หนงั สือเรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย
ชุด ภาษาเพ่ือชวี ติ
ภาษาพาที
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
หนงั สือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย คำ� น�ำ
ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ิต
หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษา
ภาษาพาที ปที ่ี ๕ เปน็ หนงั สอื ทส่ี ำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน จดั ทำ� ขนึ้ สำ� หรบั นกั เรยี น
ใช้ฝึกทักษะและสร้างนิสัยรักการอ่าน ครูใช้ในการจัดการเรียนการสอน รายวิชาพ้ืนฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ โดยแต่งต้ังคณะกรรมการจัดท�ำหนังสือเรียนภาษาไทย กลุ่มหลักภาษาและการใช้
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ ซงึ่ มี รองศาสตราจารยป์ ติ นิ นั ธ์ สทุ ธสาร เปน็ ประธาน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กรรมการ และจดั ประชมุ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของศกึ ษานเิ ทศกแ์ ละครภู าษาไทย จากเขตพนื้ ท่ี
การศกึ ษาประถมศึกษาทัง้ ๔ ภูมิภาค ในดา้ นการนำ� ไปใช้ ดังรายนามทา้ ยหนังสือน้ี
ลิขสทิ ธ์ขิ องส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ช้ันประถม
กระทรวงศึกษาธกิ าร ถนนราชด�ำเนนิ นอก เขตดุสติ กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ ศึกษาปีที่ ๕ มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะทางภาษาจากการอ่าน เขียน ฟัง ดู พูด
โทรศพั ท์และโทรสาร ๐ ๒๖๒๘ ๕๓๔๓ เรอื่ งทนี่ า่ สนใจ ผสานความเขา้ ใจลกั ษณะของภาษาไทย ตระหนกั รบั รใู้ นความงามของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา กระบวนการคิดและการบูรณาการ เพื่อนำ� ไปสู่การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
ส�ำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษาดำ� เนินการจดั พมิ พ์ และกระตุ้นความสนใจ สามารถพัฒนาทักษะทางภาษาเหมาะแก่วัย ชั้นปีและสูงสุด
ISBN 978-974-01-9757-7 เต็มตามศักยภาพ เป็นพื้นฐานการคิดเชื่อมโยงในการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
พมิ พค์ รัง้ ที่สอง ปลูกฝังวัฒนธรรมทางภาษา ความเป็นไทย ความเป็นคนดีของสังคมไทยและสังคมโลก
พ.ศ. ๒๕๕๔ รวมทัง้ การน�ำความร้แู ละความคิดไปใชเ้ ปน็ แนวทางในการด�ำเนินชีวิตตอ่ ไป
จ�ำนวน ๕๐๐,๐๐๐ เลม่ สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานหวงั วา่ หนงั สอื เรยี นเลม่ น้ี จะเปน็ ประโยชน์
ต่อการจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักการและบรรลุตาม
พิมพท์ ่ีโรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว จุดหมายของหลักสูตร หากมีข้อเสนอแนะ กรุณาแจ้งส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
๒๒๔๙ ถนนลาดพร้าว แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง ขนั้ พนื้ ฐาน เพอื่ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหห้ นงั สอื สมบรู ณย์ งิ่ ขนึ้ ขอขอบคณุ คณะกรรมการและผมู้ สี ว่ น
กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๑๐ เก่ียวขอ้ งในการจัดท�ำหนังสอื เรยี นนใ้ี หส้ ำ� เรจ็ ลุล่วงด้วยดไี ว้ ณ โอกาสน ้ี
โทรศพั ท์ ๐ ๒๕๓๘ ๓๐๓๓, ๐ ๒๕๑๔๔๐๓๓ โทรสาร ๐ ๒๕๓๙ ๙๙๕๖
(นายชินภัทร ภูมิรตั น)
www.suksapan.or.th เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน
๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๓
ค�ำแนะน�ำสำ� หรับครู อา่ นเสรมิ จัดไว้เพ่ิมเติมจากบทอ่าน เรียบเรียงข้ึนให้สอดคล้องกับแก่น
ของเร่ืองแต่ละบท บางบทเรียบเรียงเป็นร้อยแก้ว และบางบท
การวางแผนจัดการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ เรยี บเรียงเป็นรอ้ ยกรอง
ครจู �ำเป็นตอ้ ง
๑. ศกึ ษาหลกั สตู รและเอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั หลกั สตู ร เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจมาตรฐานการเรยี นรู้
และตวั ชี้วดั หรือสงิ่ อนั พึงประสงคท์ ี่ควรจะเกดิ แกน่ ักเรยี น อา่ นเพิ่ม เติมความหมาย เสนอความรู้ และความหมายของคำ� ศพั ทท์ นี่ กั เรยี น
๒. ศึกษาหนังสือเรียน ภาษาพาที หนังสือเรียน วรรณคดีล�ำน�ำ แล้ววางแผน ควรศกึ ษา
จัดการเรียนรู้ โดยใช้เนื้อหาแต่ละบทของหนังสือเรียนท้ัง ๒ เล่ม สลับบทกันตามความ
เหมาะสม เพอื่ ใหน้ กั เรยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากหนงั สอื เรยี น ภาษาพาที ตลอดปกี ารศกึ ษา และเรยี นรจู้ าก อธิบายเพมิ่ เตมิ ความรู้ เสนอเนื้อหาให้ความเข้าใจด้านหลักภาษาและ
หนังสอื เรียน วรรณคดีลำ� นำ� ตลอดปกี ารศึกษาเชน่ เดียวกนั การใชภ้ าษาทนี่ ักเรียนในชนั้ น้ตี อ้ งเรียนรู้
๓. ศึกษาหนังสือเรียน ภาษาพาที หนังสือเรียน วรรณคดีล�ำน�ำ และแบบฝึกหัด
ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ทกุ เลม่ ทกุ บทอยา่ งละเอยี ด เพอื่ ใชเ้ ปน็ สอื่ หลกั ในการจดั กิจกรรม เป็นส่วนเสนอแนะให้นักเรียนได้ฝึกทักษะภาษาและความคิดใน
การเรียนการสอนภาษาไทย รวมทั้งหนังสือเรียน วรรณกรรมปฏิสัมพันธ์ แบบฝึกหัด แต่ละบท ครูสามารถต่อยอดความคิด หรือปรับกิจกรรมได้อย่าง
ทักษะปฏิสัมพันธ์ หนังสือหรือสื่ออื่นๆ เพ่ือใช้เสริมในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย อสิ ระ และสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับนกั เรียน สภาพแวดล้อมของ
แลว้ จัดหนว่ ยการเรยี นรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ตามความเหมาะสม แต่ละสถานศกึ ษา ไมจ่ �ำเปน็ ต้องท�ำทกุ กจิ กรรม ให้เลอื กตามความ
๔. ศึกษาพืน้ ฐานความรคู้ วามสามารถด้านภาษาไทยและด้านอ่นื ๆ ของนักเรียน โดย เหมาะสม
ใชว้ ธิ ปี ฏบิ ัติกจิ กรรม ทดสอบ สมั ภาษณ์ ฯลฯ และก่อนเร่ิมบทเรียนควรเตรยี มความพรอ้ ม
อยา่ งน้อย ๑-๒ สัปดาห์ นักเรียนจ�ำเป็นต้องใช้แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต
ทักษะภาษา ควบคู่กบั การใช้หนงั สอื เรยี น ภาษาพาที หนงั สอื เรียน วรรณคดีล�ำนำ� เพือ่ ฝกึ
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ โดยใชห้ นงั สอื เรยี น ภาษาพาที ทักษะทางภาษาและศึกษาวรรณคดี ด้วยกระบวนการเรียนรู้ท่ีเหมาะสม ตามสาระและ
ครูจ�ำเป็นต้องเข้าใจแนวการน�ำเสนอเนื้อหาแต่ละบทของหนังสือเรียน ภาษาพาที
