The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อมูลพอสังเขปของสิม วัดพระศรีมหาโพธิ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by cactusbygxs, 2022-11-29 01:58:59

สิม วัดพระศรีมหาโพธิ์

ข้อมูลพอสังเขปของสิม วัดพระศรีมหาโพธิ์

Keywords: สิม

สิม
คืออะไร...?

สิ ม คื อ คำ เ รีย ก ข อ ง โ บ ส ถ์ ห รือ พ ร ะ อุ โ บ ส ถ ใ น
ภ า ษ า วั ฒ น ธ ร ร ม ไ ท ย - ล า ว สิ ม ม า จ า ก คำ พื้ น
ถิ่ น อี ส า น ก ร่อ น เ สี ย ง ม า จ า ก คำ ว่ า สี ม า ห รือ
พั ท ธ สี ม า ห ม า ย ถึ ง เ ข ต แ ด น ที่ กำ ห น ด ใ น ก า ร
ป ร ะ ชุ ม ทำ สั ง ฆ ก ร ร ม อั น เ ป็ น กิ จ ข อ ง ส ง ฆ์ โ ด ย มี
แ ผ่ น สี ม า หิ น เ ป็ น เ ค รื่ อ ง ห ม า ย แ ล ะ แ ส ด ง เ ข ต

ร อ บ บ ริเ ว ณ ตั ว สิ ม





สิ ม มี ๓ ป ร ะ เ ภ ท
๑ . สิ ม ที่ ทำ ใ น บ้ า น เ รีย ก ว่ า ค า ม สี ม า
๒ . สิ ม ที่ ทำ ใ น ป่ า เ รีย ก ว่ า อ พั ท ธ สี ม า ถ้ า ผู ก

แ ล้ ว เ รีย ก ว่ า พั ท ธ สี ม า
๓ . สิ ม ที่ พ ร ะ เ จ้ า แ ผ่ น ดิ น ท ร ง ย ก ที่ ดิ น ที่ จ ะ ส ร้า ง

สิ ม ใ ห้ เ รีย ก ว่ า วิ สุ ง ค า ม สี ม า



รู ป แ บ บ ข อ ง สิ ม ใ น ภ า ค อี ส า น ส่ ว น ใ ห ญ่ ป ร า ก ฎ

ใ ห้ เ ห็ น ๒ ช นิ ด
๑ . ค า ม สี ม า ห รือ ที่ ช า ว อี ส า น มั ก เ รีย ก ว่ า

" สิ ม บ ก "
๒ . อุ ท ก ก ะ เ ข ป ะ สี ม า ที่ ช า ว บ้ า น เ รีย ก ว่ า

" สิ ม น้ำ "



ประวัติ

อุโบสถ (สิม) วัดพระศรีมหาโพธิ์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๙ โดยขุนวิรุฬคาม (ดี

เมืองโคตร) กำนันตำบลหว้านใหญ่ในขณะนั้นตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จ

พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่๖) อุโบสถมีแผนผังเป็นรูปสามหลี่ยมผืนผ้า

วางตัวตามแนวทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก หันหน้าไปทางทิศตะวันตก หลังคาอุโบสถ

