1
สารบญั 2
อภยั ทาน 3
รัก โลภ โกรธ หลง 6
แกไ้ ขท่ีตวั เรา 9
เคร่ืองมือในการเจริญมรรค 10
เอกคั คตารมณ์ 14
เตน้ สู่นิพพาน 16
ใชม้ นั ..ใหเ้ ป็น อยา่ ใชม้ นั ..ใหต้ าย 18
เหนือธรรม เหนือภาษา 19
3
อภัยทาน
เราต้องทางานกบั คน ที่ชอบเอาเร่ืองเรา ไปฟ้องหัวหน้า
ทาร้ายเรา แล้วเขากเ็ ป็น กล่มุ คนระดบั หัวหน้า และเป็นเหมือน
กล่มุ ลกู ค้าเรา เราจะควรทาอย่างไร?
อนั ดบั แรก คือ ทาใจ The Boss is always right. ถงึ เขา
จะเป็นลิงกช็ ่าง เขาถกู เสมอ เราทาใจนะ เร่ืองพวกน้ี ทกุ แห่งมี
ปัญหาอยา่ งน้ีหมด ถา้ ตรงไหนท่ีเราทางาน กบั คาวา่ คน คน
ยคุ น้ี เขาสะกดใหม่ระหวา่ ง คอ-ควาย กบั นอ-หนู เป็นลกู ผสม
ระหวา่ ง ควาย กบั หนู มนั ยอ่ มเป็นอยา่ งน้ีแหละ คอ-คน สมยั
โบราณ น้นั คือ คอ-คน นะ เด๋ียวน้ีใช้ คอ-ควาย คน ยงิ่ คน ก็
ยงิ่ วนุ่ วาย
เรื่องอยา่ งน้ี ตอ้ งทาใจยอมรับ คือ น้าแกว้ หน่ึง เราเอา
ทรายลงไป มนั ก็ไปอยขู่ า้ งล่าง เราเอาน้ามนั ลงไปอีก กล็ อยอยู่
ขา้ งบน เราเอาเกลือลงไป กอ็ ยตู่ รงกลาง ท้งั หมดน้ีเป็นหน่ึง
เดียว อยใู่ นแกว้ ใบเดียวกนั อยรู่ ่วมกนั ต่างคนต่างอยู่ ท้งั หมด
ไม่ตอ้ งเหมือนกนั มนั เหมือนกนั ไม่ได้ ลกู สาวแฝดเกิดมา
พร้อมกนั DNA เหมือนกนั เลย อารมณ์กย็ งั ไมเ่ หมือนกนั
เพราะสร้างกรรมมา ไมเ่ หมือนกนั เรามีอยา่ งเดียวเท่าน้นั ที่ทา
4
ใหเ้ รายอมรับ ความจริงวา่ มนั ไมเ่ หมือนกนั ยอมรับในความ
แตกต่าง
ศาสนาพุทธไมไ่ ดส้ อน ใหเ้ ราเทา่ เทียมกนั ศาสนาพทุ ธ
สอนใหเ้ รา ยอมรับความแตกตา่ ง ผทู้ ี่เหนือกวา่ เอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่
ผทู้ ่ีดอ้ ยกวา่ อนั น้ีบงั เอิญผทู้ ่ีเหนือกวา่ เรา เขาเล่นงานเรา ก็ไม่
เอ้ือเฟ้ือเรา ก็เป็นกรรมของเขา จ่ายหน้ีเถอะ เคา้ ด่า กใ็ หเ้ รายมิ้
เพราะวา่ The Boss is always right
เราเปล่ียนเขาไม่ได้ กเ็ ปล่ียนตวั เอง ใหย้ อมรบั วา่ เขา
เป็นอยา่ งน้ีแหละ เขาทาแลว้ เขามีความสุข เราก็อนุโมทนากบั
เขาดว้ ย เปลี่ยนตวั เอง เพราะเปลี่ยนเขาไม่ได้ เปลี่ยนใหเ้ รา
รู้เทา่ ทนั ถา้ เราไม่รู้เท่าทนั เขาเลน่ เรา เราไปทกุ ขก์ บั เขา ถา้ เรา
รู้เท่าทนั แลว้ ก็ไม่ตอ้ งอโหสิกรรมเลย ไมต่ อ้ งใหอ้ ภยั เขาดว้ ย
เพราะเรารู้วา่ เขาเป็นอยา่ งน้นั แหละ
เราไดย้ นิ ป๊ ปุ กไ็ มต่ อ้ งมาใส่ใจ แต่ถา้ เกิดวา่ มนั ลงใจแลว้
มนั ทกุ ขแ์ ลว้ มนั ไม่พอใจแลว้ กอ็ โหสิกรรม เราใหอ้ ภยั ทาน
เขา เราไดเ้ ตม็ ๆเลยนะ อภยั ทานไดก้ ศุ ลมากทส่ี ุด วตั ถุทานเรา
ไปหาเงินเกือบตาย เหนื่อยมาก เหง่ือไหลไคลยอ้ ย ยงั สามารถ
แบง่ เงินส่วนหน่ึง ไปทาบญุ ช่วยเด็กยากจน ไปสร้างวดั อะไรก็
5
แลว้ แต่ เรียกวา่ วตั ถุทาน สมมุติวา่ ใหเ้ ปอร์เซน็ ต์ วตั ถุทานเรา
ได้ 10%
แต่การใหธ้ รรมทาน พอ่ ครูกาลงั ใหธ้ รรมทาน เสียเวลา
พูดทีนึง คนเป็นร้อยไดย้ นิ ออก youtube อีกคนท้งั โลกไดย้ นิ
เขาเรียกวา่ การใหท้ าน ยงิ่ กวา่ การใหท้ ้งั ปวง เรียกวา่ อานิสงส์
ท่ีมนั เกิดวงกวา้ ง คนไดป้ ระโยชน์มาก เพราะเราไม่ข้ีเหนียว
ความรู้ ทกุ วนั น้ีใหไ้ ดไ้ หม ไมไ่ ด้ คน้ ควา้ วิจยั เกือบตาย ตอ้ ง
ไปจดลิขสิทธ์ิ พระพทุ ธเจา้ ไม่ข้ีเหนียว พระพทุ ธเจา้ ใหห้ มด
เลย อนั น้ีคือ ใหธ้ รรมทาน
ถา้ พอ่ ครูใหค้ ะแนน ที่เราใหธ้ รรมทาน ตีวา่ ใหอ้ ีก 30%
ใหว้ ตั ถทุ านได้ 10% ใหก้ ี่ลา้ นบาทก็ช่าง คิดเป็น 10% แต่ให้
ธรรมทานตีวา่ ให้ 30% รวมเราได้ 40% แต่การใหอ้ ภยั ทาน แค่
คร้ังเดียว แลว้ ก็แค่คนเดียว เราได้ 60% ทาไมถึงเป็นอยา่ งน้นั ?
