The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by plarnkhoi11, 2021-05-21 01:58:46

อกุศลมูล

พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย

Keywords: ธรรม,พลาญข่อย,meditation,plarnkhoi,พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย,ศูนย์พลาญข่อย,ทุกข์,อกุศล,ebookplarnkhoi

1

เมื่อประตู แห่งความรู้แจ้ง ยงั ไม่เปิ ด
ฉันกไ็ ด้แต่ เฝ้าดูจิตฉัน เร่ือยไป

2

สารบญั

เจา้ กรรมนายเวร หมายถึงอะไร 3
การบรรลุธรรมเกิดข้ึน จากการแสวงหาที่ลม้ เหลว 4
อคติ กบั สญั ชาตญาณ ตา่ งกนั อยา่ งไร 8

3

เจ้ากรรมนายเวร หมายถึงอะไร ?
เช่น บอกว่ากาลงั โดนเจ้ากรรมนายเวร มาทวง หมายถึง จิต
ดวงอื่นมาทวง หรือ จิตเราเอง

ไม่มีอะไรจริง สักอยา่ งนึง ถึงมนั จะเกิดข้ึน มนั ก็
เกิดข้ึนชวั่ คราว ถา้ เราฝึกจิตในช่วง ท่ีอยใู่ นกรรมฐาน มนั มี
อารมณ์นนั่ อารมณ์นี่ เจบ็ ปวดเหมือนถกู หกั มนั เป็นเร่ือง
ของจิตเดิมเรา แตถ่ า้ ชีวิตเราขา้ งนอก อยา่ งคนจีนเขารักลกู
เขากเ็ รียกลกู เขา เป็นภาษาจีนแตจ้ ๋ิววา่ ทอแจเ๊ ก่ีย คือ ไอล้ กู
ทวงหน้ี ไอล้ กู เวร นน่ั คือเจา้ กรรมนายเวรเรา ที่เราเกิดมาเป็น
พอ่ แม่ลูก เป็นคู่ผวั ตวั เมียกนั มนั มีท้งั ฝ่ ายบวก ฝ่ ายลบ

เราสร้างบุญมาดว้ ยกนั ถึงจะไดม้ าเกิดดว้ ยกนั แลว้ ก็
สร้างกรรมมาดว้ ยกนั ดว้ ย มีท้งั สองดา้ น ส่วนเจา้ กรรมนาย
เวรภายนอก เราเปลี่ยนเขาไมไ่ ด้ เราเปลี่ยน เจา้ กรรมนายเวร
ท่ีมนั บนั ทึก ในจิตเราได้ องคุลีมาลในชาติสุดทา้ ย ฆ่าคน
แลว้ ตดั นิ้วมาแขวนคอ คนที่ถูกฆา่ เขากบ็ นั ทึกวา่ เราฆา่ เขา
ลูกเมียเขา ก็บนั ทึกในจิตวา่ เราไปฆา่ เขา เขาก็กลายเป็น เจา้
กรรมนายเวรของเรา อนั น้ีคือ เจา้ กรรมนายเวรภายนอก

เราทาอะไรไมไ่ ด้ เราไปลา้ งจิตเขาไม่ได้ แตเ่ รามี
หนา้ ที่ ลา้ งเจา้ กรรมนายเวร ที่เราบนั ทึกไวเ้ อง เราลา้ งตรงน้ีได้

4

มนั ไม่มีตวั ไม่มีตนอะไร เอาเป็นวา่ อยา่ ไปหาคาตอบ สกั แต่
วา่ รู้ สกั แต่วา่ เห็น สักแตว่ า่ ไดย้ นิ คาน้ีพอ่ ครูพดู บอ่ ยๆ เนน้
บอ่ ยๆ แตว่ า่ พอถึงเวลา ความอยากรู้ของเราก็ลมื คาน้ี

ถา้ เราเขา้ ไปในจิตแลว้ เราเขา้ ไปสัมผสั อารมณ์น้นั ได้
วา่ อูย้ ...เหมอื นเราถูกหกั คอ หกั ขาหรืออะไรกแ็ ลว้ แต่ เรา
สมั ผสั อารมณ์น้นั ไดจ้ ริงๆ เราเห็นสิ่งน้นั จริงๆ แตส่ ่ิงที่เรา
เห็นมนั ไมจ่ ริง มนั เป็นธรรมารมณ์ มนั เป็นอุปาทานของจิต
แต่ถา้ เรามาพดู ภาษา มนั กลายเป็น ความเห็นทนั ที เพราะภาษา
มนั หยาบเกินไป ถึงวา่ อยา่ พยายามหาคาตอบ ดว้ ยเหตุผล
แบบตรรกะ โดยใชภ้ าษามนุษย์

“การบรรลธุ รรมเกิดขึน้ จากการแสวงหาที่ล้มเหลว”
มีความหมายว่า อย่างไร

คาน้ีพ่อครูเปลง่ ออกมาเอง เมื่อยสี่ ิบหกปี ก่อน หลงั จาก
คืนน้นั มนั เกิดอาการระเบิด พอ่ ครูไมไ่ ดเ้ ปล่งวาจาออกมา
แตค่ วามรู้สึก มนั เป็นอยา่ งน้นั บอกเขา้ ใจแลว้ การบรรลุ
ธรรมเกิดข้ึน จากการแสวงหาที่ลม้ เหลว

5

แสวงหาอะไร คนเราทุกคน ทุกวนั น้ี ส่วนใหญ่อยใู่ น
สงั คมวตั ถนุ ิยม ยคุ ทนุ นิยม ทกุ คนแสวงหา ความสุขเป็น
เป้าหมายในชีวิต ผดิ มยั๊ ? มนั ก็ไมไ่ ดผ้ ิด สุขก็ดีแลว้ อยา่ ไป
หาเร่ืองทุกข์ แต่บงั เอญิ เราเขา้ ใจความสุข...ไม่ตรง เราเขา้ ใจ
วา่ ตอ้ งมีอนาคต ตอ้ งมีทรัพยส์ ินเงินทอง ตอ้ งมีสถานภาพ
ทางเศรษฐกิจมน่ั คง แลว้ คอ่ ยสุข อนั น้ีเป็นประเดน็ อนั น้ี
กลายเป็น เห็นผิดเป็นชอบ