เป็นหลังคาทรงจั่วมีชายคาทั้ง ๔ ด้านคล้ายทรงมะนิลา มีการประดับตกแต่งด้วยไม้

แกะสลักในองค์ประกอบต่างๆเช่น คันทวยแกะสลักไม้เป็นรูปนาค หน้าบัน เพดาน

คานไม้แกะสลักลวดลายประจำยามและพรรณพฤกษา และประดับกระจก ตัวอาคาร

ตั้งอยู่บนฐานบัวคว่ำมีบันไดทางขึ้นตรงกึ่งกลางด้านหน้าด้านเดียว ส่วนหน้าเป็น

พะไล(เพิงโถง) ถัดเข้าไปเป็นประตูทางเข้าอุโบสถ เหนือกรอบประตูมีอักษรไทย

ระบุ"สร้างพุทธศักราช ๒๔๕๙" โดยห้องแรกก่อเป็นผนังขึ้นมาเตี้ยลักษณะคล้ายสิม

โปร่ง มีผนังทึบเฉพาะห้องช่วงหลัง ซึ่งด้านข้างทั้งสองข้างเจาะเป็นหน้าต่างรูป

สี่เหลี่ยมใส่ลูกมะหวดไม้ด้านละ ๑ ช่อง ถัดไปผนังด้านหลังสุดเจาะเป็นช่องรังแสงสี่

เหลี่ยมเล็กๆ ที่ผนังด้านนอกมีประติมากรรมปูนปั้ นประดับ โดยด้านทิศเหนือทำเป็น

รูปราหูอมจันทร์ ส่วนด้านทิศใต้เป็นรูปไก่อยู่เหนือซุ้ม บนิเวณห้องหลังสุด

ประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้ นปางมารวิชัย ผนังภายในเขียนจิตรกรรม

ฝาผนังเรื่องพระเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์ เริ่มจากข้างหลังพระประธานชั้นบนสุด มี

อักษรไทยน้อยเขียนกำกับที่ภาพ ลักษณะจิตรกรรมฝีมือช่างพื้นบ้านเทคนิคสีฝุ่น ได้

รับอิทธิพลช่างหลวงมาผสมผสานในการเขียนปราสาทราชวังโรงช้าง โรงม้า อาศรม

ฯลฯ

กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน และกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานสำคัญของชาติใน

ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๕ ตอนพิเศษ ๔ ง เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๔๑ และกำหนดเขต

ที่ดินโบราณสถานให้มีพื้นที่โบราณสถานประมาณ ๑ ไร่ ๑ งาน ๕๕.๗๙ ตารางวา สิ่งสำคัญ

คือ กุฏิทรงยุโรป และอุโบสถ (สิม) ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ ได้รับการบูรณะซ่อมแซมตามโครงการ

บูรณะโบราณสถานอุโบสถ (สิม) วัดพระศรีมหาโพธิ์ ตำบลหว้านใหญ่ อำเภอหว้านใหญ่

จังหวัดมุกดาหาร จากงบยุทธศาสตร์จังหวัดมุกดาหาร



องค์ประกอบสถาปัตยกรรม
ศาสนาคาร สิม วัดพระศรีมหาโพธิ์

วั ด พ ร ะ ศ รี ม ห า โ พ ธิ์ อ . ห ว้ า น ใ ห ญ่ จ . มุ ก ด า ห า ร
๑.ส่วนฐาน ได้แก่ ฐานบัวรองรับอาคาร และบันได

๒.ส่วนกลาง ได้แก่ ฮังผึ้ง เสา คันทวย หน้าต่าง ประตู และผนังสกัดหลัง

๓.ส่วนยอด ได้แก่ ตัวรวย กรอบหน้าจั่ว เทิบซ้อนชั้น และกรอบจั่วหลัง

สิมส่วนฐาน วัดพระศรีมหาโพธิ์

ส่วนฐาน เป็นส่วนล่างของสิมตามความเชื่อว่า คือ สัญลักษณ์ที่เป็น

ฐานรองของสิ่งมีค่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิม วัดพระศรีมหาโพธิ์
จำแนกออกเป็น ๒ ส่วนคือ
๑.ส่วนฐานมุขบันได

สิมวัดพระศรีมหาโพธิ์ สร้างโดยช่างพื้นบ้านอีสานจะมีลักษณะของบันได

อยู่ตรงกลางด้านหน้าด้านเดียว มีพนักบันไดเป็นการก่อสร้างแบบก่ออิฐ

ถือปูน

๒.ฐานตัวเรือน
ภาษาพื้นเมืองอีสานจะเรียกว่า "แอวขัน" มีองค์ประกอบสำคัญคือ
ส่วนที่มีลักษณะแบบบัวคว่ำและบัวหงาย แยกส่วนบนและส่วนล่าง
ส่วนที่เรียกว่าท้องไม้ทำหน้าที่เป็นส่วนคั่นบัวทั้งสอง
ส่วนเส้นแนวตกแต่งที่เป็นลวดบัว
ส่วนที่เรียกว่าดูกงู หรือกระดูกงู หรือที่เรียกว่าลูกแก้วอกไก่ ในภาษา

