็ ป็นหน่ึงเดียวกบั การขบั รถ ไมใ่ ช่
ขบั ไปดว้ ย ฟังโทรศพั ทไ์ ปดว้ ย คิดดว้ ย พดู ดว้ ย อนั น้ีสมาธิ
หลดุ มนั เป็น 2 เป็น 3 เป็น 4 เพราะความอยากของเรา ทาแต่
ละเวลา ทาหลายเรื่อง ไมม่ ีสมาธิ สติก็ไมเ่ กิด โอกาสพลาด
พล้งั ก็มี ส่วนเราเหวย่ี ง เราหมนุ เรากต็ ้งั มนั่ กบั การหมุน
ความคิดมนั ยงั เกิดข้ึน มนั เป็นเร่ืองของกิเลส ก็ปลอ่ ยมนั คิดไป
สาคญั วา่ เราอยา่ ไปเผลอคิดตามมนั
เรา คือ จิตตวั รู้ เรามีหนา้ ที่ทาอะไร เราก็เป็นหน่ึง
เดียวกบั มนั ส่วนความคิดน้นั เป็นกิเลสความเคยชินเรา เป็น
5
กรรมท่ีเราสร้าง เราเป็นนกั คิด ก็ตอ้ งคิด อยา่ ไปยงุ่ กบั มนั
ปล่อยมนั คิดไปเลย แคอ่ ยา่ เผลอไปคิดตามมนั เท่าน้นั เอง
ติดสุขในฌาณ
ปฏิบตั ิแบบอานาปานสติมา ตอนนลี้ องมาปฏิบัติแนวนี้ พอนัง่
หมนุ ๆ มนั กช็ ้าลง แล้วกลบั มานิ่งๆ ต้องทาอย่างไรดี
กห็ มุนต่อไป คนที่คุน้ เคยฝึกจบั ลมหายใจ แลว้ กไ็ ปกด
ใหม้ นั น่ิง กไ็ ดค้ วามสงบชว่ั ครู่ สูงสุด เรียกวา่ เจริญสมาธิ ก็
เขา้ ไปถึงฌาน สูงสุดคือฌาน๔ คือ เอกคั คตารมณ์ แตบ่ างที
ยงั ไมถ่ ึงฌาน๔ ดี เขา้ ไปแค่ในฌานของจิต เทา่ น้นั เอง แลว้ ก็
ไปกดมนั ไว้ ความคิด อารมณ์ตา่ ง ๆ มากระทบเราไมไ่ ด้ เราก็
รู้สึกสงบ เราก็ไดส้ งบชวั่ ครู่ แต่ปัญญามนั ไมเ่ กิด
พอเราคุน้ เคย กบั การฝึกนงั่ นิ่งๆ พอเราเหวี่ยงๆ เผลอๆ
มนั ก็ไปตามความคุน้ เคย นนั่ คือ กิเลส ก็คือความเคยชินเรา
ไปน่ิงอีก ติดนิ่ง กอ็ ยตู่ รงน้นั แหละ ติดสุขในฌาน ไปติดความ
สงบ เหมือนสปริงเรา ไปกดมนั ไว้ ตอนที่เราต้งั ใจกด มนั กอ็ ยู่
เวลาเราใชส้ มาธิกด เรามีท่ีเกาะ เรากเ็ ลิกคิด เราวางความคิด
6
เราก็วา่ ง เราก็เกิดความสงบชวั่ ครู่ พอมีอะไรลกู โต ๆ มาชน
สปริงกเ็ ดง้ ผางอีก เพราะสปริงมนั ยงั อยู่
ถา้ เราเขา้ วปิ ัสสนา เรารู้วา่ ตน้ เหตุ คือ มีสปริง เราก็
ทาลายสปริง เมือ่ สปริงถกู ทาลายแลว้ กเ็ ป็นแคเ่ หลก็ เส้นนึง
ไม่ตอ้ งกด ไม่ตอ้ งทาอะไรเลย สงบตลอดกาล ตอ้ งใหเ้ กิด
ปัญญา รู้วา่ ตน้ เหตมุ นั คืออะไร ไม่ใช่ไปนง่ั กดมนั ไว้
มรณานุสติ
ช่วงเตรียมความพร้อมตอนนอน มีเสียงพ่อครูเจริญมรณานสุ ติ
ช่วงนีค้ วรคิดตามเสียงพ่อครู หรือนอนสมาธิเฉยๆ
ไม่ตอ้ งคิดตามเสียงพอ่ ครู และก็ไม่ตอ้ งนอนสมาธิดว้ ย
คาวา่ สมาธิ เราจะคุน้ เคยวา่ เราฝึกสมาธิ ถา้ เราฝึกสมาธิ เรา
ตอ้ งมีการกาหนด กาหนดลมหายใจเขา้ ออก ต้งั ช่ือวา่ พทุ โธ
หรืออะไรกแ็ ลว้ แต่ เป็นแคอ่ บุ ายวธิ ี ในการฝึกสมาธิ แตต่ อน
ท่ีเรา ยนื เดิน นง่ั นอน หรือวา่ ที่เราพจิ ารณา มรณนานุสติ
เราไม่ไดฝ้ ึกสมาธิ เรากน็ อนเฉยๆ แลว้ กถ็ ามตวั เองวา่ ถา้ เรา
ตอ้ งตายเวลาน้ี เราพร้อมไหม อนั น้ีเรียกวา่ เป็นการเจริญสติ
7
อยา่ งนึง แตเ่ อาความตายมาเป็นที่ต้งั แห่งการเจริญสติ เรียกวา่
มรณานุสติ
เร่ืองน้ีพระพุทธองคบ์ อกวา่ ตอ้ งทาบ่อยๆ คือพอ่ ครูพูด
เราก็ไดย้ นิ สักแตว่ า่ ไดย้ นิ เขา้ ใจก็ผา่ น ไม่เขา้ ใจก็ผา่ น ไม่ตอ้ ง
คิดเพิ่มเติม ถ้าคิดเพ่ิมเติม เรามีการกระทาเกิดข้ึน คือ
มโนกรรม มนั ก็ปรุงแต่ง คือไม่ตอ้ งทาอะไร สักแต่ว่าไดย้ ิน
สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น ถา้ คิดเพ่ิมเติม มนั เป็ นการปรุงแต่ง
แลว้ ส่วนมากตามธรรมชาติ เราจะคิดตามกิเลสตวั เอง คิด
ตามภาษาที่เราบนั ทึก เป็นสัญญาไว้ มนั จะไมบ่ ริสุทธ์ิ
เอาเป็นวา่ เสียงพ่อครูพูด ก็สักแต่วา่ ไดย้ นิ จิตมนั ไดย้ นิ
มันจะเข้าใจ ก็คือเข้าใจ ถ้ามันเข้าใจ ก็เกิด สุตมยปัญญา
ปัญญาเกิดจากการไดย้ ิน ไดฟ้ ัง ถา้ มนั ไม่เขา้ ใจ ก็ผ่าน อย่า
ไปจามนั และอยา่ ไปคิดเพิ่มเติม จามนั กลายเป็นขยะ ไม่ใช่
ความรู้เกิดจากเรา เป็ นความรู้ซ่ึงเกิดจาก การท่ีเราไป
เลียนแบบคนอ่ืน มนั ไมใ่ ช่ปัญญา มนั มีแค่ขยะ
8
เครื่องมือเดินทาง เพ่ือม่งุ สู่การพ้นทุกข์
มีคนพูดว่าสมาธิเหว่ียง ไม่พ้ นทุกข์ เพียงแต่ผ่อนคลาย
ความเครียด เท่านนั้ เอง
ความเครียด นี่ทกุ ขไ์ หม เวลาเรามีความเครียด มนั ทกุ ข์
หรือมนั สุข ถา้ บอกวา่ มนั ทกุ ข์ ก็ผอ่ นคลายความเครียด ก็
ผอ่ นคลายความทกุ ขไ์ ปแลว้ เบ้ืองตน้ มนั ไม่มีอะไรเสียหาย
ถามวา่ มีสมาธิไหนบา้ งท่ีทาใหเ้ ราพน้ ทุกข์ ไม่มี ไมม่ ีแมแ้ ต่
หน่ึงสมาธิ สมาธิวธิ ีไหนกช็ ่าง ทาใหเ้ ราพน้ ทกุ ขไ์ มไ่ ด้ แต่มนั
เป็นเคร่ืองมือเดินทาง เพื่อมุ่งสู่การพน้ ทุกข์ เป็นหน่ึงในมรรค
มีองคแ์ ปด
อนั น้ีเราไปติดสมาธิ ฝึกสมาธิวิธีน้นั วธิ ีน้ี ก็ไปติดวิธี
วิธีการดีแคไ่ หน ก็ไมด่ ี ถา้ คนทาไมด่ ี คนทาดีแค่ไหน กไ็ มด่ ี
ถา้ เป้าหมายในการทาไมด่ ี เป้าหมายในการทาดีแค่ไหน กไ็ ม่ดี
ถา้ วิธีการทามนั ไมด่ ี คอื วิธีการตอ้ งถูกตอ้ ง คนทาก็ตอ้ งขยนั
ดว้ ย ตอ้ งมุง่ มนั่ ตอ้ งมีศรัทธา
ถา้ มีเป้าหมาย เป็นผวู้ เิ ศษ พอเราเขา้ ไปในจิต ไปเห็น
อดีตชาติ เราเป็นเจา้ พอ่ เจา้ แม่ เราก็ไปหลงมนั อีก อนั น้ีกไ็ ม่ดี
เป้าหมายมนั ไม่ดี มนั ไม่ใช่ทางพน้ ทุกข์ บางคนมีเป้าหมายดี
9
ฉนั ปฏิบตั ิเพอื่ นิพพานอยา่ งเดียว พน้ ทุกขอ์ ยา่ งเดียว กถ็ ูกตอ้ ง
แต่ไม่ยอมกระทา เป้าหมายดีแค่ไหน กไ็ ม่ดี ถา้ วธิ ีการไมด่ ี
วธิ ีการดีแค่ไหน กไ็ ม่ดี ถา้ คนทาไมด่ ี มนั ตอ้ งไปดว้ ยกนั
สมาธิ เป็ นตัวเร่ิมต้น เท่าน้ันเอง เราตอ้ งใช้เคร่ืองมือ
โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ เราต้องใช้ สติปัฏฐาน๔
กาย เวทนา จิต ธรรม เทวดาทาไม่ได้ เพราะเทวดาไม่มีกาย
มนุษย์เราเป็ นสัตว์ประเสริฐ ชนิดเดียวเท่าน้ัน ท่ีเราทาได้
และก็ตอ้ งใช้ อิทธิบาท๔ มี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมงั สา กบั
สิ่งท่ีเราดาเนิน สัมมัปปธาน๔ มีความสารวมระวงั ไม่ให้
