ใบงานที่ ๓.๔
การใช้คำหรือกลุ่มคำสร้างประโยคให้ตรงตามเจตนาของผู้ส่งสาร
ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนอธิบายลักษณะของประโยคต่อไปนี้
1. ประโยคแจ้งให้ทราบ
2. ประโยคถามให้ตอบ
3. ประโยคบอกให้ทำ
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่งประโยคต่อไปนี้ ประเภทละ 2 ประโยค
1. ประโ
ยคแจ้ง
ให้ทราบ
2. ประโ
ยคถาม
ให้ตอบ
3. ประโ
ยคบอก
ให้ทำ
ชื่อ-สกุล : ชั้น เลขที่
เฉลย ใบงานที่ ๓.๔
การใช้คำหรือกลุ่มคำสร้างประโยคให้ตรงตามเจตนาของผู้ส่งสาร
ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนอธิบายลักษณะของประโยคต่อไปนี้
1. ประโยคแจ้งให้ทราบ
ประโยคแจ้งให้ทราบ เป็ นประโยคที่ผู้ส่งสารใช้แจ้งข้อความ
หรือบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างให้ผู้รับสารได้ทราบ ถึงข้อความ
หรือเรื่องราวนั้ น
2. ประโยคถามให้ตอบ
ประโยคถามให้ตอบ เป็ นประโยคที่ผู้ส่งสารใช้ถามเรื่องราว
บางประการ เพื่อให้ผู้รับสารตอบคำถาม
3. ประโยคบอกให้ทำ
ประโยคบอกให้ทำ เป็ นประโยคที่ผู้ส่งสารบอกให้ผู้รับสาร
ทำตามความต้องการของตน อาจใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น ขอร้อง
อ้อนวอน ชักชวน สั่ง เป็ นต้น
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่งประโยคต่อไปนี้ ประเภทละ 2 ประโยค
1. ประโ
ยคแจ้ง
ให้ทราบ
2. ประโ
ยคถาม
ให้ตอบ
3. ประโ
ยคบอก
ให้ทำ
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
ชื่อ-สกุล : ชั้น เลขที่
แผนการเรียนรู้ที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน 8 ชั่วโมง
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง รู้รักษ์หลักภาษา เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง ร้อยเรียงประโยค 1
วัน/เดือน/ปี ........................
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท4.๑ ม.4-6/2, 6
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ อธิบายและวิเคราะห์ หลักการสร้างคำในภาษาไทย
และใช้คำหรือกลุ่มคำสร้า
งประโยคได้อย่างถูกต้อง
อธิบายและวิเคราะห์
หลักการสร้างคำใน ใช้คำและกลุ่มคำสร้าง มีมารยาทใน
ประโยคได้ตรงตาม การอ่าน (A)
ภาษาไทยได้ (K)
วัตถุประสงค์ (P)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน เทคนิ คการคู่คิ ดสี่สหาย
ขั้นนำ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเรื่อง ความสำคัญของประโยค
2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด การร้อยเรียงประโยคให้มีความสัมพันธ์
(10 นาที) เกี่ยวเนื่องกัน มีความสำคัญอย่างไร
ขั้นกิจกรรม 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันศึกษา
ความรู้เรื่อง การร้อยเรียงประโยคจากหนังสือเรียน
(40 นาที) 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงานที่ ๓.5 เรื่อง การร้อยเรียงประโยค โดย
ให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มหาคำตอบด้วยตนเองจนครบทั้ง 2 ตอน
3. มอบหมายให้นักเรียนนำไปงาน ๓.5 ไปตรวจสอบเพิ่มเติม
ขั้นสรุป ๑. ครูอธิบายสรุปเพิ่มเติมในเนื้อหา การร้อยเรียงประโยค
(10 นาที)
2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยว
กับประโยค มีผลดีอย่างไร
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถในการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, มุ่งมั่นในการทำงาน บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
ใบงานที่ ๓.๕ เรื่อง การใช้คำหรือกลุ่มคำ ……………………………………………………
สร้างประโยคให้ตรงตามเจตนาของผู้ส่งสาร …………………………………………………...