ถา้ เราไม่ใหอ้ ภยั เรากแ็ บกภูเขาอยใู่ นอกเรา ทพ่ี อ่ ครู
บอกวา่ เดก็ มนั เลน่ กนั มนั ทะเลาะกนั มนั ลงไปร้องไห้ เด๋ียว
มนั ลุกข้ึนมา เล่นกนั ตอ่ เห็นไหม มนั ไม่ตอ้ งใหอ้ ภยั เลย มนั ได้
ปลอ่ ยอารมณ์แลว้ มนั กเ็ ล่นกนั ตอ่ มนั ไม่มีพยาบาท
แตผ่ ใู้ หญ่เราแคน้ น้ีตอ้ งชาระ สิบปี ยงั ไม่สาย อยา่ ลอ้ เล่น
ความพยาบาท เอาร่างกายไปเผา เป็นอากาศธาตุ ที่เหลือเป็น
6
ธาตดุ ิน แต่จิตพยาบาทน้นั มนั ตามขา้ มภพ ขา้ มชาติ เราก็แบก
ขา้ มภพขา้ มชาติ แต่ถา้ เราใหอ้ ภยั ซะ มนั ไมไ่ ดอ้ ะไรจากเราเลย
แตเ่ รา ไดเ้ อาภูเขาออกจากอก น่ีไดอ้ านิสงส์มากท่ีสุด
กใ็ หอ้ ภยั เขาเถอะ โดยเฉพาะเราข้ึนชื่อวา่ เป็นผรู้ ู้ เขายงั
เป็น ผไู้ มร่ ู้ เขาหลงในอารมณ์ เขาด่ามาทีนึง เรากอ็ ุเบกขา น่ิง
เขาโกรธมาก ดา่ แลว้ ยงั น่ิงอีก ก็ด่าไปอีกคร้ัง เราก็น่ิงอีก ไดบ้ ุญ
สองคร้ังนะ อภยั ทานยง่ิ ใหญ่มาก เราไมต่ อ้ งแบกภเู ขา
รัก โลภ โกรธ หลง
มีครอบครัวอย่ดู ้วยกันมาสิบสองปี แต่กเ็ ป็นไม้เบื่อไม้
เมากันมา ทุกคร้ังท่ีไม่ได้อย่างใจ ภรรยาชอบทาร้ายร่างกาย ตัว
เราเองกเ็ บ่ือภรรยา กเ็ ลยมผี ้หู ญิงคนใหม่ คาถามว่าเราจะทา
อย่างไร ถ้าเลิกบาปหรือเปล่า เธอจะฆ่าเราไหม
ถามตวั เองสิทายงั ไง? มาถามพอ่ ครูทาไมฮึ เหวย่ี งทิง้
คาตอบคือเหวีย่ งทงิ้
ลองดูสิไปเลิกกบั เขา เขาอาจจะฆา่ เราเลย เพราะเราไป
หลอกเคา้ ไว้ ลองลาเขามาบวชดู บางทีเขามาส่งเราดว้ ย คนเรา
มนั เป็นอยา่ งน้ีนะ ถา้ เธอไมใ่ ช่ของฉนั เธอก็ตอ้ งไม่ใช่ของคน
7
อื่น ความรัก โลภ โกรธ หลง มนั เป็นทุกข์ นี่เป็นกรรมที่เรา
สร้าง ผดิ ศีลในกาม กต็ อ้ งทกุ ข์ พอ่ ครูพูดวา่ รัก โลภ โกรธ หลง
เป็นทกุ ข์
ถา้ เรารักเขาจริงๆ คนที่เรารักไปมีความสุข เราตอ้ ง
อนุโมทนา สาธุ รักมนั แฝงดว้ ย ความเห็นแกต่ วั เปลี่ยนความ
รัก ใหก้ ลายเป็น ความเมตตา กรุณา มทุ ติ า อเุ บกขา ไมท่ กุ ข์ รัก
มนั แฝงดว้ ย รักเพราะเธอเป็นของฉนั พอรักแลว้ ก็ หวง รักมนั
เป็นยงั ไง เราเคยเขียน ส.ค.ส. ดว้ ยรักและผกู พนั ท้งั ผกู ท้งั พนั
กลวั มนั หลุดใส่กาวยห่ี อ้ รัก ไปดว้ ย แลว้ มนั จะไปไหน มนั ก็
กอดคอกนั ขา้ มภพขา้ มชาติ
มีนางสาวเอ เป็นโรคเอสแอลอี เคา้ มาอยทู่ ี่น่ีสามเดือน
เขาเหว่ียงๆๆๆ หายจากโรค ก็ออกไปใชช้ ีวติ อีกเกา้ ปี เขามี
แฟนแลว้ แตไ่ ม่มีลูก บงั เอิญแฟนไมไ่ ปมีชูน้ ะ แตไ่ ปมีกิ๊ก ถา้
ไปมีชูม้ นั ผิดศีล มนั ไปมีก๊ิกแทนไง ไอเ้ จา้ เอ ก็เครียด ไปเท่ียว
ไปกินเหลา้ เมายา อาการโรคกาเริบ
เขากม็ าท่ีนี่อีกส่ีเดือน ปฏิบตั ิไป ระลึกชาติหลายชาติ
เห็นกรรมท่ีเคยสร้างมา เห็นแฟนปัจจุบนั เคา้ ดว้ ย แลว้ กเ็ ห็นวา่
เคยอธิษฐานจิต จะขอติดตามแฟนเคา้ ไปทกุ ชาติ คร้ังสุดทา้ ยน่ี
8
ส่ีเดือน เดือนสุดทา้ ย 33 วนั น้ี เขาไมก่ ินขา้ วเลย เขากินอะไรก็
ไมไ่ ด้ น้าท่ีด่ืมแกร้ ะคายคอ ไมใ่ หถ้ ึงกระเพาะ
พอ่ ครูบอก โรคภมู ิแพ้ หรือวา่ โรคมะเร็งน่ี ไมใ่ ช่กิน