อกุศลใหม่เกิดข้ึน เพียรละอกุศลที่มีอยู่แล้ว ให้มันหมดไป
อนั น้ีคือ ขดั เกลาจิตให้ผ่องใส แลว้ ก็เพียรสร้างกุศลใหม่ให้
มนั เกิดข้ึน สารวมระวงั อยา่ ใหก้ ศุ ลที่มนั มีอยแู่ ลว้ หมดไป
แล้วก็ต้องใช้ อินทรีย์๕ พละ๕ ซ่ึงเรามีอยู่แลว้
เต็มเป่ี ยม ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา นี่คือ อินทรีย์๕
ต้องใช้มันมาก ๆ เหมือนเราออกกาลังกายมาก ๆ เราก็
แข็งแรงข้ึน ย่ิงใช้ พละ๕ กาลังมันก็มากข้ึน ย่ิงพละกาลัง
มากข้ึน เราก็วิง่ ไดเ้ ร็วข้ึน
10
ต้องมีศรัทธากับสิ่งท่ีเราทา เมื่อเรามีศรัทธา เราก็มี
วิริยะ มีความพอใจ มีความขยนั เพราะเราชอบมนั เพราะเรา
ศรัทธา แต่ถา้ เราไม่ศรัทธา ถูกบงั คบั ให้ทา เราก็เออ้ ระเหยอยู่
แค่คิดเฉย ๆ ก็เหน่ือยละ เราก็ตอ้ งใช้ศรัทธา แลว้ ก็มีวิริยะ
สติ สมาธิ ปัญญา ท่ีเรามีอยแู่ ลว้ มนั ก็ผดุ ข้ึนมา เอามนั มาใช้
ไม่ใช่ไปฝึกสติ ไมใ่ ช่ไปฝึกสมาธิ มนั ก็อยทู่ ี่สมาธิ อยทู่ ่ี
สติ เราไม่ไดเ้ กิดมา เพอ่ื เรียนวชิ าใด ๆ ท้งั น้นั เราเกิดมาเพ่ือ
เดินทางต่อ มรรค คือ ทางเดินมงุ่ สู่การพน้ ทกุ ข์ แต่ตอนน้ีกไ็ ป
จบอยู่ สติ สมาธิ โจรกม็ ีสมาธิ โจรกม็ ีสติ ไม่อยา่ งน้นั เคา้
ปลน้ ไมส่ าเร็จ เคา้ ตอ้ งใชส้ มาธิ ใชส้ ติ มากกวา่ เราดว้ ย แต่มนั
ไม่ศีล ไมม่ ีปัญญา มนั ก็ใชส้ ติสมาธิน้นั ไปเบียดเบียนคนอ่ืน
ก็เป็นมิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ เอาเป็นวา่ การปฏิบตั ิธรรม ไม่ได้
อยทู่ ่ีแค่ ฝึกสติ ฝึกสมาธิ
การปฏิบัติธรรม คือ การเจริญ มรรค ผล นิพพาน
ส่วนการเจริ ญมรรค ต้องใช้สติปัฏฐาน๔ อิทธิบาท๔
สัมมปั ปธาน๔ อินทรีย๕์ พละ๕ เม่ือสติปัฏฐานท้งั ๔
เคา้ รวมกนั แลว้ เราเขา้ ไปในจิตในจิตไดแ้ ลว้ เราก็เขา้ ไปเสพ
11
ธรรมในธรรม ธรรมารมณ์น้ัน บันทึกในรูปของกรรมดี
กรรมชว่ั เป็นประสบการณ์อยา่ งยง่ิ โพชฌงค์๗ ก็อยใู่ นน้นั
ถ้าเราไม่เข้าไปในจิตในจิต เราไม่สามารถไปเสพ
โพชฌงค์ตรงน้ัน โพชฌงค์ คืออะไร สติสัมโพชฌงค์
วิริ ยะสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยสัมโพชฌ งค์ ปั สสัทธิ
สัมโพชฌงค์ โพชฌงค์มนั มีอยู่แลว้ ตามธรรมชาติของจิต
เราฝึกมาหลายชาติแลว้ เราเขา้ ไปเอามาต่อยอด โพชฌงคท์ ้งั ๗
อนั บุคคลเจริญ ทาให้มากแลว้ ย่อมทาวิชชา และวิมุตติให้
สมบรู ณ์ ไมใ่ ช่ไป เจริญสติ เจริญสมาธิ
กอ็ ยา่ ไปติดที่วา่ ไปถามวา่ ปฏิบตั ิสมาธิแบบไหน ท่ีน่ี
ไมม่ ีแบบ วิธีพ่อครูนี่ เป็นแบบไหน ไมม่ ีวิธี ทุกคนไม่
เหมือนกนั ไมใ่ ช่ไปจบั ใหท้ ุกคน ไปข้ึนสายพานลาเลียง เป็น
อตุ สาหกรรมธรรมะ แลว้ พ่อครูก็ไม่ไดส้ อนอะไรเลย ทุกคน
มาเจริญมรรคดว้ ยกนั มรรค ผล นิพพาน
เราไปติดปฏิบตั ิธรรม ก็ สมาธิน้นั สมาธิน้ี มนั เป็น
อุบาย เป็นเทคนิค มนั ไม่ไดผ้ ดิ แต่ถา้ ไปหลงมนั เมื่อไหร่ มนั
เป็นความชวั่ ร้ายอยา่ งยงิ่ ก็ไปติด ก็ไปเขา้ ใจวา่ นน่ั คือ การ
ปฏิบตั ิธรรม แค่ไปฝึกสมาธิ
12
ยกตัวอย่างว่า เราเป็ นนักกีฬาทีมชาติ เราอยากเป็ น
แชมป์ ต่ืนเชา้ มาตีส่ี เราไมอ่ ยากต่ืนเลย แต่เราอยากเป็นแชมป์
เราก็เลยอุตส่าห์ต่ืนมาวิ่ง ว่ิงผลคือยงั ไง ร่างกายแขง็ แรง แต่
พอไปแข่งขนั เกิดแพ้ รับไม่ได้ ฆ่าตวั ตายดว้ ย เพราะจิตมนั
ไม่แขง็ แรง เหมือนสติเหมือนกนั เราฝึ กสติ ฝึ กสมาธิ แต่ถา้
เราไม่มีปัญญา เราก็ใชส้ ติ สมาธิ ไปสร้างกรรม ไปเบียดเบียน
คนอ่ืน น่ีเราหลงประเดน็ ตอนน้ีกลายเป็นว่า การปฏิบตั ิธรรม
อยแู่ คฝ่ ึกสติ ฝึกสมาธิ จึงเป็นความเขา้ ใจผิด
13
จริ ตที่แตกต่ าง
ไปเรียนรู้หลายสานัก บางสานักก็กินเจ บางสานักก็กิน
มังสวิรัติ แต่ละสานักก็มีเหตุผลของตัวเอง พ่อครูคิดอย่างไร
กบั เร่ืองอาหาร
พ่อครูไมไ่ ดค้ ิด หลายปี ก่อนพระอาจารยร์ ูปนึง ซ่ึงเป็น
สหธรรมิกพ่อครู ท่านมาปฏิบตั ิทนี่ ่ี แลว้ กท็ า่ นพาฤาษีตนนึง
มาดว้ ย เห็นเคา้ นงั่ คุยกนั ฤาษีบอกเป็นฤาษีดีกวา่ อิสระ ไม่ตอ้ ง
มีวนิ ยั ไปไหนก็ได้ ทาอะไรกไ็ ด้ พระอาจารยม์ หาวา่ เป็นพระ
ดีกวา่ พูดเสียงดงั โยมเคา้ ศรัทธาอยแู่ ลว้ ตา่ งคนตา่ งวา่ เป็น
ฤาษีดี คนน้ีบอกเป็นพระดี มาถามพอ่ ครู เป็นอะไรดี พ่อครู
บอก เป็นอะไรก็ไม่ดี เหว่ยี งทิ้ง เป็น กค็ ืออตั ตา
มนั เป็นแคส่ มมติ ไปเถียงกนั วา่ อนั น้ีดีกวา่ อนั น้นั คือไป
สร้างอตั ตาใหต้ วั เอง เป็นอะไรกไ็ ม่ดี เรามาปฏบิ ตั ิ เพอื่ เลิกเป็น
ท่านฤาษีตนน้นั ก็ถามวา่ พอ่ ครูกินเจไหม บอกไม่ พอ่ ครูกิน
มงั สวริ ัติไหม บอกไม่ พ่อครูกินเน้ือสตั วไ์ หม บอกไม่ พอ่ ครู
กินอะไร พอ่ ครูบอกกินอาหาร กินเพอื่ อยู่ ไมใ่ ช่อยเู่ พอื่ กิน
อย่าไปติด หลายลทั ธินิกาย เคา้ ใช้อุบายไม่เหมือนกนั
ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถา้ เกิดว่าทาไปทามา ไปหลงอุบายน้นั แลว้ ก็
14
โปรโมทว่าอุบายน้ันดี ถ้าเธอไม่ทาเหมือนฉัน เธอไม่ดี
ทะเลาะกนั อยู่ตรงน้นั ทาก็ทาไป ไม่ไดผ้ ิด มนั เป็ นแค่อุบาย
เป็ นเทคนิค บางคนชอบกินเน้ือสัตว์ ไปติดรสมัน ก็มากิน
มงั สวิรัติ เพื่อจะลด ละ เลิก รูป รส กลิ่น เสียง เราติดรส
บางคนไปกินเจ กไ็ มผ่ ิดอะไร
เรากินตามธาตเุ รา เคา้ เรียกวา่ ธาตเุ จา้ เรือน เลือดของ
แต่ละคน แตล่ ะกรุ๊ป ไมเ่ หมือนกนั บางคนกินตวั น้ีแพ้ บางคน
กินตวั น้ีไม่แพ้ เราก็เลอื กอาหาร ท่ีมนั เหมาะกบั เรา เทา่ น้นั เอง
แต่ทีน้ีเนื่องจากเราใชอ้ บุ าย ทาไปทามา ก็ไปหลงอุบาย ไปชู
ธงอบุ ายน้นั กลายเป็นเป้าหมาย ก็เลยขดั แยง้ กนั ข้ึน
ทีน้ี เรื่องอาหารในส่ีสิบกองกรรมฐาน พระพุทธเจา้ ก็
เอาเรื่องอาหารเป็นหน่ึงในน้นั อาหาเรปฏิกลู สัญญา พระองค์
ใหพ้ ิจารณาอาหาร ในนยั ยะที่วา่ มนั เป็นสิ่งปฏิกูล ไมใ่ หเ้ ราไป