Presentation
เรื่อง การร้อยเรียงประโยค (นางสาวธัญญา ดาทอง)
หนังสือเรียนหลักภาษาฯ ม.5 ครูผู้สอน
ภาระงาน/ชิ้นงาน
ใปบรงะาโนยทคี่ใ๓ห้.ต๕รเงรืต่อางมกเจารตในช้าคขำอหงรผืูอ้สก่งลสุ่มาครำสร้าง
ใบงานที่ ๓.5
การเรียบเรียงประโยค
ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่งประโยคต่อไปนี้ ประเภทละ 2 ประโยค
๑.ประโยคที่เชื่อมด้วย
คำสันธานห
รือสันธาน
วลีแล้วมีเนื้อความ
คล้อยตามกัน
2. ประโยคที่เชื่อมด้วย
คำสันธานห
รือสันธาน
วลีแล้วมีเนื้อความขัด
แย้งกัน
3. ประโยคที่เชื่อมด้วย
คำสันธานห
รือสันธาน
วลีแล้วมีเนื้อความให้
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
4. ประโยคที่เชื่อมความ
ดส้ัวนยธคาำนสวันลีธแา
ลน้วหมีรเือนื้อ
ความเป็ นเหตุเป็ นผลกัน
5. ประโยคที่เชื่อมความ
ดว้ลวียแคลำ้วสแันสธดางน
คหวราือมสันธาน
เกี่ยวข้องกันทางเวลา
6. ประโยคที่เชื่อมความ
ด้วยคำสันธานหรือสันธาน
วลี แล้วแสดง
ความ
เกี่ยวข้องกันในด้านที่เป็ น
เงื่อนไข
ชื่อ-สกุล : ชั้น เลขที่
ใบงานที่ ๓.5
การเรียบเรียงประโยค
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำประโยคที่กำหนด เขียนลงในตารางให้ถูกต้อง
1. สุรศักดิ์เคยไปเที่ยวยุโรป แต่หลายคนไม่เคย
2. มาริสาชอบอ่านหนังสือ เธอคงไปงานสัปดาห์ หนังสืออย่างมีความสุข
3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำโครงงานภาษาไทย โครงงานภาษาไทย
ช่วยให้นักเรียนรู้จักการศึกษาค้นคว้า
4. กางเกงขาสั้นตัวนั้นไม่เหมาะกับเธอหรอก ตัวนี้ดีกว่า
5. ร้านนี้จำหน่ายอาหารชีวจิต อาหารชีวจิตราคาไม่แพง
6. แนนชอบทานอาหารญี่ปุ่ น แต่น้อยไม่ชอบ
1. การซ้ำคำหรือวลี
2. การละคำหรือวลี
3. การแทนด้วยคำ
หรือวลี
เฉลย ใบงานที่ ๓.5
การเรียบเรียงประโยค
ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่งประโยคต่อไปนี้ ประเภทละ 2 ประโยค
๑.ประโยคที่เชื่อมด้วย
คำสันธานห
รือสันธาน
วลีแล้วมีเนื้อความ
คล้อยตามกัน
2. ประโยคที่เชื่อมด้วย
คำสันธานห
รือสันธาน
วลีแล้วมีเนื้อความขัด
แย้งกัน
3. ประโยคที่เชื่อมด้วย
คำสันธานห
รือสันธาน
วลีแล้วมีเนื้อความให้
เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
4. ประโยคที่เชื่อมความ
ดส้ัวนยธคาำนสวันลีธแา
ลน้วหมีรเือนื้อ
ความเป็ นเหตุเป็ นผลกัน
5. ประโยคที่เชื่อมความ
วด้ลวียแคลำ้วสแันสธดางน
คหวราือมสันธาน
เกี่ยวข้องกันทางเวลา
6. ประโยคที่เชื่อมความ
ด้วยคำสันธานหรือสันธาน
วลี แล้วแสดง
ความ
เกี่ยวข้องกันในด้านที่เป็ น
เงื่อนไข
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
ชื่อ-สกุล : ชั้น เลขที่
เฉลย ใบงานที่ ๓.5
การเรียบเรียงประโยค
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำประโยคที่กำหนด เขียนลงในตารางให้ถูกต้อง
1. สุรศักดิ์เคยไปเที่ยวยุโรป แต่หลายคนไม่เคย
2. มาริสาชอบอ่านหนังสือ เธอคงไปงานสัปดาห์ หนังสืออย่างมีความสุข
3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำโครงงานภาษาไทย โครงงานภาษาไทย
ช่วยให้นักเรียนรู้จักการศึกษาค้นคว้า
4. กางเกงขาสั้นตัวนั้นไม่เหมาะกับเธอหรอก ตัวนี้ดีกว่า
5. ร้านนี้จำหน่ายอาหารชีวจิต อาหารชีวจิตราคาไม่แพง
6. แนนชอบทานอาหารญี่ปุ่ น แต่น้อยไม่ชอบ
1. การซ้ำคำ 3. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำโครงงานภาษาไทย
หรือวลี โครงงานภาษาไทยช่วยให้นัก
เรียนรู้จัก การศึกษาค้นคว้า
5. ร้านนี้จำหน่ายอาหารชีวจิต อาหารชีวจิตราคาไม่แพง
2. การละคำ 1. สุรศักดิ์เคยไปเที่ยวยุโรป แต่หลายคนไม่เคย
หรือวลี 6. แนนชอบทานอาหารญี่ป
ุ่ น แต่น้อยไม่ชอบ
3. การแทน 2. มาริสาชอบอ่านหนังสือ เธอคงไปงานสัปดาห์ หนังสือ
ด้วยคำ
หรือ
วลี อย่างมีความสุข
4. กางเกงขาสั้นตัวนั้นไม่เหมาะกับเธอหรอก ตัวนี้ดีกว่า
แผนการเรียนรู้ที่ 7 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน 8 ชั่วโมง
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง รู้รักษ์หลักภาษา เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง ร้อยเรียงประโยค 2
วัน/เดือน/ปี ........................
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท4.๑ ม.4-6/2, 6
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ อธิบายและวิเคราะห์ หลักการสร้างคำในภาษาไทย
และใช้คำหรือกลุ่มคำสร้า
งประโยคได้อย่างถูกต้อง
อธิบายและวิเคราะห์
หลักการสร้างคำใน ใช้คำและกลุ่มคำสร้าง มีมารยาทใน
ประโยคได้ตรงตาม การอ่าน (A)
ภาษาไทยได้ (K)
วัตถุประสงค์ (P)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน เทคนิ คการคู่คิ ดสี่สหาย
ขั้นนำ ๑. ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา เรื่อง การร้อยเรียงประโยค พร้อมกับ
(10 นาที) ถามถึงงานที่มอบหมายให้นำกลับไปตรวจสอบเพิ่มเติมเป็ นการบ้าน
๑. (จากกิจกรรมในชั่วโมงที่หนึ่ง หลังจากจับคู่เสร็จแล้ว) จากนั้นจับคู่กับ
ขั้นกิจกรรม เพื่อนในกลุ่มผลัดกันอธิบายคำตอบให้คู่ของตนเองฟัง (สมาชิกกลุ่มอีกคู่หนึ่งก็
ปฏิบัติกิจกรรมเช่นเดียวกัน) นักเรียนรวมกลุ่ม 4 คน ให้แต่ละคู่ผลัดกันอธิบาย
(40 นาที) คำตอบให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งในกลุ่มฟัง เพื่อช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
๒. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียน 1-2 กลุ่ม นำเสนอคำตอบในใบงาน ที่ ๓.๖ ครูและ
เพื่อนนักเรียนกลุ่มอื่นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปความรู้เรื่อง การร้อยเรียงประโยค
(10 นาที) ๒. ครูมอบหมายงานหลังหน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ ครูมอบหมายให้นักเรียน
แต่ละคนทำแผนที่ความคิด เรื่อง ลักษณะของภาษา โดยให้ครอบคลุมประเด็น
ตามที่กำหนด
3. นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ด้วย Plicker
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถในการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, มุ่งมั่นในการทำงาน บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
Plicker แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ……………………………………………………
ลักษณะสำคัญของภาษา …………………………………………………...