ซึ่งประกอบดว้ ย มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ โดย
บทอ่าน น�ำเสนอโดยผูกเป็นเรื่องท่ีน่าสนใจ มีตัวละคร เพื่อให้นักเรียน
สนกุ สนานเพลิดเพลนิ สง่ เสรมิ นสิ ยั รักการอา่ น รจู้ ักใช้ภาษาไทย ครผู ูส้ อนตอ้ งดแู ลเอาใจใส่ ใหค้ วามรูค้ วามเข้าใจอย่างใกลช้ ิด
ทีถ่ กู ต้อง ไพเราะสละสลวย และแทรกเนอ้ื หาความคิดทีบ่ ูรณาการ
ความเข้าใจวถิ คี วามเป็นไทย ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ ส่งเสรมิ คุณธรรม ขณะเดียวกัน หากนกั เรยี นมีศกั ยภาพพร้อมกส็ ามารถเลือกศึกษาบทเรยี นบางบทจาก
จริยธรรม ค่านิยมท่ีพึงประสงค์ และรู้จักเท่าทันโลกตามวัย หนงั สอื เรยี น วรรณกรรมปฏสิ มั พนั ธ์ และแบบฝกึ หดั ทกั ษะปฏสิ มั พนั ธ์ ซงึ่ จดั ทำ� สำ� หรบั ชนั้
ประสบการณ์ และช้นั ปี ประถมศึกษาปที ี่ ๔-๖ ก็จะสามารถพฒั นาตนเองไดส้ ูงสดุ เต็มตามศกั ยภาพ เปน็ “นักเรียน
ไทยในอุดมคตแิ ละความหวังย่ิงของสังคมไทย”
สารบญั บ ทท ่ี หนา้
บทท ่ี
หน้า ๖ ร่วมแรง ร่วมใจ ๙๓
๑
๑ สายน้ำ� สายชวี ิต อา่ นเสริม : เรอื่ งของมด
๑๗ ห ลกั และการใชภ้ าษา : แผนภาพโครงเร่อื ง
อ ่านเสรมิ : น�้ำ ๓๕ การอ่านข่าวสารของทางราชการ
ห ลักและการใชภ้ าษา : การอา่ นร้อยกรอง คำ� อทุ าน
การตัง้ คำ� ถาม และการตอบค�ำถาม ๕๕
๗ จากคลองสูห่ อ้ งแอร ์ ๑๑๑
๒ ครอบครัวพอเพียง ๗๓ อ า่ นเสรมิ : เจ้าชายแตงโม
หลกั และการใช้ภาษา : เรียงความ
อ ่านเสริม : ควายหงานกับผกั หวานป่า การเขยี นเชงิ จินตนาการ
ห ลักและการใช้ภาษา : การอ่านจับใจความ ๘ ดัง่ หยาดทิพยช์ โลมใจ ๑๒๙
การพดู และเขียนแสดงความรู้สึก อา่ นเสริม : พระมหากษัตรยิ ์ไทย
ห ลกั และการใช้ภาษา : ราชาศัพท์
๓ คนละไม้ คนละมือ พจนานกุ รม
๙ กา้ วใหไ้ กล ไปให้ถงึ ๑๔๑
อ่านเสรมิ : จติ ทีค่ วรพฒั นา : จติ สาธารณะ อ า่ นเสริม : ลูกยางเดินทาง
หลกั และการใชภ้ าษา : ค�ำบุพบท ห ลกั และการใช้ภาษา : การคิดวิเคราะหใ์ นการรับสาร
เครื่องหมายวรรคตอน การพดู และเขียนแสดงความคดิ เห็นเชิงวิเคราะห์
การอา่ นรอ้ ยแก้ว
มารยาทในการอา่ น การเขยี นบนั ทึกจากการอา่ น ๑๕๗
๑๐ ชีวิตมคี า่
๔ ภัยเงยี บ อา่ นเสรมิ : กสี าโคตมีเถรี
หลกั และการใชภ้ าษา : จดหมายถงึ พอ่ แม่ ญาตผิ ้ใู หญ่ หรอื ผู้ปกครอง
อ่านเสรมิ : การดแู ลบ�ำรงุ รกั ษาคอมพวิ เตอร์ อักษรย่อ
หลกั และการใชภ้ าษา : ประโยคและส่วนประกอบของประโยค ๑๑ ปลอดภยั ไวก้ อ่ น ๑๗๓
สำ� นวนทเี่ ปน็ สภุ าษติ อ่านเสริม : ไม้ดอกในเมืองไทย
คำ� ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย หลกั และการใช้ภาษา : ภาษาพูด ภาษาเขยี น
ภาษาถิน่
๕ ประชาธิปไตยใบกลาง
การพูดรายงานการศกึ ษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา
อ่านเสริม : บทเพลงแหง่ ประชาธิปไตย
หลักและการใชภ้ าษา : คำ� เชอ่ื ม
การย่อความ
การฟงั และการอา่ นงานเขียนประเภทโน้มนา้ วใจ
การพดู แสดงความรู้ ความคิด
หน้า ๑
๑๙๑
บ ทท ี่ ๒๐๙ บทน้ีนะหนูจา๋ เปรยี บธาราดงั ชีวติ
๒๒๓
๒๓๗ เสน้ ทางรอยลขิ ติ สดุ จะคิดหลกี เลี่ยงพ้น
๒๕๑
๑๒ หนา้ ตา่ งท่ีเปดิ กว้าง มที งั้ เกษมสุข และมีทุกข์มาเจอื ปน
อา่ นเสรมิ : ข้าวงอก ขา้ วกล้องงอก น้ำ� ข้าวกล้องงอก รูไ้ ว้สอนใจตน ตดั กงั วลม่งุ ทำ�ดี