คาวา่ รวย แปลวา่ มีเงินเยอะ ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ สุข คาวา่
จนแปลวา่ ไม่มี ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ ทุกข์ แตเ่ ราถูกใส่โปรแกรม
เขา้ ไปท้งั ทางตรง ทางออ้ ม ไปโรงเรียน เขาก็สอนแบบน้นั
คุณพอ่ คุณแม่ เขากส็ อนแบบน้นั สงั คมกท็ าเป็นแบบน้นั แลว้
เรากก็ ลายเป็น แบบน้นั เรากเ็ ขา้ ใจวา่ ชีวิตตอ้ งสู้ ตอ้ งสร้าง
ฐานะ ตอ้ งสร้างอนาคต

อนาคตน้นั มีอยแู่ ลว้ วนั พรุ่งน้ีก็อนาคต ปี หนา้ ก็
อนาคต มนั มีอยแู่ ลว้ แตอ่ นาคตของเราหมายถึงวา่ เราตอ้ ง
ร่ารวยมงั่ คงั่ ตอ้ งมีเศรษฐกิจท่ียงิ่ ใหญ่ ถึงจะมีความสุข ทีน้ี
บงั เอิญคาวา่ รวย คือมนั ไมม่ ีขอบเขตจากดั แค่ไหนถึงจะรวย
สิบบาทรวยมย๊ั ร้อยบาท หมื่นบาท แสนบาท แสนลา้ น
หน่ึงลา้ นลา้ น รวยมยั๊ แคไ่ หนถึงบอกวา่ ฉนั รวยแลว้ ถึงจบ

6

ในโลกน้ี ไม่มีใครหยดุ เลย แมก้ ระทงั่ คนท่หี น่ึง ของ
โลกเขากย็ งั ไมไ่ ดห้ ยดุ เราไปต้งั โจทยใ์ หก้ บั ชีวติ ผิด อนั น้ีก็
ถือวา่ เห็นผิดเป็นชอบอยา่ งนึง มนั เป็นมิจฉาทิฐิ เราก็เลยไม่
มีวนั สุข เพราะเราไมม่ ีวนั รวย เพราะรวยแปลวา่ เหลอื ลน้
พอแลว้ ถา้ ยงั ไมพ่ อ แสดงวา่ เรายงั จนอยู่ เรายงั อยากจะรวย
ข้ึน มีความรู้สึกวา่ เราไม่มน่ั คงสักทีนึง

สร้างตึกข้ึนมาสิบช้นั กาลงั ลงไปนอน เฮย้ ขา้ งๆมนั มี
ร้อยช้นั เฮย้ ..ไมไ่ ด้ เดี๋ยวสูม้ นั ไม่ได้ กก็ ดั ฟันสู้ทน สร้างอีก
เกา้ สิบเกา้ ช้นั กาลงั จะขาดใจตาย มองไปอีก เหลือแคช่ ้นั เดียว
เสียดา๊ ยเสียดาย แต่ไมม่ ีแรงแลว้ จริงๆ ตายไม่ลงนะ ยงั เรียก
ลกู เรียกหลาน มาสร้างตอ่ กลวั มนั ไมท่ ุกขเ์ หมือนเรา ตลอด
ชีวติ เรา ก็เลยไมม่ ีวนั สาเร็จ

สาเร็จแปลวา่ เสร็จแลว้ เพราะวา่ เรามีมิจฉาทิฐิ เราเห็น
ผดิ เป็นชอบ เราต้งั โจทยใ์ หก้ บั ชีวิตผดิ เราเขา้ ใจภาษาผิด
พ่อครูเอง กถ็ กู สอนอยา่ งน้ีมาต้งั แตเ่ ดก็ เรียนเก่งๆนะ หาเงิน
เยอะๆ เม่ือรวยแลว้ จะมีความสุข ก็ซื่อสัตย์ ต้งั มน่ั จนมี
โอกาส ไปใชช้ ีวติ ที่อเมริกา ไปสู้ศึกเวทีใหญข่ องโลก แลว้
บงั เอิญมนั ก็มีระดบั หน่ึง มีจนวา่ เราไมเ่ ดือดร้อน แตพ่ อ่ ครู

7

ทกุ ขม์ าก เพราะพ่อครูหาความสุขไม่เจอ นนั่ หละ่ การบรรลุ
ธรรมเกิดข้ึน จากการแสวงหาท่ีลม้ เหลว

พ่อครูลม้ เหลว กบั การแสวงหาความสุข พ่อครูไม่เจอ
เม่ือไมเ่ จอแลว้ มนั เกิดความเบ่ือหน่าย มนั ก็จางคลายความยดึ
มนั่ ท้งั หมด เมื่อวางแลว้ มนั กว็ า่ ง เมื่อวา่ งแลว้ มนั กส็ งบ ถา้
ยงั แสวงหาอยู่ เราจะไมม่ ีวนั สาเร็จ เพราะยงั แฝงดว้ ยความ
อยากอยู่ วนิ าทีน้นั มนั อยาก จนมนั หายอยาก มนั เกิดความ
เบ่ือหน่าย จนมนั วางเป้าหมายชีวิตแลว้ อยากมีอะไร ก็มีแลว้
ทาไมมนั ไม่สุข วนิ าทีน้นั พอ่ ครูสมั ผสั อารมณ์น้ีไดว้ า่ การ
บรรลธุ รรม เกิดข้ึนจากการแสวงหาที่ลม้ เหลว