Presentation
เรื่อง การร้อยเรียงประโยค
หนังสือเรียนหลักภาษาฯ ม.5
ภาระงาน/ชิ้นงาน (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ครูผู้สอน
แผนที่ความคิด เรื่อง ลักษณะของภาษา
แผนการเรียนรู้ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน 10 ชั่วโมง
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา เวลา 2 ชั่วโมง
เรื่อง หลักการฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ
วัน/เดือน/ปี ........................
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท3.๑ ม.4-6/4, 6
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ การฟังและดูที่ดี ต้องมีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องที่ฟังและดู
บอกหลักการฟังและดู เลือกใช้หลักการฟังและดูอย่าง มีมารยาทในการ
มีวิจารณญาณและมารยาทใน ฟังและดู (A)
อย่างมีวิจารณญาณและ
มารยาทในการฟังและ การฟังและการดูได้ (P)
การดูได้ (K)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ชั่วโมงที่ ๑ ขั้นที่ ๒ สำรวจค้นหา 20 นาที
ขั้นที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ 20 นาที
1. ครูแบ่งนักเรียนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน
1. ครูเปิ ดวิดีโอรายการโทรทัศน์ และคลิปจากยูทู คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลาง
ปเบอร์ ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชมมาให้ ค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน
นักเรียนดู
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้
๒. ครูสนทนากับนักเรียนเรื่องสื่อที่ใช้ในการฟัง เรื่อง การฟังและดู อย่างมีวิจารณญาณ และ
และดู จากนั้นให้นักเรียนยกตัวอย่างรายการทาง มารยาทในการฟังและการดู จากหนังสือเรียน
โทรทัศน์ ที่นักเรียนคิดว่าเป็ นรายการที่ดีและมี โดยให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มเลือกศึกษาหัวข้อ
ประโยชน์ ตามประเด็นที่กำหนด
๓. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ถ้า
รายการทางสื่อโทรทัศน์ และมาตรฐานของคนไทย คนไทยรู้จักเลือกฟังและดูสื่ออย่างมีวิจารณญาณ
ในการรับฟังและดูสื่อ จะเกิดผลอย่างไร
ขั้นที่ ๓ อธิบายความรู้ 20 นาที ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ ๕ ตรวจสอบผล 20 นาที
1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม ขั้นที่ ๔ ขยายความเข้าใจ 40 นาที ครูตรวจและประเมินความรู้
ความเข้าใจของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
ศึกษาหัวข้อตามประเด็นที่กำหนด 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบ จากการทำใบงานที่ ๔.1 รวมถึง
จนเกิดความเข้าใจชัดเจนแล้วให้ งานที่ ๔.1 เรื่อง หลักการฟัง และดู การให้คำแนะนำสำหรับกลุ่มที่ยังมี
นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปราย อย่างมีวิจารณญาณ เมื่อทำเสร็จแล้ว ข้อบกพร่องในการทำงาน
ความรู้เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ให้นำส่งครูตรวจ
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้น
สรุปความรู้ที่ได้จากการอภิปราย ความคิด ผู้ที่ได้ฟังและดูสื่อแล้วเกิด
เป็ นองค์ความรู้ของกลุ่ม แล้วเขียน ความเชื่อถือทันที โดยไม่ใช้
บันทึกลงในสมุด วิจารณญาณในการฟังและดู นักเรียน
คิดว่า จะเป็ นผลเสียอย่างไร
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถในการสื่อสาร, ความสามารถในการใช้ ผลงานนักเรียน
ทักษะชีวิต การให้ความร่วมมือ
การเข้าชั้นเรียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
บันทึกหลังการสอน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, รักความเป็ นไทย
……………………………………………………
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
หนังสือหลักภาษาไทย ม.5
Presentation เรื่อง การฟังและดูอย่างมี …………………………………………………...
วิจารณญาณ ……………………………………………………
ใบงานที่ ๔.๑ เรื่อง หลักการฟัง และดูอย่างมี …………………………………………………...