ชีวจิต ชีวจิตเป็นอาหาร ที่ไม่ไปเสริมมะเร็ง แตไ่ ม่ใช่ตวั รักษา
ตวั รักษา คือ ไม่ตอ้ งกินอะไรเลย ใหม้ ะเร็งมนั แหง้ ตาย แตถ่ า้
เราไมฝ่ ึกจิต ใหม้ ีพลงั สามวนั กเ็ ด้ียงแลว้ เป็นลม ไม่กินขา้ ว 33
วนั แลว้ มนั วง่ิ อยใู่ นศาลา ใครวง่ิ ก็ไม่ทนั พลงั จิต! พอวนั
สุดทา้ ยมนั หมดแรง เราก็พาไปใหน้ ้าเกลือ คอ่ ยๆฟ้ื นฟู ให้
อาหารเหลว มนั ก็ฟ้ืน
พอเอ หายดี ก็ไปเที่ยวผาแตม้ กนั บงั เอิญเชา้ น้นั ทอ้ งฟ้า
สวยมาก ดาวยงั มีเตม็ เลย พระจนั ทร์กย็ งั อยู่ สกั ครู่หน่ึงพระ
อาทิตยข์ ้ึนมา พอ่ ครูบอกเห็นอะไรบา้ ง? เจา้ เอบอก เห็นพระ
อาทิตยข์ ้ึน สวยมาก พอ่ ครูบอกอยไู่ หน? ก็บอกนน่ั ไง พอ่ ครูก็
มองวา่ ไหนไหนพระอาทิตยข์ ้ึน? พอ่ ครู ไมเ่ คยเห็นพระ
อาทิตยข์ ้ึนเลยนะ โลกมนั หมนุ
เจา้ เอบอก มนั เหวี่ยงทิง้ หมดแลว้ เหลืออยา่ งเดียวท่ี
เหวยี่ งไม่ทิง้ มนั อกหกั เพราะแฟนไมร่ ัก พอ่ ครูบอก เอคิดผิด
คิดใหม่ไดน้ ะ ท่ีเธออกหกั ไมใ่ ช่เป็นเพราะแฟนไม่รัก เป็น
เพราะเธอไปหลงรักเขา เหวี่ยงทิง้ ตอ่ ไป
9
พระอาทิตยไ์ ม่ไดข้ ้ึน ไม่ไดล้ ง โลกมนั หมนุ เห็นไหม
เราชอบโทษคนอื่นใช่ไหม จริงแลว้ ไม่ใช่เป็นเพราะ เขาไมร่ ัก
แต่เป็นเพราะเรา ไปหลงรักเขาตา่ งหาก อตั ตา หิ อตั ตโน นาโถ
ไม่ตอ้ งไปโทษใคร ถา้ จะโทษ โทษตวั เองเถอะ
ต้ังแต่วันแรก ท่ีเราเกิดข้ึนมา มันก็หลงมาเกิด เรา
ผิดพลาด ต้งั หลายชาติแลว้ ถา้ ไม่อยากผิดพลาดอีก ไม่
อยากอกหกั อีก ไมอ่ ยากแก่ ไม่อยากเจบ็ ไมอ่ ยากตายอีก
จงจาไว้ อยา่ เกิดอีกเดด็ ขาด เราทาได้ ถา้ เราเช่ือพระพุทธเจา้
แก้ไขท่ีตัวเรา
มนี ้องสาวโมโหร้าย คอยจะจับผิดเราตลอดเวลา มี
วิธีแก้ไขคนชอบจับผิดอย่างไร
อยา่ ทาผิด เม่ือไมผ่ ิดแลว้ เขาจะไปจบั ผิดไดอ้ ยา่ งไร ไม่
อยากเสียเหลี่ยม กอ็ ยา่ มีเหล่ียม ไมอ่ ยากลืม กค็ ือไมต่ อ้ งจา แก้
ท่ีตวั เรา ส่วนนิสยั เขาเป็นอยา่ งน้ี ถึงเราไมผ่ ดิ เคา้ ก็จบั อยนู่ น่ั ก็
ใหม้ นั จบั ไป ถา้ มนั ไมเ่ หน่ือย บอกมงึ อยา่ เลกิ จบั นะ จบั ไป
เร่ือยๆนะ มึงหา้ มเลิกนะ
10
เครื่องมือในการ เจริญมรรค
ตอนแรกหมนุ ด้วยความเร็วคงที่อย่พู ักหนึ่ง แล้วมกี าร
เร่งความเร็วขึน้ ทาให้ต้องเพ่ิมสติขึน้ บางทีไปรู้ท่ีเท้า บางทีก็
ปล่อยความคิด โดยทาให้ว่าง บางทีกร็ ู้ว่ามคี นมาใกล้ๆกห็ ลกี
นี่คือการเจริญมหาสติ ใช่หรือไม่
ก็คาวา่ เจริญมหาสติ อยา่ เขา้ ใจวา่ เป็นการเจริญสติ แต่
เราใชม้ หาสติ เป็นแคเ่ ครื่องมือ ในการเจริญมรรค แต่ไม่ได้
ต้งั ใจไปเจริญสติ นนั่ แหละ ในเวลาน้นั อะไรมา เรากร็ ู้หมด ก็
สกั แตว่ า่ รู้ สกั แต่วา่ เห็น แต่ถา้ เรากงั วลป๊ ุบ เราจะเซเลย เวลาเรา
หมนุ เร็วๆ ทีน้ีจิตเรามนั หมุน สมมุติวา่ มนั หมนุ ได้ ยสี่ ิบ
กิโลเมตรต่อชว่ั โมง เม่อื เราชานาญแลว้ มนั จะเร่งสปี ด ทาให้
เราตอ้ งใชส้ ติที่เร็วกวา่
จิตเดิม มาฝึกจิตปัจจุบนั เพียงแต่วา่ การหมนุ วนตรงน้นั
มนั ตอ้ งรวม กาย เวทนา จิต ธรรม รวมเป็นหน่ึงเดียว อนั น้ี กค็ ือ
ช่วงท่ีมนั ใชแ้ รงเหวยี่ งเร็วๆ จิตเราก็อยตู่ รงกลาง มนั กห็ มุนวน