ช่างราชสำนักกรุงเทพฯ โดยส่วนนี้เป็นตัวเสริมคั่นจังหวะบริเวณท้อง

ไม้ให้มีจังหวะลูกเล่นมากขึ้น

สิมส่วนกลาง วัดพระศรีมหาโพธิ์

สิมวัดพระศรีมหาโพธิ์เป็นสิมโปร่ง มีความยาว 4 ช่วงเสา ด้านหน้าเป็น

มุกโล่ง 2 ตอน ช่วงเสาแรกอยู่ใต้หลังคาปั้ นหยา ช่วงเสาที่ 2 คลุมด้วย

หลังคาทรงเกยส่วนหน้าเป็นพะไล (เพิงโถง) เข้าไปเป็นประตูทางเข้าอุ

โบสถ์เหนือกรอบประตูมีอักษรระบุ “สร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๙” โดยห้อง

แรกก่อเป็นผนังขึ้นมาเตี้ย ๆ จรดขื่อไม้ทั้ง 2 ด้าน ทุกเสา มีคันทวยนาค

ชายคาห้องก่อผนังเตี้ยเช่นเดียวกับห้องแรกแต่เหนือผนังทำช่องหน้าต่าง

ไม้เหนือกรอบหน้าต่างทำช่องลมไม้จรดขอบหลังคาห้องท้ายสุดก่อผนัง

ปิดทึบจรดขอบระหว่างช่องเสาทั้งสองด้าน ทำช่องแสงลูกมะหวดและช่อง

แสงประดับลวดลายปูนปั้ นราหูด้านทิศใต้และทิศเหนือเป็นช่อหน้าต่างมี

พระพุทธรูปกับรูปไก่ประดับ ผนังด้านหลังก่อทึบ

สิมส่วนยอด วัดพระศรีมหาโพธิ์

ส่วนยอด
คือ ส่วนหลังคาเป็นทรงจั่วลดชั้นหลังคาเป็นเครื่องไม้ มีปีกหลังคายื่น

คลุมตัวอาคารทั้ง 4 ด้าน คล้ายทรงมะนิลา มีการประดับตกแต่งด้วยไม้

แกะสลักในองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น คันทวยแกะสลักเป็นรูปนาคหน้าบัน

และเพดานคานไม้ แกะสลักลวดลายประจำยามและพรรณพฤกษา ในส่วน

ด้านบนเพดานภายในสิม ขื่อ คาน จะมีการแกะสลักเป็นลวดลายผันชั่งที่

สื่อความหมายความเป็นนิรันดร์หรือการมีอายุหมื่น ๆ ปี อีกทั้งยังมี

ลายดอกกาละกลับและดอกลอย ซึ่งเป็นดอกไม้แห่งสวรรค์สื่อความหมาย

ได้ว่า สิม นั้น เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า โดยสิม วัดพระศรีมหาโพธิ์จึง

มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนกับสิมอีสานหลังวัดอื่ นๆ



สิมส่วนฐาน



สิมส่วนกลาง



สิมส่วนยอด



๗๗ ๑ ๓ ๖

๙๘๒ ๒ ๔ ๓๖
๑๐ ๑๑ ๕ ๓๗

๑๒ ๑๒ ๕

๒๓๒๔ ๑๗ ๑๓ พระประธาน ๖๗ ๓๕ ๓๔ ๓๔ ๓๕ ๓๕ ๓๔ ๓๔ ๓๕ ๓๕ ๓๔ ๓๓ ๓๐
๒๒ ๑๔
๒๑ ๑๘ ๑๕ ๓๔ ๓๔
๓๔ ๓๔
๒๐

๑๙ ๑๖
๒๓

๒๘ ๒๖
๓๔ ๓๒ ๓๔ ๓๒ ๓๔ ๓๑
๒๕

๒๙ ๒๗



ผังแสดงการลำดับภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ในพระอุโบสถ

ฮู ป แ ต้ ม ข อ ง สิ ม

วั ด พ ร ะ ศ รี ม ห า โ พ ธิ์

ฮูปแต้ม หรือ จิตกรรมฝาผนัง ที่เกิดจากความศรัทธา
เทคนิคการเขียนภาพต้นไม้ มี 3 วิธี