หลงติดมนั กินแคม่ นั อิ่ม ไม่ใช่กินท่ีมนั อร่อย มนั เป็นส่ิงปฏิกลู
พระองคเ์ นน้ แค่น้นั เอง แตพ่ อมารุ่นหลงั เคา้ ไปติดอุบายน้นั
กลายเป็นยดึ มน่ั ถอื มนั่ ในอุบายน้นั กไ็ ปขดั แยง้ กบั คนอ่ืน ท่ีเคา้
ไมท่ าตามเรา
15
พระพุทธเจา้ ทรงหา้ มภิกษุฉนั เน้ือตา่ ง ๆ คือ เน้ือมนุษย์
เน้ือชา้ ง เน้ือมา้ เน้ือสุนขั เน้ืองู เน้ือราชสีห์ เน้ือเสือโคร่ง
เน้ือเสือเหลือง เน้ือหมี เน้ือเสือดาว ทาไม เน้ือสิบอยา่ งน้ี
ถึงไมใ่ หบ้ ริโภค ในพระไตรปิ ฎกกไ็ ม่อธิบายอีก แตถ่ า้ ถาม
พอ่ ครูวา่ ทาไมพระองคต์ รัสอยา่ งน้นั เน้ือสิบชนิดน้ี พอ่ ครู
มองเขา้ ไปในจิต ราชสีห์ เสือ ท้งั หมดสี่ชนิด สรีระร่างกายเคา้
เลก็ กวา่ ชา้ ง เคา้ เลก็ กวา่ แรด เคา้ เลก็ กวา่ สัตวห์ ลายอยา่ ง แตเ่ คา้
ทาไมเป็นเจา้ ป่ า เป็นจิตท่ีมีพลงั ใกลเ้ คียงมนุษย์
ทีน้ีคาวา่ งู บวกกบั พญานาค กบั มงั กร คือตระกูลงู
อนั น้ี จิตเคา้ จาศีล คือ เป็นจิตระดบั สูง และโดยเฉพาะเน้ือ
มนุษย์ มนุษยเ์ ป็นสัตวป์ ระเสริฐ ถา้ เราไปฆา่ เคา้ ไปกินเน้ือเคา้
จิตเคา้ บนั ทึกสญั ญาได้ สตั วท์ ้งั สิบชนิดน่ี บนั ทึกสญั ญาได้
หมด มีขอ้ นึงที่วา่ พระองคห์ า้ มเน้ือมา้ บา้ นเราบอก มา้ ววั
ควาย มนั เหมือนตระกลู เดียวกนั แต่หา้ มเน้ือมา้ ววั ไม่ไดห้ า้ ม
แตม่ นั เป็นสตั วส์ ี่เทา้ เราสังเกตดุ ู เวลามนั โดนจูงเขา้ โรงฆา่
สัตว์ ก่อนถึงโรงฆ่าสตั ว์ น้าตาจะไหล
พอ่ ครูใหข้ อ้ คิด ตอนอยอู่ เมริกา อาหารจานโปรดของ
พอ่ ครูคือ T-bone steak ทุกอาทติ ยต์ อ้ งไปกิน กลายเป็นความ
16
เคยชินเรา แตพ่ อเกิดอาการที่จิตมนั เปลี่ยน พอ่ ครูกินไมไ่ ด้
เขา้ ใกลก้ ็ไม่ไดด้ ว้ ย คือ กล่ินมนั แรงมาก แต่เร่ืองน้ี ถา้ เก่ียวกบั
เร่ืองจิตวิญญาณแลว้ เร่ืองกินอะไร สาหรับพอ่ ครูนะ เอาเป็น
บรรทดั ฐานไม่ได้ ไมใ่ ช่เร่ืองสาคญั แต่เนื่องจากมนั เป็นคาถาม
ซ่ึงเกี่ยวกบั ศาสนาดว้ ย พ่อครูกเ็ อาพระไตรปิ ฎก ท่ีพระองค์
แสดง คือเน้ือสิบชนิดทหี่ า้ มฉนั
แม้จะท รงอนุ ญ าต ให้ ภิ กษุ ส งฆ์ ฉัน เน้ื ออื่ น ๆ
นอกเหนือจากเน้ือสิบอย่าง ดังกล่าวมา แต่ก็ทรงกาหนด
เอาไวว้ า่ ภิกษทุ ้งั หลาย ภิกษุรู้อยไู่ ม่พึงฉนั เน้ือ ท่ีเคา้ ทาเจาะจง
ถา้ เคา้ ทาเจาะจงมาให้เรา อนั น้ีไม่ควรฉัน ตอ้ งอาบตั ิทุกกฎ
ภิกษุท้ังหลายเราอนุญาติ ปลา เน้ือเป็ นของบริสุทธ์ิ ด้วย
อาการสามอยา่ ง คือ ไมไ่ ดเ้ ห็น ไม่ไดย้ นิ ไม่ไดน้ ึกสงสยั
กินแค่เป็นอาหาร กรรมช้ีเจตนา แตถ่ า้ เราไปสั่งเคา้ ว่า
พรุ่งน้ีจะฉันปลา อันน้ีทาไม่ได้ สมัยพุทธกาล มีอยู่ใน
พระไตรปิ ฎกพระวนิ ยั ปิ ฎก จุลวรรค เรียกวา่ ปัญจวตั ถุยาจนกา
วา่ ดว้ ย พระเทวทตั กราบทลู ขอวตั ถุหา้ ประการ
พระเทวทตั กล่าวว่า มาเถิดท่านท้งั หลาย พวกเราจะ
เข้าไปเฝ้าพระสมณโคดม แล้วทูลขอวัตถุห้าประการว่า
17
พระองคผ์ เู้ จริญพระผมู้ ีพระภาคทรงสรรเสริญ คุณแห่ง ความ
มักน้อยความสันโดษ ความขดั เกลา ความกาจดั อาการน่า
เล่ือมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียร โดยประการ
ต่างๆ วตั ถุหา้ ประการเหล่าน้ี ก็เป็นไปเพอ่ื ความมกั นอ้ ย ความ
สันโดษ ความขดั เกลา ความกาจดั อาการน่าเล่ือมใส การไม่
ส ะ ส ม ก ารป รารภ ค วาม เพี ยร โด ยป ระ ก าร ต่ าง ๆ
ขา้ พระพุทธเจา้ ขอประทานวโรกาสดงั น้ี อนั น้ีพระเทวทตั ไป
ขออนุญาติพระพุทธเจา้
• ภิกษุทั้งหลายควรอยู่ป่ าตลอดชีวิต ภิกษุรูปใดเข้า
บ้าน ภิกษรุ ูปนัน้ มีโทษ
• ภิกษุทั้งหลายควรเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิต ภิกษุ
รูปใดยินดีกิจนิมนต์ ภิกษรุ ูปน้นั มโี ทษ
• ภิกษุทั้งหลายควรถือผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต ภิกษุรูป
ใดยินดผี ้าคหบดี ภิกษรุ ูปนน้ั มโี ทษ
• ภิกษุทั้งหลายควรอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ภิกษุรูปใด
อาศยั ที่มงุ ท่ีบัง ภิกษรุ ูปนนั้ มีโทษ
• ภิกษทุ ้ังหลายไม่ควรฉันปลาและเนือ้ สัตว์ตลอดชีวิต
ภิกษรุ ูปใดฉันปลาและเนือ้ ภิกษรุ ูปนั้นมีโทษ
18
เป็นหา้ ขอ้ ท่ีเคา้ ขอ แลว้ พูดต่อ พระสมณโคดม จะ
ไม่ทรงอนุญาต วตั ถุห้าประการน้ีแน่ พวกเราจะไดใ้ ชว้ ตั ถุห้า
ประการน้ี ชกั ชวนให้ประชาชนเชื่อถือ พวกเราสามารถท่ีจะ
ใช้วตั ถุห้าประการเหล่าน้ัน ทาลายสงฆ์ ทาลายจกั รของ
พระสมณโคดมได้ เพราะยงั มีพวกมนุษย์ ที่เล่ือมใสในการ
ปฏิบตั ิปลอม ๆ เคา้ รู้ท้งั รู้ว่า เคา้ ขอ พระพุทธเจา้ คงไม่เห็น
ดว้ ย ทีน้ีเคา้ จะเอาตวั น้ีไปโฆษณาว่า พระพุทธเจ้าเป็ นคน
ไมใ่ ช่มกั นอ้ ย สันโดษจริง ๆ
พระผูม้ ีพระภาคเจา้ ก็ตรัสห้ามวา่ อยา่ เลย..เทวทตั ภิกษุ
รูปใดปรารถนาก็จงอยปู่ ่ าเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงอยใู่ น
ละแวกบา้ นเถิด ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงเท่ียวบิณฑบาตเถิด
ภิกษุรูปใดปรารถนาก็จงยินดีกิจนิมนต์เถิด ภิกษุรูปใด
ปรารถนากจ็ งถือผา้ บงั สุกลุ เถิด ภิกษุรูปใดปรารถนากจ็ งยนิ ดี
ผา้ คหบดีเถิด เทวทัตเราอนุญาติคือ เสนาสนะตามโคนไม้
แปดเดือนเท่าน้ัน เราอนุญาตปลา และเน้ือท่ีบริสุทธ์ิด้วย
อาการสามอยา่ งคือ ไมไ่ ดเ้ ห็น ไมไ่ ดย้ นิ ไมไ่ ดน้ ึกสงสัย
19
ที่อินเดีย นักบวชท่านดารงชีวิตโดยการ เรี ยกว่า
ขอทาน ส่วนเคา้ จะให้ทานอะไร เราตอ้ งเล้ียงง่าย ไม่ใช่ไป
เลือก บางทีคนเค้าก็ไม่มีจะกิน แต่ก็อยากให้ทาน เค้าเอา
อะไรมา เราก็มีหน้าที่ฉัน กินเพ่ืออยู่ไดเ้ ท่าน้ันเอง ตอ้ งไม่
ยนิ ดี คือ ไม่ไดเ้ ห็น ไม่ไดย้ นิ ไม่ไดน้ ึกสงสัย
คร้ังน้ันพระเทวทัตร่าเริงดีใจว่า พระผูม้ ีพระภาค ไม่
ทรงอนุญาติวตั ถุห้าประการเหล่าน้ี พร้อมกบั บริษทั ลุกข้ึน
จากอาสนะ ถวายอภิวาทพระผมู้ ีพระภาค ทาประทกั ษิณแลว้