เร็วๆ อะไรเกิดข้ึน เรากร็ ู้หมด แตถ่ า้ เราไมย่ อมสกั แต่รู้ เราไป
กงั วล เราหลดุ จากวงจรน้นั ทนั ทีเลย อนั น้ี กถ็ ือวา่ จิตมนั กาลงั
เจริญมรรคจิต
11
แต่ถา้ เรา เจริญอนุสติทกุ วนั เรากอ็ ยใู่ นฐานกายอยา่ ง
เดียว อยใู่ นอิริยาบถ ยบุ พอง พุทโธกช็ ่าง พทุ โธน่ีลมหายใจ
ไมใ่ ช่กาย ลมหายใจเป็นของนอกกาย ซ่ึงใกลช้ ิดตวั เรามาก
ท่ีสุด นอกจาก ดิน น้า ลม ไฟ แลว้ กว็ ญิ ญาณธาตุ แลว้ มนั ตอ้ ง
พ่งึ อากาศ หวั ใจตอ้ งเตน้ มนั ตอ้ งอาศยั ลมหายใจ
ส่วนมหาสติปัฏฐานน่ี กเ็ ป็นส่วนหน่ึง ท่ีพ่อครูบอกวา่
การเจริญมรรค มนั ตอ้ งใชเ้ คร่ืองมือ ๓๗ ประการ ไมใ่ ช่สติ
ฝึกสติ สมาธิเป็นส่วนหน่ึงของมรรค เราเจริญมรรค ตอ้ ง
ประกอบดว้ ย เราตอ้ งมี สติปัฏฐาน๔ กาย เวทนา จิต ธรรม
เทวดาทาไม่ไดน้ ะ เพราะเทวดาไมม่ ีกาย เทวดามีหนา้ ที่เสพ
กรรมดี ที่ตวั เองไปหลงติดมนั เทวดาจึงทกุ ขม์ าก ที่ตอ้ งเสพสุข
ไมเ่ สพไมไ่ ด้ เพราะมนั ติดกรรมดี เราทาดีทาแคพ่ อดี แต่ถา้ เรา
ไปติดดีเม่ือไหร่ เสียเวลามากเหลือเกิน สวรรคส์ มบตั ิ มนุษย์
สมบตั ิ นรกสมบตั ิ ยงั อยใู่ นวฏั สงสาร ไม่ใช่ทางพน้ ทกุ ข์
ทีน้ีเรามี สติปัฏฐาน๔ ตอ้ งใชห้ ลกั อิทธิบาท๔ คือ
สร้างอารมณ์วา่ มีความพงึ พอใจ ในสิ่งที่เราทา มีฉนั ทะ เม่ือ
มีฉนั ทะ ก็มีวริ ิยะ จิตตะ ตอ้ งต้งั มนั่ เจออุปสรรคอะไรไม่ถอย
คือ ตวั สมาธิ นี่แหละต้งั มนั่ ถา้ เราทาอยา่ งน้ี วิมงั สากเ็ กิดข้ึน
12
ประสบการณ์ ท่ีเราทาเร่ือยๆ เราจะเกิดปัญญา น่ีคือหลกั
อิทธิบาท๔ ไมพ่ อนะ
ตอ้ งใชเ้ ครื่องมือ สัมมปั ปธาน๔ คือ สารวมระวงั ไม่ให้
อกุศลใหม่มนั เกิดข้ึน เพยี รละอกุศลท่ีมนั มีอยแู่ ลว้ ใหม้ นั หมด
ไป คือ ขดั เกลาเรื่อยๆ เพยี รสร้างกศุ ลใหม่ใหม้ นั เกิดข้ึน สารวม
ระวงั ไม่ใหก้ ศุ ลที่มนั มีอยแู่ ลว้ ใหม้ นั หมดไป สมั มปั ปธาน๔
คือ ตวั เตือนสติเรา อิทธิบาท๔ สัมมปั ปธาน๔ แลว้ ก็
สติปัฏฐาน๔ รวมกนั แลว้ เป็นสิบสอง
แลว้ ตอ้ งใช้ อินทรีย์๕ พละ๕ ที่เรามีอยแู่ ลว้ ศรัทธา
วริ ิยะ สติ สมาธิ ปัญญา เป็นเครื่องมือเดินทางส่วนหน่ึง ยง่ิ ทา
ยงิ่ ใช้ กย็ งิ่ แขง็ แรง พละกาลงั กม็ า อินทรีย๕์ พละ๕ ก็บวกกนั
เป็นสิบ รวมกบั สิบสอง ก็เป็นยส่ี ิบสอง
ถา้ เราเจริญมหาสติปัฏฐานแลว้ เราเขา้ ไปในจิตในจิตได้
แลว้ โพชฌงค์๗ ซ่ึงเป็นบารมีเก่า อยใู่ นจิตใตส้ านึกเรา เขาก็
จะแสดงตวั โพชฌงค๗์ กลายเป็นยสี่ ิบเกา้ บวกกบั มรรค๘
เห็นชอบ ดาริชอบ วาจาชอบ อาชีพชอบ การกระทาชอบ
ความเพียรชอบ สตชิ อบ สมาธิชอบ ท้งั หมด รวมกนั เป็น
โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ การเดินทางไปสู่นิพพาน
13
ไมใ่ ช่แคไ่ ปฝึกสติ ฝึกสมาธิ ไปติดรูปแบบ ตรงน้นั
แหละ มนั กไ็ ดค้ วามสงบชว่ั ครู่ แต่ปัญญาไมเ่ กิด เอาสปริงไป
กดมนั ไว้ กดมนั ไว้ กดหนอ กดหนอ มนั กส็ งบ เผลอป๊ บุ ถูกไอ้
ลกู โตๆ ชนป๊ บุ เดง้ ผาง
อนั น้ีเรากดไว้ มนั ไมใ่ ช่ทางพน้ ทกุ ข์ แต่เป็นความสงบ