เช่นเดียวกนั กบั เรา มงุ่ มนั่ ปฏิบตั ิ เพอ่ื จะไปนิพพาน
เริ่มจากเรา มีความอยากก่อน ทาไปทามา เอ๊ะ..ทาไมไม่ ไป
สักทีวะ เมื่อไหร่จะถึง อะไรแบบน้ี ถา้ เราไม่หยดุ ทานะ
สกั วนั เราจะเกิดความเบ่ือหน่าย เราจะจางคลายความยดึ มน่ั
กบั ความอยากจะไปนิพพาน เมื่อเราวางความอยาก เมื่อเรา
วางแลว้ เรากว็ า่ ง ส่ิงน้นั จะเกิดข้ึน เมื่อเขาจะเกิดข้ึน มนุษย์
เราไม่อาจบงั อาจ จะสร้างใหม้ นั เกิดข้ึน จะสงั่ ใหม้ นั เกิดข้ึน
มนุษยเ์ รา ตอ้ งนอบนอ้ มถอ่ มตน เราตวั เลก็ ๆเอง แตเ่ รามี

8

หนา้ ท่ีเตรียมความพร้อม ใหส้ ่ิงน้นั เกิดข้ึน เขาจะเกิดข้ึน เมื่อ
เขาจะเกิดข้ึน เขาจะเกิดข้ึน เมื่อเราหมดความอยาก

อคติ กับ สัญชาตญาณ ต่างกนั อย่างไร
เป็นคาถามง่ายๆ แตเ่ ปล่งเร่ืองน้ีตอ้ งระวงั เพราะคาวา่

อคติ กบั สญั ชาตญาณ มนั กอ็ ยใู่ น ภาษาพระพทุ ธศาสนา ทนี ้ี
พอ่ ครูจะเรียบเรียง ช้ีใหเ้ ราเห็นที่มาที่ไป ถา้ เราเขา้ ใจสิ่งน้ี
แลว้ เราจะเขา้ ใจวา่ ปัญหาที่มนั เกิดข้ึน กบั มนุษยท์ ้งั หมด มนั
อยทู่ ่ีตรงไหน แลว้ ควรจะแกท้ ่ีตรงไหน ทกุ อยา่ ง มนั มีปลาย
เหตุ มนั มีสาเหตุ มนั มตี น้ เหตุ

ส่วนมากทกุ วนั น้ี เราแกท้ ่ีปลายเหตุกนั แมก้ ระทงั่
วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ ก็แกท้ ่ีปลายเหตุหมด ปวดหวั กินยา
พารามนั หายจริง แตพ่ อฤทธ์ิยาหมดก็ปวดอีก เราแกท้ ่ีปลาย
เหตุปัญหา มนั ถงึ แกไ้ ม่ไดเ้ ลย ปัญหาถึงไมจ่ บ ยงิ่ เรียนทุก
วนั น้ี มีเทคโนโลยมี าก มีความรู้มาก แลว้ ทาไมปัญหายง่ิ มาก
ข้ึน เพราะเราแกไ้ มต่ รงจุด เรามีความรู้ แค่ท่ีเราเรียนเป็น
ความรู้ท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึน มนั ไม่ใช่ความจริง ซ่ึงมีอยแู่ ลว้ ตาม
ธรรมชาติ เราไมเ่ ห็น ตน้ เหตุของปัญหา

9

สัญชาตญาณ เป็นเรื่องของสญั ญาเดิม เป็นเรื่องที่ ติด
จิตเดิมเรามาแลว้ ต้งั แตอ่ ดีตชาติ ทีพ่ อ่ ครู ยกตวั อยา่ งบอ่ ยๆวา่
ชาติน้ีเกิดมาเราเจอนาย ก ไมเ่ คยเห็นหนา้ มาก่อน แต่ทาไม
รู้สึกหมน่ั ไส้ ไม่ชอบข้ีหนา้ โดยที่ไมร่ ู้จกั กนั เลย พอไปเจอ
นาย ข นี่ถกู ชะตามากเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อนั น้ีเป็นของ
เก่า เหมือนที่พอ่ ครู ยกตวั อยา่ งบอ่ ยเหมือนกนั วา่ ปลาน้าจืด
ปลาเป็นวา่ ยทวนน้า แลว้ ทาไมปลาน้าจืด เขารู้วา่ ตอ้ งวา่ ยทวน
กระแส มนั ตอ้ งใชพ้ ลงั มาก ใชแ้ รงมาก ทาไม มนั ไม่ตาม
กระแสน้าไปเลย จะไดไ้ ม่ตอ้ งออกกาลงั ก็เพราะมนั เป็น
สญั ชาตญาณ ญาณรู้ ซ่ึงเป็นสัญญาในอดีตชาติ เขาจาได้
หมายรู้วา่ ตอ้ งทวนกระแส ถา้ เขามกั งา่ ย ตามกระแส กอ็ อก
ทะเลตายหมด

แลว้ ทาไม คนเรามกั งา่ ย เห็นเขาวง่ิ กว็ ิ่งตามเขา ก็
เพราะเรา กลวั จะไมท่ นั คาวา่ กลวั จดไว้ กลวั จะไมท่ นั ทีน้ี
ปลามนั ไมต่ าม เพราะอะไร ก็เพราะมนั ไม่ไดไ้ ปโรงเรียน
มนั ไมไ่ ดเ้ รียนรู้ คาวา่ กลวั มนั ไม่ไดเ้ รียนรู้ คาวา่ จะชนะ
สัญชาตญาณตามธรรมชาติ มนั ยงั อยู่ มนั กท็ วนกระแส อนั น้ี
แหละ คือ สญั ชาตญาณ