จากไป ก็ออกไปต้ังลัทธิใหม่ พระเทวทัตจึงใช้วัตถุห้า
ประการ เป็นเคร่ืองมือโฆษณา โดยบอกประชาชนท้งั หลายวา่
พระสมณโคดม ไม่ทรงอนุญาต วตั ถุหา้ ประการเหล่าน้นั
บรรดาประชาชนเหลา่ น้นั พวกไม่ศรัทธา ไม่เล่ือมใส
มีความรู้ไมด่ ี กล่าววา่ พระสมณเช้ือสายศากยบุตรเหล่าน้ี
ประพฤติกาจดั กิเลส ประพฤติเคร่งครัด ส่วนพระสมณโคดม
มกั มาก ดาริเพอื่ ความมกั มาก ทาใหค้ นเขา้ ใจผดิ ส่วนพวกท่ีมี
ศรัทธา และเลอ่ื มใสเป็นบณั ฑิต เฉลียวฉลาดมีความรู้ดี ก็
ตาหนิประณามโพนทะนาวา่ ไฉนพระเทวทตั จึงเพียรพยายาม
20
เพือ่ ทาลายสงฆ์ เพอื่ ทาลายจกั รของพระผมู้ ีพระภาคเล่า ตอน
น้นั แตกเป็นสองกลุ่ม
สมยั พุทธกาล ก็ยงั มีแบบน้ี อยา่ ว่าแต่ยุคน้ีเลย พระผูม้ ี
พระภาคทรงสอบถามพระเทวทตั วา่ เทวทตั ทราบวา่ เธอเพยี ร
พยายาม เพื่อทาลายสงฆ์ เพื่อทาลายจกั ร จริงหรือ พระเทวทตั
ทูลว่า จริง พระผูม้ ีพระภาคเจา้ ทรงตาหนิว่า อย่าเลยเทวทตั
เธออยา่ พอใจทาลายสงฆ์ เพราะการทาลายสงฆ์ มีโทษหนกั
ผูใ้ ดทาลายสงฆ์ท่ีพร้อมเพรียงกัน ผูน้ ั่นประสพโทษนาน
ตลอดกปั ถูกไฟไหมใ้ นนรกนานตลอดกปั ส่วนผูใ้ ดทาสงฆ์
ผแู้ ตกกนั แลว้ ใหพ้ ร้อมเพรียงกนั ยอ่ มประสพบญุ อนั ประเสริฐ
ยอ่ มบนั เทิงในสวรรคต์ ลอดกปั อยา่ เลยเทวทตั เธออยา่ ชอบ
ใจในการทาลายสงฆ์ เพราะการทาลายสงฆ์ มีโทษหนัก
พระผู้มีพระภาค ทรงเปล่งพระอุทาน ในเวลาน้ันว่า
กรรมดี คนดี ทาได้ ง่ าย กรรมดี คนช่ั ว ทาได้ ยาก
กรรมช่ัว คนชั่ว ทาได้ง่าย กรรมชั่ว คนดี ทาได้ยาก
ส่ิงน้ี เคยขดั แยง้ ต้งั แตพ่ ทุ ธกาล จนถึงปัจจุบนั น้ี สาหรับ
พ่อครูเรื่องอาหาร เร่ืองอะไรไม่สาคญั กินเพือ่ อยู่ ไมใ่ ช่อยู่
เพือ่ กิน โดยธรรมชาตแิ ลว้ เคา้ สร้างข้ึนมา สตั วใ์ หญ่กินสัตว์
21
เลก็ ปลาในเข่ือนมีเป็นพนั ๆ ชนิด ทนี ้ีธรรมชาติ เคา้ กส็ ร้าง
สตั วเ์ ลก็ ใหเ้ ผยแพร่เผา่ พนั ธุ์ไดเ้ ร็วมาก เพื่อใหส้ ัตวใ์ หญ่
บริโภค สตั วใ์ นป่ าน้นั เคา้ ไม่ไดก้ ินสัตว์ เพราะรังเกียจหรือ
เคียดแคน้ เคา้ กินเพ่ือเป็นอาหาร มนั กพ็ ่ึงพาอาศยั อยา่ งน้ี
แต่มนุษยเ์ ราตอนน้ี กินเพราะมนั อร่อย กินทกุ อยา่ งท่ี
ขวางหนา้ ความอยากของมนุษย์ กย็ งิ่ มากข้ึน ความขดั แยง้ น้นั
ไม่ตอ้ งพดู กต็ อ้ งเกิดอยา่ งน้ีตอ่ ไป พอ่ ครูเนน้ เร่ืองน้ี เพอื่ อะไร
ศูนยแ์ ห่งน้ีไมไ่ ดต้ ้งั ช่ือวา่ ที่เราปฏิบตั ิ ท่ีเคา้ เรียกวา่ สมาธิเหว่ยี ง
พ่อครูไม่ไดต้ ้งั คาวา่ เหวย่ี งทิ้ง ๆ มนั เป็นกิริยา เราปฏิบตั ิ
เราเห็นอารมณ์อะไร เราก็เหวย่ี ง ความยดึ มน่ั ถือมน่ั อารมณ์
น้นั ทิง้ มนั เป็นกิริยา ไม่ใช่ชื่อเรียก พอ่ ครูไม่ต้งั ช่ือ ถา้ ต้งั ช่ือ
มนั กลายเป็นลทั ธินิกาย
การปฏิบตั ิธรรม ไม่ไดจ้ บอยทู่ ่ีสมาธิ การปฏิบตั ิธรรม
คือ มรรค ผล นิพพาน และตอนน้ีมนั เป็นอยา่ งน้ีหมดแลว้
กรรมใคร กรรมมนั บญุ ใคร บุญมนั สมยั พทุ ธกาลก็มี เคา้
เรียกวา่ จริตของแตล่ ะคน ก็ไม่เหมือนกนั พระองคถ์ ามวา่
สารีบุตรอยไู่ หน สาวกบอก อยใู่ นป่ าน้นั พร้อมท้งั สาวก
ท้งั หลาย โมคคลั ลานะอยไู่ หน อยใู่ นป่ าน้นั พร้อมท้งั สาวก
22
ท้งั หลาย เห็นไหม สมยั พทุ ธกาล อยใู่ นสานกั เดียวกนั มีครูบา
อาจารยอ์ งคเ์ ดียวกนั พระพทุ ธเจา้ องคเ์ ดียวกนั ยงั มีจริตไม่
เหมือนกนั นี่คือ นานาจิตตงั
แต่ถ้าเราต่างคน ต่างใช้จริ ตเราปฏิบัติไป อย่าไป
กล่าวโทษคนอ่ืน แต่เทวทตั ไม่ใช่แค่น้นั เทวทตั พยายามจะ
สร้างปัญหา เพราะเทวทตั ต้งั แตอ่ ดีตชาติ ชาติปัจจุบนั กเ็ กิดมา
เป็นลูกพี่ลูกนอ้ งของเจา้ ชายสิทธตั ถะ อิจฉาตาร้อน เกิดความ
พยาบาท มนั เป็นกรรมร่วม เธอทาขาว ฉนั จะทาดา เธอไปซา้ ย
ฉนั จะไปขวา แลว้ ก็แกลง้ พระพุทธองค์ มนั พิสูจนอ์ ะไร
แม้กระท่ังพระพุทธเจ้า ซ่ึ งตรัสรู้ธรรม เป็ นพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ก็หยุดกระแสกรรมไม่ได้
แต่พระองค์หยุดตัวเองได้ กระแสกรรม ท่ีบันทึกในจิต
เทวทตั พระองค์เปลี่ยนไม่ได้ เทวทตั ไปกระทบพระองค์
แต่จิตพระองค์ไม่กระเทือน มนั ไม่โง่ที่จะไปทุกข์ นอกจาก
วนั ใดวนั นึง วนั ที่พระองคล์ ะสังขารไปแลว้ พระองคไ์ ม่ตอ้ ง
มาเวยี นวา่ ยตายเกิด ในสามโลกธาตนุ ้ี กระแสกรรม มนั กไ็ ล่บ้ี
เราไมไ่ ด้
23
ฉนั ใดฉนั น้นั พวกเรากอ็ ยา่ ประมาท บางคนถามพ่อครู
วา่ เจา้ กรรมนายเวร มีจริงไหม เราจะไปปลดรหสั กรรม กบั
เคา้ ไดอ้ ยา่ งไร พอเราเขา้ จิตแลว้ อะไรก็แลว้ แต่ ไมใ่ ช่เรามา
ผกู เงื่อนตอ่ เราเกิดมาเพอ่ื ปลดเง่ือน เห็นแลว้ เรากล็ า้ ง ตา่ งคน
ต่างลา้ ง ลา้ งโปรแกรมท่ีมนั ผกู พนั ยคุ น้ีการศกึ ษาสังคมสอน
ใหเ้ ราสร้างความผกู พนั แต่พระพุทธเจา้ สอนใหเ้ รา ลด ละ เลิก
มาขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส ขดั โปรแกรมสัญญาต่าง ๆ ที่มนั
บนั ทึกไว้ ซ่ึงเป็นอปุ ทานในอดีต ใหม้ นั หมดไป ต่างคน
ตา่ งขดั ไม่ใช่มาสร้างความผกู พนั กนั ใหม่ ท้งั ผกู ท้งั พนั เป็น
กรรมใหม่
วนั น้ี ก็ใหท้ กุ คน เขา้ ใจเรื่องอาหาร ทกุ คนตอ้ งมีสติ
บริโภคใหม้ นั พอดีกบั ตวั เอง ไม่ใช่บริโภคใหม้ นั อร่อย ถา้
อร่อยกินมากไป ทอ้ งอดื กท็ ุกข์ ไม่อร่อยไม่กิน หิวก็ทุกข์ มนั
ไม่พอดี ทางสายมหายานชดั มาก เคา้ กราบไหวพ้ ระพุทธรูป
พระพทุ ธเจา้ อยตู่ รงกลาง ซา้ ยมือไหวพ้ ระโพธิสตั วก์ วนอิม ถือ
ศีลกินเจ ขวามือไหวอ้ รหนั ตจ์ ้ีกง กินเหลา้ กินเน้ือสัตว์
ถ้าเราไปเข้าใจว่า กินเหล้าผิดศีล บรรลุอรหันต์ได้
อยา่ งไร อรหันตจ์ ้ีกงกินเหลา้ แต่ไม่ถูกเหลา้ กิน ตวั เมา แต่จิต
24
ไม่เมา มันเป็ นเทคนิคของท่าน ท่านไม่มีเจตนา กรรมช้ี
เจตนา แต่อย่าเลียนแบบ พระพุทธเจา้ ไม่ไดห้ ้าม พระองค์