ชว่ั ครู่ เราตอ้ งทาลายสปริง ยดื มนั ออก เวลายดื มนั ออก ตอ้ งใช้
เคร่ืองมือ ๓๗ ประการ เพราะวา่ มนั ตอ้ งใชพ้ ลงั มหาศาล เม่อื
ยดื มนั ออกหมดแลว้ ไม่ตอ้ งกดเลย มนั เป็นแค่เหลก็ เส้นหน่ึง
มนั ไม่มีผลแลว้ มนั เดง้ ไม่ไดอ้ ีกแลว้ นน่ั แหละ คือ สงบ
ตลอดกาล ไมใ่ ช่ฝึกวิชาน้นั วชิ าน้ี
การปฏิบตั ิธรรมไม่ใช่เจริญสติ ไม่ใช่เจริญสมาธิ แต่
ตอ้ ง เจริญมรรค ผล นิพพาน พวกเราที่เขา้ ไปในจิตไดแ้ ลว้ ที่
มนั ร่ายรา มนั เตน้ มนั หมุน ภาษาองั กฤษ เรียกวา่ inside out
ขา้ งในส่งั ขา้ งนอก มนั เป็นสติสมั โพชฌงค์ มนั เป็นสติตาม
ธรรมชาติ ซ่ึงอิสระมาก
ขา้ งนอกน่ีท่ีเราฝึกสติ มนั เป็นโลกิยะสติ เป็นสติที่ไม่
อิสระ อยภู่ ายใตส้ มมติบญั ญตั ิ ประเพณี วฒั นธรรม และ
มารยาท โจรก็มีสติ โจรก็มีสมาธิ ไมอ่ ยา่ งน้นั มนั ปลน้ ไม่สาเร็จ
แต่มนั ไมม่ ีศีล ไมม่ ีปัญญา ไม่ใช่แค่สติ สติไมใ่ ช่พระเอก แต่
14
ทุกวนั น้ีไปที่ไหน ฝึกจิตก็สติท้งั น้นั แหละ หลวงพอ่ ชาเตือน
บ่อยๆ ตอนที่ทา่ นอยู่ มวั แต่ถือศีล นง่ั สมาธิ มนั จะไปไหน
ทา่ นไม่ไดบ้ อกวา่ มนั ไม่ดี ทา่ นวา่ มนั จะไปไหน? มนั กอ็ ยกู่ บั
สติ กบั สมาธิ
เอาวา่ การปฏิบตั ิธรรม คือ การเจริญ มรรค ผล นิพพาน
ไม่ใช่เจริญสติ ไม่ใช่เจริญสมาธิ
เอกคั คตารมณ์
เมื่อหมนุ เร่ิมด้วยความเร่งคงท่ี และมีการเร่งความเร็ว
ขึน้ อีก รู้สึกว่าเป็นอันหนึ่งอันเดยี วกับการหมนุ ไม่มีความกลัว
ไม่มอี ารมณ์ ในหัวว่าง และเหมือนน่ิงอย่กู ับตวั เองเท่าน้ัน ไม่
สนใจส่ิงรอบข้าง ไม่มคี วามกังวล นี่คือเอกคั คตารมณ์ ใช่
หรื อไม่
อนั น้ีเลย เอกคั คตารมณ์ไปแลว้ เอกคั คตารมณ์ คือ
ฌาน๔ เป็นสมถะกรรมฐาน ถา้ เราไม่เลยฌาน๔ เรากเ็ ขา้ ไป
ในจิตไม่ได้ ถา้ จิตมนั ไม่ทางาน มนั กห็ มนุ ไมไ่ ดห้ รอก ถา้ ใช้
สมองหมุนลม้ แลว้ อนั น้ีเป็นโพชฌงค์ เราตอ้ งขา้ มพน้ วติ ก
วิจารณ์ ปิ ติ แมก้ ระทง่ั ความสุข แต่เป็นอารมณ์นนั่ แหละ
15
อารมณ์น้นั คือ อารมณ์ท่ีเราอุเบกขา จริงๆแลว้ มนั เหมือน
เอกคั คตารมณ์ แตอ่ นั น้ีมนั เลยแลว้ เป็นอเุ บกขาสมั โพชฌงค์
แต่ถา้ เอกคั คตารมณ์ มนั เป็นอเุ บกขาธรรมดา
เหมือนพรหมวิหาร พรหมคือมนุษยผ์ ปู้ ระเสริฐ วหิ าร
คือ ที่อยขู่ องมนุษยผ์ ปู้ ระเสริฐ มีเมตตากรุณา มุทิตา อเุ บกขา
เราอเุ บกขา แต่วา่ เคา้ ดา่ เรา เราเกิดความรู้สึกไมพ่ อใจ แต่เรา
บอก ช่างมนั เถอะ เราใหอ้ ภยั อโหสิกรรม อนั น้ีเราก็น่ิง ไม่ตอ้ ง
สร้างกรรมใหม่ อนั น้ีอุเบกขาของพรหม แต่สญั ญาใหม่มนั
บนั ทึกไวแ้ ลว้ วา่ เราไม่พอใจ แตเ่ ราใหอ้ ภยั
แต่ถา้ อเุ บกขาสมั โพชฌงค์ เป็นอเุ บกขาของพระอริยะ
ไมม่ ีความรู้สึกอะไรเลย ก็ไมต่ อ้ งใหอ้ ภยั อะไรเลย เราไม่
บาดเจบ็ ช่วงที่เราหมนุ เหวีย่ ง มนั เป็นอุเบกขาสัมโพชฌงค์
มนั เลยข้นั เอกคั คตารมณ์
16
เต้นสู่นิพพาน
การที่เรามา เต้น เต้น หมุนแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าจะ
สามารถ คลายจากอารมณ์ ที่สะสมในจิตได้อย่างไร?