หลกั และการใช้ภาษา : การเลือกหนงั สืออ่าน
โครงงาน ฝึกหัดอา่ นร้อยกรอง คำ�คล้องจองวรรคถกู ท่ี
๑๓ ภาษาจรรโลงใจ คำ�ถามคำ�ตอบม ี แทรกความรู้คคู่ ณุ ธรรม
อ า่ นเสรมิ : ปรศิ นาคำ� ทาย
หลกั และการใช้ภาษา : กาพย์ยานี ๑๑
๑๔ รู้ไวไ้ ด้ประโยชน ์
อา่ นเสริม : เกดิ แล้วตอ้ งมชี อื่
หลักและการใช้ภาษา : การเขียนแนะนำ�
การกรอกแบบรายการ
๑๕ แรงกระทบ
อา่ นเสริม : คดิ ดี ทำ� ดี มสี ขุ คดิ ช่วั ทำ� ช่วั พบทุกข์
หลักและการใชภ้ าษา : ส�ำนวน
การคดั ลายมอื
๑๖ วถิ ีชีวติ ไทย
อ ่านเสรมิ : เด็กดมี ีมารยาท
ห ลกั และการใช้ภาษา : การเขยี นค�ำอวยพร
มารยาทในการฟงั การดู และการพดู สนทนา
การท่องจำ� บทประพนั ธ ์
1
จากลำ� ธารสายนอ้ ยค่อยรนิ ไหล จากขนุ เขาเนนิ ไพรในปา่ กว้าง
ลำ� ธารนอ้ ยเลาะเรื่อยมาตามทาง บรรจบกนั เป็นลำ� รางชลาลัย
เปน็ แหลง่ นา้ํ อาบกนิ ของสัตว์ป่า เปน็ บา้ นของเหลา่ ปลาไดอ้ าศยั
เปน็ หยาดทิพย์ชโลมดินถน่ิ พฤกษ์ไพร เขยี วชอมุ่ ทวั่ ไปทั้งตาปี
ผา่ นหม่บู ้านน้อยใหญ่ไหลออ่ ยเอื่อย ผคู้ นเหนอ่ื ยคลายร้อนต่างเร็วรี่
ชวนกันลงแหวกว่ายในนท ี บ้างซักผา้ ตกั วารไี วอ้ าบกนิ
สายธาราบดั นี้สกิ วา้ งใหญ ่ ไหลเรอื่ ยไปสมู่ หาชลาสนิ ธุ์
จากโขดเขาสงู ใหญเ่ หนอื แผ่นดนิ เปน็ นา้ํ ตกกระทบหนิ สน่นั ดงั
จากลำ� ธารสายน้อยค่อยรนิ ไหล จากขุนเขาเนินไพรในป่ากว้าง สายน�้ำ สายชีวิต 3
ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕
2
ถึงหน้าฝนนํ้าไหลไม่ขาดสาย นา้ํ เหนือบ่าดินทลายเซาะแนวฝั่ง
ขาดต้นไม้คอยอุ้มนํา้ ดุจเกราะบงั กั้นดนิ ไว้จงึ ล้นหล่งั กลายเปน็ ภัย
คร้นั ถึงครานํา้ ลดจนเหือดแห้ง ผนื แผน่ ดนิ แตกระแหงกอ่ ทกุ ขใ์ หม่
ข้าวในนาปลาในหนองตอ้ งตายไป เฝ้ารอคอยเมื่อไรฝนจะมา
ตกั ตะกอนชอ้ นขยะใหห้ มดสนิ้ ให้นํา้ ใสไหลรนิ จนถ้วนทว่ั
เอ้ืออารีจริงใจไมถ่ ือตวั ความหมองมวั จางไปใจเบิกบาน
ปลอ่ ยน้าํ ขุ่นทงิ้ ไปไมเ่ ฝ้าคิด เปดิ นํา้ ใสสร้างมติ รสมัครสมาน
ไมตรจี ิตปกปอ้ งผองภัยพาล สุขสราญเมตตาธรรมนำ� จติ ใจ
มองสายน้ําเปรียบดงั สายชีวิต รอยลขิ ติ เสน้ ทางไปขา้ งหน้า
โลกวยั เด็กสดใสไรม้ ายา ชวี ิตสุขหรรษาทกุ คืนวัน
พอเติบโตเริม่ ประสบพบปัญหา ต้องฝกึ ใชป้ ญั ญาความม่งุ ม่นั
หากโชคดีญาติมิตรช่วยดว้ ยผูกพัน ปญั หาพลนั คลค่ี ลายหายกังวล
หากโชคร้ายเจียนตายตอ้ งฝนื สู้ แมห้ ดหมู่ องทางไหนไมเ่ หน็ ผล
ขาดเพ่อื นชว่ ยคลี่คลายหายอบั จน ดจุ นํา้ ลน้ ท่วมพน้ื พสธุ า
ต้ังสติอย่าท้อรอจังหวะ ชวี ติ จะแจ่มพลนั ในวนั หนา้
คิดแก้ไขกอบกู้สูช้ ะตา เหมอื นนา้ํ ตกตอ้ งแผน่ ผากลา้ เผชญิ
น้ํายงั ไหลเรื่อยไปไมจ่ บสน้ิ ยงั ใหค้ ุณแกแ่ ผน่ ดินน่าสรรเสริญ
เปรียบคนคิดก้าวหน้าพาเจรญิ มงุ่ ด�ำเนนิ ทำ� ความดีมนี ํา้ ใจ
หากเปน็ สายน้าํ ใสใจสะอาด บุปผชาติสองฝงั่ พร่งั ไสว
นา้ํ ข้นขุ่นครุ่นคดิ ผิดเพราะใคร หาคนผิดเร่อื ยไปใจขุ่นมวั
4 ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ สายน�ำ้ สายชวี ติ 5
อา่ นเสริม เนอ่ื งจากนำ้� มคี วามสำ� คญั ดงั กลา่ ว จงึ มกี ารรณรงคเ์ พอ่ื ชว่ ยกนั อนรุ กั ษน์ ำ�้
ดแู ลแหลง่ ตน้ นำ้� ตา่ งๆ ใหอ้ ยใู่ นสภาพทส่ี มบรู ณ ์ ชว่ ยกนั รกั ษาระบบนเิ วศของนำ�้