ของช่างแต้มภายในของ สิม วัดพระศรีมหาโพธิ์ เป็น

ฝีมือช่างพื้นบ้าน เขียนด้วยสีฝุ่น เทคนิคการเขียนภาพ
ได้แก่
จิตกรรมช่างได้เขียนสีน้ำตาลอ่อนลงพื้นบาง ๆ ก่อน
1. การลงสีพื้นแบบบางแล้วเขียนตัด

ร่างภาพ เมื่อร่างภาพเสร็จก็เขียนสีตัวภาพ โดยใช้ลาย

เส้นตัดขอบตัวภาพ สัตว์ ต้นไม้ ราชรถ ปราสาท
เส้นในรูปใบไม้ต่าง ๆ
บ้านเรือน เครื่องประดับตกตลอดจนเครื่องแต่งกาย
2. การระบายสีพุ่มไม้
และอื่น ๆ อย่างละเอียด ตัวภาพบางแห่งไม่ลงสีแต่ใช้
3. การใช้พู่กันจุ่มสีเเตะกระทุ้งลงบน

ลายเส้นตัดขอบเน้นลวดลายละเอียดลงบนสีน้ำตาล

พื้น แล้วเขียนลายเส้นขอบพุ่มใบไม้
อ่อน ซึ่งเป็นสีพื้นของตัวภาพ

ฮู ป แ ต้ ม ข อ ง สิ ม วั ด

พ ร ะ ศ รี ม ห า โ พ ธิ์

ขนาด

การจัดองค์ประกอบของภาพภายในสิม
ผนังทิศเหนือ (ด้านขวา)
หลังนี้ มีเสาอิงแบ่งผนังออกเป็นห้อง ๆ
3.00 x 1.90-(.85.58) = 5.21 ตารางเมตร
ด้านข้าง 4 ห้อง ด้านหัวมุม 3 ห้อง
ผนังทิศใต้ (ด้ายซ้าย)
เขียนภาพโดยแบ่งเป็นชั้นหรือแถวตาม
3.00 x 1.90-(.85.58) = 5.21 ตารางเมตร
แนวนอน แต่ละแถวมีลายเส้นขนาดใหญ่
ผนังทิศตะวันตก (ด้านหลัง)
คั่นเขียนภาพเต็มตลอดความยาวของ
1.90 x 4.18-(1.00 x 1.10)/2 = 7.39 ตารางเมตร
ผนังทั้งสี่ด้าน ตั้งแต่ขอบหน้าต่างล่าง
รวมพื้นที่จิตกรรม =17.81 ตารางเมตร

ขึ้นไปจรดเพดาน พื้นที่ของจิตกรรม

ผนังด้านหลัง

กัณฑ์ทศพร ตอนพระนางผุสดีทูลขอพร ๑






๑.ขอให้พระนางได้ประทับในปราสาทพระเจ้าสีวีราช
๒.ขอให้มีดวงเนตรคมงาม และดำขลับดั่งลูกเนื้อ
ทราย
๓.ขอให้ขนคิ้วเรียวงามขำบริสุทธิ์ดุจสร้อยคอนกยูง
๔.ขอให้มีนามว่า ผุสดี
๕.ขอให้มีพระโอรสที่ทรงเกียรติยิ่งกว่ากษัตริย์ทั้ง
หลาย และมีพระราชศรัทธาในการกุศล
๖.ขออย่าให้พระครรภ์ปรากฏนูนดังสตรีสามัญ
๗.ขออย่าให้พระถันทั้งคู่หย่อนยาน
๘.ขอให้พระเกศาดำขลับตลอดไป
๙.ขอให้มีพระฉวีวรรณผุดผ่อง
๑๐.ขอให้มีอำนาจปลดปล่อยนักโทษประหารให้พ้น
โทษได้ ตามพระวินิจฉัยอันรอบคอบของพระนาง