10

ส่วนอคติน้นั เกิดข้ึนจากชาติปัจจุบนั ในทางวิชาการ
ทางปริยตั ิเขาแปลวา่ ความลาเอียง หมายถงึ ความเอนเอียง
เขา้ ขา้ ง ความไมย่ ตุ ิธรรม ความไมเ่ ป็นกลาง ความไมม่ ีหลกั
ทีน้ี ทาไมมนั ถึงเป็นแบบน้ี ทาไมเขาเลอื กที่รักมกั ท่ีชงั เห็น
มยั๊ แตส่ ญั ชาตญาณ ท่ีพ่อครูบอกวา่ เจอนาย ก หมน่ั ไส้ เจอ
นาย ข ถกู ชะตา อนั น้ีไมเ่ กิดจากอคติ มนั เป็นสัญชาตญาณเดิม
เท่าน้นั เอง แต่เขาหมน่ั ไส้ เขากไ็ ม่ไดว้ า่ อะไร เขากไ็ ม่ได้
เคียดแคน้ จนวา่ จะไปฆา่ อะไร แตอ่ คติน้ี ฆา่ ได้ ทาลายไดท้ ุก
อยา่ ง

ในทางศาสนา เขาวา่ อคติมีอยสู่ ่ีอยา่ ง ภาษาบาลีเขา
เรียกวา่ เป็น

ฉันทาคติ คือ ลาเอียง เพราะเราชอบ ถา้ เราชอบนาย ก
ขออะไรเอาไปเถอะ อนั น้ีที่เรา ตดั สินใจลาเอยี งเพราะเราชอบ

โทสาคติ คือ โทสะ เราลาเอียง เพราะเราชงั เราเกลียด
มนั เป็นพ้นื ฐาน พอมนั ขอ เราบอกไม่ให้ การตดั สินของเรา
เกิดจากอคติ เพราะจิตไม่เป็นกลาง เกิดจากอารมณ์ที่เราชงั

ภยาคติ คือ ลาเอียงเพราะ เรากลวั ทุกวนั น้ียง่ิ เรียนสูง
ยง่ิ กลวั ไปหมดเลย เพราะกลวั จะแพ้ กลวั วา่ จะเสียเปรียบ เรา

11

กอ็ า้ งเหตุผลตา่ งๆ เพอ่ื มาสนองตอบความกลวั วา่ เราจะแพ้
พูดยงั ไงก็ได้ ใหม้ นั ชนะ

โมหาคติ คือ โมหะ ลาเอียง เพราะเราหลง นี่คอื อคติ๔
มีชอบ มชี ัง มีกลัว มหี ลง ถา้ มีเยอะเท่าไหร่ กอ็ นั ตราย
เท่าน้นั อคติจึงเกิด จากการตดั สินจาก อารมณ์ ชอบ ชงั กลวั
หลง ไมไ่ ดต้ ดั สินจาก ความเป็นจริง ชอบกค็ ืออารมณ์ ชงั ก็
คืออารมณ์ กลวั กค็ ืออารมณ์ หลงก็คืออารมณ์
ทีน้ีแลว้ พวกน้ี มนั เกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งไร เม่ือมนั ไม่ดี
ขนาดน้ี แลว้ ทาไม มนั มีอยกู่ บั เราหละ่ ทาซาน มนั มีอคติมยั๊
ไมม่ ี…มนั ไมม่ ีความชอบ ความชงั ความกลวั ความหลง
บางคร้ังที่มนั ป้องกนั ตวั เอง กโ็ ดยสญั ชาตญาณ เทา่ น้นั เอง
ทีน้ีที่มาของ อคติ เน่ืองจากมี อกุศลมูล คือ รากเหงา้
ของอกุศล อกศุ ลน้ี มนั เป็นคาตรงขา้ มกบั กศุ ล มนั เป็นฝ่ ายชวั่
อกศุ ลมูล คือ สาเหตุ ตน้ เหตใุ หท้ าบาป อกุศล หรือ ความชวั่
ร้ายมีอยสู่ ามอยา่ งคือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ทาง
ภาษาวิชาการ เขาเรียก
โลภะ คือ ความโลภ เป็นตน้ เหตุ เม่ือเรามีความโลภ
แลว้ เรากลา้ ทาทุกอยา่ ง เรากลา้ โกหก กลา้ หลอกหลวง กลา้
ฉอ้ โกง กลา้ เป็นโจรปลน้

12

โทสะ คือ ความคิดร้าย เป็นตน้ เหตุ ใหเ้ กิดการลา้ ง
ผลาญ การฆา่ ฟัน การทาร้าย การทะเลาะววิ าท การพูดจา
หยาบคาย เป็นตน้

โมหะ คือ ความหลง เป็นตน้ เหตุ ใหเ้ กิดความถือตวั
ถือตน เกิดความอกตญั ญู ความริษยา ความด้ือร้ัน เพราะเรา
หลง หลงวา่ เราถกู มนั ผดิ แมก้ ระทงั่ ผทู้ ่ีมีบญุ คุณกบั เรา เรา
เอาตวั เองเป็นท่ีต้งั

ท้งั สามตวั น้ี โลภ โกรธ หลง เรียกวา่ อกุศลมูล ซ่ึงเรา
มีอยใู่ นตวั เรา

ที่มาของ ความโลภมนั มาจากไหน โลภะ มาจาก ตวั
ตณั หากค็ ือความอยาก โทสะ มาจาก มานะ โมหะ มาจาก
ทิฐิ ท่ีเราเรียก ทิฐิมานะ ถา้ เรารวมกนั สองตวั น้ีอตั ตาตวั ใหญ่

ทีน้ีตณั หา มานะ ทิฐิ มนั เกิดมาไดอ้ ยา่ งไร อยๆู่ เราเกิด
มาเรามีเลยมยั๊ ..ไมม่ ี สามอยา่ งน้ีมนั เกิดข้ึนจาก อาสวะกิเลส
คือ กิเลสท่ีหมกั ดอง อยใู่ นจิต ใหจ้ ิตมวั หมอง ข่นุ มวั มีอยู่
ดว้ ยกนั ส่ีอยา่ ง คือ