วิจารณญาณ
ภาระงาน/ชิ้นงาน (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ครูผู้สอน
ใบงานที่ ๔.๑ เรื่อง หลักการฟัง และดู
อย่างมีวิจารณญาณ
ใบงานที่ ๔.๑
หลักการฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ
ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำพยัญชนะ ก-ค หน้าข้อความ มาเติมลงในช่องว่าง
ให้ใจความสัมพันธ์กัน
ก. สารที่เป็ นความรู้ ข. สารจรรโลงใจ ค. สารโน้มน้าวใจ
_____ 1. ผู้ฟังต้องประเมินค่าสิ่งที่ฟังว่ามีประโยชน์ มากน้อยเพียงใด
_____ 2. ต้องตั้งจุดประสงค์ว่าฟังเพื่อให้ได้ข้อคิดหรือเพื่อความบันเทิง
_____ 3. ต้องสังเกตว่าผู้พูดมีเจตนาอย่างไรต่อผู้ฟัง
_____ 4. ผู้พูดใช้ภาษาเร่งเร้าให้ผู้ฟังเชื่อถือและปฏิบัติตาม
_____ 5. สารที่ให้กำลังใจผู้ฟังไม่ให้ท้อถอยกับชีวิต
_____ 6. ฟังแล้วต้องบันทึกการฟังเป็ นข้อมูลที่แนะนำผู้อื่นได้
_____ 7. ต้องพิจารณาว่าสารที่ฟังนั้นมีเหตุมีผลหรือไม่
_____ 8. ต้องพิจารณาว่าภาษาที่ใช้เหมาะกับรูปแบบเนื้อหาและผู้ฟังหรือไม่
_____ 9. ฟังแล้วต้องตัดสินว่าเนื้อหาสาระเชื่อถือได้หรือไม่
_____ 10. ผู้พูดใช้ภาษาเร่งเร้าอารมณ์ ให้คล้อยตาม
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนอธิบายกระบวนการฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ
พร้อมกับเขียนขั้นตอนประกอบ
ชื่อ-สกุล : ชั้น เลขที่
เฉลย ใบงานที่ ๔.๑
หลักการฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ
ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำพยัญชนะ ก-ค หน้าข้อความ มาเติมลงในช่องว่าง
ให้ใจความสัมพันธ์กัน
ก. สารที่เป็ นความรู้ ข. สารจรรโลงใจ ค. สารโน้มน้าวใจ
__ค_.__ 1. ผู้ฟังต้องประเมินค่าสิ่งที่ฟังว่ามีประโยชน์ มากน้อยเพียงใด
__ข_.__ 2. ต้องตั้งจุดประสงค์ว่าฟังเพื่อให้ได้ข้อคิดหรือเพื่อความบันเทิง
__ค_.__ 3. ต้องสังเกตว่าผู้พูดมีเจตนาอย่างไรต่อผู้ฟัง
__ค_.__ 4. ผู้พูดใช้ภาษาเร่งเร้าให้ผู้ฟังเชื่อถือและปฏิบัติตาม
__ข_.__ 5. สารที่ให้กำลังใจผู้ฟังไม่ให้ท้อถอยกับชีวิต
__ก_.__ 6. ฟังแล้วต้องบันทึกการฟังเป็ นข้อมูลที่แนะนำผู้อื่นได้
__ค_.__ 7. ต้องพิจารณาว่าสารที่ฟังนั้นมีเหตุมีผลหรือไม่
__ก_.__ 8. ต้องพิจารณาว่าภาษาที่ใช้เหมาะกับรูปแบบเนื้อหาและผู้ฟังหรือไม่
__ก_.__ 9. ฟังแล้วต้องตัดสินว่าเนื้อหาสาระเชื่อถือได้หรือไม่
__ค_.__ 10. ผู้พูดใช้ภาษาเร่งเร้าอารมณ์ ให้คล้อยตาม
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนอธิบายกระบวนการฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ
พร้อมกับเขียนขั้นตอนประกอบ
การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ เป็ นการฟังและดูโดยใช้สติปัญญา วิเคราะห์ ไตร่ตรองอย่าง
รอบคอบ ตัดสินใจและประเมินค่าสิ่งที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผล แล้วนำไปใช้ประโยชน์
กระบวนการฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ ประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นที่ 1 การฟัง การดู
ได้ยิน + ได้เห็น รับรู้ + เข้าใจ
ขั้นที่ 2 การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ
ได้ยิน + ได้เห็น รับรู้ + เข้าใจ
วิเคราะห์ + ใคร่ครวญ + วินิจฉัย + ประเมินค่า ใช้ประโยชน์
ชื่อ-สกุล : ชั้น เลขที่
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 แผนการเรียนรู้ที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา จำนวน 10 ชั่วโมง
เรื่อง การฟังและดูสารที่เป็ นความรู้
เวลา 1 ชั่วโมง
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท3.๑ ม.4-6/4, 6
วัน/เดือน/ปี ........................
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ การฟังและดูสารที่เป็ นความรู้ ต้องมีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องที่ฟัง
และดู และมีมารยาทในการฟังและการดู
รู้หลักการเลือกฟังและดู มีวิจารณญาณในการเลือกฟัง มีมารยาทในการ
สารที่เป็ นความรู้ได้ (K) และดูสารที่เป็ นความรู้ได้ (P) ฟังและดู (A)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน วิธีสอนแบบแก้ปัญหา
ขั้นที่ ๑ กำหนดปัญหา 10 นาที ขั้นที่ ๒ ตั้งสมมติฐาน 10 นาที
1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับรายการที่ให้ความ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มตั้งสมมติฐาน และพิจารณา
รู้ทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อื่น ๆ ว่ามี แนวทางในการคิดวิเคราะห์ ปัญหาและการคาดคะเน
รายการใดบ้าง คำตอบ
2. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด นักเรียน
รายการทางสื่อต่าง ๆ คิดว่า สื่อที่ให้ความรู้ประเภทใด มีคุณภาพเหมาะสม
กับนักเรียนมากที่สุด เพราะเหตุใด
3. นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง
หลักการฟังและดูสารที่เป็ นความรู้ ขั้นที่ ๓ ตรวจสอบสมมติฐาน 5 นาที
4. ครูกำหนดให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกฟังและดูสื่อที่
ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่สำคัญในประเทศไทย 1 สมนัมกตเิฐรียานนทแี่ตตั่้งลไะวก้ โลุ่ดมยวาพิงจแาผรนณกาาเรลืหอากควิำธีตแอก้บปัจญากหาที่ดี
แห่ง แล้ววิเคราะห์ สารที่เป็ นความรู้จากเรื่องที่ฟังและดู ที่สุด และมีความเป็ นไปได้มากที่สุด
ขั้นที่ ๔ เก็บและรวบรวมข้อมูล ขั้นที่ ๕ ทดสอบข้อมูล 15 นาที ขั้นที่ ๖ สรุปผล 10 นาที
10 นาที นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน ครูและนักเรียนแต่ละกลุ่มร่วม
กันสรุปผลการวิเคราะห์ สารที่เป็ น
รวบนัรกวเมรีขย้อนมแูลต่ตลาะมกแลุผ่มนเกท็ีบ่ได้ วิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้มาลงในใบ ความรู้จากเรื่องที่ฟังและดู
วางไว้ แล้วบันทึกลงในสมุด งาน ที่ ๔.2 เรื่อง การฟังและดู
จากนั้ นทำการประเมินความ สารที่เป็ นความรู้ เมื่อทำเสร็จ
ถูกต้องของข้อมูล แล้วให้ตรวจสอบความเรียบร้อย
แล้วนำส่งครูตรวจ
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถในการสื่อสาร, ความสามารถในการใช้ ผลงานนักเรียน
ทักษะชีวิต การให้ความร่วมมือ
การเข้าชั้นเรียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
บันทึกหลังการสอน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, รักความเป็ นไทย
……………………………………………………
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ …………………………………………………...