๑๐ ประการจากพระอินทร์

๒ กัณฑ์หิมพานต์ ตอน พระเวสสันดร พระราชทานช้างปัจจัยนาเคนทร์






พระเวสสันดรทรงบริจาคทาน

กล่าวถึงปฏิสนธิพระนางผุสดีพระเวสสันดร

และพระชาลี-กันหาไปจนถึงพราหมณ์เมือง

กลิงครัฐ ๔ คนมาทูลขอพญาช้างปัจจัยนาค

จากพระเวสสันดรพระเวสสันดรพระราชทาน


ให้ทำให้ชาวเมืองแค้นเคืองใจพากันเดิน
ขบวนประท้วงทูลพระราชบิดาให้เนรเทศพระ

เวสสันดรไปอยู่เขาวงกตหรือประหารด้วย


ท่อนจันทน์เนื้อเรื่อง

๔ โรงช้าง





๕ ๖

โรงม้า พระเวสสันดร พระนางมัทรี พระชาลี
และพระกัณหา ประทับในปราสาท

๘ ๗

ตอน พระเวสสันดรพระราชทานม้า กัณฑ์วนประเวศน์ ตอน
กษัตริย์ทั้งสี่องค์เสด็จออก



จากกรุงสีวีราช

๑๐


พราหมณ์จูงราชรถ ๙

ตอนพระเวสสันดร
พระราชทานราชรถแก่พวก

พราหมณ์

๑๒

๑๑ ป่ามีสัตว์และต้นไม้และมีนาย
พรานกำลังยิงเสือที่กัดวัว
กัณฑ์กษัตริย์ ว่าด้วยเรื่อง 6 กษัตริย์มาพบกันเกิด

สลบ เมื่อทั้งหมดฟื้ นคืนชีพแล้วได้ขออภัยต่อพระ
๓๗2 7
เวสสันดรและเชิญเข้าไปปกครองกรุงสีพี
ชูชกท้องแตกตาย



๓๖

ชูชกเข้าดมืองสีวีราช

ผนังด้า
นซ้าย ๑๔
๑๓
เสือกำลังจะจับกวาง
ทหารสองคนเข้าเฝ้า
สี่กษัตริย์

๑๕

ราชสีห์คู่หนึ่ง

๑๗ ๑๖

สี่กษัตริย์กำลังเสด็จ กัณฑ์ชูชก ตอน ชูชกเดิน
ไปทางไปบ้านอมิตตา
ในป่า
๑๘

บ้านหราหมณ์รุมต่ำ

๑๙

๒๐ ๒๑ ๒๒
๑ ๙ ภ า พ น า ง พ ร า ห ม ณี รุ ม ด่ า
๒ ๐ โ ร ง ช้า ง

น า ง อ มิต ต า

๒ ๑ ชู ช ก กำ ลั ง ล ง จ า ก เ รือ น ๒ ๒ กั ณ ฑ์ จุ ล พ น ต อ น ชู ช ก

พ บ พ ร า น เ จ ต บุ ต ร

๒๓

๒๔ ๒๕ ๒๖
๒ ๓ กั ณ ฑ์ จุ ล พ น ต อ น ชู ช ก
๒ ๔ กั ณ ฑ์ มัท รี ต อ น

พ บ พ ร า น เ จ ต บุ ต ร
พ ร ะ น า ง มัท รี ท ร ง อ้ อ น ว อ น

สั ต ว์ป่ า ทั้ ง น อ น ข ว า ง ท า ง

เ ส ด็ จ ก ลั บ อ า ศ ร ม

๒ ๕ กั ณ ฑ์ กุม า ร ต อ น พ ร ะ ช า ลี
๒ ๖ กั ณ ฑ์ สั ก บ ร ร พ ต อ น

แ ล ะ พ ร ะ กั ณ ห า ท ร ง ห นี
พ ร ะ อิ น ท ร์ท ร ง แ ป ล ง
พ ร ะ ร า ช บิ ด า ล ง ไ ป ซ่อ น
เ ป็ น พ ร า ห ม ณ์ เ ฒ่า ม า ข อ
อ ง ค์ ใ น ส ร ะ บั ว พ ร ะ น า ง มัท รี