น�ำ้ เพือ่ ปอ้ งกนั การเนา่ เสยี ของแหลง่ นำ�้ ต่างๆ และรว่ มกันพฒั นาแหลง่ น้ำ� ดงั จะ
เหน็ ไดจ้ ากโครงการในพระราชดำ� รดิ า้ นการพฒั นาแหลง่ นำ้� หลายโครงการ เชน่
นำ�้ เปน็ สงิ่ จำ� เปน็ สำ� หรบั การดำ� รงชวี ติ ของทกุ คน เมอ่ื พดู ถงึ นำ�้ ทกุ คนจะคดิ การพฒั นาแหลง่ น้�ำเพ่อื การเกษตร การรกั ษาต้นนำ�้ ล�ำธาร การผลิตไฟฟา้
วา่ นำ�้ เปน็ เพยี งของเหลว แตค่ วามจรงิ แลว้ นำ้� มหี ลายสถานะ เปน็ ไดท้ งั้ ของเหลว การระบายน�ำ้ ออกจากพนื้ ทล่ี ุ่ม การบรรเทาอทุ กภยั โครงการเหล่าน้กี ระจาย
ของแข็งและกา๊ ซ เปน็ ของแขง็ ในสภาพของนำ�้ แขง็ และเปน็ ก๊าซเมือ่ กลายเป็น ไปทกุ ภมู ิภาคตามลักษณะความตอ้ งการและความจ�ำเป็นของแต่ละพ้ืนที่
ไอนำ�้ ในแต่ละครอบครัว นอกจากจะช่วยรักษาระบบนเิ วศของน้�ำแลว้ ยงั ตอ้ ง
ข้อมูลจากสารานุกรมวิกิพีเดีย ซ่ึงเผยแพร่เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๒ ระบุว่า บน ช่วยกันดแู ลใหใ้ ชน้ ำ�้ อย่างคุ้มคา่ ดว้ ยวธิ กี ารประหยัดน�ำ้ อยา่ งง่ายๆ เชน่ การ
พ้ืนผิวโลกมีน�้ำประมาณ ๗๑% ใต้พ้ืนผิวของโลกมีน้�ำ ๑.๖% ในอากาศมีน�้ำ แปรงฟัน ควรใช้แก้วหรือขันรองน้�ำส�ำหรับบ้วนปาก แทนการเปิดน�้ำจากก๊อก
๐.๐๐๐๑% นำ้� เหลา่ นเ้ี ปน็ น�้ำเคม็ ในมหาสมทุ รประมาณ ๙๗% เปน็ ธารน�้ำแขง็ ท้ิงไว้ขณะแปรงฟัน การอาบน้�ำถ้าใช้ฝักบัวควรปิดน้�ำขณะถูสบู่ การซักผ้า
ปกคลุมขว้ั โลก ๒.๔% และท่ีเหลอื อีก ๐.๖% จะเป็นน�ำ้ จากแม่น�ำ้ ทะเลสาบ แต่ละครั้งให้มีจ�ำนวนผ้ามากพอ ถ้าซักด้วยมือควรน�ำน้�ำสุดท้ายไปรดต้นไม ้
ล�ำคลอง ลำ� ธาร หว้ ย หนอง ฯลฯ การรดนำ�้ ตน้ ไมอ้ าจใชบ้ วั รดนำ้� จะประหยดั กวา่ การใชส้ ายยาง การลา้ งรถควรปดั
ร่างกายของคนเราก็มีน�้ำเป็นส่วนประกอบ น�้ำช่วยควบคุมอุณหภูมิใน ฝนุ่ ออกจากรถกอ่ น แลว้ เชด็ รถโดยใชผ้ า้ ชบุ นำ้� ในถงั สง่ิ เหลา่ นเี้ ปน็ ขอ้ คดิ เตอื นใจ
รา่ งกายใหค้ งทด่ี ว้ ยการขบั เหงอ่ื ในกระบวนการยอ่ ยอาหารตอ้ งมนี ำ�้ เขา้ ไปช่วย ให้ทุกคนเหน็ คุณคา่ ของนำ้� ดว้ ยการใช้น้�ำอยา่ งประหยดั และค้มุ คา่
การขบั ถา่ ยของเสยี ออกจากรา่ งกาย และการล�ำเลยี งอาหารไปสสู่ ว่ นตา่ งๆ ของ องค์การสหประชาชาติได้ก�ำหนดให้วันที่ ๒๒ มีนาคมของทุกปีเป็น
รา่ งกายกต็ ้องมีน้ำ� เขา้ ไปชว่ ยเช่นกัน “วันน้�ำโลก” เพื่อรณรงค์ให้เห็นความส�ำคัญของน�้ำที่มีต่อมวลมนุษย์ จะได ้
รว่ มมอื กนั ดแู ลรกั ษาแหลง่ นำ้� เพอ่ื ใหม้ นี ำ�้ กนิ นำ้� ใชท้ สี่ ะอาดและเพยี งพอตลอดไป
6 ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕
สายน้ำ� สายชีวิต 7
อา่ นเพม่ิ เติมความหมาย ตาปี ตลอดปี (มาจากคำ� ว่า ชั่วนาตาป)ี
แตกระแหง แตกเป็นร่องๆ เช่น ดินแตกระแหง
เกราะ โขด ทรพั ยากร ส่ิงทงั้ หลายท้งั ปวงอันมีคุณค่า
ทลาย แตกหกั หรือพงั กระจดั กระจายของสงิ่ ทเี่ ป็น
กงั วล เป็นหว่ ง กลมุ่ กอ้ น
เกราะ เคร่อื งหุม้ สำ� หรบั ปอ้ งกนั อันตราย ธารา สายนำ�้ , ลำ� ธาร
ขนุ่ มวั ไม่แจ่มใส นท ี แม่นำ�้
โขด ดนิ หรือหนิ ที่สงู ขึน้ เป็นโคกเป็นเนิน บรรจบ จรดกัน, พบกัน, ตดิ ตอ่ กนั
ครา ครัง้ , คราว บรโิ ภค กนิ
คลอง ทางน�้ำหรือล�ำน�้ำท่ีเกิดขึ้นเองหรือขุดขึ้น บรสิ ทุ ธ ์ิ แท,้ ไม่มีสิง่ ใดเจอื ปน