……………………………………………………
หนังสือหลักภาษาไทย ม.5 …………………………………………………...
Presentation เรื่อง การฟังและดูสารที่เป็ น (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ความรู้ ครูผู้สอน
ใบงานที่ ๔.2 เรื่อง การฟังและดูสารที่เป็ น
ความรู้
ภาระงาน/ชิ้นงาน
ใบงานที่ ๔.2 เรื่อง การฟังและดูสารที่เป็ น
ความรู้
ใบงานที่๔.2
การฟังและดูสารที่เป็ นความรู้
คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้มา ตามประเด็นต่อไปนี้
1. ประเภทของเรื่องที่ฟังและดู
2. สาระสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู
3. ความน่าเชื่อถือของเรื่องที่ฟังและดู
4. การใช้ถ้อยคำภาษาของผู้ส่งสาร
5. คุณค่าของเรื่องที่ฟังและดู
ชื่อกลุ่ม : ชั้น เลขที่
เฉลย ใบงานที่๔.2
การฟังและดูสารที่เป็ นความรู้
คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์ ข้อมูลที่ได้มา ตามประเด็นต่อไปนี้
1. ประเภทของเรื่องที่ฟังและดู
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
2. สาระสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู
3. ความน่าเชื่อถือของเรื่องที่ฟังและดู
4. การใช้ถ้อยคำภาษาของผู้ส่งสาร
5. คุณค่าของเรื่องที่ฟังและดู
ชื่อกลุ่ม : ชั้น เลขที่
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 แผนการเรียนรู้ที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา จำนวน 10 ชั่วโมง
เรื่อง การฟังและดูสารจรรโลงใจ
เวลา 1 ชั่วโมง
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท3.๑ ม.4-6/4, 6
วัน/เดือน/ปี ........................
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ การฟังและดูสารจรรโลงใจ ต้องมีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องที่ฟังและดู
และมีมารยาทในการฟังและการดู
รู้หลักการพิจารณา มีวิจารณญาณในการเลือกฟัง มีมารยาทใน
วิจารณญาณในการเลือกฟัง และดูสารจรรโลงใจได้ (P) การฟังและดู
และดูสารจรรโลงใจได้ (K)
(A)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน
ขั้นนำ ๑.ครูกระตุ้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ ตอบคำถามเรื่อง สาร
จรรโลงใจ ที่ปรากฏทางสื่อต่าง ๆ ในปัจจุบัน
(10 นาที)
2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า สื่อประเภทใดเหมาะ
สำหรับการฟังและดูสารจรรโลงใจมากที่สุด
ขั้นกิจกรรม 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง หลักการฟังและดูสารจรรโลงใจ จาก
(40 นาที) หนังสือเรียน
2. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสารจรรโลงใจ
3. ครูกำหนดสื่อและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ให้นักเรียนเลือกฟังและดูสารจรรโลงใจ จากสื่อ
หรือแหล่งต่อไปนี้
1) โทรทัศน์ 3) สื่ออิเล็กทรอนิกส์
2) Youtube 4) Apple Podcast / Google Podcasts
ขั้นสรุป 1.สมาชิกในแต่ละกลุ่มพิจารณาสื่อหรือแหล่งข้อมูลที่เลือกว่า มีความเหมาะสมหรือไม่
(10 นาที) มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร จากนั้นร่วมกันหาแนวทางศึกษาความรู้
2. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนปฏิบัติงาน
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ครูประเมินการนำ
เสนอของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถทางการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้ บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
หนังสือเรียน ภาษาไทย ……………………………………………………
หลักภาษาฯ ม.5 …………………………………………………...
สื่อประเภทต่าง ๆ (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ครูผู้สอน
Presentation เรื่อง หลักการฟังและดูสาร
จรรโลงใจ
ภาระงาน/ชิ้นงาน
พิจารณาสื่อที่ฟังหรือดู
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 แผนการเรียนรู้ที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา จำนวน 10 ชั่วโมง
เรื่อง การฟังและดูสารโน้มน้าวใจ
เวลา 1 ชั่วโมง
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท3.๑ ม.4-6/4, 6
วัน/เดือน/ปี ........................