๒๗


๒๘ ๒๙
วัวคู่หนึ่งยืน
อยู่ใต้ต้นไม้

ชูชกจูงสองพระกุมารไป

ต้นไม้มีนก
อาศัยอยู่

ผนังด้านซ้าย

๓๐

กัณฑ์มหาราช ตอน

เทวดาทรงแปลงเป็น


พระเวสสันดร
และนางมัทรี
มาช่วยอภิบายสอง
พระกุมาร ระหว่างที่
ชูชกหลับในป่า




๓๑

ม้ามังกร

๓๒

ตอนเผาชูชก

๓๓

ขบวนเสด็จกลับเข้าเมือง
ของพระเวสสันดรและ
พระบรมวงศานุวงศ์

๓๔

ขบวนติดตาม
ขบวนเสด็จ

๓๕

พระเวสสันดรทรงบริจาคทาน

ลวดลายบนฝ้าเพดาน



ลวดลายบนฝ้า

เพดาน

สิม วัดพระศรีมหาโพธิ์ อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัด
มุกดาหาร ลวดลายบนฝ้าเพดานเป็นไม้โครงประกอบ
อาคารที่ช่วยยึดโครงสร้างให้มีความมั่นคง แข็งแรง
ซึ่งในการก่อสร้างสมัยโบราณจะมีการทำฝ้าเพดาน
ต่างจากปัจจุบัน ด้วยความชาญฉลาดของช่างในสมัย
โบราณ ที่ตกแต่งเป็นการแกะสลักตามวัฒนธรรม
แถบแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นอารายะธรรมล้านช้าง ลวดลาย
ในการแกะสลักไม้ เกิดจากจินตนาการ ความเชื่อ
ความซาบซึ้งในวัฒนธรรมพื้นถิ่มผสมผสานกันกับ
วัฒนธรรมจากเวียดนามและจีน ลวดลายที่แกะสลักนี้
ต้องอาศัยทักษะและฝีมือเป็นตำราที่ช่างรุ่นเก่าฝากไว้
ให้กับคนรุ่นหลัง การวิจัยนี้ถือเป็นการสืบสานในเชิง
คุณค่า เพื่อไม่ให้เกิดความสูญหาย ลวดลายที่ปรากฎ
แกะสลักด้วยลวดลายดาวเพดานหรือดอกลอย

ลายประจำยาม คือ ลวดลายที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส

ตะแคง เป็นลายที่ดัดแปลงมาจากลูกจันทร์ (ดอก 4 ทิศ)

มีโครงสร้างเป็นรูป มีลักษณะเป็นลายดอก มี 4 กลีบ

ตรงกลางเป็นรูปวงกลมรอบนอกสี่ด้าน อาจจะเป็นลายบัว

ลายกระจังใบเทศ ลายกระจังหูอย่างใดอย่างหนึ่ง

ลายประจำยามจัดอยู่ในจำพวกแม่ลายดอกลอย

เป็นแม่ลายในการออกลายหรือใช้ห้ามลาย ลายประจำยาม

มีการสอดไส้ แบ่งลายหลายชนิดตามความเหมาะสม

ลายประจำยามมีหลายลักษณะ เรียกชื่อต่างกัน เช่น

ประจำยามก้ามปู ประจำยามก้านแย่ง ประจำยามฟักก้ามปู

เป็นต้น ลายประจำยามมักจะใช้ประดับอยู่ตามเสาขอบ

ประตูหน้าต่าง หน้าต่างของโบสถ์ วิหาร พลับพลาปราสาท

พระเจดีย์และพระธาตุ เป็นต้น ในสมัยก่อนจะใช้เป็นยาม

รักษาการณ์ เพื่อป้องกันผู้คิดมิดีมิร้าย โดยอาจจะมีการ

ลงคาถาอาคมประกอบอยู่ด้วย

ลวดลายประจำยามของวัดศรีมหาโพธิ์ ประกอบด้วย ลายดาว

เพดาน ดอกลอย ลายหน้า กระด้านก้ามปู หากแต่ที่นี่พิเศษตรง

ที่ลายกระดานก้ามปูทำเป็นลายเชือกถักหรือผันชั่ง ที่แสดงถึง

การมีอายุยาวเป็น หมื่น ๆ ปี ทั้งลายวงกลมดอกลอยเป็นรูป

แบบของดอกกาลกัลป์ ซึ่งถือเป็นดอกไม้แห่งสวรรค์ดั่งที่ว่า สิม

หรืออุโบสถเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า ลวดลายเหล่านี้จึง