เป็นความคิดแบบเราคนุ้ เคย วา่ การปฏิบตั ิธรรม คือตอ้ ง
ไปฝึกวิธีเทคนิค มองในมุม เร่ืองเทคนิคอยา่ งเดียว อนั น้ีเป็นแค่
อบุ ายวิธี เชา้ สาย บ่าย เยน็ ไม่เหมือนกนั เราตอ้ งรวมพลงั ทุก
อยา่ ง แลว้ ก็ออกไปจากศาลา ตอ้ งอยกู่ บั ปัจจุบนั ตลอด
มาเตน้ ราเฉยๆ น่ีคลายจากอารมณ์ ท่ีสะสม ในจิตใต้
สานึกไดย้ งั ไง อนั ดบั แรกนะ ใครมาวนั แรก เห็นอารมณต์ วั เอง
ไหม เฮย้ ..มนั ทาอะไร นนั่ แหละ มนั อยใู่ นจิตใตส้ านึกเรา นน่ั
หวั โขนเรา เห็นมยั๊ เราเคยนง่ั เงียบๆ นิ่งๆ แลว้ บางคนราอยนู่ ะ
แตร่ าไม่ออก มนั อาย น่ีไง มนั อยใู่ นจิตใตส้ านึกเรา เรารา เพอ่ื
เหวีย่ งเอาหวั โขนเหล่าน้ีออกไป กลา้ มเน้ือ เสน้ เอน็ มนั ตงึ
เครียด เราก็คลายมนั
อารมณ์เครียดเมื่อก้ี มนั ก็คลายหมด มนั เครียด เพราะเรา
มีหวั โขน เราอาย เรามีศกั ด์ิศรี เรามีบุคลิกภาพ พอไปเจอจิตมนั
ส่ังใหก้ ลิ้ง หมดรูปเลย มนั ทาอะไร มนั เหวีย่ งอตั ตา เหว่ยี งรูป
ทิง้ ไง แลว้ กก็ ารไปนิพพาน ตอ้ งเดินไปตวั เบาๆ ที่เราทา เราถึง
17
รู้วา่ เราไดอ้ ะไรวนั แรกๆ หนกั ใช่ไหม กลวั ไปหมดเลย ลทั ธิ
อะไร มาราทาไม อาย พอวนั ทา้ ยๆ น่ีอะไรกไ็ ม่รู้พริ้วเลย
เตน้ เตน้ รา รา มนั ไดอ้ ะไร นี่แหละ เตน้ สู่นิพพาน
นิพพานเป็นยงั ไงรู้ไหม ทางไปนิพพาน เอานี่กระดาษขาวมา
แผน่ นึง เอาเขม็ เจาะ ป๊ อก! รูน้ีใหญ่เกินไป ตอ้ งหารกี่ร้อยเท่า
เราจะแบกหวั โขนไปไดไ้ หม แบกศกั ด์ิศรีไปไดไ้ หม ขอโทษ
ไม่มีทาง ตอ้ งไปแบบตวั เบาๆ นี่แหละ เทคนิคอบุ ายวิธี ในการ
เอาหวั โขนออก
แต่ไมใ่ ช่ เป็นเหมือนเยาวชน ไปเตน้ ดิสโกเ้ ทค อนั น้นั
มนั เพม่ิ หวั โขน มนั ไปเตน้ เพอื่ ใหม้ นั สนุกสนาน เพื่อมากลบ
เกล่ือนความเบื่อ เพราะมนั ชนป๊ บุ ตีกนั ฆา่ กนั เป็นแบบขาดสติ
ของเราเตน้ อยา่ งมีสติ มีสมาธิ เอาอารมณอ์ อก อารมณ์ออก
รู้เท่าทนั เรียนรู้กบั มนั เกิดปัญญา ถา้ ลาพงั เราดูแบบตาเน้ือ
เฉยๆ มนั เป็นแบบน้ี นี่แหละภาษามนั หยาบ
18
ใช้มันให้..เป็น อย่าใช้มนั ให้..ตาย
คนทกุ วนั น้ีสนุกสนาน แบบเล่นพวกโซเชียลมีเดีย อนั
น้ีตอ้ งระวงั คนโบราณเขาบอกวา่ อยา่ ชกั ศกึ เขา้ บา้ น อยา่ เอา
เร่ืองในบา้ นไปบอกเขา อยา่ ใหค้ นนอกบา้ น มาพูดทะเลาะกนั
ตอนน้ีเหงา บอกคนท้งั โลกเลย ฉนั เหงา ไปกินขา้ วกถ็ า่ ยรูป วา่
ฉนั กาลงั กินอนั น้ี เผยหมดเลย เปิ ดกระโปรงหมดเลยแลว้ ยงั ไง
คนโบราณเขาบอกวา่ สู้ศึกน่ี รู้เขา รู้เรา ชนะทกุ คร้ัง
ไมร่ ู้เขาหรอก แต่ของเราบอกเขาหมดเลย แลว้ มนั จะไปเหลือ
อะไร อนั ตรายมาก เราคิดป๊ ุบ มโนกรรม พูดป๊ บุ วจีกรรม พดู
ป๊ ุบมนั ก็หายไป แตถ่ า้ ไปใส่ในโซเชียล น่ีเป็นกายกรรมแลว้
กายกรรมนี่ไปทวั่ โลก เป็นหลกั ฐานดว้ ยนะ
ถามพ่อครูว่าทายงั ไง ระวงั ใช้มนั ..ให้เป็ น อย่าใช้..ให้
มันตาย ใช้แล้วฆ่าตัวเองตายท้ังเป็ น ใช้มัน..แต่อย่าให้
เทคโนโลยเี หลา่ น้ี..มนั ใชเ้ รา
19
เหนือธรรม เหนือภาษา
พระพทุ ธเจา้ บอก อยา่ เพ่ิงเชื่อตารา อยา่ เพงิ่ เจอคนท่ีพูด
เป็นครูบาอาจารยเ์ รา พระองคใ์ ชภ้ าษา มาบอกกบั พวกเรา วา่
ท่านจงมาดเู ถิด ปฏิบตั ิเถิด ผ้ใู ดเห็นธรรม ผ้นู นั้ เห็นเรา ตถาคต
พระธรรม คือ สิ่งที่ถูกเห็น พระพุทธเจ้าไปตรัสรู้มา
พระธรรมน้ี ไม่ใช่คาส่ังสอนของพระพทุ ธเจา้ พระธรรมมีอยู่
คู่โลก คูจ่ กั รวาลอยแู่ ลว้ มีก่อนที่เจา้ ชายสิทธตั ถะจะประสูติอีก
แลว้ ในพระไตรปิ ฎก ก็บนั ทึกเองว่า พระพุทธเจ้าท้งั หลาย
ก่อนหน้าน้ี อีกยี่สิบเจ็ดพระองค์ จะเป็ น พระทีปังกร
พระกสั สปะ ก็ช่าง ก็ไม่มีพระไตรปิ ฎกอ่าน รวมท้งั เจ้าชาย
สิทธตั ถะดว้ ย แต่ทาไมทา่ นเหล่าน้นั บรรลธุ รรม?