หน่ึง กาม คือ ความติดใจ รักใคร่ อยใู่ นกามคุณ คือ
กามคุณ๕ รูป รส กลิน่ เสียง สัมผสั เดก็ คนนึง อายสุ องขวบ
ยงั ไมไ่ ปโรงเรียน มีรถเก๋งสีแดงวงิ่ มา เด็กคนน้ี ยงั ไมร่ ู้วา่ คือ

13

อะไร มนั รู้แตว่ า่ ส่ิงหน่ึงวิ่งมา ยงั ไม่รู้สึกวา่ อยากได้ หรือไม่
อยากได้ แต่เมื่อพอเรารู้แลว้ วา่ เฮย้ ..รถเก๋งเทก่ วา่ รถกระบะ
เรารู้แลว้ วา่ อนั น้ีสีแดง สีเหลืองนะ เอ๊ะเราชอบสีแดง เราก็บม่
เพาะความชอบของเราเขา้ ไป อนั น้ีคือ กาม เราปรุงแตง่ ข้ึนมา
เอง มนั กก็ ลายเป็น ความเคยชินเรา

สอง คือ ภพ ภพชาติ ตวั ภพ ไดแ้ ก่ ความติดอยใู่ นภพ
ความอยาก เป็นโน่น เป็นน่ี หลวงป่ ูมน่ั ก่อนจะระเบิดทา่ น
ระลึกอดีตไดว้ า่ ท่านเคยเป็นสุนขั อยใู่ นแถวน้นั หา้ ร้อยชาติ
เพราะจิตเราไปยดึ ติด เราพอใจกบั ตวั น้นั เราติดภพ ชีวติ น้ี
เราหลงตวั เอง เราพอใจ กบั ความที่เราเป็น อตั ตานะ อนั น้ี
เรียกวา่ ภพ คือ เราติด อยากเป็นโน่น เป็นน่ี

สาม คือ ทิฐิ ไดแ้ ก่ ความเห็นผดิ ความหวั ด้ือ หวั ร้ัน
ทิฐิน้ีมนั เป็นกลางๆ ถา้ ทิฐิในฝ่ ายลบ เขาเรียกวา่ มิจฉาทิฐิ
ทิฐิ ในฝ่ ายบวกเรียกวา่ สมั มาทิฐิ ทิฐิมานะ ถา้ เราหลงใน
ความคิดของตวั เอง เราหลงในความเช่ือของตวั เอง กลายเป็น
ฝ่ ายลบทนั ที ติดกค็ ือ หลง

สี่ เป็นตวั แรงที่สุด เป็นตวั ที่เราปรุงแต่ง ข้ึนมาใหม่ ใน
ยคุ น้ีแรงมาก โดยเฉพาะนกั เรียนรู้ นกั วิชาการตอ้ งสารวม
ระวงั คือ อวชิ ชา ทีน้ี นตาราเขาเขียนวา่ ไดแ้ ก่ความไม่รู้จริง

14

ผดิ มย๊ั ? ก็ไมไ่ ดผ้ ิด มนั ก็ไม่รู้จริงไง แตถ่ า้ มนั รู้จริง มนั ก็ไม่หา
เร่ืองทกุ ข์ แตส่ าหรับพ่อครูแลว้ คาน้ีมนั ไมค่ อ่ ยตรงเทา่ ไหร่
อวิชชา คือ ความรู้ แตม่ นั รู้ผิด มนั รู้วา่ ชนะถึงดี มนั รู้วา่ เอา
เปรียบเขาถึงดี เป็นความรู้ผดิ เป็นความลุม่ หลง มวั เมา

สี่อยา่ งน้ีเรียกวา่ อาสวะกิเลส อยา่ งเรากินหวานบอ่ ยๆ
เราก็ติดหวาน เป็นกิเลสเรา เป็นนิสยั เรา เคยมีนกั วิชาการเขา
วิจยั เรื่องน้ี ทาก่ีคร้ังกลายเป็นนิสยั และทาก่ีคร้ังกลายเป็น
สนั ดาน ถา้ กลายเป็นสนั ดานแลว้ เปล่ียนยาก สันดานทาไป
นานนาน เปล่ียนเป็นอนุสยั ละเอียดข้ึนเลย อนั น้ีกจ็ ะ
กลายเป็น อาสวะกิเลสที่มนั ฝังรากลึก กลายเป็นนิสัย
กลายเป็นสันดาน กลายเป็นอนุสัย ตวั น้ีคือทีม่ าของท้งั หมด

ตวั น้ีคือของใหม่ ในชาตนิ ้ีที่เราสร้างข้ึนมาเอง เรา
ปรุงแตง่ จนกลายเป็นความเคยชิน ประทบั จิต ติดวิญญาณ
กลายเป็น อกุศลมลู มูลเหตุของการสร้างกรรม อกศุ ลมลู
เกิดข้ึน เพราะมนั มีอาสวะกิเลสอยขู่ า้ งใน กค็ ือ มีกาม มี
ภพ มีทิฐิ มีอวชิ ชา ทีน้ีมนั กส็ ่งผลใหเ้ กิด

ตณั หาทาใหเ้ กิดโลภะ
มานะทาใหเ้ กิดโทสะ
ทิฐิทาใหเ้ กิดโมหะ

15

โลภะ โทสะ โมหะ มนั ไมไ่ ดเ้ กิดข้ึนลอยๆ มนั มีที่มา
ของมนั มนั เรียงลาดบั ทีน้ีเมื่อมนั มี โลภะ โทสะ โมหะ แลว้
มนั กท็ าใหจ้ ิตเรา ไมเ่ ป็นกุศล กลายเป็นอกุศลจิต เมื่อจิตเป็น
อกศุ ลแลว้ มนั ก็มีอกศุ ลเจตนา มนั ทาอะไร กเ็ นื่องดว้ ยเจตนา
ท่ีไม่ดี เจตนาที่เป็นอกศุ ล ตรงกนั ขา้ ม ถา้ เราบนั ทึกสัญญาเป็น
กศุ ล ทาอะไรก็เป็นฝ่ายกศุ ล เจตนาน้ีแหละ สร้างอคติทาให้
เรา ชอบ ชงั กลวั หลง