บอกละเวน้ เพราะกินแลว้ ขาดสติ ก็ไปสร้างกรรมใหม่ แต่
พระอรหันต์จ้ีกง ยิ่งกินมากเท่าไหร่ ตวั เมา จิตย่ิงตื่นรู้มาก
เท่าน้นั คือ มอมสมองซีกซา้ ย ไมใ่ หม้ นั ควบคุม
บางทีเราไปดูเผิน ๆ เราไปติดรูปแบบ วางตวั สารวม
เราไปติดคาวา่ สารวม แปลวา่ เรียบร้อย เดินมาอยา่ งผดู้ ีสารวม
เห็นสตรีตกน้า ฉันจะไม่ยุ่ง เด๋ียวฉันจะไม่สารวม เดินหนี
ฆ่าสตั วแ์ ลว้ จิตเราบอกบนั ทึกวา่ เธอไม่ช่วยชีวติ เธอฆา่ สตั ว์
เดินไปสารวมอย่างผูด้ ี ไปเห็นกระเป๋ าสตางค์เคา้ ตก เก็บ
ข้ึนมาใส่กระเป๋ าตวั เอง เดินกลบั บา้ น สารวมแบบผูด้ ี เธอ
ผดิ ศีล เธอไม่สารวม
คนนึงวง่ิ มาเหมือนลิงเลย ไม่เรียบร้อย โดดลงไปช่วย
สตรีข้ึนมาจากน้า ไปเห็นกระเป๋ าสตางคเ์ คา้ ตก กเ็ ก็บวงิ่ คืน
เจา้ ของ คนน้ีสารวมมาก สารวมแปลวา่ ระวงั สารวมอินทรีย์
ไมเ่ บียดเบียนตวั เอง และผอู้ ่ืน แต่ตอนน้ีเราไปติดเรื่องรูปแบบ
นงั่ ผา้ พบั ไว้ เรียบร้อย น่ิง ขา้ งในคิดนู่น คิดน่ี อิจฉาคนนูน้
25
คนน้ี คนน้ีไมส่ ารวมเลย เราหลอกคนอนื่ ได้ เราหลอกจิตเรา
ไม่ได้ อยา่ ไปดูแค่ภาพลกั ษณ์ขา้ งนอก
พ่อครูเคยยกตวั อยา่ ง พ่อครูผลกั เดก็ คนน้ีลม้ ลง เคา้ ก็
ร้องไห้ พ่อแมเ่ คา้ มาเห็นกบั ตาเลย หลายคนมาเป็นพยาน
ตารวจมา ไอค้ นน้ีผลกั เดก็ คนน้ีลม้ ลง เดก็ ลกุ ข้ึนมา ก็บอก ไอ้
คนน้ีผลกั ตารวจก็จบั เราไปขงั ทุกขไ์ หม ไมท่ ุกข์ อา้ ว! ทาไม
ไม่ทุกข์ งูจะกดั เด็กคนน้นั พอ่ ครูช่วยชีวติ เคา้ งูมนั ตกใจ มนั ก็
เลยหนีไป แตเ่ ราหลายคนไมเ่ ห็นงู บางคร้ังอยา่ เชื่อสายตา
ตวั เองมากนกั ฉนั เห็นจริง ๆ เห็นจริง แต่เธอเห็นไม่ท้งั หมด
เธอเห็นเจตนาเคา้ ไหม
บางคร้ัง ระวงั ไมร่ ู้ใครขาดสติกนั แน่ พยานเห็นวา่ ผลกั
เด็กกย็ นื ยนั แต่เคา้ ไม่รู้วา่ ผลกั ทาไม เราจะรงั แกเดก็ คนน้ีทาไม
ไม่น่ิง ๆ ดูก่อน กลา่ วโทษเลย เหมือนเราเขว้ียงบูมเมอแรง
ข้ึนไปบนฟ้า มนั ไมเ่ จออะไร มนั ยอ้ นกลบั มาถึงตวั เอง ยงิ่ ไป
ทากบั จิตที่บริสุทธ์ิ ถึงวา่ บางคร้ัง อยา่ เชื่อความคิดตวั เองมาก
อยา่ เช่ือสายตาตวั เองมาก
เราเห็นอรหนั ตจ์ ้ีกง รู้สึกยงั ไง เช่ือไหม ข้ีเหลา้ บรรลุ
ธรรมได้ ส่วนทางน้ีก็กินเจ พระโพธิสตั ว์ ก็เป็นพระโพธิสตั ว์
26
ทางสายจีนพระโพธิสัตว์ เคา้ เป็นพระอรหนั ต์ ซ่ึงมีบารมี
มากกวา่ พระอรหนั ตท์ ว่ั ไป แต่บา้ นเราบอกโพธิสตั ว์ ยงั ไม่
บรรลุอรหนั ต์ เห็นไหม พทุ ธศาสนาเหมือนกนั แตเ่ ชื่อไม่
เหมือนกนั คนกินเหลา้ ผิดศีล ทาไมอรหนั ตจ์ ้ีกงกินเหลา้ แลว้
บรรลธุ รรม อยา่ ไปมองขา้ งนอก ตอ้ งมองเขา้ ไปท่ีเจตนา
มีแมค่ า้ สองคน คนน้ีเชือดคอไก่บาป คนน้ีเชือดคอไก่
ไมบ่ าป ทหารสองคน ออกไปรบศึก คนน้ียงิ ศตั รูตายบาป
คนน้ียงิ ศตั รูตายไมบ่ าป ทาไมถึงเป็นอยา่ งน้นั พอ่ ครูเลือกท่ี
รักมกั ท่ีชงั ไมใ่ ช่ แมค่ า้ คนน้ีเชือดมีความสุข เชือดเพ่ือจะได้
สร้างความมง่ั คง่ั ตวั เอง แตค่ นน้ีเป็นลูกจา้ ง กูมีหนา้ ที่เชือด ก็
เชือด ไมไ่ ดย้ นิ ดียนิ ร้าย คนน้ีไมม่ ีเจตนา ทหารคนน้ีไปยงิ
ศตั รูตาย สะใจมาก จิตบนั ทึกแลว้ คนน้ีไปยงิ ศตั รูตาย ลกู ปื น
มนั ไปยงิ ไมม่ ีความรู้สึก เคา้ ทาหนา้ ท่ีเคา้
แตท่ ้งั แมค่ า้ สองคนเชือดไก่ โอกาสมือเป้ื อนเลือด กม็ ี
โอกาสเผลอมีดบาดมือ กม็ ี อนั น้ีเป็นกรรมเฉพาะหนา้ อยา่ ง
หลวงตาท่านเดินมา บงั เอิญทา่ นเหยยี บมด บางทีกถ็ กู มดกดั
ตอนน้นั เลย กร็ ับกรรมเวลาน้นั แต่ถา้ ไมถ่ ูกมดกดั ท่านไมไ่ ด้
ทาอะไรเลย แตถ่ า้ เราต้งั ใจฆ่า มนั บนั ทึกในสัญญาเรา ตายแลว้
27
ไม่จบ เผาแลว้ กลายเป็นอากาศธาตุ ที่เหลอื เป็นธาตุดิน แต่จิต
วญิ ญาณน้นั เผาไมไ่ ด้ ธรรมชาติบอก อยา่ คา้ กาไรเกินควร นน่ั
แหละ กลายเป็นบาป กลายเป็นวิบากกรรม
แต่ถา้ กรรมเฉพาะหนา้ ทหารสองคนน้นั เจตนาก็ดี ไม่
เจตนากด็ ี หาเร่ืองไปเป็นทหาร โอกาสท่ีถูกเคา้ ยงิ ตายกม็ ี
โอกาสเหยยี บกบั ระเบดิ ก็มี แต่ถา้ เราไม่ไปสร้างกรรมตรงน้นั
โอกาสท่ีเราเจอตรงน้นั ก็ไม่มี แต่เป็นกรรมเฉพาะหนา้ คือ
มนั ผา่ นไป กค็ ือผา่ นไป แต่ถา้ เราไปใส่เจตนา ตายแลว้ ไม่จบ
มนั บนั ทึกสญั ญาน้นั ขา้ มภพขา้ มชาติ กลายเป็นวิบากกรรม
เป็นบาป กรรมตอ้ งดูทเ่ี จตนา กรรมช้ีเจตนา
ทีน้ีถา้ จิตซ่ึง เรามองไม่เห็น วาระจิตเคา้ อยา่ พ่ึงด่วน
สรุป สกั แต่วา่ เห็น อยา่ พิจารณา อยา่ ตดั สิน รู้เฉย ๆ ตอนน้ีเรา
ชอบตดั สินเลย ชอบแยง่ งานยมบาลทา บางทีเผลอตกนรก
ลงไป ยมบาลโกรธมาก ไปแยง่ งานยมบาลทา ไม่ใช่หนา้ ที่เรา
ตอ้ งไปตดั สินคนน้นั คนน้ี สักแตว่ า่ รู้ สักแตว่ า่ เห็น แกไ้ ข
ตวั เอง เอาตวั เองใหม้ นั รอดพน้ ก่อน
ยคุ น้ีมนั เป็นยคุ อะไรไมร่ ู้ ยง่ิ มีเทคโนโลยี เคา้ ส่งไลนม์ า
รีบส่งเลย กลวั มนั จะชา้ กวา่ คนอ่นื เคา้ เรียกวา่ สร้างกรรมร่วม
28
มนั ส่งไปทวั่ โลก ท้งั มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ไปทีเดียว
โดยไม่เอามาวิเคราะห์ ชอบวจิ ารณ์ ไมช่ อบวิจยั สร้างกรรม
ทกุ วนั พอ่ ครูเตือน ไมใ่ ช่เร่ืองเล่น บางทนี ิ่งเฉยตาลงึ ทอง
อะไรท่ีไม่แน่ใจ อยา่ ไปร่วมสังฆกรรม เราหา้ มคนอ่ืนเคา้ ไม่ได้
แต่ชีวติ เป็นของเรา เราหา้ มตวั เองไม่ใหส้ ร้างกรรมได้ ตอนน้ี
สร้างกรรมกนั ทกุ ๆ นาที ทกุ ลมหายใจเขา้ ออก อนั ตรายมาก
โลกเราเปลี่ยนแปลงทกุ ปี ดินฟ้าอากาศก็แปรปรวนไป
หมด ดว้ ยฝีมือมนุษย์ ไปทาลาย ความสมดุลของธรรมชาติ
มนั มีส่ิงเตือนภยั เรา แบบวา่ ธรรมชาติไม่ปกติละ พระอาทิตย์
เองก็ร้อนข้ึน น้าในเข่ือนมนั ลดลง ปี น้ีลงไปไกลที่สุด ปัญหา
ต่าง ๆ รุมเร้าเราแลว้ กฝ็ ีมอื มนุษยผ์ ปู้ ระเสริฐ เรากินได้
แมก้ ระทง่ั เน้ือคน แลว้ มนั จะไมก่ ลา้ ทาอะไร มนั กลา้ ทาหมด
ทกุ อยา่ งร้อนไปหมด