ปัญญา เกิดข้ึนจากสามสถานน้ี คือ
• สุตมยปัญญา ความรู้เกิดมาจากการอา่ น
• จินตามยปัญญา เกิดจากจินตนาการ
• ภาวนามยปัญญา เกิดจากการภาวนา
พระพุทธเจา้ ไม่ส่งเสริม สุตมยปัญญา และ จินตามย-
ปัญญา เพราะว่ามนั ยงั ไม่เพียว ไม่บริสุทธ์ิ แต่ไม่ใช่ไม่ดีนะ
อย่างบางคนโชคดีมาก เกิดในยุคพุทธกาล ฟังธรรมคร้ังนึง
20
บรรลุธรรมเลยก็มี แต่มันไม่ใช่ทางสายกลาง มันเป็ น
ความสามารถเฉพาะตวั แลว้ ส่วนมาก เราไปคิดเอาเอง บางคน
เขาจินตนาการ เขาคิดเอาเอง เขาก็บรรลุธรรมได้ แต่มนั ก็เป็น
ความสามารถเฉพาะตวั ไม่ใช่ทางสายกลาง ส่วนมากเราคิด
เขา้ ขา้ งกิเลสเรา มนั ไม่เพยี ว มนั ไมบ่ ริสุทธ์ิ
พระองคส์ ่งเสริม ภาวนามยปัญญา คือ เหมือนเราไปฝึก
วธิ ีเพง่ น้ามนั ไหลมา เรากน็ งั่ สมาธิเลง็ อยู่ มนั ไวหนอ ไวหนอ
ไอน้ ้าน่ีมนั ไวๆ ถา้ เรามีสมาธิต้งั มนั่ แลว้ กป็ ระสบการณ์ใน
ชาติน้ี เราก็ไปคาดคะเนวา่ มนั น่าจะเร็ว ก่ีกิโลเมตรต่อชว่ั โมง
มนั น่าจะหกสิบ อีกคนวา่ มนั น่าจะหา้ สิบ อนั น้นั เป็นแค่
จินตนาการ มนั ไม่ใช่ของจริง
ภาวนามยปัญญา ตอ้ งทาแบบน้ี โดดลงไปในน้าเลย
โดดลงไปเลย แรงกระทบมนั อยา่ งน้ี แลว้ มนั เยน็ มนั ร้อนยงั ไง
เรากร็ ู้อยา่ งน้นั นะ โดดเขา้ ไปในจิตเลย ไปสมั ผสั อารมณ์น้นั
ดว้ ยตวั เราเอง นน่ั เรียกวา่ ภาวนามยปัญญา ไม่ใช่ไปท่องบน่
สวดมนตเ์ ฉยๆ อนั น้นั เป็นแค่เจริญสติ และฝึกสมาธิ สวดมนต์
ต้งั มนั่ อยนู่ น่ั มนั ไม่ไดผ้ ดิ เราสวดมนตก์ ด็ ีกวา่ เราไปคิดโน่น
คิดน่ี สร้างมโนกรรม แต่มนั เป็นแคอ่ ุบายวธิ ี ทาใหเ้ ราจดจ่อ
21
ทกุ วนั น้ีเรากราบพระพทุ ธรูปเพื่อระลึกถึงครูบาอาจารย์
ผรู้ ู้ ผตู้ ่ืน ผเู้ บิกบาน ผหู้ ่างไกลจากกิเลส เพอ่ื เราจะไดเ้ ตือนสติ
ใหเ้ ราม่งุ มน่ั ทาเหมือนพระองค์ ไมใ่ ช่ไปกราบ ในฐานะสิ่ง
ศกั ด์ิสิทธ์ิ แลว้ ขอนน่ั ขอน่ี พระพุทธเจา้ ไมไ่ ดส้ อนอยา่ งน้นั
พระพุทธเจา้ ไม่ใช่ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ ทาใหเ้ ราพน้ ทุกข์
ไมไ่ ด้
กใ็ หเ้ ขา้ ใจ พระไตรปิ ฎกน่ี เปรียบเสมือน ลายแทง
เป็นแผนท่ี เราดูไวแ้ ค่สงั เขป เจา้ ชายสิทธตั ถะไมม่ ีดูดว้ ย
พระพทุ ธเจา้ ท้งั หลายกอ่ นหนา้ อีกยสี่ ิบเจด็ พระองค์ ก็ไม่มีดู
เลย ทา่ นถึงบรรลุธรรมเร็วไง ภาษาน้ีก็ไม่ใช่ความจริง มนั คือ
มนุษยส์ มมุติข้ึน กไ็ ปเอาสมมุติมาเถียงกนั ไปอวดรู้ อวดเห็น
วา่ ฉนั รู้มากกวา่ เธอ แค่อ่านหนงั สือออก ขยนั อา่ น กจ็ าแมน่
แลว้ แต่มนั พน้ ทุกขห์ รือเปล่า มแี ตเ่ พม่ิ ทุกข์ เพราะไปแบกขยะ
ทกุ วนั น้ีความรู้ เราเป็นแค่น้นั แหละ คือความรู้ทางโลก
แต่เอาความรู้ ความคดิ แบบน้นั มาพดู ถึงเรื่องหลกั ธรรมของ
พระศาสนา มนั ก็เลยเลอะเลือนหมดเลย เรื่องจิตวญิ ญาณพูด
เล่นไมไ่ ด้ มนั ไมใ่ ช่เร่ืองพูดเล่น มนั ไม่ใช่ความรู้ ที่ตอ้ งเอามา