ทกุ วนั น้ี เราทาอะไรดว้ ยอคติท้งั น้นั มนั ถึงคุยกนั ไม่รู้
เร่ือง ทาใหเ้ ราสร้างกรรมต่างๆ ข่าวเม่ือเชา้ เป็นแฟนกนั รัก
กนั ม๊ากมาย แตพ่ อทะเลาะกนั แฟนไปมีคนอนื่ ก็เอาปื นไปยงิ
เขาตาย เห็นม้ยั เพราะมนั มีอกศุ ลมูล มนั มีอคติ มนั ก็ไปสร้าง
อกศุ ลกรรม ทีน้ีอกุศลกรรม มนั กส็ ่งผลให้ กลายเป็นวบิ าก
กรรม สัตวโ์ ลก ยอ่ มเป็นไปตามกรรม มนั ก็เกิดเร่ือง

เจา้ กรรมนายเวร ที่ถามพอ่ ครูเหลา่ น้ีแหละ มนั ไม่ได้
เกิดข้ึนที่ไหน มนั อยใู่ นจิตใตส้ านึกของเรา ท่ีมนั บนั ทึกเป็น
สัญญาในอดีต สวรรคอ์ ยใู่ นอก นรกอยใู่ นใจ นิพพานอยใู่ น
จิตนี่แหละ ถา้ เจา้ กรรมนายเวรเรา เป็นฝ่ ายบวก ก็เกิดอารมณ์
เทวดาในจิต แต่ถา้ เจา้ กรรมนายเวร เราเป็นฝ่ ายลบ มนั ก็
แสดงอารมณ์ ออกเป็นอสูรกาย เป็นนรกอยใู่ นใจเรา อยขู่ า้ ง

16

ในน้ีหมด ไมต่ อ้ งแกท้ ค่ี นอ่ืน พระพทุ ธเจา้ บอก อตั ตาหิ
อตั ตาโนนาโถ ตนแล ยอ่ มเป็นที่พ่งึ แห่งตน

นี่คือสาเหตุ ที่พวกเราตอ้ งปล่อยวางวถิ ีขา้ งนอก ตอ้ ง
มงุ่ มนั่ บาเพญ็ เพียร เพอื่ จะมาชาระจิตใหผ้ อ่ งใส ท่ีมนั ไม่ผอ่ ง
ใส เพราะมนั มวั หมองจากกิเลส โลภ โกรธ หลง กค็ ือผล ของ
กิเลส และ โลภ โกรธ หลง ก็เป็นเหตุใหเ้ ราไปสร้างกรรม เรา
ก็รับผลของกรรม เป็นปฏิจจสมปุ บาท เป็นอริยสจั ส่ี เป็น
เหตใุ นตวั มนั เป็นผลในตวั มนั

แต่เราตอ้ งรู้วา่ ลาดบั ช้นั มนั เป็นอยา่ งไร เราถึงแกท้ ่ี
ตน้ เหตุ ดบั ทกุ ข์ ดบั ท่ีตน้ เหตแุ ห่งทุกข์ ตอนน้ีถา้ เราดบั
แคต่ ณั หา ตณั หาคือ ท่ีมาของทุกขก์ ถ็ ูกแลว้ ตณั หาเกิดข้ึนได้
เป็นเพราะ เรามีอาสวะกิเลส ตณั หา ทาใหเ้ กิดอปุ าทาน
อปุ าทาน ทาใหเ้ กิดทุกข์

เราคิดวา่ เราจะดบั ตณั หา เรากไ็ ปฝึกสติ เพือ่ ใหเ้ รารู้เท่า
ทนั เหมือนเรายงิ เป้าบนิ มึงข้ึนมา กยู งิ ๆ เรารู้เท่าทนั เรายงิ
ป๊ ปุ เรารู้เท่าทนั กิเลส ตณั หากไ็ มเ่ กิด อุปาทานกไ็ มเ่ กิด ทกุ ข์
กไ็ มเ่ กิด เราก็ดบั ทกุ ขไ์ ดช้ ว่ั คราว แต่อาสวะกิเลส มนั ก็ยงั อยู่
น่ีแหละ ตอ้ งเขา้ ไป ขดั เกลาจิตใหผ้ อ่ งใส ส่วนการเจริญสติ

17

น้นั เอามาใชช้ ว่ั คราว เพื่อป้องกนั ไม่ใหก้ ิเลส มนั พฒั นาเป็น
ตณั หา เพราะถา้ มนั พฒั นาสู่ตณั หา มนั จะไปสร้างกรรมใหม่

อนั น้ีก็เหมือน ยาพารา บางคร้ัง ตอ้ งใชม้ นั เฉพาะกาล
แต่ถา้ ใชไ้ ปเรื่อยๆ แพย้ าก็เป็นสารตกคา้ ง ตลอดชีวติ เราถกู
สอน ใหล้ ืมตามองกวา้ งๆมองไกลๆ พอหลบั ตา ก็เหมือนคน
ตาบอด เราไม่เคยถกู สอนวา่ หลบั ตาเขา้ ไป มองเห็นความจริง
ขา้ งใน ทีน้ี พระพุทธเจา้ ไปตรัสรู้ส่ิงน้ี พระองคก์ ็เรียบเรียง
วา่ ตน้ เหตุ คือ มนั มีอาสวะกิเลส พระองคเ์ ลยไปตรัสรู้ วิชา๓