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ การฟั งและดูสารโน้ มน้ าวใจที่ดี
ต้องมีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องที่ฟังและดู
อธิบายหลักการมี มีวิจารณญาณในการเลือกฟัง มีมารยาทใน
วิจารณญาณในการเลือกฟัง และดูสารโน้มน้าวใจได้ (P) การฟังและดู
และดูสารโน้มน้าวใจได้ (K)
(A)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน
ขั้นนำ 1. ครูให้นักเรียนฟังวิดีโอการอ่านทำนองเสนาะบทร้อยกรอง เรื่อง เราจะร้องเพลงชาติ
ไทยให้ใครฟัง ของ นภาลัย ฤกษ์ชนะ พร้อมกับแจกบทร้อยกรองให้นักเรียนดูตามไปด้วย
(10 นาที)
2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด บทร้อยกรองที่ได้ฟังนี้สะท้อนภาพสังคมได้
อย่างไร
ขั้นกิจกรรม 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นว่า ในสถานการณ์ ปัจจุบันคน
(40 นาที) ไทยควรปฏิบัติตนต่อประเทศไทยของเราอย่างไร เมื่อฟังบทร้อยกรอง เรื่อง เราจะร้องเพลง
ชาติไทยให้ใครฟัง แล้วนักเรียนจะปฏิบัติตนอย่างไร
2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเปรียบเทียบสถานการณ์ ของประเทศไทยในปัจจุบัน
กับสถานการณ์ ในอดีตว่า มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นต่อการที่คนไทยฆ่ากันเอง เพราะความคิด
เห็นที่แตกต่างกันและเปรียบเทียบการที่ คนไทยฆ่ากันเองกับการทำศึกสงครามกับคนต่าง
ชาติอย่างไหน จะเลวร้ายกว่ากัน เพราะเหตุใด
ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในสถานการณ์ ปัจจุบันนี้ นักเรียนจะปฏิบัติตนตามบทร้อย
(10 นาที) กรอง เรื่อง เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง หรือไม่ เพราะเหตุใด จากนั้นบันทึกลง
สมุดของนักเรียน
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถทางการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้ บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
หนังสือเรียน ภาษาไทย ……………………………………………………
หลักภาษาฯ ม.5 …………………………………………………...
วิดีโอจาก Youtube เรื่อง เราจะร้องเพลง (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ชาติไทยให้ใครฟัง ครูผู้สอน
Presentation เรื่อง การฟังและดูสารโน้ม
น้ าวใจ
ภาระงาน/ชิ้นงาน
พิ จารณาสารโน้ มน้ าวใจ
แผนการเรียนรู้ที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน 10 ชั่วโมง
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง ความเป็ นมา และผู้แต่งมัทนะพาธา
วัน/เดือน/ปี ........................
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท1.๑ ม.4-6/7
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ การศึกษาบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
จะต้องเขียนบันทึกจากเรื่องที่อ่าน แล้วบอกความเป็ นมา และประวัติผู้แต่ง
บอกประวัติผู้แต่งบทละคร อธิบายความเป็ นมาของบท มีมารยาทในการ
พูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ ละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ อ่าน (A)
พาธา ได้ (K) พาธา ได้ (P)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน
ขั้นนำ 1. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด
2. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพระราชกรณี ยกิจ
(10 นาที) ของรัชกาลที่ 6 และพระปรีชาสามารถด้านต่าง ๆ ของพระองค์
ขั้นกิจกรรม 1.นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนโดย Plicker เรื่อง มัทนะพาธา
(40 นาที) 2. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ
เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เกี่ยวกับความเป็ นมา ประวัติ ผู้แต่ง ลักษณะคำ
ประพันธ์ และเรื่องย่อบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา จากหนังสือเรียน
ขั้นสรุป 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมผ่าน Presentation เรื่อง มัทนะพาธา
(10 นาที) 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายความรู้ที่ได้จากการศึกษา จน
สมาชิกทุกคนในกลุ่มมีความเข้าใจตรงกัน แล้วบันทึกลงในสมุดของ
แต่ละคน
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถทางการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, มุ่งมั่นในการทำงาน บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
Plicker แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ……………………………………………………
มัทนะพาธา …………………………………………………...
Presentation เรื่อง มัทนะพาธา (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ครูผู้สอน
หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ม.5
ภาระงาน/ชิ้นงาน
บันทึกความรู้ลงสมุด
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 แผนการเรียนรู้ที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา จำนวน 10 ชั่วโมง
เรื่อง แนวคิดวรรณคดีในบทเรียน
เวลา 1 ชั่วโมง
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท1.๑ ม.4-6/7
วัน/เดือน/ปี ........................
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ การศึกษาบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
จะต้องเขียนบันทึกจากเรื่องที่อ่าน แล้วบอกความเป็ นมา และประวัติผู้แต่ง
บอกประวัติผู้แต่งบทละคร อธิบายความเป็ นมาของบท มีมารยาทในการ
พูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ ละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ อ่าน (A)
พาธา ได้ (K) พาธา ได้ (P)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน
ขั้นนำ ครูและนักเรียนทบทวนเนื้อหาจากชั่วโมงที่แล้ว
(10 นาที)
ขั้นกิจกรรม ๑. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ ๔.๓ เรื่อง ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่งบท
(40 นาที) ละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
๒. นักเรียนแต่ละคู่เปลี่ยนบทบาทกันในคำถามข้อต่อไป โดยสลับหน้าที่จากผู้
ตอบเป็ นผู้สังเกต จากผู้สังเกตเป็ นผู้ตอบ
3. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คู่ ออกมานำเสนอคำตอบในใบงานที่ ๔.๓ หน้าชั้นเรียน
จากนั้ นเก็บรวบรวมใบงานส่งครู
ขั้นสรุป 1. นักเรียนร่วมกันสรุปความเป็ นมาและประวัติของผู้แต่ง บทละครพูดคำฉันท์
(10 นาที) เรื่อง มัทนะพาธา
2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิดการที่วรรณคดีสโมสรยกย่องให้บท
ละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา เป็ นบทละครพูดคำฉันท์ดีเด่น นักเรียนเห็น
ด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถทางการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, มุ่งมั่นในการทำงาน บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
ใบงานที่ ๔.๓ เรื่อง ความเป็ นมาและประวัติผู้ ……………………………………………………
แต่งบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา …………………………………………………...