เช่ือมกับแมน่ ำ�้ หรอื ทะเล บปุ ผชาต ิ ดอกไม้
คลค่ี ลาย เบาบางลงโดยลำ� ดบั ปัจจัย องค์ประกอบ, สว่ นประกอบ
เจริญ เตบิ โต, งอกงาม พร่ัง รวมกนั อยูม่ าก
ชลาลัย แมน่ �้ำ พฤกษ ์ ต้นไม้
ชลาสินธ์ุ แมน่ ำ�้ , ทะเล พสธุ า แผน่ ดิน
ชโลม ลูบไลใ้ ห้เปยี ก, ท�ำใหช้ ุ่มช่ืน แผ่นผา แผน่ หินบนภเู ขาท่ีมีลกั ษณะตั้งชัน
ชอุม่ ช่มุ , สดชื่น เผชิญ ปะทะกนั , ชนกนั
ชะตา ลักษณะทีแ่ สดงเหตดุ แี ละเหตรุ ้าย ภยั พาล อันตรายจากสิง่ ช่วั ร้าย
เซาะ ทำ� ให้กรอ่ นหรอื สกึ หรอเขา้ ไปทีละน้อย มหาสมุทร ทะเลอันกวา้ งใหญ่
8 มายา การแกลง้ ทำ� , การลวง
ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ไมตรีจติ มจี ติ ใจหวงั ดีตอ่ กนั
ระเหย อาการที่ของเหลวกลายเป็นไอ
ล�ำธาร ทางน�้ำทไี่ หลจากเขา
ล�ำราง ทางนำ้� เลก็ ๆ ท่รี ะบายน้�ำลงสู่แม่นำ�้
ลขิ ิต รอยขีด, เขียน
สายนำ้� สายชวี ติ 9
วาร ี นำ�้ อธบิ ายเพิม่ เตมิ ความรู้
สรรเสริญ
สรรพสิ่ง ยกย่อง การอา่ นรอ้ ยกรอง
สุขสราญ ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง รวมทง้ั สง่ิ มชี วี ติ และไมม่ ชี วี ติ
ไสว สขุ สบายทงั้ กายและใจ อันร้อยกรองภาษาไทยใช่อวดอา้ ง ไทยสรรคส์ รา้ งวรรณกรรมนำ�สุขศรี
อาการทช่ี ขู นึ้ และเคลอื่ นไหวไปมา เชน่ ดอกไม้ รสสนุ ทรชวนใจให้เปรมปรดี ิ ์ โวหารมนี านาน่าพนิ จิ
ชูดอกไสว ฉนั ทลักษณข์ องไทยพไิ ลเลศิ ได้กอ่ เกดิ งานประพนั ธ์อันวิจิตร
หนองนำ้�
แอ่งนำ�้ ท่ลี าดลกึ ลงไปและมีน้ำ� ขงั เร้าอารมณ์สะเทอื นใจยว่ั ใหค้ ดิ มคี ตชิ ีวิตจรรโลงใจ
หยาดทิพย์ หยดนำ�้ วิเศษ ฐะปะนีย์ นาครทรรพ
หรรษา
หว้ ย รน่ื เรงิ , ยินดี บทรอ้ ยกรองเปน็ บทประพนั ธท์ ผี่ แู้ ตง่ คดิ ประดษิ ฐเ์ รยี บเรยี งถอ้ ยคำ� แตล่ ะ
วรรค แตล่ ะบทอยา่ งประณตี บรรจงตามลกั ษณะกฎเกณฑข์ องฉนั ทลกั ษณ ์ ทำ� ให้
แอง่ นำ้� ลกึ กวา้ ง มที างนำ้� ไหลจากภเู ขามาขงั เกดิ เสยี ง จังหวะ ลีลาทีง่ ดงามเกดิ ความไพเราะและเพลิดเพลินไปกับน้ำ� เสียง
และเนื้อหาของเรื่องนน้ั ๆ
อย่ตู ลอดปี การอ่านร้อยกรองโดยทว่ั ไปอาจแบ่งได้เปน็ อ่านแบบธรรมดา อ่านแบบ
เหือดแหง้ เจรจา และอา่ นแบบทำ� นองเสนาะ
ค่อย ๆ หมดไป อา่ นแบบธรรมดา เปน็ การอา่ นเหมอื นรอ้ ยแกว้ แตเ่ นน้ จงั หวะวรรคตอน
องค์การสหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศท่ีจัดต้ังข้ึนเพ่ือ อาจมกี ารทอดเสยี งบา้ งเล็กนอ้ ย
ปกปอ้ งดแู ลความสงบสุขของมวลมนษุ ย์ อ่านแบบเจรจา เป็นการอ่านเหมือนร้อยแก้ว เน้นจังหวะวรรคตอน
อุณหภมู ิ (อนุ -หะ-พมู ) ระดบั ความสงู ตำ่� ของความรอ้ น นยิ มวดั ดว้ ย และเน้นเสียงเพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึก คล้ายการพูดมากกว่าการอ่านแบบ
เทอรโ์ มมิเตอร์ ธรรมดา
อา่ นแบบทำ� นองเสนาะ เป็นการอา่ นทีม่ ที �ำนองเสยี งสงู ต�ำ่ สน้ั ยาว
หนกั เบา มีการเอ้อื นเสยี ง และเน้นสัมผัสชัดเจน ท�ำให้เกดิ ความไพเราะ ถา้
ย่งิ ใช้น�้ำเสยี งทเ่ี หมาะสมกับเน้อื ความตามบทตา่ งๆ เช่น ชมความงาม ตัดพอ้
คร่�ำครวญ โกรธเกรยี้ ว ฯลฯ ก็จะท�ำใหเ้ กิดอารมณ์คลอ้ ยตามมากย่งิ ขน้ึ
10 ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ สายน�้ำ สายชีวิต 11