วิชาแรก คือ บพุ เพนิวาสานสุ สติญาณ รู้วา่ ดว้ ย การ
ระลึกชาติ แต่ไมไ่ ดจ้ บลง ท่ีตรงน้นั ตวั น้นั เป็นส่วนหน่ึง ที่
ใหเ้ รา ไปเรียนรู้ธรรมารมณ์ ธรรมในธรรมในอดีต มนั จะเกิด
ปัญญาระดบั หน่ึง เพ่อื ทาให้ จิตปัจจุบนั จางคลาย ความยดึ มนั่
ถือมน่ั มนั จะดึงใหเ้ รา ไปเห็นความจริง เห็นความเป็น
อนิจจงั ทุกขงั อนตั ตา เห็นการเวยี นวา่ ยตายเกิด เห็นกฎแห่ง
กรรม

วชิ าท่ีสอง คือ จุตปู ปาตญาณ ญาณรู้ วา่ ดว้ ยการเกิด
เพราะกรรม ตายเพราะกรรม ทาไมเกิดเป็นนาย ก ทาไมเกิด
เป็นนาย ข ทาไมเกิดมาไอคิวสูง ทาไมเกิดมาไอคิวต่า ทาไม
เกิดมาขาเป๋ ทาไมเกิดมาแขง็ แรง พระองคไ์ ปเห็นความจริง

18

วา่ กรรมเป็นตวั กาหนด สัตวโ์ ลก ยอ่ มเป็นไปตามกรรม ทนี ้ี
พระองคก์ ็ไปเห็นวา่ ตน้ เหตุท่ีเราไปสร้างกรรม มนั มาจาก
ไหน พอ่ ครูช้ีแลว้ จากอาสวะกิเลส ท่ีเป็นตวั กาม ภพ ทิฐิ
อวิชชา ท่ีเราปรุงแต่งข้นึ มาเอง

อวชิ ชาท่ีเรา เรียนรู้ผิด ใส่ขอ้ มูลผดิ เขา้ ไป ในขอ้ มูลผิด
น้นั กส็ ร้าง ตณั หา มานะ ทิฐิใหเ้ รา ตณั หากส็ ร้างโลภะ ความ
โลภ มานะกส็ ร้างโทสะ ทิฐิก็สร้างโมหะความหลง มนั ก็ทา
ให้ จิตเราเป็นอกุศลจิต ก็เป็นอกุศลเจตนา เกิดอคติข้ึน อคติ
ตรงน้ี กท็ าใหเ้ ราสร้างอกุศลกรรม ก็กลายเป็นวบิ ากกรรม

ไมใ่ ช่ยมบาลท่ีไหน ไม่ใช่พระเจา้ ท่ีไหน มากาหนดให้
เราเกิดเป็นโน่น เป็นน่ี กรรมที่เราสร้าง เป็นตวั กาหนด ท่ีมนั
บนั ทึกอยใู่ นจิตเรา กลายเป็น สญั ชาตญาณฝ่ายบวกกบั ฝ่ ายลบ
ทีน้ีพระองคไ์ ปเห็นวา่ เรากห็ ลงสร้างกรรม มาหลายภพหลาย
ชาติแลว้ จะมาจ่ายชาติน้ี หมดไดอ้ ยา่ งไร ตน้ เหตุท่ีเราสร้าง
กรรม เพราะเรา มีอาสวะกิเลส พระองคเ์ ลยไปคน้ พบวชิ าที่
ยง่ิ ใหญท่ ี่สุดในจกั รวาลน้ี คือ อาสวกั ขยญาณ

วิชาท่ีสาม คือ อาสวกั ขยญาณ ญาณรู้ วา่ ดว้ ยการ
กาจดั อาสวะกิเลส อนั น้ีคือคาตอบ น่ีคือวชิ า๓ มนั ไมห่ ลุด
ไปไหน ส่วนเทคนิคอุบายวธิ ี สร้างกาลงั ใหจ้ ิตมีหลากหลาย มี

19

แปดหมื่นสี่พนั พระธรรมขนั ธ์ แมก้ ระทงั่ สี่สิบกองกรรมฐาน
พระพุทธเจา้ บอกวา่ ส่ิงท่ีพระองคต์ รัสรู้น้นั มากมาย แต่สิ่งท่ี
พระองคเ์ อามาสอน เป็นแคใ่ บไมก้ ามือเดียว แค่เอาใบเดียวทา
จริงๆจงั ๆ ทกุ คนกบ็ รรลไุ ดห้ มด

เอาจริงมยั๊ อยา่ ไปนง่ั เถียงกนั วา่ อนั น้นั ถกู อนั น้นั ผิด
เอาแต่เถียงกนั ไม่เคยปฏิบตั ิเลย แลว้ มนั จะไปไหน แลว้ กไ็ ป
วา่ เขา สร้างวจีกรรม อกุศลกรรมมนั เร่ิมจาก มโนกรรม
ความคิดซ่ึงเป็นอกศุ ล มนั กม็ ีเจตนาท่ีเป็นอกศุ ล มนั ก็สร้าง
วจีกรรม มโนทุจริต วจีทจุ ริต กเ็ ป็นกรรมหมด แลว้ ก็กาย
ทุจริต ก็กลายเป็นอกศุ ลกรรม

อยทู่ ี่วา่ เราใส่ขอ้ มลู ถา้ เราใส่ขอ้ มูลไมด่ ี มนั กเ็ ป็นฝ่ าย
ชวั่ อกุศลมูล ถา้ เราใส่ขอ้ มูลที่เป็นกุศล มนั ก็เป็นกุศลมลู
มูลเหตุใหเ้ ราทาความดี แตต่ อนน้ีเราเผลอ เรามีท้งั สองดา้ น
เม่ือเราไดพ้ บคาสอนพระพทุ ธเจา้ แลว้ เรากม็ าเพิม่ ดา้ นกศุ ลให้
มนั มาก เหมือนน้าแกว้ นึง มนั ดาเรากเ็ ทน้าใสเขา้ ไป มนั ก็
เจือจาง เจือจางไปบ่อยๆ ฝ่ ายกศุ ลมนั กม็ ากกวา่ มนั ก็เป็นจิต
ซ่ึงเป็นกศุ ล มีเจตนาที่เป็นกุศล