คนโบราณเคา้ บอก เดด็ ดอกไมด้ อกเดียว กระทบไปท้งั
จกั รวาล ตอนน้ีเราเห็น จิตใจมนุษยเ์ ร้าร้อน กรรมที่มนุษย์
สร้างมนั กระทบไปจกั รวาล ตวั พระอาทิตยร์ ้อนข้ึน ทกุ วนั น้ี
เพง่ ดพู ระอาทิตยไ์ มไ่ ด้ ไม่ใช่ greenhouse effect อณุ หภูมิ
ของโลก พระอาทิตยร์ ้อนข้ึน พระจนั ทร์เส้ียวนิดเดียวเอง ก็
29
ทรงกลด มนั ไมเ่ คยเป็นแบบน้ี จกั รวาลกก็ าลงั เปลี่ยน เพราะ
มนุษยเ์ รา
แหล่งน้าท่ีใหญท่ ่ีสุด ในจกั รวาล ไม่ใช่อยมู่ หาสมทุ ร
ในโลกน้ีอยบู่ นอากาศ ในอากาศน้นั มอี อกซิเจน ในออกซิเจน
น้นั มีน้า ในน้ามีจุลินทรีย์ ในจุลินทรียน์ ้นั มีวิญญาณ มนั
เช่ือมโยงกนั ไปหมด ฝีมือมนุษยเ์ รา ทาลายลา้ งจนโลกใบน้ี
มนั ไม่สมดุลแลว้ ไปเจาะน้ามนั มา วนั นึงหลายลา้ นบาเรล
เอามาแลกเป็นเงิน กวา่ จะเป็นน้ามนั มนั กี่ลา้ นปี มนั ก็เป็น
โพรง มนั กถ็ ลม่ ไปทดลองนิวเคลียร์ใตม้ หาสมทุ ร ภูเขาไฟที่
มนั นอนตายอยใู่ ตม้ หาสมุทร มนั ก็โผล่ข้ึนมา น้ามนั กร็ ้อนข้ึน
ลาวาก็ไหลออกมา ปลาไมเ่ คยเกยต้ืน มนั กห็ ลงทิศหมด ลาวา
ข้ึนมามนั ก็เป็นโพรงอีก เด๋ียวมนั กถ็ ลม่ อีก
ตอนน้ีโลกใบน้ีไม่ปลอดภยั แลว้ ยง่ิ มายงิ่ แรงข้ึน พ่อครู
อยทู่ ่ีนี่นิ่ง ๆ ธรรมชาติฟ้องพอ่ ครู ตอนน้ีกาลงั เร่ิม มีปัญหา
เรื่องน้าจืดกนั ชาวไร่ชาวนาเดือดร้อนหมด ปกติเมืองไทยเรา
ในน้ามีปลา ในนามีขา้ ว แต่ตอนน้ี ท้งั แลง้ ท้งั ทว่ ม เพราะวา่
มนั ไม่สมดุล
30
ทุกวนั น้ี เรื่องกินวนุ่ วายมาก มนุษยเ์ รามีกิน กาม เกียรติ
สามเรื่องน้ี สร้างปัญหามาก เรื่องกินก็มากเรื่อง เราจะกิน
อะไร กินอาหารซ่ึงเป็นผกั เคา้ บอกบริสุทธ์ิหน่อยนึง ฉนั
บริสุทธ์ิกวา่ เธอ เธอกินมงั สวิรัติ ยงั ไมบ่ ริสุทธ์ิ มีกระเทียม
มีนูน้ มีกลิ่น ฉนั กินเจ ไปไหนกห็ ิ้วเจไปดว้ ย ไม่ใช่วางนะ มนั
หิ้ว กินก็กินไป แลว้ กไ็ ปวา่ คนอ่ืนเคา้ พวกกินเน้ือสตั ว์ พวก
ยกั ษ์ พวกมาร พวกกินเน้ือสตั วก์ ็ไปด่าพวกเทวทตั ด่ากนั ไป
ด่ากนั มา ตา่ งคนต่างสร้างวจีกรรม
พ่อครูมีเพอ่ื นฝร่ังอยอู่ เมริกา เคา้ รักพอ่ ครูมาก เคา้ เป็น
ห่วง ส่งขา่ วมาเป็นช่วง ๆ เคา้ บอก เคา้ ฟังขา่ วเมืองไทยตอนน้ี
เคา้ บอกวา่ คนไทยชวั่ หมด ไม่มีคนดีซกั คนนึง เพราะ ไอน้ ี่ก็
ด่าเธอชว่ั ไอน้ ้ีกด็ ่าเธอชวั่ มนั ฟังใครท่ีไหน มีแต่คนชวั่ ไม่มี
คนดีซกั คนหรือ อยดู่ ี ๆ ไมช่ อบ กด็ ่ากนั สาดโคลนใส่กนั ไม่มี
ใครดีสักคน เพราะเราใหอ้ ภยั ไมไ่ ด้ ยดึ มน่ั ถือมน่ั ในความคิด
ตวั เอง สะใจ อภยั ทานกนั กไ็ ม่ได้ มนั ร้อน เป็นไปท้งั หมด ถา้
เราไมร่ ะวงั อุณหภูมิยงิ่ ร้อนข้ึน ขา้ งนอกร้อน ใจกย็ งิ่ ร้อน ใจ
ร้อนก็ ทาใหอ้ ุณหภูมิร้อนอีก มนั กระทบถงึ กนั หมด
31
ขนาดพวกเราอยทู่ ี่น่ี ปฏิบตั ิทุกวนั พอ่ ครูยงั เตือน อยา่
เผลอ มนั จอ้ งตีหวั เราอยู่ เพราะพวกเราไมไ่ ดป้ ิ ดเหมือนเก่า เรา
เปิ ด ต้งั แต่เปิ ดใหไ้ ฟฟ้าเขา้ มา มนั กเ็ อากิเลสมาดว้ ย ผคู้ นมาก
หนา้ หลายตา เขา้ มา แต่เมื่อเราจะใหแ้ ลว้ ไมต่ อ้ งกลวั แตเ่ รา
ตอ้ งระวงั มากข้ึน อยา่ ชะลา่ ใจ อยา่ ประมาท มีเวลาตอ้ งฝึก
พรหมวหิ าร ใชพ้ รหมวิหารบ่อย ๆ สร้างอนิ ทรียพ์ ละ ถา้ เรา
ประมาท พอถึงเวลากรรมเราลูกโต ๆ มนั โผลข่ ้ึนมา เซเลย ไม่
มีกาลงั สู้มนั มีโอกาสหน่ึงวนั กท็ า หน่ึงวนั อยา่ ประมาท
วนั น้ีกม็ ีโอกาสคุยกบั ญาติธรรม มาจากออสเตรเลีย เคา้
ไม่ค่อยมีเวลา ตอ้ งทางาน ตอ้ งกา้ วหนา้ ในตาแหน่งหนา้ ท่ี
สูงข้ึน ตอ้ งรอเกษียณก่อน ค่อยมาปฏิบตั ิ พอ่ ครูกบ็ อกวา่ เรา
เขา้ ใจผดิ คาวา่ ปฏิบตั ิธรรม เราคิดวา่ วิถชี ีวติ ที่เราอยกู่ บั โลก
กบั วิถีทางธรรม มนั คนละเร่ือง เอาไวเ้ กษียณก่อน ไม่มีแรง
ทางาน แลว้ ค่อยมาปฏบิ ตั ิธรรม อนั น้ีเราประมาท
การปฏิบตั ิธรรม คือ การทาหนา้ ท่ี ธรรมะคือหนา้ ที่
หนา้ ท่ีคือธรรมะ การทาหนา้ ที่คือ การปฏิบตั ิธรรม ทุกคนตอ้ ง
มีสมั มาอาชีวะ ตอ้ งมีอาชีพ แตเ่ ราตอ้ งมีหนา้ ที่อยา่ งมีความสุข
32
ถา้ มนั ยงั ไมพ่ น้ ทุกข์ ใหม้ นั สุขก่อน อยา่ อดทนทางาน เพอื่
ความสุข จงทาตนใหม้ นั มีสุข เมื่อไดท้ างาน นน่ั คือทาหนา้ ท่ี
หลงั เกษียณแลว้ คอ่ ยมาปฏิบตั ิธรรม เคา้ ใชค้ าวา่ วางยงั
ไม่ได้ ยงั มีภาระตอ้ งทา บอกเขา้ ใจ คาวา่ วางผดิ วางไมไ่ ด้
แปลวา่ ทิง้ พระพุทธเจา้ ไม่ไดส้ อนใหเ้ ราข้ีเกียจ วางแปลวา่
วางความยดึ มนั่ ถือมนั่ ท่ีเราไปหลงกบั มนั ลาภ ยศ สรรเสริญ
ทาเพือ่ อนาคต ไม่ไดท้ าเพ่ือชีวติ คนที่อนั ดบั ตน้ ๆ ของโลก
ถามวา่ เคา้ สาเร็จรึยงั ยงั สาเร็จแปลวา่ เสร็จแลว้ เคา้ ยงั ไมเ่ สร็จ
เลย แลว้ เราเมื่อไหร่จะเสร็จ ไม่ใช่รอเกษียณ แลว้ ค่อยเสร็จ
รอเกษียณ คอ่ ยมาปฏิบตั ิ
ตอ้ งปฏิบตั ิธรรมทุกวนั หิวก็กิน ง่วงก็นอน นน่ั คือ
ปฏิบตั ิธรรม ทางานคือการปฏิบตั ิธรรม แต่ตอ้ งทาอยา่ งมีสติ
มีสมาธิต้งั มน่ั อยกู่ บั มนั อยา่ งเดียว ไม่ใช่ทาไปดว้ ย คิดไปดว้ ย
นึกไปดว้ ย อนั น้นั ไม่ปฏิบตั ิธรรม อนั น้นั ทาตามกิเลส ปฏิบตั ิ
ธรรมทาตามหนา้ ที่ ไมเ่ น่ืองดว้ ยกิเลส กิเลสไมใ่ ช่ธรรมชาติ
กิเลส คือส่ิงที่เราสร้างมนั ข้ึนมา เป็นส่ิงปรุงแต่ง
เคา้ เขา้ ใจวา่ คาวา่ วาง กค็ ือตอ้ งทิง้ ท้งั หมด ไม่ใช่อยา่ ง
น้นั พอ่ ครูไมเ่ คยชวนใครวา่ ตอ้ งมาอยใู่ นป่ าเหมือนพอ่ ครู ถึง
33
จะทา กท็ าไมไ่ ดห้ รอก โดยเฉพาะศูนยน์ ้ีมาอยงู่ ่าย ๆ ไมม่ ี
เงื่อนไขอะไร แต่อยยู่ าก ที่มนั อยยู่ าก ไม่ใช่เป็นเพราะอยา่ งอนื่
เป็นเพราะตวั เอง ไมท่ นั กิเลสตวั เอง อา้ งโนน้ อา้ งน่ี ถา้ เราไป
ต้งั กฏิกา ทกุ คนเป็นหุ่นยนตเ์ หมือนกนั หมด สบา้ ยสบาย ตาม
วินยั เลย อนั น้นั หลอกกนั เราตอ้ งแกท้ ี่ตวั เอง ใหร้ ู้เท่าทนั ส่ิง