การอ่านรอ้ ยกรองควรปฏบิ ัติ ดงั นี้ การตง้ั ค�ำถาม และการตอบคำ� ถาม
๑. รลู้ กั ษณะและจงั หวะการอา่ นของบทรอ้ ยกรองแตล่ ะชนดิ เชน่ กลอนส่ี
กลอนแปด กาพย์ยานี ๑๑ โคลง ฉนั ท์ การต้ังค�ำถาม
ตวั อยา่ ง คำ� ประพันธ์กลอนแปดหรือกลอนสภุ าพ
จากลำ� ธาร/สายนอ้ ย/ค่อยรนิ ไหล จากขุนเขา/เนินไพร/ในปา่ กวา้ ง การตงั้ คำ� ถามเปน็ การพดู หรอื เขยี นสงิ่ ทต่ี อ้ งการรหู้ รอื สง่ิ ทส่ี งสยั ซง่ึ สามารถ
ตง้ั คำ� ถามไดจ้ ากการอ่าน การฟัง การดู
ลำ� ธารน้อย/เลาะเรื่อย/มาตามทาง บรรจบกนั /เป็นลำ� ราง/ชลาลยั การตงั้ ค�ำถามอาจมีวิธีการ ดังนี้
เป็นแหล่งน�้ำ/อาบกนิ /ของสัตวป์ า่ เปน็ บ้านของ/เหลา่ ปลา/ไดอ้ าศยั ๑. กำ� หนดสง่ิ ที่ตอ้ งการร้ ู หรอื ส่งิ ทสี่ งสยั
เปน็ หยาดทิพย์/ชโลมดนิ /ถ่ินพฤกษไ์ พร เขยี วชอมุ่ /ทวั่ ไป/ท้ังตาปี ๒. พดู หรือเขียนค�ำถาม เช่น ใคร ทำ� อะไร ทไี่ หน อย่างไร ทำ� ไม ฯลฯ
๓. ใชภ้ าษาทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย ไมว่ กวน ซบั ซอ้ น เพอ่ื ใหค้ ำ� ถามมคี วามชดั เจน
๒. ออกเสียงคำ� ใหถ้ กู ตอ้ งชัดเจนตามอักขรวิธ ี โดยเฉพาะตัว ร ล และ ๔. ไม่ควรถามหลายเร่ืองหรือหลายประเด็น เพราะจะท�ำให้ผู้ตอบลืม
คำ� ควบกลำ้� เพอ่ื ไมใ่ หค้ วามหมายคลาดเคลอ่ื น เชน่ รนิ เรอ่ื ย ลำ� ราง ลำ� ธาร ค�ำถาม หรอื ตอบยาวเกินไป หรือไมต่ อ้ งการตอบ
เลาะ ชลาลัย ไพร พฤกษ ์ ปลา กวา้ ง ฯลฯ ตวั อย่าง
๓. รู้วิธีอา่ น ดังนี้
๑) เนน้ เสยี งคำ� ทเี่ ปน็ สมั ผสั บงั คบั ใหช้ ดั เจนและตอ้ งทอดเสยี งคำ� สมั ผสั ใบหม้อข้าวหม้อแกงลิงส่วนมากมีสีแดง อาจเป็นสีแดงเข้ม
ระหว่างบทให้ยาวกวา่ ปรกต ิ เนน้ เสียงค�ำ เช่น ไหล – ไพร กวา้ ง – ทาง
ทาง – ราง และทอดเสยี งค�ำ ชลาลยั - อาศยั สแี ดงสด หรือมหี ลายส ี เช่น สีแดงเหลือบเขียว ต้นหมอ้ ข้าวหมอ้ -
๒) ออกเสยี งใหส้ งู และดงั กอ้ งในคำ� ทมี่ เี สยี งวรรณยกุ ตจ์ ตั วา เชน่ ไหล แกงลิงเป็นพืชชนิดหน่ึง มักขึ้นในทุ่งโล่งท่ีเป็นดินทรายแห้งแล้ง
อาศัย มีอาหารน้อย พืชชนิดน้ีจึงหาทางเพิ่มแหล่งอาหาร โดยล่อแมลง
๓) ไมเ่ ออื้ นเสียงคำ� ท่ีมสี ระเสียงสัน้ และเบา เชน่ เลาะ แหล่ง มากนิ นำ้� หวานบริเวณขอบกระเปาะและฝาปิดซึ่งอยทู่ ี่ปลายใบ เรา
๔) อ่านเสียงเบาและรวบเสียงค�ำท่ีมี ๒ พยางค์ในค�ำท่ีฉันทลักษณ์ จึงเรียกตน้ หม้อข้าวหมอ้ แกงลงิ วา่ “พชื กนิ สตั ว์”
บงั คบั ใหอ้ อกเสียงเพียง ๑ พยางค์ โดยให้เสยี งตกท่พี ยางค์หลงั เช่น ลำ� ราง
ชโลม ฯลฯ แนวการตั้งค�ำถามจากตวั อยา่ ง
๕) ตอ้ งเอ้อื นเสียงและทอดจงั หวะให้ช้าลงเม่อื จบบท ๑. กำ� หนดสงิ่ ทต่ี อ้ งการถาม อาจขดี เสน้ ใตข้ อ้ ความนน้ั เชน่ หวั ขอ้ เรอ่ื ง
๔. เขา้ ใจความหมายของค�ำศัพท์ เพ่ือถอดความและจบั ใจความส�ำคญั ได ้ ลักษณะ ประเภท ภมู ปิ ระเทศ และแหลง่ อาหาร ฯลฯ
๒. ตัง้ ค�ำถาม ดังนี้
จากตัวอย่างสามารถถอดความไดว้ ่า ๑) ใบหม้อข้าวหมอ้ แกงลงิ มสี ีอะไรบ้าง
๒) ต้นหม้อข้าวหมอ้ แกงลิงมักขน้ึ ในทใี่ ด
จากลำ� ธารสายน้อยท่ีไหลเลาะเร่อื ยผ่านภูเขาป่ากว้าง มารวมกนั เปน็ สายน้�ำ ๓) ต้นหมอ้ ข้าวหมอ้ แกงลิงหาอาหารอย่างไร เพราะเหตใุ ด
เป็นที่อาบกินของสัตว์ป่า แหล่งท่ีอยู่อาศัยของปลา ท�ำให้ผืนดินและผืนป่าเขียว