ถกกนั มนั เป็นเรื่อง ไมใ่ ช่คอขาดบาดตายชาติเดียวนะ กรรมนี่
มนั ขา้ มภพ ขา้ มชาติเลย
22
สมมตุ ิวา่ เราไปขโมยนาฬิกาเขา เขาเสียอะไร เขาเสีย
นาฬิกา กบั เขาเสียใจ จบั ไปขงั พอไหม แตถ่ า้ เราไปหลอกให้
เขาเดินทางชีวติ ผิด เขาเดินทางผิด เขาเสียอะไรรู้ไหม เขาเสีย
ชาติเกิดท้งั ชาติ นรก รออยขู่ า้ งหนา้ ไม่ใช่เรื่องทาเลน่
พ่อครูไดเ้ รียนรู้กบั เด็กคนนึง เขาบอกวา่ พ่อครูใหผ้ มนง่ั
หลบั ตา แลว้ บอกใหผ้ มเฝ้ามอง ผมจะเห็นอะไร ก็พดู ถูกนะ เขา
กเ็ ขา้ ใจวา่ มอง ตอ้ งลมื ตาสิ เห็นไหม ขนาดพอ่ ครูไมเ่ ปลง่
ออกมา ไม่มีผิดหรอก แต่เป็นภาษาเซน มนั เป็นภาษาขา้ งใน
ทีน้ี ก็มาถามนอ้ งอีกคนนึงตวั เลก็ ๆ เขายนื หมนุ หมนุ
หมนุ พริ้วเลย หลงั จากเสร็จแลว้ พอ่ ครูกถ็ ามวา่ ตอนปฏิบตั ิ
เขาเฝ้ามองอะไร เขาบอกมองตวั เอง เห็นไหม คนเขา้ ไปเขาก็
เขา้ ใจ มนั เป็นภาษาจิต แตเ่ ดก็ ที่ยงั ไมเ่ คยเขา้ เขาใชภ้ าษาคน
เขาแสดงใหเ้ ห็นแลว้ วา่ ภาษาหยาบเกินไป ที่จะอธิบาย
สิ่งน้นั แตเ่ รากใ็ ชภ้ าษา เทา่ ที่เราใชไ้ ด้ ดีทสี่ ุด อยา่ ไปแปล
ปฏิบตั ิเอง ลองเอง ถา้ ไปทาดว้ ยกก็ ลา้ ๆ กลวั ๆ เราจะพลาด
โอกาส เพราะสิ่งน้นั ใช้ ความคิดไมไ่ ด้
มีญาติธรรมถามพ่อครูวา่ นิพพานมนั เป็นอะไรกนั แน่
ถา้ มนั ยงั เป็น อะไรอยู่ นิพพานไมไ่ ด้ นิพพานยงั ไมใ่ ช่นิพพาน
เลย มนั ไม่มีอะไร แตน่ ิพพานเป็นช่ือสมมุติวา่ จิตซ่ึงมนั ไม่มี
23
อะไร มนั ดบั ทุกขไ์ ดแ้ ลว้ เขาสมมติสภาวะน้นั เรียกวา่ นิพพาน
นิพพาน ยงั ไม่ใช่นิพพานเลย
มนั ไมม่ ีชื่อเรียก ถา้ มนั ยงั เป็น อยนู่ ิพพานไมไ่ ด้ เป็น คือ
อตั ตา ปฏิบตั ิกอ่ น พระพทุ ธเจา้ ปฏิบตั ิก่อน ลองถูกลองผิดอยู่
หกพรรษา เม่ือตรัสรู้ธรรม เขา้ สู่ปฏิเวธ กเ็ อาสิ่งท่ีพระองคร์ ู้
และเห็น มาบอกกล่าวเท่าที่พดู ได้
พวกเราข้ึนชื่อว่า เป็ นลูกหลานพระพุทธเจ้า ไม่ใช่
หน้าท่ีพ่อครูคนเดียว เป็ นหน้าที่ทุกคน ต้องพายเรือลาน้ี
ออกไป รักษาพุทธศาสนา เป็ นที่ยึดเหนี่ยว จิตใจลูกหลานเรา
ต่อไป ตอนน้ีคนไม่มีศาสนาในโลกเรา เพิ่มมากข้ึน ไม่ใช่เขา
ผิดนะ เพราะศาสนาทกุ ศาสนา ไมต่ อบโจทยเ์ ขา
ไมต่ อบโจทยช์ ีวิต แบบสมยั ใหม่ ไมใ่ ช่เขาอยาก ไม่
อยาก แลว้ ก็เปลี่ยนมนั ไมไ่ ด้ แตล่ ะศาสนามวั แต่อนุรักษ์ มนั
ไม่ไดใ้ ชป้ ระโยชนเ์ ลย จิตพอ่ ครูรู้เทา่ ทนั โลก ปรับเปล่ียนให้
คนรุ่นใหม่ เขารับได้ แลว้ กใ็ ชเ้ วลาส้ันส้ัน เคา้ ปฏิบตั ิแลว้ เขา
ตอบโจทยไ์ ด้ อยา่ งนอ้ ยๆ ร่างกายเขาแขง็ แรง กายฟิ ตจิต เฟิ ร์ม
อารมณ์ดี ชีวมี ีสุข ไปใชช้ ีวติ ตอ้ งปฏิบตั ิศาสนาแลว้ ไปใชไ้ ด้
จริงๆ ไม่ใช่ไปฝึกอีกแบบนึง ออกไปก็อีกแบบนึง
24
ท่ีมา : เร่ือง เหนือธรรม เหนือภาษา
บรรยาย โดย พ่อครูบัญชา ต้งั วงษ์ไชย
ศูนย์พลาญข่อย 18 เมษายน 2558