Presentation เรื่อง มัทนะพาธา (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ครูผู้สอน
หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ม.5
ภาระงาน/ชิ้นงาน
ใบงานที่ ๔.๓ เรื่อง ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง
บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
ใบงานที่ ๔.๓
เรื่อง ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง
บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
คำชี้แจง ให้นักเรียนเติมคำตอบลงในช่องว่างต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
ความเป็ นมา
ประวัติผู้แต่ง
จุดมุ่งหมาย ลักษณะคำ
ของเรื่อง ประพันธ์
มัทนะพาธา
ผลงานของรัชกาลที่ 6
ชื่อกลุ่ม : ชั้น เลขที่
เฉลย ใบงานที่ ๔.๓
เรื่อง ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง
บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
คำชี้แจง ให้นักเรียนเติมคำตอบลงในช่องว่างต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
มัทนะพาธา แปลว่า ความเจ็บปวด
หรือความเดือดร้อนเพราะความรัก
ประวัติผู้แต่ง ความเป็ นมา บทละครพูดคำฉันท์เรื่อง มัทนะพาธา
หรือตำนานแห่งดอกกุหลาบ มี
ลักษณะเป็ นบทละครพูดคำฉันท์
พระบาทสมเด็จ จำนวน 5 องก์ แบ่งเป็ น 2 ภาค คือ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ภาคสวรรค์และภาคพื้นดิน เป็ นบท
(รัชกาลที่ 6) มีพระนามเดิมว่า พระราชนิ พนธ์จากจินตนาการใน
สมเด็จเจ้าฟ้ ามหาวชิราวุธ เป็ น หพัวระทบรางทใสห้มนเาดง็จเอพกรขะอมงงเกรุืฎ่อเงกมลี้นาเาจม้าวอ่ายู่
โอรส องค์ที่ 29 ในพระบาท มัทนา ซึ่งหมายถึง ความลุ่มหลงหรือ
หสัวมเด(็รจัชพกราะลจทุีล่ จ5อ) มแเลกะลเ้ปา็เนจ้าอยู่ ความรัก แทนคำว่า กุพชกะ ที่แปลว่า
โอรสองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระ ดอกกุหลาบ
ศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ
สมภพวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.
2423 เสด็จขึ้นครองราช ลักษณะคำ
สมบัติเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ประพันธ์
พ.ศ. 2453 สวรรคตเมื่อวันที่
25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468
พระชนมายุ 45 พรรษา บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง
มัทนะพาธา แต่งด้วยคำประพันธ์
ประเภทกาพย์และฉันท์ ประกอบ
ด้วย กาพย์ 3 ชนิด คือ กาพย์
จุดมุ่งหมาย ยานี 11 กาพย์ฉบับ 16 กาพย์
มัทนะพาธา สุรางคนางค์ 28 และฉันท์ 21
ของเรื่อง ชนิด เช่น วิชชุมมาลาฉันท์ 8
พระบาทสมเด็จ อินทรวิเชียรฉันท์ 11 อุปชาติ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉันท์ 11 ภุชงคประยาตฉันท์ 12
ตั้งพระทัยให้เป็ นหนังสือ อินทวงศ์ ฉันท์ 12 วสันตดิลก
อ่านกวีนิ พนธ์เพื่อความ ฉันท์ 14 เป็ นต้น
สนุกสนานในด้านเนื้อหา
และสอนใจ โดยให้เห็นถึง
อานุภาพแห่งความรัก ซึ่ง
ไม่ได้ให้แต่ความสุขสม
หวังเท่านั้น แต่ความรัก ผลงานของรัชกาลที่ 6
สามารถสร้าง ความทุกข์ พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถด้านอักษรศาสตร์ ทรงมี
ความเจ็บปวด เผรืล่องงาเนช่นพรเะรืร่อางชศนิกพุนนตธ์รทัา้ งรร้าอมยเแกีกย้วรตริ์้อบยทกลระอคงรกเรวื่่าอง20เว0นิ ส
วานิ ช
ชื่อกลุ่ม : ชั้น เลขที่
แผนการเรียนรู้ที่ 7 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน 10 ชั่วโมง
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง การวิเคราะห์ และประเมินคุณค่าวรรณคดี 1
วัน/เดือน/ปี ........................
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท5.๑ ม.4-6/1
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ วรรณคดีบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
มีคุณค่าที่ต้องวิเคราะห์ และประเมินค่าวรรณคดี
สรุปเนื้อหาและอธิบาย วิเคราะห์ วิจารณ์ บทละครพูดคำ มีมารยาทในการ
ฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ตาม อ่าน (A)
ความหมายของคำศัพท์ ต่าง
ๆ ในบทละครพูดคำฉันท์ หลักการวิจารณ์ เบื้องต้นได้ (P)
เรื่อง มัทนะพาธา ได้ (K)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
1. ครูทบทวนเรื่อง การวิเคราะห์ วรรณคดีในบทเรียนซึ่งนักเรียนได้เรียนไปแล้ว
ในหลักการใช้ภาษา และในเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์ มัทรี
ขั้นที่ ๑ สังเกต 2. นักเรียนอ่านบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ตอน สุเทษณ์ ฝากรักนาง
(30 น
าที) มัทนา จากหนังสือเรียน 1 รอบ
3. ครูสังเกตการอ่านของนักเรียน จากนั้นอธิบายหลักการอ่านที่ถูกต้องให้
นักเรียนเข้าใจ
4. นักเรียนกลุ่มเดิม ร่วมกันศึกษาเนื้อเรื่องบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ
พาธา โดยครูชี้แจงให้นักเรียนทราบว่า ความสำเร็จของกลุ่มนั้นจะต้องอาศัยผลจาก
ความพร้อมร่วมกัน ช่วยเหลือกัน ผู้ที่เก่งกว่าจะต้องช่วยผู้ที่อ่อนกว่าหรือเรียนช้ากว่า
ขั้นสรุป 1. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปและอภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหา บทละครพูดคำฉันท์
(30 นาที) เรื่อง มัทนะพาธา โดยผลัดกันอธิบายทีละคนจนสมาชิกทุกคนในกลุ่มมีความเข้าใจ
ชัดเจนตรงกัน แล้วสรุปเป็ นองค์ความรู้ของกลุ่ม
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงความคิดเห็นว่า เมื่ออ่านบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ
พาธา จบแล้ว นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไร เหตุใดจึงรู้สึกเช่นนั้น
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอความรู้ที่ได้จากการศึกษาหน้าชั้นเรียน
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถทางการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, มุ่งมั่นในการทำงาน บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
Presentation เรื่อง มัทนะพาธา ……………………………………………………
…………………………………………………...
หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ม.5
(นางสาวธัญญา ดาทอง)
ภาระงาน/ชิ้นงาน ครูผู้สอน
นำเสนอผลอภิปรายหน้ าชั้นเรียน
แผนการเรียนรู้ที่ 8 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน 10 ชั่วโมง
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง การวิเคราะห์ และประเมินคุณค่าวรรณคดี 2
วัน/เดือน/ปี ........................
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท5.๑ ม.4-6/1
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ วรรณคดีบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
มีคุณค่าที่ต้องวิเคราะห์ และประเมินค่าวรรณคดี
สรุปเนื้อหาและอธิบาย วิเคราะห์ วิจารณ์ บทละครพูด มีมารยาทในการ
คำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ตาม อ่าน (A)
ความหมายของคำศัพท์ หลักการวิจารณ์ เบื้องต้นได้ (P)
ต่าง ๆ ในบทละครพูดคำ
ฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
ได้ (K)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ขั้นที่ 3 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามประเด็นต่อไปนี้
1) มีความเหมาะสมหรือไม่ ที่เลือกให้ดอกกุหลาบเป็ นสัญลักษณ์ แทนความรัก
รับฟัง 2) รูปแบบคำประพันธ์เหมาะสมกับเนื้อเรื่องหรือไม่ อย่างไร
3) เนื้อหาสาระสำคัญของเรื่องมีคุณค่าอย่างไร
(10 นาที)
ขั้นที่ ๔ 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเปรียบเทียบความรู้สึกของคนที่ถูกปฏิเสธความรัก
เชื่อมโยง
ความสัมพันธ์ เมื่อรักเขาเขาไม่รักตอบ ถ้าเป็ นนักเรียนจะทำอย่างไร ถ้ามีอำนาจเหมือนสุเทษณ์
(30 นาที) เทพบุตร นักเรียนจะทำเช่นนั้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด การที่สุเทษณ์ เทพบุตรสาปนางมัทนา
ให้เป็ นดอกกุหลาบ เป็ นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด
ขั้นที่ ๕ วิจารณ์ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิจารณ์ ตัวละครในบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ
พาธา ว่าเป็ นอย่างไร มีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด และการกระทำของตัว
(10 นาที) ละครแต่ละตัวเหมาะสมหรือไม่เพราะเหตุใด
ขั้นที่ 6 สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะ
พาธา ลงในสมุด
(10 นาที)
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถทางการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, มุ่งมั่นในการทำงาน บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
Presentation เรื่อง มัทนะพาธา ……………………………………………………
…………………………………………………...
หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ม.5
(นางสาวธัญญา ดาทอง)
ภาระงาน/ชิ้นงาน ครูผู้สอน
บันทึกความรู้ลงสมุด
รายวิชาภาษาไทย 3 ท32101 แผนการเรียนรู้ที่ 9 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565
ครูผู้สอน นางสาวธัญญา ดาทอง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง มัทนะพาธา จำนวน 10 ชั่วโมง
เรื่อง บทสรุปมัทนะพาธา
เวลา 1 ชั่วโมง
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท5.๑ ม.4-6/1
วัน/เดือน/ปี ........................
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ การศึกษาบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
จะต้องเขียนบันทึกจากเรื่องที่อ่าน แล้วบอกความเป็ นมา และประวัติผู้แต่ง
สรุปเนื้อหาและอธิบาย วิเคราะห์ วิจารณ์ บทละครพูด มีมารยาทในการ
อ่าน (A)
ความหมายของคำศัพท์ คำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ตาม
ต่าง ๆ ในบทละครพูดคำ หลักการวิจารณ์ เบื้องต้นได้
ฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา (P)
ได้ (K)
กิจกรรมการเรียนรู้/รูปแบบการสอน
ขั้นนำ ครูถามนักเรียนว่า ทำไมนางมัทนาต้องเป็ นดอกกุหลาบ เพื่อกระตุ้นความคิด
(10 นาที) ของนักเรียน
ขั้นกิจกรรม ๑.ครูทบทวนความรู้เรื่อง บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา จาก
(20 นาที) Presentation
๒. ครูสุ่มถามคำถามจากเนื้อเรื่อง บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา
เป็ นรายบุคคล ไม่ว่านักเรียนจะตอบถูกหรือผิด ก็จะมีคำชมให้นักเรียนตลอด
เพื่อกระตุ้นความกล้าถามและตอบ
ขั้นสรุป ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง มัทนะพาธา
(30 นาที)
สมรรถนะสำคัญ การวัดและประเมินผล
ความสามารถทางการคิด, ความสามารถทางการสื่อสาร ผลงานนักเรียน
การให้ความร่วมมือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การเข้าชั้นเรียน
มีวินัย, ใฝ่ เรียนรู้, มุ่งมั่นในการทำงาน บันทึกหลังการสอน
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ……………………………………………………
…………………………………………………...
Plicker แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ……………………………………………………
มัทนะพาธา …………………………………………………...
Presentation เรื่อง มัทนะพาธา (นางสาวธัญญา ดาทอง)
ครูผู้สอน
หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ม.5
ภาระงาน/ชิ้นงาน
-