ชมุ่ ชน่ื ท้ังปี สายน้ำ� สายชีวติ 13
12 ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๕
การตอบคำ� ถาม กิจกรรม
การตอบค�ำถามอาจมวี ิธีการ ดังนี้ ชวนกนั คิด ชวนกันตอบ
๑. อ่านคำ� ถามใหเ้ ขา้ ใจวา่ ถามเรอ่ื งอะไร มีกี่ประเด็น ๑. ในท้องถ่นิ ของนกั เรียนมีแหลง่ นำ�้ อะไรบา้ ง
๒. ตอบใหต้ รงกบั ประเดน็ ทถ่ี าม ไม่ออ้ มค้อม วกวนหรอื ตอบยาวเกินไป ๒. แหลง่ นำ้� ทม่ี อี ยมู่ ปี ระโยชนต์ อ่ คน สตั ว ์ และพชื ในชมุ ชนอยา่ งไร
๓. ใชภ้ าษาทเี่ ขา้ ใจงา่ ย เรยี บเรยี งดว้ ยภาษาของตนเอง ไมใ่ ชค้ ำ� ศพั ทห์ รอื ๓. นักเรียนมีวิธีการใช้น้�ำอย่างประหยัด หรือวิธีการอนุรักษ์น้�ำ
ค�ำภาษาตา่ งประเทศโดยไม่จ�ำเปน็ อย่างไร
๔. อาจยกตัวอย่างประกอบเพื่อความชดั เจน ๔. ถ้ามกี ารประกาศเตือนวา่ จะเกิดอทุ กภยั น้�ำป่าไหลหลาก ดิน
จากตวั อย่างข้างต้นตอบคำ� ถามได้ ดังน้ี โคลนถลม่ ในท้องที่ นกั เรียนจะเตรยี มตวั ล่วงหนา้ ได้อย่างไรบ้าง
๑) ใบหมอ้ ขา้ วหมอ้ แกงลงิ สว่ นใหญม่ สี แี ดงทงั้ สแี ดงสด และสแี ดงเขม้ ๕. หน่วยงานใดบ้างที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนท่ีได้รับความ
บางชนิดมสี แี ดงเหลอื บเขยี ว เดอื ดรอ้ นจากภัยแลง้ และอุทกภยั
๒) ต้นหมอ้ ข้าวหมอ้ แกงลงิ มักขน้ึ ในทงุ่ โลง่ เปน็ ดินทรายแห้งแล้ง
๓) สาเหตทุ เ่ี รยี กตน้ หมอ้ ขา้ วหมอ้ แกงลงิ วา่ “พชื กนิ สตั ว”์ เพราะกนิ ชว่ ยกันอภิปราย
แมลงเปน็ อาหารด้วยการล่อมาเกาะขอบใบ ๑. “น้�ำข้นขุ่นครุ่นคิดผิดเพราะใคร” นักเรียนคิดว่าสายน้�ำท่ีเคย
ใสสะอาดกลายเป็นนำ้� ท่ีขนุ่ สกปรกเกิดจากสาเหตใุ ดบา้ ง
๒. “น�้ำเหนือบ่าดินทลายเซาะแนวฝั่ง” มีผลเสียหายต่อคนไทย
มาแลว้ อย่างไรบา้ ง
ชวนกันหาความหมาย
หาความหมายของคำ� ต่อไปนี้
ลำ� ธาร ไพร ชลาลยั พฤกษ์ นที วารี
ธารา ชลาสนิ ธุ ์ พสุธา บุปผชาติ
14 ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ สายนำ้� สายชวี ิต 15
ชวนกนั ทาย
แบง่ กลมุ่ กนั ศกึ ษาชอ่ื แมน่ ำ้� และชอ่ื จงั หวดั แลว้ นำ� มาทายเพอื่ นในหอ้ ง
เชน่ แมน่ �ำ้ ตาปี อยู่ที่จังหวัดใด............................ (สุราษฎร์ธานี)
ชวนกนั ท�ำ
๑. นำ� ภาพเกย่ี วกบั แหลง่ นำ�้ และเขอ่ื นจากวารสาร ปฏทิ นิ หรอื จาก
แหล่งอน่ื ๆ นำ� มาจัดปา้ ยนเิ ทศ
๒. เขยี นบทรอ้ ยกรองชมสถานทที่ ม่ี แี หลง่ นำ�้ ทชี่ น่ื ชอบแลว้ นำ� ผลงาน
มาอา่ นให้เพือ่ นฟัง
ชวนกันหา
คน้ หาสำ� นวน สภุ าษติ ทมี่ คี ำ� วา่ นำ�้ ใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ เชน่ นำ้� ลดตอผดุ
น�ำ้ นิ่งไหลลกึ
ชวนกันอา่ น ชวนกนั ตคี วาม
จดั ประกวดการอา่ นบทประพนั ธท์ ง้ั แบบธรรมดา และทำ� นองเสนาะ
แล้วช่วยกนั ถอดความเป็นรอ้ ยแก้ว
ปลอ่ ยนำ้� ขุ่นท้งิ ไปไม่เฝ้าคิด
เปิดนำ้� ใสสร้างมติ รสมคั รสมาน
ไมตรีจิตปกป้องผองภัยพาล
สขุ สราญเมตตาธรรมนำ� จติ ใจ
ชวนกนั เขียน
แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นนำ� นทิ านทม่ี สี ถานทเ่ี กย่ี วกบั แหลง่ นำ�้ มาเขยี นแลว้
ตงั้ ค�ำถาม ตอบคำ� ถาม ตามตวั อยา่ งใน อธิบายเพ่มิ เติมความรู้
16 ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