แสดงสถานะของสวรรค์

เอกลักษณ์ของลายประจำยามที่สิมของวัดพระศรีมหาโพธิ์ จะมี

ลวดลายที่อ่อนช้อย มีการผูกลายต่อเนื่อง เส้นและลวดลายมี

ความอ่อนโยน
ดาวเพดาน ดอกลอย ที่สิมของวัดพระศรีมหาโพธิ์ เป็นรูปแบบ

ของดอกกาลกัลป์ ถือเป็นตัวแทนของดอกไม้แห่งสวรรค์
ลายหน้ากระดานก้ามปูของสิมวัดพระศรีมหาโพธิ์ เป็นหน้า

กระดานก้ามปู เป็นลายกนก 2 ฝั่ ง ประกบกันเป็นง่ามคล้ายปู

เรืองสลับต่อเนื่องประดับในแถบแนวนอน
ลายก้ามปูที่เป็นลายเชือกถักหรือผันชั่ง แสดงถึงการมีอายุ

ยืนยาวที่สลับกับลายรูปวงรีมีกลีบดอกไม้ประกอบด้วย เรียง

สลับต่อเนื่องกันไป

ลายประจำยามของสิมวัดพระศรีมหาโพธิ์ มีการเล่าสืบต่อกันมา

ว่า ใช้ช่างแกะสลักจากชาวเวียดนาม ศิลปะของลายประจำยามจึง

มีลักษณ์เฉพาะต่างออกไป ช่างนิยมแกะสลักลงในแถบแนวนอน

เป็นส่วนมาก

ผังแสดงลวดลา

๖ ๕ ๖๑๕ ๔

๕๖


๖๕๖๕ ๕๖

๓๒







ายบนฝ้าเพดาน

๖ ๕ ๖๕๑๖๕ ๖


๖๕๖๕๖๕๖
๒๓




๑๖

๑.ดาวเพดาน ดอกลอย

๒.ลายหน้ากระดานก้ามปู (ลายผันชั่ง) เป็นลายดั้งเดิม ปรากฏมา

ก่อนหน้านั้นแล้วที่วัดมโนภิรมย์

๓.ลายหน้ากระดานก้ามปู เป็นลายเฉพาะที่สิมวัดพระศรีมหาโพธิ์

๔.หน้ากระดานก้ามปู

๕.ดาวเพดาน ดอกลอย เป็นลวดลายที่สืบทอดกันมาใน

วัฒนธรรมล้านช้าง เช่น ที่วัดการะเกด

๖.ไม้กระดานที่ใช้ปิดส่วนที่ผุพังตามกาลเวลา

พระพุทธรูป

พระประธาน ที่ประดิษฐานอยู่ภายในสิมวัดพระศรีมหาโพธิ์

เป็นพระพุทธรูปปูนปั้ นปางมารวิชัย พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

บนแท่นที่เรียกว่า ชุกชี ซึ่งเป็นแท่นก่ออิฐถือปูนมีรูปแบบแอวขัน

ปากพาน เป็นทรงโบกคว่ำ โบกหงายและท้องกระดานตามแบบ

ของช่างพื้นเมืองซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสิมอีสาน และ

องค์พระพุทธรูปอยู่ลึกเข้าไปในช่องผนังด้านหลัง



อัตลักษณ์ในส่วนตกแต่งองค์ประกอบสถาปัตยกรรม
ศาสนาคารสิมวัดพระศรีมหาโพธิ์

ตัวรวย

กรอบจั่วหน้า

ฮังผึ้ง บันได
เสา

ประตู

เทิบซ้อนชั้น กรอบจั่วหลัง
คันทวย หน้าต่าง
ฐานบัว
ผนังสกัดหลัง
รองรับอาคาร


Click to View FlipBook Version