ทาอะไรซ่ึงเป็นกศุ ล ผลของมนั ก็เป็นกุศล อนั น้ีเป็น
หลกั ธรรมชาติทว่ั ไป อาสวะกิเลส จึงเป็นที่มาของท้งั หมด

20

พ่อครูถึงบอกวา่ คาวา่ บชู าพระองคย์ งั หยาบไป พระองค์
ยง่ิ ใหญเ่ กินกวา่ ใชค้ าวา่ นบั ถือ แมก้ ระทงั่ คาวา่ บูชา แตม่ นั ไม่มี
ภาษาอะไรท่ีจะกลา่ วได้ พระพุทธเจา้ ไม่ยอมใหพ้ วกเรา
สรรเสริญพระองคห์ รอก แตพ่ ยายามสะทอ้ น ถึงความยง่ิ ใหญ่
พระองค์ ไปเห็นไดอ้ ยา่ งไร รู้วิธีแกด้ ว้ ย แลว้ มนั เป็นอะไรที่
ไม่ซบั ซอ้ น มนั เป็นอะไรท่ีตรงๆ เรายกเรากห็ นกั เราวางเรา
กเ็ บา ไม่ตอ้ งไปหาวิธีวาง ไม่ตอ้ งไปหาเทคนิควาง วางเลย

แตต่ อนน้ี เราตดิ บว่ ง วิชาที่เราไปเรียนมา ตอ้ ง หน่ึง
สอง สาม ส่ี หา้ เมื่อเราชอบแบบน้นั เราหลงแบบน้นั ก็
กลายเป็น อคติของเรา เราก็ไปหลงมนั แลว้ ไปกล่าวหาวา่ คน
อ่ืนเขาถกู เขาผิด มนุษยชาติเราทกุ วนั น้ี มนั มีอคติ เพราะ
มนั มี อาสวะกิเลส มนั ถกู ใส่ขอ้ มูลผดิ เขา้ ไป ก็ใหเ้ รารู้ มอง
ภาพแคน่ ้ี ไมต่ อ้ งจา มนั จะไปสร้างศรัทธาวา่ เราทาอะไรอยู่
เราเสียเวลา แมแ้ ต่หน่ึงนาทีไมไ่ ดน้ ะ ชีวิตเรามนั มีเวลาจากดั
ก่อนท่ีจะทาอะไรตอ้ ง มีสติ มีสมาธิ ใชป้ ัญญา

ทีน้ี ยคุ น้ี เป็นยคุ ท่ีวติ กจริต เพราะอวชิ ชามนั แรงมาก
ทาใหอ้ คติแรงมาก อคติจนครอบครัวเดียวกนั คุยกนั ไม่รู้
เรื่อง คนในโลกใบเดียวกนั คุยกนั ไมร่ ู้เร่ือง เพราะเรามี
มิจฉาทิฐิ เราต้งั โจทยใ์ หช้ ีวติ ผิด กลายเป็นวา่ เรามีอคติ เรา

21

กลบเกล่ือน ความเป็นมนุษยผ์ ปู้ ระเสริฐของเรา แมก้ ระทงั่
สญั ชาตญาณเดิม ตามธรรมชาติ ก็ถูกทาลายทิง้ หมดแลว้
เพราะ อาสวะกิเลสน้ีมนั แรง

สาหรับพอ่ ครูมองแลว้ วา่ ทกุ วนั น้ีมนั เห็นชดั ข้ึนวา่ มนั
ถึงเวลาแลว้ จริงๆ คาวา่ ถึงเวลา คือเวลาในวฏั สงสาร มนั เป็น
เวลาในเร่ืองกฎแห่งกรรม มนั ถึงเวลา ในการปรับสมดุลอะไร
บางอยา่ ง ทาใหม้ นุษยเ์ ราตอนน้ี ถูกครอบงาโดยอคตติ ่างๆ
สร้างเวรสร้างกรรมกนั ด่ากนั ไปด่ากนั มา ถามวา่ ใครถกู
ใครผดิ ทะเลาะกนั คือผิด ผดิ ศีล ผดิ ธรรม ไมม่ ีเมตตา ไม่มี
กรุณา ไมม่ ีมุทิตา ไม่มีอุเบกขา สร้างกรรมกนั เป็นวา่ เลน่
สนุกสนาน

กรรมน้นั ไม่ไดห้ ายไปไหน จิตเราบนั ทึกไวเ้ รียบร้อย
แลว้ เราหลอกคนอน่ื ได้ แต่เราหลอกจิตเราไม่ได้ นี่แหละ
คนท่ีไปยดึ ติดกบั ถูกผิด มีอดุ มการณ์ ยงั เขา้ ไมถ่ ึงธรรมะ
เพราะ ถกู อคติมนั ครอบงาไว้ จบที่สัตวโ์ ลก ยอ่ มเป็นไปตาม
กรรม ไม่ตอ้ งไปดูคนอ่ืนเขามากมาย ตวั เองกย็ งั ไม่แขง็ แรง
จาคาน้ีไว้ เม่ือประตูแห่งความรู้แจ้งยงั ไม่เปิ ด ฉันกไ็ ด้แต่
เฝ้าดูจิตฉันเรื่อยไป

22

ท่ีมา : เร่ือง อกุศลมูล
บรรยาย โดย พ่อครูบัญชา ต้ังวงษ์ไชย
ศูนย์พลาญข่อย 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2558


Click to View FlipBook Version