ที่มากระทบ แลว้ กส็ กั แต่วา่ รู้ อยา่ ไปคิดเพิ่ม ลมพดั มาก็รู้ จบ
ถา้ ไปหาคาตอบ เอะ๊ ทาไมลมพดั มามนั เยน็ ไปวจิ ยั อีก กี่องศา
อีก แลว้ ก็ตามมนั ไป มนั มาจากไหน เห็นไหม เราชอบรู้
เรามาในสายพทุ ธศาสนา เรารู้อยแู่ ลว้ วา่ ทกุ อยา่ งเป็น
อนิจจงั ทกุ ขงั อนตั ตา มนั ไมเ่ ที่ยง มนั เกิดข้นึ ต้งั อยสู่ ลาย มนั
ทุกขงั เพราะดารงอยไู่ ดย้ าก มนั เป็นของชวั่ คราว ตน้ ไมอ้ ยไู่ ด้
ลา้ นปี ไหม ไม่ ตน้ ไมก้ ช็ ่ือสมมติ มนั เป็นตน้ ไมช้ วั่ คราว มนั
เป็นอนตั ตา มนั ไมใ่ ช่ตวั ตนท่ีแน่นอน เพราะมนั ดารงอยไู่ ด้
ยาก เพราะมนั ไมเ่ ที่ยง เรารู้อยแู่ ลว้ อะไรกไ็ มใ่ ช่ ถามวา่ อยากรู้
อะไรหรือ
เราเอาแกว้ ตรงน้ีมาวิจยั ถา้ ในทางวิทยาศาสตร์ อยากรู้
ว่ามันสร้างด้วยอะไร เราก็เอาไปหลอมละลาย แล้วไปหา
ส่วนผสมของมนั แลว้ สุดทา้ ย เฮย้ มนั ไม่ใช่แกว้ แก้วนี่คือ
34
อนตั ตา คือว่า มนั ไม่ใช่ตวั ตน มนั เป็ นแกว้ ชว่ั คราว เอาไมค์
ตวั น้ีไปวิจยั ก็ไปยอ่ ยสลายอีก แลว้ สุดทา้ ย มนั กไ็ มใ่ ช่ไมค์
มันเป็ นอนัตตา ถามว่าอยากรู้อะไร ไม่มีอะไรให้รู้ แต่
เน่ืองจากกิเลส ตวั อยากรู้ของเรา เราถูกสอนวา่ ตอ้ งรู้สิ
มีฝรั่งคนนึงมาหาพ่อครู ถามพอ่ ครูคร่ึงวนั ถามไปตอบ
มา พ่อครูวา่ เอะ๊ มนั ไม่จบนะ บงั เอิญตอนน้นั มีระฆงั ช่วย
เคา้ บอกไปกินขา้ วเท่ียง วนั น้นั ครัวทาก๋วยเตี๋ยวพอดี พอ่ ครูก็
ไดท้ ี ถามวา่ คุณรู้จกั ม้ยั เคา้ เรียกวา่ อะไร บอก I don’t know
คนไทย เรียกวา่ ก๋วยเต๋ียว เธอถามพอ่ ครูวา่ รสชาติมนั เป็นยงั ไง
พ่อครูก็บอก มนั เปร้ียวนิดนึง เคม็ นิดนึง หวานนิดนึง คุณรู้
แคน่ ้นั ทาไมไมช่ ิมดู ไมต่ ายหรอก ไม่ตอ้ งเสียเงินดว้ ย เคา้ บอก
I get it เคา้ ถงึ ยอมปฏิบตั ิ
ฉนั เป็นนกั วิทยาศาสตร์ ฉนั ตอ้ งมีเหตุผล ถามจนตาย ก็
ไม่รู้ leaning by doing เรียนรู้ดว้ ยการปฏิบตั ิจริง ๆ ก๋วยเต๋ียว
ช่วยชีวติ ถาม กไ็ ม่จบ พอถามเร่ืองน้ีก็ เอาเร่ืองน้นั พอถาม
เรื่องน้ี กเ็ อาเร่ืองน้ี ตอนน้ีมีนกั ถามที่นี่อยู่ ไมใ่ ช่ไปแกท้ ี่หาย
สงสยั แกท้ ่ีไมส่ งสัย ไดย้ งั ไง นอนไมห่ ลบั หาคาตอบไมไ่ ด้
35
ทุกข์ พอ่ ครูไม่ปลดทุกขใ์ ห้ จะนอนหลบั ไดย้ งั ไง ถา้ บอก ก็
หายสงสยั ไปนอนหลบั ได้
พรุ่งน้ีกิเลสตวั ข้ีสงสยั เอาอาหารใหม้ นั กิน มนั ก็ถาม
เรื่องอ่ืนอีก เราแกท้ ่ีปลายเหตุ เราตอ้ งดบั ท่ีตน้ เหตุ ฆา่ ไอต้ วั
ข้ีสงสัยทิ้ง มวั แต่หาคาตอบ แทนที่ จะเอาเวลามาเหวย่ี งทิ้ง
มาเดินทางออกใหม้ นั จากป่ าไว ๆ เดินออกจากป่ า เฮย้ ดอกไม้
น่ีสวย เกิดมาไม่เคยเห็น กไ็ ปวิจยั มนั อีก ไปรอเสือมนั มากิน
เราตายในป่ าวฏั สงสาร ไมร่ ู้กี่รอบแลว้ พอเดินไป เจอน้าตก
สวยมาก เฮย้ ไปเลน่ ซกั หน่อยนึง ไฟไหมป้ ่ าก็ออกมาไม่ได้
ตวั อยากรู้ อยากเห็น อยาก คือ ท่ีมาของทุกข์ จะไปนิพพาน
ดว้ ยความอยาก มนั ไปไม่ไดห้ รอก จบอยทู่ ี่เหวย่ี งทิง้ เหว่ียงทงิ้
ไมใ่ ช่ช่ือเรียกสมาธิ มนั เป็นกิริยา เตอื นสติเราวา่ อยา่ ไปติดมนั
ผา่ น อยา่ ไปยดึ มนั่ ถือมน่ั
เคา้ บอกวา่ สมาธิเหวี่ยง มนั ไม่พน้ ทกุ ข์ ตวั สมาธิเหวี่ยง
มนั เกี่ยวอะไรกบั พน้ ทกุ ข์ พน้ ไมพ่ น้ มนั อยทู่ ี่ตวั เรา ไม่เกี่ยวกบั
สมาธิน้นั สมาธิน้ี คนเราอะไรกนั นกั หนา แทนท่ีจะเอาเวลา
ถาม ไปสร้างบารมี ไปปฏิบตั ิ ไปขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส มีแต่
ถามเพอื่ อยากรู้ ไปเล้ียงไอต้ วั อยากรู้ ตวั อยาก มนั ก็ยงิ่ โตข้ึน
36
โตข้ึน มนั ไมม่ ีวนั จบสิ้นหรอก ตอ้ งฆา่ มนั ทิง้ ตวั อยากรู้ มนั ก็
เกิดสงสยั ลงั เล สงสัยกเ็ ป็นนิวรณ์ จิตมนั จะเดินไป กด็ ึงมนั มา
เล่นชกั คะเยอ่ อยนู่ นั่ แลว้ เม่ือไหร่มนั จะไปไหน
ต้งั มนั่ ศรัทธา เดินทางออกจากป่ าใหเ้ ร็วที่สุด เราเกิดมา
เพ่ือเดินทางต่อ เป้าหมายคือพน้ ทุกข์ ออกจากป่ าใหไ้ ด้ ไม่ใช่
ไปฝึกวชิ าใด ๆ ท้งั น้นั ไมใ่ ช่ไปหาความรู้ พทุ ธเจา้ ไม่ไดส้ อน
ใหเ้ ราเพ่มิ เติมอะไรเลย ส่ิงท่ีเรามอี ยแู่ ลว้ มนั มากเกินไป สอน
ใหเ้ รา ลด ละ เลิก อยา่ งเดียว ไมต่ อ้ งเพ่มิ ความรู้ ความรู้เป็นแค่
ขยะ ปัญญามีอยแู่ ลว้ เตม็ เป่ี ยมอยขู่ า้ งใน เดินเขา้ ไปหา อยาก
กา้ วหนา้ ตอ้ งถอยหลงั
ทาไมเราจะไม่มีปัญญา จิตเรา มนั มีอายุเท่าไหร่รู้ไหม
จิตเราอายุหลายแสนกัป เราเข้าไปเรียนรู้กับเค้า เค้าผ่านมา
หมดแลว้ มวั จะไปหาความรู้ที่ไหน วิ่งไปหาความรู้ ว่ิงไปปลด
รหัสกรรม กบั คนน้นั คนน้ี ตายแลว้ หลายชาติ ก็ปลดไม่หมด
เจา้ กรรมนายเวรเรา ยงั เป็ นเทวดาอยู่ก็มี เปรตอสูรกาย เป็ น
สัตว์เดรัจฉานอยู่ ก็มี รอให้มันเกิดมา ปลดรหัสกรรม
เหมือนกนั หรือ อุย้ รู้สึกว่าตอ้ งไปนนั่ อยุ้ รู้สึกว่าตอ้ งไปปลด
37
อย่างน้ี รู้สึก น่ันแหละ อุปทานมันหลอกเรา ไม่ใช่ไป
สนองมนั แกท้ ่ีตวั เอง
พระพุทธเจา้ ยงั แกเ้ ทวทตั ไมไ่ ดเ้ ลย พระองคย์ ง่ิ ใหญ่
แคไ่ หน สุดทา้ ยเทวทตั ก็ตกนรก แลว้ เราเป็นใคร เราจะไป
ปลดรหสั กรรมหรือ ปลดที่ตวั เอง คนอ่ืนมนั จะแบกไป กบ็ อก
ใหเ้ คา้ แบกไป กรรมใครกรรมมนั ไม่ใช่เรื่องของเรา ไปปลด
รหสั กรรม บางทีกถ็ ูกหลอกวา่ ตวั เองไม่เคยรู้วา่ ตวั เองเป็นใคร
เรียนเก่ง ๆ ไปหาเงินเยอะ ๆ เหน่ือยมากเลย เอาเงินไปให้
หมอดู หมอดูช่วยดูฉนั หน่อย วา่ ฉนั เป็นใคร โง่ขนาดน้ี ตวั เอง
ยงั ไมร่ ู้ตวั เอง ไปถาม ใหค้ นอื่นมาบอกวา่ ฉนั เป็นใคร
เคา้ ก็ เธอเป็นอยา่ งน้นั เธอเป็นอยา่ งน้ี เธอกาลงั ดวง
ไมด่ ี เธอตอ้ งไปทาบญุ ทีน้ีรู้ละวา่ ดวงไมด่ ี ไมท่ าไดไ้ หม นอน
ไมห่ ลบั อีก ไปปล่อยนก ปลอ่ ยปลา ถูกเคา้ หลอก การปลด
รหสั กรรม มอี ยา่ งเดียวเท่าน้นั คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็คือ
ไปขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส ไปลา้ งโปรแกรมกรรม มนั อยใู่ นจิต
เรา ท่ีไปปลอ่ ยนก ปล่อยปลา มนั กเ็ ป็นอุบายวธิ ี ทาใหเ้ รา
สบายใจ ถา้ ไม่ทา กไ็ มส่ บายใจ อยดู่ ีดีไมช่ อบ หาเรื่องใหเ้ คา้
ไปทายทกั วา่ เธอดวงไม่ดี ตอ้ งไปทาบญุ ไม่ทา ก็นอนไม่หลบั
38
พ่อครู หลายปี ก่อน พาเดก็ ไปเที่ยว ไปเจอเพ่ือนเก่า เคา้
ก็มายนื คุยกบั พ่อครูวา่ ลูกพี่เคา้ ดูดวงแมน่ จะดูไหม พอ่ ครู
บอก ไม่ นี่พอ่ ครูแมน่ มาก เคา้ บอก แม่นยงั ไง ท่ีนงั่ อยทู่ ่ีน่ี
ท้งั หมด อนาคตนี่ตายหมดเลย แมน่ ไหม เตรียมตวั ตายรึยงั มี
แต่เตรียมตวั รวยกนั รวยรึเปลา่ ไม่รู้ แตว่ า่ ตายแน่ๆ
ทาไมไม่เตรียมตวั ใช่ไหม แมน่ รึเปลา่ ไมต่ อ้ งดดู วง
หรอก พอ่ ครูดูแม่น อนาคตเธอตายแน่ ๆ ถา้ รู้แลว้ ตอ้ งทายงั ไง
แทนที่จะเอาเวลาไปหาความรู้ ไปถามคนน้นั คนน้ี เอาเวลามา
เตรียมตวั ตาย ไม่ดีกวา่ หรือ จะไดต้ ายแบบยมิ้ ๆ ถา้ เราตายดี
ไปสู่สุคติภมู ิ ถา้ ตายไมล่ ง ทุคติภูมิ โปรแกรมสุดทา้ ยของจิต
เรา มนั ส่งผลใหเ้ ราไปอยใู่ นร่างท่ดี ีข้ึน หรือเลวลง นน่ั แหละ
คือส่ิงท่ีเราตอ้ งทา ไม่ใช่เที่ยวไปถามคนน้นั คนน้ี เที่ยวไปนู่น
ไปนี่ ไปปลดรหสั กรรม รหสั กรรมมนั อยขู่ า้ งใน ของใคร
ของมนั
เรารักคุณแม่ คุณพอ่ มากเลย เราปฏิบตั ิธรรมจะแบ่งบญุ
ของเรา ใหท้ า่ นไดไ้ หม ไมไ่ ด้ กรรมใคร กรรมมนั บุญใคร
บญุ มนั ตอ้ งช้ีทางธรรมใหท้ า่ น ทา่ นตอ้ งปลดของตวั เอง ตา่ ง
คนต่างปลด เราออกกาลงั กายแขง็ แรงมาก อยุ้ รักคุณแมม่ าก
39
คุณแม่ไมแ่ ขง็ แรง แบง่ ความแขง็ แรง ใหค้ ณุ แมไ่ ดไ้ หม ก็
ไม่ได้ ของใครของมนั ไมใ่ ช่เร่ืองเห็นแก่ตวั เป็นเร่ือง
เฉพาะตวั เราตอ้ งเจียมเน้ือเจียมตวั อยา่ ไปฝืนกฎแห่งกรรม
ใคร และที่สาคญั อยา่ ไปแยง่ งานยมบาลทา ไม่มีหนา้ ที่ไป
ตดั สินคนน้นั คนน้ี น่ิงเฉยตาลึงทอง บางคร้ังกเ็ ห็น กส็ ักแต่วา่
เห็น ก็ไม่เจบ็ ตวั
ตอนน้ียคุ ข่าวสารไร้พรมแดน ถา้ ขา่ วสารดี กด็ ีไว ถา้
ข่าวสารเลว ก็เลวไว แต่ตอนน้ีมนั เป็นในทางที่เลวหมด กลวั
จะไมท่ นั เคา้ ขอ้ มลู อะไรมา ยงั ไมว่ ิเคราะห์ กกู ส็ ่งตอ่ เลย เคา้
เรียกวา่ กรรมร่วม ร่วมสงั ฆกรรม เราจะตอ้ งรับผลกรรมตรง
น้นั ส่วนมาก มีแต่เร่ืองขา่ วท่ีไปวา่ คนอืน่ อิจฉาคนอ่ืน ตอนน้ี
ชอบมากเลย ส่งต่อ ตอ่ สร้างกรรม สมยั ก่อนเราคุยกนั สองคน
ฉนั เกลียดเธอ เธอเกลยี ดฉนั ก็สร้างกรรมเฉพาะตวั คนอ่ืน
ไมไ่ ดย้ นิ อนั น้ีมนั ออกไปในเวป็ ไซต์ มนั ประกาศไปทวั่ โลก
กรรมหนกั
ตอนน้นั ลูกนอ้ งพอ่ ครู ผจู้ ดั การสาขาตา่ ง ๆ ก็มาเยยี่ ม
พอ่ ครู มิสเตอร์ชคั ต่อวา่ พ่อครู วา่ สมยั ก่อน เคา้ เรียกพีใ่ หญ่
พใี่ หญส่ อนใหพ้ วกผมสู้ พ่ีใหญห่ นีทาไม ต่อวา่ เหมือนเราเป็น
40
คนปากวา่ ตาขยบิ ถามก่อนวา่ สูไ้ ปทาไม เคา้ กน็ งั่ คิดวา่ พี่ใหญ่
จาไดไ้ หม ตอนพ่ใี หญอ่ ยอู่ เมริกา ผมขบั รถฟอร์ด ราคาถกู
ตอนน้ีผมมีรถเบนซ์ มือถือรุ่นใหมด่ ว้ ย พอ่ ครูแลว้ ยงั ไง เคา้
บอกสะดวกสบายกวา่ เก่า พ่อครูถามวา่ แลว้ ที่พอ่ ครูไมต่ อ้ ง
ขบั รถ และไม่ตอ้ งถือมอื ถือดว้ ย ใครสบายกวา่ กนั
คลา้ ยๆ มนั สะดวก มนั สบายจริงหรือ ขบั รถจะชนกนั
ตาย แล้วยงั จะไปพูดมือถืออีก ในวนั หน่ึง แปดช่ัวโมงอยู่
สานักงาน ไม่พอ ต่ืนเช้ามาก็พูด เวลาไม่พูด คือเวลาอาบน้า
กับนอนเท่าน้ันเอง กินขา้ วก็พูด มนั สนุกดี อย่างพ่ีใหญ่ไม่
ต้องขับ ไม่ต้องถือ ใครสบายกว่ากัน เค้าก็นั่ง งง น่ันคือ
คาตอบ แลว้ ก็ขอโทษนะ สมยั ก่อนพ่ีใหญ่ยงั โง่อยู่ ต่อไปน้ีตวั
ใครตวั มนั เราก็ไม่ได้เรียก ชวนเคา้ มาอยู่ในป่ า เคา้ ทาไม่ได้
หรอก เพราะเราเคยเป็ นแบบเคา้ มาแลว้ เรารู้ว่าเคา้ คิดยงั ไง
แต่เค้าไม่เคยเป็ นแบบเรา เม่ือเราเป็ นผู้รู้ เราก็ต้องไม่
กล่าวโทษเคา้
สมยั ก่อนพอ่ ครู นกั สูผ้ ยู้ งิ่ ใหญ่ จนกลายเป็นไมเกรน ได้
รางวลั ชีวิต คิด คิดทุกเรื่องท่ีมองเห็น คิดทกุ เรื่องที่ไดย้ นิ คิด
หมด ไมม่ ีแมแ้ ตเ่ ร่ือง ที่ไม่คิด มนั ก็ไดร้ างวลั ชีวิต เราสร้าง
41
มโนกรรมบ่อย ๆ ผลกค็ ือ ปวดหวั เป็นไมเกรน โรคเครียดลง
กระเพาะ พอจิตมนั พลกิ ยสี่ ิบหกปี ไม่ตอ้ งกินยาพาราแมแ้ ต่
เมด็ นึง ไม่เคยปวดหวั เลย เพราะมนั ไมเ่ คยคิด เราแกท้ ่ีตน้ เหตุ
แตพ่ วกเราหยดุ คิดไม่ได้ เพราะเราฝึกวชิ าคดิ มาตลอด
ชีวิต ถา้ คิดไมเ่ ป็น เคา้ ด่าดว้ ย ไอโ้ ง่ คิดไม่เป็น จริง ๆ แลว้ เคา้
เขา้ ใจ คาวา่ คิดเป็นผิด คนคิดเป็น คือคนไมค่ ิด ไมใ่ ช่คนคิดเกง่
คนคิดเก่ง ยง่ิ คิดก็ยง่ิ ทกุ ข์ เรียกวา่ คนคิดไมเ่ ป็น คนคิดเป็น
ถา้ จาเป็นตอ้ งคิด คิดแตเ่ รื่องเป็นกศุ ล เป็นประโยชนต์ ่อตวั เอง
และผอู้ ่ืน
อัน น้ี คิ ด แ ต่ เรื่ อ ง อ ะไรไม่ รู้ คิ ด แ ต่ เร่ื อ งเป็ น
ผลประโยชน์ต่อตัวเอง คิดจนเป็ นมะเร็ง เราเขา้ ใจภาษาผิด
ไม่ใช่สังคายนาพระไตรปิ ฎกใหม่ ตอ้ งสังคายนาภาษามนุษย์
ใหมห่ มดเลย ภาษาบ่งบอกนิสยั
โดยเฉพาะภาษายุคน้ี เป็ นภาษาทุนนิยม วัตถุนิยม
แข่งขนั เสรี เราคิดแต่เร่ืองแพช้ นะ เด็กเล่นเกมส์ มีแต่จบที่แพ้
ชนะ แข็งกร้าว สมาธิส้ัน มนั ก็เป็ นกรรมคนยคุ น้ี ไม่มีเวลา
ให้ลูกเตา้ ก็ให้คอมพิวเตอร์เป็ นเพ่ือน ตอนน้ีไปไหน ก็หิ้วมือ
ถือไปดว้ ย กดอยู่ตรงน้ันท้งั วนั มนุษยเ์ ราเป็ นอย่างน้ีหรือ ไม่
42
เคยพกั ผ่อนเลย เราใชป้ ระสาทเราตลอด ไม่มีเวลาหยดุ ไม่ให้
มันเด้ียง รู้ไป เป็ นมนุ ษย์หุ่ นยนต์กันหมดแล้ว นั่งใน
ร้านอาหาร ก็ต่างคนต่างกด ไม่ไดค้ ุยอะไรกนั เลย ความเป็ น
มนุษยส์ ัมพนั ธ์ไมม่ ีแลว้ มนุษยเ์ ป็นทาสของมนั หมดแลว้
43
ท่ีมา : เรื่อง จริตท่แี ตกต่าง
บรรยาย โดย พ่อครูบัญชา ต้ังวงษ์ไชย
ศูนย์พลาญข่อย 28 มถิ นุ ายน 2558